The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผน วิทยาศาสตร์ ป.4 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by jhajah_pk02, 2021-09-04 03:00:04

แผน วิทยาศาสตร์ ป.4 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2

แผน วิทยาศาสตร์ ป.4 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2

2หน่วยการ แรงและการเคล่อื นที่

เรยี นรูท้ ี่ รายวชิ าพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ เวลา 14 ชั่วโมง

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 2/1 แรงโนม้ ถว่ ง 5 ช่ัวโมง
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 2/2 มวลและนำ้ หนกั ของวัตถุ 5 ชวั่ โมง
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 2/3 ความสมั พันธร์ ะหว่างมวลกับน้ำหนัก 4 ช่ัวโมง

สาระการเรยี นรู้

1. แรงโน้มถว่ ง
2. มวลและน้ำหนักของวตั ถุ
3. ความสัมพันธ์ของมวลและน้ำหนัก

สมรรถนะสำคัญ/ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21

1. สมรรถนะสำคัญ
- ความสามารถในการสอื่ สาร
- ความสามารถในการคิด
- ความสามารถในการแก้ปัญหา
- ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

2. ทกั ษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21
- ทกั ษะการคดิ อย่างมวี ิจารณญาณ
- ทักษะการคิดแกป้ ญั หา
- ทกั ษะการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ
- ทกั ษะการส่ือสาร
- ทกั ษะการทำงานร่วมกันเป็นทีมและความเข้าใจความแตกต่างของวัฒนธรรม
- ทกั ษะการคิดสรา้ งสรรค์และการแสวงหานวตั กรรม

คุณลักษณะอันพึงประสงค์

งง

1. ใฝเ่ รยี นรู้ : ความตัง้ ใจในการสบื ค้นข้อมูลและการร่วมกิจกรรม

2. มุ่งมั่นในการทำงาน : ความตั้งใจในการทำงานให้เสร็จในเวลาที่กำหนดและมีคุณภาพตาม

เปา้ หมาย

3. ซ่ือสตั ย์สจุ ริต : การทำงานด้วยความสามารถของตนเองและเป็นความจริง

การออกแบบการจัดการเรยี นรแู้ บบ Active Learning
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 แรงและการเคลื่อนที่

ผลการเรยี นรู้
มาตรฐาน

มฐ. ว 2.2 เข้าใจธรรมชาติของแรงในชีวติ ประจำวัน ผลของแรงที่กระทำต่อวัตถุ ลักษณะการเคลื่อนที่
แบบตา่ ง ๆ ของวตั ถุ รวมทั้งนำความรูไ้ ปใชป้ ระโยชน์

ตวั ช้ีวัดชนั้ ปี
1. ระบผุ ลของแรงโน้มถว่ งทมี่ ตี ่อวัตถุจากหลักฐานเชิงประจกั ษ์ (ว 2.2 ป.4/1)
2. ใชเ้ ครือ่ งช่ังสปริงในการวดั นำ้ หนักของวตั ถุ (ว 2.2 ป.4/2)
3. บรรยายมวลของวตั ถุท่มี ผี ลตอ่ การเปล่ยี นแปลงการเคลื่อนทขี่ องวัตถจุ ากหลักฐานเชิงประจกั ษ์

(ว 2.2 ป.4/3)
แนวคดิ สำคัญ

1. แรงโนม้ ถว่ งของโลกเปน็ ปรากฏการณ์ธรรมชาติ เป็นแรงทโี่ ลกดึงดูดวัตถุทกุ ชนิ้ ทำให้วัตถุตกลงสู่พื้น
โลก

2. มวลเปน็ ปรมิ าณเนอ้ื ของวัตถุทง้ั หมดมหี นว่ ยเปน็ กรัม (g) หรือกิโลกรัม (kg) นำ้ หนักของวัตถุ หมายถึง
แรงทก่ี ระทำตอ่ วตั ถุภายใต้สนามโน้มถ่วงโลก มหี นว่ ยเปน็ นิวตัน (N) ซง่ึ สามารถวัดไดโ้ ดยการใช้เครื่องช่ังสปริง
มวลกับน้ำหนกั จงึ เปน็ ปริมาณที่ต่างกนั

3. มวลกับน้ำหนักมีความสัมพนั ธ์กัน วัตถุท่มี ีมวลมาก น้ำหนกั จะมาก วตั ถุทีม่ ีมวลนอ้ ย นำ้ หนักจะน้อย
ถา้ วตั ถุกอ้ นเดยี วกันเมอ่ื อยทู่ ่รี ะดบั ความสูงตา่ งกัน มวลของวตั ถจุ ะคงเดมิ แต่น้ำหนกั วตั ถจุ ะเปลีย่ นไป

คำถามสำคัญ

1. แรงคอื อะไร จะวดั ค่าของแรงไดอ้ ยา่ งไร
2. แรงโน้มถ่วงคืออะไร
3. มวี ธิ กี ารทดลองเกย่ี วกบั แรงโน้มถ่วงไดอ้ ยา่ งไร
4. มวลและนำ้ หนกั เหมอื นหรือตา่ งกนั อย่างไร และเครือ่ งมืออะไรใชใ้ นการวัดมวลและน้ำหนักมวลและ

นำ้ หนักมคี วามสมั พันธก์ ันหรอื ไม่ อยา่ งไร

กิจกรรมการเรยี นรู้
1. นักเรียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี นและหลงั เรียน จำนวน 10 ขอ้
2. ปฏบิ ัติกจิ กรรมการทดลอง กิจกรรมท่ี 2.1-2.3
3. ตอบคำถามกจิ กรรมตรวจสอบการเรียนรทู้ ่ี 2.1-2.3
4. การตอบคำถาม อภปิ ราย และสรุปองค์ความรตู้ ามเนอ้ื หา
5. การตอบแบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธิ์

กจิ กรรมการเรียนรู้
1. นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี นและหลังเรยี น จำนวน 10 ข้อ
2. ปฏิบัตกิ จิ กรรมการทดลอง กิจกรรมท่ี 2.1-2.3
3. ตอบคำถามกิจกรรมตรวจสอบการเรียนรทู้ ี่ 2.1-2.3
4. การตอบคำถาม อภปิ ราย และสรปุ องคค์ วามร้ตู ามเนื้อหา
5. การตอบแบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธ์ิ

การวัดและประเมินผล
1. การทำแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน
2. การตอบคำถามนำเข้าสกู่ ิจกรรม
3. การตอบแบบทดสอบวัดผลสมั ฤทธิ์
4. สังเกตพฤติกรรมเกี่ยวกับใช้ทักษะ/กระบวนการและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ด้านจิต

วิทยาศาสตร์ และจิตสาธารณะ ระหว่างการทำกจิ กรรม
5. การตอบคำถามกิจกรรมตรวจสอบการเรียนรู้
6. การทำกิจกรรมการทดลอง
7. แบบประเมินผลการเรียนรู้ด้วยตนเอง (นักเรียนประเมินผลที่ได้จากการสะท้อนตนเองจากการ

เรยี นรูล้ งในแบบประเมินขอ้ 11 ซ่ึงครเู ปน็ ผู้จดั ทำให)้
8. แบบประเมินชิน้ งาน
9. แบบประเมินพฤติกรรมการเรียนรู้
10. แบบประเมนิ ทักษะทจี่ ำเป็นในศตวรรษท่ี 21
11. แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
12. แบบประเมินด้านทกั ษะปฏบิ ัติ
13. แบบประเมินการนำเสนอผลงานกลุ่ม (โดยให้ครู เพ่อื นกลุ่มอ่ืน และกล่มุ ตนเองประเมนิ )
14. แบบประเมนิ การเขียนรายงานผลการปฏิบัติกิจกรรม

แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 2/1

สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์ รหสั วชิ า ว14101
ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2563
เร่ือง แรงโนม้ ถว่ ง เวลา 5 ชว่ั โมง

1. มาตรฐานการเรียนรู้ / ตวั ช้ีวัดชนั้ ปี

มาตรฐาน
มฐ. ว 2.2 เข้าใจธรรมชาตขิ องแรงในชีวติ ประจำวัน ผลของแรงที่กระทำต่อวัตถุ ลกั ษณะการเคล่ือนท่ี

แบบต่าง ๆ ของวตั ถุ รวมท้งั นำความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์
ตัวชีว้ ัดชน้ั ปี
ระบผุ ลของแรงโน้มถว่ งที่มตี อ่ วตั ถุจากหลักฐานเชิงประจักษ์ (ว 2.2 ป.4/1)

2. แนวคิด/หลกั การสำคัญ
แรงโน้มถ่วงของโลกเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ เป็นแรงที่โลกดึงดูดวัตถทุ ุกชิน้ ทำให้วัตถุตกลงสู่พื้น

โลก

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
ระบุผลของแรงโน้มถ่วงทีม่ ตี ่อวตั ถจุ ากหลักฐานเชิงประจักษ์ได้

4. สาระการเรียนรู้
แรงโนม้ ถว่ ง

5. ชน้ิ งาน/ภาระงาน
5.1 รายงานผลกจิ กรรมการทดลอง กิจกรรมท่ี 2.1 เรอื่ ง แรงโนม้ ถ่วงกับการเคล่อื นที่ของวตั ถุ
5.2 การตอบคำถามกิจกรรมตรวจสอบการเรียนรทู้ ่ี 2.1

