The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Omegaverse, 2020-10-27 06:40:39

นายวัฒนา สมนวน

63305010006

แฟม้ สะสมผลงาน

วิชา เทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อการจดั การอาชีพ

สาขาวชิ า

เพาะเลยี้ งสตั ว์นำ้

โดย
นายวัฒนา สมนวล

รหสั นกั ศึกษา

63306010006

วทิ ยาลยั เกษตรและเทคโนโลยีตรัง
สถาบันอาชีวเกษตรภาคใต้

ใบงานท่ี 1

รายงานวชิ าเทคโนโลยีสารสนเทศเพ่อื
การจัดการอาชีพ

AUSU

ผู้จดั ทำ : ผู้จัดทำ นายพงษ์ศักด์ิ โพธ์ิทอง รหัสนกั ศึกษา
63306010003
นายวัฒนา สมนวน รหัสนกั ศกึ ษา 63306010006
นายวรพักต์ จันทรศ์ รี รหสั นักศกึ ษา 63306010004
ใบงานที่ 1 ความรเู้ กีย่ วกับคอมพวิ เตอร์และอปุ กรณโ์ ทรคมนาคม

1

ชอ่ื ผลิตภณั ฑ์ : คอมพิวเตอรโ์ นต๊ บ๊คุ รนุ่ M409BA-BV004T ยห่ี ้อ ASUS

ลักษณะเดน่ ของเครอื่ ง : เป็นโน้ตบคุ๊ รนุ่ ใหม่ ท่ีครองใจผู้ใช้ทั้งด้านดีไซน์และประสิทธิภาพ ทีม่ าพรอ้ มคณุ ภาพใน

การใช้ งานท่หี ลากหลาย ทำงานได้ครบทุกฟงั ก์ชนั่ ท่ีพรอ้ มจะผสานไลฟส์ ไตลข์ องคณุ ได้ลงตัวอย่างไม่มสี ะดุด
ตอบสนองทุกการใช้งาน

ระบบปฏิบตั กิ ารท่ใี ช้ : Windows 10
หนว่ ยความจำของเครือ่ ง : Hard Drive ความจุ 1TB และ RAM 4GB

หน่วยประมวลผล AMD A4-9125 Processor
คณุ สมบตั พิ เิ ศษ ตอบสนองทุกการใช้งาน ตอบสนองทุกความตอ้ งการของคุณไดอ้ ยา่ งลงตัวทง้ั ดีไซน์ และการใช้งาน
ดว้ ยประสิทธภิ าพ จะเลน่ เกม หรือทำงานก็ ไม่ทำใหป้ ระสิทธิภาพขาดหาย เติมเติมทุกความต้องการของคนรุ่นใหม่

2

ใบงานท่ี 2



เครอื ข่ายคอมพิวเตอร์

จดั ทา

➢ นายวฒั นา สมนว
เลขประจาตวั นกั ศกึ ษ
➢ นางสาววรรณพร
เลขประจาตวั นกั ศกึ ษ

าโดย

วน เลขท่ี 6
ษา 63306010006

เครอื ทอง เลขท่ี 5
ษา 63306010005

เครอื ข่ายคอมพิว

กลุ่มของคอมพิวเตอร์จานว
เช่อื มต่อกนั เพ่อื ใหผ้ ใู้ ชใ้ นเครอื ข่าย
ต่างๆ ในเครอื ขา่ ยรว่ มกนั ได้

วเตอร์

นตัง้ แต่สองเคร่ืองข้ึนไป และอุปกรณ์ต่างๆท่ีถูกนามา
ยสามารถตดิ ต่อส่อื สาร แลกเปลย่ี นขอ้ มูล และใช้อุปกรณ์

