44
นักดาราศาสตร์กำหนดให้ดาวที่มีอันดับความสว่าง 1 สว่างกว่าดาวที่มี
อันดับความสว่าง 6 อยู่ 100 เท่า ดังนั้น ดาวที่มีอันดับความสว่างแตก
ต่างกัน 1 จะสว่างแตกต่างกันหรือประมาณ 2.5 เท่า
หมายความว่า
● ดาวที่มีอันดับความสว่าง 1 สว่างกว่าดาวที่มีอันดับความสว่าง 2 ประมาณ 2.5 เท่า
● ดาวที่มีอันดับความสว่าง 2 สว่างกว่าดาวที่มีอันดับความสว่าง 3 ประมาณ 2.5 เท่า
● ดาวที่มีอันดับความสว่าง 3 สว่างกว่าดาวที่มีอันดับความสว่าง 4 ประมาณ 2.5 เท่า
45
อันดับความสว่างของวัตถุต่าง ๆ ในอวกาศ เควซาร์
ที่สว่างที่สุด
ดาวซีรีอัส
ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดาวศุกร์ ดาวแอลฟา ดาวเคราะห์น้อย
เซนเทารี
–25 –20 –15 –10 –5 0 +5 +10 +15 +20 +25
● ดวงอาทิตย์มีอันดับความสว่าง –26.7 ● ดวงจันทร์เต็มดวงมีอันดับความสว่าง –12.6
● ดาวซีรีอัสมีอันดับความสว่าง –1.5 ● ดาวเหนือมีอันดับความสว่าง 2
● ดาวศุกร์มีอันดับความสว่าง –4.8 ● ดาวยูเรนัสมีอันดับความสว่าง 5.7
บทที่ 4
ระบบสุริยะ
46
4. ระบบสุริยะ
ระบบสุริยะ (solar system) มีดวง
อาทิตย์เป็นดาวฤกษ์ศูนย์กลาง
ตำแหน่งของระบบสุริยะตั้งอยู่บน
แขนข้างหนึ่งของกาแล็กซีทางช้าง
เผือก อยู่ห่างจากจุดศูนย์กลาง
ของกาแล็กซีทางช้างเผือก
ประมาณ 8,500 พาร์เซก หรือ 30,000
ปีแสง ซึ่งจัดว่าอยู่ในบริเวณที่มี
ความหนาแน่นของวัตถุต่าง ๆ ใน
กาแล็กซีค่อนข้างต่ำ
4.1 วิวัฒนาการของระบบสุริยะ 47
ช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 18 อิมมานูเอล คานต์
และปีแอร์-ซีมง มากีร์ เดอลาพลาส ได้เสนอ
สมมติฐานเนบิวลา (nebula hypothesis) ที่ใช้
อธิบายการกำเนิดระบบสุริยะ
ระบบสุริยะก่อกำเนิดขึ้นเมื่อประมาณ 4,600
ล้านปีก่อน จากการยุบตัวของเมฆโมเลกุล
ขนาดยักษ์ที่เรียกว่า เนบิวลาสุริยะ (solar
nebula)
อิมมานูเอล คานต์ ปีแอร์-ซีมง มากีร์ เดอลาพลาส
(Immanuel Kant) (Pierre-Simon, marquis de
Laplace)
48
วิวัฒนาการของระบบสุริยะ
1 2 3 45
4,600 ปัจจุบัน
ล้านปีก่อน
4.2 ดวงอาทิตย์ 49
ดวงอาทิตย์เป็นดาวฤกษ์ศูนย์กลางของระบบ
สุริยะ มีดาวเคราะห์จำนวน 8 ดวง ดาวเคราะห์แคระ
ดาวเคราะห์น้อย และดาวหางเป็นบริวารโคจรอยู่
รอบ ๆ ดวงอาทิตย์
50
ข้อมูลทั่วไปของดวงอาทิตย์
อายุ : 4,600 ล้านปี
ชนิดสเปกตรัม : G2V
อุณหภูมิยังผล : 5,770 องศาเซลเซียส
รัศมี : 6.955×105 กิโลเมตร หรือ 109 เท่าของโลก
มวล : 1.989×1030 กิโลกรัม หรือ 333,000 เท่าของโลก
ปริมาตร : 1.409×1018 ลูกบาศก์เมตร หรือ 1,300,000 เท่าของโลก
ความหนาแน่น : 1.409 กรัมต่อลูกบาศก์เซนติเมตร หรือ 0.256 เท่าของโลก
ความโน้มถ่วง : 274.0 เมตรต่อวินาที2 หรือ 27.96 เท่าของโลก
คาบการหมุน : ที่เส้นศูนย์สูตร 25 วัน ที่ขั้ว 35 วัน
องค์ประกอบของดาว : ไฮโดรเจน 92.1% ฮีเลียม 7.8%
