The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ระเบียบคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินว่าด้วยการกำหนดมาตรฐานการควบคุมภายใน พ.ศ.2544

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by sompuan341, 2022-07-04 00:53:08

ระเบียบคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินว่าด้วยการกำหนดมาตรฐานการควบคุมภายใน พ.ศ.2544

ระเบียบคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินว่าด้วยการกำหนดมาตรฐานการควบคุมภายใน พ.ศ.2544

ระเบยี บคณะกรรมการตรวจเงนิ แผน่ ดนิ

ว่าด้วยการกาหนดมาตรฐานการควบคมุ ภายในพ.ศ. ๒๕๔๔

โดยท่ีสมควรกำหนดมำตรฐำนกำรควบคุมภำยในเพื่อให้หน่วยรับตรวจมีแนวทำงในกำร
จดั ระบบกำรควบคมุ ภำยในให้เป็นไปอยำ่ งมีประสิทธิภำพและประสิทธิผล อนั จะส่งผลให้เกิด
ประโยชน์สูงสุดในกำรดำเนินงำนและแก่กำรใชจ้ ่ำยเงนิ และทรพั ยส์ ินของประเทศชำติโดยรวม

อำศยั อำนำจตำมควำมในมำตรำ ๕ และมำตรำ ๑๕ (๓) (ก) (ค) แห่งพระรำชบญั ญตั ิ
ประกอบรัฐธรรมนูญว่ำดว้ ยกำรตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๔๒ คณะกรรมกำรตรวจเงิน
แผ่นดินจึง ออกระเบียบไว้ ดงั ตอ่ ไปน้ี

ขอ้ ๑ ระเบียบน้ีเรียกว่ำ “ระเบียบคณะกรรมกำรตรวจเงินแผ่นดินว่ำดว้ ยกำรกำหนด
มำตรฐำนกำรควบคุมภำยใน พ.ศ. ๒๕๔๔”

ขอ้ ๒ ระเบยี บน้ีใหใ้ ชบ้ งั คบั ต้งั แตว่ นั ถดั จำกวนั ประกำศในรำชกิจจำนุเบกษำเป็นตน้ ไป
ขอ้ ๓ ในระเบียบน้ี
“หน่วยรับตรวจ” หมำยควำมว่ำ
(๑) กระทรวง ทบวง กรม ส่วนรำชกำรทเี่รียกช่ืออยำ่ งอ่ืนท่มี ีฐำนะเป็นกระทรวง ทบวง หรือกรม
(๒) หน่วยงำนของรำชกำรส่วนภูมภิ ำค
(๓) หน่วยงำนของรำชกำรส่วนทอ้ งถน่ิ
(๔) รัฐวิสำหกิจตำมกฎหมำยวำ่ ดว้ ยวิธีกำรงบประมำณหรือตำมกฎหมำยอ่ืน
(๕) หน่วยงำนอืน่ ของรฐั
(๖) หน่วยงำนทไี่ ดร้ บั เงนิ อุดหนุน หรือกิจกำรท่ีไดร้ บั เงนิ หรือทรพั ยส์ ินลงทุนจำกหน่วยรับ
ตรวจตำม (๑) (๒) (๓) (๔) หรือ (๕)

(๗) หน่วยงำนอนื่ ใดหรือกิจกำรทไี่ ดร้ บั เงนิ อดุ หนุนจำกรฐั ท่มี ีกฎหมำยกำหนดให้

สำนกั งำน กำรตรวจเงนิ แผน่ ดินเป็นผตู้ รวจสอบ

“หน่วยงำนของรำชกำรส่วนทอ้ งถนิ่ ” หมำยควำมว่ำ องคก์ ำรบริหำรส่วนจงั หวดั เทศบำล องคก์ ำร
บริหำรส่วนตำบล กรุงเทพมหำนคร เมอื งพทั ยำ และองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถนิ่ อืน่ ท่ีมกี ฎหมำยจดั ต้งั ข้ึน

“ผกู้ ำกบั ดแู ล” หมำยควำมวำ่ บุคคลหรือคณะบคุ คลผมู้ หี นำ้ ทีร่ ับผดิ ชอบในกำรกำกบั ดแู ลหรือ
บงั คบั บญั ชำผรู้ ับตรวจหรือหน่วยรบั ตรวจ

“ผรู้ บั ตรวจ” หมำยควำมวำ่ หวั หนำ้ ส่วนรำชกำร หวั หนำ้ หน่วยงำน หรือผบู้ ริหำรระดบั สูง
ผรู้ บั ผดิ ชอบในกำรปฏิบตั ริ ำชกำรหรือกำรบริหำรของหน่วยรบั ตรวจ

“ฝ่ำยบริหำร” หมำยควำมวำ่ ผูร้ บั ตรวจหรือผบู้ ริหำรทกุ ระดบั ของหน่วยรบั ตรวจ

“ผูต้ รวจสอบภำยใน” หมำยควำมวำ่ ผดู้ ำรงตำแหน่งผตู้ รวจสอบภำยในของหน่วยรับตรวจหรือดำรง
ตำแหน่งอ่ืนทท่ี ำหนำ้ ทเี่ ช่นเดียวกบั ผตู้ รวจสอบภำยใน

