The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

วิทย์พื้นฐาน ม.2

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by watana rassadornwijit, 2020-04-15 09:15:01

วิทย์พื้นฐาน ม.2

วิทย์พื้นฐาน ม.2

42 วทิ ยาศาสตร์ ม.2
โปสเตอรห์ รอื แผน่ พบั ใหค้ วามรเู้ กยี่ วกบั การตงั้ ครรภแ์ ละผลกระทบจากการตงั้ ครรภก์ อ่ น
วยั อนั ควร
● แนวคิด
1. ปจั จบุ นั พบวา่ มวี ยั รนุ่ ตง้ั ครรภก์ อ่ นวนั อนั ควรมากขนึ้ ซง่ึ กอ่ ใหเ้ กดิ ผลกระทบตอ่ การเรยี น การ
ดำารงชีวติ ทเ่ี หมาะสม สาเหตุสำาคญั คือ ขาดความรู้เรอื่ งการต้ังครรภ์และวธิ ีการปอ้ งกันไม่
ให้เกิดการต้งั ครรภ์
2. ผอู้ อกแบบเพอ่ื ทาำ โปสเตอรห์ รอื แผน่ พบั ใหค้ วามรใู้ นเรอ่ื งดงั กลา่ ว แสดงใหเ้ หน็ ถงึ ความมจี ติ
สาธารณะ ห่วงใยผู้อ่ืน นับเป็นการนำาความรู้ไปใช้ในด้านที่เกิดประโยชน์ โดยบูรณาการ
ความรดู้ า้ นวทิ ยาศาสตรแ์ ละความรใู้ นกลมุ่ สาระการเรยี นรอู้ นื่ ๆ เพอ่ื ใหไ้ ดผ้ ลงานทม่ี คี ณุ ภาพ

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 1 ระบบตา่ ง ๆ ของมนษุ ย์ 43

แบบทดสอบวัดผลสมั ฤทธิ์

1. จากรปู ทีเ่ กยี่ วกับการหายใจต่อไปนี้ แลว้ ตอบคำ�ถาม

ช่องอกขยายตวั ปอด ชอ่ งอกหดตวั
กระดกู อก
กะบงั ลม

กะบงั ลม กระดกู ซโ่ี ครง กะบงั ลม
เล่อื นต�่ำ ลง ข เลือ่ นสูงขน้ึ
ก ค

1.1 เรียงล�ำ ดับรูปแสดงลักษณะของกระดกู ซโี่ ครง กะบังลม และปรมิ าตรช่องอกในสถานะหายใจ
หายใจออก และภาวะปกติ

1.2 อธิบายลกั ษณะของกระดูกซี่โครง กะบงั ลม และปรมิ าตรชอ่ งอกเมื่อหายใจเขา้
2. พลงั งานของรา่ งกายไดจ้ ากการท�ำ งานของระบบใด เพราะเหตใุ ด
3. ระบบหมุนเวยี นเลอื ดประกอบด้วยอวยั วะใดบ้าง และท�ำ หน้าที่อยา่ งไร
4. ถ้าล้นิ หัวใจปดิ -เปิดไม่สนทิ จะมีผลต่อระบบหมุนเวยี นเลือดอยา่ งไร
5. การวดั ความดนั วดั ทใี่ ด คา่ ทว่ี ดั ไดม้ คี วามหมายอยา่ งไร และปจั จยั ใดทม่ี ผี ลตอ่ ความดนั ของรา่ งกาย
6. ของเสียหมายถึงอะไร จงอธิบายพรอ้ มยกตวั อย่าง
7. การหายใจเข้าและการหายใจออกเป็นการทำ�งานของกระดูกส่วนใดอยา่ งไร
8. เดก็ หญิงออ้ ยเดนิ เหยยี บตะปแู ล้วยกเท้าข้ึนทนั ที เป็นการทำ�งานของระบบใด
9. ทารกมีวธิ กี ารถา่ ยเทอากาศ อาหาร น�ำ้ และของเสียระหว่างทอี่ ยใู่ นครรภ์มารดาได้อยา่ งไร
10. นางปลายคลอดลกู เม่อื อายุครรภไ์ ด้ 27 สปั ดาห์ นางป่ินคลอดลูกเมือ่ อายคุ รรภไ์ ด้ 30 สปั ดาห์

และนางปคู ลอดลูกเมื่ออายคุ รรภไ์ ด้ 38 สปั ดาห์ การคลอดลูกของทง้ั 3 คน จัดเป็นลักษณะของ
การต้ังครรภ์ที่แตกตา่ งกันอย่างไร จงอธบิ าย
11. การนำ�เซลล์อสุจิและเซลล์ไข่มาผสมกันในจานเพาะเช้ือ แล้วนำ�ไซโกตท่ีได้ฉีดเข้าไปในท่อนำ�ไข่
เรยี กวธิ ีการผสมเทยี มแบบนีว้ า่ อยา่ งไร
12. เหตใุ ดขณะออกกำ�ลงั กายหวั ใจจึงเตน้ แรง
13. บอกการดแู ลรกั ษาระบบต่าง ๆ ในรา่ งกาย

ตวั อยา่ งองค์ประกอบในแผนจดั การเรยี นรู้

ใบงาน
เฉลยใบงาน
ใบความรู้
ใบกจิ กรรม
เฉลยใบกิจกรรม
แบบทดสอบก่อนเรียน
แบบทดสอบหลงั เรยี น
เฉลยแบบทดสอบ

วิทยาศาสตร์ ม.2 45

ใบงาน การหายใจออก

ระบบหายใจ

ใหน้ กั เรียนสรปุ การหายใจด้วยแผนภาพพร้อมวาดรปู
การหายใจเขา้

46 วิทยาศาสตร์ ม.2 การหายใจออก

เฉลย ใบงาน

ระบบหายใจ

ใหน้ กั เรียนสรุปการหายใจดว้ ยแผนภาพพร้อมวาดรปู
การหายใจเข้า

ปริมาตรของช่องอกเพมิ่ ข้นึ ปรมิ าตรของชอ่ งอกลดน้อยลง
กระดกู ซีโ่ ครงเลื่อนสูงข้ึน กระดกู ซี่โครงเล่ือนตาํ่ ลง

กะบงั ลมเลือ่ นตา่ํ ลง กะบังลมเลอ่ื นสงู ข้นึ

กะบงั ลมเลือ่ นต่�ำลง กะบังลมเลอื่ นสงู ข้นึ
กระดกู ซโ่ี ครงเล่ือนต่�ำลง
กระดกู ซโี่ ครงเลื่อนสูงข้นึ ปริมาตรชอ่ งอกลดลง
ความดันอากาศรอบปอดสงู กว่า
ปริมาตรช่องอกเพ่ิมขึ้น
อากาศภายนอก
ความดนั อากาศรอบปอดต่ำ� กวา่ อากาศภายในถุงลมเคล่อื นออก
อากาศภายนอก
หลอดลม จมกู
อากาศภายนอกเขา้ สจู่ มูก

หลอดลม ถุงลมปอด


วิทยาศาสตร์ ม.2 47

ใบความรู

ระบบยอ่ ยอาหาร

อาหารประเภทต่างๆ ท่ีคนบริโภคโดยเฉพาะสารอาหารท่ีให้พลังงานแก่ร่างกาย คือ
คาร์โบไฮเดรต โปรตนี และไขมัน ลว้ นแตม่ ีโมเลกลุ ขนาดใหญเ่ กินกว่าที่จะล�าเลยี งเข้าสู่เซลลส์ ว่ นตา่ งๆ
ของร่างกายได้ ยกเว้น วิตามินและแร่ธาตุซ่ึงมีอนุภาคขนาดเล็ก จึงจ�าเป็นต้องมีอวัยวะและกลไกการ
ท�างานต่างๆ ท่ีจะท�าให้โมเลกุลของสารอาหารเหล่าน้ันมีขนาดเล็กลงจนสามารถล�าเลียงเข้าสู่เซลล์ได้
เรียกว่า การย่อย

