การจดั ทำบัญชรี า้ นเสรมิ สวย โดยประยุกตใ์ ชโ้ ปรแกรม Microsoft Excel
Application of Microsoft Excel program for beauty salon in using
accounting software packages
นางสาวศริ ิลักษณ์ ภาวังค์
นางสาวสตรรี ตั น์ นาคจันทกึ
โครงงานนี้เปน็ ส่วนหน่ึงของการศกึ ษาตามหลักสตู รประกาศนยี บตั รวิชาชีพชน้ั สงู
ประเภทวิชาบรหิ ารธุรกิจ สาขาวชิ าการบัญชี
วทิ ยาลัยอาชีวศึกษาเชียงใหม่
ปกี ารศกึ ษา 2564
การจัดทำบัญชรี ้านเสริมสวย โดยประยุกต์ใช้โปรแกรม Microsoft Excel
Application of Microsoft Excel program for beauty salon in using
accounting software packages
จัดทำโดย
นางสาวศริ ิลักษณ์ ภาวังค์
นางสาวสตรรี ัตน์ นาคจนั ทกึ
นกั ศกึ ษา ช้ัน ปวส. 2/4 สาขาการบญั ชี
ครูทีป่ รึกษาโครงงาน/ครูประจำวชิ าโครงงาน
นางภทั รานษิ ฐ์ พัชริวโรจน์
โครงงานน้เี ป็นสว่ นหนง่ึ ของการศึกษาตามหลักสตู รประกาศนียบัตรวชิ าชีพชน้ั สูง
ประเภทวชิ าบรหิ ารธุรกิจ สาขาวิชาการบัญชี
วทิ ยาลัยอาชีวศกึ ษาเชยี งใหม่
ปกี ารศกึ ษา 2564
ก
ใบรับรอง
วิทยาลัยอาชีวศกึ ษาเชียงใหม่
เรอ่ื ง การจดั ทำบัญชรี า้ นเสริมสวย โดยประยกุ ตใ์ ชโ้ ปรแกรม Microsoft Excel
จัดทำโดย นางสาวศริ ลิ ักษณ์ ภาวงั ค์ รหัสประจำตัวนักศึกษา 63302010093
นางสาวสตรรี ตั น์ นาคจนั ทกึ รหัสประจำตัวนักศึกษา 63302010094
ได้รับการรับรองให้นบั เป็นส่วนหนงึ่ ของการศกึ ษาตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชพี ชัน้ สงู
สาขาวชิ าการบญั ชี ประเภทบริหารธุรกิจ
........................................หวั หนา้ แผนกวิชา ........................................รองผู้อำนวยการฝา่ ยวชิ าการ
(นางจันทรา เทพาคำ) (นางจนั ทมิ า สัตยาภรณ์)
วันท่.ี ........ เดอื น............. พ.ศ.............
วนั ท.่ี ........ เดือน............. พ.ศ.............
คณะกรรมการการสอบโครงงาน
....................................................ประธานกรรมการ
(นางจันทรา เทพาคำ)
....................................................กรรมการ
(นางสาวอรชิ าภสั ร์ อนิ ต๊ะจักร)
....................................................กรรมการและเลขานกุ าร
(นางภทั รานิษฐ์ พชั ริศวโรจน)์
ข
ชือ่ ผู้จัดทำโครงงาน : นางสาวศริ ิลักษณ์ ภาวังค์ และ นางสาวสตรีรัตน์ นาคจันทกึ
ช่ือโครงงาน : การจดั ทำบัญชรี า้ นเสริมสวย โดยประยกุ ตใ์ ชโ้ ปรแกรม
สาขาวชิ า Microsoft Excel
อาจารย์ทป่ี รึกษาโครงาน : การบัญชี
ปีการศึกษา : นางภทั รานิษฐ์ พชั รศิ วโรจน์
: 2564
บทคดั ยอ่
โครงงานการจัดทำบัญชีร้านเสริมสวย โดยประยุกต์ใช้โปรแกรม Microsoft Excel มี
วัตถปุ ระสงค์ 1. เพือ่ นำความรู้ ในการเรยี นมาปรับใชก้ ับการทำโครงงานการทำบัญชีร้านเสรมิ สวยโดย
ประยุกต์ใช้โปรแกรม Microsoft Excel 2. เพื่อประเมินความพึงพอใจในการประยุกต์ใช้โปรแกรม
Microsoft Excel เพื่องานบัญชีร้านเสริมสวยของนาง เพ็ชลี ภาวังค์ การทำโครงงานครั้งนี้คณะ
ผู้จัดทำ ได้ออกแบบคู่มือในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นตารางรายได้และค่าใช้จ่ายของกิจการ งาน
กลุ่มเป้าหมายนางเพ็ชลี ภาวังค์ เจ้าของกิจการร้านเสริมสวย บ้านเลขที่ 48 หมู่ 4 บ้านแม่บอน
ตำบลโหล่งขอด อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ 50190 ระยะเวลาดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม
2564 ถงึ วนั ท่ี 31 ธันวาคม 2564
จากผลดำเนินงานเปน็ ดังนี้ การดำเนินโครงงานจัดทำบัญชีรายได้และคา่ ใชจ้ ่ายของกิจการรา้ น
เสริมสวยโดยใช้คู่มือทางการบัญชีเป็นระยะเวลา 1 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2564 ถึง วันที่ 31
ธันวาคม 2564 ดังนี้ งบกำไรขาดทุนมีรายได้ 6,740 บาท ค่าใช้จ่าย 1,640 บาท กำไรสุทธิ 5,100
บาท ผลการดำเนนิ งานของกจิ การร้านเสริมสวย จากการใชโ้ ปรแกรม Microsoft Excel ในการจัดทำ
บัญชีในกิจการร้านเสริมสวย กิจการได้ทราบผลกำไรขาดทุนและฐานะทางการเงินได้อย่างถูกต้อง
แม่นยำและได้ประเมินความพึงพอใจที่กิจการได้รับรู้และทักษะจากโครงงานและทราบถึงความพึง
พอใจของกิจการร้านเสริมสวย จากการกรอกแบบประเมินความพึงพอใจ พบว่าผู้ที่ประเมินความพึง
พอใจของกิจการร้านเสริมสวย มีความพึงพอใจเกี่ยวกับโครงงานการจัดทำบัญชีร้านเสริมสวย โดย
ประยกุ ตใ์ ช้โปรแกรม Microsoft Excel โดยรวมอยู่ในระดบั ดมี าก ( ̅ = 4.39)
ค
กติ ตกิ รรมประกาศ
การดำเนินโครงงานการจัดทำบญั ชรี ้านเสรมิ สวย โดยประยุกตใ์ ช้โปรแกรม Microsoft Excel เพอื่ งาน
บัญชีสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี โดยความกรุณาของหลายฝ่าย ตั้งแต่ผู้อำนวยการฯ รองผู้อำนวยการฯ ครู
อาจารย์ และเจา้ หน้าที่วทิ ยาลัยอาชีวศึกษาเชียงใหม่ ทไ่ี ดใ้ หก้ ารสนับสนนุ การดำเนินวิชาชีพ เพื่อให้นักเรียน
และนกั ศกึ ษาได้เพ่ิมโอกาสทางการศึกษาวิชาชพี ด้วยดีตลอดมา
ขอขอบคณุ คณุ ครูภัทรานิษฐ์ พชั รศิ วโรจน์ ครปู ระจำวชิ าโครงการ/ครทู ี่ปรึกษาโครงการท่ีให้คำแนะนำใน
การจัดทำโครงการวิชาชีพ รวมทั้งแก้ไขข้อบกพร่องในส่วนต่างๆ จนเป็นรูปเล่มสมบูรณ์และขอขอบพระคุณ
คณะกรรมการรับรองโครงการและสอบโครงการ ท่ีใหค้ วามเห็นชอบในครัง้ นี้
ขอขอบคุณ นางเพ็ชลี ภาวังค์ เป็นที่ปรึกษาโครงการและเจ้าของสถานที่ดำเนินการโครงการในครั้งน้ี
ขอขอบคุณเพื่อนร่วมห้อง ครอบครัว ที่เป็นกำลังใจ รักและหวังดีจนผลงานสำเรจ็ เรียบร้อย หวังเป็นอย่างยิ่งว่า
ผลการศึกษาโครงการในคร้ังนีจ้ ะเปน็ ประโยชนแ์ กผ่ ู้ทค่ี ิดจะประกอบธุรกิจอาชพี อสิ ระต่อไป
ผจู้ ดั ทำ
ศริ ลิ กั ษณ์ ภาวังค์
สตรีรัตน์ นาคจันทกึ
ง
สารบญั หนา้
ก
ใบรบั รองโครงการ ข
บทคัดย่อ ค
กิตติกรรมประกาศ ง
สารบัญ ฉ
สารบัญตาราง ช
สารบัญรูปภาพ
บทท่ี 1 บทนำ 1
2
1.1 ความเป็นมาและความสำคัญของโครงงาน 2
1.2 วัตถปุ ระสงค์ของโครงงาน 2
1.3 ขอบเขตของโครงงาน 3
1.4 ประโยชนท์ คี่ าดว่าจะได้รับ
1.5 นยิ ามศัพท์ 4
บทที่ 2 เอกสาร ทฤษฏแี ละงานวิจยั ทเี่ ก่ยี วข้อง 11
2.1 ความรูเ้ กยี่ วกับโครงงานที่ทำ 22
2.2 ทฤษฎที เ่ี กยี่ วขอ้ ง 22
2.3 ประวัติวิทยากร/ที่ปรึกษาโครงงานและสถานประกอบการ
2.4 งานวิจัยทเ่ี กี่ยวข้อง 24
บทที่ 3 วิธีการดำเนนิ งานโครงงาน 24
3.1 รปู แบบของโครงงาน 25
3.2 ประชากรและกลุ่มตัวอย่างของโครงงาน 33
3.3 ข้ันตอนการดำเนนิ งาน 33
3.4 การเก็บรวบรวมข้อมูล
3.5 การวิเคราะหข์ ้อมลู 34
บทที่ 4 ผลการดำเนินงาน 35
4.1 ผลการดำเนนิ งานโครงงาน
4.2 อภปิ รายผลการดำเนินงานโครงงาน
จ
สารบัญ (ต่อ) หนา้
บทท่ี 5 สรุปผลการดำเนนิ โครงงานและขอ้ เสนอแนะ 44
5.1 สรุปผลการดำเนินงานโครงงาน 46
5.2 ขอ้ เสนอแนะเพิม่ เติม 47
บรรณานุกรม 49
ภาคผนวก 54
57
ภาพผนวก ก โครงรา่ งโครงงาน 63
ภาพผนวก ข รปู ครทู ี่ปรึกษาโครงงานและคณะผูจ้ ัดทำ รปู วิทยากร/ที่ 65
ปรึกษาโครงงาน รูปสภาพแวดลอ้ มที่ดำเนนิ งาน 77
ภาพผนวก ค แบบประเมินความพึงพอใจ 84
ภาพผนวก ง รายงานผลการนำไปใช้ประโยชน์ 87
ภาพผนวก จ การเกบ็ รวมบรวมข้อมลู และการวิเคราะห์ขอ้ มูล 89
ภาพผนวก ฉ แบบนำเสนอขออนมุ ตั โิ ครงงานวชิ าชีพ 97
ภาพผนวก ช คณะกรรมการอนมุ ัติโครงงานและคณะกรรมการประเมนิ
โครงงาน
ภาคผนวก ซ นำเสนอโครงงาน
ภาคผนวก ฌ สรปุ แบบสอบถามประเมินความพึงพอใจในการเยยี่ มชม
การนำเสนอโครงงาน
ประวตั ผิ ูจ้ ัดทำ
ฉ
สารบัญตาราง หน้า
ตาราง
25
ตารางที่ 3.1 ตารางการวิเคราะหข์ ้อมูลเพอ่ื ตัดสนิ ใจเลือกโครงงาน 27
ตารางท่ี 3.2 ตารางการกำหนดปฏิทินการปฏิบัติงาน 37
ตารางท่ี 4.1 แสดงจำนวนร้อยละของผู้ตอบแบบประเมินความพึงพอใจจำแนกตามเพศ 38
ตารางท่ี 4.2 แสดงจำนวนรอ้ ยละของผู้ตอบแบบประเมนิ ความพึงพอใจจำแนกตามอายุ 39
ตารางท่ี 4.3 แสดงจำนวนรอ้ ยละของผตู้ อบแบบประเมนิ ความพงึ พอใจจำแนกตามการศึกษา 40
ตารางที่ 4.4 แสดงจำนวนร้อยละของผตู้ อบแบบประเมนิ ความพงึ พอใจจำแนกตามเงนิ เดือน 42
ตารางท่ี 4.5 แสดงจำนวนร้อยละแบบประเมนิ ความพึงพอใจของผ้ตู อบแบบประเมิน 43
ตารางท่ี 4.6 แสดงขอ้ เสนอแนะของผู้ตอบแบบประเมินความพงึ พอใจ 46
ตารางท่ี 5.1 ขอ้ เสนอแนะ สำหรบั การนำผลของโครงงานไปใช้
ฉ
สารบัญตาราง หน้า
ตาราง
25
ตารางที่ 3.1 ตารางการวิเคราะหข์ ้อมูลเพอ่ื ตัดสนิ ใจเลือกโครงงาน 27
ตารางท่ี 3.2 ตารางการกำหนดปฏิทินการปฏิบัติงาน 37
ตารางท่ี 4.1 แสดงจำนวนร้อยละของผู้ตอบแบบประเมินความพึงพอใจจำแนกตามเพศ 38
ตารางท่ี 4.2 แสดงจำนวนรอ้ ยละของผู้ตอบแบบประเมนิ ความพึงพอใจจำแนกตามอายุ 39
ตารางท่ี 4.3 แสดงจำนวนรอ้ ยละของผตู้ อบแบบประเมนิ ความพงึ พอใจจำแนกตามการศึกษา 40
ตารางที่ 4.4 แสดงจำนวนร้อยละของผตู้ อบแบบประเมนิ ความพงึ พอใจจำแนกตามเงนิ เดือน 42
ตารางท่ี 4.5 แสดงจำนวนร้อยละแบบประเมนิ ความพึงพอใจของผ้ตู อบแบบประเมิน 43
ตารางท่ี 4.6 แสดงขอ้ เสนอแนะของผู้ตอบแบบประเมินความพงึ พอใจ 46
ตารางท่ี 5.1 ขอ้ เสนอแนะ สำหรบั การนำผลของโครงงานไปใช้
51
บทท่ี 1
บทนำ
1. ความเปน็ มาและความสำคัญของโครงงาน
วิชาโครงงานในหลักสูตรของอาชีวศึกษาจะเน้นความรู้เก่ียวกบั การเขียนโครงงานใหส้ อดคลอ้ ง
กับแนวคิด หลักการ จุดมุ่งหมาย ให้ผู้จัดทำโครงงานไดป้ ระมวลความรู้ และทักษะจากรายวิชาต่างๆ
มาประยกุ ต์ในการสร้างผลงานอย่างเป็นระบบต้ังแตก่ ารศกึ ษาคน้ ควา้ การวิเคราะห์ การวางแผน การ
ลงมือปฏิบัติ การประเมินตนเอง การปรับปรุงการทำงาน การเขียนรายงาน และการนำเสนอผลงาน
เพอ่ื ใหเ้ ป็นไปตามอุดมการณ์และหลักการในการจัดการอาชวี ศึกษา ที่มุ่งพัฒนากำลังคนระดับก่ึงฝีมือ
ระดับฝีมือ ระดับเทคนิคและระดับเทคโนโลยี เพื่อให้เกิดคุณภาพตามสมรรนะอาชีพที่กำหมดไว้
ปฏิบัติตามเกณฑ์การรับรองวิทยฐานะและมาตรฐานการศึกษาตามแนวทางประกันคุณภาพ
อาชีวศึกษา เน้นกระบวนการคิดอย่างมีคุณภาพและจริยธรรมเปิดโอกาสให้ผู้เรียนเลือกระบบและ
วิธีการเรียนได้อย่างเหมาะสมตามศักยภาพความสนใจและโอกาสของตน โดยประสานความร่วมมือ
กันระหวา่ งผจู้ ดั ทำและอาจารย์ท่ปี รึกษาโครงการ
ในภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2564 ผู้จัดทำโครงงานไดศ้ ึกษาวิชาโครงงาน วิชาชพี การบัญชจี งึ
ได้จัดตั้งกลุ่ม มีสมาชิกในกลุ่มจำนวน 2 คน ได้แก่ 1. นางสาวศิริลักษณ์ ภาวังค์ เลขที่ 1 และ 2.
