The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by firstcc3, 2022-08-28 11:57:42

งาน-2

งาน-2

ผู้อุปถัมภ์ทางด้านนาฏศิลป์

วิชาจารีตเเละบุคคลสำคัญในวงการนาฏศิลป์
ชั้นปริญญาตรีปีที่ 4

วิทยาลัยนาฏศิลปจันทบุรี สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์

คำนำ

หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา จารีตและบุคคลสำคัญ
ในวงการนาฏศิลป์ ชั้นปริญญาตรีปีที่ 4 ปีการศึกษา 2565 โดยมีจุดประสงค์เพื่อ
ศึกษาความรู้เกี่ยวกับผู้อุปถัมภ์ทางด้านนาฏศิลป์ในการทำหนังสืออิเล็กทรอนิกส์
ครั้งนี้ ผู้จัดทำขอขอบคุณอาจารย์ฐรดา ประเสริฐ เป็นอย่างสูง ที่กรุณาให้คำแนะนำ
เพื่อแก้ไขและให้ข้อเสนอแนะตลอดการทำงาน

ผู้จัดทำหวังว่าหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ฉบับนี้จะให้ความรู้และเป็นประโยชน์ต่อผู้
อ่านทุก ๆ ท่าน


คณะผู้ศึกษา



สารบัญ หน้า

เรื่อง ก

คำนำ 1
สารบัญ 2
สมัยรัชกาลที่ 1 3
สมัยรัชกาลที่ 2 6
สมัยรัชกาลที่ 3 9
สมัยรัชกาลที่ 4 14
สมัยรัชกาลที่ 5 15
สมัยรัชกาลที่ 6-8 16
สมัยรัชกาลที่ 9



สมัยรัชกาลที่ 1

ละครไทยในยุคต้นรัตนโกสินทร์โดยเฉพาะละครในยังถือเป็นเครื่องราชูปโภค
ของพระมหากษัตริย์ เนื่องจากบ้านเมืองเพิ่งเสร็จศึกสงคราม รัชกาลที่ 1 จึงทรง
มุ่งอนุรักษ์และรวบรวมวรรณกรรมที่ขาดหาย ทรงพระรานิพนธ์ใหม่และนิพนธ์
เพิ่มเติมโดยทรงสอดแทรกความเชื่อทางศาสนาเพื่อความศักดิ์สิทธิ์พร้อมทั้งส่ง
เสริมให้มีการฝึกหัดละครทั้งละครนอกและละครใน จึงทำให้มีคณะละครทั้งละคร
หลวง คณะละครของเจ้านาย และคณะละครเอกชนอื่น ๆ เกิดขึ้นหลายคณะใน
สมัยนี้ เเต่มี 2 คณะที่ปรากฏชื่ออย่างชัดเจนที่ เนื่องจากที่ได้เป็นครูละครชั้นหลัง
มา

1 โรงละครของเจ้าฟ้ากรมหลวงเทพหริรักษ์โรง (เล่นเป็นละครใน)
2 โรงละครนายบุญยัง (เล่นเป็นละครนอก)

1

สมัยรัชกาลที่ 2

1 โรงละครต้นสนของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย

2

สมัยรัชกาลที่ 3

ละครของเจ้านายและขุนนางผู้ใหญ่ ซึ่งหัดขึ้นเมื่อรัชกาลที่ 3 ที่มีชื่อปรากฏ
ได้เเก่

1 ละครวังหน้า กรมพระราชวังบวรมหาศักดิพลเสพทรงหัดขึ้นโรง 1
เป็นละครผู้หญิงทั้งโรง เล่นทั้งเรื่องพระราชนิพนธ์รัชกาลที่ 2 และเรื่องอื่น
ซึ่งทรงพระราชนิพนธ์เป็นบทละครนอกขึ้นใหม่ มี 4 เรื่อง

2 ละครพระบาทสมเด็จฯ พระปิ่ นเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อยังดำรงพระยศเป็น
เจ้าฟ้ากรมขุนอิศเรศร์รังสรรค์โรง 1 เล่ากันว่ากระบวนเล่นเป็นแต่กระนั้นเอง
เพราะเจ้าของไม่สู้เอาพระทัยใส่ ทรงเล่นอยู่หน่อยหนึ่งก็เลิกเสียแต่เมื่อยังเป็น
กรม โปรดทรงแต่ปี่ พาทย์

