แบดมินตนั
แบดมนิ ตนั เป็นกีฬาชนิดหน่ึง ที่ใชไ้ มต้ ีลกู ลูกสาหรับใชต้ ีน้นั เรียกกนั มาชา้ นาน
วา่ "ลูกขนไก่" เพราะสมยั กอ่ นกีฬาน้ีใชข้ นของไกม่ าติดกบั ลูกบอลทรงกลมขนาด
เลก็ ปัจจุบนั ลูกขนไกผ่ ลิตจากขนเป็ดที่คดั แลว้ ลูกบอลทรงกลมขนาดเลก็ ท่ีทา
เป็นหวั ลูกขนไกท่ าดว้ ยไมค้ อร์ก
กีฬาแบดมินตนั จะแบ่งผเู้ ลน่ ออกเป็น 2 ฝ่ าย และแบ่งการเล่นออกเป็น 2 ประเภท
คือ "ประเภทเด่ียว" แบ่งผเู้ ลน่ ออกเป็นฝ่ ายละ 1 คน และ "ประเภทคู่" แบ่งผเู้ ลน่
ออกเป็นฝ่ ายละ 2 คน การเล่นรอบหน่ึงเรียกวา่ 1 นดั นดั ละ 3 เกม (บางคนเรียก
เซต) ตดั สินแพช้ นะ 2 ใน 3 เกม มีกาหนดคะแนนสูงสุด 21 คะแนน ฝ่ ายใดทา
คะแนนไดถ้ ึง 21 คะแนนกอ่ นจะเป็นผชู้ นะในเกมน้นั
ประวตั ิ กีฬาแบดมินตนั มีความเป็นมาท่ีชดั เจนมาก ซ่ึงจากหลกั ฐานต่าง ๆ
จะสามารถบ่งบอกท่ีมาของกีฬาประเภทน้ีไวท้ ่ีหลายยคุ เช่นในจีนช่วงคริสตศ์ ตวรรษท่ี 7 มี
ภาพวาดเก่า ๆ ซ่ึงบ่งบอกวา่ มีการใชข้ นไก่มาทาเป็นลูกขนไก่ใชใ้ นการเล่น ซ่ึงตอนน้นั จะ
ใชเ้ ทา้ เตะกนั 2 คนหรือจะต้งั วงกนั 3-4 คน
คริสต์ศตวรรษที่ 13 ชาวอินเดียแดงในอเมริกาตอนใต้ ใชข้ นนกหรือขนไก่ผกู ติดกบั ลกู
กลมโดยลูกบอลกลมน้นั ใชห้ ญา้ ฟางพนั ขมวดเขา้ ดว้ ยกนั และให้ขนไก่ช้ีไปทางเดียวกนั
และเวลาเลน่ ใชม้ ือจบั ลูกขนไก่น้นั ปาใส่ผเู้ ลน่ คนอ่ืน ๆ ใหช้ ่วยกนั จบั ตลอดช่วงเวลาที่กลา่ ว
มาน้ี ยงั ไม่มีการใชแ้ ร็กเกต หรืออปุ กรณ์อื่น ๆ ตีปะทะลูกขนไก่ แต่ใชม้ ือ หรืออวยั วะอื่น ๆ
แทน
คริสต์ศตวรรษที่ 14 ชาวญ่ีป่ ุนไดม้ ีการใชข้ นไก่ หรือขนนกเสียบผกู ติดกบั หวั ไม้ และใชไ้ ม้
ตีลูกขนไก่น้นั โดยไมท้ ่ีใชต้ ีทามาจากไมก้ ระดาน ตีลกู ขนไก่ไปมานบั วา่ เป็นววิ นั นาการใน
รูปลกั ษณ์ของการเล่นแบดมินตนั ท่ีใกลเ้ คียงกบั ยคุ ปัจจุบนั มากที่สุด โดยมีการใชแ้ ร็กเกตตี
ลกู ขนไก่แทนการใชอ้ วยั วะของร่างกาย
