The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือการประกอบเครื่องคอมพิวเตอร์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Nattaya9145, 2019-11-27 21:33:16

คู่มือการประกอบเครื่องคอมพิวเตอร์

คู่มือการประกอบเครื่องคอมพิวเตอร์

คมู่ อื การประกอบเคร่อื งคอมพวิ เตอร์

นางสาวณัฐธยาน์ บญุ ห้อ

คำนำ

รายงานเล่มนีเ้ ปน็ สว่ นหนึง่ ของวิขาคอมพิวเตอร์และการบารงุ รกั ษา ชัน้ ปวช.2 เพ่อื ใหไ้ ดศ้ ึกษาความรู้
ในเรอ่ื งการประกอบคอมพิวเตอร์ และได้ศึกษาอย่างเข้าใจเพื่อเปน็ ประโยชน์ในการเรยี น

ผู้จัดทาหวังว่างานชนิ้ นเ้ี ป็นประโยชนก์ บั ผู้อ่าน หรอื นักเรียนทก่ี าลังหาข้อมลู เรือ่ งนี้อยู่หากมขี อ้ แนะนา
หรอื ผิดพลาดประการใด ผจู้ ัดทาขอน้อมรับไวล้ ะขออภยั มา ณ ทีน่ ้ดี ว้ ย

ผู้จดั ทา
21 พฤศจิกายน พ.ศ.2562

สำรบญั หน้า
1-2
เร่อื ง
1.เครื่องมือที่ใชใ้ นการประกอบเครื่องคอมพวิ เตอร์ 3-10

2.อุปกรณ์ทีใ่ ช้ในการประกอบเครอื่ งคอมพิวเตอร์ 11-20

3.ขน้ั ตอนการประกอบคอมพิวเตอร์ 21

4.บรรณานุกรม

1
4.1 เครอื่ งมอื ทใ่ี ชใ้ นกำรประกอบเครือ่ งคอมพิวเตอร์
1. ไขควงปากแบน เป็นไขควงท่มี ลี กั ษณะปากของแบนลาดเอียงไปยงั สว่ นปลาย ก้านของไขควงทา
ดว้ ยเหลก็ และอบคนื ตัว ส่วนปลายจองไขควงใชไ้ ขสกรหู รอื คลายสกรูผา่ ตรง โดยด้านขนานของปลาย
ไขควงต้องสวมพอดีกบั รอ่ งของหัวสกรู

2. ไขควงปากแฉก เปน็ ไขควงท่ีมีลักษณะปากของไขควงเอียงไปยังส่วนปบายแต่เป็นร่องแฉก ก้านของ
ไขควงทาดว้ ยเหบก็ ชบุ แข็งและอบุ คนื ตัว สว่ นปบายของไขควงใช้ไขสกรูหรอื คลายสกรูหัวรอ่ งแฉก
โดยปบายของไขควงทเ่ี ป็นร่องแฉกตอ้ งสวมพอดกี ับร่องของหัวสกรู

2
3. ไขควงวงบลอ๊ คหกเหล่ียม ลกั ษณะเหมือนไขควงแบน ต่างกนั ตรงปลายไขควงจะเป็นหวั เหล่ยี ม
สาหรับนอตหวั เหล่ียม

4. คีมปากยาว ปากคมี มีคมไวส้ าหรับตดั ดา้ นขา้ ง และ สามารถใชจ้ บั ช้ินงานได้เหมาะกบั การใชง้ านตัด
และ จับชน้ิ งานปกตคิ ีมจะชุบแขง็ ไมค่ วรจับชิ้นงานท่ีรอ้ น นอกจากคมี งานเชื่อม ไม่ควรใชแ้ ทนประแจ
อย่าใชค้ ีมตัดลวดเหลก็ สปรงิ ห้ามใชข้ ันขว้ั ไฟแรงสงู ห้ามใช้คอ้ นชว่ ยตีถ้าตอ้ งการตดั ลวดหลังใชง้ าน
เชด็ ทาความสะอาด หยอดน้ามันจดุ ขอ้ ต่อ

