The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

วารสาร SAWAD DEE ฉบับที่ 22

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Napassawan Sinjoy, 2022-05-10 04:30:18

วารสาร SAWAD DEE ฉบับที่ 22

วารสาร SAWAD DEE ฉบับที่ 22

5 เมนูข้าวโพด
ผักกินง่าย ไฟเบอร์สูง
ที่มา : www.gourmetandcuisine.com 47

1

ส่วนผสม

ข้าวโพดฝานเมล็ดลวก
2 ถ้วย
เนื้อกุ้งสับหยาบ 3/4 ถ้วย
รากผักชี กระเทียม
พริกไทยโขลกละเอียด
1 ช้อนโต๊ะ
ไข่ไก่ 1 ฟอง
แป้งสาลีอเนกประสงค์
1 ถ้วย
ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย
น้ำมันพืชสำหรับทอด

วิธีทำ

1. ใส่แป้งสาลี น้ำเปล่า และไข่ไก่ คนให้เข้ากัน
2. ผสมข้าวโพด กุ้งสับ ซอสหอยนางรม และส่วนผสมรากผักชีโขลก คลุก

ให้เข้ากัน
3. ตั้งกระทะใส่น้ำมันใช้ไฟกลางรอจนร้อน
4. ตักส่วนผสมข้าวโพดใส่ลงทอดให้สุกเหลือง ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน
5. จัดใส่จานเสิร์ฟกับน้ำจิ้มไก่ หรือน้ำจิ้มตามชอบ

48

2

วิธีทำ ส่วนผสมคอหมูย่าง

คอหมู 120 กรัม
ผงเครื่องเทศจากตรัง
1 ช้อนชา
เกลือ 1 ช้อนชา
น้ำมันรำข้าว 1 ช้อนชา

ส่วนผสมครีมข้าวโพด

ข้าวโพดหวานดิบ 2 ฝัก
กระชายอ่อนซอย 4 ราก
มันเทศเหลือง 1 หัว

ส่วนซอสกะปิผัด

พริกจินดา 4 เม็ด
หอมแดง 8 หัว
กระเทียมไทย 3 กลีบ
รากผักชี 1 ราก
กะปิ 1/2 ช้อนชา
น้ำตาลปี๊บ 1/2 ช้อนชา
เหล้าจีน 1 ช้อนชา
น้ำซุปไก่ 1 ถ้วย
น้ำมะนาว

1. หมักคอหมูกับเครื่องเทศ เกลือ และน้ำมันอย่างน้อย 2 ชั่วโมง 49
2. ทำซอสกะปิผัดโดยโขลกพริกจินดา หอมแดง กระเทียม รากผักชี และกะปิเข้าด้วยกัน

นำไปผัด ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บและเหล้าจีน ผัดจนเครื่องสุก ชิมรสให้ออกเค็มและหวาน
3. ปั่นน้ำซุปและกะปิผัดให้เข้ากัน เทใส่หม้อ ต้มไฟปานกลางจนงวดเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล

แก่ ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว พักไว้
4. ทำครีมข้าวโพดโดยใช้เครื่องแยกกากคั้นน้ำข้าวโพดและกรอง ต้มมันเทศจนสุก ปั่นน้ำ

ข้าวโพด มันเทศ และกระชายรวมกันจนเข้ากันดี ต้มไฟอ่อนจนน้ำข้าวโพดสุกและเหนียว
5. นำหมูที่หมักไว้ไปย่างจนสุก หั่นใส่จาน ตักครีมข้าวโพดไว้ข้างๆ ราดซอสกะปิ

