สทิ ธิผูบ้ รโิ ภค กบั การเสนอขายผลติ ภัณฑ์จากธนาคาร
ปัจจุบันธนาคารได้พัฒนารูปแบบจากการรับฝากเงิน
และใหส้ นิ เชอ่ื แกล่ กู คา้ ทง้ั ในระดบั ผปู้ ระกอบธรุ กจิ และประชาชน
ทั่วไป โดยมีการเสนอขายผลิตภัณฑ์ เพ่ือขยายฐานลูกค้าและสร้าง
รายได้ค่าธรรมเนียมให้แก่ธนาคาร โดยเฉพาะการขายผลิตภัณฑ์ในลักษณะ
ควบคู่ หรือท่ีเรียกกันว่า Bundle เช่น เสนอให้ผู้บริโภคเปิดบัญชีเงินฝาก
บตั รเครดติ หรอื สนิ เชอื่ สว่ นบคุ คลควบคกู่ บั การขายหนว่ ยลงทนุ หรอื ประกนั ภยั
ซึ่งผู้บริโภคอาจจะต้องซ้ือผลิตภัณฑ์ทางการเงินบางประเภทท่ีตนเองยังไม่มี
ความตอ้ งการ แตก่ ต็ อ้ งซื้อเน่ืองจากธนาคารเสนอขายเปน็ แพ็คเกจ (package)
หรือผู้บริโภคอาจถูกชักจูงให้เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ท่ีซับซ้อนและไม่คุ้นเคย
ซึ่งอาจจะไมเ่ ขา้ ใจหรอื ไมท่ ราบถึงความเส่ยี งท่ีอาจจะเกดิ ข้ึน
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ส�านักงานคณะกรรมการก�ากับ
หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และส�านักงานคณะกรรมการก�ากับและ
ส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) จึงร่วมกันก�าหนดแนวนโยบาย
ให้ธนาคารถือปฏิบัติโดยยึดหลักสิทธิของผู้บริโภคโดยหลักๆ 4 ข้อคือ สิทธิ
ท่ีจะได้รับข้อมูลท่ีถูกต้องครบถ้วนเพียงพอต่อการตัดสินใจ สิทธิที่จะเลือกซ้ือ
ผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินได้อย่างอิสระ สิทธิที่จะร้องเรียนเพ่ือความ
เป็นธรรม และสิทธิท่ีจะได้รับการพิจารณาค่าชดเชยหากเกิดความเสียหาย
อันเนื่องมาจากการประมาทเลินเล่อของผู้ขายผลิตภัณฑ์ โดยก�าหนดห้าม
ธนาคารบังคับขายผลิตภัณฑ์หลักทรัพย์และประกันภัยควบคู่กับผลิตภัณฑ์ของ
ธนาคาร หรือก�าหนดเป็นเงื่อนไขในการขายหรือให้บริการผลิตภัณฑ์หลัก เช่น
ใหผ้ บู้ รโิ ภคทา� ประกนั ภยั กบั บรษิ ทั ใดบรษิ ทั หนงึ่ เพอื่ เปน็ เงอื่ นไขในการใหส้ นิ เชอื่ หรอื
ให้ท�าประกันชีวิตก่อนเม่ือขอใช้บริการเช่าตู้นิรภัย ธนาคารจึงต้องให้สิทธิแก่ผู้บริโภค
ในการเลือกซ้ือผลิตภัณฑ์ด้วยตนเอง และผู้บริโภคสามารถปฏิเสธการซื้อผลิตภัณฑ์
ดังกล่าวไดด้ ว้ ย
51
ดังนั้น เม่ือผู้บริโภคจะใช้บริการจากธนาคารควรขอข้อมูลรายละเอียดของ
ผลิตภัณฑ์พร้อมข้อมูลผลตอบแทนในลักษณะแยกรายผลิตภัณฑ์และในลักษณะการ