การยอ ยอาหาร ฟัน คอหอย
ปาก หลอดอาหาร
ก า ร ทํ า ใ ห ส า ร อ า ห า ร ที่ มี โ ม เ ล กุ ล ลิ้น
ขนาดใหญกลายเปนสารอาหารท่ีมี
โมเลกลุ ขนาดเลก็ ลงจนกระทง่ั แพรผ า น
เย่ือหุมเซลลได

การยอยเชิงกล ถุงนา้� ดี กระเพาะอาหาร

การบดเคีย้ วอาหารโดยฟน เปนการ ตับอ่อน ลา� ไส้ตรง
เปลย่ี นแปลงขนาดของอาหารทาํ ให ล�าไส้ใหญ่
อาหารมขี นาดเล็กลง
ลา� ไสเ้ ล็ก
การยอยเชงิ เคมี ไสต้ งิ่

การเปล่ียนแปลงขนาดโมเลกุลของ
สารอาหารโดยใชเ อนไซมท เี่ กยี่ วขอ ง
ทาํ ใหโ มเลกลุ ของสารอาหารเกดิ การ
เปล่ียนแปลงทางเคมีไดโมเลกุลท่ีมี
ขนาดเล็กลง

ทวารหนกั

ทางเดนิ อาหารของคน

48 วทิ ยาศาสตร์ ม.2

ป1าก ปาก ลา� ดับทางเดนิ อาหารของคน

เกดิ การย่อยเชงิ กล (บดเคย้ี ว) และการย่อยเชงิ เคม ี (เอนไซม์อะไมเลส)

ป2าก คอหอย ไมม่ กี ารย่อยเกิดขน้ึ เปน็ ทางผ่านของอาหาร
ป3าก หลอดอาหาร ไมม่ กี ารยอ่ ยเกิดข้ึน อาหารจะเคล่อื นทีไ่ ปดว้ ยวิธีทีเ่ รยี กวา่ เพอรสิ ตัลซิส
ป4าก กระเพาะอาหาร ซึ่งเกดิ จากการหดตวั ของกล้ามเน้ือหลอดอาหารอยา่ งเปน็ จังหวะ
ป5าก ล�าไสเ้ ล็ก อาหารภายในมีสภาพเปน็ กรด เกดิ การยอ่ ยเชิงเคม ี ยอ่ ยโปรตีน
เป็นส่วนของทางเดินอาหารท่ีมีลักษณะเป็นท่อยาวที่สุด แบ่งออกเป็น
ป6าก ล�าไสใ้ หญ่ 3 สว่ น คอื ลา� ไสเ้ ลก็ ส่วนต้น (duodenum) ล�าไสเ้ ล็กสว่ นกลาง (jejunum)
และล�าไส้เล็กส่วนท้าย (ileum) ล�าไส้เล็กมีบทบาทส�าคัญในการย่อย
อาหารท้ังคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน โดยมีเอนไซม์ที่หลั่งจาก
ตับและตับอ่อนมาร่วมด้วย การดูดซึมอาหารบริเวณล�าไส้เล็กจะดูดซึม
ผ่านวลิ ไล
เป็นบริเวณท่ีไม่เกิดการย่อย เป็นทางผ่านส�าหรับกากอาหารออกสู่
ภายนอกรา่ งกาย แบง่ ออกเปน็ 3 สว่ น คือ ลา� ไส้ใหญ่ส่วนตน้ (cecum)
ซงึ่ มไี สต้ ง่ิ อยดู่ า้ นขวา ลา� ไสใ้ หญส่ ว่ นกลาง (colon) ซง่ึ เปน็ สว่ นทยี่ าวทสี่ ดุ
มแี บคทเี รยี ทา� หนา้ ทยี่ อ่ ยสลายกากอาหาร กากอาหารสว่ นใหญจ่ ะเกบ็ อยู่
บริเวณน้ีเพื่อดูดซึมน�้าและแร่ธาตุกลับคืนสู่กระแสเลือด และล�าไส้ใหญ่
สว่ นปลาย (sigmoid colon)

ป7าก ไส้ตรง เก็บกากอาหารก่อนขับออกนอกร่างกาย ส่วนปลายของไส้ตรงจะเช่ือม
ป8าก ทวารหนัก ต่อกบั ทวารหนักเพือ่ เป็นทางออกของอจุ จาระ
เปน็ ทางออกของอุจจาระ

ตารางสรปุ การย่อยอาหารของคน

อวัยวะ ปาก หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร ล�ำไส้เล็ก
สารอาหาร

แปง้  อะไมเลส → มอลโทส มอลโทส  มอลเทส → กลูโคส
คาร์โบไฮเดรต ซูโครส  ซูเครส → กลูโคส  ฟรกั โทส
แลกโทส  แลกเทส → กลูโคส กาแลกโทส

โปรตีน พอลิเพปไทด์ เพอรสิ ตลั ซิส พอลเิ พปไทด์  เพปซนิ → เพปไทด์ เพปไทด์  ทริปซิน → กรดอะมโิ น
ไขมนั ไขมัน ไขมนั  น�ำ้ ดี → แตกตวั เป็นหยด
ลิเพส

กรดไขมนั  กลเี ซอรอล

วทิ ยาศาสตร์ ม.2

49

50 วทิ ยาศาสตร์ ม.2

ใบกิจกรรมท่ี 1

ระบบหายใจ

จุดประสงค์
1. อธบิ ายกลไกการเขา้ และออกของอากาศภายในปอดได้
2. เพอ่ื ระบุชนดิ ของแกส๊ ทอ่ี ยู่ในลมหายใจ
สมมตฐิ าน

..............................................................................................................................................................................

ตัวแปรตน้

..............................................................................................................................................................................

ตัวแปรตาม

..............................................................................................................................................................................

ตวั แปรควบคมุ

..............................................................................................................................................................................

ตารางบนั ทึกผลการทดลอง

การทดลอง การเปล่ียนแปลงภายในกลอ่ ง ผลการทดลอง

1. ดึงแผน่ ยางลง ปรมิ าตร ความดัน
2. ปล่อยแผ่นยางปกติ
3. ดันแผ่นยางเขา้ ไปขา้ งใน

สรปุ ผลการทดลอง

..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

วทิ ยาศาสตร์ ม.2 51

คำ� ถามทา้ ยกจิ กรรม
1. จากการทดลอง หลอดแกว้ รปู ตวั Y ลกู โปง่ และแผน่ ยางมีการท�ำงานคล้ายกับอวัยวะใดในรา่ งกาย

.................................................................................................................................................................

.................................................................................................................................................................

2. เม่อื ดงึ แผ่นยางลงมกี ารเปลีย่ นแปลงปรมิ าตรและความดนั ภายในกล่องอย่างไร

.................................................................................................................................................................

.................................................................................................................................................................

3. เมือ่ ดนั แผน่ ยางข้ึนมีการเปลี่ยนแปลงปรมิ าตรและความดนั ภายในกลอ่ งอย่างไร

.................................................................................................................................................................

.................................................................................................................................................................

4. ส่ิงใดท่ีมผี ลตอ่ อัตราการหายใจเขา้ และออก

.................................................................................................................................................................

.................................................................................................................................................................

ตอนที่ 2

สมมติฐาน

..............................................................................................................................................................................

ตัวแปรตน้

..............................................................................................................................................................................