“กำรควบคุมภำยใน” หมำยควำมวำ่ กระบวนกำรปฏิบตั ิงำนท่ีผกู้ ำกบั ดูแล ฝ่ำยบริหำรและ
บคุ ลำกรของหน่วยรบั ตรวจจดั ใหม้ ีข้ึน เพื่อสร้ำงควำมมนั่ ใจอยำ่ งสมเหตุสมผลวำ่ กำรดำเนินงำน
ของหน่วยรบั ตรวจจะบรรลุวตั ถุประสงคข์ องกำรควบคุมภำยในดำ้ นประสิทธิผลและประสิทธิภำพ
ของกำร ดำเนินงำน ซ่ึงรวมถึงกำรดูแลรกั ษำทรพั ยส์ ิน กำรป้องกนั หรือลดควำมผดิ พลำด ควำม
เสียหำย กำรรวั่ ไหล กำรสิ้นเปลือง หรือกำรทุจริตในหน่วยรบั ตรวจ ดำ้ นควำมเช่ือถือไดข้ องรำยงำน
ทำงกำรเงนิ และดำ้ นกำรปฏบิ ตั ิตำมกฎหมำย ระเบียบ ขอ้ บงั คบั และมตคิ ณะรัฐมนตรี

ขอ้ ๔ ให้ผูก้ ำกบั ดูแล และหรือฝ่ ำยบริหำรเป็ นผูร้ ับผิดชอบในกำรนำมำตรฐำน
กำรควบคุมภำยในของคณะกรรมกำรตรวจเงนิ แผ่นดินทำ้ ยระเบียบน้ีไปใช้เป็นแนวทำงสำหรับกำรจดั
วำงระบบกำรควบคุมภำยในของหน่วยรบั ตรวจใหเ้ ป็นไปอยำ่ งมปี ระสิทธิภำพ และบรรลุตำม
วตั ถุประสงคข์ องกำรควบคุมภำยใน

ขอ้ ๕ ใหห้ น่วยรับตรวจจดั วำงระบบกำรควบคมุ ภำยในโดยใชม้ ำตรฐำนกำรควบคมุ ภำยในทำ้ ย
ระเบียบน้ีเป็นแนวทำงใหแ้ ลว้ เสร็จภำยในหน่ึงปี นับแต่วนั ทีร่ ะเบียบน้ีใชบ้ งั คบั โดยอย่ำงน้อยต้อง
แสดงข้อมูล ดังน้ี

(๑) สรุปภำรกิจและวตั ถุประสงคก์ ำรดำเนินงำนที่สำคญั ในระดบั หน่วยรบั ตรวจ และระดบั
กิจกรรม

(๒) ขอ้ มูลเก่ียวกบั สภำพแวดลอ้ มกำรควบคุม โดยเฉพำะเกี่ยวกบั ควำมซื่อสตั ย์ และจริยธรรมของ
ผบู้ ริหำรระดบั สูงและบคุ ลำกรในหน่วยรับตรวจ

(๓) ควำมเส่ียงท่สี ำคญั ท่ีมีผลกระทบตอ่ กำรบรรลวุ ตั ถุประสงคข์ องกำรควบคมุ ภำยใน

(๔) ขอ้ มลู เก่ียวกบั กิจกรรมกำรควบคุมเพื่อป้องกนั หรือลดควำมเสี่ยงท่ีสำคญั ตำม (๓)

(๕)ผรู้ บั ผดิ ชอบประเมนิ ระบบกำรควบคุมภำยใน และวิธีกำรตดิ ตำมประเมนิ ผล

ใหห้ น่วยรับตรวจรำยงำนควำมคบื หนำ้ ในกำรจดั วำงระบบกำรควบคุมภำยในต่อ ผู้
กำกบั ดูแล และคณะกรรมกำรตรวจสอบของหน่วยรับตรวจ (ถำ้ มี) ทกุ หกสิบวนั พร้อมท้งั ส่ง
สำเนำให้สำนกั งำนกำรตรวจเงินแผน่ ดินดว้ ย เวน้ แต่สำนกั งำนกำรตรวจเงนิ แผ่นดินจะขอให้
ดำเนินกำรเป็นอยำ่ งอื่น

ขอ้ ๖ ให้ผรู้ บั ตรวจรำยงำนต่อคณะกรรมกำรตรวจเงินแผน่ ดิน ผกู้ ำกบั ดแู ล และคณะกรรมกำร
ตรวจสอบเก่ียวกบั กำรควบคมุ ภำยในอยำ่ งนอ้ ยปี ละหน่ึงคร้งั ภำยในเกำ้ สิบวนั นบั จำกวนั สิ้นปี งบประมำณ หรือ ปี
ปฏิทนิ แลว้ แตก่ รณี เวน้ แตก่ ำรรำยงำนคร้ังแรกใหก้ ระทำภำยในสองร้อยสี่สิบวนั นบั จำกวนั วำงระบบกำรควบคุม
ภำยในแลว้ เสร็จ โดยมรี ำยละเอยี ด ดงั น้ี

