The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผน วิทยาศาสตร์ ป.4 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by jhajah_pk02, 2021-09-04 02:55:26

แผน วิทยาศาสตร์ ป.4 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1

แผน วิทยาศาสตร์ ป.4 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1

1หน่วยการเรียนรู้ สง่ิ มชี วี ติ กับการดำรงชีวติ

ที่ เวลา 20 ชัว่ โมง
รายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 1/1 การจำแนกกลุ่มสง่ิ มชี วี ติ 3 ช่วั โมง
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 1/2 การจำแนกกลมุ่ สตั ว์ 4 ช่ัวโมง
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 1/3 การจำแนกกล่มุ พืช 3 ชว่ั โมง
แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 1/4 รากและลำต้นพืช 3 ช่วั โมง
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 1/5 ใบพชื 3 ชั่วโมง
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1/6 ดอกของพชื 4 ชั่วโมง

สาระการเรยี นรู้

1. การจำแนกกลมุ่ ส่ิงมีชวี ิต
2. การจำแนกกลุม่ สัตว์
3. การจำแนกกลมุ่ พืช
4. รากและลำต้นพชื
5. ใบพชื
6. ดอกของพืช

สมรรถนะสำคญั /ทักษะแหง่ ศตวรรษที่ 21

1. สมรรถนะสำคัญ
- ความสามารถในการสอื่ สาร
- ความสามารถในการคดิ
- ความสามารถในการแก้ปญั หา
- ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

สมรรถนะสำคัญ/ทักษะแหง่ ศตวรรษที่ 21

2. ทักษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21
- ทักษะการคดิ อย่างมวี จิ ารณญาณ
- ทักษะการคิดแก้ปัญหา
- ทักษะการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ
- ทักษะการสือ่ สาร
- ทักษะการทำงานรว่ มกันเป็นทมี และความเข้าใจความแตกต่างของวัฒนธรรม
- ทักษะการคิดสรา้ งสรรคแ์ ละการแสวงหานวตั กรรม

คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
งง

1. ใฝเ่ รยี นรู้ : ความตัง้ ใจในการสืบคน้ ข้อมลู และการรว่ มกิจกรรม
2. มุ่งมั่นในการทำงาน : ความตั้งใจในการทำงานให้เสร็จในเวลาที่กำหนดและมีคุณภาพตาม

เป้าหมาย
3. ซ่ือสตั ย์สุจริต : การทำงานด้วยความสามารถของตนเองและเป็นความจริง

การออกแบบการจดั การเรยี นรูแ้ บบ Active Learning
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 สิ่งมีชวี ติ กับการดำรงชวี ติ

ผลการเรียนรู้

มาตรฐาน
มฐ. ว 1.2 เขา้ ใจสมบัตขิ องส่ิงมีชวี ิต หน่วยพ้นื ฐานของสง่ิ มีชีวิต การลำเลียงสารผา่ นเซลล์ ความสัมพันธ์

ของโครงสร้างและหน้าที่ของระบบต่าง ๆ ของสตั วแ์ ละมนษุ ย์ทที่ ำงานสัมพันธก์ นั ความสมั พนั ธ์ของโครงสร้าง
และหน้าที่ของอวัยวะต่าง ๆ ของพชื ทท่ี ำงานสมั พันธก์ ัน รวมท้ังนำความร้ไู ปใชป้ ระโยชน์

ตัวชว้ี ดั ชน้ั ปี
1. บรรยายหนา้ ที่ของราก ลำต้น ใบ และดอกของพืชดอก โดยใช้ข้อมูลทร่ี วบรวมได้ (ว 1.2 ป.4/1)

มาตรฐาน
มฐ. ว 1.3 เข้าใจกระบวนการและความสำคัญของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม สารพันธุกรรม

การเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมที่มีผลต่อสิ่งมีชีวติ ความหลากหลายทางชีวภาพและวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต
รวมทัง้ นำความรู้ไปใช้ประโยชน์

ตัวชีว้ ดั ชน้ั ปี
1. จำแนกสง่ิ มีชวี ติ โดยใช้ความเหมอื นและความแตกต่างของลกั ษณะของส่งิ มีชีวิตออกเปน็ กลมุ่ พืช กลุ่ม

สัตว์ และกล่มุ ทไ่ี ม่ใช่พชื และสัตว์ (ว 1.3 ป.4/1)
2. จำแนกพืชออกเป็นพืชดอกและพืชไม่มีดอก โดยใช้การมีดอกเป็นเกณฑ์ โดยใช้ข้อมูลที่รวบรวมได้

(ว 1.3 ป.4/2)
3. จำแนกสัตว์ออกเป็นสัตว์มีกระดูกสนั หลังและสัตว์ไม่มีกระดูกสนั หลงั โดยใช้การมกี ระดูกสันหลังเป็น

เกณฑ์ โดยใชข้ ้อมลู ทรี่ วบรวมได้ (ว 1.3 ป.4/3)
4. บรรยายลักษณะเฉพาะท่ีสงั เกตได้ของสัตวม์ กี ระดูกสนั หลังในกลมุ่ ปลา กลมุ่ สัตว์สะเทนิ น้ำสะเทินบก กลุม่
สัตวเ์ ลื้อยคลาน กลุ่มนก และกลุ่มสัตวเ์ ลี้ยงลกู ดว้ ยน้ำนม และยกตัวอย่างสิง่ มีชวี ติ ในแต่ละกลมุ่
(ว 1.3 ป.4/4)

แนวคดิ สำคญั

1. สิ่งมีชีวิตมีทั้งกลุ่มสัตว์ กลุ่มพืช และกลุ่มที่ไม่ใช่สัตวแ์ ละพืช เรียกว่า จุลินทรีย์ โดยอาศัยเกณฑ์การ
จำแนกกลุ่มได้หลายเกณฑ์

2. สตั ว์แต่ละชนดิ จะมโี ครงสร้างอวยั วะ และลกั ษณะเฉพาะตวั ทแ่ี ตกต่างกนั หรือคล้ายกันและทำหน้าที่
อย่างเดยี วกนั ก็ได้ ซ่ึงสามารถนำมาใชเ้ ปน็ เกณฑ์ในการจำแนกกลุ่มของสัตว์ได้

3. พืชแต่ละชนิดจะมีโครงสร้างและลักษณะเฉพาะตัวที่แตกต่างกันหรือคล้ายกันและทำหน้าที่อย่าง
เดียวกันก็ได้ ซึง่ สามารถนำมาใชเ้ ปน็ เกณฑใ์ นการจำแนกกลมุ่ ของพืชได้

4. พืชดอกมีสว่ นประกอบภายนอกที่ประกอบดว้ ยราก ลำต้น ใบ ดอก และผล ส่วนประกอบเหลา่ นี้จะ
ทำหน้าทแี่ ตกตา่ งกัน