3 ละครกรมหลวงรักษรณเรศร์โรง 1 เล่ากันว่าเล่นอิเหนาบทพระราชนิพนธ์
รัชกาลที่ 1 หาเล่นบทพระราชนิพนธ์รัชกาลที่ 2 เหมือนโรงอื่นไม่

4 ละครกรมพระพิพิธโภคภูเบนทร์ เมื่อยังเป็นกรมขุนพิพิธภูเบนทร์โรง 1
เล่ากันว่ากระบวนรำดีกว่าโรงอื่นทั้งนั้น

5 ละครกรมหลวงภูวเนตรนรินทรฤทธิ์ เมื่อยังเป็นพระองค์เจ้าทินกรโรง 1
เล่ากันว่าตัวละครหัดรำแบบละครหลวงแต่โปรดทรงเรื่องละครนอก
ได้ทรงแต่งบทละครนอกขึ้น ๓ เรื่อง

3

สมัยรัชกาลที่ 3

6 ละครกรมพระพิทักษเทเวศร์ เมื่อยังเป็นกรมหมื่นโรง 1

7 ละครพระองค์เจ้าลักขณานุคุณ เล่ากันว่าเดิมได้โขนข้าหลวงเดิมพระบาท

สมเด็จฯ พระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวไปทรงเล่นโขนตามประเพณีเก่าอยู่ก่อน ภายหลัง
จึงโปรดให้นายเกษ พระรามโขนข้าหลวง เดิมเป็นครูหัดละครขึ้นโรง 1 เพราะ
ฉะนั้น นายเกษพระรามจึงได้เป็นครูครอบโขนละครเมื่อรัชกาลที่4

8 ละครกรมหมื่นภูมินทรภักดี เมื่อยังดำรงพระยศเป็นพระองค์เจ้าลดาวัลย์

โรง 1 แต่มาเลิกเสียเมื่อรัชกาลที่ 4

9 ละครเจ้าพระยาบดินทรเดชา เป็นละครผู้หญิงโรง 1 เล่ากันว่าเดิมหัดโขน

ให้เล่นเป็นละครผู้ชาย แล้วจึงหัดละครผู้หญิงขึ้น ครั้นเมื่อไปขัดตาทัพอยู่ที่เมือง
อุดงค์มีชัยพาละครผู้หญิงไปด้วย จึงไปเป็นครูหัดละครผู้หญิงของสมเด็จ
พระหริรักษ์ (นักพระองค์ด้วง) เจ้ากรุงกัมพูชาขึ้นอีกโรง 1 ด้วยละครที่มีใน
กรุงกัมพูชานั้น แรกมีขึ้นเมื่อครั้งนักพระองค์จันเป็นสมเด็จพระอุทัยราชา
เจ้ากรุงกัมพูชา ได้ครูออกไปจากกรุงเทพฯ เมื่อรัชกาลที่ 1 เป็นละครนอกสมเด็จ
พระหริรักษ์ มาหัดละครในไปจากเจ้าพระยาบดินทรเดชา จึงได้มีละครที่ใน
กรุงกัมพูชาแต่นั้น

4

สมัยรัชกาลที่ 3

10 ละครสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิชัยญาติ หัดขึ้นเมื่อยังเป็นพระยาศรีพิพัฒน์

โรง 1 แต่ว่าเล่นอยู่ไม่ช้าก็เลิก

11
ละครเจ้าพระยานครศรีธรรมราช (น้อย) เป็นละครผู้หญิงอีกโรง ๑ เล่ากันว่า
เดิมหัดโขนผู้ชาย แล้วกรมพระราชวังบวรมหาศักดิพลเสพ พระราชทาน
เครื่องละครและตัวละครผู้หญิงวังหน้าไปหลายคน เพราะเจ้าพระยานครฯ (น้อย)
เป็นพระญาติของกรมพระราชวังบวรฯ พระองค์นั้น จึงหัดละครผู้หญิงขึ้นที่เมือง
นครศรีธรรมราช ตัวละครโรงนี้ ได้เป็นครูละครที่เมืองนครฯ และเมืองตะกั่วป่า
ที่เล่นต่อมาในรัชกาลที่ 4 และรัชกาลที่ 5

5

สมัยรัชกาลที่ 4

ละครที่หัดขึ้นเมื่อรัชกาลที่ 4 มีชื่อเสียงปรากฏสืบมาหลายโรงคือ

1 ละครกรมหมื่นมเหศวรศิววิลาศ โรง ๑ ได้ละครกรมหลวงรักษณเรศร์มา
เป็นครูหลายคน แต่เล่ากันว่าท่ารำก้นงอนผิดกับละครโรงอื่น

