เศรษฐศาสตร์
Yuwadee Thianchai
หลักเศรษฐศาสตร์เบื้องต้น
เศรษฐศาสตร์ Economic
การจัดสรรทรัพยากรที่มีอยู่จำกัด เพื่อตอบสนองความ
ต้องการมากมายของมนุษย์ ที่มีอยู่อย่างไม่จำกัดให้เกิด
ประสิทธิภาพสูงสุด
ทรัพยากรที่มีน้อยกว่าความต้องการของมนุษย์
จึงเกิดปัญหาความขาดแคลน
นำไปสู่การตัดสินใจเลือกจัดสรรทรัพยากร
เมื่อมีการเลือกเกิดขึ้น จึงมีค่าเสียโอกาสในเหตุการณ์ที่ไม่ถูกเลือก
ทั้งหมดนี้ก่อให้เกิดปัญหาพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ว่า
What - How - For whom
ทรัพยากรที่มีอยู่ ความต้องการของมนุษย์
ความขาดแคลน
การตัดสินใจเลือก
ค่าเสียโอกาส
ปัญหาพื้นฐานทางเศรษฐกิจ
ปัญหาความขาดแคลน
เหตุการณ์ที่ทรัพยากรที่มีอยู่ ไม่เพียงพอกับความต้องการ
มนุษย์ (ไม่ได้ขึ้นกับจำนวนทรัพยากรว่ามากน้อยหรือน้อย
ขึ้นกับว่าพอหรือไม่พอ)
เช่น
หมู่บ้าน A ผลิตข้าวได้ 700 ตัน แต่ประชากรต้องการ
บริโภค 800 ตัน จึงขาดแคลน
ขณะที่หมู่บ้าน B ผลิตข้าวได้ 400 ตัน แต่ประชากรต้องการ
บริโภค 350 ตัน จึงไม่ขาดแคลน
ปัญหาการตัดสินใจเลือก
การตัดสินใจจัดสรรทรัพยากรที่มี ให้ตอบสนองความ
ต้องการของมนุษย์ได้มากที่สุด
ความต้องการผู้บริโภค=ความพึงพอใจสูงสุด
ความต้องการผู้ผลิต=กำไรสูงสุด
ต้นทุนค่าเสียโอกาส Opportunity
มูลค่าสูงสุดของเหตุการณ์ที่เราไม่ได้เลือก
ตัวอย่างที่ 1 : มีเงิน 100,000 บาท ถ้านำไปฝากธนาคารได้ดอกเบี้ย 3,000
บาท ถ้านำไปปล่อยกู้ได้ดอกเบี้ย 8,000 บาท ถ้านำไปลงทุนได้กำไร 10,000
บาท จะได้ว่า
ถ้าเลือกฝากธนาคาร จะมีต้นทุนค่าเสียโอกาส 10,000 บาท
ถ้าเลือกปล่อยกู้ จะมีต้นทุนค่าเสียโอกาส 10,000 บาท
ถ้าเลือกลงทุน จะมีต้นทุนค่าเสียโอกาส 8,000 บาท ** ค่าเสียโอกาสต่ำที่สุด
ตัวอย่างที่ 2 : ทำงานราชการเงินเดือน 15,000 บาท ทำงานเอกชน
เงินเดือน 30,000 บาท ทำธุรกิจส่วนตัวรายได้ 80,000 บาท จะได้ว่า
ถ้าเลือกทำงานราชการ จะมีต้นทุนค่าเสียโอกาส 80,000 บาท
ถ้าเลือกทำงานเอกชน จะมีต้นทุนค่าเสียโอกาส 80,000 บาท
ถ้าเลือกทำธุรกิจส่วนตัว จะมีต้นทุนค่าเสียโอกาส 30,000 บาท
** ค่าเสียโอกาสต่ำที่สุด
เพิ่มเติม
ค่าเสียโอกาสไม่จำเป็นต้องอยู่ในรูปตัวเงินเหมือนใน
ตัวอย่าง อาจจะรวมถึงคุณค่าต่างๆ ด้วย
เช่น เกียรติยศ อำนาจหน้าที่ หรือหลักประกันทางสังคม
