The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

กำหนดการจัดการเรียนรู้ รายวิชา อ22101 63

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by pornnica.una, 2020-05-19 04:15:05

กำหนดการจัดการเรียนรู้ รายวิชา อ22101 63

กำหนดการจัดการเรียนรู้ รายวิชา อ22101 63

0

กำหนดกำรจัดกำรเรยี นรู้
รำยวชิ ำ อ22101 ภำษำอังกฤษพนื้ ฐำน

ช้นั มธั ยมศกึ ษำปีที่ 2
ภำคเรยี นท่ี 1 ปีกำรศึกษำ 2563
จำนวน 60 ชวั่ โมง 1.5 หน่วยกติ
เวลำเรยี น 3 ช่ัวโมง / สปั ดำห์

สอนโดย นำงภรณิกำร์ อุณำภำค
ตำแหนง่ ครู วทิ ยฐำนะ ครชู ำนำญกำร

กลุม่ สำระกำรเรียนรภู้ ำษำต่ำงประเทศ
โรงเรียนโคกโพธไ์ิ ชยศกึ ษำ

อำเภอโคกโพธ์ิไชย จังหวดั ขอนแกน่
สำนักงำนเขตพน้ื ทกี่ ำรศึกษำมัธยมศึกษำ เขต 25
สงั กัดสำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน

1

บันทึกขอ้ ควำม

ส่วนรำชกำร โรงเรยี นโคกโพธ์ไิ ชยศกึ ษา จงั หวัดขอนแก่น
ท่ี / 2563 วนั ที่ 3 เดือน พฤษภาคม พ.ศ.2563
เรือ่ ง ขออนญุ าตใช้กาหนดการจดั การเรียนรู้

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เรียน ผูอ้ านวยการโรงเรยี นโคกโพธ์ไิ ชยศึกษา

ด้วยข้าพเจา้ นางภรณกิ ารณ์ อณุ าภาค ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครชู านาญการ ได้จัดทากาหนด
การจัดการเรยี นรู้ รายวชิ า อ22101 ภาษาองั กฤษพื้นฐาน ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2563
เรียบร้อยแล้ว ซ่งึ ประกอบดว้ ยการวิเคราะหห์ ลักสตู ร โครงสร้างหลักสตู ร คาอธิบายรายวิชา หนว่ ยการเรียนรู้
ตัวช้วี ัดและอัตราสว่ นนา้ หนกั คะแนน การวัดผลประเมินผลและกาหนดการจดั การเรยี นรู้

เพือ่ ใช้เปน็ แนวทางในการจดั ทาแผนการจดั การเรียนร้แู ละจัดกระบวนการเรียนรู้ตามหลักสูตรต่อไป
จงึ ขออนญุ าตใช้กาหนดการจัดการเรยี นรู้ รายวิชา อ22101 ภาษาองั กฤษพ้ืนฐาน ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2
ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2563

จงึ เรยี นมาเพ่ือโปรดพจิ ารณา

(ลงชอ่ื ) ครผู ูส้ อน
(นางภรณกิ าร์ อุณาภาค)

ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการ

ความเหน็ ของกลุ่มบรหิ ารวิชาการ

..........................................................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................................................

(ลงชือ่ )
(นางพรพิรณุ แจ้งใจ)

ผู้ชว่ ยผูอ้ านวยการกล่มุ บริหารวิชาการ

ความเห็นของผู้อานวยการโรงเรียน

..........................................................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................................................

(ลงช่ือ)
(นางลดั ดา ผาพันธ์)

ผอู้ านวยการโรงเรียนโคกโพธ์ไิ ชยศึกษา

2

คำนำ

เอกสารกาหนดการจัดการเรียนรเู้ ล่มน้ี จัดทาขน้ึ เพื่อเป็นแนวทางในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
รายวิชา อ22101 ภาษาอังกฤษพนื้ ฐาน ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2563 ใหเ้ ป็นไปตาม
วัตถุประสงค์ทวี่ างไว้ ตลอดจนเปน็ แนวทางในการจดั การเรียนรู้ใหม้ ปี ระสิทธภิ าพย่ิงขน้ึ โดยเฉพาะครูผู้สอนจะได้
ทราบแนวปฏิบัติและหัวข้อต่างๆเกี่ยวกบั รายวิชาได้อย่างชัดเจนทง้ั ยังเป็นการเตรยี มการในการจัดเนื้อหา เวลา
กิจกรรม หน่วยการเรยี นรู้ ตัวชี้วัด คะแนน ใหเ้ หมาะสมกบั ระดบั ความสามารถของนักเรียน

หวงั เป็นอย่างยง่ิ วา่ เอกสารเล่มนค้ี งจะเป็นประโยชนอ์ ย่างยงิ่ ในการจดั การเรียนรู้ตอ่ ไป และหากมี
ขอ้ บกพร่องประการใดขอน้อมรับเพ่ือนาไปปรับปรงุ ต่อไป

ภรณกิ าร์ อณุ าภาค

3

หลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำขัน้ พ้ืนฐำน พุทธศกั รำช 2551

วิสัยทศั น์หลกั สตู รแกนกลำงกำรศกึ ษำขน้ั พนื้ ฐำน

หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน ม่งุ พัฒนาผู้เรียนทุกคน ซ่ึงเปน็ กาลงั ของชาติให้เปน็ มนุษย์
ท่ีมีความสมดุลท้งั ด้านร่างกาย ความรู้ คุณธรรม มจี ิตสานึกในความเปน็ พลเมืองไทยและเปน็ พลโลก ยดึ ม่ันใน
การปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริยท์ รงเปน็ ประมขุ มคี วามรู้และทักษะพื้นฐาน รวมท้ัง
เจตคติ ทจ่ี าเป็นต่อการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพและการศกึ ษาตลอดชีวติ โดยม่งุ เน้นผเู้ รียนเปน็ สาคัญบน
พ้ืนฐานความเชอ่ื วา่ ทกุ คนสามารถเรยี นร้แู ละพัฒนาตนเองไดเ้ ต็มตามศักยภาพ

หลกั กำร
หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน มีหลกั การทสี่ าคัญ ดงั น้ี
1. เป็นหลกั สตู รการศกึ ษาเพ่ือความเป็นเอกภาพของชาติ มีจดุ หมายและมาตรฐานการเรยี นรู้

เปน็ เป้าหมายสาหรับพฒั นาเด็กและเยาวชนให้มีความรู้ ทักษะ เจตคติ และคณุ ธรรมบนพ้ืนฐานของความเปน็
ไทยควบคู่กบั ความเปน็ สากล

2. เป็นหลักสูตรการศึกษาเพ่ือปวงชน ที่ประชาชนทุกคนมีโอกาสไดร้ ับการศึกษาอย่างเสมอภาคและมี
คณุ ภาพ

3. เปน็ หลักสตู รการศกึ ษาที่สนองการกระจายอานาจ ใหส้ งั คมมีส่วนรว่ มในการจดั การศึกษา
ให้สอดคล้องกับสภาพและความตอ้ งการของท้องถ่ิน

4. เปน็ หลักสูตรการศกึ ษาท่ีมีโครงสร้างยดื หยนุ่ ท้ังด้านสาระการเรยี นรู้ เวลาและการจดั การเรียนรู้
5. เปน็ หลกั สตู รการศึกษาท่เี น้นผู้เรยี นเปน็ สาคัญ
6. เปน็ หลกั สตู รการศึกษาสาหรบั การศกึ ษาในระบบ นอกระบบ และตามอัธยาศัย ครอบคลมุ ทุก
กลุม่ เปา้ หมาย สามารถเทียบโอนผลการเรยี นรู้ และประสบการณ์

จุดหมำย
หลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน มุ่งพัฒนาผู้เรยี นใหเ้ ปน็ คนดี มปี ัญญา มคี วามสขุ

มศี กั ยภาพในการศึกษาต่อและประกอบอาชพี จึงกาหนดเป็นจุดหมายเพ่ือให้เกิดกับผู้เรยี น เมอื่ จบการศึกษาขน้ั
พืน้ ฐาน ดังนี้

1. มีคณุ ธรรม จริยธรรมและค่านยิ มที่พงึ ประสงค์ เหน็ คุณค่าของตนเอง มีวนิ ยั และปฏิบตั ิตนตาม
หลักธรรมของพระพุทธศาสนา หรือศาสนาทต่ี นนบั ถอื ยดึ หลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

2. มคี วามรู้ ความสามารถในการสอ่ื สาร การคิด การแกป้ ัญหา การใชเ้ ทคโนโลยีและมีทกั ษะชวี ติ
3. มสี ขุ ภาพกายและสุขภาพจิตท่ดี ี มีสขุ นิสัยและรักการออกกาลงั กาย
4. มีความรกั ชาติ มจี ติ สานกึ ในความเป็นพลเมอื งไทยและพลโลกยึดมน่ั ในวถิ ชี ีวิตและการปกครองตาม
ระบอบประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษตั รยิ ์ทรงเปน็ ประมขุ
5. มจี ิตสานกึ ในการอนรุ กั ษ์วัฒนธรรมและภมู ปิ ญั ญาไทย การอนรุ ักษแ์ ละพัฒนาสิง่ แวดลอ้ ม
มีจิตสาธารณะที่มุ่งทาประโยชน์และสรา้ งสงิ่ ทีด่ ีงามในสงั คม และอยู่รว่ มกันในสงั คมอย่างมีความสขุ
วสิ ัยทัศนโ์ รงเรียนโคกโพธไิ์ ชยศกึ ษำ
โรงเรียนโคกโพธ์ิไชยศึกษา เป็นองค์กรแหง่ การเรยี นรู้และเปน็ ศูนยก์ ลางพฒั นาชุมชน บริหารจัด
การศึกษาดว้ ยระบบคุณภาพตามหลกั ธรรมาภบิ าลและหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง สคู่ วามเปน็ สากลตาม
วถิ คี วามเป็นไทย ครูมคี ุณภาพตามมาตรฐานวิชาชีพ นักเรียนมีคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ มีความเป็นเลิศทาง
วชิ าการ กา้ วทนั เทคโนโลยีและมจี ติ สานกึ รักษส์ ง่ิ แวดล้อม

4

พันธกจิ (MISSION)
1. สง่ เสริม สนบั สนุน การให้บริการการศึกษาขนั้ พน้ื ฐานอย่างเสมอภาคทั่วถึงทุกกลมุ่ เป้าหมาย
2. พัฒนาผูเ้ รียนใหไ้ ด้คุณภาพตามมาตรฐานการศกึ ษาและมคี วามเป็นไทยโดยเน้นปฏิรูประบบการ

เรยี นร้ทู ยี่ ึดผู้เรียนเป็นสาคัญ
3. ส่งเสรมิ พัฒนา ระบบการบริหารงาน การจัดการในองคก์ รให้มปี ระสิทธภิ าพ โดยใหช้ ุมชน และ

องค์กรสว่ นทอ้ งถิ่นมีส่วนร่วม
4. พฒั นา บรรยากาศส่ิงแวดล้อมและแหล่งเรียนร้ภู ายในโรงเรียน ใหเ้ ออ้ื ต่อการจัดการเรียน

การสอน

เป้ำประสงค์ (GOAL)
นกั เรยี นไดร้ ับการศึกษาข้ันพ้ืนฐานอย่างเสมอภาคเตม็ ตามศักยภาพ มคี ุณภาพตามมาตรฐาน

การศกึ ษาของชาติ เปน็ คนดี คนเก่ง และดารงชวี ติ อย่ใู นสังคมอยา่ งมีความสุข

กลยุทธ์โรงเรียน
1. ส่งเสริมการผลติ การใชส้ ่อื นวัตกรรมและภมู ิปัญญาท้องถน่ิ ในการจัดการเรยี นการสอนที่เน้น

ผู้เรยี นเป็นสาคญั
2. พฒั นาครใู ห้มีมาตรฐานวชิ าชพี ครตู ามพระราชบญั ญัตกิ ารศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 แก้ไขเพมิ่ เติม

(ฉบบั ท่ี 2) พ.ศ.2545 (ฉบับท่ี 3) พ.ศ.2553
3. พัฒนาระบบการบริหารงบประมาณและสนิ ทรัพยใ์ หม้ ีประสทิ ธิภาพตรวจสอบได้
4. พัฒนาระบบการบริหารและการจัดการศึกษาตามมาตรฐานการศึกษาแหง่ ชาตโิ ดยใช้โรงเรยี น

เป็นฐาน
5. ส่งเสรมิ และพัฒนานักเรยี นใหม้ คี ุณลักษณะตามเกณฑม์ าตรฐานการศกึ ษาแหง่ ชาติ
6. พฒั นาอาคารสถานท่ี บรรยากาศส่ิงแวดล้อมและแหลง่ เรียนรู้ ให้เออ้ื ต่อการเรยี นรู้
7. ส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการบริหารและจัดการศึกษาของผูม้ สี ว่ นเกี่ยวข้องกบั สถานศึกษา

สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนโคกโพธ์ไิ ชยศกึ ษา มงุ่ ใหผ้ ้เู รียนเกิดสมรรถนะสาคัญ 5 ประการ ดงั น้ี
1. ควำมสำมำรถในกำรส่ือสำร เปน็ ความสามารถในการรับและส่งสาร มีวัฒนธรรมในการใชภ้ าษา

ถ่ายทอดความคดิ ความรู้ความเขา้ ใจ ความรสู้ ึกและทศั นะของตนเองเพือ่ แลกเปล่ียนข้อมูลข่าวสารและ
ประสบการณ์อันจะเป็นประโยชนต์ ่อการพัฒนาตนเองและสังคม รวมทงั้ การเจรจาตอ่ รองเพอ่ื ขจัดและลดปญั หา
ความขดั แย้งต่าง ๆ การเลือกรบั หรอื ไมร่ ับขอ้ มลู ข่าวสารดว้ ยหลักเหตุผลและความถกู ต้อง ตลอดจน
การเลือกใช้วธิ ีการส่อื สาร ท่มี ีประสิทธภิ าพโดยคานงึ ถึงผลกระทบท่มี ีต่อตนเองและสงั คม

2. ควำมสำมำรถในกำรคดิ เปน็ ความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคดิ สงั เคราะห์ การคิด อยา่ ง
สรา้ งสรรค์ การคิดอย่างมวี ิจารณญาณ และการคิดเป็นระบบ เพื่อนาไปสู่การสรา้ งองค์ความรหู้ รือสารสนเทศ
เพ่ือการตัดสินใจเกีย่ วกับตนเองและสงั คมได้อย่างเหมาะสม

3. ควำมสำมำรถในกำรแกป้ ญั หำ เป็นความสามารถในการแก้ปัญหาและอุปสรรคตา่ ง ๆ ท่ีเผชิญได้
อยา่ งถูกต้องเหมาะสมบนพ้ืนฐานของหลักเหตผุ ล คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เขา้ ใจความสัมพนั ธ์และการ
เปลยี่ นแปลงของเหตุการณ์ตา่ ง ๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยกุ ต์ความร้มู าใช้ในการป้องกนั และแก้ไขปัญหา
และมีการตดั สนิ ใจที่มปี ระสิทธิภาพโดยคานงึ ถงึ ผลกระทบทีเ่ กิดขึน้ ต่อตนเอง สงั คมและสงิ่ แวดลอ้ ม

4. ควำมสำมำรถในกำรใช้ทักษะชีวติ เป็นความสามารถในการนากระบวนการตา่ ง ๆ ไปใช้ใน
การดาเนินชีวติ ประจาวัน การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรยี นรู้อย่างต่อเน่อื ง การทางานและการอย่รู ว่ มกนั ในสงั คม

5

ดว้ ยการสรา้ งเสรมิ ความสมั พันธอ์ นั ดรี ะหวา่ งบุคคล การจัดการปัญหาและความขดั แย้งตา่ ง ๆ อยา่ งเหมาะสม การ
ปรบั ตัวใหท้ ันกับการเปลยี่ นแปลงของสงั คมและสภาพแวดลอ้ ม และการรจู้ ักหลีกเลีย่ งพฤตกิ รรมไม่พงึ ประสงค์ที่
สง่ ผลกระทบตอ่ ตนเองและผ้อู ืน่

5. ควำมสำมำรถในกำรใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือกและใช้ เทคโนโลยดี ้านตา่ ง ๆ และ
มที ักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพอ่ื การพฒั นาตนเองและสังคม ในด้านการเรยี นรู้ การส่ือสาร การทางาน
การแก้ปญั หาอยา่ งสรา้ งสรรค์ ถูกต้อง เหมาะสมและมคี ุณธรรม

คุณลักษณะอนั พึงประสงค์

หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน มุง่ พฒั นาผู้เรียนใหม้ คี ุณลักษณะอันพึงประสงค์ เพื่อให้สามารถ
อยู่ร่วมกับผอู้ น่ื ในสังคมได้อย่างมคี วามสขุ ในฐานะเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ดังน้ี

1. รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์
2. ซอื่ สัตยส์ ุจริต
3. มีวินยั
4. ใฝ่เรียนรู้
5. อยอู่ ยา่ งพอเพียง
6. มงุ่ ม่นั ในการทางาน
7. รักความเปน็ ไทย
8. มีจติ สาธารณะ
นอกจากนี้ สถานศึกษาสามารถกาหนดคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์เพม่ิ เติมให้สอดคล้องตามบรบิ ท
และจุดเนน้ ของตนเอง

ทำไมตอ้ งเรียนภำษำตำ่ งประเทศ
ในสังคมโลกปัจจบุ นั การเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศมีความสาคัญและจาเปน็ อย่างยง่ิ

ในชีวติ ประจาวัน เนื่องจากเป็นเคร่ืองมือสาคัญในการติดต่อส่อื สาร การศกึ ษา การแสวงหาความรู้
การประกอบอาชีพ การสรา้ งความเขา้ ใจเกี่ยวกับวฒั นธรรมและวสิ ยั ทัศน์ของชมุ ชนโลก และตระหนักถึงความ
หลากหลายทางวัฒนธรรมและมุมมองของสงั คมโลก นามาซงึ่ มิตรไมตรแี ละความรว่ มมือกบั ประเทศต่างๆ ช่วย
พฒั นาผเู้ รียนให้มคี วามเข้าใจตนเองและผูอ้ ่นื ดีขน้ึ เรยี นรูแ้ ละเข้าใจความแตกต่างของภาษาและวัฒนธรรม
ขนบธรรมเนียมประเพณี การคิด สงั คม เศรษฐกิจ การเมือง การปกครอง มีเจตคติท่ีดีต่อการใช้
ภาษาต่างประเทศ และใช้ภาษาต่างประเทศเพ่ือการสื่อสารได้ รวมท้ังเข้าถึงองค์ความรู้ตา่ งๆ ได้งา่ ยและกวา้ ง
ข้ึน และมีวิสัยทศั น์ในการดาเนินชีวติ

ภาษาตา่ งประเทศทีเ่ ปน็ สาระการเรียนร้พู ้นื ฐาน ซึง่ กาหนดให้เรียนตลอดหลักสูตรการศึกษา
ขน้ั พน้ื ฐาน คือ ภาษาอังกฤษ ส่วนภาษาต่างประเทศอืน่ เช่น ภาษาฝรงั่ เศส เยอรมนั จนี ญ่ีปุน่ อาหรับ บาลี
และภาษากลุ่มประเทศเพอ่ื นบา้ น หรอื ภาษาอ่นื ๆ ให้อยู่ในดลุ ยพนิ ิจของสถานศึกษาทจ่ี ะจดั ทารายวชิ าและ
จัดการเรียนรตู้ ามความเหมาะสม

เรียนรู้อะไรในภำษำต่ำงประเทศ
กลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาตา่ งประเทศ มุ่งหวังให้ผู้เรียนมีเจตคตทิ ดี่ ตี ่อภาษาตา่ งประเทศ สามารถใช้

ภาษาต่างประเทศ ส่ือสารในสถานการณ์ต่าง ๆ แสวงหาความรู้ ประกอบอาชีพ และศึกษาต่อ ในระดับทีส่ ูงขนึ้
รวมท้ังมีความรู้ความเข้าใจในเร่ืองราวและวฒั นธรรมอันหลากหลายของประชาคมโลก และสามารถถา่ ยทอด
ความคิดและวฒั นธรรมไทยไปยังสงั คมโลกไดอ้ ยา่ งสร้างสรรค์ ประกอบดว้ ยสาระสาคัญ ดังน้ี

