The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

THESIS
DOG MUSEUM
THANAWID KAEWMUANG

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ธนวิชญ์ แก้วเมือง, 2020-02-28 03:10:34

THESIS

THESIS
DOG MUSEUM
THANAWID KAEWMUANG

M U S E U M O F K H U N TH O N G D A N G 49
AND
DOGCARECENTER

หนว่ ยงานทรี่ บั ผดิ ชอบดแู ลสุนขั จรจัด

กรมปศุสัตว์ โครงการในพระราชดารศิ ูนยร์ ักษ์สุนขั หวั หนิ

กรมปศุสัตว์ มีภำรกิจเกี่ยวกับกำรกำหนดทิศทำงและนโยบำย กำร ปัจจุบันสถำนกำรณ์สุนัขป่วยด้วยโรคที่ต้องเปลี่ยนถ่ำยเลือด เช่น
ควบคุม กำกับ กำรส่งเสริม กำรวิจัย กำรถ่ำยทอดเทคโนโลยี กำรพัฒนำเทคโนโลยี ภำวะติดเชื้อ หรือโรคพยำธิในเม็ดเลือด รวมถึงกำรผ่ำตัดและอุบัติเหตุ ที่
เกี่ยวกับปศุสัตว์รวมท้ังกำรบริหำรจัดกำรทรัพยำกรพันธุกรรมและควำมหลำกหลำย โรงพยำบำลสัตว์ มหำวิทยำลัยเกษตรศำสตร์ หัวหิน พบปีละประมำณ 350 ตัว
ทำงชีวภำพด้ำนกำรปศุสัตว์ เพื่อให้มีปริมำณสัตว์ที่เพียงพอและมีมำตรฐำน ถูก แต่กลับมีสุนัขท่ีได้รับกำรเปลี่ยนถ่ำยเลือดเพียงปีละประมำณ 100 ตัวเท่ำนั้น
สุขอนำมัย ปรำศจำคโรคสำรตกค้ำง และสำรปนเป้ือน มีควำมปลอดภัยต่อผู้บริโภค สะท้อนถงึ ปัญหำกำรขำดแคลนเลอื ดสุนัขเพื่อกำรรักษำ
และส่ิงแวดล้อม และสำมำรถแข่งขันได้ในระดับสำกล โดยมีอำนำจหน้ำท่ีเก่ียวข้อง
กบั กำรจัดกำรปัญหำสนุ ัขจรจัดไดแ้ ก่ ด้วยน้ำพระรำชหฤทัยและพระเมตตำของ พระบำทสมเด็จพระ
ปรมนิ ทรมหำภมู พิ ลอดลุ ยเดช มพี ระรำชประสงค์ให้จัดตั้งศูนย์รักษ์สุนัขหัวหินขึ้น
1. ดำเนินกำรตำมกฎหมำยว่ำด้วยโรคระบำดสัตว์ กฎหมำยว่ำด้วยกำร เม่ือปี 2546โดยไดพ้ ระรำชทำนเงินจำกกำรจำหน่ำยเส้ือพิมพ์ภำพถ่ำยฝีพระหัตถ์
บำรุงพันธ์ุสัตว์กฎหมำยว่ำด้วยกำรควบคุมคุณภำพอำหำรสัตว์ กฎหมำยว่ำด้วย ครอบครัวคุณทองแดงจำนวน 5 ล้ำนบำท แบ่งเป็นทุนในกำรก่อสร้ำงอำคำร
สถำนพยำบำลสัตว์ กฎหมำยว่ำด้วยโรคพิษสุนัขบ้ำ กฎหมำยว่ำด้วยกำรควบคุมกำร 4 ล้ำนบำท ท่เี หลอื อกี 1 ลำ้ นบำท เปน็ ทุนในกำรจดั ตั้งมูลนธิ ศิ นู ย์รักษ์สุนัขหัวหิน
ฆำ่ สัตว์และจำหน่ำยเนือ้ สตั ว์และ กฎหมำยอื่นๆทเ่ี กยี่ วข้อง ในพระบรมรำชูปถัมภ์นอกจำกนี้ ยังมอบให้เทศบำลเมืองหัวหินดูแลสุนัขจรจัด
อย่ำงเปน็ ระบบ ทง้ั กำรใหอ้ ำหำร รักษำสุขภำพ ฉีดวัคซีน ถ่ำยพยำธิ ทำหมันเพื่อ
[DOG] ควบคมุ ปริมำณ และเลี้ยงสนุ ัขใหอ้ ยกู่ บั ธรรมชำติ สว่ นสุนัขท่ีแข็งแรงจะอยู่ในโซน
สนุ ัขใหเ้ ลือดหรอื ธนำคำรเลือด
ทุกสปั ดำห์ทีมสัตวแพทย์โรงพยำบำลสัตว์ มหำวิทยำลัยเกษตรศำสตร์ หัวหิน จะ
เข้ำไปเจำะเลือดสุนัข หำตัวที่ไม่ติดโรค ไม่เป็นพยำธิ เกล็ดเลือดไม่จำง ซ่ึง
สำมำรถใหเ้ ลือดเพอื่ นำไปชว่ ยชวี ติ สุนขั ตัวอ่ืนๆ ต่อไปได้ ปัจจุบันมีสุนัขจรจัดที่อยู่
ในกำรดูแลของศูนย์รักษ์สุนัขหัวหินเกือบ 1,000 ตัว ซึ่งช่วยแก้ปัญหำสุนัขจรจัด
ในเมืองทอ่ งเทย่ี วอยำ่ งเป็นระบบ กำรเสด็จพระรำชดำเนินมำทอดพระเนตร กำร
ดำเนินงำนท่ีศูนย์แห่งน้ีเมื่อปี 2557 ของ พระบำทสมเด็จพระปรมินทรมหำภูมิ
พลอดุลยเดช ยังคงอยู่ในควำมทรงจำของเจ้ำหน้ำท่ี ซึ่งต่ำงซำบซึ้งในพระมหำ
กรุณำธิคุณ ท่ีทรงใส่พระรำชหฤทัยและทรงมีพระเมตตำต่อสัตว์ ซึ่งเป็น
แบบอยำ่ งใหน้ ้อมนำไปปฏิบัติเพ่ือดูแลสุนัขเหล่ำนี้อย่ำงดีที่สุดโครงกำรนี้ นับเป็น
ต้นแบบกำรแกป้ ญั หำสนุ ขั จรจัดอยำ่ งเป็นระบบ ซ่ึงปัจจุบันมีองค์กรปกครองส่วน
ท้องถ่ินหลำยแห่งมำศึกษำดูงำน เพื่อนำไปเป็นแบบอย่ำงกำรจัดกำรปัญหำใน
พ้ืนที่ทั้งนี้ จิตสำนึกในกำรดูแลสุนัขของผู้เลี้ยง โดยไม่ทอดทิ้งให้เป็นภำระของ
ผู้อ่ืน และนึกถึงประโยชน์ส่วนรวมมำกกว่ำประโยชน์ส่วนตน ตำมพระรำชดำรัส
จงึ เป็นส่ิงสำคญั

M U S E U M O F K H U N TH O N G D A N G

50 A N D
DOGCARECENTER

โครงการพิพิธภณั ฑค์ ณุ ทองแดงและศนู ยช์ ่วยเหลอื สุนขั สยาม 3.1.5 นโยบายโครงการ

ในส่วนตัวโครงกำรนั้นสำมำรถแบ่งได้เป็น 2 ส่วนสำคัญ คือส่วนในกำรเรียนรู้ 1. เพื่อเป็นสถำนที่ส่งเสริม และให้ควำมรู้เรื่อง
เพื่อใชส้ ำหรับกำรเรียนรู้แก่เยำวชนที่สนใจ และ อีกส่วนคือส่วนช่วยเหลือ เพื่อใช้สำหรับ สุนัขให้แก่กลุ่มนักเรียน นักศึกษำ และบุคคลที่มี
กำรดูแลและชว่ ยเหลอื สนุ ัขจรจัด ควำมสนใจ อีกท้ังเป็นสถำนท่ีท่องเที่ยวแนว
เรียนรู้แห่งใหม่ของทำงจังหวัดขอนแก่น รวมถึง
พิพธิ ภณั ฑค์ ณุ ทองแดง กำรตอบสนองนโยบำยอุทยำนกำรเรียนรู้ของ
มหำวิทยำลยั ขอนแก่น
ส่วนท่ี 1 พิพิธภัณฑ์คุณทองแดง ทำหน้ำที่เป็นสื่อกลำงในกำรเรียนรู้ให้กับเยำวชน
หรือประชำชนที่สนใจเร่ืองรำวเกี่ยวกับสุนัข อีกท้ังยังทำหน้ำท่ีปลูกฝังให้เยำวชน 2. เป็นศูนย์วิจัยอนุรักษ์สำยพันธุ์สุนัขไทยหำยำก
รู้จักควำมรับผิดชอบในกำรดูแลสัตว์เลี้ยงของตน พิพิธภัณฑ์แห่งน้ีมีหน้ำท่ีส่งเสริม เพื่อเป็นแหล่งศึกษำและเพำะพันธ์ุให้สำยพันธุ์
และกระตุ้นกำรศึกษำด้ำนสุนัขเพ่ือประโยชน์ต่อสังคม อีกท้ังยังทำหน้ำที่กระตุ้นให้ สนุ ัขไทยหำยำกดำรงอยู่ตอ่ ไป
ประชำชนทั่วไปตระหนักถึงควำมสำคัญของสุนัขไม่ว่ำจะสุนัขท่ีเลี้ยงหรือสุนัขจรจัด
อีกทั้งยังมีหน้ำที่สำคัญในกำรถ่ำยทอดเร่ืองรำว คุณทองแดง สุนัขทรงเล้ียงของ 3. เพ่อื เปน็ ศนู ยช์ ่วยเหลอื เฉพำะทำงสำหรับสุนขั
พระบำทสมเด็จพระเจ้ำอยู่หัวในรัชกำลที่ 9 เพ่ือให้ประชำชนได้เรียนรู้เร่ืองรำว เพ่ือ เป็นสถำนที่ดูแล รักษำ เพ่ือกำรรับอุปกำระ
ควำมรัก ควำมซ่ือสัตย์ ของคุณทองแดงท่ีมีต่อพระบำทสมเด็จพระเจ้ำอยู่หัว เพ่ือ สนุ ขั ในอนำคต
สร้ำงแรงบันดำลใจและระลึกถึงเร่อื งรำวของคณุ ทองแดงใหเ้ ยำวชนรุ่นหลงั ต่อไป
4. เพื่อปลูกฝังให้คนไทยได้ตระหนักถึงคุณค่ำ
ศนู ย์ชว่ ยเหลือสนุ ัขสยาม ควำมสำคัญของสุนัขไทยและสุนัขที่เลี้ยงดูเพื่อ
ช่วยลดปัญหำกำรเพ่ิมจำนวนประชำกรสุนัขจร
ส่วนท่ี 2 ศูนย์ช่วยเหลือสุนัขสยำม ทำหน้ำที่เป็นศูนย์แก้ปัญหำสุนัขจรจัดที่มีต่อ จัดในประเทศ
สงั คมช่ัวครำว โดยกำรนำสุนัขจรจัดนั้นมำดูแลเพ่ือทำกำรรักษำ และ ฉีดยำป้องกัน
โรค เพือ่ เปน็ กำรดแู ลรกั ษำท่ีดีในอนำคตและทำประวตั ไิ วเ้ พอ่ื รู้ยอดจำนวนประชำกร
สุนัข และยังเป็นกำรเปิดโอกำสให้สุนัขจรจัดเหล่ำนี้ได้รับโอกำสหำบ้ำนโดย
ประชำชนที่สนใจ โดยสุนัขที่จะได้ออกไปสู่โลกภำยนอกนั้นประชำชนทั่วไปไม่ต้อง
กังวลเรื่องโรคติดต่อจำกสุนัขจรจัด เพรำะ ทำงศูนย์ได้ทำกำรดูแลเป็นอย่ำงดีและ
ออกใบรับรองและประวัติสุนัขเพ่ือให้ผู้รับอุปกำระดูแลสุนัขอย่ำงเหมำะสมอีกท้ังยัง
เป็นโครงกำรนำร่องในกำรแก้ไขปัญหำสนุ ัขจรจดั ภำยในประเทศ

แผนภมู ิ 3.2 แสดงนโยบายและรายละเอยี ดของโครงการ

5. เพ่ือกำรบริหำรจัดกำรท่ีมีประสิทธิภำพ นำมำ
ซึ่งรำยได้พัฒนำกำรดำเนินงำนของคณะฯและ
ของทำงมหำวทิ ยำลยั

M U S E U M O F K H U N TH O N G D A N G 51
AND
DOGCARECENTER

วตั ถุและเนื้อหาท่จี ัดแสดงในพพิ ธิ ภณั ฑ์ เนื้อหาทีจ่ ดั แสดงในพพิ ิธภณั ฑ์
นิทรรศการประวตั ศิ าสตรส์ นุ ขั
เนอื้ หาที่แสดง

- จุดกำเนิดสุนัข
- บรรพบรุ ษุ สุนัขบำ้ น
- กำยภำพสุนขั
- สำยพันธส์ ุนัขท่ัวโลก

วตั ถุประกอบเนอื้ หาที่จดั แสดง

- ส่ือเน้ือหำสำหรบั อำ่ น
- สือ่ โสตทัศน์
- ส่อื โมเดล และ สตั ว์สตำฟ

นทิ รรศการคณุ ทองแดง เนื้อหาทแ่ี สดง
นิทรรศการสนุ ขั ไทย
นทิ รรศการมติ รภาพ - สนุ ัขทรงเลีย้ งของรำชวงษก์ ษัตรยิ ไ์ ทยในอดีต - ปัจจุบนั
- สนุ ัขทรงเลีย้ งของพระรำชำ ( คุณทองแดง )

- ประวตั คิ ุณทองแดง
- ควำมผกู พันของคณุ ทองแดงกบั พระบำทสมเด็จพระเจำ้ อย่หู วั ใน
รัชกำลท่ี 9
- สุนัขทรงเลย้ี ง
- โครงกำรในพระรำชดำริศนู ย์รกั ษ์สนุ ขั หวั หนิ

วัตถุประกอบเน้ือหาที่จดั แสดง

- สื่อเนื้อหำสำหรับอำ่ น - สอ่ื โมเดล
- ส่ือโสตทัศน์

เน้อื หาทแ่ี สดง วัตถุประกอบเนื้อหาที่จดั แสดง

- ต้นกำเนิดสนุ ัขสำยพันธุส์ ยำม - สอ่ื เน้อื หำสำหรับอ่ำน

- 2 สำยพันธ์สุ นุ ัขไทยแท้ - สอ่ื โสตทศั น์

- ไทยหลังอำน - ส่อื โมเดล และ สตั วส์ ตำฟ

- ไทยบำงแก้ว - สื่อมชี ีวิต

- ลกั ษณะทำงกำยวภิ ำค

- ตัวอยำ่ งแบบจำลอง

- ตวั อย่ำงสตั วส์ ตำฟ

- ควำมสมั พนั ธ์ระหว่ำงคนไทยกบั สนุ ขั ต้งั แต่ อดตี - ปัจจุบนั

เนือ้ หาทแี่ สดง

- กำรพ่งึ พำอำศยั กนั ของมนษุ ย์กับสุนัข
- ลำนกจิ กรรมสำหรับสุนขั กับเจ้ำของ
- โซนจดั แสดงเรือ่ งสั้น
- เพ่อื นขำ้ งถนน

วัตถปุ ระกอบเน้ือหาทจี่ ัดแสดง

- ส่อื เนอ้ื หำสำหรับอำ่ น
- สอื่ โสตทัศน์

M U S E U M O F K H U N TH O N G D A N G

52 A N D
DOGCARECENTER
3.2 DESIGN THEORY PROJECT
ทฤษฎีการออกแบบโครงการ

3.2.1 ทฤษฎีการรับรู้
(Perception Theory)

ทฤษฎีการรับรู้ กำรรับรู้เป็นพื้นฐำนกำรเรียนรู้ที่สำคัญของบุคคล เพรำะ จำกกำรวิจัยมีกำรค้นพบว่ำกำรรับรู้ของคนเกิดจำก กำรมองเห็น 75%
กำรตอบสนองพฤติกรรมใดๆ จะขึ้นอยู่กับกำรรับรู้จำกสภำพแวดล้อมของตน และ จำกกำรไดย้ นิ 13% กำรสมั ผัส 6% กำรดมกลน่ิ 3% และกำรรบั รส 3%
ควำมสำมำรถในกำรแปลควำมหมำยของสภำพนั้นๆ ดังน้ันกำรเรียนรู้ที่มีประสิทธิภำพจึง ดังแผนภมู ิตอ่ ไปนี้
ขึ้นอยู่กับปัจจัยกำรรับรู้ และสิ่งเร้ำที่มีประสิทธิภำพ ซึ่งปัจจัยกำรรับรู้ประกอบด้วย
ประสำทสัมผัสและปัจจัยทำงจิตคือควำมรู้เดิมควำมต้องกำร และ เจตคติเป็นต้น กำรรับรู้ 6 33
จะประกอบด้วยกระบวนกำรสำมด้ำน คือกำรรับสัมผัสกำรแปลควำมหมำยและอำรมณ์ 13

การรับรู้ หมำยถึง กำรรู้สึกสัมผัสที่ได้รับกำรตีควำมให้เกิดควำมหมำยแล้ว เช่น 75
ในขณะน้ีเรำอยู่ในภำวะกำรรู้สึก(Conscious) คอื ลืมตำต่ืนอยู่ในทันใดน้ัน เรำรู้สึกได้ยินเสียง
ดังปังมำแต่ไกล(กำรรู้สึกสัมผัส-Sensation) แต่เรำไม่รู้ควำมหมำยคือไม่รู้ว่ำเป็นเสียง
อะไร เรำจงึ ยงั ไม่เกดิ กำรรบั รู้ แตค่ รตู่ ่อมำมีคนบอกวำ่ เป็นเสียงระเบิดของยำงรถยนต์ เรำจึง
เกดิ กำรรู้ควำมหมำยของกำรรสู้ ึกสมั ผสั นนั้ ดังนีเ้ รยี กว่ำเรำเกิดกำรรบั รู้

กำรรับรู้เป็นผลเนื่องมำจำกำรท่ีมนุษย์ใช้อวัยวะรับสัมผัส (Sensory motor) การมองเหน็ การได้ยนิ การสมั ผสั การดมกลน่ิ การรับรส
ซ่ึงเรียกว่ำ เคร่ืองรับ (Sensory) ทั้ง 5 ชนิด คือ ตำ หู จมูก ลิ้น และ ผิวหนัง
แผนภมู ิ 3.4 แผนภูมิวงกลมแสดงรอ้ ยละการรับร้ขู องมนุษย์
การคิด
กำรรับรู้จะเกิดขึ้นมำกน้อยเพียงใดข้ึนอยู่กับสิ่งท่ีมีอิทธิพลหรือปัจจัยใน
การมอง การฟัง กำรรับรู้ ได้แก่ ลักษณะของผู้รับรู้ ลักษณะของส่ิงเร้ำ เม่ือมีส่ิงเร้ำเป็นตัว
กำหนดให้เกิดกำรเรียนรู้ได้นั้นจะต้องมีกำรรับรู้เกิดข้ึนก่อนเพรำะกำรรับรู้ เป็น
หนทำงท่ีนำไปสูก่ ำรแปลควำมหมำยทเี่ ขำ้ ใจกนั ได้ ซึ่งหมำยถึงกำรรับรู้เป็นพ้ืนฐำน
ของกำรเรียนรู้ ถำ้ ไม่มีกำรรับรู้เกิดขึ้น กำรเรียนรู้ย่อมเกิดขึ้นไม่ได้ กำรรับรู้จึงเป็น
องค์ประกอบสำคัญที่ทำให้เกิดควำมคิดรวบยอด ทัศนคติของมนุษย์ อันเป็นส่วน
สำคัญยิง่ ในกระบวนกำรเรยี นกำรสอน

3.2.1.1 การจัดระบบการรบั รู้

มนุษย์เม่อื พบส่ิงเรำ้ ไม่ได้รับรู้ตำมท่ีสิ่งเร้ำปรำกฏแต่จะนำมำจัดระบบตำมหลัก
ดังน้ี

1. หลักแห่งควำมคล้ำยคลึง (Principle of similarity) ส่ิงเร้ำใดท่ีมีควำมคล้ำยกัน
จะรับรู้ว่ำเป็นพวกเดียวกนั

มนษุ ย์

การสมั ผสั การดมกล่นิ 2. หลักแห่งควำมใกล้ชิด (Principle of proximity ) ส่ิงเร้ำที่มีควำมใกล้กันจะรับรู้
ว่ำเป็นพวกเดียวกนั

การรบั รส 3.หลักแห่งควำมสมบูรณ์ (Principle of closure) เป็นกำรรับรู้สิ่งท่ีไม่สมบูรณ์ให้
สมบูรณ์ข้ึน
แผนภูมิ 3.3 แสดงการรบั ร้ขู องมนษุ ย์

M U S E U M O F K H U N TH O N G D A N G 53
AND
DOGCARECENTER

3.2.1.2 ลาดับการเกิดกระบวนการการรบั รู้

สงิ่ เรำ้ ไมว่ ำ่ จะเปน็ คน สตั ว์ สิง่ ของ หรือสถำนกำรณ์ มำเร้ำอินทรีย์ ทำให้เกิด การเคลื่อนไหว ( Movement ) แสง ( Light )
กำรสัมผัส (Sensation) และเม่ือเกิดกำรสัมผัสบุคคล จะเกิดมีอำกำรแปล กำรสัมผัส
และมีเจตนำ (Conation) ที่จะแปลสัมผัสนั้น กำรแปลสัมผัส จะเกิดข้ึนในสมอง ทำให้ การมอง ( Looking ) การฟัง ( Listen )
เกิดพฤติกรรมต่ำงๆ เช่น กำรท่ีเรำได้ยินเสียงดัง ปัง ปัง ๆ สมองจะแปลเสียงดังปัง ปัง
โดยเปรียบเทียบกับเสียง ท่ีเคยได้ยินว่ำเป็น เสียงของอะไร เสียงปืน เสียงระเบิด เสียง
พลุ เสียงประทัด เสียงของท่อไอเสียรถ เสียงเครื่องยนต์ระเบิด หรือเสียงอะไร ในขณะ
เปรียบเทยี บ จติ ตอ้ งมีเจตนำ ปนอยู่ ทำให้เกิดแปลควำมหมำย และ ต่อไปก็รู้ว่ำ เสียงท่ี
ได้ยินนั่นคือ เสียงอะไร อำจเป็นเสียงปืน เพรำะบุคคลจะแปลควำมหมำยได้ ถ้ำบุคคล
เคย มีประสบกำรณ์ในเสียงปืนมำก่อน และอำจแปลได้ว่ำ ปืนที่ดังเป็นปืนชนิดใด ถ้ำ
เขำเป็นตำรวจ จำกตัวอย่ำงข้ำงต้นนี้ เรำอำจสรุป กระบวนกำรรับรู้ จะเกิดได้จะต้องมี
องค์ประกอบดงั ต่อไปนี้

1. มีสิ่งเร้ำ ( Stimulus ) ที่จะทำให้เกิด กำรรับรู้ เช่น สถำนกำรณ์ เหตุกำรณ์
สิ่งแวดลอ้ ม รอบกำย ทเี่ ปน็ คน สตั ว์ และสงิ่ ของ

2. ประสำทสมั ผัส ( Sense Organs ) ท่ีทำให้เกิดควำมรู้สึกสัมผัส เช่น ตำดู หู
ฟงั จมกู ได้ กล่ิน ลน้ิ รู้รส และผิวหนังรรู้ ้อนหนำว

3. ประสบกำรณ์ หรอื ควำมรเู้ ดมิ ท่เี กย่ี วข้องกับส่งิ เรำ้ ทเ่ี รำสัมผัส
4. กำรแปลควำมหมำยของสิ่งที่เรำสัมผัส สิ่งที่เคยพบเห็นมำแล้วย่อมจะอยู่ใน
ควำมทรงจำของสมอง เม่ือบุคคลได้รับส่ิงเร้ำ สมองก็จะทำหน้ำท่ีทบทวนกับควำมรู้ที่มี
อยู่เดิมว่ำ สงิ่ เร้ำนัน้ คืออะไร