เสนอขายผลติ ภณั ฑแ์ บบควบค ู่ หรอื เปน็ แพค็ เกจ พรอ้ มทง้ั สอบถามคา่ ปรบั ในกรณที ไ่ี ม่
สามารถปฏบิ ตั เิ งอ่ื นไขของผลติ ภณั ฑไ์ ด ้ โดยผบู้ รโิ ภคสามารถปฏเิ สธการซอ้ื ผลติ ภณั ฑ์
ท่ีตนไม่ต้องการได้ เช่น ธนาคารเสนอให้ท�าประกันชีวิตควบคู่ด้วย ผู้บริโภคมีสิทธิ
ขอให้ธนาคารชี้แจงค่าใช้จ่ายท่ีต้องช�าระให้กับธนาคารได้อย่างละเอียดและหากเห็น
ว่าไม่คุ้มกับผลประโยชน์ ผู้บริโภคก็สามารถปฏิเสธท่ีจะซื้อกรมธรรม์ประกันชีวิตกับ
ธนาคารน้นั ได้
52
“รูเ้ ท่าทนั ...สินคา้ อนั ตราย”
จ ำ ก ก ำ ร เ ข้ ำ สู่ ป ร ะ ช ำ ค ม
เศรษฐกิจอำเซียน (AEC) จะท�าให้
มีสินค้าจากต่างประเทศเข้ามาจ�าหน่าย
ใ น ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย เ พ่ิ ม ข้ึ น โ ด ย สิ น ค้ า
บางชนดิ อาจเปน็ สนิ คา้ ทกี่ อ่ ใหเ้ กดิ อนั ตราย
แกผ่ บู้ รโิ ภค ปจั จบุ นั คณะกรรมการคมุ้ ครอง
ผู้บริโภคตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค ได้ออกค�าส่ังห้ามขายสินค้าท่ีเป็น
อนั ตรายแกผ่ บู้ รโิ ภค
ซ่ึงสินค้าดังกล่าวเป็นสินค้าที่ก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัยแก่ผู้บริโภค
โดยผ้ปู ระกอบการมักจะอาศัยความอยากรู้อยากเห็น และความไมร่ ู้ของเดก็ น�าสนิ ค้า
อันตรายที่คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคมีค�าสั่งห้ามขายรวมถึงสินค้าประเภทอ่ืนๆ
ทอี่ าจกอ่ ใหเ้ กิดอนั ตรายมาจา� หนา่ ยตามรา้ นของช�า ตลาดนัด แหลง่ ชมุ ชนและบริเวณ
หน้าโรงเรียนเป็นจ�านวนมาก ส�านักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคได้ลงพ้ืนท่ี
ตรวจสอบ พบวา่ มกี ารจา� หนา่ ยสนิ คา้ ประเภทของเลน่ และขนมบรรจซุ องตา่ งๆ ซง่ึ เมอ่ื
ตรวจสอบ พบวา่ สนิ คา้ บางรายการไมม่ กี ารจดั ทา� ฉลาก หรอื มกี ารจดั ทา� ฉลาก แตฉ่ ลาก
ไมถ่ กู ตอ้ งตามทก่ี ฎหมายกา� หนด ขอ้ ความมขี นาดเลก็ ไมส่ ามารถอา่ นไดอ้ ยา่ งชดั เจน
มีการแสดงฉลากเป็นภาษาต่างประเทศ สีของเล่นฉูดฉาดและมีการใช้วัตถุอันตราย
เป็นส่วนประกอบในของเล่น เม่ือผู้บริโภคซ้ือสินค้าดังกล่าวไปเล่น โดยไม่มีความรู้
เก่ียวกับอันตรายท่ีอาจจะเกิดขึ้นท�าให้มีความเส่ียงที่จะเกิดอันตรายได้ จึงเห็นควรให้
ความรเู้ กยี่ วกบั สนิ คา้ อนั ตรายทคี่ ณะกรรมการคมุ้ ครองผบู้ รโิ ภคมคี า� สงั่ หา้ มขาย ซง่ึ จะ
