The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ว PA ครูรัชฎาพร แก้ไขล่าสุด (การบวก ลบเศษส่วน)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by prat260513, 2022-07-19 03:43:13

ว PA ครูรัชฎาพร แก้ไขล่าสุด (การบวก ลบเศษส่วน) 123

ว PA ครูรัชฎาพร แก้ไขล่าสุด (การบวก ลบเศษส่วน)

PA 1/ส

แบบขอ้ ตกลงในการพฒั นางาน (PA)
สำหรับข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา ตำแหนง่ ครู วทิ ยฐานะครชู ำนาญการพิเศษ

ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565
ระหว่างวันที่ 1 เดอื น ตุลาคม พ.ศ.2564 ถึงวนั ที่ 30 เดือน กันยายน พ.ศ.2565

ผจู้ ดั ทำขอ้ ตกลง
ช่ือ นางรัชฎาพร นามสกลุ บญุ มาคำ ตำแหน่งครู วทิ ยฐานะครูชำนาญการพิเศษ
สถานศกึ ษา โรงเรียนชุมชนบ้านพบพระ สังกัด สำนักงานเขตพนื้ ที่การศึกษาประถมศึกษาตาก เขต 2
รับเงินเดอื นในอันดบั คศ. 3 อัตราเงินเดอื น 49,740 บาท

ประเภทห้องเรยี นที่จดั การเรยี นรู้ (สามารถระบไุ ด้มากกวา่ 1 ประเภทห้องเรยี น ตามสภาพการจัด
การเรยี นร้จู ริง)

✓ ห้องเรียนวชิ าสามญั หรือวิชาพืน้ ฐาน
 ห้องเรียนปฐมวยั
 หอ้ งเรยี นการศึกษาพเิ ศษ
 หอ้ งเรียนสายวชิ าชีพ
 ห้องเรยี นการศึกษานอกระบบ / ตามอธั ยาศยั

ขา้ พเจ้าขอแสดงเจตจำนงในการจัดทำข้อตกลงในการพัฒนางาน ตำแหนง่ ครู วทิ ยฐานะครูชำนาญการพิเศษ
ซง่ึ เปน็ ตำแหน่งและวิทยฐานะที่ดำรงอยู่ในปัจจุบนั กบั ผู้อำนวยการสถานศึกษา ไวด้ ังต่อไปนี้

ส่วนท่ี 1 ขอ้ ตกลงในการพัฒนางานตามมาตรฐานตำแหน่ง

1. ภาระงาน จะมีภาระงานเป็นไปตามท่ี ก.ค.ศ. กำหนด

1.1 ชวั่ โมงสอนตามตารางสอน รวมจำนวน 20 ชั่วโมง/สปั ดาห์ ดังนี้

กลมุ่ สาระการเรียนรู้/รายวชิ าคณิตศาสตร์ จำนวน 16 ชวั่ โมง/สปั ดาห์

กลุ่มสาระการเรียนรู/้ รายวชิ าประวัติศาสตร์ จำนวน 1 ช่ัวโมง/สัปดาห์

กิจกรรมพฒั นาผู้เรียน จำนวน 3 ชว่ั โมง/สปั ดาห์

- กจิ กรรมแนะแนว จำนวน 1 ชว่ั โมง/สัปดาห์

- กิจกรรมยุวกาชาด จำนวน 1 ชว่ั โมง/สปั ดาห์

- กิจกรรมชมุ นมุ คลิกใจให้ธรรม จำนวน 1 ช่ัวโมง/สปั ดาห์

1.2 งานสง่ เสรมิ และสนบั สนุนการจดั การเรยี นรู้ จำนวน 6 ชว่ั โมง/สปั ดาห์

1.3 งานพฒั นาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา จำนวน 16 ชว่ั โมง/สปั ดาห์

1.4 งานตอบสนองนโยบายและจุดเนน้ จำนวน 2 ช่ัวโมง/สัปดาห์

2. งานท่จี ะปฏิบตั ติ ามมาตรฐานตำแหนง่ ครู (ให้ระบรุ ายละเอียดของงานทีจ่ ะปฏิบัติในแตล่ ะดา้ นวา่ จะ
ดำเนินการอย่างไร โดยอาจระบรุ ะยะเวลาท่ีใชใ้ นการดำเนินการด้วยก็ได้)

ตัวช้ีวัด (Indicators)