ตวั แปรตาม

..............................................................................................................................................................................

ตัวแปรควบคมุ

..............................................................................................................................................................................

ตารางบนั ทึกผลการทดลอง

การทดลอง ลักษณะของสารละลายแคลเซยี มไฮดรอกไซด์
ก่อนการทดลอง หลังการทดลอง

1. เปา่ ลมหายใจผ่านหลอดกาแฟลงไปในสาร
ละลายแคลเซยี มไฮดรอกไซด์
2. ลกุ -นงั่ อยา่ งรวดเรว็ 5 นาที แลว้ เปา่ ลมหายใจ
ผา่ นหลอดกาแฟลงในสารละลายแคลเซียม-
ไฮดรอกไซด์

52 วิทยาศาสตร์ ม.2

สรปุ ผลการทดลอง

..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

ค�ำถามท้ายกจิ กรรม
1. เม่ือเป่าลมหายใจผ่านหลอดกาแฟลงไปในสารละลายแคลเซียมไฮดรอกไซด์ที่อยู่ในหลอดทดลอง

เกดิ การเปล่ยี นแปลงอยา่ งไร

.................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................

2. แก๊สท่ีออกจากลมหายใจคือแกส๊ อะไร และเกดิ ข้นึ ได้อย่างไร

.................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................

3. หลงั จากนกั เรยี นลกุ -นง่ั อยา่ งรวดเรว็ เปน็ เวลา 5 นาที สงั เกตการเตน้ ของหวั ใจและการเปลยี่ นแปลง
เม่ือเป่าลมหายใจออกลงในสารละลายแคลเซยี มไฮดรอกไซด์

.................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................

วทิ ยาศาสตร์ ม.2 53

ใบกจิ กรรมท่ี 2

การวดั อตั ราการเต้นของหัวใจ

จุดประสงค์
1. สามารถจบั ชพี จรของตนเองและเพอ่ื นได้
2. เปรยี บเทยี บการเปลีย่ นแปลงของชีพจรกอ่ นและหลงั การออกก�ำลงั กายได้
สมมติฐาน

..............................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................

ตัวแปรต้น

..............................................................................................................................................................................

ตัวแปรตาม

..............................................................................................................................................................................

ตัวแปรควบคุม

..............................................................................................................................................................................

ตารางบันทึกผลการทดลอง

เพศ สภาพของ การเตน้ ของชพี จร (ครัง้ ต่อนาท)ี
รา่ งกาย
คร้งั ท่ี 1 ครง้ั ที่ 2 ครง้ั ที่ 3 เฉล่ีย

สภาพปกติ

เดินไปเดินมา

กระโดด

วิ่ง
สรุปผลการทดลอง

..............................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................

54 วทิ ยาศาสตร์ ม.2

คำ� ถามท้ายกจิ กรรม
1. สภาพปกตกิ ารเต้นของชีพจรประมาณก่ีครั้งต่อนาที

.................................................................................................................................................................

2. หญงิ และชายมีอตั ราการเตน้ ของชพี จรในสภาพปกติเหมือนกนั หรือไม่ อยา่ งไร

.................................................................................................................................................................

3. การท�ำกิจกรรมต่างกัน เช่น การเดินไปเดินมา การกระโดด การวิ่ง อัตราการเต้นของชีพจรเป็น
อย่างไร

.................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................

วทิ ยาศาสตร์ ม.2 55

เฉลยใบกิจกรรมที่ 1

ระบบหายใจ

จุดประสงค์
1. อธิบายกลไกการเขา้ และออกของอากาศภายในปอดได้
2. เพอ่ื ระบชุ นิดของแก๊สท่ีอยใู่ นลมหายใจ
สมมตฐิ าน
..ถ..า้..ก...า..ร..เ..ป..ล...ีย่ ..น...แ...ป...ล..ง..ข..อ...ง..แ..ผ...่น...ย..า..ง..ม...ีผ..ล...ต..่อ...ล..กู...โ..ป...่ง...ด...งั ..น...้นั ....ก...ล..า้..ม...เ.น...้อื...ก..ะ..บ...ัง..ล...ม..ก...็จ..ะ..ม...ีผ..ล...ต...อ่ ..ป...อ..ด...เ.ช...่น..ก...นั ............
ตวั แปรตน้
..ก..า..ร...เ.ป...ล..ี่ย...น...แ..ป...ล..ง..ข...อ..ง..แ...ผ..่น...ย..า...ง............................................................................................................................
ตวั แปรตาม
..ก..า..ร...เ.ป...ล..ี่ย...น...แ..ป...ล..ง..ป...ร..มิ...า..ต...ร..ภ...า..ย..ใ..น...ก...ล..่อ...ง...แ...ล..ะ..ล...ัก..ษ...ณ....ะ..ข..อ...ง..ล..ูก...โ.ป...ง่ .....................................................................
ตัวแปรควบคมุ
..ข..น...า..ด...ล..ูก...โ.ป...ง่....ข..น...า..ด...ข..อ..ง..ก...ล..อ่...ง...ค...ว..า..ม...ต...งึ ..ข..อ..ง..แ...ผ..่น...ย...า..ง...ข..น...า...ด..ข..อ...ง..แ..ผ...น่ ...ย..า..ง........................................................
ตารางบนั ทกึ ผลการทดลอง

การทดลอง การเปล่ียนแปลงภายในกล่อง ผลการทดลอง

1. ดงึ แผ่นยางลง ปรมิ าตร ความดัน ลูกโปง่ พองข้นึ
2. ปล่อยแผ่นยางปกติ ไมม่ กี ารเปลย่ี นแปลง
3. ดันแผ่นยางเข้าไปข้างใน เพมิ่ ขึ้น ลดลง
ลูกโปง่ แฟบลง
เทา่ เดมิ เทา่ เดมิ

ลดลง สูงข้นึ

สรปุ ผลการทดลอง
.เ.ม...ื่อ..ด...ึง..แ...ผ..่น...ย...า..ง..ล...ง....ป...ร..ิม...า..ต...ร..ข..อ...ง..อ...า..ก..า...ศ..ใ..น...ค...ร..อ...บ...พ...ล..า..ส...ต...ิก..เ..พ...่ิม...ข..้ึน.....ท...ำ.�..ใ.ห...้ค...ว..า...ม..ด...ัน...อ...า..ก..า...ศ..ภ...า...ย..ใ..น...ล...ด..ล...ง.
.อ..า..ก...า..ศ...จ..งึ ..เ.ค...ล..อ่ื...น...ท..จ่ี...า..ก..บ...ร..เิ.ว...ณ...ท...ม่ี ...คี ..ว..า..ม...ด...นั ...ส..งู..จ..า...ก..ภ...า..ย...น...อ..ก...เ.ข..า้ ..ส...ภู่ ..า..ย...ใ..น....ท...ำ.�.ใ..ห...ล้ ..กู...โ.ป...ง่..พ...อ..ง..อ...อ..ก...เ.ม...อ่ื ..ด...นั...แ...ผ..น่ ..
.ย..า..ง..เ.ข..า้..ไ..ป...ใ..น...ค..ร..อ...บ...พ...ล..า..ส...ต..กิ....ป...ร..มิ ..า...ต..ร..อ...า..ก..า..ศ...จ..ะ..ล...ด..ล...ง...ท...ำ.�.ใ.ห...ค้...ว..า..ม...ด..นั...เ..พ..ม.ิ่ ..ข..นึ้....อ...า..ก..า..ศ...จ..งึ..เ..ค..ล...อื่ ..น...ท...จี่ ..า..ก...ล..กู..โ..ป...ง่ .
.อ..อ...ก..ส...่ภู ..า...ย..น...อ...ก..ค...ร..อ..บ...พ...ล...า..ส..ต...ิก....ท...ำ.�.ใ..ห...้ล..กู...โ.ป...ง่..แ...ฟ...บ..ล...ง.........................................................................................

