ระดบภาษา
ั
และ
ั
คําราชาศพท ์
่
กลุม ๓
ม.๖/๔
สารบญ
ั
ื่
้
เรอง หนา
ั
ระดบภาษา ๑
่
ตวอยางคํา ๗
ั
ั
คําราชาศพท ์ ๘
การใชคําราชาศพท ์ ๑๐
ั
้
คําสุภาพ ๑๔
๑
ั
ระดบภาษา
ึ
ั
้
ระดบภาษา หมายถง ความลดหลนของถอยคํา และการ
ั่
้
ี
ิ
้
ี่
เรยบเรยงถอยคําทใช โดยพจารณาตามโอกาสหรือ
ี
ี
่
ั
ิ
กาลเทศะ เชน ภาษาระดบพธการ ภาษาระดบทางการ
ั
ั
ั
้
หรือภาษาราชการ ภาษาระดบกนเอง เป็นตน
ภาษาทเราใชกนอยในทุกวนน ไมไดมระดบเดยว หากแตม ี
ี
่
ั
ั
้
่
ี
ี้
้
ู่
ี่
ั
้
้
หลายระดบภาษา แลวแตการใชงาน ระดบของภาษา
ั
ั
่
ี
ึ
ี
ั่
หมายถง ความลดหลนของถอยคํา และการเรยบเรยง
้
้
้
ิ
ถอยคําทใช โดยพจารณาตามโอกาสหรือกาลเทศะ ความ
ี่
ั
ั
์
ั
ู้
่
ี่
สมพนธระหวางบุคคลทเป็นผสือสารระดบภาษา สามารถ
่
้
ั
้
จําแนกตามประเภทของการใชได ดงน ี้
๒
ิ
ั
๑)ภาษาระดบพธีการ
ภาษาระดบพธการ เป็นภาษาทสมบรณแบบ รปประโยค
ั
์
ี่
ี
ู
ิ
ู
์
ี
ี
ู
ถกตองตามหลกไวยากรณ มความประณตงดงาม
ั
้
ี่
ั
ู
ั
ั
้
้
อาจใชประโยคทซบซอน และใชคําระดบสง ภาษาระดบน ี้
้
จะใชในโอกาสสําคญๆ เชน งานราชพธ วรรณกรรมชนสง
่
ี
ั้
ั
้
ิ
ู
้
เป็นตน
โอกาส,สถานที ่
และลกษณะ
ั
:การเปดประชุม กลาวรายงาน
ิ
่
้
์
่
ั
การกลาวสุนทรพจน การกลาวตอนรบ
่
่
การกลาวอวยพร
ี
ิ
ี
:มลกษณะพธรตอง ภาษาไพเราะ สละสลวย
ี
ั
๓
๒)ภาษาระดบทางการ
ั
ั
ภาษาระดบทางการ หรือ ภาษาทางการ/ภาษาราชการ
์
ั
เป็นภาษาทสมบรณแบบ รปประโยคถกตองตามหลก
ู
ี่
ู
้
ู
้
์
ไวยากรณ เนนความชดเจน ตรงประเด็น ใชในโอกาส
ั
้
ั
่
ิ
ิ
ั
สําคญทเป็นทางการ เชน หนงสือราชการ วทยานพนธ ์
ี่
ิ
ั
รายงานทางวชาการ การกลาวปราศรย การกลาวเปด
่
่
ิ
ั
งานสําคญๆ เป็นตน
้
โอกาส,สถานที ่
และลกษณะ
ั
ิ
:การอภปรายหรือการประชุม รายงาน
วชาการ ประกาศทางการ จดหมายราชการ
ิ
ิ
จดหมายธุรกจ
ี
:ภาษาทางการ ถอยคําตรงไปตรงมา มศพท ์
ั
้
เทคนค หรือศพทวชาการบาง
ิ
้
ั
์
ิ
๔
ั
่
๓)ภาษาระดบกึงทางการ
ั
่
ภาษาระดบนคลายกบภาษาระดบทางการ แตลดความ
ั
ี้
้