นางสาวสตรีรัตน์ นาคจันทึก เลขที่ 2 ระดับชัน้ ประกาศนียบัตรวิชาชีพชัน้ สูงช้นั ปีที่ 2 ห้อง 4 เพื่อทำ
โครงงานนข้ี นึ้ มาใชช้ ่อื ว่า โครงงาน การจัดทำบญั ชีร้านเสริมสวย โดยประยุกตใ์ ชโ้ ปรแกรม Microsoft
Excel เนื่องจากสมาชิกในกลุ่มมีความสนใจที่จะทำโครงงาน การจัดทำบัญชีร้านเสริมสวย โดย
ประยุกต์ใช้โปรแกรม Microsoft Excel เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของหลักสูตรประกาศนียบตั ร
วิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ชั้นปีที่ 2 สาขาการบัญชี สามารถนำความรู้ด้านการบัญชีและโปรแกรม
Microsoft Excel นำเทคโนโลยีมาประยุกต์ในงานวิชาชีพได้และมีความริเริ่มสร้างสรรค์ สามารถ
แก้ไขปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้น รวมทั้งการทำงานเป็นทีมอย่างเป็นระบบ เนื่องจากการสัมภาษณ์
พบว่า ธุรกิจร้านเสริมสวยขาดการทำบัญชีอย่างเป็นระบบไม่มีการทำบัญชีโดยใช้โปรแกรมใดๆ กลุ่ม
ผู้จัดทำโครงงานจงึ มีความสนใจและเล็งเห็นถึงความสำคัญในการจดั ทำบัญชโี ดยประยุกต์ใช้โปรแกรม
Microsoft Excel ให้กับกิจการร้านเสริมสวยของ นาง เพ็ชลี ภาวังค์ เพื่อให้เจ้าของกิจการได้เห็นถงึ
ความสำคัญของการจัดทำบัญชีโดยใชเ้ ครื่องมือและโปรแกรม Microsoft Excel และทำให้การจัดการ
ของระบบการเงนิ ภายในร้านดีมากยง่ิ ข้ึน
2
จากสาเหตุและความสำคัญดังกล่าวกลุ่มคณะผู้จัดทำโครงงานจึงมีความสนใจจัดทำโครงงาน
การจัดทำบัญชีร้านเสริมสวย โดยประยุกต์ใช้โปรแกรม Microsoft Excel เพื่อให้เป็นไปตาม
วัตถุประสงค์ของหลักสูตรประกาศนยี บัตรวิชาชพี ชน้ั สูง (ปวส.) สาขาการบญั ชี อีกทง้ั ผู้จดั ทำโครงงาน
ยังมีความรู้ เพื่อนำความรู้จากรายวิชาต่างๆ และทักษะวิชาชีพมาประยุกต์ใช้ในการทำโครงงานอย่าง
มปี ระสิทธิภาพ สามารถแก้ปัญหาและอปุ สรรคท่ีเกดิ ขน้ึ รวมท้ังมีการทำงานเป็นทีมอกี ด้วย
2. วตั ถปุ ระสงค์ของโครงงาน
2.1 เพือ่ นำความรู้ ในการเรียนมาปรบั ใช้กบั การทำโครงงานการทำบัญชรี ้านเสรมิ สวยโดย
ประยกุ ต์ใชโ้ ปรแกรม Microsoft Excel
2.2 เพอื่ ประเมินความพงึ พอใจในการประยุกต์ใช้โปรแกรม Microsoft Excel เพ่ืองานบัญชี
ร้านเสรมิ สวยของนาง เพ็ชลี ภาวังค์
3. ขอบเขตของโครงงาน
3.1. เป้าหมายของโครงงาน
3.1.1. เป้าหมายเชงิ คณุ ภาพ
3.1.1.1. ทำบัญชีรา้ นเสริมสวยโดยประยกุ ตใ์ ชโ้ ปรแกรม Microsoft Excel อย่าง
ถกู ต้อง
3.1.1.2. กจิ การรา้ นเสริมสวยมีการทำบัญชีรายรับ-รายจา่ ยอย่างเป็นระบบ
3.1.2. เป้าหมายเชิงปริมาณ
3.1.2.1. ทำบญั ชรี า้ นเสริมสวย พร้อมแบบรายงานการบัญชกี ำไร (ขาดทุน)
อย่างถูกต้องในกรอบระยะเวลา 1 เดอื น
3.2. ระยะเวลาและสถานท่ีในการดำเนนิ งาน
3.2.1. ระยะเวลาดำเนินงาน ต้ังแต่วนั ท่ี 1 ธนั วาคม 2564 ถึง 31 ธนั วาคม 2564
3.2.2. สถานทด่ี ำเนินงาน รา้ นเสรมิ สวย เลขที่ 48 หมู่ 4 บา้ นแมบ่ อน
ตำบลโหล่งขอด อำเภอพร้าว จงั หวัดเชยี งใหม่ 50190
4. ประโยชน์ท่ีคาดว่าจะไดร้ ับ
4.1 ไดร้ บั รูร้ ายรบั -รายจา่ ยของร้านเสริมสวย
4.2 มีความชำนาญกับการใช้โปรแกรม Microsoft Excel มากข้ึน
3
5. นยิ ามศัพท์
5.1. ร้านเสริมสวย (beauty salon) หมายถึง ร้านแต่งหล่อและเสริมความสวยงาม ช่วย
เสริมบุคลิกให้ดูดียิ่งขึ้น ถือเป็นธุรกิจบริการขนาดเล็กที่เป็นที่นิยมอย่างมาก เพราะใช้ต้นทุนในการ
เปิดไม่สูงมาก แต่ต้องเน้นเรื่องฝีมือและความประณีต ร้านเสริมสวยจึงได้รับความนิยมและอยู่คู่ทุก
ชุมชนมาช้านาน
5.2. การบัญชี (accounting) หมายถึง เป็นศิลปะของการรวบรวม บันทึก จำแนก และทำ
สรุปข้อมูลอันเกี่ยวกับเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจในรูปตัวเงิน ผลงานขั้นสดุ ท้ายของการบัญชีคอื การให้
ข้อมูลทางการเงนิ ซึ่งเป็นประโยชนแ์ กบ่ ุคคลหลายฝา่ ย และผู้ที่สนใจในแต่ละกจิ กรรม
5.3. โปรแกรม Microsof Excel (Microsof Excel) หมายถึง เป็นโปรแกรมสามัญประจำ
เครื่องที่มีประโยชน์มากมาย ใช้ช่วยงานทางธุรกิจได้มากมาย หากใช้ได้อย่างคล่องแคล่ว และใช้งาน
ความสามารถของมันได้อย่างครบถว้ น
51
บทท่ี 2
เอกสาร ทฤษฏแี ละงานวจิ ยั ทีเ่ ก่ียวขอ้ ง
การดำเนินโครงงานการจัดทำบัญชีร้านเสริมสวย โดยประยุกต์ใช้โปรแกรม Microsoft Excel
จำนวน 1 แห่ง ณ ร้านเสริมสวย เลขที่ 48 หมู่ 4 ตำบลโหล่งขอด อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่
ตง้ั แตว่ ันท่ี 1 ธนั วาคม 2564 ถงึ 31 ธันวาคม 2564 ผู้ดำเนินโครงงานไดร้ วบรวม เอกสาร ทฤษฎี และ
งานวิจัยทีเ่ กีย่ วข้องดงั มหี ัวขอ้ ต่อไปนี้
2.1 ความรู้เกยี่ วกบั โครงงานทท่ี ำ
2.2 ทฤษฎีทีเ่ กี่ยวขอ้ ง
2.3 ประวตั ิวทิ ยากร/ทีป่ รกึ ษาโครงงานและสถานประกอบการ
2.4 งานวิจัยท่เี ก่ยี วข้อง
2.1 ความรู้เกยี่ วกบั โครงงานทท่ี ำ
2.1.1 ร้านเสริมสวย (beauty salon) หมายถึง ร้านแต่งหล่อและเสริมความสวยงาม ช่วย
เสริมบุคลิกให้ดูดียิ่งขึ้น ถือเป็นธุรกิจบริการขนาดเล็กที่เป็นที่นิยมอย่างมาก เพราะใช้ต้นทุนในการ
เปิดไม่สูงมาก แต่ต้องเน้นเรื่องฝีมือและความประณีต ร้านเสริมสวยจึงได้รับความนิยมและอยู่คู่ทุก
ชุมชนมาช้านาน
ข้อดขี องการเปดิ รา้ นเสรมิ สวย
1. ถ้าช่างเสริมสวยมีฝีมือดี กำไรต่อต้นทุนในร้านเสริมสวยจะแพงมาก เรียกได้ว่าทำ
กำไรหลาย เท่าต่อราคาทุนเลยทีเดียว
2. รา้ นเสรมิ สวยเปน็ ธุรกิจทลี่ งทุนหนักคร้ังเดียวหลังจากน้นั ใช้ทุนหมุนเวียนน้อย
3. ถ้ามีลกู ค้าประจำแล้วยิง่ สบาย สามารถทำเงนิ ทำรายไดใ้ หต้ ลอด
4. ถ้าไม่มีค่าเช่าร้าน ธุรกิจเสริมสวยก็เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่แทบจะไม่มีแรงกดดันทาง
ตน้ ทนุ
5. แม้เศรษฐกิจไม่ดีสาวๆ ก็ยังรักสวยรักงามเหมือนเดิม ยอดขายอาจตกแต่ไม่ล้ม
แน่นอน
6. สามารถต่อยอดธุรกิจต่อไปได้หลากหลาย เช่น ขายสินค้าความงาม สินค้าผู้หญิง
ตา่ งๆ
5
ทำเลทองของการเปดิ ร้านเสรมิ สวย
1. ทำเลตลาดแหลงชุมชน ส่วนน้ีโอกาสได้ลูกค้าจะดีมากเพราะคนมากมายหลายอาชีพ
ตา่ งแวะเวียนมาไม่ขาดสาย
2. ทำเลใกล้สถานที่ราชการต่างๆ เหล่าข้าราชการสาวๆต่างรักสวยรักงามอยู่แล้ว และ
ชอบบอกตอ่ รา้ นดีๆ ในทที่ ำงานจงึ ทำใหเ้ รามโี อกาสได้ลูกคา้ ประจำดีๆ น้ันเอง
3. ทำเลใกลม้ หาวทิ ยาลัย สถานศกึ ษา นักศกึ ษาครูบาอาจารยเ์ ปน็ อกี หนงึ่ เป้าหมายของ
ร้านเสริมสวยเพราะพวกเธอ จะรักสวยรักงามเป็นพิเศษ รับรองว่าถ้าได้เปิดในบริเวณใกล้ๆ
มหาวทิ ยาลัย คณุ จะได้ทำเลทองในการทำร้านเสริมสวยแนน่ อน
4. ทำเลในห้าง สำหรับในห้างสรรพสินค้านั้นถือว่าเป็นทำเลที่เหมาะสมกับร้านเสริม
สวยใหญ่ๆมาตรฐานสูงราคาแพง เพราะค่าเช่าค่าโสหุ้ยต่างๆ ไม่ถูก ให้พอที่จะทำร้านเล่นๆ แน่นอน
ห้างสรรพสนิ คา้ ถา้ เราเข้าไปเปดิ กจิ การร้านเสริมสวยจึงมกั จะได้ราคาคา่ บริการแพงเป็นพเิ ศษ
ขนาดของธุรกิจ
แบง่ ออกเปน็ 3 ขนาด คอื
1. ธรุ กิจขนาดเลก็ หรอื ธุรกจิ รายยอ่ ย ซง่ึ มเี กา้ อ้ีทำผมไมเ่ กิน 4 ตวั มีจำนวนรอ้ ยละ 60
2. ธรุ กิจขนาดกลางหรอื SMEs ซง่ึ มเี กา้ อ้ที ำผมตง้ั แต่ 4-10 ตัว มีจำนวนร้อยละ 30
3. ธรุ กิจขนาดใหญ่ ซึ่งมเี กา้ อที้ ำผมต้ังแต่ 11 ตวั ข้นึ ไป มีจำนวนรอ้ ยละ 10
องค์ประกอบของสถานบริการแตง่ ผม - เสริมสวย ประกอบด้วย
1. สภาพรา้ น/อาคารของสถานบริการแต่งผม - เสรมิ สวย
2. อปุ กรณ์เคร่ืองมอื และเคร่ืองใช้
3. ช่างทำผม
1. สภาพรา้ น/อาคารของสถานบริการแตง่ ผม – เสริมสวย
สถานบริการแต่งผม - เสริมสวย มีรูปแบบ อาคารหลากหลายลักษณะ การตกแต่งบาง
แหง่ มีรูปแบบทเ่ี รียบง่าย บางแหง่ มสี ไตล์แบบวัยรุ่น สีสนั ฉูดฉาด บางแหง่ เปน็ แบบสปาร์ มีกล่ินหอม
สมุนไพร ต้นไม้ ดอกไม้ ซึ่งความแตกต่างของ ร้านเป็นการสร้างแรงดึงดูดลูกค้าให้มาใช้บริการ ไม่ว่า
ร้านจะมีความแตกต่างกันเพียงใด แต่สิ่งหนึ่ง ที่สำคัญ คือ ต้องดูแลเรื่องความสะอาด และ ความ
ปลอดภัยจากการรบั บริการ
6
1. สภาพร้าน/อาคาร
สภาพดี มีความมั่นคง พื้น ผนัง เพดาน ทำด้วยวัสดุที่แข็งแรง เรียบ ทำความ
สะอาดง่าย ไมล่ นื่ และไมม่ รี ่องรอยชำรดุ หนา้ ตา่ ง ประตู บันได มีสภาพดี มีการทำความสะอาดอย่าง
สมำ่ เสมอ มกี ารจัดแบ่งพนื้ ที่ภายในรา้ นอย่างเป็น สดั ส่วน เหมาะสม ตามลักษณะกิจกรรม เช่น พื้นที่
สระผม ตัดผม อบไอน้ำ เก็บวัสดุอุปกรณ์ เครื่องใช้ประเภทผ้า น้ำยาทำผม การจัดแบ่งองค์ประกอบ