56 วทิ ยาศาสตร์ ม.2

ค�ำถามท้ายกจิ กรรม
1. จากการทดลอง หลอดแกว้ รูปตัว Y ลกู โป่ง และแผ่นยางมกี ารทำ� งานคล้ายกบั อวยั วะใดในรา่ งกาย
จ...า..ก..ก...า..ร..ท...ด..ล..อ...ง..ห..ล...อ..ด...แ..ก...ว้ ..ร..ปู ..ต...วั ...Y....ท..ำ.�.ง..า..น...ค...ล..า้..ย..ข...วั้ ..ป..อ...ด...ล...กู ..โ..ป..ง่..ท...ำ.�.ง..า..น...ค..ล..า.้ ..ย..ป...อ..ด....แ..ล..ะ..แ...ผ..น่...ย..า..ง..ท...ำ.�.ง..า..น.
ค...ล...า้ ..ย..ก...ล..า้..ม...เ.น...ือ้...ก..ะ..บ...งั ..ล..ม...........................................................................................................................
2. เมือ่ ดึงแผน่ ยางลงมีการเปลี่ยนแปลงปรมิ าตรและความดันภายในกล่องอย่างไร
เ..ม...อ่ื ..ด...งึ ..แ..ผ..น่...ย...า..ง..ล..ง...ป...ร..มิ ..า...ต..ร..ข..อ...ง..อ..า..ก...า..ศ..ใ..น...ค..ร...อ..บ...พ...ล..า..ส..ต...กิ..เ..พ...ม่ิ ..ข...นึ้ ...ท...ำ.�.ใ..ห...ค้ ..ว...า..ม..ด...นั ...อ..า..ก...า..ศ..ภ...า..ย...ใ.น...ล...ด..ล...ง
อ...า..ก...า..ศ..จ...งึ .เ..ค..ล...่ือ..น...ท...จี่ ..า..ก...บ..ร..เิ..ว..ณ...ท...่ีม...ีค..ว..า..ม...ด...ัน..ส...ูง..จ..า..ก..ภ...า..ย...น...อ..ก...เ.ข..้า..ส..ู่ภ...า..ย...ใ..น....ท...ำ.�.ใ..ห..้ล...กู ..โ..ป...่ง..พ...อ..ง..อ..อ...ก...........
3. เมอื่ ดนั แผ่นยางขนึ้ มีการเปล่ยี นแปลงปริมาตรและความดนั ภายในกล่องอยา่ งไร
เ..ม...อ่ื ..ด...นั ...แ..ผ..น่...ย...า..ง..เ.ข..า้ ..ไ..ป...ใ..น..ค...ร..อ..บ...พ...ล...า..ส..ต...กิ ....ป..ร...มิ ..า..ต...ร..อ..า...ก..า..ศ...จ..ะ..ล..ด...ล..ง....ท...ำ.�.ใ..ห..้ค...ว..า..ม...ด..ัน...เ..พ..่ิม...ข..้ึน.....อ..า..ก...า..ศ..จ...งึ
เ..ค...ล..่ือ..น...ท...ี่จ..า..ก...ล..ูก...โ.ป...ง่..อ..อ...ก..ส...ภู่ ...า..ย..น...อ..ก...ค..ร...อ..บ...พ...ล..า..ส...ต..ิก....ท...ำ.�.ใ..ห...้ล..กู...โ.ป...ง่ ..แ..ฟ...บ...ล..ง..............................................
4. สง่ิ ใดท่ีมผี ลต่ออตั ราการหายใจเข้าและออก
ป...ร...มิ ..า..ณ....แ..ก...๊ส..ค...า..ร..บ์ ...อ..น...ไ..ด..อ...อ..ก...ไ.ซ...ด..ใ์..น...ก..ร..ะ..แ...ส..เ..ล..อื..ด...ม...ผี ..ล...ต..่อ...อ..ตั ...ร..า..ก..า..ร..ห...า..ย...ใ.จ...เ.ข..า้ ..แ..ล...ะ..อ..อ...ก.........................

.................................................................................................................................................................

ตอนที่ 2

สมมติฐาน
..ถ..า้..ใ..น...ล...ม..ห...า..ย...ใ..จ..ม...แี ..ก...ส๊ ..ค...า..ร..์บ...อ..น...ไ..ด...อ..อ...ก..ไ..ซ..ด...์..ด..งั..น...ั้น...ส...า..ร..ล..ะ..ล...า..ย...แ..ค...ล..เ.ซ...ยี ..ม...ไ..ฮ..ด...ร..อ...ก..ไ..ซ..ด...์จ..ะ..ข..่นุ............................
ตวั แปรต้น
แก๊สในลมหายใจ..............................................................................................................................................................................
ตัวแปรตาม
.ก..า..ร..ข...นุ่ ..ข...อ..ง..ส...า..ร..ล..ะ..ล...า..ย...แ..ค...ล..เ.ซ...ยี ..ม...ไ..ฮ..ด...ร..อ...ก..ไ..ซ..ด...์ ...................................................................................................
ตวั แปรควบคมุ
.ป..ร..มิ...า..ณ....ล..ม...ห...า..ย...ใ.จ....ป...ร..ิม...า..ณ...ส...า..ร..ล...ะ..ล..า..ย...แ..ค...ล...เ.ซ..ยี ...ม..ไ..ฮ...ด..ร..อ...ก..ไ..ซ...ด..์ .........................................................................
ตารางบันทกึ ผลการทดลอง

การทดลอง ลักษณะของสารละลายแคลเซียมไฮดรอกไซด์
กอ่ นการทดลอง หลังการทดลอง

1. เป่าลมหายใจผ่านหลอดกาแฟลงไปในสาร ใส ขนุ่
ละลายแคลเซียมไฮดรอกไซด์ ใส ขนุ่ มาก
2. ลกุ -นงั่ อยา่ งรวดเรว็ 5 นาที แลว้ เปา่ ลมหายใจ
ผา่ นหลอดกาแฟลงในสารละลายแคลเซียม-
ไฮดรอกไซด์

วทิ ยาศาสตร์ ม.2 57

สรปุ ผลการทดลอง
..เ.ม...ื่อ..เ..ป...่า..ล...ม..ห...า...ย..ใ..จ..อ...อ..ก...ผ..่.า..น...ห...ล..อ...ด...ก..า..แ...ฟ...ล...ง..ไ..ป..ใ..น...ส...า..ร..ล...ะ..ล...า..ย..ท...่ีอ...ย..ู่ใ..น...ห...ล...อ...ด..ท...ด...ล..อ...ง....จ...ะ..ท...ำ.�.ใ..ห...้ส...า..ร..ล..ะ...ล..า..ย..
..แ..ค...ล..เ.ซ...ยี ..ม...ไ..ฮ..ด...ร..อ...ก..ไ..ซ..ด...์ข..่นุ.....โ.ด...ย...แ..ก...ส๊ ..ท...ีอ่ ..อ...ก..ม...า..จ...า..ก..ล...ม..ห...า..ย...ใ..จ....ค..อื....แ...ก..ส๊...ค..า..ร...์บ..อ...น...ไ..ด..อ...อ..ก...ไ..ซ..ด...์ .........................
พลังงาน......................................C...6..H..1..2.O...6........6..C...O...2.......เ.อ..น..ไ.ซ..ม...์ ......6..C...O...2........6..H...2.O.............................................................

..............................................................................................................................................................................

