สารบัญ หนา
๑
บทท่ี ๑
๒
๑. กลา วท่ัวไป ๓
ตอนท่ี ๑. กลาวนํา ๔
ตอนที่ ๒. สาเหตุของการประทุษราย ๗
ตอนท่ี ๓. ความรับผิดชอบของสว นราชการ ๗
ตอนที่ ๔. แนวทางการประสานการปฏบิ ตั ิในการรักษาความปลอดภยั บุคคลสาํ คัญ ๑๑
๑๕
๒. หลกั การรักษาความปลอดภยั บุคคลสาํ คญั ๑๙
ตอนที่ ๑. มาตรการรักษาความปลอดภยั บุคคลสาํ คญั ๑๙
ตอนที่ ๒. การจดั และโครงสรา งของชุดปฏบิ ตั กิ ารรกั ษาความปลอดภัย ๒๑
ตอนที่ ๓. การวางแผนการปฏบิ ตั ิการรกั ษาความปลอดภัยบุคคลสําคัญ ๓๙
๔๓
๓. การรกั ษาความปลอดภยั บุคคลสําคญั ตามสถานทต่ี าง ๆ ๔๕
ตอนที่ ๑. กรรมวธิ ีดาํ เนนิ การของผปู ระทุษรา ย ๕๕
ตอนท่ี ๒. การรกั ษาความปลอดภยั บคุ คลสาํ คญั ทางบก ๕๕
ตอนท่ี ๓. การรกั ษาความปลอดภยั บคุ คลสําคัญทางน้าํ ๕๖
ตอนที่ ๔. การรักษาความปลอดภยั บคุ คลสําคัญทางอากาศ ๔๗
ตอนท่ี ๕. การรกั ษาความปลอดภัยบคุ คลสาํ คญั ในโอกาสอน่ื ๆ ๖๐
๖๒
๔. การสํารวจลว งหนา และการตรวจคน
ตอนท่ี ๑. การสาํ รวจลว งหนา ๖๓
ตอนที่ ๒. การสาํ รวจสถานท่ขี ัน้ ตน
ตอนที่ ๓. การตรวจคน ๖๕
ตอนท่ี ๔. เทคนคิ ในการตรวจคน
ผนวก ก. ระเบยี บสาํ นกั นายกรัฐมนตรี วา ดว ยการรกั ษาความปลอดภยั แหง ชาติ
พ.ศ.๒๕๑๗
ผนวก ก. ระเบยี บสาํ นกั นายกรัฐมนตรี วา ดว ยการรกั ษาความปลอดภยั สําหรบั องค
พระมหากษัตริย พระราชินี พระรัชทายาท ผูส ําเร็จราชการแทนพระองค
พระบรมวงศานวุ งศ ผแู ทนพระองค และพระราชอาคนั ตุกะ พ.ศ.๒๕๒๑
ผนวก ก. ระเบียบกระทรวงกลาโหม วา ดวยการรกั ษาความปลอดภยั บคุ คลสําคญั
ทางทหาร พ.ศ.๒๕๒๙
บทที่ ๑
กลาวทัว่ ไป
ตอนที่ ๑ กลาวนาํ
ในปจจุบันการรักษาความปลอดภัยบุคคลสําคัญ ยังมีปญหาตองปรับปรุงแกไขการปฏิบัติตาง ๆ
อีกหลายประการ เพราะงานดานน้ีมีความสําคัญมากข้ึนตามลําดับ และเขาไปมีสวนเก่ียวของกับงานดาน
การรักษาความปลอดภัยอื่น ๆ อีกดวย ดังน้ันหากภารกิจการรักษาความปลอดภัยบุคคลสําคัญ ขาดการ
สนับสนุนและการเอาใจใสใหมีประสิทธิภาพแลวยอมไมสามารถปกปองหรือตอตานการกระทําของฝาย
ตรงขามได จากเหตุการณท ผ่ี า นมาปรากฏวา การประทษุ รายบุคคลสําคัญท่ีประสบผลสําเร็จ สาเหตุเพราะ
ความประมาทที่เกิดข้ึนในการรกั ษาความปลอดภัยบคุ คลสําคญั ซ่งึ เปน การเปดประตูแหงความหายนะไปสู
บุคคลสําคัญทั้งส้ิน จึงจําเปนอยางยิ่งที่เจาหนาท่ีรักษาความปลอดภัยบุคคลสําคัญจะตองศึกษารายละเอียด
จากบทเรียนทเ่ี กิดข้นึ เพื่อเปน แนวทางในการพัฒนามาตรการในการรักษาความปลอดภัยบุคคลสําคัญใหมี
ประสิทธิภาพมากยง่ิ ขน้ึ
ความมุงหมายในการรกั ษาความปลอดภัยบคุ คลสําคัญ ก็เพอ่ื กําหนดแนวทางในการประสานงาน
และการปฏบิ ตั ขิ องสว นราชการทเี่ ก่ยี วของ ในการดาํ เนนิ การใหม ปี ระสทิ ธภิ าพ และเปนมาตรฐานเดยี วกัน
ประเภทบคุ คลสําคญั
บุคคลสําคัญตามคูมือนี้ คือ บุคคลที่มีความสําคัญยิ่งในทางราชการ ซึ่งตองใหความคุมครองให
เหมาะสมกับฐานะ สถานที่ และ เวลา อันไดแ ก
๑. พระมหากษัตรยิ พระราชนิ ี พระรชั ทายาท ผสู ําเร็จราชการแทนพระองค พระบรมวงศานุวงศ
ผูแทนพระองค และ พระราชอาคันตกุ ะ
๒. ประธานองคมนตรี นายกรฐั มนตรี ประธานรัฐสภา และ ประธานศาลฎีกา
๓. สมเด็จพระสงั ฆราช และ ผนู าํ ทางศาสนาอน่ื
๔. ประมุขรัฐตางประเทศ ผูนํารัฐบาลตางประเทศ เลขาธิการองคการสหประชาชาติ แขกของ
รัฐบาล และ หัวหนาคณะทตู ตา งประเทศประจําประเทศไทย
๕. บคุ คลสําคัญทางทหารตามที่กระทรวงกลาโหมกําหนด
๖. บคุ คลอนื่ ท่เี ดนิ ทางเยือนประเทศไทย และหวั หนาสวนราชการทเ่ี กีย่ วของรอ งขอ
๗. บคุ คลสําคัญตามคาํ สง่ั ของนายกรัฐมนตรี
ตอนท่ี ๒ สาเหตขุ องการประทุษราย (Causes of Assassination)
๑. สาเหตทุ างการเมอื ง (Political Causes)
๑.๑ เกิดจากกลุมคนที่คลั่งอุดมการณ มีความตองการท่ีจะเปล่ียนแปลงการปกครองใหมหรือ
เปลย่ี นรัฐบาลใหม กลุมคนเหลา นมี้ กั จะใชว ิธีการประทุษราย เพอ่ื ใหบ รรลเุ ปา หมายทต่ี องการ
๒
๑.๒ บคุ คลสําคญั ท่ีเปรียบเสมือนตัวแทนของรัฐบาล มักจะตกเปนเปาหมายของผูประทุษราย
เพราะเช่ือวาเปนสาเหตขุ องการบบี ค้นั การกดข่ีตาง ๆ
๑.๓ ผูประทุษรายที่หวังจะลมลางรัฐบาลท่ีมีอยู เพ่ือจัดต้ังรัฐบาลใหมขึ้นก็มักจะเปนสาเหตุ
หน่ึงทท่ี ําใหเกิดการประทุษรายขน้ึ เปนสวนใหญ
ตัวอยาง : การลอบสังหารประธานาธิบดี Augusto Pinochet แหงประเทศชิลี เม่ือวันที่
๗ กันยายน ๑๙๘๖ ในขณะที่กําลังเตรียมตัวจะกลาวคําปราศรัย ในการหาเสียงสําหรับการเลือกตั้ง
ประธานาธบิ ดีครัง้ ตอ ไป
: การลอบสังหารประธานาธิบดี Ranasighe Premadasa แหง ประเทสศรีลังกา เม่ือ
วันที่ ๑ พฤษภาคม ๑๙๙๓ โดยผทู ที่ ําการสงั หารไดนาํ ระเบดิ ตดิ ตัวไว และไดระเบดิ ขึ้น มผี ูเสยี ชีวิต ๒๓ คน
บาดเจ็บ ๒๖ คน (สว นมากเปน เจาหนา ที่รักษาความปลอดภัยของประธานาธบิ ดที เ่ี สียชีวิต)
๒. สาเหตุในทางเศรษฐกิจ (Economics Causes) ในกรณีท่ีฝายตรงขามมีความคิดวาบุคคลที่
เปนเปาหมายอของตน เปนสาเหตุของสภาวะทางเศรษฐกิจตกต่ํา ทําใหเกิดผลกระทบตอประเทศชาติ ตอ
กลุมคนใดกลุมคนหนึ่ง
ตัวอยาง : ความพยายามลอบสังหารอดีตรัฐมนตรีตางประเทศ George Shultz เม่ือวันที่
๘ สิงหาคม ๑๙๘๘ ในโบลเิ วีย เนอื่ งจากแผนการในการกาํ จัดยาเสพติดของรฐั มนตรผี นู ี้
๓. สาเหตุทางดา นอดุ มการณ (Ideological Causes)
๓.๑ สาเหตุอันเนื่องมาจากความเชื่อทางศาสนา หรือสังคมฝายตรงขามคิดวาถาตนเอง
สามารถเปล่ียระบบที่มีอยูขณะนั้นได โดยการประทุษรายบุคคลสําคัญทางศาสนา จะทําใหมีการ
เปลยี่ นแปลงทางศาสนาได
๓.๒ การพิพาทระหวางกลุมเช้ือชาติ และเผาพันธุ ก็อาจเปนตนเหตุของการประทุษรายได
เนอ่ื งจากการตอ สกู ันระหวางกลมุ เพื่อแยงชิงอาํ นาจกนั
ตัวอยาง : ประธานาธิบดี อันวา ซาดัด ถูกลอบสังหาร เพราะการโคนกลุมชาวอิสลามหัว
รุนแรงในอียปิ ต เมือ่ ๖ ตุลาคม ๑๙๘๑ ขณะชมพธิ สี วนสนามเพอ่ื แสดงแสนยานุภาพ เนอื งในวนั ครบรอบ
๘ ป ของ “The crossing”
๔. สาเหตุทางดานจิตวิทยา (Psychological Causes) คือ บุคคลที่ไมสมประกอบ สติฟนเฟอน
การขาดความมั่นคงทางอารมณ หรืออยากเปนผูที่มีชื่อเสียงโดงดัง เปนสาเหตุที่ทําใหเกิดการลอบสังหาร
เกดิ ขึน้
ตวั อยา ง : การพยายามลอบสงั หารประธานธิบดี Ronald Reagan โดยนาย John Hinkley Jr.
ตวั อยาง : การลอบสงั หารประธานธบิ ดี John F Kennedy โดยนาย Lee Harvey Oswald
๓
๕. สาเหตุทางดานสวนตัว (Personal Causes) เปนความเกลียดชังกันเปนการสวนตัว อาจเกิด
จากความริษยา หรือความโกรธแคน เปนการสว นตัว
ตัวอยาง : การลอบสังหาร นายยิตซฮัก ราบิน นายกรัฐมนตรีของอิสราเอล โดย นาย ยิกัล
อามรี เพอื่ หยดุ ย้ังขบวนการสนั ติภาพตะวันออกกลาง
๖. สาเหตุจากการไดรับจาง (Mercenary Causes) เปนการกระทําการประทุษรายบุคคลสําคัญ
เพื่อใหไ ดมาซ่งึ เงิน
ตัวอยาง : การพยายามลอบสังหาร นาย Benito Mussolini ผูลอบสังหารไดถูกวาจางดวยเงิน
๕๐,๐๐๐ เหรยี ญสหรฐั โดยลัทธิชาตนิ ิยมของรัฐบาลในอติ าลี ซง่ึ เขาสามารถสงั หารไดส ําเร็จ
๗. สาเหตุจากการถูกบังคับขูเข็ญ (Black Mail Causes) ดวยวิธีใดก็ตามท่ีบุคคลผูน้ันจําเปนท่ี
จะตอ งปฏิบตั ติ าม
ตอนที่ ๓ ความรับผิดชอบของสว นราชการ
๑. สวนราชการเจาของเรื่อง รับผิดชอบจัดใหมีการรักษาความปลอดภัยบุคคลสําคัญ ภายใน
ขอบเขตและความเหมาะสม โดยดําเนนิ การดังนี้
๑.๑ ขอรับการสนับสนนุ การรกั ษาความปลอดภัยบุคคลสําคัญ ตอ สวนราชการที่มีหนาท่ีใน
การรกั ษาความปลอดภยั บคุ คลสาํ คัญ
๑.๑.๑ สํานักงานตาํ รวจสันตบิ าล สาํ นกั งานตาํ รวจแหงชาติ
๑.๑.๒ กรมราชองครกั ษ
๑.๑.๓ ศนู ยรักษาความปลอดภยั กองบัญชาการทหารสูงสุด
๑.๑.๔ สาํ นกั ขา วกรองแหงชาติ
๑.๑.๕ สว นราชการท่กี ระทรวงกลาโหมกาํ หนด
๑.๒ จัดเจา หนา ท่ปี ระสานงานการรกั ษาความปลอดภยั บคุ คลสําคญั
๑.๓ จัดเตรียมงบประมาณเพ่ือสนับสนุนการปฏิบัตงิ านของสวนราชการท่เี กี่ยวขอ ง
๑.๔ ขอความรว มมอื จากบุคคลสาํ คญั เกี่ยวกับขาวสารและการปฏิบัติที่เปนประโยชนตอการ
รกั ษาความปลอดภยั
๑.๕ ใหก ารสนบั สนนุ อืน่ ๆ ท่จี าํ เปน เมอ่ื ไดร บั การรอ งขอ
๒. สวนราชการมีหนาทีใ่ นการรกั ษาความปลอดภยั บุคคลสําคญั รับผดิ ชอบดาํ เนินการ ดังนี้
๒.๑ รวบรวม และ วิเคราะหขาวสารท่ีอาจมีผลกระทบกระเทือนตอการรักษาความปลอดภัย
บุคคลสําคัญ โดยประสานงานกับสวนราชการที่เก่ียวของในดานการขาวกรองที่จําเปน เพื่อประเมิน
ภยันตรายทอี่ าจเกิดขึน้
๔
๒.๒ จัดทําแผน และกําหนดมาตรการ ในการรักษาความปลอดภัยบุคคลสําคัญตามความ
เหมาะสม
๒.๓ จัดเจาหนาที่ชุดอารักขา อาวุธ ยานพาหนะ และส่ิงอุปกรณที่ใชในการรักษาความ
ปลอดภัยบคุ คลสําคัญตามความเหมาะสม
๓. สวนราชการเจาของพื้นท่ี ซึ่งใหการตอนรับบุคคลสําคัญรับผิดชอบ ดําเนินการรักษาความ
ปลอดภยั ในเขตพื้นทีท่ รี่ บั ผิดชอบ
๔. ใหองคการรักษาความปลอดภัย ชวยเหลือ ประสาน และอบรมช้ีแจง เก่ียวกับมาตรการใน
การรกั ษาความปลอดภยั บคุ คลสาํ คญั แกส ว นราชการตามทไี่ ดรบั การรอ งขอ
ตอนที่ ๔ แนวทางการประสานการปฏิบัติในการรักษาความปลอดภยั บคุ คลสาํ คัญ
๑. การรกั ษาความปลอดภัยพระมหากษัตรยิ ใหใชระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรี วาดวยการรักษา
ความปลอดภัยสําหรับองคพระมหากษัตริย พระราชินี พระรัชทายาท ผูสําเร็จราชการแทนพระองค
พระบรมวงศานวุ งศ ผแู ทนพระองค และพระราชอาคันตกุ ะ พ.ศ.๒๕๓๑
๒. การประสานงานระหวางสวนราชการในการรักษาความปลอดภัยบุคคลสําคัญ ตองใหมี
เอกภาพในการบงั คบั บัญชา โดยยึดหลักปฏบิ ตั ิ ดังนี้
๒.๑ ในกรณที ม่ี ีหลายสวนราชการ ท่มี หี นาทใ่ี นการรกั ษาความปลอดภัยบุคคลสําคัญรวมกัน
ใหจัดต้ังกองอํานวยการรวมในการรักษาความปลอดภัยบุคคลสําคัญ โดยใหผูอํานวยการรวมเปนผู
รับผดิ ชอบ มีอาํ นาจหนา ท่ีบงั คับบัญชาในการรกั ษาความปลอดภัยบุคคลสําคญั
๒.๒ ในระหวางการปฏบิ ตั กิ ารรกั ษาความปลอดภยั บุคคลสาํ คัญ หากมีเหตกุ ารณฉุกเฉนิ ซง่ึ
อาจกระทบตอบุคคลสําคัญโดยฉับพลัน ใหหัวหนาชุดอารักขาบุคคลสําคัญน้ันมีอํานาจส่ังการในการ
ปฏิบตั ิเพอ่ื แกไขสถานการณเ ฉพาะสวนน้ันไดทนั ที
๒.๓ สวนราชการเจาของพ้ืนท่ี ซึ่งใหการตอนรับบุคคลสําคัญ ประสานการปฏิบัติกับกอง
อาํ นวยการรว มอยางใกลช ดิ
๓. ใหสวนราชการที่เก่ียวของในการรักษาความปลอดภัยบุคคลสําคัญ จัดทํารายงานการปฏิบัติ
เม่อื เสรจ็ ส้นิ การปฏิบตั ิ (ตามแบบรายงาน)
๕
แบบรายงานการรักษาความปลอดภัยบุคคลสําคัญ
สว นราชการ…………………………………
วนั ท…ี่ …………………………………………………
เร่ือง ………………………………………………………………………………………………………
อางถึง ………………………………………………………………………………………………………
ภารกิจ ……………………………………………………………………………………………………….