งาน (Tasks) ผลลัพธ์ (Outcomes) ที่จะเกดิ ข้นึ กับผู้เรยี น

ลักษณะงานทปี่ ฏบิ ตั ิ ท่จี ะดำเนนิ การพฒั นา ตามขอ้ ตกลง ของงานตามขอ้ ตกลง ทีแ่ สดงให้เห็นถงึ การ
ตามมาตรฐานตำแหนง่
ใน 1 รอบ การประเมิน ที่คาดหวงั ใหเ้ กดิ ขึ้น เปลยี่ นแปลงไปในทาง
1. ดา้ นการจดั การเรียนรู้
ลักษณะงานท่ีเสนอให้ กับผู้เรียน ท่ีดีข้นึ หรือมกี ารพฒั นามาก
ครอบคลมุ ถึง การสรา้ งและ
หรือพัฒนาหลกั สูตร ขึ้นหรือผลสัมฤทธส์ิ งู ข้นึ
การออกแบบการจดั การ
เรยี นรู้ การจัดกจิ กรรมการ การพฒั นาทักษะการการบวก การลบ - ผู้เรียนได้พฒั นาทกั ษะ - ผ้เู รยี นร้อยละ 70
เรียนรู้ การสรา้ งและหรอื
พฒั นาสอ่ื นวัตกรรม เศษส่วน ของนักเรยี นระดับชั้นประถม การบวก การลบเศษสว่ น ได้เรียนรเู้ กีย่ วกบั เน้อื หา
เทคโนโลยี และแหลง่ เรียนรู้
การวดั และประเมนิ ผลการ ศกึ ษาปีที่ 6 ดว้ ยวธิ ีสอน Active Learning โดยใช้เครือ่ งมือการคดิ แบบ การบวก การลบ เศษสว่ น
จดั การเรยี นรู้ การศึกษา
วิเคราะห์ สงั เคราะห์ เพ่อื ผา่ นกระบวนการ Thinking School ครผู สู้ อน KWL เรอ่ื ง การบวก การลบ โดยพจิ ารณาจากผลการเรียนรู้
แก้ปัญหาหรือพฒั นาการ
เรียนรู้ การจดั บรรยากาศที่ ไดน้ ำเครอื่ งมือการคดิ แบบ KWL เศษสว่ น ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ 70 ของ
ส่งเสริมและพฒั นาผเู้ รียน
และการอบรมและพฒั นา มีกระบวนการในการดำเนนิ การดงั น้ี แบบฝึกหัดและใบงาน KWL
คณุ ลักษณะที่ดีของผเู้ รียน
1.1 สรา้ งและหรอื พัฒนาหลักสตู ร

- วิเคราะห์ตวั ชวี้ ดั และสาระการเรยี นรู้

แกนกลาง กลุม่ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์

(ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสตู ร

แกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช

2551 ตลอดจนหลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี น

ชุมชนบ้านพบพระ พ.ศ. 2563

- วเิ คราะห์บรบิ ทสถาน ศกึ ษา ชุมชน

ความต้องการของผเู้ รียนและผปู้ กครองเพ่อื

ออกแบบหนว่ ยการเรยี นรู้

1.2 ออกแบบการจดั การเรียนรู้ โดยใช้ - ผ้เู รียนมีความรู้ มที กั ษะ - ผู้เรียนร้อยละ 70

วธิ ีสอน Active Learning ผ่านกระบวนการ การคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ ความรู้ ทักษะและสมรรถนะ

Thinking School ครูผสู้ อนได้นำเครอ่ื งมือ และค้นพบองค์ความรู้ด้วย ท่ีสำคัญตามหลกั สูตร

การคดิ แบบ KWL มากระต้นุ การคดิ ของ ตนเองได้ มีกระบวนการคิดวิเคราะห์

นกั เรียน ทำใหผ้ เู้ รียนคดิ อยา่ งละเอยี ดถี่ถ้วน สังเคราะห์ และค้นพบองค์

พิจารณาอยา่ งละเอยี ด หรือทบทวนสิง่ ท่รี ู้ ความรู้ดว้ ยตนเอง

มาก่อน ส่งิ ทผี่ ้เู รยี นต้องการรู้ และได้เรยี นรู้

อะไรจากสง่ิ ทีก่ ำหนดให้ ทัง้ นใ้ี หส้ อดคล้องกับ

มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชี้วัด/หนว่ ยการเรยี นรู้

และบริบทของผเู้ รียน เพือ่ ใหผ้ เู้ รยี นได้พฒั นา

ทกั ษะการคิดวิเคราะห์ สงั เคราะห์ และค้นพบ

องคค์ วามรู้ด้วยตนเอง

ตัวชี้วดั (Indicators)

งาน (Tasks) ผลลัพธ์ (Outcomes) ทีจ่ ะเกดิ ข้ึนกับผู้เรยี น

ลกั ษณะงานทปี่ ฏิบัติ ท่จี ะดำเนินการพัฒนา ตามข้อตกลง ของงานตามข้อตกลง ทีแ่ สดงให้เห็นถงึ การ
ตามมาตรฐานตำแหน่ง
ใน 1 รอบ การประเมนิ ท่คี าดหวงั ใหเ้ กิดขนึ้ เปลี่ยนแปลงไปในทาง