คำ� ถามทา้ ยกจิ กรรม
1. เม่ือเป่าลมหายใจผ่านหลอดกาแฟลงไปในสารละลายแคลเซียมไฮดรอกไซด์ที่อยู่ในหลอดทดลอง

เกดิ การเปลย่ี นแปลงอย่างไร
..เ.ม..อ่.ื ..เ.ป...า่ ..ล..ม...ห...า..ย..ใ..จ..อ..อ...ก..ผ..า่..น...ห...ล..อ...ด..ก...า..แ..ฟ...ล...ง.ไ..ป...ใ..น...ส..า..ร..ล...ะ..ล..า..ย..ท...อ่ี..ย...ใู่ .น...ห...ล..อ...ด..ท...ด...ล..อ..ง.....จ..ะ..ท..ำ.�.ใ..ห...ส้ ..า..ร..ล...ะ..ล..า..ย.
..แ..ค...ล..เ.ซ..ีย...ม...ไ.ฮ...ด..ร...อ..ก..ไ..ซ..ด...ข์ ..่นุ.........................................................................................................................
2. แก๊สทอี่ อกจากลมหายใจคอื แก๊สอะไร และเกดิ ขน้ึ ได้อยา่ งไร
..แ..ก..ส๊...ท...อ่ี ..อ...ก..ม...า..จ..า..ก..ล...ม...ห..า..ย...ใ..จ...ค..อื....แ..ก...ส๊ ..ค...า..ร..บ์ ...อ..น...ไ..ด..อ...อ..ก...ไ.ซ...ด..์.เ..ก..ดิ ...จ..า..ก..แ...ก..ส๊...อ..อ..ก...ซ..เิ.จ...น...ท..ำ.�.ป...ฏ...กิ ..ริ..ยิ...า..ก..บั...ส...า..ร
..อ..า..ห...า..ร..ใ..น...เ.ซ..ล...ล..ข์ ..อ...ง..ร..่า..ง..ก..า..ย....ท...ำ.�.ใ..ห...้ไ.ด...พ้ ...ล..ัง..ง..า..น...แ...ล..ะ..แ..ก...๊ส..ค...า..ร..บ์ ...อ..น...ไ..ด...อ..อ..ก...ไ.ซ...ด..์..ด...ัง.ส...ม...ก..า..ร.......................
+ + + พลงั งาน ...............................C...6.H...1.2..O..6.......6..C...O...2......เ.อ..น...ไ.ซ..ม..์......6..C...O...2.......6..H...2.O...........................................................
3. หลงั จากนกั เรยี นลกุ -นงั่ อยา่ งรวดเรว็ เปน็ เวลา 5 นาที สงั เกตการเตน้ ของหวั ใจและการเปลย่ี นแปลง

เมอื่ เป่าลมหายใจออกลงในสารละลายแคลเซยี มไฮดรอกไซด์
..ห..ล...ัง..จ..า...ก..น...ัก...เ.ร..ีย...น...ล..ุก...-..น...ั่ง..อ...ย..่า..ง..ร...ว..ด...เ.ร..็ว..แ...ล..้ว..น...ัก...เ.ร..ีย...น...ม...ีอ..า..ก...า..ร..ห...า..ย...ใ..จ..ถ...ี่ข..ึ้น...ก...ว..่า..ป...ก..ต...ิ ..เ..พ...ร..า..ะ..ป...ร..ิม...า..ณ..
..แ..ก..ส๊...ค..า..ร..บ์...อ..น...ไ..ด..อ...อ..ก..ไ..ซ..ด...ม์ ..า..ก...ข..น้ึ ....ร..า่..ง..ก..า..ย...จ..งึ ..ต..อ้...ง.ข..บ.ั ..แ..ก...ส๊ ..ค...า..ร..บ์ ..อ...น...ไ.ด...อ..อ...ก..ไ..ซ..ด..อ์...อ..ก..ม...า..ท...า..ง..ล..ม...ห..า..ย...ใ.จ..อ...อ..ก.
..ใ.ห...้ม...า..ก..ข...ึ้น....แ..ล...ะ..ห...า..ย..ใ..จ..เ.ข..า้...เ.พ...อื่ ..น...ำ.�.แ...ก..ส๊..อ...อ..ก...ซ..ิเ.จ...น..ไ..ป...แ..ล...ก..เ..ป..ล...ีย่ ..น...ก...ัน..ท...ถ่ี...งุ ..ล..ม...เ.ล..็ก...ๆ....ภ...า..ย...ใ..น..ป...อ...ด.............

58 วทิ ยาศาสตร์ ม.2

เฉลยใบกิจกรรมที่ 2

การวัดอัตราการเตน้ ของหวั ใจ

จดุ ประสงค์
1. สามารถจับชีพจรของตนเองและเพือ่ นได้
2. เปรยี บเทียบการเปลี่ยนแปลงของชพี จรกอ่ นและหลังการออกกำ� ลงั กายได้
สมมติฐาน
..ถ..้า..ก...า..ร..เ.ต...น้...ช..ีพ...จ...ร..เ.ป...ล..่ยี...น...แ..ป...ล...ง..ไ.ป...ต...า..ม...ก..จิ...ก..ร..ร..ม...ท...ีท่ ...ำ.�. ..ด..งั..น...น้ั...ก...จิ ..ก..ร..ร...ม..ท...่แี...ต..ก...ต..่า...ง..ก..นั...จ..ะ..ท...ำ.�.ใ..ห...้ก...า..ร..เ.ต...้น...ข..อ...ง......
ชพี จรแตกต่างกันด้วย..............................................................................................................................................................................
ตวั แปรต้น
กจิ กรรมทที่ ำ�..............................................................................................................................................................................
ตัวแปรตาม
การเตน้ ชพี จร..............................................................................................................................................................................
ตวั แปรควบคมุ
..เ.ว..ล..า...ท..ี่ใ..ช...้ใ.น...ก...า..ร..ท...ำ.�.ก...ิจ..ก..ร...ร..ม....เ.ว..ล...า..ท...่ใี ..ช..้ใ..น...ก..า..ร...จ..บั ...ช..ีพ...จ..ร....ต...ำ.�.แ..ห...น...ง่ ..ท...จี่ ..บั ...ช..ีพ...จ..ร....ค...น...ท..จ่ี...บั ...ช..พี ...จ..ร...........................

ตารางบนั ทกึ ผลการทดลอง

เพศ สภาพของ การเตน้ ของชีพจร (ครง้ั ตอ่ นาที)
ร่างกาย
คร้งั ที่ 1 คร้ังที่ 2 ครั้งที่ 3 เฉล่ีย

สภาพปกติ 74 76 75 75

เดินไปเดนิ มา 89 96 94 93
หญิง กระโดด 103 105 104 104

วิง่ 115 113 114 114

สรปุ ผลการทดลอง
..ร..า่ ..ง..ก..า..ย...ข..อ...ง.ค...น...แ..ต...ล่...ะ..ค..น...จ..ะ..ม...อี...ตั ..ร..า..ก...า..ร..เ..ต..น้...ข..อ...ง..ช..พี...จ..ร..ไ..ม...เ่ .ท...า่..ก...นั ....ถ..า้..ร..า่..ง..ก...า..ย..ป...ก...ต..อิ...ตั ..ร...า..ก..า..ร..เ..ต..น้...ข..อ...ง..ช..พี...จ..ร...จ..ะ.
..ป..ร...ะ..ม..า...ณ.....7...2....ค...ร..ั้ง..ต..่อ...น...า..ท...ี ..เ..พ...ศ..ช...า..ย..จ...ะ..ม..ีอ...ัต..ร...า..ก..า..ร...เ.ต...้น...ข..อ..ง..ช...ีพ...จ..ร..ส...ูง..ก..ว..่า..เ..พ...ศ..ห...ญ....ิง....แ...ล..ะ..ห...ล...ัง.ก...า..ร..เ..ด..ิน...เ..ร..็ว..ๆ..
..ห...ร..อื ..ก...า..ร..อ..อ...ก..ก...ำ.�.ล...ัง..ก..า..ย...อ..ัต...ร..า..ก...า..ร..เ.ต...้น...ข..อ...ง.ช...พี ...จ..ร..จ..ะ..เ..ร..ว็ ..ก..ก...ว..า่..ป...ก...ต..ิ....................................................................