6. คำถามสำคญั
6.1 แรงคอื อะไร จะวัดค่าของแรงได้อย่างไร
6.2 แรงโนม้ ถว่ งคืออะไร
6.3 มวี ธิ กี ารทดลองเกีย่ วกบั แรงโน้มถว่ งไดอ้ ยา่ งไร

7. กจิ กรรมการจัดการเรยี นรู้
7.1 ขนั้ นำ
1. นำเข้าสู่บทเรียน เรื่อง แรงโน้มถ่วง โดยใช้คำถามตรวจสอบความเข้าใจก่อนเรียน และคำถาม

นำเข้าสู่กิจกรรมจากหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ด้วยการตั้งคำถามและให้นักเรียนตอบ
เป็นรายบุคคล (ให้เวลาคิด 3-5 วินาที) และสุ่มจากนักเรียนที่ยกมือเพื่อต้องการตอบคำถามโดยใช้ เทคนิค
วิธีการ (Teaching Strategies) แบบ KWL : รู้อะไร รู้อย่างไร (What I Known) ต้องการรู้อะไรในสิ่งนั้น
(What I want to Known) จะเรียนรสู้ ่ิงนัน้ อยา่ งไร (How I learned)
คำถาม

- แรงคืออะไร ในชวี ิตประจำวนั เราออกแรงเก่ียวกบั การทำกิจกรรมอะไรบา้ ง
- ส่ิงทตี่ ้องการรเู้ ก่ยี วกับแรงในชวี ิตประจำวนั มีอะไรบา้ ง
- ถ้าตอ้ งการทดลองเก่ียวกับการออกแรงจะมวี ิธีดำเนนิ การทดลองอย่างไร
2. ครแู จง้ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

7.2 ขัน้ สอน
1. จัดกลุ่มนักเรียน กลุ่มละ 4 คน แต่ละคน กำหนดบทบาทหน้าที่ภายในกลุ่ม โดยใช้เทคนิค

วธิ ีการ (Teaching Strategies) การเรยี นรูแ้ บบร่วมมอื รว่ มใจ : Cooperative learning)
คนท่ี 1 หวั หนา้ กลมุ่ และผูป้ ระสาน การระดมความคิดและวางแผน
คนที่ 2 ผูจ้ ัดการดา้ นความรู้ สำรวจตรวจสอบความถูกตอ้ ง
คนท่ี 3 จัดเตรยี ม จดั หา จดั เก็บ วัสดุ อุปกรณ์
คนท่ี 4 การเขียนบันทึกและนำเสนอผลงาน

2. แต่ละกลุ่มทำกิจกรรมที่ 2.1 แรงโน้มถ่วงกับการเคลื่อนที่ของวัตถุ (ใช้กิจกรรมหนังสือเรียน ช้ัน
ประถมศกึ ษาปีที่ 4 )

- ช่วั โมงที่ 1-2 ทำกจิ กรรมตอนที่ 1 แรงโน้มถว่ งทำใหว้ ัตถเุ คลอ่ื นท่ี
- ชั่วโมงท่ี 3-4 ทำกิจกรรมตอนที่ 2 แรงโนม้ ถ่วงกับการตกองวัตถุ
- ชั่วโมงที่ 5 แต่ละกลุ่มนำเสนอผลงาน

3. ระหวา่ งทน่ี กั เรียนทำกิจกรรม ครูเดนิ ไปทีก่ ลุ่มต่าง ๆ เพ่อื สังเกตและประเมินพฤติกรรมการเรียนรู้
ของนักเรียน และให้ความช่วยเหลือกลุ่มนักเรียนหรือนักเรียนที่อาจพบปัญหา ในการเรียนรู้ และรวมถึง
ประเมนิ กระบวนการทำงานกลมุ่ (การประเมินเพือ่ การปรับปรงุ : Formative assessment)

4. แตล่ ะกลมุ่ ผลดั กันอธบิ ายผลการทดลองตอนท่ี 1 และ 2 ขณะเดยี วกัน มีการประเมนิ ผลการสื่อสาร
สงิ่ ที่เรียนรู้ของนักเรียนแต่ละกลุม่

5. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายสรุปผลการทำกิจกรรม และองค์ความรู้จากกิจกรรมที่ 2.1 และ
หลักการจำแนกและให้ขอ้ สังเกตผลงานของแต่ละกลุ่ม กระบวนการทำงานกลุ่มในแตล่ ะกลุม่ หรือบางกลุม่ เพื่อ
การแนะนำและปรบั ปรงุ แกไ้ ข และสรุปผลการเรยี นรู้ของแต่ละกลุ่มทีท่ ำกจิ กรรมในภาพรวม

6. นักเรียนอา่ นคำถามทา้ ยกิจกรรมที่ 2.1 และร่วมกันตอบคำถาม และครูอธบิ ายความรู้
7. ครูอธิบายเพิ่มพูนความรู้เกี่ยวกบั ความหมายของแรง แรงที่ทำให้วัตถุมีการเคลื่อนที่ แรงโน้มถ่วง
ประวัติของเซอรไ์ อแซก นิวตนั กบั การค้นพบแรงโนม้ ถว่ ง และประโยชน์ของแรงโน้มถว่ งในชวี ิตประจำวัน แล้ว
ให้นักเรยี นซกั ถามและตอบคำถาม
8. นกั เรยี นอา่ นคำถามกิจกรรมตรวจสอบการเรียนรูท้ ี่ 2.1 ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั เฉลยคำตอบ

7.3 ข้นั สรปุ
1. สะท้อนความคิดเพื่อปิดบทเรียนในกิจกรรมการทดลองเกี่ยวกับแรงโน้มถ่วงกับการเคลื่อนที่ของ

วัตถุ โดยให้นักเรียนเขียนบันทึกลงในสมุด หรือตอบคำถามในชั้นเรียน และใช้เทคนิควิธีการ ( Teaching
Strategies) ต๋ัวออก (Exit Ticket) ดังน้ี
คำถาม

- นกั เรียนได้ความรู้เก่ยี วกบั แรงโน้มถ่วงและการทดลองเรือ่ งโน้มถว่ งอยา่ งไรบา้ ง เขยี นหรืออธิบาย
3 เร่อื ง

- นักเรียนคิดว่าการเรียนรู้เรื่องแรงโน้มถ่วงนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันอย่างไรบ้าง เขียน
หรืออธบิ าย 2 ข้อ

- จากบทเรียนนี้นักเรยี นต้องการรู้เพิม่ เติม หรือยงั ไมเ่ ข้าใจ ต้องการรูเ้ ก่ยี วกับแรงโน้มถ่วงอะไรบ้าง
เขยี นหรอื บอก 1 ขอ้

8. ส่ือการเรียนรแู้ ละแหลง่ การเรยี นรู้
8.1 สอ่ื การเรยี นรู้
หนังสือเรยี นวทิ ยาศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีที่ 4
8.2 แหล่งการเรยี นรู้
1. ห้องสมดุ ของโรงเรียน

2. หอ้ งสมดุ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์
3. อนิ เทอรเ์ นต็ จากเว็บไซต์ตา่ ง ๆ

9. การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้
9.1 แบบทดสอบกอ่ นเรยี นแบบเลอื กตอบ (4 ตัวเลือก) จำนวน 10 ขอ้
9.2 รายงานผลการทดลองกจิ กรรมท่ี 2.1
9.3 การตอบคำถามกจิ กรรมตรวจสอบการเรียนรทู้ ่ี 2.1
9.4 แบบประเมินผลการเรียนรู้ด้วยตนเอง (นักเรียนประเมินผลที่ไดจ้ ากการสะทอ้ นตนเองจากการเรยี นรู้

ลงในแบบประเมนิ ข้อ 11 ซ่ึงครเู ปน็ ผจู้ ดั ทำให้)
9.5 แบบประเมินชน้ิ งาน
9.6 แบบประเมินพฤตกิ รรมการเรยี นรู้
9.7 แบบประเมนิ ทักษะท่จี ำเป็นในศตวรรษที่ 21
9.8 แบบประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์
9.9 แบบประเมนิ ดา้ นทกั ษะปฏิบัติ
9.10 แบบประเมินการนำเสนอผลงานกล่มุ (โดยใหค้ รู เพอื่ นกลุ่มอนื่ และกลุ่มตนเองประเมิน)
9.11 แบบประเมินการเขียนรายงานผลการปฏิบตั กิ ิจกรรม

10. ความคิดเห็นของผบู้ รหิ าร/สถานศึกษา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอื่ ..................................................
(นายประสิทธิ์ คำผยุ )

ตำแหน่ง ผอู้ ำนวยการโรงเรียนบ้านลมุ พกุ

11. บันทึกการจดั การเรียนรู้สำหรบั ครู (Teacher’s Reflection)
11.1 ความสำเรจ็ ในการจดั การเรียนรู้
ดา้ นผู้เรียน..........................................................................................................................................

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ดา้ นวิธีสอนการวัดผล.........................................................................................................................

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
11.2 ปัญหา/อุปสรรคในการจดั การเรยี นรู้ .................................................................................................