6

1.ภำษำเพอื่ กำรสือ่ สำร การใช้ภาษาตา่ งประเทศในการฟัง-พดู -อ่าน-เขยี น แลกเปลยี่ นข้อมลู
ข่าวสาร แสดงความรู้สกึ และความคิดเหน็ ตคี วาม นาเสนอข้อมลู ความคิดรวบยอดและความคดิ เห็นในเรอ่ื ง
ต่างๆ และสรา้ งความสัมพันธร์ ะหวา่ งบุคคลอย่างเหมาะสม

2.ภำษำและวัฒนธรรม การใชภ้ าษาต่างประเทศตามวัฒนธรรมของเจ้าของภาษาความสัมพนั ธ์
ความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษากบั วัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา ภาษาและวฒั นธรรมของเจา้ ของ
ภาษากับวฒั นธรรมไทย และนาไปใชอ้ ย่างเหมาะสม

3.ภำษำกบั ควำมสัมพนั ธก์ ับกลุ่มสำระกำรเรยี นรู้อื่น การใช้ภาษาตา่ งประเทศในการเชอ่ื มโยงความรู้
กับกลมุ่ สาระการเรยี นรู้อ่นื เปน็ พน้ื ฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และ
เปดิ โลกทศั นข์ องตน

4.ภำษำกบั ควำมสัมพนั ธก์ บั ชุมชนและโลก การใชภ้ าษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ทง้ั ใน
ห้องเรียนและนอกห้องเรียน ชุมชน และสงั คมโลก เปน็ เครื่องมือพ้นื ฐานในการศึกษาต่อ
ประกอบอาชีพ และแลกเปลยี่ นเรียนรู้กับสังคมโลก

สำระและมำตรฐำนกำรเรยี นรู้
สำระท่ี1 ภำษำเพอื่ กำรส่ือสำร
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตคี วามเร่ืองทฟ่ี ังและอา่ นจากสอ่ื ประเภทตา่ งๆ และแสดงความคดิ เห็นอยา่ งมี

เหตุผล
มาตรฐาน ต1 .2 มีทกั ษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรูส้ กึ และความ

คดิ เหน็ อย่างมีประสิทธภิ าพ
มาตรฐาน ต1 .3 นาเสนอข้อมูลขา่ วสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเร่ืองต่างๆ โดยการพูดและการ

เขยี น
สำระที่2 ภำษำและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต2 .1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหวา่ งภาษากับวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ ได้อยา่ ง

เหมาะสมกับกาลเทศะ
มาตรฐาน ต2 .2 เขา้ ใจความเหมอื นและความแตกตา่ งระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา

กบั ภาษาและวัฒนธรรมไทย และนามาใชอ้ ยา่ งถูกต้องและเหมาะสม
สำระท่ี3 ภำษำกบั ควำมสัมพันธ์กับกล่มุ สำระกำรเรียนร้อู ื่น
มาตรฐาน ต3 .1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในการเชอื่ มโยงความร้กู ับกลุ่มสาระการเรียนร้อู ่ืน และเปน็ พื้นฐานในการ

พฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทัศน์ของตน
สำระที่4 ภำษำกับควำมสมั พันธ์กบั ชมุ ชนและโลก
มาตรฐาน ต4 .1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศในสถานการณต์ ่างๆ ทัง้ ในสถานศกึ ษา ชุมชน และสงั คม
มาตรฐาน ต4 .2 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศเปน็ เครื่องมือพื้นฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และ การ

แลกเปลีย่ นเรียนรูก้ ับสังคมโลก

คุณภำพผู้เรยี น
จบชนั้ มธั ยมศกึ ษำปีที่ 3
1. ปฏิบตั ติ ามคาขอรอ้ ง คาแนะนา คาช้ีแจง และคาอธิบายทีฟ่ ังและอ่าน อา่ นออกเสยี งข้อความ ขา่ ว

โฆษณา นทิ าน และบทร้อยกรองสน้ั ๆ ถกู ตอ้ งตามหลักการอา่ น ระบุ/เขียนส่ือที่ไมใ่ ชค่ วามเรยี งรปู แบบต่างๆ
สมั พันธ์กับประโยคและขอ้ ความท่ฟี ังหรืออา่ น เลือก/ระบหุ ัวข้อเรอ่ื ง ใจความสาคัญ รายละเอียดสนับสนนุ และ
แสดงความคดิ เห็นเก่ยี วกบั เรื่องท่ีฟงั และอา่ นจากสื่อประเภทต่างๆ พร้อมท้ังใหเ้ หตผุ ลและยกตวั อยา่ งประกอบ

7

2. สนทนาและเขยี นโต้ตอบข้อมูลเกีย่ วกบั ตนเองและเรื่องตา่ งๆ ใกล้ตวั สถานการณ์ ขา่ ว
เรอ่ื งที่อยใู่ นความสนใจของสังคมและสื่อสารอยา่ งตอ่ เนื่องและเหมาะสม ใช้คาขอร้อง คาชี้แจง และคาอธบิ าย
ให้คาแนะนาอย่างเหมาะสม พูดและเขียนแสดงความต้องการ เสนอและให้ความชว่ ยเหลอื ตอบรับและปฏิเสธ
การใหค้ วามชว่ ยเหลอื พดู และเขยี นเพือ่ ขอและให้ขอ้ มลู บรรยาย อธบิ าย เปรยี บเทยี บ และแสดงความคิดเหน็
เกยี่ วกบั เรื่องทฟ่ี ังหรืออ่านอย่างเหมาะสม พดู และเขยี นบรรยายความรสู้ กึ และความคิดเห็นของตนเองเก่ยี วกับ
เร่อื งต่างๆ กจิ กรรม ประสบการณ์ และข่าว/เหตุการณ์ พร้อมทัง้ ใหเ้ หตุผลประกอบอยา่ งเหมาะสม

3. พดู และเขยี นบรรยายเกยี่ วกับตนเอง ประสบการณ์ ข่าว/เหตกุ ารณ์/เร่ือง/ประเดน็ ต่างๆ
ที่อยใู่ นความสนใจของสังคม พูดและเขยี นสรปุ ใจความสาคัญ/แกน่ สาระ หัวข้อเร่ืองที่ได้จากการวเิ คราะห์เรอื่ ง/
ข่าว/เหตกุ ารณ/์ สถานการณท์ ี่อยใู่ นความสนใจ พดู และเขยี นแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั กิจกรรม ประสบการณ์
และเหตุการณ์ พร้อมใหเ้ หตุผลประกอบ

4. เลอื กใชภ้ าษา น้าเสยี ง และกริ ิยาท่าทางเหมาะกบั บุคคลและโอกาส ตามมารยาทสังคม
และวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา อธิบายเก่ียวกบั ชีวติ ความเป็นอยู่ ขนบธรรมเนียมและประเพณี
ของเจา้ ของภาษา เข้าร่วม/จัดกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ

5. เปรยี บเทียบ และอธบิ ายความเหมอื นและความแตกต่างระหว่างการออกเสยี งประโยคชนิดต่างๆ
และการลาดับคาตามโครงสรา้ งประโยคของภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย เปรียบเทียบและ อธบิ ายความ
เหมอื นและความแตกต่างระหว่างชีวิตความเป็นอยแู่ ละวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษากบั
ของไทย และนาไปใชอ้ ยา่ งเหมาะสม

6. คน้ ควา้ รวบรวม และสรปุ ข้อมูล/ข้อเท็จจริงทีเ่ ก่ยี วข้องกบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อ่นื จาก
แหลง่ การเรียนรู้ และนาเสนอดว้ ยการพูดและการเขยี น

7. ใชภ้ าษาสือ่ สารในสถานการณ์จริง/สถานการณจ์ าลองทเี่ กิดขนึ้ ในห้องเรียน สถานศึกษา ชมุ ชน และ
สังคม

8. ใช้ภาษาตา่ งประเทศในการสืบค้น/คน้ คว้า รวบรวม และสรุปความรู้/ข้อมูลตา่ งๆ จากสอื่
และแหลง่ การเรียนรู้ตา่ งๆ ในการศกึ ษาต่อและประกอบอาชพี เผยแพร่/ประชาสมั พนั ธ์ข้อมลู ขา่ วสารของ
โรงเรียน ชุมชน และทอ้ งถน่ิ เป็นภาษาต่างประเทศ

9. มีทกั ษะการใชภ้ าษาตา่ งประเทศ (เนน้ การฟงั -พูด-อ่าน-เขียน) สือ่ สารตามหัวเรือ่ งเกย่ี วกับตนเอง
ครอบครัว โรงเรยี น ส่งิ แวดลอ้ ม อาหาร เครือ่ งด่มื เวลาว่างและนันทนาการ สขุ ภาพและสวสั ดิการ การซ้ือ-ขาย
ลมฟา้ อากาศ การศึกษาและอาชพี การเดนิ ทางท่องเที่ยว การบรกิ าร สถานท่ี ภาษา และวทิ ยาศาสตร์และ
เทคโนโลยี ภายในวงคาศัพท์ประมาณ 2,100-2,250 คา (คาศัพทท์ ่เี ป็นนามธรรมมากขึ้น)

10. ใช้ประโยคผสมและประโยคซบั ซ้อน (Complex Sentences) ส่อื ความหมายตามบริบทตา่ งๆ
ในการสนทนาท้ังทเี่ ป็นทางการและไม่เปน็ ทางการ

จบชนั้ มัธยมศกึ ษำปีที่ 6
1. ปฏิบัตติ ามคาแนะนาในคู่มือการใชง้ านต่างๆ คาชแ้ี จง คาอธิบาย และคาบรรยายที่ฟังและอ่าน อ่าน
ออกเสียงข้อความ ข่าว ประกาศ โฆษณา บทร้อยกรอง และบทละครสน้ั ถูกต้องตามหลักการอ่าน อธิบายและเขยี น
ประโยคและขอ้ ความสมั พนั ธ์กับสอื่ ท่ีไมใ่ ช่ความเรยี งรูปแบบต่างๆ ทอ่ี ่าน รวมทงั้ ระบแุ ละเขยี นสอ่ื ท่ีไม่ใช่ความ
เรยี งรูปแบบต่างๆ สัมพันธ์กบั ประโยคและขอ้ ความท่ีฟังหรืออา่ น
จับใจความสาคัญ วเิ คราะห์ความ สรปุ ความ ตีความ และแสดงความคิดเหน็ จากการฟงั และอา่ นเร่ือง
ที่เปน็ สารคดแี ละบนั เทิงคดี พร้อมทง้ั ใหเ้ หตุผลและยกตวั อย่างประกอบ
2. สนทนาและเขยี นโต้ตอบข้อมูลเกยี่ วกบั ตนเองและเรื่องต่างๆ ใกลต้ ัว ประสบการณ์ สถานการณ์
ข่าว/เหตกุ ารณ์ ประเดน็ ที่อยู่ในความสนใจและสอื่ สารอย่างต่อเนื่องและเหมาะสม เลอื กและใชค้ าขอร้อง คา

8

ชี้แจง คาอธบิ าย และใหค้ าแนะนา พูดและเขียนแสดงความตอ้ งการ เสนอและให้ความช่วยเหลือ ตอบรับและ
ปฏเิ สธการให้ความช่วยเหลือในสถานการณจ์ าลองหรอื สถานการณ์จรงิ อยา่ งเหมาะสม พดู และเขยี นเพือ่ ขอและ
ให้ขอ้ มลู บรรยาย อธิบาย เปรยี บเทยี บ และแสดงความคิดเหน็ เก่ียวกบั เรอ่ื ง/ประเดน็ /ข่าว/เหตุการณท์ ่ีฟงั และ
อา่ นอย่างเหมาะสม พดู และเขยี นบรรยายความรู้สึกและแสดงความคิดเห็นของตนเองเกี่ยวกบั เรอ่ื งต่างๆ
กจิ กรรม ประสบการณ์ และข่าว/เหตุการณ์อย่างมเี หตุผล

3. พดู และเขียนนาเสนอขอ้ มลู เก่ยี วกบั ตนเอง/ประสบการณ์ ขา่ ว/เหตุการณ์ เร่ืองและประเด็นตา่ งๆ
ตามความสนใจ พูดและเขยี นสรปุ ใจความสาคญั แก่นสาระท่ีได้จากการวเิ คราะห์เรื่อง กจิ กรรม ข่าว เหตกุ ารณ์
และสถานการณ์ตามความสนใจ พดู และเขียนแสดงความคิดเห็นเกีย่ วกับกจิ กรรม ประสบการณ์ และเหตกุ ารณ์
ทงั้ ในท้องถิน่ สงั คม และโลก พร้อมทงั้ ให้เหตุผลและยกตัวอยา่ งประกอบ

4. เลอื กใช้ภาษา นา้ เสียง และกิรยิ าท่าทางเหมาะกับระดบั ของบคุ คล เวลา โอกาสและสถานท่ตี าม
มารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา อธิบาย/อภปิ รายวิถชี ีวติ ความคิด ความเชอ่ื และท่ีมาของ
ขนบธรรมเนยี มและประเพณีของเจา้ ของภาษา เข้าร่วม แนะนา และจัดกจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรมอย่าง
เหมาะสม

5. อธิบาย/เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างโครงสร้างประโยค ข้อความ สานวน คาพังเพย สุภาษิต และ
บทกลอนของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย วเิ คราะห์/อภิปรายความเหมือนและความแตกตา่ งระหวา่ งวถิ ีชวี ิต
ความเช่ือ และวฒั นธรรมของเจ้าของภาษากับของไทย และนาไปใช้อย่างมีเหตผุ ล

6. ค้นคว้า/สบื ค้น บันทึก สรปุ และแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกับข้อมลู ทเ่ี ก่ียวข้องกับกลมุ่ สาระการ
เรียนรู้อ่ืน จากแหลง่ เรยี นรูต้ ่างๆ และนาเสนอด้วยการพดู และการเขยี น

7. ใชภ้ าษาส่อื สารในสถานการณจ์ รงิ /สถานการณจ์ าลองทเ่ี กิดข้ึนในหอ้ งเรียน สถานศึกษา ชมุ ชน และ
สงั คม

8. ใช้ภาษาต่างประเทศในการสืบคน้ /คน้ คว้า รวบรวม วิเคราะห์ และสรปุ ความรู้/ขอ้ มูลต่างๆ จากสอ่ื
และแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ ในการศกึ ษาต่อและประกอบอาชีพ เผยแพร่/ประชาสมั พนั ธ์ ขอ้ มูล ขา่ วสาร ของ
โรงเรียน ชมุ ชน และทอ้ งถิน่ /ประเทศชาติ เป็นภาษาตา่ งประเทศ

9. มที กั ษะการใช้ภาษาตา่ งประเทศ (เน้นการฟัง-พดู -อา่ น-เขียน) สือ่ สารตามหวั เรอ่ื งเกย่ี วกบั ตนเอง
ครอบครัว โรงเรยี น ส่งิ แวดล้อม อาหาร เครอื่ งดืม่ ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งบุคคล เวลาว่างและนนั ทนาการ
สุขภาพและสวสั ดกิ าร การซอ้ื -ขาย ลมฟ้าอากาศ การศกึ ษาและอาชีพ การเดินทางท่องเท่ยี ว การบริการ
สถานท่ี ภาษา และวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ภายในวงคาศพั ท์ประมาณ 3,600-3,750 คา (คาศัพท์ท่มี ีระดับ
การใช้แตกต่างกนั )

10. ใช้ประโยคผสมและประโยคซบั ซอ้ นส่อื ความหมายตามบริบทตา่ งๆ ในการสนทนา ทง้ั ทเ่ี ปน็
ทางการและไมเ่ ปน็ ทางการ

9

5. โครงสร้ำงหลกั สูตรระดบั มธั ยมศึกษำตอนต้น โรงเรียนโคกโพธไ์ิ ชยศึกษำ ช้ันมัธยมศึกษำปที ี่ 2

ช้นั มัธยมศกึ ษำปีที่ 2 (ภำคเรียนท่ี 1) ชั้นมธั ยมศกึ ษำปที ี่ 2 (ภำคเรียนท่ี 2)

เวลำเรยี น เวลำเรียน

รำยวิชำ/กิจกรรม หนว่ ยกติ (ชม.) รำยวชิ ำ/กจิ กรรม หนว่ ยกิต (ชม.)

รำยวิชำพืน้ ฐำน 13.0 (520) รำยวิชำพื้นฐำน 11.5 (460)

ท22101 ภาษาไทย 1.5 (60) ท22102 ภาษาไทย 1.5 (60)

ค22101 คณติ ศาสตร์พ้ืนฐาน 2.0 (80) ค22102 คณิตศาสตรพ์ ื้นฐาน 2.0 (80)

ว22101 วิทยาศาสตร์ 3 1.5 (60) ว22102 วทิ ยาศาสตร์ 4 1.5 (60)

ว22103 เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 1.0 (40) ส22103 สงั คมศึกษา 1.5 (60)

ว22104 เทคโนโลยี (การออกแบบฯ) 0.5 (20) ส22104 ประวตั ศิ าสตร์ 0.5 (20)

ส22101 สงั คมศกึ ษา 1.5 (60) พ22103 สขุ ศึกษา 0.5 (20)

ส22102 ประวตั ศิ าสตร์ 0.5 (20) พ22104 พลศึกษา 0.5 (20)

พ22101 สขุ ศึกษา 0.5 (20) ศ22102 ศิลปะพื้นฐาน 1.0 (40)

พ22102 พลศึกษา 0.5 (20) ง22102 การงานอาชพี ฯ 1.0 (40)

ศ22101 ศิลปะพนื้ ฐาน 1.0 (40) อ22102 ภาษาอังกฤษพน้ื ฐาน 1.5 (60)

ง22101 การงานอาชพี ฯ 1.0 (40)

อ22101 ภาษาอังกฤษพนื้ ฐาน 1.5 (60) รำยวชิ ำเพ่ิมเตมิ 4.0 (160)

รำยวิชำเพิ่มเตมิ 3.0 (120) ว22211 การจดั การฐานข้อมลู 1.0 (40)

อ22201 ภาษาองั กฤษเพื่อการสอื่ สาร 0.5 (20) อ22202 ภาษาอังกฤษเพอ่ื การส่ือสาร 0.5 (20)

(แบบเขม้ ) (แบบเขม้ )

จ22201 ภาษาจนี 0.5 (20) จ22202 ภาษาจนี 0.5 (20)

ส20233 หน้าที่พลเมอื ง 0.5 (20) ส20234 หน้าท่ีพลเมือง 0.5 (20)

ส20239 การป้องกนั การทจุ ริต 0.5 (20) ส20240 การปอ้ งกนั การทจุ รติ 0.5 (20)

I20201 การศึกษาคน้ ควา้ และสรา้ งองค์ 1.0 (40) I20202 การสอ่ื สารและ 1.0 (40)

ความรู้ : IS1 การนาเสนอ : IS2

กจิ กรรมลดเวลำเรียนเพ่ิมเวลำรู้ (80) กิจกรรมลดเวลำเรียนเพ่ิมเวลำรู้ (100)

หมวดที่ 1 กจิ กรรมพฒั นำผูเ้ รยี น หมวดที่ 1 กจิ กรรมพฒั นำผ้เู รยี น

- แนะแนว 20 - แนะแนว 20

- ลูกเสอื -เนตรนารี 20 - ลูกเสอื -เนตรนารี 20

- ชมุ นมุ 20 - ชุมนุม 20

- กิจกรรมส่งเสรมิ คุณธรรมและจริยธรรม 20 - กจิ กรรมสง่ เสรมิ คุณธรรมและจริยธรรม 20

- กจิ กรรมเพ่ือสงั คมและสาธารณประโยชน์ - กจิ กรรมเพื่อสังคมและ

(10 ชัว่ โมง/ภาคเรียน จดั นอกเวลาเรียน) สาธารณประโยชน์

(10 ช่วั โมง/ภาคเรยี น จัดนอกเวลาเรยี น) - 20

I20903 การนาองค์ความรู้

ไปใชบ้ รกิ ารสังคม : IS3

กิจกรรมลดเวลำเรียนเพม่ิ เวลำรู้ 100 กิจกรรมลดเวลำเรียนเพ่ิมเวลำรู้ 100

หมวดที่ 2-4 (บรู ณาการกบั กจิ กรรมอน่ื ) หมวดท่ี 2-4 (บรู ณาการกับกจิ กรรมอื่น)