ในความเป็นจริง ค่าเสียโอกาสจึงเป็นสิ่งที่วัดได้ยาก
ปัญหาพื้นฐานทางเศรษฐกิจ
(ปัญหาการผลิต)
ทำอย่างไรจึงจะใช้ทรัพยากรในการผลิตสินค้าและบริการ เพื่อตอบ
สนองความต้องการของมนุษย์ให้ได้มากที่สุดและเกิดประโยชน์สูงสุด
ผลิตอะไร (What) : ควรผลิตสินค้าและบริการอะไร ในปริมาณเท่าใด
ผลิตอย่างไร (How) : ควรใช้วิธีการผลิตแบบไหน ปัจจัยการผลิต
ผลิตเท่าไหร่ เพื่อประสิทธิภาพมากที่สุด
ผลิตเพื่อใคร (For Whom) : ควรกระจายสินค้าและบริการให้ใคร
ในสัดส่วนเท่าไหร่ เพื่อเกิดความเป็นธรรม
สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์
1. แบ่งตามขอบเขตเนื้อหา
1. เศรษฐศาสตร์จุลภาค (ทฤษฎีราคา) : ศึกษาพฤติกรรมและ
การตัดสินใจในระดับบุคคลหรือบริษัท
2. เศรษฐศาสตร์มหภาค (ทฤษฎีรายได้ประชาชาติ) : ศึกษา
เศรษฐกิจภาพรวมระดับชาติ เช่น อุปสงค์ อุปทาน การ
จ้างงาน การว่างงาน เงินเฟ้อ เงินฝืด การเติบโตของ
เศรษฐกิจ นโยบายการเงินการคลัง เป็นต้น
2. แบ่งตามวิธีการวิเคราะห์ปัญหา
1. เศรษฐศาสตร์วิเคราะห์ หรือ เศรษฐศาสตร์ตามเป็นจริง :
การแสวงหาความรู้ความเข้าใจในเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่
เกิดขึ้นจริง เพื่อให้รู้ถึงสิ่งที่เคยเป็นมาในอดีต สิ่งที่กำลังเป็น
อยู่ และสิ่งที่จะเกิดในอนาคต
2. เศรษฐศาสตร์นโยบาย หรือ เศรษฐศาสตร์ตามที่ควรจะเป็น :
การศึกษาเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจต่างๆว่าเป็นแนวทางที่สังคม
พึงพอใจหรือไม่ เกี่ยวเนื่องกับการตัดสินใจในทางคุณค่าว่า
ควรทำหรือไม่ควรทำ
อดัม สมิธ
บิดาวิชาเศรษฐศาสตร์
อัลเฟรด มาร์แชล จอห์น เมย์นาด เคนส์
บิดาวิชาเศรษฐศาสตร์จุลภาค บิดาวิชาเศรษฐศาสตร์มหภาค
หน่วยเศรษฐกิจ Economic Unit
ความหมาย
ผู้มีบทบาทในการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
ประเภทของหน่วยเศรษฐกิจ
หน่วย หน้าที่ เป้าหมาย
ครัวเรือน เป็นเจ้าของปัจจัยการผลิต ความพึงพอใจสูงสุด
(ที่ดิน ทุน แรงงาน ผู้ประกอบการ)
เป็นผู้บริโภค
ธุรกิจ เป็นผู้ผลิต โดยนำปัจจัยการผลิตมาผลิตสินค้าและ กำไรสูงสุด
(กลุ่มบุคคล) บริการ
จำหน่ายสินค้าและบริการให้ผู้บริโภค
รัฐบาล เป็นทั้งผู้ผลิต ผู้บริโภค และเจ้าของปัจจัยการผลิต ความเป็นธรรมของ
ควบคุมทรัพยากรของระบบเศรษฐกิจ รายได้