(๑) ทำควำมเห็นว่ำระบบกำรควบคุมภำยในของหน่วยรบั ตรวจท่ีใชอ้ ยมู่ มี ำตรฐำนตำมระเบียบ
น้ี หรื อไม่

(๒) รำยงำนผลกำรประเมนิ ควำมเพยี งพอและประสิทธิผลของระบบกำรควบคมุ ภำยในใน

กำรบรรลวุ ตั ถปุ ระสงคแ์ ละเป้ำหมำยที่กำหนด รวมท้งั ขอ้ มลู สรุปผลกำรประเมนิ แตล่ ะ

องคป์ ระกอบของกำรควบคมุ ภำยใน ประกอบดว้ ย

(ก) สภำพแวดล้อมของกำรควบคุม

(ข) กำรประเมินควำมเสี่ยง

(ค) กิจกรรมกำรควบคุม

(ง) สำรสนเทศและกำรส่ือสำร

(จ) กำรติดตำมประเมินผล

(๓) จุดอ่อนของระบบกำรควบคุมภำยในพร้อมข้อเสนอแนะและแผนกำรปรับปรุง
ระบบกำรควบคุมภำยใน

ขอ้ ๗ ในกรณีหน่วยรบั ตรวจไม่สำมำรถปฏบิ ตั ิตำมระเบยี บน้ีได้ ใหข้ อทำควำมตกลงกบั
คณะกรรมกำรตรวจเงนิ แผ่นดิน

ขอ้ ๘ ในกรณีหน่วยรับตรวจมีเจตนำหรือปล่อยปละละเลยในกำรปฏบิ ตั ิตำมระเบียบน้ี หรือ
ตำมขอ้ เสนอแนะของคณะกรรมกำรตรวจเงินแผ่นดิน หรือสำนกั งำนกำรตรวจเงินแผ่นดินโดยไมม่ ีเหตุอนั
ควร คณะกรรมกำรตรวจเงนิ แผ่นดินสำมำรถเสนอขอ้ สังเกตและควำมเห็นพร้อมท้งั พฤติกำรณข์ อง
หน่วยรบั ตรวจน้นั ใหก้ ระทรวงเจำ้ สังกดั หรือผูบ้ งั คบั บญั ชำหรือผูค้ วบคุมกำกบั หรือรบั ผิดชอบของ
หน่วยรบั ตรวจ แลว้ แตก่ รณี เพือ่ กำหนดมำตรกำรทจี่ ำเป็นเพ่ือให้หน่วยรบั ตรวจไปปฏิบตั ิ

ในกรณีกระทรวงเจำ้ สังกดั หรือผบู้ งั คบั บญั ชำ หรือผคู้ วบคุมกำกบั หรือรับผดิ ชอบของ
หน่วยรับตรวจไมด่ ำเนินกำรตำมวรรคหน่ึงภำยในระยะเวลำอนั สมควร คณะกรรมกำรตรวจเงนิ
แผน่ ดินสำมำรถรำยงำนต่อประธำนรฐั สภำ เพอ่ื แจง้ ไปยงั คณะกรรมำธิกำรของรฐั สภำทเี่ ก่ียวขอ้ ง
เพอื่ พิจำรณำดำเนินกำรตำมอำนำจหนำ้ ที่ และแจง้ ไปยงั คณะกรรมำธิกำรพิจำรณำงบประมำณรำยจำ่ ย
ประจำปี ของรฐั สภำ เพ่ือประกอบกำรพิจำรณำร่ำงพระรำชบญั ญตั งิ บประมำณรำยจ่ำยประจำปี

ขอ้ ๙ ให้ประธำนกรรมกำรตรวจเงินแผน่ ดินรกั ษำกำรตำมระเบยี บน้ี และใหค้ ณะกรรมกำร
ตรวจเงนิ แผ่นดินมีอำนำจตคี วำมและวนิ ิจฉัยปัญหำท่เี กิดข้นึ จำกกำรบงั คบั ใชร้ ะเบียบน้ี

ในกรณีมีเหตอุ นั สมควร คณะกรรมกำรตรวจเงินแผ่นดินอำจยกเวน้ หรือผ่อนผนั กำร
ปฏิบตั ติ ำมควำมในระเบยี บน้ีได้

ประกำศ ณ วนั ที่ ๒๘ กนั ยำยน พ.ศ.๒๕๔๔

(นำยปัญญำ ตนั ตยิ วรงค)์
ประธำนกรรมกำรตรวจเงินแผ่นดิน

ประกำศในรำชกิจจำนุเบกษำ ฉบบั กฤษฎีกำ เลม่ ๑๑๘ ตอนท่ี ๙๙ ก วนั ท่ี ๒๖ ตุลำคม ๒๕๔๔

คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน

มาตรฐานการควบคุมภายใน

บทนา

๑. กำรควบคุมภำยในเป็นปัจจยั สำคญั ทจี่ ะช่วยใหก้ ำรดำเนินงำนตำมภำรกิจมีประสิทธิภำพ
ประหยดั และมปี ระสิทธิผล และช่วยป้องกนั หรือลดควำมเส่ียงจำกกำรผดิ พลำด ควำม
เสียหำย ไมว่ ำ่ จะในรูปของควำมสิ้นเปลือง ควำมสูญเปล่ำของกำรใชท้ รพั ยส์ ิน หรือกำร
กระทำอนั เป็นกำรทจุ ริต