กับผเู้ รยี น ที่ดขี น้ึ หรอื มีการพัฒนามาก

ข้ึนหรือผลสมั ฤทธ์สิ ูงข้นึ

1.3 จดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ผ่านกระบวนการ - ผเู้ รียนได้พัฒนาทกั ษะ - ผู้เรียนร้อยละ 70 สามารถ

Thinking School โดยใชเ้ ครอ่ื งมอื การคิด การคิดวิเคราะห์ สงั เคราะห์ การคดิ วิเคราะห์ สังเคราะห์

KWL เปน็ เครอื่ งมือในการกระตนุ้ การคิดของ เน้ือหาทีเ่ รียน และไปใช้ใน

นักเรยี น ถงึ เนื้อหา ประเด็นหรอื หวั ข้อท่ีนำมา สถานการณท์ ีห่ ลากหลาย

เรยี นรู้ โดยใหผ้ ูเ้ รยี นคดิ หรือตอบคำถามในส่ิง

ที่ตนเองรู้แล้ว เกี่ยวกบั ประเด็นนน้ั (Know)

เพ่ือเป็นตวั ช่วยให้ครไู ม่ต้องบอก อธิบาย หรือ

สอนในส่งิ ที่ผูเ้ รียนรแู้ ล้ว จะทำใหก้ ารเรยี นรู้

ในชน้ั เรยี นกระชับเร็วขึน้ ผู้ที่รแู้ ลว้ จาก

ประสบการณ์เดมิ การอ่าน การศกึ ษามาก่อน

ล่วงหน้า กจ็ ะได้มโี อกาสบอกกล่าว หรอื

อธบิ ายเพื่อน ๆ ในชั้นเรยี นไดร้ บั ทราบ และ

ประเดน็ หรอื เนอ้ื หาใดทผี่ เู้ รียนท้งั ชน้ั ยงั ไม่

ทราบ สงสยั และอยากรู้คำตอบ อยากเรียนรู้

(Want) กจ็ ะนำไปสู่การเรยี นรรู้ ่วมกัน

ของนักเรียนและครู (Learned) ไดผ้ ลเป็น

ประการใด เกดิ จากการเรยี นรไู้ ปพรอ้ ม ๆ กัน

ท้งั หอ้ งเรยี น

1.4 สื่อ/แหล่งเรียนรู้ ที่สอดคล้องกับกิจกรรม - ผู้เรียนมีผลสัมฤทธ์ิทางการ - ผู้เรยี นรอ้ ยละ 70

การเรียนรู้ เรียนรายวิชาคณิตศาสตร์ใน มีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน

- YouTube เพลงการบวก การลบเศษสว่ น เรื่องการบวก การลบเศษสว่ น ต้ังแต่ระดับดขี ้ึนไป

https://youtu.be/cTRL7Kgm6Pw และการหารตามเป้าหมาย - ผู้เรยี นรอ้ ยละ 70

- YouTube เทคนิคการบวกลบเศษสว่ น สถานศึกษา มีเจตคติที่ดีตอ่ คณิตศาสตร์

(Wow!!มนั งา่ ยมาก) - ผ้เู รยี นมเี จตคติทีด่ ีตอ่ สามารถเชอื่ มโยงเน้อื หาหรอื

https://youtu.be/iHvzVrat6X8 คณิตศาสตร์ สามารถเชื่อมโยง หลกั การทางคณติ ศาสตร์กับ

- YouTube วชิ าคณติ ศาสตร์ ชั้น ป.6 เรอื่ ง เนื้อหาหรือหลักการทาง ชวี ิตประจำวันได้