ผปู ฏิบัติ ……………………………………………………………………………………………………..
๑. ขอ มูลท่วั ไป
๑.๑ พื้นท่ปี ฏิบตั ิ ………………………………………………………………………………………..
๑.๒ วนั เดือน ป ทปี่ ฏิบตั ิ/เวลาปฏบิ ัติ………………………………………………………………….
๑.๓ สภาพดนิ ฟาอากาศ………………………………………………………………………………...
…………………………………………………………………………………………………….
๑.๔ ขา วสารทไ่ี ดรบั กอ นการปฏบิ ตั ิ …………………………………………………………………..
๑.๕ หนว ยรว มปฏิบัติ ………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………….
๑.๖ ฝายตรงขาม … ………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………….
๑.๗ การติดตอ สอื่ สาร ……………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………….
๑.๘ ยานพาหนะ ….. ………………………………………………………………………………….
๑.๙ ขาวสารทไ่ี ดร บั ขณะปฏบิ ัติการ ………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………….
๒. วธิ กี ารปฏิบตั ิ
๒.๑ การตรวจสอบยานพาหนะของบคุ คลสาํ คญั และคณะ …………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………….
๒.๒ การตรวจสอบสถานท่ีพาํ นกั ของบุคคลสําคัญ ………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………….
๖
๒.๓ ผลการตรวจสอบบคุ คลที่เขาพลและมอบสิง่ ของหรือของขวัญท่ีจะมอบใหบ คุ คลสาํ คัญ ………
…………………………………………………………………………………………………….
๒.๔ การตรวจสอบสถานทที่ ีบ่ คุ คลสําคญั จะไปเย่ียมชม …………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………….
๒.๕ การสํารวจเสน ทางทใี่ ชใ นการเดินทางของบคุ คลสําคญั … …………………………………….
…………………………………………………………………………………………………….
๒.๖ การสงั เกตการณความเคลอื่ นไหวของบคุ คลในพ้นื ท่ี ขณะทีบ่ คุ คลสาํ คัญอยูในสถานที่พาํ นกั และ
เยย่ี มชม………………………………………..………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………….
๒.๗ การปฏิบัติการของชดุ อารกั ขาบคุ คลสําคัญ …. .………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………….
๓. ผลการปฏิบัติ ……………………………………………..…………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………….
๔. อุปสรรค/ขอขดั ของ….……………………………………..…………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………….
๕. ขอพจิ ารณา/เสนอแนะ……………………………………..…………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………….
ลงชือ่ ……………………………..
ยศ ชือ่ (ตัวบรรจง) ………………………………….
ผูจัดทาํ รายงาน
บทท่ี ๒
หลกั การรกั ษาความปลอดภยั บคุ คลสาํ คัญ
ตอนท่ี ๑ มาตรการรกั ษาความปลอดภัย
๑. กลา วนํา
การรกั ษาความปลอดภยั บคุ คลสาํ คัญนัน้ ไมม ีมาตรการใดใดทจ่ี ะดําเนนิ การระวงั ปอ งกนั มิให
บุคคลสําคัญถูกลอบประทุษราย หรือประสบอุบัติเหตุไดอยางสมบูรณรอยเปอรเซ็นต เพียงแตลดโอกาส
ในการทฝี่ า ยตรงขามจะลอบเขาทํารายบุคคลสาํ คญั เทาน้ัน บางคร้ังอาจตองดําเนินการรักษาความปลอดภัย
ในทางลับในลักษณะมิใหบุคคลสําคัญรูตัว ซึ่งหากจําเปนก็ตองกระทํา ทั้งนี้การปฏิบัติตองถือหลักการ
รกั ษาความปลอดภัยไวตลอดเวลา สําหรับมาตรการระวังปองกันน้ัน สามารถออนตัวและเปลี่ยนแปลงได
ตามสถานการณ
๒. องคประกอบในการรักษาความปลอดภยั บคุ คลสําคัญใหเ กดิ ประสทิ ธภิ าพ
๒.๑ วางมาตรการปองกันตาง ๆ รอบตัวบุคคลสําคัญใหรัดกุม ลดชองวางท่ีคนรายสามารถ
เขา ทาํ รายบุคคลสาํ คญั ใหม ากที่สุด
๒.๒ รวบรวมขาวสารท่ีมีผลกระทบกระเทือนตอบุคคลสําคัญใหมากที่สุด ท้ังท่ัวไปและใน
พน้ื ท่ที ่ีบคุ คลสําคญั จะไปเยี่ยมเยอื น เพอ่ื นํามาประเมินคาของขาวสารอันจะชวยใหการรักษาความปลอดภัย
บคุ คลสาํ คัญไดผ ลดีทสี่ ดุ
๒.๓ ตองมีการวางแผนสํารวจลวงหนา เพื่อทราบขอมูลสถานการณดานการขาว สถานที่ที่
บุคคลสําคัญจะไป เสนทาง ยานพานหะ การติดตอส่ือสาร ตลอดจนการประสานงานกับสวนราชการที่
เก่ยี วขอ ง เพ่อื นําขอมูลมาวางแผนการรักษาความปลอดภัยใหรัดกุม โดยในการสํารวจเสนทางก็เพ่ือจะหา
ขอ มูลและรายละเอียดเพม่ิ เตมิ ดังนี้
๒.๓.๑ พยายามหาเสนทางระหวา งทพี่ กั และท่ที าํ งาน รวมทั้งสถานท่ที ี่บุคคลสาํ คญั ไป
ประจําไวใ หไ ดห ลาย ๆ เสน ทาง
๒.๓.๒ ลดจุดคับขันหรอื พื้นทที่ ี่เหมาะแกการโจมตีใหม นี อ ยทสี่ ดุ ในเสน ทางนัน้
๒.๓.๓ ตรวจสอบสถานท่ีปลอดภัย (Save House) หรือโรงพยาบาลท่ีใกลท่ีสุด หา
เสนทางท่ดี ีท่สี ดุ ท่ีสามารถไปสถานท่แี หง น้นั
๒.๓.๔ จะตอ งคุนเคยกบั เสนทางท่ใี ชเ พอื่ สงั เกตสุ ่งิ ผิดปกตไิ ดใ นเสนทางนนั้
๒.๔ ใชเจาหนาท่ีตํารวจใหเกิดประโยชนสูงสุด เพราะมีอํานาจหนาท่ีตามกฎหมายในการ
จบั กมุ ตรวจคน หรือกักกนั บคุ คลทีไ่ มน า ไวว างใจ
๒.๕ วางแผนการใชข บวนยานพาหนะของบุคคลสําคัญในพ้ืนที่ตาง ๆ การนําพาบุคคลสําคัญ
ออกจากพนื้ ท่อี นั ตรายอยางรวดเร็ว เพ่ือใหพ น อันตรายที่จะเกดิ ขน้ึ
๘
๒.๖ การไดรับความรวมมือจากบุคคลสําคัญ จะชวยใหมาตรการรักษาความปลอดภัย
เปนไปอยางมปี ระสทิ ธิภาพ ฉะนนั้ ควรจะดําเนินการ
๒.๖.๑ ปรึกษากับบุคคลสําคัญ เพ่ือขอความเห็นชอบในการคุมกัน โดยอธิบายถึง
ความจาํ เปน ในการรกั ษาความปลอดภยั ใหบคุ คลสําคัญทราบ
๒.๖.๒ หาขาวเพิ่มเติมถึงภยันตรายท่ีอาจจะเกิดขึ้นกับบุคคลสําคัญ นอกเหนือจากที่
ทราบมากอน
๒.๖.๓ หาขอมูลเก่ียวกับส่ิงที่บุคคลสําคัญชอบและไมชอบ การแพอากาศ อาหาร
ทะเล บุหรี่ หรือส่ิงอนื่ ๆ รวมท้ังการดาํ เนินกจิ วัตรประจาํ วนั
๒.๖.๔ มีประวตั กิ ารรักษาทางการแพทย กลมุ เลือด ของบคุ คลสําคญั
๒.๖.๕ ขออนมุ ตั ิตรวจสอบเกยี่ วกับสถานท่ีพกั สถานทท่ี าํ งาน ของบุคคลสําคัญ
๒.๖.๖ มกี ําหนดการของบคุ คลสําคญั โดยขอทราบไวลว งหนา เทาทจ่ี ะทําได
๓. แบบในการจดั และการวางกําลงั
๓.๑ การจัดกําลัง เจา หนาท่ีรักษาความปลอดภยั จะจดั กาํ ลังออกเปน ๓ รูปแบบ คือ
๓.๑.๑ แบบเปดเผย เปนการแสดงตัววา เปนเจาหนาท่ีรักษาความปลอดภัยบุคคล
สาํ คญั เพื่อใหฝา ยตรงขามไดท ราบ เปน การปอ งกันปรามการลอบทํารายตอบคุ คลสําคญั มกั แตงเครื่องแบบ
และมอี าวธุ ประจาํ กายแสดงตนวาเปน เจา หนาที่รักษาความปลอดภัยบุคคลสาํ คญั อยางใกลชิด
๓.๑.๒ แบบปกปด จะไมเปดเผยแสดงตัวใหบุคคลท่ัวไปทราบ โดยแตงกายคลาย
ประชาชนทั่วไป ใหกลมกลืนกับส่ิงแวดลอมของสถานท่ีนั้น ๆ มักใชปฏิบัติในการหาขาว ดูแลความ
เคลอื่ นไหวของกลมุ ชนหรือบุคคลนาสงสัย สวนหน่ึงจะปะปนกับฝูงชน อีกสวนหน่ึงจะใกลบุคคลสําคัญ
พรอ มท่ีจะเขา ขัดขวางยับย้ัง และปอ งกันเหตุรายทเี่ กดิ ขึน้
๓.๑.๓ แบบผสม เปนการจัดกําลังโดยใชเจาหนาที่รักษาความปลอดภัยท้ัง ๒ รูปแบบ
มาปฏิบัติงานรว มกันในลกั ษณะผสมผสาน ในสวนการจัดกําลังจะใชเจาหนาที่แตละแบบมากนอยเพียงใด
ขึ้นกบั สถานการณแ ละการขาวที่ไดร บั
๓.๒ การวางกําลัง จะตองวางกําลังเปนวงรอบอยางนอย ๓ วงรอบดวยกัน เพ่ือเปน
เครื่องชว ยในการตรวจสอบบุคคลกอนที่ะจผานไปถึงตัวบุคคลสําคัญ ซง่ึ แบงออกได ดังน้ี
๓.๒.๑ วงรอบชั้นใน เปนการจัดวางกําลังเจาหนาท่ีรักษาความปลอดภัยที่อยูใกลชิด
บุคคลสําคัญมากที่สุด ท่ีสามารถจะปองกันและแกไขสถานการณที่เกิดขึ้นกับบุคคลสําคัญได
ทนั ทวงที
๓.๒.๒ วงรอบช้ันกลาง หมายถึง วงรอบท่ีลอมรอบวงรอบช้ันใน เชน บริเวณ
โดยรอบพิธีหรือรอบอาคารบานพัก ซึ่งอาจจะเปนยามรักษาการณ ยามชองทางเขาออก ชุดลวงหนา ชุด
ตรวจคน วัตถุระเบดิ หรอื อาจจะเปนเจาหนาทีท่ าํ งานในลกั ษณะปกปด
๙
๓.๒.๓ วงรอบชนั้ นอก เปน พ้ืนท่ที ี่หา งไกลจากบุคคลสําคญั เจาหนาท่วี งรอบน้ี ไดแก
สายตรวจเดินเทา รถตรวจการณ ชุดรักษาความปลอดภัยท่ีวางไวตามจุดรอบนอก เชน พื้นที่สูงขม พ้ืนท่ี
ลบั ตา ท่ีสามารถใชกระสนุ วถิ โี คง ได
๓.๓ การกําหนดวงรอบ ชุดปฏิบตั ิการสาํ รวจลว งหนา จําเปน ผกู าํ หนดวงรอบตา ง ๆ ขน้ึ
ในแตล ะพน้ื ท่ี โดยอาศยั ปจจยั ตา ง ๆ ดังน้ี
๓.๓.๑ จํานวนกําลังพลที่มีอยูรวมท้ังเจาหนาที่ตํารวจ และ เจาหนาที่รักษาความ
ปลอดภัยในพน้ื ท่ี
๓.๓.๒ ระดบั การคุกคามของบคุ คลสาํ คญั
๓.๓.๓ จํานวนฝูงชนท่ีรวมชมุ นมุ ในพนื้ ทีน่ น้ั
๓.๓.๔ ขอ พิจารณาดานการทตู ในกรณีท่เี นนกจิ กรรมทางการทูตหรอื บรเิ วณสถานทตู
๔. การควบคมุ บุคคลและสิ่งของทจี่ ะเขาถึงตวั บุคคลสําคญั
๔.๑ บุคคล ผูที่เขาพบปะปนเย่ียมเยียนจะตองมีการตรวจสอบ และอยูในความควบคุม
ของเจา หนา ท่รี ักษาความปลอดภยั ตลอดเวลา โดยดําเนนิ การตามความจําเปน ดงั นี้
๔.๑.๑ การขอดูบัตรประจาํ ตวั การแลกเปล่ยี นบัตร
๔.๑.๒ แจงกาํ หนดการการเขา พบลว งหนา พรอมรายชื่อ เพอ่ื ทําการตรวจสอบ
๔.๑.๓ ผา นการตรวจคน ดว ยเครอ่ื งมือตรวจคน หรอื การสัมผสั ดวยมือ
๔.๒ ส่ิงของ ที่สงมาใหบุคคลสําคัญ จะตองผานการตรวจสอบโดยเจาหนาที่ทางเทคนิค
กอนเสมอ อยาปลอยใหบุคคลสําคัญเปดหีบหอดวยตนเอง การตรวจอาจใชเครื่องมือเอ็กซเรย
เครอ่ื งตรวจวัตถุระเบิด สาํ หรบั สง่ิ ของประเภทอาหาร จะตองตรวจสอบวาไมมียาพิษเจือปน บุหร่ี สุรา ที่
บุคคลสาํ คัญชอบตอ งตรวจสอบเปนพเิ ศษ
๔.๓ การจัดทําระบบปายแสดงตน
เปนเร่ืองจําเปนท่ีสําคัญที่สุดสําหรับเจาหนาท่ีรักษาความปลอดภัยที่จะตองทราบวา
บุคคลใดสามารถเขาถึงตัวบุคคลได ในการปฏิบัติภารกิจการรักษาความปลอดภัยนั้น เราจะจัดทําบัตร
เครื่องหมายบอกฝายหรือบัตรแสดงตน เพื่อจะเขาไปในพื้นที่น้ัน ๆ โดยมีการควบคุมและแจกจาย โดย
