The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by pair_za2538, 2022-04-01 00:40:07

นวัตกรรม

คู่มือ

กิ จ ก ร ร ม ส ะ เ ต็ ม ศึ ก ษ า

คู่มนือวักตากรรใรช้มสื่อ

ค ณ ะ ค รุ ศ า ส ต ร์ ส า ข า ก า ร ศึ ก ษ า ป ฐ ม วั ย
ม ห า วิ ท ย า ลั ย ร า ช ภั ฏ น ค ร ส ว ร ร ค์



คำนำ

คู่มือการใช้สื่อนวัตกรรมฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อประกอบ
การเรียนวิชาการจัดกิจกรรมส่งเสริมทักษะการคิดสำหรับเด็ก
ปฐมวัย โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้ผู้จัดทำได้ฝึกการศึกษาค้นคว้า
และนำสิ่งที่ได้ศึกษาค้นคว้ามาสร้างเป็นชิ้นงานเก็บไว้เป็น
ประโยชน์ต่อการเรียนการสอนของตนเองและครู ผู้จัดทำได้จัด
ทำ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ STEM ของนักเรียนระดับชั้น
อนุบาล เพื่อเป็นแนวทางให้ครูผู้สอนในการจัดกิจกรรมการ
เรียนรู้ และเพื่อให้ผู้เรียนมีทักษะกระบวนการคิด รู้จักวิเคราะห์
แก้ปัญหาโดยเชื่อมโยงประสบการณ์ของตนในการแก้ปัญหา มี
ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ที่สูงขึ้น ตลอดจนสามารถ
นำไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจำวัน เพื่อพัฒนาตนเอง
สังคม และประเทศชาติ

ผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่ง ว่าชุดกิจกรรมการเรียนรู้
แบบ STEM เรื่อง ขวดน้ำพุ คงเป็นประโยชน์แก่นักเรียน
และคณะครูที่นำไปใช้เพื่อพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ให้นักเรียน
มีผลสัมฤทธิ์ด้านการเรียนการสอนต่อไป

คณะผู้จัดทำ



สารบัญ ก

คำนำ 1
สารบัญ 2
รูปแบบการสอนสะเต็มศึกษา
แผนการจัดกิจกรรมสะเต็มศึกษา 8
สื่อนวัตกรรม
9
อุปกรณ์ 10
แผ่นชาต 11
วิธีการทดลอง 13
รูปแบบการใช้งาน 15
ใบงานกิจกรรม 17
สมาชิก

1

รู ป แ บ บ ก า ร ส อ น ส ะ เ ต็ ม ศึ ก ษ า

กิจกรรมสะเต็ม เป็นแนวทางการจัดการศึกษาที่
บูรณาการความรู้ใน 4 สหวิทยาการ ได้แก่ วิทยาศาสตร์
วิศวกรรมเทคโนโลยี และคณิตศาสตร์ โดยเน้นการนำ
ความรู้ไปใช้แก้ปัญหาในชีวิตจริง รวมทั้งการพัฒนา
กระบวนการหรือผลผลิตใหม่ ที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนิน
ชีวิต และการทำงาน ช่วยนักเรียนสร้างความเชื่อมโยง
ระหว่าง 4 สหวิทยาการ กับชีวิตจริงและการทำงาน การ
จัดการเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษาเป็นการจัดการเรียนรู้ที่ไม่
เน้นเพียงการท่องจำทฤษฏีหรือกฏทางวิทยาศาสตร์ และ
คณิตศาสตร์ แต่เป็นการสร้างความเข้าใจทฤษฏีหรือกฏ
เหล่านั้นผ่านการปฏิบัติให้เห็นจริงควบคู่กับการพัฒนาทักษะ
การคิด ตั้งคำถาม แก้ปัญหาและการหาข้อมูลและวิเคราะห์
ข้อค้นพบใหม่ ๆ พร้อมทั้งสามารถนำข้อค้นพบนั้นไปใช้หรือ
บูรณณาการกับชีวิตประจำวันได้

