The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การงานอาชีพ ป.6 หน่วย3_งานเกษตร

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by nantarat052523, 2021-07-12 00:36:40

การงานอาชีพ ป.6 หน่วย3_งานเกษตร

การงานอาชีพ ป.6 หน่วย3_งานเกษตร

การงานอาชพี
ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 6
กล่มุ สาระการเรยี นรูก้ ารงานอาชพี

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2 หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 3 หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 4

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 5 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 6 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 7

Slide PowerPoint_สอ่ื ประกอบการสอน

บรษิ ทั อกั ษรเจริญทัศน์ อจท. จำกดั : 142 ถนนตะนำว เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200
Aksorn CharoenTat ACT.Co.,Ltd : 142 Tanao Rd. Pranakorn Bangkok 10200 Thailand
โทร./แฟกซ์ : 0 2622 2999 (อตั โนมตั ิ 20 คู่สำย) [email protected] / www.aksorn.com

3หน่วยการเรียนรู้ที่

งานเกษตร

เปา้ หมายการเรยี นรู้
• อภปิ รำยแนวทำงในกำรปลกู ไมด้ อกไมป้ ระดับ ปลูกผกั หรอื เล้ียงปลำสวยงำม และปรับปรงุ กำรทำงำนแตล่ ะข้นั ตอน (มฐ. ง 1.1 ป.6/1)
• ใชท้ ักษะกำรจดั กำรในกำรทำงำน และมที ักษะกำรทำงำนร่วมกนั (มฐ. ง 1.1 ป.6/2)
• ปฏบิ ตั ิตนอยำ่ งมมี ำรยำทในกำรทำงำนกบั ครอบครวั และผ้อู นื่ (มฐ. ง 1.1 ป.6/3)

11 1 1 2 12 2
2 ปุ๋ย แสงแดด เนอื้ สัตว์
ผักผลไม้
ดิน ้น้า
หนอน

1 ชว่ ยกันจดั กลุ่มว่า สง่ิ ใดบา้ ง
ชว่ ยใหพ้ ชื และสัตวเ์ จรญิ เตบิ โต
พืช โดยคลิกท่รี ูปดา้ นบนเพอื่ เฉลย

2

สัตว์

• พืชสวน ประเภทของงานเกษตร • ป่าทดแทน

การเพาะปลกู พชื

• พืชไร่

กลว้ ยไม้ เฟือ่ งฟำ้ ขำ้ ว อ้อย
กวำงตุ้ง มะเขอื มันสำปะหลัง

โหระพำ

ประเภทของงานเกษตร

การเลี้ยงสัตว์ การประมง การเกษตรแบบผสมผสาน

ไก่ เป็ด กุง้ หอย
วัว มำ้
เชน่ กำรเลี้ยงหมแู ละปลูกผัก
ควำย โดยนำมูลหมูมำทำปุ๋ยเพื่อปลกู ผัก
ปู ปลำ และนำเศษผกั มำเปน็ อำหำรหมู

อกี ทอดหน่งึ

ไม้ดอก ประเภทของพันธพ์ุ ชื

มีดอกสวยงาม เชน่ ไม้ประดับ

ม้ีลาตน้ และใบสวยงาม เช่น

กหุ ลำบ ทิวลิป รกั เร่ สำวน้อยประแปง้ เศรษฐีเรือนนอก พลดู ำ่ ง

ชบำ พดุ ตำน ดำวเรือง เดหลี เฟริ ์น ลนิ้ มังกร

ประเภทของพันธุพ์ ืช

พืชผักสวนครัว

ใชร้ ับประทาน เช่น

ตน้ หอม ผักชี พรกิ ชี้ฟำ้ ผักบุง้ มะกรูด แตงกวำ

ความรเู้ สริม ไม้ดอกบางชนิดสามารถนามารับประทานและใช้แตง่ กลน่ิ สขี องอาหารไดอ้ ีกด้วย
เช่น อัญชนั โสน มะลิ