การบวกและการลบเศษส่วนและจำนวนคละ คณติ ศาสตร์กบั ชีวติ ประจำวนั

โดยใชค้ วามรเู้ ร่อื ง ค.ร.น. ได้

https://youtu.be/_OYPdbWRBag

- Power Point สรปุ การบวก การลบเศษส่วน

1.5 วดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้

ลกั ษณะงานทป่ี ฏบิ ตั ิ - ตรวจแบบฝกึ หดั และใบงานKWL ผลลัพธ์ (Outcomes) ตวั ช้วี ดั (Indicators)
ตามมาตรฐานตำแหนง่ เรือ่ งการบวก การลบเศษส่วน ของงานตามข้อตกลง ทีจ่ ะเกดิ ขึน้ กบั ผู้เรียน
ท่ีคาดหวังใหเ้ กดิ ข้ึน ทแ่ี สดงให้เหน็ ถงึ การ
งาน (Tasks) เปลี่ยนแปลงไปในทาง
ทีจ่ ะดำเนินการพัฒนา ตามขอ้ ตกลง กับผูเ้ รียน ที่ดขี ึน้ หรือมีการพฒั นามาก
- ผู้เรียนมกี ารนำการคิดแบบ ขึน้ หรอื ผลสมั ฤทธส์ิ งู ขนึ้
ใน 1 รอบ การประเมนิ KWL ไปใชใ้ นสถานการณ์ - ผ้เู รียนร้อยละ 70 นำการคิด
ทห่ี ลากหลายได้ แบบ KWL ไปใชใ้ น
1.6 ศึกษา วเิ คราะห์ และสงั เคราะห์ สถานการณ์ทห่ี ลากหลาย
เพอ่ื แก้ไขปญั หา หรือพัฒนาการเรยี นรู้ - ผเู้ รียนมคี ณุ ธรรม จริยธรรม
ศึกษาวิเคราะห์ สงั เคราะห์ ปญั หาการจัด คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ - ผู้เรยี นร้อยละ 70
การเรยี นรูข้ องผเู้ รียน ในรายวชิ าคณติ ศาสตร์ และค่านิยมความเป็นไทย มคี ุณธรรม จรยิ ธรรม
ระดบั ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 แล้วจึงทำการ ที่ดงี าม คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
ออกแบบการเรยี นรู้และดำเนินการจดั การ และค่านยิ มความเปน็ ไทย
เรยี นรู้ของผเู้ รียนอยา่ งเหมาะสมกับบริบท ทีด่ ีงาม
ผ้เู รยี นและของสถานศึกษา ทำให้ผู้เรยี นมี
พัฒนาการเรียนรู้และมที กั ษะการคิดมเี หตผุ ล
อย่างเปน็ ระบบ
1.7 จดั บรรยากาศท่สี ่งเสรมิ และพฒั นา
ผู้เรียน มกี ารจดั บรรยากาศทเ่ี หมาะสม
สอดคลอ้ งกบั ความแตกต่างของผ้เู รียนเปน็
รายบคุ คล ให้ผเู้ รยี นได้ฝึก
- K (Know) ระบุสิง่ ทรี่ ู้ เรือ่ งทร่ี ทู้ ี่เก่ยี วกบั
เรอ่ื งท่ีกำหนด หรือหัวเรือ่ งทก่ี ำหนด
- W (Want) อยากรูอ้ ะไรบา้ ง จากส่งิ หรือ
เรือ่ งทีก่ ำหนดใหใ้ นข้นั แรก
- L (Learned) เรียนรู้อะไรบ้าง จากเร่อื งท่ี
กำหนดหลังจากอ่าน หรอื เรยี นรู้เสร็จแลว้
เพ่ือนำไปสู่ทกั ษะการคิดวเิ คราะห์ สงั เคราะห์
และคน้ พบองค์ความรูด้ ว้ ยตนเอง
1.8 อบรมและพฒั นาคณุ ลกั ษณะทด่ี ี
ของผ้เู รียน มกี ารอบรมบม่ นสิ ยั ใหผ้ เู้ รยี น
มคี ณุ ธรรม จริยธรรม คณุ ลักษณะอันพงึ
ประสงค์ และคา่ นยิ มความเป็นไทยทีด่ งี าม
โดยการนำหลักคำสอนตา่ ง ๆ เชน่
ความกตญั ญกู ตเวที การไมท่ ำความชัว่ ท้งั ปวง
การบำเพ็ญแตค่ วามดี การทำจิตให้สะอาด
บรสิ ทุ ธ์ิ พรอ้ มท้ังยกตวั อย่างบคุ คลผเู้ ป็น
แบบอย่างทดี่ งี ามสงั คม เช่น พระบาทสมเด็จ

พระบรมชนกาธเิ บศ มหาภูมิพลอดลุ ยเดช

มหาราช (ร.9) ฯลฯ

ตัวช้ีวดั (Indicators)

งาน (Tasks) ผลลัพธ์ (Outcomes) ทจ่ี ะเกดิ ข้นึ กับผเู้ รียน

ลกั ษณะงานทปี่ ฏบิ ัติ ทจ่ี ะดำเนินการพัฒนา ตามขอ้ ตกลง ของงานตามข้อตกลง ทีแ่ สดงใหเ้ ห็นถงึ การ

ตามมาตรฐานตำแหน่ง ใน 1 รอบ การประเมนิ ทค่ี าดหวงั ใหเ้ กดิ ข้ึน เปลย่ี นแปลงไปในทาง

กับผเู้ รยี น ท่ดี ขี น้ึ หรือมีการพฒั นามาก

ขน้ึ หรือผลสมั ฤทธ์สิ งู ข้นึ

2. ด้ าน ก ารส่ งเส ริม แ ล ะ 2.1 จัดทำข้อมูลสารสนเทศของผู้เรียนและ - ผู้ เ รี ย น ไ ด้ รั บ ข้ อ มู ล - ผู้เรียนร้อยละ 100 ได้รับ