2

แผนการจัดกิจกรรมสะเต็มศึกษา
กิจกรรมที่ ๑เรื่องขวดน้ำพุ

วันพฤหัสบดี ที่๒๐ กุมภาพันธ์ พ.ศ ๒๕๖๕ เวลาเรียน ๔๐ นาที

๑.มาตรฐานการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ปฐมวัย

มาตรฐานที่ ๒ กล้ามเนื้อใหญ่และกล้ามเนื้อเล็กแข็งแรง ใช้ได้อย่าง

คล่องแคล่ว และประสานสัมพันธ์กัน

มาตรฐานที่ ๔ ชื่นชมและแสดงออกทางศิลปะ ดนตรี และการ

เคลื่อนไหว

มาตรฐานที่ ๙ ใช้ภาษาสื่อสารได้เหมาะสมกับวัย

มาตรฐานที่ ๑๐มีความสามารถในการคิดเป็นพื้นฐานในการเรียนรู้

มาตรฐานที่ ๑๑ มีจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์

๒. แนวคิดหลักของการทดลอง

แรงดันอากาศ หมายถึง แรงที่อากาศกดลงบนผิวของวัตถุในทุกทิศทาง

๓. จุดประสงค์การเรียนรู้

๑. เด็กสามารถคิดแก้ปัญหาในกิจกรรมการทดลองได้

๒. เด็กสามารถทดสอบการพุ่งของแรงดันน้ำได้

๓. เด็กสามารถทำการทดลองลองขวดน้ำพุได้ด้วยตนเอง

๔. เด็กสามารถนำเสนอผลงานและทดสอบชิ้นงานที่ประดิษฐ์ได้

๔. สาระการเรียนรู้

๑. สาระที่ควรเรียนรู้

การไหลของน้ำที่ออกมาจากรูที่เจาะ รูที่เจาะไว้ต่ำสุดน้ำจะไหลแรงที่สุด

และรูที่สูงที่สุดน้ำจะไหลเบาที่สุด เพราะรูที่เจาะไว้ลึกสุดจะต้องรองรับน้ำหนักของ

น้ำมากกว่าบริเวณที่เจาะไว้สูงกว่า ดังนั้น รูที่เจาะไว้ต่ำสุดจึงมีน้ำไหลออก

มาแรงกว่า

3

๑.มาตรฐานการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ปฐมวัย

มาตรฐานที่ ๒ กล้ามเนื้อใหญ่และกล้ามเนื้อเล็กแข็งแรง ใช้ได้อย่าง

คล่องแคล่ว และประสานสัมพันธ์กัน

มาตรฐานที่ ๔ ชื่นชมและแสดงออกทางศิลปะ ดนตรี และการ

เคลื่อนไหว

มาตรฐานที่ ๙ ใช้ภาษาสื่อสารได้เหมาะสมกับวัย

มาตรฐานที่ ๑๐มีความสามารถในการคิดเป็นพื้นฐานในการเรียนรู้

มาตรฐานที่ ๑๑ มีจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์

๒. แนวคิดหลักของการทดลอง

แรงดันอากาศ หมายถึง แรงที่อากาศกดลงบนผิวของวัตถุในทุกทิศทาง

๓. จุดประสงค์การเรียนรู้

๑. เด็กสามารถคิดแก้ปัญหาในกิจกรรมการทดลองได้

๒. เด็กสามารถทดสอบการพุ่งของแรงดันน้ำได้

๓. เด็กสามารถทำการทดลองลองขวดน้ำพุได้ด้วยตนเอง

๔. เด็กสามารถนำเสนอผลงานและทดสอบชิ้นงานที่ประดิษฐ์ได้

๔. สาระการเรียนรู้

๑. สาระที่ควรเรียนรู้