3
4.2.อปุ กรณ์ท่ใี ชใ้ นกำรประกอบเคร่อื งคอมพิวเตอร์
1. จอภำพ (Monitor)

เปน็ อุปกรณ์แสดงผลท่ีมีความสาคัญมากท่สี ดุ เพราะจะตดิ ต่อโดยตรงกับผ้ใู ช้ ชนิดของจอภาพทีใ่ ช้
ในเคร่อื งพซี ีโดยทั่วไปจะแบง่ ได้เป็น 2 ชนดิ

- จอซีอาร์ที (CRT : Cathode Ray Tube) โดยมากจะพบในคอมพิวเตอร์ต้ังโต๊ะ ซ่ึงลักษณะ
จอภาพชนดิ น้ีจะคลา้ ยโทรทศั น์ ซง่ึ จะใชห้ ลอดสุญญากาศ

การทางานของจอประเภทน้ีจะทางานโดย อาศัยหลอดภาพ ท่ีสร้างภาพโดยการยิงลาแสง
อิเล็กตรอนไปยังที่ผิวหน้าจอ ท่ีมีสารพวกสารประกอบของฟอสฟอรัส ฉาบอยู่ที่ผิว ซึ่งจะเกิดภาพ
ขึ้นมาเม่ือสารเหล่านี้เกิดการเรืองแสงข้ึนมา เม่ือมีอิเล็กตรอนมากระทบ ซึ่งในส่วยของจอแบบ
Shadow Mask น้ัน จะมีการนาโลหะท่ีมีรูเล็กๆ มาใช้ในการกาหนดให้แสงอิเล็กตรอนนั้นยิงมาได้
ถูกต้อง และแม่นยา ซ่ึงระยะห่างระหว่างรูน้ีเราเรยี กกันวา่ Dot Pitch ซ่ึงในรนู ้ีจะมสี ารประกอบของ
ฟอสฟอรัสวางเรียงกันอยู่เป็น 3 จดุ 3 มมุ โดยแต่ละจดุ จะเปน็ สีของแมส่ ีน้ันก็คือ สีแดง สีเขียว และสี
น้าเงิน ซง่ึ แตล่ ะจุดนี้เราเรียกว่า Triad ในสว่ นของจอแบบ Trinitron น้ันจะมีการทางานท่เี หมือนกัน
แต่ต่างกันที่ ไม่ได้ใช้โลหะเป็นรูแต่จะใช้ โลหะท่ีเป็นเส้นเล็กๆ ขึงพาดไปตาม แนวต้ัง เพื่อท่ีจะให้
อิเล็คตรอนนั้นตกกระทบกับผิวจอท่ีมีสารประกอบของฟอสฟอรัสได้มากข้ึน สาหรับจอ Trinitron

ในปัจจุบันนี่ได้มีการพัฒนาให้มีความแบนราบมากขึ้นซ่ึงจอแบบนี้จะเรียกกันว่า FD Trinitron
(Flat Display Trinitron) ซ่งึ มีมากมายในปจั จบุ ันและจะเข้ามาแทนทจ่ี ะแบบเดิมๆ อีกท้ังราคายังถูก
ลงเป็นอย่างมากด้วย

4
- จอแอลซีดี (LCD : Liquid Crystal Display) ซึ่งมี ลักษณะแบนราบ จะมี ขนาดเล็กและบาง เมื่อ
เปรยี บเทยี บกบั จอภาพแบบซแี อลที

