โครงงานสำรวจ เรื่อง แบบสำรวจการเลือกซื้อราคาของอาหารของนักเรียนในโรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ ปีการศึกษา 2566 จัดทำโดย นาย จตุรณ จีระมะกร เลขที่ 8 นาย ณัฐกร วงค์ปลั่ง เลขที่ 12 นางสาว เกวลิน กาญจนพัฒนา เลขที่ 16 ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายปีที่ 4 ห้อง 12 เสนอ อาจารย์อภิลักษณ์มาตรหลุบเลา รายงานฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเรียนวิชา IS รหัสวิชา ว31201 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 โรงเรียนมัธยมวัดสิงห์
โครงงานสำรวจ เรื่อง แบบสำรวจการเลือกซื้อราคาของอาหารของนักเรียนในโรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ ปีการศึกษา 2566 จัดทำโดย นาย จตุรณ จีระมะกร เลขที่ 8 นาย ณัฐกร วงค์ปลั่ง เลขที่ 12 นางสาว เกวลิน กาญจนพัฒนา เลขที่ 16 ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายปีที่ 4 ห้อง 12 เสนอ อาจารย์อภิลักษณ์มาตรหลุบเลา รายงานฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเรียนวิชา IS รหัสวิชา ว31201 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 โรงเรียนมัธยมวัดสิงห์
คำนำ รายงานเล่มนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของวิชาการศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เพื่อศึกษาว่านักเรียนส่วนใหญ่ใน โรงเรียนพึงพอใจกับราคาอาหารเท่าไหร่และความเห็นต่างๆจากนักเรียนเรื่องราคาและปริมาณอาหารที่เปลี่ยนไป และได้ศึกษาอย่างเข้าใจเพื่อเป็น ประโยชน์กับการเรียน ผู้จัดทำหวังว่า รายงานเล่มนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน หากมีข้อแนะนำหรือข้อผิดพลาดประการใด ผู้จัดทำขอน้อมรับไว้และขออภัยมา ณ ที่ นี้ด้วย และขอขอบคุณ คณะครูและคณะนักเรียนที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน คณะผู้จัดทำ 25 มกราคม พ.ศ. 2566 สารบัญ
เรื่อง หน้า คำนำ ก สารบัญ ข บทที่ 1 บทนำ 1 ความเป็นมาและความสำคัญ วัตถุประสงค์ในการศึกษา ประโยชน์ในการศึกษา ขอบเขตในการศึกษา บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง 2 นิยามศัพท์ในการศึกษา ที่มาของอาหาร บทที่ 3 วิธีการดำเนินงาน 4 วิธีการจัดทำโครงงาน บทที่ 4 ผลการศึกษาค้นคว้า 5 ข้อมูลส่วนตัวผู้ตอบแบบสอบถาม ข้อมูลแบบสำรวจความพึงพอใจ บทที่ 5 สรุปอภิปรายและเสนอแนะ 10 บรรณานุกรม 11 ภาคผนวก 12 บทที่ 1 บทนำ