เจา หนาท่ีรักษาความปลอดภัยดังนี้
๔.๓.๑ บัตรประจําตัวแบบถาวร เปนบัตรมีรูปถายใชติดหนาอกเส้ือ อาจจะใชเฉพาะ
เจาหนาท่ีรักษาความปลอดภยั หรอื เจาหนาท่ีท่ีทาํ งานระดับใกลชดิ บุคคลสําคญั
๔.๓.๒ บัตรแบบช่ัวคราว เข็มกลัด หรือบัตรสี ซ่ึงจะใชแยกประเภทระดับเจาหนาท่ี
ตามความจําเปน ทเี่ ห็นวา เหมาะสม
๑๐
๕. วินัยในการรกั ษาความลับและการลวง
เปนหลักที่เจาหนาที่รักษาความปลอดภัยจะตองยึดถือและปฏิบัติ คือ จะไมนํารายละเอียด
เก่ียวกับกําหนดการตาง ๆ ของบุคคลสําคัญ ตลอดจนการเคลื่อนไหวที่เกี่ยวกับบุคคลสําคัญไปเปดเผยให
ผูอน่ื ทราบ เอกสารจะตองเก็บไวในท่ีปลอดภยั เสมอ ในบางสถานการณอ าจใชการลวง เพื่อใหฝายตรงขาม
เขา ใจผดิ เชน การออกขาวลวง การปลอมตวั หรือการลวงเกี่ยวกับขบวนรถ
๖. การรวบรวมขาวสารทม่ี ีผลกระทบกระเทือนตอ บุคคลสําคัญ
ตองมีการวางแผนในการหาขาว และรวบรวมขาวสารจากหนวยตาง ๆ อันมีผลกระทบตอ
บุคคลสําคัญอยูตลอดเวลา เชน บุคคลท่ีนาจะเปนผูลอบทํารายบุคคลสําคัญ บุคคลผูตอตานหรือหัวหนา
กลุมปลกุ ระดม ในทุกพ้ืนทีท่ ีบ่ ุคคลสาํ คัญจะไปปรากฏตวั
๗. การเสนอแนะไมใ หบคุ คลสาํ คญั เสีย่ งอนั ตราย
เจาหนาท่ีรักษาความปลอดภัย จะตองหมั่นตรวจเสนอแนะใหบุคคลสําคัญ มิใหกระทําการ
ใด ๆ ท่ีเสี่ยงอันตรายเสมอ เชน บางโอกาสอาจจะเสนอใหใชเส้ือเกราะออน การเปลี่ยนยานพาหนะท่ีใช
ประจํา หรือการมใิ หใชย านพาหนะทีพ่ จิ ารณาแลว นา จะไมป ลอดภัย มาตรการน้ีขึน้ อยูกับประสิทธภิ าพใน
ดา นการขา ว
๘. การทําพ้นื ที่ใหเกิดความปลอดภยั
มาตรการนม้ี ไิ ดเ นนการปฏบิ ัติเฉพาะอาคารสถานท่หี รอื บรเิ วณทบ่ี คุ คลสําคัญจะไปปรากฏตัว
แตใหหมายถงึ การควบคมุ การกักกัน หรือการจํากัดเขตบุคคลที่นาจะเปนอันตรายตอบุคคลสําคัญในพื้นที่
นั้น ๆ บางประเทศกฎหมายใหอํานาจที่จะจับกุมผูตองสงสัย หรือผูมีประวัติอาชญากรไปกักกันตัวไว
ช่วั คราว เมือ่ เห็นวาการกระทําเชน น้นั จะเกดิ ผลดตี อความสงบเรยี บรอยของบานเมอื ง
๙. พ้นื ที่หลบภัย (Safe Haven)
ในกรณที ีบ่ ุคคลสาํ คัญไปปรากฏตัว ณ ที่ใดที่หน่ึง เจาหนาท่ีรักษาความปลอดภัยตองเตรียม
พน้ื ทหี่ ลบภัยไวใหก บั บคุ คลสาํ คัญในทกุ พนื้ ท่ี พืน้ ท่ีหลบภยั น้ี คอื พนื้ ที่ท่อี ยใู นสถานทีท่ ีใ่ หความปลอดภัย
ไดชั่วคราวสําหรับบุคคลสําคัญและครอบครัว ซ่ึงอาจจะเปนหองพักที่อยูในวงรอบช้ันในสุดหองใดหอง
หนึ่ง ซึ่งเจาหนาท่ีรักษาความปลอดภัยไดกําหนดขึ้น เพ่ือใหเวลาแกเจาหนาที่ตํารวจ หรือเจาหนาที่รักษา
ความปลอดภัยเตรียมการตอบโต และรับมือกับผูกอการรายในกรณีที่มีการโจมตี หลักในการเลือกหองที่
จะกําหนดเปนพืน้ ที่หลบภยั ไดน้นั ควรพจิ ารณาจากปจจัยตา ง ๆ ดังนี้
๙.๑ เสนทางท่ไี ปยงั พน้ื ท่ีหลบภัย ตอ งไมผานพืน้ ทอ่ี ันตรายใด ๆ (Accessibility)
๙.๒ สามารถใหความคุมกันได (Ability to Defence) ควรเปนพื้นที่ท่ีเจาหนาท่ีรักษาความ
ปลอดภัยสามารถทําการตอสูเพื่อปองกันพ้ืนที่อยางไดเปรียบ เชน อยูในพ้ืนที่ท่ีสูงกวาสามารถตรวจการณ
เหน็ ฝา ยตรงขา มได
๑๑
๙.๔ สามารถดํารงการติดตอส่ือสารได (Ability to Communications) โดยติดตอกับกอง
อํานวยการรักษาความปลอดภัย หรือชุดปฏิบัติการทุกชุด ตลอดจนเจาหนาที่ตํารวจในพื้นท่ีทางโทรศัพท
หรอื วทิ ยุ และตอ งมีเครอ่ื งมือดบั เพลงิ เครอื่ งใหแ สงสวาง กรณีเกิดไฟดบั ขึน้
๙.๕ มเี สน ทางถอนตวั ไดอยา งปลอดภัย (Ability go Escape) ในกรณีน้ีจะตองมีเสนทางใน
การพาบคุ ลสาํ คญั ถอนตัวไปยงั รถฉุกเฉินซ่ึงกาํ หนดเสนทางเอาไวในแผนเผชิญเหตุ
๙.๖ สามารถถวงเวลาได (Ability to Hold) ในหองน้ีควรมีอุปกรณและเคร่ืองมือที่
เหมาะสมที่สามารถจะตรงึ พ้ืนท่ีไวไดอ ยางนอ ย ๑๕ ถึง ๖๐ นาที ในระหวางการโจมตี
๙.๗ มีการเสริมความปลอดภัย (Reinforced) ดวยเครื่องมือตาง ๆ และทางออกฉุกเฉินไว
ดว ย การเสรมิ ความปลอดภยั กระทาํ ไดดังน้ี
๙.๗.๑ ประตูควรมคี วามหนา และเสริมดว ยเหล็ก
๙.๗.๒ มีเหลก็ ดัดตดิ ทกุ หนา ตา ง
๙.๗.๓ บานพับประตูหนาตา งตองตดิ ตรึงอยา งหนาแนน ปองกันการถอดได
๙.๗.๔ กรอบหรือวงกบประตคู วรหนาอยา งนอ ย ๒ นวิ้ และตรึงแนน กบั กาํ แพง
๙.๗.๕ กลอนควรเปนกลอนเดือย ปดเปดดวยกุญแจอยางนอยบานละ ๒ กลอน ติดต้ัง
หางกัน ๑๒ นว้ิ เปน อยางนอย
ตอนที่ ๒ การจัดและโครงสรางของชุดปฏิบัติการรักษาความปลอดภัย (Organization of Protective
Detail)
การจัดกําลังของชุดปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยน้ัน เปนการจัดกําลังจากชุดปฏิบัติการตาง ๆ
ตามความเหมาะสมกับสถานการณท ีเ่ กิดขน้ึ โดยการรวบรวมขอ มลู ขา วสารตาง ๆ ที่มีผลกระทบตอบุคคล
สาํ คญั ซึง่ รูปแบบการจดั สามารถเปลี่ยนแปลงไดตามความเหมาะสม เพื่อใหบ รรลุภารกจิ ไดด ที ส่ี ุด
๑. การจดั หนว ยและหนา ท่ี
การจัดกําลังเพ่ือปฏิบัติภารกิจในการรักษาความปลอดภัยบุคคลสําคัญ จะตองจัดใหเพียงพอ
ตอการปฏบิ ัตงิ าน โดยแบงกาํ ลังออกเปนสว น ๆ ตามความจาํ เปน และกาํ หนดหนาทใี่ หแนนอน เพื่อมใิ ห
กาวกาย และสบั สนในการปฏิบตั ิงาน ซึ่งสามารถแบง ออกได ดงั นี้
๑.๑ กองอํานวยการรกั ษาความปลอดภยั (Command Post) มหี นาท่ี
๑.๑.๑ อํานวยการและควบคมุ การปฏบิ ตั ิการรักษาความปลอดภัย
๑.๑.๒ วางแผน ส่ังการ ประสานการปฏิบัติกับหนวยตาง ๆ ในระดับหนวยเหนือ และ
หนวยรอง
๑.๑.๓ ใหการสนบั สนุนดานการขา ว กาํ ลงั พล และยทุ โธปกรณ โดยมนี ายทหารควบคมุ
๒
การปฏิบตั ิการเปนผรู บั ไปปฏิบัติ โดยรับนโยบายจาก ผอู าํ นวยการรักษาความปลอดภัย
๑.๑.๔ การจัดชุดสนับสนุนตาง ๆ เขาสนับสนุนการปฏิบัติใหกับชุดปฏิบัติการรักษา
ความปลอดภยั เมือ่ ไดรบั การรอ งขอ
๑.๒ ชุดตรวจคนทางเทคสิค (Exoplosive Ordnance Disposal) มีหนาท่ีสนับสนุนชุด
ปฏบิ ตั กิ ารตาง ๆ เมอ่ื ไดร ับการรองขอในเร่อื งทเ่ี กีย่ วกบั
๑.๒.๑ การปฏิบัตงิ านกอ นวาระท่บี ุคคลสําคัญมาถึงไมน อ ยกวา ๒ ชัว่ โมง
๑.๒.๒ ตรวจสอบความปลอดภัยเกี่ยวกับสถานที่ ดวยเครื่องมือทางเทคนิคเก่ียวกับ
วตั ถรุ ะเบิด การลกั ลอบดกั ฟง เสยี ง
๑.๒.๓ ตรวจอุปกรณถายภาพ ควบคุมการแจกจายบัตร การลงทะเบียนของชางภาพ
สอื่ มวลชน
๑.๒.๔ ตรวจอาหาร เคร่ืองด่ืม หีบหอของขวัญ รวมทั้งส่ิงของตาง ๆ ท่ีมอบใหบุคคล
สาํ คัญ
๑.๒.๕ ตรวจคนยานพาหนะบคุ คลสําคญั
๑.๒.๖ ตรวจเสร็จสงมอบพ้ืนท่ีใหเจาหนาท่ีรักษาความปลอดภัยที่เกี่ยวของรับผิดชอบ
ตอ ไป
๑.๓ ชุดสํารวจลว งหนา
เจาหนาท่ีชุดน้ีเปนชุดที่มีความสําคัญมากในการรักษาความปลอดภัยบุคคลสําคัญ
เนื่องจากผลการสํารวจในแตละพื้นท่ี จะนํามาวางแผนการรักษาความปลอดภัย และออกคําสั่งในการ
ปฏิบัตภิ ารกิจตอไป ซงึ่ มีหนา ทดี่ งั นี้
๑.๓.๑ เตรยี มการปฏบิ ัติการใหแ ลว เสรจ็ กอนวาระงานของบุคคลสําคัญไมน อยกวา ๓ วนั
๑.๓.๒ ตดิ ตอประสานงาน และรวบรวมขาวสารในพ้ืนท่ีทบี่ ุคคลสาํ คญั จะเดินทางไป
๑.๓.๓ สํารวจเสนทาง อาคาร สถานที่ ท่ีตั้งกองอํานวยการ จุดวางกําลังของเจาหนาท่ี
ชุดประจําที่ เสนทางถอนตวั จุดจอดรถฉุกเฉนิ และพ้นื ท่ีอันตรายตาง ๆ โดยทําเปน แผนผงั รปู รา งใหช ัดเจน
๑.๓.๔ เตรียมสถานที่หองพกั รับรอง พื้นที่ปลอดภัย ณ พื้นท่ีนั้น ๆ ใหกับบุคคลสําคัญ
เมื่อมีความจําเปนตอ งใช
๑.๓.๕ สํารวจเสนทางไปโรงพยาบาล สถานีตํารวจ หนวยทหารใกลเคียง โดยแจง
ขอ มลู ใหเจาของสถานทที่ ราบ
๑.๓.๖ การประกอบกาํ ลังอาจจดั จากเจา หนา ทตี่ ้งั แต ๓ นายขนึ้ ไป ไดแ ก
- หวั หนาชดุ สํารวจลวงหนา (Lead Advance)
- เจาหนาทป่ี ฏบิ ัติ (Advance Agent)
- พลขบั (Driver)
๑๓
๑.๔ ชุดสว นลวงหนา (Advance Teams)
เปนชุดท่ีดําเนินการตรวจสอบการปฏิบัติการของชุดสํารวจลวงหนา ในดานการ
ประสานการปฏิบตั ิงานรว มกับชุดตรวจทางเทคนคิ มหี นาทดี่ ังน้ี
๑.๔.๑ เรมิ่ ปฏิบัติภารกจิ กอนถงึ วาระงานของบคุ คลสําคญั ไมน อ ยกวา ๒ ชั่วโมง
๑.๔.๒ สํารวจเสนทางตาง ๆ จุดวางกําลัง โดยประสานการวางกําลังตามพ้ืนท่ีหรือจุด
ท่ีนาจะเปน อันตราย หรือลอแหลม
๑.๔.๓ นําบุคคลสําคัญเขาไปยังที่หมาย แจงขอมูลใหชุดติดตามเก่ียวกับสถานการณ
ตา ง ๆ ในพืน้ ทขี่ ณะทร่ี ถบุคคลสาํ คญั กําลงั เคลอื่ นเขา สูทีห่ มาย
๑.๔.๔ ควบคมุ ส่อื มวลชนและประชาชนทีม่ าคอยในพื้นทห่ี มาย
๑.๔.๕ การประกอบกําลัง จะมีเจาหนา ท่ีอยา งนอ ย ๓ นายคอื
- หัวหนา ชุดสวนลว งหนา (Lead Advance)
- เจาหนา ทปี่ ฏบิ ตั ิ (Advance Agent)
- พลขับ (Driver)
๑.๕ ชดุ ติดตาม (Follow Team)
เจาหนาท่ีชุดนี้ มีหนาที่ติดตามรักษาความปลอดภัยใหกับบุคคลสําคัญโดยใกลชิด
ภารกิจหลักคือปองกันมิใหบุคคลสําคัญไดรับอันตรายท่ีจะเกิดขึ้น ไมวาจะเปนการกระทําจากอุปทวเหตุ
การจงใจ หรือการกระทําท่ีจะทําใหบุคคลสําคัญเส่ือมเสียช่ือเสียง โดยใชเทคนิคในการรักษาความ
ปลอดภยั อยา งมีประสทิ ธิภาพ มีหนา ท่ีโดยรวมดงั น้ี
๑.๕.๑ ใหการรกั ษาความปลอดภยั บุคคลสาํ คัญตลอด ๒๔ ชั่วโมง
๑.๕.๒ นําบคุ คลสาํ คัญไปยงั พ้ืนที่ปลอดภยั เม่ือเกิดเหตฉุ ุกเฉนิ
๑.๕.๓ ดํารงการตดิ ตอสอ่ื สารกบั ชุดปฏิบัติการทกุ ชุด
๑.๕.๔. การจดั กาํ ลงั ประกอบดวย
- หวั หนา ชุดติดตาม (Detail Leader) DL
- รองหัวหนาชุดติดตาม (Shift Leader) SL
- เจา หนาท่ีปฏบิ ัติการ (Right Rear) RR ปฏิบตั หิ นา ท่เี จา หนาท่สี ื่อสาร