การทางานนัน้ จะไม่เหมือนกับจอแบบ CRT แมส้ กั นดิ เดยี ว ซ่ึงการแสดงภาพนนั้ จะซบั ซอ้ นกว่ามาก
การทางานน้ันอาศัยหลักของการใช้ความร้อนท่ีได้จากขดลวด มาทาการเปลี่ยนและ บังคับให้ผลึก
เหลวแสดงสีต่างๆ ออกมาตามท่ีต้องการซึ่งการแสดงสีนั้นจะเป็นไปตามที่กาหนด ไว้ตามมาตรฐาน
ของแต่ละ บริษทั จึงทาให้จอแบบ LCD มขี นาดทบ่ี างกว่าจอ CRT อยู่มาก อกี ทั้งยงั กินไฟนอ้ ยกว่า จึง
ทาให้ผู้ผลิตนาไปใช้งานกับ เครื่องคอมพิวเตอร์แบบเคล่ือนท่ีโน้ตบุ๊ค และเดสโน้ต ซ่ึงทาให้เครื่องมี
ขนาดท่ีบางและเลก็ สามารถพกพาไปได้สะดวก ในสว่ นของการใชง้ านกับเครอื่ งเดสก์ทอ็ ปทั่วไป กม็ ีซึ่ง
จอแบบ LCD นจี้ ะมีราคาทแ่ี พงกว่าจอทัว่ ไปอยปู่ ระมาณ 2 เท่าของ ราคาในปจั จุบัน

2.เคส (Case)
เคส คือ โครงหรอื กล่องสาหรบั ประกอบอุปกรณ์ตา่ ง ๆ ของคอมพิวเตอร์ไว้ภายใน การเรียกช่อื

และขนาด ของเคสจะแตกต่างกนั ออกไป ซ่งึ ในปัจจุบนั มีหลายแบบทน่ี ยิ มกัน แลว้ แต่ผู้ซอื้ จะเลอื กซื้อ
ตามความเหมาะสม ของงาน และสถานทนี่ ั้น

5
3. พำวเวอร์ซพั พลำย (Power Supply)

เปน็ อปุ กรณท์ ่ที าหนา้ ท่ีในการจ่ายกระแสไฟฟ้าใหก้ ับชนิ้ สว่ นอุปกรณ์คอมพวิ เตอร์ ซ่งึ ถา้
คอมพวิ เตอรม์ อี ุปกรณ์ตอ่ พวงเยอะๆ เช่น ฮารด์ ดสิ ก์ ซดี ีรอมไดรฟ์ ดวี ีดีไดรฟ์กค็ วรเลือกพาวเวอร์ซพั
พลายทมี่ ีจานวนวตั ต์สูง เพ่อื ใหส้ ามารถ จา่ ยกระแสไฟได้เพยี งพอ

4. คีย์บอรด์ (Keyboard)
เปน็ อุปกรณใ์ นการรบั ข้อมลู ท่ีสาคญั ทีส่ ดุ มลี ักษณะคลา้ ยแปน้ พมิ พ์ ของเครอื่ งพมิ พด์ ดี มจี านวน

แปน้ 84 - 105 แป้น ขนึ้ อย่กู ับแป้นที่เป็น กลุม่ ตวั เลข (Numeric keypad) กล่มุ ฟงั กช์ ัน (Function
keys) กล่มุ แปน้ พิเศษ (Special-purpose keys) กลุ่มแปน้ ตัวอักษร (Typewriter keys) หรอื กลุ่ม
แปน้ ควบคมุ อื่น ๆ (Control keys) ซึ่งการสัง่ งานคอมพวิ เตอรแ์ ละการทางานหลายๆ อยา่ ง
จาเปน็ ตอ้ งใช้แป้นพิมพ์เป็นหลัก

6
5. เมำส์ (Mouse)

อุปกรณ์รบั ข้อมูลท่นี ยิ มรองจากคยี ์บอร์ด เมาสจ์ ะช่วยในการบง่ ชีต้ าแหนง่ วา่ ขณะนี้กาลงั อยู่ ณ จดุ
ใดบนจอภาพ เรียกว่า "ตัวชตี้ ำแหนง่ (Pointer)" ซึง่ อาศยั การเล่ือนเมาส์ แทนการกดป่มุ บังคับ
ทศิ ทางบนคีย์บอรด์

6. เมนบอรด์ (Main board)
แผน่ วงจรไฟฟา้ แผน่ ใหญ่ทีร่ วมเอาชน้ิ ส่วนอิเล็กทรอนกิ สท์ ส่ี าคญั ๆมาไว้ดว้ ยกนั ซ่ึงเป็นส่วนที่