คำถามสำคญั

1. นักวทิ ยาศาสตรจ์ ำแนกสงิ่ มชี ีวิตบนโลกเปน็ กี่กลมุ่ อะไรบา้ ง และใช้เกณฑอ์ ะไรในการจำแนก
ถ้าตอ้ งการจำแนกสิง่ มีชวี ิตทอ่ี ยบู่ นโลกจะมวี ิธกี ารอย่างไร
2. สตั วท์ ่อี ยบู่ นโลกใชเ้ กณฑใ์ ดในการจำแนกได้บา้ ง และแต่ละกลุ่มทีจ่ ำแนกมีสตั ว์ชนดิ ใดบา้ ง
3. ถ้าตอ้ งการจำแนกสตั ว์ทอี่ ยู่บนโลก เปน็ กลมุ่ ตา่ ง ๆ จะมวี ธิ ีการอยา่ งไร
4. พืชที่อยูบ่ นโลกใชเ้ กณฑใ์ ดในการจำแนกได้บ้าง และแต่ละกลุม่ ทีจ่ ำแนกมพี ืชชนดิ ใดบา้ ง
5. ถ้าต้องการจำแนกพชื ท่ีอยบู่ นโลก เปน็ กลุ่มต่าง ๆ จะมีวิธีการอยา่ งไร
6. พืชมโี ครงสร้างและสว่ นประกอบภายนอกอะไรบ้าง ส่วนประกอบเหลา่ น้นั ทำหน้าทีอ่ ะไร
7. รากและตน้ ลำต้นของพชื ทำหน้าทอี่ ะไร ถ้าไม่มรี ากและลำตนั จะเกดิ อะไรข้นึ
8. ใบของพชื ทำหนา้ ท่อี ะไร ถ้าไมม่ ใี บพชื จะเกดิ อะไรขน้ึ
ดอกของพชื ทำหนา้ ท่ีอะไร ถา้ ไมม่ ใี บพชื จะเกดิ อะไรขึ้น

กิจกรรมการเรียนรู้

1. นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรยี น จำนวน 10 ขอ้
2. ปฏบิ ตั ิกจิ กรรมการทดลอง กจิ กรรมท่ี 1.1-1.3
3. ตอบคำถามกจิ กรรมตรวจสอบการเรียนร้ทู ่ี 1.1-1.3
4. การทำแผนภาพ
5. การตอบคำถาม อภปิ ราย และสรุปองคค์ วามร้ตู ามเนอ้ื หา

การวดั และประเมินผล

1. การทำแบบทดสอบก่อนเรยี นและหลังเรียน
2. การตอบคำถามนำเขา้ สู่กจิ กรรม
3. การตอบแบบทดสอบวัดผลสมั ฤทธ์ิ
4. สงั เกตพฤติกรรมเกยี่ วกับใช้ทกั ษะ/กระบวนการและคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ดา้ นจติ วทิ ยาศาสตร์
และจติ สาธารณะ ระหว่างการทำกิจกรรม
5. การตอบคำถามกจิ กรรมตรวจสอบการเรียนรู้
6. การทำกจิ กรรมการทดลอง
7. แบบประเมินผลการเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง (นกั เรยี นประเมนิ ผลท่ไี ด้จากการสะท้อนตนเองจากการเรียนรู้
ลงในแบบประเมนิ ขอ้ 11 ซ่ึงครเู ปน็ ผู้จัดทำให)้
8. แบบประเมินช้นิ งาน
9. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเรยี นรู้
10.แบบประเมนิ ทักษะทีจ่ ำเปน็ ในศตวรรษท่ี 21
11.แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
12.แบบประเมินดา้ นทักษะปฏิบัติ
13.แบบประเมินการนำเสนอผลงานกลมุ่ (โดยใหค้ รู เพอ่ื นกลุม่ อ่นื และกลุ่มตนเองประเมิน)
14.แบบประเมนิ การเขยี นรายงานผลการปฏิบตั กิ ิจกรรม

สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1/1 รหสั วิชา ว14101
ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 4 ปีการศกึ ษา 2563
เรอ่ื ง การจำแนกกลุ่มสิ่งมชี ีวิต รายวิชา วทิ ยาศาสตร์ เวลา 3 ชัว่ โมง
ภาคเรียนที่ 1

1. มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตัวชี้วดั ช้ันปี

มาตรฐาน
มฐ. ว 1.3 เข้าใจกระบวนการและความสำคัญของการถ่ายทอดลักษณะทางพนั ธกุ รรม สารพนั ธุกรรม

การเปลย่ี นแปลงทางพันธกุ รรมที่มผี ลตอ่ สงิ่ มีชีวิต ความหลากหลายทางชวี ภาพและวิวฒั นาการของส่ิงมีชีวติ
รวมทัง้ นำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์

ตวั ช้ีวัดช้ันปี
จำแนกสิ่งมีชวี ติ โดยใชค้ วามเหมอื นและความแตกต่างของลักษณะของสง่ิ มชี วี ติ ออกเป็นกลมุ่ พชื กลุ่ม

สัตว์ และกลุ่มทีไ่ ม่ใช่พืชและสตั ว์ (ว 1.3 ป.4/1)

2. แนวคิด/หลกั การสำคญั
สง่ิ มชี ีวิตมีทัง้ กล่มุ สัตว์ กลมุ่ พืช และกลุม่ ที่ไม่ใชส่ ัตว์และพชื เรียกวา่ จุลนิ ทรยี ์ โดยอาศยั เกณฑก์ าร

จำแนกกลุม่ ได้หลายเกณฑ์

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
อธิบายรายงานผลจากการปฏิบตั ิกิจกรรมการจำแนกกลมุ่ สิง่ มชี ีวติ

4. สาระการเรยี นรู้
การจำแนกกลุ่มสง่ิ มชี วี ิต

5. ชิน้ งาน/ภาระงาน
5.1 รายงานผลกจิ กรรมการสำรวจ กจิ กรรมท่ี 1.1 เร่อื ง การจำแนกกลมุ่ สง่ิ มีชีวติ
5.2 การตอบคำถามกิจกรรมตรวจสอบการเรียนรู้ที่ 1.1

6. คำถามสำคัญ
6.1 นักวิทยาศาสตร์จำแนกสิ่งมชี วี ิตบนโลกเป็นก่ีกลุ่ม อะไรบา้ ง และใชเ้ กณฑ์อะไรในการจำแนก

6.2 ถ้าต้องการจำแนกส่งิ มีชีวติ ท่อี ยู่บนโลกจะมวี ธิ ีการอย่างไร

7. กจิ กรรมการจัดการเรียนรู้
7.1 ขั้นนำ

1. ครูสนทนากับนกั เรยี น จากคำถามตรวจสอบความเขา้ ใจก่อนเรยี น และคำถามนำเขา้ สกู่ จิ กรรมจาก
หนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ด้วยการตั้งคำถามและให้นักเรียนตอบเป็นรายบุคคล
(ให้เวลาคิด 3-5 วินาที) และสุ่มจากนักเรียนท่ียกมือเพื่อต้องการตอบคำถามโดยใช้ เทคนิควิธีการ (Teaching
Strategies) แบบ KWL : รู้อะไร รู้อย่างไร (What I Known) ต้องการรู้อะไรในสิ่งนั้น (What I want to
Known) จะเรียนรสู้ ิ่งน้นั อย่างไร (How I learned)

คำถาม
- นักเรียนร้จู กั สง่ิ มีชีวติ ท่ีอยูบ่ นโลกชนิดใดบา้ ง ส่งิ มชี วี ติ เหลา่ นน้ั มรี ปู รา่ งลกั ษณะอยา่ งไร
- ถ้าต้องการจำแนกสง่ิ มชี ีวิตบนโลกเปน็ กลุม่ ต่าง ๆ ใชห้ ลกั การอะไรในการจำแนก
- ถ้าตอ้ งการจำแนกสิ่งมีชีวิตทีอ่ ยู่บนโลกจะมวี ิธีดำเนนิ การอย่างไร