เมื่อมนุษย์เรำถูกเร้ำโดยส่ิงแวดล้อม ก็จะเกิดควำมรู้สึกจำกกำรสัมผัส
(Sensation) โดยอำศัยอวัยวะสัมผัสท้ัง 5 คือ ตำ ทำหน้ำที่ดูคือ มองเห็น หูทำหน้ำท่ี
ฟังคือ ได้ยิน ลิ้นทำหน้ำท่ีรู้รส จมูก ทำหน้ำที่ดมคือได้กลิ่น ผิวหนังทำหน้ำที่สัมผัสคือ
รู้สึกได้อย่ำงถูกต้อง กระบวนกำรรับรู้ ก็สมบูรณ์แต่จริงๆ แล้วยังมีกำรสัมผัสภำยในอีก
3 อย่ำงดว้ ยที่จะชว่ ยใหเ้ รำรบั สมั ผัสส่ิงต่ำงๆ

3.2.1.3 ลาดบั ขัน้ ของกระบวนการรบั รู้

กำรรบั รู้จะเกิดข้นึ ได้ ต้องเป็นไปตำมขัน้ ตอนของกระบวนกำรดงั น้ี

ข้นั ท่ี 1 สิ่งเรำ้ ( Stimulus )มำกระทบอวยั วะสัมผสั ของอนิ ทรีย์ การคดิ ( Thinking ) การสัมผัส ( Touch )
ข้ันท่ี 2 กระแสประสำทสมั ผัสวง่ิ ไปยงั ระบบประสำทส่วนกลำง ซ่ึงมีศูนย์อยู่ที่สมองเพ่ือ การรบั รส ( Tatse )
สัง่ กำร ตรงนีเ้ กิดกำรรบั รู้ ( Perception )
ขั้นที่ 3 สมองแปลควำมหมำยออกมำเป็นควำมรู้ควำมเข้ำใจโดยอำศัย ควำมรู้เดิม
ประสบกำรณ์เดิม ควำมจำ เจตคติ ควำมต้องกำร ปทัสถำน บุคลิกภำพ เชำวน์ปัญญำ
ทำให้เกิดกำรตอบสนองอยำ่ งใดอย่ำงหน่ึง กำรรับรู้ ( Perception )

ตัวอย่ำง ขณะนอนอยู่ในห้องได้ยินเสียงร้องเรียกเหมียวๆๆรู้ว่ำเป็นเสียง
รอ้ งของสัตว์ และรตู้ อ่ ไปว่ำเป็นเสียงของแมว เสียงเป็นเครอ่ื งเร้ำ (Stimulus) เสียงแล่น
มำกระทบหูในหูมีปลำยประสำท (End organ)เป็นเครื่องรับ (Receptor) เคร่ืองรับส่ง
กระแสควำมรู้สึก (Impulse) ไปทำงประสำทสัมผัส (Sensory nerve) เข้ำไปสู่สมอง
สมองเกิดควำมต่ืนตัวขึ้น (ตอนนี้เป็นสัมผัส) ครั้นแล้วสมองทำกำรแยกแยะว่ำ เสียงนั้น
เป็นเสียงคนเป็นเสียงสัตว์ เป็นเสียงของแมวสำวเป็นเสียงแมวหนุ่ม ร้องทำไมเรำเกิด
อำกำรรับรู้ ตอนหลังน้ีเป็น กำรรับรู้ เมื่อเรำรู้ว่ำเป็นเสียงของแมวเรียก ทำให้เรำ
ต้องกำรรู้ว่ำแมวเป็นอะไร ร้องเรียกทำไมเรำจึงลุกขึ้นไปดูแมวตำม ตำแหน่งเสียงม่ีได้
ยินและขำนรบั สมองก็ส่ังให้กล้ำมเน้ือปำกทำกำรเปล่งเสียงขำนรับ ตอนน้ีทำงจิตวิทยำ
เรียกว่ำ ปฏิกิริยำหรือกำรตอบสนอง (Reaction หรือ Response) เมื่อประสำทต่ืนตัว
โดยเครือ่ งเรำ้ จะเกิดมีปฏิกริ ยิ ำ คอื อำกำรตอบสนองตอ่ สิ่งเร้ำ

การดมกลน่ิ ( Smell )

M U S E U M O F K H U N TH O N G D A N G

54 A N D
DOGCARECENTER

3.2.2 จติ วิทยาในการเรยี นรู้

3.2.2.1 ประเภทของการเรียนรู้ 3.2.2.3 จิตวทิ ยาพัฒนาการ

Bloom’s Taxonomy กล่ำวถึงกำรจำแนกกำรเรียนรู้ตำมทฤษฎีของบลูม ซึ่ง ช่วงของเด็กวัยน้ีประมำณ 7-12 ปี อยู่ในชั้นระดับประถมศึกษำเด็กสนใจ
แบง่ เปน็ 3 ด้ำน คือ ดำ้ นพทุ ธิพิสยั ดำ้ นจิตพิสัย และด้ำนทักษะพิสัย โดยในแต่ละด้ำนจะมีกำร สภำพแวดล้อมและสิ่งแวดล้อมรอบตัว พอใจที่จะเผชิญส่ิงแปลกใหม่ ชอบอ่ำน
จำแนกระดับควำมสำมำรถจำกต่ำสุดไปถึงสูงสุด เช่น ด้ำนพุทธิพิสัย เร่ิมจำกควำมรู้ ควำม หนังสือ ฟังเพลง ร้องเพลง ดูโทรทัศน์ ชอบภำพยนตร์ประเภทนิทำน นิยำยผจญภัย
เข้ำใจ กำรนำไปใช้ กำรวิเครำะห์ กำรสังเครำะห์ กำรประเมิน นอกจำกน้ียังนำเสนอระดับ ลึกลับ กำรทดลองค้นคว้ำหำควำมจริงทำงวิทยำศำสตร์ สนใจร่ำงกำยของตนเอง
ควำมสำมำรถท่ีมีกำรปรับปรุงใหม่ตำมแนวคิดของ Anderson and Krathwohl (2001) เป็น สัตว์เล้ียง กำรเล่นท่ีมีกำรเคล่ือนไหว กำรกระโดดโลดเต้น กำรออกกำลังกำย กำร
กำรจำ(Remembering) กำรเข้ำใจ(Understanding) กำรประยุกต์ใช้(Applying) กำร ทำงำนฝมี ือ กำรก่อสรำ้ งและเกมกำรแขง่ ขันต่ำง ๆ
วิเครำะห์ (Analysing) กำรประเมินผล (Evaluating) และกำรสร้ำงสรรค์ (Creating) ด้ำนจิต
พิสัย จำแนกเป็น กำรรับรู้, กำรตอบสนอง, กำรสร้ำงค่ำนิยม, กำรจัดระบบ และกำรสร้ำง วัยรุ่นอำยุประมำณ 13 ถึง 19 ปี ลักษณะควำมสนใจของวัยรุ่นมี
คุณลักษณะจำกคำ่ นิยม ด้ำนทักษะพิสัย จำแนกเป็น ทักษะกำรเคล่ือนไหวของร่ำงกำย, ทักษะ ขอบข่ำยกว้ำงขวำง สนใจหลำยอย่ำงแต่ไม่ลึกซึ้งมำก สนใจและชอบเลียนแบบ
กำรเคลื่อนไหวอวัยวะสองส่วนหรือมำกกว่ำพร้อมๆกัน, ทักษะกำรส่ือสำรโดยใช้ท่ำทำง และ บุคคลท่ีมีชื่อเสียงเป็นที่นิยมของสังคมโดยเฉพำะดำรำ นอกจำกน้ีวัยรุ่นทั่วไปจะ
ทักษะกำรแสดงพฤติกรรมทำงกำรพดู สนใจตนเอง เช่น เร่ืองรูปร่ำงหนำ้ ตำ ผวิ พรรณ กำรแต่งกำย กำรปรับตัวให้เข้ำกับ
Bloom ได้แบ่งกำรเรียนรู้เป็น 6 ระดบั สภำพกำรเปล่ียนแปลงของร่ำงกำย กำรเสริมบุคลิกภำพและควำมงำมให้ทันสมัย
วัยน้ีสนใจคบเพื่อนเพศเดียวกันและเพื่อนต่ำงเพศ ให้ควำมสำคัญกับงำนเลี้ยง
- ควำมรู้ท่ีเกิดจำกควำมจำ (knowledge) ซงึ่ เปน็ ระดับล่ำงสดุ ชมุ นุม กำรสงั สรรค์ ควำมสนุกสนำนเพลดิ เพลิน
- ควำมเข้ำใจ (Comprehend)
- กำรประยุกต์ (Application) [ L E A R N I N G ]กำรลำดับเนอื้ หำภำยใต้แนวควำมคิดทฤษฎีกำรลำดับกำรเรียนรู้ของ
- กำรวเิ ครำะห์ ( Analysis) สำมำรถแก้ปัญหำ ตรวจสอบได้
- กำรสงั เครำะห์ ( Synthesis) สำมำรถนำส่วนต่ำงๆ มำประกอบเปน็ รปู แบบใหม่ได้ มนุษย์นนั้ จะเน้นกำรใช้ประสำทสัมผัสในกำรเรียนรขู้ องมนุษย์ทั้งหมดโดยจะทำ
ให้แตกต่ำงจำกรปู เดิม เน้นโครงสรำ้ งใหม่ ให้เกิดกำรกระตุ้นกำรเรยี นรู้ท่มี ำกข้ึนกว่ำกำรมีรูปแบบกำรเรียนรู้แบบเดียว คือ
- กำรประเมินคำ่ ( Evaluation) วดั ได้ และตัดสนิ ไดว้ ำ่ อะไรถูกหรอื ผิด ประกอบกำร มีกำรใชก้ ำรมองในกำรอำ่ นและประมวลควำมรู้ผ่ำนกระบวนกำรคิด กำรฟังเพ่ือ
ตดั สนิ ใจบนพนื้ ฐำนของเหตุผลและเกณฑ์ทแ่ี น่ชดั รับร้เู นอื้ หำทีผ่ ู้สื่อต้องกำรให้ผู้รับสำรได้รับ กำรสัมผัสเพื่อให้ผู้เข้ำชมนิทรรศกำร
รสู้ ึกใกล้ชิดกับส่งิ ท่ีตอ้ งกำรเรียนร้มู ำกข้ึนโดยอำศัยควำมเขำ้ ใจจำกประสบกำรณ์
3.2.2.2 ปัจจัยทีม่ ีอิทธิพลต่อการเรียนรขู้ องผู้ชมนิทรรศการ โดยตรง นอกจำกน้ันกำรเรียงลำดับเนื้อหำนิทรรศกำรเพื่อกำรเรียนรู้ของผู้เข้ำ
ชมนั้นควรมีกำรเรียงลำดับเป็น เน้ือหำหลักไปสู่เน้ือหำย่อย เพรำะ ปกติกำร
การจัดแสดงนิทรรศการแต่ละครัง้ ผู้ชมจะเกิดการเรียนรู้ ได้มากน้อย เรียนรู้ของมนุษย์มักจะสนใจสิ่งที่มีควำมครอบคลุมในวงกว้ำงก่อนที่จะมำสนใจ
เพยี งใดยอ่ มขนึ ้ อยกู่ บั ปัจจยั ตา่ ง ๆ เน้อื หำรำยละเอยี ดยอ่ ยนน้ั เอง และ ควรเหมำะสมกับวยั ของผ้ทู ่ีมำเรยี นรู้

- ผ้ชู มหรือผ้เู รียน ผ้ชู มหรือผ้เู รียนแต่ละคนมีความแตกต่างกนั ในหลาย ๆ
ด้าน วุฒิภาวะและความพร้ อม เพศ สติปัญญา อารมณ์ สงั คมวัฒนธรรมและ
ประเพณี สภาพสงั คม วิถีชีวิต ความเช่ือ ประสบการณ์ ระดบั การศึกษา ความ
สนใจ

- เนือ้ หาบทเรียนและกิจกรรม เป็นปัจจยั ที่เก่ียวกบั เนือ้ หาและกิจกรรมใน
การจดั นิทรรศการ
ความยากง่ายของเนือ้ หา ความหมายของเนือ้ หา ความสอดคล้องของเนือ้ หากับ
กิจกรรม ความยาวของเนือ้ หา

- เทคนิคการนาเสนอ การนาเสนอที่ดีควรมีขัน้ ตอนต่อเน่ืองเร้ าความ
สนใจมาจากขนั้ ตอนการวางแผน ซ่ึงเก่ียวข้องกบั การตงั้ วัตถุประสงค์ การเลือก
เนือ้ หาและกิจกรรมให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย สถานที่ ส่ือ และบรรยากาศ
ความชดั เจนถกู ต้อง ความคล่องแคล่ว ความพร้อม

วุฒิภาวะ เพศ สตปิ ญั ญา สังคม

แผนภมู ิ 3.5 แผนภูมิแสดงความสอดคล้องในการเรียนรูข้ องมนษุ ย์

M U S E U M O F K H U N TH O N G D A N G 55
AND
DOGCARECENTER

3.2.3 วธิ ีการจัดแสดงพพิ ธิ ภัณฑ์

3.2.3.1 หลักเบอ้ื งต้นในการจดั แสดง (BASIC PRINCIPPLE )

ก. ความสาคัญของการจัดแสดงอยู่ท่วี ตั ถนุ ิยม 3.2.3.3 ลกั ษณะการจัดแสดงในพพิ ธิ ภัณฑ์

นิทรรศกำรพิพิธภัณฑ์ต่ำงจำกนิทรรศกำรท่ัวไป คือ เน้นตวำมสำคัญท่ีวัตถุ ส่วนคำ การจัดนิทรรศการถาวร ( PERMANENT EXHIBITION )
บรรยำยหรือส่วนอื่นเป็นองค์ประกอบเพ่ือช่วยให้วัตถุ มีควำมสำคัญและควำมหมำย
สมบรู ณ์ตำมวัตถุประสงค์ นิทรรศกำรถำวร เป็นกำรจัดประจำ ณ ทใ่ี ดท่ีหน่ึง กำรจัดนิทรรศกำร
แบบนี้ใช้ทุนสูง อำยุกำรใช้งำนยำวนำน ดังน้ันต้องมีกำรเตรียมวำงแผนอย่ำงดี
ข. การให้เร่อื งราวความรู้เกย่ี วกบั การจดั แสดง ต้องวิเครำะห์เน้ือหำ วิเครำะห์รูปแบบ และกำรสนำเสนอที่เหมำะสมตำมหลัก
องค์ประกอบวัตถุท่ีจะทำให้วัตถุมีควำมหมำยสำคัญจะต้องมีคำบรรยำย โดยจะต้องมี วิชำกำร นิยมจัดทั้งกลำงแจ้งและในตัวอำคำร ส่วนใหญ่กำรจัดนิทรรศกำรถำวร
ควำมเหมำะสมกับเรอ่ื งท่ีจัดแสดง เช่น ตวั หนังสือบรรยำย แผนท่ี ภำพถ่ำย แผนผัง มักจะมุ่งเน้นวัตถุประสงค์ที่เน้ือหำ เป็นกำรให้ควำมรู้ สำระและแทรกด้วยกำร
สรำ้ งทัศนคติ และค่ำนยิ ม
ค. การจัดแสดงวตั ถตุ ้องมีความสมั พันธต์ อ่ เนือ่ ง
เรอ่ื งรำวเปน็ ไปตำมลำดบั ใหผ้ ูเ้ ข้ำชมเขำ้ ใจเร่อื งรำวติดตอ่ กนั ดงั น้ัน กำรจัดแสดงต้องมี
หัวข้อใหญ่ เร่อื งยอ่ ย ซง่ึ มคี วำมสัมพนั ธ์ ประสำนเป็นลำดบั

ง. ให้ความประทบั ใจ ความเพลิดเพลนิ
ควรให้ผู้ชมยอมรับว่ำวัตถุที่พิพิธภัณฑ์รวบรวมสงวนรักษำ และ จัดแสดงไว้เป็นคุณค่ำ
สูงควรแก่กำรคมุ้ ครองรกั ษำสืบไป

จ. การจดั แสดงถือหลกั การจดั แสดงง่าย ๆ
ไมจ่ ดั แสดงใหซ้ ับซอ้ นพสิ ดำรสับสน แตต่ อ้ งออกแบบไม่ใหม้ ำก และ น้อยจนเกินไป

ฉ. ให้ความปลอดภยั แกว่ ตั ถุ
ต้องระมดั ระวงั ในเรือ่ งอุณหภูมิ ควำมร้อน ควำมเย็น ฝุน่ ละออง ควำมช่ืน แสงสว่ำง ซ่ึง
จะทำใหว้ ัตถเุ สียหำยเส่ือมสภำพได้

3.2.3.2 การจัดนทิ รรศการ

ประจำคือกำรแสดงเร่ืองท่ีสำคัญประจำเทศกำลต่ำง ๆ เป็นหลัก ซ่ึงจะมี การจัดนิทรรศการชว่ั คราว ( TEMPORARY EXHIBITION )
กำรจดั แสดงเปน็ ประจำทกุ ปี ได้แก่ กิจกรรมวันรำลกึ ถึงคุณทองแดง หรอื วันสนุ ขั โลก
กำรจัดนิทรรศกำรประกอบ กำรแสดงในช่วงท่ีเกิดเหตุกำรณ์สำคัญเกิดข้ึน หรือ มี นิทรรศกำรชั่วครำวนิยมใช้แสดงเร่ืองรำว เนื้อหำในเรื่องใดเร่ือง
ขำ่ วสำรตอ้ งกำรเผยแพร่ เช่น โครงกำรพระรำชดำริ ศูนย์รักษ์สุนัขหัวหิน โครงกำรเพ่ือ หน่งึ ในวำระ หรอื โอกำสพเิ ศษ มีระยะเวลำของกำรจัดแสดงส้ัน ๆ อำจเป็นเวลำ
ช่วยเหลือสนุ ัขจรจดั 2-3 วัน หรือ 1 เดือน กำรจัดนิทรรศกำรช่ัวครำวจะมุ่งเน้นไปยังเน้ือหำข้อมูล
ใหม่ หรืออำจมุ่งเน้นกลุ่มผู้ชมเฉพำะกลุ่ม รูปแบบกำรจัดจึงต้องแปลกใหม่ มี
[DESIGN] น่ำสนใจสูง ซึง่ กำรจดั อำจจดั แทรกในสว่ นของกำรจัดนิทรรศกำรถำวรก็ได้ ทั้งนี้
เพ่ือดงึ ดดู ใจ และชักชวนให้ผู้ชมไดก้ ลับเข้ำมำชมนิทรรศกำรถำวรอกี

[EXHIBITION] การจัดนทิ รรศการกลางแจ้ง (OUTDOOR EXHIBITION)

เป็นกำรแสดงวัสดุหรืออุปกรณ์ท้ังในอำคำรและกลำงแจ้งในเวลำ
เดยี วกนั ส่ิงของท่ีนำมำจัดแสดงมีท้ังคุณสมบัติที่ทนทำนต่อดินฟ้ำอำกำศและฉีก
ขำดย่อยสลำยง่ำย ดังน้ันผู้จัดจึงควรพิจำรณำว่ำวัสดุอุปกรณ์ใดเหมำะสำหรับ
กำรจัดแสดงข้อมูลในบริเวณใด นิทรรศกำรประเภทนี้สำมำรถดึงดูดควำมสนใจ
ผูช้ มได้ดี นทิ รรศกำรก่ึงกลำงแจ้งมลี กั ษณะสำคญั

M U S E U M O F K H U N TH O N G D A N G

56 A N D
DOGCARECENTER

3.2.3.4 การจดั ระบบสญั จรในการจัดแสดง 3.2.3.5 ระบบทางสัญจรในการจัดแสดงทเี่ หมาะสมกบั โครงการ

ระบบทำงสัญจรภำยในห้องแสดงเม่ือพิจำรณำถึงทำงสัญจร ( access ) สำมำรถ 4. ระบบ CENTRAL ARRANGEMENT
แบ่งออกเปน็ 3 ระบบ คอื
เปน็ กำรรวมขอ้ ดขี อง ROOM TO ROOM ARRANGEMENT , CORRIDOR TO
1. ระบบ CENTRALIZED SYSTEM OF ACCESS ROOM ARRANGEMENT และ NAVE TO ROOM ARRANGEMENT โดยสำมำรถ
เดนิ ตอ่ เนอ่ื งจำกหอ้ งหน่งึ หรอื เข้ำจำกโถงแล้วแยกไปแตล่ ะหอ้ งได้
กำรวำงผังจัดตำมเส้นทำงเคล่ือนไหวตำมเนื้อหำผู้ชมก็จะถูกชัก นำเดินตำมเส้นทำง ไปตำม
แผนท่ีตำยตัวจำกจุดเรม่ิ ตน้ จนถงึ จุดสดุ ทำ้ ยแต่อำจหยดุ ดูเปน็ ชว่ งๆด้วย C D
B
ข้อดี เปน็ กำรจัดแบบพน้ื ทใี่ ช้สอยอย่ำงประหยัด พืน้ ที่สะดวกต่อกำรควบคุมดแู ล
ข้อเสีย ถ้ำใช้ในกำรพิพิธภัณฑ์ใหญ่เมื่อปิดห้องใดห้องหนึ่งจะมีผลกระทบห้องอ่ืนด้วย และ ไม่
อำจจะเลือกชมเฉพำะส่วนใด ส่วนหนึง่ เพรำะ ข้อมลู อำจหำยไป

A HALL E

C AB
B
D

A HALL E HALL C ภาพ 3.8 ระบบ CENTRAL ARRANGEMENT
D
E

ภาพ 3.5 ระบบ CENTRALIZED ภาพ 3.6 ระบบ DECENTRALIZED
SYSTEM OF ACCESS SYSTEM OF ACCESS

2. ระบบ DECENTRALIZED SYSTEM OF ACCESS

กำรจัดทำงสัญจรแบบน้ีมีทำงออกมำกกว่ำสองทำง ผู้ชมสำมำรถเดินชมได้อย่ำง
อิสระ มโี ถงเป็นศนู ยก์ ลำง สำมำรถเข้ำถึงส่วนต่ำงๆ ได้ทุกห้อง วิธีน้ีอำจทำให้ผู้ชมไม่ได้ชมโดย
ครบถว้ นไม่เหมำะกับ นิทรรศกำรที่มีเนื้อหำต่อเน่ืองกัน รวมทั้งกำรควบคุมด้ำนควำมปลอดภัย
ทำได้ยำก เนอ่ื งจำกมีทำงออกหลำยทำงมำกเกินไป

ข้อดี สำมำรถเลอื กชมได้อย่ำงอสิ ระ
ขอ้ เสีย ควบคุมทำงสญั จรของผ้ชู มในกรณีมผี ู้ชมมำกไดย้ ำก

3. ระบบ CORRIDOR TO ROOM ARRANGEMENT กำรนำทฤษฎีกำรจัดทำงสัญจรให้สอดคล้องกับกำรจัดนิทรรศกำร จะ
ใช้ในรูปแบบของ CENTRALIZED SYSTEM เน่ืองจำกสำมำรถควบคุมกำรชม
กำรจัดให้มีทำงเดินตรงกลำง และ แยกไปยังห้องต่ำงๆ โดยแต่ละห้องจะมีทำงเดิน ชองผู้เข้ำชมนิทรรศกำรได้อย่ำงเป็นระเบียบเพื่อท่ีจะให้ผู้เข้ำชมนิทรรศกำรได้รับ
เข้ำ – ออกโดยตรง ไมผ่ ำ่ นหอ้ งอื่น ๆ ชมนิทรรศกำรตำมลำดับท่ีเรำจัดไว้เพ่ือควำมต่อเนื่องในเนื้อหำท่ีจัดแสดงและทำ
ใหผ้ ู้ชมนทิ รรศกำรไดร้ บั ชมส่ือทจ่ี ัดแสดงอย่ำงครบถ้วน
ขอ้ ดี ผู้ชมสำมำรถเลือกชมไดต้ ำมใจ
ข้อเสีย กำรแสดงไม่ติดต่อกันเป็นกำรขัดจังหวะ กำรแสดงและเปลืองเนื้อที่ในกำร
เดินชม

BD

AC E

ภาพ 3.7 ระบบ CORRIDOR TO ROOM ARRANGEMENT

M U S E U M O F K H U N TH O N G D A N G 57
AND
DOGCARECENTER

3.2.3.6 รปู แบบการจดั ทางสัญจรแบบตา่ ง ๆ

ภาพแสดงระบบทางสัญจรแบบ( WAVING FREELY LAYOUT )

ผงั รูปสำนไปมำอย่ำงอิสระ มักใช้ทำงลำดเข้ำช่วยและใช้องค์ประกอบท่ีน่ำสนใจเป็นตัว
ชักนำผ้ชู มอำจหลงทำงได้ ถ้ำรปู แบบทำงเรขำคณิตเป็นแบบตอ่ เนื่องกนั