ควบคมุ การทางานของ อปุ กรณ์ต่างๆ ภายในพีชีทงั้ หมด มีลกั ษณะเปน็ แผน่ รปู รา่ งสี่เหล่ยี มแผ่นท่ี
ใหญท่ ีส่ ุดในพีชี ที่จะรวบรวมเอาชปิ และไอชี (IC = Integrated Circuit) รวมท้ัง การด์ ตอ่ พ่วงอ่นื ๆ
เอาไวด้ ้วยกนั บนบอร์ดเพยี งอันเดียวเครอื่ งพชี ที กุ เคร่ืองไมส่ ามารถทางาน ได้ถา้ ขาดเมนบอร์ด

7. ซพี ียู (CPU)
ซพี ียูหรอื หน่วยประมวลผลกลำง เรียกอีกชื่อหนึ่งวา่ โปรเซสเซอร์ (Processor) หรือ ชิป

(chip) นับเปน็ อุปกรณท์ มี่ ีความสาคัญมากที่สุดของฮาร์ดแวร์ เพราะมีหนา้ ทใ่ี นการประมวลผลจาก
ข้อมลู ทีผ่ ใู้ ช้ปอ้ น เขา้ มาทางอุปกรณ์นาเขา้ ขอ้ มลู ตามชดุ คาส่ังหรอื โปรแกรมท่ผี ใู้ ช้ตอ้ งการใชง้ าน
หนว่ ยประมวลผลกลาง ประกอบด้วยส่วนสาคัญ 3 สว่ น คอื

7
1) หน่วยคำนวณและตรรกะ (Arithmetic & Logical Unit: ALU) หนว่ ยคานวณตรรกะ ทา
หนา้ ท่เี หมือนกบั เคร่อื งคานวณอยู่ในเครือ่ งคอมพิวเตอร์ โดยทางานเกยี่ วกับการคานวณทาง
คณิตศาสตร์ เช่น บวก ลบ คูณ หาร อีกทงั้ ยงั มีความสามารถอีกอย่างหนึ่งทีเ่ คร่ืองคานวณธรรมดาไมม่ ี
คอื ความสามารถในเชงิ ตรรกะศาสตร์ หมายถงึ ความสามารถในการเปรียบเทียบตามเงื่อนไขและ
กฎเกณฑ์ทางคณิตศาสตร์ เพอ่ื ให้ได้คาตอบออกมาว่าเงอื่ นไข น้ันเปน็ จริง หรือ เท็จ ได้

2) หนว่ ยควบคมุ (Control Unit) หน่วยควบคุม ทาหน้าท่คี วบคมุ ลาดบั ขน้ั ตอนการ
ประมวลผล รวมไปถึงการประสานงานกับอปุ กรณ์นาเขา้ ข้อมูล อุปกรณแ์ สดงผล และหน่วยความจา
สารองด้วย ซพี ยี ูท่ีมีจาหนา่ ยในทอ้ งตลาด ไดแ้ ก่ Pentium III , Pentium 4 , Pentium M
(Centrino) , Celeron , Dulon , Athlon

8. กำร์ดแสดงผล (Display Card)
การ์ดแสดงผลใชส้ าหรับเก็บขอ้ มลู ที่ไดร้ บั มาจากซพี ียู โดยท่กี าร์ดบางรุ่นสามารถประมวลผลได้ใน

ตวั การ์ด ซง่ึ จะชว่ ยแบ่งเบาภาระการประมวลผลใหซ้ พี ียู จงึ ทาให้การทางานของคอมพวิ เตอรน์ ั้นเร็ว
ขน้ึ ด้วย ซ่ึงตัวการ์ดแสดงผลน้นั จะมีหนว่ ยความจาในตัวของมนั เอง ถา้ ตวั การ์ดมีหนว่ ยความจามาก ก็
จะรบั ขอ้ มลู จากซีพียไู ด้มากขึ้น ซึ่งจะชว่ ยใหก้ ารแสดงผลบนจอภาพมคี วามเรว็ สงู ขน้ึ ดว้ ย