๒. มำตรฐำนกำรควบคมุ ภำยในท่ีกำหนดโดยคณะกรรมกำรตรวจเงินแผ่นดินน้ีไดจ้ ดั ทำจำกผลกำร
ตรวจสอบและประสบกำรณ์กำรตรวจสอบของสำนกั งำนกำรตรวจเงนิ แผ่นดิน รวมท้งั ไดอ้ นุ
วตั ติ ำม มำตรฐำนสำกล คือ รำยงำนของคณะกรรมกำรร่วมของสถำบนั วชิ ำชีพ ๕ แห่ง และ
แนวทำงปฏบิ ตั เิ กี่ยวกบั มำตรฐำนกำรควบคุมภำยในของสถำบนั กำรตรวจเงนิ แผ่นดินระหว่ำง
ประเทศ (International Organization of Supreme Audit Institutions-INTOSAI) มำปรบั ใชต้ ำม
ควำมเหมำะสมกบั สภำพแวดลอ้ มของไทย

แนวคดิ

๓. แนวคิดเก่ียวกบั กำรควบคมุ ภำยใน มีดงั น้ี

(๑) การควบคุมภายในเป็ นส่วนประกอบทแ่ี ทรกอย่ใู นการปฏบิ ัติงานตามปกติ กำรควบคมุ
ภำยในเป็นสิ่งทีต่ อ้ งกระทำอยำ่ งเป็นข้นั ตอน มใิ ช่เป็ นผลสุดทำ้ ยของกำรกระทำ แตเ่ ป็นกระบวนกำรท่ี
ตอ่ เน่ือง และแทรกอยใู่ นกำรปฏิบตั ิงำนตำมปกติของหน่วยรับตรวจ ฝ่ำยบริหำรจึงควรนำกำรควบคมุ ภำยใน
มำใชโ้ ดยรวมเป็นส่วนหน่ึงของกระบวนกำรบริหำรงำน ซ่ึงไดแ้ ก่ กำรวำงแผน กำรดำเนินกำร และกำร
ติดตำมผล

(๒) การควบคุมภายในเกดิ ขนึ้ ได้โดยบุคลากรของหน่วยรับตรวจ บคุ ลำกรทุกระดบั ของหน่วยรับตรวจเป็นผู้
มี บทบำทสำคญั ในกำรทำให้มีกำรควบคุมภำยในเกิดข้ึนในหน่วยรบั ตรวจ ฝ่ ำยบริหำรเป็นผูร้ บั ผดิ ชอบใน
กำรจดั ให้มรี ะบบกำรควบคมุ ภำยในท่ดี ี โดยกำรกำหนดวตั ถปุ ระสงค์ กำรวำงกลไกกำร
ควบคุม และกำรกำหนดกิจกรรมต่ำง ๆ รวมท้งั กำรติดตำมผลกำรควบคมุ ภำยใน ส่วน

บคุ ลำกรอ่ืนของหน่วยรับตรวจรับผิดชอบต่อกำรปฏบิ ตั ติ ำมระบบกำรควบคมุ ภำยในท่กี ำหนด
ข้ึน

(๓) การควบคมุ ภายในให้ความมน่ั ใจอย่างสมเหตสุ มผลว่าจะบรรลตุ ามวตั ถปุ ระสงค์ทกี่ าหนด
แมว้ ่ำกำรควบคมุ ภำยในจะออกแบบไวด้ ีเพียงใดกต็ ำมกไ็ มส่ ำมำรถใหค้ วำมมนั่ ใจว่ำจะทำให้กำรดำเนินงำน
บรรลุตำมวตั ถปุ ระสงคอ์ ยำ่ งสมบูรณ์ เพรำะกำรควบคมุ ภำยในยงั มขี อ้ จำกดั จำกปัจจยั อื่นซ่ึงมี
ผลกระทบต่อกำรบรรลวุ ตั ถุประสงคข์ องหน่วยรบั ตรวจ เช่น กำรใชด้ ลุ ยพนิ ิจผดิ พลำด กำร
สมรู้ร่วมคิดกนั กำรปฏบิ ตั ผิ ดิ กฎหมำย ระเบียบและกฎเกณฑท์ ีก่ ำหนดไว้ นอกจำกน้ีกำรวำง
ระบบกำรควบคมุ ภำยในจะตอ้ งคำนึงถึงตน้ ทนุ และผลประโยชน์ทีเ่ ก่ียวขอ้ งกนั ว่ำผลประโยชน์
ทีไ่ ดร้ บั จำกกำรควบคมุ ภำยในจะคมุ้ ค่ำกบั ตน้ ทนุ ที่เกิดข้ึน