ภาพ 3.9 WAVING FREELY LAYOUT ภาพแสดงระบบสญั จรแบบ ( BLOCK APPRANGEMENT )

ภาพแสดงระบบทางสัญจรแบบมีทางเข้าออกหลายทาง คือ เป็นกำรเขำ้ ส่กู ำรจัดแสดงมกี ำรเปล่ยี นแปลงได้ดังนี้
- บล็อกใหญ่เลือกควำมสะดวกในกำรจัดแสดง จุดทำงเข้ำอยู่ตรง
เส้นทำงท่ีเป็นวงจรแบบรอบโถงกลำงเข้ำจำก บันไดกลำงซ่ึงเชื่อมต่อระหว่ำงช้ันโดย
จำเป็นตอ้ งใชแ้ สงธรรมชำตหิ รือมีหลำยชน้ั กลำง
- บล็อกทำงเข้ำจำเป็นต้องอยู่ริมเพื่อสำมำรถใช้พื้นที่กำรจัดแสดง

เตม็ ท่ี

ภาพ 3.10 A TWISTING FREELY LAY OUT ภาพ 3.13 BLOCK APRRANGEMENT

ภาพแสดงการสัญจร ( COMB TUBE ) เป็นกำรวำงผังท่ีมี การเข้าจากจุดศูนย์กลางจากผังรูปดาว มีลักษณะคล้ำยแบบหวี ซ่ึง

ทำงเดินกลำงเป็นหลัก มีส่วนให้เลือกชมในเวลำเดียวกันทำงเข้ำออกอำจจะเป็น ผชู้ มไม่สำมำรถทจี่ ะเล่ือนไหลไปอย่ำงสะดวก และ สำมำรถแยกออกต่ำงหำก
ทำงด้ำนท้ำยด้ำนใดด้ำนหนึ่ง หรือ มีทำงเข้ำอยู่ตรงกลำง ซ่ึงผู้ชมสำมำรถไปทำงซ้ำย ไดค้ วำมสมดุลของกำรจัดแกนทำใหเ้ กิดปัญหำได้
หรือขวำไดท้ นั ทีเป็นกำรเพม่ิ ขอบเขตแก่ผู้ชม
ภาพ 3.14 STAR - SHAPE

ทางเข้าจากด้านกลางผังรูปพัด กำรจัดแบบนี้ทำให้มีโอกำสมำกในกำร

เลือกชม แต่ผู้ชมต้องตัดสินใจในกำรชมเร็ว และ ในทำงจิตวิทยำผู้ชมจะไม่
ชอบนัก เพรำะ รูส้ กึ วำ่ เป็นกำรบงั คับเกนิ ไป และ ท่จี ุดรวมจะเป็นจุดที่ว่นุ วำย

ภาพ 3.11 COMB TUBE

ภำพแสดงระบบทำงสญั จรแบบมีทำงเขำ้ – ออก ทำงเดียว

ภาพ 3.15 FAN - SHAPE

ภาพแสดงระบบทางสัญจรแบบ ( CHAIN LAY OUT ) เป็นกำรวำง

ผงั แบบตอ่ เนื่องเป็นกำรจัดโดยนำหนว่ ยที่แตกตำ่ งกันมำเชื่อมต่อกัน

ภาพ 3.12 A RECTILINEAR CIRCUIT

ภาพ 3.16 CHAIN LAY OUT

M U S E U M O F K H U N TH O N G D A N G

58 A N D
DOGCARECENTER

3.2.3.7 หลักการออกแบบในนทิ รรศการ 3. การเน้น

1. ความเป็นเอกภาพ กำรเน้น (emphasis) เป็นกำรเลือกย้ำทำให้ส่วนใดส่วนหน่ึงของส่ิงเร้ำ
ให้มีควำมเข้มโดดเด่นกว่ำองค์ประกอบอื่น ๆ ช่วยกระตุ้นให้ผู้ชมเกิดกำรรับรู้
เอกภำพ (unity) หมำยถึง ผลรวมขององค์ประกอบที่อยู่ร่วมกันได้อย่ำงเหมำะสม นทิ รรศกำรได้มำกกว่ำสง่ิ แวดลอ้ มท่วั ไป ทำให้ผชู้ มรบั รจู้ ดุ ท่ีเน้นได้ชัดเจนกว่ำส่วน
เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน แสดงให้เห็นถึงควำมเป็นหน่วยเป็นกลุ่มเป็นก้อนเป็นเรื่องเดียวกัน มี อ่ืนที่มีลักษณะเป็นปกติธรรมดำ กำรเน้นใหเ้ กิดจดุ เดน่ อำจตอ้ งอำศัยองค์ประกอบ
ควำมสัมพันธ์ต่อเน่ืองกันและกลมกลืนกัน นอกจำกควำมเป็นเอกภำพจะสำมำรถดึงดูดควำม ศิลป์ ได้แก่ สี แสงเงำ พ้ืนผิว รูปร่ำง รูปทรง ซ่ึงแต่ละองค์ประกอบมีวิธีเน้นได้
สนใจได้ดีแล้ว ยังช่วยในกำรส่ือควำมหมำยให้ผู้ชมเข้ำใจสำระได้ง่ำยย่ิงข้ึนด้วย ประโยชน์ของ หลำยวิธี
ควำมเป็นเอกภำพในนทิ รรศกำร มีประโยชนท์ ้ังตอ่ ผู้จัดและผู้ชมหลำยประกำรคอื ป้องกันควำม
สับสนและควำมเข้ำใจผิด สะดวกในกำรจัดกำรและดำเนินงำน มีจุดเด่นเป็นลักษณะเฉพำะ 1. กำรเน้นด้วยกำรตัดกัน หมำยถึง กำรจัดองค์ประกอบสำคัญของแต่
แตกตำ่ งจำกสิ่งแวดล้อมโดยรอบ เปน็ กำรนำเสนอเนือ้ หำทตี่ รงกับวัตถุประสงค์ สำมำรถกำหนด ละส่วนให้มีควำมเข้มต่ำงกันไปในทิศทำงตรงกันข้ำมจะสำมำรถดึงดูดควำมสนใจ
กลมุ่ เป้ำหมำยไดง้ ำ่ ย สำมำรถจำแนกปัญหำและอุปสรรคได้ชัดเจน ปัจจัยท่ีทำให้เกิดควำมเป็น ได้ดีข้ึน
เอกภำพ ควำมเป็นเอกภำพแสดงออกใหเ้ ห็นรปู แบบตำ่ ง ๆ ดงั ตัวอย่ำง เช่น
ควำมใกล้ชดิ (proximity) 2. กำรเน้นด้วยกำรแยกตัวออกไป หมำยถึง กำรจัดองค์ประกอบอย่ำง
กำรซำ้ (repetition) ใดอย่ำงหนึ่งแยกตัวออกไปจำกกลุ่มองค์ประกอบส่วนใหญ่ซึ่งรวมตัวกันอยู่เป็น
ควำมตอ่ เนือ่ ง (continuation) อันหน่ึงอันเดียวกัน องค์ประกอบท่ีแยกตัวออกไปจะกลำยเป็นจุดเด่น สำมำรถ
ควำมหลำกหลำย (variety) เน้นใหเ้ กดิ ควำมสนใจไดม้ ำกขึน้ เนอื่ งจำกได้รับกำรสนบั สนุนจำกองคป์ ระกอบท่ี
ควำมกลมกลนื (harmony) รวมตัวกนั

2. ความสมดลุ 3. กำรเน้นเนื้อหำโดยรวม กำรจัดนิทรรศกำรโดยเน้นเน้ือหำภำพรวม
ทั้งหมด ไม่มีกำรเน้นจุดใดจุดหน่ึงเป็นจุดสนใจโดยเฉพำะ เนื่องจำกองค์ประกอบ
ควำมสมดุล (balance) เป็นลักษณะกำรจัดองค์ประกอบให้สอดคล้องกับเน้ือหำ ทุกอย่ำงถูกจัดให้มีคุณค่ำต่อกำรรับรู้และกำรเรียนรู้พอ ๆ กัน เป็นกำรสร้ำง
และวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ชมคล้อยตำมโดยไม่รู้ตัว ควำมสมดุลช่วยให้ผู้ชมรู้สึกสบำยไม่อึดอัด ควำมคิดรวบยอด (concept) ของนิทรรศกำรให้เด่นชัดครอบคลุมเนื้อหำทั้งหมด
ในขณะชมนิทรรศกำร เพรำะควำมสมดุลทำให้เกิดควำมรู้สึกพอดีและเหมำะสมกับธรรมชำติ กำรเน้นลักษณะนี้จะช่วยให้เน้ือหำของนิทรรศกำรมีควำมเป็นอันหน่ึงเดียวกัน
ของเนื้อหำ ควำมสมดุลในกำรออกแบบส่ือทัศนศิลป์ในนิทรรศกำรเป็นกำรถ่วงดุลของ หรอื มีเอกภำพ ไมม่ ีส่วนใดแปลกแยกไปจำกสว่ นรวม
องค์ประกอบต่ำง ๆ ให้ควำมร้สู กึ วำ่ มปี ริมำณ ขนำดหรือนำ้ หนกั ของแตล่ ะด้ำนเทำ่ เทยี มกัน
4. กำรเน้นให้เกิดจังหวะ คำว่ำ “จังหวะ” หมำยถึงตำแหน่งของส่ิงเร้ำ
1. ควำมสมดุลแบบสมมำตร คอื ควำมสมดุลที่มีลักษณะซ้ำย – ขวำเท่ำกัน ได้ซ่ึงเกิด ที่ถูกจัดวำงเป็นระยะ ๆ อำจถ่ีหรือห่ำงมีทิศทำงเดียวกันหรือหลำยทิศทำง ขนำด
จำกกำรจัดวำงองค์ประกอบตำ่ ง ๆ ใหม้ ีปรมิ ำณขนำดนำ้ หนกั เทำ่ ๆ กันท้ังซ้ำย ทั้งขวำ เมื่อแบ่ง เดียวกันหรือแตกต่ำงกันหลำยขนำด เป็นต้น กำรจัดองค์ประกอบท่ีมีลักษณะ
คร่ึงด้วยเส้นแกนสมมุติแนวตั้ง ควำมสมดุลลักษณะนี้ให้ควำมรู้สึก น่ิงเฉย ม่ันคง แน่นอน เดียวกันให้อยู่ในแนวเดียวกันอย่ำงเป็นระเบียบจะทำให้รู้สึกจริงจังเคร่งเครียดไม่
จริงจัง มีระเบียบวินัย ดังนั้นจึงมักจะใช้กับเนื้อหำท่ีเกี่ยวกับงำนรำชกำร เรื่องรำวทำงศำสนำ เป็นกันเอง แต่ถ้ำกำหนดให้องค์ประกอบอย่ำงใดอย่ำงหนึ่งให้มีลักษณะผิดปกติ
กำรเมือง กำรปกครอง หรือแปลกไปจำกส่วนอ่ืน ๆ โดยกำรเปล่ียนแปลงสี ขนำด รูปร่ำง ทิศทำงหรือ
ตำแหนง่ พ้ืนผวิ ก็จะทำใหผ้ ลงำนนั้นมีจังหวะท่นี ่ำสนใจมำกข้นึ
2. ควำมสมดุลแบบอสมมำตร คอื ควำมสมดุลท่ีมีลักษณะกำรจัดองค์ประกอบซ้ำย –
ขวำไม่เท่ำกัน ไม่คำนึงถึงควำมเท่ำเทียมของขนำดและปริมำณ แต่คำนึงถึงน้ำหนักท่ีถ่วงดุลกัน 5. กำรเน้นโดยกำรจัดวำงตำแหน่ง กำรจัดองค์ประกอบให้อยู่ใน
เป็นสำคัญ ตัวอย่ำงเช่น ด้ำนซ้ำยของภำพอำจมีรูปลูกแมว 3 ตัว ด้ำนขวำมีรูปแม่แมวตัวเดียว ตำแหน่งทเี่ หมำะสมและทำใหน้ ่ำสนใจด้วยเส้น สี รปู รำ่ ง รูปทรง พื้นผิว เช่น กำร
ทำให้ท้ังสองด้ำนถ่วงดุลน้ำหนักซึ่งกันและกันได้ ควำมรู้สึกแบบอสมมำตรให้ควำมรู้สึก วำงตำแหน่งให้มีทิศทำงคล้อยตำมกัน กำรวำงตำแหน่งให้อยู่ตรงจุดรวมเส้นรัศมี
เคล่ือนไหว ไม่น่ิงเฉย ตื่นเต้น เน้ือหำที่มีลักษณะอิสระเป็นกันเองยืดหยุ่นได้ ไม่เคร่งเครียดมำก กำรวำงตำแหนง่ โดยใช้เส้นนำสำยตำไปยงั ส่วนสำคัญของภำพ
นัก สนุกสนำน ผ่อนคลำย ควำมสมดุลแบบอสมมำตรจึงค่อนข้ำงเป็นท่ีนิยมอย่ำงกว้ำงขวำง
เพรำะเปน็ แสดงออกถึงควำมคิดรสรำ้ งสรรค์ มอี สิ ระ และท้ำทำยในกำรออกแบบ จำกทฤษฎีกำรออกแบบนิทรรศกำร กำรใช้หลักกำรต่ำงๆมำใช้เพื่อ
เพิ่มควำมน่ำสนใจให้กับเน้ือหำนิทรรศกำรโดยจะเน้นแบ่งไปตำมควำม
ภาพ 3.17 เอกภาพ (unity) เหมำะสมตำมรูปแบบเน้ือหำที่จัดวำงไว้ เช่น กำรจัดวำงเน้ือหำ 50 % วำงวัตถุ
กำรแสดง 50 % เพ่ือให้เกิดควำมสมดุลของเน้ือหำเพื่อไม่ให้เกิดควำมเอนเอียง
หนกั ไปทำงดำ้ นใดดำ้ นหนึ่งมำกเกินไป หรือ ถ้ำหำกมีกำรจะเน้นเนื้อหำอย่ำงใด
อยำ่ งหนึ่งก็ควรเลอื ก รูปแบบเนือ้ หำทีม่ ีควำมน่ำสนใจ เช่น องค์ประกอบเน้ือหำ
ส่วนท่ีสำคัญเป็นส่วนหลักส่วนองค์ประกอบย่อยก็ลดทอนให้น้อยลงเพ่ือให้
เน้อื หำมคี วำมละเอียดทม่ี ำกข้นึ ให้ผมู้ ำชมนิทรรศกำรได้รับองค์ประกอบควำมรู้
อย่ำงครบถว้ น

M U S E U M O F K H U N TH O N G D A N G 59
AND
DOGCARECENTER

3.2.3.8 รูปแบบการจดั แสดงสัดสว่ นพิพิธภณั ฑ์ [OBJECTIVE ]

วตั ถุ 3 มติ ิ ประเภท OBJECT หรือ MODEL [BOARDS ]

เป็นวตั ถุที่มขี นำดแตกต่ำงกนั จัดแบ่งวตั ถแุ บบเด่ียว หรือ หลำยๆขนำดประกอบกันเพ่ือ
เพ่ิมควำมน่ำสนใจหรือแสดงควำมสัมพันธ์วัตถุขนำดเล็กจำเป็นต้องมีฐำนรองรับใน
ขณะท่ี วัตถขุ นำดใหญส่ ำมำรถวำงแสดงได้ด้วยตนเอง

ประเภทวัตถุ 2 มติ ิ BOARD

ส่วนใหญจ่ ดเป็นระนำบเปน็ จุด ๆ มีขนำดแตกต่ำงกันไม่มำกในแต่ละชุด เพรำะ กำรนำ
BOARDS มำจัดแสดงครำวละมำกๆ จะทำให้ผู้ชมรู้สึกเบ่ือง่ำย แบ่งออกเป็น 2 ชนิด
คอื

ประเภทแผ่น 2 มติ ิ ( BOARDS ) แบบภำพ 2 มติ ทิ ่วั ไป
ประเภทแผน่ 2 มติ เิ คลือ่ นไหว ( ELECTRONIC BOARDS )
ใช้อุปกรณ์เข้ำช่วยในกำรจัดแสดง เพ่ือเพิ่มควำมสนใจและสำมำรถตอบสนองประสำท
สัมผัสได้มำกกวำ่ ใช้สำยตำอยำ่ งเดียว เช่น ไฟฟ้ำ แสง เสียงรอบทิศโดยอำศัยกำรกดปุ่ม
เป็นต้น

อันตรทัศน์ ( DIORAMA )

เป็นกำรนำ BOARDS ซ่ึงจัดเป็นฉำกและวัตถุประเภท OBJECTIVE หรือ MODEL
ประกอบกัน เพ่ือแสดงให้เห็นบรรยำกำศใกล้เคียงกับควำมจริงมำกขึ้น ขนำดเล็กสุด
ของตู้ประมำณ 0.6 x 0.6 เมตร และ มีขนำดใหญ่ขึ้นจนอำจจัดเป็นห้องสำมำรถเดิน
เข้ำไปเป็นสว่ นหน่ึงของกำรจดั แสดงได้

ประเภทเครื่องฉายภาพ ( EQUIPMENT )

เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้ำอิเล็กทรอนิคส์ มีข้อจำกัดบำงอย่ำงในกำรแสดง เพรำะจำเป็นต้อง
ควบคุมแสงสว่ำง ดังน้ัน กำรจัดแสดงต้องมีสัดส่วนเฉพำะเป็นห้องหรือส่วนท่ีควบคุม
แสงสวำ่ งได้

[EQUIPMENT ]

M U S E U M O F K H U N TH O N G D A N G รปู แบบของ BOARD ขนำด 2.40x1.80
ใช้พน้ื ทจี่ ัดแสดง 4.32 ตร.ม.
60 A N D
DOGCARECENTER

3.2.3.9 ขนาดพน้ื ท่ใี ช้สอย OBJECT และ MODEL

ต้จู ัดแสดงขนำดเลก็ ขนำดตู้ 0.60 x 0.60
ขนำดพืน้ ที่แสดงงำน 1.20 x 0.60 = 0.72 ตรง.ม.

ภาพ 3.18 ตู้จดั แสดงขนาดเลก็ ภาพ 3.22 พ้ืนท่ีจดั แสดง BOARDS ขนาดใหญ่

ตจู้ ัดแสดงขนำดใหญ่ ขนำดตู้ 2.00 x 1.20 รูปแบบของ WALL BOARD ขนำด 3.6 x 3.6
ขนำดพื้นท่แี สดงงำน 4.00 x 4.40 = 17.60 ตรง.ม. ใช้พ้ืนทจ่ี ดั แสดง 12.96 ตร.ม.

ภาพ 3.19 พื้นทจ่ี ัดแสดงขนาดใหญ่ ภาพ 3.23 พน้ื ท่ีจัดแสดง BOARDS ขนาดใหญ่ สาหรบั ชมเปน็ คู่

ขนาดพ้ืนท่ใี ชส้ อย BOARDS ขนาดพื้นทใี่ ชส้ อย DIORAMA BOARDS

รปู แบบของ BOARD ขนำด1.20x1.80 รูปแบบของ DIORAMA BOARD ขนำด 2.40 x 3.00
ใช้พน้ื ท่จี ัดแสดง 2.16 ตร.ม. ใช้พน้ื ที่จัดแสดง 5.04 ตร.ม.

ภาพ 3.20 พนื้ ทจ่ี ดั แสดง BOARDS ขนาดเล็ก ภาพ 3.24 พ้ืนท่จี ัดแสดง DIORAMA BOARDS ขนาดเลก็

รูปแบบของ BOARD ขนำด 1.80x2.40 รปู แบบของ DIORAMA BOARD ขนำด 3.6x3.0
ใช้พน้ื ทจี่ ัดแสดง 4.32 ตร.ม. ใช้พื้นท่จี ัดแสดง 10.8 ตร.ม.

ภาพ 3.21 พืน้ ทีจ่ ัดแสดง BOARDS ขนาดกลาง ภาพ 3.25 พ้นื ที่จัดแสดง DIORAMA BOARDS ขนาดใหญ่ สาหรับชมเป็นคู่

M U S E U M O F K H U N TH O N G D A N G 61
AND
DOGCARECENTER

รูปแบบของ DIORAMA BOARD ขนำด 3.40 x 4.60 อันตรทศั น์ ( DIORAMA )
ใช้พื้นทจี่ ดั แสดง 15.64 ตร.ม.

ภาพ 3.26 พื้นที่จัดแสดง DIORAMA BOARDS ขนาดใหญ่
สาหรบั ชมได้หลายมุมมอง

[BOARDS]

WALL
[BOARDS]

M U S E U M O F K H U N TH O N G D A N G

62 A N D
DOGCARECENTER

ภาพ 3.27 ภาพแสดงมมุ มองการมองเห็นของมนุษย์

ขอบเขตการมองเห็น

มนุษย์มีขอบเขตกำรมองเห็นที่จำกัด ควำมสำมำรถ ในกำรมองเห็นแบบไม่ต้องหันศีรษะ
ขอบเขตอยู่ท่ี ประมำณ 40 องศำ แต่ในควำมจริงแล้วมนุษย์แลเห็นได้กว้ำงถึง 120 องศำ
โดยหำมุมทำงตั้งมำกกว่ำมุมมองทำงนอน ส่วน ARCHITECT DATA ได้กำหนดมุมมอง
ทำงด้ำนตั้งของมนุษย์ไว้ท่ี 27 องศำ เหนือระดับสำยตำ และ 27 องศำใต้ระดับสำยตำ
เพรำะเป็นมุมมองที่สะดวกสบำยที่สุดโดยไม่ต้องก้ม หรือ เงยศีรษะ ฉะนั้นกำรพิจำรณำ
รูปแบบกำรจัดวำงศิลปวัตถุให้สอดคล้องควำมสัมพันธ์กับขอบเขตกำรมอง หรือ ลักษณะ
กำรหันศรี ษะของมนษุ ยจ์ งึ มีผลตอ่ กำรจดั นทิ รรศกำรเชน่ กนั

การแบง่ ประเภทสุนัขตามขนาด ( งานจดั แสดงวัตถุ 3 มิติ )

สุนัขขนาดเลก็ สุนัขขนาดกลาง สุนขั ขนาดใหญ่

ในกำรจดั กำรนำเสนอนิทรรศกำรควรจัดให้สมั พันธก์ บั สรีระกำรมองเห็นของมนุษย์ และ
วัตถุที่นำมำเสนอในนิทรรสกำร ในที่น้ีหมำยถึงกำรนำเสนอเร่ืองรำวเกี่ยวกับสุนัข โดยตัว
นิทรรศกำรจะมีรูปแบบนำเสนอเนื้อหำทั้งแบบ 2 มิติ และ 3 มิติ ในรูปแบบ 3 มิติ จะเป็นกำร
นำเสนอตวั โมเดลขนำด 1 : 1 ซ่งึ ตำมมำตรฐำนสำกลสุนัขแบง่ ประเภทตำมขนำดอยู่ 3 ขนำดในที่นี้
กำรเลือกรูปแบบกำรนำเสนอควรดูจำกรูปร่ำงสรีระของสุนัขรวมถึงระยะกำรมองเห็นของผู้ชม
นิทรรศกำร เพอ่ื ใหผ้ ชู้ มนทิ รรศกำรไดช้ มนทิ รรศกำรอย่ำงสะดวก

M U S E U M O F K H U N TH O N G D A N G 63
AND
DOGCARECENTER

3.2.3.10 การใช้แสงสว่างในพพิ ธิ ภัณฑ์

กำหนดกำรใช้แสงสว่ำงสำหรับโครงกำรประเภทพิพิธภัณฑ์มีควำมจำเป็น
อย่ำงย่ิงท่ีจะกำหนดนิทรรศกำรโดยเฉพำะ และกำรให้แสงสว่ำงเข้ำโครงกำรสำมำรถ
แบ่งออกเปน็ 2 ทำง คือ

1. แสงประดษิ ฐ์ ( ARTIFICAL LIGHTING )
2. แสงธรรมชำติ ( NATURE LIGHTING )

แสงธรรมชาติ

แสงธรรมชำติก่อให้เกิดบรรยำกำศให้เป็นไปตำมธรรมชำติและชีวิตชีวำกำร
นำแสงธรรมชำติเข้ำมำใช้นั้นมีหลำยรูปแบบ หำกพิจำรณำถึงรูปแบบที่สำคัญต่อกำรใช้
งำนแบ่งไดด้ งั น้ี

การนาแสงธรรมชาติจากทางดา้ นขา้ ง ( SLIDE LIGHTING )