ของพื้นที่อย่างเหมาะสมลงตัว จะทำให้ร้านดูดีมีสไตล์ มองเห็นความใส่ใจของผู้ประกอบการ การ
ตกแต่งร้าน เป็นไปตามสไตล์ที่ร้านกำหนด มีการจัดโต๊ะ เก้าอี้ ให้เป็นระเบียบ เรียบร้อย สะดวกต่อ
การใหบ้ ริการ ง่ายต่อการทำความสะอาด และไม่กอ่ ใหเ้ กิดอันตราย
2. แสงสว่าง
การดำเนินการแต่งผม - เสริมสวย เป็นงานที่ต้องใช้ความละเอียดและ ประณีต
อยา่ งมาก ตอ้ งไดร้ บั การเอา ใจใส่เปน็ อย่างดี ดงั น้ันแสงสวา่ งตอ้ งเพียงพอ และเหมาะสม ไม่ก่อให้เกิด
ปญั หาทางสายตา ดังน้ี
2.1 แสงสว่างที่เหมาะสมไม่ควรจ้าเกินไป แสงสว่างที่จ้าเกินไปเป็น สาเหตุ
ให้เกิดความระคายเคืองตอ่ ประสาทตา
2.2 ไมม่ แี สงกระพริบหร่ี หรอื แสงสะทอ้ น
2.3 ลักษณะไฟหน้าพื้นที่ทำงาน ควรใช้หลอดไฟที่ให้แสงสีขาวนวล ไม่ควร
ใช้หลอดไฟทีใ่ ห้แสงท่มี ีสี จะทำใหป้ วดตา ปวดศรี ษะ และอาจเกดิ อุบตั ิเหตุขนึ้ ได้
2.4 ไม่ควรติดหลอดไฟต่ำจนเกินไป จนเป็นสาเหตุให้เกิดตาพร่า และ แสบ
ตา เป็นต้น
3. การระบายอากาศ
มีความสำคญั เปน็ อยา่ งมาก เพราะในการออกแบบทรงผม เสรมิ สวย มกี าร ใช้
น้ำยา สเปรย์ สารเคมหี ลายชนิด หากระบบการระบายอากาศไม่มปี ระสทิ ธภิ าพ ยอ่ มจะสง่ ผลกระทบ
ต่อสขุ ภาพของผ้มู ารับบรกิ าร รวมถึงตัวชา่ งเอง
ลกั ษณะการระบายอากาศทีด่ ี คอื
1. ใช้ระบบปรับอากาศ ต้อง มีพัดลมดูดอากาศ ที่มีประสิทธิภาพ พอดีกับ
ขนาดของหอ้ ง
2. ไม่ใช้ระบบปรับอากาศ ห้องต้องไม่ร้อนอบอ้าว หรืออับชื้น มีช่องระบาย
อากาศ หรือหน้าตา่ ง ไมน่ ้อยกวา่ 1 ใน 10 ของพ้นื ทหี่ อ้ ง
3. บริเวณพน้ื ท่ีปฏิบัติงานต้องไม่มีละอองสเปรย์ฟุ้งกระจาย เพราะอาจจะทำ
ให้ เกิดอาการระคายเคืองต่อตา และผิวหนงั รวมถึงเกดิ ปัญหาตอ่ ระบบทางเดนิ หายใจ
7
4. นำ้ ใช้
ร้านแต่งผม - เสริมสวยมีการใช้น้ำในปริมาณมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การสระผม
ล้างผม เป็นกิจกรรมที่ใช้ปริมาณน้ำสงู ที่สุด ยิ่งมีการทำสผี ม การยืดผม ซึ่งมี ขั้นตอนหลายขัน้ ตอน มี
การสระผม ล้างผมหลายครั้ง ปริมาณการใช้นำ้ จึงมากขึ้นตามไป ด้วย นอกจากนี้ยังมีการใช้น้ำในการ
ทำความสะอาดร้าน ทำความสะอาดอุปกรณ์ หรือ ภาชนะ ล้างมือ ล้างหน้า และอื่นๆ น้ำใช้ต้องเป็น
น้ำที่สะอาดผ่านกระบวนการปรบั ปรุงคุณภาพน้ำแล้ว เช่น น้ำประปา เป็นตน้ โดยปรมิ าณน้ำใช้ในการ
ประกอบกิจการต้องมีเพียงพอ หากมีการเก็บ กกั นำ้ ภาชนะทีเ่ ก็บกักต้องสะอาดไม่มสี ิ่งปนเป้ือน ไม่มี
ตะไคร้น้ำ และตอ้ งล้างทำ ความสะอาดอยา่ งสม่ำเสมอ
5. การจดั การขยะมูลฝอย
การเก็บรวบรวมเศษผมและมูลฝอย มีความสำคัญมาก เพราะเศษผมเบาและปลิว
ง่าย การรวบรวมควรใช้ไม้กวาด กวาดเบาๆ และกวาดเศษผมทุกครั้งหลังการให้บริการ เพื่อ ไม่ให้มี
เศษผมปริมาณมากเกนิ ไปและไม่เกนิ การฟงุ้ กระจาย เกบ็ รวบรวมไวใ้ นถังรองรบั ขยะ มลู ฝอยทีม่ สี ภาพ
ดมี ฝี าปดิ ทำดว้ ยวัสดทุ แ่ี ข็งแรงไม่รัว่ ซมึ ทำความสะอาดงา่ ย เปน็ ถังรองรับ มลู ฝอยทัว่ ไป โดยถงั ควรมี
ขนาดเพียงพอท่จี ะรองรับมูลฝอย นอกจากนีค้ วรจดั ใหม้ ีถังรองรับ มูลฝอยอนั ตราย สำหรับใส่กระป๋อง
สเปรย์ของมีคม เช่น ใบมีดโกน เข็ม ที่ใช้แล้ว ควรใส่ ในภาชนะคงทนไม่ทิ่มทะลุ เช่น ขวดแก้ว ขวด
พลาสติก และปิดมิดชิดหลังการใช้งาน พร้อมติดข้อความ “ขยะมูลฝอยอันตราย และของมีคมใช้
แลว้ ”
6. ความปลอดภัยในการใชไ้ ฟฟ้า
อุปกรณ์เครื่องใช้ ตลอดจนสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในสถานบริการแต่งผม -
เสริมสวย ลว้ นแต่ต้องใช้พลังงานไฟฟ้าท้ังส้ิน ดงั นั้น ควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับไฟฟ้า การใช้งาน การ
ตรวจสอบอุปกรณเ์ ครื่องใชไ้ ฟฟา้ ต่างๆ ท้ังน้ี เพือ่ ให้ผู้ให้บริการและ ผู้ใช้บริการมคี วามปลอดภยั สงู สุด
8
อันตรายจากไฟฟ้า
ไฟฟ้าสามารถกอ่ ให้เกดิ อันตราย หลักๆ ได้ดังนี้
1. ไฟฟา้ ดดู (Electric Shock)
ไฟฟ้าดูด เกิดขึ้นเมื่อมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่าน ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย
ในปริมาณที่มากพอที่ทำให้หัวใจ ระบบประสาท และกล้าวเนื้อ ทำงานผิดปกติ สามารถ แบ่งการ
สัมผัสไฟฟ้าเป็น 2 ส่วน คือ
1.1 สัมผสั โดยตรง หมายถึง สว่ นใดสว่ นหนึ่งของรา่ งกายไปสัมผัสกับส่วน
ท่มี ี ไฟฟา้ โดยตรง เชน่ สัมผสั ไฟฟ้าทีฉ่ นวนชำรดุ เป็นตน้
1.2 สัมผัสทางอ้อม หมายถึง ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายไปสัมผัสกับ
โครงโลหะ อปุ กรณ์ หรือเครอ่ื งใช้ไฟฟา้ ท่ีมีไฟฟ้ารว่ั อยู่ เชน่ โคมไฟฟ้าชำรดุ มีไฟร่วั มาทโี่ ครงโลหะ เม่ือ
เราไปสัมผัสโครงโลหะ ไฟฟ้าจึงไหลผ่านร่างกายเราได้
2. ไฟฟ้าลัดวงจร (Short-Circuit) หรือท่ีเราเรียกทวั่ ๆ ไปว่าไฟฟ้าชอ็ ต
ไฟฟ้าลัดวงจร โดยท่ัวๆ ไป เป็นลักษณะของตัวนำสายไฟฟ้าทั้ง 2 เส้น
สมั ผสั ถงึ กัน เปน็ ผลให้เกดิ กระแสไฟฟ้าไหลในวงจรอย่างมากมาย หากอุปกรณป์ ้องกนั กระแสเกิน ใน
วงจรไฟฟ้าไม่ทำงาน ผลที่ตามมา คือ การเกิดเพลิงไหม้นั่นเอง
7. การบริการนำ้ ด่ืม
การจัดบริการน้ำดื่ม เป็นบริการเสริมเพื่อสร้างความพึงพอใจแก่ผู้มารับบริการ
แสดงถึงความเอาใจใส่ น้ำดื่มที่นำมาให้บริการต้องเป็นน้ำที่ใสสะอาด ปราศจาก การปนเปื้อน ไม่ขุ่น
ไมม่ ีสี ไม่มีกลนิ่ และไม่มตี ะกอน ไดร้ บั การรับรองมาตรฐานนำ้ ดมื่ จากสำนกั งานคณะกรรมการอาหาร
และยา กระทรวงสาธารณสุข นอกจากคุณภาพ น้ำดื่มแล้ว ภาชนะบรรจุน้ำและแก้วน้ำต้องสะอาด
ดว้ ยการล้างทำความสะอาดทุกครั้ง ทีใ่ ชห้ รือใช้แก้วกระดาษทีใ่ ช้แลว้ ท้ิง
8. การจดั บริเวณทีน่ ่ังรอสำหรับผมู้ ารับบรกิ าร
ทนี่ งั่ รอสำหรับผู้มารับบริการ ควรมสี ภาพดี ไม่ชำรดุ สะอาด มกี ารจัด สถานท่ีให้
สวยงาม สะดวก สบาย เช่น มีต้นไม้ ดอกไม้ หรือกระถางน้ำตก เพื่อ ความผ่อนคลาย และจัดให้มี
นิตยสาร หนังสอื พิมพ์ หรือความร้ตู ่างๆ ไวบ้ รกิ ารดว้ ย
2. อุปกรณเ์ คร่อื งมอื เคร่ืองใช้
9
อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ในการแต่งผม เสริมสวย เป็นหัวใจหลักของการ ทำงาน
เนื่องจากเป็นส่ิงที่ตอ้ งใช้รว่ มกันของผู้มารับบริการ ดังนั้นอุปกรณ์เหล่านี้ จึงมีโอกาสเป็นส่ือกลางการ
แพร่กระจายของเชื้อโรคติดต่อต่างๆ ได้ หากผู้ประกอบการ ไม่มีการควบคุม ดูแล ทำความสะอาด
และฆ่าเช้อื โรคเป็นประจำ
2.1 เก้าอ้ีตัดผม
เก้าอี้ตัดผมที่ดีต้องนั่งสบาย ไม่ปวดหลัง ทำด้วย วัสดุคงทน เช่น ไม้วัสดุ
เคลือบ สแตนเลส เป็นต้น มีความแข็งแรง ไม่ชำรุด มีสภาพปลอดภัย ไม่มี คราบสกปรก และต้องทำ
ความสะอาด หลังเสร็จงานทุกวัน
2.2 อ่างสระผม เตียงสระผม
อ่างสระผม ต้องอยู่ในสภาพดีสะอาด ทำจากวัสดุที่คงทน แข็งแรง ไม่เป็น
สนิม เช่น สแตนเลส พลาสติกแข็ง เป็นต้น ทั้งนี้ต้องมีการทำความสะอาดหลงั จากใช้งานเปน็ ประจำ
เพื่อไม่ให้คราบสกปรก และการเปรอะเปื้อนของน้ำยา หรือสารเคมี เตียงสระผม ต้องปรับระดับให้
พอเหมาะ โดยไม่ทำให้ผู้รับบริการเกิดอาการเกร็ง ปวดหรือเมื่อย และต้องอยู่ใน สภาพดีสะอาด
แข็งแรง เบาะที่นอนต้องไม่ชำรุด รวมทั้งไม่มีกลิ่นเหม็นอับด้วย ผ้ายางสำหรับรองคอ ขณะสระผม
ตอ้ งทำความสะอาด หลงั จากใชง้ านทกุ ครั้ง และ เมอื่ เสร็จสิน้ จากการใหบ้ ริการในแต่ละวัน ต้องนำมา
ตากให้แห้ง เพอ่ื ป้องกนั ไม่ให้เกิดกล่ินเหม็นอับ
2.3 เครื่องใชป้ ระเภทผ้า
1. มีผ้าปิดปากและจมูกสำหรบั ชา่ ง
1.1 เป็นผ้าสขี าวสะอาด
1.2 ใหใ้ สท่ ุกครั้งขณะปฏิบัตงิ าน โดยไมใ่ ชป้ ะปนกัน
1.3 ใหซ้ กั ทำความสะอาดเป็นประจำทกุ วนั หลงั เลกิ งาน
2. ผ้าคลมุ ตวั ลูกค้า
2.1 สขี าวหรือสอี อ่ น สะอาด
2.2 ใหม้ ีชดุ สำรองสำหรับเปล่ยี น อยา่ งนอ้ ย 2 ชดุ ต่อเก้าอต้ี ดั ผม
2.3 ใหซ้ ักทำความสะอาดเป็นประจำทุกวนั หลงั เลิกงาน
3. ผ้าพนั คอ ผ้าเชด็ หน้า และผา้ เช็ดผม
10
3.1 ต้องเป็นผา้ ท่สี ะอาด ใช้สำหรับลูกคา้ แตล่ ะคน
3.2 ใหซ้ ักทำความสะอาดหรือแชน่ ำ้ ยาฆ่าเชอื้ โรคทุกวนั
3.3 ตากใหแ้ หง้ แลว้ นำมาเก็บใหม้ ดิ ชิด
4. ผ้ายาง และผา้ พลาสตกิ คลมุ ไหล่
4.1 ตอ้ งทำความสะอาดดว้ ยผงซักฟอก หรอื สารซกั ลา้ งเปน็ ประจำ
4.2 ต้องตากให้แห้ง เพ่อื ไม่ให้มกี ลน่ิ อับชืน้ ก่อนนำมาจดั เก็บ
4.3 ใหม้ ีชุดสำรองสำหรับเปล่ียน อย่างนอ้ ย 2 ชดุ
2.4. เครื่องใชป้ ระเภทโลหะ พลาสตกิ และเคร่ืองใช้ไฟฟา้
1. เครื่องใช้ประเภทโลหะ เช่น กรรไกรตัดผม ที่ตัดเล็บ ใบมีดโกน หวี