เครอื ข่ายที่ใช้การเชื่อม
หรือใกล้เคียงกนั

ระบบเครอื ขา่ ยระดบั ทอ้ งถน่ิ
อยใู่ นบรเิ วณไมก่ วา้ งนกั อาจอยใู่ นอ

มโยงอปุ กรณ์ต่างๆ ในพืน้ ท่ีเดียวกนั

น (Local Area Network : LAN) เป็นเครอื ขา่ ยระยะใกลใ้ ชก้ นั
องคก์ รเดยี วกนั หรอื อาคารทใ่ี กลก้ นั

การเชื่อมต่อเครอื ข่ายร

เครอื ขา่ ยนครหลวง หรอื แมน
เช่อื มโยงแลนทอ่ี ยหู่ า่ งไกลออกไป เชน่
อาคารและมรี ะยะทางไกลกนั การเช่อื
อาจใชไ้ มโครเวฟเชอ่ื มต่อ

ระหว่างสานักงาน

น (Metropolitan Area Network : MAN) เป็นเครอื ขา่ ยทใ่ี ช้
น การเช่อื มต่อเครอื ขา่ ยระหวา่ งสานกั งานทอ่ี าจอยคู่ นละ
อมต่อเครอื ขา่ ยชนิดน้อี าจใชส้ ายไฟเบอรอ์ อพตกิ หรอื บางครงั้

การส่ือสารข้อมลู

กระบวนการถ่ายโอน หรอื แ
เคร่อื งคอมพวิ เตอรต์ งั้ แต่ 2 เคร่อื งขน้
จุดประสงคเ์ พอ่ื ตดิ ต่อ และเปลย่ี นขอ้
กนั

แลกเปลย่ี นขอ้ มูลในรปู แบบเลขฐานสอง ของอุปกรณ์หรอื
นึ ไป ผ่านตวั กลางในการส่อื สารขอ้ มูล การส่อื สารขอ้ มลู มี
อมลู ขา่ วสาร เพ่อื ใหผ้ สู้ ่งและผรู้ บั เกิดความเขา้ ใจซ่งึ กนั และ

องคป์ ระกอบพืน้ ฐาน

ระบบการสอ่ื สารขอ้ มลู มอี งคป์
1.ผสู้ ง่ หรอื อุปกรณ์สง่ ขอ้ ม

หน้าทเ่ี ตรยี มขอ้ มลู ขา่ วสารเ
2.ผรู้ บั หรอื อุปกรณ์รบั ขอ้

สอ่ื สาร มหี น้าทร่ี บั ขอ้ มลู ขา่ ว

นของระบบการสื่อสารข้อมูล

ประกอบพน้ื ฐาน 5 องคป์ ระกอบ คอื
มลู (Sender) เป็นตน้ ทางของการสอ่ื สาร มี
เพอ่ื จดั สง่
อมลู (Receiver) เป็นปลายทางของการ
วสารทผ่ี สู้ ง่ จดั สง่ มาให้

องคป์ ระกอบพืน้ ฐาน
(ต่อ)

3.สอ่ื กลาง (Message) เป
จากตน้ ทางไปยงั ปลายทาง

4.ขา่ วสาร (Sender) เป็น
ออกเป็น 4 รปู แบบ คอื เสยี ง (V
รปู ภาพ (Image)

5.โพรโตคอล (Protocol)
การสอ่ื สารขอ้ มลู เพอ่ื ใหผ้ รู้ บั แล

นของระบบการส่ือสารข้อมูล

ป็นเสน้ ทางการสอ่ื สาร เพอ่ื นาขอ้ มลู ขา่ วสาร

นสญั ญาณทส่ี ง่ ผา่ นไปในสอ่ื กลาง แบง่
Voice) ขอ้ มลู (Data) ขอ้ ความ (Text)

) หมายถงึ กฎระเบยี บ หรอื ขอ้ ตกลงทใ่ี ชใ้ น
ละผสู้ ง่ สามารถเขา้ ใจ หรอื พดู คยุ กนั ได้