ั
่
ี่
่
้
เป็นการเป็นงานลงบาง มกใชในการประชุมกลุม ทเล็กกวา
้
ั
้
ั
้
ี่
การประชุมทตองใชภาษาระดบทางการ เชน ในการประชุม
่
กลุมยอย การบรรยายในหองเรยน เนือหาขาวและบทความ
่
้
้
่
ี
่
้
ิ
์
ในหนงสือพมพ มกใชภาษาททําใหรสกคุนเคยมากกวาภาษา
ี่
่
้
ั
้
ู้
ึ
ั
ี่
่
ั
้
ั
์
ในระดบทางการ และใชศพทเฉพาะเทาทจําเป็น
โอกาส,สถานที ่
ั
และลกษณะ
:การประชุมกลุมยอย การอภปราย
่
่
ิ
การเสวนา การบรรยายในหองเรยน
ี
้
:ใชภาษาเขยน แตมภาษาพดอยบาง
่
ู
ี
ู่
้
้
ี
๕
่
็
๔)ภาษาระดบไมเปนทางการ
ั
ั
่
่
่
ั
ภาษาระดบไมเป็นทางการ เป็นภาษาทไมเครงครดตาม
ี่
่
ั่
ิ
ี
่
้
ั
แบบแผน เพือใชในการสือสารทวไปในชวตประจําวนหรือ
ี่
่
้
่
โอกาสทวๆ ไปทไมเป็นทางการ ใชในการสนทนาระหวาง
ั่
บุคคลหรือกลุมเล็กๆ ในสถานทและโอกาสทไมเป็นการ
ี่
ี่
่
่
ี
สวนตว เชน ในการเขยนจดหมายระหวางเพือน
่
่
่
่
ั
้
่
ั
ี่
ี่
้
ี
้
ภาษาทใชอาจมถอยคําทเคยใชกนเฉพาะกลุม
โอกาส,สถานที ่
และลกษณะ
ั
ิ
ิ
:บทความแสดงความคดเห็นในนตยสาร
์
ั
ั
ิ
หรือหนงสือพมพ รายการสาระบนเทงทาง
ิ
โทรทศน การปรกษาหารือกน
ั
์
ึ
ั
:ใชภาษาพดและสุภาพ การสนทนาโตตอบ
ู
้
้
่
ี่
ิ
่
่
ไมเกน 5 คน ในสถานทไมใชสวนตว
ั
่
๖
ั
ั
๕)ภาษาระดบกนเอง
้
ี่
ั
ั
ู
ภาษาระดบกนเองหรือภาษาปาก เป็นภาษาพดทใชสนทนา
ี่
ั
่
ี่
้
ิ
้
กบบุคคลทสนทคุนเคย ใชสถานทสวนตว หรือในโอกาสท ี่
ั
้
้
ี่
้
ู
ตองการความสนุกสนานครืนเครง ภาษาทใชเป็นภาษาพด
ี่
่
ี
่
ทไมเครงครด อาจมคําตด คําสแลง คําดา คําหยาบปะปน
ั
ั
่
ี
ี
ั่
่
้
โดยทวไปไมนยมใชในภาษาเขยน ยกเวนงานเขยนบาง
ิ
้
่
ประเภท เชน เรืองสน นวนยาย ภาษาขาวหนงสือพมพ ฯลฯ
่
ั
่
์
ั้
ิ
ิ
โอกาส,สถานที ่
และลกษณะ
ั
:การสนทนาเรืองสวนตว การทกทาย
่
่
ั
ั
ระหวางเพือนสนท
ิ
่
่
ู
้
ี
:ใชภาษาพด อาจมคําคะนอง หรือ
ภาษถนในวงจํากด
ั
ิ่
๗
ั
่
่
ตวอยางคําทีมีความหมายเดียวกน
ั
ั
ั
แตระดบภาษาทีแตกตางกน
่
่
่
ทางการ กึงทางการ กนเอง
่
ั
ิ
้
้
้
้
เกานาฬกา เกาโมงเชา สามโมงเชา