คานยิ าม

๔. “หน่วยรับตรวจ” หมำยควำมว่ำ

(๑) กระทรวง ทบวง กรม ส่วนรำชกำรทเ่ี รียกช่ืออยำ่ งอนื่ ท่มี ีฐำนะเป็นกระทรวง ทบวง หรือกรม

(๒) หน่วยงำนของรำชกำรส่วนภมู ิภำค

(๓) หน่วยงำนของรำชกำรส่วนทอ้ งถ่ิน ไดแ้ ก่ องคก์ ำรบริหำรส่วนจงั หวดั เทศบำล องคก์ ำร
บริหำรส่วนตำบล กรุงเทพมหำนคร เมอื งพทั ยำ และองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ อ่ืนทม่ี กี ฎหมำย
จดั ต้งั ข้นึ

(๔) รฐั วสิ ำหกิจตำมกฎหมำยว่ำดว้ ยวิธีกำรงบประมำณหรือตำมกฎหมำยอนื่

(๕) หน่วยงำนอืน่ ของรฐั ไดแ้ ก่ หน่วยงำนอสิ ระ องคก์ ำรมหำชน เป็นตน้

(๖ ) หน่วยงำนทไ่ี ดร้ ับเงินอดุ หนุน หรือกิจกำรท่ีไดร้ ับเงนิ หรือทรพั ยส์ ินลงทนุ จำกหน่วยรบั ตรวจตำม (๑)
(๒) (๓) (๔) หรือ (๕) ไดแ้ ก่ องคก์ รเอกชน เป็นตน้

(๗) หน่วยงำนอืน่ ใดหรือกิจกำรท่ไี ดร้ บั เงินอดุ หนุนจำกรฐั ท่ีมกี ฎหมำยกำหนดใหส้ ำนกั งำน
กำรตรวจเงินแผน่ ดินเป็นผตู้ รวจสอบ

๕. “ผ้กู ากับดูแล” หมำยควำมวำ่ บคุ คลหรือคณะบคุ คลผมู้ ีหนำ้ ทร่ี ับผดิ ชอบในกำรกำกบั ดแู ลหรือบงั คบั
บญั ชำผรู้ ับตรวจหรือหน่วยรับตรวจ

•• ในกรณีหน่วยรับตรวจระดบั

กรม ไดแ้ ก่ปลดั กระทรวงหรือผดู้ ำรงตำแหน่งเทยี บเทำ่

• • ในกรณีหน่วยรบั ตรวจเป็นรัฐวิสำหกิจ ไดแ้ ก่ คณะกรรมกำรบริหำรของรฐั วสิ ำหกิจน้นั

•• ในกรณีหน่วยรบั ตรวจ

เป็นหน่วยงำนในรำชกำรส่วนภมู ิภำค ไดแ้ ก่ ผูว้ ่ำรำชกำรจงั หวดั ส่วนในกรณีหน่วยรับตรวจ

เป็นหน่วยงำนของรำชกำรส่วนกลำงแตต่ ้งั อยใู่ นส่วนภมู ิภำค ไดแ้ ก่ อธิบดี หรือผดู้ ำรง

ตำแหน่งเทียบเทำ่

• • ในกรณีหน่วยรบั ตรวจเป็นหน่วยงำนของรำชกำรส่วนทอ้ งถ่ิน ไดแ้ ก่ ผูว้ ่ำรำชกำรจงั หวดั

นำยอำเภอ

• • ในกรณีหน่วยงำนอื่นของรัฐ ไดแ้ ก่ บคุ คลหรือคณะบคุ คลทเี่ ป็นผบู้ งั คบั บญั ชำสูงสุดของ

หน่วยงำนน้นั

๖. “ผ้รู ับตรวจ” หมำยควำมวำ่ หวั หนำ้ ส่วนรำชกำร หัวหนำ้ หน่วยงำน หรือผบู้ ริหำรระดบั สูง
ผรู้ บั ผิดชอบในกำรปฏิบตั ิรำชกำรหรือกำรบริหำรของหน่วยรบั ตรวจ

๗. “ฝ่ ายบริหาร” หมำยควำมว่ำผูร้ ับตรวจหรือผบู้ ริหำรทุกระดบั ของหน่วยรับตรวจ

๘. “ผู้ตรวจสอบภายใน” หมำยควำมวำ่ ผดู้ ำรงตำแหน่งผตู้ รวจสอบภำยในของหน่วยรบั ตรวจ หรือ ดำรง
ตำแหน่งอื่น ทท่ี ำหนำ้ ทีเ่ ช่นเดียวกบั ผตู้ รวจสอบภำยใน

๙. “การควบคุมภายใน” หมำยควำมวำ่ กระบวนกำรปฏิบตั ิงำนท่ผี กู้ ำกบั ดูแล ฝ่ ำยบริหำรและ

บคุ ลำกรของหน่วยรับตรวจจดั ใหม้ ีข้ึน เพ่อื สร้ำงควำมมน่ั ใจอยำ่ งสมเหตุสมผลว่ำ กำรดำเนินงำน