ระยะห่างจากโลก : 149.6 ล้านกิโลเมตร หรือ 1 หน่วยดาราศาสตร์
ระยะห่างจากศูนย์กลางกาแล็กซี : 26,000 ปีแสง
คาบการโคจรรอบกาแล็กซี : 230 ล้านปี
อัตราเร็ววงโคจรรอบกาแล็กซี : 720,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
51
● ดวงอาทิตย์เป็นก้อนพลาสมาขนาดใหญ่และไม่มีส่วน
ที่เป็นของแข็ง จึงทำให้อัตราเร็วในการหมุนรอบตัวเอง
แต่ละบริเวณไม่เท่ากัน
● คาบการหมุนบริเวณเส้นศูนย์สูตรจะน้อยกว่าที่ขั้ว
ดวงอาทิตย์
● อัตราเร็วในการหมุนบริเวณเส้นศูนย์สูตรเร็วกว่าที่ขั้ว
ดวงอาทิตย์
● เมื่อสังเกตดวงอาทิตย์จากโลก คาบการหมุนของ
ดวงอาทิตย์
จะมีค่า 28 วัน ซึ่งมากกว่าค่าจริง (25 วัน) เนื่องจากโลก
โคจรรอบดวงอาทิตย์ไปในทิศทางเดียวกับการหมุนรอบ
ตัวเองของดวงอาทิตย์ จึงมองเห็นว่าดวงอาทิตย์หมุน
รอบตัวเองช้ากว่าความเป็นจริง
52
โครงสร้างและชั้นบรรยากาศของดวงอาทิตย์
นักวิทยาศาสตร์แบ่งโครงสร้างของดวงอาทิตย์ออกเป็น 2 ส่วนหลัก ๆ
ได้แก่ โครงสร้างภายในดวงอาทิตย์และชั้นบรรยากาศของดวงอาทิตย์
โครงสร้างภายในดวงอาทิตย์
เขตพาความร้อน
บริเวณที่กระแสพลาสมาเคลื่อนที่หมุนวน
ด้วยการพาความร้อนจากเขตแผ่รังสี
เขตแผ่รังสี
บริเวณที่อยู่ถัดจากแก่นของดวงอาทิตย์
พลังงานจากแก่นของดวงอาทิตย์
จะส่งผ่านมายังบริเวณนี้ด้วยการแผ่รังสี
แก่น
บริเวณที่เกิดปฏิกิริยาเทอร์มอนิวเคลียร์ฟิวชัน
ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานของดวงอาทิตย์
53
จุดมืดบนดวงอาทิตย์ ชั้นบรรยากาศของดวงอาทิตย์
โฟโทสเฟียร์
ชั้นบรรยากาศด้านในสุด แสดงให้เห็นสี
ของดวงอาทิตย์นักดาราศาสตร์กำหนดให้
ชั้นนี้เป็นผิวของดวงอาทิตย์
โครโมสเฟียร์
ชั้นบรรยากาศบาง ๆ อยู่เหนือโฟโทส
เฟียร์ มีการพุ่งของพวยแก๊ส มีสีแดงที่
เกิดจากการลุกจ้าของแก๊สไฮโดรเจน
โคโรนา
ชั้นบรรยากาศด้านบนสุด ชั้นคอโรนาจะมอง
เห็นได้ชัดเจนเมื่อเกิดสุริยุปราคาเต็มดวง
ดวงอาทิตย์จะเผาผลาญไฮโดรเจนเปลี่ยนเป็นพลังงาน เมื่อคำนวณปริมาณธาตุไฮโดรเจนที่ลดลงจะ 54
พบว่าดวงอาทิตย์จะมีอายุต่อไปได้อีกประมาณ 5,000 ล้านปี
ดวงอาทิตย์จะเข้าสู่วาระสุดท้ายโดยกลายสภาพเป็นดาวยักษ์แดง และหลังจากนั้นผิวของดวงอาทิตย์จะ
หลุดออกกลายเป็นเนบิวลาดาวเคราะห์ ส่วนแก่นของดาวก็จะกลายเป็นดาวแคระขาว
ช่วงชีวิตของดวงอาทิตย์
จุดมืดบนดวงอาทิตย์ ดาวฤกษ์ก่อนเกิด ปัจจุบัน ดาวยักษ์แดง เนบิวลาดาวเคราะห์ ดาวแคระขาวจะค่อย ๆ
0 24 68 10 11 12 มืดลงจนดับไป
13
ล้านปี
จุดมืดบนดวงอาทิตย์ปรากฏ 55
ให้เห็นจำนวนมาก
จุดมืด
ดวงอาทิตย์
เงามืด
เงามัว
ความรู้เพิ่มเติม
จุดมืดดวงอาทิตย์ (sunspot) เป็นบริเวณที่มีสนามแม่เหล็กความเข้มสูงและมีรังสีแผ่ออกมาน้อยในชั้นโฟโทสเฟียร์
มีอุณหภูมิต่ำกว่าพื้นที่รอบ ๆ จึงปรากฏเป็นบริเวณมืด มักมีขนาดใหญ่กว่าโลก
บริเวณใจกลางจะมืดกว่าบริเวณรอบ ๆ เรียกว่า เงามืด (umbra) ส่วนบริเวณรอบ ๆ เรียกว่า เงามัว (penumbra)