- เจา หนาทป่ี ฏบิ ัตกิ าร (Lett Rear) LR ปฏบิ ัตหิ นา ทีเ่ จาหนาทเ่ี ทคนคิ
- พลขบั (Follow Car Driver) FCD
๑.๖ ชุดประจําสถานท่ี (Site Agent)
เปนเจาหนาท่ีปฏิบัติการสวนท่ีสงกําลังไปวางไว ณ สถานที่บุคคลสําคัญจะเดินทาง
ไปเพ่ือทําหนาท่ีเฝาสังเกตการณหรือสะกดรอยตามขบวนรถ (Counte Surveillance Agent) และบางครั้ง
อาจทาํ หนา ทเ่ี ปน เจา หนา ท่ชี ดุ ตรวจเสน ทาง (Pilot Car Agent) เพอื่ คอยตรวจการณเ สน ทางและพื้นทท่ี ี่
๑๔
นาสงสัย และหรือจัดวางเจาหนาที่ประจําจุดคับขันกอนบุคคลสําคัญมาถึง การประกอบกําลังอาจ
ประกอบดวย หัวหนา ชดุ เจาหนา ท่ปี ฏิบตั ิการ และพลขับ
๑.๗ ชดุ สนบั สนุนทางยทุ ธวธิ ี (Counter Assault Teams)
ภารกิจหลักของชุดสนับสนุนทางยุทธวิธี คือ ทําการตอบโตเม่ือเกิดภัยคุกคามหรือมี
การลักลอบโจมตีบุคคลสําคัญ ปองกันอันตรายใหกับบุคคลสําคัญในการหลบภัย อาจตองพรอมท่ีจะเขา
ตรึงพ้ืนที่เพื่อใหชุดปฏิบัติการท่ีรับผิดชอบนําบุคคลสําคัญหนีออกจากพ้ืนท่ี หรืออาจดําเนินการเพื่อ
เบ่ยี งเบนความสนใจของฝา ยตรงขาม การจัดกําลงั ตามความเหมาะสม
๑.๘ ชดุ เตรยี มพรอม (Reinforce Teams)
มีหนาที่ทดแทนชุดปฏิบัติการตาง ๆ ไดทุกชุด เมื่อไดรับการรองขอ การทดแทน
อาจจะท้ังชดุ หรือเขาเสรมิ ชดุ ปฏบิ ตั กิ ารตา ง ๆ ในบางสว น
๑.๙ ชุดพยาบาลเคลอ่ื นท่ี
ใหการรักษาพยาบาลเบื้องตนแกบุคคลสําคัญและเมื่อบุคคลสําคัญบาดเจ็บ นําสง
โรงพยาบาลทีใ่ กลท ่ีสดุ อาจจดุ รถพยาบาลเขารวมในขบวนเม่อื เห็นวา สาํ คญั
๒. คุณสมบัตทิ พี่ งึ ประสงคของเจา หนาทรี่ ักษาความปลอดภัย
๒.๑ มีความจงรักภักดี ซอ่ื สัตย และไวใจได ซ่งึ ถอื วา สาํ คญั ทสี่ ุด ตอ งมกี ารตรวจสอบกอ น
จะรบั มาปฏิบัตหิ นา ที่
๒.๒ จิตใจมั่นคง สุขภาพจติ ดี ไมหวั่นไหวงาย มิฉะนน้ั อาจตกเปนเครอ่ื งมือของฝา ยตรงขา ม
๒.๓ สุขภาพสมบูรณ รางกายแข็งแรง ตอสภาพงานท่ีอาจตองตรากตรําตลอด ๒๔ ช่ัวโมง
อกี ท้ังตอ งมีเชาว ไหวพริบ และตืน่ ตวั พรอมทจี่ ะปฏิบตั ิการโตตอบฝา ยตรงขามโดยฉบั พลัน
๒.๔ มีวินัย อดทน เสียสละ และไมประมาท สามารถปฏิบัติการไดทุกพื้นที่แมตนเองจะ
ไมช อบ
๒.๕ หูไว และสายตาดเี ปน เลศิ มีประสาทสัมผัสท่ีดีเย่ียม โดยเฉพาะสัญชาติญาณท่ีรับรูตอ
ภยั อนั ตรายที่จะเกดิ ขึน้
๒.๖ ไมเ ปนโรคสุราเรือ้ รงั หรอื ติดยาเสพตดิ
๒.๗ มมี นุษยสัมพนั ธ สามารถปฏบิ ตั ิงานรว มกับผูอื่นไดเ ปน อยา งดี
๒.๘ มีความกลา หาญ พรอมทีจ่ ะเสี่ยงอันตรายเพื่อปองกนั บุคคลสําคญั ดวยชวี ติ แตท้ังน้ีตอง
เปน คนท่ีสุขมุ รอบคอบ รวู า ควรจะทําอยางไรในเวลาฉกุ เฉนิ มฉิ ะน้นั อาจจะทําใหบ ุคคลสําคญั เสียชีวติ ได
๒.๙ เขาใจการปฐมพยาบาลขนั้ ตนและสามารถรกั ษาโรคประจาํ ตัวของบุคคลสําคญั ได
๒.๑๐ มีความรูในเร่ืองเคร่ืองมือส่ือสาร เครื่องมือดับเพลิง การคนหาและเก็บกูวัตถุระเบิด
การใชเ ครอื่ งมอื อิเล็กทรอนกิ ส
๒.๑๑ มคี วามรูเกี่ยวกับมารยาทสังคม ระเบียบปฏิบตั ทิ างพิธกี ารตาง ๆ ทัง้ ของไทย และ
๑๕
ตางประเทศ เพ่ือจะวางตวั ไดเ หมาะสมกบั สถานการณนนั้ ๆ
๓. ขอพึงระวังในการปฏิบตั ิของเจา หนา ที่รกั ษาความปลอดภยั บุคคลสาํ คัญ
๓.๑ หามชักชวนบุคคลสําคัญสนทนา
๓.๒ เมื่อจะเขาพ้ืนท่ีที่ยังไมผานการตรวจสอบ เจาหนาท่ีรักษาความปลอดภัยตองเขาไป
กอ นบุคคลสาํ คัญประมาณ ๑ ฟตุ ลวงหนา
๓.๓ การเขา ออก จากลิฟท ใหเขาและออกกอนบุคคลสําคัญ และตองมีหนาที่คอยกดปุม
ลฟิ ท
๓.๔ ไมพยายามเขาจับกุม หรือตอสูพัวพันกับผูกอการราย โดยรีบนําบุคคลสําคัญออกจาก
พ้ืนทอ่ี นั ตรายโดยเร็ว
๓.๕ ไมค วรทาํ อะไรในลกั ษณะประจําจนเปนกจิ วตั ร
๓.๖ พานหะตองมีคนเฝา ตรวจเสน ทางออก เสน ทางถอนตวั ทุกคร้ัง
๓.๗ เมื่อเกิดเหตุรายจะไมตื่นตกใจ แตใหต่ืนตัวพรอมที่จะรับสถานการณดวยความมีสติ
ตลอดเวลา
ตอนที่ ๓ การวางแผนการปฏบิ ตั ิการรกั ษาความปลอดภยั บคุ คลสาํ คญั
๑. กลา วนํา
ในการวางแผนการรักษาความปลอดภัยบุคคลสําคัญน้ัน จําเปนอยางยิ่งตองถือเปนระเบียบ
ปฏิบัตปิ ระจาํ แผนจาํ เปน ตอ งบรรจรุ ายละเอยี ดตางๆ ท่จี าํ เปนตอ งปฏิบัติ โดยแจกจายใหกบั ฝายอํานวยการ
หรอื หนว ยงานท่เี กีย่ วของไดร บั ทราบ และเจาหนา ท่รี ะดบั สงู เทา นัน้ ทีต่ องไดร บั แผนสมบูรณ นอกจากนนั้
แลว ระดับเจาหนาที่ปฏิบัติการอ่ืน ๆ ก็ใหทราบเพียงเร่ืองใหญ ๆ ของแผนและทําความเขาใจในการ
ปฏิบัติงานตามหนาที่โดยเฉพาะของแตละบุคคล คําแนะนําตาง ๆ ตองงายตอการเขาใจและปฏิบัติตาม
แผนที่ดีจะตองมีความออนตัว แผนจะมีมากหรือนอยขึ้นอยูกับขนาดของภารกิจท่ีจะตองปฏิบัติ มีเวลา
เพียงพอในการแจกจายตลอดจนการซักซอมการปฏิบัติท่ีไดวางแผนไว หนทางท่ีจะไปสูความสําเร็จใน
การรักษาความปลอดภัยบุคคลสําคัญนั้น อยูท่ีการวางแผนอยางละเอียดตอเนื่อง เลือกใชมาตรการอยาง
รอบคอบพถิ พี ิถนั การฝก อบรมและการนาํ เจา หนาทีม่ าใชใ หเ กิดประโยชน
๒. แนวทางในการวางแผน
เปนแนวทางของผูบังคับบัญชาท่ีใหกับเจาหนาที่ที่จัดทําแผน เพ่ือใชในการทําทบทวน
ประมาณการความมากนอ ยของแนวทางในการวางแผนจะเปล่ยี นแปลงหรือไมข ้นึ อยกู ับ
๒.๑ ภารกิจของหนวย ผูบังคับบัญชาสามารถกําหนดกิจเฉพาะตาง ๆ ที่จะตองกระทํา
เพ่อื ใหบ รรลภุ ารกจิ นั้น และกาํ หนดกิจแบง ขน้ึ ตามที่ตนพิจารณาเห็นเหมาะสม
๒.๒ ปริมาณและความถูกตอ ง เชอื่ ถือไดของขอ มูลขาวสารทม่ี ีอยู
๑๖
๒.๓ สถานการณในขณะน้นั รวมทั้งประสบการณท่ีเคยไดรับ
๒.๔ ความสามารถและความคุนเคยของหนวยปฏบิ ตั ทิ ่ีมตี อ ภูมิประเทศ สิ่งแวดลอมของฝาย
ตรงขา ม
๓. สง่ิ ที่ตองการในการวางแผน
๓.๑ กําหนด วัน เวลา สถานทท่ี ่ีบคุ คลสาํ คญั จะเดนิ ทางไป ตลอดจนประเภทของงานพธิ ี
๓.๒ วิเคราะหส ถานการณใ นพน้ื ท่ปี ฏบิ ัติงาน โดยประมาณการณดา นการขาว
๓.๓ เหตุการณท่ีนาสนใจท่ีเคยเกิดข้ึนในพื้นที่น้ัน เชน การลอบสังหารบุคคลสําคัญ บุคคล
วิกลจรติ เปนตน
๓.๔ การประสานงานกบั เจาหนาที่ทหาร ตํารวจ ในพน้ื ทีท่ ี่บุคคลสําคัญจะเดนิ ทางไป
๓.๕ กองบงั คับการ (Command Post) สถานทต่ี ง้ั หมายเลขโทรศัพท นามเรยี กขาน ฯลฯ
๓.๖ สายการบงั คับบัญชา และการตดิ ตอ ส่ือสาร
๓.๗ แบงมอบหนาที่ใหเจาหนาท่ีรักษาความปลอดภัยท่ีปฏิบัติทั้งหมดในแผน โดยอาจ
แบง เปน รายบุคคล เปน ผลดั เปนชุด
๓.๘ การแตงกายของเจาหนา ทใี่ นแตล ะพ้นื ท่ี และในแตล ะภารกจิ
๓.๙ อาวุธยทุ โธปกรณและเครอ่ื งมือเคร่อื งใชของเจาหนาที่รักษาความปลอดภัย
๓.๑๐ คา ใชจา ยพิเศษท่ีจาํ เปน ตองใช เชน คา เชารถยนต คา ยานพาหนะ ฯลฯ
๓.๑๑ ขอหวงใยพเิ ศษในการรักษาความปลอดภยั
๔. ขอ พิจารณาในการทําแผน
ความลอแหลมตออันตรายท่ีอาจจะเกิดข้ึนกับบุคคลสําคัญ จะตองนํามาพิจารณาใน
รายละเอียดทุกข้ันตอนนับต้ังแตบุคคลสําคัญมาถึง ขณะพบปะกับประชาชน ขณะกลาวสุนทรพจน ขณะ
นั่งเปนประธาน ขณะใชลิฟท ขณะที่อยูตามหางรานและที่โลงแจงในที่สาธารณะ โดยเฉพาะชวงเวลาที่
เสี่ยงตอการถูกทํารายมากท่ีสุดคือชวงท่ีบุคคลสําคัญกําลังลงจากรถ ข้ึนรถ ขณะท่ีเดินเขาและออกจากท่ี
หมาย อยูทามกลางกลุมชนเหลาน้ีจะตองเตรียมการ จัดเจาหนาที่รักษาความปลอดภัยยืนระวังปองกันให
เหมาะสม
๕. ลักณะของแผน
สวนประกอบอนั สาํ คัญของแผนก็คือ ตองมีหนทางปฏิบัติท่ีแนนอนและใหวิธีการปฏิบัติตาม
แผนนัน้ ดวย แผนท่ีดจี ะมลี ักษณะดังนี้
๕.๑ ตองสามารถบรรลภุ ารกิจ
๕.๒ ตองอาศยั ขอ เทจ็ จริงและสมมตฐิ านท่เี หมาะสม
๕.๓ ตองใชอ าวุธยุทโธปกรณท่ีมีอยู
๕.๔ ตอ งมกี ารจดั ตามความจาํ เปน
๑๗
๕.๕ ตองมีความตอเนื่อง
๕.๖ ตองมกี ารกระจายอํานาจ
๕.๗ ตอ งมีการตดิ ตอกนั โดยตรงระหวางเจา หนา ทีร่ ะดบั เดียวกัน
๕.๘ ตอ งงา ย ออ นตวั และตอ งมีการควบคุม
๖. ข้นั ตอนการปฏิบัติในการทําแผน
๖.๑ ขั้นเตรียมการ แบง เปน ๒ ขั้นตอน
๖.๑.๑ การประสานงาน
- ประสานงานเจา หนา ทท่ี ุกฝายทเ่ี กยี่ วของกับการเตรียมการตอนรับ
- จัดสง ชุดปฏิบตั ิการหาขา วทางลับ
- จดั สงชุดสาํ รวจลว งหนา เพือ่ สาํ รวจสถานท่ี
๖.๑.๒ การวางแผน
- พิจารณาวางแผนใหเหมาะสมกับขาวทไ่ี ดร ับ
- จัดทําแผนท่ีแสดงการวางกําลังของเจาหนาท่ีรักษาความปลอดภัย และ
ฝายเกย่ี วของ
- สรปุ ขาวในพืน้ ที่ ตลอดจนการจัดกาํ ลังเสนอแผนการรกั ษาความปลอดภยั
ใหบุคคลสําคัญทราบลวงหนา
- จัดทําแผนฉกุ เฉนิ เพื่อเตรียมแกไ ขสถานการณที่เกิดขน้ึ
๖.๒ ข้ันการปฏบิ ัตกิ าร
ช้ีแจงรายละเอียดเกี่ยวกับแผนปฏิบัติงานใหเจาหนาท่ีทุกสวน กําหนดหนาที่แตละชุด
ปฏิบัติงาน ทีต่ อ งปฏบิ ตั ใิ นพ้ืนที่ จัดกาํ ลังอยา งไร วางกําลังในพื้นทีอ่ ยางไร
๖.๓ ขน้ั การวจิ ารณแ ละการรายงานหลงั จากเสร็จภารกจิ
เปนการรวบรวม สรุปปญหาอุปสรรค ขอขัดของ เพื่อจะไดดําเนินการแกไขมิใหเกิด
เหตกุ ารณเ ชนนั้นอีก โดยมีวตั ถุประสงคดังน้ี
๖.๓.๑ เพือ่ เปนฐานขาวในการปฏบิ ัติครัง้ ตอ ไป
๖.๓.๒ เพ่ือเปนแนวทางครัง้ ตอไป โดยปรบั ปรุงแกไ ขขอ ผดิ พลาดท่ีเกิดขน้ึ มาแลว
๖.๓.๓ เปน ประวตั ิศาสตรข องหนวยและชาติ
การวิจารณจะไดผ ลดที ่สี ดุ ควรกระทาํ ใหเรว็ ทสี่ ุดภายหลังจากเสร็จภารกิจ โดยผรู ว มปฏิบตั ิภารกจิ ท้งั หมด
มาพรอมกันและวิจารณกันวา เร่ืองตาง ๆ ที่ไดทําไปแลวน้ัน มีความเหมาะสมหรือไมเพียงใด ท้ังนี้ให
รวมถึงการวจิ ารณใ นเรื่องไหวพริบ และเทคนิคในการปฏิบัติดวย เพ่ือใหเปนบทเรียนในการปฏิบัติภารกิจ