3

ส่วนผสมซอส
มายองเนสผสมกับเกรนมัสตาร์ดปริมาณตามชอบ

ส่วนผสม (สำหรับ 4 ที่) วิธีทำ

รากบัวปอกเปลือกสไลซ์บาง 1. ผสมหมูสับ เมล็ดข้าวโพดหวาน ขิงขูด โชยุ

10-12 ชิ้น น้ำมันงา พริกไทย และเกลือให้เข้ากัน

หมูสับ 200 กรัม 2. ปั้นหมูสับเป็นก้อนกลมแบน ประกบด้วย

เมล็ดข้าวโพดหวานต้มสุก 1/2 ถ้วย รากบัว บีบให้แน่นติดกัน

ขิงขูด 1/2 ช้อนชา 3. ตั้งกระทะแบนให้พอร้อน ใส่น้ำมันเล็ก

โชยุ 1 ช้อนชา น้อย ใส่รากบัวลงทอด ปิดฝา ทอดจนสุก

น้ำมันงา 1 ช้อนชา เป็นสีเหลืองทองทั้ง 2 ด้าน เติมน้ำเล็ก

พริกไทยดำบดหยาบและเกลือป่น น้อย ปิดฝาไว้สักครู่ให้ระอุจนน้ำแห้ง ตัก

อย่างละ 1/4 ช้อนชา ขึ้น

น้ำมันพืชและน้ำเปล่าสำหรับทอด 4. เสิร์ฟพร้อมซอสมายองเนสผสมเกรน

เล็กน้อย มัสตาร์ด

50

4

ส่วนผสม

ข้าวโพด 300 กรัม
เนยเค็ม 50 กรัม
นมสด 20 มิลลิลิตร
น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
เนื้อมะพร้าว (ขูด)

วิธีทำ

1. นำข้าวโพดไปนึ่งด้วยไฟแรงประมาณ 25-30 นาที
2. เสร็จเรียบร้อยก็นำออกมาใส่ถ้วย และใส่เนยเค็มลงไป ตามด้วยนมสด
3. ใส่น้ำตาลทราย เกลือป่น คลุกเคล้าให้เข้ากัน
4. ใส่เนื้อมะพร้าวลงไปและคลุกเคล้าให้เข้ากันอีกครั้งก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว

51

5 ข้าวโพดผัดซีอิ๊วจีน

ส่วนผสม

ข้าวโพดประมาณ 2 ถ้วย
น้ำมันหมู 1 ช้อนโต๊ะ
กะทิ 1+1 ช้อนโต๊ะ (ใช้น้ำ
เปล่าหรือน้ำสต๊อกแทนได้)
ซีอิ๊วจีน (ฉูปัง) 1/2 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
เกลือ 1 หยิบมือ (หรือผง
ปรุงรส 1 ก้อน)
รากผักชี 1 ราก
กระเทียมไทย 8 กลีบ
พริกไทย 8 เม็ด
ผักชีสำหรับโรยหน้า

วิธีทำ

1. นำข้าวโพดออกมาวางให้ละลาย
2. ตำพริกไทย รากผักชี และกระเทียมให้ละเอียด
3. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันหมูและสามสหายที่ตำไว้ ผัดให้สุกหอม ใส่กะทิ 1 ช้อนโต๊ะ

(เพราะของในกระทะเริ่มไหม้ติดกระทะ)
4. ใส่ซีอิ๊วจีน ผัดให้ส่งกลิ่นหอม ใส่น้ำตาล ผัดจนเป็นคาราเมล
5. ใส่กะทิหรือน้ำสต๊อก 1 ช้อนโต๊ะ เพื่อละลายน้ำตาลให้กระจายไม่เกาะตัวเป็นก้อน
6. ใส่ข้าวโพดลงผัดให้ถูกความอร่อยเคลือบทุกเม็ด ชิมรสดู ถ้าอ่อนเค็มให้เติมเกลือหรือ

ผงปรุงรสก้อนรสไก่หรือรสหมูก็ได้ ให้เค็มเท่าที่ต้องการ
7. ตักใส่จาน โรยผักชี จะกินเล่นหรือกินกับข้าวก็ได้ จะใช้เนยผัดก็ได้ ถ้าไม่มีซีอิ๊วจีนจะ
52 ใช้ซีอิ๊วอะไรก็ได้ แต่ต้องลดปริมาณลง ระวังระดับความเค็ม