เปน็ กำรนำแสงธรรมชำติเข้ำมำในอำคำรผ่ำนทำงช่องเปิดด้ำนข้ำงเป็นรูปแบบพื้นฐำนท่ี
อำจพบเห็นได้บ่อยที่สุดมีลักษณะหลำยรูปแบบเช่น หน้ำต่ำงท่ัวไปของอำคำร ช่องแสง
เปิดชำย ผนังกระจกเอียง กำรสะทอ้ น รวมถงึ วตั ถุ เช่น กระจกใส กระจกฝ้ำ กระจกติด
ฟลิ ์ม

การนาแสงธรรมชาตจิ ากทางด้านบน ( TOP LIGHTING )

เป็นกำรนำแสงธรรมชำติเข้ำมำในอำคำรผ่ำนทำงช่องเปิดบนหลังคำ ซ่ึงมีท้ังรูปแบบ ภาพ 3.28 ภาพแสดงการนาแสงธรรมชาติมาใช้กบั นิทรรศการ
ของช่องเปิดท่ีติดต้ังในระดับสูง ช่องเปิดด้ำนที่สำดแสงไปที่ผนังช่องเปิดแบบฟันเล่ือย
ช่องเปดิ ด้ำนบนกับฝ้ำเพดำน ช่องเปดิ บนผนงั โค้งเพอ่ื ทำให้แสงนุม่ นวลมำกข้ึน สำมำรถ [NATURE]
ประยุกต์ใช้ในกำรออกแบบไดห้ ลำกหลำย
LIGHT
การนาแสงผา่ นโถงหรือช่องเปิดขนาดใหญ่
( ATRIUM OR LIGHT WELL )

เป็นกำรนำแสงธรรมชำติผ่ำนช่องเปิดขนำดใหญ่ เช่น ช่องเปิดระหว่ำงตัวอำคำรที่ไม่มี
หลังคำปิด ซ่ึงสำมำรถนำแสงเข้ำมำยังพ้ืนท่ีได้ และ กระจำยไปยังพ้ืนท่ีช้ันอ่ืนๆ ของ
อำคำรได้บริเวณกวำ้ งมำกขน้ึ

[LIGHT]

M U S E U M O F K H U N TH O N G D A N G

64 A N D
DOGCARECENTER

3.2.3.10 การใช้แสงสวา่ งในพิพธิ ภัณฑ์ ( ตอ่ )

แสงประดิษฐ์

แสงประเภทน้ีช่วยให้งำนจัดแสดงโดดเด่น น่ำดึงดูด สร้ำงควำมน่ำสนใจ และ แสงประดิษฐ์
สำมำรถดัดแปลงมำใช้ในมมุ ตำ่ งๆ ไดส้ ะดวก แสงไฟ FLUORESCENT คล้ำยธรรมชำติมำกและ
อำจดดั แปลงให้เหมำะสมกบั วตั ถุได้

นอกจำกรปู แบบกำรนำเสนอนทิ รรศกำรจะมคี วำมสำคัญแลว้ รูปแบบกำร
นำเสนอโดยใช้แสงก็เป็นเร่ืองสำคัญ คอื นอกจำกจะชว่ ยเพิม่ ควำมน่ำสนใจใหก้ บั
เนอ้ื หำทจ่ี ดั แสดงแล้วยงั ช่วยเป็นสอื่ กลำงในกำรเล่ำเร่ืองรำวในกำรเลำ่ เรื่องรำวของ
นิทรรศกำรได้อกี ด้วย ดว้ ยเนือ้ หำทที่ ำกำรแสดงเปน็ เนือ้ หำทั้ง 2 มติ ิ และ 3 มติ ิ โดย
เนือ้ หำท่เี ปน็ ส่วนบรรยำยจะใชร้ ปู แบบแสงประดิษฐ์เพื่อให้ได้ควำมชัดเจนของเน้ือหำ
และ แสงประดิษฐจ์ ะช่วยใหผ้ ชู้ มนทิ รรศกำรสำมำรถรับชมได้ตลอดเวลำโดยไมต่ อ้ ง
คำนึงถงึ เวลำในกำรจัดแสดง ส่วนเนือ้ หำกำรจดั แสดงโมเดล 3 มติ ิกำรใช้แสงกม็ สี ่วน
ช่วยใหว้ ัตถุในกำรจัดแสดงมคี วำมเดน่ ชัดขึ้นโดยมกี ำรวิจัยพบวำ่ มนุษยจ์ ะสนใจวัตถสุ ่ิง
ใดสิ่งหนงึ่ จำกสง่ิ ท่มี สี สี นั ตโ์ ดดเดน่ หรอื ทม่ี ีควำมสวำ่ งมำกกวำ่ โดยจะเปน็ กำรเน้นให้
วตั ถุที่จดั แสดงมีควำมเด่นชัดขึน้ มำนัน่ เอง

ภาพ 3.29 การใช้แสงในพิพธิ ภณั ฑ์

M U S E U M O F K H U N TH O N G D A N G 65
AND
DOGCARECENTER

3.2.4 รูปแบบห้องประชุม (Auditorium Shape) ภาพ 3.30 รูปแบบห้องประชมุ แบบสเี่ หล่ียมผืนผา้
ภาพ 3.31 รปู แบบห้องประชมุ แบบรูปพัด
รูปแบบหอ้ งประชมุ มีหลำยลักษณะตำมแต่สถำปนิกจะออกแบบในรูปแบบใด เช่น
2.1 แบบส่ีเหลยี่ มผนื ผำ้ (Rectangular floor shape) ภาพ 3.32 รปู แบบหอ้ งประชุมแบบรปู เกือกม้า
2.2 แบบรูปพดั (Fan shape) ภาพ 3.33 รปู แบบหอ้ งประชุมแบบรูปวงกลม
2.3 แบบรปู เกือกม้ำ (House shoe, ellipse floor shape)
2.4 แบบรปู วงกลม (Form circular floor shape)2.5 แบบรูปอสิ ระ (Free form
shape, or irregular form)

3.2.4.1 รูปแบบห้องประชุมแบบสเ่ี หลีย่ มผนื ผ้า

กำรออกแบบห้องท่ีมีผนังคู่ขนำนกันไปหำกเป็นท่ีแคบ จะมีปรำกฏกำรณ์ของเสียง
วิ่งกลับไปมำในห้อง (Sound Flutter) ดังน้ันกำรแก้ไขปัญหำห้องรูปแบบสี่เหล่ียมผืนผ้ำ
แคบๆ จึงต้องทำให้ผนังท้ังสองด้ำนเอนออก (Tilt) จำกกันข้ำง นอกจำกนี้สัดส่วนของห้องที่
เหมำะสมท่สี ดุ ในกำรรับฟังเสยี งทด่ี ี ต้องไม่แคบเกินไปและไม่กวำ้ งเกนิ ไป สัดสว่ นของ
ผนงั ห้อง กว้ำง : ยำว เป็น 1:1.2 ควำมยำวของห้องท่ีรบั ฟังเสียงทด่ี ีได้ ตอ้ งไม่เกิน 2 เท่ำของ
ควำมกว้ำง

3.2.4.2 รปู แบบห้องประชมุ แบบรูปพดั

ลักษณะของห้องประชุมรูปแบบน้ี เหมำะสำหรับใช้เพ่ือชมกำรแสดง มำกกว่ำกำร
รับฟังเสียงดนตรีหรือเป็นรูปแบบของ Concert Hall เพรำะเสียงดนตรีท่ีมีควำมถ่ีสูงจะไม่
กระจำยเสียงไปด้ำนข้ำงท่ัวห้องประชุมเน่ืองจำกคลื่นเสียงของควำมถ่ีสูงน้ีจะมีขนำดเล็ก
เดินทำงเป็นทิศทำงตรง ไม่กระจำยออกไปทำงกว้ำงเช่น เสียงของไวโอลิน ฉ่ิง หรือ Cow
Bell ส่วนคลื่นเสียงของควำมถี่ต่ำมีขนำดใหญ่จะกระจำยออกได้มำกทั่วห้องเช่น เสียงเบส

เพรำะฉะนั้นผู้ที่นั่งอยู่กลำงห้องประชุมเท่ำนั้นท่ีจะได้ยินและรับฟังเสียงสูง เช่น
เสียงของไวโอลินได้ชัดเจนส่วนผู้ท่ีอยู่บริเวณสองข้ำง ของห้องจะได้ยินเสียงน้อยลงไปมำก
ส่วนกำรชมกำรแสดงผู้ชมท่ีนั่งด้ำนหลังก็จะขยับเข้ำใกล้เวทีกำรแสดงกระจำยออกไปทำง
ดำ้ นขำ้ งทำให้ สำมำรถชมกำรแสดงได้ชัดเจนข้นึ

3.2.4.3 รูปแบบห้องประชมุ แบบรูปเกอื กม้า

เปน็ รูปแบบทีผ่ สมผสำนระหว่ำงรปู สเ่ี หลย่ี มผนื ผ้ำกบั รูปทรงกลม โดยขยำยด้ำนสกัด
ของเหลย่ี มออกไปให้เปน็ โค้ง ส่วนใหญ่รูปแบบน้ีมักจะสอดคล้องไปตำมรูปทรง (Mass) ของ
ที่ว่ำง (Space) ของห้องประชุมนั้นมำกกว่ำ ลักษณะรูปแบบอำจจะไปทำง Rectangular
Shape หรือ Fan Shape นั้นข้ึนอยู่กับตำแหน่งเวทีเพรำะฉะนั้น กำรออกแบบห้องประชุม
รูปทรงน้ีต้องออกแบบรูปทรงเวทีพร้อมกันไปด้วย หำกมีกำรเปลี่ยนแปลงเป็นกำรฉำย
ภำพยนตร์ คนดูด้ำนข้ำงก็จะไม่สำมำรถแลเห็นได้อย่ำงชัดเจน หำกมีกำรเปล่ียนแปลงเป็น
กำรฉำยภำพยนตร์ คนดูด้ำนข้ำงก็จะไม่สำมำรถแลเห็นได้อย่ำงชัดเจน ปัญหำด้ำนเสียงก็
จะต้องแก้ไขปญั หำของกำรรวมตัวของเสียง (Sound Foci) อันเนื่องมำจำกผนังที่โค้งเว้ำเข้ำ
(Concave)

3.2.4.4 รปู แบบห้องประชมุ แบบรูปวงกลม

รปู ทรงวงกลมของหอ้ งประชมุ ประเภทน้ี เหมำะสำหรับกำรชกมวย หรือกำรแข่งขัน
กฬี ำ เช่นบำสเกตบอล วอลเลย่ บ์ อล มำกกว่ำกำรแสดงละครหรอื ดนตรี สิ่งท่ีควรระวังในกำร
ออกแบบห้องประชุมประเภทน้ี คือ กำรเกดิ เสียงสะท้อนรวมกัน (Sound Foci) ขน้ึ ได้

3.2.4.5 รปู แบบหอ้ งประชุมอิสระ

กำรออกแบบหอ้ งประชุมรูปแบบอิสระน้ีขึ้นอยู่กับควำมต้องกำรเน้นรูปลักษณะเป็น
หลักประโยชน์ใช้สอยตำมใบกำกับรูปลักษณะนั้นๆ กำรเลือกรูปแบบต้องระมัดระวังเรื่อง
ของจุดเสียงดับ (Dead Spot) จุดสะท้อนรวมตัวของเสียง (Sound Foci) ด้วย กำรใช้งำน
คงจะเน้นใหด้ ใี นเรือ่ งของเสยี งคงจะไม่ได้

M U S E U M O F K H U N TH O N G D A N G

66 A N D
DOGCARECENTER

3.2.5 รปู แบบเวทหี ้องประชุม (Stage Types) ภาพ 3.34 รูปแบบเวทีปลายหอ้ ง

ตำแหน่งและรูปแบบเวทีมีสว่ นสำคัญอยำ่ งยิง่ ต่อกำรออกแบบห้องประชมุ ท่วั ๆ ไป
รูปแบบเวทสี ำมำรถแบ่งไดด้ งั น้ี คอื

3.1 End Stage
3.2 Open Stage
3.3 Central Stage or Island Stage or Arena Stage
3.4 Adaptable Stage

3.2.5.1 End Stage (เวทปี ลายหอ้ ง)

เปน็ รปู แบบของเวทใี นหอ้ งประชมุ ท่วั ๆไป คืออยู่ทำงปลำยด้ำนหน่ึงของรูปทรงห้อง
ประชุม เป็นรูปทรงท่ีเหมำะที่สุดและสำมำรถควบคุมกำรดูและกำรรับฟังของผู้ชมได้ง่ำย
ควบคมุ เสยี งได้ดเี หมำะสำหรบั กำรชมดนตรี กำรแสดง และกำรปำฐกถำ

3.2.5.2 Open Stage (เวทเี ปดิ )

เป็นเวทที ่เี น้นกำรชมกำรแสดงมำกกวำ่ กำรฟงั เชน่ ใชเ้ ดินแฟชนั่ โชว์ ฯลฯ กำร
ควบคุมเสยี งกระทำไดย้ ำก แตก่ ำรแสดงน้นั ผู้ชมและผู้แสดงมีโอกำสไดส้ มั ผัสใกล้ชิดมำกขน้ึ

3.2.5.3 Arena Stageหรอื Central Stage หรอื Island Stage ภาพ 3.35 รปู แบบเวทีเปิด

เหมำะสำหรับกำรแสดงตำ่ งๆ ที่มองดูรอบตวั กำรแสดง รวมทัง้ รำยกำรชกมวยแตไ่ ม่
เหมำะสำหรบั กำรใหเ้ สยี งทีด่ ี พื้นท่ีทุกด้ำนของเวทนี เี้ ปิดสผู่ ้ชู มทง้ั หมดทกุ ด้ำน กำรกระจำย
เสยี งจะคำนึงถึงกำรกระจำยเสยี งท่ีออกมำจำกแหล่งกำเนิดเสียงโดยตรงเป็นหลกั มำกกว่ำกำร
สะทอ้ น เพรำะมพี ื้นที่ของกำรสะท้อนเสยี งน้อย

3.2.5.4 Adaptable Stage เวทปี รับได้

เปน็ เวทที ่สี ำมำรถปรับไดแ้ ละดดั แปลงรูปทรงได้ตำมควำมจำเปน็ ของงำน และ ภาพ 3.36 รูปแบบเวที Arena Stage
จดุ ประสงค์ของประโยชน์ใช้สอยทต่ี ำ่ งกัน กำรควบคมุ เพือ่ ให้ได้รบั ฟังเสียงไดด้ กี ระทำไดย้ ำก หรือ Central Stage หรือ Island Stage
มำก เวทปี ระเภทนี้โดยมำกเป็นเวทีเอนกประสงค์ เชน่ เวทีห้องประชมุ ประจำโรงเรยี น ซง่ึ ใช้
สำหรับเล่นกีฬำ ประชุม แสดงละคร และกำรแสดงดนตรี ฯลฯ

ภาพ 3.37 รูปแบบเวที Adaptable Stage

รปู แบบหอ้ งบรรยำยทีน่ ำมำใช้ คือ รูปแบบส่ีเหลยี่ มผนื ผ้ำ เป็นรปู แบบของเวทีในห้องประชมุ ท่วั ๆไป คอื อยทู่ ำง
ปลำยด้ำนหน่ึงของรูปทรงหอ้ งประชุม เป็นรูปทรงท่ีเหมำะท่ีสดุ และสำมำรถควบคมุ กำรดแู ละกำรรับฟงั ของผชู้ มได้งำ่ ย
ควบคมุ เสยี งไดด้ ี เนื่องจำกฟงั คช์ นั่ กำรใชง้ ำนท่ีต้องกำรเปน็ รปู แบบกำรเป็นสถำนที่พักคอยใหผ้ ้ทู ่ีมำเขำ้ ชมนทิ รรศกำรใน
พิพธิ ภณั ฑเ์ ป็นหม่คู ณะมำไว้รวมตัวก่อนท่จี ะเดนิ เขำ้ ชมนทิ รรศกำร เนอื่ งจำกรปู แบบห้องบรรยำยนี้สำมำรถควบคมุ ดูแลผู้ฟังได้
งำ่ ยเหมำะสำหรับห้องรองรับ ส่วนลำนกิจกรรมกลำงแจ้งจะใช้รูปแบบ open stage เพรำะจะเนน้ ไปในทำงกจิ กรรมกำรแสดง
โชวเ์ พอ่ื ให้ผู้ชมสำมำรถใกลช้ ิดกับสุนขั และกำรแสดงอย่ำงใกลช้ ิด

M U S E U M O F K H U N TH O N G D A N G 67
AND
DOGCARECENTER

3.2.6 หลกั การออกแบบสว่ นศูนย์ชว่ ยเหลอื สนุ ัข สาหรับคลินกิ ท่ไี มไ่ ดร้ บั สัตว์ปว่ ยไวค้ ้างคืน

3.2.6.1 ขอ้ บงั คบั การออกแบบศนู ย์พยาบาลสัตว์ขนาดเล็ก กำรให้บริกำรด้ำนศัลยกรรม ผ่ำตัด ต้องให้มีกำรควบคุมกำรติด
เชื้อในระหว่ำงกำรผ่ำตัดและหลังกำรผ่ำตัด และควรมีพื้นท่ีใช้สอยไม่น้อย
การออกแบบพืน้ ท่ี กว่ำ 36 ตำรำงเมตร

ควรมีห้องตรวจรักษาโรคที่จดั ไว้เฉพาะอย่างน้อย 1 ห้อง พืน้ ท่ีไม่
น้อยกว่า 6 ตารางเมตร ถ้าเป็นคลินิกท่ีรับสตั ว์ป่ วยไว้ค้างคืน ควรมีห้อง
ผ่าตัดอย่างน้อย 1 ห้อง แยกไว้ต่างหากพืน้ ท่ีไม่น้อยกว่า 6 ตารางเมตร
และต้องมีพืน้ ท่ีใช้สอยไม่น้อยกว่า 48 ตารางเมตร ให้สะดวกต่อการ
ปฏบิ ตั งิ านอยา่ งปลอดภยั ทงั้ สตั ว์ป่วยและผ้ปู ฏบิ ตั งิ าน

AREA การใชพ้ ืน้ แบบอีพอกซี่ (Epoxy)

พน้ื ท่ีท่ตี อ้ งควบคุมสตั ว์ทีม่ ีพาหะโรค จะทำให้พื้นมีควำมเรียบ ไร้รอยต่อ ทำให้ง่ำยต่อกำรทำควำม
สะอำดและฆ่ำเชื้อ หลีกเล่ียงกำรเพำะเช้ือโรค รวมไปถึงกำรออกแบบห้องท่ีมี
ควรออกแบบให้มีห้องกักกันสัตว์ ในขนำดท่ีเหมำะสม ไม่แคบจนเกินไป ช่องกระจกใสทะลุ จะช่วยให้ง่ำยต่อกำรสังเกตอำกำรสัตว์ป่วยที่ต้องพักเพ่ือ
เพรำะจะทำให้สตั ว์เกดิ ควำมเครยี ดได้ง่ำย รับกำรรักษำ

MATERIAL

CONTROL

เน่ืองจำกศูนย์ดูแลสุนัขสยำมจะมีส่วนท่ีมีไว้สำหรับในกำรดูแลสุนัข และ
ส่วนท่ีตรวจสุขภำพสุนัขเบื้องต้น ท้ังนี้ทำงโครงกำรส่วนนี้จะเข้ำข่ำยศูนย์พยำบำลสัตว์
ขนำดเล็ก โดยส่วนของกำรออกแบบนั้นก็จะใช้ส่วนของข้อบังคับในกำรออกแบบของ
ศูนย์พยำบำลสัตว์ขนำดเล็กมำเป็นแบบในกำรออกแบบโครงกำรส่วนนี้ เช่น กำร
ออกแบบพ้นื ทตี่ อ้ งมีพน้ื ทใ่ี ชส้ อยสำหรับหอ้ งตรวจตอ่ ห้องอย่ำงน้อย 6 ตร.ม. แต่ในส่วน
ของโครงกำรน้ีเป็นแค่ส่วนตรวจสุขภำพเบื้องต้นเท่ำน้ัน จะไม่มีส่วนที่ปฏิบัติกำรรักษำ
พิเศษเชน่ กำรผำ่ ตดั ซ่ึงในส่วนน้ีทำงโครงกำรจะสง่ มอบหนำ้ ทใ่ี ห้กบั โรงพยำบำลสัตว์ของ
คณะ สัตวแพทยศ์ ำสตร์ มหำวทิ ยำลยั ขอนแกน่ ทำหนำ้ ทดี่ ำเนินกำรตอ่ ไป

M U S E U M O F K H U N TH O N G D A N G

68 A N D
DOGCARECENTER

3.2.6.2 การตอบสนองของสุนัข 2. การดมกลิ่นของสนุ ัข

1. การมองเหน็ ของสนุ ขั กำรดมกลิน่ จัดเป็นสัญชำตญำณแห่งกำรรับรู้ ท่ีต้องอำศัย
สี ท้ังประสบกำรณ์และกระบวนกำรในกำรเรียนรู้ สุนัขได้ประโยชน์
มำกมำยจำกกำรดมกลิ่น ทั้งเพ่ือกำรรับรู้ข้อมูล ใช้เตือนภัย และใช้ใน
กำรมองเห็นภำพของสุนัขไม่ได้ชัดเจนเหมือนคนเรำ แต่จะออกเบลอๆ ไม่ค่อยชัด เรื่องของพฤติกรรมทำงเพศ โดยที่จมูกของสุนัขจะทำงำนร่วมกับ
คล้ำยกับคนสำยตำสน้ั เนอื่ งจำกดวงตำของสนุ ัขมีเซลล์รูปกรวย (Cones) ซ่ึงเป็นเซลล์รับแสง อวัยวะพิเศษที่ชื่อว่ำ Jacobson’sorgan หรือ Vomero-nasal organ
ที่ทำหน้ำที่ในกำรมองเห็นสีและเงำในท่ีสว่ำงน้อยกว่ำคนเรำ จึงทำให้ภำพที่เห็นไม่คมชัด โดย ซึ่งเป็นเน้ือเยื่อลักษณะเป็นท่อแคบ ๆ 1 คู่ อยู่บริเวณเพดำนแข็งทำ
น้องหมำจะเห็นวัตถุในระยะ 20 ฟุต ได้ในระยะเดียวกับท่ีคนเห็นในระยะ 75 ฟุต ถือว่ำ หน้ำท่ีรับฟีโรโมน (pheromone) เห็นได้จำกกำรที่สุนัขตัวผู้สำมำรถ
ประสิทธิภำพในกำรมองเห็นวัตถุน้อยกว่ำคนเกือบ 4 เท่ำตัวเลยทีเดียว เพรำะฉะน้ัน หำกวัน รับรู้ได้ว่ำ สุนัขตัวเมียตัวไหนกำลังเป็นสัดอยู่ บำงตัวอำจทำหน้ำเผยอ
ไหนเรำเดินอยู่ในที่ไกลๆ แล้วสุนัขจำไม่ได้ว่ำเป็นเรำ ก็อย่ำน้อยใจว่ำสุนัขไม่รัก จำไม่ได้ แล้วยกริมฝีปำกบนขึ้น เพื่อให้เน้ือเย่ือส่วนน้ีรับสำรเคมีได้ดีขึ้น เรำ
เรียกท่ำทำงแปลก ๆ แบบน้ีวำ่ Flehmen
อย่ำงไรก็ตำม ยังมีสุนัขบำงสำยพันธ์ุที่มีประสิทธิภำพในกำรมองเห็นได้เทียบเท่ำ
ใกล้เคียงกับคน เช่น ลำบรำดอร์ รีทรีฟเวอร์ เยอรมัน เชฟเพิร์ด ซึ่งมักเป็นสำยพันธุ์ที่นำไปใช้ น อ ก จ ำ ก นี้ ภ ำ ย ใ น จ มู ก ยั ง มี เ ซ ล ล์ รั บ ก ล่ิ น ท่ี เ รี ย ก ว่ ำ
เปน็ สนุ ขั นำทำง และสนุ ัขทใ่ี ชใ้ นพ้นื ที่สงครำม คอยตรวจตรำควำมผิดปกติในที่นั้นๆ เปน็ ตน้ Olfactory cells อยู่จำนวนมำก สำมำรถรับกลิ่นท่ีลอยมำทำงอำกำศ
จำกแหลง่ ใกล้ไกลได้ เซลลเ์ หล่ำนี้จะอยู่ตำมผิวในโพรงจมูก (olfactory
ภาพ 3.38 การมองเหน็ แบบสขี องมนษุ ย์ ภาพ 3.39 การมองเหน็ แบบสขี องสนุ ัข mucous membrane) ในสุนัขจะมีกำรพัฒนำในส่วนนี้ค่อนข้ำงมำก
โดยมีขนำดพ้ืนท่ีเฉลี่ยอยู่ท่ี 125-150 ตำรำงเซนติเมตร แตกต่ำงจำก
ความชัดเจน คนซ่ึงมขี นำดพน้ื ทแ่ี คเ่ พียง 4-5 ตำรำงเซนติเมตรเท่ำน้ัน ซึ่งสุนัขแต่ละ
พนั ธ์กุ จ็ ะมขี นำดไม่เท่ำกัน ควำมไวในกำรดมจึงลดหลั่นกันไป โดยสุนัข
สุนัขจะมองเห็นได้ในระยะใกล้ๆ เท่ำนั้น โดยมีกำรทำทดสอบพิเศษเพ่ือ ทม่ี หี น้ำยำวจะมพี นื้ ทใ่ี นกำรรบั กลิน่ ที่มำกกว่ำ