ส่งผลให้ประชาชน/เครือข่าย/ผู้ประกอบธุรกิจมีความรู้ในการเลือกซ้ือ เลือกใช้สินค้า
ได้อยา่ งปลอดภยั ดงั น้ี
1. ค�าส่ังคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ท่ี 9/2527 เร่ือง “ห้ามขายสินค้า
ของเลน่ ชนดิ พองตวั เมอ่ื แชน่ า�้ หรอื ตวั ดดู นา�้ ”
2. ค�าส่ังคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ท่ี 6/2529 เร่ือง ห้ามขายสินค้า
เคร่ืองต้มน้�าไฟฟ้าท่ีท�าให้น้�าร้อนโดยผ่านกระแสไฟฟ้าเข้าไปในน้�าโดยตรง หรือ
เครื่องต้มน้�าไฟฟา้ แบบข้วั เปลอื ย
53
3. คา� สง่ั คณะกรรมการคมุ้ ครองผบู้ รโิ ภค ท ี่ 9/2548 เรอ่ื ง หา้ มขายสนิ คา้ ทเ่ี รยี ก
วา่ “ลกู โปง่ วิทยาศาสตร ์ หรือลูกโป่งพลาสติก หรือ Blowing Balloon”
4. คา� สงั่ คณะกรรมการคุ้มครองผูบ้ ริโภค ท่ ี 4/2550 เร่อื ง ห้ามขายเครอ่ื งเล่นฉดี
น้�าท่มี ีลกั ษณะเป็นกระบอกสูบ และใช้แรงอัดกระแทกน�า้ ในกระบอกสบู โดยตรง
5. ค�าสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ท่ี 9/2550 เร่ือง ห้ามขายสารที่ใช้
ในวธิ ไี บโอเทคนคิ เปน็ การชัว่ คราว
6. ค�าสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ท่ี 11/2550 เรื่อง ห้ามขายสินค้า
เครอ่ื งเลน่ ลอ่ งแกน่ ชอ่ื “อนิ เดยี นา่ ลอ็ ก” (Indiana Log) ในสวนสยามเปน็ การชวั่ คราว
7. ค�าส่ังคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ 14/2551 เรื่อง ห้ามขายสินค้า
เครื่องทา� นา้� เยน็ ท่ใี ชต้ ะกัว่ เปน็ ตัวประสานรอยเชือ่ มต่อของตะเข็บถงั นา�้ หรือทอ่ สง่ น�า้
8. คา� สงั่ คณะกรรมการคมุ้ ครองผบู้ รโิ ภค ท ่ี 15/2551 เรอื่ ง หา้ มขายสนิ คา้ ภาชนะ
ส�าหรบั ปรงุ หรอื บรรจุอาหารใชต้ ะก่ัวเป็นตวั ประสานรอยเชอื่ มต่อ
9. ค�าสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ท่ี 10/2552 เร่ือง ห้ามขายสินค้า
ลวดดดั ฟันแฟชั่น
10. คา� ส่ังคณะกรรมการคมุ้ ครองผู้บริโภค ท่ ี 5/2556 เรอื่ ง หา้ มขายสินคา้ อุปกรณ์
ไฟฟ้าชอ็ ตสา� หรบั แกล้งคน
11. ค�าส่ังคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ท่ี 9/2558 เร่ือง ห้ามขายหรือห้าม
ใหบ้ รกิ ารสนิ ค้า “บารากู่ บารากู่ไฟฟา้ หรือบหุ ร่ีไฟฟ้า หรือตวั ยาบารากู่ น�้ายาสา� หรับ
เตมิ บาราก่ไู ฟฟ้าหรอื บุหรีไ่ ฟฟ้า”