8

9. แรม (RAM)
RAM ย่อมาจากคาวา่ Random-Access Memory เป็นหน่วยความจาหลกั แตไ่ ม่ถาวร ซ่งึ

จะต้องมีไฟมาหลอ่ เลย้ี งอปุ กรณต์ ลอดในการทางาน โดยถา้ เกิดไฟฟา้ กระพริบหรือดบั ขอ้ มูลทีถ่ กู
บนั ทึกไว้ในหนว่ ยความจาจะหายไปทันที

10. ฮำร์ดดิสก์ (Hard disk)
เป็นอุปกรณ์ท่ใี ชใ้ นการเกบ็ ขอ้ มูลหรอื โปรแกรมต่างๆ ของคอมพวิ เตอร์ โดยฮาร์ดดิสค์จะมี

ลักษณะเป็นรูปสีเ่ หล่ยี มท่ีมีเปลือกนอก เปน็ โลหะแข็ง และมแี ผงวงจรสาหรบั การควบคุมการทางาน
ประกบอย่ทู ดี่ ้านล่าง สว่ นประกอบภายในจะถูกปดิ ผนกึ ไว้อยา่ งมดิ ชิด โดยฮาร์ดดิสคส์ ่วนใหญ่จะ
ประกอบดว้ ยแผ่นจานแมเ่ หลก็ (platters) สองแผน่ หรือมากกวา่ มาจัด เรียงอยบู่ นแกนเดียวกนั เรียก
Spindle ทาให้แผ่นแม่เหล็กหมุนไปพรอ้ ม ๆ กัน เขียนประจาเฉพาะ โดยหวั อา่ นเขยี นทุกหวั จะเชื่อม
ตดิ กันคล้ายหวี สามารถเคลื่อนเขา้ ออกระหว่างแทร็กต่าง ๆ อยา่ งรวดเร็ว ซงึ่ อินเตอร์เฟสของ
ฮารด์ ดิสกท์ ใ่ี ชใ้ นปัจจุบนั มีอยู่ 3 ชนดิ ด้วยกนั

- IDE (Integrated Drive Electronics)
เป็นระบบของ ฮารด์ ดสิ กอ์ ินเตอรเ์ ฟสทีใ่ ช้กนั มากในปัจจุบนั น้ี การต่อไดร์ฟฮารด์ ดสิ ก์แบบ IDE จะ
ต่อผา่ นสายแพรและคอนเนค็ เตอร์จานวน 40 ขาท่ีมอี ยบู่ นเมนบอรด์ สว่ นใหญ่แล้วใน 1 คอนเน็ค
เตอร์ จะสามารถต่อฮาร์ดดสิ กไ์ ด้ 2 ตวั และบนเมนบอร์ด

9
- SCSI (Small Computer System Interface)
เปน็ อนิ เตอร์เฟสท่ีแตกตา่ งจากอินเตอร์เฟสแบบอน่ื ๆ มาก โดยจะอาศัย Controller Card ที่มี
Processor อยู่ในตวั เองทาให้เป็นสว่ นเพ่มิ ขยายกบั แผงวงจรใหม่โดยจะสนบั สนนุ การต่ออุปกรณไ์ ด้ถงึ
8 ตวั แต่การด์ บางร่นุ อาจจะได้ถึง 14 ตัวทเี ดียว โดยส่วนใหญ่แลว้ จะใชง้ านในรปู แบบ Server เพราะ
มีราคาแพงแตม่ ีความเรว็ ในการส่งขอ้ มูลสงู

- Serial ATA (Advanced Technology Attachment)
เป็นอนิ เตอรเ์ ฟสแบบใหม่ เปิดตวั ครง้ั แรกในวันที่ 26 มถิ ุนายน 2545 งาน PC Expo ใน New York
มีความเรว็ ในเขา้ ถงึ ข้อมลู ถงึ 150 Mbytes ตอ่ วนิ าที และใหผ้ ลตอบสนองในการทางานได้เร็วมากใน
สว่ นของ extreme application เช่น Game Home Video และ Home Network Hub โดยเปน็
อินเตอรเ์ ฟสทจ่ี ะมาแทนที่ของ IDE ในปัจจุบนั