ที่มา : horoscope.trueid.net 53

ดอกกุหลาบ
(Rose)

หากเลือกดอกกุหลาบ
บุคลิกของคุณมีความซับซ้ อน
ดูเข้าถึงยากและมักทำอะไร
ตามความรู้สึก ตามความ
ต้องการของตัวเองมากกว่าทำ
ด้วยเหตุผล แต่ถึงกระนั้น
ผู้คนรอบข้างมักจะปฏิบัติตัว
กับคุณด้วยความรู้สึกเกรงใจ
และเคารพมากเป็ นพิเศษจน
บางทีอาจทำให้ดูห่างเหิน

ดอกทานตะวัน
(Sunflower)

หากเลือกดอกทานตะวัน
บุคลิกของคุณนั้นเปี่ ยมไปด้วย
ความกระฉับกระเฉง พลังเหลือ
ล้น และมองโลกในแง่ดี พร้อม
ที่จะส่งพลังบวกให้กับคนรอบๆ
ข้างอีกทั้งยังเป็นนักสู้สุดๆ ไม่ว่า
จะเจอปัญหาต่างๆ ที่ผ่านเข้ามา
แต่ความเป็ นคุณแบบนี้ หลายครั้ง
ก็ทำให้คนรอบข้างสัมผัสความ
รู้สึกว่าคุณกำลังมีปัญหาได้ยากจึง
มักคิดว่าคุณนั้นเข้มแข็งอยู่เสมอ

54

ดอกลิลลี่
(Lily)

หากเลือกดอกลิลลี่ บุคลิก
ของคุณนั้นเรียบร้อยนุ่ ม
ละมุนแต่ยังดูมีความเบิกบาน
เป็นที่น่ าเข้าหา มีทักษะใน
การเจรจาด้วยความนุ่ มนวล
เป็ นนักต่อรองที่ไม่แข็งกร้าว
ทำให้คู่สนทนาคล้อยตามได้
โดยง่าย

ดอกทิวลิป
(Tulip)

หากเลือกดอกทิวลิปบุคลิก
ของคุณจะดึงดูดให้คนรอบข้าง
อยากอยู่ใกล้ๆ และสามารถ
โน้ มน้ าวความรู้สึกของคนที่
อยู่รอบข้างได้ มีความเอาใจ
ใส่คนรอบๆ ข้างมองโลกใน
แง่ดีและชอบการเข้าสังคม
สามารถเป็ นผู้นำในการทำ
กิจกรรมได้ดี

55

ดอกคาร์ เนชั่น
(Carnation)

หากเลือกดอกคาร์ เนชั่น
บุคลิกของคุณนั้นดูขี้อาย
ไร้เดียงสา บอบบางน่ า
ทนุถนอม มีความอ่อนโยน
อย่างอบอุ่น หากเมื่อมีความ
รักจะไร้ซึ่ งการหาประโยชน์
ใดๆจากคนรักเรียกได้ว่า
เป็ นความรักที่บริสุทธิ์

ดอกพีโอนี่
หรือดอกโบตั๋น

(Peony)

หากเลือกดอกพีโอนี่
บุคลิกของคุณนั้นดูเปี่ ยม
ไปด้วยความเพียบพร้อม
ความอุดมสมบูรณ์ทั้ง
สุขภาพและฐานะ มีความ
เข้าใจและเห็นอกเห็นใจผู้
อื่น มีความอ่อนหวาน
อบอุ่นน่ าหลงไหล

56

ดอกกล้วยไม้
(Orchids)

หากเลือกดอกกล้วยไม้
บุคลิกของคุณนั้นมีความ
เนี๊ ยบ มีความงามสง่า
เป็ นจุดกลางของความ
สนใจจากคนรอบๆข้าง
มีเสน่ ห์ต่อผู้พบเห็น