สญั ญาณท่ีใช้ในระบ

สญั ญาณทใ่ี ชใ้ นระบบการสอ่ื ส
➢ สญั ญาณอนาลอ็ ก (analo

➢ สญั ญาณดจิ ทิ ลั (digital s

บบการส่ือสารข้อมลู

สารขอ้ มลู 2 ประเภท คอื

og signal)

signal)

ความแตกต่างการถ
แบบอนุกรม

➢ แบบขนาน
การสง่ แบบขนานนนั้ จะท

11110 ทงั้ 8 บติ ออกไปพรอ้
การใชง้ านทเ่ี หน็ ชดั ของการสง่ ข
กบั เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ ซง่ึ ปกต

ขอ้ ดี คอื สง่ ขอ้ มลู ไดเ้ รว็ ก
ขอ้ เสยี คอื มรี าคาแพง

ถา่ ยโอนข้อมลู แบบขนานและ

ทาการสง่ ขอ้ มลู ทลี ะหลาย ๆ บติ เชน่ สง่ 100
อมกนั โดยผา่ นสายสง่ ขอ้ มลู ทม่ี ี 8 เสน้ ตวั อยา่ ง
ขอ้ มลู แบบขนาน เชน่ การตอ่ เครอ่ื งพมิ พเ์ ขา้
ตจิ ะใชส้ ายยาว 5 เมตร ถงึ 10 เมตรเท่านนั้
กวา่ แบบอนุกรม

ความแตกต่างการถ
แบบอนุกรม (ต่อ)

➢ แบบอนุกรม

การส่งข้อมูลแบบอ
ต่อเน่ืองกนั ไป เช่นถ้าขอ้ มูลค
บติ ท่ี 1 เรยี งลาดบั ไปจนครบ
เท่านัน้ ตวั อย่างการส่งขอ้ มูล
คอมพวิ เตอรแ์ มท่ อ่ี ยหู่ า่ งกนั สกั

ขอ้ ดี คอื มรี าคาถกู
ขอ้ เสยี คอื สง่ ขอ้ มลู ได

ถ่ายโอนข้อมลู แบบขนานและ

อนุกรม ข้อมูลจะถูกส่งออก ไปทีละบิต
คอื 10011110 เลข 0 ทางขวามอื สุดเป็น
บ 8 บติ โดยการสง่ นนั้ จะใชส้ ายส่งเสน้ เดยี ว
ลแบบอนุกรม เช่นการต่อเทอรม์ นิ ัลเขา้ กบั
ก 100 เมตร ซง่ึ ทาใหป้ ระหยดั สาย

ดช้ า้ กวา่ แบบขนาน

ส่ือกลางในการสื่อส

สว่ นทท่ี าใหเ้ กดิ การเ
และอปุ กรณ์น้ียอมใหข้ า่ วสารข

สารข้อมลู

เชอ่ื มตอ่ ระหวา่ งอปุ กรณ์ตา่ งๆ เขา้ ดว้ ยกนั
ขอ้ มลู เดนิ ทางผา่ น จากผสู้ ง่ ไปสผู่ รู้ บั

หน้าที่ของอปุ กรณ์ก

➢ สวทิ ช์ หรอื บรดิ จ์ (Switch

เป็นอปุ กรณ์สาหรบั เช
ประเภทเดยี วกนั ใชโ้ ปรโตคอ
เธอรเ์ น็ตแลน (Ethernet LAN
ทงั้ น้ี สวทิ ช์ หรอื บรดิ จ์ จะมคี ว
ตรวจสอบขอ้ ผดิ พลาด ของกา
ลดลง และตดิ ตงั้ งา่ ย

การส่ือสาร

h, Bridge)

ชอ่ื มต่อ เครอื ขา่ ยทอ้ งถน่ิ หรอื แลน (LAN)
อลเดยี วกนั สองวงเขา้ ดว้ ยกนั เชน่ ใชเ้ ชอ่ื มตอ่ อี
N) หรอื โทเคนรงิ กแ์ ลน (Token Ring LAN)
วามสามารถในการเชอ่ื มตอ่ ฮารด์ แวร์ และ
ารสง่ ขอ้ มลู ไดด้ ว้ ย ความเรว็ ในการสง่ ขอ้ มลู กม็ ไิ ด้