..............................................................................................................................................................................
11.3 สิ่งท่ไี ม่ไดป้ ฏบิ ตั ิตามแผน ..................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................
เหตผุ ล................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................
11.4 แนวทางการปรบั ปรงุ /พฒั นาตนเองครั้งต่อไป

..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

ลงช่อื ................................................... ผู้สอน
(นางสาวจริ าภรณ์ นนทวงษ์)
ตำแหน่ง ครู

แรงโนม้ ถว่ งของโลก

กิจกรรมท่ี 2.1 เรอ่ื ง แรงโนม้ ถ่วงกับการเคล่ือนทข่ี องวตั ถุ
จุดประสงค
1. อานขอมลู และบอกความหมายของมวลและน้ำหนัก
2. สังเกตและอธบิ ายการเคลื่อนท่ีของวตั ถเุ มอ่ื ถูกปล่อยจากมือ

วัสดุ-อปุ กรณ
1. ดนิ น้ำมนั 2. ฟองน้ำ 3. แทงไม้ 4. ใบไม้ 5. ลูกบอล 6. เมลด็ ถวั่

วิธปี ฏิบัติ
1. อา่ นใบความรทู้ ่ี 1 เรื่องมวลและน้ำหนัก อภิปรายและตอบคําถามจากการอา่ น
2. สงั เกตวตั ถตุ ่าง ๆ ทใ่ี ชใ้ นกิจกรรม จากนนั้ คาดคะเนและบนั ทึกว่า หากปลอ่ ยวตั ถุต่าง ๆ จากมอื เส้นทาง
การเคล่ือนที่ของวัตถุตัง้ แต่เร่ิมเคลือ่ นที่จนหยุดจะเปน็ อย่างไร แตกตา่ งกันหรือไม่
3. ทำกิจกรรมเพื่อตรวจสอบการคาดคะเน สังเกตและวาดภาพเส้นทางการเคลื่อนที่ของวัตถุ ตั้งแต่ปล่อยมือ
จนวตั ถหุ ยุดเคลื่อนท่ี

บนั ทกึ ผลการทำกจิ กรรม

ผลจากการอา่ นและอภปิ รายเพื่อตอบคาํ ถามตอไปน้ี
1. มวลคืออะไร
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

2. วตั ถุมนี ้ำหนักไดอ้ ยา่ งไร
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

3. แรงโนม้ ถว่ งของโลกมีทิศทางอย่างไร
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

บันทึกผลการทำกิจกรรม

ผลการคาดคะเน
ภาพเส้นทางการเคลอ่ื นที่ของวัตถุแตล่ ะชิ้นเม่อื ถูกปลอ่ ยจากมอื จนหยดุ เคลื่อนท่ี

บันทึกผลการทำกิจกรรม

ผลการสังเกตุ
ภาพเส้นทางการเคล่อื นทข่ี องวัตถุแตล่ ะชิ้นเม่อื ถกู ปลอ่ ยจากมอื จนหยดุ เคลื่อนท่ี

คำถามหลงั การทำกิจกรรม

1. เมอ่ื ปลอ่ ยวัตถุจากมอื วตั ถมุ ีการเปลี่ยนแปลงการเคลื่อนทห่ี รือ ไม่ อยา่ งไร
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. เมอื่ ปลอ่ ยวัตถุจากมือ มีแรงกระทำตอวัตถหุ รอื ไม่ ถามี แรงนน้ั มาจากไหน
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. เมอื่ วัตถแุ ต่ละชิน้ เคลอื่ นท่ี เส้นทางการเคล่อื นท่เี ป็นอยา่ งไร แตกต่างกันหรอื ไม่
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
4. วตั ถตุ ่าง ๆ จะหยุดเคล่ือนทีท่ ่ีใด เหมอื นกับที่คาดคะเนไว้หรือไม่
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
5. จากกิจกรรมนี้ สรปุ ไดว่าอยา่ งไร
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 2/2

สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์ รหสั วิชา ว14101
ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 4 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2563
เรอ่ื ง มวลและน้ำหนกั ของวัตถุ เวลา 5 ชวั่ โมง

1. มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตวั ชวี้ ัดชน้ั ปี
มาตรฐาน
มฐ. ว 2.2 เขา้ ใจธรรมชาติของแรงในชีวติ ประจำวนั ผลของแรงทก่ี ระทำต่อวัตถุ ลกั ษณะการเคลื่อนที่

แบบต่าง ๆ ของวัตถุ รวมท้ังนำความรู้ไปใช้ประโยชน์
ตัวชว้ี ัดชน้ั ปี
1. ใชเ้ ครื่องชั่งสปรงิ ในการวดั นำ้ หนกั ของวัตถุ (ว 2.2 ป.4/2)
2. บรรยายมวลของวัตถุที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงการเคลื่อนที่ของวัตถุจากหลักฐานเชิงประจักษ์

(ว 2.2 ป.4/3)

2. แนวคดิ /หลกั การสำคญั
มวลเปน็ ปรมิ าณเน้ือของวัตถุทงั้ หมดมีหนว่ ยเปน็ กรมั (g) หรือกโิ ลกรัม (kg) น้ำหนักของวัตถุ หมายถึง

แรงทก่ี ระทำตอ่ วตั ถุภายใต้สนามโน้มถ่วงโลก มหี น่วยเป็นนิวตัน (N) ซง่ึ สามารถวัดได้โดยการใช้เคร่ืองชั่งสปริง
มวลกับน้ำหนักจงึ เป็นปริมาณท่ตี ่างกนั

3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
3.1 ใชเ้ ครือ่ งชงั่ สปริงในการวัดน้ำหนักของวตั ถุได้
3.2 บรรยายมวลของวตั ถทุ ่มี ผี ลตอ่ การเปลย่ี นแปลงการเคลอื่ นทีข่ องวัตถุจากหลักฐานเชงิ ประจักษ์ได้

4. สาระการเรยี นรู้
มวลและน้ำหนักของวตั ถุ

5. ช้ินงาน/ภาระงาน
5.1 รายงานผลการทดลองกิจกรรมที่ 2.2
5.2 รายงานกจิ กรรมตรวจสอบการเรยี นรู้ท่ี 2.2

6. คำถามสำคญั
มวลและนำ้ หนกั เหมือนหรอื ตา่ งกนั อย่างไร และเครื่องมืออะไรใช้ในการวดั มวลและนำ้ หนัก

7. กิจกรรมการจัดการเรียนรู้
7.1 ขน้ั นำ
1. ตั้งคำถาม ทบทวนความรู้เดิม ในชั่วโมงเรียนที่ผ่านมา เกี่ยวกับแรงโน้มถ่วงของโลกว่าเราเรียนรู้

อะไรบา้ ง มีวธิ เี รียนรูอ้ ยา่ งไร
2. นำเข้าสู่บทเรียนใหม่ เรื่อง มวลและน้ำหนักของวัตถุ โดยคำถามตรวจสอบความเข้าใจก่อนเรียน

และคำถามนำเข้าสู่กิจกรรมจากหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ด้วยการตั้งคำถามและให้
นกั เรียนตอบเปน็ รายบุคคล (ใหเ้ วลาคดิ 3-5 วินาที) และสมุ่ จากนักเรยี นทย่ี กมอื เพ่ือต้องการตอบคำถามโดยใช้
เทคนคิ วธิ ีการ (Teaching Strategies) แบบ KWL : รอู้ ะไร รอู้ ยา่ งไร (What I Known) ตอ้ งการรู้อะไรในส่งิ นน้ั
(What I want to Known) จะเรยี นรู้ส่ิงน้ันอย่างไร (How I learned)
คำถาม

- นกั เรยี นรมู้ วลและน้ำหนักของวัตถุหรือไม่ และรอู้ ยา่ งไร
- ส่งิ ทต่ี ้องการรู้หรอื สงิ่ ท่ีสงสัยเกยี่ วกบั มวลและน้ำหนักของวตั ถุ มอี ะไรบ้าง
- ถา้ ต้องการทดลองวัตถุมมี วลและมนี ้ำหนัก จะมีวิธดี ำเนนิ การทดลองอยา่ งไร
2. ครูแจง้ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

7.2 ขน้ั สอน
1. จัดกลุ่มนักเรียน กลุ่มละ 4 คน แต่ละคน กำหนดบทบาทหน้าที่ภายในกลุ่ม โดยใช้เทคนิควิธีการ

(Teaching Strategies) การเรียนรแู้ บบรว่ มมือร่วมใจ : Cooperative learning)
คนท่ี 1 หวั หนา้ กลุ่มและผูป้ ระสาน การระดมความคิดและวางแผน
คนท่ี 2 ผูจ้ ัดการด้านความรู้ สำรวจตรวจสอบความถูกตอ้ ง
คนที่ 3 จัดเตรยี ม จัดหา จัดเก็บ วสั ดุ อปุ กรณ์
คนท่ี 4 การเขยี นบันทกึ และนำเสนอผลงาน

2. แต่ละกลุ่มทำกิจกรรมที่ 2.2 มวลและน้ำหนักของวัตถุ (ใช้กิจกรรมหนงั สอื เรียน ชั้นประถมศึกษา
ปที ่ี 4 ) โดยทำกิจกรรมการทดลอง และเขยี นรายงานผลการทำกจิ กรรม และให้นกั เรยี นทำกจิ กรรม ดงั น้ี