ดอกคาลล่า ลิลลี่
(Calla Lily)

หากเลือกคาลาลิลลี่
บุคลิกของคุณมีความงาม
สง่าแต่ดูแข็งเกร่ง มีความ
เก๋ไก๋และสไตล์ที่โดดเด่น
สามารถรับมือเมื่อเจอ
สถานการณ์ยากๆ ได้ดี
และมีสติ มีทักษะในการ
พูดจาโน้ มน้ าวผู้อื่น

57

ดอกไลแลค
(Lilac)

หากเลือกดอกไลแลค
บุคลิกของคุณดูขี้อาย
สุภาพเรียบร้อยไร้เดียงสา
และอ่อนน้ อมถ่อมตน
น่ าทนุถนอมเมื่ออยู่ใกล้

ดอกแดฟโฟดิล
(Daffodil)

หากเลือกดอกแดฟโฟดิล
บุคลิกของคุณนั้นดูรักอิสระ
ไม่ชอบยึดติดกับใคร แต่มี
ความรักครอบครัวและ
เพื่อนฝูงมากๆ เป็นคนมี
ความยืดหยุ่น ปรับตัวเข้า
กับสถานการณ์ต่างๆ ได้ดี

58

ดอกป๊ อปปี้
(Poppy)

หากเลือกดอกป๊ อปปี้
บุคลิกของคุณนั้ นเป็ น
คนกล้าลุยกล้าเสี่ ยง
มีความคิดสร้างสรรค์
มีความทะเยอทะยานที่
จะเป็ นผู้นำในสังคม

ดอกพุด
(Gardenia)

หากเลือกดอกพุด
บุคลิกของคุณนั้นดูน่ าเชื่อ
ถือ น่ าให้ความไว้วางใจ
คนรอบข้างให้ความ
เคารพ มีสัญชาตญาณ
ของการปกป้ อง มีความ
มั่นคงทางจิตใจ

59

สวัสดิ์
ประหยัดพลังงาน

60 www.greennetworkthailand.com

10 แหล่งพลังงานทดแทน
เพื่อการผลิตไฟฟ้า
แห่งอนาคต

"เราทราบกันดีว่าเชื้อเพลิงฟอสซิลเป็นทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด
และคาดว่าในไม่ช้า เชื้อเพลิงชนิดนี้จะหมดไป เมื่อถึงตอนนั้นเราจะ
ใช้เชื้อเพลิงจากที่ไหนเพื่อเป็นแหล่งพลังงาน…. คำตอบก็คือ
“พลังงานทดแทน” ซึ่งจะกลายเป็นแหล่งพลังงานหลักต่อไป แต่เมื่อ
กล่าวถึง “พลังงานทดแทน” คนส่วนใหญ่อาจจะนึกไปถึงพลังงาน
อย่าง พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และพลังงานน้ำ ซึ่งเป็น
พลังงานทางเลือกที่เป็นพลังงานทดแทนที่ใช้กันมานานแล้ว แต่
นอกจากพลังงานเหล่านี้ ยังมีคนอีกจำนวนหนึ่งที่พยายามค้นคว้า
วิจัย และศึกษาหาความเป็นไปได้ที่จะนำพลังงานทางเลือกรูปแบบ
อื่น ๆ ที่เป็นพลังงานสะอาดและมีประสิทธิภาพสูงกว่าที่มีใช้อยู่ใน
ปัจจุบันมาเป็นพลังงานทดแทนของเรา ซึ่ง 10 แหล่งพลังงาน
ทดแทน ที่คาดว่าในอีก 50 ปีข้างหน้า อาจกลายเป็นหนึ่งในแหล่ง
พลังงานทางเลือกที่มนุษย์จะสามารถนำมาใช้ได้" ประกอบด้วย

61

1. พลังงานเซลล์แสงอาทิตย์จากห้วงอวกาศ
(Space-Based Solar Power)