หน้าที่ของอปุ กรณ์ก

➢ มลั ตเิ พลก็ ซ์เซอร์ (Multipl
วธิ กี ารเชอ่ื มต่อการสอ่ื

การเชอ่ื มต่อแบบจดุ ต่อจดุ (P
งานไมเ่ ตม็ ท่ี จงึ มวี ธิ กี ารเชอ่ื มต
ใชส้ ายสอ่ื สารเพยี งเสน้ 802.3

การส่ือสาร (ต่อ)

lexer)

อสารระหวา่ งผรู้ บั และผสู้ ง่ ปลายทางทง่ี า่ ยทส่ี ดุ คอื
Point to Point) แต่ตอ้ งเสยี คา่ ใชจ้ า่ ยสงู และใช้
ตอ่ ทย่ี งุ่ ยากขน้ึ คอื การเชอ่ื มตอ่ แบบหลายจดุ ซง่ึ

3

หน้าที่ของอปุ กรณ์ก

➢ ฮบั หรอื รพี ที เตอร์ (Hub,

เป็นอปุ กรณ์ทท่ี วน แ
ไดร้ ะยะทางทย่ี าวไกลขน้ึ ไมม่
และไมม่ กี ารใชซ้ อฟทแ์ วรใ์ ดๆ
ไดง้ า่ ย ขอ้ เสยี คอื ความเรว็ ใน
มคี อมพวิ เตอรม์ าเชอ่ื มตอ่ มาก

การส่ือสาร (ต่อ)

, Repeater)

และขยายสญั ญาณ เพอ่ื สง่ ต่อไปยงั อปุ กรณ์อน่ื ให้
มกี ารเปลย่ี นแปลงขอ้ มลู ก่อนและหลงั การรบั -สง่
ๆ มาเกย่ี วขอ้ งกบั อุปกรณ์ชนิดน้ี การตดิ ตงั้ จงึ ทา
นการสง่ ขอ้ มลู จะเฉลย่ี ลดลงเทา่ กนั ทุกเครอ่ื ง เมอ่ื
กขน้ึ





ใบงานท่ี 3

รายงาน
เร่ือง การเพาะเลยี้ งสัตว์น้าอนิ ทรีย์

เสนอ
นาย เกรียงศักด์ิ

จัดทาโดย
นายวฒั นา สมนวน
นางสาวชมพนู ุช ริยาพนั ธ์
ช้ันประกาศนียบตั รวิชาชีพช้ันสูงปี ท่ี 1

รายงานนเ้ี ป็ นส่วนหนง่ึ ของการศึกษาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือการ
จัดการอาชีพ

การทาเกษตรอินทรีย์

เกษตรอนิ ทรีย์ คือการทาการเกษตรดว้ ยหลกั ธรรมชาติ บนพ้นื ทีก่ ารเกษตรทไ่ี มม่ ี
สารพษิ ตกคา้ งและหลีกเลยี่ งจากการปนเป้ื อนของสารเคมีทางดินทางน้า และทางอากาศ
เพอื่ ส่งเสริมความอุดสมสมบูรณข์ องดิน ความหลากหลายทางชีวภาพ ในระบบนิเวศน์
และฟ้ืนฟสู ิ่งแวดลอ้ มใหก้ ลบั คืนสู่สมดลุ ธรรมชาติโดยไมใ่ ชส้ ารเคมีสังเคราะห์หรือสิ่งท่ี
ไดม้ าจากการตดั ต่อพนั ธุกรรม ใชป้ ัจจยั การผลิตที่มแี ผนการจดั การอยา่ งเป็นระบบในการ
ผลิตภายใตม้ าตรฐานการผลิตเกษตรอินทรียใ์ ห้ไดผ้ ลผลติ สูงอุดมดว้ ยคณุ ค่าทางอาหาร
และปลอดสารพิษโดยมีตน้ ทนุ การผลิตต่าเพ่ือคณุ ภาพชีวิต และเศรษฐกิจพอเพยี ง แก่มวล
มนุษยชาติ และสรรพชีวติ