- เลือกตามความถนัดและสนใจ - เลอื กตามความถนดั และสนใจ

รวมเวลำเรยี นท้ังสน้ิ 820 รวมเวลำเรยี นท้ังสิ้น 820

10

โครงสรำ้ งเวลำเรยี น กลุ่มสำระกำรเรียนรูภ้ ำษำตำ่ งประเทศ ระดบั มัธยมศึกษำตอนต้น

สำระพ้ืนฐำน 3 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ 60 ชว่ั โมง/ภาคเรียน จานวน 1.5 หนว่ ยกติ
ชั้นมธั ยมศกึ ษำปีท่ี 1 3 ชั่วโมง/สปั ดาห์ 60 ชว่ั โมง/ภาคเรยี น จานวน 1.5 หน่วยกติ
อ21101 ภาษาองั กฤษพื้นฐาน
อ21102 ภาษาอังกฤษพืน้ ฐาน 3 ชั่วโมง/สปั ดาห์ 60 ช่วั โมง/ภาคเรียน จานวน 1.5 หน่วยกติ
ชน้ั มัธยมศกึ ษำปีที่ 2 3 ชั่วโมง/สัปดาห์ 60 ชวั่ โมง/ภาคเรียน จานวน 1.5 หน่วยกติ
อ22101 ภาษาองั กฤษพืน้ ฐาน
อ22102 ภาษาอังกฤษพื้นฐาน 3 ช่วั โมง/สัปดาห์ 60 ชว่ั โมง/ภาคเรียน จานวน 1.5 หนว่ ยกติ
ชน้ั มัธยมศกึ ษำปีที่ 3 3 ชวั่ โมง/สัปดาห์ 60 ชั่วโมง/ภาคเรยี น จานวน 1.5 หนว่ ยกติ
อ23101 ภาษาองั กฤษพื้นฐาน
อ23102 ภาษาองั กฤษพืน้ ฐาน

รำยวิชำเพิ่มเติม 1 ชั่วโมง/สปั ดาห์ 20 ชวั่ โมง/ภาคเรียน จานวน 0.5 หน่วยกติ
ชน้ั มธั ยมศกึ ษำปที ี่ 1 1 ชั่วโมง/สปั ดาห์ 20 ช่ัวโมง/ภาคเรียน จานวน 0.5 หน่วยกิต
อ21201 ภาษาองั กฤษเพื่อการสื่อสาร 1 ชว่ั โมง/สัปดาห์ 20 ชั่วโมง/ภาคเรียน จานวน 0.5 หนว่ ยกิต
อ21202 ภาษาอังกฤษเพื่อการสอ่ื สาร 1 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ 20 ช่วั โมง/ภาคเรียน จานวน 0.5 หนว่ ยกิต
จ21201 ภาษาจีน
จ21202 ภาษาจนี 1 ชั่วโมง/สัปดาห์ 20 ชั่วโมง/ภาคเรียน จานวน 0.5 หน่วยกิต
ชนั้ มัธยมศกึ ษำปที ี่ 2 1 ชั่วโมง/สปั ดาห์ 20 ชว่ั โมง/ภาคเรียน จานวน 0.5 หน่วยกิต
อ22201 ภาษาองั กฤษเพอ่ื การสอ่ื สาร 1 ชั่วโมง/สัปดาห์ 20 ช่วั โมง/ภาคเรยี น จานวน 0.5 หน่วยกิต
อ22202 ภาษาอังกฤษเพอ่ื การสื่อสาร 1 ชั่วโมง/สัปดาห์ 20 ชว่ั โมง/ภาคเรียน จานวน 0.5 หนว่ ยกิต
จ22201 ภาษาจีน
จ22202 ภาษาจนี 1 ชวั่ โมง/สัปดาห์ 20 ชว่ั โมง/ภาคเรยี น จานวน 0.5 หน่วยกิต
ชน้ั มธั ยมศึกษำปที ี่ 3 1 ช่ัวโมง/สปั ดาห์ 20 ชวั่ โมง/ภาคเรยี น จานวน 0.5 หน่วยกิต
อ23201 ภาษาองั กฤษเพือ่ การสอ่ื สาร 1 ชว่ั โมง/สัปดาห์ 20 ชว่ั โมง/ภาคเรยี น จานวน 0.5 หนว่ ยกติ
อ23202 ภาษาองั กฤษเพื่อการสอื่ สาร 1 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ 20 ช่ัวโมง/ภาคเรยี น จานวน 0.5 หนว่ ยกิต
จ23201 ภาษาจีน
จ23202 ภาษาจนี

11

ตวั ช้ีวดั และสำระกำรเรียนรแู้ กนกลำง

สำระท่ี 1 ภำษำเพอ่ื กำรส่ือสำร

มำตรฐำน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรอ่ื งทฟี่ ังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเหน็ อย่างมีเหตผุ ล

ชั้น ตวั ชี้วัด สำระกำรเรยี นร้แู กนกลำง

ม. 1 1. ปฏบิ ตั ติ ามคาสง่ั คาขอร้อง คาสง่ั คาขอร้อง คาแนะนา และคาชแี้ จงในการ

คาแนะนา และคาช้แี จงงา่ ยๆ ทฟี่ ังและ ทาอาหารและเครื่องดื่ม การประดิษฐ์ การใช้ยา/

อา่ น สลากยา การบอกทศิ ทาง ป้ายประกาศตา่ งๆ หรือ

การใชอ้ ปุ กรณ์

- คาสั่ง เช่น Look at the…/here/over there./ Say

it again/ Read and draw./ Put a/an…in/on/under

a/an…/ Go to the window and open it./ Take

out the book, open on page 17 and read it./

Don’t go over there./ Don’t be late. etc.

- คาขอร้อง เชน่ Please look up the meaning in a

dictionary./ Look up the meaning in a

dictionary, please./ Can/Could you help me,

please?/ Excuse me, could you ? etc.

- คาแนะนา เช่น You should read everyday./

Think before you speak./ คาศัพท์ท่ีใชใ้ นการเล่น

เกม Start./ My turn./ Your turn./ Roll the

dice./ Count the number./ Finish. etc.

- คาสันธาน (conjunction) เช่น and/but/or

- ตัวเชอ่ื ม (connective words) เช่น First,…

Second,…Third,… Next,… Then,… Finally,…etc.

2. อา่ นออกเสยี งข้อความ นิทาน และบท ข้อความ นิทาน และบทร้อยกรอง การใชพ้ จนานุกรม

ร้อยกรอง (poem) สั้นๆ ถกู ต้องตาม หลกั การอ่านออกเสียง เชน่

หลกั การอา่ น - การออกเสียงพยญั ชนะตน้ คาและพยัญชนะท้ายคา

- การออกเสียงเน้นหนกั -เบา ในคาและกลมุ่ คา

- การออกเสียงตามระดบั เสยี งสงู -ต่า ในประโยค

- การแบ่งวรรคตอนในการอ่าน

- การอา่ นบทร้อยกรองตามจังหวะ

ม. 1 3. เลือก/ระบปุ ระโยคและข้อความ ประโยค หรือข้อความ และความหมายเก่ียวกับตนเอง

ใหส้ มั พันธ์กบั ส่ือทีไ่ มใ่ ชค่ วามเรยี ง ครอบครวั โรงเรียน สิ่งแวดล้อม อาหาร เคร่ืองดื่ม เวลา

(non-text information) ทีอ่ ่าน ว่างและนนั ทนาการ สุขภาพและสวสั ดกิ าร การซอ้ื -ขาย

ลมฟ้าอากาศ การศึกษาและอาชพี การเดินทาง

ทอ่ งเทย่ี ว การบริการ สถานท่ี ภาษา และวิทยาศาสตร์และ

เทคโนโลยี เปน็ วงคาศัพทส์ ะสมประมาณ 1,400-1,550

คา (คาศัพท์ทีเ่ ป็นรปู ธรรมและนามธรรม)

การตคี วาม/ถ่ายโอนข้อมลู ให้สมั พันธก์ ับสื่อท่ีไมใ่ ชค่ วาม

12

ช้นั ตวั ช้ีวดั สำระกำรเรยี นรู้แกนกลำง

เรียง เช่น สญั ลักษณ์ เครอ่ื งหมาย กราฟ แผนภมู ิ ตาราง

ภาพสตั ว์ สิ่งของ บุคคล สถานทต่ี ่างๆ โดยใช้

Comparison of adjectives/ adverbs/ Contrast :

but, although/ Quantity words เช่น many/

much/ a lot of/ lots of/ some/ any/ a few/ few/

a little/ little etc.

4. ระบุหัวข้อเรอ่ื ง (topic) บทสนทนา นทิ าน เรอ่ื งสน้ั และเรื่องจากส่อื ประเภท

ใจความสาคญั (main idea) และ ตา่ งๆ เชน่ หนงั สือพิมพ์ วารสาร วิทยุ โทรทัศน์ เวบ็ ไซด์

ตอบคาถามจากการฟงั และอ่าน การจบั ใจความสาคัญ เช่น หวั ข้อเร่ือง ใจความสาคัญ

บทสนทนา นิทาน และเรอื่ งส้ัน รายละเอียดสนบั สนนุ

คาถามเกีย่ วกับใจความสาคัญของเร่ือง เชน่ ใคร

ทาอะไร ท่ีไหน เมอื่ ไร อย่างไร ทาไม ใชห่ รือไม่

- Yes/No Question

- Wh-Question

- Or-Question etc.

- Tenses : present simple/ present continuous/

past simple/ future simple etc.

- Simple sentence/ Compound sentence

ม.2 1. ปฏิบตั ิตามคาขอร้อง คาแนะนา คาขอร้อง คาแนะนา คาชีแ้ จง และคาอธิบาย เชน่

คาช้ีแจง และคาอธิบายงา่ ยๆ ที่ฟังและ การทาอาหารและเครอ่ื งดม่ื การประดิษฐ์

อา่ น การใช้ยา/สลากยา การบอกทิศทาง การใช้อปุ กรณ์

- Passive Voice ท่ีใช้ในโครงสร้างประโยคงา่ ยๆ เช่น

is/are + Past Participle

- คาสันธาน (conjunction) เช่น and/ but/ or/

before/ after etc.

- ตวั เชื่อม (connective words) เชน่ First,…

Second,… Third,… Fourth,… Finally,… etc.

2. อา่ นออกเสียงข้อความ ข่าว ประกาศ ขอ้ ความ ขา่ ว ประกาศ และบทร้อยกรอง

และบทร้อยกรองส้นั ๆ ถกู ต้องตาม การใช้พจนานุกรม หลกั การอ่านออกเสยี ง เชน่

หลกั การอา่ น - การออกเสียงพยญั ชนะตน้ คาและพยัญชนะท้ายคา

- การออกเสียงเน้นหนัก-เบา ในคาและกล่มุ คา

- การออกเสยี งตามระดับเสยี งสูง-ตา่ ในประโยค

- การออกเสยี งเชอื่ มโยงในข้อความ

- การแบ่งวรรคตอนในการอ่าน

- การอ่านบทร้อยกรองตามจังหวะ

3. ระบ/ุ เขียนประโยค และข้อความ ให้ ประโยค หรือข้อความ และความหมายเกี่ยวกบั ตนเอง

สัมพนั ธก์ ับสอ่ื ท่ไี มใ่ ช่ความเรยี ง รปู แบบ ครอบครัว โรงเรียน สง่ิ แวดล้อม อาหาร เคร่ืองดื่ม เวลา

ตา่ งๆ ท่ีอ่าน วา่ งและนันทนาการ สขุ ภาพและสวัสดิการ การซื้อ-ขาย

13

ช้นั ตัวชี้วดั สำระกำรเรียนรู้แกนกลำง

ลมฟา้ อากาศ การศึกษาและอาชีพ การเดินทาง

ทอ่ งเที่ยว การบริการ สถานที่ ภาษา และวิทยาศาสตร์

และเทคโนโลยี เป็นวงคาศัพท์สะสมประมาณ 1,750-

1,900 คา (คาศัพทท์ ่ีเปน็ รปู ธรรมและนามธรรม)

การตคี วาม/ถา่ ยโอนข้อมลู ให้สมั พนั ธ์กับสื่อทไี่ ม่ใช่ความ

เรียง เชน่ สัญลักษณ์ เครอ่ื งหมาย กราฟ แผนภูมิ

แผนผงั ตาราง ภาพสัตว์ สงิ่ ของ บุคคล สถานทีต่ ่างๆ

โดยใช้ Comparison of adjectives/ adverbs/

Contrast: but, although/ Quantity words เช่น

many/ much/ a lot of/ lots of/ some/ any/ a

few/ few/ a little/ little etc.

4. เลือกหัวข้อเร่ือง ใจความสาคัญ บทสนทนา นิทาน เร่อื งสนั้ และเรื่องจากส่ือประเภท

บอกรายละเอยี ดสนับสนนุ ตา่ งๆ เชน่ หนังสอื พิมพ์ วารสาร วิทยุ โทรทัศน์ เวบ็ ไซด์

(supporting detail) และแสดงความ การจับใจความสาคัญ เช่น หัวขอ้ เรื่อง ใจความสาคัญ

คิดเหน็ เกย่ี วกับเร่ืองที่ฟงั และอ่าน รายละเอียดสนบั สนนุ

พรอ้ มท้ังให้เหตุผลและยกตัวอยา่ งงา่ ยๆ คาถามเก่ียวกบั ใจความสาคัญของเร่ือง เชน่ ใคร

ประกอบ ทาอะไร ท่ีไหน เม่อื ไร อย่างไร ทาไม ใช่หรอื ไม่

- Yes/No Question

- Wh-Question

- Or-Question

etc.

ประโยคที่ใช้ในการแสดงความคดิ เหน็ การให้เหตุผล

และการยกตัวอย่าง เช่น I think…/ I feel…/ I

believe…

- คาสันธาน (conjunctions) and/ but/ or/

because/ so/ before/after

- ตัวเช่อื ม (connective words) First,… Next,…

After,… Then,… Finally,… etc.

- Tenses: present simple/ present continuous/

present perfect/ past simple/ future tense

etc.

- Simple sentence/Compound sentence

ม.3 1. ปฏิบตั ติ ามคาขอร้อง คาแนะนา คาขอร้อง คาแนะนา คาชแี้ จง และคาอธิบาย ในการ

คาชี้แจง และคาอธิบายที่ฟงั และอ่าน ประดษิ ฐ์ การบอกทศิ ทาง ป้ายประกาศต่างๆ การใช้

อปุ กรณ์

- Passive Voice ท่ใี ช้ในโครงสร้างประโยคง่ายๆ เชน่

is/are + past partciple

- คาสันธาน (conjunction) เชน่ and/ but/ or/

14

ช้ัน ตวั ช้ีวดั สำระกำรเรยี นรู้แกนกลำง

before/ after/ because etc.

- ตัวเช่ือม (connective words) เชน่ First,…

Second,…Third,… Fourth,… Next,… Then,…

Finally,… etc.

2. อ่านออกเสยี งข้อความ ขา่ ว โฆษณา ข้อความ ขา่ ว โฆษณา และบทรอ้ ยกรอง

และบทร้อยกรองสัน้ ๆ ถกู ตอ้ งตาม การใช้พจนานุกรม

หลกั การอ่าน หลักการอา่ นออกเสียง เชน่

- การออกเสยี งพยัญชนะตน้ คาและพยัญชนะท้ายคา

สระเสยี งส้ัน สระเสียงยาว สระประสม

- การออกเสยี งเน้นหนกั -เบา ในคาและกลุม่ คา

- การออกเสียงตามระดบั เสียงสูง-ตา่ ในประโยค

- การออกเสยี งเชื่อมโยงในข้อความ

- การแบ่งวรรคตอนในการอ่าน

- การอา่ นบทร้อยกรองตามจังหวะ

3. ระบุและเขยี นส่ือท่ีไมใ่ ช่ความเรยี ง ประโยค ข้อความ และความหมายเก่ียวกับตนเอง

รปู แบบต่างๆ ให้สัมพันธ์กบั ประโยค และ ครอบครวั โรงเรียน สง่ิ แวดล้อม อาหาร เคร่ืองด่ืม เวลา

ข้อความท่ีฟังหรืออ่าน วา่ งและนันทนาการ สขุ ภาพและสวสั ดิการ การซ้ือ-ขาย

ลมฟา้ อากาศ การศึกษาและอาชีพ การเดนิ ทาง

ทอ่ งเท่ยี ว การบริการ สถานที่ ภาษา และวิทยาศาสตร์และ

เทคโนโลยี เปน็ วงคาศัพท์สะสมประมาณ 1,400-1,550

คา (คาศัพท์ทเี่ ปน็ รปู ธรรมและนามธรรม) การตคี วาม/

ถา่ ยโอนข้อมูลให้สมั พนั ธ์กบั สื่อทไี่ ม่ใช่ความเรยี ง เชน่

สัญลักษณ์ เคร่ืองหมาย กราฟ แผนภมู ิ ตาราง ภาพสตั ว์

สง่ิ ของ บคุ คล สถานท่ีต่างๆ โดยใช้ Comparison of

adjectives/ adverbs/ Contrast : but, although/

Quantity words เชน่ many/ much/ a lot of/ lots

of/ some/ any /a few/ few/ a little/ little etc.

4. เลือก/ระบุหวั ข้อเรอื่ ง ใจความสาคัญ การจบั ใจความสาคญั เชน่ หวั ข้อเร่อื ง ใจความสาคัญ

รายละเอยี ดสนบั สนุน และแสดงความ รายละเอียดสนบั สนุน จากส่ือส่ิงพมิ พแ์ ละสื่อ

คิดเหน็ เกย่ี วกับเรื่องท่ีฟงั และอา่ นจาก อิเล็กทรอนกิ ส์ เช่น หนังสือพิมพ์ วารสาร วทิ ยุ โทรทัศน์

สื่อประเภทตา่ งๆ พร้อมทง้ั ให้เหตผุ ล เวบ็ ไซด์บนอนิ เทอร์เน็ต

และยกตัวอยา่ งประกอบ คาถามเกีย่ วกับใจความสาคญั ของเร่ือง เช่น ใคร

ทาอะไร ที่ไหน เมอื่ ไร อย่างไร ทาไม ใช่หรอื ไม่

- Yes/No Question

- Wh-Question

- Or-Question etc.

ประโยคท่ใี ช้ในการแสดงความคดิ เห็น การให้เหตุผลและ

การยกตวั อย่าง เชน่ I think…/ I feel…/ I believe…/ I

15

ชน้ั ตวั ช้ีวัด สำระกำรเรียนรแู้ กนกลำง

agree/disagree…/ I don’t believe…/ I have no

idea…

- if clauses

- so…that/such…that-

คาสันธาน (conjunctions) and/ but/ or/ because/

so/ before/ after etc.

- Infinitive pronouns :some/ any/ someone/

anyone/ everyone/ one/ ones etc.

- Tenses : present simple/ present continuous/

present perfect/ past simple/ future tense

etc.

- Simple sentence/ Compound sentence/

Complex sentence

ม. 4-6 1. ปฏิบัติตามคาแนะนาในคู่มือ คาแนะนา คาช้แี จง คาอธิบาย คาบรรยาย เชน่

การใช้งานต่างๆ คาช้ีแจง คาอธบิ าย ประกาศเตอื นภัยตา่ งๆ ยาและการใชย้ า การใชอ้ ปุ กรณ์

และคาบรรยายทีฟ่ ังและอา่ น และสิ่งของ การสืบคน้ ขอ้ มูลทางอนิ เทอร์เน็ต

- Modal verb : should/ ought to/ need/ have

to/ must+ verb ท่ีเป็น infinitive without to เช่น

You should have it after meal. (Active

Voice)/The doses must be divided. (Passive

Voice)

- Direct/Indirect Speech

- คาสนั ธาน (conjunction) and/ but/ or/ so/ not

only…but also/ both…and/ as well as/ after/

because etc.

- ตวั เชื่อม (connective words) เชน่ First,…

Second,… Third,… Fourth,… Next,… Then,…

Finally,… etc.