่
่
เพยงน ี้ เทาน ี้ แคน ี้
ี
จํานวนมาก มากมาย เยอะแยะ
นายแพทย ์ คุณหมอ หมอ
้
นํ้าหนกมาก อวนมาก อวนตุตะ
ั
้
๊
๊
ิ
เบกบานใจ พอใจ ปลืมใจ
้
้
ประสงค, ตองการ, อยาก,
์
ปรารถนา อยาก อยากได ้
๘
คําราชาศพท ์
ั
่
ั
คําสุภาพทใชใหเหมาะสมกบฐานะของบุคคลตางๆ คํา
ี่
้
้
ี่
์
ั
้
ึ
้
ราชาศพทเป็นการกําหนดคําและภาษาทสะทอนใหเห็นถง
ี
ั
วฒนธรรมอนดงามของไทย แมคําราชาศพทจะมโอกาส
ั
ี
้
์
ั
่
ี
ิ่
่
ี่
ึ
้
ิ
้
ใชในชวตนอย แตเป็นสงทแสดงถงความละเอยดออนข
ี
ู
ี
องภาษาไทยทมคําหลายรปหลายเสยงในความหมาย
ี
ี่
ี
ิ
ั
ั
เดยวกน และเป็น ลกษณะพเศษของภาษาไทย โดยเฉพาะ
ซงใชกบบุคคลกลุมตางๆ ดงตอไปน ี้
่
ั
่
ั
่
้
ึ่
1. พระบาทสมเด็จพระเจาอยหวและ
ั
้
ู่
ี
้
สมเด็จพระนางเจาพระบรมราชนนาถ
ิ
์
2. พระบรมวงศานุวงศ
ิ
์
3. พระภกษุสงฆ สามเณร
้
4. ขุนนาง ขาราชการ
5. สุภาพชน
๙
ั
ี
บุคคลในกลุมท 1 และ 2 จะใชราชาศพทชุดเดยวกน เชนเดยว
่
ั
่
์
ี
้
ี่
่
์
ั
ั
ี
ั
้
กบบุคคลในกลุมท 4 และ 5 ก็ใชคําราชาศพทในชุดเดยวกนและ
ี่
่
ู่
ั
้
์
ั
ี่
เป็นคําราชาศพททเราใชอยเป็นประจําในสงคมมนุษยเราถือวา
์
การใหเกยรตแกบุคคลทเป็นหวหนาชุมชน หรือผทชุมชนเคารพ
ี
ิ
้
ี่
ู้
ั
่
้
ี่
ิ
ั
ั้
ิ
ั
่
นบถือนน เป็นวฒนธรรมอยางหนงของมนุษยชาต ทุกชาต
ึ่
ั
ึ
ั้
ี
่
ิ
ทุกภาษาดงนนแทบทุกชาต ทุกภาษาจงตางก็ม คําสุภาพ
สําหรบใชกบประมุขหรือผทเขาเคารพนบถือ
ี่
ั
ั
ู้
ั
้
ในแหลงอางองบางฉบบไดใหขอสนนษฐานไววาคนไทยเริ่มใช ้
่
ั
ิ
้
้
้
้
ิ
่
้
ั
ิ
์
ี่
่
์
ั
คําราชาศพทในรชสมยพระธรรมราชาลไท พระรวงองคท 5
ั
ั
่
ั้
ั
่
ิ
ั้
แหงสุโขทย เพราะศลาจารกตางในแผนดนนน รวมทงบทพระ
่
ึ
ิ
ิ
ิ
่
ราชนพนธของทาน คือ ไตรภมพระรวง ปรากฏวามคํา
ี
์
่
ู
่
ู่
ราชาศพทอยหลายคํา เชน ราชอาสน
์
่
ั
์
์
ั
พระสหาย สมเด็จ ราชกุมาร เสด็จ บงคม เสวยราชย
ราชาภเศก เป็นตน
้
ิ
ึ
ึ
ี่
ิ
่
้
ั
ั
และจากหลกฐานทพบขอความในศลาจารกวดศรชุม กลาวถง
ี
ึ่
ี
่
่
์
ั
เรืองตงราชวงศและเมืองสุโขทยตอนหนงมความวา