- ชั่วโมงที่ 1-2 ทำกจิ กรรมการทดลองเร่อื งมวลและน้ำหนักของวตั ถุ
- ชัว่ โมงท่ี 3 แตล่ ะกลุ่มนำเสนอผลงาน

3. ระหวา่ งที่นกั เรียนทำกิจกรรม ครเู ดินไปท่ีกลุ่มต่าง ๆ เพ่ือสังเกตและประเมนิ พฤติกรรมการเรียนรู้
ของนักเรียน และให้ความช่วยเหลือกลุ่มนักเรียนหรือนักเรียนที่อาจพบปัญหา ในการเรียนรู้ และรวมถึง
ประเมนิ กระบวนการทำงานกลุม่ (การประเมนิ เพ่อื การปรับปรงุ : Formative assessment)

4. แต่ละกลุ่มผลัดกันอธิบายผลการทดลองเกี่ยวกับมวลและน้ำหนักของวัตถุ ขณะเดียวกัน มีการ
ประเมินผลการสือ่ สารสิง่ ท่เี รยี นรูข้ องนกั เรยี นแตล่ ะกล่มุ

5. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายสรุปผลการทำกิจกรรม และองค์ความรู้จากกิจกรรมที่ 2.2 ท่ี
นักเรียนแต่ละกลุ่มทำการทดลอง ผลการทดลอง และให้ข้อสังเกตผลงานของแต่ละกลุ่ม กระบวนการทำงาน
กลุ่มในแต่ละกลุ่มหรือบางกลุม่ เพื่อการแนะนำและปรับปรุงแกไ้ ข และสรุปผลการเรียนรู้ของแต่ละกลุ่มทีท่ ำ
กจิ กรรมในภาพรวม

6. นักเรียนอา่ นคำถามท้ายกิจกรรมที่ 2.2 และร่วมกันตอบคำถาม และครูอธบิ ายความรู้
7. ครูอธิบายเพิ่มพนู ความรู้ เกี่ยวกับความหมายของมวลกับน้ำหนัก ความเหมือนความตา่ งกันระหวา่ ง
มวลกบั นำ้ หนัก ลกั ษณะของเครือ่ งช่งั สปรงิ และการนำไปใช้ประโยชนใ์ นชวี ติ ประจำวัน
8. นักเรยี นอ่านคำถามกิจกรรมตรวจสอบการเรยี นร้ทู ่ี 2.2 ครูและนกั เรียนรว่ มกนั เฉลยคำตอบ

7.3 ข้นั สรุป
1. สะท้อนความคิดเพื่อปิดบทเรียนในกิจกรรมการทดลองเกี่ยวกับมวลและน้ำหนัก โดยให้นักเรียน

เขียนบนั ทกึ ลงในสมุด หรือ ตอบคำถามในชน้ั เรยี น และใช้เทคนคิ วธิ กี าร (Teaching Strategies) ตว๋ั ออก (Exit
Ticket) ดงั น้ี
คำถาม

- นักเรียนได้ความรู้จากการเรียนเรื่องมวลและน้ำหนักของวัตถุอย่างไรบ้าง เขียนหรืออธิบาย 3
เร่อื ง

- นักเรียนคิดว่าจะนำความรู้เกี่ยวกับมวลและน้ำหนักของวัตถุไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน
อย่างไรบ้าง เขยี นหรอื อธบิ าย 2 ข้อ

- จากบทเรยี นน้ี นกั เรยี นตอ้ งการรูเ้ พม่ิ เติม หรอื ยังไมเ่ ขา้ ใจ ตอ้ งการรเู้ กี่ยวกับมวลและน้ำหนักของ
วตั ถอุ ะไรบ้าง เขยี นหรือบอก 1 ขอ้

8. สื่อการเรียนรู้และแหล่งการเรียนรู้
8.1 สอื่ การเรยี นรู้
หนังสอื เรียนวิทยาศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 4

8.2 แหล่งการเรยี นรู้
1. หอ้ งสมดุ ของโรงเรยี น
2. หอ้ งสมุดกลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์
3. อินเทอร์เน็ตจากเว็บไซตต์ ่าง ๆ

9. การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้
9.1 รายงานผลการทดลองกิจกรรมที่ 2.2
9.2 การตอบคำถามกจิ กรรมตรวจสอบการเรยี นรทู้ ่ี 2.2
9.3 แบบประเมินผลการเรียนรู้ด้วยตนเอง (นักเรียนประเมินผลที่ไดจ้ ากการสะทอ้ นตนเองจากการเรยี นรู้

ลงในแบบประเมนิ ข้อ 11 ซึ่งครูเปน็ ผูจ้ ัดทำให้)
9.4 แบบประเมนิ ชนิ้ งาน
9.5 แบบประเมินพฤติกรรมการเรยี นรู้
9.6 แบบประเมินทักษะท่ีจำเปน็ ในศตวรรษท่ี 21
9.7 แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์
9.8 แบบประเมินด้านทักษะปฏบิ ตั ิ
9.9 แบบประเมินการนำเสนอผลงานกลมุ่ (โดยให้ครู เพอื่ นกลุม่ อื่น และกลมุ่ ตนเองประเมนิ )
9.10แบบประเมินการเขียนรายงานผลการปฏบิ ตั ิกจิ กรรม

10. ความคิดเหน็ ของผูบ้ รหิ าร/สถานศึกษา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอ่ื ..................................................
(นายประสิทธิ์ คำผยุ )

ตำแหนง่ ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นบา้ นลุมพกุ

11. บันทึกการจัดการเรียนรสู้ ำหรบั ครู (Teacher’s Reflection)
11.1 ความสำเร็จในการจดั การเรยี นรู้
ดา้ นผู้เรยี น..........................................................................................................................................

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ดา้ นวธิ ีสอนการวดั ผล.........................................................................................................................

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
11.2 ปัญหา/อปุ สรรคในการจัดการเรียนรู้ .................................................................................................

..............................................................................................................................................................................
11.3 ส่ิงทไี่ มไ่ ด้ปฏิบตั ติ ามแผน ..................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................
เหตผุ ล................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................
11.4 แนวทางการปรับปรุง/พฒั นาตนเองครั้งต่อไป

..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื ................................................... ผสู้ อน
(นางสาวจริ าภรณ์ นนทวงษ)์
ตำแหน่ง ครู

แรงโน้มถว่ งของโลก

กจิ กรรมท่ี 2.2 มวลและน้ำหนักของวตั ถุ
จดุ ประสงค
สงั เกตและอธบิ ายการหาน้ำหนักของวตั ถุโดยใชเ้ ครื่องชั่งสปรงิ

วสั ดุ-อุปกรณ
1. ถุงทราย 500 กรมั
2. เครือ่ งชง่ั สปริง
3. วตั ถอุ ื่น ๆ

วิธปี ฏบิ ัติ
1. สงั เกตลักษณะของเครือ่ งชัง่ สปริง พรอมวาดรูปและรวมกนั อภปิ รายเกยี่ วกบั วิธใี ช้เครอื่ งชัง่ สปรงิ
2. ดึงขอเกีย่ วของเคร่อื งชงั่ สปรงิ ในแนวดิ่ง โดยออกแรงดึงใหม้ ากข้นึ ๆ สงั เกตการเปลีย่ นแปลงที่เกิดขึ้น
บันทึกผล
3. นําถงุ ทราย 1 ถุง แขวนกบั เคร่อื งชั่งสปริง เม่อื ถุงทรายอยูนง่ิ สังเกตและบนั ทึกมวลของถงุ ทรายและคา่
ของแรงท่ีอ่านได้
4. นาํ วตั ถอุ ่นื ๆ มาแขวนแทนถุงทราย สังเกตและบนั ทกึ ค่าของแรงท่ีอ่านได้

บนั ทึกผลการทำกิจกรรม
ผลการสังเกต

1. รูปเครอื่ งชง่ั สปริงท่ีสงั เกตได้

2. ผลการสังเกตการเปลยี่ นแปลงของเครอ่ื งชั่งสปรงิ เมอื่ ออกแรงในการดงึ ใหม้ ากขึ้น ๆ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
3. มวลของถุงทราย เท่ากับ………………………….. กรัม
4. คา่ ทอ่ี ่านได้ เมอ่ื แขวนถุงทรายกบั เครื่องชัง่ สปริง เทา่ กับ……………………… นวิ ตนั
5. ค่าทีอ่ ่านได้ เมื่อแขวนวตั ถุอืน่ กบั เครือ่ งชัง่ สปรงิ เทา่ กบั ………………………... นิวตัน

คำถามหลังการทำกิจกรรม

1. เมอ่ื ดงึ เครือ่ งชั่งสปรงิ ดว้ ยแรงที่แตกต่างกัน เคร่ืองชัง่ สปรงิ มีการเปลี่ยนแปลงแตกตา่ งกนั หรอื ไม่อยา่ งไร
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
2. คา่ ทอี่ ่านได้จากเคร่ืองช่ังสปรงิ เม่ือแขวนถงุ ทรายไวน้ ง่ิ ๆ คือค่าของอะไร
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
3. ในกจิ กรรมน้ใี ช้เครือ่ งชง่ั สปริงทำอะไร
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
4. จากกจิ กรรมนี้ สรุปไดว้ ่าอยางไร
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 2/3

สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์ รายวชิ า วิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว14101
ปีการศึกษา 2563
ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 4 ช่ัวโมง

เรื่อง ความสมั พนั ธร์ ะหว่างมวลกบั น้ำหนัก

1. มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตัวชว้ี ัดชั้นปี
มาตรฐาน
มฐ. ว 2.2 เข้าใจธรรมชาตขิ องแรงในชีวติ ประจำวัน ผลของแรงที่กระทำต่อวัตถุ ลักษณะการเคล่ือนที่

แบบต่าง ๆ ของวตั ถุ รวมทัง้ นำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์
ตวั ชวี้ ัดชนั้ ปี
บรรยายมวลของวัตถุที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงการเคลื่อนที่ของวัตถุจากหลักฐานเชิงประจักษ์

(ว 2.2 ป.4/3)

2. แนวคิด/หลักการสำคญั
มวลกับน้ำหนักมีความสมั พนั ธ์กัน วัตถุที่มีมวลมาก น้ำหนักจะมาก วัตถุที่มีมวลน้อย น้ำหนักจะน้อย

ถา้ วตั ถุกอ้ นเดียวกนั เมื่ออยทู่ ี่ระดับความสงู ต่างกนั มวลของวัตถุจะคงเดิม แต่นำ้ หนักวตั ถุจะเปลี่ยนไป

3. จุดประสงค์การเรียนรู้
บรรยายมวลของวตั ถุท่ีมีผลตอ่ การเปลี่ยนแปลงการเคลอ่ื นทข่ี องวตั ถุจากหลกั ฐานเชงิ ประจกั ษไ์ ด้

4. สาระการเรียนรู้
ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งมวลและน้ำหนกั ของวตั ถุ

5. ช้ินงาน/ภาระงาน
5.1 รายงานผลการทดลองกจิ กรรมที่ 2.3
5.2 รายงานกจิ กรรมตรวจสอบการเรียนรทู้ ่ี 2.3

6. คำถามสำคญั
6.1 มวลของวัตถุคืออะไร

6.2 น้ำหนักของวัตถุคืออะไร
6.3 มวลและน้ำหนักของวตั ถุมคี วามสัมพนั ธ์กนั หรอื ไม่ อย่างไร
6.4 ถ้าจะทดลองหาความสัมพนั ธ์ของมวลและวัตถจุ ะออกแบบการทดลองอยา่ งไร

7. กจิ กรรมการจัดการเรียนรู้
7.1 ขนั้ นำ
1. ตั้งคำถาม ทบทวนความรู้เดิม ในชั่วโมงเรียนที่ผ่านมา เกี่ยวกับมวลและน้ำหนักว่าเราเรียนรู้

อะไรบ้าง มวี ธิ เี รยี นรู้อย่างไร
2. นำเข้าสู่บทเรียนใหม่ เรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างมวลกับน้ำหนักของวัตถุ โดยคำถามตรวจสอบ

ความเข้าใจก่อนเรียนและคำถามนำเข้าสู่กิจกรรมจากหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ด้วย
การตั้งคำถามและให้นักเรียนตอบเป็นรายบุคคล (ให้เวลาคิด 3-5 วินาที) และสุ่มจากนักเรียนที่ยกมือเพ่ือ
ต้องการตอบคำถามโดยใช้ เทคนิควิธีการ (Teaching Strategies) แบบ KWL : รู้อะไร รู้อย่างไร (What I
Known) ต้องการรู้อะไรในสง่ิ นัน้ (What I want to Known) จะเรียนรู้สงิ่ นนั้ อยา่ งไร (How I learned)
คำถาม

- มวลและนำ้ หนัก มคี วามหมายเหมือนหรอื ต่างกันอย่างไร
- สงิ่ ทต่ี อ้ งการรู้หรือสิ่งทส่ี งสยั เก่ยี วกับมวลและนำ้ หนักของวัตถุ มีอะไรบ้าง
- ถ้าจะทดลองหาความสัมพนั ธข์ องมวลและวตั ถุจะออกแบบการทดลองอย่างไร
3. ครแู จ้งจดุ ประสงค์การเรยี นรู้

7.2 ขั้นสอน
1. จัดกลุ่มนักเรียน กลุ่มละ 4 คน แต่ละคน กำหนดบทบาทหน้าที่ภายในกลุ่ม โดยใช้เทคนิควิธีการ

(Teaching Strategies) การเรยี นรแู้ บบรว่ มมอื ร่วมใจ : Cooperative learning)
คนท่ี 1 หัวหน้ากลมุ่ และผู้ประสาน การระดมความคิดและวางแผน
คนที่ 2 ผจู้ ัดการด้านความรู้ สำรวจตรวจสอบความถูกต้อง
คนท่ี 3 จัดเตรยี ม จัดหา จดั เกบ็ วัสดุ อุปกรณ์
คนท่ี 4 การเขยี นบันทกึ และนำเสนอผลงาน

2. แต่ละกลุ่มทำกิจกรรมที่ 2.3 ความสัมพันธ์ระหว่างมวลกับน้ำหนัก (ใช้กิจกรรมหนังสือเรียน ชั้น
ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 ) โดยทำกจิ กรรมสำรวจตรวจสอบการจำแนกกลมุ่ พืช และเขียนรายงานผลการทำกิจกรรม
และใหน้ ักเรยี นทำกจิ กรรม

- ชั่วโมงที่ 1-2 ทำกิจกรรมทดลอง ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งมวลกับนำ้ หนกั
- ชว่ั โมงท่ี 3 แต่ละกลุ่มนำเสนอผลงาน
3. ระหวา่ งท่นี ักเรยี นทำกิจกรรม ครูเดินไปทกี่ ลุ่มต่าง ๆ เพือ่ สงั เกตและประเมินพฤติกรรมการเรียนรู้
ของนักเรียน และให้ความช่วยเหลือกลุ่มนักเรียนหรือนักเรียนที่อาจพบปัญหา ในการ เรียนรู้ และรวมถึง
ประเมนิ กระบวนการทำงานกลุ่ม (การประเมนิ เพอื่ การปรับปรุง : Formative assessment)
4. แต่ละกลุ่มผลัดกันอธิบายหลักและวธิ กี ารจำแนกพืชเป็นกลมุ่ ต่าง ๆ เกณฑ์การจำแนกและตัวอย่าง
พชื ในแต่ละกล่มุ ขณะเดียวกนั มกี ารประเมนิ ผลการสอื่ สารสิ่งท่เี รยี นรูข้ องนักเรยี นแตล่ ะกลุ่ม
5. ครูและนักเรยี นรว่ มกันอภปิ รายสรุปผลการทำกิจกรรม และองคค์ วามร้จู ากกิจกรรมท่ี 2.3 และผล
การทดลองของแต่ละกลุ่ม ให้ข้อสังเกตผลงานของแต่ละกลุ่ม กระบวนการทำงานกลุ่มในแต่ละกลุ่มหรือบาง
กลมุ่ เพือ่ การแนะนำและปรับปรุงแก้ไข และสรปุ ผลการเรยี นร้ขู องแตล่ ะกลุ่มทท่ี ำกิจกรรมในภาพรวม
6. นกั เรยี นอา่ นคำถามท้ายกิจกรรมท่ี 2.3 และรว่ มกนั ตอบคำถาม และครอู ธิบายความรู้
7. ครอู ธิบายเพิ่มพนู ความรู้เก่ียวกับการนำลกั ษณะและส่วนประกอบภายนอกของพชื มาเป็นเกณฑ์ใน
การจำแนกกลุ่มพชื แล้วใหน้ ักเรียนซกั ถามและตอบคำถาม
8. นักเรียนอา่ นคำถามกิจกรรมตรวจสอบการเรยี นรู้ที่ 2.3 ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั เฉลยคำตอบ

7.3 ข้ันสรปุ
1. สะทอ้ นความคิดเพ่ือปิดบทเรียนในกิจกรรมการสำรวจตรวจสอบเก่ียวกับความสมั พันธ์ระหว่างมวล

กบั น้ำหนกั โดยให้นกั เรยี นเขียนบันทกึ ลงในสมุด หรอื ตอบคำถามในชั้นเรยี น และใช้เทคนคิ วิธีการ (Teaching
Strategies) ต๋วั ออก (Exit Ticket) ดังน้ี
คำถาม

- นักเรียนได้ความรู้จากการเรียนเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างมวลและน้ำหนักของวัตถุอย่างไรบ้าง
เขยี นหรอื อธิบาย 3 เร่อื ง

- นักเรยี นคิดว่าจะนำความรู้เกย่ี วกับความสัมพนั ธ์ระหว่างมวลและน้ำหนักของวัตถไุ ปใช้ประโยชน์
ในชีวิตประจำวนั อย่างไรบา้ ง เขียนหรืออธิบาย 2 ข้อ

