คู่มือป้องกันอันตราย
จากเครื่องจักร
2022 จัดทำโดย
หน่วยงานความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม
คำนำ
บริษัท ฟูจิ อิเลคทริค แมนูแฟคเจอริ่ง
(ประเทศไทย) จำกัด ให้ความสำคัญเรื่อง
ความปลอดภัยในการทำงานของพนักงาน
และสนับสนุนทรัพยากรทางด้าน บุคลากร
หน่วยงาน งบประมาณ เวลา และการฝึกอบรม
ด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพ
แวดล้อมในการทำงานให้เหมาะสมและ
เพียงพอ
เนื่องจากบริษัทฯได้มีการใช้เครื่องจักรเพื่อ
ผลิตสินค้า/ผลิตภัณฑ์เป็นจำนวนมาก บริษัทฯ
จึงได้จัดทำคู่มือการป้องกันและควบคุม
อันตรายจากเครื่องจักรเล่มนี้ขึ้น เพื่อใช้ใน
การอบรมพนักงานหรือเพื่อให้พนักงานได้
ศึกษาเรียนรู้ด้วยตนเอง (Self study) ซึ่งจะ
นำไปสู่การมีความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับการ
ป้องกันและควบคุมอันตรายจากเครื่องจักร
และทำให้พนักงานสามารถปฏิบัติงานกับ
เครื่องจักรได้อย่างปลอดภัย
เนื้อหา
เครื่องจักรคืออิหยังน้อ?
(ความหมายและประเภทของเครื่องจักร)
เครื่องจักรอันตรายจังได๋
(อันตรายจากเครื่องจักร)
จป.ขอเฉลยแท้จริงแล้วสาเหตุก็คือ!
(สาเหตุของอุบัติเหตุจากเครื่องจักร)
อุบัติเหตุป้องกันได้ รู้ไว้ ชีวิตจะปลอดภัย
(การป้องกันอันตรายจากเครื่องจักร)
ปั้ นจั่น รู้ก่อนใช้ปลอดภัยจากอุบัติเหตุ
(ข้อปฏิบัติและสัญญาณมือ
ในการใช้งานปั้ นจั่นเหนือศีรษะ)
เครื่องจักรคืออิหยังน้อ?
(ความหมายและประเภท
ของเครื่องจักร)
“เครื่องจักร”
คือ สิ่งที่ประกอบด้วยชิ้นส่วนหลายชิ้นสำหรับก่อกำเนิด
พลังงาน เปลี่ยนหรือแปลงสภาพพลังงาน หรือส่งพลังงาน
ทั้งนี้ ด้วยกำลังน้ำ ไอน้ำ เชื้อเพลิง ลม ก๊าซ แสงอาทิตย์
ไฟฟ้า หรือพลังงานอื่นอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง
รวมกันและหมายความรวมถึงเครื่องอุปกรณ์ ล้อตุนกำลัง
รอก สายพาน เพลา เฟือง หรือสิ่งอื่นที่ทำงานสัมพันธ์กัน
และรวมถึงเครื่องมือกลด้วย
1
เครื่องจักรมีกี่
ประเภทกันนะ?