การไหลของน้ำที่ออกมาจากรูที่เจาะ รูที่เจาะไว้ต่ำสุดน้ำจะไหลแรงที่สุด

และรูที่สูงที่สุดน้ำจะไหลเบาที่สุด เพราะรูที่เจาะไว้ลึกสุดจะต้องรองรับน้ำหนักของ

น้ำมากกว่าบริเวณที่เจาะไว้สูงกว่า ดังนั้น รูที่เจาะไว้ต่ำสุดจึงมีน้ำไหลออก

มาแรงกว่า

4

๒. ประสบการณ์สำคัญ
ด้านร่างกาย
๑.๑.๑ การใช้กล้ามเนื้อใหญ่
(๒) การเคลื่อนไหวเคลื่อนที่
ด้านอารมณ์ จิตใจ
๑.๒.๔ การแสดงออกทางอารมณ์
(๑) การพูดสะท้อนความรู้สึกของตนเองและผู้อื่น
(๕) การทำงานศิลปะ
ด้านสังคม
๑.๓.๔ การมีปฏิสัมพันธ์ มีวินัยมีส่วนร่วมและบทบาทสมาชิกของสังคม
(๑) การร่วมกำหนดข้อตกลงของห้องเรียน
(๒) การปฏิบัติตนเป็นสมาชิกที่ดีของห้องเรียน
(๓) การให้ความร่วมมือในการปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ
๑.๓.๕ การเล่นและทำงานแบบร่วมมือร่วมใจ
(๑) การเล่นและทำงานร่วมกับผู้อื่น
๑.๓.๖ การแก้ปัญหาความขัดแย้ง
(๒) การมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาความขัดแย้ง
ด้านสติปัญญา
๑.๔.๒ การคิดรวบยอด การคิดเชิงเหตุผล การตัดสินใจและแก้ปัญหา
(๑๙) การตัดสินใจและมีส่วนร่วมในกระบวนการแก้ปัญหา
๑.๔.๓ จินตนาการและความคิดสร้างสรรค์
(๑) การรับรู้และแสดงความคิด ความรู้สึกผ่านสื่อวัสดุ ของเล่น และชิ้นงาน

๕. วิธีการดำเนินการจัดกิจกรรมการทดลอง
ขั้นนำ
๑.ครูจัดให้เด็กจัดแถวครึ่งวงกลม

5

๒.ครูให้เด็กทำกิจกรรมเคลื่อนไหวประกอบคำบรรยาย เรื่อง
ผจนภัยในป่า มหัศจรรย์

วันนี้คุณครูนำเด็กๆไปผจภัยในป่า เราจะเดินไปด้วยกันนะคะ
เดิน เดิน เดิน เดินช้าๆนะคะ เด็กๆได้ยินเสียงอะไรหรือเปล่าคะ
เอ๊ะ!!! เสียงช้างร้องนี้ เเปร๊น เเปรี๊น เด็กทำท่าช้างร้องค่ะ
เดินต่อไป เด็กๆระวังขอนไม้ข้างหน้านะคะ เด็กๆกระโดด ๆ
อุ้ย!!! ข้างหน้ามีเสือมาอีกแล้ว เด็กๆมองเห็นบ่อน้ำข้างหน้าไหมคะ
เราจะตักน้ำใส่ขวดไปให้สัตว์โดยที่เราไม่ต้องเข้าใกล้ยังไงดีคะ

๓.ครูและเด็กร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับคำบรรยาย โดยใช้คำถาม
(สมมุติฐาน)
- เด็ก ๆ คิดว่าเราจะใช้วิธีไหนในการเอาน้ำไปให้สัตว์โดยไม่เป็น อันตราย
- เมื่อเราได้ขวดน้ำแล้วมาร่วมกันคิดว่าจะทำอย่างไรให้น้ำในขวดพุ่งไปไกลที่สุด
- เราจะมาร่วมทำการทดลองกันโดยมีน้ำทั้งหมด 2 ชนิด ได้แก่ เบกกิ้งผสม
โซดา และสีผสมอาหารโดยมีวิธีการ บีบ เขย่า เป่า

