ประวัตอิ าเภอภูกามยาว
คาเมือง
ภกู ามยาวดอยงาม ดินแดนสามพระธาตุ
ประวตั ิศาสตรเ์ มอื งเก่า อขู่ ้าวล่มุ นาองิ
คาขวญั ของอาเภอภกู ามยาว
ภูกามยาวดอยงาม ดินแดนสามพระธาตุ
ประวตั ิศาสตร์เมืองเกา่ อูข่ า้ วลุ่มนาอิง
ประชากร (2562)
• ท้ังหมด 21,099 คน
• ความหนาแน่น 98.68 คน/ตร.กม.
(255.6 คน/ตร.ไมล์)
ทตี่ ั้ง
ทวี่ า่ การ ทว่ี ่าการอาเภอภูกามยาว
พกิ ดั ภูมิศาสตร์: 19°16′18″N 99°58′12″E หมูท่ ่ี 17 ตาบลหว้ ยแกว้ อาเภอภกู ามยาว
จงั หวดั พะเยา 56000
อาเภอภูกามยาว
Amphoe Phu Kamyao จงั หวดั พะเยา
พนื้ ท่ี
• ทง้ั หมด 213.8 ตร.กม. (82.5 ตร.ไมล์)
ประวตั ิอาเภอภูกามยาว
พะเยา (คาเมอื ง: พ(ร)ะญาว)[3] เปน็ จังหวัดในภาคเหนือ บรเิ วณ
ท่ตี งั ของตัวเมอื งพะเยาในปจั จุบนั อย่ตู ดิ กบั กว๊านพะเยา เดิมเป็นท่ตี งั
ของเมือง ภูกามยาว หรือ พะยาว ทก่ี อ่ ตังขึนเม่อื พทุ ธศตวรรษท่ี 16
โดยกษตั รยิ ์องค์แรกคือ พญาจอมธรรม ซ่ึงเปน็ ราชบตุ รองค์หน่ึงจาก
เมอื งหริ ัญนครเงนิ ยางเชยี งแสน และเปน็ บรรพบรุ ุษของกษัตริย์เมือง
พะยาวอีกหลายองค์ เช่น พญาเจือง วรี บรุ ษุ แห่งเผา่ ไท-ลาวในพนื ท่ี
ลุม่ แมน่ าโขง และพญางาเมืองซ่ึงไดก้ ระทาสัตยส์ าบานเปน็ ไมตรตี ่อ
กันกับพญามงั รายแหง่ นครพิงค์เชียงใหม่ และพญารว่ งรามคาแหง
แหง่ สโุ ขทยั ภายหลังมีการเปลี่ยนแปลงอานาจ และตกอยภู่ ายใต้
อทิ ธพิ ลของของอาณาจกั รล้านนา ในสมยั พญาคาฟู
เมอื่ ถึงสมยั กรงุ รัตนโกสินทร์ ใน พ.ศ. 2386 ตรงกบั สมัยรชั กาลที่ 3
เมืองพะเยาถกู ตั้งขน้ึ ใหมพ่ รอ้ มเมืองเชยี งรายและเมอื งงาวเพื่อเป็นเมอื ง
หน้าด่านตอ่ ตกี บั กองทพั พม่าท่ตี ั้งอยู่ทีเ่ มืองเชยี งแสน โดยให้เมอื งพะเยา
ขึ้นตรงตอ่ นครลาปาง (พื้นทบี่ างส่วนของจังหวดั พะเยาปจั จบุ ัน ไดแ้ ก่
อาเภอเชียงม่วน อาเภอปง อาเภอเชยี งคา และอาเภอภูซางข้นึ ตรงตอ่
นครน่าน) และในทา้ ยที่สุดก่อนท่ีพะเยาจะถูกยกฐานะข้ึนเปน็ จงั หวัด
พะเยาอยู่ใตก้ ารปกครองของจงั หวดั เชียงรายในฐานะ อาเภอพะเยา และ
เมือ่ วนั ท่ี 28 สงิ หาคม พ.ศ. 2520 อาเภอพะเยาไดย้ กฐานะข้นึ
เปน็ จังหวัดพะเยา นับเปน็ จังหวดั ที่ 72 ของประเทศไทย
อาเภอเมอื งพะเยาในปี 2520 ไดม้ ีพระบรมราชโองการประกาศใช้