10
11. CD-ROM / CD-RW / DVD / DVD-RW

เป็นไดรฟส์ าหรบั อา่ นข้อมูลจากแผ่นซดี รี อม หรอื ดวี ดี ีรอม ซงึ่ ถา้ หากตอ้ งการบันทกึ ขอ้ มลู ลงบน
แผ่นจะตอ้ งใชไ้ ดรฟ์ท่สี ามารถเขียนแผน่ ได้คอื CD-RW หรือ DVD-RW โดยความเรว็ ของ ซดี รี อมจะ
เรียกเป็น X เชน่ 16X , 32X หรือ 52X โดยจะมี Interface เดยี วกบั Harddisk

12. ฟลอ็ ปปด้ี สิ ก์ (Floppy Disk)
เปน็ อุปกรณ์ที่กาเนิดมาก่อนยคุ ของพซี เี สียอีก โดยเร่ิมจากท่มี ขี นาด 8 นวิ้ กลายมาเป็น 5.25 น้ิว

จนมาถงึ ปจั จบุ ันซ่งึ อยทู่ ี่ 3.5 นิ้ว ในสว่ นของความจุเร่มิ ต้นต้ังแตไ่ มก่ ่ีรอ้ ยกโิ ลไบต์มาเป็น 1.44 เมกะ
ไบต์ และ 2.88 เมกะไบต์ ตามลาดบั

11
4.3 ขนั้ ตอนกำรประกอบคอมพิวเตอร์
1. ขน้ั แรกให้เตรยี มอปุ กรณท์ ีจ่ าเป็นสาหรบั การประกอบเครอื่ งคอมพิวเตอร์ เช่น ไขควงสีแ่ ฉก กล่อง
สาหรับใส่น็อต คมู่ อื เมนบอร์ด คีมปากจิ้งจก

1. ข้นั แรกใหเ้ ตรียมอปุ กรณท์ ่จี าเปน็ สาหรบั การประกอบเครอ่ื งคอมพิวเตอร์ เช่น ไขควงสี่แฉก กล่อง
สาหรับใส่น็อต คู่มือเมนบอรด์ คีมปากจ้ิงจก2. เรมิ่ จากการติดตั้งซีพียกู ่อน โดยงา้ งขาล็อคของซอ็ กเก็ต
ขึน้ มาจากนั้นนาซพี ียูมาใส่ลงไปในซอ็ กเก็ตโดยให้วางตาแหนง่ ขาท่ี 1 ของซีพียูและซอ็ กเกต็ ให้ตรงกัน
โดยสงั เกตวา่ ท่ีขาท่ี 1 ของซพี ียจู ะทาเครื่องหมายเป็นจุดเล็กไว้ทม่ี ุมดา้ นบนของซพี ียู

12
3. เม่ือวางซีพียูตรงล็อคกับซ็อกเก็ตแล้ว จากนั้นใหก้ ดขาลอ็ กลงไปเหมอื นเดมิ แล้วนาซลิ ิโคนมาทา
ตรงบรเิ วณคอร์ (แกน) ของซพี ยี ู และไม่ควรทาซิลโิ คนใหห้ นา หากเหน็ วา่ หนาเกินไปใหใ้ ช้กระดาษ
หรอื แผ่นพลาสตกิ มาปาดออกเสียบา้ ง

4. ตดิ ตั้งฮีทซงิ ค์และพดั ลมลงไปบนคอร์ของซพี ยี ู ตดิ ล็อกใหเ้ รียบร้อยในข้นั ตอนนี้มจี ดุ ท่ีต้องระวัง
อยู่ 2 จุดคอื การตดิ ต้ังฮที ซิงค์ของพัดลมจะตอ้ งแนบสนทิ กบั คอรข์ องซพี ียู อยา่ พยายามกดแรงไป
บางทีคอรข์ องซพี ยี อู าจบิ่นได้ ส่วนขาสปริงท่ยี ึดพัดลมบางทีมนั แข็งเกินไป บางคนใชไ้ ขควงพยามยาม
กดขาสปริงให้เขา้ ลอ็ ก ซึง่ อาจทาให้พลาดไปขดู เอาลายปรน้ิ บนเมนบอร์ดขาดทาใหเ้ มนบอรด์ อาจ
เสียหายได้