ครั้งแตไ ปใหด ขี ้ึน
บทที่ ๓
การรกั ษาความปลอดภยั บคุ คลสําคญั ตามสถานทีต่ า ง ๆ
ตอนที่ ๑ กรรมวธิ ดี ําเนินการของผูประทษุ รา ย
ฝายตรงขามยอมมีวิธีขัดขวางมิใหบุคคลสําคัญปฏิบัติการอยางใดอยางหนึ่งไดหลายวิธีดวยกัน
นอกจากการทําราย หรอื ขดั ขวางบุคคลสาํ คัญโดยตรงแลว ยังอาจกระทําตอส่ิงที่มีผลบังคับถึงบุคคลสําคัญ
ทางออมได เชน กระทําตอ ครอบครัวบุคคลสาํ คัญ มิตรสหาย ผรู วมงานหรือผูสนบั สนนุ ฯ
๑. วธิ ีดําเนนิ การ
๑.๑ การทาํ รา ยรา งกาย เพอื่ ใหเ กิดการบาดเจ็บ ทพุ พลภาพ หรือถงึ กบั เสียชีวิต
๑.๒ การคุกคาม เพื่อใหเกิดความหวาดกลัวจนจําตองเปล่ียนนโยบาย เชน ใชบัตรสนเทห
การคกุ คามทางสื่อมวลชน หรือการใชก ารประชมุ ระหวางประเทศเปนเครื่องมือ
๑.๓ การขูกรรโชก โดยกระทําตอบุคคลสําคัญโดยตรงหรือตอครอบครัว เพื่อตองการเงิน
ผลทางการเมือง หรือเพ่ือวตั ถปุ ระสงคอยางอ่ืน
๑.๔ การหมิ่นประมาทและการทาํ ใหอบั อาย ไดแกการทําใหบ คุ คลสาํ คญั ถกู เยย หยนั อบั อาย
ตอสาธารณชน เชน การขวางปาไขเนา ผลไมเนา สิ่งปฏิกูล ตัดสายไฟขณะปราศรัย เขียนปายโปสเตอร
ลอ เลียน ดาประจาน เปน ตน
๑.๕ การลักพาตัว เพ่ือยึดไวเปนตัวประกันในการเจรจาตอรองใหจําเปนตองปฏิบัติตาม
เง่ือนไข บังคับเอาขาวสารจากผูถูกลักพา หรือมิใหผูถูกลักพาปฏิบัติการอยางใดอยางหนึ่งในสิ่งที่กําลังจะ
กระทาํ
๒. เคร่อื งมอื ในการทาํ ราย
สิ่งของทุกชนิดที่ฝายตรงขามนํามาใชในการประทุษรายบุคคลสําคัญ ยอมถือวาเปนอาวุธ
ทั้งสิ้น ซ่ึงอาจจะเปนเคร่ืองมือ โดยสภาพมิใชอาวุธแตนํามาเปนอาวุธ เชน กอนอิฐ ขวดน้ําอัดลม หมึก
หรือมีสภาพเปนอาวุธ เชน มีด ขวาน ดาบ ธนู อาวุธเหลาน้ีเปนอาวุธที่ใชระยะประชิด หรือในระยะใกล ๆ
ไมเกิดเสียงดัง ผูประทุษรายที่ใชอาวุธประเภทนี้มักไดแก ผูที่อยูใกลชิดกับบุคคลสําคัญ บุคคลในท่ี
ทํางาน หรือบานพักของบุคคลสําคัญ ผูเขาเยี่ยมหรือพบปะกับบุคคลสําคัญ ผูที่มีความผิดปกติทางจิต
เนื่องจากไมม ีโอกาสหาอาวธุ ชนิดอ่ืนหรอื ไมทราบวา อาวธุ ชนิดนน้ั จะเปน ภยั เพยี งไร
๒.๑ อาวธุ ระยะใกล
๒.๑.๑ ปน พกและมีด เปนอาวุธท่ีใชก ันมากท่สี ุด สาํ หรบั ปนพกใชไดผลในระยะ ๕–
๒๐ เมตร พกติดตัวในลักษณะมิดชิด ระยะหลังเริ่มมีการใชวัตถุระเบิดชนิดฆาตัวตายตาม ถือเปนการ
กระทําในระยะใกล การปฏิบัติการในลักษณะน้ีจําเปนตองหาขาวกอน อยางนอยจะไดรูเสนทางตาง ๆ
และตองมกี ารซุมติดตามกอ นจะเริม่ ลงมอื สังหาร
๑๙
๒.๑.๒ อาวุธพิเศษ เปนอาวุธที่คิดคนเพ่ือใหสามารถนํามาเปนอาวุธในการลอบ
สังหารระยะใกลได เชน ปนทําเปน กลองบุหรี่ หรือทาํ เปน กลองถายรปู ปน ยงิ เขม็ ยาพษิ เปนตน
๒.๒ อาวธุ ระยะไกล
การลอบสังหารจากอาวุธระยะไกล จะมาจากระยะมากกวา ๒๐ ฟุตขึ้นไป โดยใชปน
ไรเฟลติดกลองเล็ง ซ่ึงพบวาใชกันมากที่สุด ผูใชจะตองมีความรูในการใชอาวุธและไดรับการฝกฝนมา
อยา งดี ตอ งหาขา วลว งหนา เพื่อรูเสนทางการเดินทางของบุคคลสาํ คัญ และเลอื กจุดลงมอื สงั หาร
๒.๓ วตั ถุระเบิด
มีวิธีการหลายอยางไมมีขอบเขตการใช ระเบิดเวลามักพบบอยโดยศัตรูอาจต้ังระเบิด
เวลาตามสถานท่ีที่บุคคลสําคัญจะไปปรากฏตัว หรือในท่ีพํานักอาศัย ยานพาหนะ การต้ังเวลาใหระเบิด
มักกําหนดใหอ ยใู นชวงที่เจาหนาที่จะแกไขสถานการณไดยากท่ีสุด หรืออาจกําหนดใหมีการระเบิดขึ้น ๒
ครั้ง โดยใหการระเบดิ คร้งั หลงั สงั หารผทู ่ีจะมาชว ยระงบั เหตุ
๒.๓.๑ วธิ กี ารชดุ ชนวน
- ลา มสายไฟหรอื สายชนวนจากระยะไกล
- บังคับการจดุ ระเบิดจากเคร่อี งบังคบั ระยะไกล (Remote Control)
- ผูจ ดุ ระเบดิ ยอมตายโดยการนําระเบิดติดตวั
- ใชว ิธีกบั ระเบดิ เชน จดหมายระเบิด พัสดุระเบิด ระเบิดเวลา หรือการฝง
กับระเบิดตามเสนทางทขี่ บวนรถยนตบคุ คลสําคญั ผาน
๒.๓.๒ วธิ กี ารวางระเบิด
- ผูวางระเบิดเปนผูวางเอง โดยการปลอมตัวเขาไป เล็ดลอดเขาไปวางใน
เวลาคาํ่ คืนหรอื ชวงปลอดคน หรอื บุกเขา ไปวางโดยใชอ าวธุ รวมดว ย
- ใชวานโดยผูวางระเบิดไมรูตัว โดยมากจะเปนพนักงานบริการ พนักงาน
สงของ หรอื บุรษุ ไปรษณยี ซ่งึ บคุ คลเหลา นีไ้ มร วู า สง่ิ ทนี่ ําไปสงมวี ตั ถรุ ะเบดิ ซกุ ซอ นอยู
- คนของผวู างระเบิดนาํ ไปวางเองโดยแทรกซึมเขา ไปในพน้ื ที่นนั้ ๆ
๒.๓.๓ กลไกการตัง้ เวลาในวัตถรุ ะเบดิ
- กลไกทางเคมี โดยใชปฏกิ ิรยิ าตา ง ๆ เชน ใชส ารละลายกับวตั ถุ
- กลไกทางเมคานคิ เชน ใชน าฬิกาปลุก วัสดกุ ดทับ-เลิกกด หรอื ลวดสะดดุ
- ใชค วามกดอากาศ แสง หรอื เสยี ง
- จุดชนวนโดยใชการถวงเวลาจากวัสดุ เชน ใชกานธูปที่จุดทิ้งไวปลอย
ใหไ ฟลามไปจุดกานไมข ีด ๔ - ๕ กาน ซ่งึ ผูกติดไวเ พ่อื จุดชนวนระเบิดอีกตอหน่ึง
๓. การปอ งกนั แตล ะประเภท
การระวงั ปอ งกันภัยแตล ะประเภททอ่ี าจเกดิ ข้นึ กับบคุ คลสําคัญนนั้ ไดแก การประทุษรา ยดว ย
๒๐
วาจา ดวยการชกตอย อาวุธประจํากาย อาวุธประทับบา และดวยวัตถุระเบิด การประทุษรายแตละ
ประเภทเหลานี้ จะมีมาตรการตอบโตแตกตางกันไปตามสภาพการณ แตท่ีสําคัญเจาหนาที่รักษาความ
ปลอดภัยบุคคลสําคัญไมมีหนาท่ีตองเขาตอสูกับคนราย นอกจากจะกระทําเพ่ือระวังปองกันใหเกิดความ
ปลอดภัยแกบุคคลสําคัญและนําบุคคลสําคัญออกจากพื้นท่ีอันตรายโดยเร็วท่ีสุด ตามแผนเผชิญเหตุท่ี
เตรียมไว และในกรณีท่ีคนรายเขาประชิดตัวบุคคลสําคัญมาก ชุดติดตามจะใหเจาหนาที่ท่ีอยูใกลคนราย
มากที่สุดเขาขัดขวางคนรายดวยความสามารถท่ีมีอยู เจาหนาท่ีท่ีเหลือนําบุคคลสําคัญออกจากพ้ืนที่
อนั ตราย โดยมแี นวทางปฏบิ ัตกิ ารระวังปอ งกนั มดี งั น้ี
๓.๑ ภยั ดว ยวาจา เจาหนาท่ีจะตองไมโตเถียงและอยาปลอยใหบุคคลสําคัญดําเนินการใด ๆ
ตอ ผูกลา ววาจา เมือ่ จาํ เปนใหก ันตวั บคุ คลสําคัญออกไปจากสถานทีน่ น้ั
๓.๒ ภัยจากการชกตอย ใหเจาหนาที่ที่อยูใกลคนรายหรืออยูในทิศทางที่คนรายวิ่งเขามา
ปะทะกับคนรายดวยการตอสูดวยมือเปลา เพ่ือปองกันมิใหเขาถึงบุคคลสําคัญ เจาหนาที่ท่ีเหลือนําบุคคล
สําคัญออกหา งจากพ้ืนที่น้นั และเมื่อมกี ารขวา งปาสิง่ ของใสบ ุคคลสําคัญใหเจาหนา ทใ่ี ชรา งกายเขาบงั
๓.๓ ภัยจากอาวุธประจํากาย ใหเจาหนาที่รักษาความปลอดภัยใชรางกายเขาขวางระหวาง
บุคคลสาํ คัญกบั คนรายแลว ทําการตอสูด วยวธิ กี ารตา ง ๆ โดยมใิ หเ สียการกําบัง เจาหนาท่ีท่ีเหลือพาบุคคล
สําคญั ออกจากพ้นื ท่ที นั ที
๓.๔ ภัยจากอาวธุ ประทับบา ปฏบิ ัติเชน เดียวกับภัยจากอาวธุ ประจํากาย
๓.๕ ภัยจากวัตถุระเบิด ใหเจาหนาท่ีรักษาความปลอดภัยเขาบังบุคคลสําคัญ แลวจับบุคคล
สําคัญนอนราบลงพบั พ้ืนพรอมใชรางกายของตนครอ มบุคคลสําคญั จากนนั้ นาํ บคุ คลสาํ คญั ออกจากพ้ืนที่
ตอนที่ ๒ การรกั ษาความปลอดภยั บุคคลสาํ คัญทางบก
๑. หลกั การรักษาความปลอดภัยในขณะเดินทางดวยเทา มีขอพิจารณาในการวางตัวและจํานวน
เจา หนา ที่รกั ษาความปลอดภยั บคุ คลสําคัญ ในขณะเดินเทา ดังนี้
๑.๑ ขา วสารทมี่ ีผลกระทบทอ่ี าจเกดิ ขนึ้ กบั บุคคลสาํ คญั
๑.๒ ประเภทของพธิ กี ารท่บี ุคคลสําคัญตอ งไปรวมงาน
๑.๓ ความตองการในการรกั ษาความปลอดภัยบุคคลสําคัญ
๑.๔ ลกั ษณะการวางตวั ใหเขากบั พิธกี ารหรอื สถานการณน้นั
๑.๕ การใชรา งกายของเจาหนาท่เี ปนเกราะคุม กันใหกับบุคคลสาํ คญั
๑.๖ การรักษาภาพพจนข องเจาหนาท่รี กั ษาความปลอดภยั
๑.๗ การสังเกตการณและเตรีมพรอมทางดานจิตใจของเจาหนาท่ีรักษาความปลอดภัย
รูปแบบการวางตัวเจาหนาท่ีรักษาความปลอดภัย ตองนํามาดัดแปลงใหเขากับ
สถานการณ
๒๑
แมจะใชร ปู แบบทไี่ ดรบั การฝก ฝนมาเปน มาตรฐานในการปฏิบัติ แตในขณะเดียวกันก็จะตองสามารถปรับ
ตําแหนงของเจาหนาที่ไดเมื่อมีความจําเปน โดยถือหลักเพื่อใหบุคคลสําคัญมีความปลอดภัยสูงสุดเมื่อเกิด
เหตุฉุกเฉิน หัวหนาชุดติดตามจะตองนําบุคคลสําคัญออกใหพนจากพื้นที่อันตราย และนําไปยังสถานที่
ปลอดภัย ซ่ึงไดจัดทําไวในแผน ซ่ึงในการปฏิบัตินี้หัวหนาชุดติดตามจะตองทราบรายละเอียดของพื้นที่
ปฏบิ ตั กิ ารจากชดุ สาํ รวจลวงหนา และในระหวา งเดนิ ทางใกลจ ะถึงที่หมายจะตองตดิ ตอ กับชดุ สว นลว งหนา
เพอื่ ทราบสถานการณใ นพื้นทอี่ ยางตอ เน่ือง
พ้ืนท่ีรับผิดชอบของเจาหนาที่รักษาความปลอดภัย ในรูปขบวนเดินนี้จะถือเปน ๓๖๐ องศา
ตลอดเวลาสําหรับทิศทางที่บุคคลสําคัญเดิน จะถือเปนทิศ ๑๒ นาฬิกาเสมอ และขณะอยูในรูปขบวนเดิน
ถาเจาหนาทค่ี นใดคนหนง่ึ ตองออกไปจากรูปขบวนเดนิ ตําแหนงของเจา หนา ท่ตี องมีการเปลยี่ นแปลงทนั ที
เพื่อใหการรักษาความปลอดภัยมีประสทิ ธิภาพสูงสดุ กลา วโดยสรุปก็คอื รูปขบวนตอ งมกี ารออ นตวั ได
๒. รปู แบบการวางกาํ ลังเจา หนา ที่รกั ษาความปลอดภัย (Agent Composition within Protective
Formations)
๒.๑ เจาหนา ท่ี ๑ คน
ใชในกรณีเดียว คือ ในโอกาสท่ีบุคคลสําคัญอยูในพื้นที่ปลอดภัย และใชเม่ือเดินจาก
หองหน่ึงไปยังอีกหองหนึ่งในที่พักหรือในพ้ืนที่อ่ืนที่มีการรักษาความปลอดภัยทัดเทียมกับในที่พัก โดยมี
หน.ชุดตดิ ตามรับผิดชอบพืน้ ที่ ๓๖๐ องศา
เจา หนา ท่ี ๑ คน (One Agent)
ADV หัวหนา ชดุ สว นลว งหนา
P บุคคลสําคญั
DL หัวหนา ชดุ ตดิ ตาม
๒๒
๒.๒ เจาหนาที่ ๒ คน (Two Agent)
ปกตใิ ชในโอกาสที่อยูภายในอาคารทม่ี กี ารรกั ษาความปลอดภยั เชน ท่ีพักช่ัวคราวหรือ
การไปปรากฏตวั ในทร่ี บั แขกสวนตัว ประกอบดวย