ดูแลกิจกรรมทางเศรษฐกิจให้เป็นไปตามนโยบายรัฐ
ความสัมพันธ์ของหน่วยเศรษฐกิจ
1. หน่วยครัวเรือน : จำหน่ายปัจจัยการผลิตให้หน่วยธุรกิจ และได้
รับผลตอบแทน ในรูปของ ค่าเช่า ดอกเบี้ย ค่าจ้าง หรือกำไร
2. หน่วยธุรกิจ : ผลิตสินค้าและบริการเพื่อจำหน่ายให้แก่หน่วย
ครัวเรือน และได้รับผลตอบแทนในรูปของค่าสินค้าและบริการ
ผลตอบแทนจากปัจจัยการผลิต
ปัจจัยการผลิต
หน่วยครัวเรือน หน่วยธุรกิจ
สินค้าและบริการ
ค่าใช้จ่ายสินค้าและบริการ
กิจกรรมทางเศรษฐกิจ
ความหมาย
การกระทำต่างๆ ของมนุษย์ที่ก่อให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจ
คือ สามารถตอบสนองความต้องการของมนุษย์ได้
กิจกรรมทางเศรษฐกิจแบ่งเป็น 4 กิจกรรม ได้แก่ การผลิต
การบริโภค การกระจาย และการแลกเปลี่ยน
การผลิต
Production
ความหมาย
การสร้างเศรษฐทรัพย์และบริการขึ้น เพื่อบำบัดความ
ต้องการของผู้บริโภค
โดยการผลิตต้องก่อให้เกิดคุณค่าต่อปัจจัยการผลิต ในทาง
เศรษฐศาสตร์ เรียกว่า “อรรถประโยชน์” มี 5 ประเภท
ดังนี้
อรรถประโยชน์
1. การแปรรูป แปรรูปยางพาราเป็นยางยนต์ แปรรูปแป้งสาลีเป็นขนม
แปรรูปไม้เป็นเก้าอี้
2. การเปลี่ยนสถานที่ การขนส่งสินค้ามายังร้านค้า การส่งไปรษณีย์ นำรัตนชาติ
มาทำเครื่องประดับ
3. การให้บริการ บริการทางการแพทย์ บริการทางการศึกษา บริการธนาคาร
บริการประกันภัย
4. การเพิ่มเวลาใช้สอย การถนอมอาหาร การผลิตน้ำแข็งช่วงหน้าร้อน
การผลิตร่มในหน้าฝน ความเก่า -ใหม่ ความเหมาะสมกับฤดูกาลและการผลิต
5. การเปลี่ยนกรรมสิทธิ์ การซื้อขายบ้าน การซื้อขายรถยนต์ การซื้อขายหลักทรัพย์
ปัจจัยการผลิต
ปัจัยการผลิต ความหมาย ผลตอบแทน
ที่ดิน ที่ดินรวมทั้งทรัพยากรที่ติดอยู่กับที่ดินนั้น เช่น แร่ธาตุ ค่าเช่า
หนองน้ำ ดิน ต้นไม้ บ่อน้ำ
อุปกรณ์ในการผลิตสินค้าและบริการ (ไม่นับเงินทุน) แบ่งเป็น
• ทุนถาวร : มีอายุยาวนาน เช่น ถนน สะพาน โรงงาน
เครื่องจักร
ทุน • ทุนหมุนเวียน : มีอายุสั้น เช่น วัตถุดิบการผลิต น้ำมัน ไฟฟ้า ดอกเบี้ย
• ทุนสังคม : ช่วยส่งเสริมทุนทั้งสอง เช่น สนามกีฬา โรง
พยาบาล
แรงงาน แรงงานจากคน (ไม่รวมแรงงานจากสัตว์และเครื่องจักร) ค่าแรง/ค่าจ้าง
ผู้รวบรวมปัจจัยการผลิต และตัดสินใจเกี่ยวกับปัญหาใน กำไร
ผู้ประกอบการ การผลิต
ขั้นตอนการผลิต