ปลายคริสต์ศตวรรษท่ี 17 ในแถบยโุ รปมีการเขียนภาพสีน้ามนั ถึงการเลน่ กีฬาแบดมินตนั
ในราชสานกั ต่าง ๆ
พระราชินีคริสตินาแห่งสวเี ดนทรงจาลองไมแ้ บดมินตนั มาจากแร็กเกตในกีฬาเทนนิส และ
ใชข้ นไก่หรือขนนกเสียบติดกบั หวั ไมก้ ๊อก
เจา้ ฟ้าชายเฟรดเดอริค มกฎุ ราชกมุ ารแห่งเดนมาร์ก ทรงแบดมินตนั ในลกั ษณะเดียวกนั แต่
ในตอนน้นั เรียกแบดมินตนั วา่ "แบตเทิลดอร์กบั ลกู ขนไก่"
คริสตศ์ ตวรรษท่ี 18 ในเยอรมนีกษตั ริยข์ องปรัสเซียเฟรดเดอริคมหาราช และพระเจา้ หลาน
เธอเฟรดเดอริค วิลเลียมที่สอง ทรงแบดมินตนั ในลกั ษณะเดียวกนั และในประเทศองั กฤษมี
เรื่องเลา่ วา่ ในปี ค.ศ. 1870 นายทหารคนหน่ึงท่ีไปประจาการอยใู่ นเมืองปูนา ประเทศอินเดีย
ไดเ้ ห็นกีฬาตีลูกขนไก่จึงนากลบั ไปเลน่ ในองั กฤษ และในองั กฤษ ณ คฤหาสน์
“แบดมินตนั ” ของยคุ แห่งบิวฟอร์ด ที่ตาบลกลอ๊ สเตอร์เชอร์ ในปี ค.ศ. 1873 เกมกีฬาตีลกู
ขนไก่จึงถกู เรียกวา่ “แบดมินตนั ” ตามช่ือของสถานท่ีนบั ต้งั แต่น้นั มา
วธิ ีการเลน่
กีฬาแบดมินตนั จะแบ่งผเู้ ลน่ ออกเป็น 2 ฝ่ าย และแบ่งการเล่นออกเป็น 2 ประเภท คือ
"ประเภทเดี่ยว" แบ่งผเู้ ลน่ ออกเป็นฝ่ ายละ 1 คน "ประเภททีม" แบ่งผเู้ ลน่ ออกเป็นฝ่ าย
ละ 2 คน
วธิ ีการนับคะแนน
1.ตอ้ งชนะใหไ้ ดม้ ากที่สุดใน 3 เกม
2. ทุกประเภทของการแขง่ ขนั ฝ่ ายที่ได้ 21 คะแนนก่อนเป็นฝ่ ายชนะในเกมน้นั ยกเวน้ เมื่อ
ได้ 20 คะแนนเท่ากนั ตอ้ งนบั ตอ่ ใหม้ ีคะแนนห่างกนั 2 คะแนน ฝ่ายใดไดค้ ะแนนนา 2
คะแนนก่อนเป็นผชู้ นะ แตไ่ มเ่ กิน 30 คะแนน หมายความวา่ หากการเล่นดาเนินมาจนถึง 29
คะแนนเท่ากนั ฝ่ ายใดได้ 30 คะแนนก่อน เป็นผชู้ นะ
3. ฝ่ ายชนะเป็นฝ่ ายเสิร์ฟในเกม นดั ต่อไป
4. ฝ่ ายชนะการเสี่ยงสิทธ์ิเป็นฝ่ ายส่งลกู ไดก้ ่อน หากฝ่ ายตรงขา้ มทาลูก "เสีย" หรือลกู ไม่ได้
อยใู่ นการเล่น ผเู้ ลือกส่งลกู ก่อนจะไดค้ ะแนนนา 1-0 และไดส้ ่งลกู ต่อ แต่หากผสู้ ่งลูกทาลูก