2. ครูแจ้งจดุ ประสงค์การเรียนรู้

7.2 ขน้ั สอน
1. จัดกลุ่มนักเรียน กลุ่มละ 4 คน แต่ละคน กำหนดบทบาทหน้าที่ภายในกลุ่ม โดยใช้เทคนิควิธีการ

(Teaching Strategies) การเรยี นรูแ้ บบร่วมมอื ร่วมใจ : Cooperative learning)
คนที่ 1 หัวหน้ากลุ่มและผ้ปู ระสาน การระดมความคิดและวางแผน
คนที่ 2 ผู้จดั การดา้ นความรู้ สำรวจตรวจสอบความถกู ต้อง
คนที่ 3 จดั เตรียม จัดหา จัดเกบ็ วัสดุ อปุ กรณ์
คนที่ 4 การเขยี นบันทกึ และนำเสนอผลงาน

2. แตล่ ะกลุม่ ทำกจิ กรรมท่ี 1.1 การจำแนกกลมุ่ ส่งิ มีชีวติ
3. ระหว่างท่นี ักเรยี นทำกิจกรรม ครูเดินไปทก่ี ลุ่มต่าง ๆ เพ่ือสังเกตและประเมินพฤติกรรมการเรียนรู้
ของนักเรียน และให้ความช่วยเหลือกลุ่มนักเรียนหรือนักเรียนที่อาจพบปัญหา ในการเรียนรู้ และรวมถึง
ประเมินกระบวนการทำงานกลุม่ (การประเมนิ เพอ่ื การปรบั ปรุง : Formative assessment)
4. แต่ละกลุ่มผลัดกันอธิบายหลักการจำแนกกลุ่มสิ่งมีชีวิตเป็นกลุ่มต่าง ๆ เกณฑ์การจำแนกและ
ตวั อยา่ งสง่ิ มีชวี ิตในแต่ละกลุม่ ขณะเดยี วกัน มีการประเมินผลการสอ่ื สารสงิ่ ที่เรยี นรู้ของนกั เรียนแตล่ ะกลุ่ม

5. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายสรุปผลการทำกิจกรรม และองค์ความรู้จากกิจกรรมที่ 1.1 และ
หลกั การจำแนกและให้ข้อสังเกตผลงานของแต่ละกลุ่ม กระบวนการทำงานกลมุ่ ในแต่ละกลุ่มหรือบางกลุ่ม เพ่ือ
การแนะนำและปรบั ปรุงแก้ไข และสรปุ ผลการเรยี นร้ขู องแตล่ ะกลุ่มทท่ี ำกจิ กรรมในภาพรวม

6. นักเรียนอ่านคำถามทา้ ยกิจกรรมที่ 1.1 และรว่ มกันตอบคำถาม และครูอธบิ ายความรู้
7. ครูอธิบายเพิ่มพูนความรู้เกี่ยวกับการจำแนกกลุ่มสิ่งมีชีวิต รูปร่างลักษณะของสัตว์ พืช และ
จุลนิ ทรยี ์ เพ่ิมเตมิ จากกจิ กรรม ประโยชน์และโทษ แล้วให้นักเรยี นซักถามและตอบคำถาม
8. นักเรยี นอ่านคำถามกจิ กรรมตรวจสอบการเรยี นรทู้ ี่ 1.1 ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันเฉลยคำตอบ

7.3 ขนั้ สรปุ
1. สะท้อนความคิดเพื่อปิดบทเรียนในกิจกรรมการสำรวจตรวจสอบและการจำแนกกกลุ่มสิ่งมีชีวิต

โดยให้นักเรียนเขียนบันทึกลงในสมุด หรือ ตอบคำถามในชั้นเรียน และใช้เทคนิควิธีการ (Teaching
Strategies) ตวั๋ ออก (Exit Ticket) ดงั น้ี

คำถาม
- นกั เรยี นไดค้ วามรู้จากการเรียนเรือ่ งการจำแนกกลุม่ ส่ิงมีชวี ติ อย่างไรบา้ ง เขยี นหรอื อธบิ าย 3 เรื่อง
- นักเรียนคิดว่าจะนำความรู้เก่ียวกับการจำแนกกลุม่ สิ่งมชี ีวิตไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันอย่างไร
บ้าง เขยี นหรอื อธบิ าย 2 ข้อ
- จากบทเรียนนี้ นักเรียนต้องการรู้เพิ่มเติม ยังไม่เข้าใจ ต้องการรู้เกี่ยวกับการจำแนกกลุ่มสิ่งมีชีวิต
อะไรบา้ ง เขียนหรือบอก 1 ขอ้

8. สือ่ การเรียนรู้และแหลง่ การเรยี นรู้
8.1 สอื่ การเรียนรู้
หนงั สือเรียนวทิ ยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 4
8.2 แหลง่ การเรียนรู้
1. หอ้ งสมุดของโรงเรียน
2. ห้องสมดุ กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์
3. อินเทอรเ์ น็ตจากเว็บไซต์ต่าง ๆ

9. การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้
9.1 แบบทดสอบกอ่ นเรียนแบบเลือกตอบ (4 ตัวเลอื ก) จำนวน 10 ขอ้
9.2 รายงานผลการสำรวจกิจกรรมที่ 1.1
9.3 การตอบคำถามกิจกรรมตรวจสอบการเรียนรู้ท่ี 1.1
9.4 แบบประเมินผลการเรียนรู้ด้วยตนเอง (นักเรียนประเมนิ ผลที่ได้จากการสะทอ้ นตนเองจากการเรยี นรู้

ลงในแบบประเมนิ ข้อ 11 ซึ่งครูเป็นผู้จดั ทำให)้
9.5 แบบประเมินชน้ิ งาน
9.6 แบบประเมินพฤตกิ รรมการเรียนรู้
9.7 แบบประเมินทกั ษะทจ่ี ำเปน็ ในศตวรรษท่ี 21
9.8 แบบประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์
9.9 แบบประเมนิ ด้านทักษะปฏบิ ัติ
9.10 แบบประเมินการนำเสนอผลงานกลุ่ม (โดยใหค้ รู เพอ่ื นกลมุ่ อ่นื และกลุ่มตนเองประเมิน)
9.11 แบบประเมนิ การเขยี นรายงานผลการปฏิบัติกจิ กรรม

10. ความคิดเหน็ ของผูบ้ รหิ าร/สถานศึกษา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอ่ื ..................................................
(นายประสิทธิ์ คำผยุ )

ตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรยี นบา้ นลมุ พกุ

11. บันทกึ การจดั การเรยี นรสู้ ำหรบั ครู (Teacher’s Reflection)
11.1 ความสำเร็จในการจัดการเรยี นรู้
ด้านผเู้ รียน..........................................................................................................................................

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ด้านวิธีสอนการวัดผล.........................................................................................................................

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
11.2 ปญั หา/อุปสรรคในการจดั การเรยี นรู้ .................................................................................................