ของหน่วยรับตรวจ จะบรรลุวตั ถปุ ระสงคข์ องกำรควบคมุ ภำยในดำ้ นประสิทธิผลและ

ประสิทธิภำพของกำรดำเนินงำน ซ่ึงรวมถึงกำรดแู ลรักษำทรัพยส์ ิน กำรป้องกนั หรือลดควำม

ผิดพลำด ควำมเสียหำย กำรรัว่ ไหล กำรสิ้นเปลอื ง หรือกำรทุจริตในหน่วยรับตรวจ ดำ้ นควำม

เชื่อถอื ไดข้ องรำยงำนทำงกำรเงิน และดำ้ นกำรปฏิบตั ิตำมกฎหมำย ระเบียบ ขอ้ บงั คบั และ

มติคณะรัฐมนตรี

ขอบเขตการใช้

๑๐. มาตรฐานการควบคุมภายในจัดทาขนึ้ เป็ นแม่บท สำหรับหน่วยรบั ตรวจทุกหน่วยใช้เป็น

แนวทำง จดั วำงระบบกำรควบคุมภำยในให้เหมำะสมกบั ลกั ษณะ ขนำด และควำม

สลบั ซบั ซอ้ นของส่วนงำนในควำมรับผิดชอบ และมกี ำรติดตำมประเมนิ ผลกำรควบคุมภำยใน

และปรบั ปรุงกำรควบคมุ ภำยในให้มี ประสิทธิภำพและประสิทธิผลเป็นที่น่ำพอใจอยเู่ สมอ

อยำ่ งไรกต็ ำมกำรนำมำตรฐำนไปใชจ้ ะตอ้ งไม่ขดั กบั กฎหมำย นโยบำย และระเบยี บทีท่ ำงรำชกำร
กำหนด

วตั ถุประสงค์ของการควบคุมภายใน

๑๑. ผกู้ ำกบั ดูแล ฝ่ำยบริหำรและบคุ ลำกรของหน่วยรบั ตรวจตอ้ งใหค้ วำมสำคญั ตอ่ วตั ถปุ ระสงค์
ของกำรควบคุมภำยในตำมมำตรฐำนน้ี ซ่ึงมวี ตั ถุประสงคท์ ส่ี ำคญั ๓ ประกำร คือ

(๑) เพื่อให้เกดิ ประสิทธิผลและประสิทธิภาพของการดาเนินงาน (Operation Objectives)
ไดแ้ ก่ กำรปฏิบตั ิงำนและกำรใชท้ รัพยำกรของหน่วยรับตรวจให้เป็นไปอยำ่ งมีประสิทธิภำพ
และประสิทธิผล ซ่ึงรวมถึงกำรดแู ลรักษำทรัพยส์ ิน กำรป้องกนั หรือลดควำมผิดพลำด ควำม
เสียหำย กำรร่ัวไหล กำร สิ้นเปลอื ง หรือกำรทุจริตในหน่วยรับตรวจ

(๒) เพอ่ื ให้เกดิ ความเช่ือถือได้ของการรายงานทางการเงนิ (Financial Reporting Objectives) ไดแ้ ก่
กำรจดั ทำรำยงำนทำงกำรเงินท่ีใชภ้ ำยในและภำยนอกหน่วยรับตรวจใหเ้ ป็นไปอยำ่ งถูกตอ้ ง
เชื่อถอื ได้ และทนั เวลำ

(๓) เพอื่ ให้เกดิ การปฏบิ ตั ติ ามกฎหมาย และระเบียบข้อบังคบั ท่ีเกยี่ วข้อง (Compliance
Objectives) ไดแ้ ก่ กำรปฏิบตั ติ ำมกฎหมำย ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั หรือมติคณะรัฐมนตรีท่ี
เกี่ยวขอ้ งกบั กำรดำเนินงำนของหน่วยรับตรวจ รวมท้งั กำรปฏิบตั ติ ำมนโยบำย และวธิ ีกำร
ปฏิบตั ิงำนท่ี หน่วยรบั ตรวจไดก้ ำหนดข้นึ

๑๒. วตั ถปุ ระสงค์ของกำรควบคมุ ภำยในของแต่ละหน่วยรับตรวจจะแตกต่ำงกนั ไปข้นึ กบั ฝ่ ำยบริหำร
ให้ควำมสำคญั กบั วตั ถุประสงคใ์ ดมำกกว่ำกนั กลำ่ วคอื บำงหน่วยงำนอำจเนน้ เรื่องระวงั ป้องกนั
กำรทุจริต กำร รั่วไหล บำงหน่วยงำนเนน้ กำรบรรลุวตั ถุประสงคท์ ำงกำรบริหำร บำง
หน่วยงำนอำจเนน้ เรื่องกำรใชป้ ระโยชนส์ ูงสุดจำกทรัพยำกร บำงหน่วยงำนอำจเนน้ เร่ืองกำร
รำยงำนถูกตอ้ ง ซ่ึงเป็นเร่ืองของนโยบำย ทศั นคติ ลกั ษณะหน่วยงำน หรือทุกเร่ืองผสมผสำนกนั
กำรจดั วำงระบบกำรควบคมุ ภำยในจึงควรให้ควำมสำคญั กบั กำรกำหนดวตั ถุประสงคข์ องกำร
ควบคุมทีก่ ำหนดและปรับปรุงกำรควบคมุ ภำยในให้มี ประสิทธิภำพ และประสิทธิผลอยู่เสมอ