อัญชนั โสน มะลิ

การคดั เลอื กพันธพุ์ ชื

เป็นกำรคัดตน้ พืชมำใช้ในกำรปรบั ปรงุ พันธุ์
หรอื ขยำยพนั ธุ์ มหี ลกั กำร ดังนี้

ให้ผลผลติ สงู ทนตอ่ โรคและศตั รพู ืช ตรงกบั ความตอ้ งการของตลาด
เช่น ผลมรี สอร่อย

เหมาะสมกบั สภาพอากาศแต่ละท้องถน่ิ ดูแลรกั ษางา่ ย เพอ่ื ให้พืชเจริญงอกงาม
และใหผ้ ลผลติ ท่ดี ี

การขยายพันธ์พุ ชื

เปน็ กำรเพ่ิมจำนวนพืช รกั ษำ ควบคมุ ลกั ษณะ และคุณภำพของพืชท่ีดี
ใหค้ งไว้ตำมเดิม หรือพัฒนำพนั ธ์พุ ืชให้ดีย่งิ ข้นึ
กำรขยำยพันธ์พุ ืชมหี ลำยวธิ ี ดงั น้ี

1 การขยายพันธจ์ุ ากเมล็ดของพชื 2 การขยายพันธจ์ุ ากกง่ิ ของพชื

เมลด็ กำรตอ่ ก่งิ กำรทำบกิง่ กำรตอนก่งิ

การขยายพันธ์ุพืช

3 การขยายพันธ์จุ ากหวั หนอ่ ตา หรือ้ลาตน้ ของพชื

กำรแยกหวั หรือหน่อ กำรปกั ชำ

กำรตดิ ตำ

ดินและป๋ยุ

ดนิ ประกอบด้วยแรธ่ ำตุต่ำง ๆ หนิ ทรำย ซำกพืชและซำกสตั ว์
ทตี่ ำยทบั ถมกนั มำนำน ทำให้เกดิ เป็นดนิ ทมี่ ีลักษณะแตกตำ่ งกันไป ดงั น้ี

ดนิ เหนียว ดินร่วน ดนิ ทรำย ดนิ ร่วนปนทรำย

เหมำะสำหรับปลูกพชื เหมำะสำหรบั ปลกู พืชหลำยชนิด เหมำะสำหรบั ปลูกพืชทตี่ อ้ งกำรน้ำน้อย เหมำะสำหรบั ปลกู ไมย้ นื ต้น เช่น สกั
เพรำะน้ำซมึ ได้สะดวก
ท่ีตอ้ งกำรน้ำมำก เชน่ ตะบองเพชร มะพร้ำว ยูคำลปิ ตัส หรือพืชคลมุ ดิน เชน่
เชน่ ข้ำว บวั เช่น ฟักทอง คะนำ้ ถ่ัวฝกั ยำว
มะละกอ ส้ม เงำะ คำโลโปโกเนยี ม เพอร์รำเรีย

และพืชชนดิ อนื่ ๆ เช่น ผักหวำนป่ำ

สับปะรด มันสำปะหลงั

ดนิ และปุ๋ย

ปุ๋ย เปน็ สำรอินทรยี ท์ ่ใี ช้เป็นอำหำรของพืช เพ่อื บำรงุ พืชให้เจรญิ งอกงำม
ปยุ๋ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังน้ี

