กีฬาเทนนีส
เทนนีส เป็นกีฬาท่ีเล่นในร่มหรือกลางแจง้ แบ่งเป็น 2 ฝ่ายแขง่ กนั โดยมีผเู้ ล่นในประเภท
เด่ียวฝ่ ายละ 1 คน และผเู้ ล่นในประเภทคู่ฝ่ายละ 2 คน ใชไ้ มเ้ ทนนิสตีส่งลูกไปมาเหนือตา
ข่ายภายในเขตที่กาหนด โดยพยายามตีลูกใหล้ งในแดนคู่แขง่ จนคู่แข่งไม่สามารถตีลูก
กลบั มาลงในแดนของเราได้
เทนนิสเป็นเกมกีฬาชนิดหน่ึงซ่ึงใชไ้ มแ้ ร็กเก็ต ถือกาเนิดในยโุ รปช่วงปลายศตวรรษท่ี 19
ช่วงแรกๆน้นั เทนนิสไดแ้ พร่ขยายไปยงั กลุ่มประเทศท่ใี ชภ้ าษาองั กฤษ โดยเฉพาะกลุ่มชน
ช้นั สูง แทจ้ ริงแลว้ เทนนิสเป็นกีฬาสากลและเป็นเกมที่เล่นกนั เกือบทกุ ประเทศทว่ั โลก
ต้งั แตป่ ี ค.ศ.1926 ซ่ึงมีการจดั ทวั ร์นาเมนตค์ ร้ังแรก เทนนิสจึงไดก้ ลายเป็นกีฬาอาชีพ
เทนนิสไดถ้ ูกบรรจลุ งในกีฬาโอลิมปิ ก ณ โซล ปี ค.ศ.1988
อปุ กรณ์การเล่น
ไม้เทนนิส หรือ แร็กเกต็ (Racquet) จะมีดา้ มจบั และมีบริเวณท่ีใชใ้ นการตีลูก
บอลซ่ึงขึงเอน็ ไวก้ บั มือถือไม้
ลูกเทนนิส (บอล) จะตอ้ งมีขนาดและน้าหนกั เป็นไปตามขอ้ กาหนดในการ
แขง่ ขนั ในการแข่งขนั แต่ละนดั จะมีการเปล่ียนบอล เพราะบอลมกั จะสูญเสีย
คุณสมบตั ิไประหวา่ งการเล่น จึงมีการกาหนดให้มีการเปลี่ยนบอลตามจานวน
เกมท่ีเล่นไปแลว้ เช่น อาจไม่จาเป็นตอ้ งเปล่ียนบอลทุกคร้ัง ยกเวน้ ในเซ็ตแรก
อาจเปลี่ยนท่ี 7 เกมเนื่องจากบอลถกู ใชใ้ นการอนุ่ เคร่ืองก่อนการเล่นไปบา้ งแลว้
เป็นตน้ ฝ่ายที่ไดเ้ สิร์ฟในเกมท่ีเปล่ียนบอลใหม่ มกั จะชูบอลให้ฝ่ายตรงขา้ ม
ทราบว่ามีการเปลี่ยนบอลใหม่แลว้ ก่อนที่จะเร่ิมเสิร์ฟไปยงั ฝ่ ายตรงขา้ ม
สนามการแข่งขนั
สนามเทนนิสจะมีขอบเขตเป็ นสี่เหล่ียมผนื ผา้ และตอ้ งมีพ้ืนที่รอบๆเพยี งพอให้ผเู้ ล่นสามารถว่ิงไปตีลูกได้
คือท้งั สนามและโดยรอบควรมีพ้ืนท่ีกวา้ งอยา่ งนอ้ ย 60 ฟตุ ยาวอยา่ งนอ้ ย 120 ฟตุ
พืน้ สนาม
ตอ้ งเป็ นพ้ืนผวิ เรียบ สนามแตล่ ะพ้นื ผวิ ให้ความเร็วและการกระดอนของบอลที่แตกตา่ งกนั ไดแ้ ก่
พืน้ แขง็ (HARD COURT) ทาจากคอนกรีต ราดยาง หรืออะครีลิก พ้ืนแขง็ จะทาใหบ้ อลเคลื่อนที่ไดเ้ ร็วกว่า และ
กระดอนไดอ้ ยา่ งแทจ้ ริง
พืน้ ดนิ (CLAY COURT) ปัจจบุ นั มกั ไม่ไดท้ ามาจากดินจริง แต่จะเป็ นอิฐป่ นและปทู บั ดว้ ยอนุภาคพเิ ศษที่ไม่ดูด