..............................................................................................................................................................................
11.3 สงิ่ ทไ่ี มไ่ ดป้ ฏิบตั ติ ามแผน ..................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................
เหตุผล................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................
11.4 แนวทางการปรบั ปรุง/พฒั นาตนเองครัง้ ต่อไป

..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

ลงชื่อ ................................................... ผู้สอน
(นางสาวจิราภรณ์ นนทวงษ์)
ตำแหนง่ ครู



สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี 1/2 รหสั วิชา ว14101
ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 4 ปกี ารศกึ ษา 2563
เรอ่ื ง การจำแนกกล่มุ สตั ว์ รายวิชา วทิ ยาศาสตร์ เวลา 3 ชัว่ โมง
ภาคเรยี นที่ 1

1. มาตรฐานการเรียนรู้ / ตวั ช้ีวดั ช้ันปี

มาตรฐาน
มฐ. ว 1.3 เข้าใจกระบวนการและความสำคัญของการถ่ายทอดลกั ษณะทางพันธุกรรม สารพันธุกรรม

การเปลี่ยนแปลงทางพันธกุ รรมที่มีผลต่อสิ่งมีชีวิต ความหลากหลายทางชีวภาพและวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต
รวมทงั้ นำความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์

ตวั ชวี้ ัดชนั้ ปี
1. จำแนกสัตว์ออกเป็นสัตว์มีกระดูกสันหลังและสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง โดยใช้การมีกระดูกสันหลัง

เป็นเกณฑ์ โดยใช้ขอ้ มลู ทีร่ วบรวมได้ (ว 1.3 ป.4/3)
2. บรรยายลกั ษณะเฉพาะที่สงั เกตไดข้ องสัตว์มีกระดกู สนั หลังในกลมุ่ ปลา กลมุ่ สัตว์สะเทินนำ้ สะเทิน

บก กลุ่มสัตวเ์ ลอื้ ยคลาน กลมุ่ นก และกลมุ่ สัตวเ์ ลี้ยงลกู ดว้ ยนำ้ นม และยกตัวอยา่ งส่ิงมชี วี ติ ในแตล่ ะกลุ่ม
(ว 1.3 ป.4/4)

2. แนวคดิ /หลกั การสำคัญ
สตั วแ์ ตล่ ะชนิดจะมโี ครงสร้างอวัยวะ และลกั ษณะเฉพาะตัวทแ่ี ตกตา่ งกนั หรอื คล้ายกนั และทำหน้าท่ี

อยา่ งเดยี วกันกไ็ ด้ ซง่ึ สามารถนำมาใชเ้ ป็นเกณฑ์ในการจำแนกกลมุ่ ของสัตวไ์ ด้

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
3.1 จำแนกสัตวอ์ อกเปน็ สัตว์มกี ระดูกสันหลังและสัตว์ไม่มีกระดูกสนั หลัง โดยใชก้ ารมีกระดกู สนั หลังเปน็

เกณฑไ์ ด้
3.2 บรรยายลักษณะเฉพาะท่ีสงั เกตไดข้ องสัตวม์ กี ระดูกสนั หลังในกลมุ่ ปลา กลุ่มสตั วส์ ะเทนิ นำ้ สะเทนิ บก

กลุม่ สตั ว์เลอื้ ยคลาน กลุ่มนก และกลมุ่ สัตว์เล้ยี งลูกด้วยนำ้ นม และยกตัวอย่างสง่ิ มีชีวติ ในแตล่ ะกลมุ่ ได้

4. สาระการเรียนรู้
การจำแนกกลุ่มสตั ว์

5. ชิ้นงาน/ภาระงาน
5.1 รายงานผลการทดลองกจิ กรรมท่ี 1.2
5.2 รายงานกิจกรรมตรวจสอบการเรยี นร้ทู ่ี 1.2

6. คำถามสำคญั
6.1 สตั ว์มีโครงสรา้ งและอวยั วะภายนอกและอวัยวะภายในอะไรบ้าง อวัยวะน้นั ทำหน้าทอ่ี ะไร
6.2 ถ้าตอ้ งการจัดกลุม่ กลุม่ สัตวจ์ ะมีวธิ กี ารอยา่ งไรบา้ ง
6.3 การจัดกลมุ่ สัตวใ์ ช้เกณฑอ์ ะไรมาใชใ้ นการจดั กลมุ่ บ้าง

7. กิจกรรมการจัดการเรยี นรู้
7.1 ข้ันนำ
1. ตั้งคำถาม ทบทวนความรู้เดิม ในชั่วโมงเรียนที่ผ่านมา เกี่ยวกับการจัดกลุ่มสิ่งมีชีวิตว่าเราเรียนรู้

อะไรบ้าง มวี ธิ ีเรียนรู้อยา่ งไร
2. นำเข้าสู่บทเรียนใหม่ เรื่อง การจำแนกกลุ่มสัตว์ โดยคำถามตรวจสอบความเข้าใจก่อนเรียนและ

คำถามนำเขา้ สกู่ จิ กรรมจากหนังสือเรยี นวทิ ยาศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 4 ด้วยการต้ังคำถามและให้นักเรียน
ตอบเปน็ รายบุคคล (ใหเ้ วลาคิด 3-5 วินาที) และสุ่มจากนักเรียนทีย่ กมอื เพื่อต้องการตอบคำถามโดยใช้ เทคนิค
วิธีการ (Teaching Strategies) แบบ KWL : รู้อะไร รู้อย่างไร (What I Known) ต้องการรู้อะไรในสิ่งน้ัน
(What I want to Known) จะเรยี นรู้สง่ิ นนั้ อยา่ งไร (How I learned)
คำถาม

- นักเรียนรจู้ กั สัตวช์ นดิ ใดบ้าง สตั ว์เหลา่ น้ันมีรปู รา่ ง ลักษณะอย่างไร
- ถา้ ตอ้ งการนำรูปรา่ งลักษณะต่าง ๆ ของสตั ว์มาจำแนกกลุ่มเราจะใชห้ ลกั การใดในการจำแนก
- ถ้าตอ้ งการจำแนกสตั ว์เปน็ กลุม่ ตา่ ง ๆ จะมวี ิธีดำเนินการอย่างไร
2. ครูแจ้งจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
3. ระหวา่ งที่นกั เรียนทำกิจกรรม ครเู ดนิ ไปท่กี ลุ่มต่าง ๆ เพ่อื สังเกตและประเมินพฤติกรรมการเรียนรู้
ของนักเรียน และให้ความช่วยเหลือกลุ่มนักเรียนหรือนักเรียนที่อาจพบปัญหา ในการเรียนรู้ และรวมถึง
ประเมนิ กระบวนการทำงานกลุ่ม (การประเมนิ เพือ่ การปรบั ปรุง : Formative assessment)
4. แตล่ ะกลุ่มผลดั กันอธิบายหลักและวธิ ีการจำแนกสัตวเ์ ปน็ กลมุ่ ต่าง ๆ เกณฑ์การจำแนกและตัวอย่าง
สัตว์ในแต่ละกลุ่ม ขณะเดยี วกนั มกี ารประเมินผลการสอื่ สารสง่ิ ท่เี รยี นรขู้ องนกั เรียนแต่ละกลุ่ม

5. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายสรุปผลการทำกิจกรรม และองค์ความรู้จากกิจกรรมที่ 1.2 และ
หลกั การจำแนกและให้ข้อสงั เกตผลงานของแต่ละกลุ่ม กระบวนการทำงานกลมุ่ ในแตล่ ะกลมุ่ หรือบางกลมุ่ เพ่ือ
การแนะนำและปรับปรุงแกไ้ ข และสรปุ ผลการเรียนรูข้ องแตล่ ะกลุ่มท่ที ำกิจกรรมในภาพรวม

