หลกั การพฒั นาโปรแกรม
ในการเขียนโปรแกรมเพ่อื แกป้ ัญหาต่างๆจาเป็นตอ้ งมกี ารวางแผน และ
ออกแบบโปรแกรมไวล้ ว่ งหนา้ โดยกาหนดขนั้ ตอนวธิ ีการทางานใหช้ ดั เจน
ซง่ึ กระบวนการวิเคราะห์ และออกแบบโปรแกรมเรยี กวา่ วฏั จกั รการ
พฒั นาระบบงาน
ซง่ึ มีกระบวนการทางานเรม่ิ ตน้ จากการวิเคราะหป์ ัญหาไปจนถงึ
การนาโปรแกรมไปใชง้ าน และปรบั ปรุงพฒั นาระบบใหด้ ขี นึ้ มขี นั้ ตอนของ
วฏั จกั รการพฒั นาระบบงาน 7ขนั้ ตอน ดงั ตอ่ ไปนี้
1. กาหนดขอบเขตของ 2. กาหนดขอ้ มลู 3. วิธีการประมวลผล
ปัญหา เพ่ือใหท้ ราบ นาเขา้ ซง่ึ ประกอบ เป็นขนั้ ตอนท่สี าคญั ใน
ขน้ั ตอนการทางาน หวั ขอ้ พิจารณา การแกป้ ัญหา
ตา่ งๆ ดงั นี้ ดงั นี้ ประกอบดว้ ยขอ้ กาหนด
ดงั นี้
1.การวิเคราะหป์ ัญหา
ขนั้ ตอนการวิเคราะหป์ ัญหา 4. กาหนดผลลพั ธ์
สามารถจาแนกไดด้ งั นี้ กาหนดรูปแบบ
5. กาหนดโครงสรา้ งขอ้ มลู ท่ีใช้ ประกอบดว้ ย การแสดงผล เชน่ แสดง
- ภาษาท่ใี ชใ้ นการเขียนโปรแกรม ผลลพั ธเ์ ป็นภาพกราฟ
- วิธีการเกบ็ ขอ้ มลู และเรยี กใชต้ วั แปร ฟิกสท์ างจอภาพ หรอื พิมพ์
ขอ้ มลู ออกทางเคร่อื งพิมพ์
เป็นตน้
1. การออกแบบโปรแกรมโดยใช้ อลั กอรธิ มึ เป็นการ 3. การออกแบบโปรแกรมโดยใช้ ผงั งาน
อธิบายถงึ ลาดบั ขน้ั ตอนการทางานของการแกป้ ัญหา
(Flowchart) คอื การใชส้ ญั ลกั ษณร์ ูปภาพ
โดยใชป้ ระโยคขอ้ ความท่ีชดั เจนไมค่ ลมุ เครอื สามารถ หรอื กลอ่ งขอ้ ความบรรยายรายละเอยี ดการทางาน
และใชล้ กู ศรบอกทศิ ทางลาดบั ของการทางาน
บอกลาดบั การทางานได้
2. การออกแบบโปรแกรม
ประกอบดว้ ยวิธีการดงั นี้ คอื
2. การออกแบบโปรแกรมโดยใช้ รหสั จาลอง เป็นการออกแบบ
ขน้ั ตอนการทางานของโปรแกรมโดยการใชข้ อ้ ความ
ภาษาองั กฤษท่ใี กลเ้ คียงกบั ภาษาคอมพิวเตอร์ ซง่ึ มีหลกั การ
ทางานและประโยชนเ์ หมือนกบั การใชอ้ ลั กอรธิ ่มึ แตม่ ีขอ้ ดี
ดงั นีค้ อื
3. การเขียนโปรแกรม (Program Coding)
เป็นขน้ั ตอนสาคญั หลงั จากไดผ้ า่ นการออกแบบโปรแกรมแลว้ โดยการนาแนวคิดจากอลั กอ
รธิ ่มึ หรอื ผงั งานมาแปลงใหอ้ ยใู่ นรูปคาส่งั คอมพิวเตอร์ โดยอาศยั ความรูแ้ ละทกั ษะการเขียน
โปรแกรมและใชภ้ าษาคอมพิวเตอรร์ วมทงั้ เครอ่ื งมือชว่ ยในการเขียนโปรแกรมตา่ งๆ เพ่ือให้