ปยุ๋ อนิ ทรีย์ ปยุ๋ อนินทรีย์

1 ปุย๋ คอก 2 ปยุ๋ พชื สด 1 ปยุ๋ เด่ยี ว
2 ปุ๋ยผสม

3 ปุ๋ยหมกั 4 ้นา้ หมกั ชีวภาพ

ตวั อย่างการขยายพนั ธุ์พืช

การติดตากหุ ลาบ

วสั ดุและอุปกรณ์

1234

ตน้ ตอกหุ ลาบป่า กหุ ลาบพันธุ์ดี เทปใส คัตเตอร์
ท่จี ะ้นาไปติดตา

ตวั อยา่ งการขยายพนั ธพ์ุ ืช

การติดตากุหลาบ

วธิ กี ารขยายพนั ธ์ุ

123

ลดิ ใบออกจากก่งิ กุหลาบพันธุ์ดี กรดี ส่วนตา โดยกรีดจากโคนไปยอด จะได้ตาท่จี ะ้นาไปติด
ท่ีจะใชเ้ ปน็ ตา
5 ความรูเ้ สรมิ
4 ตาทจ่ี ะนามาติดควรเปน็ ตา
3 นิ้ว
เตรยี มต้นตอ โดยตัดส่วนยอด ้ตาแหน่งทจี่ ะตดิ ตา จากกงิ่ ท่ีมีใบ 3 ใบ เพราะเป็นตาที่พรอ้ ม
กหุ ลาบปา่ ออก จะเจริญเติบโตได้ดีกวา่ ตาแหน่งอ่ืน
เลอื ก้ตาแหนง่ ทจ่ี ะติดตา โดยให้ต้ า่ กวา่
้ตาแหน่งทต่ี ดั ออก ประมาณ 3 น้วิ

ตัวอยา่ งการขยายพนั ธพุ์ ชื

การติดตากหุ ลาบ

วธิ ีการขยายพันธ์ุ

678

ตัดหนามและใบของต้นตอออกให้หมด ตดั บางๆ ทีต่ น้ ตอ กรดี เปดิ ตาดา้ นบน
ให้ไดข้ นาดพอดกี ับตาท่ีเตรยี มไว้

9 10 11
3
1

สอดตาเข้าไปที่ต้นตออย่างระมดั ระวัง 2 การติดตาเสรจ็ สมบรู ณ์
พนั ตาเข้ากับต้นตอดว้ ยเทปใส

ประมาณ 3 รอบ

ตัวอยา่ งการขยายพันธ์ุพชื

การตดิ ตากุหลาบ

วธิ กี ารขยายพันธ์ุ

12 13 14

ท้งิ ไว้ 20 วัน ในทที่ ี่แสงแดดส่องถึง ประมาณ 7 วนั หลงั จากแกะเทป จากนน้ั ประมาณ 1-2 เดือน
จากนัน้ แกะเทปออก กุหลาบจะแตกยอดออกมา กุหลาบจะออกดอกทส่ี วยงาม
จากบริเวณทตี่ ิดตา
และแขง็ แรง

ตัวอยา่ งการขยายพนั ธพุ์ ืช 3

การปลกู พริก ขยุ มะพร้าว
1 วสั ดแุ ละอปุ กรณ์
6
2

ดนิ ้สาเรจ็ รูป กาบมะพร้าวสบั
(รอ่ นให้ไดด้ ินละเอียดก่อนปลกู )
5
4

ปยุ๋ คอก เมล็ดพรกิ แห้ง กระถางพลาสตกิ ขนาด
6 นิว้ และ 15 นิว้

ตวั อย่างการขยายพนั ธพ์ุ ืช

การปลกู พรกิ

วัสดุและอุปกรณ์

789

มีดปลายแหลม ชอ้ นปลูก ตะแกรงรอ่ นดนิ

10 11

ฟอกกี้ ฝกั บวั

ตัวอย่างการขยายพันธุ์พชื

1 การปลกู พริก 3

ผสมดิน กาบมะพร้าวสับ วิธเี พาะตน้ กลา้ พรกิ
และปุย๋ คอกใหเ้ ขา้ กัน
2 ้นาดินที่ผสมแลว้ ใสล่ งกระถาง
4 แลว้ เกล่ียหนา้ ดินให้เทา่ กนั
ใสก่ าบมะพรา้ วสับรองก้นกระถางเล็กนอ้ ย
เพื่อให้น้ า้ ไหลซมึ ผา่ นไดส้ ะดวก 5