13

5. เสยี บสายไฟของพัดลมเข้ากับข้ัว CPU FAN โดยดูจากคูม่ อื เมนบอรด์

6. นาแรมมาเสยี บเขา้ กับซอ็ กเกต็ แรมโดยใหต้ รงกับร่องของซอ็ กเก็ต จากน้นั จงึ กดลงไปจนด้านลอ็ ก
ทง้ั 2 ด้านดดี ขึ้นมา (บางเมนบอรด์ ตัวล็อกท้ังสองดา้ นอาจไมจ่ าเป็นต้องดดี ขึ้นมาก็ได้ให้ดูวา่ เข้าล็อก
กนั กพ็ อ)

14

7. ขนั แทน่ รองนอ็ ตเขา้ กบั เคส

8. นาเมนบอรด์ ที่ไดต้ ิดตั้งซพี ยี ูและแรมวางลงไปบนเคส จากนน้ั ขนั น็อตยึดเมนบอร์ดเขา้ กบั ตัวเคสให้
ครบทุกตัว

9. เสยี บการ์ดแสดงผลลงไปในสลอ็ ต AGP เสรจ็ แลว้ ขันน็อตยดึ ติดกบั เคส

15

10. เสียบการด์ เสยี งลงไปในสลอ็ ต PCI เสร็จแล้วขันน็อตยึดตดิ กบั เคส

11. เสียบสายเพาเวอร์ซัพพลายเข้ากับข้วั ตอ่ บนเมนบอรด์ โดยควรเสียบให้ปล๊กั ของสายเพาเวอรซ์ ัพ
พลายตรงล็อกกับขว้ั ตอ่ บนเมนบอร์ด

12. สอดไดรฟ์ซดี รี อมเข้ากับชอ่ งว่างหนา้ เคส แล้วขนั น็อตยดึ กบั ตวั เคสให้แน่น

16
13. เสยี บสาย IDE เขา้ กบั ไดรฟซ์ ดี รี อมโดยให้แถบสีแดงตรงกับขาที่ 1หรอื ดา้ นท่ตี ิดกบั ข้วั สายไฟ
จากนน้ั จึงเสยี บสายไฟและสายสัญญาณเสียงเข้าไปด้วย

14. เสยี บสาย IDE อีกด้านเข้ากบั ข้วั ตอ่ Secondary IDE บนเมนบอร์ดโดยแถบสีแดงตรงกบั ขา
ที่ 1 ของขั้วตอ่ ด้วย

15. สอดฮาร์ดดสิ ก์เข้ากบั ช่องติดตัง้ แล้วขันน็อตยึดกับตวั เคสใหแ้ นน่

17

16. เสยี บสาย IDE เข้ากบั ฮารด์ ดสิ กโ์ ดยใหแ้ ถบสแี ดงตรงกบั ขาท่ี 1 หรอื ดา้ นท่ีติดกบั ข้วั สายไฟ
จากน้ันจงึ เสยี บสายไฟเข้าไปด้วย

17. เสยี บสาย IDE อกี ดา้ นเข้ากับข้วั ตอ่ Primary IDE บนเมนบอร์ด โดยแถบสีแดงตรงกบั ขาท่ี 1 ของ
ขว้ั ต่อดว้ ย

18. สอดไดรฟฟ์ ล็อบปีด้ สิ กเ์ ข้าไปในชอ่ งติดตง้ั แลว้ ขันน็อตยึดกบั ตัวเคสให้แน่น