6. นักเรียนอา่ นคำถามท้ายกจิ กรรมที่ 1.2 และร่วมกันตอบคำถาม และครูอธิบายความรู้
7. ครูอธิบายเพิ่มพูนความรู้เกี่ยวกับการนำอวัยวะภายนอกและอวัยวะภายในมาเป็นเกณฑ์ในการ
จำแนกกลมุ่ สตั ว์ แล้วให้นกั เรยี นซกั ถามและตอบคำถาม
8. นักเรียนอ่านคำถามกจิ กรรมตรวจสอบการเรยี นรทู้ ่ี 1.2 ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั เฉลยคำตอบ

7.2 ขัน้ สอน
1. จัดกลุ่มนักเรียน กลุ่มละ 4 คน แต่ละคน กำหนดบทบาทหน้าที่ภายในกลุ่ม โดยใช้เทคนิควิธีการ

(Teaching Strategies) การเรยี นรูแ้ บบรว่ มมือร่วมใจ : Cooperative learning)
คนท่ี 1 หวั หนา้ กลุม่ และผู้ประสาน การระดมความคิดและวางแผน
คนที่ 2 ผู้จดั การดา้ นความรู้ สำรวจตรวจสอบความถูกตอ้ ง
คนท่ี 3 จดั เตรียม จดั หา จัดเกบ็ วสั ดุ อุปกรณ์
คนที่ 4 การเขียนบันทกึ และนำเสนอผลงาน

2. แต่ละกลุม่ ทำกจิ กรรมท่ี 1.2 การจำแนกกลมุ่ สตั ว์ (ใช้กิจกรรมหนงั สอื เรยี น ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 4)
โดยทำกิจกรรมสำรวจตรวจสอบการจำแนกกลุ่มสัตว์ และเขียนรายงานผลการทำกจิ กรรม และให้นักเรียนทำ
กจิ กรรม ดังน้ี

- ชัว่ โมงท่ี 1-2 ทำกิจกรรมตอนที่ 1 โครงสรา้ งอวัยวะภายนอกและอวัยวะภายในของสคั ว์
- ช่ัวโมงที่ 3-4 ทำกจิ กรรมตอนท่ี 2 การจำแนกกลุ่มสัตว์มีกระดูกสันหลัง

7.3 ขน้ั สรุป
1. สะท้อนความคดิ เพื่อปดิ บทเรียนในกจิ กรรมการสำรวจตรวจสอบอวยั วะภายนอกและอวยั วะภายใน

ของสัตว์ที่นำมาใช้ในการจำแนกกลุ่มสัตว์ โดยให้นักเรียนเขียนบันทึกลงในสมุด หรือ ตอบคำถามในชั้นเรียน
และใชเ้ ทคนิควธิ กี าร (Teaching Strategies) ตัว๋ ออก (Exit Ticket) ดังน้ี

คำถาม
- นกั เรยี นได้ความรู้จากการเรยี นเร่ืองการจำแนกกลมุ่ สัตวอ์ ย่างไรบ้าง เขียนหรอื อธิบาย 3 เรอ่ื ง
- นักเรียนคิดว่าจะนำความรูเ้ กีย่ วกับการจำแนกกลุ่มสัตว์ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันอยา่ งไร

บา้ ง เขียนหรอื อธบิ าย 2 ขอ้
- จากบทเรียนนี้ นักเรียนต้องการรู้เพิ่มเติม ยังไม่เข้าใจ ต้องการรู้เกี่ยวกับการจำแนกกลุ่มสัตว์

อะไรบ้าง เขยี นหรือบอก 1 ขอ้

8. สอ่ื การเรียนรแู้ ละแหล่งการเรียนรู้
8.1 ส่ือการเรียนรู้
หนงั สือเรียนวทิ ยาศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 4
8.2 แหล่งการเรยี นรู้
1. หอ้ งสมดุ ของโรงเรยี น
2. หอ้ งสมุดกลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์
3. อนิ เทอร์เนต็ จากเว็บไซต์ต่าง ๆ

9. การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้
9.1 รายงานผลการสำรวจกิจกรรมที่ 1.2
9.2 การตอบคำถามกิจกรรมตรวจสอบการเรยี นรทู้ ี่ 1.2
9.3 แบบประเมินผลการเรียนรูด้ ้วยตนเอง (นักเรียนประเมินผลที่ได้จากการสะท้อนตนเองจากการเรยี นรู้

ลงในแบบประเมนิ ขอ้ 11 ซึ่งครูเป็นผจู้ ัดทำให้)
9.4 แบบประเมินชิน้ งาน
9.5 แบบประเมินพฤตกิ รรมการเรยี นรู้
9.6 แบบประเมนิ ทักษะท่จี ำเป็นในศตวรรษท่ี 21
9.7 แบบประเมินคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
9.8 แบบประเมนิ ด้านทกั ษะปฏิบตั ิ
9.9 แบบประเมนิ การนำเสนอผลงานกล่มุ (โดยใหค้ รู เพือ่ นกล่มุ อ่นื และกลุ่มตนเองประเมนิ )
9.10แบบประเมนิ การเขียนรายงานผลการปฏบิ ัตกิ ิจกรรม

10. ความคิดเหน็ ของผบู้ ริหาร/สถานศึกษา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ..................................................
(นายประสิทธ์ิ คำผุย)

ตำแหนง่ ผูอ้ ำนวยการโรงเรยี นบ้านลุมพกุ

11. บนั ทึกการจัดการเรียนรู้สำหรับครู (Teacher’s Reflection)
11.1 ความสำเรจ็ ในการจดั การเรยี นรู้

ด้านผเู้ รยี น..........................................................................................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ดา้ นวธิ สี อนการวัดผล.........................................................................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

11.2 ปัญหา/อุปสรรคในการจัดการเรียนรู้ .................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

11.3 สง่ิ ที่ไมไ่ ด้ปฏิบตั ิตามแผน ..................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

เหตผุ ล................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

11.4 แนวทางการปรับปรุง/พฒั นาตนเองครงั้ ต่อไป
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

ลงช่อื ................................................... ผู้สอน
(นางสาวจิราภรณ์ นนทวงษ์)
ตำแหน่ง ครู



สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 1/3 รหสั วชิ า ว14101
ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 4 ปกี ารศึกษา 2563
เรือ่ ง การจำแนกกล่มุ พชื รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์ เวลา 3 ชว่ั โมง
ภาคเรียนที่ 1

1. มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตวั ช้ีวัดชั้นปี
มาตรฐาน
มฐ. ว 1.3 เข้าใจกระบวนการและความสำคญั ของการถ่ายทอดลกั ษณะทางพันธกุ รรม สารพันธุกรรม

การเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมที่มีผลต่อสิ่งมีชีวิต ความหลากหลายทางชีวภาพและวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวติ
รวมทงั้ นำความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์

ตวั ชี้วัดชนั้ ปี
จำแนกพืชออกเป็นพืชดอกและพืชไม่มีดอก โดยใช้การมีดอกเป็นเกณฑ์ โดยใช้ข้อมูลที่รวบรวมได้

(ว 1.3 ป.4/2)