เปรียบเทียบกันระหว่ำงสุนัขกับมนุษย์ ซ่ึงมนุษย์สำมำรถมองเห็นได้ในระยะ 75 ฟุต (22 กำรนำทฤษฎีกำรตอบสนองของสุนัขไปใช้ในงำนอำคำร คือ กำร
นำมำใช้กับสภำพแวดล้อมภำยในศูนย์ดูแลสุนัข เน่ืองจำกภำยในศูนย์เต็มไป
เมตร) แตกต่ำงกบั สุนัขทม่ี องเห็นได้ไกลทสี่ ดุ เพยี ง 20 ฟุต (6 เมตร) เทำ่ น้นั ด้วยสนุ ขั จรจดั ที่ถูกนำมำรบั ดแู ลในสภำพก่ึงเปดิ กึง่ ปิด โดยท่ัวไปลักษณะนิสัย
ของสุนัขจรจัดอำจจะคงเหลือควำมดุร้ำยและควำมไม่เคยชินกับสถำนที่อยู่
ภาพ 3.40 ความคมชดั ในการมองมองเห็นของมนษุ ย์ ภาพ 3.41 ความคมชัดในการมองมองเหน็ ของสุนัข บ้ำงจึงจำเป็นต้องมีกำรออกแบบสภำพแวดล้อมเพ่ือเอ้ืออำนวยกับสุนัขจรจัด
ประเภทน้ีไว้ วิธีกำรแก้ปัญหำก็คือกำรศึกษำลักษณะนิสัยในกำรตอบสนอง
แสงสวา่ ง ของสุนัขเพ่ือที่จะได้ควบคุมสุนัขตำมสภำพแวดล้อมท่ีเรำกำหนดได้ ไม่ว่ำจะ
ใช้โทนสีเพื่อให้สุนัขรู้สึกไม่ถูกปิดล้อมมำกเกินไปจะได้ไม่ให้เกิดควำมเครียด
ดวงตำของสนุ ัขไมส่ ำมำรถกำหนดควำมแตกต่ำงของแสงสว่ำงได้ รวมไปถึงควำม กับสุนัขที่มำดูแล และ กำรใช้กำรตอบสนองกล่ินท่ีดีของสุนัขมำควบคุม
แตกต่ำงของเฉดสี เพรำะฉะน้ันภำพที่มีควำมแตกต่ำงของควำมสว่ำงและเฉดสีมำกๆ จะ พฤติกรรมสุนัข เช่น กำรควบคุมสุนัขให้ไปในทิศทำงที่เรำกำหนดไว้โดยใช้
กลำยเป็นโทนเดยี วกันหมดเลย กลิ่นเป็นตัวล่อ จะทำให้สุนัขไม่รู้สึกถูกบังคับในกำรใช้ชีวิตแต่จะใช้สัญชำติ
ญำณในกำรใช้ชวี ติ ไดเ้ องอย่ำงอิสระ

ภาพ 3.41 ความสวา่ งในการมองมองเห็นของมนษุ ย์ ภาพ 3.42 ความสวา่ งในการมองมองเห็นของสุนัข

M U S E U M O F K H U N TH O N G D A N G 69
AND
DOGCARECENTER

3.2.6.3 ขนาดของสนุ ขั การวดั ขนาดตามการแบ่งเกณฑส์ ุนัขสากล

กำรวัดขนำดของสุนัขนั้นจะวัดตำมขนำดตัวโดยเร่ิมจำกควำมยำว
โดยจะเร่มิ จำกส่วนอกของสุนัขลงไปสู่บั้นท้ำยสุนัข ก็จะได้ควำมยำวมำตรฐำน
ของสุนัขตัวนั้น ส่วนควำมสูงของสุนัขจะวัดจำกเท้ำหน้ำขึ้นไปถึงไหล่ก็จะได้
ควำมสูงโดยเฉลยี่ ของสนุ ขั

1.80 0.40 18.00 การวัดขนาดสุนขั

0.25 สุนัขขนาดเล็ก ปกติแล้วสุนัขพันธุ์เล็กจะต้องมีน้ำหนักตำม

ภาพ 3.42 ภาพแสดงกายภาพสุนขั ขนาดเล็ก มำตรฐำนสำยพันธุ์ไม่เกิน 25 ปอนด์ (ประมำณ 11 กิโลกรัม) ส่วนมำกจะอยู่
ประมำณ 15–25 ปอนด์ (6 - 11 กิโลกรัม) ส่วนสูงต้องไม่เกิน 15–17 นิ้ว
0.90
สุนัขขนาดกลาง ลักษณะท่ำทำงโดยทั่วไป เป็นสุนัข
0.35
ขนำดกลำง มีอุปนิสัยร่ำเริง แจ่มใสตลอดเวลำ มีขนข้ึนปกคลุมที่ขำ
ภาพ 3.43 ภาพแสดงกายภาพสนุ ขั ขนาดกลาง และเท้ำ ขำตรง น้ิวเท้ำกำแน่น มีควำมแข็งแรง ขนที่หัวและหลังจะ
สน้ั เรียบ มคี วำมสะอำดเป็นเงำงำม บ่งบอกถึงสุขภำพที่ดี ควำมสูงวัด
1.50 จำกขำถงึ หัวไหล่ สนุ ขั เพศผู้ สงู 15 น้ิว,สนุ ขั เพศเมียสงู 14 นว้ิ

1.00 สุนัขขนาดใหญ่ ลักษณะท่ำทำงโดยทั่วไป เป็นสุนัข

ภาพ 3.44 ภาพแสดงกายภาพสุนขั ขนาดใหญ่ ข น ำ ด ใ ห ญ่ มี อุ ป นิ สั ย ดุ ที่ สุ ด ใ น บ ร ร ด ำ สุ นั ข 3 ข น ำ ด
จะมีน้ำหนักตำมมำตรฐำนสำยพันธ์ุมำกกว่ำ 90 ปอนด์ หรือ
20.00 ประมำณ 40 กิโลกรัมข้นึ ไป
2.00
จำกกำรคิดพ้ืนท่ีของสุนัขทำงนี้จะใช้เกณฑ์ของสุนัขสำยพันธุ์
ภาพ 3.45 ภาพแสดงพ้ืนทีด่ ูแลสุนัข ไทยเป็นหลัก ซึ่งขนำดของสุนัขไทยน้ันมีต้ังแต่ขนำดกลำงซึ่งเป็นพันธ์ุ
สุนัขบ้ำนปกติ ไปจนถึงสุนัขพันธุ์หลังอำนไปจนถึงสุนัขพันธุ์บำงแก้วซ่ึง
เป็นสุนัขพันธุ์ใหญ่ โดยเฉลี่ยสุนัขขนำดใหญ่จะมีขนำดสูง 1 เมตร
ยำว 1.5 เมตร และจำกกำรคำนวณสรีระจะได้ว่ำขนำดพ้ืนที่ 1.80 x
2.00 จะเป็นพ้ืนทีท่ ่สี ุนัขขนำดใหญ่มีพื้นท่ีหมุนตัวได้ เพ่ือไม่ให้สุนัขอึดอัด
กนั จนเกนิ ไปในพน้ื ท่ีปดิ

M U S E U M O F K H U N TH O N G D A N G

70 A N D
DOGCARECENTER
3.3 USER BEHAVIOR
ผู้ใชแ้ ละพฤตกิ รรมผูใ้ ช้โครงการ
3.3.1 ผใู้ ชแ้ ละพฤตกิ รรมผูใ้ ช้โครงการ

ในโครงกำร พิพิธภัณฑ์คุณทองแดงและศูนย์ช่วยเหลือสุนัขสยำม แบ่งผู้เข้ำใช้
โครงกำรเป็น 3 ประเภท

3.3.1.1 กลุ่มผเู้ ขา้ ชมพพิ ิธภณั ฑ์

นักเรยี นในระดับศึกษำช่วงประถมศึกษำถึงช่วงมธั ยม และ กลุ่มคนที่รักสุนัข หรือประชำชนท่ีมี
ควำมสนใจทต่ี อ้ งกำรศึกษำเรือ่ งรำวเกย่ี วกับสุนัข

3.3.1.2 กลมุ่ ผูใ้ ช้ภายในพพิ ิธภณั ฑ์

เจ้ำหน้ำท่ี , พนกั งำนในพพิ ธิ ภณั ฑ์

3.3.1.3 กลุ่มผ้ใู ชใ้ นส่วนศนู ยช์ ว่ ยเหลือสนุ ขั

เจ้ำหน้ำท่ี , นักศึกษำฝึกงำน คณะสัตวแพทย์ศำสตร์ มหำวิทยำลัย ขอนแก่น , สุนัขจรจัดท่ี
ไดร้ ับกำรช่วยเหลือ

3.3.2 จานวนประชากรที่ใช้ในการวิเคราะห์

3.3.2.1 จำนวนผู้ท่ีใช้โครงกำรส่วนพิพิธภัณฑ์นักเรียนระดับประถมศึกษำในภำค
ตะวนั ออกเฉียงเหนือ

เมืองขอนแก่น บ้านฝาง พระยืน หนองเรือ ชมุ แพ สชี มพู

นา้ พอง อบุ ลรัตน์ กระนวน บ้านไผ่ เปือยน้อย พล

แวงน้อย แวงใหญ่ หนองสองห้อง ภเู วียง มจั จาคีรี ชนบท

เขาสวนกวาง ภผู ามา่ น ชาสงู โคกโพธ์ิไชย หนองนาคา บ้านแฮด

โนนศิลา เวียงเก่า

แผนภูมิ 3.7 แผนภมู ิวงกลมแสดงจานวนนักเรยี นระดบั มัธยมศกึ ษาตอนตน้ จงั หวัดขอนแกน่
แบ่งตามอาเภอปี 2559

ตาราง 3.1 ตารางแสดงสถติ กิ ารท่องเท่ยี วภายในจงั หวดั ขอนแกน่ ปี 2553 - 2558

เมอื งขอนแก่น บ้านฝาง พระยนื หนองเรือ ชมุ แพ สชี มพู
นา้ พอง อบุ ลรัตน์ กระนวน บ้านไผ่ เปือยน้อย พล
แวงน้อย แวงใหญ่ หนองสองห้อง ภเู วียง มจั จาคีรี ชนบท
เขาสวนกวาง ภผู ามา่ น ชาสงู โคกโพธิ์ไชย หนองนาคา บ้านแฮด
โนนศลิ า เวียงเก่า

แผนภมู ิ 3.6 แผนภมู วิ งกลมแสดงจานวนนักเรียนระดับประถมศึกษาจงั หวดั ขอนแกน่
แบ่งตามอาเภอปี 2559

M U S E U M O F K H U N TH O N G D A N G 71
AND
DOGCARECENTER

กลมุ่ คนรกั สุนขั ภำยใน 1 สัปดำห์เปิดบริกำร 6 วัน ( หยุดวันจันทร์ ) =52/ปี
เพรำะฉะน้ันภำยใน 1 ปี เปิดบริกำร 365 –52 = 313 วัน/ปี เฉลี่ยผู้เข้ำชม
ในปัจจุบันในภูมิภำคอีสำนนั้นมีคนนิยมเล้ียงสุนัขมำกขึ้น โดยเฉพำะพื้นที่ พพิ ธิ ภณั ฑค์ ณุ ทองแดงต่อวัน = 145,473/313 = 464 คน/ วนั
เขต 4 ซ่ึงเป็นพื้นที่ที่จังหวัดขอนแก่นรวมอยู่ โดยมีสถิติอยู่ท่ี มีประชำกรจำนวน ดังนั้นผ้เู ขำ้ ชมโครงกำร คิดเปน็ เฉลย่ี ตอ่ ชัว่ โมงคอื 464/11 = 42 คน/ ชม.
ครัวเรือนที่เลี้ยงสุนัขทั้งหมด 637,307 ครัวเรือน แบ่งเป็นสุนัขเพศผู้จำนวน 552,933 โครงกำรเปดิ ใหบ้ รกิ ำรเวลำ 10.00 – 20.00 น.
ตวั สุนัขเพศเมยี 458,982 ตวั เปน็ เวลำ 10 ช้ัวโมง
โดยเจ้ำหน้ำท่ีจะมำเตรยี มกำรกอ่ นพิพิธภัณฑเ์ ปิด 1 ชวั่ โมง
จานวนครัวเรอื น ดงั นัน้ เฉล่ียผ้เู ข้ำชมต่อชวั่ โมง 42 คน / ชัว่ โมง

637,307

สุนขั 458,982

552,933

เพศเมีย เพศผู้

แผนภูมิ 3.8 แผนภูมแิ ทง่ แสดงจานวนสุนขั เลย้ี งในพ้นื ทเ่ี ขต 4 ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ

สรปุ กลมุ่ ผูใ้ ช้พพิ ิธภัณฑค์ ุณทองแดงและศูนย์ช่วยเหลือสนุ ัขสยาม ดงั นี้

จำนวนประชำกรทั่วไปที่เขำ้ ชม คิดเป็น 2 % จำก 1,801,753 คน = 36,035 คน ผใู้ ช้โครงการท้งั หมด

จำนวนนักเรียนระดบั ชั้นประถมศึกษำ คดิ เปน็ 50 % จำก 93,277 คน = 45,978 คน =145,232/ปี
1 สปั ดำห์ เปิดบรกิ ำร 6 วัน หยุดวันจันทร์ 1 วัน เปดิ บรกิ ำร 313 วัน
จำนวนนกั เรียนระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษำ คิดเปน็ 30 % จำก 55,236 คน = 16,571 คน
=145,473/313 = 464 คน/ วัน
จำนวนนกั ทัศนำจรทีเ่ ข้ำชม คิดเปน็ 5 % จำก 937,789 คน = 46,889 คน เฉลีย่ ผเู้ ขำ้ ชมตอ่ ชวั่ โมง

464 /11 = 42 คน/ ชม.

46,889 36,035 [USERS]

16,571 45,978 จำนวนประชำกรท่วั ไปทเ่ี ข้ำชม
จำนวนนกั เรียนระดบั ชน้ั ประถมศึกษำ
จำนวนนักเรียนระดบั ชั้นมัธยมศึกษำ
จำนวนนักทศั นำจรทเี่ ข้ำม

แผนภูมิ 3.9 แผนภมู วิ งกลมแสดงจานวนผู้ใช้โครงการ

M U S E U M O F K H U N TH O N G D A N G

72 A N D
DOGCARECENTER

3.3.2 พฤตกิ รรมผใู้ ช้โครงการ EVENING NIGHT

ตาราง 3.2 ตารางแสดงเวลาของผู้ใชโ้ ครงการ [ 12 A M ]

MORNING AFTERNOON

[TIME] [6AM] [ 12 A M ] [6PM] กำรใช้โครงกำรส่วนใหญ่หรือกิจกรรมต่ำงๆ ส่วนใหญ่จะ
เป็นตอนกลำงวัน ช่วงเวลำประมำณ 10.00 น. – 20.00
ผ้เู ขำ้ ชมโครงกำร ซ่ึงจะเป็นเวลำเปิดทำกำรของพิพิธภัณฑ์โดยจะมีผู้ใช้
โครงกำร ดังนี้
เจ้ำหน้ำทแ่ี ละบคุ ลำกร
ผเู้ ขา้ ชมโครงการ
เจำ้ หนำ้ ที่ฝำ่ ยรกั ษำควำมสะอำด เจ้าหน้าทแ่ี ละบุคลากร
เจา้ หนา้ ที่ฝ่ายรักษาความสะอาด
เจ้ำหนำ้ ทีฝ่ ำ่ ยรักษำควำมปลอดภยั เจ้าหนา้ ทฝ่ี า่ ยรกั ษาความปลอดภัย
กิจกรรมพิเศษ กจิ กรรมพิเศษ

1 10 AM. 5 กจิ กรรมพเิ ศษ
2 H.
12 AM. ผ้เู ข้าชมโครงการ แบ่งออกเป็น กิจกรรมทีจ่ ัดข้ึนเพอ่ื ให้ ผทู้ ่ีเข้ำมำชม
12 AM. พิพิธภณั ฑ์มีส่วนรว่ ม เชน่ กิจกรรมสมั ผสั กับ
DAY 2 ประเภท สนุ ัขของศูนย์ชว่ ยเหลอื สุนขั เพ่ือบรู ณำกำร
1. ผู้เข้ำชมทม่ี ำเป็นหมู่คณะ DAY ควำมรูน้ อกหอ้ ง
NIGHT 2. ผู้เข้ำชมที่มำดว้ ยตนเอง
NIGHT
12 PM.
12 PM.

8 PM.

2 9 AM. พฤติกรรมผู้ใช้โครงกำรเป็นตัวกำหนดองค์ประกอบและควำมสัมพันธ์ุในส่วนต่ำงๆ
ท่ีมีผู้มำใช้โครงกำรจะทำกิจกรรมนั้น โดยสำมำรถแบ่งกิจกรรมผู้ใช้โครงกำรจะทำ
12 AM. เจา้ หนา้ ทแ่ี ละบุคลากร แบ่งออกเปน็ กจิ กรรมผูใ้ ช้อำคำร ได้เป็น 3 ประเภท ดังน้ี

DAY 1. เจ้ำหนำ้ ที่ฝ่ำยบริหำร ประเภทที่ 1 พฤติกรรมผู้ใช้บรกิ าร
2. เจำ้ หนำ้ ท่ฝี ่ำยบรกิ ำรท่ัวไป
NIGHT 1.1 ผเู้ ขา้ ชมท่มี าเปน็ หมู่คณะ
เจ้าหน้าที่รักษาความสะอาด แบ่ง
12 PM. เป็นลักษณะกิจกรรมของสถำบันกำรศึกษำหรือหน่วยงำนต่ำงๆ ในกำรมำทัศนศึกษำ
ออกเป็น 2 ช่วง ดูแลควำมสะอำดช่วงเช้ำ เพ่ือประโยชน์ในกำรรับควำมรู้ที่เก่ียวข้องกับโครงกำร ได้แก่กลุ่มนักเรียน และ กลุ่ม
21 PM. และชว่ งเยน็ นกั ศกึ ษำ เปน็ ตน้

3 เจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความปลอดภัย 1.2 ผชู้ มที่มาดว้ ยตนเอง
6 H.
แบง่ กำรดูแลเป็น 2 ช่วง ตลอด 24 ชัว่ โมง เป็นลักษณะท่ตี อ้ งกำรสำระควำมรโู้ ดยเฉพำะหรือพกั ผ่อนเวลำวำ่ ง
12 AM.
ประเภทที่ 2 พฤตกิ รรมสว่ นกจิ กรรมพิเศษ
DAY
กจิ กรรมทจี่ ัดขึน้ เพื่อใหน้ กั เรียนและนกั ศกึ ษำทส่ี นใจ ผูท้ ่สี นใจ เช่น กจิ กรรมสัมผสั
NIGHT กบั สุนัขของศนู ย์ หรอื ผู้ทส่ี นใจรับอุปกำระสนุ ัขของศูนยช์ ว่ ยเหลือสุนัข

12 PM. ประเภทที่ 3 พฤตกิ รรมของผู้มาติดตอ่

4 เปน็ กำรติดต่อทำงรำชกำร ตดิ ตอ่ เอกสำรข้อมูลต่ำง ๆ หรอื ตดิ ต่อเพ่ือจดั กจิ กรรม
เช่น ตดิ ต่อขอเข้ำชมเปน็ หมู่คณะจำกสถำบนั หรือหนว่ ยงำนเปน็ ต้น
24 H.

12 AM.

DAY

NIGHT

12 PM.

M U S E U M O F K H U N TH O N G D A N G 73
AND
DOGCARECENTER

3.3.4 ลักษณะพฤตกิ รรมผู้ใช้โครงการ Temporary
exhibition
3.3.4.1 ผู้เข้าชมทป่ี ระสงค์จะใชบ้ รกิ ารโดยตรง
HALL Main
จะเข้ำมำทำงโถงหลักก่อนท่ีกระจำยไปตำมส่วนจัดแสดงต่ำงๆ เช่น exhibition
นิทรรศกำรถำวร นิทรรศกำรช่ัวครำว ในกรณีท่ีผู้ชมมำเป็นหมู่คณะจะเข้ำไปฟังกำร
บรรยำยก่อน ที่จะไปชมในส่วนต่ำงๆ บริเวณทำงเข้ำจะประกอบด้วยส่วนบริกำรผู้เข้ำชม Temporary
เช่น ส่วนประชำสัมพันธ์ ส่วนนิทรรศกำรส่วนน้ีผู้ชมจะใช้เวลำต่ำงกันแล้วแต่ควำมสนใจ exhibition
โดยเฉลีย่ อยู่ที่ประมำณ 1 ชว่ั โมงตอ่ 1 นิทรรศกำร
HALL Main
3.3.4.2 ผู้คน้ คว้าการศึกษา exhibition

ได้แก่นกั วิชำกำร กำรเข้ำถึงโครงกำรจะคล้ำยกับผู้เข้ำชมโครงกำรแบบแรก
แต่จะต่ำงกันตรงที่แบบนี้จะเน้นไปทำงกำรศึกษำค้นคว้ำ ซ่ึงจะไม่เน้นกำรท่องเท่ียว
องค์ประกอบของโครงกำรท่ีกลุ่มน้ีใช้มำก คือ ส่วนห้องวิจัย และ ส่วนนิทรรศกำร ซ่ึงผัง
กำรใช้โครงกำรจะเหมอื นกับแบบแรก

3.3.4.3 พฤติกรรมของผทู้ ี่มาติดตอ่ HALL Temporary
exhibition
เจ้ำหน้ำที่จำกหน่วยงำนสถำบันที่มีธุระโดยตรงกับโครงกำร มักเป็นกำร Main
ติดต่อรำชกำร เอกสำรข้อมูลรวมท้ังขอคำปรึกษำจำกนักวิชำกำร นักวิจัย ท่ีดำเนินงำน exhibition service
ภำยในพพิ ิธภณั ฑ์ติดต่อขอใช้สถำนทจ่ี ำกหน่วยงำนภำยนอก รวมถึง กำรเข้ำมำติดต่อของ
บุคคลท่ัวไปท่ีสนใจมำติดต่อรับอุปกำระสุนัขของศูนย์ช่วยเหลือสุนัข สำมำรถใช้บริกำร
สว่ นอ่นื ๆได้ เช่น สว่ นนทิ รรศกำร แบ่งออกได้เปน็ 2 ประเภท คอื
1. ผู้ท่มี ำตดิ ตอ่ ธุระหน่วยงำน
2. ผทู้ ม่ี ำตดิ ตอ่ อปุ กำระสุนัขสำหรับศนู ยช์ ว่ ยเหลือสนุ ัข

3.3.4.4 พฤติกรรมของผูใ้ หบ้ ริการ ส่วนบรรทกุ ของ

สิ่งของท่ีมำจำกภำยนอกจะต้องขนลงบริเวณ ( LOADING ) รับของจัด STORAGE STAFF
ตรวจเช็คจำนวนก่อนบันทึกลงทะเบียนจำกน้ันเก็บของชั่วครำวหรือนำไปยังส่วน
จดั เตรียมงำน ในกรณนี ีค้ อื กำรรบั ส่งสุนัขเพ่อื นำมำขนย้ำยไปยงั ศูนยด์ แู ลสุนัข แผนภมู ิ 3.10 แสดงลักษณะพฤติกรรมผู้ใชโ้ ครงการ

M U S E U M O F K H U N TH O N G D A N G

74 A N D
DOGCARECENTER

3.3.5 พฤตกิ รรมของสนุ ัข

ตาราง 3.3 ตารางแสดงเวลาพฤติกรรมของสุนัขทว่ั ไป EVENING NIGHT 3.3.5.1 ลักษณะนิสยั ของสนุ ขั