บทลงโทษ ผ้ขู ำยผผู้ ลติ ผสู้ ่ังหรอื น�ำเขำ้ สินค้ำอนั ตรำย ไดแ้ ก่
• ผขู้ ายตอ้ งระวางโทษจ�าคุกไมเ่ กิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท
หรอื ทง้ั จ�าท้งั ปรับ
• ผู้ผลิต ผู้ส่ังหรือน�าเข้าต้องระวางโทษจ�าคุกไม่เกิน 10 ปี
ปรับไม่เกิน 1 ลา้ นบาทหรือทั้งจา� ทงั้ ปรับ
54
การคมุ้ ครองผบู้ ริโภค
ด้านโฆษณาตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค
พ.ศ.2522
การคุ้มครองผู้บริโภคด้านโฆษณา เป็นมาตรการหน่ึงของ “การคุ้มครอง
ผู้บริโภค” ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย
พระราชบญั ญตั ิคุ้มครองผ้บู รโิ ภค (ฉบับท ่ี 2) พ.ศ. 2541 ในอันทจ่ี ะให้การคุม้ ครองแก่
ผู้บรโิ ภคเก่ียวกับการไดร้ บั ขอ้ มูลขา่ วสาร รวมทง้ั คา� พรรณนาคณุ ภาพท่ถี ูกตอ้ ง และ
เพยี งพอเกยี่ วกบั สนิ คา้ หรอื บรกิ าร ดงั นน้ั การโฆษณาเพอื่ จา� หนา่ ยสนิ คา้ หรอื ใหบ้ รกิ าร
ตา่ งๆ จะตอ้ งไมใ่ ชถ้ อ้ ยคา� หรอื ขอ้ ความโฆษณาทม่ี ลี กั ษณะตามทก่ี า� หนดในมาตรา 22
แห่งพระราชบญั ญตั ิคมุ้ ครองผูบ้ รโิ ภค พ.ศ. 2522
มาตรา 22 การโฆษณาจะตอ้ งไมใ่ ชข้ อ้ ความทเ่ี ปน็ การไมเ่ ปน็ ธรรมตอ่ ผบู้ รโิ ภค
หรือใช้ข้อความที่อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อสังคมเป็นส่วนรวม ทั้งน้ี ไม่ว่าข้อความ
ดังกล่าวน้ันจะเป็นข้อความทเี่ กีย่ วกับแหลง่ ก�าเนิด สภาพ คณุ ภาพ หรอื ลกั ษณะของ
สนิ ค้าหรือบรกิ าร ตลอดจนการสง่ มอบ การจัดหา หรอื การใช้สินค้าหรอื บริการ
ข้อความดังต่อไปน ้ี ถือว่าเป็นข้อความทเี่ ป็นการไมเ่ ปน็ ธรรมต่อผู้บริโภคหรอื
เป็นขอ้ ความทอ่ี าจกอ่ ใหเ้ กิดผลเสยี ต่อสงั คมเปน็ ส่วนรวม
(1) ขอ้ ความท่ีเปน็ เท็จหรือเกินความจริง
(2) ข้อความที่จะก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระส�าคัญเก่ียวกับสินค้าหรือ
บรกิ ารไมว่ า่ จะกระทา� โดยอา้ งองิ รายงานทางวชิ าการ สถติ ิ หรอื สง่ิ ใดสงิ่ หนง่ึ อนั ไมเ่ ปน็
ความจริงหรอื เกินความจรงิ หรอื ไมก่ ต็ าม
(3) ข้อความท่ีเป็นการสนับสนุนโดยตรงหรือโดยอ้อมให้มีการกระท�าผิด
กฎหมายหรอื ศลี ธรรม หรือนา� ไปสูค่ วามเสื่อมเสยี ในวฒั นธรรมของชาติ
(4) ข้อความท่ีจะท�าให้เกิดความแตกแยกหรือเส่ือมเสียความสามัคคีในหมู่
ประชาชน
(5) ข้อความอยา่ งอนื่ ตามท่ีก�าหนดในกฎกระทรวง
55
