องค์ประกอบที่ 1 ด้านการปฏิบัติตน

การปฏิบตั ติ น

๑. วนิ ยั และการรักษาวินัย

๑.๑ การแสดงออกทางอารมณ์ กริ ยิ า ท่าทาง และพดู ส่อื สารได้เหมาะสมกับกาลเทศะตอ่ ผู้เรยี น
๑.๒ การแสดงออกทางอารมณ์ กิริยา ท่าทาง และพูดส่ือสารได้เหมาะสมกับกาลเทศะตอ่
ผ้บู ังคับบญั ชา เพื่อนรว่ มงาน ผู้ปกครอง และบคุ คลอน่ื
๑.๓ การแสดงเจตคติเชิงบวกกบั ประเทศชาติ
๑.๔ การปฏิบัตติ ามกฎ ระเบียบ หลกั เกณฑ์ทีเ่ กี่ยวข้องกับความเปน็ ขา้ ราชการ
๑.๕ การปฏิบัตติ ามกฎ ระเบียบ หลกั เกณฑ์ที่เก่ียวข้องกบั ความเปน็ ขา้ ราชการครู
๑.๖ การปฏิบัติตามกฎหมาย

เอกสารอา้ งอิง

- บัญชีลงเวลาการมาปฏบิ ัตงิ าน
- สังเกตพฤติกรรม
- บนั ทึกการอยู่เวร
- สอบถาม/สมั ภาษณ์ ครูและผู้บริหาร
- ภาพกิจกรรม

บญั ชลี งเวลาการมาปฏิบตั ิราชการ

ปฏิบตั หิ น้าทค่ี รูเวรประจำวนั เชน่ รบั นักเรียนหนา้ ประตูโรงเรียน ดูแลการทำความ
สะอาดพน้ื ท่ีเขตรบั ผิดชอบของนักเรยี น อบรมนกั เรียนหนา้ เสาธง

แต่งกายถกู ต้องตามระเบยี บของทางราชการ
ปฏบิ ัตงิ านตามหนา้ ท่ีและคำสั่งท่ไี ดร้ ับมอบหมาย

๒. คุณธรรม จริยธรรม

๒.๑ การปฏิบตั ิตนตามหลักศาสนาที่นบั ถืออย่างเครง่ ครัด
๒.๒ การเข้าร่วม ส่งเสรมิ สนับสนนุ ศาสนกจิ ของศาสนาที่นับถอื อย่างสม่ำเสมอ
๒.๓ การเห็นความสำคัญ เขา้ ร่วม สง่ เสรมิ สนับสนนุ เคารพกิจกรรมท่ีแสดงถงึ จารีตประเพณี
วัฒนธรรมทอ้ งถ่นิ หรือชมุ ชน
๒.๔ การเหน็ ความสำคญั เข้ารว่ ม สง่ เสริม สนับสนุน กจิ กรรมท่ีแสดงถึง จารีต ประเพณี วฒั นธรรม
ของชาติ
๒.๕ การมจี ิตบรกิ าร และจติ สาธารณะ
๒.๖ การต่อต้านการกระทำของบุคคล หรอื กลมุ่ บุคคลทส่ี ่งผลตอ่ ความมนั่ คงของชาติหรือผลกระทบ
เชิงลบต่อสงั คมโดยรวม

เอกสารอา้ งองิ

- สงั เกตพฤติกรรม
- สอบถาม/สัมภาษณ์ ครู ผู้บรหิ ารและผปู้ กครอง
- ภาพถา่ ย

เขา้ ร่วม ส่งเสรมิ สนับสนุน ศาสนกจิ ของศาสนาทีน่ ับถอื อย่างสมำ่ เสมอ เชน่
กิจกรรมตักบาตรวนั มาฆบูชา กจิ กรรมโครงการมหัศจรรย์ 1,000 วนั แรกของชีวติ
และหนูน้อยอัจฉริยะทแี่ สนดี กิจกรรมงานบญุ หมู่บ้าน ณ วัดศรีโพธิไ์ ทรบ้านลุมพกุ

เขา้ ร่วมกจิ กรรมในทอ้ งถ่นิ จารีตประเพณี วฒั นธรรมท้องถิ่นหรือชมุ ชน เชน่
ร่วมงานฌาปนกจิ ในชมุ ชน

