โดย นางสาวพจนีย์ คลา้ ยคลงึ
คำนำ
หนงั สืออเิ ล็กทรอนกิ ส์ ฉบับบน้ี เป็นสวนหนึ่งของการจดั ทาสอ่ื การเรียน
การสอน ซงึ่ มีวตั ถุประสงค์เพ่อื ให้ผทู้ สี่ นใจศกึ ษา ไดศ้ ึกษา โดยเน้ือหาประกอบไป
ด้วย ความหมายของพันธุศาสตร์ คาศพั ท์ทเ่ี กี่ยวขอ้ งกบั การศึกษาการถ่ายทอด
ลักษณะทางพนั ธุกรรม การถ่ายทอดลกั ษณะทางพันธกุ รรมทถี่ กู ควบคมุ โดยยีน
ด้อยบนออโตโซม (Autosome) และโครโมโซมเพศ (Sex Chromosome)
พงสาวลี หรอื พันธปุ ระวตั ิ (Pedigree) มวิ เทชัน (Mutation) พันธุ
วศิ วกรรม (Genetic Enginerring) จเี อม็ โอ (GMOs) การโคลน (Cloning) เปน็ ตน้
สารบัญ หนา้
ความหมายของพันธุศาสตร์ 1
คาศัพท์ท่เี ก่ียวขอ้ งกบั การศึกษาการถา่ ยทอดลักษณะทางพันธุกรรม 2
การถ่ายทอดลักษณะทางพนั ธุกรรมท่ีถกู ควบคุมโดยยีนดอ้ ยบนออโตโซม 7
(Autosome) และโครโมโซมเพศ (Sex Chromosome)
พงสาวลี หรอื พันธุประวตั ิ (Pedigree) 8
มิวเทชนั (Mutation) 9
พันธุวิศวกรรม (Genetic Enginerring) 10
จีเอ็มโอ (GMOs) 11
การโคลน (Cloning) 12
ลายพมิ พด์ ีเอน็ เอ (DNA fingerprint) 13
1
พนั ธศุ าสตร์ คอื วิชาที่ศกึ ษาเกี่ยวกับ
การทางานของยนี (Gene) ซึง่ เปน็ หนว่ ย
ควบคมุ การถา่ ยทอดลักษณะต่างๆ จากรนุ่
พ่อแม่ไปยงั รนุ่ ลกู ร่นุ หลาน และความแปร
ผันของลกั ษณะต่างๆ ของสิง่ มชี วี ติ
คาศพั ทท์ เ่ี กี่ยวข้องกับการศกึ ษาการถา่ ยทอด 2
ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม
1. เซลล์สบื พนั ธ์ุ (Gamete)
2. ยีน (Gene)
3. แอลลลี (Allele)
4. โฮโมไซกัสยนี (Homozygous Gene)
4.1 Homozygous Dominance
พันธ์แุ ท้ของลักษณะเด่น
4.2 Homozygous Recessive
คาศัพทท์ ่ีเกีย่ วข้องกับการศกึ ษาการ 3
ถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม (ตอ่ )
5. เฮเทอโรไซกัสยีน (Heterozygous Gene)
6. ลกั ษณะเดน่ (Dominance หรอื
Dominant Trait)
7. ลกั ษณะดอ้ ย (Recessive Trait)
8. ฟโี นไทป์ (Phenotype)
9. จีโนไทป์ (Genotype)
คำศัพท์ ควำมหมำย 4
เซลล์สืบพันธ์ุ (Gamete) เซลลส์ บื พนั ธุ์ หมำยถงึ อสุจิ (Sperm) เซลล์ไข่ (Egg Cell) และรวมถงึ โครงสร้ำงอนื่ ๆ ทีท่ ำหนำ้ ท่ี
ยีน (Gene) เช่นเดียวกันซง่ึ จะพบในพชื
แอลลีล (Allele) ยีน หมำยถึง หน่วยควบคมุ ลักษณะทำงพนั ธกุ รรมตำ่ งๆ ของสง่ิ มชี ีวติ ซง่ึ อยู่เปน็ ค่แู ละจะถ่ำยทอดจำก
พอ่ แม่ไปสู่ลูก โดยในทำงพันธุศำสตรไ์ ดม้ กี ำรกำหนดสัญลักษณ์แทนยีนไวห้ ลำยแบบ แต่ท่ีนิยมใชค้ ือ
กำรใช้อักษรภำษำองั กฤษเป็นสัญลกั ษณแ์ ทนยีน เชน่ อักษรภำษำองั กฤษตวั พิมพ์ใหญ่แทน ยีนเด่น
และตัวพมิ พ์เล็กแทน ยนี ด้อย