ซง่ึ จากแผนผงั จะแสดงให้เหน็ วา่
1. กรณโี ทษทำงอำญำ เมอ่ื คณะกรรมการว่าด้วยการโฆษณา มีความเห็นวา่
การใช้ข้อความโฆษณาของผู้ประกอบธุรกิจใดมีลักษณะเป็นการใช้ข้อความโฆษณา
ที่เป็นเท็จหรือเกินความจริง หรือก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระส�าคัญ ตามมาตรา
22 วรรคสอง (1) และ (2) ตอ้ งรับโทษทางอาญา ตามมาตรา 47 แห่งพระราชบัญญตั ิ
คุ้มครองผ้บู รโิ ภค พ.ศ. 2522 คือ จา� คกุ ไมเ่ กิน 6 เดอื น หรอื ปรบั ไม่เกนิ หา้ หมนื่ บาท
หรือท้ังจ�าทั้งปรับ และกรณีท่ีเป็นเจ้าของส่ือ จะต้องระวางโทษกึ่งหน่ึงของโทษท่ี
บัญญัติไว้ส�าหรับความผิดนั้น ตามมาตรา 50 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค
พ.ศ. 2555 หากเปน็ ความผดิ ตอ่ เน่อื ง ตอ้ งระวางโทษปรบั วนั ละไมเ่ กนิ หนงึ่ หมนื่ บาท
และกรณีเป็นนิติบุคคล กรรมการผู้จัดการ ผู้รับผิดชอบการด�าเนินงาน ต้องระวาง
โทษจา� คกุ ไม่เกนิ หกเดือนหรือปรบั ไม่เกนิ ห้าหมน่ื บาท หรอื ทง้ั จา� ทัง้ ปรบั ตามมาตรา
59 แหง่ พระราชบัญญตั คิ ุ้มครองผ้บู ริโภค พ.ศ. 2522
2. กรณีโทษทำงอำญำ เม่อื คณะกรรมการว่าด้วยการโฆษณา มคี วามเหน็ วา่
การใช้ข้อความโฆษณาของผู้ประกอบธุรกิจใดมีลักษณะเป็นการใช้ข้อความโฆษณา
ที่มีลักษณะเป็นการใช้ข้อความท่ีเป็นการสนับสนุนโดยตรงหรือโดยอ้อมให้มีการ
กระท�าผิดกฎหมายหรือศีลธรรม หรือน�าไปสู่ความเสื่อมเสียในวัฒนธรรมของชาติ
หรือข้อความท่ีจะท�าให้เกิดการแตกแยกหรือเส่ือมเสียความสามัคคีในหมู่ประชาชน
หรือข้อความอยา่ งอื่นตามทีก่ า� หนดในกฎกระทรวง ตามมาตรา 22 วรรคสอง (3) (4)
และ (5) ต้องรับโทษทางอาญา ตามมาตรา 48 แหง่ พระราชบัญญตั ิคุ้มครองผู้บรโิ ภค
พ.ศ. 2522 คอื จา� คกุ ไมเ่ กนิ 3 เดอื น หรอื ปรบั ไมเ่ กนิ สามหมน่ื บาท หรอื ทงั้ จา� ทงั้ ปรบั และ
กรณที เี่ ปน็ เจา้ ของสอื่ จะตอ้ งระวางโทษ กง่ึ หนง่ึ ของโทษทบี่ ญั ญตั ไิ วส้ า� หรบั ความผดิ นน้ั
ตามมาตรา 50 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 หากเป็นความผิด
ต่อเน่ือง ต้องระวางโทษปรับวันละไม่เกินหน่ึงหมื่นบาท และกรณีเป็นนิติบุคคล
กรรมการผจู้ ดั การ ผรู้ บั ผดิ ชอบการดา� เนนิ งาน ตอ้ งระวางโทษจา� คกุ ไมเ่ กนิ หกเดอื นหรอื
ปรบั ไมเ่ กนิ หา้ หมนื่ บาท หรอื ทงั้ จา� ทงั้ ปรบั ตามมาตรา 59 แหง่ พระราชบญั ญตั คิ มุ้ ครอง