การมจี ิตบริการ และจติ สาธารณะ

ผา่ นการทดสอบความรู้ เร่ือง คณุ ธรรม จรยิ ธรรม และคา่ นิยมอนั พงึ ประสงค์

๓. จรรยาบรรณวชิ าชีพ

๓.๑ การพัฒนาวิชาชีพและบุคลกิ ภาพอยา่ งต่อเนือ่ ง
๓.๒ การมวี ิสัยทัศน์ รู้และเข้าใจ สนใจ ตดิ ตามความเปลยี่ นแปลงด้านวทิ ยาการ เศรษฐกิจ สังคม
การเมืองของไทยและนานาชาติในปจั จุบนั
๓.๓ การไมอ่ าศยั วชิ าชีพแสวงหาผลประโยชนท์ ี่ไมถ่ ูกต้อง
๓.๔ การมุ่งมัน่ ต่อการพัฒนาความรู้ ความสามารถของผเู้ รียน
๓.๕ การให้ความสำคัญต่อการเข้ารว่ ม สง่ เสรมิ สนบั สนุนกิจกรรมท่เี ก่ียวข้องกับวชิ าชีพครอู ยา่ ง
สม่ำเสมอ
๓.๖ รกั เมตตา เอาใจใส่ ช่วยเหลือ ส่งเสริม สนับสนุน ให้บรกิ ารผเู้ รยี นทุกคนด้วยความเสมอภาค
๓.๗ การประพฤติปฏิบัตติ นเปน็ ทย่ี อมรับของผเู้ รียน ผบู้ ริหารเพือ่ นรว่ มงาน ผ้ปู กครองและ ชมุ ชน
๓.๘ การไม่ปฏบิ ตั ติ นทส่ี ง่ ผลเชิงลบต่อกายและใจของผู้เรียน
๓.๙ การทำงานกับผู้อืน่ โดยยึดหลกั ความสามัคคี เกื้อกลู ซ่ึงกันและกนั
๓.๑๐ การใชค้ วามรคู้ วามสามารถทม่ี ีอย่นู ำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ในทางพัฒนาให้กับผูเ้ รยี น โรงเรยี น
หรอื ชมุ ชนในดา้ นใดดา้ นหน่ึง (ดา้ นการอนรุ กั ษศ์ ิลปวัฒนธรรม ภมู ปิ ัญญา และส่งิ แวดล้อม)
๓.๑๑ การยดึ ม่นั ในการปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษัตริย์ ทรงเปน็ ประมุข

เอกสารอ้างองิ

- บนั ทกึ การเขา้ รว่ มประชมุ ของสถานศึกษา
- สอบถาม/สัมภาษณ์ ครู ผู้บริหาร ผู้เรียน ผปู้ กครอง และกรรมการสถานศึกษา
- ภาพถา่ ย

การเข้าร่วมประชุมของสถานศกึ ษา
สรา้ งโอกาสให้ผเู้ รียนได้เรียนรูใ้ นทกุ สถานการณ์

ม่งุ พฒั นาผ้เู รียนใหเ้ ต็มศกั ยภาพ เชน่ การเตรียมงานสอน การสง่ เสรมิ สนบั สนุนนำนักเรยี น
เข้าสอบธรรมะศกึ ษา และ O-NET

การยดึ ม่นั ในการปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษตั รยิ ์
ทรงเป็นประมุข เชน่ ใชส้ ิทธิ์เลอื กตง้ั ส.อบจ. และ นายก อบจ.
และกจิ กรรมส่งเสรมิ ประชาธปิ ไตยในโรงเรียน

๔. การดำรงชวี ติ ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ
พอเพยี ง

๔.๑ มีความรู้ ความเขา้ ใจเกย่ี วกบั หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
๔.๒ มกี ารนำหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งไปปรบั ประยุกต์ใช้กับการจดั การเรยี นรใู้ นหอ้ งเรียน
๔.๓ มีการนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปปรับประยกุ ต์ใช้กับภารกจิ ที่ไดร้ บั มอบหมาย
๔.๔ มกี ารนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งไปปรับประยกุ ตใ์ ช้กับการดำรงชวี ิตของตนเอง
๔.๕ เป็นแบบอย่างในการนำหลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปปรับประยกุ ต์ใช้กับภารกจิ ต่าง ๆ
หรอื การดำรงชีวิตของตน

เอกสารอา้ งองิ

- สังเกตพฤติกรรม
- สอบถาม/สมั ภาษณ์ ครู ผู้บริหาร ผูเ้ รียน และผ้ปู กครอง
- ภาพถา่ ย

มีการนำหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งไปปรับประยกุ ต์ใช้
กับการจดั การเรียนรู้ในห้องเรยี น

การออมเงินของนักเรียน เปิด - ปิดไฟทุกครั้งท่ีไม่ไดใ้ ช้งาน

ใชท้ รพั ยากรที่มอี ยู่ในโรงเรยี นเปน็ อปุ กรณก์ ารทดลอง

นำหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงบรู ณาการในการจัดการเรยี นการสอน

นักเรยี นได้เรยี นรู้แหล่งเศรษฐกจิ พอเพยี งในโรงเรียน
ดำเนินชวี ิตตามหลกั ของเศรษฐกิจพอเพยี ง เชน่ ปลกู ผกั สวนครัวไว้กนิ เอง

๕. จิตวญิ ญาณความเปน็ ครู

๕.๑ การเข้าสอนตรงเวลาและเขา้ สอนเตม็ เวลา
๕.๒ การตระหนกั ในความรู้และทักษะทีถ่ กู ตอ้ งรวมถึงสิง่ ดี ๆ ใหก้ ับผู้เรยี น
๕.๓ การสรา้ งความเสมอภาคและความเป็นธรรมกับผู้เรียนทุกคน
๕.๔ การรจู้ กั ให้อภยั ปราศจากอคติ ช่วยเหลือ สง่ เสรมิ สนับสนนุ ใหผ้ เู้ รยี นประสบความสำเรจ็ ตาม
ศักยภาพความสนใจ หรือความต้ังใจ
๕.๕ การเป็นทีพ่ ึ่งให้กับผเู้ รียนได้ตลอดเวลา
๕.๖ การจัดกิจกรรมสง่ เสรมิ การใฝร่ ู้ คน้ หา สรา้ งสรรค์ ถา่ ยทอด ปลูกฝังและเป็นแบบอยา่ งที่ดขี อง
ผู้เรียน
๕.๗ การทุ่มเทเสียสละในการจัดการเรยี นรใู้ หก้ บั ผู้เรยี น

เอกสารอ้างอิง

- บันทึกกิจกรรมการเยีย่ มบา้ น
- สงั เกตพฤติกรรม
- สอบถาม/สัมภาษณ์ ผถู้ กู ประเมิน และครู
- ภาพกจิ กรรม

การเข้าสอนตรงเวลาและเข้าสอนเตม็ เวลา
ดแู ล เอาใจใสน่ กั เรยี นทกุ คนเท่าเทยี มกัน
ใหค้ ำปรกึ ษา คำแนะนำ และเปน็ ท่พี ึ่งใหก้ ับผู้เรยี น

จดั กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้อยา่ งสรา้ งสรรค์

๖. จติ สำนกึ ความรับผดิ ชอบในวิชาชพี ครู

๖.๑ การมีเจตคตเิ ชิงบวกกบั วิชาชีพครู
๖.๒ การมุ่งมัน่ ทุม่ เทในการสร้างสรรค์ นวตั กรรมใหม่ ๆ เพือ่ ให้เกดิ การพฒั นาวิชาชพี และสังคมให้
ยอมรบั
๖.๓ ประพฤติปฏบิ ัติตนในการรกั ษาภาพลักษณ์ในวชิ าชีพ
๖.๔ การปกปอ้ ง ปอ้ งกันมิให้ผู้ร่วมประกอบวชิ าชพี ประพฤติปฏบิ ัตใิ นทางทจ่ี ะเกิดภาพลักษณเ์ ชิงลบ
ตอ่ วชิ าชีพ
๖.๕ การจดั กิจกรรมส่งเสริมการใฝร่ ู้ ค้นหาสรา้ งสรรค์ ถา่ ยทอด ปลกู ฝังและเป็นแบบอย่างทดี่ ขี อง
เพ่อื นร่วมงานและสังคม

เอกสารอา้ งองิ

- วจิ ัยในช้นั เรียน
- เกยี รติบัตร
- สังเกตพฤติกรรม
- สอบถาม/สัมภาษณ์ ครู และผูบ้ รหิ าร
- ภาพกิจกรรม

การม่งุ มนั่ ทุ่มเทในการสร้างสรรค์ นวัตกรรมใหม่ ๆ เช่น จดั ทำวจิ ัยในชั้นเรียน
แลกเปลย่ี นเรียนรกู้ ับเพื่อนครทู ้ังภายในโรงเรียนและนอกโรงเรียน