วทิ ยาศาสตร์ ม.2 59

ค�ำถามท้ายกจิ กรรม
1. สภาพปกติการเต้นของชพี จรประมาณกคี่ รัง้ ตอ่ นาที
..ส..ภ...า..พ...ป...ก..ต...ิก..า..ร..เ..ต..น้...ข..อ...ง.ช...ีพ...จ..ร..เ.ฉ...ล..ย่ี...ป..ร..ะ..ม...า..ณ.....7..2....ค..ร..้งั..ต...่อ..น...า..ท...ี ..............................................................
2. หญงิ และชายมีอตั ราการเตน้ ของชีพจรในสภาพปกติเหมอื นกันหรือไม่ อยา่ งไร
..ใ.น...ส...ภ...า..พ..ป...ก...ต..อิ...ตั ..ร..า..ก...า..ร..เ.ต...้น...ข..อ..ง..ช...ีพ...จ..ร..ใ..น...เ.พ...ศ..ช...า..ย..ส...ูง..ก..ว..า่ ..เ.พ...ศ...ห...ญ...ิง........................................................
3. การท�ำกิจกรรมต่างกัน เช่น การเดินไปเดินมา การกระโดด การวิ่ง อัตราการเต้นของชีพจรเป็น

อยา่ งไร
..ก..า..ร..ท...ำ.�.ก..จิ..ก...ร..ร..ม...ต..า่..ง..ก..นั.....อ..ตั...ร..า..ก..า..ร..เ..ต..น้...ข..อ..ง..ช...พี ..จ...ร..จ..ะ..ต..า่..ง..ก...นั ....เ.ช..น่.....ก..า..ร..เ..ด..นิ...ไ..ป..เ..ด..นิ...ม...า..ช..พี...จ..ร..จ..ะ..เ..ต..น้...ช..า้..ก...ว..า่
..ก..า..ร..ก...ร..ะ..โ.ด...ด.....ก..า..ร...ก..ร..ะ..โ..ด..ด...ช..ีพ...จ...ร..จ..ะ..เ.ต...้น...ช..้า..ก...ว..่า..ก...า..ร..ว..่ิง....ก...า..ร..ว..่ิง..ช..ีพ...จ..ร..จ...ะ..เ.ต...้น...เ.ร..็ว..ก..ว...่า..ก..า..ร..เ..ด..ิน...ไ..ป...เ.ด...ิน...ม...า
และการกระโดด .................................................................................................................................................................

60 วทิ ยาศาสตร์ ม.2

แบบทดสอบกอ่ นเรียน

หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 1 การเคล่ือนท่แี นวตรง

จงเลือกคำ� ตอบทถ่ี กู ต้องท่ีสุดเพยี งค�ำตอบเดยี ว
1. ปรมิ าณแก๊สคาร์บอนไดออกไซดม์ ผี ลต่ออัตราการหายใจหรอื ไม่ อย่างไร
1. มี เพราะถา้ ปรมิ าณแกส๊ คารบ์ อนไดออกไซดส์ งู จะท�ำใหก้ ารหายใจช้าลง
2. มี เพราะถา้ ปริมาณแกส๊ คาร์บอนไดออกไซด์สงู จะท�ำใหก้ ารหายใจเรว็ ขึ้น
3. ไม่มี เพราะปรมิ าณแก๊สทเี่ กี่ยวขอ้ งกับอัตราการหายใจ คือ แก๊สออกซเิ จน
4. ไมม่ ี เพราะปรมิ าณแกส๊ ทเ่ี กยี่ วข้องกบั อตั ราการหายใจ คอื แกส๊ คาร์บอนไดออกไซด์
2. ขอ้ ใดกล่าวถึงความสัมพนั ธร์ ะหว่างกะบังลมกบั กระดูกซ่ีโครงได้ถูกต้อง
1. เมอื่ หายใจเข้า กะบังลมจะเลื่อนสูงข้ึนและกระดูกซี่โครงเล่ือนต�ำ่ ลง
2. เม่อื หายใจเขา้ กะบงั ลมจะเลื่อนต�่ำลงและกระดูกซโ่ี ครงเลอ่ื นสงู ขนึ้
3. เมื่อหายใจเขา้ กะบังลมและกระดูกซโ่ี ครงจะเลอ่ื นสงู ขนึ้
4. เมื่อหายใจเขา้ กะบงั ลมและกระดกู ซโ่ี ครงจะเล่อื นต่�ำลง
3. การสูบบุหรีส่ ่งผลตอ่ ระบบทางเดนิ หายใจอย่างไร
1. ทำ� ใหเ้ กิดโรคถุงลมโป่งพอง 2. ทำ� ใหผ้ นงั หลอดลมหนาและตีบ
3. เน้อื เยอ่ื บรเิ วณถงุ ลมถกู ทำ� ลาย 4. ถกู ตอ้ งทุกข้อ
4. เลอื ดด�ำหมายถงึ เลอื ดท่มี ลี กั ษณะอยา่ งไร
1. เลอื ดทีม่ ปี ริมาณแกส๊ ออกซิเจนนอ้ ย
2. เลือดทม่ี เี มด็ เลือดแดงท่ใี กล้หมดอายุ
3. เลอื ดท่ีมีปรมิ าณแกส๊ คารบ์ อนไดออกไซดน์ ้อย
4. เลอื ดท่มี ีปริมาณเมด็ เลอื ดแดงนอ้ ยกว่าเกณฑ์
5. ข้อใดกล่าวไม่ถกู ตอ้ ง
1. กลา้ มเนื้อทหี่ ัวใจเรียกว่า กล้ามเนอ้ื หัวใจ
2. หวั ใจหอ้ งบนขวาจะท�ำหน้าที่รบั เลอื ดทีม่ อี อกซเิ จนสงู
3. กระแสไฟฟ้าทสี่ ่งมาจากระบบประสาทจะท�ำให้หัวใจมกี ารบีบตัวเปน็ จังหวะ
4. หลอดเลือดฝอยเป็นหลอดเลือดทมี่ ีปรมิ าณมากท่สี ุดเมอ่ื เทียบกับหลอดเลือดชนดิ อื่นๆ