ผบู้ ริโภค พ.ศ. 2522
56
3. กรณโี ทษทำงปกครอง ตำมมำตรำ 27 แหง่ พระรำชบัญญัติคมุ้ ครอง
ผบู้ ริโภค พ.ศ. 2522 กา� หนดให้คณะกรรมการวา่ ดว้ ยการโฆษณามีอา� นาจออกค�าส่งั
อย่างหน่ึงอย่างใดดังต่อไปน้ี หากพบว่ามีผู้ประกอบธุรกิจใช้ข้อความโฆษณาฝ่าฝืน
มาตรา 22 วรรคสอง (1)-(5)
• แกไ้ ขข้อความ วธิ กี ารโฆษณา
• ห้ามใช้ขอ้ ความ
• ห้ามโฆษณา
• ให้โฆษณาแกไ้ ขความเขา้ ใจผิด
ทั้งนี้ หากฝ่าฝืนค�าส่ังดังกล่าว ต้องระวางโทษทางอาญาตามที่ก�าหนดไว้ใน
มาตรา 49 แหง่ พระราชบญั ญตั คิ มุ้ ครองผบู้ รโิ ภค พ.ศ. 2522 คอื ตอ้ งระวางโทษจา� คกุ ไมเ่ กนิ
6 เดอื น หรือปรบั ไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือท้งั จา� ทั้งปรบั
4. ส�ำหรับกฎกระทรวงท่ีเกี่ยวกับกำรคุ้มครองผู้บริโภคด้ำนโฆษณำ
ตามท่ีก�าหนดในมาตรา 22 วรรคสอง (5) นน้ั ได้แก ่
• กฎกระทรวงฉบับท่ี 5 ว่าด้วยเร่ือง การจัดให้มีการแถมพก/รางวัล/
เสยี่ งโชค และการแถม/ให้สิทธ/ิ ใหป้ ระโยชน์โดยเปล่า
• กฎกระทรวงฉบับท่ี 6 ว่าด้วยเร่ือง การโฆษณาสินค้า/บริการ รวมกับ
ขอ้ ความถวายพระพร
• กฎกระทรวงฉบบั ที่ 7 ว่าด้วยเรือ่ ง การโฆษณาขายห้องชุด/ท่ีดินแปลง
ยอ่ ย/ท่ีดนิ พรอ้ มอาคาร
3 min
57
สิทธขิ องผู้ใช้บริการ....รถโดยสารสาธารณะ
สทิ ธิควรใช้...ก่อนเลอื กใชบ้ รกิ ำร
1. ผู้ใช้บริการมีสิทธิท่ีจะได้รับข้อมูลข่าวสาร รวมทั้งค�า
พรรณนาคณุ ภาพเกยี่ วกบั บรกิ ารรถโดยสาร รวมทง้ั ความคมุ้ ครอง
ตามกรมธรรมป์ ระกนั ภยั ทถ่ี กู ตอ้ งเปน็ จรงิ ครบถว้ น เพยี งพอตอ่ การตดั สนิ
ใจใช้บริการ
ผู้โดยสารมีสิทธิท่ีจะได้รับข้อมูลเกี่ยวกับ ประเภท คุณภาพมาตรฐานของ
รถโดยสาร สง่ิ ที่จะไดร้ ับการบริการจากรถโดยสาร วนั เวลาในการเดนิ ทางและวันเวลา
ถงึ ทห่ี มาย ราคาค่าบรกิ าร รายละเอียดในความคมุ้ ครองของกรมธรรม์ประกันภยั ตาม
พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถยนต์ฯ และกรมธรรม์ประกันภัยประเภทสมัครใจ
ที่ผู้ประกอบการมีให้ และข้อมูลอ่ืนๆ ท่ีจ�าเป็นที่เกี่ยวกับการบริการของรถโดยสาร
หากผใู้ หบ้ รกิ ารมกี ารแสดงขอ้ ความเปน็ เทจ็ หรอื ปกปดิ ความจรงิ และผโู้ ดยสารไดต้ กลง
จ่ายค่าโดยสารไปแล้วและมารู้ว่าถูกหลอกลวงในภายหลัง ผู้ให้บริการอาจมีความผิด
ฐานฉอ้ โกงประชาชน มีโทษท้งั จ�าทง้ั ปรบั