เครื่องจักรแบ่ง
เป็น 3 ประเภท
1. เครื่องจักรต้นกำลัง
เป็นเครื่องจักรที่ใช้ผลิตหรือเปลี่ยนพลังงานรูปหนึ่งไปเป็น
อีกรูปหนึ่ง เช่น มอเตอร์ไฟฟ้า ใช้สำหรับเปลี่ยนพลังงาน
ไฟฟ้าเป็นพลังงานกล
2
2. เครื่องส่งกำลัง
คือ อุปกรณ์ที่ใช้ส่งผ่านกำลังจากเครื่องต้นกำลังไปใช้งาน
อื่นต่อไป เช่น สายพาน เพลา เฟือง ท่อลมอัดต่างๆ เป็นต้น
3. เครื่องจักรทำการผลิต
เป็นเครื่องจักรที่ใช้ในการผลิตต่างๆ มีความสามารถในการ
ใช้งานประเภทต่าง ๆ โดยเฉพาะ เช่น เครื่องตัด เครื่องกลึง
เครื่องเจาะ เครื่องไส เครื่องผลิตขวดแก้ว เครื่องบรรจุ
อาหาร เป็นต้น
3
เครื่องจักรอันตรายจังได๋
(อันตรายจากเครื่องจักร)
1. การเกี่ยวพันหรือถูกดึงเข้าไป
เกิดจากส่วนของเครื่องจักรหมุน
รอบตัวเอง ก่อให้เกิดการเกี่ยว
พันหรือดึงเอาชายเสื้อ/กางเกง
เส้นผม และเครื่องประดับเข้าไปได้
2. การถูกหนีบ/บีบ
เกิดจากส่วนของเครื่องจักรมา
ทำงานด้วยกัน และหมุนไปใน
ทิศทางตรงกันข้าม ทำให้เกิดจุด
หนีบหรือจุดบีบขึ้น
จุดอันตราย
4
3. การถูกชน ทับ หรือกระแทก
เกิดจากส่วนของเครื่องจักรที่มี
การเคลื่อนไหวรวดเร็ว หรือ
เคลื่อนที่แบบสลับไปสลับมา เช่น
ลูกสูบ หรือแท่นเลื่อนของ
เครื่องจักร เช่น เครื่องไส เลื่อย
โลหะ
4. การสัมผัส
เกิดจากการสัมผัสถูกส่วนของ
เครื่องจักรที่แหลมคม ร้อน เย็น
หรือมีกระแสไฟฟ้า
5
5. การพ่นหรือเป่าใส่
อันตรายเกิดจากส่วนใดที่กระเด็น
หรือถูกขับออกมาจากเครื่องจักร
เช่น สะเก็ดไฟจากการเชื่อม เศษ
เจียรกระเด็นเข้าตา สารเคมีที่
เครื่องจักรพ่นออกมา
แล้วทำไมถึงเกิด
อันตรายเหล่านี้ได้...
จป.จะเฉลยให้เอง!
6
จป.ขอเฉลย
แท้จริงแล้วสาเหตุก็คือ!
(สาเหตุของอุบัติเหตุจากเครื่องจักร)
1. ความบกพร่องของเครื่องจักร
- การออกแบบเครื่องจักรไม่เหมาะสม
ไม่สะดวกต่อการทำงาน เช่น ไม่มีการ
ต่อสายดิน ไม่มีปุ่มหยุดทำงานฉุกเฉิน
- เครื่องจักรไม่มีเซฟการ์ดที่เหมาะสม
- วัสดุประกอบเครื่องจักรไม่มีคุณภาพ
- เครื่องจักรชำรุด สภาพไม่พร้อมใช้งาน
เช่น มีเสียงดังหรือมีการสั่นผิดปกติ
7
2. การกระทำที่ไม่ปลอดภัยของ
ผู้ปฏิบัติงาน (ส่วนใหญ่เกิดจากสาเหตุนี้)
- ไม่สวมใส่อุปกรณ์ PPE เช่น ถุงมือ
กันบาด หมวกและรองเท้านิรภัย
- ไม่ตรวจสอบเครื่องจักรก่อนเริ่ม
ปฏิบัติงาน
- แต่งกายไม่เหมาะสม
- ถอด ปรับ หรือเคลื่อนย้ายเซฟการ์ด
ออกจากเครื่องจักรขณะปฏิบัติงาน
- ขาดการฝึกอบรมเกี่ยวกับความ
ปลอดภัยในการทำงานกับเครื่องจักร
8
2. การกระทำที่ไม่ปลอดภัยของ
ผู้ปฏิบัติงาน (ต่อ)
- ทำงานข้ามขั้นตอน/ไม่ปฏิบัติตามกฎ
หรือขั้นตอนการทำงาน
- ทำงานกับเครื่องจักรที่นอกเหนือ
จากหน้าที่รับผิดชอบของตนเอง
- ไม่มีการบำรุงรักษาเครื่องจักร
อย่างสม่ำเสมอ
- หยอกล้อกันขณะทำงาน /ทำงานขณะที่
ร่างกายไม่พร้อม เช่น ป่วย
- ปรับแต่ง หรือจับชิ้นงานขณะที่เครื่องจักร
ยังเคลื่อนไหวอยู่
9
3. สภาพแวดล้อมในการทำงาน
ที่ไม่ปลอดภัย
- พื้นในบริเวณที่ทำงานไม่เรียบ เป็นหลุม ลื่น