วิทยาศาสตร์ ม.2 61

6. ข้อใดกลา่ วถูกตอ้ งเกย่ี วกับความดนั เลือด
1. เพศชายมคี วามดนั เลือดสูงกวา่ เพศหญงิ
2. ผู้สูงอายุมีความดนั เลอื ดนอ้ ยกวา่ หญงิ วัยกลางคน
3. คนท่ีมรี า่ งกายขนาดเล็กมีความดนั เลือดสูงกวา่ คนทมี่ รี า่ งกายขนาดใหญ่
4. คนท�ำงานหนกั และคนท่อี อกก�ำลังกายเป็นประจ�ำจะมีความดนั เลอื ดค่อนข้างตำ่�
7. เหตุใดเหงอื่ ทถี่ ูกขับออกจากรา่ งกายจึงมกี ล่ิน
1. เพราะผิวหนงั มแี บคทีเรียที่คอยท�ำปฏกิ ิรยิ ากบั เหง่อื
2. เพราะสารมีการสัมผัสอากาศกอ่ ใหเ้ กิดปฏกิ ริ ิยาเคมีขน้ึ
3. เพราะเหงื่อมสี ารจ�ำพวกโซเดียมคลอไรดท์ �ำใหเ้ หงอ่ื มีกล่นิ
4. เพราะเหงอ่ื มีสว่ นประกอบของสารยูเรยี และแอมโมเนียทเ่ี ป็นสารมีกลน่ิ
8. เมอื่ ไตมอี าการผดิ ปกติจะมสี ารตามขอ้ ใดปนออกมากบั ปัสสาวะบา้ ง
1. คลอรีน เม็ดเลอื ดแดง และโซเดียม 2. เม็ดเลอื ดแดง ยูเรยี และกรดแลกติก
3. เมด็ เลอื ดแดง กรดอะมโิ น และโซเดยี ม 4. เมด็ เลอื ดแดง กรดอะมโิ น และกลโู คส
9. ล�ำไส้ใหญ่นอกจากจะท�ำหน้าท่ีก�ำจัดของเสียแล้วยังสามารถดูดซึมสารบางอย่างกลับสู่ร่างกายได้
สารนน้ั ได้แก่ข้อใด
1. โปรตนี กลูโคส และน�้ำ 2. น�ำ้ เกลอื แร่ และวติ ามิน
3. โปรตนี น�ำ้ และเกลือแร่ 4. กลูโคส โปรตีน และกรดไขมัน
10. ขอ้ ใดเป็นอวยั วะทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกบั ระบบประสาท
1. สมอง 2. สมองและไขสนั หลงั
3. สมองและเส้นประสาท 4. สมอง ไขสนั หลงั และเซลลป์ ระสาท
11. ขอ้ ใดจับค่รู ะหวา่ งชนดิ ของเซลล์ประสาทและหน้าท่ไี ด้ไมถ่ กู ต้อง
1. เซลลป์ ระสาทประสานงาน - รบั กระแสประสาทจากเซลล์หนงึ่ สง่ ไปยงั อีกเซลล์หนง่ึ
2. เซลล์ประสาทรบั ความรสู้ กึ - รบั ความรู้สึกจากส่วนต่างๆ แล้วสง่ ไปยังระบบประสาทส่วนกลาง
3. เซลลป์ ระสาทนำ� ค�ำสงั่ - นำ� กระแสประสาทจากหน่วยปฏบิ ัตงิ านเข้าสูร่ ะบบประสาทส่วนกลาง
4. เซลลป์ ระสาทนำ� คำ� สงั่ - นำ� กระแสประสาทออกจากระบบประสาทสว่ นกลางไปยงั หนว่ ยปฏบิ ตั งิ าน
12. การกระทำ� ทุกข้ออยภู่ ายใต้การควบคุมของระบบประสาทอัตโนวัติ ยกเว้นขอ้ ใด
1. การพดู 2. ปัสสาวะ
3. อาการขนลุก 4. การชกั เทา้ หนีเม่อื เหยยี บตะปู
13. ขอั ใดจับครู่ ะหว่างหนา้ ทกี่ ับอวัยวะสืบพนั ธุข์ องเพศชายไดไ้ ม่ถูกต้อง
1. อณั ฑะ - สร้างตัวอสุจิ
2. อณั ฑะ - สรา้ งฮอร์โมนเพศชาย
3. ถงุ อัณฑะ - สร้างอาหารมาเลยี้ งตัวอสุจิ
4. ถุงอัณฑะ - ปรบั อุณหภมู ิใหต้ ำ่� กวา่ อุณหภมู ริ ่างกาย

62 วทิ ยาศาสตร์ ม.2

14. ขอ้ ใดจับค่รู ะหว่างหนา้ ที่กบั อวยั วะสบื พนั ธ์ขุ องเพศหญิงไม่ถูกตอ้ ง
1. รงั ไข่ - สรา้ งไข ่ 2. ไข่ - สรา้ งฮอรโ์ มนเพศหญิง
3. มดลกู - เปน็ ทีฝ่ ังตวั ของเอม็ บริโอ 4. ปกี มดลกู - บรเิ วณที่เกิดการปฏสิ นธิ
15. เอมมี่เป็นประจำ� เดอื นวนั ท่ี 2 พฤษภาคม การตกไข่ครั้งตอ่ ไปของเอมม่ีจะเกดิ ข้ึนในวันทเี่ ทา่ ไร
1. 5 พฤษภาคม 2. 9 พฤษภาคม
3. 16 พฤษภาคม 4. 30 พฤษภาคม

วทิ ยาศาสตร์ ม.2 63

แบบทดสอบหลงั เรียน

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 1 การเคลื่อนที่แนวตรง

จงเลอื กคำ� ตอบท่ีถูกตอ้ งทส่ี ดุ เพยี งค�ำตอบเดียว
1. ข้อใดกล่าวถึงความสมั พันธ์ระหวา่ งกะบังลมกับกระดกู ซโี่ ครงไดถ้ กู ตอ้ ง
1. เมอ่ื หายใจเขา้ กะบงั ลมจะเลอ่ื นสงู ข้ึนและกระดกู ซ่โี ครงเล่อื นตำ่� ลง
2. เมื่อหายใจเข้า กะบังลมจะเลือ่ นต่ำ� ลงและกระดูกซ่ีโครงเลอ่ื นสูงขึ้น
3. เมอื่ หายใจเข้า กะบงั ลมและกระดูกซ่ีโครงจะเลื่อนสงู ข้นึ
4. เมื่อหายใจเขา้ กะบงั ลมและกระดกู ซ่ีโครงจะเลือ่ นตำ�่ ลง
2. ปรมิ าณแก๊สคาร์บอนไดออกไซดม์ ผี ลต่ออตั ราการหายใจหรือไม่ อยา่ งไร
1. มี เพราะถา้ ปริมาณแกส๊ คาร์บอนไดออกไซดส์ ูงจะทำ� ใหก้ ารหายใจชา้ ลง
2. มี เพราะถ้าปรมิ าณแก๊สคาร์บอนไดออกไซดส์ งู จะทำ� ใหก้ ารหายใจเร็วข้ึน
3. ไมม่ ี เพราะปรมิ าณแกส๊ ที่เก่ยี วข้องกบั อัตราการหายใจ คอื แก๊สออกซเิ จน
4. ไมม่ ี เพราะปรมิ าณแกส๊ ท่ีเก่ียวข้องกบั อตั ราการหายใจ คือ แก๊สคารบ์ อนไดออกไซด์
3. การสบู บหุ รี่ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจอย่างไร
1. ท�ำให้เกิดโรคถงุ ลมโปง่ พอง 2. ทำ� ใหผ้ นังหลอดลมหนาและตีบ
3. เนื้อเยื่อบริเวณถงุ ลมถกู ท�ำลาย 4. ถูกตอ้ งทกุ ขอ้
4. ข้อใดกลา่ วไม่ถกู ตอ้ ง
1. กลา้ มเน้อื ทห่ี ัวใจเรียกวา่ กลา้ มเน้ือหัวใจ
2. หวั ใจหอ้ งบนขวาจะท�ำหนา้ ท่ีรบั เลือดท่มี อี อกซเิ จนสงู
3. กระแสไฟฟ้าทส่ี ่งมาจากระบบประสาทจะท�ำใหห้ ัวใจมกี ารบีบตวั เป็นจังหวะ
4. หลอดเลือดฝอยเปน็ หลอดเลอื ดทม่ี ีปรมิ าณมากทีส่ ุดเมื่อเทยี บกับหลอดเลือดชนดิ อน่ื ๆ
5. เลือดด�ำหมายถึงเลอื ดที่มีลกั ษณะอย่างไร
1. เลอื ดทม่ี ปี รมิ าณแกส๊ ออกซิเจนน้อย
2. เลอื ดท่ีมเี ม็ดเลือดแดงทใี่ กลห้ มดอายุ
3. เลอื ดทมี่ ีปรมิ าณแกส๊ คาร์บอนไดออกไซด์น้อย
4. เลอื ดทม่ี ีปริมาณเมด็ เลอื ดแดงน้อยกวา่ เกณฑ์
6. ข้อใดกลา่ วถูกตอ้ งเกยี่ วกับความดนั เลือด
1. เพศชายมคี วามดันเลอื ดสงู กว่าเพศหญงิ
2. ผสู้ งู อายมุ คี วามดนั เลือดน้อยกวา่ หญิงวัยกลางคน
3. คนที่มีร่างกายขนาดเลก็ มีความดนั เลือดสงู กวา่ คนทม่ี ีรา่ งกายขนาดใหญ่
4. คนทำ� งานหนักและคนท่อี อกกำ� ลงั กายเปน็ ประจ�ำจะมคี วามดนั เลอื ดค่อนข้างตำ่�

64 วิทยาศาสตร์ ม.2

7. เมอ่ื ไตมีอาการผดิ ปกติจะมสี ารตามขอ้ ใดปนออกมากบั ปสั สาวะบา้ ง
1. คลอรนี เม็ดเลอื ดแดง และโซเดียม 2. เม็ดเลอื ดแดง ยูเรีย และกรดแลกติก
3. เม็ดเลอื ดแดง กรดอะมโิ น และโซเดียม 4. เมด็ เลือดแดง กรดอะมโิ น และกลูโคส
8. ล�ำไส้ใหญ่นอกจากจะท�ำหน้าที่ก�ำจัดของเสียแล้วยังสามารถดูดซึมสารบางอย่างกลับสู่ร่างกายได้
สารน้นั ได้แกข่ ้อใด
1. โปรตนี กลโู คส และนำ�้ 2. นำ้� เกลือแร่ และวติ ามนิ
3. โปรตีน น้�ำ และเกลอื แร่ 4. กลูโคส โปรตนี และกรดไขมัน
9. เหตใุ ดเหงื่อทถี่ กู ขับออกจากรา่ งกายจึงมกี ลนิ่
1. เพราะผิวหนังมแี บคทีเรยี ท่คี อยท�ำปฏกิ ริ ยิ ากับเหงื่อ
2. เพราะสารมกี ารสัมผัสอากาศกอ่ ให้เกิดปฏกิ ิริยาเคมขี ึน้
3. เพราะเหง่ือมสี ารจำ� พวกโซเดียมคลอไรดท์ ำ� ให้เหงอ่ื มกี ลิน่
4. เพราะเหงอ่ื มีสว่ นประกอบของสารยูเรยี และแอมโมเนียท่ีเปน็ สารมีกล่ิน
10. ข้อใดจบั ครู่ ะหว่างชนดิ ของเซลลป์ ระสาทและหนา้ ท่ีได้ไมถ่ กู ต้อง
1. เซลล์ประสาทประสานงาน - รบั กระแสประสาทจากเซลลห์ นง่ึ สง่ ไปยังอีกเซลลห์ นึ่ง
2. เซลลป์ ระสาทรับความรูส้ กึ - รบั ความร้สู กึ จากส่วนต่างๆ แล้วส่งไปยงั ระบบประสาทส่วนกลาง
3. เซลล์ประสาทน�ำคำ� สง่ั - นำ� กระแสประสาทจากหน่วยปฏบิ ตั ิงานเขา้ สรู่ ะบบประสาทส่วนกลาง
4. เซลลป์ ระสาทนำ� คำ� สงั่ - นำ� กระแสประสาทออกจากระบบประสาทสว่ นกลางไปยงั หนว่ ยปฏบิ ตั งิ าน
11. ขอ้ ใดเป็นอวัยวะทีเ่ กี่ยวข้องกับระบบประสาท
1. สมอง 2. สมองและไขสนั หลงั
3. สมองและเสน้ ประสาท 4. สมอง ไขสันหลัง และเซลล์ประสาท
12. การกระทำ� ทกุ ข้ออย่ภู ายใต้การควบคมุ ของระบบประสาทอตั โนวัติ ยกเว้นข้อใด
1. การพดู 2. ปัสสาวะ
3. อาการขนลุก 4. การชกั เท้าหนีเมอื่ เหยียบตะปู
13. ขอั ใดจับคู่ระหว่างหนา้ ที่กับอวยั วะสบื พนั ธข์ุ องเพศชายได้ไม่ถกู ต้อง
1. อัณฑะ - สรา้ งตัวอสุจิ
2. อณั ฑะ - สรา้ งฮอร์โมนเพศชาย
3. ถงุ อณั ฑะ - สร้างอาหารมาเลี้ยงตวั อสุจิ
4. ถุงอัณฑะ - ปรับอณุ หภมู ิให้ต�่ำกว่าอุณหภูมริ ่างกาย
14. ข้อใดจบั คูร่ ะหว่างหน้าทีก่ บั อวยั วะสบื พันธ์ุของเพศหญงิ ไมถ่ กู ตอ้ ง
1. รังไข่ - สร้างไข่ 2. ไข่ - สรา้ งฮอร์โมนเพศหญิง
3. มดลกู - เป็นทฝี่ ังตวั ของเอ็มบริโอ 4. ปีกมดลกู - บริเวณทีเ่ กิดการปฏสิ นธิ
15. เอมมเ่ี ปน็ ประจำ� เดือนวันที่ 2 พฤษภาคม การตกไข่คร้งั ต่อไปของเอมมจ่ี ะเกดิ ขนึ้ ในวนั ที่เท่าไร
1. 5 พฤษภาคม 2. 9 พฤษภาคม
3. 16 พฤษภาคม 4. 30 พฤษภาคม

วทิ ยาศาสตร์ ม.2 65

เฉลยแบบทดสอบ

แบบทดสอบกอ่ นเรยี น

1. 2 2. 2 3. 4 4. 1 5. 2
6. 1 7. 4 8. 4 9. 2 10. 4
11. 3 12. 1 13. 3 14. 2 15. 3

แบบทดสอบหลังเรยี น 5. 1
10. 3
1. 2 2. 2 3. 4 4. 2 15. 3
6. 1 7. 4 8. 2 9. 4
11. 4 12. 1 13. 3 14. 2

NOTE

....................................................................................................................................
....................................................................................................................................
....................................................................................................................................
....................................................................................................................................
....................................................................................................................................
....................................................................................................................................
....................................................................................................................................
....................................................................................................................................
....................................................................................................................................
....................................................................................................................................
....................................................................................................................................
....................................................................................................................................
....................................................................................................................................
....................................................................................................................................
....................................................................................................................................
....................................................................................................................................
....................................................................................................................................
....................................................................................................................................

NOTE

....................................................................................................................................
....................................................................................................................................
....................................................................................................................................
....................................................................................................................................
....................................................................................................................................
....................................................................................................................................
....................................................................................................................................
....................................................................................................................................
....................................................................................................................................
....................................................................................................................................
....................................................................................................................................
....................................................................................................................................
....................................................................................................................................
....................................................................................................................................
....................................................................................................................................
....................................................................................................................................
....................................................................................................................................
....................................................................................................................................



ตวั อยา่ งหนงั สอื เรยี น รายวชิ าพน้ื ฐาน
วทิ ยาศาสตร์

ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2


Click to View FlipBook Version