๒.๒.๑ หวั หนา ชุดติดตาม (Detail Leader) DL
๒.๒.๒ รองหัวหนา ชุดตดิ ตาม (Shift Leader) SL
เจาหนาที่ ๒ คน (Two Agent)
ADV หัวหนาชุดสวนลว งหนา
P บคุ คลสาํ คญั
รองหัวหนา ชดุ ตดิ ตาม SL DL หวั หนาชุดตดิ ตาม
๒.๓ เจา หนา ท่ี ๓ คน (Three Agent) ประกอบดวย
๒.๓.๑ หัวหนา ชดุ ติดตาม (Detail Leader) DL
๒.๓.๒ รองหวั หนา ชุดติดตาม (Shift Leader) SL
๒.๓.๓ เจา หนา ทป่ี ฏบิ ตั กิ าร (Left Rear) LR
รูปขบวนน้แี บงออกเปน ๒ แบบ คอื
แบบท่ี ๑ ลิ่มแหลมหนา ใชรักษาความปลอดภัยในพ้ืนที่ซึ่งประชาชนไมหนาแนน และใช
ในกรณีไมเปนทางการเชน ไปชมภาพยนตร ฟงเพลง และอื่น ๆ เปนการจัดกําลังขนาดเล็กท่ีสุดในขณะ
ออกนอกสถานที่ ท่ีมีการรกั ษาความปลอดภยั ท่ดี ี
แบบท่ี ๒ ล่มิ แหลมหลงั ใชใ นโอกาสที่รบั แขกหรือปราศรยั
๒๓
เจา หนาท่ี ๓ คน (Three Agent)
แบบที่ ๑ ลิ่มแหลมหนา
ADV หวั หนา ชดุ สวนลวงหนา
รองหวั หนาชดุ ติดตาม SL
P บคุ คลสาํ คัญ
เจาหนา ท่ปี ฏิบัติการ SL DL หวั หนาชดุ ตดิ ตาม
เจา หนาที่ ๓ คน (Three Agent)
แบบที่ ๑ ล่มิ แหลมหลงั
ADV หวั หนา ชดุ สวนลว งหนา
P บคุ คลสําคัญ
เจาหนาทป่ี ฏบิ ัติการ SL DL หวั หนาชุดติดตาม
รองหัวหนาชดุ ติดตาม SL
๒.๔ เจาหนาท่ี ๔ คน (Four Agents) ประกอบดว ย
๒.๔.๑ หัวหนาชดุ ตดิ ตาม (Detail Leader) DL
๒.๔.๒ รองหัวหนา ชุดตดิ ตาม (Shift Leader) SL
๒.๔.๓ เจา หนา ทีป่ ฏบิ ัตกิ าร (Right Rear) RR
๒.๔.๔ เจา หนาท่ปี ฏิบตั ิการ (Left Rear) LR
๒๔
รูปขบวนนแ้ี บงออกเปน ๒ รปู แบบ คือ
แบบที่ ๑ แบบสี่เหล่ียมขนมเปยกปูน (Diamond Formation) เปนรูปขบวนการ
วางกาํ ลังทใี่ หก ารรักษาความปลอดภัยบุคคลสาํ คัญไดเ ปน อยางดี กรณีเมอื่ จําเปนตองผานฝงู ชนจํานวนมาก
หรือการใหสัมภาษณส่ือมวลชนและตองการคุมกันอยางหนาแนน ซึ่งสามารถปองกันไดทุกทิศทาง แต
บคุ คลสาํ คัญสว นมากมักไมช อบรูปแบบการวางกาํ ลังแบบน้ีเน่อื งจากไมไดส มั ผัสกบั ประชาชนอยา งใกลช ิด
เจา หนา ท่ี ๔ คน (Four Agent)
แบบท่ี ๑ แบบส่เี หล่ียมขนมเปย กปนู (Diamond Formation)
ADV หัวหนาชดุ สวนลวงหนา
RR
เจา หนาทป่ี ฏบิ ัติการ
P บุคคลสําคัญ
เจา หนาท่ีปฏบิ ตั ิการ LR DL หัวหนา ชดุ ตดิ ตาม
รองหวั หนา ชดุ ติดตาม SL
แบบที่ ๒ แบบกลองส่ีเหลี่ยม (Box Formation) การวางกําลงั แบบนจ้ี ะใชส ถานการณท ่ี
บุคคลสําคัญเดนิ ทางในที่โลง และประชาชนถกู กนั ใหห างออกไปเจา หนาท่ีรักษาความปลอดภัยจะมี ๒ นาย
ยืนใกลตัวบุคคลสําคัญเพื่อสามารถชวยเหลือไดทันทีเม่ือเกิดเหตุฉุกเฉิน ขอเสียอยูท่ีความปลอดภัยดานหลัง
บุคคลสาํ คัญจะมนี อ ยลง และโอกาสท่ีจะสังเกตเหน็ ภัยลวงหนา มนี อย การวางกําลังแบบนี้บุคคลสําคัญมัก
ชอบใชเ พราะไมม เี จา หนาทเี่ ดินบังหนา บังหลัง ซ่ึงจะสะดวกในการแสดงความเปน กันเองกบั ประชาชน
เจาหนา ท่ี ๔ คน (Four Agent)
แบบที่ ๑ แบบกลอ งส่เี หล่ยี ม (Box Formation)
เจาหนาที่ปฏบิ ัตกิ าร LR ADV หัวหนา ชดุ สว นลวงหนา
P RR เจาหนาท่ปี ฏบิ ตั กิ าร
บุคคลสาํ คัญ
รองหวั หนา ชดุ ตดิ ตาม SL DL หวั หนาชดุ ตดิ ตาม
๒๕
๒.๕ เจาหนา ที่ ๕ คน (Pentagon Agents) ประกอบดว ย
๒.๕.๑ หวั หนา ชดุ ติดตาม (Detail Leader) DL
๒.๕.๒ รองหัวหนาชดุ ติดตาม (Shift Leader) SL
๒.๕.๓ เจาหนา ที่ปฏบิ ตั กิ าร (Right Rear) RR
๒.๕.๔ เจาหนา ทปี่ ฏิบตั ิการ (Left Rear) LR
๒.๕.๕ เจาหนา ทปี่ ฏบิ ัติการ (Agent) A
เจาหนา ท่ี ๕ คน (Pentagon Agents)
เจาหนาทป่ี ฏิบัตกิ าร LR ADV หัวหนา ชุดสวนลวงหนา
รองหวั หนาชุดติดตาม SL
LR เจาหนา ทป่ี ฏิบตั กิ าร
RR เจา หนา ทป่ี ฏบิ ตั กิ าร
P บคุ คลสําคญั
DL หัวหนาชุดตดิ ตาม
๒.๖ เจา หนาที่ ๕ คน (Pentagon Agents) ประกอบดวย
๒.๖.๑ หวั หนา ชดุ ติดตาม (Detail Leader) DL
๒.๖.๒ รองหวั หนา ชุดติดตาม (Shift Leader) SL
๒.๖.๓ เจา หนา ท่ีปฏบิ ตั กิ าร (Right Rear) RR
๒.๖.๔ เจาหนาทีป่ ฏบิ ัตกิ าร (Left Rear) LR
๒.๖.๕ เจา หนาที่ปฏิบตั ิการ (Agent) A
๒.๖.๖ เจา หนาที่ปฏบิ ัติการ (Agent) A
รูปขบวนนี้ใชในกรณีที่มีฝูงชนหนาแนนมาก หรือบางคร้ังจําเปนตองพาบุคคลสําคัญฝาวง
ลอ มของฝงู ชน ซึง่ สามารถทําวงลอมเพอ่ื ปอ งกันบุคคลสําคัญ โดยปรับรูปขบวนวงลอมใหเล็กลงจนเกือบ
ชิดกัน แลวใชมือซายจับเข็มขัดหรือจับมือในลักษณะมัดขาวตม พาบุคคลสําคัญไปยังท่ีหมาย โดย
หัวหนาชดุ ตดิ ตามเปนผกู ําหนดทศิ ทาง
๒๖
เจา หนา ท่ี ๖ คน (Hexagon Agents)
เจาหนา ท่ปี ฏิบัติการ LR ADV หวั หนา ชดุ สวนลวงหนา
รองหวั หนาชุดตดิ ตาม SL
A เจา หนา ท่ีปฏิบัตกิ าร
RR เจาหนา ที่ปฏบิ ัตกิ าร
P บคุ คลสําคญั
DL หวั หนาชดุ ตดิ ตาม
A เจาหนาทป่ี ฏบิ ตั กิ าร
๓. การรกั ษาความปลอดภยั ขณะเดินทางดว ยรถยนตแ ละขบวนรถยนต
การเลือกใชรถยนตในการรักษาความปลอดภัยนั้น ยานพาหนะทุกคันตองอยูในสภาพดีเลิศ
และควรจะไดมีการตรวจตราเปนประจํา เพื่อกําจัดขอบกพรองตาง ๆ ที่เกิดขึ้น รถเจาหนาที่รักษาความ
ปลอดภัย ควรจะตามหลังรถบุคคลสําคัญใหใกลท่ีสุด โดยคํานึงถึงความปลอดภัยเปนหลัก รถนําขบวน
ควรอยูหางจากรถบุคคลสําคัญพอสมควร เพื่อสังเกตเห็นอันตรายและรายงานสภาพผิดปกติตาง ๆ ได
ทันเวลา รถยนตสํารองเปนสิ่งจําเปนเพ่ือใหสามารถใชไดทันทวงทีหากมีเหตุการณฉุกเฉิน รถทุกคันใน
ขบวนตองมีเครื่องมือส่ือสารสามารถติดตอกันไดตลอดเวลา กรณีมีเหตุซึ่งจําเปนตองใหการรักษาความ
ปลอดภัยอยางเต็มท่ี อาจใชยานพาหนะลวงหนึ่งหรือสองคัน โดยมีบุคคลซึ่งมีรูปรางหนาตาคลายบุคคล
สําคัญรวมขบวนไปดวย เมื่อบุคคลสําคัญไมไดอยูในรถยนต พลขับรถบุคคลสําคัญ และพลขับรถติดตาม
ควรทําการตรวจการณ ระมัดระวังขบวนรถของบุคคลสําคัญ ไมควรนั่งพักอยูในรถของตน ควรอยูใกล ๆ
ในสภาพเตรียมพรอมท่ีจะออกรถไดตลอด ตองประสานงานกับพลขับรถคันอ่ืน ๆ ในขบวนในลักษณะ
ทาํ งานเปนทีม ควรมกี ระจกเลก็ ๆ ไวสอ งดใู ตทอ งรถของบุคคลสําคัญ เพราะอาจะมีการลอบนําระเบิดมา
วางไวใตทอ งรถได
๒๗
.
๒๘
รถตรวจเสนทาง (Pilot Car)
- ตรวจและรายงานสภาพเสน ทางจราจรลว งหนาขบวนรถ ๒ - ๕ นาที
- ควรมีเจา หนาท่ีรกั ษาความปลอดภยั ๑ คน ประจําอยู
- อาจอยูหางจากตน ขบวนตัง้ แต ๑๐๐ เมตร ถึง ๑ กโิ ลเมตร
รถจักรยานยนต (Motorcycle)
- ใชส าํ หรบั กนั รถอ่ืนทอ่ี าจเขามาในเสนทาง
- ใชก นั้ การจราจรตามทางแยก
- ใชนําหนา ขบวนรถ เพอ่ื เปน เกียรติแกบ คุ คลสาํ คญั
รถนาํ ขบวน (Lead Car)
- ใชเ พอื่ ควบคมุ จราจร และนาํ ขบวนเขา ที่หมาย
- อาจใชรถตํารวจทางหลวง เน่ืองจากสามารถสั่งการแกตํารวจทองที่ตามเสนทางที่ผาน โดยผู
ควบคมุ ขบวนอาจอยูในรถคนั น้ี
รถบคุ คลสาํ คญั (Limousine)
- ควรเปนรถทีม่ ีสมรรถนะดีทสี่ ดุ
- ตองตรวจสอบสภาพกอ นนาํ ไปใชงาน
- ภายในรถประกอบดวย พลขับ หวั หนา ชุดตดิ ตาม และบุคคลสาํ คญั
รถติดตาม (Follow Car)
- อาจจะมี ๒-๓ คัน แลว แตส ถานการณ
- เจา หนา ท่รี ักษาความปลอดภัยจะอยใู นรถเหลา นที้ ั้งหมด
- ทาํ หนา ท่เี ปน รถกีดขวาง สกัดกัน้ ใหกบั รถบคุ คลสําคญั เพอื่ ไมใหร ถคันอืน่ เขา ใกลหรือตอทา ย
- ในรถตองมีอุปกรณพิเศษ เชน หนากากปองกันไอพิษ เครื่องปฐมพยาบาล เครื่องชวยหายใจ
เสือ้ เกราะกันกระสุน หรอื ปน กล
รถคณะเจาหนาที่ (Staff Car) เปน รถของคณะเจาหนาท่ีทาํ งาน หรือ คณะตดิ ตามของบคุ คลสําคญั
รถพยาบาล (Ambulance) จะอยูในขบวนรถ กรณีท่ีบุคคลสําคัญมีขาวสารขั้นตนเก่ียวกับโรคประจําตัว
ภายในรถจะมี แพทย พยาบาล และ อปุ กรณปฐมพยาบาลครบถว น
รถสาํ รอง (Reserve Car) เปน รถที่จดั ไวสํารองกรณีรถบคุ คลสําคญั เกดิ เหตฉุ ุกเฉิน หรอื ขดั ของ
รถปดทายขบวน (Tail Car) มีหนาที่ระวังปองกันรถคันอื่นแซงขบวน หรือ ตัดขบวน รายงานขาวสาร
ของขบวนใหผ คู วบคมุ ขบวนรถทราบ
๒๙
๓๐
๓.๓ ความรับผดิ ชอบของพลขบั และเทคนิคการขบั รถ
๓.๓.๑ เมื่อรถบคุ คลสาํ คญั จะเลี้ยว ใหเคล่ือนรถชิดขอบดานในของถนน เพ่ือเปดชอง
ใหรถตดิ ตามเขา มาชว ยก้ันเสนทางให
๓.๓.๒ พลขบั รถบุคคลสําคญั ตองถอื เสมอื นวารถตดิ ตามเปน รถคันเดียวกนั ในเวลาที่
จะเขา จอด หรอื ผา นจดุ ทนี่ าจะเปน อันตราย ตอ งมที ี่วา งสาํ หรับรถ ๒ คันเสมอ
๓.๓.๓ พลขับรถติดตาม ตองกําหนดจุดจอดรถท่ีสามารถปองกันใหกับรถของบุคคล
สําคัญได แมในขณะท่ีกําลังจะออกเดินทางหรือขณะใกลจะถึงที่หมาย ปกติจะจอดรถใกลกับรถบุคคล
สาํ คัญ แตจ ะไมอ ยใู นแนวเดียวกบั ขบวนรถ เพอ่ื สามารถจะเคลอื่ นทอ่ี อกไดต ลอดเวลา
๓.๓.๔ ใชเทคนิคการขับรถติดตามคอยกันรถตาง ๆ ท่ีจะเขาใกลรถบุคคลสําคัญ โดย
ขับเย้ืองไปทางดานขวาหรือดานซายในลักษณะครอมชองทาง ทั้งนี้ระวังรถขนาดเล็กที่สามารถจะผานเขา
มาประชดิ รถบุคคลสําคัญได
๓.๓.๕ การปฏิบัตเิ ม่อื ขบวนรถหยุดทามกลางจราจร
- รถบุคคลสําคัญ เม่ือหยุดตองมีที่วางดานหนาเพ่ือเล้ียวออกได และตองไม
หยดุ คูขนานกับรถคนั อนื่ ในลักษณะประตูตรงประตู
- รถติดตาม จอดหลังรถบุคคลสําคัญไปทางซาย เพ่ือขวางไมใหรถท่ีมา
ดา นหลังขบั ขน้ึ มาคกู ับรถบุคคลสําคัญ และการจอดตอ งใหม ีทวี่ างพอทจ่ี ะเคลอื่ นทไ่ี ดเ มอ่ื เกิดเหตุฉุกเฉนิ
- รถติดตาม จะตองใหความสนใจเปนพิเศษ กับรถท่ีมาจอดขนานกับรถ
บุคคลสําคัญ
ภาพการปฏิบตั ใิ นการขบั รถติดตาม
รูปขบวนแบบพน้ื ฐาน (The Basic Configuration)
๓๑
….