จุดมืดดวงอาทิตย์เกิดจากความแปรปรวนของสนามแม่เหล็ก เนื่องจากดวงอาทิตย์มีอัตราเร็วในการหมุนรอบตัวเอง
แต่ละบริเวณไม่เท่ากัน จึงทำให้เส้นสนามแม่เหล็กที่ห่อหุ้มดวงอาทิตย์ไว้มีความบิดเบี้ยว บางครั้งอาจปลดปล่อย
พลังงานในรูปคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าออกมาอย่างรุนแรง เรียกว่า เปลวสุริยะ (solar flare)
ลมสุริยะและพายุสุริยะ 56
ลมสุริยะ (solar wind) เกิดจากการขยายตัวของชั้นคอโรนาที่ประกอบด้วยอนุภาคที่มีประจุไฟฟ้าจนทำให้
อนุภาคหลุดพ้นจากแรงดึงดูดของดวงอาทิตย์และแผ่ออกไปทุกทิศทาง มักเกิดขึ้นบริเวณขั้วเหนือและขั้ว
ใต้ของดวงอาทิตย์
หากอนุภาคที่มีประจุไฟฟ้าที่พุ่งออกมา
มีจำนวนมหาศาลและมีความเร็วมากกว่า
800 กิโลเมตรต่อวินาที จะเรียกว่า พายุ
สุริยะ (solar storm)
จุดมืดดวงอาทิตย์จะส่งผลต่อความรุนแรง
ของพายุสุริยะ ถ้าจำนวนจุดมืดดวงอาทิตย์
มาก อนุภาคที่มีประจุไฟฟ้าจะเพิ่มมากขึ้น
ทำให้ความรุนแรงของพายุสุริยะเพิ่มมาก
ขึ้นด้วย
57
ปรากฏการณ์ออโรรา (aurora) เกิดจากอนุภาคที่มีประจุไฟฟ้า
เนื่องจากลมสุริยะบางส่วนเคลื่อนที่เข้าสู่บรรยากาศโลกบริเวณ
ขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ เมื่ออนุภาคที่มีประจุไฟฟ้าปะทะกับอะตอม
ของแก๊สในชั้นไอโอโนสเฟียร์ จะคายพลังงานออกมาในรูปของแสง
ลมสุริยะที่รุนแรงจนเกิดเป็นพายุสุริยะจะส่งผลกระทบต่อระบบ
ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ อาจทำให้ไฟฟ้าดับ การสื่อสารขัดข้อง และ
วงจรอิเล็กทรอนิกส์เกิดความเสียหายได้
ลมสุริยะส่งผลต่อดาวหางโดยทำให้หางเกิดการเรืองแสง
และชี้ไปยังด้านตรงข้ามกับดวงอาทิตย์
บริวารของดวงอาทิตย์ 58
บริวารที่โคจรรอบดวงอาทิตย์ ได้แก่ ดาวเคราะห์ทั้ง 8 ดาวอีรีส
ดวง แถบดาวเคราะห์น้อยที่โคจรอยู่ระหว่างดาวอังคาร
และดาวพฤหัสบดี วัตถุในแถบไคเปอร์ และดาวหาง ดาวเคราะห์ชั้นนอก
ดาวเคชัร้นาะในห์
แถบไคเปอร์
ดาวเนปจูน
ดาวยูเรนัส
ดาวเสาร์
ดาวพฤหัสบดี
ดาวอังคาร
โลก
ดาวศุกร์
ดาวพุธ
ดวงอาทิตย์ ดาวพลูโต
ดาวหาง ดาวมาเกะมาเกะ
ดาวซีรีส
59
เมื่อใช้ลักษณะการเกิดและองค์ประกอบของดาวเป็นเกณฑ์ จะแบ่งขอบเขตของระบบสุริยะได้เป็น 5 เขต ดังนี้
1. ดาวเคราะห์ชั้นใน (inner planets) เป็น
ดาวเคราะห์หินได้แก่ ดาวพุธ ดาวศุกร์ โลก
และดาวอังคาร
2. แถบดาวเคราะห์น้อย (asteroids belt) เป็นวัตถุขนาดเล็กที่โคจรอยู่ระหว่าง
ดาวอังคารและดาวพฤหัสบดี เกิดจากวัตถุที่ไม่สามารถรวมตัวกันเป็น
ดาวเคราะห์ขนาดใหญ่ได้เนื่องจากมีแรงโน้มถ่วงของดาวพฤหัสบดีรบกวน
3. ดาวเคราะห์ชั้นนอก (outer planets) เป็นดาวเคราะห์ขนาดใหญ่ที่มีองค์
ประกอบเป็นแก๊ส ได้แก่ ดาวพฤหัสบดี ดาวเสาร์ ดาวยูเรนัส และดาวเนปจูน
4. แถบไคเปอร์ (Kuiper belt) ประกอบด้วย แถบไคเปอร์ 60