2. ผใู้ ชบ้ รกิ ารมสี ทิ ธทิ จ่ี ะไดร้ บั ความเปน็ ธรรมในดา้ นสญั ญา และราคาคา่ บรกิ าร
หา้ มไม่ใหผ้ ู้ให้บรกิ ารเรยี กเกบ็ คา่ โดยสารเกินกวา่ ท่ีทางการก�าหนด
3. ผู้ใช้บริการมีอิสระในการเลือกใช้บริการรถโดยสารด้วยความสมัครใจและ
ปราศจากการชักจงู ใจอนั ไม่เป็นธรรม
การที่ผู้ให้บริการรถโดยสารหรือผู้มีส่วนเก่ียวข้องเรียกให้คนข้ึนรถด้วยการ
ส่งเสยี งอือ้ องึ หรอื ในลกั ษณะท่ีก่อความรา� คาญใหแ้ กผ่ โู้ ดยสารหรอื ผู้อื่น หรอื ต้อน ดงึ
เหนี่ยว หรือยึดย้อื ผ้โู ดยสารหรอื ส่งิ ของเพ่ือให้ไปข้ึนรถโดยสารคนั ใดคนั หน่งึ ถอื เปน็
ความผดิ ตามมาตรา 86 พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 โทษปรบั ไมเ่ กิน 1,000 บาท
สทิ ธคิ วรใช.้ ..ขณะใช้บริกำร
1. ผู้ใช้บริการมีสิทธิที่จะได้รับความปลอดภัยในทุกๆ ด้าน จากการใช้บริการ
รถโดยสาร
58
รถโดยสารต้องมีคุณภาพ มาตรฐาน
ด้านความปลอดภัยตามหลักวิชาการ (ตาม
ท่ีกฎหมายก�าหนด) มีสภาพที่ม่ันคงแข็งแรง
ไม่ก่อให้เกิดอันตราย หรืออาจท�าให้เสื่อมเสียสุขภาพอนามัยแก่ผู้โดยสารได้ ผู้ขับขี่
รถโดยสารตอ้ งไมอ่ ยใู่ นสภาพหยอ่ นความสามารถ ไมเ่ มาสรุ าหรอื เสพยาเสพตดิ ปฏบิ ตั ิ
ตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ไม่ขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว และขับขี่โดย
คา� นงึ ถงึ ความปลอดภยั หรอื ความเดอื ดรอ้ นของผอู้ น่ื ถนนและสญั ญาณจราจรตอ้ งเปน็
ไปตามมาตรฐาน สามารถใช้งานไดอ้ ย่างปลอดภยั
2. ผใู้ ชบ้ รกิ ารมสี ทิ ธทิ จ่ี ะไดร้ บั บรกิ ารจากรถโดยสารและผใู้ หบ้ รกิ ารทมี่ คี ณุ ภาพ
มาตรฐาน
รถโดยสารต้องมีคุณภาพ มาตรฐานด้านการบริการตามท่ีกฎหมายก�าหนด
ผใู้ หบ้ รกิ ารตอ้ งใหบ้ รกิ ารตอ่ ผโู้ ดยสารดว้ ยความสภุ าพ ไมเ่ สยี ดส ี ดหู มนิ่ กา้ วรา้ ว หรอื
แสดงกิรยิ าอน่ื ใดทเ่ี ป็นการไม่ให้เกยี รติผู้โดยสาร ไมม่ กี ารสูบบหุ ร่ ี คยุ กัน หรือส่งเสยี ง
รบกวนก่อความเดือดร้อน ร�าคาญในขณะให้บรกิ าร
สทิ ธิควรใช้...เมื่อถกู ละเมดิ หรือประสบภัย
1. ผู้ใช้บริการมีสิทธิร้องเรียนหรือฟ้องร้อง เพื่อให้ผู้บริการหรือหน่วยงานท่ี
เกี่ยวข้องด�าเนินการแก้ไขปัญหา เยยี วยาหรือชดใชค้ วามเสยี หายทเ่ี กดิ ขึน้
2. ผู้ใชบ้ ริการมีสทิ ธิทจี่ ะได้รับการชดใช้ความเสยี หายจากการประกนั ภยั โดย