2. อา่ นออกเสียงข้อความ ข่าว ขอ้ ความ ขา่ ว ประกาศ โฆษณา บทร้อยกรอง และ

ประกาศ โฆษณา บทร้อยกรอง และบท บทละครสนั้

ละครสน้ั (skit) ถกู ตอ้ งตามหลักการ การใช้พจนานุกรม หลักการอ่านออกเสยี ง เชน่

อ่าน - การออกเสยี งพยัญชนะตน้ คาและพยัญชนะทา้ ยคา

สระเสยี งสัน้ สระเสยี งยาว สระประสม

- การออกเสียงเน้นหนัก-เบา ในคาและกลมุ่ คา

- การออกเสยี งตามระดับเสียงสงู -ตา่ ในประโยค

- การออกเสียงเชอ่ื มโยงในข้อความ

- การแบ่งวรรคตอนในการอ่าน

- การอา่ นบทร้อยกรองตามจงั หวะ

16

ชน้ั ตวั ช้ีวดั สำระกำรเรียนร้แู กนกลำง

3. อธิบายและเขยี นประโยค ประโยคและข้อความ

และข้อความใหส้ มั พนั ธก์ ับสอื่ ที่ไมใ่ ช่ การตคี วาม/ถ่ายโอนข้อมลู ให้สมั พันธก์ บั สอ่ื ทีไ่ มใ่ ชค่ วาม

ความเรยี งรูปแบบตา่ งๆ ท่ีอา่ น รวมทัง้ เรียง เชน่ ภาพ แผนผงั กราฟ แผนภูมิ ตาราง อักษรย่อ

ระบแุ ละเขียนสอ่ื ท่ไี ม่ใช่ความเรียง จากกลมุ่ สาระการเรียนรู้อนื่ ด้วยการพูดและการเขียน

รูปแบบต่างๆ ใหส้ ัมพนั ธก์ ับประโยค อธิบาย โดยใช้ Comparison of adjectives/ adverbs/

และขอ้ ความที่ฟังหรืออ่าน Contrast : but, although, however, in spite of…/

Logical connectives เช่น caused by/ followed

by/ consist of. etc.

4. จบั ใจความสาคัญ วเิ คราะห์ความ เร่อื งท่เี ปน็ สารคดีและบันเทิงคดี

สรปุ ความ ตคี วาม และแสดงความ การจับใจความสาคัญ การสรุปความ การวิเคราะห์ความ

คิดเหน็ จากการฟงั และอ่านเร่ืองทเี่ ป็น การตีความ

สารคดแี ละบันเทงิ คดี พรอ้ มท้งั ให้ การใช้ skimming/scanning/guessing/context clue

เหตผุ ลและยกตัวอย่างประกอบ ประโยคท่ีใช้ในการแสดงความคิดเหน็ การใหเ้ หตุผลและ

การยกตวั อย่าง เชน่ I believe…/ I agree with…

but…/ Well, I must say…/ What do you think of

/about…?/I think/don’t think…?/ What’s your

opinion about…?/ In my opinion…/

- if clauses

- so…that/such…that

- too to…/enough to…

- on the other hand,…

- other (s)/another/the other (s)

- คาสนั ธาน (conjunctions) because/and/so/but/

however/because of/due to/owing to etc.

- Infinitive pronouns : some, any, someone,

anyone, everyone, one, ones etc.

- Tenses : present simple/present continuous/

present perfect/past simple/future tense

etc.

- Simple sentence/Compound

sentence/Complex sentence

สำระท่ี 1 ภำษำเพื่อกำรสอ่ื สำร

มำตรฐำน ต 1.2 มีทกั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นขอ้ มลู ข่าวสาร แสดงความร้สู ึก

และความคดิ เห็นอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ

17

ชั้น ตวั ช้ีวัด สำระกำรเรียนรแู้ กนกลำง

ม.1 1. สนทนา แลกเปล่ียนขอ้ มูลเกี่ยวกับ ภาษาทใี่ ชใ้ นการส่ือสารระหว่างบคุ คล เช่น การทักทาย

ตนเอง กจิ กรรม และสถานการณ์ กล่าวลา ขอบคุณ ขอโทษ ชมเชย การพดู แทรกอยา่ ง

ตา่ งๆ ในชวี ิตประจาวนั สุภาพ การชักชวน ประโยค/ขอ้ ความ ท่ใี ช้แนะนา

ตนเอง เพ่ือน และบุคคลใกล้ตัว และสานวนการตอบ

รับ การแลกเปลย่ี นข้อมูลเกย่ี วกับตนเอง กิจกรรม

สถานการณ์ต่างๆ ในชีวิตประจาวัน

2. ใชค้ าขอร้อง ให้คาแนะนา และ คาขอร้อง คาแนะนา และคาชี้แจง

คาช้ีแจง ตามสถานการณ์

3. พดู และเขยี นแสดงความต้องการ ภาษาทใ่ี ช้ในการแสดงความต้องการ ขอความชว่ ยเหลอื

ขอความช่วยเหลอื ตอบรบั และปฏเิ สธ ตอบรบั และปฏเิ สธการให้ความช่วยเหลอื เช่น

การให้ความชว่ ยเหลือในสถานการณ์ Please…/…, please./ I’d like…/ I need…/

ตา่ งๆ อย่างเหมาะสม May/Can/Could…?/ Yes,../Please do./Certainly./

Yes, of course./ Sure./ Go right ahead./ Need

some help?/ What can I do to help?/ Would

you like any help?/ I’m afraid…/ I’m sorry,

but…/ Sorry, but… etc.

4. พดู และเขียนเพื่อขอและให้ขอ้ มูล คาศัพท์ สานวน ประโยค และข้อความที่ใชใ้ นการขอ

และแสดงความคิดเหน็ เก่ยี วกับเรอื่ งท่ี และให้ข้อมูล และแสดงความคดิ เหน็ เก่ยี วกบั เรื่องท่ีฟัง

ฟังหรืออา่ นอยา่ งเหมาะสม หรอื อ่าน

5. พดู และเขยี นแสดงความรสู้ กึ และ ภาษาท่ีใช้ในการแสดงความรู้สึก ความคดิ เหน็ และ

ความคดิ เห็นของตนเองเกยี่ วกับ ให้เหตผุ ลประกอบ เช่น ชอบ ไม่ชอบ ดีใจ เสยี ใจ

เร่อื งตา่ งๆ ใกล้ตวั กิจกรรมต่างๆ มคี วามสุข เศร้า หิว รสชาติ สวย นา่ เกลียด เสยี งดงั ดี

พรอ้ มทงั้ ใหเ้ หตุผลส้ันๆ ประกอบ ไมด่ ี จากข่าว เหตกุ ารณ์ สถานการณ์ ในชวี ิตประจาวนั

อยา่ งเหมาะสม เชน่

Nice/ Very nice./ Well done!/ Congratulations.

I like… because… / I love…because…/

I feel… because…

I think…/ I believe…/ I agree/disagree…

I don’t believe…/ I have no idea…/ Oh no!

etc.

ม2. 1. สนทนา แลกเปล่ยี นข้อมูลเกยี่ วกบั ภาษาที่ใชใ้ นการส่ือสารระหว่างบุคคล เชน่ การทักทาย

ตนเอง เรือ่ งตา่ งๆ ใกล้ตัว และ กลา่ วลา ขอบคุณ ขอโทษ ชมเชย การพูดแทรกอย่าง

สถานการณต์ ่างๆ ในชวี ิตประจาวนั สภุ าพ การชักชวน ประโยค/ข้อความ ทใ่ี ช้แนะนา

อย่างเหมาะสม ตนเอง เพื่อน และบุคคลใกล้ตัว และสานวนการตอบ

รับ การแลกเปลีย่ นข้อมลู เกีย่ วกับตนเอง เรอื่ งใกล้ตวั

สถานการณ์ต่างๆ ในชวี ติ ประจาวัน

18

ช้นั ตัวชวี้ ดั สำระกำรเรยี นรแู้ กนกลำง

2. ใช้คาขอร้อง ให้คาแนะนา คาขอร้อง คาแนะนา คาชี้แจง และคาอธิบาย

คาชแ้ี จง และคาอธิบายตาม

สถานการณ์

3 . พูดและเขียนแสดงความต้องการ ภาษาท่ใี ชใ้ นการแสดงความต้องการ เสนอและใหค้ วาม

เสนอและให้ความช่วยเหลือ ตอบรับ ชว่ ยเหลอื ตอบรบั และปฏเิ สธการให้ความชว่ ยเหลือใน

และปฏิเสธการให้ความชว่ ยเหลือ สถานการณ์ต่างๆ เช่น

ในสถานการณต์ ่างๆ อย่างเหมาะสม Please…/…, please./ I’d like…/ I need… /

May/Can/Could…?/ Yes,../Please do./

Certainly./ Yes, of course./ Sure./ Go right

ahead./

Need some help?/ What can I do to help?/

Would you like any help?/ I’m afraid…/

I’m sorry, but…/ Sorry, but… etc.

4. พูดและเขียนเพื่อขอและให้ข้อมลู คาศัพท์ สานวน ประโยค และข้อความที่ใชใ้ นการขอ

บรรยาย และแสดงความคิดเห็น และใหข้ ้อมูล บรรยาย และแสดงความคดิ เหน็ เกยี่ วกบั

เก่ยี วกบั เรื่องท่ีฟังหรืออ่านอย่าง เร่ืองที่ฟังหรอื อ่าน

เหมาะสม

5. พดู และเขยี นแสดงความรู้สึก ภาษาทใ่ี ชใ้ นการแสดงความรู้สึก ความคิดเหน็ และ

และความคิดเห็นของตนเองเกย่ี วกบั ใหเ้ หตผุ ลประกอบ เช่น ชอบ ไมช่ อบ ดีใจ เสียใจ

เร่ืองต่างๆ กิจกรรม และประสบการณ์ มีความสขุ เศรา้ หิว รสชาติ สวย นา่ เกลียด เสียงดงั ดี

พรอ้ มทงั้ ให้เหตุผลประกอบอยา่ ง ไมด่ ี จากข่าว เหตุการณ์ สถานการณ์ ในชวี ิตประจาวัน

เหมาะสม เชน่

Nice./ Very nice./ Well done!/ Congratulations

on… / I like…because…/ I love…because…/ I

feel… because…/ I think…/ I believe…/ I agree/

disagree…/ I’m afraid I don’t like…/ I don’t

believe…/ I have no idea…/ Oh no! etc.

ม.3 1. สนทนาและเขียนโต้ตอบข้อมลู ภาษาทใ่ี ชใ้ นการส่ือสารระหว่างบคุ คล เชน่ การทักทาย

เกย่ี วกับตนเอง เรือ่ งต่างๆใกลต้ ัว กลา่ วลา ขอบคุณ ขอโทษ ชมเชย การพดู แทรกอยา่ ง

สถานการณ์ ข่าว เรื่องทอ่ี ยู่ในความ สภุ าพ การชักชวน การแลกเปล่ยี นข้อมลู เกยี่ วกบั

สนใจของสังคมและส่ือสารอย่าง ตนเอง เรอ่ื งใกล้ตัว สถานการณ์ตา่ งๆ ใน

ตอ่ เนอื่ งและเหมาะสม ชีวติ ประจาวนั การสนทนา/เขยี นขอ้ มูลเก่ยี วกบั ตนเอง

และบุคคลใกล้ตวั สถานการณ์ ข่าว เรื่องที่อยู่ในความ

สนใจในชีวติ ประจาวนั

2. ใชค้ าขอร้อง ให้คาแนะนา คาขอร้อง คาแนะนา คาชี้แจง คาอธิบาย ท่ีมขี ้ันตอน

คาชี้แจง และคาอธบิ ายอย่างเหมาะสม ซับซ้อน

19

ชน้ั ตัวชี้วัด สำระกำรเรียนร้แู กนกลำง

3 . พูดและเขยี นแสดงความต้องการ ภาษาทใ่ี ชใ้ นการแสดงความต้องการ เสนอและใหค้ วาม

เสนอและให้ความชว่ ยเหลือ ตอบรบั ชว่ ยเหลือ ตอบรับและปฏิเสธการใหค้ วามชว่ ยเหลอื ใน

และปฏิเสธการให้ความชว่ ยเหลือ สถานการณต์ ่างๆ เชน่

ในสถานการณ์ต่างๆ อย่างเหมาะสม Please…/…, please./ I’d like…/ I need…/

May/Can/Could…?/ Yes,../Please do./

Certainly./ Yes, of course./ Sure./ Go right

ahead./ Need some help?/ What can I do to

help?/ Would you like any help?/ I’m afraid…/

I’m sorry, but…/ Sorry, but… etc.

4. พูดและเขียนเพ่ือขอและให้ข้อมลู คาศัพท์ สานวน ประโยค และข้อความที่ใช้ในการขอ

อธิบาย เปรยี บเทียบ และแสดงความ และให้ข้อมลู อธิบาย เปรยี บเทยี บ และแสดงความ

คดิ เหน็ เกีย่ วกบั เร่ืองท่ีฟังหรืออา่ นอยา่ ง คดิ เหน็ เก่ยี วกับเร่ืองท่ีฟังหรืออ่าน

เหมาะสม

5. พดู และเขยี นบรรยายความรู้สึก และ ภาษาท่ใี ช้ในการแสดงความรู้สกึ ความคิดเหน็ และ

ความคดิ เหน็ ของตนเองเก่ียวกบั ให้เหตุผลประกอบ เช่น ชอบ ไม่ชอบ ดใี จ เสียใจ

เรอ่ื งตา่ งๆ กิจกรรม ประสบการณ์ มคี วามสุข เศร้า หิว รสชาติ สวย นา่ เกลยี ด เสยี งดงั ดี

และขา่ ว/เหตกุ ารณ์ พร้อมท้ังให้ ไม่ดี จากข่าว เหตุการณ์ สถานการณ์ ในชวี ิตประจาวัน

เหตผุ ลประกอบอย่างเหมาะสม เช่น

Nice./ Very nice./ Well done!/ Congratulations

on... / I like…because…/ I love… because… /

I feel… because…I think…/ I believe…/

I agree/disagree…/ I’m afraid …/ I don’t like…

I don’t believe…/ I have no idea…/ Oh no!

etc.

ม.4-6 1. สนทนาและเขียนโตต้ อบข้อมูล ภาษาทใ่ี ช้ในการส่ือสารระหว่างบคุ คล เชน่ การทักทาย

เกี่ยวกบั ตนเองและเรอื่ งต่าง ๆ ใกล้ กล่าวลา ขอบคุณ ขอโทษ ชมเชย การพูดแทรกอย่าง

ตวั ประสบการณ์ สถานการณ์ ขา่ ว / สภุ าพ การชกั ชวน การแลกเปลีย่ นข้อมูลเก่ียวกบั

เหตุการณ์ ประเด็นท่ีอยู่ในความสนใจ ตนเอง เรอ่ื งใกล้ตัว สถานการณต์ ่างๆ ใน

ของสงั คม และสื่อสาร ชีวติ ประจาวัน การสนทนา/เขียนขอ้ มลู เก่ียวกบั ตนเอง

อย่างต่อเนอื่ งและเหมาะสม และบุคคลใกล้ตวั ประสบการณ์ สถานการณต์ ่างๆ

ข่าวเหตกุ ารณ์ ประเดน็ ท่ีอยู่ในความสนใจของสงั คม

2. เลอื กและใชค้ าขอร้อง ใหค้ าแนะนา คาขอรอ้ ง คาแนะนา คาชแ้ี จง คาอธิบาย ทีม่ ีขั้นตอน

คาช้ีแจง คาอธบิ าย อยา่ งคลอ่ งแคลว่ ซับซอ้ น

20

ช้ัน ตัวช้วี ดั สำระกำรเรียนรแู้ กนกลำง

3.พดู และเขียนแสดงความต้องการ ภาษาทใ่ี ช้ในการแสดงความต้องการ เสนอและใหค้ วาม

เสนอ ตอบรับและปฏิเสธการใหค้ วาม ชว่ ยเหลือ ตอบรับและปฏเิ สธการใหค้ วามช่วยเหลือใน

ชว่ ยเหลือในสถานการณ์จาลองหรือ สถานการณ์ต่างๆ เช่น

สถานการณจ์ ริงอย่างเหมาะสม Please…/…, please./ I’d like…/ I need…/

May/Can/Could…?/Would you please…?Yes,../

Please do. /Certainly./ Yes, of course./Sure./

Need some help?/ What can I do to help?/

Would you like any help?/ If you like I could…/

What can I do to help?/ Would you like any

help?/ Would you like me to help you?/ If you

need anything, please…/ Is there anything I

can do?/ I’ll do it for you./ I’m afraid…/ I’m

sorry, but…/ Sorry, but… etc.

4. พูดและเขยี นเพ่ือขอและให้ข้อมลู คาศัพท์ สานวน ประโยคและข้อความท่ีใช้ในการขอ

บรรยาย อธบิ าย เปรียบเทยี บ และให้ข้อมลู บรรยาย อธิบาย เปรียบเทยี บ และ

และแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกับเรื่อง/ แสดงความคดิ เห็นเกีย่ วกับประเด็น/ข่าว/เหตุการณท์ ี่

ประเดน็ /ข่าว/เหตุการณท์ ี่ฟังและอา่ น ฟังและอา่ น

อย่างเหมาะสม

5. พูดและเขยี นบรรยายความรู้สกึ และ ภาษาที่ใชใ้ นการแสดงความรู้สกึ ความคดิ เห็น และ

แสดงความคดิ เหน็ ของตนเองเกย่ี วกับ ให้เหตผุ ลประกอบ เช่น ชอบ ไมช่ อบ ดใี จ เสยี ใจ

เรื่องต่างๆ กจิ กรรม ประสบการณ์ มีความสขุ เศร้า หวิ รสชาติ สวย นา่ เกลียด เสียงดงั ดี

และข่าว/เหตกุ ารณ์อย่างมเี หตุผล ไม่ดี จากขา่ ว เหตุการณ์ สถานการณ์ ในชีวติ ประจาวัน

เชน่

Nice./Very nice./Well done!/Congratulations on..

I like… because…/ I love… because…/

I feel… because…/I think…/I believe…/

I agree/disagree…/ I’m afraid I don’t like…/

I don’t believe…/I have no idea…/ Oh no! etc.