พระราชบญั ญตั จิ ดั ตงั จงั หวดั พะเยาขนึ โดยแยกมาจากจงั หวัดเชียงราย และ
เนอ่ื งจากอาเภอเมืองพะเยา จงั หวัดพะเยา มอี าณาเขตท่ีกวา้ งขวางพลเมือง
มีมาก ทอ้ งทบ่ี างตาบลอยู่หา่ งไกลจากอาเภอ และสภาพทอ้ งทโ่ี ดยทว่ั ไปมี
แนวโนม้ ท่ีจะเจริญเพ่มิ ขนึ ในด้านตา่ งๆดังนัน เพ่อื ประโยชน์ในการปกครอง
และอานวยความสะดวกแกป่ ระชาชน กระทรวงมหาดไทยจงึ มปี ระกาศ
กระทรวงมหาดไทยแบง่ พืนท่ีอาเภอเมอื งพะเยา เพ่ือจัดตงั เป็นกงิ่ อาเภอ 1
แห่ง ช่อื ว่า กง่ิ อาเภอภูกามยา ตงั แต่ 1 กรกฎาคม 2540 ตอ่ มา และ
ต่อมาไดม้ พี ระราชกฤษฎีกา ยกฐานะขึนเปน็ อาเภอภูกามยาว ในวนั ท่ี 24
สงิ หาคม 2550 โดยมีผลบังคับตงั แต่วนั ที่ 8 กนั ยายน ปีเดียวกัน
ที่ตังอาณาเขต
อาเภอภกู ามยาวแบ่งเขตการปกครองย่อยออกเปน็ 3 ตาบล 41 หมบู่ ้าน ไดแ้ ก่
1.หว้ ยแกว้ 17 หมบู่ ้าน 2,849 ครัวเรอื น 8,577 คน
2.ดงเจน 16 หม่บู า้ น 3,319 ครัวเรือน 8,809 คน
3.แม่อิง 8 หม่บู า้ น 1,544 ครัวเรือน 4,363 คน
การปกครองส่วนท้องถิ่น
ทอ้ งท่อี าเภอภกู ามยาวประกอบด้วยองค์กรปกครองสว่ นท้องถ่นิ 4 แห่ง ไดแ้ ก่
เทศบาลตาบลดงเจน ครอบคลุมพนื้ ทบ่ี างส่วนของตาบลดงเจนและบางสว่ นของ
ตาบลแมอ่ ิง
องค์การบริหารส่วนตาบลหว้ ยแกว้ ครอบคลุมพ้นื ทตี่ าบลห้วยแก้วท้ังตาบล
องคก์ ารบริหารส่วนตาบลดงเจน ครอบคลุมพืน้ ท่ตี าบลดงเจน (เฉพาะนอกเขต
เทศบาลตาบลดงเจน)
องค์การบริหารสว่ นตาบลแมอ่ ิง ครอบคลุมพนื้ ท่ตี าบลแมอ่ ิง (เฉพาะนอกเขต
เทศบาลตาบลดงเจน)
ภูกามยาวอยหู่ ่างจากเมอื งพะเยาเพยี ง ๑๕ กิโลเมตร เปน็ อาเภอ
ท่เี ล็กท่สี ดุ ในจ.พะเยา แต่ในอดตี นน้ั คือชื่อเดิมของ จ.พะเยา การ
เดนิ ทางไปมาสะดวก ใช้เวลาเพียงสั้นๆที่ภูกามยาวมวี ดั สาคัญอยู่
๒ แห่งและมกี ลมุ่ ตีมีดบา้ นดงเจน ท่ีมีครอบครัวตมี ีดสบื ทอดกนั
มาอยา่ งยาวนาน เป็นอาชพี หลกั นับสบิ ครวั เรือนในชว่ งฤดูฝนจะ
มีเห็ดปา่ นามาขายใกล้ๆกับบ้านดงเจนตลอดเสน้ ทาง
สถานศึกษา ระดบั ประถมศกึ ษา
โรงเรยี นบา้ นเจน(เจนจนั ทรานกุ ูล)
ระดับมธั ยมศึกษา
โรงเรียนอนบุ าลภกู ามยาว
โรงเรยี นดงเจนวิทยาคม
โรงเรียนบา้ นแม่อิง
โรงเรียนเฉลมิ พระเกยี รติสมเดจ็ ศรีนครนิ ทร์
โรงเรยี นบา้ นกว้านเหนือ(สทุ ศั นอ์ ปุ ถัมภ์)