1. ขั้นปฐมภูมิ คือ ขั้นเกษตรกรรม เช่น ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ ประมง
ทำสวน เก็บของป่า ทำนา
2. ขั้นทุติยภูมิ คือ ขั้นแปรรูป นำสินค้าเกษตรมาแปรรูป เช่น ข้าวเปลือก
เป็นข้าวสาร ส้มเป็นน้ำส้ม
3. ขั้นตติยภูมิ คือ ขั้นขนส่งและบริการ เช่น การขนส่งสินค้า บริการ
พยาบาล รายงานข่าว การธนาคาร
ประเภทของสินค้า
1. ทรัพย์เสรี/สินค้าไร้ราคา หมายถึง สินค้าที่ผู้บริโภคไม่ต้องจ่ายเงินเพื่อการ
บริโภค เนื่องจากมีอยู่ตามธรรมชาาติ เช่น อากาศ แสงแดด สายลม น้ำฝน
เป็นต้น
2. เศรษฐทรัพย์ หมายถึง สินค้าที่ผู้บริโภคต้องจ่ายเงินเพื่อการบริโภค เนื่องจากมี
ต้นทุนการผลิต ทำให้สินค้านั้นมีราคา เช่น ที่อยู่อาศัย เสื้อผ้า ยา อาหาร รถ
• ส่วนใหญ่ผู้บริโภคเป็นผู้จ่ายเงินโดยตรง เช่น การซื้ออาหาร บริการการแพทย์
• แต่บางครั้งผู้จ่ายเงินไม่ใช่ผู้บริโภค เช่น การบริจาคทรัพย์
• ทรัพย์ที่รัฐแจกจ่าย ซึ่งเรียกว่า “ทรัพย์ให้เปล่า”
เศรษฐทรัพย์ แบ่งออกเป็น
สินค้าเอกชน : สินค้าที่มีเจ้าของชัดเจน และสามารถกีดกันไม่
ให้ผู้อื่นใช้งานได้ เช่น บ้าน รถ มือถือ
สินค้าสาธารณะ : สินค้าที่ใช้งานร่วมกัน กีดกันการบริโภค
ไม่ได้ เช่น สัญญาณทีวี คลื่นวิทยุ ไฟถนน
เพิ่มเติม : สินค้าที่เกี่ยวกับการผลิต ยังแบ่งออกเป็น
สินค้าทุน : สิ่งที่นำมาใช้ในการผลิต เช่น เครื่องมือ เครื่องจักร
โรงงานผลิต อุปกรณ์
สินค้าขั้นกลาง : สินค้าที่รอการแปรรูปในขั้นการผลิต หรือเรียกว่า
วัตถุดิบ/สินค้าที่เป็นปัจจัยในการผลิต
สินค้าขั้นสุดท้าย : สินค้าที่พร้อมจำหน่ายให้กับผู้บริโภค
การบริโภค
Consumption
ความหมาย
การใช้ประโยชน์จากสินค้าและบริการขั้นสุดท้าย (สินค้าทุนและสินค้าขั้นกลาง
ไม่นับเป็นการบริโภค)
แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
การบริโภคสิ้นเปลือง คือ สินค้าที่บริโภคได้ครั้งเดียวหมดไป เช่น อาหาร
เชื้อเพลิง ยารักษาโรค
การบริโภคไม่สิ้นเปลือง คือ สินค้าที่บริโภคได้มากกว่า 1 ครั้ง เช่น บ้าน รถ
เสื้อผ้า มือถือ ทีวี
ปัจจัยการบริโภค
รายได้
ราคาสินค้า
ปริมาณสินค้า
ฤดูกาล
การโฆษณา
วิธีการชำระเงิน
รสนิยม
กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค
พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2552 แก้ไขเพิ่มเติม 2541 ได้บัญญัติสิทธิของ