ั้
"พอขุนผาเมืองจงอภเสกพขุนบางกลางหาวใหเมืองสุโขไท"
ิ
่
่
ึ
ั
คําวา "อภเษก" นเป็นภาษาสนสกฤต ไทยเรารบมาใชสําหรบ
ั
ี้
ั
้
่
ิ
์
ั
ั้
่
ึ
ู
่
ี
ิ
ั้
ู่
พธการแตงตงตําแหนงชนสง จงอยในประเภทราชาศพท และ
ั้
่
ั
่
ี
ี้
ั้
ี
ั
ึ
ั
พธนมมาตงแตราชวงศสุโขทย จงนาสงสยวาในสมยนน
ิ
่
์
้
อาณาจกรสุโขทยน ก็คงจะมการใชคําราชาศพทบางคํากนแลว
์
ี
ั
้
ั
ั
ี้
ั
๑๐
การใชคํา
้
ั
ราชาศพท ์
ี
ี
ภาษาไทยมววฒนาการมายาวนาน จนมคําศพทมากมาย
์
ิ
ั
ั
้
่
ั
้
่
ั
้
่
ู้
ู้
ใหใชกบผคนในระดบตางๆ อยางเชน ผใหญ กบผนอย
ั
่
ู้
่
ึ
้
ี่
่
ี
ั
ั
ั้
์
ั
ฉะนน จงไมแปลกทเราจะมกลุมคําศพทสําหรบใชกบพระ
้
ั
์
ิ
ั
มหากษตรย สมาชกราชวงศ หรือพระภกษุระดบสงดวย
ู
์
ิ
ิ
ั
ิ
ึ
้
ิ่
์
นกเรยนสามารถศกษาการใชคําราชาศพทเพมเตมได ้
ั
ี
่
ั
ั
่
จากขาวพระราชสํานกในแตละวน
การใชคําวา “ทรง”
่
้
1. ใชทรงนําหนาคํานามสามญบางคําทําใหเป็นกรยาราชาศพทได เชน
้
้
ิ
ั
ั
่
้
์
้
ิ
์
่
่
ี
ทรงกฬา (เลนกฬา), ทรงธรรม (ฟงเทศน), ทรงบาตร (ใสบาตร),
ี
ั
ี่
้
ทรงชาง (ขชาง)
้
้
่
2. ใชทรงนําหนาคํากรยาสามญบางคํา ทําใหเป็นกรยาราชาศพทได เชน
้
ิ
ิ
ิ
้
์
ั
้
ิ
ั
ิ
ั่
ทรงวง, ทรงยนด, ทรงอธบาย, ทรงยง, ทรงเลน, ทรงสงสอน
ิ
ิ่
ิ
่
ี
์
ั
์
้
ั
้
3. ใชทรงนําหนาคํานามราชาศพทบางคํา ทําใหเป็นกรยาราชาศพทได ้
้
ิ
่
ิ
ิ
์
่
ั
ิ
เชน ทรงพระราชดําร (คด), ทรงพระราชนพนธ (แตงหนงสือ),
ทรงพระสรวล (ยม), ทรงพระอกษร (อาน, เขยน, เรยน)
ี
ี
่
ิ้
ั
๑๑
้
่
การใชคําวา
“พระบรม/พระบรมราช, พระราช, พระ”
้
้
ี่
ี่
ั
1. “พระบรม” และ “พระบรมราช” ใชนําหนาคํานามทสําคญทเกยวกบ
ั
ี่
่
ั
้
ู่
พระบาทสมเด็จพระเจาอยหวเทานน เชน พระบรมราโชวาท, พระบรม
่
ั้
ิ
์
ั
มหาราชวง, พระบรมฉายาลกษณ, พระปรมาภไธย, พระบรมราช
ั
วโรกาส, พระบรมราชโองการ
ู่
้
ิ
2. “พระราช” ใชกบพระบาทสมเด็จพระเจาอยหว, สมเด็จพระบรมราชน ี
ั
้
ั
และอุปราช เชน พระราชโทรเลข, พระราชหตถเลขา, พระราชเสาวนย,
่
ั
ี