การเพาะเลีย้ งสัตว์นา้ อินทรีย์

การเพาะเล้ียงสัตวน์ ้าอินทรียน์ บั วา่ เป็นเร่ืองใหม่สาหรับประเทศไทย บุคลากรของ
กรมประมงและคนทว่ั ไปเขา้ ใจแต่เพยี งว่า การเพาะเล้ียงสัตวน์ ้าอินทรียค์ อื การที่ไมใ่ ชย้ า
และสารเคมีในการผลิตสตั วน์ ้า แตม่ องขา้ มส่วนประกอบในอาหารสาเร็จรูป ทม่ี กี ากถวั่
เหลอื งดดั แปรพนั ธุกรรม (GMOs) เป็นวตั ถดุ ิบ ซ่ึง GMOs เป็นสิ่งท่ีห้ามใชเ้ ดด็ ขาดใน
วงการเกษตรอินทรีย์ ดงั น้นั จึงควรทราบหลกั การและมาตรฐานการเพาะเล้ยี งสัตวน์ ้า
อนิ ทรีย์ ดงั น้ี

หลกั การเกษตรอินทรีย์ (Principles of organic agriculture) ทมี่ ีการนามาอา้ งองิ กนั
อยา่ งกวา้ งขวาง คอื หลกั การของสหพนั ธ์เกษตรอินทรียน์ านาชาติ (IFOAM) ซ่ึง
ประกอบดว้ ยหลกั การยอ่ ย 4 ประการ ดงั น้ี

1. หลกั การดา้ นสุขภาพ (Principle of health) เกษตรอนิ ทรียต์ อ้ งเพิ่มพูนสุขภาพท้งั
ของดิน พืช สตั ว์ คน และของโลก

2. หลกั การดา้ นนิเวศวทิ ยา (Principle of ecology) เกษตรอินทรียต์ อ้ งอยบู่ น
พ้นื ฐานระบบนิเวศท่หี มุนเวียนเป็นวฏั จกั รไม่หยดุ นิ่ง

3. หลกั การดา้ นความเป็นธรรม (Principle of fairness) เกษตรอนิ ทรียต์ อ้ งต้งั อยู่
บนความเป็นธรรม มกี ารแบง่ ปันใชป้ ระโยชน์จากส่ิงแวดลอ้ มซ่ึงเป็นของส่วนรวม ให้คน
และสตั วไ์ ดร้ ับโอกาสในชีวิต

4. หลกั การดา้ นความดูแลเอาใจใส่ (Principle of care) เกษตรอนิ ทรียต์ อ้ งมกี าร
จดั การอยา่ งระมดั ระวงั รับผดิ ชอบในการป้องกนั สุขภาพและความเป็นอยขู่ องชนรุ่น
ปัจจบุ นั และอนาคต รวมท้งั จดั การป้องกนั สิ่งแวดลอ้ มล่วงหนา้

หลกั การขา้ งตน้ ไดน้ ามาใชเ้ ป็นกรอบในการส่งเสริมและพฒั นาเกษตรอินทรีย์
รวมท้งั การจดั ทาขอ้ กาหนดของมาตรฐานเพอ่ื การตรวจสอบและรบั รอง ขอ้ กาหนดที่
สาคญั คือ

1. หา้ มใชย้ าปฏิชีวนะ

2. อนุญาตให้ใชส้ ารบางชนิดในการผลติ และการแปรรูป

3. ใชร้ ะบบจดั การผลิตแบบองคร์ วม (holistic)

4. หา้ มใชป้ ๋ ยุ เคมี

5. หา้ มใชฮ้ อร์โมนสงั เคราะห์

6. หา้ มใชส้ ่ิงดดั แปรพนั ธุกรรม (GMOs)