ดาวเคราะห์แคระ ดาวเคราะห์น้อย ดาวหาง เมฆออร์ต
และวัตถุขนาดเล็ก เช่น ดาวพลูโต ดาวอีรีส
ดาวหางคาบสั้น
5. เมฆออร์ต (Oort cloud) หรือ ดงดาวหาง
ระบบสุริยะมีขอบเขตเป็นเมฆทรงกลม
ขนาดใหญ่ห่อหุ้มอยู่ ประกอบด้วย ฝุ่น หิน
น้ำแข็ง แอมโมเนีย มีเทน เป็นแหล่งกำเนิด
ของดาวหาง มีขนาดประมาณ 1-3 ปีแสง
61
ความรู้เพิ่มเติม
ดาวหาง (comets) เป็นวัตถุขนาดเล็ก ไม่มีแสงสว่างในตัวเอง ประกอบด้วยเศษฝุ่น หิน ก้อนน้ำแข็งและ
แก๊สในสถานะของแข็ง มีวงโคจรเป็นวงรีมาก เมื่อโคจรเข้าใกล้ดวงอาทิตย์ ความร้อนและลมสุริยะ
ทำให้ดาวหางขยายตัวสว่างขึ้นและมีหางปรากฏ โครงสร้างของดาวหางประกอบด้วยส่วนต่าง ๆ ดังนี้
ดาวหางเฮลล์บอบบ์
62
ความรู้เพิ่มเติม หางฝุ่น ชั้นไฮโดรเจน
หางแก๊ส
1. นิวเคลียส (nucleus) เป็นส่วนที่ประกอบด้วยหิน น้ำแข็ง
และแก๊สในสถานะของแข็ง เช่น แอมโมเนีย มีเทน นิวเคลียส
คาร์บอนไดออกไซด์ โคมา
2. โคมา (coma) เป็นแก๊สที่ระเหิดจากนิวเคลียสและห่อหุ้ม
นิวเคลียสอยู่ เป็นส่วนของดาวหางที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด ลมสุริยะ
3. หางแก๊ส (gas tail) เกิดจากแก๊สที่แตกตัวออกมาจาก
นิวเคลียสและโคมา ปรากฏเมื่อดาวหางโคจรเข้าใกล้ ดวงอาทิตย์ วงโคจรของดาวหาง
ดวงอาทิตย์เนื่องจากผลของลมสุริยะ มีลักษณะเป็นแนว
ตรง เกิดในทิศทางตรงข้ามกับดวงอาทิตย์
4. หางฝุ่น (dust tail) เกิดจากเศษฝุ่นที่หลุดออกมาจาก
นิวเคลียส มีลักษณะโค้งไปตามวงโคจร สะท้อนแสง
อาทิตย์ได้ดี จึงมีความสว่างและเห็นได้ชัดเจนกว่าหางแก๊ส
63
ดาวเคราะห์ที่เอื้อต่อการมีสิ่งมีชีวิต
เขตที่เอื้อต่อการมีสิ่งมีชีวิต (habitable zone)
คือ บริเวณโดยรอบดาวฤกษ์ที่มีระยะห่างจาก
ดาวฤกษ์ที่เหมาะสมที่ทำให้น้ำยังคงสถานะ
เป็นของเหลวบนผิวดาวเคราะห์ได้
ร้อนเกินไป เหมาะสม เย็นเกินไป
มีขนาดใกล้เคียงโลก
64
โลกเป็นดาวเคราะห์ที่เอื้อต่อสิ่งมีชีวิต เนื่องจากมีวงโคจรห่างจากดวงอาทิตย์ในระยะเหมาะสม จึงมีอุณหภูมิพื้นผิว
ที่ไม่ร้อนหรือเย็นจนเกินไป ทำให้น้ำยังคงสถานะของเหลวได้
ถ้าหากโลกมีวงโคจรอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์มากขึ้น จะได้รับพลังงานจากดวงอาทิตย์มากเกินไป พื้นผิวโลกอาจมี
อุณหภูมิสูงจนทำให้น้ำระเหยออกไปหมด
ถ้าหากโลกมีวงโคจรไกลจากดวงอาทิตย์มากขึ้น พื้นผิวโลกอาจมีอุณหภูมิต่ำจนทำให้น้ำกลายเป็นน้ำแข็งได้
65
นักดาราศาสตร์เชื่อว่าน่าจะมีสิ่งมีชีวิตบนดาวเคราะห์ดวงอื่นนอกจากโลกของเรา จึงพยายาม
ค้นหาดาวเคราะห์
นอกระบบสุริยะ (exoplanet) ที่โคจรรอบดาวฤกษ์และอยู่ในเขตที่เอื้อต่อการมีสิ่งมีชีวิต
ปัจจุบันมีการค้นพบดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะจำนวนมากกว่า 4,000 ดวง และพบดาวเคราะห์
หลายดวงที่มีลักษณะคล้ายโลก เช่น Kepler-22b Kepler-62e
Kepler-22b Kepler-69c Kepler-69e Kepler-62f โลก
66
วันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 องค์การนาซาได้ประกาศการค้นพบดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะที่มี
ขนาดใกล้เคียงกับโลกในระบบแทรปพิสต์-1 (Trappist-1) ซึ่งเป็นดาวแคระแดงขนาดเล็ก มีมวล 0.08
เท่าของดวงอาทิตย์
ระบบแทรปพิสต์-1
bc d e fg h มีดาวเคราะห์ในระบบแทรปพิสต์-1
ระบบสุริยะ ขยาย 5 เท่า จำนวน 3 ดวง โคจรอยู่ในเขตที่
เอื้อต่อการมีสิ่งมีชีวิตและอาจมีน้ำใน
สถานะของเหลวอยู่บนผิวดาว
ดาวพุธ ดาวศุกร์ โลก ดาวอังคาร
67
สรุป
เอกภพ
● เอกภพ คือ อวกาศอันกว้างใหญ่ ที่
ประกอบด้วยทุกสรรพสิ่งในธรรมชาติ เกิด
จากการขยายตัว
อย่างรวดเร็วตามทฤษฎีบิกแบง เมื่อ
ประมาณ 13,700 ล้านปีก่อน
● ทฤษฎีบิกแบงมีหลักฐานที่
สำคัญสนับสนุน 2 ประการ ได้แก่ การขยาย
ตัวของเอกภพและการค้นพบรังสีไมโครเวฟ
พื้นหลัง
68
สรุป
เอกภพ
● เอ็ดวิน ฮับเบิล อธิบายการขยายตัวของ
เอกภพโดยศึกษาการเลื่อนทางแดงของ
กาแล็กซี และได้เสนอกฎของฮับเบิลไว้ว่า
กาแล็กซีกำลังเคลื่อนที่ออกจากกันและมี
อัตราเร็วแปรผันตรงกับระยะทางจากโลก
● รังสีไมโครเวฟพื้นหลังเป็นร่องรอยของ
การเกิดบิกแบง มีอุณหภูมิ 2.725 เคลวิน
ซึ่งเท่ากับอุณหภูมิของเอกภพ ค้นพบโดย
อาร์โน เพนเซียส และรอเบิร์ต วิลสัน
69
สรุป
กาแล็กซี่
● กาแล็กซี คือ กลุ่มของดาวฤกษ์ เนบิวลา และ
สสารระหว่างดวงดาวที่ประกอบด้วยแก๊ส ฝุ่น
และสสารมืดอยู่รวมกันด้วยแรงโน้มถ่วง
● กาแล็กซีแบ่งตามรูปร่างออกเป็น 3 ประเภท
ได้แก่ กาแล็กซีรี กาแล็กซีก้นหอย และ
กาแล็กซีไร้รูปแบบ
● ระบบสุริยะตั้งอยู่ในกาแล็กซีทางช้างเผือก
ซึ่งจัดเป็นกาแล็กซีก้นหอยมีคาน มีโครงสร้างที่
ประกอบด้วยนิวเคลียส จาน และฮาโล
70
สรุป
ดาวฤกษ์
● ดาวฤกษ์ คือ ก้อนแก๊สร้อนขนาดใหญ่ มีองค์
ประกอบหลักเป็นธาตุไฮโดรเจน พลังงานของ
ดาวฤกษ์เกิดจากปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชันที่
แก่นของดาว
● ดาวฤกษ์ส่วนใหญ่อยู่รวมกันตั้งแต่ 2 ดวงขึ้น
ไปด้วยแรงโน้มถ่วง เรียกว่า ระบบดาวฤกษ์
โดยดาวฤกษ์ 2 ดวงที่โคจรรอบกันและกัน เรียก
ว่า ดาวคู่ ส่วนดาวฤกษ์ที่อยู่รวมกันเป็นจำนวน
มาก เรียกว่า กระจุกดาว
71
สรุป
ดาวฤกษ์
● ดาวฤกษ์เกิดจากเมฆโมเลกุลที่มีความหนา
แน่นสูงยุบตัวลงด้วย
แรงโน้มถ่วง เมื่อมีความหนาแน่นมากขึ้นจน
กลายเป็นแก๊สที่ร้อนจัดและหมุนเป็นรูปทรง
กลม จะเกิดเป็นดาวฤกษ์ก่อนเกิด และเมื่อ
บริเวณแก่นของดาวมีอุณหภูมิสูงถึง 15 ล้าน
เคลวิน จะทำให้เกิดปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชัน
หลอมนิวเคลียสของธาตุไฮโดรเจนให้กลายเป็น
นิวเคลียสของธาตุฮีเลียม และเกิดเป็นดาวฤกษ์
72
สรุป
ดาวฤกษ์
● พลังงานที่ปลดปล่อยจากปฏิกิริยานิวเคลียร์
ฟิวชันที่แก่นของดาวจะทำให้เกิดแรงดันบนผิว
ดาวที่สมดุลกับแรงโน้มถ่วงของดาวฤกษ์ เรียก
ว่า สภาวะสมดุลอุทกสถิต
73