้นาดนิ ละเอยี ดโรยท่หี นา้ ดนิ เพ่อื ให้เมล็ด โรยเมล็ดพริกให้ท่ัวกระถาง
พริกงอกข้ึนมาได้ง่าย แล้วเกลี่ยหนา้ ดนิ

ตวั อย่างการขยายพนั ธุ์พชื

การปลกู พริก

6 7 วธิ ีเพาะต้นกล้าพริก 8

โรยขุยมะพรา้ วปิดทบั หนา้ ดินใหท้ วั่ ้นาฟอกก้มี าฉีด้นา้ ให้ทว่ั ดนิ ตั้งไว้ในทีร่ ่ม ประมาณ 5-6 วัน
เพ่ือเก็บรักษาความชื้นของดิน เมล็ดพริกจะเรมิ่ งอกเปน็ ต้นกล้า
10
9 11

ประมาณ 7-8 วนั ต้นพรกิ จะเร่ิมมี ประมาณ 14 วัน เมอ่ื ตน้ กล้าแข็งแรงและมใี บใหญ่ขึ้น
ใบอ่อนกางออกมาเพ่อื รบั แสงแดด ให้้นามาตากแดดออ่ นๆ จะสามารถแยกต้นกล้าลงกระถางได้

ตัวอย่างการขยายพนั ธ์พุ ชื

1 การปลกู พริก 3

เตรียมดนิ ผสมปุ๋ยคอก วิธีปลกู พรกิ

4 2 ใช้มดี ปลายแหลมแซะต้นพริก
ออกมาจากกระถางเพาะต้นกลา้
้นาดนิ ท่ผี สมไว้ ใสล่ งในกระถางขนาด 6 นวิ้
ครงึ่ กระถาง โดยให้มดี นิ ตดิ มาดว้ ย

5

วางตน้ กลา้ ในกระถาง ้ทาลกั ษณะเดิมจนครบตาม้จานวนกระถาง
แล้วกลบดินใหเ้ ต็มกระถาง ที่ต้องการ

ตัวอย่างการขยายพันธ์พุ ืช

6 การปลกู พรกิ 8
7 วิธีปลูกพรกิ
รด้น้าด้วยฝักบวั ใหท้ วั่ ปยุ๋ คอก
วางตน้ พรกิ ให้รบั แสงอ่อน ๆ
9 ประมาณ 2 สปั ดาห์ แล้วใสป่ ยุ๋ ประมาณ 2 สัปดาห์ ยา้ ยพรกิ ลง
ในกระถางท่ีมีขนาดใหญข่ นึ้
10 โดยรองกน้ กระถางดว้ ยปยุ๋ คอก

ความรู้เสรมิ

ประมาณ 60 วนั ตน้ พริกจะออกดอก ควรให้ปยุ๋ ในปริมาณที่พอเหมาะกบั ขนาด
และผล ซง่ึ ควรรด้นา้ ในปรมิ าณมาก ของลาต้น เพอ่ื ไม่ใหต้ ้นพริกเกิดอาการ

ช็อกปุ๋ย ซง่ึ อาจทาให้ตายได้

เก็บเก่ยี วพริกไดเ้ มอื่ มอี ายปุ ระมาณ
90-100 วนั

เลย้ี งไวด้ เู ล่น การเลยี้ งสัตว์ เลยี้ งไว้ใช้งาน

การเลีย้ งสัตว์แบ่งออกเปน็ 3 ประเภท ได้แก่

เลย้ี งไว้เพ่อื การบริโภค

แมว สุนขั ววั เปด็ มา้
ปลา ไก่ วัว
ควาย
นก กระตา่ ย หมู ผง้ึ

การคัดเลอื กพันธุ์สตั ว์

1. เลือกพนั ธุท์ ่ีตรงกบั จุดประสงคข์ องความตอ้ งการ
2. สงั เกตจากลกั ษณะภายนอกของสตั ว์ ซง่ึ แสดงถงึ ความอดุ มสมบูรณ์