- จากบทเรยี นนี้ นกั เรยี นตอ้ งการร้เู พ่ิมเติม หรือยงั ไมเ่ ข้าใจ ต้องการรู้เก่ยี วกบั ความสมั พนั ธร์ ะหว่าง
มวลและน้ำหนักของวัตถุอะไรบา้ ง เขียนหรือบอก 1 ข้อ

8. สอ่ื การเรยี นรู้และแหล่งการเรยี นรู้
8.1 สือ่ การเรยี นรู้
หนงั สือเรียนวทิ ยาศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 4
8.2 แหล่งการเรยี นรู้
1. ห้องสมดุ ของโรงเรยี น
2. หอ้ งสมุดกลุม่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์
3. อินเทอร์เน็ตจากเวบ็ ไซต์ตา่ ง ๆ

9. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้
9.1 รายงานผลการสำรวจกจิ กรรมท่ี 2.3
9.2 การตอบคำถามกิจกรรมตรวจสอบการเรยี นรู้ท่ี 2.3
9.3 แบบทดสอบหลังเรยี น
9.4 แบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธ์ิ
9.5 แบบประเมินผลการเรียนรู้ด้วยตนเอง (นักเรียนประเมินผลที่ได้จากการสะท้อนตนเองจากการเรยี นรู้

ลงในแบบประเมินข้อ 11 ซงึ่ ครูเป็นผู้จัดทำให้)
9.6 แบบประเมนิ ชน้ิ งาน
9.7 แบบประเมินพฤตกิ รรมการเรียนรู้
9.8 แบบประเมินทกั ษะทจี่ ำเป็นในศตวรรษที่ 21
9.9 แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
9.10แบบประเมนิ ดา้ นทักษะปฏิบัติ
9.11แบบประเมินการนำเสนอผลงานกลมุ่ (โดยให้ครู เพอ่ื นกล่มุ อื่น และกลมุ่ ตนเองประเมนิ )
9.12แบบประเมนิ การเขียนรายงานผลการปฏิบตั ิกจิ กรรม

10. ความคิดเหน็ ของผูบ้ รหิ าร/สถานศึกษา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอ่ื ..................................................
(นายประสิทธิ์ คำผยุ )

ตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรยี นบา้ นลมุ พกุ

11. บันทึกการจดั การเรียนรู้สำหรบั ครู (Teacher’s Reflection)
11.1 ความสำเรจ็ ในการจดั การเรียนรู้
ดา้ นผู้เรียน..........................................................................................................................................

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ดา้ นวิธีสอนการวัดผล.........................................................................................................................

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
11.2 ปัญหา/อุปสรรคในการจดั การเรยี นรู้ .................................................................................................

..............................................................................................................................................................................
11.3 สิ่งท่ไี ม่ไดป้ ฏบิ ตั ิตามแผน ..................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................
เหตผุ ล................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................
11.4 แนวทางการปรบั ปรงุ /พฒั นาตนเองครั้งต่อไป

..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

ลงช่อื ................................................... ผสู้ อน
(นางสาวจริ าภรณ์ นนทวงษ์)
ตำแหน่ง ครู

ความสัมพันธของมวลการเปล่ียนแปลงการเคล่ือนท่ีของวัตถแุ ละนาหนกของวตั ถุ

กจิ กรรมที่ 2.3 ความสัมพนั ธ์ระหว่างมวลกบั น้ำหนกั
จดุ ประสงค

1. สังเกตและบรรยายความสัมพันธ์ระหว่างมวลและการเปล่ียนแปลงการเคลื่อนท่ีของวัตถุ
2. สังเกตและบรรยายความสัมพันธ์ระหว่างมวลและน้ำหนัก

วสั ด-ุ อปุ กรณ

1. เชือกฟาง
2. ทราย
3. ขวดน้ำพลาสตกิ
4. คานไม้
5. เครือ่ งชัง่ สปรงิ

วิธีปฏบิ ตั ิ

1. ใสท่ รายลงในขวด 2 ใบ ใบท่หี นงึ่ ใส่ประมาณ 1 ส่วน 5 ของขวด และใส่ทรายเตม็ ขวดในขวดใบท่ีสอง
2. ผกู เชอื กฟางเข้ากับขวดท้งั สองใบแล้วแขวนกับคานไม้ดังรูป จากน้ันแตะเบา ๆ ท่ีขวดท้งั สอง เพ่ือทำให้
ขวดเริม่ เคลอื่ นท่ีสงั เกตและเปรียบเทยี บแรงที่ใช้บันทึกผล

ความสมั พันธข์ องมวลการเปลี่ยนแปลงการเคล่อื นที่ของวตั ถุและนำ้ หนกของวตั ถุ

3. คาดคะเนและบนั ทึกว่า ถ้าดึงขวดทลี ะใบโดยให้เชอื กทำมมุ กับแนวดิ่งเท่า ๆ กันจากนัน้ ปล่อยขวดแต่ละ
ใบใหม้ าปะทะกบั ฝ่ามือ แล้วจบั ขวดให้หยุดนง่ิ ดังรปู ต้องออกแรงกระทำตอ่ ขวดแต่ละใบต่างกันอยางไร

4. ทำกิจกรรมเพือ่ ตรวจสอบการคาดคะเน สังเกตและเปรยี บเทยี บแรงทใ่ี ช้ดึง บันทึกผล
5. ชัง่ น้ำหนักของขวดแต่ละใบด้วยเคร่ืองช่ังสปรงิ บันทึกผล

คำถามหลงั การทำกิจกรรม

1. ผลการสังเกตแรงท่ีใช้เม่ือใช้มือแตะเบา ๆ ท่ขี ้างขวด ขดี  ลงบนคําตอบท่เี ลือก

แรงทใี่ ชเพอื่ ทำใหขวดทม่ี ีปรมิ าณทรายเต็มขวดเร่มิ เคลอ่ื นที่

จะ นอ้ ยกวา่ มากกวา่ ขวดท่มี ที ราย 1/5 ของขวด

2. การคาดคะเนและผลการสงั เกตแรงท่ใี ช้ทำใหข้ วดท่ีเคลอ่ื นทหี่ ยุดน่ิง

ตาราง 1 การเปรยี บเทียบแรงทใี่ ชทำใหขวดแต่ละใบหยดุ นง่ิ ขีด  ลงบนคําตอบที่เลือก

การคาดคะเน ผลการสงั เกต

แรงทีใ่ ช้ทำใหขวด น้ ยกว่า ากกวา่ น้ ยกวา่ ากกวา่
ที่มีปริมาณทราย
เตม็ ขวดหยุดน่งิ

ขวดทีม่ ีทราย 1/5 ของขวด ขวดทีม่ ีทราย 1/5 ของขวด

3. ผลการชงั่ น้ำหนักของขวดแต่ละใบดว้ ยเครื่องช่ังสปริง น้ําหนกั ทิอ่ี ่านได้ (นวิ ตนั )
ตาราง 2 ปรมิ าณทรายและน้ำหนักทอี่ ่านได้
ปริมาณทราย

1/5 ของขวด

เต็มขวด

คาํ ถามหลงั จากทำกิจกรรม

1. ขวดใส่ทรายทั้งสองมีมวลแตกตา่ งกันหรอื ไม่ อย่างไร
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. เมือ่ แตะขา้ งขวดท้ังสองใบให้เริม่ เคล่อื นท่ี ขวดใดเคลอ่ื นทไี่ ดย้ ากกวากัน รู้ไดอ้ ยา่ งไร
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. เมือ่ ปลอ่ ยให้ขวดทง้ั สองใบเคลือ่ นทมี่ าปะทะมือ ขวดใดหยุดยากกวา่ กัน รู้ได้อยา่ งไร
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
4. มวลและการเปล่ียนแปลงการเคล่อื นที่สมั พนั ธ์กันอย่างไร
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
5. ขวดทงั้ สองใบมนี ้ำหนกั ตา่ งกนั หรอื ไม่ อยา่ งไร
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
6. มวลและน้ำหนักสัมพนั ธ์กันอยา่ งไร
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
7. จากกจิ กรรมน้ี สรุปไดว้ าอยา่ งไร
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

แบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธ์ิ

1. แรงสามารถทำใหเ้ กิดสิง่ ใดบ้าง
2. การแกวง่ ชงิ ชา้ มีแรงโนม้ ถ่วงเขา้ มาเก่ียวข้องอย่างไร
3. พจิ ารณาปัจจัยที่ต้องใช้ในการเคลอ่ื นท่ขี องวัตถทุ งั้ 3 ชนิด ต่อไปน้ี

- รถบรรทกุ ใชเ้ คร่อื งยนต์ขนาดใหญ่
- รถยนต์ใช้เคร่ืองยนต์ขนาดเลก็ กวา่
- คนขจี่ กั รยานใชเ้ ทา้ ในการออกกแรงเพ่อื ใหจ้ ักรยานเคลื่อนท่ี
เหตุใดยานพาหนะแตล่ ะชนิดตอ้ งการปริมาณแรงที่ใชใ้ นการเคลอื่ นที่แตกต่างกัน
4. หนังสอื ท่นี กั เรยี นปลอ่ ยจากมือจะตกลงส่พู น้ื เปน็ เพราะเหตุใด
5. ถา้ วัตถมุ มี วลใหญ่มากบนโลก สงิ่ ทว่ี ตั ถจุ ะมมี ากดว้ ยคอื อะไร

เฉลยแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิ

1. แรงสามารถทำใหเ้ กดิ สิง่ ใดบา้ ง
แรงทำใหเ้ กดิ งานขน้ึ เช่น แรงท่ใี ช้ในการยกหนงั สอื แรงท่ีทำให้เกดิ แรงโน้มถ่วง

2. การแกว่งชิงช้ามแี รงโน้มถ่วงเขา้ มาเกย่ี วข้องอยา่ งไร
การแกว่งชิงช้าเมื่อถึงจุดสูงสุดของการแกว่งชิงช้าจะตกกลับลงมา เนื่องจากการกระทำของแรงโน้มถ่วง

ของโลก
3. พิจารณาปัจจัยทีต่ อ้ งใช้ในการเคล่ือนทขี่ องวัตถุทงั้ 3 ชนดิ ตอ่ ไปนี้

- รถบรรทกุ ใชเ้ คร่ืองยนตข์ นาดใหญ่
- รถยนต์ใชเ้ คร่ืองยนต์ขนาดเล็กกวา่
- คนข่ีจกั รยานใชเ้ ท้าในการออกกแรงเพื่อให้จกั รยานเคลอื่ นท่ี
เหตุใดยานพาหนะแตล่ ะชนดิ ต้องการปริมาณแรงทใ่ี ช้ในการเคลอ่ื นทีแ่ ตกตา่ งกัน
ยานพาหนะแต่ละชนิดตอ้ งการปริมาณแรงท่ีใช้ในการเคลื่อนทีต่ ่างกัน เนื่องจากยานพาหนะแตล่ ะชนิดมี
มวลและนำ้ หนักที่ต่างกนั ถ้ามีมวลหรอื นำ้ หนกั มาก จะต้องใชแ้ รงปรมิ าณมากในการเคลื่อนท่ี
4. หนังสอื ทน่ี กั เรียนปลอ่ ยจากมือจะตกลงสู่พ้ืนเป็นเพราะเหตใุ ด
ถ้าปล่อยหนังสือออกจากมือ หนังสือจะตกลงที่พื้น เพราะหนังสือถูกแรงโน้มถ่วงของโลกดึงดูดให้เข้าสู่
ศนู ยก์ ลาง
5. ถ้าวตั ถมุ ีมวลใหญ่มากบนโลก สิ่งทวี่ ตั ถุจะมีมากดว้ ยคืออะไร
วัตถทุ ี่มมี วลมาก จะทำให้มนี ำ้ หนกั มาก

แบบทดสอบกอ่ นเรียน

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 2 แรงและการเคลอ่ื นท่ี

จงเลือกคำตอบทีถ่ ูกต้องท่สี ุดเพยี งคำตอบเดียว

1. แรงดงึ ดดู ของโลกทำให้ตวั เราเปน็ อยา่ งไร

1. อ้วนข้นึ 2. มีน้ำหนกั

3. วงิ เวียนศรี ษะ 4. มีแรงมากขึน้

2. “คุณแม่ซื้อแตงโม 1 ผล แล้วให้แม่ค้าชั่งหนัก เพื่อคิดราคาตามน้ำหนักของแตงโม” คำกล่าวนี้ถูกต้อง

หรอื ไม่ถกู ตอ้ งเกยี่ วกบั นำ้ หนกั

1. ถกู ต้อง เพราะเปน็ การใช้เครอ่ื งชง่ั บอกคา่ น้ำหนกั
2. ถกู ตอ้ ง เพราะเป็นหน่วยเดียวกับแรงโน้มถว่ งของโลก
3. ไมถ่ กู ตอ้ ง ความเป็นจริงเปน็ การชัง่ หามวลไม่ใช่นำ้ หนกั
4. ไมถ่ กู ต้อง เพราะใช้เครือ่ งชง่ั คนละประเภทเดยี วกบั แรงโน้มถ่วง
3. ส่ิงใดที่ทำงานโดยอาศัยแรงดงึ ดดู ของโลก

1. เข็มทิศ 2. เครอื่ งช่งั

3. เครอื่ งคิดเลข 4. นาฬกิ าข้อมือ

4. ชง่ั มวลของก้อนหินได้ 500 กรัม ค่าแรงโน้มถว่ งของโลกจะมคี า่ เทา่ ไร

1. 0.5 นิวตัน 2. 1.0 นิวตนั

3. 1.5 นิวตนั 4. 2.0 นวิ ตัน

5. เม่ือปล่อยก้อนหนิ 1 กอ้ น กับกระดาษ 1 กอ้ น ขนาดใกล้เคยี งกนั ลงจากที่สงู ขอ้ ใดอธบิ ายปรากฏการณ์น้ี

ได้ถกู ต้อง

1. กอ้ นหนิ ตกสูพ่ ืน้ กอ่ นก้อนกระดาษ
2. กอ้ นหนิ ตกสู่พ้ืนช้ากว่ากอ้ นกระดาษ
3. กอ้ นหนิ และกอ้ นกระดาษจะหลดุ ลอยออกไปนอกโลก
4. ก้อนหนิ และก้อนกระดาษจะตกลงส่พู น้ื โลก

6. เหตกุ ารณใ์ ดตอ้ งใชพ้ ลงั งานอย่างมหาศาลในการท่จี ะหนีแรงดงึ ดูดของโลก

1. เครื่องบินทบี่ นิ ในอากาศ 2. เรอื ดำน้ำที่สำรวจใต้ทะเล

3. การกระโดดรม่ ของทหาร 4. การปลอ่ ยจรวดเพ่ือสำรวจอวกาศ

ศึกษาสถานการณท์ ีก่ ำหนดใหต้ อ่ ไปน้ี แลว้ ตอบคำถามขอ้ 7-8

ถ้าทำการทดลองบรรจุทรายในกระสอบทราย 3 กระสอบไม่เท่ากัน กระสอบใบที่ 1 บรรจุทราย 1 ใน 3

ของความจุกระสอบ กระสอบใบที่ 2 บรรจุ 2 ใน 3 ของกระสอบ และกระสอบใบท่ี 3 บรรจทุ รายเต็มกระสอบ

7. ถ้าให้เพื่อนจับกระสอบเอียงทำมุม 30 องศา ปล่อยทีละกระสอบ ให้เพื่อนอีกคนหยดกระสอบทราย

กระสอบใดหยดุ ได้ง่ายท่ีสดุ เพราะเหตใุ ด

1. ใบที่ 1 เพราะมีมวลนอ้ ยทสี่ ดุ 2. ใบที่ 2 เพราะมีมวลปานกลาง
3. ใบท่ี 3 เพราะมีมวลมากท่ีสดุ 4. ใบที่ 1 เพราะมแี รงโน้มถว่ งนอ้ ยท่ีสุด
8. การทดลองน้ีกำหนดตัวแปรต้นอยา่ งไร

1. ใชก้ ระสอบชนดิ เดียวกนั
2. จบั กระสอบเอียงทำมุม 30 องศาเท่ากนั
3. ปริมาณทรายท่ีบรรจุในกระสอบไมเ่ ทา่ กนั
4. ปรมิ าณทรายทบี่ รรจใุ นกระสอบเทา่ กัน
9. ถา้ โลกไมม่ ีแรงดงึ ดูด เม่ือโยนลกู ฟตุ บอลไปในอากาศจะเปน็ อยา่ งไร

1. ลกู ฟุตบอลจะตกลงสพู่ ื้นโลก 2. ลกู ฟตุ บอลจะลอยสงู ขน้ึ ไปเรือ่ ยๆ

3. ลกู ฟุตบอลจะค้างอยู่ในอากาศ 4. ลูกฟตุ บอลจะไม่หลุดออกไปจากมอื

10. มวลกบั นำ้ หนกั ของวตั ถุมีความสมั พันธ์กันในข้อใด

1. วัตถุมมี วลมาก น้ำหนักวตั ถุนน้ั จะนอ้ ย
2. วตั ถมุ ีมวลนอ้ ย น้ำหนกั วัตถนุ ้ันจะมาก
3. วัตถุมีมวลมาก น้ำหนักวัตถนุ ้นั จะมาก
4. มวลและน้ำหนักมีหนว่ ยเดียวกัน คือ กิโลกรมั

เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น

1. 2 2. 3 3. 2 4. 1 5. 4
6. 4 7. 1 8. 3 9. 2 10. 3

แบบทดสอบหลังเรยี น

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2 แรงและการเคลื่อนที่

จงเลือกคำตอบทถี่ กู ต้องทีส่ ุดเพยี งคำตอบเดยี ว
ศกึ ษาสถานการณ์ทกี่ ำหนดใหต้ อ่ ไปนี้ แลว้ ตอบคำถามข้อ 1-2

ถ้าทำการทดลองบรรจุทรายในกระสอบทราย 3 กระสอบไม่เท่ากัน กระสอบใบที่ 1 บรรจุทราย 1 ใน 3
ของความจกุ ระสอบ กระสอบใบที่ 2 บรรจุ 2 ใน 3 ของกระสอบ และกระสอบใบท่ี 3 บรรจทุ รายเต็มกระสอบ

1. ถ้าให้เพื่อนจับกระสอบเอียงทำมุม 30 องศา ปล่อยทีละกระสอบ ให้เพื่อนอีกคนหยดกระสอบทราย