สนับสนุน รายวิชา ส ารส น เท ศ แ ล ะ ใช้ ข้ อ มู ล ข้อมูลสารสนเทศและใช้ข้อมูล

การจัดการเรียนรู้ลักษณะงาน - จัดทำข้อมูลสารสนเทศของผู้เรียนและ สารสนเทศในการประเมิน สารสนเทศในการประเมิน

ที่เสนอให้ครอบคลุมถึงการ รายวิชาคณิตศาสตร์เอกสารงานประจำช้ัน ศักยภาพของตนเอง ศักยภาพของตนเอง

จัดทำข้อมูลสารสนเทศของ เรยี นแบบ ปพ.ตา่ ง ๆ ใหเ้ ป็นปจั จุบัน - ผ้เู รยี นรอ้ ยละ 100 รับทราบ

ผู้ เรี ย น แ ล ะ ร า ย วิ ช า ก า ร 2.2 ดำเนินการตามระบบดูแลช่วยเหลือ ผลการเรยี นของตนเอง

ดำเนินการตามระบบดูแล ผูเ้ รยี น

ช่ ว ย เห ลื อ ผู้ เรี ย น ก า ร - ออกเย่ียมบ้านผู้เรียน เย่ียมตามสภาพจริง - ผเู้ รียนได้รบั การบนั ทกึ ข้อมูล - ผู้เรียนในท่ีปรึกษาร้อยละ

ปฏิบัติงานวิชาการ และงาน และแบบ Online ได้ประสานความร่วมมือกับ รายบุคคลไม่ว่าจะเป็นข้อมูล 100 ไดร้ บั การเยี่ยมบ้าน

อ่ืน ๆ ของสถานศึกษา และ ผู้ปกครอง เพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาผู้เรียน ส่วนตัว รายได้ ครอบ ครัว - ผู้เรียนในที่ปรึกษาร้อยละ

การประสานความร่วมมือกับ รวมถงึ คอยตดิ ตามใหค้ วามชว่ ยเหลอื ต ล อ ด จ น ข้ อ มู ล ป ร ะ เมิ น 1 0 0 ได้ รั บ ก า ร ป ร ะ เมิ น

ผู้ปกครองภาคีเครือข่าย และ พฤติกรรมและความเสี่ยงของ พฤติกรรมและความเส่ียง

หรอื สถานประกอบการ ผเู้ รยี น (SDQ)

- ผ้เู รยี นในทปี่ รกึ ษาที่มคี วาม

เส่ยี งรอ้ ยละ 100 ได้รบั ความ

ชว่ ยเหลอื และสง่ ตอ่ ตาม

ขนั้ ตอนของระบบดูแล

ช่วยเหลือนกั เรยี น

2.3 ปฏิบตั งิ านวชิ าการ และงานอ่นื ๆ

ของสถานศกึ ษา

- ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้างานบริหารวิชาการ

ระดับประถมศึกษา และงานอื่นๆ ตามที่ได้รับ

มอบหมาย

2.4 ประสานความร่วมมอื กบั ผุ้ปกครอง ภาคี

เครือขา่ ยและหรือสถานประกอบการ

- ประชุมผู้ปกครอง รวมถึงการติดต่อสื่อสาร - ผเู้ รียนได้รบั ความชว่ ยเหลอื - ผเู้ รยี นรอ้ ยละ 100 ไดร้ ับ

ถึงผู้ปกครองผ่านกลุ่มไลน์ (Line) เพ่ือติดตาม จากครูประจำช้นั ผปู้ กครอง ความชว่ ยเหลือจากครปู ระจำ

การเรยี นรแู้ ละพัฒนาการของผู้เรียน และหน่วยงานทเ่ี ก่ยี วข้อง ชนั้ ผปู้ กครอง และหน่วยงาน