ซอย ทแ่ี คะหทู ีแ่ คะเลบ็
1.1 ตอ้ งอยู่ในสภาพดี ไมข่ ้นึ สนิม ไมช่ ำรดุ และตอ้ งทำความสะอาด
อุปกรณ์ดังกล่าวด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคที่มีประสิทธิภาพ หรืออบในตู้อบฆ่าเชื้อโรค เป็นประจำหลังใช้
งานในแตล่ ะวัน
1.2 สำหรับใบมีดโกน ให้ใช้ครั้งเดียวทิ้ง ห้ามนำมาใช้ซ้ำ โดย
เด็ดขาด หลงั ใช้แลว้ ให้ท้งิ ลงในภาชนะหรอื ถังรองรบั ทแี่ ยกเฉพาะ ทีม่ ปี ้ายแสดงชดั เจน เช่น ใบมดี โกน
ใช้แล้ว หรืออันตรายใบมีดโกน ใช้แล้ว เป็นต้น ทั้งนี้ต้องมีระบบการรวบรวมทิ้งที่มีประสิทธิภาพ ไม่
กอ่ ให้เกิดการปนเปอื้ น
2. เครอ่ื งใชป้ ระเภทพลาสตกิ เช่น หวแี ปรง ท่ีม้วนผม หมวกคลุมผม ฯลฯ
2.1 ตอ้ งทำความสะอาดทกุ คร้ังหลงั มีการใช้งานใหแ้ กล่ กู ค้า
2.2 ทำความสะอาด และขจัดคราบไขมนั ต่างๆ ดว้ ยผงซักฟอก
2.3 แชใ่ นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคท่ีมปี ระสิทธภิ าพ
2.4 นำมาผงึ่ ใหแ้ ห้งแล้วนำกลบั มาใช้งานใหม่
3. เครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น ไดร์เป่าผม เครื่องอบไอน้ำ ปัตตะเลี่ยน เป็นต้น
อปุ กรณเ์ หล่านี้ผู้ประกอบการต้องมกี ารเฝ้าระวงั ดงั นี้
3.1 ทำความสะอาดเครื่องมอื ใหพ้ ร้อมใช้งานอยู่เสมอ
3.2 ตรวจตราสายไฟอย่างสม่ำเสมอไม่ให้ชำรุด หรอื มีรอยฉีกขาด
3.3 หลังใช้งานให้จัดเก็บม้วนให้เป็นระเบียบ เรียบร้อย เพื่อไม่ให้
เกิด อบุ ตั เิ หตขุ ณะทำงาน
3.4 ถอดปล๊ักออกทกุ คร้งั หลังเลิกงาน เพือ่ ไม่ให้เกิดปญั หาไฟฟา้ รว่ั
2.2 ทฤษฎีทเี่ กี่ยวข้อง
11
1. การจดั ทำบัญชี
1.1 วงจรบัญขี
วงจรบัญชี (Accounting Cycle) หมายถึง ลำดับขั้นตอนการทำบัญชี โดยเริ่ม
จากจดบันทึกรายการค้าต่างๆที่เกิดขึ้นลงในสมุดบัญชีขั้นต้น (สมุดรายวัน) จากนั้นแยกแยะบัญชีให้
เป็นหมวดหมูต่ ่างๆและทำการปรับปรุงบัญชีในวันสิน้ งวด และทำการจัดทำงบทดลอง จากนั้นทำการ
ปรับปรุงบัญชีเพือ่ แสดงรายการทางการเงินได้ถูกต้องในงบการเงินตามรอบบัญชี เช่น 6 เดือนหรือ 1
ปี
พรพรรณ วัฒนวชิ ัย (2558 : เว็บไซต์) การบัญชี หมายถึง ศิลปะของการเก็บรวม รวม
บันทกึ จำแนกและทา สรปุ ขอ้มลู อนั เก่ยี วกบั เศรษฐกจิ ในรูปตัวเงิน ผลงานขน้ ั สดุ ท้ายของการ บัญชี
ก็คือการใหข้อ้มูลทางการเงิน ซึ่งเป็นประโยชน์แก่บุคคลหลายฝ่าย และผู้ที่สนใจในกิจกรรม ของ
กจิ การ
นิพันธ์ เห็นโชคชัยชนะ (2559 : เว็บไซต์) การบัญชี หมายถึง ศิลปะของการจดบันทึก
การจัดประเภทและการสรุปผลของรายการและเหตุการณ์ที่มีลักษณะสำคัญ และในรูปตัวเงิน ซึ่งมี
ลักษณะทางการเงนิ และการตีความ ผลลัพธ์น้ัน
ศิลปพร ศรีจั่นเพชร (2560 : เว็บไซต์) การบัญชีตามความรับผิดชอบต่อสังคม
หมายถึง เป็นการรายงานถึงต้นทุนและผลประโยชน์ที่เกิดจากกิจกรรม ขององค์การที่ส่งผลต่อชมุ ชน
ซึ่งอาจรวมถึงชุมชนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งโดยเฉพาะหรือกลุ่มชุมชนโดยทั่วไป การ รายงานดังกล่าวหมาย
รวมถงึ การรายงานข้อมลู ทเี่ กยี่ ว กบั การเงนิ และข้อมูลทีไ่ มเ่ กีย่ วกับการเงินก็ได้
จากความหมายของ การบัญชี (Accounting) สรุปได้ว่า การบัญชี หมายถึง การเก็บ
รวบรวม บนั ทึก จำแนก และทำสรุปข้อมูลอันเก่ียวกบั เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจในรูปตวั เงิน ผลงานข้ัน
สุดทา้ ยของการบญั ชี คือ การใหข้ ้อมูลทางการเงิน ซง่ึ เป็นประโยชนแ์ ก่บุคคลหลายฝ่าย และผู้สนใจใน
กจิ กรรมของกิจการ มีข้ันตอนการปฏบิ ตั ดิ งั น้ี
1. การรวบรวม (Collecinge) หมายถึง การรวบรวมข้อมูลหรือรายการค้าท่ี
เกิดขึ้นประจำวันในการดำเนินธรุ กิจทีเ่ กี่ยวขอ้ งกับเงินเช่น หลักฐานการซื่อเชื่อและขายเชือ่ หลักฐาน
การรับและจ่ายเงิน เปน็ ต้น
2. การบันทกึ (Recording) หมายถึง การจดบนั ทกึ รายการค้าที่เกิดขนึ้ แต่ละครั้ง
ตามลำดับก่อน-หลังให้ถกู ตอ้ งตามหลักการบัญชีท่ีรับรองทั่วไป พร้อมกับบันทกึ ข้อมลู ใหอ้ ยู่ในรูปของ
หน่วยเงินตรา
3. การจำแนก (Classifying) หมายถึง การนำข้อมูลที่จดบันทึกไว้ในสมุดรายวนั
ทั่วไปมาผ่านบัญชีแยกประเภทโดยจำแนกให้เป็นหมวดหมู่ตามหมวดบัญชีประเภทต่างๆเช่น หมวด
สนิ ทรพั ย์ หนส้ี ิน ส่วนของเจา้ ของ รายได้ และคา่ ใช้จา่ ยเปน็ ตน้
12
4. การสรุปข้อมูล(Summarizing) นำข้อมูลที่ได้จากการจำแนกในบัญชีแยก
ประเภทดังกล่าวมาสรุปเป็นรายงานทางการเงิน (Accounting Redort) ซึง่ แสดงถงึ ผลการดำเนินงาน
และฐานะการเงนิ ของธรุ กจิ ตลอดจนการไดม้ าและใช้ไปของเงนิ สดในรอบระยะเวลาบญั ชีหน่ึง
2. การจัดทำและนำเสนองบการเงนิ
2.1 การจดั ทำบญั ชี
ในการจัดทำบัญชีของกิจการจำเป็นต้องอาศัยเอกสารหลักฐานที่เชื่อถือได้เพื่อ
บนั ทกึ รายการทเี่ กดิ ข้นึ จนกระท่งั ประมวลผลเพ่ือนำเสนองบการเงิน ซง่ึ สามารถสรปุ ข้ันตอนการจัดทำ
รายงาน ทางการเงนิ (กรมพฒั นาธรุ กิจการคา้ ; ออนไลน์) ได้ดังน้ี
2.1.1 การวเิ คราะห์รายการค้า (Transaction A nalysis) ซงึ่ เปน็ ขั้นตอน
แรกและเป็นขั้นตอนที่สำคัญมากของวงจรบัญชี คือการวิเคราะห์รายการค้าที่เกิดขึ้นในกิจการว่า
รายการค้าท่ีเกิดข้ึนสง่ ผลใหส้ นิ ทรัพย์ หน้ีสนิ และส่วนของเจ้าของของกิจการเปลี่ยนแปลงอยา่ งไร
2.1.2 การบันทึกรายการลงในสมุดบัญชีขั้นต้น (สมุดรายวัน)
(louralizingOriginal Entries) เมื่อเราวิเคราะห์รายการค้าได้แล้วว่ารายการค้าที่เกิดขึ้นนั้นทำให้
สินทรัพย์ นี้สินและส่วนของเจ้าของเปลี่ยนแปลงอย่างไรแล้ว หลังจากนั้นจึงนำผลการวิเคราะห์
รายการค้ามาบันทกึ ลงในสมดุ บัญชขี ัน้ ต้น (สมดุ รายวนั )
2.1.3 การผ่านรายการจากสมุดบัญชีขั้นต้น (สมุครายวัน) ไปยังสมุดบัญชี
ขั้นปลาย (สมุดบัญชีแยกประเภท) (Posting) เป็นการนำรายการค้าที่บันทึกไว้ในสมุดรายวันไป
จำแนกแยกแยะบญั ชีใหเ้ ปน็ หมวดหมู่ในสมบุ ญั ชแี ยกประเภทบัญชีตา่ ง ๆ
2.1.4 การปรับปรุงบัญชีในวันสิ้นงวด (Adjusting Entries) เมื่อถึงวันสิ้น
งวดบญั ชขี องกจิ การ หากมีรายการคา้ ใดทไ่ี ดบ้ ันทึกและผ่านรายการแลว้ ยงั ไมถ่ ูกต้อง เราจะต้องมาทำ
การถูกตอ้ งของบัญชตี า่ ง ๆ มาจัดทำงบการเงนิ ซึ่งได้แก่
2.1.4.1 งบแสดงฐานะการเงิน
2.1.4.2 งบกำไรขาดทุนเบด็ เสร็จ
2.1.4.3 งบแสดงการเปล่ยี นแลงส่วนของผถู้ อื หนุ้
2.1.4.4 งบกระแสเงินสด
2.1.4.5 หมายเหตุประกอบงบการเงนิ
2.1.5 การปิดบัญชี Chong Entries) หลังจากที่ปรับปรุงรายการและ
จดั ทำงบการเงนิ เสร็จเรยี บรอ้ ยแลว้ ต้องทำการปดิ บัญชตี ่าง ๆ ท่จี ะต้องปดิ บัญชีใน แตง่ วดบัญชใี นสมุด
13
รายวันและผ่านรายการไปยังสมุดบัญชีแยกประเภทที่เกี่ยวข้องสำหรับบัญชีที่ไม่ได้ปิดก็จะทำการยก
ยอดบัญชนี นั้ ไปในงวดบัญชีใหมต่ อ่ ไป
2.2 การนำเสนองบการเงิน มาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 1 เรื่องการนำเสนองบการเงิน
(ปรับปรุง 2552) จัดทำขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับฐานะการเงิน ผลการดำเนินงาน
การเปลี่ยนแปลงฐานะการเงินของกิจการ ซึ่งแสดงไว้ในงบแสดงฐานะการเงิน งบกำไรขาดทุน
เบ็ดเสร็จ และงบกระแสเงินสดรวมถงึ หมายเหตุประกอบงบการเงนิ รายละเอียดประกอบ และข้อมูล
อื่น ๆ ซึ่งระบุไว้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของงบการเงิน และข้อกำหนดใหม่ของมาตรฐานการบัญชี เรื่องการ
นำเสนองบการเงิน มดี งั น้ี
2.2.1 งบแสดงฐานะการเงิน เป็นรายงานทางการเงินที่แสดงให้เห็นถึง
ฐานะการเงินของกิจการ ณ วนั สนิ้ งวด การจัดทำงบแสดงฐานะการเงนิ จะอาศยั หลักความสัมพันธ์ของ
สมการบัญชีคอื สนิ ทรพั ยท์ ั้งสน้ิ จะต้องเท่ากับยอดรวมของหนี้สินทัง้ สิ้นและทุนเสมอ โดยสมการบัญชี
จะแสดงสินทรัพย์ไว้ทางด้านซ้ายมือ และแสดงแหล่งที่มาของสินทรัพย์ คือ หนี้สินและทุนหรือส่วน
ของเจ้าของไว้ทางด้านขวามือของสมการ และยอดรวมจำนวนเงินทั้งสองด้านจะต้องเท่ากัน ฐานะ
การเงินของกิจการจึงพิจารณาได้จากส่วนเกินของสินทรัพย์ที่มีมากกว่าหนี้สิน ซึ่งเรียกว่า ทุน หรือ
ส่วนของเจ้าของ หากงบแสดงฐานะการเงินตามมาตรฐานการบัญชีมีสภาพคล่องมากไปหรือสภาพด
ล่องน้อยไป ผูท้ ำบญั ชีสามารถเลือกรปู แบบท่ีเหมาะสมและทำใหส้ ะท้อนฐานะการเงนิ ได้อย่างถูกต้อง
ทั้งน้ใี หพ้ ิจารณาตามข้อกำหนดรปู แบบยอ่ งบการเงนิ ของกรมพฒั นาธรุ กจิ ทีจ่ ะมกี ารชีแ้ จงตอ่ ไป
2.2.2 งบกำไรขาดทนุ เบ็ดเสรจ็ งบการเงินท่ีแสดงการเปลย่ี นแปลงในส่วน