พะเยา โรงเรยี นบา้ นรอ่ งปอ
โรงเรียนบ้านอิงโค้ง
โรงเรยี นบา้ นห้วยแกว้
โรงเรียนบา้ นมว่ งคา
โรงเรียนบา้ นกาดถี
โรงเรียนบ้านห้วยทรายขาว
สถานพยาบาล
โรงพยาบาลภกู ามยาว
โรงพยาบาลสง่ เสริมสขุ ภาพตาบลดงเจน
โรงพยาบาลส่งเสรมิ สขุ ภาพตาบลบ้านเจน
โรงพยาบาลสง่ เสริมสุขภาพตาบลห้วยแก้ว
โรงพยาบาลสง่ เสรมิ สุขภาพตาบลบ้านป่าฝาง
โรงพยาบาลส่งเสรมิ สุขภาพตาบลแม่อิง
ธนาคาร
ธนาคารเพ่ือการเกษตรและสหกรณ์
การเกษตร สาขาภกู ามยาว
รัฐวสิ าหกจิ
การไฟฟา้ ส่วนภูมภิ าคอาเภอภกู ามยาว
สนิ คา้ หน่ึงตาบลหนงึ่ ผลติ ภัณฑ์
1.ผลิตภัณฑ์จากผกั ตบชวา
2.เชือกกลว้ ย
3.ผ้าใยกล้วยทอมอื
4.เชอื กป่าน
5.เสน้ ใยกญั ชง
6.ผ้า (กระเป๋าตะกร้า โคมไฟ เบาะ
รองนั่ง 7.หมอนอิง และของใช้
ตกแตง่ )
สถานที่ทอ่ งเทยี่ ว
1.วดั พระธาตุปูปอ
2.วัดพระธาตุดอยจุก
3.อ่างเก็บน้ารอ่ งติ้ว
4.วดั พระธาตภุ ขู วาง
5.พระธาตภุ กู ามยาว
6.พระธาตุลานเต้ีย
วดั พระธาตุปูปอ
ชาวพะเยาถือวา่ วัดพระธาตุปูปอเป็นวดั พีน่ อ้ งกับวดั ศรโี คมคา ชว่ ง
เทศกาลสงกรานต์ของทุกปจี ะมปี ระเพณีการรดนา้ พระธาตเุ ปน็
ประจา พระธาตุปปู อเปน็ พระธาตทุ รงแปดเหลยี่ มขนาดเลก็ สขี าว
อยู่ไกลๆ้ กับโบสถ์ พระธาตุปูปอตั้งอยทู่ ่ีบา้ นสันป่ากอก ต.ดงเจน
ห่างจากเมืองพะเยาเพยี ง ๗ กิโลเมตร
วัดพระธาตุดอยจุก
พระธาตุดอยจกุ เป็นเจดีย์แปดเหล่ยี ม ศิลปะ
ลา้ นนา มีซมุ้ จระนาท้ังแปดทศิ ภายใน
ประดิษฐานพระพุทธรูปปางประธานพร
ตามตานานเลา่ ต่อกนั มาวา่ พระพทุ ธเจ้า
เสด็จมาพกั ณ บริเวณทีต่ ง้ั ของพระธาตุ ซงึ่ ที่
แหง่ น้ชี าวบ้านเรยี กกนั วา่ ดอยจุก หมายถึง
หยุด วัดพระธาตุดอยจกุ ต้ังอย่บู นเขาทอ่ี .ดง
เจน ทางเข้าวดั อยเู่ ลยจากทางเขา้ วัดพระ
ธาตปุ ูปอไปประมาณ 1.5 ก.ม. อยู่ทาง
ซ้ายมอื เม่อื เดนิ ทางมาจากเมืองพะเยา
พระธาตุภูขวาง ในพะเยามีสองแหง่ ในภาพคอื พระธาตภุ ูขวาง
ท่ีตาบลห้วยแกว้ อาเภอภูกามยาว จงั หวดั พะเยา เปน็ พระธาตทุ ่ีมี
ตานานอนั เก่าแกย่ าวนาน เปน็ ทเ่ี คารพนบั ถอื ของประชาชนในพ้นื ที่
ในทกุ ป(ี ซง่ึ ตรงกันวันขึน้ 15 คา่ เดอื น 4 ตรงกบั วนั มาฆบชู า) จะมี
ประเพณสี รงน้าพระธาตภุ ูขวาง ประชาชน จะนาขมิน้ สม้ ป่อยมาสรง