- การจัดวางของในพื้นที่การทำงานไม่เป็นระเบียบ
เช่น สายไฟวางเกะกะ
- บริเวณการทำงานมีสารไวไฟ หรือวัตถุระเบิด
- พื้นที่การทำงานคับแคบ ทำให้ปฏิบัติงาน
ไม่สะดวก ไม่คล่องตัว
- บริเวณพื้นที่การทำงานมีแสงสว่างไม่
เพียงพอ มีระบบการระบายอากาศที่ไม่ดี
- ใช้เครื่องจักรที่ก่อให้เกิดเสียงดัง
ความร้อนสูง ฝุ่นมาก หรือมีสารเคมี
10
อุบัติเหตุป้องกันได้ รู้ไว้ ชีวิตจะปลอดภัย
(การป้องกันอันตรายจากเครื่องจักร)
แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้
1. การป้องกันอันตรายที่เครื่องจักร ได้แก่
- ติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันอันตราย ระบบความ
ปลอดภัย หรือเซฟการ์ดที่เครื่องจักรอย่างเหมาะสม
- มีการตรวจสอบเครื่องจักรก่อนเริ่มงานทุกครั้ง
- มีการบำรุงรักษาเชิงป้องกันอย่างสม่ำเสมอ
- มีทางเดินเข้า-ออกสำหรับการปฏิบัติงานโดยมีความ
กว้างไม่น้อยกว่า 80 ซม.
- มีระบบให้เครื่องหยุดทันทีโดยอัตโนมัติ เมื่อมีสิ่งอื่น
เข้าไปในส่วนที่เคลื่อนไหว เช่น จุดหมุน จุดหนีบ
11
1. การป้องกันอันตรายที่เครื่องจักร (ต่อ)
- เครื่องจักรที่ก่อให้เกิดประกายไฟควรมีเครื่อง
ป้องกันประกายไฟไว้ด้วย
- จัดให้มีคู่มือการปฏิบัติงานกับเครื่องจักร และ
มาตรฐานการบำรุงรักษาเครื่องจักรให้พนักงานปฏิบัติ
ตามได้
- ถ้ามีการติดตั้ง ซ่อมแซม หรือตรวจสอบเครื่องจักร
อยู่ ต้องติดป้ายกำกับ พร้อมทั้งล็อคเครื่องจักรนั้น
และแสดงสัญลักษณ์ห้ามเปิดสวิตช์ไว้ด้วย
12
2. การป้องกันอันตรายที่ทางผ่าน ได้แก่
- จัดวางวัตถุดิบหรือสิ่งของในพื้นที่การทำงานให้
เป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่วางเกะกะ
- ไม่นำวัสดุหรือสารไวไฟมาวางใกล้บริเวณ
เครื่องจักรที่ก่อให้เกิดความร้อนหรือประกายไฟ
- จัดทำรั้วกั้น หรือเส้นแสดงเขตอันตรายของ
เครื่องจักรให้ชัดเจน
- จัดแสงสว่างให้เพียงพอ จัดให้มีระบบระบาย
อากาศอย่างเหมาะสม
13
3. การป้องกันอันตรายที่ตัวบุคคล ได้แก่
- แต่งกายให้เรียบร้อยรัดกุม ไม่สวมใส่เครื่องประดับ
- สวมใส่อุปกรณ์ PPE ตามลักษณะงานตลอดเวลาที่
ปฏิบัติงาน
- ไม่จับหรือปรับแต่งชิ้นงานขณะเครื่องจักรเคลื่อนไหว
- ห้ามใช้เครื่องจักรโดยไม่มีหน้าที่หรือได้อบรมมาก่อน
- ห้ามชะโงกหน้าเข้าไปใกล้ส่วนของเครื่องจักรที่กำลัง
เคลื่อนไหว
- Safety Talk หรือ ทำ KYT ก่อนเริ่มงาน
14
3. การป้องกันอันตรายที่ตัวบุคคล (ต่อ)
- ฝึกอบรมพนักงานเกี่ยวกับการทำงานกับเครื่องจักร
อย่างปลอดภัยก่อนเริ่มปฏิบัติงาน
- ห้ามถอด ปรับ หรือเคลื่อนย้ายเซฟการ์ดออกจาก
เครื่องจักรขณะปฏิบัติงาน
- ปฏิบัติงานตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ในคู่มือปฏิบัติงาน
- ตรวจสอบเครื่องจักรก่อนเริ่มงานทุกครั้ง
- ปฏิบัติตามกฎความปลอดภัย ไม่หยอกล้อกันขณะ
ทำงาน
15
ปั้ นจั่น รู้ก่อนใช้ปลอดภัยจากอุบัติเหตุ
(ข้อปฏิบัติและสัญญาณมือในการใช้งานปั้ นจั่น)
ทำงานกับปั้นจั่น
หรือเครนยังไงให้
ปลอดภัย?