ของเจ้าของโดยแสดงรายการกำไรและขาดทนุ ทีร่ ับรู้ในงบกำไรขาดทุนสำหรับงวด และที่รับรูโ้ ดยตรง
ในส่วนของเจ้าของที่กำหนดโดยมาตร ฐานการบัญชีฉบับอื่น รวมทั้งผลสะสมจากการเปลี่ยนแปลง
นโยบายการบัญชหี รือแก้ไขข้อผิดพลาด แตไ่ มแ่ สดงรายการเก่ียวกบั เงินทุนท่ีไดร้ ับหรือง่ายให้เจ้าของ
และไม่ต้องแยกแสดงยอดต้นงวด และการกระทบยอดทุก ๆ รายการในส่วนทุน การแสดงรายการใน
งบกำไรขาดทุนเบด็ เสร็จให้แสดงดว้ ยยอด ณ วนั ทใ่ี นงบดลุ โดยมีแนวทางการ จัดทำได้ 2 ลักษณะ คอื
การทำงบกำไรขาดทุนแยกกับงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ และการทำงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จงบเดียว
รายได้ คา่ ใช้จา่ ย กำไรสุทธิ และรายการกำไรขาดทุนเบ็ดเสรจ็ อืน่ รวมอยใู่ นงบเดียวกนั (สวุ มิ ล เหลือง
ประเสรฐิ ,2548, หน้า 472)
2.2.3 งบแสดงการเปลีย่ นแปลงสว่ นของผูถ้ ือหุ้น จะสะท้อนให้เห็นถึงการ
เพ่ิมขนึ้ หรือลดลงของสินทรัพย์สุทธิหรือความมง่ั คงั่ ของกิจการในระหว่างงวดภายให้เกณฑ์การวัดค่าท่ี
กิจการใช้ซึ่งเปดิ เผยอยู่ในหมายเหตปุ ระกอบงบการเงิน การเปลี่ยนแปลงดังล่าวจะแสดงแสดงให้เหน็
14
ถึงการเงินเสร็จเรียบร้อยแล้ว ต้องทำการปิดบัญชีต่าง ๆ ที่จะต้องปิดบัญชีในแต่กำไรและขาดทุน
ทั้งหมดที่เกิจากกิจกรรมของกิจการในระหว่างงวดบัญชี หากไม่รวมรายการที่เกี่ยวข้องกับผู้เป็น
เจ้าของ ทั้งนี้กิจการต้องเลือกแสดงรายการที่เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงฐานะการเงินลักษณะใด
ลกั ษณะหนงึ่
2.2.4 งบกระแสเงินสด รายงานทางการเงินที่แสดงถึงกระแสเงินสดรับ
และกระแสเงินสดจ่ายสำหรับงวดบัญชีว่ามีการ ได้รับเงินสดมาจากแหล่งใดและ ใช้ง่ายเงินสดนั้นไป
อย่างไร ซึ่งงบกระแสเงินสดแบ่งออกเป็นกิจกรรมหลัก 3 กิจกรรม ได้แก่ กิจกรรมการดำเนินงาน
(operating activities) กิจกรรมการลงทุน (investing activities) และกิจกรรมการจัดหาเงิน
(financing activities)
2.2.5 หมายเหตุประกอบงบการเงิน กิจการต้องนำเสนอหมายเหตุ
ประกอบงบการเงินโดยแสดงขอ้ มูลเก่ียวกบั เกณฑก์ ารจัดทำงบการเงินและน โยบายการบญั ชี เปิดเผย
ข้อมูลตามที่มาตรฐานการบัญชีกำหนด ให้ข้อมูลเพ่ิมเติมที่ไม่ได้แสดงอยู่ในตัวงบการเงินแต่จะช่วยให้
เข้าใจได้ดียิ่งขึ้น หมายเหตุประกอบงบการเงินต้องแสดงอย่างเป็นระบบรายการแต่ละรายการในงบ
การเงินต้องอ้างองิ ข้อมลู ท่เี กย่ี วขอ้ งในหมายเหตุประกอบงบการเงนิ
2.2.6 การเปิดเผยนโยบายการบัญชี กิจการต้องเปิดเผยและสรุปนโยบาย
บญั ชีที่สำคัญ โดยกจิ การตอ้ งเปิดเผยไวใ้ นหัวขอ้ สรปุ นโขบายการ บัญชสี ำคัญหรอื ในสว่ นอ่นื ของหมาย
เหตุประกอบการเงินเกี่ยวกับการใช้ดุลยพินิจของฝ่ายบริหารในการกำหนดน โยบายการบัญชี ซึ่ง
นโยบายนั้นมีผลกระทบอย่างมีในสำคัญต่อจำนวนเงินของรายการที่รับรู้ใน งบการเงินนอกเหนือจาก
การใช้ดุลยพินิจเกี่ยวกับประมาณการทำบัญชีถึงแม้ข้อมูลใน งบการเงินจะเป็นข้อมูลในอดีต แต่
สามารถช่วยผู้ใช้งบการเงินในการประมาณการและการคาดการณ์ในอนาคต เพื่อใช้ตัดสินใจทาง
เศรษฐกิจได้ การตัดสินใจเชิงเศรษฐกิจของผู้ใช้งบการเงินนั้น รวมถึงการประเมินผลการบริหารงาน
ความสามารถในการทำกำไร และการก่อกระแสเงินสดของกิจการ เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจใน
กรณีใดกรณีหนึ่ง เช่นการตัดสินใจโยกย้าย หรือเปลี่ยนผู้บริหาร การขายหรือถือเงินลงทุน ในกิจการ
ต่อไป การอนุมัติวงสินเชื่อ การดำเนินงานต่อเนื่องของกิจการ และการกำกับดูแลของหน่วยงาน
ราชการ เพื่อให้การจดั ทำงบการเงนิ บรรลวุ ตั ถปุ ระสงคข์ ้างต้น แมบ่ ทการบญั ชไี ดก้ ำหนดขอ้ สมมตุ ไิ ว้ 2
ข้อ ได้แก่เกณฑ์คงค้าง การบันทึกรายการทางบัญชี จะบันทึกก็ตอ่ เมือ่ รายการนั้นได้เกิดข้ึนแล้ว ไม่ใช่
บันทกึ เม่ือมีการรบั หรือจา่ ยเงินสด หรือรายการเทียบเท่าเงนิ สด โดยบนั ทกึ ถูกต้องตรงตามงวดบัญชีท่ี
เกี่ยวข้อง และการดำเนินงานต่อเนื่อง งบการเงินจัดทำขึ้นภายใต้ข้อสมมติที่ว่า กิจการจะดำเนินงาน
อย่างต่อเนื่อง และดำเนินอยู่ต่อไปในอนาคต โดยไม่มีเจตนาหรือความจำเป็นที่จะเลิกกิจการหรือลด
ขนาดของการดำเนนิ งานอยา่ งมีนัยสำคัญงวดบัญชีในสมุดกำไรและขาดทุนท้ังหมดท่ีเกิดจากกิจกรรม
15
ของกิจการในระหวา่ งงวดบัญชี หากไม่รวมรายการทีเ่ กีย่ วข้องกับผู้เป็นเจา้ ของ ทั้งนี้กิจการต้องเลอื ก
แสดงรายการทเ่ี ก่ยี วกับการเปล่ียนแปลงฐานะการเงนิ ลกั ษณะใดลกั ษณะหนง่ึ
3. การทำบญั ชโี ดยใชโ้ ปรแกรม Microsoft Excel
3.1 ความรพู้ น้ื ฐานเก่ยี วกบั โปรแกรม Microsoft Excel
โปรแกรม Microsoft Excel เปน็ โปรแกรมในกลุ่มของ Microsoft Office และยงั
มีโปรแกรมอื่นๆ ที่คุ้นเคยกัน ได้แก่ Microsoft Word ซึ่งเหมาะกับการจัดทำเอกสาร Microsoft
PowerPointซึ่งเหมาะกับการนำเสนองานโดยโปรแกรมMicrosoft Excel เป็นโปรแกรมประเภทส
เปรดชีต (Spreadsheet) ที่มีความ สามารถในการนำข้อมูลมาคำนวณ ไม่ว่าจะเป็นการคำนวณตาม
สตู รคณิตศาสตร์พ้นื ฐานหรือสตู รทางการเงนิ ที่มีความซับซ้อนมาก ขนึ้ เน่ืองจากโปรแกรม Microsoft
Excel มีฟังก์ชันต่างๆ ให้เลือก ใช้มากมาย และเป็นโปรแกรมประเภทสเปรดชีตที่มีลักษณะเป็น
ตาราง2 มิติคือ มีแถวแนวตั้งเรียกว่า “คอลัมน์” (Column) และ บรรทัดแนวนอนเรียกว่า “แถว”
(Row) จุดตัดระหว่างคอลัมน์และ แถว เรียกว่า “เซลล์” (Cell) โดยแต่ละเซลล์สามารถคีย์ข้อมูลได้
หลายชนิด ได้แก่ ตัวอักษร ตัวเลข สูตร และข้อมูลประเภทวันที่ และเวลา โดยจากโครงสร้าง
Worksheet ของ Microsoft Excel ท่ี ประกอบด้วยเซลล์จำนวนมาก ทำให้สามารถนำมาประยุกต์ใช้
สำหรับการออกเอกสารต่างๆ ของระบบบัญชีได้อีกมากมาย เช่น ใบขอซื้อ ใบสั่งซื้อ ใบเสร็จรับเงิน
ทะเบยี นคมุ ทรพั ยส์ นิ และเอก สารอืน่ ๆ
3.2 ความเป็นมาของการประยกุ ตใ์ ช้โปรแกรมสเปรดชีตในการจดั ทำบญั ชี
โปรแกรมสเปรดชีตเป็นโปรแกรมที่เหมาะกับการทำงาน เกี่ยวกับตาราง การ
คำนวณ อีกทง้ั ยังสามารถเชื่อมโยงข้อมูล ระหว่าง Cell หรือระหวา่ ง Worksheet ได้ซง่ึ เหมาะกับการ
นำมา ประยุกต์ใช้กับงานบัญชีเนื่องจากการทำงานด้านบัญชีจะต้องมีการ เชื่อมโยงข้อมูลระหว่างกัน
และกันเช่นการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่าง สมุดรายวันและบัญชีแยกประเภทเป็นต้นดังนั้นนักบัญชีที่มี
ความ รูค้ วามสามารถเก่ียวกับการใชง้ านโปรแกรมสเปรดชีตจงึ ประยุกต์ ใช้โปรแกรมสเปรดชตี กับงาน
บัญชหี ลากหลายดา้ น ไมว่ า่ จะ เป็นการจดั ทำงบประมาณ การวิเคราะห์งบการเงนิ หรือการจัดทำบัญชี
โดยท่ัวไป ซึง่ ประกอบดว้ ยการบันทึกรายการในสมดุ รายวัน การจดั ทำบญั ชีแยกประเภท การจัดทำงบ
ทดลอง และการจดั ทำงบการเงินและงบกระแสเงนิ สด
นอกจากนั้น ตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับ ภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับท่ี
89) เรื่อง กำหนดแบบหลักเกณฑ์วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการจัดทำรายงาน การลงรายการใน
รายงาน การเก็บใบกำกับภาษีและเอกสารหลักฐานอื่นที่ใช้ประกอบการลง รายงานภาษีซื้อ ตาม
มาตรา 87 และมาตร 87/3 วรรคสอง แห่ง ประมวลรษั ฎากร โดยข้อกำหนดข้อ 10 ความตอนหนึง่ ว่า
“การ ลงรายการในรายงานภาษีขายรายงานภาษีซื้อให้เขียนด้วยหมึกหรือใช้วิธีพิมพ์หรือจัดทำด้วย
ระบบคอมพิวเตอร์.การพมิ พ์ดว้ ย เครอ่ื งพิมพ์ดดี การพิมพ์ด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป สเปรด
16
ชีต(Spreadsheet) เช่น LOTUS หรือ EXCEL หรือโปรแกรม สำเร็จรูปที่มีลักษณะทำนองเดียวกัน”
ขอ้ กำหนดข้างต้นทำใหก้ าร ทำบัญชีดว้ ยโปรแกรมสเปรดชตี ไดร้ ับความนยิ มมากขึ้นและเป็นท่ี ยอมรบั
กันอย่างแพร่หลาย ธุรกิจจำนวนมากหันมาใช้โปรแกรม สเปรดชีตในการจัดทำบัญชีเพราะไม่ต้อง
สิ้นเปลืองงบประมาณ ในการจัดหาโปรแกรมสำเร็จรูปที่มีราคาสูงมาใช้งาน นอกจากนั้น การใช้
โปรแกรมสเปรดชีตในการทำบัญชียังสามารถตอบสนอง ความต้องการของผู้บริหารกิจการได้อย่าง
ถูกต้องตรงความต้องการ อีกด้วย และข้อดีอีกประการหนึ่งของการใช้โปรแกรมสเปรดชีตใน การทำ
บญั ชีคือ กจิ การสามารถนำผลลพั ธ์ทีไ่ ด้จากโปรแกรมมา ใช้ในการวิเคราะหต์ ่อได้อีก
3.3 สูตรคำนวณบัญชีใน Microsoft Excel (พ้ืนฐาน)
ในส่วนนี้จะเป็นเรื่องของพื้นฐานในการใช้ Excel ด้วยการทำ ‘บวกลบคูณ