7. มสี วสั ดิภาพสาหรบั สตั ว์

8. มีการจดบนั ทกึ ขอ้ มลู เพ่ือตรวจสอบยอ้ นกลบั

องคก์ รทีม่ ีบทบาทดา้ นเกษตรอินทรียร์ ะดบั สากล ไดแ้ ก่

1. สหพนั ธ์เกษตรอินทรียน์ านาชาติ (International Federation of Organic
Agriculture Movements, IFOAM)

2. สภาสหภาพยโุ รป (European Union Council)

3. โครงการอินทรียแ์ ห่งชาตขิ องสหรัฐอเมริกา (The United States Department of
Agriculture's National Organic Program, USDA/NOP)

4. กระทรวงเกษตร ป่ าไมแ้ ละประมงของญ่ปี ่ นุ (The Ministry of Agriculture,
Forestry and Fisheries, MAFF)

5. โครงการมาตรฐานอาหารระหว่างประเทศของสหประชาชาติ (The Codex
Alimentarius Commission, Codex)

องคก์ รขา้ งตน้ ไดก้ าหนดมาตรฐานโดยใชช้ ื่อที่แตกตา่ งกนั ไป ไดแ้ ก่ มาตรฐาน
(standards) ขอ้ กาหนด (regulation) แนวทาง (guideline)

องคก์ รระดบั สากลทีม่ ีมาตรฐานการเพาะเล้ยี งสตั วน์ ้าอนิ ทรียช์ ดั เจนคอื IFOAM
ซ่ึงเป็นมาตรฐานข้นั ต่า (IFOAM Basic Standards, IBS) หน่วยรับรอง (Certification
Body, CB) สามารถนาไปกาหนดมาตรฐานให้สูงกวา่ IBS ไดแ้ ตก่ าหนดให้ต่ากวา่ ไม่ได้
มาตรฐาน IFOAM ที่ใชใ้ นปัจจุบนั คือ Version 2005

รัฐบาลไดป้ ระกาศเจตนารมณใ์ ห้การพฒั นาเกษตรอินทรียเ์ ป็นวาระแห่งชาติ เม่ือ
วนั ที่ 24 ธนั วาคม 2547 และมอบใหส้ านกั งบประมาณร่วมดาเนินการจดั ทาแผน
งบประมาณบูรณาการ พฒั นาเกษตรอินทรีย์ ปี 2549 - 2552 ตอ่ มาคณะรัฐมนตรีมมี ติ
เห็นชอบ ในหลกั การให้ยทุ ธศาสตร์เกษตรอินทรียเ์ ป็นวาระแห่งชาติ เมอ่ื วนั ที่ 4 มกราคม
2548

นโยบายกรมประมงดา้ นการเพาะเล้ยี งสตั วน์ ้าอินทรีย์ จะใชก้ ารตลาดนาการผลิต
เนน้ สัตวน์ ้า 3 ชนิด คือ กุง้ กลุ าดา กุง้ แวนนาไม (กุง้ ขาว) และปลาสลิด ปัจจุบนั กรม
ประมงกาลงั ดาเนินการจดั ต้งั "ศนู ยพ์ ฒั นาระบบและรับรองมาตรฐานสัตวน์ ้าอนิ ทรีย"์
(ศรอ.)