MORNING AFTERNOON

นิสัยของสุนัขก็เหมือนนิสัยของคนเรำคือมีนิสัย

แตกต่ำงกนั ไป สนุ ัขร้อยตวั ก็มีนิสัยแตกต่ำงกันไปร้อยแบบ

ไม่จำเป็นว่ำสุนัขพันธ์ุเดียวกันจะต้องมีนิสัยเหมือนกันไป

หมด ซึ่งเรำก็สำมำรถกำหนดคุณลักษณะสำคัญในกำร

[TIME] เลี้ยงดูสุนัขว่ำสุนัขตัวนั้นจะเป็นสุนัขท่ีเล้ียงง่ำยหรือไม่

[6AM] [ 12 A M ] [6PM] [ 12 A M ] เอำไว้สำมข้อหลักๆ คือลักษณะชอบถูกควบคุม, ลักษณะ

ติดพันเจ้ำของและลักษณะชอบโดดเด่ียวโดยสุนัขท่ีทำง

ตนื่ เช้ำมำทำธรุ ะสว่ นตัว โครงกำรรับมำไว้ในกำรดูแลจะเป็นจำพวกสุนัขจรจัด
จัดอยู่ในประเภทลักษณะสุนัขโดดเด่ียว

เมื่ออำกำศเรมิ่ ร้อนจะนอนกลำงวันเพื่อรักษำอุณหภมู ิ สนุ ัขที่มีลักษณะโดดเดี่ยว สุนัขลักษณะนี้มักจะ
มีนิสัยไม่ชอบอยู่ร่วมกับคนมีนิสัยค่อนข้ำงเก็บตัวเงียบ

เมื่อเขำ้ สตู่ อนเยน็ สนุ ขั จะมคี วำมกระตือรือรน้ มำกขึน้ และ จะร้สู ึกตนื่ เต้นกับสิ่งรอบขำ้ ง และเย็นชำ ไม่ค่อยสนใจควำมเป็นไปใดๆ ในบ้ำนไม่ค่อย
ต่นื ตวั เพอื่ ทจ่ี ะทำหนำ้ ทีด่ แู ลควำมปลอดภยั ของฝงู สงั เกตสง่ิ แปลกปลอมรอบอำณำเขตของพวกเขำ ชอบสุงสิงหรืออยู่ใกล้ๆ เจ้ำของ ดังนั้นกำรฝึกสุนัขท่ีมี
ลักษณะเช่นนี้มักจะฝึกได้ยำกเป็นพิเศษเพรำะมันไม่ค่อย

ใส่ใจในเร่ืองอื่นๆ แต่ในทำงตรงกันข้ำมมันก็สำมำรถเป็น

สุนขั ท่ีเฝำ้ บำ้ นไดเ้ ปน็ อยำ่ งดที เี ดยี ว

จำกกำรสำรวจลกั ษณะนสิ ยั ของสุนัขจะพบว่ำสุนัขน้นั มพี ฤติกรรมท่ีแน่นอนตำมเวลำ โดยจะมพี ฤติกรรม

แบง่ ตำมเวลำกำรใช้ชวี ติ ดังนี้ เวลำเช้ำ แม้ท้องฟ้ำยังไม่เปิดสนิท แต่สุนัขบำงตัวกลับข้ึนนอนขึ้นมำปลุกให้เจ้ำของต้อง
ต่ืนไปกบั เขำด้วย หรือบำงครอบครวั ท่ตี น่ื เร็วอยแู่ ล้ว สุนัขก็จะแอคทีฟ กระดิกหำงอย่ำงมี
1 ควำมสุข เปน็ กำรทกั ทำยยำมเชำ้ รอให้เจำ้ ของพำออกไปขบั ถ่ำย สัมผัสอำกำศสดช่ืนยำม
เช้ำ พร้อมกับแสงอำทิตย์อุ่นๆ เนื่องจำกสุนัขมีนำฬิกำอยู่ในตัวเอง พวกเขำจะต่ืนข้ึนมำ
6 H. ในเวลำเดิมเพื่อทำธุระส่วนตัว และทำกิจกรรมตำมตำรำงเวลำท่ีพวกเขำได้รับเป็น

12 AM.

DAY

NIGHT ประจำ เช่น ออกไปเดนิ เลน่ ที่สำคญั กำรได้อยู่ หรือทำกิจกรรมกับครอบครัว หรือกับฝูง
ของตนเองในเวลำเชำ้ จะทำให้สุนัขรู้สึกมีควำมสุข เพลิดเพลิน มีควำมมั่นคงทำงอำรมณ์
12 PM. อีกท้ัง นี้แสง อำทิต ย์ในช่ วงเ ช้ำยัง มีผลต่ อกำร หล่ังส ำรเ ซโร โ ทนินซ่ึ งเป็น ฮอร์โ มนส่ื อ

18 H.

2 ประสำททำให้เกดิ ควำมร้สู ึกเป็นสุข กระชมุ่ กระชวย สุนัขจะต่นื ตัว แอคทีฟ ข้ีเล่น

4 H. ช่วงเวลำกลำงวันอำกำศร้อนข้ึน แม้จะในฤดูหนำวก็ตำม แดดจะค่อนข้ำงแรง สุนัขต้อง
12 AM. หำที่ร่มอยู่ ไมว่ ่ำจะใตโ้ ต๊ะ ใต้ตู้ ใต้เตียง หรือใต้รถ เพ่ือเก็บรักษำอุณหภูมิร่ำงกำยไม่ให้สูง
มำกเกินไปจนทำให้เกดิ อำกำรฮีตสโตรกได้ เพรำะอุณหภูมิในร่ำงกำยสุนัขสำมำรถเพิ่มข้ึน
DAY ไดเ้ รว็ อกี ท้ังยงั มขี นเกบ็ อบควำมร้อนไว้กบั ตวั อกี ยิ่งเคลื่อนไหว ย่ิงทำให้มีกำรใช้และกำร
เผำผลำญพลงั งำนสูง ดว้ ยเหตนุ เี้ องกำรนอนจงึ เป็นวธิ ีท่ที ำให้พวกเขำใชพ้ ลังงำนน้อยลง
NIGHT

12 PM.

20 H.

3 สภำพอำกำศชว่ งเย็นอุณหภมู จิ ะลดลง สนุ ัขก็จะเร่ิมกลับมำคกึ คกั ซุกซนอีกคร้ัง เพรำะไม่
5 H. เหนื่อยง่ำย หรือรู้สึกร้อนจนไม่อยำกเคลื่อนไหว จนต้องรักษำอุณหภูมิในร่ำงกำย
นั่นเอง นอกจำกน้ีช่วงเย็นจะเป็นเวลำที่คนในครอบครัวกลับเข้ำบ้ำน สร้ำงควำม
12 AM. ครึกครื้นให้แก่สุนัข ท่ีจะได้อยู่ร่วมกับฝูงของตัวเอง หลังจำกท่ีต้องทนเหงำ ทนเบื่อมำ
ตลอดทั้งวัน กำรได้ออกไปเดินเล่น ออกกำลังกำย และทำกิจกรรมร่วมกันกับครอบครัว
DAY จึงเปน็ ควำมสขุ ของพวกเขำ ถอื ไดว้ ่ำเป็นเวลำโปรดเลยทีเดยี ว

NIGHT

12 PM.

19 H.

4 2 H.

12 AM. สุนัขมีสัญชำตญำณของหมำป่ำอยู่ มีสำยเลือดนักล่ำอยู่ในตัว จึงตื่นตัวในช่วงเวลำ
กลำงคนื หลงั จำกทไี่ ด้พกั ผ่อนเตม็ ที่ในช่วงกลำงวัน เพอื่ ที่จะทำหน้ำที่ดูแลควำมปลอดภัย
DAY ของฝูง สังเกตส่ิงแปลกปลอมรอบอำณำเขตของพวกมัน คอยเดินตรวจตรำ ระแวดระวัง
อันตรำยที่จะเกิดขึ้น และพร้อมจะส่งสัญญำณให้ฝูงรับรู้ หรือลงมือจัดกำรในทันที จึงไม่
NIGHT ต้องแปลกใจ ทเ่ี วลำกลำงคืนจะได้ยนิ เสียงสุนขั

12 PM.

22 H.

M U S E U M O F K H U N TH O N G D A N G 75
AND
DOGCARECENTER

3.3.5.2 การกาหนดกจิ กรรมของศนู ยด์ ูแลสนุ ขั สยาม

จำกตำรำงวิเครำะห์พฤติกรรมของสุนัข ทำงศูนย์ดูแลสุนัขจึง
กำหนดเวลำทำกิจกรรมของสุนัขให้สอดคล้องกับพฤติกรรมสุนัขและพฤติกรรมของผู้
เขำ้ มำเย่ียมชมให้สมั พันธ์กันดงั น้ี

ตาราง 3.4 ตารางกจิ กรรมตามเวลาภายในศนู ยด์ ูแลสุนัขสยาม กจิ กรรมส่วนร่วมกบั ผู้เข้าชมโครงการ

เวลา กิจกรรมภายใน -

5.00 น. – 6.00 น. จะทำกำรตรวจสุขภำพสุนัขในช่วงเวลำที่สุนัขกำลัง
ต่ืนตัว หำกมีสุนัขท่ีต้องกำรดูแลเป็นพิเศษก็จะทำ
กำรเช็คประวัติเพื่อดูกำรเปล่ียนแปลงของสุนัขว่ำ
สุขภำพสนุ ขั มีกำรเปลี่ยนแปลงอย่ำงไรบ้ำง

7.00 น. – 10.00 น. ผู้ที่เกี่ยวข้องจะปฏิบัติกำรในห้องวิจัยภำยในศูนย์ ส่วนของศูนย์ดูแลสุนัขสยำมจะเปิดให้บริกำรพร้อมกับพิพิธภัณฑ์
และ ผู้ดูแลสุนัขจะทำกำรเตรียมตัวให้กับสุนัข เช่น คุณทองแดง บุคคลภำยนอกจะสำมำรถติดต่อบริกำรได้ตั้งแต่เวลำ
ดูแลเรื่องควำมสะอำดของสถำนท่ีเพื่อเตรียมควำม 10.00 น. ขึ้นไป คือ สำมำรถติดต่อขอรับอุปกำระสุนัขและติดต่อ
พรอ้ มรับผเู้ ขำ้ มำใชบ้ ริกำรในเวลำ 10.00 น. ขอรบั ฝำกสนุ ขั ในส่วนของทพ่ี กั สุนัขชวั่ ครำวได้ตั้งแตเ่ วลำ 10.00 น.

11.00 น. – 13.00 น. ทำงศูนย์จะทำกำรเตรียมอำหำรเพ่ือใช้สำหรับเลี้ยง กิจกรรมช่วงกลำงวันจะเป็นกิจกรรมที่ให้ผู้มำใช้บริกำรท่ีสนใจ
15.00 น. – 17.00 น. สนุ ขั ภำยในศูนยโ์ ดยเฉลยี่ สนุ ขั จะกินอำหำรวันละ อยำกจะทำกิจกรรมให้อำหำรสุนัข มำเรียนรู้และร่วมกิจกรรมกำร
18.00 น. – 20.00 น. 1 – 2 มือ้ ตอ่ วัน โดยเจ้ำหนำ้ ทจ่ี ะทำกำรผสมอำหำร ใหอ้ ำหำรสุนขั ต้งั แต่ขน้ั ตอนกำรผสมอำหำรตำมโภชนำกำรของสุนัข
เตรียมไว้โดยจะกระจำยส่วนเป็นส่วนต่ำงๆเพื่อให้ ในแตล่ ะวยั ไปจนถึงกำรชมกำรสำธิตกำรให้อำหำรสุนัขในมุมมองท่ี
เหมำะสมกับสุนัขในแตล่ ะวัย ทำงศูนย์เตรียมไว้ให้จะทำให้ผู้เข้ำชมสำมำรถชมวิถีชีวิตของสุนัข
ภำยในศูนย์อยำ่ งใกลช้ ิด

ทำงศูนย์จะทำกำรปล่อยสุนัขที่ทำงศูนย์ได้ประเมิน กิจกรรมในช่วงเย็นจะเป็นกิจกรรมให้ผู้ท่ีสนใจมีส่วนร่วมในกำรได้
แล้วว่ำไม่มีปัญหำด้ำนสุขภำพออกไปสู่พื้นที่เปิด ให้ ลองทำกิจกรรมกับสุนัขภำยในศูนย์เช่น กำรแสดงโชว์ฝึกสุนัขและ
สุนัขได้ทำกิจกรรมและในช่วงเวลำท่ีสุนัขออกไป กิจกรรมนันทนำกำรกับสุนัข และ เวลำ 17.00 น.ก็จะเป็นกำร
ลำนกิจกรรม เจ้ำหน้ำที่จะทำควำมสะอำดบริเวณ สน้ิ สดุ กิจกรรมกลำงแจง้ รวมถงึ ปดิ ให้บริกำรติดต่อจำกภำยนอก
กรงสนุ ขั โดยจะมผี ู้ดูแลลงไปควบคมุ จะเป็นกำรฝึก
สุนัขไปในตัว เม่ือถึงเวลำสุนัขจะถูกต้อนหรือถูกล่อ
ให้เข้ำกลบั ไปสพู่ นื้ ท่กี รงสนุ ัข

ทำงศูนย์จะทำกำรตรวจเช็คจำนวนสุนัขและทำ -
ควำมสะอำดพื้นทีบ่ ริเวณสว่ นลำนกจิ กรรม

21.00 น. – 24.00 น. ตรวจสขุ ภำพสุนัขที่ต้องกำรดแู ลเป็นพิเศษ -

1.00 น. – 4.00 น. - -

M U S E U M O F K H U N TH O N G D A N G

76 A N D
DOGCARECENTER
3.3.5.3 วเิ คราะห์โครงสร้างในการบริหารงานพิพธิ ภัณฑค์ ุณทองแดง และ ศนู ย์ช่วยเหลอื สนุ ัขสยาม
กระทรวงศึกษาธิการ

คณะ สตั วแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลยั ขอนแกน่

ผ้อู านวยการพพิ ิธภัณฑ์คณุ ทองแดง และ ศูนยช์ ว่ ยเหลอื สนุ ัขสยาม

รองผู้อานวยการพพิ ิธภณั ฑค์ ณุ ทองแดง และ ศูนย์ช่วยเหลือสุนขั สยาม

คณะกรรมการบริหาร

เลขานกุ าร

สว่ นบรหิ าร ส่วนบรกิ ารการศึกษา ส่วนสนับสนนุ โครงการ ส่วนบรกิ าร ส่วนศนู ย์ช่วยเหลอื สุนขั สยาม

ฝ่ำยบริหำร ฝ่ำยวิชำกำร ผดู้ ำเนินกำรร้ำนคำ้ ฝำ่ ยอำคำรและสถำนที่ ฝ่ำยดูแลสุนัข
ฝ่ำยธุรกำร ฝำ่ ยนิทรรศกำร ส่วนขำยของทีร่ ะลกึ ฝ่ำยเทคนคิ ฝำ่ ยตดิ ต่อประชำสัมพนั ธ์
ฝ่ำยกำรเงนิ สว่ นพนื้ ท่ีให้เช่ำ ฝำ่ ยซอ่ มบำรุง ฝ่ำยอำคำรและสถำนที่
ฝ่ำยวิจัย ฝำ่ ยเทคนิค
ฝำ่ ยคลังนทิ รรศกำร ฝ่ำยซอ่ มบำรุง
แผนภมู ิ 3.11 แสดงแผนผังการบริหารการจดั การของโครงการ ฝำ่ ยรกั ษำควำมปลอดภัย ฝำ่ ยคลังอำหำร
ฝ่ำยรกั ษำควำมสะอำด

M U S E U M O F K H U N TH O N G D A N G 77
AND
DOGCARECENTER

ตาราง 3.5 สว่ นบริหาร ตาแหน่ง จานวน หน้าท่ี

ฝา่ ย - ผู้อำนวยกำร 1 - ควบคุมพนักงำน เจ้ำหน้ำท่ีท้ังหมด และ บริหำรงำน
- รองผอู้ ำนวยกำรเลขำนกุ ำร 1 ตำมนโยบำยใหก้ ล่มุ ตำมเปำ้ หมำย
1. ฝ่ายบรหิ าร - เลขำนกุ ำร 1
- ผชู้ ว่ ยอำนวยกำรควบคมุ ดแู ลกำร ปฏิบัตงิ ำนของ
2. ฝ่ายธุรการ - หัวหนำ้ ฝ่ำย 1 เจำ้ หนำ้ ทผ่ี ่ำยตำ่ ง
- เจ้ำหนำ้ ทฝ่ี ่ำย 3
- เจ้ำหนำ้ ทป่ี ระชำสมั พันธ์ 1 - โต้ตอบจดหมำย ทำรำยงำนประชมุ

- ควบคุมดูแลงำนธุรกำรทง้ั หมด
- รบั ผดิ ชอบด้ำนงำนธรุ กำรงำนด้ำนเอกสำรต่ำงๆ
- จดั ทศั นะอุปกรณผ์ ลิตเอกสำร และ ให้บรกิ ำรแนะนำ

ผู้ใช้โครงกำร

3. ฝา่ ยการเงิน - หัวหน้ำฝ่ำย 1 - ควบคมุ ดแู ลดำ้ นกำรเงนิ และบญั ชีทั้งหมด
- เจ้ำหนำ้ ท่ีฝำ่ ย 3 - ดูแลด้ำนกำรเงินภำยพพิ ธิ ภัณฑแ์ ละศนู ย์ชว่ ยเหลือสุนัข

รวมจานวนบุคลากรและเจ้าหนา้ ท่ปี ระจาสว่ นบรหิ าร 12 คน

ตาราง 3.6 ส่วนบรกิ ารการศึกษา ตาแหนง่ จานวน หน้าที่

ฝา่ ย - หัวหนำ้ ฝำ่ ย 1 - ควบคมุ ดแู ลบริหำรงำนด้ำนวชิ ำกำรทง้ั หมด
- รับผิดชอบค้นข้อมูลเก่ียวกับงำนด้ำนวิชำกำรของ
1. ฝ่ายวชิ าการ 2
2 โครงกำรให้ข้อมูลท่ีเป็นประโยชน์กับเอกสำรเพ่ือ
2. ฝา่ ยนทิ รรศการ - ภัณฑรักษ์ดแู ลนทิ รรศกำรภำยใน 2 เผยแพร่
3. ฝ่ายวจิ ยั - ภณั ฑรักษด์ ูแลนทิ รรศกำรกลำงแจ้ง 2
- เจำ้ หนำ้ ทฝี่ ่ำย - ควบคุมดแู ลดำ้ นกำรจดั แสดงภำยในท้ังหมด
- เจำ้ หนำ้ ทแ่ี ผนกอุปกรณ์ แสง - เสียง 1 - ควบคมุ ดแู ลดำ้ นกำรจดั แสดงกลำงแจง้ ทัง้ หมด
1 - ควบคุมดูแลและออกแบบระบบแสง เสียง ในส่วน
- หวั หน้ำฝ่ำย 3
- เจ้ำหนำ้ ที่ดแู ลงำนวิจยั 2 นทิ รรศกำร
- เจำ้ หนำ้ ทด่ี ูแลงำนด้ำนวิชำกำร
- นกั ศึกษำผู้ชว่ ย - ควบคมุ ดแู ลด้ำนกำรศกึ ษำทง้ั หมด
- ควบคุมดูแลงำนวิจยั ท้งั หมดภำยในพพิ ิธภัณฑแ์ ละศนู ย์
- ควบคุมดูแลด้ำนวิชำกำร และ ประสำนงำนถ่ำยทอด

เน้อื หำดำ้ นวชิ ำกำรสำหรับผชู้ มทส่ี นใจ
- คอยช่วยเหลอื ดำ้ นงำนวชิ ำกำร

รวมจานวนบุคลากรและเจ้าหน้าที่ประจาส่วนบริการศกึ ษา 16 คน

M U S E U M O F K H U N TH O N G D A N G

78 A N D
DOGCARECENTER

ตาราง 3.7 สว่ นสนับสนนุ โครงการ

ฝา่ ย ตาแหนง่ จานวน หนา้ ที่

1. ส่วนขายของท่รี ะลกึ - พนกั งำนรำ้ น 2 - ดแู ลร้ำนขำยของที่ระลกึ
2. สว่ นบริการรา้ นอาหาร - พนกั งำนร้ำน 10 - ดแู ลร้ำนอำหำรบริกำรลกู ค้ำ
3. สว่ นบริการร้านคา้ - พนกั งำนร้ำน 2 - ดแู ลสินคำ้ และบริกำรลูกค้ำ
4. ส่วนบริการพน้ื ทใี่ หเ้ ชา่ - ฝ่ำยควบคมุ ดูแลพ้ืนท่ี 2 - ดแู ลพนื้ ท่ใี ห้เช่ำและบรกิ ำร

รวมจานวนบุคลากรและเจา้ หน้าท่ปี ระจาสว่ นสนับสนุนโครงการ 16 คน

ฝ่าย ตาแหนง่ จานวน ตาราง 3.8 ส่วนบริการ

1. ฝา่ ยอาคารและสถานท่ี - เจำ้ หน้ำท่ฝี ่ำย 4 หนา้ ที่

2. ฝ่ายเทคนคิ - เจ้ำหนำ้ ที่ฝำ่ ย 3 - ควบคุมดูแลงำนอำคำรและสถำนทท่ี ั้งหมด
- หวั หน้ำฝำ่ ย 1
- วิศวกรโครงกำร 1 - รับผิดชอบงำนด้ำนอำคำรและสถำนท่ี
- สถำปนกิ โครงกำร 1 - ควบคุมดูแลงำนเทคนคิ ทัง้ หมด
- หัวหน้ำชำ่ ง 1 - ดแู ลเก่ียวกับงำนระบบในอำคำร
- ดแู ลเกีย่ วกับงำนระบบในอำคำร
3. ฝา่ ยซ่อมบารงุ - ช่ำงซ่อมบำรุง 3 - ควบคุมงำนซ่อมบำรงุ อุปกรณต์ ำ่ งๆ และ งำนระบบ
- หวั หนำ้ ฝ่ำย 1
ต่ำงๆ
4. ฝ่ายคลงั นทิ รรศการ - เจ้ำหน้ำท่ีทะเบียนวตั ถใุ นพพิ ิธภัณฑ์ 2 - ช่ำงซอ่ มอุปกรณต์ ่ำงๆงำนระบบ
- เจำ้ หนำ้ ทดี่ แู ลวตั ถใุ นพิพธิ ภัณฑ์ 2 - ควบคุมงำน

5. ฝา่ ยรกั ษาความ - หวั หน้ำรกั ษำสว่ นควำมปลอดภยั 1 - ทำทะเบียน รับจำ่ ย เกบ็ รักษำวัตถุ
ปลอดภัย - เจ้ำหนำ้ ที่รกั ษำส่วนควำมปลอดภัย 4 - รบั ผิดชอบในกำรตรวจสอบสภำพบำรงุ รกั ษำ

6. ฝ่ายรกั ษาความสะอาด - พนักงำนทำควำมสะอำด 4 - ควบคมุ ดูแลส่วนรกั ษำควำมปลอดภยั ทง้ั หมด
- รบั ผิดชอบสว่ นรักษำควำมปลอดภัยท้งั หมด ทงั้ ภำยใน