ของสตั ว์ เชน่ ลักษณะรปู รา่ ง ลักษณะการเคลอ่ื นไหว
3. สังเกตจากผลผลิตของสตั ว์ เชน่ หากต้องการเลี้ยงไก่เพือ่ ้นาไข่

ไปขาย ควรเลอื กไก่พนั ธไุ์ ข่ดกทม่ี ลี กั ษณะดี
4. ศึกษาประวัติความเปน็ มาของสายพันธส์ุ ัตวเ์ ลยี้ ง

5. เลือกพนั ธใ์ุ ห้เหมาะสมกับสภาพท้องถ่นิ

6. เลอื กพนั ธุท์ ่ีมคี วามตา้ นทานโรคสูงและทนต่อสภาพภูมิอากาศ

การขยายพันธส์ุ ัตว์

การผสมพนั ธุโ์ ดยวธิ ธี รรมชาติ

เปน็ กำรนำสตั วต์ วั ผแู้ ละสัตวต์ ัวเมยี มำผสมพันธก์ุ นั จะเปน็ สตั ว์พันธเุ์ ดยี วกนั หรอื ตำ่ งสำยพนั ธุ์กไ็ ด้
จำแนกได้ออกเป็น 2 ประเภท คอื การปฏสิ นธภิ ายนอก และการปฏสิ นธิภายใน

ภายนอก ภายใน

• ไข่ + สเปริ ์ม ผสมกนั ภายนอกร่างกายของเพศเมีย • ไข่ + สเปริ ม์ ผสมกนั ภายในร่างกายของเพศเมีย
• ออกลกู เป็นไข่ เช่น ปลา สตั วค์ ร่งึ บกครงึ่้นา้ • สว่ นใหญ่ออกลูกเปน็ ตัว เชน่ วัว หมู ปลาหาง-

นกยงู แต่มสี ตั ว์บางชนิดออกลูกเป็นไข่ที่มเี ปลอื ก
ห้มุ ออกมา แล้วไขต่ อ้ งฟกั ออกมาเปน็ ตัว เช่น นก

ข้อดี ขอ้ เสีย

1. สตั วไ์ ด้ผสมพนั ธ์ุกนั ด้วยสญั ชำตญำณ สตั ว์บำงชนดิ เชน่ ปลำ ก้งุ ต้องรอใหถ้ ึง
ตำมธรรมชำติ ฤดผู สมพันธุ์ ผลผลิตจึงไมเ่ พียงพอ
ต่อผ้เู ลย้ี งและผบู้ รโิ ภค
2. วธิ ีกำรไมย่ งุ่ ยำก ลดตน้ ทุนในกำรใช้
ผูเ้ ชีย่ วชำญมำดูแลในกำรผสมเทยี ม

การขยายพันธส์ุ ตั ว์

การผสมพนั ธุโ์ ดยวธิ ผี สมเทียม

คอื กำรผสมพนั ธสุ์ ัตวโ์ ดยไมต่ อ้ งมกี ำรร่วมเพศตำมธรรมชำติ ใช้ไดท้ ัง้ สตั ว์ทีม่ ีกำรปฏสิ นธภิ ำยนอก
เชน่ ปลำ และสัตวท์ ี่มกี ำรปฏิสนธภิ ำยใน เช่น ววั หมู

การผสมเทยี มวัว

เกบ็ ้นา้ เช้อื ้นา้น้าเชื้อ ฉีดเขา้ แม่พันธุ์
ทีอ่ ย่ใู นช่วง “ติดสดั ”