ท่เี กยี่ วข้อง

ลักษณะงานทปี่ ฏบิ ัติ งาน (Tasks) ผลลพั ธ์ (Outcomes) ตัวช้ีวดั (Indicators)
ตามมาตรฐานตำแหน่ง ทีจ่ ะดำเนนิ การพัฒนา ตามขอ้ ตกลง ของงานตามขอ้ ตกลง ท่ีจะเกดิ ขนึ้ กับผู้เรยี น
ทีค่ าดหวงั ให้เกิดขนึ้ ทีแ่ สดงให้เหน็ ถงึ การ
3. ด้านการพัฒนาตนเองและ ใน 1 รอบ การประเมนิ เปลี่ยนแปลงไปในทาง
วิชาชพี กับผเู้ รียน ทด่ี ขี ้ึนหรือมีการพฒั นามาก
ลกั ษณะงานทเ่ี สนอให้ 3.1 พัฒนาตนเองอย่างเปน็ ระบบและ ขน้ึ หรอื ผลสัมฤทธิ์สูงข้ึน
ครอบคลมุ ถงึ การพฒั นาตนเอง ตอ่ เน่อื ง โดยการอบรมพฒั นาเองเกยี่ วกับ - นกั เรียนไดร้ ับการพัฒนา - นักเรียนรอ้ ยละ 100 ไดร้ ับ
อยา่ งเป็นระบบและตอ่ เนือ่ ง ความร้ทู างคณติ ศาสตร์ และอบรมการใช้ เรอื่ ง การบวก การลบ การพฒั นา เร่อื ง การบวก
การมีส่วนร่วมในการ เทคโนโลยีดจิ ิทลั เพื่อการศกึ ษา เช่น การใช้ เศษส่วน ผ่านการจัดการ การลบเศษสว่ น ผ่านการ
แลกเปลยี่ นเรยี นรทู้ างวชิ าชพี โปรแกรม Google Form, โปรแกรม Canva, เรยี นรดู้ ้วยเคร่อื งมือการคดิ จัดการเรียนรูด้ ้วยเคร่อื งมอื
เพอ่ื พัฒนาการจัดการเรยี นรู้ โปรแกรม Google Meet, โปรแกรม GSP แบบ KWL การคิดแบบ KWL
และการนำความรู้ (Sketchpad) ฯลฯ สรา้ งแบบทดสอบ
ความสามารถ ทกั ษะท่ีได้จาก ออนไลน์ - ผู้เรียนได้รับการแก้ไขปัญหา - ผู้เรยี นรอ้ ยละ 10
การพัฒนาตนเองและวชิ าชพี 3.2 มีสว่ นร่วม และเปน็ ผู้นำในการ และพัฒนาด้านการเรยี นรูจ้ าก ของนักเรยี นกลุ่มมีปญั หา
มาใชใ้ นการพฒั นาการจัดการ แลกเปลย่ี นเรียนรทู้ างวชิ าชพี แนวทาง หรือวิธีการที่ครูได้ ได้รบั การแก้ไข
เรยี นรู้ การพฒั นาคุณภาพ - แลกเปลีย่ นเรยี นรู้ทางวชิ าชพี ท้ังภายในและ ร่วมแลก เปล่ียนเรียนรู้กับ - ผูเ้ รียนรอ้ ยละ 100
ผเู้ รยี น และการพัฒนา ภายนอกโรงเรียน ค ณ ะ ค รู ทั้ ง ภ า ย ใน แ ล ะ ของนักเรียนกลุ่มที่มีศักยภาพ
นวัตกรรมการจดั การเรยี นรู้ ภายนอกโรงเรยี น ไดร้ บั การพัฒนา

3.3 นำความรู้ ความสามารถ ทักษะที่ไดจ้ าก - ผเู้ รยี นเกดิ การเรียนรู้ - ผเู้ รียนรอ้ ยละ 100 ไดเ้ รยี นรู้
การพัฒนาตนเองและวิชาชพี มาใช้ในการ จากกจิ กรรมการคดิ แบบ KWL ดว้ ยกจิ กรรมการคดิ แบบ
พัฒนาการจดั การเรยี นรู้ ไดร้ ับการพฒั นาตนเอง KWL ได้รบั การพฒั นาตนเอง
- จัดการเรยี นรโู้ ดยนำความรู้ ความสามารถ
ตลอดจนทกั ษะทไ่ี ดร้ บั จากการพฒั นาตนเอง
มาใชพ้ ัฒนาผู้เรียน

หมายเหตุ
1. รปู แบบการจดั ทำขอ้ ตกลงในการพฒั นางาน.ตามแบบ PA 1 ใหเ้ ปน็ ไปตามบริบท และสภาพการจัดการ

เรยี นรูข้ องแต่ละสถานศึกษา โดยความเหน็ ชอบร่วมกันระหวา่ งผอู้ ำนวยการสถานศึกษา และขา้ ราชการครผู จู้ ดั ทำ
ขอ้ ตกลง

2. งาน (Tasks) ที่เสนอเปน็ ข้อตกลงในการพัฒนางาน ต้องเปน็ งานในหน้าที่ความรบั ผิดชอบหลกั ทส่ี ง่ ผล
โดยตรงตอ่ ผลลพั ธ์การเรียนรู้ของผเู้ รยี น และให้นำเสนอรายวิชาหลกั ท่ที ำการสอน โดยเสนอในภาพรวมของรายวิชา

หลักท่ที ำการสอนทุกระดับช้นั ในกรณีท่สี อนหลายรายวชิ า สามารถเลือกรายวิชาใดวิชาหนึ่งได้ โดยจะต้องแสดงให้
เห็นถงึ การปฏบิ ตั ิงานตามมาตรฐานตำแหน่ง และคณะกรรมการประเมนิ ผลการพัฒนางาน ตามข้อตกลงสามารถ
ประเมนิ ได้ตามแบบการประเมนิ PA 2