ขั้นสอน
๕.ครูแนะนำการทดลองพร้อมอุปกรณ์ที่ใช้ประกอบการทดลอง
ชื่อการทดลอง ขวดน้ำพุ
อุปกรณ์
- ขวดน้ำ 2 ขวด
- เบกกิ้งโซดา
- น้ำส้มสายชู
- สีผสมาหาร
- เทปกาวหนังไก่
- ตะปู
๖.ครูจัดเตรียมอุปกรณ์สำหรับการทดลองไว้ให้เด็กแต่ละคน เด็กได้

ทำการเลือกน้ำของตนเองสำหรับการทดลอง
๗.ครูและเด็กร่วมปฏิบัติการทดลองขวดน้ำพุของตนเอง โดยให้เด็ก

ออกแบบการเจาะรูทั้ง 3 ชนิด และการใช้แรงดันน้ำ โดยการ เขย่า เป่า หรือ
บีบ

6

๘.เมื่อเสร็จแล้วให้นำมาทดลองร่วมกันทั้งห้อง โดยใช้น้ำ ทั้ง 2 ชนิด
ได้แก่ เบกกิ้งผสมโซดา สีผสม อาหาร และทดสอบด้วยการใช้แรงดันน้ำ

๙.ให้เด็กสังเกตผลการทดลองของตนเอง และสังเกตผลการทดลอง
ร่วมกันทั้งห้อง
ขั้นสรุป

๑๐.ครูและเด็กร่วมกันสรุปผลการทดลองและให้ความรู้เพิ่มเติม
- ครูทำการทดสอบโดยบีบ เขย่า และเป่า น้ำทั้ง 2 ชนิด
- ครูสรุปขวดน้ำพุว่า
1.ขวดที่ใส่สีผสมอาหาร โดยใช้วิธีการเป่า จะทำให้มีแรงดันและพุ่ง

ได้ไกลกว่าการ เขย่า และ บีบ
2.ขวดที่ผสมแบคกิ้งโซดา โดยใช้วิธีการเป่า จะทำให้มีแรงดันและ

พุ่งได้ไกลกว่าการ เขย่า และ บีบ
-ครูสรุปผลการทดลองกิจกรรมขวดน้ำพุ ระหว่างสีผสมอาหาร กับ

แบคกิ้งโซดา ดั้งนี้ ขวดที่ใส่สีผสมอาหาร เมื่อทดสอบด้วยการเป่า จะมีระยะที่
พุ่งได้ไกลกว่า ขวดที่ใส่แบคกิ้งโซดาเพราะแบคกิ้งโซดาทำปฏิกิริยากับน้ำจึง
ทำให้เกิดฟองอากาศทำให้เมื่อเราทดสอบด้วยการเป่าจึงมีระยะการพุ่งของน้ำที่
ใกล้กว่าขวดสีผสมอาหาร

๑๑. ครูให้เด็กสรุปผลการทดลองโดยให้เด็กทำการวาดรูปขวดน้ำพุ
ทั้ง 2 ชนิด

7

เกณฑ์การวัดและการประเมิน

เกณฑ์การให้คะแนน

หมายเหตุเกณฑ์การให้คะแนน
ระดับ ๓ = ดี คือ เด็กสามารถตอบได้ว่ารูน้ำและแรงดันระดับใดพุ่ง
ได้ไกลมากกว่ากัน เด็กสามารถทำการทดลองและแก้ปัญหาได้ด้วย
ตนเอง
ระดับ ๒ = ปานกลาง คือ เด็กสามารถตอบได้ว่ารูน้ำและแรงดัน
ระดับใดพุ่งได้ไกลมากกว่ากัน แต่เด็กไม่สามารถทำการทดลองและ
แก้ปัญหาได้ด้วยตนเอง
ระดับ ๑ = ควรส่งเสริม คือ เด็กสามารถสารถทำการทดลองได้ แต่
ไม่สามรถบอกแก้ปัญหาได้ด้วยตนเอง

8

สื่ อ น วั ต ก ร ร ม

ชุ ด ก า ร ท ด ล อ ง

9

อุ ป ก ร ณ์

1.แผ่นชาจ

2.ชุดการทดลอง
2.1 ขวดน้ำ 2 ขวด
2.2 สีผสมอาหาร
2.3 เบคกิ้งโซดา
2.4 กาวหนังไก่
2.5 ที่เจาะรู
2.6 น้ำเปล่า