"จากข้อเท็จจริงที่ว่า พลังงานแสงอาทิตย์กว่า 55-60% นั้น ไม่สามารถ
ผ่านชั้นบรรยากาศของโลกมาได้ ดังนั้น การผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ที่อยู่
บนพื้นโลกจึงใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ได้ไม่เต็มที่ นอกจากนี้ การผลิต
ไฟฟ้าบนพื้นโลกยังมีข้อจำกัด เพราะผลิตได้เฉพาะในช่วงกลางวัน พื้นที่ตั้งก็
ต้องเป็นพื้นที่เปิดโล่ง สภาพภูมิอากาศก็ต้องเหมาะสม ทำให้บางประเทศไม่
สามารถผลิตพลังงานจากแสงอาทิตย์ได้ ด้วยข้อจำกัดนี้ จึงมีผู้คิดค้นว่าหาก
สามารถติดตั้งโซลาร์เซลล์นอกโลก เช่นเดียวกับการติดตั้งเซลล์แสงอาทิตย์
ของดาวเทียมแล้ว ข้อจำกัดเหล่านี้จะหมดไป อีกทั้งยังสามารถผลิตไฟฟ้าได้
อย่างมหาศาลอีกด้วย"

2. พลังงานจากร่างกายมนุษย์
(Human Power)

"ผู้เชียวชาญหลายคนเชื่อว่าวิธีการที่ง่ายที่สุดในการสร้างพลังงานหมุนเวียน คือ
ผ่านร่างกายของมนุษย์เอง โดยแนวคิดนี้มาจากแนวคิดที่ว่า ในปัจจุบันอุปกรณ์
ไฟฟ้าต่าง ๆ ใช้ไฟฟ้าที่น้อยกว่าในอดีตมาก ดังนั้น การผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กก็เพียง
พอที่จะจ่ายเป็นพลังงานให้กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็กจำนวนมากได้ โดย
ผลิตพลังงานผ่านการเคลื่อนไหวของร่างกายเราเอง เพียงแค่ใช้ระบบที่จะสามารถ
รวบรวมและแปลงพลังงานได้"

"ซึ่งนักวิจัยจากสหราชอาณาจักรได้พัฒนาอุปกรณ์พยุงหัวเข่า ที่สามารถรวบรวม
อิเล็กตรอนในขณะเดินไว้ โดยทุกครั้งที่เดิน หัวเข่าโค้ง โลหะแบบใบพัดจากอุปกรณ์
จะมีการสั้นสะเทือนเหมือนสายกีตาร์ และเกิดการผลิตกระแสไฟฟ้าขึ้น สามารถนำ
ไปใช้กับอุปกรณ์ที่ใช้พลังงานไม่มาก"

3. พลังงานคลื่น (Wave Power)

"ความคิดที่จะนำพลังงานคลื่นมาใช้นั้นมีแนวคิดมานานแล้ว ซึ่งทางเทคนิคนั้นคลื่น คือ
รูปแบบที่เกิดขึ้นจากพลังงานลมที่พัดผ่านทะเล พลังงานคลื่นถูกวัดเป็นกิโลวัตต์ (KW)
ต่อหนึ่งเมตรของแนวชายฝั่ ง โดยชายฝังทะเลของสหรัฐฯ นั้น มีศักยภาพพลังงานคลื่น
ประมาณ 252 พันล้านกิโลวัตต์ชั่วโมงต่อปี"

"ปัจจุบันมีกว่า 5 ประเทศ ที่พยายามดำเนินการสร้างฟาร์มผลิตไฟฟ้าจากพลังงานคลื่น
หนึ่งในนั้นที่นำไปปฏิบัติ คือประเทศโปรตุเกส ที่ได้ตั้งฟาร์มผลิตไฟฟ้าจากพลังงานคลื่นใน
เชิงพาณิชย์เป็นแห่งแรกในโลก ตั้งแต่ปี 2008 มีกำลังผลิตติดตั้งรวม 2.25 เมกะวัตต์"