สรุป
ดาวฤกษ์
● วิวัฒนาการของดาวฤกษ์จะขึ้นอยู่กับมวลของดาว
ดาวฤกษ์มวลน้อย เมื่อเข้าสู่วาระสุดท้ายจะกลายเป็น
ดาวยักษ์แดง จากนั้นเปลือกนอกของดาวขยายตัว
ออกไปเป็นเนบิวลาดาวเคราะห์และแก่นดาวจะกลาย
เป็นดาวแคระขาวดาวฤกษ์มวลมาก เมื่อเข้าสู่วาระ
สุดท้ายจะกลายเป็นดาวยักษ์ใหญ่สีแดง จากนั้นจะเกิด
ซูเปอร์โนวาทำให้ดาวฤกษ์มวลมากกลายเป็นดาว
นิวตรอน ส่วนดาวฤกษ์
74
สรุป
ดาวฤกษ์
● สีของดาวฤกษ์มีความสัมพันธ์กับอุณหภูมิและอายุของดาว
ดาวฤกษ์ที่มีมวลมากจะมีอายุสั้น ผิวดาวมีอุณหภูมิสูง จึงมี
สีน้ำเงินไปจนถึงสีขาว ส่วนดาวฤกษ์ที่มีมวลน้อยจะมีอายุ
ยืนยาว ผิวดาวมีอุณหภูมิต่ำ จึงมีสีเหลืองไปจนถึงสีแดง
● ความสว่างปรากฏของวัตถุท้องฟ้าขึ้นอยู่กับระยะห่างและ
ความสว่างจริงของวัตถุ โดยวัดเป็นค่าอันดับความสว่างหรือ
75
สรุป
ระบบสุริยะ
● ระบบสุริยะมีดวงอาทิตย์เป็น
ดาวฤกษ์ศูนย์กลางซึ่งเกิดขึ้นเมื่อ
4,600 ล้านปีก่อน
● ระบบสุริยะมีตำแหน่งอยู่บนแขน
ข้างหนึ่งของกาแล็กซีทางช้างเผือก
ห่างจากจุดศูนย์กลางของกาแล็กซี
ประมาณ 8,500-30,000 ปีแสง
76
สรุป
ระบบสุริยะ
● ระบบสุริยะมีดวงอาทิตย์เป็น
ดาวฤกษ์ศูนย์กลางซึ่งเกิดขึ้นเมื่อ
4,600 ล้านปีก่อน
● ระบบสุริยะมีตำแหน่งอยู่บนแขน
ข้างหนึ่งของกาแล็กซีทางช้างเผือก
ห่างจากจุดศูนย์กลางของกาแล็กซี
ประมาณ 8,500-30,000 ปีแสง
สรุป คอโรนา 77
ระบบสุริยะ โฟโทสเฟียร์ เขตแผ่รังสี
เขตพาความร้อน
● โครงสร้างของดวงอาทิตย์แบ่ง
ออกเป็น 2 ส่วนหลัก ๆ ดังนี้ แก่น
1. โครงสร้างภายในดวงอาทิตย์
แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ แก่น เขต
แผ่รังสี และเขตพาความร้อน
2. ชั้นบรรยากาศของดวงอาทิตย์
แบ่งออกเป็น 3 ชั้น ได้แก่ โฟโทส โครโมสเฟียร์
เฟียร์ โครโมสเฟียร์ และคอโรนา
78
สรุป
ระบบสุริยะ
● ลมสุริยะเกิดในชั้นคอโรนาซึ่งประกอบด้วย
อนุภาคที่มีประจุ เช่น อิเล็กตรอน โปรตอน และ
ไอออนของธาตุต่าง ๆในสถานะพลาสมา ซึ่งส่ง
ผลต่อสนามแม่เหล็กโลกจึงทำให้เกิด
ปรากฏการณ์ออโรราหรือแสงเหนือแสงใต้ และ
ยังส่งผลให้หางของดาวหางเกิดการเรืองแสง
และชี้ไปยังด้านตรงข้ามกับดวงอาทิตย์
● ลมสุริยะที่รุนแรงจนเกิดเป็นพายุสุริยะจะส่ง
ผลกระทบต่อระบบไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ อาจ
ทำให้ไฟฟ้าดับ การสื่อสารขัดข้อง และวงจร
อิเล็กทรอนิกส์เกิดความเสียหายได้
79
สรุป
ระบบสุริยะ
● เมื่อแบ่งขอบเขตของระบบสุริยะโดยใช้ลักษณะการเกิดและ
องค์ประกอบของดาวเป็นเกณฑ์สามารถแบ่งได้เป็น 5 เขตได้แก่
ดาวเคราะห์ชั้นใน แถบดาวเคราะห์น้อย
ดาวเคราะห์ชั้นนอก แถบไคเปอร์ และเมฆออร์ต
● โลกเป็นดาวเคราะห์ในระบบสุริยะที่มีสิ่งมีชีวิต เพราะโคจรรอบ
ดวงอาทิตย์ในเขตที่เอื้อต่อการมีสิ่งมีชีวิต
มีอุณหภูมิเหมาะสม และสามารถเกิดน้ำที่ยังคงสถานะเป็น
ของเหลวได้
แบบฝึกหัด
ใบงาน เรื่อง เอกภพ 80