ไม่มีการประวิงเวลา หรือบังคับให้ประนีประนอมยอมความ หรือสิทธิการฟ้องคดี
เรยี กรอ้ งคา่ เสยี หาย หากพบวา่ ไดร้ บั ความเสยี หายเพม่ิ เตมิ จากคา่ เสยี หายทไ่ี ดร้ บั มาแลว้
3. ผู้ใช้บริการมีสิทธิที่จะได้รับการชดใช้ความเสียหายทั้งทางร่างกาย จิตใจ
อนามยั เสรีภาพ ทรัพยส์ ิน และสทิ ธอิ ่ืนๆ ท่ถี ูกละเมดิ
4. ผใู้ ชบ้ รกิ ารมสี ทิ ธทิ จี่ ะไดร้ บั การชดใชค้ วามเสยี หายดว้ ยหลกั แหง่ พฤตกิ ารณ์
และความร้ายแรงแหง่ ละเมิด
5. ผู้ใชบ้ รกิ ารมีสทิ ธิท่ีจะรวมตวั กันเพอ่ื พทิ กั ษ์สิทธขิ องตนและของผู้อน่ื
59
พึงจ�าไว้เสมอว่า เม่ือถูกละเมิดสิทธิ ส่ิงที่
ผโู้ ดยสารตอ้ งทา� โดยเรง่ ดว่ น คอื การรอ้ งเรยี น ซง่ึ หมายถงึ
การฟอ้ งรอ้ งดว้ ย (หากจา� เปน็ ) เพราะเปา้ หมายของการ
ฟอ้ งรอ้ งหรอื รอ้ งเรยี น คอื เพอื่ ใหไ้ ดร้ บั การแกไ้ ข เยยี วยาในความ
เสยี หายทเ่ี กดิ ขน้ึ ดว้ ยความเปน็ ธรรมตามทก่ี ฎหมายกา� หนด สงิ่
ส�าคัญเพ่ือให้การร้องเรียนได้ผล คือ รู้ว่าเหตุเกิดที่ไหน รู้ว่าเกิด
เม่อื ไหร ่ รวู้ ่าเกิดอยา่ งไร รู้ว่าใครเป็นตน้ เหตุ และรูถ้ ึงชอ่ งทางการ
รอ้ งเรียน ไดแ้ ก่
ศูนย์คุม้ ครองผู้โดยสารรถสาธารณะ สายด่วน 1584
ศนู ยร์ ับร้องเรยี นขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ สายด่วน 184
ศนู ยค์ วามปลอดภยั คมนาคม 1356
ตำารวจทางหลวง 1193
60
ข้นั ตอน....การรอ้ งเรยี นออนไลน์
สคบ. มีช่องทางการรับเรื่องร้องเรียนหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น ร้องเรียน
ดว้ ยตนเองหรอื ส่งจดหมายไปท่ี สคบ. การร้องเรียนท่ีศาลากลางจงั หวัดทกุ จงั หวัด สง่
ขอ้ มลู ผา่ นทาง E mail ท ี่ [email protected] โดยผบู้ รโิ ภคสามารถรบั แบบฟอรม์
รอ้ งเรยี นพรอ้ มซองไดท้ เ่ี ซเวน่ อเี ลฟเวน่ ทกุ สาขา โดยไมม่ คี า่ ใชจ้ า่ ย และอกี 1 ชอ่ งทาง
การร้องเรียนไดแ้ ก่ ทาง www.ocpb.go.th โดยมวี ธิ ีการขน้ั ตอน ดังน้ี
1. ไปท ่ี website : http://www.ocpb.go.th/
2. เลือกไปท ่ี ร้องเรยี นออนไลน์
61
3. สมัครใช้งานดว้ ยข้อมลู จริง หากตดิ ปัญหาหรือสงสัย เพิ่มเตมิ
โปรดติดต่อ 02 141 3487 หรอื 02 141 3490
4. เมอื่ สมัครใชง้ านได ้ ทา่ นจะได้รบั ชื่อผูใ้ ช ้ และรหัสผา่ น ส่งกลับใหท้ างอเี มล์
62
เดือดร้อนเรือ่ งอะไร? ควรไปรอ้ งเรียนท่ีไหนดี
63
64