สำระที่ 1 ภำษำเพือ่ กำรส่ือสำร

มำตรฐำน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เหน็ ในเรื่องต่างๆ โดยการพูด

และการเขียน

ช้นั ตัวชี้วดั สำระกำรเรียนรแู้ กนกลำง

ม.1 1. พดู และเขียนบรรยายเก่ยี วกบั ตนเอง ประโยคและข้อความทีใ่ ชใ้ นการบรรยายเก่ยี วกบั ตนเอง

กิจวัตรประจาวัน ประสบการณ์ และ กิจวตั รประจาวนั ประสบการณ์ สิ่งแวดล้อม ใกลต้ ัว เช่น

ส่งิ แวดล้อม ใกลต้ ัว การเดินทาง การรบั ประทานอาหาร การเรียน การเลน่

กฬี า ฟงั เพลง การอ่านหนังสือ การท่องเท่ยี ว

2. พูด/เขยี น สรปุ ใจความสาคัญ/ การจับใจความสาคัญ/แก่นสาระ การวเิ คราะหค์ วาม

แก่นสาระ(theme) ทีไ่ ดจ้ ากการ เรอ่ื ง/เหตกุ ารณท์ ี่อยู่ในความสนใจ เชน่ ประสบการณ์

21

ชัน้ ตวั ชี้วัด สำระกำรเรยี นร้แู กนกลำง

วิเคราะหเ์ ร่อื ง/เหตุการณท์ ี่อยู่ในความ ภาพยนตร์ กฬี า เพลง

สนใจของสังคม

3. พูด/เขยี นแสดงความคิดเห็นเก่ยี วกับ การแสดงความคิดเหน็ และการใหเ้ หตผุ ลประกอบ

กจิ กรรมหรือเร่อื งต่างๆ ใกล้ตัว พรอ้ ม เกี่ยวกบั กจิ กรรมหรือเรื่องตา่ งๆ ใกลต้ วั

ท้ังให้เหตุผลส้ันๆ ประกอบ

ม2. 1. พดู และเขียนบรรยายเกีย่ วกับตนเอง การบรรยายข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง กิจวัตรประจาวัน

กิจวตั รประจาวัน ประสบการณ์ และ ประสบการณ์ ข่าว/เหตกุ ารณท์ ่อี ยู่ในความสนใจของ

ขา่ ว/เหตกุ ารณ์ ทอี่ ยู่ในความสนใจ สังคม เช่น การเดินทาง การรับประทานอาหาร การ

ของสงั คม เลน่ กฬี า/ดนตรี การฟงั เพลง การอ่านหนงั สือ การ

ทอ่ งเทีย่ ว การศกึ ษา สภาพสังคม เศรษฐกิจ

2. พูดและเขยี นสรุปใจความสาคัญ/ การจับใจความสาคัญ/แก่นสาระ หัวขอ้ เร่ือง

แกน่ สาระ หวั ขอ้ เรือ่ ง (topic) ที่ได้จาก การวเิ คราะหเ์ รื่อง/ข่าว/เหตุการณ์ท่อี ยู่ในความสนใจ

การวเิ คราะห์เรื่อง/ข่าว/เหตุการณ์ ที่อยู่ เช่น ประสบการณ์ ภาพยนตร์ กีฬา ดนตรี เพลง

ในความสนใจของสังคม

3. พดู และเขียนแสดงความคิดเห็น การแสดงความคิดเห็นและการให้เหตผุ ลประกอบ

เกี่ยวกับกจิ กรรม เรื่องตา่ งๆ ใกล้ตวั เกยี่ วกบั กิจกรรม เรือ่ งตา่ งๆ ใกลต้ ัว และประสบการณ์

และประสบการณ์ พร้อมท้งั ให้เหตุผล

สั้นๆ ประกอบ

ม3. 1. พูดและเขียนบรรยายเกีย่ วกับตนเอง การบรรยายเกย่ี วกับตนเอง ประสบการณ์ ข่าว/

ประสบการณ์ ข่าว/เหตุการณ์ / เรอื่ ง/ เหตุการณ/์ ประเด็นที่อย่ใู นความสนใจของสงั คม เชน่

ประเด็นตา่ งๆ ทอ่ี ยู่ในความสนใจ การเดินทาง การรับประทานอาหาร การเลน่ กีฬา/ดนตรี

ของสังคม การฟังเพลง การอา่ นหนงั สือ การทอ่ งเทย่ี ว การศึกษา

สภาพสังคม เศรษฐกิจ

2. พูดและเขียนสรปุ ใจความสาคัญ/ การจับใจความสาคญั /แก่นสาระ หัวขอ้ เร่ือง

แก่นสาระ หวั ข้อเรือ่ งท่ีได้จากการ การวเิ คราะหเ์ ร่ือง/ขา่ ว/เหตุการณ/์ สถานการณท์ ่ีอย่ใู น

วเิ คราะหเ์ รือ่ ง/ข่าว/เหตุการณ/์ ความสนใจ เชน่ ประสบการณ์ เหตกุ ารณ์ สถานการณ์

สถานการณ์ท่อี ยู่ในความสนใจของสังคม ต่างๆ ภาพยนตร์ กฬี า ดนตรี เพลง

3. พูดและเขยี นแสดงความคิดเห็น การแสดงความคดิ เห็น และการใหเ้ หตผุ ลประกอบ

เก่ยี วกบั กิจกรรม ประสบการณ์ และ เกยี่ วกบั กิจกรรม ประสบการณ์ และเหตกุ ารณ์

เหตกุ ารณ์ พร้อมทั้งให้เหตผุ ลประกอบ

ม4.-6 1. พูดและเขยี นนาเสนอข้อมูลเกี่ยวกับ การนาเสนอข้อมลู เกีย่ วกับตนเอง ประสบการณ์ ขา่ ว/

ตนเอง ประสบการณ์ ขา่ ว/เหตกุ ารณ์ เหตุการณ์ เรอ่ื งและประเดน็ ท่ีอยใู่ นความสนใจของ

เร่ืองและประเด็นต่างๆ ตามความสนใจ สงั คม เชน่ การเดินทาง การรับประทานอาหาร การเล่น

ของสงั คม กฬี า/ดนตรี การดภู าพยนตร์ การฟังเพลง การเลย้ี ง

สัตว์การอ่านหนังสอื การท่องเทย่ี ว การศกึ ษา สภาพ

สงั คม เศรษฐกิจ

2. พดู และเขยี นสรุปใจความสาคญั / การจับใจความสาคญั /แก่นสาระ

แก่นสาระทไ่ี ดจ้ ากการวเิ คราะหเ์ รือ่ ง การวิเคราะหเ์ ร่ือง กจิ กรรม ข่าว เหตกุ ารณ์ และ

22

ชนั้ ตวั ช้วี ดั สำระกำรเรยี นรู้แกนกลำง

กิจกรรม ขา่ ว เหตุการณ์ และ สถานการณ์ตามความสนใจ

สถานการณ์ตามความสนใจ

3. พูดและเขียนแสดงความคิดเห็น การแสดงความคิดเห็น การให้เหตผุ ลประกอบและ

เก่ียวกบั กิจกรรม ประสบการณ์ และ ยกตวั อย่างเก่ียวกับกิจกรรม ประสบการณ์ และ

เหตุการณ์ ท้ังในท้องถ่นิ สงั คม และ เหตุการณใ์ นท้องถิน่ สงั คม และโลก

โลก พร้อมทงั้ ให้เหตผุ ลและยกตวั อยา่ ง

ประกอบ

สำระที่ 2 ภำษำและวฒั นธรรม

มำตรฐำน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหวา่ งภาษากบั วัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา และนาไปใช้ได้อยา่ ง

เหมาะสมกับกาลเทศะ

ชนั้ ตวั ชว้ี ดั สำระกำรเรยี นร้แู กนกลำง

ม.1 1.ใช้ภาษา นา้ เสียง และกิรยิ าทา่ ทาง การใช้ภาษา น้าเสียง และกริ ิยาท่าทางในการสนทนา

สุภาพเหมาะสม ตามมารยาทสังคม ตามมารยาทสังคมและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา เชน่

และวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา การขอบคณุ ขอโทษ การชมเชย การใช้สีหน้าทา่ ทาง

ประกอบ การพดู ขณะแนะนาตนเอง การสมั ผัสมือ

การโบกมือ การแสดงความร้สู กึ ชอบ/ไม่ชอบ การ

กลา่ วอวยพร การแสดงอาการตอบรับหรือปฏิเสธ

2. บรรยายเกย่ี วกับเทศกาล วนั ความเปน็ มาและความสาคัญของเทศกาล วันสาคญั

สาคัญ ชวี ติ ความเป็นอยู่ และประเพณี ชีวติ ความเปน็ อยู่ และประเพณขี องเจ้าของภาษา

ของเจา้ ของภาษา

3. เข้าร่วม/จดั กิจกรรมทางภาษาและ กจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรม เชน่ การเลน่ เกม

วัฒนธรรมตามความสนใจ การรอ้ งเพลง การเล่านิทาน บทบาทสมมุติ วันขอบคณุ -

พระเจา้ วันคริสตม์ าส วนั ขึ้นปใี หม่ วนั วาเลนไทน์

ม.2 1. ใช้ภาษา น้าเสียง และกริ ยิ าทา่ ทาง การใช้ภาษา นา้ เสยี ง และกิริยาท่าทางในการสนทนา

เหมาะกบั บุคคลและโอกาส ตามมารยาท ตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา เชน่

สงั คม และวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา การขอบคุณ ขอโทษ การชมเชย การใชส้ หี นา้ ท่าทาง

ประกอบ การพูดขณะแนะนาตนเอง การสัมผัสมือ

การโบกมือ การแสดงความรู้สกึ ชอบ/ไม่ชอบ การ

กล่าวอวยพร การแสดงอาการตอบรบั หรือปฏิเสธ

2. อธิบายเกยี่ วกับเทศกาล วันสาคัญ ความเป็นมาและความสาคัญของเทศกาล วนั สาคญั

ชีวติ ความเป็นอยู่ และประเพณีของ ชีวติ ความเปน็ อยู่ และประเพณีของเจ้าของภาษา

เจา้ ของภาษา

3. เข้ารว่ ม/จดั กจิ กรรมทางภาษาและ กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เชน่ การเล่นเกม

วฒั นธรรมตามความสนใจ การรอ้ งเพลง การเลา่ นิทาน บทบาทสมมุติ

วันขอบคุณพระเจ้า วันคริสต์มาส วนั ขนึ้ ปใี หม่

วันวาเลนไทน์

23

ช้ัน ตัวชีว้ ัด สำระกำรเรียนรูแ้ กนกลำง

ม.3 1. เลือกใชภ้ าษา น้าเสียง และกริ ยิ า การเลอื กใชภ้ าษา น้าเสียง และกริ ยิ าทา่ ทางในการ

ทา่ ทาง เหมาะกับบุคคลและโอกาส ตาม สนทนา ตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรมของเจ้าของ

มารยาทสังคม และวัฒนธรรมของ ภาษา เชน่ การขอบคุณ ขอโทษ การชมเชย การใช้

เจ้าของภาษา สหี น้าทา่ ทางประกอบ การพูด ขณะแนะนาตนเอง

การสมั ผสั มือ การโบกมือ การแสดงความ รู้สึกชอบ/ไม่

ชอบ การกล่าวอวยพร การแสดงอาการตอบรับหรือ

ปฏิเสธ

2. อธิบายเกยี่ วกบั ชวี ติ ความเป็นอยู่ ชีวิตความเป็นอยู่ ขนบธรรมเนยี มและประเพณขี อง

ขนบธรรมเนียมและประเพณีของเจ้าของ เจา้ ของภาษา

ภาษา

3. เข้าร่วม/จดั กจิ กรรมทางภาษาและ กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เช่น การเล่นเกม

วัฒนธรรมตามความสนใจ การร้องเพลง การเลา่ นิทาน บทบาทสมมุติ

วนั ขอบคุณพระเจา้ วันครสิ ต์มาส วันข้ึนปใี หม่

วนั วาเลนไทน์

ม.4-6 1. เลือกใช้ภาษา น้าเสียง และกริ ยิ า การเลือกใชภ้ าษา นา้ เสยี ง และกริ ยิ าทา่ ทางในการ

ท่าทางเหมาะกับระดับของบุคคล โอกาส สนทนา ระดบั ของภาษา มารยาทสังคมและวัฒนธรรม

และสถานท่ี ตามมารยาทสังคมและ ของเจา้ ของภาษา เช่น การขอบคณุ

วัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา ขอโทษ การชมเชย การใช้สีหนา้ ท่าทางประกอบ การ

พูดขณะแนะนาตนเอง การสัมผัสมอื การโบกมอื การ

แสดงความ รู้สกึ ชอบ/ไม่ชอบ การกลา่ วอวยพร การ

แสดงอาการตอบรับหรอื ปฏิเสธ

2. อธิบาย/อภิปรายวิถชี ีวิต ความคิด วถิ ชี วี ิต ความคดิ ความเชอ่ื และท่ีมาของ

ความเช่อื และท่ีมาของ ขนบธรรมเนียม และประเพณีของเจ้าของภาษา

ขนบธรรมเนียม และประเพณีของ

เจา้ ของภาษา

3. เข้าร่วม แนะนา และจัดกิจกรรมทาง กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เชน่ การเลน่ เกม

ภาษาและวัฒนธรรมอย่างเหมาะสม การร้องเพลง การเล่านิทาน/เร่อื งจากภาพยนตร์

บทบาทสมมุติ ละครสนั้ วนั ขอบคุณพระเจ้า

วนั ครสิ ต์มาส วนั ขึ้นปใี หม่ วนั วาเลนไทน์

สำระท่ี 2 ภำษำและวัฒนธรรม

มำตรฐำน ต 2.2 เข้าใจความเหมอื นและความแตกต่างระหวา่ งภาษาและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษากบั

ภาษาและวัฒนธรรมไทย และนามาใชอ้ ย่างถกู ตอ้ งและเหมาะสม

ช้นั ตัวช้วี ัด สำระกำรเรียนร้แู กนกลำง

ม.1 1. บอกความเหมอื นและความแตกตา่ ง ความเหมอื น/ความแตกตา่ งระหว่างการออกเสียง

ระหว่างการออกเสียงประโยคชนดิ ต่างๆ ประโยคชนดิ ต่างๆ ของเจา้ ของภาษากบั ของไทย

การใช้เครอื่ งหมายวรรคตอน และการ การใชเ้ คร่ืองหมายวรรคตอนและการลาดบั คาตาม

ลาดับคาตามโครงสร้างประโยคของ โครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย

ภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย

24

ช้ัน ตวั ชว้ี ดั สำระกำรเรียนร้แู กนกลำง

2. เปรยี บเทยี บความเหมือนและความ ความเหมือนและความแตกต่างระหว่างเทศกาล

แตกต่างระหว่างเทศกาล งานฉลอง งานฉลอง วันสาคัญ และชีวติ ความเป็นอยู่ของเจา้ ของ

วันสาคญั และชวี ิตความเป็นอยูข่ อง ภาษากบั ของไทย

เจา้ ของภาษากบั ของไทย

ม.2 1. เปรยี บเทียบและอธบิ ายความเหมอื น การเปรียบเทยี บและการอธบิ ายความเหมือน/ความ

และความแตกตา่ งระหวา่ งการออก แตกตา่ งระหว่างการออกเสยี งประโยคชนดิ ต่างๆ

เสียงประโยคชนิดต่างๆ และการลาดับ ของเจ้าของภาษากบั ของไทย การใช้เครื่องหมายวรรค

คาตามโครงสร้างประโยค ของ ตอนและการลาดับคาตามโครงสรา้ งประโยคของ

ภาษาต่างประเทศและภาษาไทย ภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย

2 เปรียบเทยี บและอธบิ ายความเหมอื น การเปรยี บเทียบและการอธิบายความเหมือนและความ

และความแตกต่างระหว่างชีวติ ความ แตกต่างระหว่างชวี ิตความเป็นอยแู่ ละวัฒนธรรมของ

เปน็ อยแู่ ละวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา เจา้ ของภาษากบั ของไทย

กับของไทย

ม.3 1. เปรยี บเทียบและอธบิ ายความเหมอื น การเปรยี บเทยี บและการอธิบายความเหมือน/ความ

และความแตกต่างระหว่างการออก แตกต่างระหวา่ งการออกเสียงประโยคชนดิ ตา่ งๆ

เสียงประโยคชนดิ ต่างๆ และการลาดบั ของเจ้าของภาษากับของไทย การใช้เคร่อื งหมายวรรค

คาตามโครงสรา้ งประโยคของ ตอนและการลาดับคาตามโครงสร้างประโยคของ

ภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย ภาษาต่างประเทศและภาษาไทย

2. เปรยี บเทยี บและอธิบายความเหมอื น การเปรยี บเทียบและการอธิบายความเหมือนและความ

และความแตกต่างระหว่างชีวิตความ แตกต่างระหวา่ งชวี ติ ความเป็นอยแู่ ละวัฒนธรรมของ

เปน็ อยู่และวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา เจา้ ของภาษากบั ของไทย

กับของไทย และนาไปใช้อย่างเหมาะสม การนาวฒั นธรรมของเจ้าของภาษาไปใช้

ม.4-6 1. อธิบาย/เปรยี บเทียบความแตกต่าง การอธบิ าย/การเปรยี บเทียบความแตกต่างระหว่าง

ระหว่างโครงสรา้ งประโยค ข้อความ โครงสร้างประโยค ข้อความ สานวน คาพังเพย สุภาษิต

สานวน คาพังเพย สุภาษิต และบท และบทกลอนของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย

กลอนของภาษาตา่ งประเทศและ

ภาษาไทย

2. วเิ คราะห์/อภิปราย ความเหมือน การวเิ คราะห์/การอภิปรายความเหมือนและความ

และความแตกต่างระหว่างวถิ ีชวี ติ แตกต่างระหวา่ งวิถชี วี ิต ความเชอื่ และวฒั นธรรมของ

ความเชอ่ื และวฒั นธรรมของเจา้ ของ เจ้าของภาษากบั ของไทย การนาวัฒนธรรมของเจา้ ของ

ภาษากับของไทยและนาไปใชอ้ ยา่ งมี ภาษาไปใช้

เหตุผล

สำระที่ 3 ภำษำกับควำมสมั พนั ธก์ ับกลมุ่ สำระกำรเรียนร้อู ื่น

มำตรฐำน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความร้กู ับกลุ่มสาระการเรยี นรอู้ ่ืน และเป็นพืน้ ฐานใน

การพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปดิ โลกทัศน์ของตน

25

ชนั้ ตัวช้วี ัด สำระกำรเรยี นรู้แกนกลำง

ม.1 1. คน้ คว้า รวบรวม และสรปุ ข้อมูล/ การคน้ คว้า การรวบรวม การสรุป และการนาเสนอ

ข้อเทจ็ จรงิ ที่เกย่ี วข้องกับกลุ่มสาระ ข้อมลู /ข้อเท็จจริงท่ีเกย่ี วข้องกบั กลมุ่ สาระการเรียนรู้อื่น

การเรยี นรูอ้ น่ื จากแหลง่ เรียนรู้ และ

นาเสนอดว้ ยการพูด/การเขยี น

ม.2 1. ค้นควา้ รวบรวม และสรปุ ข้อมูล/ การคน้ คว้า การรวบรวม การสรปุ และการนาเสนอ

ขอ้ เทจ็ จริงที่เกีย่ วข้องกับกลมุ่ สาระ ข้อมลู /ข้อเทจ็ จรงิ ท่ีเกย่ี วขอ้ งกับกล่มุ สาระการเรยี นรู้อน่ื

การเรียนรูอ้ ่ืนจากแหล่งเรียนรู้ และ

นาเสนอดว้ ยการพดู /การเขยี น

ม.3 1. ค้นคว้า รวบรวม และสรุปข้อมลู / การคน้ คว้า การรวบรวม การสรุป และการนาเสนอ

ข้อเท็จจริงท่เี ก่ยี วข้องกบั กลุม่ สาระ ข้อมลู /ขอ้ เทจ็ จรงิ ทีเ่ กีย่ วข้องกบั กลมุ่ สาระการเรียนรู้อน่ื

การเรยี นร้อู น่ื จากแหลง่ เรียนรู้ และ

นาเสนอด้วยการพูดและการเขียน

ม.4-6 1. คน้ คว้า/สบื คน้ บนั ทึก สรุป และ การคน้ คว้า/การสืบคน้ การบันทกึ การสรปุ การแสดง

แสดงความคดิ เห็นเก่ยี วกบั ข้อมูล ความคดิ เหน็ และนาเสนอขอ้ มลู ทเ่ี กย่ี วข้องกับกลุ่ม

ท่ีเก่ียวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรอู้ ืน่ สาระการเรียนรู้อื่นจากแหล่งเรยี นรู้ตา่ งๆ

จากแหลง่ เรยี นรูต้ ่างๆ และนาเสนอดว้ ย

การพดู และการเขยี น

สำระท่ี 4 ภำษำกบั ควำมสัมพนั ธก์ บั ชุมชนและโลก

มำตรฐำน ต 4.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในสถานการณต์ ่างๆ ทงั้ ในสถานศึกษา ชมุ ชน และสังคม

ชั้น ตวั ชว้ี ัด สำระกำรเรียนรแู้ กนกลำง

ม.1 1. ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จรงิ / การใช้ภาษาส่อื สารในสถานการณ์จรงิ /สถานการณ์

สถานการณ์จาลองทเี่ กดิ ข้ึนในห้องเรยี น จาลองทเี่ กดิ ขึน้ ในห้องเรยี นและสถานศึกษา

และสถานศึกษา

ม.2 1. ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริง/ การใช้ภาษาสอ่ื สารในสถานการณ์จรงิ /สถานการณ์

สถานการณจ์ าลองท่เี กดิ ขน้ึ ในห้องเรียน จาลองทเ่ี กิดข้ึนในห้องเรียน สถานศกึ ษา และชุมชน

สถานศกึ ษา และชุมชน

ม.3 1. ใช้ภาษาสอ่ื สารในสถานการณ์จริง/ การใช้ภาษาส่อื สารในสถานการณจ์ ริง/สถานการณ์

สถานการณ์จาลองทเ่ี กดิ ขนึ้ ในหอ้ งเรยี น จาลองท่ีเกิดขน้ึ ในห้องเรียน สถานศึกษา ชุมชน และ

สถานศึกษา ชุมชน และสังคม สังคม

ม.4-6 1. ใช้ภาษาส่ือสารในสถานการณจ์ รงิ / การใชภ้ าษาสอ่ื สารในสถานการณจ์ ริง/สถานการณ์

สถานการณจ์ าลองท่ีเกดิ ขึน้ ในหอ้ งเรียน จาลองเสมือนจริงที่เกิดขึน้ ในห้องเรียน สถานศึกษา

สถานศึกษา ชุมชน และสังคม ชุมชน และสงั คม

สำระท่ี 4 ภำษำกบั ควำมสัมพันธก์ ับชมุ ชนและโลก

มำตรฐำน ต 4.2 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศเปน็ เคร่ืองมือพืน้ ฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และการ