หาร’ หากใครรู้อยู่แล้วข้ามไปขั้นตอนต่อไปได้เลย ประกอบไปด้วยเครื่องหมาย = ตามด้วย ตัวแปร
และ ตวั ดำเนนิ การ โดยใช้ตวั แปรที่อาจใช้ขอ้ ความตวั เลข ช่อื เซลล์และตำแหนง่ เซลลน์ ้นั ๆ
ภาพท่ี 2.1 การทำบวก ลบ คูณและหาร
ตัวดำเนนิ การทางคณติ ศาสตร์ ( Arithmetic Operator) ที่นิยมใชใ้ น Microsoft Excel สามารถแบง่
ได้ ดังนี้
ภาพท่ี 2.2 ตัวดำเนินการทางคณติ ศาสตร์
17
และสำคัญสำหรับการสร้างสูตรคำนวณใน Excel ที่สุดก็คือ ตัวดำเนินการอ้างอิง (Reference
Operator) เปน็ ตวั ดำเนินการท่ใี ชอ้ ้างอิงถงึ ตำแหนง่ เซลล์
ภาพที่ 2.3 ตัวดำเนินการอา้ งอิง
3.4 การนำสูตรคำนวณมาใช้งาน
พิมพ์สูตรลงในเซลล์โดยตรงคลิกที่เซลล์ที่ต้องการใส่สูตรคำนวณ แล้วพิมพ์
เครื่องหมาย = ตามด้วยสูตรคำนวณที่ต้องการ หรือ ใช้เมาส์สร้างโดยลากเมาส์ไปยังตำแหน่งเซลล์ท่ี
ตอ้ งการจากนน้ั กดปุ่ม Enter
ภาพท่ี 2.4 การนำสูตรคำนวณมาใช้งาน
หมายเหตุ: ร.ว. หมายถึงขอ้ มูลทีน่ ำมาผ่านในบัญชีแยกประเภท เอามาจากการบันทึกรายการในสมุด
รายวัน ผลลพั ธ์จะปรากฏข้นึ มาดงั รปู
18
3.5 การแกไ้ ขสตู รคำนวณ
หลงั จากสร้างสูตรคำนวณเสร็จแลว้ หากต้องการแก้ไขสูตรคำนวณ สามารถทำได้
ดบั เบลิ คลกิ ท่เี ซลล์ หรอื กด F2
3.6 สร้างสมุดบันทึกรายงานขั้นต้นไปบัญชีแยกประเภท
ข้ันตอนท่ี 1 สรา้ งสูตรคำนวณเพ่ือหาผลรวมของจำนวณเงนิ ฝงั่ เดบติ
ภาพที่ 2.5 การสรา้ งสูตรคำนวณเพ่ือหาผลรวมของจำนวณเงินฝงั่ เดบติ
ขนั้ ตอนที่ 2 สรา้ งสูตรคำนวณเพื่อหาผลรวมของจำนวณเงนิ ฝง่ั เครดิต
ภาพที่ 2.6 การสร้างสตู รคำนวณเพื่อหาผลรวมของจำนวณเงนิ ฝ่ัง เครดิต
19
ขั้นตอนที่ 3 คลิกท่ีเซลล์ B9 แล้วสร้างสูตรคำนวณ =D10-H10
ภาพที่ 2.7 สตู รการคำนวณหาผลต่างเงินฝากธนาคาร
ขัน้ ตอนท่ี 4 ยอดคงเหลือในบัญชีเงินฝากธนาคารท่ีปรากฏข้นึ มาดงั รูป
ภาพที่ 2.8 ยอดคงเหลือในบัญชเี งนิ ฝากธนาคาร
20
3.7 การหายอดคงเหลอื ในบัญชีแยกประเภทท่ัวไป
การสรปุ ยอดคงเหลือของบญั ชีต่าง ๆ ทุกบัญชีในสมุดบญั ชีแยกประเภทท่ัวไปเป็น
การหายอดคงเหลือด้วยดินสอ (Pencil Footing ) เรียกว่าการหายอดดุลด้านเดบิตและยอดดุลด้าน
เครดิต ซึ่งหมวดบัญชีสินทรัพย์และค่าใช้จ่ายมียอดดุลด้านเดบิต ส่วนหมวดหนี้สิน ส่วนของเจ้าของ
และรายไดม้ ียอดดุลด้านเครดติ มีวธิ ีหายอดดุลด้วยดินสอ พอสรุปได้ดังนี้
3.5.1 บญั ชที ่บี ันทึกทางด้านเดบิตและเครดิตหลาย ๆ รายการให้รวมยอด
จำนวนเงินแต่ละด้านแล้วเขียนยอดรวมไว้บรรทัดสุดท้ายของรายการนั้น ๆ ด้วยดินสอ จากนั้นหา
ผลต่างวา่ ด้วนใดมากวา่ ใหเ้ ขียนผลตา่ งไวใ้ นชอ่ งรายการด้วยดินสอดา้ นท่ีมจี ำนวนเงินมากกว่า
3.5.2 บัญชีที่บันทึกรายการทางด้านเดบิตและเครดิตเพียงด้านละหน่ึง
รายการใหเ้ ขียนผลตา่ งของยอดจำนวนเงินด้วยดนิ สอไวใ้ นช่องรายการของด้านท่มี จี ำนวนเงนิ มากกว่า
3.5.3 บัญชีที่บันทึกด้านหนึ่งด้านใดเพียงด้านเดียว ให้รวมยอดเงินแล้ว
เขียนด้วยดินสอไว้ใตจ้ ำนวนเงนิ รายการสุดท้ายของด้านนั้นดว้ ยดนิ สอ
3.5.4 บัญชีที่มีรายการเพียงรายการเดียวไม่จำเป็นต้องรวมยอดเงินจาก
การหายอดคงเหลือด้วยดินสอ เมื่อจัดทำบัญชีด้วยโปรแกรม Microsoft Excel จึงใช้สูตรในการ
คำนวณดังนี้
1. หาผลรวมโดยเล่ือนเมาส์ไปคลกิ บรรทัดสุดท้ายของบัญชีที่จะหา
ยอดรวม ตัวอย่างเช่น บญั ชเี งินสด ดา้ นเดบติ โดยใช้สูตร =SUM(E4:E7)
2. หาผลรวมทางดา้ นเครดิต ด้วนวิธีเดยี วกัน โดยใช้สูตร =J4 หรือ
คลกิ ไอคอน
3. หาผลต่างระหว่างผลรวมด้านเดบิตและเครดิต และนำผลลัพธ์
ไปไว้ทางด้านทีม่ จี ำนวนทม่ี ากกวา่ ช่องรายการ โดยใชส้ ตู ร =E8-J8 (ผลตา่ งอยทู่ างด้านเดบิต เนอ่ื งจาก
เป็นบัญชีหมวดสินทรัพย์) สำหรับบัญชีที่มียอดคงเหลือด้านเครดิตก็ใช้วิธีเดียวกัน เช่น บัญชีเจ้าหนี้
การคา้ โดยใชส้ ตู ร =J64-E64
4. การจัดทำงบทดลองดว้ ยโปรแกรม Microsoft Excel
งบทดลอง (Trial Balance) เป็นงบที่พิสูจน์ความถูกต้องของข้อมูลทางการบัญชีว่าได้
บันทึกรายการตามหลักบัญชีคู่ ซึ่งจากการบันทึกรายการในสมุดรายวันทั่วไปทุกรายการต้อง
ประกอบดว้ ยด้านเดบิตและด้านเครดิต การบนั ทึกจำนวนเงินด้านเดบิตไวใ้ นบัญชีหน่ึงเท่ากับจำนวน
เงินเครดิตไว้อีกบัญชีหนึ่ง ดังน้ันยอดรวมของรายการเดบิตในบัญชีต่างๆจึงต้องเท่ากับยอดรวมของ
รายการเครดิตในบัญชีต่างๆซึ่งการที่ผลรวมของบัญชีด้านเดบิตและด้านเครดิตเท่ากัน อาจมีการ
บันทึกบัญชีบางบัญชีที่ไม่ถูกต้อง แต่บันทึกบัญชีทั้งดา้ นเดบิตและด้านเครดิตด้วยจำนวนเงินที่เท่ากัน
21
เช่น ซื้อหมึกพิมพ์ 2 กล่อง เป็นเงิน 2,500 บาท การเปรียบเทียบการบันทึกบัญชกี ับการบันทึกบัญชี
ทีถ่ ูกต้องบันทกึ บัญชี
บนั ทึกบัญชที ่ีถูกต้อง
เดบิต เครื่องใชส้ ำนักงาน 2,500 เครดติ เงินสด 2,500
เดบิต วัสดสุ นิ้ เปลอื ง 2,500 เครดิต เงนิ สด 2,500
จะเห็นว่าวสั ดสุ ิน้ เปลอื งเป็นบญั ชปี ระเภทสินทรัพย์หรือคา่ ใชจ้ า่ ยเม่ือมียอดเพิ่มขึ้นบันทึก
ทางด้านเดบิต เช่นเดียวกับบัญชเี ครื่องใช้สำนักงานจึงทำให้งบทดลองลงตัว การจัดทำงบทดลองต้อง
ระบุว่าเป็นงบทดลอง ณ วันหนึ่งวันใด เมื่อสิ้นรอบระยะเวลาหนึ่ง เช่น 3 เดือน 6 เดือน 1 ปี โดย
การรวบรวมยอดคงเหลือเดบิตและยอดคงเหลือเครดิตในสมุดบัญชีแยกประเภททั่วไปไว้ด้วยจำนวน
เงินที่เทา่ กนั
ขัน้ ตอนในการทำงบทดลอง มีดงั นี้
1. เปิดสมดุ งานท่สี รา้ งแบบฟอร์มต่างๆ และเพ่มิ แผน่ งานชื่อ “งบทดลอง”
2. พมิ พช์ ่ือบญั ชแี ละเลขทบ่ี ัญชี ในชอ่ งชอื่ บญั ชีและเลขทีบ่ ญั ชี
3. นำยอดคงเหลือไปใส่ไว้ในช่องเดบิตหรือเครดิต โดยนำมาจากยอดคงเหลือใน
บัญชีแยกประเภททั่วไป ตัวอย่างเช่น บัญชีเงินสดนำเมาส์วางไว้ที่ช่องจำนวนเงินด้านเดบิตใส่
เครื่องหมาย = คลิกเมาส์ท่ีแผ่นงานแยกประเภทเลือกบัญชีเงินสด วางเมาส์ไว้ที่ชอ่ งรายการ จำนวน
เงนิ ยอดคงเหลอื (C8) แล้วกด Enterทำการเชอ่ื มโยงลักษณะเดียวกัน
4. หายอดรวมทางด้านเดบิคท่ี D29 โดยใชส้ ตู ร = S
5. หายอดรวมดา้ นเครดติ ที่ E29 โดยใช้สูตร =SUM(E6:E27)
5. ประโยชน์ของ Microsoft Excel
1. สรา้ งตารางทำงาน จดั ตารางสวยงามในรูปแบบตา่ งๆ
2. สรา้ งเอกสารทีต่ อ้ งมกี ารคำนวณ เชือ่ มโยงสตู ร (สามารถเชื่อมโยงในไฟล์เดียวกนั
ขา้ มไฟลห์ รอื ขา้ มเครื่องก็ได)้
3. งานจดั เกบ็ ข้อมูลเบ้ืองตน้ ทจี่ ำนวนข้อมลู ไม่เกนิ 1 ลา้ นแถว (ในทางปฏิบัติ แนะนำไม่
เกินหลกั แสนจะทำงานไดค้ ล่องตวั )
4. สร้างรายงานสรปุ ผลในมุมมองต่างๆ เช่น ตารางสรปุ ยอดขาย ตารางสรุปข้อมลู
สนิ คา้ สรุปงบดุล สรปุ แผนการผลติ สรุปข้อมูล ขาดลามาสายของพนกั งาน เป็นต้น
5. สร้างกราฟ นำเสนอข้อมูลในรปู แบบต่างๆไมว่ า่ จะเปน็ กราฟแท่ง กราฟเส้น วงกลม
จุดทั้ง 2 มิตแิ ละ 3 มิตมิ รี ูปแบบต่างๆมากมาย
22
6. ลักษณะงานเหมาะกับ Microsoft Excel
1. งานด้านบัญชี (Accounting)
2. งานดา้ นการเงิน (Financial)
3. งานดา้ นการวางแผน (Planning)
4. งานดา้ นงบประมาณ (Budgeting)
5. งานด้านสถิติ (Statistic)
6. งานดา้ นวศิ วกรรมศาสตร์ (Engineering)
2.3 ประวัติวิทยากร/ที่ปรกึ ษาโครงการและสถานประกอบแ
2.3.1 ประวัติวิทยากร/ทีป่ รกึ ษาโครงการ
นางเพ็ชลี ภาวงั ค์ เปน็ เจา้ ของร้านเสริมสวย บา้ นเลขที่ 48 หมู่ 4 บา้ นแม่บอน ตำบล
โหลง่ ขอด อำเภอพร้าว จงั หวัดเชยี งใหม่ 50190
2.4 งานวิจัยทเี่ กี่ยวข้อง
ปิยะรัตน์ โพธิ์ย้อย (2556 : บทคัดย่อ) การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อการศึกษา ความ
คาดหวังต่อประสิทธิภาพโปรแกรมสำเร็จรูปทางการบัญชีของพนักงานบัญชีกรณีศึกษาสวน
อุตสาหกรรมโรจนะ จ.พระนครศรีอยุธยากลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ได้แก่ กลุ่มตัวอย่าง ใน
การศึกษาครั้งนี้ เป็นการศึกษา บริษัทในสวนอุตสาหกรรมโรจนะแผนกบัญชีได้ตัวอย่าง 58 ตัวอย่าง
โดยใช้สมการของ Taro Yamane (1970 โดยพิจารณาจากจำนวนของประชากรทงั้ หมด และกำหนด
ระดับความคลาดเคล่ือนของการสุ่มตัวอย่างเทา่ กับ 0.10 สมการ เครือ่ งมอื ที่ใชว้ ิจัย คือแบบสอบถาม
สถิติที่ใช้ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเยงเบนมาตรฐาน ข้อมูลทางสถิติโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป
อย่างง่ายในการคำนวณหาคา่ ผลการวจิ ัยพบวา่ ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญม่ ีอายุการทำงาน มากกวา่