3. การพัฒนางานตามข้อตกลง ตามแบบ PA 1 ให้ความสำคญั กบั ผลลัพธ์การเรยี นรู้ ของผเู้ รยี น
(Outcomes) และตวั ชีว้ ัด (Indicators) ทเ่ี ป็นรปู ธรรม และการประเมินของคณะกรรมการประเมนิ ผลการพัฒนา
งานตามข้อตกลง ใหค้ ณะกรรมการดำเนนิ การประเมิน ตามแบบ PA 2 จากการปฏบิ ตั งิ านจริง สภาพการจดั การ
เรยี นรู้ในบริบทของแตล่ ะสถานศกึ ษา และผลลพั ธ์การเรียนรขู้ องผู้เรียนทเี่ กดิ จากการพฒั นางาน ตามข้อตกลงเปน็
สำคัญ โดยไม่เนน้ การประเมนิ จากเอกสาร

ส่วนท่ี 2 ข้อตกลงในการพัฒนางานที่เป็นประเด็นทา้ ทายในการพฒั นาผลลพั ธ์การเรียนร้ขู องผู้เรยี น
ประเด็นทท่ี ้าทายในการพฒั นาผลลพั ธก์ ารเรยี นรขู้ องผู้เรยี น ของผจู้ ดั ทำขอ้ ตกลง ซึ่งปจั จุบันดำรง

ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ ต้องแสดงใหเ้ ห็นถึงระดบั การปฏิบตั ทิ ี่คาดหวงั ของวิทยฐานะ ชำนาญการ
พเิ ศษ คือ การรเิ ริม่ พฒั นา การจัดการเรยี นร้แู ละพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผ้เู รียน ใหเ้ กดิ การเปล่ยี นแปลงไป
ในทางท่ีดีขึ้นหรอื มีการพฒั นามากขึ้น (ท้งั น้ี ประเดน็ ท้าทายอาจจะแสดงให้เหน็ ถึง ระดบั การปฏิบัติที่คาดหวังใน
วิทยฐานะท่ีสูงกวา่ ได้)

ประเดน็ ทา้ ทาย เร่ือง การบวก การลบเศษส่วน ของนักเรยี นชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 6

1. สภาพปญั หาการจัดการเรียนร้แู ละคณุ ภาพการเรยี นรู้ของผ้เู รียน
ในการจดั การเรยี นรู้ทีผ่ ่านมา พบวา่ ผเู้ รียนขาดทักษะการคิดวเิ คราะห์ สงั เคราะห์ ไมส่ ามารถคดิ .
มเี หตุผลอย่างเปน็ ระบบ และไม่สามารถแก้ปัญหาใหม้ ีประสทิ ธภิ าพ ดงั นั้น ครผู ู้สอนจงึ จัดทำข้อตกลงในการพัฒนา
งานประเด็นท้าท้าย การพฒั นาทกั ษะการบวก การลบเศษส่วน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปที ่ี 6 ในภาคเรยี นที่ 1
ปีการศกึ ษา 2565

2. วธิ ีการดำเนนิ การใหบ้ รรลผุ ล
2.1 วเิ คราะห์ตัวชีว้ ัดและสาระการเรียนรแู้ กนกลาง กล่มุ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง
พ.ศ. 2560) ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 และหลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนชุมชน
บ้านพบพระ ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2563 ในเรื่องของมาตรฐานการเรียนรู้และตัวช้ีวัดของเน้ือหารายวิชา
คณติ ศาสตร์
2.2 ออกแบบหน่วยการเรยี นรทู้ ่ีเนน้ ผเู้ รียนเปน็ สำคัญ โดยจดั การเรียนการสอนแบบ Active
Learning ผา่ นกระบวนการ Thinking School ครผู ู้สอนไดน้ ำเคร่อื งมอื การคิดแบบ KWL มากระต้นุ การคดิ ของ
นกั เรียน เพื่อทำให้ผเู้ รียนคิดอย่างละเอยี ดถี่ถ้วน พิจารณาอยา่ งละเอียด หรอื ทบทวนสงิ่ ท่ีรู้มากอ่ น สงิ่ ท่ีผู้เรียนตอ้ งการ
รู้ และไดเ้ รียนรู้อะไรจากส่งิ ท่ีกำหนดให้
2.3 ให้คณุ ครูในกล่มุ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ช่วยกันตรวจสอบความถกู ตอ้ ง ในเนื้อหา กิจกรรม
แบบสงั เกตพฤติกรรมและแบบฝกึ หดั พรอ้ มท้ังเสนอแนะ เพ่อื ปรบั ปรุง แกไ้ ข

2.4 ครูผู้สอนนำกิจกรรมมาปรับปรุง แก้ไขตามคำแนะนำของคณะครูในกลุ่มสาระการเรียนรู้
คณิตศาสตร์ โรงเรียนชมุ ชนบ้านพบพระ