2. แนวคิด/หลกั การสำคัญ
พชื แตล่ ะชนิดจะมีโครงสรา้ งและลักษณะเฉพาะตัวทีแ่ ตกต่างกันหรือคล้ายกันและทำหนา้ ทอี่ ยา่ ง

เดยี วกันก็ได้ ซึง่ สามารถนำมาใช้เป็นเกณฑใ์ นการจำแนกกลุ่มของพืชได้

3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
จำแนกพืชออกเปน็ พืชดอกและพืชไมม่ ดี อก โดยใชก้ ารมดี อกเป็นเกณฑ์ โดยใช้ข้อมูลท่ีรวบรวมได้

4. สาระการเรยี นรู้
การจำแนกกลุ่มพชื

5. ช้ินงาน/ภาระงาน
5.1 รายงานผลกจิ กรรมการสำรวจที่ 1.3
5.2 รายงานกจิ กรรมตรวจสอบการเรียนร้ทู ี่ 1.3

6. คำถามสำคัญ
6.1 พืชมีโครงสรา้ งและส่วนประกอบภายนอกอะไรบา้ ง สว่ นประกอบน้นั ทำหนา้ ท่อี ะไร
6.2 ถ้าตอ้ งการจัดกลมุ่ กลุม่ พชื จะมีวิธกี ารอย่างไรบา้ ง
6.3 การจดั กลุม่ พชื ใช้เกณฑ์อะไรมาใช้ในการจัดกลุม่ บ้าง

7. กิจกรรมการจัดการเรยี นรู้
7.1 ขัน้ นำ
1. ตั้งคำถาม ทบทวนความรู้เดิม ในชั่วโมงเรียนที่ผ่านมา เกี่ยวกับการจำแนกกลุ่มสัตว์ว่าเราเรียนรู้

อะไรบ้าง มีวธิ เี รยี นรอู้ ย่างไร
2. นำเข้าสู่บทเรียนใหม่ เรื่อง การจำแนกกลุ่มพืช โดยคำถามตรวจสอบความเข้าใจก่อนเรียนและ

คำถามนำเขา้ สู่กจิ กรรมจากหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 4 ด้วยการต้งั คำถามและใหน้ ักเรียน
ตอบเป็นรายบคุ คล (ใหเ้ วลาคิด 3-5 วนิ าที) และสุม่ จากนกั เรียนที่ยกมือเพื่อต้องการตอบคำถามโดยใช้ เทคนิค
วิธีการ (Teaching Strategies) แบบ KWL : รู้อะไร รู้อย่างไร (What I Known) ต้องการรู้อะไรในสิ่งน้ัน
(What I want to Known) จะเรียนรู้สงิ่ นนั้ อย่างไร (How I learned)
คำถาม

- นกั เรยี นรู้จักพืชชนดิ ใดบ้าง พืชเหลา่ นั้นมีรูปร่าง ลักษณะอย่างไร
- ถา้ ตอ้ งการนำรปู ร่างลกั ษณะตา่ ง ๆ ของพชื มาจำแนกกลมุ่ เราจะใชห้ ลักการใดในการจำแนก
- ถา้ ตอ้ งการจำแนกพชื เปน็ กลมุ่ ตา่ ง ๆ จะมวี ิธีดำเนินการอย่างไร
2. ครูแจง้ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

7.2 ข้นั สอน
1. จัดกลุ่มนักเรียน กลุ่มละ 4 คน แต่ละคน กำหนดบทบาทหน้าที่ภายในกลุ่ม โดยใช้เทคนิควิธีการ

(Teaching Strategies) การเรียนรูแ้ บบร่วมมือร่วมใจ : Cooperative learning)
คนที่ 1 หัวหน้ากลุ่มและผ้ปู ระสาน การระดมความคดิ และวางแผน
คนที่ 2 ผู้จัดการด้านความรู้ สำรวจตรวจสอบความถกู ต้อง
คนท่ี 3 จดั เตรยี ม จดั หา จดั เกบ็ วสั ดุ อปุ กรณ์
คนท่ี 4 การเขียนบันทกึ และนำเสนอผลงาน

2. แต่ละกลุ่มทำกิจกรรมที่ 1.3 การจำแนกกลุ่มพชื โดยทำกิจกรรมสำรวจตรวจสอบการจำแนกกลมุ่
พืช และเขียนรายงานผลการทำกิจกรรม และให้นักเรยี นทำกิจกรรม

3. ระหวา่ งท่ีนักเรยี นทำกิจกรรม ครเู ดินไปทก่ี ลุ่มต่าง ๆ เพอ่ื สงั เกตและประเมนิ พฤติกรรมการเรียนรู้
ของนักเรียน และให้ความช่วยเหลือกลุ่มนักเรียนหรือนักเรียนที่อาจพบปัญหา ในการเรียนรู้ และรวมถึง
ประเมินกระบวนการทำงานกลุ่ม (การประเมินเพ่อื การปรับปรุง : Formative assessment)

4. แตล่ ะกลุ่มผลัดกนั อธิบายหลกั และวิธกี ารจำแนกพชื เป็นกลมุ่ ต่าง ๆ เกณฑก์ ารจำแนกและตัวอย่าง
พชื ในแตล่ ะกลุ่ม ขณะเดยี วกนั มกี ารประเมินผลการสื่อสารสงิ่ ท่ีเรยี นรู้ของนักเรยี นแตล่ ะกลุม่

5. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายสรุปผลการทำกิจกรรม และองค์ความรู้จากกิจกรรมที่ 1.3 และ
หลกั การจำแนกและให้ขอ้ สังเกตผลงานของแต่ละกลุ่ม กระบวนการทำงานกลุ่มในแต่ละกลุ่มหรือบางกล่มุ เพ่ือ
การแนะนำและปรบั ปรุงแกไ้ ข และสรปุ ผลการเรียนรู้ของแตล่ ะกลุ่มทีท่ ำกจิ กรรมในภาพรวม

6. นักเรยี นอ่านคำถามท้ายกิจกรรมที่ 1.3 และรว่ มกันตอบคำถาม และครอู ธิบายความรู้
7. ครอู ธบิ ายเพม่ิ พูนความรู้เกีย่ วกับการนำลกั ษณะและส่วนประกอบภายนอกของพชื มาเป็นเกณฑ์ใน
การจำแนกกลุ่มพืช แล้วใหน้ ักเรียนซักถามและตอบคำถาม
8. นักเรียนอา่ นคำถามกิจกรรมตรวจสอบการเรียนร้ทู ี่ 1.3 ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั เฉลยคำตอบ

7.3 ข้ันสรุป
1. สะท้อนความคิดเพื่อปิดบทเรียนในกิจกรรมการสำรวจตรวจสอบเกี่ยวกับส่วนประกอบของพืชที่

นำมาใช้ในการจำแนกกลมุ่ พชื โดยให้นกั เรียนเขยี นบันทึกลงในสมดุ หรือ ตอบคำถามในชน้ั เรียน และใชเ้ ทคนิค
วิธีการ (Teaching Strategies) ต๋วั ออก (Exit Ticket) ดังน้ี
คำถาม