2 ละครของพระองค์เจ้าดวงประภา (พระองค์ตุ้ย) กับพระองค์เจ้าสุดาสวรรค์
(พระองค์ปุก) พระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระปิ่ นเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงหัดขึ้น
ด้วยกันที่ในพระบวรราชวังโรง 1 ได้ครูผู้หญิงละครหลวงครั้งรัชกาลที่ 2 ฝึกหัด
เล่นทั้งละครในและละครนอก และเล่นรับงานด้วย เล่นมาถึงรัชกาลที่ 5 ตลอดจน
พระชนมายุของพระองค์เจ้าดวงประภา

3 ละครของสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ เมื่อยังเป็นเจ้าพระยาศรี

สุริยวงศ์ ที่สมุหพระกลาโหมหัดขึ้นโรง 1 เล่ากันว่า เดิมท่านได้พระราชทานบ้าน
เจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ที่สะพานหัน มีตัวละครของเจ้าพระยา
บดินทรเดชาเหลืออยู่ในบ้านนั้นบ้าง ท่านจึงรวบรวมตั้นต้นหัดละครขึ้น ครั้นต่อ
มาจึงหาตัวละครขึ้นใหม่อีกชุด 1 เลือกหาครูล้วนแต่ที่มีชื่อเสียงวิเศษมาฝึกหัด
เล่นตามแบบละครหลวงครั้งรัชกาลที่ 2 แต่ฝึกหัดไว้เฉพาะละครตัวดี ถ้าจะเล่น
ออกโรงเมื่อใด ท่านขอแรงละครนอกโรงอื่นๆ มาผสมโรง ได้เคยเล่นถวายตัวใน
รัชกาลที่ 4

6

สมัยรัชกาลที่ 4

4 ละครของเจ้าจอมมารดาจัน รัชกาลที่ 4 หัดขึ้นในพระบรมมหาราชวังโรง 1
ตัวละครโรงนี้ ได้เป็นครูหัดโรงอื่นต่อไปหลายคน คล้ายกับละครเจ้าจอมมารดา
อัมพาเมื่อในรัชกาลที่ 3

5 ละครพระยามณเฑียรบาล (บัว) โรง 1 แล้วตกมาเป็นของธิดา ชื่อเกษ

เล่นต่อมาในรัชกาลที่ 5

6 ละครพระยาสีหราชฤทธิไกร (เสือ) โรง 1 แล้วตกมาเป็นของพระยานรานุกิจ
มนตรี (เปลี่ยน) ผู้เป็นบุตรเล่นต่อมาในรัชกาลที่ 5

7 ละครขุนยี่สาน เสมียนตราวังหน้า บ้านอยู่ที่คลองสะพานหันโรง 1 เลื่องลือ

ในการเล่นเรื่องพระอภัยมณีว่าเล่นดีนัก

8 ละครจางวางเผือก บ้านอยู่ที่ปากคลองตลาดโรง 1 เป็นคู่แข่งกับละคร
เสมียนตรา

9 ละครนายนวล บุตรเจ้ากรับ รับมรดกบิดาเล่นต่อมาจนรัชกาลที่ 5 โรง 1

7

สมัยรัชกาลที่ 4

10 ละครนายเนตร นายต่าย โรง 1 นายเนตรเดิมเป็นละครของคุณหญิงกลีบ
ภรรยาพระยาประจักษ์วรวิไสย นายต่ายนั้น เดิมเป็นละครของกรมหมื่นภูมินทร-
ภักดี เมื่อทรงเลิกเล่นละครจึงมาผสมโรงกับนายเนตร แล้วถวายตัวเป็นข้าหลวง
เดิมในพระบาทสมเด็จฯ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อยังดำรงพระยศเป็นสมเด็จ
เจ้าฟ้ากรมขุนพินิตประชานาถ เสด็จประทับอยู่ที่พระตำหนักสวนกุหลาบ นายต่าย
เป็นตัวนายโรงตลก เช่นเป็นขุนช้างไม่มีใครสู้ นายเนตรนั้น ก็เล่นดีทั้งเป็นนางและ
เป็นยืนเครื่อง กระบวนเล่นละคร โรงนี้มีชื่อเสียงเลื่องลือมาแต่ในรัชกาลที่ 4 จน
รัชกาลที่ 5 จนกระทั่งสิ้นอายุนายเนตร นายต่ายแล้วทั้ง 2 คน นางปลื้มอยู่ที่
เหนือวัดอรุณฯ เป็นน้องของภรรยานายเนตรยังคุมพวกละครเล่นต่อมา