ซบั น้าง่าย พ้ืนดินมกั จะทาใหบ้ อลเคล่ือนท่ีชา้ กวา่ และบอลจะติดสปิ นมากกวา่
พืน้ หญ้า (GRASS COURT) บอลจะเคลื่อนที่ไดเ้ ร็วกวา่ แตก่ ารกระดอนมกั จะไม่แน่ไม่นอน ปัจจบุ นั มีการใช้
หญา้ ชนิดใหมท่ ี่ทาใหบ้ อลกระดอนไดส้ ูงข้ึนและการเคล่ือนที่ของบอลชา้ ลงกวา่ หญา้ รุ่นก่อน
พ้นื พรม (CARPET COURT) มกั ใชเ้ ล่นเฉพาะเทนนิสในร่ม และไมม่ ีการใชพ้ ้นื สนามน้ีแลว้ สาหรับการแขง่ ขนั
ของ ATP และ WTA
พืน้ ไม้ (WOOD COURT) ทาให้บอลกระดอนต่าและเคลื่อนที่เร็ว ปัจจบุ นั ไมม่ ีการใชพ้ ้นื สนามน้ีแลว้ ในการ
แข่งขนั ระดบั อาชีพ
ขนาดสนาม
แผนผงั สนามเทนนิส
•ยาว 23.77 เมตร (78 ฟตุ ) กวา้ ง 8.23 เมตร (27 ฟตุ ) สาหรับประเภทผเู้ ล่นเดี่ยว
•ยาว 23.77 เมตร (78 ฟตุ ) กวา้ ง 10.97 เมตร (36 ฟตุ ) สาหรับประเภทผเู้ ล่นคู่
เส้นสนาม
เส้นหลัง หรือ เสน้ ทา้ ยสนาม (BASELINE) เป็ นเส้นแนวนอน อยดู่ า้ นหลงั สุดของสนามของแต่ละฝ่ าย และจะมี
ขีดกลาง (CENTER MARK) อยตู่ รงก่ึงกลางของเสน้ หลงั
เส้นข้าง (SIDELINE) เป็ นเสน้ แนวต้งั ดา้ นซา้ ยและขวาของขอบสนาม ทอดไปตามความยาวของสนาม ซ่ึงจะ
เป็ นตวั กาหนดขอบเขตความกวา้ งของพ้นื ท่ีสนาม ในการเล่นประเภทเดี่ยวจะใชเ้ สน้ ขา้ งดา้ นใน (SINGLE
SIDELINE) ส่วนการเล่นประเภทคู่จะใชเ้ ส้นขา้ งดา้ นนอก (DOUBLE SIDELINE)
เส้นเสิร์ฟ (SERVICE LINE) เป็ นเส้นแนวนอนขีดแบง่ พ้ืนที่ในสนามของแต่ละฝ่ ายออกเป็ นดา้ นหนา้ และ
ดา้ นหลงั เส้นอยหู่ ่างจากตาข่าย 6.40 เมตร (21 ฟตุ )
เส้นเสิร์ฟกลาง (CENTER SERVICE LINE) เป็ นเสน้ กลางสนามทอดต้งั ฉากในแนวต้งั กบั เส้นเสิร์ฟ ทาให้เกิด
กรอบพืน้ ท่ีเสิร์ฟ (SERVICE BOX) ฝ่ ายละ 2 ดา้ น คือ กรอบดา้ นซา้ ยของแตล่ ะฝ่ ายเรียกว่า ADVANTAGE
COURT กบั กรอบดา้ นขวาของแต่ละฝ่ ายเรียกว่า DEUCE COURT ซ่ึงพ้นื ท่ีดงั กล่าวจะอยชู่ ิดตาข่าย โดยผเู้ ล่นท่ี
เสิร์ฟจะตอ้ งเสิร์ฟลูกใหล้ งในกรอบพ้นื ท่ีดงั กล่าวเท่าน้นั ท้งั น้ีจะตอ้ งเสิร์ฟลูกใหล้ งดา้ นซา้ ยหรือขวาจะข้ึนอยู่
กบั คะแนนที่เล่นในขณะน้นั
เมื่อบอลตกสมั ผสั เส้นถือวา่ บอลสมั ผสั พ้ืนท่ีว่างภายในเส้นน้นั
ตาข่าย (เน็ต)
ขึงไวก้ ่ึงกลางสนามในแนวขวางตลอดความกวา้ งของสนาม เพอ่ื แบ่งสนามออกเป็น 2 ฝั่งเท่ากนั