- นกั เรยี นได้ความร้จู ากการเรียนเรื่องการจำแนกกล่มุ พชื อย่างไรบา้ ง เขยี นหรอื อธิบาย 3 เรอ่ื ง
- นกั เรยี นคิดว่าจะนำความรู้เก่ียวกับการจำแนกกลุ่มพืชไปใชป้ ระโยชน์ในชวี ิตประจำวันอย่างไรบ้าง
เขียนหรอื อธบิ าย 2 ข้อ
- จากบทเรียนนี้ นักเรียนต้องการรู้เพิ่มเติม ยังไม่เข้าใจ ต้องการรู้เกี่ยวกับการจำแนกกลุ่มพืช
อะไรบา้ ง เขียนหรือบอก 1 ข้อ

8. สื่อการเรยี นร้แู ละแหล่งการเรียนรู้
8.1 สอ่ื การเรียนรู้
หนงั สอื เรียนวิทยาศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 4
8.2 แหล่งการเรียนรู้
1. หอ้ งสมุดของโรงเรยี น
2. ห้องสมดุ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์
3. อนิ เทอร์เนต็ จากเวบ็ ไซต์ตา่ ง ๆ

9. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้
9.1 รายงานผลการสำรวจกจิ กรรมที่ 1.3
9.2 การตอบคำถามกิจกรรมตรวจสอบการเรยี นรทู้ ่ี 1.3
9.3 แบบประเมินผลการเรียนรู้ด้วยตนเอง (นักเรียนประเมนิ ผลที่ไดจ้ ากการสะท้อนตนเองจากการเรยี นรู้

ลงในแบบประเมินข้อ 11 ซึง่ ครูเปน็ ผู้จดั ทำให้)
9.4 แบบประเมินช้นิ งาน
9.5 แบบประเมินพฤตกิ รรมการเรียนรู้
9.6 แบบประเมนิ ทกั ษะทจ่ี ำเป็นในศตวรรษท่ี 21
9.7 แบบประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์
9.8 แบบประเมนิ ด้านทกั ษะปฏบิ ตั ิ
9.9 แบบประเมนิ การนำเสนอผลงานกลุ่ม (โดยให้ครู เพอ่ื นกลมุ่ อนื่ และกล่มุ ตนเองประเมนิ )
9.10 แบบประเมินการเขียนรายงานผลการปฏบิ ตั กิ ิจกรรม

10. ความคิดเหน็ ของผ้บู ริหาร/สถานศึกษา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอื่ ..................................................
(นายประสิทธิ์ คำผุย)

ตำแหน่ง ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นบา้ นลุมพกุ

11. บนั ทึกการจัดการเรยี นร้สู ำหรบั ครู (Teacher’s Reflection)
11.1 ความสำเรจ็ ในการจดั การเรียนรู้
ด้านผู้เรียน..........................................................................................................................................

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ดา้ นวธิ ีสอนการวัดผล.........................................................................................................................

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
11.2 ปญั หา/อปุ สรรคในการจัดการเรยี นรู้ .................................................................................................

..............................................................................................................................................................................
11.3 สิ่งทีไ่ ม่ได้ปฏิบตั ติ ามแผน ..................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................
เหตผุ ล................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................
11.4 แนวทางการปรบั ปรุง/พฒั นาตนเองคร้ังตอ่ ไป

..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

ลงชือ่ ................................................... ผสู้ อน
(นางสาวจริ าภรณ์ นนทวงษ์)
ตำแหน่ง ครู



สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 1/4 รหสั วิชา ว14101
ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 4 ปกี ารศกึ ษา 2563
รายวิชา วทิ ยาศาสตร์ เวลา 3 ชว่ั โมง
ภาคเรียนที่ 1

1. มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตวั ชว้ี ดั ช้ันปี
มาตรฐาน
มฐ. ว 1.2 เข้าใจสมบัติของสิ่งมีชีวิต หน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต การลำเลียงสารผ่านเซลล์

ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหนา้ ที่ของระบบต่าง ๆ ของสัตว์และมนุษยท์ ี่ทำงานสมั พันธ์กัน ความสัมพันธ์
ของโครงสร้างและหนา้ ท่ขี องอวยั วะต่าง ๆ ของพชื ท่ีทำงานสมั พนั ธก์ นั รวมทั้งนำความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์

ตัวชวี้ ดั ชัน้ ปี
บรรยายหนา้ ทขี่ องราก ลำต้น ใบ และดอกของพชื ดอก โดยใชข้ อ้ มูลท่รี วบรวมได้ (ว 1.2 ป.4/1)

2. แนวคดิ /หลกั การสำคญั
พชื ดอกมีสว่ นประกอบภายนอกทีป่ ระกอบด้วยราก ลำต้น ใบ ดอก และผล สว่ นประกอบเหล่านีจ้ ะทำ

หน้าทแ่ี ตกตา่ งกนั

3. จุดประสงค์การเรยี นรู้
บรรยายหนา้ ทีข่ องรากและลำต้นของพืชดอกได้

4. สาระการเรยี นรู้
4.1 รากของพชื
4.2 ลำต้นของพืช

5. ช้ินงาน/ภาระงาน
รายงานผลกิจกรรมการทดลองที่ 1.4

6. คำถามสำคญั
6.1 พชื มโี ครงสรา้ งและอวยั วะภายนอกอะไรบ้าง อวยั วะเหลา่ น้ันทำหน้าที่อะไร
6.2 รากและต้นลำตน้ ของพืชทำหน้าท่ีอะไร ถ้าไม่มรี ากและลำตนั จะเกิดอะไรขึน้

7. กจิ กรรมการจัดการเรยี นรู้
7.1 ขน้ั นำ
1. ตั้งคำถาม ทบทวนความรู้เดิม ในชั่วโมงเรียนที่ผ่านมา เกี่ยวกับการจำแนกกลุ่มพืชว่าเราเรียนรู้

อะไรบา้ ง มวี ิธีเรยี นรู้อย่างไร
2. นำเข้าสู่บทเรียนใหม่ เรื่อง หน้าที่ของรากและลำต้น โดยคำถามตรวจสอบความเข้าใจก่อนเรียน

และคำถามนำเข้าสู่กิจกรรมจากหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ด้วยการตั้งคำถามและให้
นกั เรยี นตอบเป็นรายบคุ คล (ใหเ้ วลาคิด 3-5 วนิ าที) และสุ่มจากนักเรียนท่ียกมอื เพื่อต้องการตอบคำถามโดยใช้
เทคนิควธิ ีการ (Teaching Strategies) แบบ KWL : รูอ้ ะไร รู้อย่างไร (What I Known) ต้องการรูอ้ ะไรในสิ่งนนั้
(What I want to Known) จะเรยี นรู้สงิ่ น้ันอย่างไร (How I learned)
คำถาม