11 ละครนายทับ เดิมนายทับเป็นตัวล่าสำ ละครกรมหลวงรักษรณเรศร์ ฝึกหัดลูก

หลานเล่นเป็นละครนอกขึ้นโรง 1 ละครโรงนี้ เล่นสืบสกุลมาถึง 3 ชั่วคน คือนาง
เอม ธิดานายทับ แล้วพระจัดดุริยางค์ (ป่วน) พระสุนทรเทพระบำ (เปลี่ยน) บุตร
ของนางเอม ยังเล่นต่อมา ละครโรงนี้ยังเล่นอยู่จนบัดนี้

12 ละครชาตรีของนายหนู บ้านอยู่ตำบลสนามควายโรง 1 เล่นอย่างโนห์ราชาตรี

ที่มณฑลนครศรีธรรมราช ผิดกันแต่ตัวนายโรงใส่ชฎาไม่ใช้เทริด และตัวนางเป็น
ผู้หญิงแต่งตัวอย่างละครในกรุง กับมีตัวละครมากกว่าโนห์ราในมณฑล
นครศรีธรรมราช

8

สมัยรัชกาลที่ 5

ละครผู้หญิงที่หัดกันขึ้นข้างนอกครั้งรัชกาลที่ ๕ ที่เป็นละครของผู้มีบรรดาศักดิ์
มีมากกว่าเมื่อรัชกาลที่ 4 เพราะเล่นละครกันแพร่หลายออกไปจนหัวเมือง จะกล่าวถึง
แต่ละครซึ่งนับว่าเป็นโรงใหญ่ในกรุงเทพฯ ก่อน คือ:-

1 ละครของพระองค์เจ้าสิงหนาทราชดุรงค์ฤทธิ์ โรง 1 เริ่มหัดมาในรัชกาลที่ 4

มาตั้งโรงในรัชกาลที่ 5 ละครโรงนี้ เล่นละครในตามแบบรัชกาลที่ 3 ยั่งยืน
เมื่อพระองค์เจ้าสิงหนาทสิ้นพระชนม์แล้ว เป็นของเจ้าพระยาเทเวศร์วงศ์วิวัฒน์
รับสืบสกุลต่อมา ละครโรงนี้ได้เล่นงานหลวงมากกว่าละครโรงอื่น และมีตัวละครที่
รำดีถึงฝีมือครูหลายคน แต่ฝึกหัดกันต่อมาในโรงเดียวกันนั้นเองเป็นพื้น มีปรากฏว่า
ไปเป็นครูโรงอื่น แต่คุณหญิงเทศนัฏกานุรักษ์เป็นตัวยักษ์ ได้เป็นครูอยู่ในกรมมหรสพ
บัดนี้ ตอนหลังเจ้าพระยาเทเวศร์ฯ เล่นละครนอก เช่นเรื่องพระอภัยมณีเป็นโรงใหญ่
บ้าง แล้วสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระนริศรานุวัดติวงศ์ ทรงช่วยคิดให้เล่นละครไทยเป็น
ทำนองละครออปราฝรั่ง เรียกว่าละครดึกดำบรรพ์อีกอย่างหนึ่ง

2
ละครของเจ้าคุณจอมมารดาเอม หัดขึ้นในวังหน้าโรง ๑ เล่นตามแบบละคร
หลวงเป็นพื้น กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ ทรงพระนิพนธ์บทละครนอก
ให้เล่นบ้าง

9

สมัยรัชกาลที่ 5

3 ละครของเจ้าพระยามหินทรศักดิธำรง โรง 1 เล่นเป็นเชื้อมาแล้วแต่ใน

รัชกาลที่ 4 มาตั้งเป็นโรงใหญ่ในรัชกาลที่ 5 เดิมชอบเล่นเรื่องดาหลัง ต่อมาเล่น
ทั้งละครในและละครนอก กระบวนรำ เจ้าพระยามหินทร์ฯ คิดยักเยื้องไปจากแบบ
หลวง จนเกิดเป็นแบบละครเจ้าพระยามหินทร์ฯ ขึ้นอีกอย่าง 1 มีผู้นิยมเอาอย่าง
กันมาก เจ้าพระยามหินทร์ฯ เป็นผู้คิดให้ละครไทยเล่นประจำโรง เก็บเงินคนดูเป็นที
แรก เรียกโรงละครของท่านว่า ปรินสธิเอเตอ หมายความว่า เป็นละครของพระองค์
เจ้าที่เป็นหลานของท่าน มีกำหนดเล่นเวลาเดือนหงาย แต่แรกเล่นเดือนละสัปดาหะ 1
แต่เรียกตามภาษาอังกฤษว่าวิก 1 ภายหลังเล่นเป็นเดือนละ 2 สัปดาหะ ตั้งแต่ขึ้น 8
ค่ำ ไปจนแรม 7 ค่ำ คนก็ยังเรียกคราวที่เล่นละครคราว 1 ว่า “วิก” อยู่อย่างเดิม
จึงเป็นต้นตำราที่ละครโรงอื่น ตลอดจนลิเก เอาเป็นกำหนดเล่นต่อมา