ความสูงของตาข่ายตรงก่ึงกลางสูง 0.914 เมตร (3 ฟตุ ) ส่วนตาข่ายบริเวณเสาสูง 1.07 เมตร (3.5 ฟตุ )
เสาตาข่ายเสน้ ผา่ ศูนยก์ ลางไม่เกิน 15 ซม. (6 นิ้ว) และสูงไม่เกิน 2.5 ซม. (1 นิ้ว) จากดา้ นบนของตาข่าย เสา
อยหู่ ่างจากเสน้ ขา้ งดา้ นนอก 0.91 เมตร (3 ฟตุ )
แถบดา้ นบนของตาขา่ ยกวา้ ง 5-6.35 ซม. (2-2.5 นิ้ว)
วธิ ีการเล่น
การเลือกแดน/เลือกเสิร์ฟ
ผตู้ ดั สินจะโยนเหรียญเพ่อื ตดั สินหาผชู้ นะ ซ่ึงจะไดเ้ ลือก 1 ใน 3 ตวั เลือกต่อไปน้ี
1. เลือกเสิร์ฟหรือรับเสิร์ฟก่อนในเกมแรก โดยคู่แข่งจะไดเ้ ลือกแดนแทน
2. เลือกแดนในเกมแรก โดยคู่แข่งจะไดเ้ ลือกเสิร์ฟหรือรับเสิร์ฟในเกมแรกแทน
3. เลือกใหค้ ู่แขง่ เป็นฝ่ายเลือก 1 ใน 2 ขอ้ ดา้ นบน
การตีลกู กลบั
เมื่อลูกขา้ มตาข่ายมาแลว้ สามารถตีลูกกลบั ไปในแดนคูแ่ ข่ง โดยท่ีลกู บอลอาจจะยงั ไมก่ ระทบพ้ืนสนามเลย
ก็ได้ หรือลกู กระทบพ้นื สนามฝ่ายของเรามาแลว้ ไม่เกิน 1 คร้ังก็ได้
ตอ้ งตีลูกบอลกลบั ภายในคร้ังเดียว
การตีลูกบอลกลบั แลว้ ลกู สมั ผสั ตาข่ายขา้ มไปยงั ฝ่ังตรงขา้ มไม่ถือวา่ ผดิ กติกา
ผเู้ ล่นฝ่ายใดไมส่ ามารถตีลูกบอลกลบั ไปยงั แดนของฝ่ ายตรงขา้ มไดโ้ ดยถกู กติกา จะตอ้ งเสียคะแนนน้นั ให้
คู่แขง่
การสลบั แดน
การสลบั แดน สลบั แดนเม่ือเกมรวมกนั เป็นเลขคี่และเมื่อจบเซ็ต แต่หากจบเซต็ โดยเกมรวมกนั เป็นเลขคู่ จะ
สลบั แดนหลงั จากจบเกมแรกของเซ็ตถดั ไป ส่วนการสลบั แดนในการเล่นไทเบรกจะสลบั เม่ือคะแนนรวมกนั
ไดท้ ุก 6 คะแนน
การตัดสินผู้ชนะ
การตดั สินผชู้ นะของการแข่งขนั (MATCH) ตดั สินจากจานวนเซ็ต(SET) ท่ีไดก้ าหนดไวใ้ นการแข่งขนั น้นั
โดยในแต่ละเซ็ตจะประกอบดว้ ยหลายๆเกม(GAME) และในแตล่ ะเกมจะประกอบไปดว้ ยการนบั คะแนน
(POINT) จากการเล่น ดงั น้ี
การนับเกมของเซ็ต
ในแตล่ ะเซ็ต ฝ่ายใดทาได้ 6 เกมก่อนและอีกฝ่ายทาไดไ้ ม่เกิน 4 เกม จะเป็นฝ่ายชนะในเซ็ตน้นั เช่น ชนะ 6-4
เกม หรือ 6-3 เกม เป็นตน้
กรณีเซ็ตน้นั เสมอกนั ท่ี 5-5 เกม จะตอ้ งเล่นต่อจนฝ่ ายใดฝ่ายหน่ึงทาได้ 7 เกมก่อนก็จะเป็นฝ่ายชนะเซ็ตน้นั
เช่น ชนะ 7-5 เกม
กรณีเซ็ตน้นั เสมอกนั ท่ี 6-6 เกม จะตอ้ งเล่นไทเบรกต่อในเกมที่ 7 เพ่อื ตดั สินผชู้ นะเซ็ต ซ่ึงจะชนะ 7-6 เกม