และภำยนอก

- อำนวยควำมสะดวกในอำคำรพพิ ิธภัณฑแ์ ละศนู ย์
ช่วยเหลอื สนุ ัข

รวมจานวนบคุ ลากรและเจา้ หน้าทีป่ ระจาส่วนบริการ 28 คน

M U S E U M O F K H U N TH O N G D A N G 79
AND
DOGCARECENTER

ตาราง 3.9 สว่ นศูนยช์ ่วยเหลือสุนขั สยาม จานวน หน้าท่ี

ฝ่าย ตาแหน่ง 1 - ควบคุมดูแลงำนอำคำรและสถำนทท่ี ั้งหมด
10 - ควบคุมดูแลสุนขั ภำยในศนู ย์
1. ฝ่ายดูแลสนุ ขั - หัวหน้ำหนำ้ ทฝ่ี ่ำย 1 - ดแู ลเร่ืองสุขภำพสุนัขภำยในศนู ย์
- เจ้ำหนำ้ ทีฝ่ ำ่ ยดแู ล 3 - ดูแลควบคุมพฤตกิ รรมสุนัขก่อนออกไปสูส่ ังคม
- สตั วแพทยป์ ระจำกำร 5
- เจ้ำหน้ำที่พยำบำล ภำยนอก
- เจ้ำหน้ำทฝ่ี ึกสุนขั 1
3 - ควบคมุ ดแู ลงำนธรุ กำรท้ังหมด
2. ฝา่ ยติดต่อ - หวั หนำ้ ฝำ่ ย 1 - รบั ผดิ ชอบดำ้ นงำนธรุ กำรงำนดำ้ นเอกสำรต่ำงๆ
ประชาสมั พนั ธ์ - เจ้ำหนำ้ ทฝ่ี ่ำย - จดั ทำใบรบั รองอนุญำตในกำรรับอุปกำระสนุ ขั ภำยใน
- เจ้ำหนำ้ ทปี่ ระชำสัมพันธ์ 4
ศูนย์
3. ฝ่ายอาคารสถานท่ี - เจ้ำหน้ำท่ฝี ำ่ ย 3 - ควบคมุ ดูแลบริหำรงำนดำ้ นวชิ ำกำรท้งั หมด
1 - รับผิดชอบค้นข้อมูลเก่ียวกับงำนด้ำนวิชำกำรของ
4. ฝา่ ยเทคนิค - เจ้ำหน้ำที่ฝำ่ ย 1
5. ฝา่ ยซอ่ มบารงุ - หัวหน้ำฝ่ำย 1 โครงกำรให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับเอกสำรเพ่ือ
- วิศวกรโครงกำร 1 เผยแพร่
- สถำปนิกโครงกำร
- หวั หน้ำชำ่ ง 3 - รับผดิ ชอบงำนด้ำนอำคำรและสถำนท่ี
1 - ควบคุมดแู ลงำนเทคนิคท้งั หมด
- ชำ่ งซ่อมบำรุง - ดแู ลเก่ยี วกบั งำนระบบในอำคำร
- หวั หน้ำฝ่ำย - ดแู ลเกย่ี วกับงำนระบบในอำคำร
- ควบคมุ งำนซ่อมบำรงุ อุปกรณต์ ำ่ งๆ และ งำนระบบ

ต่ำงๆ
- ช่ำงซ่อมอุปกรณ์ต่ำงๆงำนระบบ
- ควบคมุ งำน

6. ฝา่ ยคลังอาหาร - เจ้ำหนำ้ ทฝ่ี ำ่ ยดูแลโภชนำกำรสตั ว์ 5 - ทำหน้ำทด่ี แู ลโภชนำกำรสำหรับสนุ ขั ภำยในศูนย์
7. สว่ นเพาะพันธส์ ุนขั - เจำ้ หน้ำท่ีดูแลคลังอำหำร 2 - ทำหน้ำทด่ี แู ลคลงั อำหำรสัตว์

8. ส่วนดูแลผูเ้ ข้าชม - เจำ้ หนำ้ ที่ดแู ลสุนขั 8 - มีหน้ำทด่ี ูแลสุนัขตง้ั แต่ตอนตง้ั ท้องจนถึงชว่ งทำคลอด
โครงการ - แพทยท์ ดี่ ูแล 2 - มีหน้ำท่ีดูแลอนบุ ำลดแู ลลกู สนุ ัข และ พฒั นำกำร
- เจ้ำหน้ำท่วี ิจัย 5 - มหี นำ้ ที่เก็บตวั อยำ่ งและวจิ ยั สำยพนั ธ์ุ

- เจ้ำหนำ้ ทีฝ่ ำยประชำสมั พันธ์ 1 - มีหนำ้ ท่ีประสำนงำนติดต่อระหวำ่ งผเู้ ยีย่ มชมกับ
โครงกำร
- เจ้ำหน้ำท่ีวทิ ยำกรภำยในศูนย์ 4
- ทำหน้ำทบี่ รรยำยใหค้ วำมรู้กับผรู้ บั ชม

รวมจานวนบคุ ลากรและเจา้ หนา้ ท่ีประจาส่วนศูนย์ดูแลสนุ ขั 67 คน

สรุป จำนวนบคุ ลำกรและเจ้ำหน้ำท่ใี นกำรดำเนนิ กำรกิจกรรมโครงกำรรวม จำนวนบคุ ลำกร และ

เจำ้ หนำ้ ท่ีทงั้ หมด 139 อัตรำ โดยแบง่ เปน็ สว่ นพพิ ิธภัณฑ์ 72 คน ศนู ยด์ แู ลสุนขั 67 คน

ฝา่ ยบริหาร 12 คน ฝา่ ยสว่ นบรกิ าร 28 คน

ฝา่ ยบริการการศกึ ษา 16 คน ฝา่ ยส่วนศนู ยช์ ่วยเหลือ
ฝ่ายสนับสนุนโครงการ 16 คน สนุ ัขสยาม 67 คน

M U S E U M O F K H U N TH O N G D A N G

80 A N D
DOGCARECENTER
3.4 DEFINE ELEMENT
องคป์ ระกอบของโครงการ

3.4.1 การวเิ คราะห์องค์ประกอบของโครงการ

วิเครำะห์จำกควำมต้องกำรของโครงกำรและพฤติกรรมของผู้ใช้โครงกำรแต่ละ
ประเภทสำมำรถแยกองคป์ ระกอบหลักท่สี ำคัญได้ดงั นี้

ฝ่ายบริหาร ฝ่ายสว่ นบริการ
ฝ่ายบริการการศึกษา ฝ่ายส่วนศนู ยช์ ว่ ยเหลือสุนขั สยาม
ฝ่ายสนับสนุนโครงการ

ตาราง 3.10 ตารางการวิเคราะห์องค์ประกอบโครงการส่วนบรหิ ารและส่วนสาธารณะ องค์ประกอบรอง

องคป์ ระกอบหลัก - ห้องผอู้ ำนวยกำร
- ห้องรองผูอ้ ำนวยกำร
ส่วนบริหาร - ส่วนทำงำนของเลขำนุกำร
- ฝ่ายบรหิ าร - ห้องนำ้ ส่วนตวั ผู้อำนวยกำร
- หอ้ งรับรอง
- ฝา่ ยธรุ การ
- ห้องทำงำนหัวหนำ้ ฝ่ำยธุรกำร
- ฝา่ ยการเงนิ และบัญชี - ห้องทำงำนเจำ้ หนำ้ ที่
- ส่วนกลาง - ห้องเกบ็ เอกสำร
- หอ้ งเกบ็ พสั ดุ
ส่วนบริการสาธารณะ
- ห้องทำงำนหัวหน้ำฝ่ำยกำรเงนิ และบัญชี
- ห้องทำงำนเจ้ำหนำ้ ที่

- หอ้ งประชมุ คณะกรรมกำร
- ห้องเตรียมอำหำร
- ห้องเกบ็ ของ
- โถงพักคอย
- ส่วนหอ้ งนำ้

- สว่ นโถงทางเขา้ - โถงทำงเข้ำ
- ส่วนตดิ ต่อสอบถำม
- สว่ นห้องนำ้ หอ้ งน้ำชำย / ห้องนำ้ หญิง / หอ้ งน้ำคนพกิ ำร

ห้องนำ้ สนุ ขั

- ส่วนจอดรถ - ส่วนจอดรถท่ัวไป
- สว่ นลานกจิ กรรม - สว่ นจอดรถเจ้ำหน้ำที่
- ส่วนจอดรถบสั

- ลำนกิจกรรม

M U S E U M O F K H U N TH O N G D A N G 81
AND
DOGCARECENTER

ตาราง 3.11 ตารางการวิเคราะหอ์ งคป์ ระกอบโครงการสว่ นบรกิ ารการศึกษา องคป์ ระกอบรอง

อองงคคป์ ์ปรระะกกออบบหหลลกั ัก - หอ้ งหัวหน้ำฝำ่ ยวชิ ำกำร
- หอ้ งปฏิบัตงิ ำนเจ้ำหนำ้ ที่ภณั ฑำรกั ษ์
สว่ นบริการการศกึ ษา

- ฝา่ ยวชิ าการ

- ฝา่ ยนิทรรศการ - ห้องทำงำนหวั หนำ้ ฝ่ำยนทิ รรศกำร
- ฝา่ ยจดั การสัมนา - ห้องทำงำนเจ้ำหนำ้ ท่ี
- สว่ นกลาง
- หอ้ งทำงำนหัวหน้ำฝำ่ ยจัดกำรสมั นำ
- สว่ นหอ้ งบรรยาย,สัมนา - ห้องทำงำนเจ้ำหน้ำที่

- ฝ่ายวิจัย - หอ้ งเกบ็ ของ
- ห้องเกบ็ เอกสำร
- ห้องพักเจ้ำหน้ำท่ี
- หอ้ งน้ำ

- โถงทำงเข้ำ
- ส่วนบรรยำยและสว่ นฟังบรรยำย
- หอ้ งควบคุมระบบ
- หอ้ งพักวทิ ยำกร
- หอ้ งน้ำ

- ห้องหัวหนำ้ ฝ่ำยวิจยั
- ห้องปฏิบัตกิ ำรทำงวจิ ยั
- ห้องเกบ็ หนงั สือเพ่ือกำรวิจับ
- หอ้ งเก็บตวั อย่ำง
- ห้องทำงำนเจำ้ หน้ำท่ี

M U S E U M O F K H U N TH O N G D A N G

82 A N D
DOGCARECENTER
[DOG]

ตาราง 3.12 ตารางการวเิ คราะห์องคป์ ระกอบส่วนสนบั สนนุ และบรกิ าร องค์ประกอบรอง

องคป์ ระกอบหลกั - รำ้ นคำ้ ทวั่ ไป
- ห้องเก็บของ
ส่วนสนับสนนุ โครงการ - สว่ นรับ – ส่งของ
- สว่ นบรกิ ารรา้ นค้า
- ส่วนที่น่ังรับประทำนอำหำร
- สว่ นรา้ นอาหาร - สว่ นจำหน่ำยอำหำร
- สว่ นครวั
- พื้นที่ให้เช่า - ห้องเก็บของ
ส่วนบริการ - สว่ นหอ้ งนำ้
- ฝา่ ยอาคารและสถานท่ี
- หอ้ งหวั หนำ้ ฝำ่ ย
- ฝ่ายเทคนิค - ห้องทำงำนเจ้ำหนำ้ ท่ี
- ฝา่ ยซอ่ มบารงุ
- หอ้ งทำงำนเจำ้ หน้ำที่
- ส่วนรกั ษาความปลอดภยั
- ห้องพกั ช่ำงซอ่ มบำรุง
- สว่ นรกั ษาความสะอาด - หอ้ งเก็บอปุ กรณ์
- สว่ นกลาง - หอ้ งทำงำนเจำ้ หนำ้ ท่ี

สว่ นสนั ทนาการ - หอ้ งทำงำนเจ้ำหน้ำท่ี
- ลานแสดงกลางแจ้ง - หอ้ ง CCTV ควบคมุ ระบบ
- ลานกจิ กรรมสาหรับสนุ ขั - หอ้ งพกั เจ้ำหน้ำที่

- ห้องพักพนกั งำน
- ห้องเกบ็ อุปกรณ์

- ห้องน้ำ

- ส่วนแสดงโชว์สนุ ัข

- ส่วนลำนกจิ กรรมสำหรับสุนัข

M U S E U M O F K H U N TH O N G D A N G 83
AND
DOGCARECENTER

D

[DOG] องค์ประกอบรอง

CARE CENTER

ตาราง 3.13 ตารางการวเิ คราะหอ์ งคป์ ระกอบส่วนศูนย์ชว่ ยเหลอื สนุ ขั สยาม

องคป์ ระกอบหลกั

สว่ นศนู ยช์ ว่ ยเหลือสนุ ัขสยาม

- ฝา่ ยดูแลสนุ ัข - สว่ นปรับสภำพสำหรบั สุนัข
- สว่ นพักฟ้ืนสำหรบั สุนขั
- ส่วนท่พี กั สำหรบั สนุ ัข
- สว่ นควบคุมโรค

- ฝ่ายติดตอ่ ประชาสัมพันธ์ - หอ้ งทำงำนหัวหน้ำฝำ่ ยตดิ ตอ่ ประชำสัมพนั ธ์
- ฝา่ ยอาคารและสถานที่ - ห้องทำงำนเจำ้ หน้ำที่
- ห้องเกบ็ เอกสำร

- ห้องหวั หน้ำฝำ่ ย
- หอ้ งทำงำนเจ้ำหนำ้ ที่

- ฝ่ายคลังอาหาร - ห้องหวั หนำ้ ฝ่ำย
- หอ้ งควบคมุ
- ฝ่ายเทคนคิ - ห้องจัดเตรียม
- ฝ่ายซอ่ มบารุง - ห้องเกบ็ ของ

- ห้องทำงำนเจ้ำหน้ำท่ี

- ห้องพักชำ่ งซ่อมบำรุง
- หอ้ งเก็บอุปกรณ์
- หอ้ งทำงำนเจำ้ หน้ำที่

M U S E U M O F K H U N TH O N G D A N G

84 A N D
DOGCARECENTER

ตาราง 3.14 ตารางการวเิ คราะหอ์ งคป์ ระกอบนิทรรศการถาวร

องคป์ ระกอบหลกั องค์ประกอรบะยหะลเักวลาการชมนทิ รรศการ องค์ประกอบรอง

ส่วนจดั แสดงนิทรรศการ ลกั ษณะรูปแบบกำรจดั ลำดับเนอ้ื หำนทิ รรศกำรประวัติศำสตร์สนุ ขั
- ส่วนนิทรรศการ 1. ต้นกำเนิดสตั ว์เลยี้ งลูกดว้ ยนม
2. วิวัฒนำกำรสุนัข
ประวัติศาสตรส์ นุ ขั 3. กำรกระจำยสำยพันธุ์ของสุนัขสูท่ วปี ตำ่ งๆท่ัวโลก
4. ควำมสัมพันธ์ระหว่ำงมนุษย์กบั สนุ ขั ในยุคก่อนประวตั ิศำสตร์
5. สำยพันธ์ุสนุ ขั ทั่วโลก

HISTORY [ 50 นำที ] รปู แบบในการนาเสนอนทิ รรศการ

[DOG] เทคนิค video wall นำเสนอเร่ืองรำวเน้ือหำประวัติศำสตร์โดยถ่ำยทอด
เรื่องรำวผ่ำนส่ือวิดีทัศน์ ผสำนกับกำรจัดแสดงตัวอย่ำงโมเดลจำลองเพื่อ
สร้ำงควำมเขำ้ ใจเน้อื หำใหม้ ำกข้ึนสำหรับเยำวชนโดยใช้ Diorama เป็นฉำก
หลงั

ส่วนจดั แสดงนทิ รรศการ ลกั ษณะรูปแบบกำรจัดลำดบั เนอื้ หำนทิ รรศกำรคุณทองแดง
- ส่วนนิทรรศการคณุ ทองแดง 1. ประวัตศิ ำสตร์สนุ ขั ทรงเลยี้ งของพระมหำกษตั ริยไ์ ทย
2. สนุ ขั ทรงเลีย้ งของพระรำชำ
[ 60 นำที ]
- คณุ บอ็ บบี้
KING - คุณโจโฉ
- คณุ ทองแดง
[DOG] - ควำมผูกพันของคุณทองแดงกับพระบำทสมเดจ็ พระเจำ้ อยหู่ วั ใน
รชั กำลท่ี 9
- สุนัขทรงเลีย้ ง
3. โครงกำรในพระรำชดำรศิ ูนย์รักษส์ นุ ขั หวั หนิ

รูปแบบในการนาเสนอนิทรรศการ

เทคนิค video wall นำเสนอเร่ืองรำวเน้ือหำประวัติศำสตร์โดยถ่ำยทอด
เร่ืองรำวผ่ำนสื่อวิดีทัศน์ ผสำนกับกำรจัดแสดงภำพถ่ำยประกอบ
นิทรรศกำร

M U S E U M O F K H U N TH O N G D A N G 85
AND
DOGCARECENTER

องคป์ ระกอบหลกั ระยะเวลาการชมนทิ รรศการ องค์ประกอบรอง

ส่วนจัดแสดงนทิ รรศการ [ 60 นำที ] ลักษณะรูปแบบกำรจดั ลำดับเนือ้ หำนิทรรศกำรประวตั ิศำสตรส์ นุ ัข
- ส่วนนิทรรศการสนุ ขั ไทย 1. ต้นกำเนดิ สนุ ัขสำยพันธส์ุ ยำม
2. 2 สำยพนั ธ์ุสุนัขไทยแท้
THAI
- ไทยหลังอำน
[DOG] - ไทยบำงแก้ว
3. ลักษณะทำงกำยวิภำค
4. ควำมสมั พันธ์ระหวำ่ งคนไทยกับสนุ ัขตง้ั แต่ อดีต - ปัจจุบัน

รปู แบบในการนาเสนอนทิ รรศการ

เทคนิค video wall นำเสนอเร่ืองรำวเน้ือหำโดยถ่ำยทอดเรื่องรำวผ่ำนส่ือ
วิดีทัศน์ ผสำนกับกำรจัดแสดงตัวอย่ำงสัตว์สตำฟ เพ่ือให้ผู้ชมนิทรรศกำร
ศึกษำจำกตัวอย่ำงจริง

สว่ นจัดแสดงนทิ รรศการ [ 40 นำที ] ลักษณะรปู แบบกำรจดั ลำดบั เน้อื หำนทิ รรศกำรคณุ ทองแดง
- ส่วนนทิ รรศการมิตรภาพ 1. กำรพ่ึงพำอำศัยกนั ของมนษุ ยก์ ับสนุ ขั
2. ลำนกิจกรรมสำหรับสุนัขกับเจำ้ ของ
FRIENDS 3. โซนจัดแสดงเรื่องสน้ั
4. เพอ่ื นขำ้ งถนน
[DOG]
รปู แบบในการนาเสนอนิทรรศการ

เทคนิค video wall นำเสนอเร่ืองรำวเนื้อหำโดยถ่ำยทอดเร่ืองรำวผ่ำนส่ือ
วิดีทศั น์ ผสำนกบั กำรจดั แสดงภำพถ่ำยประกอบนทิ รรศกำร

M U S E U M O F K H U N TH O N G D A N G

86 A N D
DOGCARECENTER

ตาราง 3.15 ตารางการวิเคราะห์องค์ประกอบนทิ รรศการช่วั คราว

นทิ รรศการชว่ั คราว ระยะเวลาการชมนิทรรศการ องคปป์ระรจะกาเอดบอื รนอง

เดอื น มกราคม

นทิ รรศกำรเพ่อื นสี่ขำ

[ 30 นำที ] เดือน กุมภาพนั ธ์

แลว้ แตห่ วั ขอ้ นทิ รรศกำร นิทรรศกำรแบง่ ปันควำมรกั
- กำรประกวดสุนัข
- กำรแสดงโชว์สุนขั

เดือน มีนาคม

วนั ที่ 23 มีนำคม
วนั ลกู สุนัข
- กจิ กรรมหำบำ้ นใหม่ให้เพือ่ นสี่ขำ

เดือน เมษายน
กิจกรรม WATER FUN WITH YOUR DOGS

เดอื น พฤษภาคม

นิทรรศกำรสุนขั จรจัด

เดอื น มิถนุ ายน

นทิ รรศกำรสนุ ขั ตำรวจ

[DOG]

Temporary exhibition

M U S E U M O F K H U N TH O N G D A N G 87
AND
DOGCARECENTER

นทิ รรศการชั่วคราว ระยะเวลาการชมนทิ รรศการ ประจาเดือน

เดือน กรกฎาคม

กิจกรรมช่วยเหลือเพ่ือนขำ้ งถนน

เดอื น สิงหาคม

26 สงิ หำคม
- กิจกรรมวันสนุ ขั โลก

[ 30 นำที ] เดือน กันยายน

แลว้ แต่หวั ขอ้ นทิ รรศกำร วันท่ี 8 กนั ยำยน
วนั ป้องกนั โรคพษิ สนุ ัขบำ้ ของโลก
- กิจกรรมฉดี วัคซีนป้อนกันโรคพษิ สนุ ขั บำ้ ฟรีสำหรบั ประชำชนทสี่ นใจ

เดอื น ตลุ าคม

นทิ รรศกำรควำมซอ่ื สตั ย์

เดอื น พฤศจิกายน

วนั ท่ี 7 พฤศจกิ ำยน
- กจิ กรรมรำลึกคณุ ทองแดง

เดอื น ธันวาคม

นทิ รรศกำรสนุ ัขสวยงำม

[DOG]

Temporary exhibition

M U S E U M O F K H U N TH O N G D A N G

88 A N D
DOGCARECENTER

3.4.2 การวเิ คราะห์พืน้ ทใ่ี ชส้ อยโครงการ

3.4.2..1 สว่ นจัดแสดง

ส่วนนิทรรศกำรถำวรแสดงเน้ือหำหลักของพิพิธภัณฑ์ในเชิงวิชำกำร แบ่งเป็นหัวข้อ สว่ นนทิ รรศกำรหมุนเวียน ใชเ้ ปน็ สว่ นจดั แสดงนิทรรศกำรเกย่ี วกับสุนัขโดยจะ
ต่ำงๆ โดยพืน้ ทใี่ ชส้ อยอำ้ งองิ Architect Data จำนวนเนอ้ื หำทนี่ ำเสนอ และควำมเหมำะสม หมุนเวียนเปล่ียนนิทรรศกำรแต่ละเดือน จำกกำรเปรียบเทียบโดยท่ัวไป
กรณศี ึกษำ โดยพน้ื ทจี่ ดั แสดงแบ่งแยกตำมหวั ข้อนิทรรศกำร ดงั น้ี อำคำรพิพิธภัณฑ์จะมีส่วนจัดแสดงคิดเป็น 20 % ของพื้นที่นิทรรศกำรถำวร
ท้งั หมด
A ARCHITECT DATA
B จำกกำรศกึ ษำอำคำรตวั อย่ำง
C จำกกำรวิเครำะห์กำรใชพ้ น้ื ท่ใี ช้สอยโครงกำร
D มำตรฐำนและเน้อื หำกำรจดั แสดง
E ขอ้ กำหนดกฎหมำยควบคุมอำคำร

ตาราง 3.16 ตารางพน้ื ท่ีใชส้ อยสว่ นนิทรรศการประวัตศิ าสตร์สนุ ขั

หวั ขอ้ จัดแสดง รปู แบบส่ือจดั กำรแสดง จำนวนหนว่ ย พน้ื ท่ี / หนว่ ย พ้ืนท่ีรวม อ้ำงองิ เวลำกำรชม
หอ้ งแสดงนิทรรศกำรประวตั ศิ ำสตรส์ ุนัข ( ตร.ม. ) ( ตร.ม. )
B C 15 นำที
1. ต้นกำเนดิ สตั วเ์ ลีย้ งลูกดว้ ยนม - Video wall 3 12 36 B C 5 นำที
2. วิวัฒนำกำรสุนขั - model 20 3.6 72 B C 5 นำที
3. กำรกระจำยสำยพันธข์ุ องสนุ ขั สู่ทวปี ต่ำงๆ - Video wall 3 12 36 B C 5 นำที
ทวั่ โลก - Diorama 5 24 120 B C 5 นำที
4. ควำมสัมพนั ธร์ ะหวำ่ งมนษุ ยก์ ับสุนัขในยคุ - Video wall 3 15 45 B C 5 นำที
ก่อนประวตั ศิ ำสตร์ - Diorama 3 24 72 B C 5 นำที
5. สำยพันธุ์สนุ ัขทัว่ โลก - Video wall 5 12 60

รวมพนื้ ท่ที ้งั หมด 441
Circulation 30 % 573.3
รวมพืน้ ทีห่ อ้ งแสดงนิทรรศกำรประวัติศำสตร์สนุ ัข 573.3 ตร.ม.