62

4. พลังงานไฮโดรเจน (Hydrogen Power)

"ไฮโดรเจนเป็นก๊าซไม่มีสี ไม่มีกลิ่น และมีมากถึง 74% จากทั้งหมดในจักรวาล ในขณะ
ที่บนโลกพบได้เฉพาะเมื่อรวมกับออกซิเจน คาร์บอน และไนโตรเจน โดยหากต้องการใช้
ไฮโดรเจนจะต้องแยกออกมาจากองค์ประกอบอื่น ๆ ซึ่งก๊าซที่ได้จะให้พลังงานสูง แต่เป็น
ก๊าซที่ไม่มีมลพิษ"

"ดังนั้นจึงมีความพยายามที่จะพัฒนาเซลล์เชื้อเพลิงที่แปลงไฮโดรเจนให้เป็นพลังงาน
ไฟฟ้า เพื่อนำมาใช้เป็นแหล่ง พลังงานสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า เครื่องบิน ยานพาหนะอื่น
ๆ รวมถึงเป็นพลังงานที่ใช้ในบ้านและอาคาร ปัจจุบันนี้ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ ค่ายญี่ปุ่น
อย่าง โตโยต้า ฮอนด้า และฮุนได ได้มีการลงทุนวิจัยในเทคโนโลยีที่ใช้ไฮโดรเจนเป็น
พลังงานอย่างต่อเนื่อง"

5. พลังงานความร้อนใต้พิภพ (Magma Power)

"พลังงานจากความร้อนที่อยู่ลึกใต้พื้นพิภพ สามารถผลิตไอน้ำเพื่อใช้หมุน
กังหันและผลิตกระแสไฟฟ้าได้ โดยพลังงานความร้อนใต้พิภพ 10,700 เมกะวัตต์
ถูกสร้างขึ้นทั่วโลกในปี 2010 โดยมีไอซ์แลนด์ ฟิลิปปินส์และเอลซัลวาดอร์ได้นำ
แนวคิดนี้ไปปฏิบัติแล้ว"

"แนวคิดพลังงานความร้อนใต้พิภพเริ่มได้รับความสนใจในปี 2008 จากการ
ค้นพบด้วยความบังเอิญจากโครงการขุดเจาะ IDDP1 ของไอซ์แลนด์ และภายหลัง
ได้รับการปรับปรุงเป็นระบบแรกที่ให้ความร้อนโดยตรงจากแมกมาหลอมเหลว
สามารถสร้างพลังงานไฟฟ้าได้ 36 เมกะวัตต์"

6. พลังงานจากกากนิวเคลียร์ (Nuclear Waste Power)

"อะตอมยูเรเนียมเพียงห้าเปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่ถูกนำไปใช้ในปฏิกิริยา
นิวเคลียร์ฟิชชัน ส่วนที่เหลือจะถูกเก็บเพิ่มเข้าไปยังคลังขยะนิวเคลียร์ มี
กากของเสียจากกัมมันตรังสีกว่า 77,000 ตัน ที่ถูกเก็บสะสมจากโรงไฟฟ้า
นิวเคลียร์ของอเมริกา ในขณะที่เครื่องปฏิกรณ์เร็ว ซึ่งเป็นเครื่องปฏิกรณ์
นิวเคลียร์ขั้นสูงที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ มีประสิทธิภาพที่สูงขึ้นกว่าเครื่อง
ปฏิกรณ์แบบเดิม และสามารถแก้ปัญหานี้ได้ในอนาคตข้างหน้า ซึ่งจะทำให้
การใช้ยูเรเนียมที่มีอยู่เดิมมีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถใช้พลังงานจาก
แร่ยูเรเนียมได้ถึง 95% ของเชื้อเพลิงพลังงานนิวเคลียร์ที่ผลิตได้"

63

7. พลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งได้ในทุกพื้นผิว
(Embeddable Solar Power)