แลกเปลีย่ นเรียนรู้กับสงั คมโลก

26

ชั้น ตัวช้วี ัด สำระกำรเรียนรแู้ กนกลำง

ม.1 1. ใชภ้ าษาต่างประเทศในการสืบคน้ / การใชภ้ าษาต่างประเทศในการสืบคน้ /การค้นคว้า

ค้นควา้ ความรู้/ข้อมลู ตา่ งๆ จากส่อื ความรู้/ข้อมูลต่างๆ จากสือ่ และแหล่งการเรยี นรตู้ ่างๆ

และแหลง่ การเรียนรู้ต่างๆ ในการศึกษา ในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพ

ต่อและประกอบอาชพี

ม.2 1. ใช้ภาษาต่างประเทศในการสบื ค้น/ การใชภ้ าษาต่างประเทศในการสืบค้น/การคน้ ควา้

คน้ ควา้ รวบรวมและสรปุ ความรู้/ขอ้ มลู ความรู้/ขอ้ มูลตา่ งๆ จากสื่อและแหลง่ การเรียนรู้ต่างๆ

ตา่ งๆ จากส่อื และแหล่งการเรียนรูต้ า่ งๆ ในการศึกษาต่อและประกอบอาชพี

ในการศึกษาต่อและประกอบอาชพี

2. เผยแพร่/ประชาสมั พันธ์ข้อมลู ข่าวสาร การใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการเผยแพร/่ ประชาสมั พนั ธ์

ของโรงเรียนเป็นภาษาต่างประเทศ ขอ้ มูลข่าวสารของโรงเรียน เช่น การทาหนังสือ

เล่มเลก็ แนะนาโรงเรยี น การทาแผ่นปลิว ปา้ ยคา

ขวญั คาเชญิ ชวนแนะนาโรงเรียน การนาเสนอข้อมลู

ข่าวสารในโรงเรยี นเป็นภาษาอังกฤษ

ม.3 1. ใช้ภาษาตา่ งประเทศในการสืบคน้ / การใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการสืบคน้ /การค้นควา้

คน้ คว้า รวบรวม และสรปุ ความรู้/ข้อมูล ความรู้/ข้อมลู ตา่ งๆ จากส่ือและแหลง่ การเรียนรูต้ ่างๆ

ต่างๆ จากสอ่ื และแหลง่ การเรียนรู้ตา่ งๆ ในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพ

ในการศึกษาต่อและประกอบอาชพี

2. เผยแพร่ /ประชาสัมพันธ์ การใชภ้ าษาต่างประเทศในการเผยแพร่/ประชาสมั พันธ์

ข้อมูล ข่าวสารของโรงเรยี น ชมุ ชน และ ขอ้ มูลขา่ วสารของโรงเรยี น ชุมชน และทอ้ งถ่ิน เชน่ การ

ท้องถิ่น เป็นภาษาต่างประเทศ ทาหนงั สือเลม่ เล็กแนะนาโรงเรียน ชุมชน และท้องถิ่น

การทาแผน่ ปลิว ป้ายคาขวัญ คาเชิญชวนแนะนา

โรงเรยี นและสถานที่สาคัญในชมุ ชนและทอ้ งถิ่น การ

นาเสนอข้อมลู ขา่ วสารในโรงเรียน ชุมชน และทอ้ งถ่นิ

เป็นภาษาองั กฤษ

ม.4-6 1. ใชภ้ าษาต่างประเทศในการสืบคน้ / การใชภ้ าษาต่างประเทศในการสบื คน้ /การค้นคว้า

ค้นควา้ รวบรวม วเิ คราะห์ และสรปุ ความรู้/ข้อมลู ตา่ งๆ จากสอ่ื และแหลง่ การเรียนรตู้ ่างๆ

ความรู้/ขอ้ มูลต่างๆ จากสอ่ื และแหลง่ ในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพ

การเรยี นรู้ต่างๆ ในการศึกษาตอ่ และ

ประกอบอาชีพ

2. เผยแพร่/ประชาสัมพันธ์ ข้อมูล การใช้ภาษาอังกฤษในการเผยแพร่/ประชาสัมพนั ธ์

ข่าวสารของโรงเรยี น ชุมชน และ ข้อมูล ขา่ วสารของโรงเรียน ชุมชน และทอ้ งถิ่น/

ทอ้ งถน่ิ /ประเทศชาติ เปน็ ประเทศชาติ เชน่ การทาหนงั สือเลม่ เลก็ แนะนา

ภาษาตา่ งประเทศ โรงเรียน ชุมชน ทอ้ งถนิ่ /ประเทศชาติ การทาแผน่ ปลิว

ปา้ ยคาขวญั คาเชิญชวนแนะนาโรงเรยี น สถานท่ีสาคัญ

ในชมุ ชนและท้องถิ่น/ประเทศชาติ การนาเสนอข้อมลู

ข่าวสารในโรงเรยี น ชมุ ชน ทอ้ งถนิ่ /ประเทศชาติเปน็

ภาษาอังกฤษ

27

วเิ ครำะหม์ ำตรฐำนและตัวชี้วัด
กลุ่มสำระกำรเรียนรูภ้ ำษำตำ่ งประเทศ รำยวิชำภำษำอังกฤษพืน้ ฐำน ช้นั มัธยมศึกษำปีที่ 2

สำระท่ี 1 ภำษำเพอื่ กำรสอ่ื สำร

มำตรฐำน ต1.1 เขา้ ใจและตีความเรือ่ งที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคดิ เหน็ อยา่ งมีเหตุผล

ตวั ชว้ี ัด สำระกำรเรยี นรูแ้ กนกลำง K PA

1. ปฏิบตั ติ ามคาขอรอ้ ง คาขอร้อง คาแนะนา คาช้ีแจง และ 1. คาขอร้อง 1. อธิบาย 1. รกั ความเป็น

คาแนะนาคาชแี้ จง และ คาอธบิ าย เช่น การทาอาหารและ คาแนะนา ปฏิบัตติ าม ไทย

คาอธบิ ายงา่ ยๆ ทฟี่ ัง เครื่องดื่มการประดษิ ฐ์ การใชย้ า/สลาก คาชี้แจง และ คาขอร้อง / 2. ใฝเ่ รียนรู้

และอา่ น ยา การบอกทศิ ทาง การใช้อุปกรณ์ คาอธบิ าย คาแนะนา

- Passive Voice ที่ใช้ในโครงสรา้ ง

ประโยคงา่ ยๆ เชน่ is/are + Past

Participle

- คาสันธาน (conjunction) เช่น

and/ but/ or/ before/ after

etc.

- ตัวเชื่อม (connective words)

เช่น First,… Second,… Third,…

Fourth,… Finally,… etc.

2. อ่านออกเสยี ง ขอ้ ความ ขา่ ว ประกาศ และบทร้อย 1. ขอ้ ความ ข่าว 1. อ่านออก 1. รักความเป็น

ขอ้ ความ ขา่ ว ประกาศ กรอง การใชพ้ จนานุกรม ประกาศ และ เสยี ง ไทย

และบทร้อยกรองสั้นๆ หลักการอา่ นออกเสียง เช่น บทร้อยกรอง 2. ใฝเ่ รยี นรู้

ถูกตอ้ งตามหลกั การอา่ น - การออกเสียงพยัญชนะตน้ คาและ 2. การใช้

พยัญชนะท้ายคา พจนานุกรม

- การออกเสียงเนน้ หนัก-เบา ในคา 3. ออกเสยี ง

และกลุ่มคา พยญั ชนะต้นคา

- การออกเสียงตามระดบั เสยี งสูง-ตา่ และพยัญชนะ

ในประโยค ทา้ ยคา

- การออกเสยี งเชือ่ มโยงในข้อความ 4. ออกเสยี ง

- การแบง่ วรรคตอนในการอ่าน เน้นหนกั -เบา

- การอา่ นบทร้อยกรองตามจังหวะ ในคาและ

กล่มุ คา

5. ออกเสียงตาม

ระดบั เสยี งสูง-

ตา่ ในประโยค

6. ออกเสียง

เช่ือมโยงใน

ขอ้ ความ

7. แบ่งวรรค

ตอนในการอา่ น

ตวั ชวี้ ดั สำระกำรเรยี นร้แู กนกลำง KP 28
A
8. อา่ นบทรอ้ ย
1. ใฝ่เรยี นรู้
กรองตามจังหวะ 2. มงุ่ ม่นั ในการ
ทางาน
9. การอา่ นออก
1. มวี นิ ยั
เสียง 2. มงุ่ มั่นในการ
ทางาน
3. ระบ/ุ เขยี นประโยค ประโยค หรอื ข้อความ และความหมาย 1. ประโยคหรอื 1. ระบุ/

และข้อความ ให้สัมพนั ธ์ เกีย่ วกบั ตนเอง ครอบครัว โรงเรยี น ขอ้ ความ เขียน

กบั สื่อที่ไม่ใช่ความเรียง สงิ่ แวดลอ้ ม อาหาร เคร่ืองดื่ม เวลาว่าง เก่ยี วกบั ตนเอง ประโยค/

รปู แบบ ตา่ งๆ ท่อี า่ น และนันทนาการ สขุ ภาพและสวัสดิการ ครอบครวั ขอ้ ความ

การซ้อื -ขาย ลมฟา้ อากาศ การศึกษา โรงเรียน และสอื่

และอาชีพ การเดนิ ทางท่องเท่ยี ว การ ทีไ่ มใ่ ช่ความ

บรกิ าร สถานที่ ภาษา และ เรียง

วทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี เป็นวง

คาศัพทส์ ะสมประมาณ 1,750-1,900

คา (คาศัพท์ที่เปน็ รูปธรรมและ

นามธรรม)

การตคี วาม/ถ่ายโอนข้อมลู ให้สมั พนั ธ์กบั

ส่ือทีไ่ ม่ใช่ความเรยี ง เชน่ สญั ลกั ษณ์

เครอื่ งหมาย กราฟ แผนภมู ิ แผนผัง

ตาราง ภาพสตั ว์ สิง่ ของ บุคคล สถานท่ี

ต่างๆ โดยใช้ Comparison of

adjectives/ adverbs/ Contrast:

but, although/ Quantity words

เชน่ many/ much/ a lot of/ lots

of/ some/ any/ a few/ few/ a

little/ little etc.

4. เลือกหัวขอ้ เรื่อง บทสนทนา นทิ าน เรื่องส้ัน และเรื่อง 1. บทสนทนา 1. จับ

ใจความสาคัญ จากส่ือประเภทต่างๆ เชน่ หนงั สอื พิมพ์ นิทาน เร่ืองสัน้ ใจความ

บอกรายละเอยี ด วารสาร วิทยุ โทรทัศน์ เว็บไซด์ การจับ และเร่อื งจากสื่อ สาคัญบท

สนับสนุน (supporting ใจความสาคัญ เช่น หัวข้อเร่ือง ใจความ ประเภทต่างๆ สนทนา

detail) และแสดงความ สาคัญ รายละเอียดสนบั สนนุ คาถาม เรอ่ื งสน้ั

คิดเหน็ เกี่ยวกับเร่ืองที่ฟัง เกย่ี วกับใจความสาคัญของเรื่อง เช่น และเร่ือง

และอ่าน พร้อมทั้งให้ ใคร ทาอะไร จากสอ่ื

เหตผุ ลและยกตัวอย่าง ทไ่ี หน เมอ่ื ไร อย่างไร ทาไม ใช่หรือไม่ ประเภท

ง่ายๆ ประกอบ - Yes/No Question ต่างๆ

- Wh-Question

- Or-Question

etc.

ประโยคที่ใช้ในการแสดงความคดิ เห็น

29

ตวั ชีว้ ดั สำระกำรเรยี นร้แู กนกลำง K PA

การใหเ้ หตผุ ล และการยกตัวอยา่ ง

เชน่ I think…/ I feel…/ I believe…

- คาสนั ธาน (conjunctions) and/

but/ or/ because/ so/

before/after

- ตวั เชอ่ื ม (connective words)

First,… Next,… After,… Then,…

Finally,… etc.

- Tenses: present simple/

present continuous/ present

perfect/ past simple/ future

tense etc.

- Simple sentence/Compound

sentence

มำตรฐำน ต 1.2 มที กั ษะการสอ่ื สารทางภาษาในการแลกเปล่ยี นขอ้ มูลข่าวสาร แสดงความรู้สกึ และความ

คิดเห็นอย่างมี ประสิทธภิ าพ

ตวั ช้วี ดั สำระกำรเรียนรู้แกนกลำง K P A

1. สนทนา แลกเปล่ยี น ภาษาทใ่ี ช้ในการส่ือสารระหว่างบุคคล 1. ภาษาในการ 1. สนทนา 1. รักชาติ

ขอ้ มลู เก่ยี วกบั ตนเอง เช่น การทักทาย กล่าวลา ขอบคุณ สื่อสารระหว่าง ศาสตร์

เร่อื งต่างๆ ใกล้ตัว และ ขอโทษ ชมเชย การพดู แทรกอยา่ ง บุคคล กษตั รยิ ์

สถานการณ์ต่างๆ ใน สุภาพ การชักชวน ประโยค/ข้อความ 2. รักความ

ชวี ติ ประจาวันอยา่ ง ที่ใชแ้ นะนาตนเอง เพือ่ น และบคุ คล เปน็ ไทย

เหมาะสม ใกล้ตวั และสานวนการตอบรับ การ

แลกเปลีย่ นข้อมูลเกย่ี วกับตนเอง เร่อื ง

ใกล้ตวั สถานการณ์ต่างๆ ใน

ชวี ติ ประจาวัน

2. ใช้คาขอร้อง ให้ คาขอร้อง คาแนะนา คาชี้แจง และ 1. คาขอร้อง 1. ขอรอ้ ง ให้ 1. ม่งุ ม่นั ใน

คาแนะนา คาชีแ้ จง คาอธิบาย คาแนะนา คา คาแนะนา การทางาน

และคาอธิบายตาม ชแ้ี จง และ ชี้แจง และ

สถานการณ์ คาอธบิ าย อธบิ าย

3. พูดและเขียนแสดง ภาษาที่ใช้ในการแสดงความต้องการ 1. ภาษาท่ใี ช้ใน 1. พดู และ 1. ซื่อสตั ย์

ความต้องการ เสนอ เสนอและให้ความช่วยเหลอื ตอบรับ การแสดงความ เขียน สจุ ริต

และให้ความช่วยเหลือ และปฏเิ สธการให้ความชว่ ยเหลือใน ตอ้ งการ เสนอ 2. มจี ิต

ตอบรับและปฏิเสธการ สถานการณต์ ่างๆ เชน่ และใหค้ วาม สาธารณะ

ใหค้ วามช่วยเหลือ Please…/…, please./ I’d like…/ ชว่ ยเหลอื ตอบ 3. ใฝเ่ รยี นรู้

ในสถานการณต์ ่างๆ I need… / May/Can/Could…?/ รับและปฏิเสธ

อย่างเหมาะสม Yes,../Please do./ การใหค้ วาม

Certainly./ Yes, of course./ ช่วยเหลือใน

30

ตัวชี้วัด สำระกำรเรียนรู้แกนกลำง K P A

Sure./ Go right ahead./ สถานการณ์

Need some help?/ What can I do ต่างๆ

to help?/

Would you like any help?/ I’m

afraid…I’m sorry, but…/ Sorry,

but…etc.

4. พดู และเขยี นเพื่อขอ คาศัพท์ สานวน ประโยค และข้อความ 1. คาศพั ท์ 1. บรรยาย 1. มีนินัย

และให้ข้อมลู บรรยาย ที่ใชใ้ นการขอและให้ข้อมูล บรรยาย สานวน และแสดง 2. มุ่งม่ันใน

และแสดงความคิดเห็น และแสดงความคดิ เห็นเก่ยี วกับเรอ่ื งที่ ประโยค และ ความคิดเหน็ การทางาน

เกี่ยวกับเรื่องท่ีฟงั หรือ ฟังหรอื อา่ น ข้อความท่ีใชใ้ น 3. ใฝเ่ รยี นรู้

อา่ นอย่างเหมาะสม การขอและให้

ขอ้ มลู บรรยาย

และแสดงความ

คิดเห็นเกี่ยวกับ

เรอ่ื งท่ีฟังหรือ

อา่ น

5. พูดและเขียนแสดง ภาษาทใ่ี ช้ในการแสดงความรู้สกึ ความ 1. ภาษาที่ใชใ้ น 1. แสดง 1. มวี ินยั

ความรูส้ กึ และความ คิดเห็น และให้เหตผุ ลประกอบ เช่น การแสดง ความรสู้ กึ 2. ซอื่ สตั ย์

คิดเหน็ ของตนเอง ชอบ ไมช่ อบ ดีใจ เสียใจ มคี วามสุข ความรสู้ กึ และ สุจรติ

เก่ียวกบั เร่ืองต่างๆ เศรา้ หวิ รสชาติ สวย น่าเกลยี ด เสยี ง ใหเ้ หตุผลตอ่ 3. ใฝ่เรียนรู้

กิจกรรม และ ดงั ดี ไมด่ ี จากข่าว เหตกุ ารณ์ เหตกุ ารณแ์ ละ

ประสบการณ์ พร้อมท้ัง สถานการณ์ ในชวี ติ ประจาวัน เช่น สถานการณ์

ให้เหตุผลประกอบ Nice./ Very nice./ Well done!/ ต่างๆ

อย่าง เหมาะสม Congratulations on… /

I like…because…/

I love…because…/ I feel…

because…/ I think…/ I believe…/

I agree/ disagree…/ I’m afraid /

I don’t like…/ I don’t believe…/

I have no idea…/ Oh no!

etc.