องค์ประกอบของมาตรฐานการควบคมุ ภายใน

๑๓ . มำตรฐำนกำรควบคุมภำยในประกอบดว้ ยองคป์ ระกอบ ๕ ประกำร ซ่ึงผกู้ ำกบั ดแู ลและฝ่ ำย
บริหำรจะตอ้ งจดั ใหม้ ีในกำรดำเนินงำนเพอ่ื ให้บรรลวุ ตั ถปุ ระสงคข์ องกำรควบคมุ ภำยใน

(๑ ) สภำพแวดลอ้ มของกำรควบคุม (Control Environment )

(๒ ) กำรประเมินควำมเสี่ยง (Risk Assessment )

(๓ ) กิจกรรมกำรควบคมุ (Control Activities )

(๔ ) สำรสนเทศ และ กำรสื่อสำร ( Information and Communications )

(๕ ) กำรติดตำมประเมนิ ผล (Monitoring )

๑๔. สภาพแวดล้อมของการควบคุม

“สภำพแวดลอ้ มของกำรควบคมุ ” หมำยถึง ปัจจยั ต่ำง ๆ ซ่ึงร่วมกนั ส่งผลใหม้ กี ำร
ควบคมุ ข้ึนในหน่วยรบั ตรวจ หรือทำให้กำรควบคุมท่มี ีอยไู่ ดผ้ ลดขี ้ึน หรือในทำงตรงขำ้ ม
สภำพแวดลอ้ มอำจทำใหก้ ำรควบคมุ ยอ่ หยอ่ นลงได้

ตวั อยำ่ งปัจจยั เก่ียวกบั สภำพแวดลอ้ มกำรควบคมุ ภำยใน เช่น ปรัชญำและรูปแบบกำร
ทำงำนของผบู้ ริหำร ควำมซ่ือสัตยแ์ ละจริยธรรม ควำมรู้ ทกั ษะและควำมสำมำรถของบุคลำกร
โครงสร้ำงกำรจดั องคก์ ร กำรมอบอำนำจและหนำ้ ท่ีควำมรบั ผดิ ชอบ นโยบำยและวธิ ีบริหำรดำ้ น
บคุ ลำกร เป็นตน้

ในการดาเนินการเกย่ี วกบั สภาพแวดล้อมของการควบคมุ ผ้กู ากับดูแล ฝ่ ายบริหาร และ

บุคลากรของหน่วยรับตรวจต้องสร้างบรรยากาศของการควบคมุ เพือ่ ให้เกดิ ทศั นคติที่ดีต่อการ

ควบคุมภายใน โดยส่งเสริมให้บุคลากรทกุ คนในหน่วยรับตรวจเกดิ จติ สานึกทด่ี ีในการ

ปฏิบัติงานในความรับผิดชอบ และตระหนกั ถงึ ความจาเป็ นและความสาคญั ของการควบคมุ

ภายใน รวมท้งั ดารงรักษาไว้ซ่ึงสภาพแวดล้อมของการควบคุมท่ีดี

๑๕. การประเมนิ ความเส่ียง

“ควำมเส่ียง” หมำยถงึ โอกำสท่ีจะเกิดควำมผดิ พลำด ควำมเสียหำย กำรรวั่ ไหล
ควำมสูญเปลำ่ หรือเหตุกำรณ์ซ่ึงไมพ่ ึงประสงคท์ ีท่ ำใหง้ ำนไมป่ ระสบควำมสำเร็จตำม
วตั ถปุ ระสงคแ์ ละเป้ำหมำยทกี่ ำหนด

“กำรประเมินควำมเส่ียง” หมำยถงึ กระบวนกำรทใ่ี ชใ้ นกำรระบแุ ละกำรวิเครำะหค์ วำมเสี่ยงท่ีมี

ผลกระทบตอ่ กำรบรรลวุ ตั ถุประสงคข์ องหน่วยรับตรวจ รวมท้งั กำรกำหนดแนวทำงท่ี

จำเป็นตอ้ งใช้ในกำรควบคมุ ควำมเส่ียง หรือกำรบริหำรควำมเสี่ยง

ในกำรดำเนินกำรเกี่ยวกบั กำรประเมนิ ควำมเส่ียง ฝ่ำยบริหำรตอ้ งประเมนิ ควำมเสี่ยงท้งั จำก
ปัจจยั ภำยในและภำยนอกท่ีมผี ลกระทบตอ่ กำรบรรลุวตั ถปุ ระสงคข์ องหน่วยรับตรวจอยำ่ งเพียงพอ
และเหมำะสม