"เทคโนโลยีที่สามารถฝังหรือเคลือบเซลล์แสงอาทิตย์ลงบนพื้นผิวของวัตถุ
ต่างๆ ในลักษณะที่โปร่งแสงไม่สามารถมองเห็นได้ แต่สามารถรับแสงอาทิตย์
และแปลงเป็นพลังงานไฟฟ้าได้ แนวคิดนี้ ปัจจุบันถูกพัฒนาอย่างรวดเร็ว โดย
คาดว่าจะสามารถนำมาเคลือบบนพื้นผิวของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น หน้า
จอคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน หรือพัฒนาเพิ่มเติมสำหรับการใช้งานในรูปแบบ
อื่น ๆ อาทิ เคลือบบนหน้าต่าง หรือกระจกของอาคาร เพื่อเป็นแหล่งผลิตไฟฟ้า
ให้แก่อาคาร เป็นต้น"

8. พลังงานชีวภาพจากสาหร่าย (Algae Power)

"สาหร่ายถือเป็นแหล่งพลังงานที่น่าประหลาดใจมาก เพราะมันอุดมไปน้ำมัน
ที่สามารถดัดแปลงพันธุกรรมเพื่อผลิตเป็นเชื้อเพลิงชีวภาพได้โดยตรง แม้น้ำเสีย
จะเป็นอุปสรรคต่อการเจริญเติบโตของพืช แต่มันกลับมีประสิทธิภาพสูงในการ
ปลูกพืชชนิดนี้ โดยในพื้นที่ขนาดหนึ่งเอเคอร์ สามารถให้ผลผลิตได้สูงถึง 9,000
แกลลอน ดังนั้น เชื้อเพลิงจากสาหร่ายจึงถือเป็นเชื้อเพลิงชีวภาพที่สามารถปลูก
และสร้างขึ้นได้"

9. กังหันลมแบบลอยบนอากาศ (Flying Wind Power)

"ฟาร์มกังหันลมตามแนวคิดนี้จะเป็นกังหันลมที่ติดตั้งลอยตัวอยู่สูงในระดับเดียว
กับตึกระฟ้า หรืออยู่สูงเหนือระดับพื้นดินที่ 1,000 – 2,000 ฟุต เพื่อรับความแรงลม
ที่แรงกว่าห้าถึงแปดเท่าของระดับความแรงลมแบบติดตั้งแบบทาวเวอร์ และกังหัน
เหล่านี้จะผลิตพลังงานได้สองเท่าเมื่อเทียบกับกังหันลมขนาดใกล้เคียงกันที่ตั้งแบบ
ทาวเวอร์"

10. พลังงานฟิวชั่น (Fusion Power)

"ฟิวชั่น เป็นกระบวนการเดียวกันกับการเกิดขึ้นของดวงอาทิตย์ และมีศักยภาพที่
สามารถผลิตพลังงานได้แบบไม่มีที่สิ้นสุด อีกทั้งไม่ปล่อยมลพิษ หรือก๊าซเรือนกระจก และ
ไม่มีการคุกคามจากการหลอมละลายแบบนิวเคลียร์ ซึ่งแตกต่างจากเครื่องปฏิกรณ์
นิวเคลียร์ฟิชชั่นในปัจจุบัน ฟิวชั่นทำงานโดยการหลอมรวมไอโซโทปไฮโดรเจนสองอัน คือ
ดิวทีเรียมและทริเทียมซึ่งมีอยู่มากมาย"

"ในปัจจุบัน ITER เครื่องปฏิกรณ์ทดลองความร้อนระหว่างประเทศ ได้ถูกสร้างขึ้นใน
ประเทศฝรั่งเศสโดยได้รับทุนจาก7 ประเทศ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2027 และหวังว่า
จะเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานฟิวชั่นแห่งแรกของโลกในเชิงพาณิชย์"

64

ที่มา : กรมการแพทย์ 65

66

67


Click to View FlipBook Version