พระธาตเุ พ่ือความเปน็ ศริ มิ งคล
คากล่าวนมัสการ
นโม ตสั ส ภควโต อรหโต สมั มาสมั พุทธธสั สฯ ตตยิ เกสาธาโย ทกั ขณิ
หัตถอฐั ิธาตุโย ตฏิ ฐนั ตุ เสลปพั พตัง สุวณั ณคหู าปาสาทงั มโน ธัมมัง
อหงั วันทามิ สิรสาอหังวนั ทามิ ทรู โตฯ
พระธาตภุ ขู วาง
ตามตานานกล่าวไว้ว่าสมยั หนึ่งเม่อื สมเด็จพระ
สัมมาสัมพทุ ธเจ้า ของเราทั้งหลาย เสด็จสญั จร
มาดว้ ยอิทธิฤทธิ์ ทรงประทับบนยอดดอยภุขวาง
ท่นี พี้ ระองค์ทรงสถติ สาราญพระอริ ยิ าบถประทับ
อยูใ่ ตร้ ่มรัง อนั มใี นทา่ มกลางดอยทน่ี ้นั พระองค์
ทรงเปลง่ ออกซง่ึ พระรศั มีรังษี(ฉพั พรรณรังษี) 6
ประการคือ ขาว เขียว เหลอื ง แดง หม่นสิ้ว
มีวรรณดงั แก้ววฑิ ูรย์ น้าคา้ ง พวกชาวบา้ นไดเ้ หน็
พระรัษมีของพระพทุ ธองคพ์ ุง่ ออกเป็นฉบั พรนั
รงั สี 6 ประการ
แจง้ ส่องชัชวาลย์ทัว่ ดอยท้ังมวลเปน็ อนั
รุ่งเรอื งงามมากก็บังเกดิ ศรทั ธาปสาทะ ความ
เล่อื มใสโสมนสั ชื่นชมยนิ ดีมากพวกนายบ้าน
ไดเ้ ห็นดังนน้ั ก็ป่าวประกาศ ให้ภรรยาลูกเต้า
ตลอดชาวบา้ นทง้ั หลายแลว้ รีบเร่งจดั แจงแตง่
หาโภชนาหารพร้อมบริบูรณ์แล้วก็นาไปใส่
บาตร(ตักบาตร) ถวายแดพ่ ระพทุ ธเจา้ กบั ทั้ง
พระอรหนั ต์ทกุ พระองค์ พระอรหนั ต์มี
พระพุทธเจ้าเปน็ ประธานก็ทรงรบั ภัตตหาร
บณิ ฑบาต และพระองคก์ ็ฉนั จงั หัน บนดอยที่
นนั้ คร้นั ฉันแล้วก็ทาภัตตกิจ แลว้ แสดงพระ
ธรรมเทศนา อนปุ ุพพิกถามีทานกถา
พระองค์จึงตรสั วา่ สถานทนี่ เ้ี ปน็ ทร่ี ื่นรมย์กนี ักสมควรตง้ั ไว้ซ่งึ
ศาสนาของเราตถาคตครั้นแลว้ พระอานนท์ พทุ ธอปุ ทานกราบ
ทลู วา่ ขอพระธาตเุ กศาของพระองค์ ขณะนั้นพระองคจ์ ึงยก
ทกั ขิณ หตั ถเบอื ้งขวาข้นึ ลูบคลาพระเศยี รไดพ้ ระเกษามา 3
เส้น (3 องค์) แลว้ มอบให้แก่พระอานนทฯ์ ทรงใ้เจ้าารตั นเถระ
ฯ กราบถวายแก่พระยาอโศก แล้วนาเข้าบรรจใุ นกระบอกไม้
รวก จากนน้ั พระอนิ ทร์กม็ ารบั เอาไปบรรจุในโกศแกว้ มรกต
เสรจ็ เรยี บร้อยพระพุทธองคจ์ ึงตรัสส่ังพระอนิ ทร์วา่ ให้เอาพระ
ธาตุเกษาของตถาคตเรานี้ เขา้ บรรจุไว้ในถา้ คหู าทีน่ เี้ ม่ือ
พระองค์ตรัสสั่งดังนั้นแลว้ พระอินทร์ก้ให้ประดบั ประดาตกแต่ง
ในถา้ แหง่ น้นั ดว้ ยแผ่นทองเงิน และแผ่นทองคา เป็นบรเิ วณ
แลว้ เนรมติ รปราสาททองสงู 9 วา ทรงตงั้ แต้ รแวดลอ้ มดว้ ย