๑๖. กจิ กรรมการควบคุม

“กิจกรรมกำรควบคมุ ” หมำยถงึ นโยบำย และวิธีกำรต่ำง ๆ ท่ฝี ่ำยบริหำรกำหนดให้บุคลำกรของ
หน่วยรบั ตรวจปฏบิ ตั ิเพอ่ื ลดหรือควบคุมควำมเส่ียง และไดร้ บั กำรสนองตอบโดยมกี ำรปฏบิ ตั ิ
ตำม

ตวั อยำ่ งกิจกรรมกำรควบคมุ เช่น กำรสอบทำนงำน กำรดูแลป้องกนั ทรพั ยส์ ิน กำร
แบ่งแยกหนำ้ ท่งี ำน เป็นตน้

ในการดาเนนิ การเก่ียวกับกจิ กรรมการควบคุม ฝ่ ายบริหารต้องจัดให้มีกิจกรรมการ

ควบคุมที่มีประสิทธิภาพและประสิทธผิ ล เพอื่ ป้องกันหรือลดความเสียหาย ความผิดพลาด ที่

อาจเกดิ ขนึ้ และให้สามารถบรรลผุ ลตามวัตถุประสงค์ของการควบคมุ ภายใน สาหรับ

กิจกรรมการควบคุมในเบือ้ งต้นจะต้องแบ่งแยกหน้าที่งานภายในหน่วยรับตรวจอย่างเหมาะสม ไม่

มอบหมายให้บุคคลใดบุคคลหนึ่งมหี น้าที่เป็ นผ้รู ับผิดชอบปฏิบัติงานท่ีสาคัญหรืองานทีเ่ สี่ยงต่อ

ความเสียหายต้งั แต่ต้นจนจบ แต่ถ้ามีความจาเป็ นให้กาหนดกิจกรรมการควบคุมอื่นที่เหมาะสม

ทดแทน

๑๗. สารสนเทศและการส่ือสาร

“สำรสนเทศ” หมำยถึง ขอ้ มูลขำ่ วสำรทำงกำรเงนิ และขอ้ มูลขำ่ วสำรอน่ื ๆ เกี่ยวกบั กำรดำเนินงำน
ของ หน่วยรบั ตรวจไมว่ ำ่ เป็นขอ้ มูลจำกแหลง่ ภำยในหรือภำยนอก

ในการดาเนินการเกย่ี วกับสารสนเทศและการส่ือสาร ฝ่ ายบริหารต้องจัดให้มีสารสนเทศ
อย่างเพียงพอและส่ือสารให้ฝ่ ายบริหารและบุคลากรอื่น ๆ ทเ่ี หมาะสมท้งั ภายในและภายนอกหน่วยรับ
ตรวจ ซ่ึงจาเป็ นต้องใช้สารสนเทศน้ันในรูปแบบทเ่ี หมาะสมและทนั เวลา

๑๘. การติดตามประเมนิ ผล

“กำรติดตำมประเมนิ ผล” หมำยถึง กระบวนกำรประเมินคณุ ภำพกำรปฏบิ ตั ิงำนและ
ประเมนิ ประสิทธิผลของกำรควบคมุ ภำยในท่ีวำงไวอ้ ยำ่ งต่อเนื่องและสม่ำเสมอ โดยกำร
ติดตำมผลในระหวำ่ งกำรปฏิบตั ิงำน (Ongoing Monitoring ) และกำรประเมนิ ผลเป็นรำยคร้ัง
(Separate Evaluation ) ซ่ึงแยกเป็นกำรประเมินกำรควบคมุ ดว้ ยตนเอง (Control Self-
Assessment ) เช่น กำรประเมนิ กำรควบคมุ โดยกลุ่มผูป้ ฏิบตั งิ ำนภำยในส่วนงำนน้นั ๆ และ
กำรประเมนิ กำรควบคุมอยำ่ งเป็นอิสระ (Independent Assessment ) เช่น กำรประเมนิ โดยผู้
ตรวจสอบภำยใน กำรประเมินผลกำรควบคมุ ภำยในโดยผตู้ รวจสอบภำยนอก เป็นตน้

ในการดาเนินการเกย่ี วกบั การติดตามประเมินผล ฝ่ ายบริหารต้องจดั ให้มกี ารติดตาม
ประเมินผล โดยการติดตามผลในระหว่างการปฏิบัตงิ าน และการประเมินผลเป็ นรายคร้ังอย่าง
ต่อเน่ืองและสมา่ เสมอ เพอ่ื ให้ความม่ันใจว่า

• • ระบบการควบคุมภายในทวี่ างไว้เพยี งพอ เหมาะสม มปี ระสิทธภิ าพ และมกี าร
ปฏบิ ัติจริง

• • การควบคมุ ภายในดาเนนิ ไปอย่างมีประสิทธิผล
• • ข้อตรวจพบจากการตรวจสอบและการสอบทานอืน่ ๆ ได้รับการปรับปรุง

แก้ไขอย่าง เหมาะสมและทันเวลา
• • การควบคมุ ภายในได้รับการปรับปรุงแก้ไขให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่

เปลี่ยนแปลง


Click to View FlipBook Version