แอลลีล (Allele) หมำยถงึ ยีนตำ่ งชนิดกันท่ีเข้ำคกู่ นั ไดโ้ ดยจะอยู่ในตำแหน่งเดียวกันของโครโมโซมที่
เปน็ คเู่ หมือน (Homologous Chromosome) ซง่ึ เปน็ ยนี ท่คี วบคมุ ลักษณะเดยี วกนั ตัวอยำ่ งเช่น
ลักษณะต้นสูงของต้นถั่วถกู ควบคมุ โดยยนี 2 แอลลลี คอื ยีนทีค่ วบคุมลกั ษณะเด่น (T) และยนี ที่
ควบคุมลกั ษณะดอ้ ย (t) ดังนัน้ ยนี Tจงึ เปน็ แอลลลี กบั ยนี t
โฮโมไซกสั ยีน โฮโมไซกสั ยีน (Homozygous Gene) หมำยถงึ คู่ของยนี ท่ีเหมอื นกันอยดู่ ว้ ยกนั เพอื่ ควบคุมลกั ษณะ
(Homozygous Gene) ของสงิ่ มีชีวิต เช่น TT, tt, IAIA เปน็ ตน้ โฮโมไซกสั ยนี เรยี กอีกอยำ่ งหนง่ึ ว่ำ พันธุ์แท้
คำศัพท์ ควำมหมำย 5
Homozygous Dominance Homozygous Dominance หมำยถึง ค่ขู องยนี เดน่ ทเ่ี หมือนกันอยดู่ ้วยกัน หรอื เรียกวำ่ เปน็ พนั ธ์ุแท้ของ
ลักษณะเดน่
Homozygous Recessive Homozygous Recessive หมำยถึง ค่ขู องยีนดอ้ ยที่เหมือนกนั อยู่ดว้ ยกัน หรือเรียกวำ่ เป็นพนั ธ์ุแทข้ อง
ลกั ษณะด้อย
เฮเทอโรไซกสั ยนี เฮเทอโรไซกสั ยีน (Heterozygous Gene) หมำยถงึ คขู่ องยีนท่ตี ่ำงกันอย่ดู ว้ ยกนั เพ่ือควบคมุ ลกั ษณะของ
(Heterozygous Gene) สิง่ มชี ีวติ เชน่ Tt, Rr, IAi IAIB เปน็ ตน้ เฮเทอโรไซกสั ยนี เรยี กอีกอยำ่ งหนึ่งวำ่ พันธ์ทุ ำง
ลกั ษณะเด่น (Dominance ลกั ษณะเดน่ (Dominance หรือ Dominant Trait) หมำยถึง ลักษณะท่ีมีโอกำสปรำกฏออกมำในรนุ่ ลูกและ
หรือ Dominant Trait) รุ่นตอ่ ๆ ไปไดเ้ สมอ ตัวอย่ำงเช่น ถ้ำนำสงิ่ มชี วี ิตท่ีมลี ักษณะตรงขำ้ มกนั และเป็นพนั ธ์แุ ท้ท้งั 2 ฝำ่ ยมำผสม
พันธุ์กนั เป็นต้นว่ำ นำถ่ัวต้นสงู พนั ธุแ์ ท้ผสมพันธ์ุกับถวั่ ตน้ เต้ยี พนั ธแุ์ ท้ ลูกที่เกดิ ขน้ึ จะมลี ักษณะต้นสูงทงั้ หมด
(แต่เปน็ พันธ์ุทำง) และถ้ำนำรุ่นลูกมำผสมพันธก์ุ นั เอง รุ่นหลำนที่เกดิ ข้นึ ก็ยังมตี น้ สูงปรำกฏอยู่อกี กรณี
ดังกล่ำวจะถือว่ำ ถั่วต้นสงู เปน็ ลกั ษณะเดน่
คำศัพท์ ควำมหมำย 6
ลกั ษณะด้อย ลักษณะด้อย (Recessive Trait) หมำยถงึ ลักษณะทป่ี รำกฏออกมำเฉพำะบำง
(Recessive Trait)
รุ่น และมโี อกำสปรำกฏออกมำไดน้ ้อยกวำ่ (ลกั ษณะเด่น)
ฟีโนไทป์ (Phenotype) ฟีโนไทป์ (Phenotype) หมำยถึง ลกั ษณะของสงิ่ มชี ีวติ ทป่ี รำกฏออกมำให้เห็น
ได้ดว้ ยตำ เช่น สขี องดอกถัว่ สผี วิ ของคน จำนวนชั้นของหนงั ตำ ลกั ษณะของ
เสน้ ผม หมเู่ ลอื ด เป็นตน้
จีโนไทป์ (Genotype) จีโนไทป์ (Genotype) หมำยถงึ รูปแบบของยนี ทคี่ วบคมุ ฟโี นไทปต์ ำ่ งๆ เชน่ จี
โนไทปท์ ี่ควบคมุ ควำมยำวของลำตน้ ถ่วั มไี ด้ 3 แบบ ได้แก่ TT, Tt และ tt
กำรถำ่ ยทอดลักษณะทำงพนั ธุกรรมท่ถี ูกควบคมุ โดยยนี ด้อยบนออโตโซม 7