มำตรฐำน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เหน็ ในเรื่องตา่ งๆ โดยการ พูด และการเขียน

ตัวชว้ี ัด สำระกำรเรียนร้แู กนกลำง K P A

1. พูดและเขยี น การบรรยายข้อมลู เกีย่ วกับตนเอง 1. ขอ้ มลู 1. บรรยาย 1. มีวนิ ัย

บรรยายเกย่ี วกับตนเอง กิจวัตรประจาวนั ประสบการณ์ ข่าว/ เกี่ยวกบั ตนเอง 2. ม่งุ มัน่ ใน

กิจวัตรประจาวนั เหตกุ ารณท์ ี่อย่ใู นความสนใจของสงั คม กิจวตั ร การทางาน

ประสบการณ์ และข่าว/ เชน่ การเดินทาง การรบั ประทาน ประจาวัน 3. ใฝเ่ รียนรู้

เหตกุ ารณ์ ท่ีอย่ใู น อาหาร การเล่นกีฬา/ดนตรี การฟัง ประสบการณ์

31

ตวั ชว้ี ัด สำระกำรเรียนรู้แกนกลำง K P A

ความสนใจของสงั คม เพลง การอา่ นหนังสือ การท่องเท่ยี ว ข่าวสาร/

การศึกษา สภาพสงั คม เศรษฐกิจ เหตุการณ์ที่อยู่

ในความสนใจ

2. พดู และเขยี นสรปุ การจบั ใจความสาคญั /แก่นสาระ หัวขอ้ 1. การจับ 1. สรปุ 1. มีวินัย

ใจความสาคญั / เร่อื ง ใจความสาคญั / ใจความ 2. มงุ่ มน่ั ใน

แกน่ สาระ หวั ข้อเรือ่ ง การวิเคราะห์เร่ือง/ขา่ ว/เหตุการณท์ ี่อยู่ แกน่ สาระ สาคญั /แกน่ การทางาน

(topic) ทไี่ ด้จากการ ในความสนใจ เชน่ ประสบการณ์ หวั ขอ้ เรอ่ื ง สาระ หวั ขอ้ 3. ใฝเ่ รียนรู้

วเิ คราะห์เรื่อง/ข่าว/ ภาพยนตร์ กฬี า ดนตรี เพลง การวิเคราะห์ เรอ่ื ง(topic)

เหตุการณ์ ท่อี ยู่ในความ เรือ่ ง/ขา่ ว/

สนใจของสังคม เหตุการณ์ที่อยู่

ในความสนใจ

3. พูดและเขยี นแสดง การแสดงความคดิ เห็นและการให้ 1. แสดงความ 1. แสดงความ 1. มีวินยั

ความคิดเห็นเก่ียวกับ เหตผุ ลประกอบเก่ียวกับกิจกรรม เรอื่ ง คิดเห็นและ คิดเหน็ 2. มุ่งมั่นใน

กิจกรรมเรื่องต่างๆใกล้ ต่างๆ ใกลต้ ัว และประสบการณ์ การให้เหตผุ ล เกี่ยวกับ การทางาน

ตวั และประสบการณ์ ประกอบ กจิ กรรมและ 3. ใฝเ่ รยี นรู้

พร้อมท้งั ใหเ้ หตุผลส้นั ๆ เกยี่ วกับ ประสบการณ์

ประกอบ กิจกรรม เรือ่ ง

ตา่ งๆ และ

ประสบการณ์

ใกลต้ วั

สำระที่ 2 ภำษำและวัฒนธรรม

มำตรฐำน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธร์ ะหว่างภาษากบั วฒั นธรรมของเจ้าของภาษาและนาไปใชไ้ ด้อยา่ งเหมาะสมกบั

กาลเทศะ

ตวั ช้ีวดั สำระกำรเรียนรู้แกนกลำง K P A

1. ใชภ้ าษา น้าเสยี ง การใช้ภาษา นา้ เสยี ง และกริ ิยาท่าทาง 1. การใช้ 1. ใชภ้ าษา 1. รกั ชาติ

และกิรยิ าทา่ ทางเหมาะ ในการสนทนา ตามมารยาทสังคมและ ภาษา น้าเสยี ง น้าเสียง และ ศาสน์ กษัตรยิ ์

กบั บุคคลและโอกาส วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา เชน่ การ และกริ ยิ า กิรยิ าท่าทาง 2. รกั ความเปน็

ตามมารยาทสงั คม และ ขอบคุณ ขอโทษ การชมเชย การใชส้ ี ท่าทางในการ เหมาะกบั ไทย

วฒั นธรรมของเจ้าของ หน้าท่าทางประกอบ การพดู ขณะ สนทนา ตาม บุคคลและ

ภาษา แนะนาตนเอง การสัมผัสมือ การ มารยาทสงั คม โอกาสตาม

โบกมอื การแสดงความรูส้ ึกชอบ และวฒั นธรรม มารยาทสงั คม

/ไมช่ อบ การกลา่ วอวยพร การแสดง ของเจา้ ของ

อาการตอบรับหรือปฏเิ สธ ภาษา

2.อธิบายเก่ียวกับเทศกาล ความเปน็ มาและความสาคญั ของ 1. ความ 1. อธิบาย 1. มีวินยั

วนั สาคัญ ชวี ิตความ เทศกาล วันสาคญั ชวี ิตความเป็นอยู่ เปน็ มาและ เกี่ยวกบั 2. มุ่งม่ันในการ

เป็นอยู่ และประเพณีของ และประเพณีของเจา้ ของภาษา ความสาคญั เทศกาล วัน ทางาน

เจา้ ของภาษา ของเทศกาล สาคญั ชวี ติ 3. รักความเป็น

วนั สาคัญ ความเปน็ อยู่ ไทย

32

ตัวชี้วดั สำระกำรเรียนรแู้ กนกลำง K P A

ชวี ิตความ และประเพณี

เป็นอยู่ และ ของเจา้ ของ

ประเพณขี อง ภาษา

เจา้ ของภาษา

3. เข้ารว่ ม/จัดกิจกรรม กจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เช่น 1. กจิ กรรม 1. เข้ารว่ ม/จดั 1. มงุ่ ม่ันในการ

ทางภาษาและ การเลน่ เกม การร้องเพลง การเล่า ทางภาษาและ กจิ กรรมทาง ทางาน

วัฒนธรรมตามความ นิทาน บทบาทสมมตุ ิ วัฒนธรรม ภาษาและ 2. มีจติ

สนใจ วนั ขอบคุณพระเจ้า วนั ครสิ ต์มาส วัฒนธรรม สาธารณะ

วันข้ึนปีใหม่ วนั วาเลนไทน์

มำตรฐำน ต 2.2 เขา้ ใจความเหมือนและความแตกต่างระหวา่ งภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากบั

ภาษาและวฒั นธรรมไทย และนามาใช้อยา่ งถูกต้องและเหมาะสม

ตวั ช้ีวัด สำระกำรเรยี นรูแ้ กนกลำง K PA

1. เปรียบเทียบและ การเปรียบเทยี บและการอธบิ ายความ 1. การ 1. เปรียบเทียบ 1. ใฝ่เรียนรู้
เปรยี บเทียบและ และการอธบิ าย 2. มุ่งมั่นใน
อธิบายความเหมือน เหมือน/ความแตกต่างระหว่างการออก การอธิบายความ ความเหมือน/ การทางาน
เหมือน/ความ ความแตกตา่ ง 3. รักความ
และความแตกต่าง เสยี งประโยคชนิดตา่ งๆ ของเจ้าของ แตกต่างระหว่าง ระหว่างการ เป็นไทย
การออกเสยี ง ออกเสียง
ระหว่างการออกเสยี ง ภาษากับของไทย การใชเ้ คร่ืองหมาย ประโยคชนดิ ประโยคชนิด
ตา่ งๆของ ตา่ งๆของ
ประโยคชนดิ ต่างๆ และ วรรคตอนและการลาดับคาตาม เจา้ ของภาษา เจา้ ของภาษา
กบั ของไทย กบั ของไทย
การลาดบั คาตาม โครงสรา้ งประโยคของ 2. การใช้
เครอ่ื งหมาย
โครงสร้างประโยค ของ ภาษาต่างประเทศและภาษาไทย วรรคตอน

ภาษาตา่ งประเทศและ 1. การ 1. เปรยี บเทียบ 1. มุง่ มั่นใน
เปรียบเทยี บ และการอธบิ าย การทางาน
ภาษาไทย และการอธิบาย ความเหมือน 2. รกั ความ
ความเหมือน และความ เป็นไทย
2. เปรยี บเทยี บและ การเปรยี บเทียบและการอธิบายความ และความ แตกต่าง
อธบิ ายความเหมือน เหมือนและความแตกต่างระหว่างชีวติ แตกตา่ งระหว่าง ระหว่างชวี ิต
และความแตกต่าง ความเป็นอยู่และวัฒนธรรมของเจา้ ของ ชีวติ ความ ความเป็นอยู่
ระหว่างชีวติ ความ ภาษากับของไทย เปน็ อยแู่ ละ และวฒั นธรรม
เป็นอย่แู ละวฒั นธรรม วัฒนธรรมของ ของเจ้าของ
ของเจ้าของภาษากับ เจา้ ของภาษา ภาษากบั ของ
ของไทย กับของไทย ไทย

33

สำระที่ 3 ภำษำกบั ควำมสัมพนั ธก์ ับกลุ่มสำระกำรเรียนรอู้ ่นื

มำตรฐำน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชอื่ มโยงความรูก้ บั กลุ่มสาระการเรยี นรู้อ่ืน และเป็นพ้นื ฐานใน

การพฒั นา แสวงหา ความรู้ และเปิดโลกทัศน์ของตน

ตัวชีว้ ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง K PA

1. ค้นควา้ รวบรวม และสรปุ ขอ้ มลู / การคน้ ควา้ การรวบรวม การ 1. การค้นควา้ 1. คน้ คว้า 1. ใฝเ่ รยี นรู้

ขอ้ เทจ็ จริงท่ีเกีย่ วข้องกับกลมุ่ สรุป และการนาเสนอขอ้ มลู / การรวบรวม การรวบรวม 2. ม่งุ มนั่ ใน

สาระการเรียนรู้อื่นจากแหล่ง ขอ้ เท็จจริงท่ีเกย่ี วข้องกับกลุม่ การสรุป และ การสรปุ การทางาน

เรียนรู้ และนาเสนอด้วยการพูด/ สาระการเรยี นรู้อื่น การนาเสนอ ข้อมลู / 3. มีจิต

การเขยี น ขอ้ มลู / ขอ้ เท็จจริงดว้ ย สาธารณะ

ขอ้ เทจ็ จรงิ ท่ี การพูด/การ

เก่ยี วขอ้ งกับ เขยี น

กลุ่มสาระการ

เรียนรูอ้ ่นื

สำระที่ 4 ภำษำกบั ควำมสัมพนั ธก์ บั ชมุ ชนและโลก

มำตรฐำน ต 4.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ท้ังในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

ตวั ชีว้ ัด สำระกำรเรยี นรู้แกนกลำง K PA

1. ใชภ้ าษาส่ือสารในสถานการณ์ การใชภ้ าษาส่ือสารใน 1. ใชภ้ าษา 1. ใช้ภาษา 1. ใฝเ่ รยี นรู้

จริง/สถานการณจ์ าลองที่เกดิ ขึ้น สถานการณ์จริง/สถานการณ์ ส่อื สารใน ส่อื สาร 2. มงุ่ ม่นั ใน

ในหอ้ งเรยี น สถานศึกษา และ จาลองทเ่ี กิดขึ้นในห้องเรียน สถานการณ์ การทางาน

ชมุ ชน สถานศึกษา และชุมชน จรงิ / 3. มจี ิต

สถานการณ์ สาธารณะ

จาลองท่เี กดิ ขนึ้

ในห้องเรียน

สถานศึกษา

และชุมชน

มำตรฐำน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็นเครื่องมือพ้ืนฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และการ

แลกเปล่ียนเรยี นรกู้ บั สงั คมโลก

ตัวช้ีวดั สำระกำรเรยี นรแู้ กนกลำง K PA

1.ใช้ภาษาต่างประเทศ การใชภ้ าษาต่างประเทศในการ 1. ใช้ภาษา 1. การสืบคน้ / 1. มวี นิ ยั

ในการสบื คน้ /ค้นคว้า รวบรวม สืบคน้ /การค้นควา้ ความรู้/ ตา่ งประเทศสบื คน้ / การค้นควา้ 2. มุ่งมน่ั ใน

และสรุปความรู้/ขอ้ มูลตา่ งๆ ข้อมลู ต่างๆ จากส่อื และแหล่ง ค้นคว้าความร/ู้ ความรู้/ข้อมลู การทางาน

จากสือ่ และแหล่งการเรียนรู้ การเรยี นรูต้ ่างๆ ในการศึกษา ข้อมลู ตา่ งๆ จากสอื่ ต่างๆ 3. ใฝ่

ต่างๆ ในการศึกษาตอ่ และ ตอ่ และประกอบอาชีพ และแหล่งการเรยี นรู้ เรยี นรู้

ประกอบอาชีพ ในการศึกษาต่อและ

ประกอบอาชีพ

2. เผยแพร่/ประชาสัมพันธข์ ้อมลู การใชภ้ าษาต่างประเทศในการ 1. ใช้ 1. เผยแพร่/ 1. มวี นิ ัย

ขา่ วสาร ของโรงเรยี นเป็น เผยแพร่/ประชาสัมพันธ์ข้อมูล ภาษาตา่ งประเทศใน ประชาสมั พัน 2. มงุ่ ม่ันใน

ภาษาต่างประเทศ ข่าวสารของโรงเรียน เช่น การ การเผยแพร/่ ธ์ข้อมลู การทางาน

ทาหนงั สอื เล่มเล็กแนะนา ประชาสมั พันธข์ ้อมูล ข่าวสารของ 3. ใฝ่

34

ตวั ช้วี ัด สำระกำรเรยี นร้แู กนกลำง K PA

โรงเรยี นการทาแผน่ ปลวิ ปา้ ย ขา่ วสารของโรงเรียน โรงเรยี นเปน็ เรยี นรู้
คาขวญั คาเชญิ ชวนแนะนา ภาษาต่างประ 4. มจี ิต
โรงเรียน การนาเสนอข้อมลู เทศ สาธารณะ
ข่าวสารในโรงเรยี นเปน็
ภาษาองั กฤษ

35

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำพ้ืนฐำน

อ22101 ภำษำองั กฤษพ้ืนฐำน กลมุ่ สำระกำรเรยี นรูภ้ ำษำต่ำงประเทศ

ชน้ั มธั ยมศกึ ษำปีท่ี 2 ภำคเรยี นท่ี 1 เวลำ 60 ชั่วโมง จำนวน 1.5 หน่วยกิต

ศึกษา คาขอร้อง คาแนะนา คาชแี้ จงและคาอธบิ ายง่ายๆ ท่ฟี งั และอ่านในการทาอาหาร เครอ่ื งด่มื การ
ประดิษฐ์ การใชย้ า/สลากยา การบอกทศิ ทาง และการใชอ้ ปุ กรณ์ อ่านออกเสยี งข้อความ ข่าว ประกาศนิทาน
และบทร้อยกรอง (poem) ส้นั ๆถูกต้องตามหลักการอา่ น พฒั นาทกั ษะการใช้พจนานุกรม ระบุ/เขยี นประโยค
และข้อความ ตีความ/ถ่ายโอนข้อมูลให้สัมพันธก์ ับสอื่ ท่ีไม่ใชค่ วามเรยี ง (non-text information) เกยี่ วกับ
ตนเอง ครอบครวั โรงเรียน สงิ่ แวดล้อม พูดและเขียนบรรยายเกีย่ วกบั ตนเองกิจวตั รประจาวนั ประสบการณ์
อาหาร เครอื่ งด่ืม เวลาวา่ งและนันทนาการ การซอ้ื ขาย สุขภาพและสวัสดกิ าร และลมฟา้ อากาศจากการอ่าน
เลือกหวั ข้อเร่ือง ใจความสาคัญ บอกรายละเอียดสนบั สนนุ (supporting detail) และแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั
เร่อื งท่ีฟังและอา่ น พร้อมทั้งให้เหตุผลและตวั อยา่ งงา่ ยๆประกอบ ไดแ้ ก่ บทสนทนา นทิ าน เรือ่ งสั้น และเรอ่ื ง
จากสอื่ จรงิ ประเภทตา่ งๆ(authentic texts)สนทนาแลกเปลยี่ นขอ้ มลู ในการสอื่ สารระหวา่ งบคุ คลเก่ยี วกับ
ตนเอง เรอ่ื งตา่ งๆใกล้ตัวและสถานการณต์ ่างๆในชวี ติ ประจาวนั ได้แก่ การทักทาย กล่าวลา ขอบคุณ ขอโทษ
ชมเชย พดู แทรกอย่างสภุ าพ พูดชักชวนไดเ้ หมาะสมตามมารยาทสังคม ใช้คาขอร้อง ใหค้ าแนะนา คาชีแ้ จงและ
คาอธิบายตามสถานการณต์ า่ งๆ พดู และเขียนแสดงความต้องการ เสนอและให้ความช่วยเหลอื ตอบรับ และปฎิ
เสธการใหค้ วามช่วยเหลอื ในสถานการณ์ตา่ งๆ อยา่ งเหมาะสม พดู และเขยี นโดยใช้ คาศัพท์ สานวน ประโยคและ
ข้อความเพ่ือขอและให้ข้อมูล บรรยายแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั เร่อื งทฟ่ี ังหรืออา่ นอย่างเหมาะสมพดู และเขียน
แสดงความรสู้ กึ และความคดิ เหน็ ของตนเองเก่ยี วกบั เรื่องตา่ งๆ กิจกรรมและประสบการณพ์ ร้อมทง้ั ใหเ้ หตุผล
สนั้ ๆ ประกอบอย่างเหมาะสม พดู และเขยี นบรรยายเก่ยี วกับตนเอง กจิ วัตรประจาวันประสบการณ์ และขา่ ว/
เหตกุ ารณท์ ี่อยูใ่ นความสนใจของสงั คม พดู และเขียนสรปุ ใจความสาคญั แก่นสาระ (theme) หัวข้อเรอื่ ง (topic)
ทไ่ี ด้จากการวเิ คราะหเ์ รอ่ื ง/ข่าว/เหตุการณ์ท่ีอยู่ในความสนใจของสังคม พูดและเขียนแสดงความคดิ เห็นเกยี่ วกับ
กิจกรรมต่างๆใกลต้ ัว และประสบการณ์พร้อมท้งั ใหเ้ หตุผลสั้นๆ ประกอบ

โดยใช้ภาษา น้าเสียง และกรยิ าทา่ ทางในการสนทนาเหมาะกบั บคุ คลตามมรรยาทสังคมและ
วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา สามารถอธิบายเก่ียวกับเทศกาล วันสาคญั ชีวติ ความเปน็ อยู่ และประเพณขี อง
เจ้าของภาษา รวมทง้ั เขา้ รว่ ม/จัดกจิ กรรมทางภาษา และวัฒนธรรมตามความสนใจเปรียบเทียบและอธิบายความ
เหมือน และความแตกต่างระหวา่ งการออกเสยี งประโยคชนดิ ตา่ งๆ และการลาดับคาตามโครงสรา้ งประโยคของ
ภาษอังกฤษและภาษาไทย เปรยี บเทียบ และอธิบายความเหมือนและความแตกต่างระหวา่ งชีวิตความเป็นอยู่
และวฒั นธรรมของเจ้าของภาษากบั ของไทย ใชภ้ าษาอังกฤษในการคน้ ควา้ รวบรวม และสรปุ ขอ้ มลู /ขอ้ เท็จจริง
ที่เกยี่ วข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่นื จากแหล่งการเรียนรู้ และนาเสนอดว้ ยการพูด/การเขยี น ใช้ภาษาองั กฤษ
ในสถานการณจ์ ริง/สถานการณ์จาลองทเี่ กิดขึ้นในห้องเรียน สถานศึกษาและชุมชน ตลอดท้งั ใช้ภาษาอังกฤษใน
การสบื ค้น/คน้ คว้า รวบรวมและสรุปความรูแ้ ละข้อมลู ต่างๆ จากสือ่ และแหล่งการเรยี นรตู้ า่ งๆในการศึกษาต่อ
และประกอบอาชีพ รวมทั้งเผยแพร่/ประชาสมั พนั ธ์ ข้อมูลขา่ วสารของโรงเรียนเป็นภาษาองั กฤษ มเี จตคติท่ีดี
เห็น ประโยชน์ และคณุ ค่าของการเรยี นรูภ้ าษาองั กฤษ

เพอื่ ให้ผ้เู รยี นเกิดความรู้ความเขา้ ใจและตระหนกั ถึงการปฏิบตั ิตนในฐานะทเ่ี ป็นสว่ นหน่งึ ของ
ภาษาท่ใี ชใ้ นการส่ือสารและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษารวมท้ังความมคี ุณธรรม จรยิ ธรรม และค่านยิ มท่ี
เหมาะสม ตลอดจนเชอื่ มโยงความร้แู ละนาไปใชใ้ นชวี ิตประจาวัน

36

รหสั ตัวช้ีวดั
ต 1. 1 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4
ต 1. 2 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5
ต 1. 3 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3
ต 2. 1 ม.2/1 ม.1/2 ม.1/3
ต 2. 2 ม.2/1 ม.2/2
ต 3. 1 ม.2/1
ต 4. 1 ม.2/1
ต 4. 2 ม.2/1 ม.2/2

รวมทั้งหมด 21 ตัวช้ีวดั

37

หนว่ ยกำรเรียนรู้
รำยวิชำ อ22101 ภำษำองั กฤษพน้ื ฐำน ชน้ั มธั ยมศึกษำปีที่ 2

ภำคเรียนที่ 1 ปีกำรศึกษำ 2563 จำนวน 1.5 หนว่ ยกติ

ลำดับท่ี ชอ่ื หนว่ ยกำรเรยี นรู้ มำตรฐำนกำร สำระสำคัญ เวลำ(ชม.) น้ำหนักคะแนน
1. Day after day 10
เรยี นรู/้ ตวั ช้ีวดั
2. Let’s celebrate! 10
ต 1.1 ม 2/2 การออกเสียงสานวนประโยคทใี่ ชพ้ ดู 12
3. Characters larger 10
than life ต 1.1 ม 2/3 โทรศัพท์ บทสนทนา การอ่านขอ้ มลู