กุง้ ทะเลอินทรียใ์ นประเทศเอกวาดอร์ไดร้ ับการรับรองจาก Naturland (นา-ทวั -ลนั )
หน่วยรบั รองจากประเทศเยอรมนีเป็นแห่งแรกเมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2543 สาหรบั ใน
ประเทศไทย กรมส่งเสริมการส่งออก ไดส้ นบั สนุนการผลิตกุง้ ทะเลอนิ ทรีย์ ร่วมกบั กรม
ประมง และภาคเอกชนคือบริษทั ท็อปออร์กานิกโปรดกั ส์แอนดซ์ พั พลายส์ จากดั ต้งั แต่
พ.ศ. 2545 ไดผ้ ลผลิตกุง้ กุลาดารุ่นแรกเพียง 2 ตนั ไมส่ ามารถส่งออกไดเ้ นื่องจากสินคา้ ไม่
เต็มตูค้ อนเทนเนอร์ จึงขายกุง้ แช่แขง็ ในประเทศแทน ตอ่ มาในปี พ.ศ. 2547 บริษทั ฯ ผลิต
กุง้ ได้ 33.5 ตนั เป็นกงุ้ กลุ าดา 7.7 ตนั กงุ้ ขาวแวนนาไม 25.8 ตนั ปัญหาดา้ นการผลิตคอื ได้
กุง้ ทม่ี ขี นาดเลก็ กว่า 50 ตวั /กิโลกรัม ขนาดกงุ้ ที่ตลาดตอ้ งการคือ กงุ้ กุลาดาขนาดต้งั แต่ 50
ตวั /กิโลกรมั กุง้ ขาวขนาดต้งั แต่ 70 ตวั /กิโลกรัม

ปัจจบุ นั บริษทั STC จากดั หยดุ กิจการดา้ นกงุ้ อินทรียช์ วั่ คราว จึงมีผูป้ ระกอบการ
ผลิตกงุ้ อินทรียเ์ พียงรายเดียว คอื บริษทั เจริญโภคภณั ฑอ์ าหาร จากดั (มหาชน) หรือ CPF
ฟาร์มต้งั อยทู่ ่ี จ.จนั ทบุรี ไดร้ ับการรับรองจาก Bioagricert หน่วยรบั รองประเทศอติ าลี แต่

ผลผลติ จากการเล้ียงยงั ต่ามาก และสภาพดินไม่ดี ฟาร์มทีม่ ศี กั ยภาพทจ่ี ะไดร้ ับการรบั รอง
อกี แห่งคือ สุรีรตั น์ฟาร์ม จ.จนั ทบุรี

อธบิ ายเหตุผลเกยี่ วกบั การทาเกษตรอินทรีย์ในเร่ืองที่ตัวเองสนใจ : อธิบายในคาบเรียน

โปรแกรมทีใ่ ช้ในสืบค้นข้อมลู : https://www.google.co.th/?hl=th

บอกวิธกี ารค้นหาข้อมูลบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต : การหาทาง
https://www.google.co.th/?hl=th เพือ่ คน้ หาขอ้ มูล

อ้างอิงเวบ็ แหล่งทม่ี าของข้อมูลทส่ี ืบค้น :
https://www.fisheries.go.th/extension/group/thai/organic.htm

ใบงานท่ี 5

แฟม้ สะสมผลงาน

วิชา เทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อการจดั การอาชีพ

สาขาวชิ า

เพาะเลยี้ งสตั ว์นำ้

โดย
นายวัฒนา สมนวล

รหสั นกั ศึกษา

63306010006

วทิ ยาลยั เกษตรและเทคโนโลยีตรัง
สถาบันอาชีวเกษตรภาคใต้

ใบงานท่ี 6

ตารางการหาคาผลรวมโดยการคานวน

รหสั วชิ า ช่ือวิชา ห ่นวยการเ ีรยน
คะแนนระหว่างภาค
คะแนนปลายภาค

่รวมคะแนน
ผลการเ ีรยน

ดร221 ดนตรสี ากล 2 69 21 90 4

บห300 การบรกิ าร 1.5 72 18 90 4

จศ202 จติ วทิ ยาพัฒนาการ 1 66 24 90 4

นน301 แนะแนวเบอื้ งตน้ 2 55 15 70 3

ทน301 เทคโน การศกึ ษา 1 56 16 72 3

สข412 สวัสดกิ ารศกึ ษา 0.5 71 23 94 4

วผ401 วดั ผลการศกึ ษา 2.5 63 22 85 4


Click to View FlipBook Version