์
พระราชปฏสนถาร
ิ
ั
้
ั
้
3. “พระ” ใชนําหนาคําทเรยกอวยวะ เครืองใช หรือนําหนาคําสามญบาง
ี
ี่
ั
้
่
้
์
้
้
ี้
์
่
ี
ั
ั
คําทไมมราชาศพทใช เชน พระพกตร, พระเศยร, พระบาท, พระเกาอ,
่
ี
ี่
พระมาลา, พระกระยาหาร
๑๒
้
้
้
ั
์
การใชราชาศพทในคําขึนตนและคําลงท้าย
1. “ขอเดชะฝาละอองธุลพระบาทปกเกลาปกกระหมอม ขาพระพุทธเจ้า”
่
่
้
ี
้
่
ู
่
้
ลงทายวา “ดวยเกลาดวยกระหมอมขอเดชะ” ใชในโอกาสกราบบงคมทล
้
้
ั
้
้
ั้
่
ึ้
ขนกอนเป็นครงแรก
้
2. “พระพุทธเจาขาขอรบใสเกลาใสกระหมอม ขาพระพุทธเจา” ลงทาย
้
้
้
้
่
ั
่
่
้
้
่
ี
วา “ดวยเกลาดวยกระหมอม” ใชในโอกาสทมพระราชดํารสขนกอน
ี่
้
ึ้
่
ั
้
้
่
ิ
้
่
้
3. “พระมหากรุณาธคุณเป็นลนเกลาลนกระหมอม” หรือ “พระเดช
้
้
่
พระคุณเป็นลนเกลาลนกระหมอม” ลงทายวา “ดวยเกลาดวยกระหมอม”
้
่
้
้
้
้
่
้
้
ใชในโอกาสแสดงความขอบคุณทไดรบความชวยเหลือ
้
ั
่
ี่
4. “เดชะพระบารมปกเกลาปกกระหมอม” หรือ “เดชะพระบรม
่
ี
้
่
้
้
้
้
้
้
เดชานุภาพเป็นลนเกลาลนกระหมอม” ลงทายวา “ดวยเกลาดวย
่
้
ั
้
้
่
กระหมอม” ใชในโอกาสแสดงวารอดพนอนตราย
่
่
5. “พระราชอาญาไมพนเกลาพนกระหมอม” หรือ “พระราชอาญาเป็น
่
้
้
้
้
้
้
่
่
้
้
่
้
ลนเกลาลนกระหมอม” ลงทายวา “ดวยเกลาดวยกระหมอม” ใชในโอกาส
้
้
ทําผดพลาด
ิ
ู
่
ู
ั
6. “ไมควรจะกราบบงคมทลพระกรุณา” หรือ “ไมควรจะกราบบงคมทลให ้
ั
่
้
้
ี
่
้
่
้
ทรงทราบฝาละอองธุลพระบาท” ลงทายวา “ดวยเกลาดวยกระหมอม” ใช ้
่
ในโอกาสทจะตองกลาวถงของไมสุภาพ คํากราบบงคมทลจะตองใช “ฝา
้
่
้
้
ี่
ั
่
ึ
่
ู
้
ี
้
่
่
้
่
ละอองธุลพระบาท” ไมใช “ใตฝาละอองธุลพระบาท” เพราะคําวา “ใตฝา
่
ี
ี
่
่
ั้
ละอองธุลพระบาท” เป็นคําสรรพนามมความหมายวา “ทาน” เทานน
่
ี
๑๓
้
้
์
้
การใชคําราชาศพทใหถกตอง
ู
ั
้
้
่
้
ั
ั
้
1. ใช “เฝาฯ รบเสด็จหรือรบเสด็จ” ไมใช “ถวายการตอนรับ”
ั
ี
ี
ั
ั
ั
ี
้
้
ี
ั
ใช “มความจงรกภกด” หรือ “จงรกภกด” ไมใช “ถวายความจงรักภกด”
่