2.5 จดั กิจกรรมการเรียนรู้ เรือ่ ง การบวก การลบเศษสว่ น ไปจดั ให้กับผูเ้ รยี นระดับชน้ั ประถมศกึ ษา
ปีที่ 6 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2565 ผ่านกระบวนการ Thinking School โดยใช้เครื่องมือการคิด KWL
เป็นเครื่องมอื ในการกระต้นุ การคดิ ของนกั เรียน มกี ารจัดบรรยากาศทเี่ หมาะสม สอดคล้องกบั ความแตกต่าง
ของผเู้ รียนเปน็ รายบุคคล ให้ผู้เรยี นได้ฝกึ

- K (Know) ระบุส่งิ ท่รี ู้ เรอ่ื งทร่ี ทู้ ี่เกยี่ วกบั เร่ืองทกี่ ำหนด หรอื หวั เรื่องท่ีกำหนด
- W (Want) อยากรอู้ ะไรบ้าง จากสงิ่ หรอื เร่อื งทกี่ ำหนดให้ในขนั้ แรก
- L (Learned) เรยี นรู้อะไรบ้าง จากเร่อื งที่กำหนดหลังจากอา่ น หรือเรียนรูเ้ สร็จแล้ว
เพอ่ื นำไปสทู่ ักษะการคดิ วิเคราะห์ สงั เคราะห์และค้นพบองคค์ วามรู้ดว้ ยตนเอง

2.6 ตรวจบนั ทกึ ความรู้ KWL ของผเู้ รียน แล้วอธิบายเพ่ิมเตมิ ในการฝกึ คดิ อย่างเป็นระบบ
เพื่อนำทักษะการคดิ ไปใชใ้ นชีวติ ประจำวันไดส้ ม่ำเสมอ

2.7 สอบถามความพึงพอใจของนักเรียนและผู้ปกครองในการจัดการเรียนการสอนเพื่อนำมา
ปรบั ปรงุ แกไ้ ขให้ดขี ึ้นกวา่ เดิม

3. ผลลัพธก์ ารพัฒนาทค่ี าดหวงั
การจดั การเรยี นการสอนในรายวชิ าคณิตศาสตร์ (ค16101) ใชว้ ิธกี ารสอนแบบ Active Learning
ผ่านกระบวนการ Thinking School ซง่ึ ครูผ้สู อนไดน้ ำเครื่องมอื การคดิ แบบ KWL มากระตุ้นการคิดของนักเรียน เพ่ือ
พฒั นาผ้เู รียนให้คิดอยา่ งละเอียดถถ่ี ้วน พิจารณาอย่างละเอียด นำไปสู่การวิเคราะห์ สังเคราะห์ และค้นพบองค์ความรู้
ด้วยตนเอง

3.1 เชงิ ปรมิ าณ
ผู้เรยี นระดับช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 6 จำนวน 4 หอ้ ง รวมจำนวนผ้เู รยี นท้งั หมด 134 คน

ไดร้ ับการพัฒนาทักษะการบวก การลบเศษสว่ น โดยจัดการเรยี นการสอนแบบแบบ Active Learning
ผ่านกระบวนการ Thinking School รายวชิ าคณิตศาสตร์ รหสั วิชา ค16101 ดังนี้

1) แบบฝึกหัด เรื่อง การบวก การลบเศษส่วน ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70
ของผู้เรยี นท้งั หมด

2) ใบงาน KWL เรื่อง การบวก การลบเศษส่วน ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70
ของผู้เรยี นท้ังหมด

3.2 เชงิ คณุ ภาพ
ผู้เรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 4 ห้อง รวมจำนวนผู้เรียนทั้งหมด 134 คน

ผู้เรียนมีทักษะการบวก การลบเศษส่วน รู้จักเชื่อมโยงความรู้ การคิด มีเหตุผลอย่างเป็นระบบ และสามารถแก้ปัญหา
ให้มีประสิทธิภาพไดม้ ากข้นึ

ลงชือ่ ............................................................
( นางรชั ฎาพร บญุ มาคำ )
ตำแหน่ง ครู

ผจู้ ัดทำข้อตกลงในการพฒั นางาน
1/ตลุ าคม/2564

ความเห็นของผู้อำนวยการสานศกึ ษา
( ) เห็นชอบใหเ้ ป็นข้อตกลงในการพฒั นางาน
( ) ไม่เห็นชอบใหเ้ ป็นข้อตกลงในการพัฒนางาน โดยมีขอ้ เสนอแนะเพื่อนำไปแก้ไข และเสนอเพ่อื พจิ ารณา
อกี ครงั้ ดงั น้ี
............................................................................................................................. ...............................................

.........................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................. .......................................
.................................................................................................................................................. .......................................

ลงช่อื ......................................................
( นายภูรนิ ท์ ชนิลกลุ )

ตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรยี นชมุ ชนบ้านพบพระ
................/.............../...................








Click to View FlipBook Version