เกิดผลลพั ธถ์ กุ ตอ้ ง และทางานตามท่ีเราตอ้ งการ สรุปการเขียนโปรแกรม ตอ้ งพิจารณา
องคป์ ระกอบดงั นี้
• เลือกภาษาท่ีเหมาะสม
• ลงมือเขียนโปรแกรม โดยการแปลงขน้ั ตอนการทางาน (ประมวลผล) ท่ี
ไดจ้ ากการออกแบบ ใหอ้ ยใู่ นรูปของคาส่งั ท่ถี กู ตอ้ ง ตรงตามรูปแบบของภาษาท่ีเลอื กนนั้
4. การทดสอบและแกไ้ ขโปรแกรม
การทดสอบและแกไ้ ขโปรแกรม เป็นขน้ั ตอนการตรวจสอบโปรแกรมท่ีเขียนได้ ว่าทางาน
ถกู ตอ้ งตรงตามความตอ้ งการของผใู้ ช้ หรอื ตรงตามลกั ษณะงานของโปรแกรมนน้ั หรอไม่ ความ
ผิดพลาด ( Errors) ท่สี ามารถเกิดขนึ้ ไดจ้ ากการเขียนโปรแกรม มีดงั นี้
• Syntax Error ความผิดพลาดท่เี กิดจากการใชค้ าส่งั ผิดรูปแบบท่ภี าษานนั้ กาหนด
• Logic Error ความผิดพลาดท่เี กิดจากการท่โี ปรแกรมทางานผิดไปจากขนั้ ตอนท่คี วรจะเป็น
• System Design Error ความผิดพลาดท่เี กิดจากการท่โี ปรแกรมทางานไดไ้ มต่ รงตาม
ความตอ้ งการของลกู คา้
5. การจดั ทาเอกสารและคมู่ ือการใชง้ าน
การจดั ทาเอกสารและคมู่ ือการใชง้ านจดั ทาเอกสารตา่ งๆ ท่เี ก่ียวขอ้ งกบั ระบบหรอื การเขียนโปรแกรม ไดแ้ ก่
• คมู่ ือสาหรบั ผใู้ ชโ้ ปรแกรม
• คมู่ ือสาหรบั ผเู้ ขียนโปรแกรม
6. การใช้งานจรงิ
การใชง้ านจรงิ เป็นขน้ั ตอนสาคญั หลงั จากทาการ
ทดสอบและแกไ้ ขโปรแกรมใหม้ ีความถกู ตอ้ งเรยี บรอ้ ยแลว้ โดย
การนาโปรแกรมไปใชง้ านจรงิ ดว้ ยการปอ้ นขอ้ มลู ตา่ งๆ สภาวะ
แวดลอ้ ม และสถานการณต์ า่ งๆโดยผใู้ ชง้ านโปรแกรมสามารถ
ทางานตามฟังกช์ ่นั และทาตามจดุ ประสงคข์ องโปรแกรมท่ี
เขียนไว้
7. การปรับปรุงและพฒั นาโปรแกรม
การเขียนโปรแกรมท่ีดีตอ้ งมีขน้ั ตอนการปรบั ปรุงและพฒั นาโปรแกรมใหม้ ีความ
ถกู ตอ้ ง ทนั สมยั และตรงกบั ความตอ้ งการของผใู้ ชม้ ากท่สี ดุ โดยท่วั ไปโปรแกรมท่ีใชง้ าน
จะประกอบดว้ ยหลายๆรุน่ เชน่ รุน่ ทดสอบ (Beta Version) และ รุน่ ท่ใี ชง้ านจรงิ
(Release Version) และตอ้ งมีการปรบั เปล่ียนโปรแกรมใหด้ ขี นึ้ ดงั ตวั อย่างเชน่
โปรแกรมเวอรช์ นั 1 มีการเพ่ิมเตมิ ปรบั ปรุง แกไ้ ขโปรแกรมเป็นเวอรช์ นั 1.2 เป็นตน้ การ
พฒั นาโปรแกรมใหด้ ขี นึ้ มีประโยชนต์ อ่ ผใู้ ชง้ าน และผเู้ ขียนโปรแกรมตอ้ งอาศยั คมู่ ือการ
ใชง้ าน และเอกสารประกอบของโปรแกรม เพ่ือเป็นแนวทางในการแกไ้ ข และใหผ้ อู้ ่ืนๆ
สามารถพฒั นาตอ่ ได้