18
19. เสยี บสายไฟเข้ากบั ขัว้ ต่อสายไฟของฟล็อบป้ดี สิ ก์ ใหส้ ังเกตสายไฟของฟลอ็ บปดี้ ิสก์จะมีหัวขนาด
เลก็ กวา่ สายไฟของซีดรี อมและฮารด์ ดสิ ก์

20. เสยี บสายแพขนาด 34 เส้น (เส้นเล็กกว่าสายแพของฮารด์ ดิสกแ์ ละซีดีรอม) ใหด้ ้านทม่ี กี ารไขว้
สายเขา้ กบั ขั้วต่อไดรฟ์ฟล็อบปด้ี ิสก์ โดยแถบสแี ดงของสายแพตอ้ งตรงกับขาท่ี 1 ของขว้ั ต่อดว้ ย หาก
ใสผ่ ิดดา้ นไฟของไดรฟฟ์ ลอ็ บปีด้ ิสก์จะตดิ ตลอด วธิ แี ก้ไขคือใหห้ ันสายแพกลบั ด้านเพราะไดรฟ์ฟลอ็ บป้ี
ดิสก์บางย่ีห้ออาจต้องใส่สลบั ดา้ นกัน

19
21. เสยี บสายแพอีกดา้ นเขา้ กบั ขั้วต่อฟลอ็ บปีด้ สิ ก์บนเมนบอร์ด โดยให้สายสีแดงตรงกับขา
ที่ 1 หรอื pin1 ของขั้วต่อด้วย

22. เสียบสายสัญญาณตา่ งๆ จากเคส เช่น สวติ ช์เปดิ ปิดเคร่อื ง ไฟบอกสถานะเปดิ เครอ่ื ง ไฟ
บอกสถานะฮารด์ ดิสก ปมุ่ Reset ลาโพง ลงบนเมนบอร์ดควรดูคูม่ อื เมนบอรด์ ประกอบด้วย โดยต้อง
เสียบขว้ั ให้ถกู หากผิดขวั้ คอมพวิ เตอร์จะไม่ติดหรือมีไฟคา้ งตลอดเวลา วิธแี ก้ไขคือใหเ้ ราลองสลับขั้ว
และเปดิ เคร่ืองขึ้น
มาใหม่

20

23. เม่ือเสร็จเรียบร้อยแล้วให้เราลองสารวจดูว่ามีน็อตหรืออุปกรณ์อ่ืนๆตกค้างอยู่บน
เมนบอร์ดหรือไม่ เพราะอาจทาให้เกิดกระแสไฟลัดวงจรจนเกิดความเสียหายต่อเมนบอร์ดและ
อุปกรณ์ต่างๆ บนเมนบอร์ดได้ นอกจากน้ีควรตรวจสอบการติดตั้งทั้งหมดว่าเรียบร้อยดีแล้ว เช่น
การ์ดตา่ งๆ หรือสายสัญญาณเสียบแน่นหนาดีหรือยัง โดยเฉพาะฮีทซิงค์และพัดลมต้องแนบสนิทกับ
ซีพยี ู พรอ้ มท้งั ล็อกตดิ กันอยา่ งแน่นหนา

24. เมอื่ เรียบรอ้ ยดีแลว้ ปดิ ฝาเคสและขนั นอ็ ตให้เรยี บรอ้ ย กเ็ ป็นอันเสร็จสน้ิ ขัน้ ตอนการ
ประกอบเครื่องอย่างถูกต้องและสมบูรณ์แบบ

21

บรรณานุกรม

1. https://www.google.com/search?ei=SAbWXaHIEsr4vATm0bjgBw&q
2. https://www.google.com/search?ei=SAbWXaHIEsr4vATm0bjgBw&q
3. https://www.google.com/search?ei=lRXWXd

ข้อมูลผจู้ ดั ทำ

นางสาวณฐั ธยาน์ บญุ ห้อ
ปวช2 สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกจิ เลขท่ี6
จบการศกึ ษามาจาก โรงเรียนสวนศรีวิทยา
ที่อยู่ 51 หมู่ 3 ตาบลหาดยาย อาเภอหลังสวน จงั หวดั ชุมพร 86110


Click to View FlipBook Version