A ARCHITECT DATA B จำกกำรศกึ ษำอำคำรตัวอย่ำง C จำกกำรวิเครำะห์กำรใชพ้ น้ื ทใี่ ช้สอยโครงกำร D มำตรฐำนและเน้อื หำกำรจัดแสดง E ขอ้ กำหนดกฎหมำยควบคุมอำคำร

หอ้ งแสดงนิทรรศการประวตั ศิ าสตร์สุนขั ทฤษฎที ่เี กีย่ วข้อง

ภาพ 3.46 หอ้ งแสดงนิทรรศการประวัติศาสตร์สนุ ัข

M U S E U M O F K H U N TH O N G D A N G 89
AND
DOGCARECENTER

ตาราง 3.17 ตารางพน้ื ทใี่ ช้สอยส่วนนิทรรศการคุณทองแดง

หัวขอ้ จัดแสดง รปู แบบสอ่ื จัดกำรแสดง จำนวนหนว่ ย พน้ื ที่ / หน่วย พื้นท่ีรวม อ้ำงอิง เวลำกำรชม
( ตร.ม. ) ( ตร.ม. )
ห้องแสดงนทิ รรศกำรคณุ ทองแดง
- Video wall 10 15 150 B C 10 นำที
1. ประวัตศิ ำสตร์สุนัขทรงเลีย้ ง 32.4 B C 10 นำที
ของพระมหำกษัตรยิ ์ไทย - Model 9 3.6 259.2 B C 10 นำที
288.8 B C 10 นำที
2. สนุ ัขทรงเล้ยี งของพระรำชำ - Board 20 12.96 225 B C 10 นำที
43.2 B C 10 นำที
3. โครงกำรในพระรำชดำรศิ นู ยร์ กั ษ์สนุ ัข - Model 19 15.20
หวั หิน
- Wall board 15 15

- Model 12 3.6

รวมพนื้ ท่ที ง้ั หมด 998.6
Circulation 30 % 1,298.18
รวมพ้ืนท่หี ้องแสดงนิทรรศกำรคุณทองแดง 1,298.18 ตร.ม.

A ARCHITECT DATA B จำกกำรศึกษำอำคำรตวั อย่ำง C จำกกำรวเิ ครำะห์กำรใชพ้ ้ืนท่ีใช้สอยโครงกำร D มำตรฐำนและเนอ้ื หำกำรจดั แสดง E ข้อกำหนดกฎหมำยควบคมุ อำคำร

หอ้ งแสดงนทิ รรศการคณุ ทองแดง ทฤษฎที เี่ กี่ยวขอ้ ง

ภาพ 3.47 ห้องแสดงนทิ รรศการคณุ ทองแดง

M U S E U M O F K H U N TH O N G D A N G

90 A N D
DOGCARECENTER

ตาราง 3.18 ตารางพื้นท่ใี ช้สอยส่วนนิทรรศการสุนัขไทย

หัวขอ้ จัดแสดง รปู แบบสอื่ จดั กำรแสดง จำนวนหน่วย พื้นที่ / หนว่ ย พ้ืนที่รวม อำ้ งองิ เวลำกำรชม
ห้องแสดงนิทรรศกำรสนุ ขั ไทย ( ตร.ม. ) ( ตร.ม. )
1. ตน้ กำเนิดสุนัขสำยพันธ์ุสยำม B C 10 นำที
- Video wall 4 15 60 BC
1. 2 สำยพนั ธส์ุ ุนขั ไทยแท้ - Wall Board 6 12.96 77.76 BC
- ไทยหลงั อำน - Model 4 3.6 144.4 BC
- ไทยบำงแกว้ - Video wall 4 15 60 BC
- Diorama 2 24 48 B C 10 นำที
3. ลักษณะทำงกำยวิภำค - Wall Board 5 12.96 64.8 B C 10 นำที
- Model 2 3.6 7.2 BC
3. ควำมสัมพันธ์ระหว่ำงคนไทยกับสุนัข - Model 2 3.6 7.2 B C 15 นำที
ตงั้ แต่ อดตี - ปัจจุบัน - Wall Board 3 9 27
B C 15 นำที
- Wall Board 3 9 27

รวมพ้นื ทีท่ ั้งหมด 523.36
Circulation 30 % 680.36
รวมพืน้ ทห่ี อ้ งแสดงนิทรรศกำรสนุ ขั ไทย 680.36 ตร.ม.

A ARCHITECT DATA B จำกกำรศึกษำอำคำรตวั อย่ำง C จำกกำรวเิ ครำะหก์ ำรใช้พ้ืนทใ่ี ช้สอยโครงกำร D มำตรฐำนและเนื้อหำกำรจัดแสดง E ขอ้ กำหนดกฎหมำยควบคุมอำคำร

ห้องแสดงนิทรรศการสนุ ัขไทย

ภาพ 3.48 หอ้ งแสดงนทิ รรศการสุนัขไทย

M U S E U M O F K H U N TH O N G D A N G 91
AND
DOGCARECENTER

ตาราง 3.19 ตารางพน้ื ท่ใี ชส้ อยสว่ นนทิ รรศการมิตรภาพ

หัวข้อจดั แสดง รปู แบบสือ่ จดั กำรแสดง จำนวนหนว่ ย พนื้ ที่ / หน่วย พื้นทีร่ วม อำ้ งองิ เวลำกำรชม
( ตร.ม. ) ( ตร.ม. ) B C 10 นำที
ห้องแสดงนทิ รรศกำรมิตรภำพ - Wall Board 5 B C 10 นำที
1. กำรพึ่งพำอำศยั กนั ของมนุษย์กับสนุ ขั - HALL 1 12.96 64.8 B C 10 นำที
2. ลำนกจิ กรรมสำหรบั สุนัขกบั เจำ้ ของ - Wall Board 5 300 300 B C 10 นำที
3. โซนจัดแสดงเรอ่ื งสั้น - Wall Board 5 12.96 64.8
4. เพือ่ นขำ้ งถนน 12.96 64.8

รวมพ้ืนท่ที ้งั หมด 494.4
Circulation 30 % 642.72
รวมพื้นที่ห้องแสดงนิทรรศกำรมิตรภำพ 642.72 ตร.ม.

A ARCHITECT DATA B จำกกำรศกึ ษำอำคำรตัวอย่ำง C จำกกำรวเิ ครำะห์กำรใชพ้ ้ืนทีใ่ ชส้ อยโครงกำร D มำตรฐำนและเนอ้ื หำกำรจดั แสดง E ขอ้ กำหนดกฎหมำยควบคมุ อำคำร

ห้องแสดงนทิ รรศการมติ รภาพ

ภาพ 3.49 หอ้ งแสดงนทิ รรศการมิตรภาพ

M U S E U M O F K H U N TH O N G D A N G

92 A N D
DOGCARECENTER

ตาราง 3.20 ตารางพื้นท่ีใช้สอยส่วนบริหาร จำนวนผใู้ ชห้ ลัก ( คน ) จำนวนหนว่ ย พ้ืนท่ี / หนว่ ย พื้นท่ีรวม อำ้ งองิ
( ตร.ม. ) ( ตร.ม. )
องค์ประกอบ A
1 1 20 20 A
สว่ นบริหำร 1 1 17.5 17.5 A
ฝำ่ ยบริหำร 1 188 E
- หอ้ งผู้อำนวยกำร 1 1 3.5 3.5
- หอ้ งรองผ้อู ำนวยกำร
- ส่วนทำงำนเลขำนกุ ำร 1 1 14 14 A
- หอ้ งน้ำส่วนตัวผ้อู ำนวยกำร 3 1 6 18 A
- 144B
ฝ่ำยธรุ กำร - 1 12 12 B
- หอ้ งทำงำนหวั หน้ำฝำ่ ยธรุ กำร
- ห้องทำงำนเจำ้ หนำ้ ท่ี 1 1 14 14 A
- ห้องเก็บเอกสำร 3 1 6 18 A
- หอ้ งเก็บพสั ดุ
18 1 1.67 30.06 A
ฝำ่ ยกำรเงนิ - 1 15 15 A
- ห้องทำงำนหวั หน้ำฝ่ำยกำรเงนิ - 188A
- หอ้ งทำงำนเจำ้ หน้ำที่ 18 1 0.64 11.52 A
5 1 1.5 7.5 E
สว่ นกลำง
- ห้องประชมุ คณะกรรมกำร
- ห้องเตรยี มอำหำร
- ห้องเก็บของ
- โถงพักคอย
- ส่วนห้องนำ้

รวมพนื้ ท่ีทงั้ หมด 201.08
Circulation 30 % 261.40
รวมพื้นที่ส่วนบรหิ ำร 261.40 ตร.ม.

A ARCHITECT DATA B จำกกำรศกึ ษำอำคำรตวั อย่ำง C จำกกำรวิเครำะหก์ ำรใชพ้ นื้ ที่ใชส้ อยโครงกำร D มำตรฐำนและเนือ้ หำกำรจดั แสดง E ขอ้ กำหนดกฎหมำยควบคุมอำคำร

M U S E U M O F K H U N TH O N G D A N G 93
AND
DOGCARECENTER

ตาราง 3.21 ตารางพน้ื ท่ีใช้สอยส่วนบรกิ ารการศกึ ษา

องค์ประกอบ จำนวนผู้ใช้หลกั ( คน ) จำนวนหน่วย พ้นื ที่ / หนว่ ย พื้นทร่ี วม อ้ำงอิง
( ตร.ม. ) ( ตร.ม. )
ส่วนบริกำรกำรศึกษำ 1
ฝำ่ ยวิชำกำร 2 1 20 20 A
- ห้องหวั หนำ้ ฝ่ำยวชิ ำกำร 1 6 12
- หอ้ งทำงำนเจ้ำหนำ้ ที่ภณั ฑำรักษ์ A

ฝำ่ ยนทิ รรศกำร 2 1 6 12 E
- ห้องหวั หนำ้ ฝำ่ ยนทิ รรศกำรและเจำ้ หนำ้ ท่ี 2
1 6 12 E
ฝำ่ ยจัดกำรสัมมนำ
- หอ้ งหัวหนำ้ จดั สมั มนำและเจ้ำหน้ำท่ี

สว่ นกลำง - 2 1.5 15 A
- ห้องน้ำ - 1 99 A
- หอ้ งเก็บเอกสำร

ส่วนห้องบรรยำย / สมั มนำ 150 1 0.64 96 A
- โถงทำงเข้ำ 150
- ส่วนฟงั บรรยำย - 1 0.5 75 A
- ส่วนพกั ห้องวทิ ยำกร - 1 - 15 A
- ห้องน้ำชำย – ห้องนำ้ หญิง - 1 - 1.5 A
- ห้องเอนกประสงค์ 1 15 15 E

สว่ นวิจัย 1 1 20 20 A
- หอ้ งหัวหน้ำฝำ่ ยวจิ ัย 5 4 15 60 B
- หอ้ งปฏบิ ัตกิ ำรทำงวิจัย 2 1 24 48 C
- ห้องเกบ็ หนังสอื เพ่ือกำรวิจบั 2 2 15 30 B D
- ห้องเก็บตัวอยำ่ ง 1 3 66 A
- ห้องทำงำนเจ้ำหนำ้ ที่
446.5
รวมพืน้ ทที่ ้งั หมด 580.45
Circulation 30 % 580.45 ตร.ม.
รวมพื้นทส่ี ่วนบรกิ ำรกำรศกึ ษำ

A ARCHITECT DATA B จำกกำรศกึ ษำอำคำรตัวอยำ่ ง C จำกกำรวเิ ครำะห์กำรใช้พื้นทใี่ ช้สอยโครงกำร D มำตรฐำนและเนอื้ หำกำรจัดแสดง E ขอ้ กำหนดกฎหมำยควบคมุ อำคำร

M U S E U M O F K H U N TH O N G D A N G

94 A N D
DOGCARECENTER

ตาราง 3.22 ตารางพ้ืนท่ีใช้สอยสว่ นสนับสนนุ โครงการ

องค์ประกอบ จำนวนผใู้ ชห้ ลัก ( คน ) จำนวนหน่วย พน้ื ที่ / หน่วย พนื้ ทร่ี วม อ้ำงอิง
( ตร.ม. ) ( ตร.ม. )
สว่ นสนับสนุนโครงกำร 2 A
สว่ นบรกิ ำรรำ้ นคำ้ 2 1 20 40 A
- ร้ำนขำยของทีร่ ะลกึ 1 12 24
- รำ้ นขำยอปุ กรณส์ ำหรับสุนัข 60 A
- 1 4.5 / โตะ๊ 270 A
ส่วนร้ำนอำหำร - A
- พื้นท่สี ่วนรบั ประทำนอำหำร 1 20.25 20.25
- พน้ื ทส่ี ว่ นครัว
- ห้องน้ำชำย – หญิง 1 1.5 7.5

รวมพื้นที่ทัง้ หมด 361.75
Circulation 30 % 470.27
รวมพืน้ สว่ นสนบั สนนุ โครงกำร 470.27 ตร.ม.

ตาราง 3.23 ตารางพน้ื ท่ีใช้สอยส่วนบริการสาธารณะ

องค์ประกอบ จำนวนผ้ใู ช้หลกั ( คน ) จำนวนหน่วย พน้ื ที่ / หน่วย พนื้ ทร่ี วม อำ้ งอิง
( ตร.ม. ) ( ตร.ม. )
สว่ นบริกำรสำธำรณะ 400 BE
ส่วนโถงหลกั 1 1 400
- โถงและส่วนพกั คอย 400 BE
1 1 400
- โถงนิทรรศกำร 2 C
25 1 1.6 3.2 E
- สว่ นติดต่อสอบถำมขอ้ มลู 15 1 0.5 12.5 C
- สว่ นบริกำรรบั ฝำกของ 2 1 1.5 22.5 CE
- สว่ นหอ้ งน้ำชำย – หญงิ - 1 6.2 12.4 C
- ส่วนหอ้ งน้ำคนพกิ ำร 1 1 1.44 14.4 B
- ส่วนบริกำรหอ้ งน้ำสุนขั 1 4.5 4.5
- สว่ นรักษำควำมปลอดภยั

รวมพ้นื ท่ีทง้ั หมด 869.5
Circulation 30 % 1,130.35
รวมพน้ื ส่วนบริกำรสำธำรณะ 1,130.35 ตร.ม.

A ARCHITECT DATA B จำกกำรศึกษำอำคำรตัวอยำ่ ง C จำกกำรวเิ ครำะห์กำรใชพ้ ื้นท่ใี ชส้ อยโครงกำร D มำตรฐำนและเนือ้ หำกำรจัดแสดง E ข้อกำหนดกฎหมำยควบคุมอำคำร

M U S E U M O F K H U N TH O N G D A N G 95
AND
DOGCARECENTER

ตาราง 3.24 ตารางพ้นื ทใ่ี ช้สอยส่วนบรกิ าร จำนวนผใู้ ชห้ ลัก ( คน ) จำนวนหน่วย พื้นที่ / หน่วย พนื้ ท่ีรวม อ้ำงองิ
( ตร.ม. ) ( ตร.ม. )
องค์ประกอบ
ส่วนบริกำร 4 1 6 24 A
ฝ่ำยอำคำรและสถำนท่ี
- ห้องทำงำนหวั หนำ้ และเจำ้ หน้ำท่ี 7 1 6 42 A
- 166 B
ฝ่ำยเทคนคิ
- หอ้ งทำงำนเจำ้ หนำ้ ท่ี 4 1 2.8 11.2 A
- หอ้ งเกบ็ วัสดุ - 166 A

ฝำ่ ยซ่อมบำรุง 4 1 6 24 A
- หอ้ งพักเจ้ำหน้ำทซ่ี ่อมบำรงุ - 1 272 272 B C
- หอ้ งเก็บอุปกรณ์
4 1 9 36 A
ฝำ่ ยคลังนทิ รรศกำร B
- หอ้ งทำงำนหวั หน้ำและเจำ้ หน้ำที่ 1 1 4.5 4.5
- ห้องเก็บวตั ถุจัดแสดง
4 1 2.8 11.2 B
ส่วนรกั ษำควำมปลอดภัย - 144 B
- หอ้ งพักพนักงำน
- หอ้ ง CCTV - 10 1.5 15 E

สว่ นรกั ษำควำมสะอำด - 1 40 40 A
- ห้องพนกั งำนทำควำมสะอำด
- หอ้ งเกบ็ อปุ กรณ์ - 1 40 40 A

ส่วนงำนระบบอำคำร - 1 40 40 A
- หอ้ งนำ้ ชำย – หญงิ
- หอ้ งเครอื่ งระบบไฟฟำ้ - 1 30 30 A
- ห้องเครอื่ งระบบประปำ
- หอ้ งเครื่องระบบปรับอำกำศ
- หอ้ งพกั ขยะ

รวมพืน้ ที่ทง้ั หมด 590.9
Circulation 30 % 768.17
รวมพ้ืนทีส่ ่วนบริกำร 768.17 ตร.ม.

A ARCHITECT DATA B จำกกำรศกึ ษำอำคำรตวั อย่ำง C จำกกำรวิเครำะหก์ ำรใช้พน้ื ท่ใี ชส้ อยโครงกำร D มำตรฐำนและเน้ือหำกำรจดั แสดง E ข้อกำหนดกฎหมำยควบคุมอำคำร

M U S E U M O F K H U N TH O N G D A N G

96 A N D
DOGCARECENTER

ตาราง 3.25 ตารางพน้ื ทีใ่ ชส้ อยสว่ นศนู ย์ชว่ ยเหลือสนุ ขั สยาม

องคป์ ระกอบ จำนวนผ้ใู ชห้ ลัก ( คน / ตวั ) จำนวนหนว่ ย พน้ื ท่ี / หนว่ ย พ้นื ทีร่ วม อำ้ งอิง
( ตร.ม. ) ( ตร.ม. )
ฝำ่ ยดูแลสุนัข BC
- ห้องปรบั สภำพสนุ ัข 10 1 9 90 AB
- หอ้ งตรวจสขุ ภำพ 5 1 12 60 C
- หอ้ งพกั ฟ้นื สำหรบั สุนขั ( แบบกรงเดี่ยว ) 90 90 1.44 129.6 C
- ห้องพักฟื้นสำหรับสนุ ขั ( แบบกรงรวม ) 10 1 3 30 BC
- ส่วนท่ีพกั สำหรับสุนขั ( โรงแรมสนุ ัข ) 50 1 3 150
A
ฝ่ำยติดตอ่ ประชำสมั พนั ธ์ 1 1 66 A
- หอ้ งทำงำนหัวหนำ้ ฝ่ำยประชำสัมพันธ์ 4 1 6 24 A
- หอ้ งทำงำนเจ้ำหน้ำท่ี 1 1 44
- ห้องเกบ็ เอกสำร A
A
ฝำ่ ยอำคำรและสถำนที่ 1 1 66
- หอ้ งหวั หนำ้ ฝำ่ ย 4 1 6 24 A
- หอ้ งทำงำนเจำ้ หน้ำท่ี BC
BC
ฝำ่ ยคลงั อำหำร 1 1 66 AC
- หอ้ งหัวหนำ้ ฝำ่ ย 3 1 6 18
- หอ้ งควบคมุ โภชนำกำร 4 2 32 256 E
- ห้องจดั เตรยี ม 1 1 100 100
- ห้องเกบ็ ของ A
A
ส่วนบรกิ ำร - 15 1.5 22.5
- ห้องน้ำ

ฝ่ำยซอ่ มบำรงุ 4 1 2.8 11.2
- หอ้ งพกั ชำ่ งซ่อมบำรุง 1 1 66
- หอ้ งเก็บอปุ กรณ์

รวมพืน้ ทที่ ัง้ หมด 943.3
Circulation 30 % 1,226.29
รวมพน้ื ที่ส่วนศนู ยช์ ว่ ยเหลือสุนขั สยำม 1,226.29 ตร.ม.

A ARCHITECT DATA B จำกกำรศกึ ษำอำคำรตวั อย่ำง C จำกกำรวิเครำะห์กำรใชพ้ ืน้ ทใี่ ชส้ อยโครงกำร D มำตรฐำนและเน้ือหำกำรจัดแสดง E ข้อกำหนดกฎหมำยควบคมุ อำคำร

M U S E U M O F K H U N TH O N G D A N G 97
AND
DOGCARECENTER

ตาราง 3.26 ตารางพืน้ ท่ใี ช้สอยสว่ นศนู ยช์ ว่ ยเหลือสนุ ัขสยาม

องคป์ ระกอบ จำนวนผใู้ ช้หลัก ( คน ) จำนวนหนว่ ย พืน้ ท่ี / หน่วย พนื้ ทร่ี วม อำ้ งองิ
( ตร.ม. ) ( ตร.ม. )
BC
สว่ นเพำะพนั ธุ์สนุ ขั 2 2 25 100 BC
- ห้องเก็บเช้อื 5 2 15 150 BC
- หอ้ งปฎิบัตกิ ำรวจิ ัย 3 5 6 90 BC
- ห้องพักฟ้ืนสนุ ขั 3 2 6 36 BC
- ห้องปรับสภำพลกู สนุ ัข 3 5 6 90 BC
- หอ้ งอนบุ ำลลกู สุนัข 3 3 6 54
- หอ้ งพยำบำล A
A
ส่วนดแู ลผู้เข้ำชมนิทรรศกำร จำนวนผใู้ ช1้หลัก ( คน ) 1 66
- ห้องเจ้ำหน้ำทฝ่ี ่ำยประชำสัมพนั ธ์ 4 1 6 24 C
- ห้องวิทยำกร C
100 1 3 300
สว่ นลำนกิจกรรมกลำงแจง้ - 1 1.5 150
- สว่ นลำนกิจกรรมสำหรบั สนุ ัข
- ส่วนลำนกจิ กรรมสำหรับลกู สนุ ขั

รวมพนื้ ทีท่ ัง้ หมด 1,000
Circulation 30 % 1,300
รวมพ้ืนทีส่ ว่ นลำนกิจกรรมกลำงแจ้ง 1,300 ตร.ม.

ตาราง 3.27 ตารางพ้ืนที่ใช้สอยสว่ นจอดรถ องคป์ ระกอบรอง พนื้ ทีร่ วม อำ้ งองิ
( ตร.ม. ) BE
องค์ประกอบหลกั พน้ื ท่ีใชท้ ัง้ หมดของโครงกำร ( 10830 / 240 ) = 45 คัน 45 คนั / 540
จอดรถทัว่ ไปของผูใ้ ชโ้ ครงกำร ( 12 ตร.ม. / คนั ) BE
BE
จอดรถจกั รยำนยนต์ คดิ จำก 5 % ของผเู้ ข้ำชมโครงกำร 11 คัน / 22 BE
( จำนวนผ้ใู ชเ้ ขำ้ ชมท้งั วัน 464 ) = 23 คน
จอดรถบสั รถจักรยำนยนต์ 1 สำมำรถบรรทกุ ผโู้ ดยสำร 2 คน 5 คนั / 240
ดงั นน้ั จำนวนพน้ื ท่ีจอดรถจักรยำนยนต์ =11 คัน ( 2 ตร.ม./คัน )
จอดรถเจ้ำหน้ำที่ คิดจำกจำนวนผ้เู ข้ำชมเป็นหมคู่ ณะสูงสดุ = 200 คน 10 คนั / 120
จอดรถบรกิ ำร รถบัส 1 คน สำมำรถจผุ ู้โดยสำรได้ = 40 คน 2 คัน / 48
พนื้ ทีจ่ อดรถบัสทง้ั หมด = 200 / 40 = 5 คัน
รวมพนื้ ท่ที ง้ั หมด ( 48 ตำรำงเมตร / คนั )
Circulation 50 % คำนวณจำกจำนวนเจำ้ หน้ำท่ี 112 คน
รวมพืน้ ท่จี อดรถท้ังหมด ( 10 คน / 1 คนั ) 10 คนั ( 12 ตร.ม. )
เปรียบเทียบอำคำรประเภทเดยี วกนั ทีจ่ อดรถบริกำร
จำนวน 2 คนั ( 24 / คัน )

970
1,455
1,455 ตร.ม.

A ARCHITECT DATA B จำกกำรศึกษำอำคำรตวั อยำ่ ง C จำกกำรวเิ ครำะหก์ ำรใชพ้ ้นื ทีใ่ ช้สอยโครงกำร D มำตรฐำนและเนอ้ื หำกำรจดั แสดง E ขอ้ กำหนดกฎหมำยควบคุมอำคำร

M U S E U M O F K H U N TH O N G D A N G

98 A N D
DOGCARECENTER
สรปุ พ้ืนทท่ี ง้ั หมดของโครงการ

พ้ืนทส่ี ว่ นจัดแสดง
พ้ืนท่สี ่วนบรหิ ำร
พน้ื ทสี่ ่วนบริกำรสำธำรณะ

พนื้ ทส่ี ว่ นบริกำรกำรศกึ ษำ

พ้นื ทีส่ ว่ นบริกำร

พน้ื ท่สี ่วนดูแลสนุ ัข

[DOG]

พืน้ ทสี่ ่วนสนบั สนุนโครงกำร

รวมพืน้ ทใ่ี ชส้ อยท้งั หมด

พื้นทพ่ี พิ ธิ ภัณฑ์คุณทองแดง 5,637.63 ตำรำงเมตร
พื้นทศ่ี ูนยช์ ว่ ยเหลอื สนุ ขั สยำม 3,212.69 ตำรำงเมตร
พื้นทจ่ี อดรถ 1,445 ตำรำงเมตร
พ้ืนทโี่ ครงกำรท้งั หมด 10,830 ตารางเมตร


Click to View FlipBook Version