1.1 ที่มาและความสำคัญ ปัจจุบัน คนไทยต้องรับมือกับราคาอาหารที่สูงขึ้นอย่างฉับพลัน โดยเฉพาะราคาเนื้อหมู ทำให้วัตถุดิบชนิดอื่นๆ พลอยมีการปรับขึ้นราคาไป ด้วย แต่เมื่อภาวะเงินเฟ้อเริ่มมีความรุนแรงมากขึ้น ประกอบกับการมาของสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำให้ราคาวัตถุดิบที่ไม่ใช่แค่ในอุตสาหกรรมอาหารปรับ ตัวสูงขึ้นอีกเท่าตัวจึงเกิดความสงสัยว่าในโรงเรียนมัธยมวัดสิงห์มีราคาข้าวที่เปลี่ยนไปอย่างไร และแต่ละร้านมีการปรับเปลี่ยนปริมาณข้าวอย่างไร 1.2 วัตถุประสงค์ของโครงงาน 1. เพื่อทราบว่านักเรียนส่วนใหญ่ในโรงเรียนพึงพอใจกับราคาอาหารเท่าไหร่ 2. เพื่อทราบความเห็นนักเรียนเรื่องราคาและปริมาณอาหารที่เปลี่ยนไป 1.3 ขอบเขตการทำโครงงาน 1. กลุ่มตัวอย่างนักเรียนที่ใช้สำรวจ คือ นักเรียนมัธยมวัดสิงห์ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/15, 2/16, 3/15, 3/16, 4/11, 4/12, 4/13, 4/14, 5/11, 5/12, 6/11 และ 6/12 รวม 30 คน 2. ตัวแปรที่จะศึกษา 2.1 ตัวแปรต้น คือ งบอาหารและความชอบของนักเรียนแต่ละคน 2.2 ตัวแปรตาม คือ การเลือกซื้อราคาอาหารโดยเฉลี่ยของนักเรียนกลุ่มน ี้ 2.3 ตัวแปรควบคุม คือ แบบสำรวจและกลุ่มนักเรียน 1.4 ผลที่คาดว่าจะได้รับ 1. ทราบราคาอาหารที่นักเรียนเลือกซื้อและพึงพอใจมากที่สุด 2. ทราบความเห็นด้านราคาและปริมาณอาหารในโรงเรียนมากขึ้น บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง คำนิยามศัพท์ Google Form เป็นส่วนหนึ่งในบริการของกลุ่ม Google Docs ที่ช่วยให้เราสร้าง
แบบสอบถามออนไลน์หรือใช้สำหรับรวบรวมข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการ ใช้งาน Google Form ผู้ใช้สามารถนำไปปรับประยุกต์ใช้งานได้หลายรูปแบบอาทิ เช่น การทำแบบฟอร์มสำรวจความคิดเห็น การทำแบบฟอร์มสำรวจ ความพึงพอใจ การทำแบบฟอร์มลงทะเบียนและการลงคะแนนเสียง เมนูอาหารและราคาในโรงเรียนประกอบไปด้วย ร้าน 1: ไข่ดาวหมูกระเทียม ไข่เจียวหมูกระเทียม ข้าวมันไก่ต้ม ข้าวมันไก่ทอด ราคา 30 บาท เพิ่มข้าว +5 บาท ร้าน 2: ก๋วยเตี๋ยวทุกเส้น ราคา 30 บาท พิเศษ +5บาท ร้าน 3: ข้าวกับของทอดราคา 30 บาท สามารถเลือกได้2 เมนูเพิ่มข้าวฟรี ร้าน 4: ราดหน้าหมี่กรอบผัดซีอิ๊วราคา 30 บาท เพิ่มไข่ +5 บาท ร้าน 5: ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ ราคา 30 บาท ร้าน 6: ข้าวผัดทุกอย่าง ราคา 30 บาท ร้าน 7: เครปโตเกียว เครปราคา 20 บาท โตเกียวมีราคา 20 - 50 บาท ที่มาของอาหารแต่ละเมนูในโรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ 1. ข้าวมันไก่มีต้นกำเนิดบนเกาะไหหลำ จีนกลางออกเสียงว่า “ไห่หนาน” เป็นเกาะทางตอนใต้ของประเทศจีน บนเกาะไหหลำนั้นมีไก่สายพันธุ์ ท้องถิ่นที่มีรสชาติดี เนื่องจากว่าบรรดาไก่ๆ ทั้งหลายได้กินพืชพรรณตามธรรมชาติอันวิเศษบนเกาะแห่งนี้ เนื้อของมันจึงมีรสชาติหวานไม่ เลี่ยน ชาวไหหลำก็นิยมรับประทานไก่แบบง่ายๆ แค่เพียงไก่ต้มธรรมดากับข้าว 2. ก๋วยเตี๋ยว เป็นอาหารต้นตำรับของชาวจีนประเภทเส้น มีทั้งน้ำและแห้ง ซึ่งชาวจีนที่อพยพมาอยู่ประเทศไทยนำมาเผยแพร่จนกลายเป็น อาหารยอดนิยมของทั้งคนไทยและคนจีน เนื่องจากเป็นอาหารที่ทานง่าย มีประโยชน์ให้สารอาหารครบทั้ง 5 หมู่ 3. ราดหน้า ที่เข้ามาแพร่หลายในไทยได้รับอิทธิพลจากอาหารจีน เริ่มนำเข้ามาขายโดยชาวจีนโดยเฉพาะชาวจีนแต้จิ๋ว ราดหน้ายุคแรกจะห่อ ใบตองขาย ใส่ผักกวางตุ้งและหน่อไม้ราดน้ำราดแต่น้อย ต่อมาจึงมีการปรับรูปแบบไปต่าง ๆ กัน 4. ข้าวผัด มีประวัติความเป็นมาไม่แน่ชัด จากบันทึกที่สามารถอ้างอิงได้ข้าวผัดถูกคิดค้นขึ้นที่ประเทศจีน ในสมัยราชวงศ์สุย (Sui dynasty) ระหว่างปีค.ศ. 589–618 ที่เมืองหยางโจว (Yangzhou) ทางตะวันออกของมณฑลเจียงซู (Jiangsu) โดยเชื่อกันว่าที่มาของข้าวผัด เริ่มมาจาก ความต้องการที่จะนำข้าวสวยที่กินเหลือกลับมา 5. เครป มีต้นกำเนิดมาจากประเทศฝรั่งเศส ในยุคแรกเริ่มของเครปนั้น เป็นอาหารของชาวบริตตัน แคว้นบริตตานี ประเทศฝรั่งเศสซึ่งใช้แป้ง บัควีต ( Buck Wheat ) มานวดกับน้ำมันและเกลือจนได้แป้งโด ( dough ) แล้วนำมาอบด้วยหินร้อน ๆ ซึ่งเรียกขนมนี้ว่า “กาเล็ตต์( galettes )” กินกับเนยแข็งและมันฝรั่งแทนขนมปัง
บทที่ 3 วิธีการดำเนินงาน วิธีการจัดทำโครงงาน 3.1 สถานที่ในการศึกษาค้นคว้า โรงอาหารภายในโรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ 3.2 เครื่องมือที่ใช้ในการสำรวจ Google form (แบบสอบถาม) 3.3 วิธีการสำรวจ 3.3.1 จัดทำแบบสอบถามเกี่ยวกับราคาและปริมาณอาหารในโรงอาหาร 3.3.2 นำไปเผยแพร่ผ่านไลน์ห้องของนักเรียนที่เลือกใช้สำรวจ 3.3.3 วิเคราห์ผล 3.3.4 สรุปผลแบบสอบถาม 3.3.5 อภิปรายผล 3.4 วิธีการวิเคราห์ผล
3.4.1 ค่าเฉลี่ย ร้อยละ และเปอร์เซนต์ บทที่ 4 ผลการศึกษาค้นคว้า จากการสำรวจนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3, 4, 5 และ 6 ห้อง 11, 12, 13, 14, 15 และ 16 1. ข้อมูลส่วนตัวผู้ตอบแบบสำรวจ 1.1 เพศผู้ตอบแบบสอบถาม แผนภูมิคำตอบแบบฟอร์ม ชื่อเรื่อง : เพศ จำนวนคำตอบ จำนวน 30 คน
เพศชาย จำนวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 13.3% เพศหญิง จำนวน 22 คน คิดเป็นร้อยละ 73.3% LGBTQ+ จำนวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 13.3% 1.2 ระดับชั้นผู้ตอบแบบสอบถาม แผนภูมิผู้ตอบแบบฟอร์ม เรื่อง : ระดับชั้น จำนวน 30 คน