พอ่ พนั ธ์ุ แม่พันธ์ุ

ข้อดี ข้อเสีย

1. ประหยัดคำ่ ขนส่งพ่อพนั ธุ์ 1. หำกน้ำเช้อื ของพ่อพนั ธุม์ ีลักษณะไม่ดี
2. สำมำรถเกบ็ รกั ษำน้ำเชอ้ื ไว้จนถงึ เวลำ จะแพรก่ ระจำยลักษณะไม่ดนี ้นั ได้
อยำ่ งรวดเรว็
ท่ีแมพ่ นั ธุพ์ รอ้ มท่จี ะผสมพันธุ์
2. หำกผทู้ ำกำรผสมเทียมขำดควำมรู้
และควำมชำนำญ อำจทำอวยั วะ
สืบพนั ธ์ขุ องแมว่ ัวเกิดกำรตดิ เชอื้
หรือบำดเจบ็ ได้



1 คดั เลือกพันธ์กุ ระต่าย ตัวอยา่ งการเล้ียงสตั ว์เลย้ี ง

การเลย้ี งกระต่าย

2 เตรียมอปุ กรณ์ในการเล้ยี ง

• รำ่ งกำยสมสว่ น • กรงขนำดประมำณ
45 X 70 X 45 ซม.
• ขนไม่หลุดรว่ ง (สำหรบั กระต่ำย 1 ตัว)
ไมผ่ อมหรอื พงุ โรเกินไป
• หญ้ำแห้งหรอื ฟำง
• ไมเ่ ปน็ แผล ดวงตำแจม่ ใส จมกู ไมม่ ีของเหลว • ที่ใสน่ ้ำและที่ใส่อำหำรเม็ด
ตำไมแ่ ฉะ หไู มม่ ไี รหรอื ขหี้ เู ป็นแผน่ หนำ
ความรูเ้ สรมิ
• ควรมอี ำยหุ นง่ึ เดอื นครงึ่ ขน้ึ ไป ทตี่ ้ังกรงควรมอี ากาศถา่ ยเทไดส้ ะดวก
เพรำะกระต่ำยจะหยำ่ นมและกนิ อำหำรปกตไิ ด้ มหี ลงั คาบงั แดดและฝน

ตัวอย่างการเลย้ี งสตั วเ์ ล้ยี ง

3 วิธีการเลี้ยงกระต่าย การเลี้ยงกระตา่ ย

• เตรียมกรงใหม้ ขี นำดพอเหมำะกบั กระตำ่ ย

• นำหญำ้ แห้งหรอื ฟำงรองท่ีพืน้ กรง วำงที่ใส่น้ำและที่ใสอ่ ำหำรเม็ดในกรง

• สร้ำงควำมคุน้ เคย เรยี กชอ่ื ลูบคลำตวั กระตำ่ ยอยำ่ งนุ่มนวล

• ปล่อยกระตำ่ ยให้วงิ่ ออกกำลงั กำยอย่ำงสม่ำเสมอ

เพื่อไมใ่ ห้อว้ นเกนิ ไปจนเปน็ อันตรำย
• ลำ้ งภำชนะทใ่ี สน่ ้ำทุกวัน และทำควำมสะอำดกรงอยำ่ งน้อยสปั ดำหล์ ะ 1-2 ครัง้

• อำบนำ้ ให้กระต่ำย 1 ครง้ั ตอ่ 1-4 เดือน และหำ้ มอำบน้ำใหก้ ระต่ำยทอี่ ำยไุ มถ่ งึ 3 เดอื น

เพรำะอำจจะเป็นหวดั หรอื ปอดบวมได้ ความรูเ้ สรมิ

• หำกเลยี้ งรวมกนั หลำยตวั แล้วพบว่ำมกี ระตำ่ ยป่วย ควรอ้มุ กระต่ายโดยใช้มอื จบั ที่สันหลงั และใชอ้ ีกมอื ประคอง

ควรแยกตัวท่ีปว่ ยออกเพอื่ รักษำ และควรพบแพทย์ปีละ 1 ครง้ั สะโพกกระต่ายเพ่ือไม่ใหห้ ลุดจากมือ และหา้ มยกหสู องข้างของ

กระต่ายเพราะเป็นการอุม้ ท่ีผดิ วธิ ี อาจทาใหก้ ระตา่ ยบาดเจ็บได้


Click to View FlipBook Version