………
๓๔
๓.๔ การชกั ลอม (Running The Fenders)
เปน มาตรการหน่ึงในการปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยบุคคลสําคัญ ขณะท่ีขบวนรถ
บุคคลสําคัญเคลื่อนท่ีดวยความเร็วต่ําอยางชา ๆ ในหมูฝูงชนท่ีคอนขางมากหรือหนาแนน การปฏิบัติ
กระทําไดด งั น้ี
๓.๔.๑ ใชเจาหนาท่ีรักษาความปลอดภัยในรถติดตามดําเนินการ โดยจะใชเจาหนาท่ี
หลงั ซา ยและหลงั ขวาวง่ิ ไปทปี่ ระตดู า นหลงั ทง้ั สองขางของรถบุคคลสําคัญ เพ่ือใหก ารตรวจการณและคมุ ภัย
๓.๔.๒ เมื่อฝูงชนหนาแนนและเขาใกลรถบุคคลสําคัญ จะเพิ่มเจาหนาท่ีอีก ๒ คน คือ
รอง หน.ชุดติดตาม กับเจาหนาที่ที่เหลือ โดยรอง หน.ชุดติดตามจะเขาไปแทนเจาหนาที่ในตําแหนงประตู
ดา นซาย และเจา หนาที่ผูน้นั จะเลื่อนไปอยูบรเิ วณลอ หนาซาย ทางดา นขวาก็ปฏิบัติเชน เดียวกนั
๓.๔.๓ ในการถอนตัวขึ้นรถจะใชชะลอความเร็วในการเดิน เมื่อรถติดตามข้ึนมาทัน
ก็จะขนึ้ รถ โดยจะไมมกี ารวงิ่ กลบั มาข้ึนรถ
๓.๕ การเคลอื่ นยา ยบุคคลสําคัญจากขบวนรถโดยไมมีภัยคกุ คาม
ในกรณีที่รถบุคคลสําคัญไมสามารถเคล่ือนที่ไปได เนื่องจากการขัดของของระบบ
เคร่ืองยนต เจาหนาท่ีรักษาความปลอดภัยมีวิธีการท่ีจะนําบุคคลสําคัญลงจากรถคันท่ีขัดของเคลื่อนยายไป
ยงั รถสํารองหรือรถติดตามไดอยา งปลอดภยั โดยมีการปฏบิ ัตดิ ังน้ี
๓.๕.๑ หัวหนาชุดติดตาม แจงใหรองหัวหนาชุดในรถติดตามทราบวาจะมีการ
เคล่ือนยายบุคคลสาํ คัญไปยังรถสาํ รอง
๓.๕.๒ รถทั้งสองเคล่ือนไปยังจุดท่ีปลอดภัย รถสํารองอยูทางดานซาย รถบุคคล
สําคัญอยูท างดานขวาจอดเทยี บกัน โดยรถติดตามอยูดา นหลังก่งึ กลางรถทง้ั สองและเปด ประตูกําบงั ไว
๓.๕.๓ หัวหนาชุดติดตามลงจากรถ เพื่อนําบุคคลสําคัญที่การเคล่ือนยายไปยังรถ
สาํ รอง โดยใชป ระตูรถของท้งั สองคันเปนทีก่ าํ บัง เจา หนา ที่รถติดตามคมุ กันรอบรถท้งั สอง
๓๕
๓.๕.๔ บคุ คลสาํ คญั เขา ที่นั่งเรียบรอย หัวหนาชุดติดตามเขาน่ังตําแหนงเดิม เจาหนาท่ี
ชดุ ตดิ ตามกลับเขา รถติดตามเคล่อื นทเ่ี ขา รปู ขบวน พลขับรถบคุ คลสําคญั และเจาหนา ท่ีรักษาความปลอดภัย
ประจําอยูกบั รถที่เสยี เพือ่ ดําเนนิ การตอ ไป
๓.๖ การเคลอื่ นยายบุคคลสําคญั จากขบวนรถเมื่อถกู โจมตี
กรณีขบวนรถบุคคลสําคัญถูกโจมตี ไมสามารถจะเคล่ือนท่ีไปได หัวหนาชุดติดตาม
จะเปน ผูสงั่ การใหทําการเคล่อื นยายบคุ คลสาํ คัญไปยงั รถของเจาหนาทต่ี ดิ ตาม โดยกระทําดังนี้
๓.๖.๑ เม่ือมีรถขวางหนาทําใหรถบุคคลสําคัญไมสามารถเคล่ือนทีไปได จะใชรถ
ติดตามดันรถบุคคลสาํ คญั ซึง่ อาจจะชนส่งิ กีดขวางเพ่อื เปดเสน ทาง
๓.๖.๒ หลังจากพนพื้นที่อันตรายแลว พลขับรถติดตามนํารถข้ึนไปเทียบรถบุคคล
สําคญั ในทิศทางตรงขา มกับทศิ ทางท่ถี กู โจมตี
๓.๖.๓ รองหัวหนาชุด พรอมเจาหนาที่หลังซายลงจากรถเขายิงตอสูกับผูกอการราย
เพอื่ คมุ กนั การเคลอื่ นยาย เจา หนาทห่ี ลงั ขวาและทเี่ หลอื เขา คุมกันระวังปองกันดา นตรงขา ม
๓.๖.๔ หัวหนาชุดปนขามเบาะหนามาเบาะหลัง พาบุคคลสําคัญขึ้นรถติดตาม
รองหวั หนา ชดุ ถอนตวั ขน้ึ รถตดิ ตาม แลว รบี เคลอ่ื นท่ีพาไปยงั พนื้ ทีป่ ลอดภยั โดยเรว็ โดยมีพลขบั รถ
๓๖
บคุ คลสาํ คญั และเจาหนา ที่ทเ่ี หลืออยูก บั รถบคุ คลสําคัญดําเนนิ การยงิ คมุ กนั ให
๓.๗ การปฏิบัตกิ ารรักษาความปลอดภัยขณะขบวนเขา ท่หี มาย
ในขณะท่ีขบวนรถบุคคลสําคัญกําลังจะเขาที่หมาย จะตองประสานการติดตอกับชุด
สวนลวงหนา โดยขอทราบข้ันตอนการปฏิบัติตาง ๆ ของบุคคลสําคัญ โดยหัวหนาชุดสวนลวงหนาจะ
รายงานใหหัวหนา ชุดติดตามทราบในเรอ่ื งกําหนดการที่บุคคลสาํ คญั ตอ งปฏบิ ตั ิ จํานวนผูม าใหการตอนรับ
มีการมอบสิ่งของอะไรบาง จํานวนเทาใด มีลักษณะพิเศษอยางไร จํานวนประชาชนท่ีใหการตอนรับ
สื่อมวลชน มีการขอสัมภาษณห รอื ไม ถามเี กีย่ วกับเร่อื งอะไร รวมขา วสารอ่ืน ๆท่จี ําเปน
พลขับรถบุคคลสําคัญชะลอความเร็ว เพ่ือใหเจาหนาท่ีในรถติดตามลงจากรถทําการ
ชักลอม เขาสังเกตการณและคุมกัน ในขณะที่การจอดรถจะจอดตรงจุดที่หัวหนาชุดสวนลวงหนายืนให
สัญญาณการจอด
พลขับรถติดตามจะจอดรถใกลกับรถบุคคลสําคัญ แตจะไมอยูในขบวน เพ่ือให
สามารถพรอมจะเคลอื่ นท่อี อกไดต ลอดเวลา
บุคคลสําคัญลงจากรถ เจาหนาท่ีชุดติดตามทั้งหมดเขามาเดินอยูในรูปขบวนการวาง
กําลังนําบุคคลสําคัญเขาที่หมาย ณ ขณะน้ีประตูรถบุคคลสําคัญยังเปดอยู ถาเกิดเหตุการณข้ึนชุดติดตาม
จะพาบุคคลสาํ คัญกลบั ขน้ึ รถและออกจากพืน้ ที่นัน้ ทนั ที
๓๗
การปฏิบตั กิ ารรักษาความปลอดภยั ขณะขบวนรถเขา ท่หี มาย
๓.๘ การปฏบิ ตั กิ ารรักษาความปลอดภยั ขณะขบวนรถออกจากทห่ี มาย
ขณะบุคคลสําคัญจะออกจากที่หมายมาขึ้นรถน้ัน จะตองเขมงวดเปนพิเศษ เพราะเปน
ชว งท่ีลอแหลมตอ อนั ตรายมากที่สุด การปฏบิ ตั ิจะคลา ยกันกบั การรักษาความปลอดภัยขณะเขา ท่ีหมายคอื
หัวหนาชุดติดตามจะแจงใหขบวนรถทราบ หัวหนาชุดรักษาความปลอดภัยประจํา
สถานที่ (Site Agent) จะรออยูท่ีขบวนรถและจะเปนผูเปดประตูใหบุคคลสําคัญ โดยมีชุดรักษาความ
ปลอดภัยประจําสถานท่ีเขาชักลอมรถบุคคลสําคัญไประยะหนึ่งจนกวาจะพนฝูงชนท่ีหนาแนน หากไมมี
ชุดรักษาความปลอดภัยประจําสถานท่ี หัวหนาชุดติดตามจะเปนผูเปดประตูรถใหบุคคลสําคัญ และชุด
ตดิ ตามจะดาํ เนนิ การชักลอมรถบุคคลสาํ คัญแทน
๓๘
การปฏบิ ตั ิการรักษาความปลอดภัยขณะขบวนรถออกจากท่ีหมาย
ตอนที่ ๓ การักษาความปลอดภัยบุคคลสําคญั ทางน้าํ
๑. กลา วนาํ
ในบางโอกาสบุคคลสําคัญอาจจะตองเดินทางโดยเรือเพื่อปฏิบัติภารกิจหรือเพื่อทัศนศึกษา
และชวทิวทศั นจ ึงมคี วามจาํ เปน อยางยง่ิ ทจ่ี ะตองจัดขบวนเรือคุม กัน เพื่อใหการรักษาความปลอดภัยทางน้ํา
แกบุคคลสาํ คัญดังกลาว โดยทัว่ ไปการจัดรูปขบวนเรอื คมุ กนั จะแบงออกเปน ๒ ระดับคือ คือ บุคคลสําคัญ
ระดับพระราชอาคันตุกะ หรือบุคคลสําคัญระดับแขกของรัฐบาล และบุคคลสําคัญระดับแขกของ ทร. ซึ่ง
แนวทางการจดั รปู ขบวนเรอื จะไมแตกตางกนั มากนกั จํานวนเรือคุมกนั อาจปรบั แตงไดต ามความเหมาะสม
๓๙
รูปขบวนเรอื ในการรกั ษาความปลอดภัยบคุ คลสําคญั
๒. รปู ขบวนเรือในการรักษาความปลอดภยั บุคคลสําคญั
๒.๑ เรอื กรุย มีหนา ที่
๒.๑.๑ ปฏิบัติหนาทแ่ี จงเตอื นเรอื ลําอื่นเพือ่ เปดทางใหข บวน
๒.๑.๒ กนั เรือลําอ่ืนใหพน จากเสน ทางทีข่ บวนเรือจะผาน
๒.๒.๓ เปนเรอื ลว งหนาโดยมีระยะตอจากเรือนําขบวน ๑๐๐ – ๓๐๐ เมตร
๒.๒.๔ ปกติตามลําน้ํามักจะมอบหมายใหก รมเจา ที่เปน ผูจ ดั เรือกรุย
๔๐
๒.๒ เรอื นาํ ขบวน มหี นาที่
๒.๒.๑ เปนเรือคุมกนั ดานหนา เรอื บคุ คลสําคญั
๒.๒.๒ ระมัดระวงั มใิ หเรอื ลาํ อน่ื แลนตดั หนาเรอื บุคคลสาํ คญั
๒.๒.๓ มรี ะยะตอจากเรอื บุคคลสําคญั ประมาณ ๑๐๐ - ๒๐๐ เมตร
๒.๒.๔ ปกตกิ องทพั เรือจะจดั เรือตรวจการณชายฝง (ตกช.) เปน เรอื นําขบวน
๒.๓ เรอื บคุ คลสําคญั
๒.๓.๑ จดั เปน เรือสาํ หรับบคุ คลสําคญั และคณะ อาจเปนเรือยนตห ลวงจากกองทัพเรือ
หรือเรือพาณชิ ยที่ไวเ ฉพาะ
๒.๓.๒ ตองมีการตรวจสอบมาตรการรักษาความปลอดภยั โดยพจิ ารณาถึง
๒.๓.๒.๑ ชนิด ขนาด และความสามารถของเรือในการท่ีตอตานตอสภาพ
ลมฟา อากาศและคล่นื ลม
๒.๓.๒.๒ มีการตรวจสภาพเรืออยางละเอียด โดยรวมกับผูรับผิดชอบทาง
เรือลําน้นั และทดลองขับ
๒.๓.๒.๓ ตรวจสอบขั้นตนวา มีบุคคลที่ไมมีหนาท่ีหรือมีวัตถุหีบหอแอบ
ซอ นไปในเรือหรือไม
๒.๓.๒.๔ ใชมนุษยกบหรือประดาน้ําตรวจใตทองเรือ เพื่อหาเคร่ืองมือกอ
วนิ าศกรรม
๒.๓.๒.๕ หัวหนาคนครัวนําตรวจอาหาร หองเย็นเก็บอาหาร ครัว และ
หองอาหาร
๒.๓.๒.๖ ทดลองเคร่อื งมือสือ่ สาร
๒.๓.๒.๗ ตรวจสอบเครอ่ื งชวยชีวิตยามฉกุ เฉินมเี พยี งพอและใชการได
๒.๓.๒.๘ ตรวจสอบเครอ่ื งมือดับเพลิงทุกชนิด เคยมีการซอมเม่ือเกิดอัคคีภัย
บนเรือหรือไม
๒.๓.๒.๙ ถาเปนเรือใหญค วรมีลานสําหรบั จอด ฮ. ลงจอดไดด วย
๒.๓.๒.๑๐ เจาหนาท่ีรักษาความปลอดภัยตองคอยสังเกตดูเรือลําอื่น ๆ ท่ีจะ
เขา มาเทยี บกับเรอื บุคคลสําคัญ
๒.๔ เรือคุม กัน มหี นา ท่ี
๒.๔.๑ เปนเรือคุมกันกราบ ขวา-ซาย มีระยะเคียงจากเรือบุคคลสําคัญประมาณ ๕๐–
๑๐๐ เมตร
๒.๔.๒ ปฏบิ ตั ิหนา ท่ีกันมิใหเ รือลาํ อ่ืนเขา ใกลเรอื บุคคลสําคัญ
๒.๔.๓ รักษาความปลอดภยั และระงบั เหตรุ ว มกับขบวนเรือคมุ กันเมือ่ เกิดสถานการณ
๔๑
ฉกุ เฉนิ โดยประสานการปฏบิ ัติกบั ผูอํานวยการรกั ษาความปลอดภยั บุคคลสาํ คญั
๒.๔.๔ ปกตจิ ะมอบหมายใหต าํ รวจนาํ้ จัดเรอื คุมกนั ซึ่งบางครั้งอาจมีความจําเปนตอง
จัดถึง ๔ ลํา โดยแบง ความรบั ผิดชอบในการคมุ กนั กราบละ ๒ ลํา โดยมเี รอื บุคคลสําคญั อยตู รงกลาง
๒.๕ เรือสํารอง เปน เรอื ทีจ่ ดั สํารองไวกรณเี รือบุคคลสําคัญเกิดเหตฉุ กุ เฉินหรอื ขดั ของ
๒.๖ เรือปดทายขบวน มีหนาที่ระวังปองกันเรือลําอื่นแซงขบวนหรือตัดขบวน รายงาน
ขาวสารของขบวนเรอื ใหผ ูอํานวยการรกั ษาความปลอดภยั ทราบ ปกตกิ องทพั เรือจะเปนผจู ดั
๒.๗ เรือแลนตรวจริมฝงมีหนาทีแ่ ลนตรวจริมฝงทั้งสองดา นเพื่อใหการรักษาความปลอดภัย
เปนการแลนตรวจโดยอิสระไมตองเขาขบวนเรือ แตใหแลนตรวจดวยความเร็วท่ีไมทําใหเกิดคล่ืนท่ีเปน
อนั ตรายแกเ รอื อน่ื ๆ ปกติกองทัพเรอื หรอื กรมเจา ท่จี ะเปน ผจู ัด
๓. การรกั ษาความปลอดภยั บรเิ วณทา เทียบเรือ
๓.๑ หนวยถอดทําลายอมภัณฑตราจคนวัตถุระเบิดรวมทั้งวัตถุไดแนวนํ้าที่อาจจเปน
อันตรายตอการนําเรือเขาเทียบ และออกจากทาบริเวณเทียบเรือและบนฝง แลวสงมอบพ้ืนที่ใหเจาหนาท่ี
สารวตั รทหารหรือตาํ รวจในทองทรี่ บั ผิดชอบกอนบุคคลสําคัญมาถงึ อยา งนอย ๑ ชม.