ห้อง 3/15 จำนวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 20% ห้อง 3/16 จำนวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 10% ห้อง 4/11 จำนวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 10% ห้อง 4/12 จำนวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 16.7% ห้อง 5/11 จำนวน 8 คน คิดเป็นร้อยละ 26.7% ห้อง 5/12 จำนวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 13.3% ห้อง 6/11 จำนวน 0 คน คิดเป็นร้อยละ 0% ห้อง 6/12 จำนวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 3.3% 2. ข้อมูลแบบสำรวจความพึงพอใจ จำนวนแบบสอบจำนวน 5 ข้อ สรุปผลการตอบแบบสอบถามได้ดังน ี้
2.1 คุณนำเงินค่าข้าวมารร.วันละกี่บาทโดยประมาณ 2.2 โดยปกติคุณเลือกซื้ออาหารในราคาเท่าไหร่เป็นประจำ 2.3 คุณชอบทานอะไรในโรงอาหารมากที่สุด
2.4 คุณเลือกกินอาหารกี่เมนูในการรัปประทานอาหารกลางวัน 2.5 ความคิดเห็นเกี่ยวกับความคุ้มค่าของราคาและปริมาณ มีความคิดเห็น จำนวน 5 คน ดังน ี้ 1. ไม่ ปริมาณน้อยเกินค่ะไม่คุ้มเลย 2. ไม่คุ้มเพราะไม่อิ่ม 3. บางร้านก็ไม่ค่อยคุ้ม ราคาเพิ่มเป็น40ก็โอเคเลย ถ้าได้เยอะกว่านี้ ร้านราดหน้าคุ้มสุด กับก๋วยเตี๋ยวต้มยำ 4. บางอย่างก็คุ้มบางอย่างก็ไม่คุ้ม อย่างร้านของทอดบางวันให้น้อยแบบงงๆ บางวันก็ให้เยอะ ราดหน้าหมูปลอม อยากกินหมู ก็คุ้ม สำหรับราคาเท่านี้ในเศรษฐกิจและรัฐบาลแบบนี้ แต่ถ้าเลือกได้ก็ไม่กิน ค่ะ
5. ไม่ค่อย เพราะบางอย่างก็น้อยเกินขนาดไม่เท่ากับร้านข้างนอกที่ขายราคาเท่ากัน บทที่ 5 สรุปอภิปรายและเสนอแนะ
สรุปผลการดำเนินงาน จากการสำรวจนักเรียนโรงเรียนมัธยมวัดสิงห์พบว่านักเรียนไม่ค่อยพอใจกับปริมาณอาหาร บางร้านให้น้อย บางร้านให้ไม่เท่ากัน เมื่อเทียบ กับราคาและร้านนอกโรงเรียน อภิปราย จากการสำรวจนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3, 4, 5 และ 6 ห้อง 11, 12, 13, 14, 15 และ 16 จำนวน 30 คน จะพบว่าปริมาณอาหารที่ได้ไม่ คุ้มค่ากับราคาที่จ่าย ปริมาณอาหารที่ให้นักเรียนในแต่ละวันไม่เท่ากันจึงเกิดความไม่เที่ยงตรงได้ ข้อเสนอแนะ 1. เพิ่มจำนวนผู้สอบถามให้เยอะขึ้นเพื่อปัญหาและข้อมูลที่มากขึ้น 2. เพิ่มจำนวนแบบสอบถามมากขึ้นเพื่อปัญหาในหลายมุมมอง บรรณานุกรม
สำรวจโดย นายจตุรณ จีระมะกร เลขที่ 8 นายณัฐกร วงค์ปลั่ง เลขที่ 12 และ นางสาวเกวลิน กาญจนพัฒนา เลขที่ 16 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ห้อง 12 โรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ตำบลบางขุนเทียน เขตจอมทอง จังหวัดกรุงเทพฯ โดยสำรวจจากนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3, 4, 5 และ 6 ห้อง 11, 12, 13, 14, 15 และ 16 ภาคผนวก ภาพแบบฟอร์มการดำเนินงานสำรวจ