10 ปี ขึ้นไปจำนวน 31 คน คิดเป็นร้อยละ 52.5 และผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่จดทะเบียนเป็น
บริษัทจำกัดจำนวน 58 ราย คิดเป็นร้อยละ 98.3 การใช้โปรแกรมสำเร็จรูป ส่วนใหญ่ใช้ Express
Accounting จำนวน 21 ราย ซ่ึงสอดคล้องกบั ชนิดของโปรแกรมสำเรจ็ รูปทางการบัญชี Non-ERP ที่
พฒั นาโดยบริษัทของคนไทยจำนวน 26 ราย คดิ เป็นร้อยละ 47.3 และพบวา่ ผูต้ อบแบบสอบถามส่วน
ใหญ่ใช้โปรแกรมที่มีราคา 0 - 50,000บาทจำนวน 18 ราย คิดเป็นร้อยละ 32.7 ด้านส่วนประกอบ
ของความคาดหวังและความจรงิ ที่ไดร้ ับของพนักงานบัญชีให้ความสำคัญในด้านความถ่ีในการรายงาน
ผลซึ่งมีค่าเฉลีย่ มากที่สุด เช่นเดียวกับด้านความยืดหยุ่นของระบบ ของความคาดหวังและความจริงที่
ได้รับของพนักงานบัญชใี ห้ความสำคญั ในด้านความยืดหยนุ่ ในการใช้งานผล ซง่ึ มีค่าเฉลี่ยมากท่ีสุด
23
วิไลวรรณ ศรีแสงอ่อน (2557 : บทคัดย่อ) การวิจัยนี้มีวตั ถุประสงค์เพื่อพัฒนาทักษะการสร้าง
แผนภูมิในการคำนวณด้วยโปรแกรมตารางทำการของนักเรียนประเภทวิชาพณิชยการ สาขาวิชา
คอมพิวเตอร์ธุรกิจ ระดบั ชั้น ปวช.1 กลุ่ม 5 ให้ดีขนึ้ ไปผลการวจิ ัยพบว่า พบวา่ บรรยากาศในห้องเรียน
โดยรวม จากการฝึกปฏิบัติผู้เรียนสนใจ มีความกระตือรือร้นและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ผู้เรียน
เกิดการเรียนรู้จนเกิดทักษะเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ ซึ่งดูได้จากคะแนนเฉลี่ยจากใบงานทั้ง 3 ใบคะแนน
เฉลี่ยร้อยละของผู้เรียนในการฝกึ ปฏิบัติกิจกรรมในใบงานที่ 1 มีค่าเฉลี่ยร้อยละ 71.19 ใบงานที่ 2 มี
ค่าเฉลี่ยร้อยละ 82.14 และใบงานที่ 3 มีค่าเฉลี่ยร้อยละ 92.62ตามลำดับ และจากการทำ
แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนคะแนนเฉลี่ยร้อยละจากการทำแบบทดสอบก่อนเรียนเท่ากับ
54.76 และแบบทดสอบหลังเรียนเท่ากับ81.67 เพิ่มขึ้นร้อยละ 26.9 ผลจากการทำแบบทดสอบของ
ผู้เรยี นพบวา่ ผูเ้ รียนมีการพฒั นาความรู้และทกั ษะอย่ใู นเกณฑด์ ี
วลิ าสนิ ี สวา่ งงาม พรอ้ มคณะ (2564 : บทคัดย่อ) การวิจยั น้มี วี ัตถุประสงค์ 1) เพือ่ ศึกษาการ
ใชโ้ ปรแกรมสำเร็จรปู ทางการบญั ชีของพนักงานบญั ชีในบริษัทขนาดกลางและขนาดย่อม และ 2) เพ่ือ
ศึกษาความคิดเห็นเกี่ยวกับประสิทธิภาพการทำงานของโปรแกรมสำเร็จรูปทางการบัญชีที่มีผลต่อ
พนักงานบัญชีในบริษัทขนาดกลางและขนาดย่อม คณะผู้ทำวิจัยดำเนินการเก็บข้อมูลโดยใช้
แบบสอบถาม ดว้ ยการคดั เลอื กแบบเจาะจง จำนวน 50 บริษัท วิเคราะห์ขอ้ มูลดว้ ยการวิเคราะห์ ด้วย
ค่าร้อยละค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานผลการศึกษาพบว่า 1) โปรแกรมสำเร็จรูปบริษัทส่วน
ใหญ่ใช้โปรแกรม Express รองลงมาโปรแกรม My Account สถานที่ตั้งของบริษัทส่วนใหญ่ตั้งอยู่
บริเวณตำบลหัวหิน ประเภทของบริษัทเป็นบริษัทขนาดย่อม และทุนในการจดทะเบียน น้อยกว่า
5,000,000 บาท ปัจจัยส่วนบุคคลของพนักงานบัญชีส่วนใหญ่พบว่าเป็น เพศหญิงอายุ 24 - 29 ปี
ระดับการศึกษาปริญญาตรี มีประสบการณ์การทำงานน้อยกว่า 3 ปี และ 2) ความคิดเห็นเกี่ยวกับ
ประสิทธิภาพการทำงนพนักงานบัญชีในอำเภอหัวหิน เกี่ยวกับการมีประสิทธิภาพการทำงานโดยรวม
อยู่ในระดับมากที่สุด โดยเรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับแรก ได้แก่ ด้านขีด
ความสามารถ ดา้ นลักษณะการทำงานและดา้ นการรกั ษาความปลอดภัย ตามลำดับ
เผยอยใู่ นหมายเหตปุ ระกอบงบการเงนิ การเปล่ยี นแปลงด
51
บทที่ 3
วธิ กี ารดำเนนิ งานโครงงาน
การดำเนินโครงงานการจัดทำบัญชีร้านเสริมสวย โดยประยุกต์ใช้โปรแกรม Microsoft Excel
ณ บ้านเลขที่ 48 หมู่ 4 ตำบลโหล่งขอด อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ 50190 ระหว่างวันที่ 1
ธนั วาคม 2564 ถึง 31 ธนั วาคม 2564 ผ้จู ดั ทำโครงงานมีวิธีการดำเนนิ งานโครงงานมหี วั ข้อดังต่อไปน้ี
3.1 รูปแบบของโครงงาน
3.2 ประชากรและกลุม่ ตวั อยา่ งของโครงงาน
3.3 ขั้นตอนการดำเนินงาน
3.4 การเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล
3.5 การวเิ คราะหข์ ้อมลู
3.1 รปู แบบของโครงงาน
โครงงานการจัดทำบัญชีร้านเสริมสวย โดยประยุกต์ใช้โปรแกรม Microsoft Excel เป็น
โครงงานประเภทจัดทำธรุ กิจ/บริการ ของกิจการเจ้าของคนเดียวท่ีบริการเสรมิ สวย โดยคณะผู้จัดทำ
ได้เก็บรวบรวมข้อมูลรายรับรายจ่ายเพื่อมาจัดทำบัญชีเบื้องต้นพร้อมทั้งจัดทำงบกำไรขาดทุน งบ
แสดงฐานะการเงิน
3.2 ประชากรและกลุม่ ตวั อย่างของโครงงาน
3.2.1 ประชากร ผู้ประกอบการที่ให้บริการเสริมสวย ตำบลโหล่งขอด อำเภอพร้าว จังหวัด
เชียงใหม่
3.2.2 กลมุ่ ตัวอยา่ ง กิจการรา้ นเสรมิ สวย บา้ นเลขที่ 48 หมู่ 4 ตำบลโหล่งขอด อำเภอพร้าว
จงั หวดั เชยี งใหม่ 50190 โดยนางเพ็ชลี ภาวงั ค์ เจา้ ของกิจการ เปน็ วิทยากรและท่ปี รึกษาโครงงาน
25
3.3 ขั้นตอนการดำเนนิ งาน
3.3.1 ขั้นเตรียมการ
1. ทำการเลือกโครงงานโดยใช้ตารางวเิ คราะหข์ ้อมลู เพ่ือตดั สนิ ใจเลือกโครงงาน ดังนี้
ตารางวเิ คราะหข์ ้อมลู เพอื่ ตดั สินใจเลือกโครงงาน
รายการวเิ คราะหข์ ้อมูล โครงการท่ี 1 โครงการที่ 2 โครงการท่ี 3
432143214321
1. ดา้ นผจู้ ัดทำโครงการ ✓✓ ✓
- ความถนัดและความสนใจ
- ความรแู้ ละประสบการณ์ ✓✓✓
- ความพรอ้ มดา้ นการเงินทุน ✓✓✓
- ความพร้อมในการจัดเตรยี มวัสดอุ ุปกรณ์
- ความพรอ้ มด้านเวลา/แรงงาน ✓✓ ✓
✓✓ ✓
2. ดา้ นสังคมและส่งิ แวดลอ้ ม ✓ ✓ ✓
- เป็นประโยชนต์ อ่ ตนเอง ครอบครวั และสังคม
- สามารถจดั หาวัสดุ อปุ กรณไ์ ด้ภายในทอ้ งถน่ิ ✓ ✓ ✓
- มแี หล่งความรู้ ขอ้ มลู ตา่ งๆภายในท้องถิน่ ✓ ✓ ✓
- มีสถานทีป่ ฏบิ ตั ิงานทีเ่ หมาะสม ✓ ✓
- มผี เู้ ชยี่ วชาญให้ความรแู้ ละให้คำปรึกษา ✓ ✓
✓ ✓
3. ด้านความรแู้ ละความสามารถของผู้เรียน ✓
- มีความรู้เก่ียวกับการปฏบิ ัติงานโครงการ ✓ ✓
- มีความรูท้ างวชิ าชีพทเี่ กยี่ วข้องกับการปฏิบัตงิ าน ✓✓ ✓
✓
- วางแผนขัน้ ตอนการปฏบิ ัตทิ ่สี ามารถปฏิบัตไิ ด้ ✓ ✓
✓
- นำความรู้ ทักษะที่ได้รับจากการปฏิบัติโครงการ 47
ไปเป็นข้อมูลสำหรับการปฏิบัติงานอื่น หรือเป็นแนว ✓ ✓
ทางการปฏบิ ตั งิ านโครงการอื่นต่อไป
รวม 40 51
ตารางที่ 3.1 ตารางการวิเคราะหข์ ้อมูลเพ่ือตดั สนิ ใจเลือกโครงงาน
26
หมายเหตุ ให้ผูเ้ รยี นพิจารณาขอ้ มูลต่างๆและใหค้ ะแนนเพ่ือการตัดสินใจเลือกโครงงาน
1. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนเพ่ือตดั สินใจเลอื กโครงงานมดี งั นี้
4 หมายถึง มีความพรอ้ มและเหมาะสมมากทส่ี ดุ
3 หมายถึง มคี วามพรอ้ มและเหมาะสมมาก
2 หมายถึง มีความพร้อมและเหมาะสมปานกลาง
1 หมายถึง มคี วามพรอ้ มและเหมาะสมน้อย
2. ช่อื โครงงานท่พี จิ ารณา มีดังน้ี
ชื่อโครงงานท่ี 1 ฟางขา้ วแปรรูป สร้างมูลคา่ แกป้ ัญหาการเผาไหม้
ช่อื โครงงานที่ 2 การจัดทำบัญชีร้านเสริมสวย โดยประยกุ ต์ใชโ้ ปรแกรม Microsoft Excel
ชื่อโครงงานท่ี 3 การทำบญั ชีครวั เรอื นของผู้จัดทำโครงงาน
3. ใหค้ ะแนนแต่ละโครงานให้ครบทุกข้อ แล้วรวมคะแนนท้ังหมดในแต่ละโครงงานท่ีได้
คะแนนสูงสุด คือ การทำบัญชีร้านเสริมสวย โดยประยุกต์ใช้โปรแกรม Microsoft Excel ได้ 51
คะแนน คณะผู้จัดทำจึงร่วมกันเสนอความคิดเห็นในการจัดทำโครงงานการจัดทำบัญชีร้านเสริมสวย
โดยประยกุ ต์ใชโ้ ปรแกรม Microsoft Excel การจดั ทำบญั ชีรายได้ - ค่าใชจ้ ่าย ใหก้ บั กจิ การร้านเสริม
สวย บ้านเลขท่ี 48 หมู่ 4 ตำบลโหล่งขอด อำเภอพรา้ ว จงั หวัดเชียงใหม่ 50190 เพอ่ื ทจี่ ะทำให้กจิ การ
ทราบถึงผลกำไรขาดทุนจากการดำเนินงานและเป็นประโยชน์ในการวางแผนการเงินของกิจการและ
เพื่อง่ายต่อการนำเสนอข้อมูลมาศกึ ษาในการทำโครงงานให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงงานการ
จัดทำบัญชรี า้ นเสรมิ สวย โดนประยุกตใ์ ชโ้ ปรแกรม Microsoft Excel
27
2. คณะผู้จัดทำได้ร่วมกันเขียนโครงร่างโครงงานเพื่อเสนอขออนุมัติให้กับครูผู้สอน/ครู
ที่ปรึกษาเพื่อจัดทำโครงงานการจัดทำบัญชี โดยประยุกต์ใช้โปรแกรม Microsoft Excel การจัดทำ
บัญชีรายได้ค่าใช้จ่ายให้กับ นางเพ็ชลี ภาวังค์ เจ้าของกิจการ ณ บ้านเลขที่ 48 หมู่ 4 ตำบลโหล่ง
ขอด อำเภอพรา้ ว จงั หวดั เชยี งใหม่ 50190 โดยมี 11 หัวข้อดงั น้ี
1. ชื่อโครงงาน
2. ผจู้ ัดทำโครงงาน