คำชี้แจง นำคำหรือข้อความที่กำหนด มาเติมในช่องว่างให้สอดคล้องกับกระบวนการที่เกิดขึ้นระหว่าง
วิวัฒนาการของเอกภพ และเรียงลำดับกระบวนการดังกล่าวตามลำดับวิวัฒนาการของเอกภพ
ก. อะตอมของไฮโดรเจนและฮีเลียม ข. นิวเคลียสของฮีเลียม
ค. โปรตอนและนิวตรอน ง. พลังงาน จ. กาแล็กซีรุ่นแรก
1.1. ...................................เกิดจากโปรตอนและนิวตรอนรวมตัวกัน
1.2. ...................................เกิดจากอนุภาคและปฏิอนุภาครวมตัวกัน
1.3. ....................................เกิดจากควาร์กบางชนิดรวมตัวกัน
1.4. ....................................เกิดจากธาตุไฮโดรเจนและฮีเลียมรวมกัน
1.5. ....................................เกิดจากนิวเคลียสของไฮโดรเจนและฮีเลียมรวมกัน
แบบฝึกหัด เรื่อง กาแล็กซี 81
คำชี้แจง ให้นักเรียนตอบคำถามต
่อไปนี้
1. อธิบายลักษณะของกาแล็กซีต่อไปนี้
ประเภทของกาแล็กซี ลักษณะ
กาแล็กซีรี
กาแล็กซีก้นหอย
กาแล็กซีก้นหอยแบบมีคาน
กาแล็กซีลูกสะบ้า
กาแล็กซีไร้รูปแบบ
แบบฝึกหัด เรื่อง ดาวฤกษ์ 82
คำชี้แจง ให้นักเรียนตอบคำ
ถามต่อไปนี้
1. เติมคำเกี่ยวกับวิวัฒนาการของดาวฤกษ์ลงในช่องว่างให้ถูกต้อง
แบบฝึกหัด เรื่อง ระบบสุริยะ 83
คำชี้แจง ให้นักเรียนจับคู่ความสัมพันธ์ให้ถูก
ต้อง
1. โครงสร้างภายในดวงอาทิตย์
ก. เป็นศูนย์กลางของระบบสุริยะ
2. ชั้นบรรยากาศของดวงอาทิตย์
ข. ดาวพฤหัสบดี ดาวเสาร์ ดาวยูเรนัส และดาวเนปจูน
3. ดวงอาทิตย์
ค. เป็นวัตถุที่โคจรรอบดวงอาทิตย์ ประกอบด้วยหินและแก๊สที่มีสถานะเป็นของแข็ง
4. ดาวเคราะห์ชั้นนอก
ง. แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ แก่น เขตการแผ่รังสี และเขตการพาความร้อน
5. ดาวเคราะห์ชั้นใน
จ. อยู่ระหว่างวงโคจรของดาวอังคารกับดาวพฤหัสบดี
6. ดาวหาง
ฉ. ดาวพุธ ดาวศุกร์ โลก และดาวอังคาร
7. แถบดาวเคราะห์น้อย
ช. แบ่งออกเป็น 3 ชั้น ได้แก่ โฟโทสเฟียร์ โครโมสเฟียร์ และคอโรนา
8. แถบดาวไคเปอร์
ซ. อยู่ถัดจากดาวเคราะห์ชั้นนอก และเป็นแหล่งกำเนิดดาวหาง
เฉลย
ใบงาน เรื่อง เอกภพ 84
คำชี้แจง นำคำหรือข้อความที่กำหนด มาเติมในช่องว่างให้สอดคล้องกับกระบวนการที่เกิดขึ้นระหว่าง
วิวัฒนาการของเอกภพ และเรียงลำดับกระบวนการดังกล่าวตามลำดับวิวัฒนาการของเอกภพ
ก. อะตอมของไฮโดรเจนและฮีเลียม ข. นิวเคลียสของฮีเลียม
ค. โปรตอนและนิวตรอน ง. พลังงาน จ. กาแล็กซีรุ่นแรก
1.1. นิวเคลียสของฮีเลียม เกิดจากโปรตอนและนิวตรอนรวมตัวกัน
1.2. พลังงาน เกิดจากอนุภาคและปฏิอนุภาครวมตัวกัน
1.3. โปรตอนและนิวตรอน เกิดจากควาร์กบางชนิดรวมตัวกัน
1.4. กาแล็กซีรุ่นแรก เกิดจากธาตุไฮโดรเจนและฮีเลียมรวมกัน
1.5. อะตอมของไฮโดรเจนและฮีเลียม เกิดจากนิวเคลียสของไฮโดรเจนและฮีเลียมรวมกัน
แบบฝึกหัด เรื่อง กาแล็กซี 85
ประเภทของกาแล็กซี
ลักษณะ