"เสีย" หรือลูกไมอ่ ยใู่ นการเล่น ฝ่ ายตรงขา้ มจะไดค้ ะแนนตามมาทนั ทีเป็น 1-1 และฝ่ ายตรง
ขา้ มจะไดส้ ิทธ์ิส่งลูกแทน ดาเนินเช่นน้ีตอ่ ไปจนจบเกม
5. ประเภทคูใ่ หส้ ่งลูกฝ่ ายละ 1 คร้ัง ตามคะแนนท่ีได้ ขณะท่ีเปล่ียนฝ่ ายส่งลูก หากคะแนน
เป็นจานวนค่ี ผอู้ ยคู่ อร์ดดา้ นซา้ ยเป็นผสู้ ่งลูก หากคะแนนเป็นจานวนคู่ผอู้ ยคู่ อร์ดดา้ นขวา
เป็นฝ่ ายส่งลูก
การเสิร์ฟลกู
1.เม่ือเร่ิมเกมใหฝ้ ่ ายท่ีเสิร์ฟและฝ่ ายตรงขา้ ม ใหย้ นื สนามส่งลูกดา้ นขวา และเมื่อคะแนน
ของฝ่ ายเสิร์ฟเป็นเลขคี่ใหเ้ สิร์ฟดา้ นซา้ ย ถา้ คะแนนของฝ่ ายเสิร์ฟเป็ นเลขคู่ใหเ้ สิร์ฟขวา
2.ทุกเสน้ ออกแตกต่างกนั ในส่วนของลูก จะตอ้ งอยตู่ ่ากวา่ เอวของผสู้ ่งขณะท่ีแร็กเกตสมั ผสั
ลกู ส่วนเอวน้นั จะพิจารณาโดยการจินตนาการจากเสน้ รอบลาตวั ที่ระดบั ซ่ีโครงซี่สุดทา้ ย
ของผสู้ ่งลกู
3.สาหรับการทดลองความสูงคงท่ี ทุกส่วนของลกู ขนไก่ขณะที่แร็กเกตสมั ผสั ลูกจะตอ้ งสูง
ไม่เกิน 1.10 เมตร โดยนบั จากพ้ืนสนามข้ึนมา
4.ผเู้ ล่นตอ้ งไม่ถ่วงเวลา หรือเสิร์ฟชา้ หรือเสิร์ฟ 2 จงั หวะ การเสริฟ ตอ้ งเสิร์ฟไปดว้ ยจงั หวะ
เดียว
5.ขณะเสิร์ฟ ส่วนใดส่วนหน่ึงของเทา้ ท้งั 2 ขา้ งตอ้ งสมั ผสั พ้ืนตลอดเวลา
6.การเสิร์ฟลูกที่ถกู ตอ้ ง ตอ้ งให้แร็กเก็ตสมั ผสั กบั หวั ลูกก่อน หากโดนขนก่อนถือวา่ ผิด
กติกา
- ขณะตีลูกโตก้ นั หา้ มนาส่วนใดส่วนหน่ึงของร่างกายหรือไมแ้ บดไปสมั ผสั กบั เนท็
- หา้ มตีลูกที่ฝ่ังตรงขา้ มโตก้ ลบั มาในขณะที่ลกู ยงั ไมข่ า้ มเน็ทมายงั แดนเรา (OVER NET)
การดิวส์
หากผเู้ ลน่ ท้งั สองฝ่ ายทาคะแนนไดเ้ ท่ากนั ในคะแนนที่ 20 จะมีการเลน่ ต่อ จนกวา่ วา่ จะมี
คะแนนมากกวา่ ฝ่ ายตรงขา้ ม 2 คะแนน แต่ถา้ ยงั ไมส่ ามารถทาคะแนนห่างกนั 2 แตม้ ได้ จะ
เลน่ ต่อไปเร่ือย ๆ แตเ่ มื่อแตม้ ได้ 29 เท่ากนั ใครท่ีทาไดแ้ ตม้ 30 ก่อนกจ็ ะเป็นฝ่ ายชนะทนั ที
นาย อธิป รัตนโชติ ม.5/2 เลขท่ี 11