เคร่ืองทา้ ว5 ประการ ไว้ทั้ง 4ด้าน ทรงกนั้ เศวตฉตั รไว้12 ด้าน
แลว้ ก็นริ มติ รดอกไมท้ องคา ธงช้าง ธงทวิ แวดลอ้ มท้งั 12 ดา้ น
แล้วนิรมติ รเทวบตุ รรปู ใหญข่ นาดเท่าตัวคน ถอื ดาบศรีกญั ชยั
ยนื เฝา้ รกั ษาอยู่ทกุ มมุ ปราสาท พระธาตทุ ้ัง12 ดา้ น แล้ว
เนรมิตรรูปกมุ ภณั ฑใ์ หญ่เทา่ ตวั คน ยืนถอื ดาบศรีกัญชยั ยืนเฝ้า
ทง้ั 12 ดา้ นจดุ ประทีปใหญไ่ ว้12 ดวงจดุ บชู าไว้ 12ดา้ น ทาให้
สว่างไสวไปทัว่ อุโมงค์
พระธาตุลานเต้ีย ต้ังอยบู่ ้านสนั ต้นแหน หมูท่ ี่
9 ตาบลห้วยแก้ว อาเภอภูกามยาว จงั หวดั
พะเยา อยู่หา่ งจากทว่ี ่าการอาเอภกู ามยาว 20
กโิ ลเมตร ตามความเชอื่ ของชาวบา้ นปรากฎ
ความได้วา่ เดมิ ไมม่ ใี ครทราบชอ่ื แน่ชัดส่วนชื่อ
วา่ พระธาตุลานเตยี้ มาต้งั ช่อื ภายหลัง ประมาณ
10 ปี ผ่านมา ตงั้ โดยพระภิกษชุ ื่อชว่ ง ซ่ึงเป็น
พระธดุ งค์มาจากอิสานเหตุที่ตั้งช่อื ว่า"ลานเตีย้ "
เน่ืองมาจากมีต้นลานต้นเต้ียๆขนึ้ ในบรเิ วณวดั
รา้ งแห่งนจี้ านวนหลายตน้ ปจั จุบนั เป็นวดั ร้าง
ไมม่ พี ระจาพรรษาแตก่ ย็ ังเป็นสถานท่ีเคารพ
และสกั การระบชู าของชาวบา้ นแถบนอ้ี ยู่และมี
ประเพณีสักการะบูชาอยู่ทุกปี
พระธาตุภูกามยาวพะยา
ตั้งอยบู่ ้านม่วงคา หมู่ท่ี1 ตาบลหว้ ยแก้ว อาเภอภูกามยาว แห่งนี้ มี
ความเชอ่ื วา่ เปน็ ทีต่ ัง้ ของเมอื งเกา่ ของอาณาจกั รภกู ามยาว ซ่งึ ค้นพบ
หลักฐานโบราณสถานหลายแห่งตลอดจนซากปรักหกั พังของอฐิ หิน
ศลิ าแลงเป็นจานวนมากในพื้นที่ ประกอบกบั ไดร้ ับการเล่าขานสืบทอด
ตอ่ กนั มาจากผู้เฒา่ ผแู้ กว่ า่ เคยพบเหน็ ลกู แกว้ หรอื ดวงไฟลอยมาเลน่
แกว้ กบั ฐานเจดยี ์เก่าในวนั ขึน้ 15 ค่า โดยเช่ือวา่ เปน็ พระบรม
สารรี กิ ธาตุข้อมอื ขวาจากวัดพระธาตุภูขวาง วดั คู่บา้ น ค่เู มอื งของ
จงั หวดั พะเยา ประกอบกับวัดแหง่ นี้ยงั ไมม่ ีพระสารรี ิกธาตมุ าประทับ
ตามประเพณีล้านนาจงึ ไดม้ กี ารร่วมกนั จดั สรา้ งเจดยี ์บรรจุพระสารรี ิ
ธาตดุ ังกล่าว เพื่อใหผ้ ู้ทม่ี ีความศรัทธาได้มากราบไหว้สกั การะต่อไป
คณะผจู้ ดั ทา
ทปี่ รึกษา
นางวารณี วชิ ัยศริ ผอ.กศน.อาเภอภกุ ามยาว
ผู้เรียบเรียงและจดั ทา
นางสาวชัญญาภคั ดกู ารดี บรรณารกั ษ์
ขอบคณุ ขอ้ มลู จาก วิกิพีเดยี