ต 1.1 ม 2/4 เกย่ี วกบั ความแตกตา่ งของเวลาในแต่

ต 1.2 ม 2/1 ละประเทศท่วั โลก การพูดสนทนาและ

ต 1.2 ม 2/4 การเขยี นให้ข้อมูลเกย่ี วกับตนเอง

ต 1.3 ม 2/1 กิจวตั รประจาวนั กิจกรรมท่ีทาใน

ต 1.3 ม 2/2 สถานการณ์ตา่ งๆในชวี ิตประจาวัน

ต 1.3 ม 2/3 บคุ คล สงิ่ แวดลอ้ มใกลต้ ัว การสนทนา

ต 2.1 ม 2/1 เกย่ี วกบั เวลา การพดู และการเรียนสรปุ

ต 2.1 ม 2/2 เกีย่ วกบั วถิ ีชีวิตของวยั รุ่นในประเทศ

ต 2.1 ม 2/3 อังกฤษกับของไทย รวมทั้งการคน้ คว้า

ต 2.2 ม 2/2 รวบรวมข้อมลู เก่ียวกับประวตั ิศาสตร์

ต 3.1 ม 2/1 การบอกเวลา และการแสดงบทบาท

ต 4.1 ม 2/1 สมมติในสถานการณ์ตา่ งๆใน

ต 4.2 ม 2/1 ชีวิตประจาวนั

ต 1.1 ม 2/2 การจับใจความสาคัญจากการฟงั และ 12

ต 1.1 ม 2/3 อา่ น การอ่านโปสการด์ สานวน

ต 1.1 ม 2/4 ประโยคทใ่ี ชใ้ นการเชื้อเชญิ และตอบ

ต 1.2 ม 2/1 รับคาเชิญ บทสนทนา การสนทนา

ต 1.2 ม 2/4 เกย่ี วกบั กิจวัตรประจาวนั

ต 1.3 ม 2/1 ประสบการณ์ การแสดงความคดิ เหน็

ต 1.3 ม 2/2 เก่ียวกับการเฉลิมฉลองในเหตกุ ารณ์

ต 1.3 ม 2/3 พิเศษ เทศกาลในประเทศไทย การ

ต 2.1 ม 2/1 แสดงบทบาทสมมติในการรายงานข่าว

ต 2.1 ม 2/3 เก่ยี วกบั เทศกาล การค้นคว้า รวบรวม

ต 3.1 ม 2/1 ข้อมลู เก่ียวกับงานเฉลิมฉลอง เทศกาล

ต 4.1 ม 2/1 อาหารในประเทศไทยจากอนิ เตอรเ์ นต็

ต 4.2 ม 2/1

ต 1.1 ม 2/2 การอ่านออกเสียงปีครสิ ศกั ราช สานวน 12

ต 1.1 ม 2/4 ประโยคท่ีใชพ้ ดู เกย่ี วกบั ภาพยนตร์ บท

ต 1.2 ม 2/1 สนทนา ประโยคคามต่างๆและข้อมูล

ต 1.2 ม 2/5 เกย่ี วกบั บคุ คลสาคัญในประวัตศิ าสตร์

ต 2.2 ม 2/2 อยี ิปตโ์ บราณ การพูดและเขียนบรรยาย

ต 1.3 ม 2/1 เกย่ี วกบั ซุปเปอร์ฮโี ร่ในภารยนตรแ์ ละ

ต 1.3 ม 2/2 ในความคดิ ของนักเรียน กิจกรรมท่ที า

38

ลำดบั ท่ี ชอ่ื หน่วยกำรเรยี นรู้ มำตรฐำนกำร สำระสำคญั เวลำ(ชม.) น้ำหนักคะแนน
20
4. Unexplained เรียนรู/้ ตัวชีว้ ดั 10
mysteries
ต 2.2 ม 2/1 และไมไ่ ด้ทานอดีต ชวี ประวัตขิ อง 10
5. Our planet
ต 3.1 ม 2/1 บุคคลที่มชี ่อื เสยี งซง่ึ เป็นทร่ี ู้จักในสงั คม

ต 4.1 ม 2/1 ตานานในตา่ งประเทศและในทอ้ งถิ่น

ต 4.2 ม 2/1 ของไทย การเปรยี บเทยี บโครงสร้าง

ประโยคของภาษาอังกฤษและ

ภาษาไทย การแสดงบทบาทสมมติใน

สถานการณต์ า่ งๆในชีวิตประจาวนั

รวมถงึ การคน้ ควา้ รวบรวมขอ้ มูล

เกยี่ วกับอยี ิปตจ์ ากแหลง่ เรียนรู้อ่นื ๆ

สอบกลางภาค

ต 1.1 ม 2/2 การออกเสียงสานวนทใ่ี ชเ้ ล่า 12

ต 1.1 ม 2/4 ประสบการณใ์ นอดตี บทสนทนา และ

ต 1.2 ม 2/1 คาพ้องเสียง (Homophones) การอ่าน

ต 1.2 ม 2/4 ตานานและวิเคราะหต์ ัวละคร การจับ

ต 1.2 ม 2/5 ใจความสาคัญเกี่ยวกบั สง่ิ ที่ฟงั การพูด

ต 1.3 ม 2/1 และเขียนให้ข้อมูลเกยี่ วกับสัตว์ ความ

ต 1.3 ม 2/2 ฝันของตนเอง เรอ่ื งลึกลบั ความเชื่อทั้ง

ต 1.3 ม 2/3 ในประเทศไทย และประเทศอังกฤษ

ต 2.1 ม 2/1 รวมถึงเปรยี บเทียบความเช่ือของชาว

ต 2.1 ม 2/2 องั กฤษกับของไทย การเขยี นตอนจบ

ต 2.2 ม 2/1 ของเรอื่ งสนั้ ตามความคิดของนกั เรยี น

ต 3.1 ม 2/1 การสนทนาเกยี่ วกับกจิ กรรมทท่ี าใน

ต 4.1 ม 2/1 อดีต อภิปรายเก่ยี วกบั ความเชอ่ื ตา่ งๆ

ต 4.2 ม 2/1 และข้อเทจ็ จรงิ และแสดงความคดิ เหน็

เก่ียวกบั เร่ืองผี พรอ้ มใหเ้ หตผุ ล

ประกอบ การแสดงบทบาทสมมติ

ตลอดจนการสบื ค้นข้อมูลเกย่ี วกบั เทพ

นิยาย/ตานานจากอนิ เตอรเ์ นต็

ต 1.1 ม 2/1 การอ่านข้อมลู เกีย่ วกบั ปัญหาและการ 12

ต 1.1 ม 2/2 ลดขยะ การรีไซเคลิ การจับใจความ

ต 1.1 ม 2/4 สาคญั จากเรื่องทฟ่ี ังและอ่าน การออก

ต 1.2 ม 2/1 เสียงสานวนประโยคท่ีใช้พูดให้

ต 1.2 ม 2/2 คาแนะนาเสนอแนะ บทสนทนา การ

ต 1.2 ม 2/4 พดู และเขียนเกี่ยวกบั เรือ่ งท่ีอยใู่ นความ

ต 1.2 ม 2/5 สนใจของสงั คม เช่นปัญหาสิง่ แวดล้อม

ต 1.3 ม 2/1 และการแก้ปญั หามลภาวะทางน้า ภูเขา

ต 1.3 ม 2/2 ไฟ การปกปอ้ งสัตว์ที่ใกลส้ ูญพันธุ์ การรี

ต 1.3 ม 2/3 ไซเคลิ สถานการณต์ ่างๆทอ่ี าจจะ

ต 2.1 ม 2/1 เกดิ ขนึ้ ในอนาคต สถานการณต์ า่ งๆใน

ต 2.1 ม 2/3 ชวี ิตประจาวนั การค้นคว้าข้อมลู

39

ลำดับท่ี ช่อื หน่วยกำรเรยี นรู้ มำตรฐำนกำร สำระสำคัญ เวลำ(ชม.) นำ้ หนกั คะแนน
60
เรยี นรู้/ตวั ช้วี ดั 30
100
ต 2.2 ม 2/1 เก่ยี วกบั ภูเขาไฟและสตั วท์ ่ีใกลส้ ญู พันธ์ุ

ต 3.1 ม 2/1 จากอนิ เตอรเ์ น็ต รวมถึงการแสดง

ต 4.1 ม 2/1 บทบาทสมมติในสถานการณ์ตา่ งๆใน

ต 4.2 ม 2/1 ชีวิตประจาวนั

ต 4.2 ม 2/2

สอบปลายภาค

รวม

40

จดุ ประสงค์กำรเรียนรแู้ ละอัตรำส่วนคะแนน

รายวชิ า อ22101 ภาษาอังกฤษพ้นื ฐาน กลุม่ สาระการเรยี นร้ภู าษาต่างประเทศ
ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 60 ช่วั โมง 1.5 หน่วยกติ

ที่ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ เวลา คะแนนการวัดผล ปลาย
กอ่ น กลาง หลัง ภาค
(ช่วั โมง) กลางภาค ภาค กลางภาค (30)
(25) (20) (25) 1
60 11 1
11 1
ปฐมนิเทศ 1 11 1
11 1
1 การพดู สนทนาและการเขียนใหข้ อ้ มูลเกย่ี วกับตนเอง 1 11 1
11
สง่ิ แวดลอ้ มใกล้ตัวและกิจกรรมในชวี ติ ประจาวัน 1
11
2 การพดู สนทนาและการเขยี นใหข้ ้อมลู เกีย่ วกบั ตนเอง 2 1
21
กิจวัตรประจาวนั ส่ิงแวดล้อมใกลต้ ัว บคุ คลใกลต้ วั ใน 1
22 1
สถานการณ์ต่างๆและกิจกรรมในชีวติ ประจาวนั 21

3 การพดู และเขียนเก่ียวกบั กจิ วัตรประจาวนั และ 2

กจิ กรรมท่ีทาในสถานการณ์ต่างๆในชีวิตประจาวัน ทงั้

ของตนเองและบคุ คลอน่ื

4 การพดู และการเขยี นสรปุ เกีย่ วกบั วถิ ีชวี ติ ของวัยรุ่นใน 2

ประเทศองั กฤษ รวมทงั้ การเปรียบเทียบวถิ ีชีวติ ของ

วยั รุ่นในประเทศองั กฤษกับของไทย

5 การออกเสียงสานวนประโยคที่ใช้พูดโทรศัพท์ บท 2

สนทนา และการแสดงบทบาทสมมติในสถานการณ์

ต่างๆในชีวิตประจาวนั

6 อา่ นข้อมลู เกย่ี วกบั ความแตกตา่ งของเวลาในแตล่ ะ 2

ประเทศทัว่ โลก การสนทนาถามตอบเก่ียวกับเวลา

รวมถึงการคน้ คว้า รวบรวมข้อมลู เกยี่ วกบั ประวัติศาสตร์

การบอกเวลา

7 การอา่ นโปสการด์ การพูดขอและใหข้ ้อมลู เก่ียวกับภาพ 2

รวมถึงการพดู และเขยี นบรรยายภาพเก่ียวกับการเฉลิม

ฉลองในเหตุการณ์พิเศษในสถานการณ์ตา่ งๆใน

ชีวิตประจาวนั

8 จับใจความสาคญั เกย่ี วกับเร่ืองที่ฟงั การสนทนาเกี่ยวกบั 2

กจิ วัตรประจาวนั ประสบการณ์และการค้นควา้

รวบรวมขอ้ มูลเกยี่ วกับงานเฉลิมฉลองจากอินเตอรเ์ น็ต

แลว้ เขียนบรรยายสน้ั ๆ

9 จับใจความสาคญั จากการอ่านบทอ่าน การพูดและเขยี น 2

บรรยายเกยี่ วกับเทศกาลในประเทศไทยละการแสดง

บทบาทสมมตใิ นการรายงานขา่ วเกย่ี วกบั เทศกาล

10 การอ่านเพื่อจับใจความสาคญั การพดู และเขยี นเพ่ือขอ 2

41

ที่ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ เวลา คะแนนการวัดผล ปลาย
กอ่ น กลาง หลงั ภาค
(ชั่วโมง) กลางภาค ภาค กลางภาค (30)
(25) (20) (25) 1
60 11 1
22 1
และใหข้ ้อมูลเก่ยี วกบั เร่อื งท่ีอ่าน และการคน้ ควา้ 21 1
21
รวบรวมข้อมลู เกี่ยวกับเทศกาลอาหารในประเทศไทย 1
11 1
11 การอา่ นออกเสยี งสานวยประโยคทใ่ี ช้ในการเชือ้ เชญิ 2 21 1
11 1
และตอบรับคาเชิญ บทสนทนาและการแสดงบทบาท 111 1

สมมตใิ นสถานการณ์ต่างๆในชวี ิตประจาวัน 2 1
1
12 การจับใจความสาคญั และแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั 2 2
2
เรือ่ งที่ฟงั การสนทนา การเขียนบรรยายและการแสดง

ความคิดเห็นเก่ียวกบั ภาพวาด พร้อมใหเ้ หตผุ ลประกอบ

13 การเขียนบรรยายเกีย่ วกับซปุ เปอรฮ์ โี ร่ การพดู และ 2

เขียนเกยี่ วกบั กิจกรรมทที่ าและไม่ได้ทาในอดีต

14 การสนทนาแลกเปลยี่ นข้อมูลเก่ียวกบั กจิ กรรมท่ีทาใน 2

อดีต การพูดและเขยี นบรรยายเก่ยี วกบั ซปุ เปอร์ฮโี ร่ใน

ภาพยนตร์และในความคิดของนักเรียน รวมทัง้ การ

เปรยี บโครงสร้างประโยคของภาษาองั กฤษและ

ภาษาไทย

15 การออกเสยี งครสิ ตศ์ กั ราช การพดู และเขยี นเก่ยี วกับ 2

ชวี ประวตั ิของบุคคลทมี่ ชี ื่อเสียงซ่ึงเปน็ ที่รจู้ ักในสงั คม

16 การจับใจความสาคัญของเร่ืองท่อี า่ น รวมถึงการพดู และ 2

การเขียนเก่ยี วกบั ตานานในต่างประเทศและในท้องถนิ่

ของไทย

17 การอ่านและพดู ใหข้ ้อมลู เกยี่ วกับบุคคลสาคญั ใน 2

ประวตั ศิ าสตรอ์ ียิปต์โบราณ รวมถึงการคน้ ควา้ รวบรวม

ขอ้ มูลเกย่ี วกบั อียิปตจ์ ากแหล่งเรียนรู้

18 การพูดและเขียนใหข้ ้อมูลเก่ียวกบั สัตว์ ความฝนั ของ 2

ตนเอง และการสนทนาเก่ียวกบั กิจกรรมใน

ชีวิตประจาวนั ทที่ าในอดตี

19 การจบั ใจความสาคัญเกยี่ วกับส่ิงทีฟ่ งั การพดู แสดง 2

ความคดิ เห็นและความรู้สึกเกี่ยวกับเร่ืองท่ีอา่ น รวมถึง

การแสดงความคดิ เหน็ เกยี่ วกับเรือ่ งผี พร้อมใหเ้ หตุผล

ประกอบ

20 การพดู สรปุ ใจความสาคญั การพูดและเขยี นตอนจบของ 2

เรื่องสน้ั ตามความคิดของนักเรยี นในการเขียนเกี่ยวกบั

เรอ่ื งลึกลับ

21 การพูดและการเขียนเกี่ยวกับความเชือ่ ทัง้ ในประเทศ 2

ไทยและประเทศอังกฤษ การอภิปรายเกี่ยวกบั ความเชอื่

42

คะแนนการวัดผล

ที่ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ เวลา กอ่ น กลาง หลัง ปลาย
(ชั่วโมง) กลางภาค ภาค กลางภาค ภาค

60 (25) (20) (25) (30)

ตา่ งๆและข้อเท็จจรงิ รวมทง้ั การเปรยี บเทยี บความเชื่อ

ของชาวอังกฤษกบั ของไทย

22 การออกเสยี งสานวนประโยคทใ่ี ชเ้ ล่าประสบการณ์ใน 2 21

อดีต บทสนทนา และคาพ้องเสียง (Homophones)

และการแสดงบทบาทสมมติในการในการสนทนาเรื่อง

ใกลต้ ัวในสถานการณต์ า่ งๆในชวี ติ ประจาวัน

23 การอา่ นตานาน และวิเคราะห์ตวั ละครพร้อมให้เหตุผล 2 21

ประกอบ รวมถงึ กาสบื ค้นข้อมลู เกี่ยวกับเทพนยิ าย/

ตานานจากอินเตอร์เน็ต

24 การจบั ใจความสาคญั จากเรื่องที่อา่ น การสนทนา 2 21

เกย่ี วกบั สถาการณ์ต่างๆที่อาจเกิดขึน้ ในอนาคตและการ

เขยี นเกยี่ วกับการแก้ปญั หาสิง่ แวดลอ้ มและการทานาย

เหตุการณ์ในอนาคต

25 การจบั ใจความสาคัญเกย่ี วกับเรอื่ งที่ฟัง การสนทนา 2 21

เก่ียวกบั สถานการณ์ตา่ งๆในชีวิตประจาวัน การพดู และ

ค้นคว้าข้อมลู เกยี่ วกับภูเขาไฟจากอนิ เตอร์เน็ต

26 การอา่ นเก่ียวกับปัญหาและการลดขยะ การจับใจความ 2 21

สาคญั จากการฟงั การพูดเกย่ี วกับปญั หาสงิ่ แวดล้อม

และการเขยี นบทความสั้นๆ เก่ยี วกบั มลภาวะทางน้า

27 การจบั ใจความสาคัญของเรื่องทอ่ี า่ น การแสดงความ 2 21

คดิ เห็นเกย่ี วกบั ความสาคัญของการปกป้องสตั วท์ ่ีใกล้

สญู พันธ์ รวมถงึ การพดู และค้นควา้ ขอ้ มลู เกี่ยวกบสตั ว์ท่ี

ใกลส้ ูญพันธ์

28 การอ่านออกเสียงสานวนประโยคท่ใี ชพ้ ดู ให้คาแนะนา 2 21

เสนอแนะ บทสนทนา การจับใจความสาคัญจากการฟงั

บทสนทนา และการแสดงบทบาทสมมตใิ นสถานการณ์

ต่างๆในชีวติ ประจาวัน

29 การอ่านข้อมูลเกี่ยวกับการรีไซเคลิ การจับใจความ 2 21

สาคญั จากการฟังและการสนทนา อภิปรายเก่ยี วกับ

ความจาเปน็ ในการรีไซเคิล

30 อา่ นออกเสียงสานวนประโยคทีใ่ ชพ้ ูดให้คาแนะนา 2 21
เสนอแนะ บทสนทนา การจับใจความสาคัญจากการฟัง
บทสนทนา และการแสดงบทบาทสมมติในสถานการณ์
ตา่ งๆในชวี ิตประจาวนั

43

กำรวดั และประเมินผล

อตั รำส่วนคะแนน ระหวา่ งภาค : ปลายภาค = 70 : 30

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ทใ่ี ช้วัดและประเมินผลก่อนกลางภาค คือ ขอ้ ท่ี 1- 8

จุดประสงค์การเรยี นรู้ทีใ่ ชว้ ัดและประเมินผลกลางภาค คอื ขอ้ ที่ 1- 18

จดุ ประสงค์การเรียนรู้ท่ีใช้วัดและประเมนิ ผลหลังกลางภาค คือ ข้อที่ 18-30

จุดประสงค์การเรยี นรู้ทใี่ ชว้ ัดและประเมินผลปลายภาค คอื ข้อที่ 1-30

คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์

1. รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ 2. ซอื่ สัตยส์ จุ ริต

3. มีวินัย 4. ใฝเ่ รยี นรู้

5. อยู่อย่างพอเพยี ง 6. มงุ่ ม่นั ในการทางาน

7. รกั ความเปน็ ไทย 8. มจี ิตสาธารณะ

กำรอ่ำน คดิ วิเครำะหแ์ ละเขียนสือ่ ควำม
1. สามารถส่ือความและจับใจความจากเรื่องท่อี ่านได้
2. สามารถแสดงความคิดเห็น วเิ คราะห์ วจิ ารณ์เนื้อเร่ืองท่ีอา่ นได้อย่างมีเหตุผล
3. สามารถเขียนสื่อความตามจุดประสงคท์ ี่ต้องการ
4. มีมารยาทในการอ่าน การเขียน การฟังและการพูด
5. มีนิสัยรกั การอ่านและการเขยี น

ควำมสอดคล้องกบั หลักปรชั ญำของเศรษฐกิจพอเพียง
ทำงสำยกลำง ประกอบด้วย
1. มเี หตผุ ล 2. พอประมาณ 3. มีภมู คิ ุ้มกันในตวั ท่ีดี
เง่ือนไขควำมรู้ ประกอบดว้ ย รอบรู้ รอบคอบ ระมัดระวงั
เงื่อนไขคุณธรรม ประกอบดว้ ย ซื่อสัตยส์ ุจริต ขยันอดทน สติปัญญา แบง่ ปัน


Click to View FlipBook Version