กาแล็กซีรี มีรูปทรงรี มีรูปทรงอย่างง่าย ไม่ซับซ้อน มีสสารระหว่างดวงดาวน้อย มีกระจุกดาวเปิดค่อนข้างน้อย และมีอัตราการ
เกิดดาวฤกษ์ใหม่ต่ำ
กาแล็กซีก้นหอย ประกอบด้วยแถบจานหมุนของดาวฤกษ์และสสารระหว่างดาว มีดุมโป่งนูนบริเวณกึ่งกลางซึ่งประกอบด้วยดาวฤกษ์
ที่หนาแน่น เรียกว่า ดุมกาแล็กซี
กาแล็กซีก้นหอยแบบมี มีลักษณะเช่นเดียวกับกาแล็กซีก้นหอย แต่มีโครงสร้างคล้ายคานยื่นออกมาจากดุมกาแล็กซีทั้ง 2 ด้าน และมีแขน
คาน เป็นรูปกังหัน
กาแล็กซีลูกสะบ้า มีดุมสว่างอยู่ตรงกลางและล้อมรอบด้วยโครงสร้างคล้ายแผ่นจานแบบกาแล็กซีก้นหอย แต่บริเวณแผ่นจานไม่มี
โครงสร้างแขนกังหันที่ชัดเจน
กาแล็กซีไร้รูปแบบ เป็นกาแล็กซีที่ไม่มีรูปร่างชัดเจน ที่รู้จักกันมาก คือ เมฆแมกเจลแลนใหญ่ ซึ่งอยู่ในกลุ่มท้องถิ่นเดียวกับกาแล็กซี
ทางช้างเผือก
แบบฝึกหัด เรื่อง ดาวฤกษ์ 86
คำชี้แจง ให้นักเรียนตอบคำถามต่อไป
นี้
1. เติมคำเกี่ยวกับวิวัฒนาการของดาวฤกษ์ลงในช่องว่างให้ถูกต้อง
แบบฝึกหัด เรื่อง ระบบสุริยะ 87
คำชี้แจง ให้นักเรียนจับคู่ความสัมพันธ์ให้ถูก
ต้อง
1. โครงสร้างภายในดวงอาทิตย์
ก. เป็นศูนย์กลางของระบบสุริยะ
2. ชั้นบรรยากาศของดวงอาทิตย์
ข. ดาวพฤหัสบดี ดาวเสาร์ ดาวยูเรนัส และดาวเนปจูน
3. ดวงอาทิตย์
ค. เป็นวัตถุที่โคจรรอบดวงอาทิตย์ ประกอบด้วยหินและแก๊สที่มีสถานะเป็นของแข็ง
4. ดาวเคราะห์ชั้นนอก
ง. แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ แก่น เขตการแผ่รังสี และเขตการพาความร้อน
5. ดาวเคราะห์ชั้นใน
จ. อยู่ระหว่างวงโคจรของดาวอังคารกับดาวพฤหัสบดี
6. ดาวหาง
ฉ. ดาวพุธ ดาวศุกร์ โลก และดาวอังคาร
7. แถบดาวเคราะห์น้อย
ช. แบ่งออกเป็น 3 ชั้น ได้แก่ โฟโทสเฟียร์ โครโมสเฟียร์ และคอโรนา
8. แถบดาวไคเปอร์
ซ. อยู่ถัดจากดาวเคราะห์ชั้นนอก และเป็นแหล่งกำเนิดดาวหาง
บรรณานุกรม
คู่มือครูรายวิชาวิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ ตามมาตรฐานการเรียนรู้และ
ตัวชี้วัด กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ฉบับปรับปรุง
พ.ศ.2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช
2551. สำนักพิมพ์ แม็ตเอ็ดดูเคชั่นจำกัด
สถาบันส่งเสริมวิทยาศาตร์และเทคโนโลยี. (2561). หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน
วิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ ม.6 ตามมาตรฐานการเรียนรู้ กลุ่มสาระการ
เรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2561).
กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ สกสค.
ประวัติผู้เขียน
ชื่อ : นางสาวศศิธร โคตะบิน
ชื่อเล่น : ครูเอ้
ตำแหน่ง : ครูผู้สอนวิชาดาราศาสตร์ และ
วิชาวิทยาศาสตร์กายภาพ
สถานที่ทำงาน : โรงเรียนบ้านม่วงพิทยาคม
อ.บ้านม่วง จ.สกลนคร
การศึกษา : ปริญญาตรี คณะวิทยาศาสตร์ (ฟิสิกส์)
มหาวิทยาลัยบูรพา