(Autosome)และโครโมโซมเพศ (Sex Chromosome)
ลักษณะทางพนั ธกุ รรมทถ่ี ูกควบคมุ โดยยนี ดอ้ ยบนออ ลักษณะทางพนั ธกุ รรมทถ่ี ูกควบคมุ โดยยนี ดอ้ ยบน
โตโซม โครโมโซม X
1. อาการผวิ เผอื ก (Albino) 1. โรคฮโี มฟเิ ลีย (Hemophilia)
2. โรคทาลัสซเี มยี (Thalassemia) 2. โรคตาบอดสี (Color Blindness)
3. โรคโลหติ จางชนดิ ซกิ เคลิ เซลล์ (Sickle Cell 3. โรคกล้ามเนอื้ แขนขาลีบ
Anemia) 4. โรค G-6-PD
8
พงศำวลี หรือพันธปุ ระวตั ิ (Pedigree)
พงศาวลี คอื แผนภาพแสดงความสมั พันธ์
ในการถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรมทตี่ ้องการ
ศึกษาของครอบครวั หรอื ตระกลู หนึ่งๆ
ตัวอย่างเชน่
9
มิวเทชัน (Mutation)
มิวเทชนั คอื การเปลยี่ นแปลงที่เกิดขึน้ กับยีน หรอื
โครโมโซม ซงึ่ จะกอ่ ให้เกิดลกั ษณะทางพนั ธุกรรมท่ดี หี รือไม่ดกี ็
ไดม้ วิ เทชนั ทเี่ กิดขึ้นกบั ยีน (Gene mutation หรือ DNA
mutation) คือ การเปลีย่ นแปลงลาดบั นวิ คลีโอไทด์ของยนี ใน
DNA อยา่ งถาวร ซ่ึงจะส่งผลต่อการเปลย่ี นแปลงชนิด
และลาดบั ของกรดอะมิโนในสายโปรตนี ท่จี ะถูกสรา้ งขนึ้ จาก
การทางานของยีน
พนั ธวุ ศิ วกรรม (Genetic Enginerring) 10
พันธุวศิ วกรรม เป็นเทคนคิ การสรา้ ง DNA สายผสม
หรือรีคอมบแิ นนท์ ดเี อน็ เอ (Recombinant DNA) เพอื่ ให้
ได้ส่งิ มชี วี ิตทม่ี ลี ักษณะตามความต้องการ ซง่ึ เทคนิควธิ ี
ดงั กล่าวจะต้องอาศยั เอนไซม์สาคัญ 2 ชนิด คอื เอนไซม์ตัด
จาเพาะ (Restriction Enzyme) และเอนไซม์ DNA ไลเกส
(DNA ligase enzyme)
จเี อม็ โอ (GMOs) 11
จีเอม็ โอ หมายถึง ส่งิ มชี วี ติ ทีผ่ า่ นกระบวนการตัดตอ่ ยีนแลว้
หรอื อาจกล่าวได้วา่ เป็นส่งิ มชี วี ติ ทีม่ ี ดเี อน็ เอ สายผสม (DNA
recombinant) อยู่ภายในเซลล์ ซงึ่ DNA หรือยีนทีถ่ กู ใสเ่ ข้าไปใน
DNA ของส่ิงมชี ีวติ เจา้ บา้ น (Host) นนั้ จะทาใหส้ ่งิ มชี ีวิตชนิดนนั้ ๆ มี
ลกั ษณะตามท่มี นุษยต์ ้องการ
กำรโคลน (Cloning) 12
การโคลน หมายถงึ การสร้างสงิ่ มีชวี ิต
(ตัวหรอื ตน้ ) ใหม่ ซ่งึ มลี ักษณะทางพนั ธุกรรมเหมือน
สิง่ มชี วี ติ ตน้ แบบทกุ ประการวธิ ีการโคลน คือ การนา
นวิ เคลียสของเซลล์ร่างกาย (Somatic Cell) ใส่เข้า
ไปในเซลลไ์ ขท่ ีถ่ ูกดดู เอานวิ เคลียสออกแล้ว จากนัน้
กระตนุ้ ดว้ ยไฟฟ้าเพื่อให้แตล่ ะสว่ นหลอมรวมกันแลว้
นาไปเพาะเลีย้ งให้พัฒนาเป็นเอ็มบรโิ อ
13
ลำยพิมพด์ เี อ็นเอ (DNA fingerprint)
ลายพิมพ์ดีเอ็นเอ คอื รูปแบบของแถบดี
เอน็ เอ ซึ่งแสดงความแตกตา่ งของขนาด
โมเลกุลดเี อน็ เอในสิง่ มีชีวติ แต่ละตวั หรอื แต่ละ
บคุ คลได้ ดังน้นั ลายพิมพ์ดเี อ็นเอจงึ เปน็
เอกลักษณข์ องแตล่ ะบุคคล