จป.มีคำตอบให้!
แต่ก่อนอื่นเรามารู้จัก
ปั้นจั่นกันก่อน......
“ปั้นจั่น” คือ เครื่องจักรที่ใช้ยกสิ่งของขึ้น
ลงตามแนวดิ่ง และเคลื่อนย้ายสิ่งของเหล่า
นั้นในลักษณะแขวนลอยไปตามแนวราบ
“ปั้นจั่นชนิดอยู่กับที่” คือ ปั้นจั่นที่ประกอบด้วย
อุปกรณ์ควบคุม และเครื่องต้นกำลัง อยู่ในตัว
ซึ่งติดตั้งอยู่บนหอสูง ขาตั้ง หรือบนล้อเลื่อน
16
วิธีปฏิบัติในการใช้ปั้นจั่น
ชนิดอยู่กับที่อย่างปลอดภัย
1. ตรวจสอบระบบการ
ทำงานของรอกและปั้นจั่น
ก่อนเริ่มใช้งานทุกครั้ง
2. ต้องมีผู้ควบคุมการ
ทำงานของปั้นจั่นตลอด
เวลาในการเคลื่อนย้าย
สิ่งของ
3. การเคลื่อนย้ายของ
ปั้นจั่น ให้เคลื่อนที่อย่างช้าๆ
เพื่อป้องกันการแกว่งไปมา
ของสิ่งของ
ที่มา: สสปท 2564
17
วิธีปฏิบัติในการใช้ปั้นจั่น
ชนิดอยู่กับที่อย่างปลอดภัย
4. หลังเลิกใช้งานต้อง
ตัดไฟที่เมนสวิตช์ทุกครั้ง
5. ผู้ทำงานเกี่ยวกับปั้นจั่น
ต้องผ่านการอบรมตาม
หลักสูตรที่กฎหมายกำหนด
ที่มา: สสปท 2564
18
ข้อห้าม! ในการใช้ปั้นจั่นที่ควรรู้
1. ห้ามยกหรือเคลื่อน
ย้ายสิ่งของที่มีน้ำหนักมาก
เกินพิกัดยกของปั้นจั่น
2. ห้ามยกหรือห้อยสิ่งของ
ค้างไว้โดยไม่จำเป็น
ถ้ามีจะต้องมีผู้ควบคุม
ตลอดเวลา
3. ห้ามทำการซ่อมแซม
ปั้นจั่นด้วยตัวเอง ควร
แจ้งผู้รับผิดชอบโดยตรง
ที่มา: สสปท 2564
19
ข้อห้าม! ในการใช้ปั้นจั่นที่ควรรู้
4. ห้ามผู้ที่ไม่มีหน้าที่
เกี่ยวข้อง ใช้งานปั้นจั่นโดย
ไม่ได้รับอนุญาต
ที่มา: สสปท 2564
นอกจากนี้แล้ว "สัญญาณ
มือในการบังคับใช้งานปั้ นจั่น"
ก็เป็นเรื่องที่สำคัญมากเลยนะ
เราไปเรียนรู้กันเลย!
20
สัญญาณมือในการบังคับใช้งานปั้นจั่น
21
22
ที่มาภาพ: https://www.titancrane.co.th/
ศึกษาครบทุกหัวข้อ
แล้วเก่งมากๆเลย!
เสร็จแล้วอย่าลืมทำ
แบบทดสอบด้วยนะ
สแกน QR code นี้
เพื่ อทำแบบทดสอบได้เลย!
23