2. “อาคนตุกะ” หมายถง แขกทมาหานนเป็นแขกของประธานาธบด ี
ิ
ั้
ี่
ั
ึ
่
่
ี่
หรือแขกของบุคคลอืนทไมใชพระมหากษตรยประเทศใดประเทศหนง
่
์
ึ่
ั
ิ
่
ั
สวน “ราชอาคนตุกะ, พระราชอาคนตุกะ” หมายถง แขกของพระมหา
ั
ึ
ึ่
ิ
ั
์
กษตรยประเทศใดประเทศหนง
ู้
ั
้
่
ู้
้
3. “ขอบใจ” ใชสําหรบสุภาพชน คนเสมอกน ผใหญใชพดกบผนอย พระ
้
ู
ั
ั
่
ราชวงศ ทรงใชกบคนสามญ และพระราชาทรงใชกบประชาชน สวน
ั
์
ั
ั
้
้
์
้
ั
“ขอบพระทย” ใชสําหรบคนสามญกลาวกบพระราชวงศ พระราชวงศทรง
ั
์
ั
ั
่
้
้
ใชกบพระราชวงศหรือพระราชาทรงใชกบพระราชวงศ ์
ั
์
ั
4. ในการถวายของแดพระบาทสมเด็จพระเจาอยหวและสมเด็จพระนาง
ั
ู่
่
้
้
เจาฯ พระบรมราชนนาถ ถาเป็นของเล็ก ใชคําวา “ทลเกลาฯ ถวาย” อาน
่
ู
ี
่
ิ
้
้
้
่
่
้
่
้
ู
้
ู
่
่
วา “ทลเกลาทลกระหมอมถวาย” สวนถาเป็นของใหญ ใชคําวา
่
้
่
่
้
้
“นอมเกลาฯ ถวาย” อานวา “นอมเกลานอมกระหมอมถวาย”
้
้
๑๔
คําสุภาพ
ั
ี่
้
ั
คือคําในภาษาไทยทเราใชกน คําสามญ คําสุภาพ
่
ี่
ี่
่
ั
ทวๆไป ทไมเกยวเนืองกบองค ์
ั่
ั
ิ
์
์
พระมหากษตรย ราชวงศ กน รบประทาน
ั
ิ
พระสงฆ หรือขาราชการชน
ั้
้
์
ี่
่
้
ิ
ผใหญคําสุภาพ เป็นคําทไดยน เกือก รองเทา
ู้
้
แลวนาฟง ชวนฟงเป็นถอยคํา
้
ั
้
่
ั
ทเหมาะสม ไมเป็นคําหยาบ ไม ่ กระบือ
่
ี่
เป็นคํากระดาง ไมเป็นคําทสน ควาย
ั้
้
ี่
่
ี่
หรือหวนเกนไป เป็นคําทพด
ิ
ู
้
้
ี
่
้
ผวนแลวไมเป็นคําหยาบ ตน เทา
ั
ู
ตด ทวารหนก
ั่
ถวงอก ถวเพาะ
ั่
่
ปลาชอน ปลาหาง
ั
ปลารา ปลามจฉะ
้
ิ
ปลาสลด ปลาใบไม ้
่
ิ
สมาชกกลุม
ม.๖/๔
ี
น.ส.ปณาล ธาราเกษม เลขท ๓
ี่
ี่
ู
น.ส.วรรษชยามล บุญช เลขท ๔
่
ู
ิ
นายธนภม สานคลอง เลขท ๗
ี่
ิ
ิ
ี่
ั
น.ส.พดสะดา สุขกตตโย เลขท ๑๖
่
นายจุฑาภทร คุมไขนํ้า เลขท ๑๘
้
ี่
ั
่
ี่
ั
น.ส.กมลฉตร พุมสุข เลขท ๒๔
ั
ิ
ิ
ี่
์
นายปวรศร ฤทธชย เลขท ๓๗
์
ี่
น.ส.วรรณพร วงคสาโรช เลขท ๔๐
ี่
ิ
นายวชรศ สทธชย เลขท ๔๑
ั
ั
ิ
ิ
นายณฐพล คงเทพ เลขท ๔๔
ั
ี่
ั
นายกฤษฎา รตนทโป เลขท ๔๗
ี
ี่
ี่
นายกฤตณฐ งามประเสรฐ เลขท ๔๘
ิ
ั