กระสอบใดหยดุ ไดง้ า่ ยที่สุด เพราะเหตุใด

1. ใบที่ 1 เพราะมมี วลน้อยท่สี ุด 2. ใบที่ 2 เพราะมมี วลปานกลาง

3. ใบท่ี 3 เพราะมีมวลมากทสี่ ุด 4. ใบท่ี 1 เพราะมแี รงโน้มถว่ งนอ้ ยท่สี ุด

2. การทดลองน้ีกำหนดตัวแปรต้นอยา่ งไร

1. ใชก้ ระสอบชนดิ เดียวกนั

2. จบั กระสอบเอยี งทำมมุ 30 องศาเทา่ กัน

3. ปรมิ าณทรายที่บรรจุในกระสอบไม่เท่ากัน

4. ปริมาณทรายท่ีบรรจุในกระสอบเทา่ กัน

3. เมอื่ ปลอ่ ยก้อนหิน 1 กอ้ น กบั กระดาษ 1 ก้อน ขนาดใกล้เคยี งกันลงจากที่สูง ข้อใดอธิบายปรากฏการณ์น้ี

ไดถ้ กู ต้อง

1. ก้อนหินตกสูพ่ ้นื ก่อนกอ้ นกระดาษ

2. กอ้ นหนิ ตกสูพ่ ื้นช้ากวา่ ก้อนกระดาษ

3. กอ้ นหนิ และกอ้ นกระดาษจะหลุดลอยออกไปนอกโลก

4. ก้อนหินและก้อนกระดาษจะตกลงสู่พน้ื โลก

4. มวลกับนำ้ หนกั ของวัตถุมีความสัมพันธก์ ันในข้อใด

1. วตั ถมุ ีมวลมาก นำ้ หนักวตั ถุน้ันจะน้อย

2. วตั ถุมีมวลนอ้ ย นำ้ หนกั วัตถนุ น้ั จะมาก

3. วัตถุมมี วลมาก น้ำหนกั วัตถนุ ัน้ จะมาก

4. มวลและน้ำหนกั มหี น่วยเดยี วกัน คอื กโิ ลกรมั

5. “คุณแม่ซื้อแตงโม 1 ผล แล้วให้แม่ค้าชั่งหนัก เพื่อคิดราคาตามน้ำหนักของแตงโม” คำกล่าวนี้ถูกต้อง

หรอื ไมถ่ กู ตอ้ งเกยี่ วกับน้ำหนัก

1. ถูกตอ้ ง เพราะเปน็ การใชเ้ ครอื่ งช่งั บอกคา่ นำ้ หนัก

2. ถกู ตอ้ ง เพราะเป็นหนว่ ยเดียวกับแรงโน้มถว่ งของโลก

3. ไม่ถูกต้อง ความเปน็ จรงิ เปน็ การชง่ั หามวลไม่ใชน่ ำ้ หนัก

4. ไมถ่ ูกตอ้ ง เพราะใช้เคร่ืองชง่ั คนละประเภทเดียวกบั แรงโนม้ ถ่วง

6. ถา้ โลกไมม่ ีแรงดึงดดู เม่ือโยนลกู ฟตุ บอลไปในอากาศจะเปน็ อย่างไร

1. ลูกฟุตบอลจะตกลงสู่พนื้ โลก 2. ลกู ฟุตบอลจะลอยสูงขึ้นไปเร่อื ย ๆ

3. ลูกฟตุ บอลจะคา้ งอยใู่ นอากาศ 4. ลูกฟตุ บอลจะไมห่ ลุดออกไปจากมอื

7. ชั่งมวลของก้อนหนิ ได้ 500 กรมั ค่าแรงโน้มถ่วงของโลกจะมีค่าเท่าไร

1. 0.5 นิวตนั 2. 1.0 นิวตนั

3. 1.5 นวิ ตนั 4. 2.0 นิวตัน

8. แรงดึงดดู ของโลกทำให้ตัวเราเป็นอยา่ งไร

1. อ้วนข้ึน 2. มนี ำ้ หนกั

3. วิงเวยี นศรี ษะ 4. มีแรงมากขน้ึ

9. ส่งิ ใดที่ทำงานโดยอาศยั แรงดึงดูดของโลก

1. เขม็ ทศิ 2. เครื่องชงั่

3. เครื่องคดิ เลข 4. นาฬิกาขอ้ มือ

10. เหตกุ ารณ์ใดต้องใช้พลงั งานอย่างมหาศาลในการที่จะหนแี รงดึงดดู ของโลก

1. เครือ่ งบนิ ท่ีบนิ ในอากาศ 2. เรือดำน้ำทส่ี ำรวจใต้ทะเล

3. การกระโดดร่มของทหาร 4. การปล่อยจรวดเพ่อื สำรวจอวกาศ

เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น

1. 1 2. 3 3. 4 4. 3 5. 3
6. 2 7. 1 8. 2 9. 2 10. 4

แบบประเมนิ พฤติกรรมการเรยี นรู้
วิชา วิทยาศาสตร์ ป.4 เรอ่ื ง ...............................................................ช้ัน ป.4.......

ความ การตงั้ การทำ ส่งงาน มาเรียน รวม ปรับ

ตัง้ ใจ คำถาม กิจกรรม ในเวลา สม่ำเสมอ คะแนน คะแนน

เลขท่ี ชื่อ-นามสกลุ มงุ่ ม่นั ตอบ กลุม่ ท่ี (4) (20) (10)

1 (4) คำถาม (4) กำหนด
2
3 (4) (4)
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18

ความ การต้งั การทำ สง่ งาน มาเรยี น รวม ปรบั

ตงั้ ใจ คำถาม กจิ กรรม ในเวลา สมำ่ เสมอ คะแนน คะแนน

เลขที่ ช่อื -นามสกุล มงุ่ มัน่ ตอบ กลมุ่ ท่ี (4) (20) (10)

19 (4) คำถาม (4) กำหนด
20
21 (4) (4)

หมายเหตุ 1. แบบประเมนิ นใี้ ช้ได้ตลอดภาคเรียน
2. บันทึกพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในแต่ละช่อง แล้วจึงสรุปคะแนนที่ได้ในแต่ละช่อง ซึ่งต้อง

ตกลงกบั นักเรียนวา่ ไม่ถูกตอ้ งกค่ี รง้ั ซง่ึ จะถกู หกั 1 คะแนน
ผปู้ ระเมนิ ........................................................
(นางสาวจริ าภรณ์ นนทวงษ์)

แบบประเมนิ ทกั ษะปฏิบัติแบบรูบคิ

วชิ า วทิ ยาศาสตร์ ป.4 เร่อื ง ...............................................................ชน้ั ป.4.......

กลุ่มท่ี/ รายการประเมนิ ระดบั 4 ระดับ 3 ระดบั 2 ระดบั 1 คะแนนทไ่ี ด้
สมาชกิ

กลมุ่ ท่ี 1 1. จัดอุปกรณ์ได้มั่นคง ปฏิบัติได้ ปฏิบัติได้ ปฏบิ ตั ิได้ ปฏบิ ตั ไิ ด้

.................... ปลอดภยั ถูกต้อง ถูกต้อง ถูกต้อง ถูกตอ้ ง

.................... 2. วางแผนการทำงาน 9-10 7-8 5-6 ตำ่ กว่า

.................... รว่ มกนั รายการ รายการ รายการ 5 รายการ

.................... 3. แบ่งหน้าที่ในกลุ่ม

.................... เหมาะสม

กลุ่มท่ี 2 4. ใชอ้ ุปกรณไ์ ดถ้ กู ตอ้ ง ปฏบิ ตั ไิ ด้ ปฏบิ ัตไิ ด้ ปฏบิ ตั ไิ ด้ ปฏบิ ัตไิ ด้

.................... 5. ใช้สารเคมีได้เหมาะสม ถกู ตอ้ ง ถกู ตอ้ ง ถกู ต้อง ถกู ตอ้ ง

.................... ถูกต้อง 9-10 7-8 5-6 ตำ่ กว่า

.................... 6. ดำเนินการทดลองตาม รายการ รายการ รายการ 5 รายการ

.................... ขนั้ ตอนได้ถูกตอ้ ง

.................... 7. ผลการทดลองถูกต้อง

กลมุ่ ที่ 3 ตามวตั ถุประสงค์ ปฏบิ ตั ิได้ ปฏบิ ตั ิได้ ปฏบิ ตั ิได้ ปฏิบัตไิ ด้

.................... 8. ทำงานได้เสร็จในเวลา ถกู ต้อง ถูกตอ้ ง ถูกตอ้ ง ถูกต้อง

.................... ทก่ี ำหนด 9-10 7-8 5-6 ตำ่ กว่า

.................... 9. จัดเก็บอุปกรณ์ได้ รายการ รายการ รายการ 5 รายการ

.................... สะอาดเรยี บร้อย

.................... 10. มีความคล่องแคล่ว

และม่นั ใจ

กลุ่มท/่ี รายการประเมิน ระดับ 4 ระดับ 3 ระดับ 2 ระดับ 1 คะแนนที่ได้
สมาชิก


Click to View FlipBook Version