- นักเรียนรู้จักรากและลำต้นของพชื หรือไม่ รอู้ ยา่ งไร
- สิง่ ท่ีต้องการร้หู รอื ส่ิงที่สงสัยเกีย่ วกบั รากและลำต้นของพชื มีอะไรบา้ ง
- ถ้าตอ้ งการทดลองว่ารากของพชื ทำหน้าทดี่ ดู น้ำและลำเลียงผ่านลำตน้ ไปยงั สว่ นต่าง ๆ ของตน้ พืช
จะมวี ิธีดำเนินการทดลองอย่างไร
2. ครแู จง้ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
7.2 ขัน้ สอน
1. จัดกลุ่มนักเรียน กลุ่มละ 4 คน แต่ละคน กำหนดบทบาทหน้าที่ภายในกลุ่ม โดยใช้เทคนิควิธีการ
(Teaching Strategies) การเรยี นรู้แบบรว่ มมอื รว่ มใจ : Cooperative learning)
คนท่ี 1 หวั หนา้ กลมุ่ และผู้ประสาน การระดมความคิดและวางแผน
คนที่ 2 ผ้จู ดั การดา้ นความรู้ สำรวจตรวจสอบความถูกตอ้ ง
คนที่ 3 จัดเตรยี ม จัดหา จดั เกบ็ วัสดุ อปุ กรณ์
คนที่ 4 การเขยี นบนั ทึกและนำเสนอผลงาน
2. แต่ละกลุ่มทำกิจกรรมที่ 1.4 การลำเลียงน้ำและแร่ธาตุของพืช (ใช้กิจกรรมหนังสือเรียน ชั้น
ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 ของ บรษิ ัท แมค็ เอ็ดดูเคชัน่ จำกดั ) โดยทำกจิ กรรมการทดลอง และเขยี นรายงานผลการทำ
กิจกรรม และใหน้ ักเรยี นทำกจิ กรรม

- ชวั่ โมงท่ี 1-2 แต่ละกลุม่ ทำกิจกรรมการทดสอบ และบันทกึ ผลการทดลองในแบบบันทึกกิจกรรม
ที่ 1.4

- ชั่วโมงที่ 3 แต่ละกลุ่มนำเสนอรายงานการทดลอง และแลกเปลยี่ นเรยี นรูซ้ ่งึ กันและกนั
3. ระหว่างทีน่ ักเรยี นทำกิจกรรม ครเู ดนิ ไปทกี่ ลุ่มต่าง ๆ เพื่อสงั เกตและประเมนิ พฤติกรรมการเรียนรู้
ของนักเรียน และให้ความช่วยเหลือกลุ่มนักเรียนหรือนักเรียนที่อาจพบปัญหา ในการเรียนรู้ และรวมถึง
ประเมินกระบวนการทำงานกลุ่ม (การประเมินเพอื่ การปรบั ปรงุ : Formative assessment)
4. แต่ละกลุ่มผลัดกันอธิบายผลการทดลองกิจกรรมที่ 1.4 การลำเลียงน้ำและแร่ธาตุของพืช
ขณะเดยี วกัน มกี ารประเมินผลการสื่อสารสิง่ ทเี่ รยี นรขู้ องนกั เรยี นแต่ละกล่มุ
5. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายสรุปผลการทำกิจกรรม และองค์ความรู้จากกิจกรรมที่ 1.4 และ
หลกั การจำแนกและให้ขอ้ สังเกตผลงานของแต่ละกลุ่ม กระบวนการทำงานกลมุ่ ในแตล่ ะกลุ่มหรือบางกลุ่ม เพื่อ
การแนะนำและปรบั ปรงุ แก้ไข และสรุปผลการเรียนร้ขู องแตล่ ะกลมุ่ ท่ีทำกิจกรรมในภาพรวม
6. ครูอธิบายเพิ่มพูนความรู้ เกี่ยวกับหน้าที่ของราก การลำเลียงน้ำและแร่ธาตุของพืชขึ้นไปยังส่วน
ต่างๆ ผ่านรากและลำตัน หน้าที่พิเศษของราก และการนำผลจากการทำกิจกรรมนี้ไปใช้ประโยชน์ใน
ชีวิตประจำวัน แลว้ ใหน้ ักเรยี นซกั ถามและตอบคำถาม
7. นกั เรยี นอา่ นคำถามท้ายกิจกรรมที่ 1.4 และรว่ มกันตอบคำถาม และครอู ธบิ ายความรู้

7.3 ขน้ั สรุป
1. สะทอ้ นความคิดเพ่ือปดิ บทเรียนในกิจกรรมการสำรวจตรวจสอบเก่ยี วกับหน้าที่ของรากและลำต้น

ของพืช โดยให้นักเรียนเขียนบันทึกลงในสมุด หรือตอบคำถามในชั้นเรียน และใช้เทคนิควิธีการ (Teaching
Strategies) ตั๋วออก (Exit Ticket) ดงั นี้
คำถาม

- นักเรียนได้ความรู้จากการเรียนเรื่องหน้าที่ของรากและลำต้นพืชอย่างไรบ้าง เขียนหรืออธิบาย
3 เรอื่ ง

- นักเรียนคิดว่าจะนำความรู้เกี่ยวกับหน้าที่ของรากและลำต้นของพืชไปใช้ประโยชน์ใน
ชีวิตประจำวนั อย่างไรบา้ ง เขยี นหรืออธิบาย 2 ขอ้

- จากบทเรียนนี้ นกั เรียนต้องการรูเ้ พ่ิมเติม ยงั ไมเ่ ขา้ ใจ ต้องการรู้เกี่ยวกบั ของรากและลำตน้ ของพืช
อะไรบ้าง เขียนหรือบอก 1 ขอ้

8. ส่ือการเรยี นรู้และแหลง่ การเรียนรู้
8.1 สือ่ การเรียนรู้
หนังสือเรียนวทิ ยาศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 4
8.2 แหล่งการเรยี นรู้
1. หอ้ งสมุดของโรงเรยี น
2. ห้องสมดุ กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์
3. อนิ เทอร์เนต็ จากเว็บไซตต์ ่าง ๆ

9. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้
9.1 รายงานผลการทดลองกิจกรรมท่ี 1.4
9.2 แบบประเมินผลการเรียนรู้ด้วยตนเอง (นักเรียนประเมนิ ผลที่ไดจ้ ากการสะทอ้ นตนเองจากการเรยี นรู้

ลงในแบบประเมินข้อ 11 ซึง่ ครเู ป็นผูจ้ ัดทำให)้
9.3 แบบประเมินชิน้ งาน
9.4 แบบประเมนิ พฤติกรรมการเรยี นรู้
9.5 แบบประเมนิ ทกั ษะทจ่ี ำเป็นในศตวรรษท่ี 21
9.6 แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
9.7 แบบประเมนิ ดา้ นทกั ษะปฏบิ ัติ
9.8 แบบประเมินการนำเสนอผลงานกลมุ่ (โดยให้ครู เพอ่ื นกลุม่ อ่นื และกลมุ่ ตนเองประเมนิ )
9.9 แบบประเมนิ การเขียนรายงานผลการปฏบิ ตั ิกิจกรรม

10. ความคิดเหน็ ของผบู้ ริหาร/สถานศึกษา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ..................................................
(นายประสิทธ์ิ คำผุย)

ตำแหนง่ ผูอ้ ำนวยการโรงเรยี นบ้านลุมพกุ

11. บนั ทึกการจดั การเรียนรูส้ ำหรบั ครู (Teacher’s Reflection)
11.1 ความสำเร็จในการจดั การเรียนรู้

ด้านผเู้ รยี น..........................................................................................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ด้านวธิ ีสอนการวดั ผล.........................................................................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

11.2 ปัญหา/อปุ สรรคในการจดั การเรยี นรู้ .................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

11.3 สิ่งที่ไม่ได้ปฏบิ ตั ิตามแผน ..................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

เหตผุ ล................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

11.4 แนวทางการปรับปรุง/พฒั นาตนเองครง้ั ตอ่ ไป
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

ลงช่ือ ................................................... ผสู้ อน
(นางสาวจิราภรณ์ นนทวงษ)์
ตำแหน่ง ครู


Click to View FlipBook Version