4 ละครของเจ้าพระยานรรัตนราชมานิต (โต) โรง 1 เล่นกับมโหรีคล้ายกับละคร

กลายครั้งรัชกาลที่ 3 แต่มีตัวละคร เล่นเรื่องอิเหนาร้องลำต่างๆ บางทีเป็นเพลง 3
ชั้นก็มี หาได้เล่นเหมือนละครโรงอื่นไม่

5 ละครของท้าวราชกิจวรภัตร แพ ธิดาสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยุรวงศ์โรง 1

เล่นทั้งละครในและละครนอก ตัวละครมีน้อย แต่ได้เคยเล่นถวายตัว

6 ละครของเจ้าคุณจอมมารดาแพ โรง 1 เล่นตามแบบละครเจ้าพระยามหินทร์ฯ

10

สมัยรัชกาลที่ 5

7 ละครของกรมหมื่นนราธิปประพันธ์พงศ์ โรง ๑ ทรงหัดขึ้นเมื่อตอนปลาย

รัชกาลที่ 5 เล่นทั้งละครในและละครนอก ได้เคยเล่นถวายตัวหลายครั้ง เดิมเล่น
เป็นละครรำ แล้วเล่นเปลี่ยนแปลงไปเป็นละครร้อง ตั้งโรงเล่นอย่างละครเจ้าพระยา
มหินทร์ฯ เรียกว่าละครปรีดาลัย เป็นต้น แบบแผนของละครร้องที่เล่นกันมาจน
ทุกวันนี้

8 ละครของหม่อมเจ้าเต่า (หม่อมเจ้าลมุน) ในกรมพระเทเวศรวัชรินทร์ โรง 1

9 ละครของพระยาจิรายุมนตรี (เนียม) เมื่อยังเป็นพระยาอินทราธิบดีสีหราช

รองเมือง โรง 1

10 ละครของพระยาพิศาลผลพาณิช (จินสือ) โรง 1 โรงนี้เล่นกระบวนรบ เอางิ้วเป็น

ครู ผิดกับโรงอื่น

1111 ละครของพระเจ้าอินทวิชยานนท์ พระเจ้าเชียงใหม่ โรง 1
1122 ละครของเจ้าอินทวโรรส เจ้านครเชียงใหม่ โรง 1 เล่นตามแบบละครเจ้าพระยา

มหินทร์ฯ เคยเล่นถวายตัว

11

สมัยรัชกาลที่ 5

13 ละครเจ้าบุญทวาทวงศ์มานิต เจ้านครลำปาง โรง 1
14 ละครของเจ้าพระยาสุรพันธุ์พิสุทธ์ หัดขึ้นแต่เมื่อยังเป็นพระยาเพชรบุรีโรง 1

ได้เคยเล่นถวายตัวหลายครั้ง

15 ละครของเจ้าพระยาสุธรรมมนตรี (หนูพร้อม) เมื่อยังเป็นพระยา

นครศรีธรรมราช โรง 1

16 ละครของเจ้าพระยาคทาธรธรณินทร์ (เยีย) เมืองพระตะบอง (หัดมาแต่

ในรัชกาลที่ 4) โรง 1

17 ละครของพระยาวิชิตสงคราม จางวางเมืองภูเก็ต โรง 1

18 ละครของพระยาเสนานุชิต (นุช) เมืองตะกั่วป่า โรง 1
19 ละครของพระยาจรูญราชโภคากร (คอซิมเต็ก) เมืองหลังสวน โรง 1

ได้เคยเล่นถวายตัว

20 ละครของคุณกุหลาบ ธิดาเจ้าพระยาวิเชียรคิรี เมืองสงขลา โรง 1

12

สมัยรัชกาลที่ 5

13 ละครเจ้าบุญทวาทวงศ์มานิต เจ้านครลำปาง โรง 1

14 ละครของเจ้าพระยาสุรพันธุ์พิสุทธ์ หัดขึ้นแต่เมื่อยังเป็นพระยาเพชรบุรีโรง 1
ได้เคยเล่นถวายตัวหลายครั้ง