๓.๒ เจาหนาท่ีสารวัตรทหารหรือเจาหนาที่ตํารวจรักษาความปลอดภัย บริเวณทาเทียบเรือ
และบนเรอื บคุ คลสําคัญ หลังจากหนว ยถอดทาํ ลายอมภณั ฑไ ดตรวจคน วตั ถรุ ะเบิดเสร็จเรยี บรอยแลว และ
ยังคงรับผิดชอบบริเวณทาเทียบเรือไปจนกวาเรือบุคคลสําคัญจะเขาเทียบ และบุคคลสําคัญข้ึนฝงเรียบรอย
แลว
๓.๓ ชุดสวนลวงหนา ตรวจพ้ืนที่สูงขมบริเวณทาเทียบเรือ เพ่ือรักษาความปลอดภัยเปน
พิเศษระหวางบุคคลสําคัญขึ้นและลงจากเรือ โดยประสานการปฏิบัติกับเจาหนาท่ีรักษาความปลอดภัยใน
พ้ืนที่ โดยจัดคนเขาควบคุม นอกจากนี้ยังตองพิจารณาถึงดานการรักษาความปลอดภัยบนสะพาน ขณะท่ี
ขบวนเรอื บุคคลสําคญั ลอดผานใตส ะพานอีกดวย
๔. การรักษาความปลอดภัยเมอ่ื บุคคลสาํ คญั วายน้าํ
ในการวางกําลังเจาหนาที่รักษาความปลอดภัยขณะบุคคลสําคัญวายนํ้า หัวหนาชุดติดตาม
จะตองอยูใกลบคุ คลสาํ คญั ใหม ากที่สุด ในขณะท่ีชุดติดตามคนอื่น ๆ จะอยูบนชายหาดไปทางปกซาย-ขวา
และตรงกลาง นักวายนํ้าชวยชีวิตจะอยูบนเรือลอยลําอยูในระยะที่พอจะชวยเหลือได ทั้งนี้ขึ้นอยูกับ
สถานการณ
ตอนที่ ๔ การรกั ษาความปลอดภยั บุคคลสําคญั ทางอากาศ
ประเภทของเครอ่ื งบินทีจ่ ัดใหบุคคลสาํ คัญจะมอี ยู ๒ ประเภท คือ เคร่ืองบินของทางราชการ และ
เครอ่ื งบนิ พาณชิ ยท ว่ั ไป
๔๒
๑. เคร่อื งบินของทางราชการ
๑.๑ การควบคุมดานความปลอดภยั เครอ่ื งบิน จะใชผ ูเ ชีย่ วชาญทางดานการตอตานการกอ
วินาศกรรมและหัวหนาชางเคร่ืองบินเปนผูตรวจสอบเคร่ืองบินอยางละเอียด เพ่ือหาสิ่งแปลกปลอมและ
ชิ้นสวนท่ีอาจจะกอใหเกิดอุบัติเหตุ ตรวจเสร็จตองจัดยามเฝาตลอดเวลา อนุญาตใหเฉพาะเจาหนาท่ีท่ี
เกย่ี วของกับการบินเทา นน้ั ทีจ่ ะเขาไปบริเวณทจ่ี อดได
๑.๒ การเติมเชื้อเพลิงและการควบคุมขณะจอดแวะระหวางทาง หัวหนาชางจะเปนผู
ควบคุมดูแลตลอดเวลา
๒. เครอ่ื งบนิ พาณิชย
การรักษาความปลอดภัยใหกับเคร่ืองบินประเภทนี้มีปญหาหลายประการโดยเฉพาะ ปจจุบัน
การจ้ีเคร่ืองบินโดยอาวุธบีบบังคับนักบินใหบินไปตามทิศทางที่ตนตองการ หรือการจ้ีจับตัวผูโดยสารมี
จํานวนมากขึ้น จึงขอพึงสังวรณเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยในการใชเครื่องบินพาณิชยอยูเสมอ
นอกจากน้ียังมอี ันตรายทีอ่ าจจะเกิดข้ึนอกี หลายรูปแบบ เชน
๒.๑ ผูกอการราย อาจถือโอกาสเดินทางปะปนกับผูโดยสารแลววางระเบิดไว โดยต้ังเวลา
ใหร ะเบิดภายหลังทีต่ นลงจากเคร่อื งบนิ ไปแลว หรือหาโอกาสทาํ รายบคุ คลสาํ คัญในเครื่องบิน โดยยอมถูก
จบั ภายหลัง
๒.๒ ติดตอขอความรว มมอื กบั ศลุ กากรประเทศตา งๆ ทเี่ ครื่องบนิ จะจอดพักระหวา งทางและ
กอนเครื่องบินออกจะตองมีการตรวจกระเปาเดินทาง และพัสดุทุกช้ินของผูโดยสารใหมอยางเขมงวด
รวมท้งั กระเปาถือดวย
๒.๓ เพ่ือปองกันมิใหผูโดยสารอ่ืนถูกใชเปนเคร่ืองมือในการห้ิวกระเปาระเบิด หรือวัตถุที่
เปนภัยเขาไปในเครื่องโดยไมรูตัว ควรประกาศใหผูโดยสารทราบในขณะที่กําลังตรวจกระเปาวาอาจมี
คนรายหลอกใหผูโดยสารลักลอยนําทองหรือเพชรเถ่ือนออกนอกประเทศ จึงขอใหผูโดยสารทุกคนตรวจ
ในกระเปาพรอม ๆ กันไป เพ่ือใหม่ันใจวาเปนของตนอยางแทจริง รวมท้ังกระเปาและหีบหอทุกชิ้นมี
เจาของที่จะไปพรอ มกบั เครอ่ื งจรงิ
๒.๔ ขาวสารทุกอยางเก่ียวกับการเดินทางของบุคคลสําคัญควรจะเก็บไวเปนความลับ อาจ
เปด เผยไดห ลงั จากออกเดินทางไปแลว
๓. การรักษาความปลอดภัยขณะทําการบนิ
๓.๑ กอนที่บุคคลสําคัญจะเดินทางไปข้ึนเคร่ืองบิน เจาหนาท่ีรักษาความปลอดภัยประจํา
สถานทไ่ี ดแ ก ทหาร ตํารวจ จะตอ งวางกาํ ลงั ตามจดุ ตาง ๆ ทว่ี างแผนไว ณ บรเิ วณทาอากาศยาน
๓.๒ จัดท่นี ง่ั ใหบุคคลสาํ คญั และคณะผตู ดิ ตามนง่ั แยกจากผโู ดยสารอื่น ๆ ไมควรอนุญาตให
ผไู มมหี นา ท่เี กยี่ วขอ งเขา มาในบรเิ วณดงั กลาวโดยเด็ดขาด
๔๓
๓.๓ ควรจัดเจาหนาท่ีรักษาความปลอดภัยน่ังอยูทายสุดของแถวผูโดยสารธรรมดา ดานที่
ติดกบั ทางเดนิ ไปสูบ รเิ วณที่นั่งบคุ คลสาํ คัญ เพอ่ื ปองกนั มใิ หผูโดยสารอ่นื เขา มาปะปนและสามารถควบคุม
ผูโดยสารชั้นอนื่ ไดก รณจี าํ เปน
๓.๔ ควรจดั เจาหนาทีร่ ักษาความปลอดภัยน่ังขางหนา และขางหลังบุคคลสาํ คัญ
๓.๕ ขณะที่เคร่ืองหยุดพักระหวางทาง จะตองมีเจาหนาที่รักษาการณทั้งภายในและ
ภายนอกเครอ่ื งบิน และผูทเ่ี ขา มาในเครอ่ื งบนิ ขณะนนั้ เชน เจา หนาที่ศลุ กากร และพนักงานทําความสะอาด
จะตองติดตามและควบคุมอยูตลอดเวลา ในสวนการเติมน้ํามันเช้ือเพลิงและการบริการอื่น ๆ หัวหนาชาง
เคร่ืองบนิ จะตอ งควบคุมดูแลอยูดวย
๓.๖ การรักษาความปลอดภยั ขณะลงจากเคร่ืองบิน ตามปกติกอ นท่ีบคุ คลสาํ คัญจะเดินทาง
ไปตางประเทศ มักจะใหเจาหนาที่รักษาความปลอดภัยชุดหนึ่งเดินทางไปลวงหนาติดตอกับเจาหนาที่
รกั ษาความปลอดภยั ของประเทศที่จะไปเยือน เพื่อเตรยี มวางแผนการรกั ษาความปลอดภัยในทองถน่ิ น้ัน
๔. การรกั ษาความปลอดภยั ณ ทาอากาศยาน
๔.๑ ประสานกบั เจาหนา ท่อี ากาศยาน
๔.๒ เตรียมการดานการรกั ษาความปลอดภยั เคร่ืองบนิ
๔.๓ ตรวจสอบบรเิ วณลานจอดเครื่องบิน และอปุ กรณป ระจํา
๔.๔ ตรวจสอบวามบี รกิ ารฉุกเฉนิ หรอื ไม
๔.๕ ตรวจสอบการรักษาความปลอดภยั ตามลานวิง่
๔.๖ ตรวจสอบวา
๔.๖.๑ บุคคลสําคญั อ่ืน ๆ จะอยู ณ จดุ ใด
๔.๖.๒ คณะตอนรบั จะอยู ณ จุดใด
๔.๖.๓ ประชาชนอ่นื ๆ จะอยู ณ จุดใด
๔.๗ ตรวจสอบการเตรียมการเกีย่ วกับกระเปา เดินทาง
๔.๘ ตรวจสอบยานพาหนะทจี่ ะใชในขบวน เชน ประเภท ทะเบียนรถ และสถานที่จอดรถ
๔.๙ ตรวจสอบวา มชี ดุ เก็บกวู ัตถุระเบดิ หรอื ไม
๔.๑๐ กาํ หนดทา อากาศยานสํารองไว
ตอนที่ ๕ การรกั ษาความปลอดภยั บุคคลสาํ คญั ในโอกาสอน่ื ๆ
๑. การรักษาความปลอดภัยเมื่อบคุ คลสาํ คญั เดินตามแนวรัว้ (Fence Line)
ลักษณะในการรักษาความปลอดภัยนี้ จะใชในกรณีท่ีบุคคลสําคัญเยี่ยมเยียนประชาชนซึ่งใน
พื้นทีท่ ีก่ าํ หนดโดยมี เชือก รวั้ หรอื เจา หนา ทตี่ าํ รวจคอยกน้ั มิใหลํา้ เขต ซึ่งบางคร้งั อาจมีผูไมห วงั ดตี อบคุ คล
๔๔
สาํ คัญ โดยการจบั มอื แนนไมยอมปลอ ย กรณีนี้เจาหนาที่อาจใชว ธิ ีการหักนว้ิ หัวแมม อื ได ฉะนนั้ เจา หนา ที่
ทอี่ ยใู นรูปขบวนตองสงั เกตดูมอื ผูค นในฝงู ชนเปนพเิ ศษ ในการวางกาํ ลังเจาหนาทจี่ ะเปน ดงั น้ี
๑.๑ ใหห ัวหนาชดุ ติดตามและรองหัวหนาชุดฯ อยูในตาํ แหนง หลังขวาและหลังซาย ติดกับ
บุคคลสําคัญตลอดเวลา
๑.๒ หวั หนาชดุ สว นลวงหนา เดินนาํ บุคคลสําคญั ไปในเสนทางทก่ี าํ หนด
๑.๓ เจาหนาท่ีปฏิบัติการหลังขวาและหลังซาย เดินปะปะอยูในแถวท่ีสองของฝูงชน โดย
เคล่ือนขนานไปกับบุคคลสําคัญตลอดเวลา ผูท่ีจะทํารายบุคคลสําคัญมักจะอยูในบริเวณแถวที่สอง ถามี
การใชอ าวธุ เจาหนา ทแี่ ถวสองจะสามารถหยุดยง้ั ได
การรกั ษาความปลอดภยั เมื่อบุคคลสําคัญเดินตามแนวรวั้ (Fence Line)
๒. การรักษาความปลอดภยั ขณะเมอื่ บุคคลสาํ คัญยืนตอนรบั แขก (Receiving Line)
ในโอกาสท่ีบุคคลสําคัญเปนเจาภาพในงานเล้ียงรับรอง จะตองมายืนตอนรับแขกที่มาในงาน
เจาหนา ท่ีรักษาความปลอดภยั ตอ งมีมาตรการในการวางตวั ใหก ลมกลนื กับสภาพแวดลอม เพือ่ สังเกตการณ
แขกท่ีมีในงาน ซ่งึ พอจะแสดงแนวทางในการวางกาํ ลังได ดงั นี้
๒.๑ หวั หนา ชดุ ประจําสถานที่และเจาหนาท่ชี ดุ ปฏิบตั ิการหลงั ซา ย มหี นาทคี่ อยสังเกตแขก
๔๕
ที่มาพบ โดยวางตัวอยูกอนจะถึงบุคคลสําคัญ ในตําแหนงท่ีสามารถสังเกตแขกที่มาพบและสัมผัสมือกับ
บคุ คลสาํ คญั ท้ังนจ้ี ะตองพรอ มทจ่ี ะสามารถแกไ ขสถานการณไดท ันทีเมอื่ มเี หตกุ ารณเกิดขนึ้
๒.๒ หัวหนาชุดติดตามและรองหัวหนาชุดฯ ยืนติดกับบุคคลสําคัญทางดานหลังขวาและ
หลังซาย คอยสังเกตดูบุคคลท่ีกําลังสัมผัสมือหรือกําลังสนทนากับบุคคลสําคัญ และพรอมท่ีจะชวยเหลือ
บุคคลสําคญั ไดตลอดเวลา
๒.๓ เจาหนาที่ชุดติดตามท่ีเหลือ จะวางตัวเลยจุดท่ีบุคคลสําคัญยืนอยูเพ่ือคอยสังเกตแขกที่
สมั ผัสมือกับบุคคลสําคัญแลวเดินออกไป เพ่อื ปองกันการเขาทํารา ยบคุ คลสาํ คญั
๒.๔ เจาหนาที่ชุดประจําสถานท่ี ตองวางกําลังในบริเวณเสนทางเขาตาง ๆ ท่ีอยูในงานพิธี
รว มกบั ชดุ สว นลวงหนา และเตรียมนาํ ทางใหกับชดุ ติดตามเพื่อพาบคุ คลสําคญั ไปยงั ภารกิจตอ ไป
การรักษาความปลอดภยั ขณะเม่อื บคุ คลสําคญั ยนื ตอ นรับแขก (Receiving Line)
๓. การรักษาความปลอดภัยบุคคลสําคัญเมื่อกลาวปราศรัยบนเวที (Banquet Speech or Press
Conference)
ในโอกาสที่บุคคลสําคัญตองข้ึนไปกลาวคําปราศรัยหรือแถลงขาวบนเวที เจาหนาที่รักษา
ความปลอดภัยจะตองวางกําลังตามจุดตาง ๆ ภายในสถานที่นั้น โดยการวางแผนของชุดสํารวจลวงหนา
และการเตรยี มการของชดุ สวนลวงหนา เปน ผกู าํ หนดจุดการวางกาํ ลัง ดังนี้
๔๖
๓.๑ ขณะบุคคลสําคัญข้ึนบนเวที หัวหนาชุดติดตามจะตองอยูบนเวทีดวยโดยอยูบริเวณ
ดานหลังบคุ คลสําคัญ พรอมจะเอาตัวเขาบังเมอื่ เกดิ เหตุการณ
๓.๒ ภายในหอ งตองมีการวางกําลงั ตามจดุ ตาง ๆ ดงั น้ี
๓.๒.๑ ทางเขา – ทางออก หรือทางขึ้น – ทางลงเวที
๓.๒.๒ บรเิ วณดา นหลังเวทีที่มคี นเขา ออก
๓.๒.๓ บริเวณดา นหนา เวที
๓.๒.๔ บรเิ วณเมนสวทิ ย ที่ควบคุม แสงเสยี ง เครื่องฉายภาพ
๓.๒.๕ ภายในกลมุ ผูส ่อื ขา ว และผรู บั ฟง
๓.๓ สํารวจเสนทางออกฉุกเฉนิ แลวใหท ีมเจา หนา ที่รกั ษาความปลอดภยั ทราบ
การรกั ษาความปลอดภยั ในขณะกลาวบนเวที (Banquet Speech or Press Conference)
๔. การรักษาความปลอดภัยในขณะบคุ คลสําคัญเดนิ ข้นึ -ลงบันได (Stairways and Escalators)
ในกรณที บ่ี คุ คลสาํ คัญจะตอ งเคลือ่ นท่ีโดยการใชบ นั ใดนนั้ มีการวางกําลังดงั น้ี
๔.๑ เจาหนาทีช่ ดุ สวนลว งหนา หรือชุดประจําสถานที่ วางกาํ ลงั อยูด า นบนหรอื ดานลา งกอนท่ี
๔๗
บคุ คลสาํ คัญจะข้นึ หรอื ลง โดยกนั ผูทีจ่ ะใชบ ันไดไวก อ นเพือ่ ความปลอดภัยของบคุ คลสําคัญ
๔.๒ เจา หนาที่ชุดติดตาม ๑ คน เดินนาํ บุคคลสาํ คัญหรืลงบันไดกอน หวั หนา ชดุ ติดตามเดิน
อยูใกลบุคคลสําคัญทางดานหลงั เสมอ
๔.๓ เจา หนา ท่ชี ดุ ตดิ ตามท่ีเหลือ เดินตามบุคคลสําคัญพรอมกับใหการรักษาความปลอดภัย
รอบตวั
๔.๔ ในขณะท่ีบุคคลสําคัญขึ้นหรือลงบันได ตองแนใจวาไมมีผูอ่ืนใชบันไดเดินสวนทาง
ได แตบางคร้ังอาจมีความจําเปนตองยอมใหผูอ่ืนใชบันไดรวมดวย กรณีนี้จะตองจัดเจาหนาท่ีสวน
ลว งหนา หรือชดุ ติดตามอยูใ นบันไดเลื่อนปะปนกับประชาชนในชวงขาลงหรือขาขึน้
การรักษาความปลอดภยั ในขณะบคุ คลสาํ คัญเดินขนึ้ -ลงบันได (Stairways and Escalators)
๕. การรกั ษาความปลอดภัยในขณะท่บี คุ คลสาํ คัญเขา -ออก จากลิฟท (Elevator)
แบงออกเปน ๒ กรณี คือ
๕.๑ กรณีจดั ลฟิ ทไ วเ ฉพาะสาํ หรับบคุ คลสาํ คญั
๕.๑.๑ หัวหนาชุดสวนลวงหนา เดินนําบุคคลสําคัญพรอมรูปขบวนไปยังลิฟท โดย
มเี จาหนา ท่ชี ดุ สว นลวงหนาเปด ลฟิ ทรออยู
๕.๑.๒ หัวหนาชุดสวนลวงหนา เปดทางใหเจาหนาท่ีชุดติดตาม ๑ คน เขาลิฟทไป
กอนเพือ่ ควบคุมแผงบงั คบั
๕.๑.๓ บุคคลสําคัญ หัวหนาชุดติดตาม เขาไปในลิฟทพรอมกับชุดติดตามอีก ๑ คน
โดยหัวหนา ชดุ ติดตามยนื บังบุคคลสาํ คญั ไว
๔๘
๕.๑.๔ หัวหนาชุดสวนลวงหนา จะเขาลิฟทเปนคนสุดทายพรอมกับยืนบังดานหนา
บุคคลสาํ คญั ตรงบริเวณประตูลิฟท
เม่ือลิฟทถึงช้ันที่ตองการจะมีเจาหนาท่ีชุดสวนลวงหนาหรือชุดประจําสถานที่คอยอยู
ดานนอกลิฟท เพ่ือใหความปลอดภัย การปฏิบัติใหกลับกันกับการเขาลิฟทคือ หัวหนาชุดสวนลวงหนา
ออกจากลิฟทกอนเปนคนแรก ตามดวยชุดติดตาม ๑ คน บุคคลสําคัญและหัวหนาชุดติดตามและชุด
ติดตามที่เหลือ สวนรองหัวหนาชุดติดตามซ่ึงอยูนอกลิฟทน้ันจะคอยแกปญหาที่เกิดขึ้นภายนอก กรณี
ลิฟทไมสามารถบรรจุชุดปฏิบัติการไดทั้งหมด อยางนอยที่สุดหัวหนาชุดติดตามและหัวหนาชุดสวน
ลว งหนาจะตอ งอยใู นลิฟทกบั บคุ คลสาํ คัญ
๕.๒ การใชล ฟิ ทร วมกบั บคุ คลอ่ืน
การปฏิบัติเหมือนกับการใชลิฟทที่จัดไวโดยเฉพาะ แตใหแบงลิฟทออกเปน ๒ สวน
โดยมีเจาหนาทีก่ ้นั ระหวางบุคคลสาํ คญั กบั บคุ คลอน่ื ทีใ่ ชล ิฟทในขณะนัน้
การรักษาความปลอดภยั ในขณะบคุ คลสําคัญเขา ลิฟท (Elevators)
๔๙