หรือแพ้ 6-7 เกม (ยกเวน้ ในเซ็ตสุดทา้ ยของรายการแกรนดส์ แลมจะไม่มีการเล่นไทเบรก จะเล่นจนกวา่ ฝ่ ายใด
ฝ่ายหน่ึงนาคูแ่ ขง่ ได้ 2 เกม)
จานวนเกมในแตล่ ะเซ็ตอาจแปรเปล่ียนไดต้ ามกติกาของบางรายการแข่งขนั ท่ีกาหนดข้ึนเฉพาะกิจ
การนับคะแนนของเกม
ในเกมหน่ึงๆ ไมว่ า่ ฝ่ ายใดกต็ ามทาคะแนนไดจ้ ะนบั คะแนนของฝ่ ายน้นั เรียงตามลาดบั ดงั น้ี 15, 30, 40,
เกม (ซ่ึงก็คือคะแนนท่ี 1, 2, 3, 4 ที่ทาไดต้ ามลาดบั นนั่ เอง) ส่วนคะแนนศนู ย์ (0) ภาษาองั กฤษขานวา่ เลิฟ
(LOVE)
ในการขานคะแนน ให้ขานคะแนนของฝ่ายท่ีเสิร์ฟข้ึนก่อน เช่น 40-30 หมายถึง ฝ่ายเสิร์ฟได้ 40 คะแนน และ
ฝ่ายรับเสิร์ฟได้ 30 คะแนน เป็นตน้
หากคะแนนเสมอกนั ท่ี 40-40 จะตอ้ งเล่นต่อไปอีก 2 คะแนน เรียกวา่ ดวิ ซ์ (DEUCE) และเม่ือฝ่ ายใดฝ่ ายหน่ึงทา
คะแนนนา 1 คะแนนไดก้ ่อน เรียกวา่ ได้เปรียบ (ADVANTAGE มกั ใชอ้ กั ษรยอ่ A หรือ ADV) เช่น 40-A หรือ A-
40 และหากฝ่ายน้นั ทาไดอ้ ีก 1 คะแนน ก็จะชนะในเกมน้ีไป แตห่ ากทาไม่ไดก้ ถ็ ือวา่ กลบั มาเสมอกนั ท่ี 40-40
อีกคร้ัง และก็ตอ้ งเล่นดิวซ์ต่อไป (แต่มกี ติกาพเิ ศษในบางรายการแข่งขนั ที่กาหนดวา่ จะไมม่ ีการเล่นตอ่ 2
คะแนน ฝ่ายไหนไดค้ ะแนนหลงั จากคะแนนที่ 40 ก่อนถือวา่ ชนะเกมน้นั )
หากเกมใดที่ฝ่ายเสิร์ฟของเกมน้นั เป็นฝ่ายชนะ จะเรียกวา่ รักษาเกมเสิร์ฟได้ แต่หากฝ่ายเสิร์ฟแพเ้ กมน้นั
จะเรียกว่า ถูกเบรกเกมเสิร์ฟ
ไทเบรก (tie break) ใชเ้ พื่อตดั สินผชู้ นะของเซ็ตน้นั ในกรณีท่ีท้งั สองฝ่ ายเสมอกนั ที่ 6-6 เกม การเล่นเกมที่
7 เป็นเกมสุดทา้ ยของเซ็ต เรียกวา่ เล่น ไทเบรก โดยในเกมน้ีจะนบั คะแนนเป็น 1, 2, 3,... ไปเร่ือยๆ ฝ่ายใดที่
ทาได้ 7 คะแนนก่อนจะเป็นผชู้ นะในเซ็ตน้นั เช่น ชนะ 7-4 คะแนนของเกมที่ 7 ก็จะเป็นฝ่ายชนะในเซ็ต
น้นั เป็นตน้ แต่หากคะแนนของเกมน้ีเสมอกนั ท่ี 6-6 คะแนนอีก ผเู้ ล่นฝ่ายใดกต็ ามท่ีทาคะแนนนาคูแ่ ขง่ ได้
2 คะแนนก่อนจะเป็นผชู้ นะในเซ็ตน้นั เช่น ชนะ 8-6 คะแนน หรือแพ้ 8-10 คะแนน เป็นตน้ เม่ือไทเบรก
จบลง ผลจะเป็นชนะ 7-6 เกม หรือแพ้ 6-7 เกมในเซ็ตน้นั ๆ (ยกเวน้ ในเซ็ตสุดทา้ ยของรายการแกรนด์
สแลมจะไมม่ กี ารเล่นไทเบรก
จดั ทาโดย
นาย วิทวสั กนั ไพรี ช้นั ม.5/1 เลขที่ 37
เสนอ
ครู บรรลือศกั ด์ิ จินตนากลู