15 ละครของเจ้าพระยาสุธรรมมนตรี (หนูพร้อม) เมื่อยังเป็นพระยา

นครศรีธรรมราช โรง 1

16 ละครของเจ้าพระยาคทาธรธรณินทร์ (เยีย) เมืองพระตะบอง (หัดมาแต่

ในรัชกาลที่ 4) โรง 1

17 ละครของพระยาวิชิตสงคราม จางวางเมืองภูเก็ต โรง 1

18 ละครของพระยาเสนานุชิต (นุช) เมืองตะกั่วป่า โรง 1

19 ละครของพระยาจรูญราชโภคากร (คอซิมเต็ก) เมืองหลังสวน โรง 1

ได้เคยเล่นถวายตัว

20 ละครของคุณกุหลาบ ธิดาเจ้าพระยาวิเชียรคิรี เมืองสงขลา โรง 1

13

สมัยรัชกาลที่ 6 - 8

1 โรงละครคณะละครบุศย์มหินทร์ ที่มีชื่อเรียกแปลกถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าของ
โรงละครหรือคณะละครชื่อ นายบุศย์ เป็นลูกชายของ เจ้าพระยามหินทรศักดิ์ธำรง
(เพ็ง เพ็ญกุล) ราชเสวก คนสนิทของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระ
สยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช

2
โรงละครปรีดาลัย’ ของ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์
โรงหลังนี้มีแฟนคลับจำนวนมาก ผลงานที่ขึ้นชื่อเรื่องหรือมากคือเรื่อง สาวเครือฟ้า
ซึ่งดัดแปลงมาจากอุปรากรเรื่อง มาดามบัตเตอร์ฟลาย ของฝรั่งนั่นเอง

3 โรงละครหลวงสวนมิสกวัน’ (เมื่อตอนแรกสร้างเรียกว่าโรงโขนหลวงสวน
มิสกวัน) ตำแหน่งที่ตั้งอยู่ตรงกองทัพภาคที่ 1 หันหลังชนกันกับวัดเบญจมบพิตรฯ
ใกล้กันกับพระลานพระราชวังดุสิต ว่ากันว่าภายในโรงละครตกแต่งอย่างงดงามสม
กับฐานะความเป็นโรงละครหลวงเป็นอย่างยิ่ง

14

สมัยรัชกาลที่ 9

การสร้างโรงละครแห่งชาตินี้ดำเนินการตั้งแต่ช่วงปีพุทธศักราช 2504 จนถึง 2508
ใช้งบประมาณก่อสร้าง 41 ล้านบาท ระหว่างการก่อสร้าง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
แผ่นดินก่อนได้เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรการดำเนินการเมื่อวันที่ 9 มกราคม
พุทธศักราช 2507 กับทั้งได้พระราชทานพระบรมราชวินิจฉัยบางประการ เพื่อให้โรง
ละครแห่งนี้สามารถใช้งานรับแขกบ้านแขกเมืองได้สมความมุ่งหมาย

เมื่อโรงละครสร้างเสร็จและมีพิธีเปิดในช่วงกลางวัน วันที่ 23 ธันวาคมพุทธศักราช
2508 โดยนายกรัฐมนตรีขณะนั้นคือ จอมพลถนอม กิตติขจร เป็นประธานในพิธีแล้ว
เวลาค่ำวันเดียวกัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรม
ราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรการแสดงนาฏศิลป์ไทยที่โรงละครแห่งนี้เป็น
ปฐมฤกษ์ และในเวลาต่อมา เมื่อมีพระราชอาคันตุกะมาเยือนประเทศไทย หลายพระองค์
หลายท่านก็ได้มาทอดพระเนตร และชมการแสดงทางวัฒนธรรมที่โรงละครแห่งชาตินี้อยู่
เป็นประจำ

15

บรรณานุกรม

วชิรญาณ. (2464). ตำนานละครอิเหนา. สืบค้น 20 สิงหาคม 2565
จาก https://vajirayana.org

16

ผู้จัดทำ

นางสาวสุวนันท์ เพ็งจำรัส นางสาวสุกฤตา เเสงอรุณ

นางสาวณัฏฐธิดา อ่อนสอาด นางสาวศศิวิมล นาขวัญ


Click to View FlipBook Version