ผู้บริโภคไว้ 5 ประการ ดังนี้
1. สิทธิที่จะได้รับข่าวสาร รวมทั้งคำพรรณาที่ถูกต้องและเพียงพอ
2. สิทธิที่จะมีอิสระในการเลือกซื้อสินค้าและบริการด้วยความสมัครใจ
3. สิทธิที่จะได้รับความปลอดภัยจากการใช้สินค้าและบริการที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน
4. สิทธิที่จะได้รับความเป็นธรรมในการทำสัญญา โดยไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบจากผู้ประกอบธุรกิจ
5. สิทธิที่จะได้รับการชดเชยค่าเสียหาย เมื่อมีการละเมิดสิทธิของผู้บริโภค
การกระจาย
Distribution
ความหมาย
การจำหน่ายสินค้าและบริการไปยังผู้บริโภค และการแบ่ง
สรรผลตอบแทนของผู้ผลิต
ประเภทของการกระจาย
1. การกระจายสินค้าและบริการ : การซื้อขายแลกเปลี่ยน เพื่อให้สินค้าไป
ถึงมือผู้บริโภค แบ่งเป็น การขายปลีก (ขายสินค้าทีละน้อยชิ้นแต่กำไร
ต่อชิ้นมาก) และการขายส่ง (ขายสินค้าทีละมากๆ กำไรต่อชิ้นน้อย)
2. การกระจายรายได้ : การกระจายผลตอบแทนจากปัจจัยการผลิต
(ค่าเช่า ดอกเบี้ย ค่าจ้าง กำไร) และการกระจายผลตอบแทนจากการ
ขายผลผลิต (กำไรจากการขายสินค้าและบริการ)
เพิ่มเติม
การกระจายรายได้ที่เป็นธรรม คือ ความพยายามของรัฐที่
จะทำให้รายได้ของประชากรใกล้เคียงกัน เพื่อไม่ให้เกิด
ความเหลื่อมล้ำทางสังคม และป้องกันปัญหาสังคมอันเกิด
จากคนที่มีรายได้เฉลี่ยต่ำ
การแลกเปลี่ยน
Exchange
ความหมาย
การนำสินค้าและบริการมาแลกเปลี่ยนกันโดยวิธีต่างๆ
** เกิดจากความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
วิวัฒนาการของการแลกเปลี่ยน
1. การแลกเปลี่ยนสินค้าโดยตรง : ข้อเสียคือ สินค้าบางชนิดแบ่งเป็น
หน่วยย่อยไม่ได้ หรืออีกฝ่ายไม่ต้องการ จึงแลกเปลี่ยนกันไม่ได้ ทำให้
ตลาดไม่มีสภาพคล่องเท่าที่ควร
2. การแลกเปลี่ยนโดยใช้เงินเป็นสื่อกลาง : ทำให้การแลกเปลี่ยนสะดวก
และรวดเร็วขึ้น ก่อให้เกิดการวัดมูลค่าของสิ่งของ เรียกว่า “ราคา”
ตลาดมีสภาพคล่องมากขึ้น
3. การแลกเปลี่ยนโดยใช้สินเชื่อ : คือการนำเงินในอนาคตมาใช้ก่อน เกิด
จากเงินปัจจุบันไม่พอซื้อสินค้า ซึ่งการแลกเปลี่ยนวิธีนี้ต้องอาศัยความ
เชื่อใจว่าผู้ซื้อสินค้าจะสามารถชำระหนี้ได้ในอนาคต เช่น การใช้บัตร
เครดิต การใช้เช็ค การใช้บัตรแทนเงินสด สินเชื่อต่างๆ ตั๋วแลกเงิน