10

แ ผ่ น ใ ห้ ค ว า ม รู้

แผ่นชาต

ม อ บ ค ว า ม รู้ ก่ อ น เ ข้ า สู่ บ ท เ รี ย น แ ล ะ บ ท ส รุ ป

วิธีการทดลอง 11

1.ครูจัดเตรียมอุปกรณ์ สำหรับทำการทดลอง ให้
เด็กแต่ละคน
2.ครูอธิบายขั้นตอนในการทดลอง
3. ครูให้เด็กๆออกแบบขวดการทดลองด้วยตนเอง
4. ใส่สีผสมอาหารลงในแก้วน้ำ
5.ทำการผสมแบคกิ้งโซดากับน้ำเปล่า ลงในแก้วน้ำ
6.เจาะรู ที่ขวดน้ำทั้ง2ขวด ทั้งหมด 3 รู ให้เว้น
ระยะห่างแต่ละรูตามที่ตนเองคิด

วิธีการทดลอง (ต่อ) 12

7.นำกาวหนังไก่ มา ปิดรู ที่เจาะไว้ ทั้ง 2 ขวด
8.เริ่มทำการทดลอง โดยทดลองจากสีผสมอาหาร ใน
ขวดที่ 1
(โดยเปิดเทปกาวออกทีละรู ไล่จากล่าง ขึ้น บน พร้อม
ทั้งสังเกตุการทดลอง)
9. ต่อมา เรามาทำการทดลอง ทำอย่างไรให้น้ำพุ่ง
แรงๆ โดยทดสอบ ด้วยการ
เป่า เขย่า บีบพร้อมสังเกตผลการทดลอง
10. นำน้ำแบคกิ้งโซดา ที่เตรียมไว้ มาทำการทดลอง
เหมือนกับ (ข้อ8-9)
11. เมื่อทำการทดลองครบแล้ว ให้เด็กๆทำการบันทึก
ผลการทดลอง ลงไปในกระดาษที่ครูเตรียมไว้ให้
12. มาสรุปผลการทดลองร่วมกัน

13

รรููปปใใแแชช้้บบงงบบาานกนกาารร

ขั้นตอนการใช้แผ่นชาต

1.หน้าที่ 2 การเล่าเรื่องกิจกรรมเคลื่อนไหวประกอบคำ
บรรยาย ( โดยครูเป็นผู้ดำเนินการเล่าเรื่องให้เด็กทำตาม
เนื้อเรื่องคำบรรยาย)

2.แผนที่ 3 แนะนำวัสดุอุปกรณ์ ที่ใช้ในการทดลอง

14

ขั้นตอนก(าตร่อใช)้แผ่นชาต

3.แผนที่ 4 ขั้นตอน
การทดลอง

4.แผนที่ 6สรุปผล
การทดลอง

กล่องอุปกรณ์

15

ใบงานกิจกรรมขวดน้ำพุ

คำชี้แจง : ให้นักเรียนวาดรูปผลการทดลองขวดน้ำพุแบบ
ไหนพุ่งได้ไกลมากกว่ากัน

ขวดที่ ๑ สีผสมอาหาร

16

ใบงานกิจกรรมขวดน้ำพุ

คำชี้แจง : ให้นักเรียนวาดรูปผลการทดลองขวดน้ำพุแบบ
ไหนพุ่งได้ไกลมากกว่ากัน

ขวดที่ ๒ เบกกิ้งผสมโซดา

ค ณ ะ ค รุ ศ า ส ต ร์ 17

สมาชิก

1.นางสาวสธิดา วุฒิ ห้อง 1 รหัส 010
2.นางสาวปาลิตา เรืองฤทธิ์ ห้อง 1 รหัส 016
3.นางสาวอาภัสระ แก้วบุญ ห้อง 1 รหัส 025

ก า ร ศึ ก ษ า ป ฐ ม วั ย


Click to View FlipBook Version