3. ครูผสู้ อน/ครทู ปี่ รึกษาโครงงาน
4. ความเป็นมาและความสำคญั ของโครงงาน
5. วัตถุประสงคข์ องโครงงาน
6. ขอบเขตของโครงงาน
7. ประโยชน์ที่คาดวา่ จะไดร้ บั
8. นยิ ามศัพท์
9. วิธดี ำเนนิ โครงงาน
10. แผนดำเนินโครงงาน
11. งบประมาณและทรัพยากร
3. กำหนดปฏทิ นิ การปฏบิ ัตงิ านดงั ต่อไปนี้
ลำดับขัน้ ตอนการปฏิบตั ิงาน ธันวาคม 2564 มกราคม 2565 ผู้รบั ผดิ ชอบ
1 234 123 4
ศิริลกั ษณ,์ สตรรี ัตน์
1. ติดตอ่ ประสานงานเพือ่ ดำเนินงาน ศริ ลิ กั ษณ,์ สตรีรตั น์
ศิริลกั ษณ,์ สตรีรัตน์
2. ศกึ ษาข้ันตอนการผลติ ศิริลกั ษณ,์ สตรรี ตั น์
ศิริลกั ษณ,์ สตรรี ตั น์
3. ถ่ายรูปขั้นตอนหาการผลิต ศิริลกั ษณ,์ สตรีรัตน์
4. เก็บรวบรวมรายการสนิ ทรพั ย์
5. เกบ็ รวบรวมรายรับรายจ่าย
6. วิเคราะห์ขอ้ มลู และจดั ทำบัญชี
ตารางที่ 3.2 ตารางการกำหนดปฏิทินการปฏบิ ัตงิ าน
28
4. ศกึ ษาเอกสาร ทฤษฎีและงานวจิ ยั ทเ่ี ก่ียวขอ้ ง โดยมหี วั ขอ้ ดังตอ่ ไปน้ี
1. ความร้เู กีย่ วกับโครงงานทีท่ ำ
2. ทฤษฎที เ่ี กี่ยวขอ้ ง
3. ความรูเ้ กี่ยวกับโปรแกรม Microsoft Excel
4. ประวัตวิ ิทยากรและสถานประกอบการ
5. งานวจิ ยั ท่เี ก่ียวข้อง
3.3.2 ขน้ั ตอนการดำเนินงานโดยใช้กระบวนการวงจรคณุ ภาพ PDCA ดงั ตอ่ ไปนี้
1. ติดต่อประสานงานวิทยากรและปรึกษาโครงงาน ได้แก่ นางเพ็ชลี ภาวังค์ เจ้าของ
กิจการร้านเสรมิ สวย บา้ นเลขที่ 48 หมู่ 4 ตำบลโหลง่ ขอด อำเภอพรา้ ว จงั หวดั เชียงใหม่ 50190
2. สร้างเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ ตารางรายรับ-จ่าย ตาราง เครื่องมือ
ใช้อุปกรณ์ รวบรวมทรัพยส์ นิ หนี้สิน และทุน
3. ปฏิบัติตามปฏิทินการปฏบิ ัติงาน
4. รายงานความก้าวหน้าการปฏบิ ัติงานเปน็ รายบุคคล ตามแบบบันทึกการ ปฏิบัติงาน
วชิ าโครงการการปฏบิ ัติตามแผน
3.3.3 ดำเนนิ การจดั ทำโครงการ
1. จัดตั้งคณะกรรมการดำเนินงาน ในเดือนพฤษจิกายนได้ออกแบบวางแผนโครงการ
และแบง่ หน้าทคี่ วามรับผดิ ชอบให้
1) นางสาวศิริลักษณ์ ภาวังค์ ทำหน้าที่ติดต่อประสานงานกับนางเพ็ชลี ภาวังค์
เจา้ ของกจิ การร้านเสริมสวย
2) นางสาวสตรรี ตั น์ นาคจันทึก ทำหน้าท่ีจัดทำเอกสารและเก็บรวบรวมขอ้ มูล
2. ประสานงานเกี่ยวกับสถานที่การจัดทำโครงงาน คณะผู้จัดทำได้เข้าไปติดต่อ
ประสานงานกับนางเพ็ชลี ภาวังค์ เจ้าของกิจการ ณ บ้านเลขที่ 48 หมู่ 4 ตำบลโหล่งขอด อำเภอ
พร้าว จังหวัดเชียงใหม่ 50190 เพื่อสำรวจความต้องการในการเข้าร่วมโครงงานโดยการเข้าไป
สำรวจและสอบถามในเรอ่ื งการทำบัญชรี ายได้ - คา่ ใช้จ่ายของกจิ การ
29
3.3.4 การหาส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน
สตู รท่ี 1 S.D. = √∑( − )2
−1
สูตรท่ี 2 S.D. = √ ∑ 2−(∑ )²
( −1)
เมอ่ื S.D. คอื สว่ นเบ่ยี งเบนมาตรฐาน
∑ คอื ผลรวม
คอื ขอ้ มลู (ตวั ที่ 1,2,3…,n)
คอื จำนวนขอ้ มูลทง้ั หมด
3.3.5 การแปลผลตามเกณฑ์การประเมินตามแนวคดิ ของเองเบสท์ (Best 1981 : 182) ดังน้ี
4.01-5.00 หมายถงึ ดีมาก
3.01-4.00 หมายถึง ดี
2.01-3.00 หมายถงึ พอใช้
1.01-2.00 หมายถึง นอ้ ย
0.00-1.00 หมายถึง นอ้ ยมาก
ตอนท่ี 1 ขอ้ เสนอแนะ
นำเสนอแนะจากผู้กรอกแบบประเมินความพึงพอใจ มาเรียงและหาอัตราร้อยละของ
ข้อเสนอแนะจากผกู้ รอกแบบประเมินความพงึ พอใจในการจดั ทำบญั ชีใหร้ ้านเสรมิ สวย โดยประยกุ ตใ์ ช้
โปรแกรม Microsoft Excel โดยใช้สูตรดงั นี้
สูตร P = ∗ 100
เม่อื P แทน คา่ ร้อยละ
F แทน ความถ่ีต้องการแปลงให้เป็นคา่ ร้อยละ
N แทน จำนวนความถ่ีทัง้ หมด
3.3.6 การเก็บรวบรวมข้อมลู
การรวบรวมข้อมลู จากการใหเ้ จ้าของกจิ การกรอกแบบประเมนิ ความพึงพอใจ การจัดทำ
บัญชีโดยประยุกตใ์ ชโ้ ปรแกรม Microsoft Excel จำนวน 20 คน
30
3.3.7 การวิเคราะห์ข้อมูลจากแบบประเมินความพึงพอใจในการจดั ทำบัญชีให้ร้านเสรมิ สวย
โดยประยกุ ต์ใช้โปรแกรม Microsoft Excel ในแตล่ ะตอนดังต่อไปน้ี
ตอนท่ี 1 ข้อมูลจากการหาค่าร้อยละของผู้กรอกแบบสอบถามความพึงพอใจจากการทำ
บัญชี โดยประยุกต์ใช้โปรแกรม Microsoft Excel โดยใช้สูตรต่อไปน้ี
สตู ร P = ∗ 100
เม่อื P แทน ค่าร้อยละ
F แทน ความถี่ตอ้ งการแปลงใหเ้ ปน็ คา่ รอ้ ยละ
N แทน จำนวนความถ่ีท้ังหมด
ตอนที่ 2 ระดับความพึงพอใจจากการทำบัญชีให้ร้านเสริมสวย โดยประยุกต์ใช้
โปรแกรม Microsoft Excel ของผกู้ รอกแบบประเมินความพึงพอใจจำนวน 1 คน โดยการหาค่าเฉลี่ย
เลขคณติ และส่วนเบีย่ งเบนมาตรฐาน
1. การหาคา่ เฉล่ยี เลขคณติ
สูตร = ∑
เมือ่ คือ ค่าเฉลีย่
∑ คือ ผลรวมของระดบั ความพึงพอใจ
คือ จำนวนผู้กรอกแบบประเมินความพึงพอใจ
2. การหาสว่ นเบีย่ งเบน
สตู รที่ 1 S.D. = √∑( − )2
−1
สูตรที่ 2 S.D. = √ ∑ 2−(∑ )²
( −1)
เมอ่ื S.D. คอื ส่วนเบ่ยี งเบนมาตรฐาน
∑ คือ ผลรวม
คอื ขอ้ มลู (ตวั ท่ี 1,2,3...,n)
คอื จำนวนขอ้ มลู ท้ังหมด
31
แบบประเมนิ ความพึงพอใจ
คำชี้แจง : การสำรวจความพึงพอใจ เพื่อประเมินโครงงาน การจัดทำบัญชีร้านเสริมสวย โดย
ประยุกต์ใช้โปรแกรม Microsoft Excel โดยผู้จัดทำจะนำข้อมูลที่ได้รับไปใช้ในการดำเนินงาน จึงขอ
ความร่วมมือจากตอบแบบประเมนิ ความพงึ ใจในการกรอกแบบสอบถาม โดยใส่เครอื่ งหมาย ✓ ลงใน
ช่องวา่ งใหค้ รบถว้ น
ส่วนท่ี 1 ข้อมูลทวั่ ไปของผตู้ อบแบบประเมนิ ความพึงพอใจ
1. เพศ ชาย หญงิ
2. อายุ 20-30 30-40 40-50
ปวส.
3. การศึกษา ม.6 ปวช. ปริญญาเอก
8,001-10,000
ปรญิ ญาตรี ปรญิ ญาโท
4. เงนิ เดือน 4,000-6,000 6,001-8,000
10,000 ขึ้นไป
สว่ นที่ 2 ความพึงพอใจต่อโครงงาน ระดับความพึงพอใจ
54321
รายละเอียดการประเมิน
ความพงึ พอใจในความรู้
1. กจิ การมคี วามรู้ ความเข้าใจในการจัดทำบัญชีรายไดแ้ ละค่าใชจ้ ่าย
2. กจิ การความรู้ ความเข้าใจในการคำนวณรายได้
3. กิจการมีความรู้ ความเข้าใจในการคำนวณกำไรขาดทุนและการ
แสดงงบกำไรขาดทุน
ความพึงพอใจในทักษะ
4. กจิ การสามารถจัดทำบญั ชรี ายไดแ้ ละคา่ ใช้จา่ ย
5. กจิ การสามารถคำนวณรายไดไ้ ด้
6. กจิ การสามารถคำนวณกำไรขาดทนุ และแสดงงบกำไรขาดทนุ
ความพึงพอใจในโครงงาน
7. ผู้จดั ทำโครงงานใหค้ วามรู้ เนอ้ื หาสาระครบถ้วนและน่าสนใจ
8. ผู้จัดทำโครงงานให้คำอธิบายและตอบขอ้ สงสยั ได้ตรงประเดน็
9. ความพงึ พอใจในภาพรวมของโครงงาน
รวมคะแนน
32
สว่ นที่ 3 ขอ้ เสนอแนะ
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
33
3.4 การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู
การเก็บรวบรวมขอ้ มลู รายรบั -รายจา่ ย ของเดอื น ธันวาคม 2564
3.5 การวิเคราะหข์ อ้ มูล
3.5.1 สมุดรายวนั รบั เงนิ
สมุดรายวันรบั เงิน ตงั้ แตว่ นั ที่ 1 ธันวาคม 2564 ถงึ 31 ธันวาคม 2564
3.5.2 สมดุ รายวันจา่ ยเงนิ
สมดุ รายวนั จ่ายเงิน ตง้ั แต่วันที่ 1 ธนั วาคม 2564 ถึง 31 ธนั วาคม 2564
3.5.3 สมดุ แยกประเภทท่ัวไป
สมดุ แยกประเภททั่วไป ต้ังแต่วนั ที่ 1 ธันวาคม 2564 ถึง 31 ธันวาคม 2564
3.5.4 งบทดลอง
งบทดลอง ตงั้ แตว่ ันที่ 1 ธันวาคม 2564 ถึง 31 ธนั วาคม 2564
3.5.5 สมุดรายวันท่วั ไป
สมดุ รายวันทั่วไป ตั้งแตว่ นั ท่ี 1 ธนั วาคม 2564 ถึง 31 ธนั วาคม 2564
51
บทที่ 4
ผลการดำเนินงาน
การดำเนินโครงงานการจัดทำบัญชีร้านเสริมสวย โดยประยุกต์ใช้โปรแกรม Microsoft Excel
ณ รา้ นเสรมิ สวย บ้านเลขท่ี 48 หมู่ 4 ตำบลโหล่งขอด อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ 50190 โดย
มีวัตถุประสงค์ 1. เพื่อนำความรู้ ในการเรียนมาปรับใช้กับการทำโครงงานการทำบัญชีร้านเสริมสวย
โดยประยุกตใ์ ชโ้ ปรแกรม Microsoft Excel 2. เพ่ือประเมนิ ความพึงพอใจในการประยุกต์ใชโ้ ปรแกรม
Microsoft Excel เพื่องานบัญชีร้านเสริมสวยของนาง เพ็ชลี ภาวังค์ ผู้ดำเนินโครงงานมีผลการ
ดำเนินงานดังต่อไปน้ี
4.1 ผลการดำเนินงานโครงงาน
4.2 อภิปรายผลการดำเนนิ งานโครงงาน
4.1 ผลการดำเนินงานโครงงาน
4.1.1 การจัดทำบัญชกี จิ การร้านเสริมสวย
1. งบกำไรขาดทุน เดือน ธนั วาคม 2564
ภาพท่ี 4.1 งบกำไรขาดทุน เดอื น ธนั วาคม 2564
35
2. งบแสดงฐานะการเงิน เดอื น ธันวาคม 2564
ภาพที่ 4.2 งบแสดงฐานะการเงิน เดอื น ธันวาคม 2564
4.2 อภิปรายผลการดำเนนิ งานโครงงาน
กิจการมีความพึงพอใจมากน้อยเพียงใดต่อโครงงานที่จัดทำขึ้น ทางคณะผู้จัดทำได้สร้างแบบ
ประเมนิ ขน้ึ มาเพอ่ื ใช้ในการประเมินความพงึ พอใจโดยใชเ้ กณฑ์วดั ดังน้ี
ระดบั ความพงึ พอใจในหัวข้อต่างๆ
ดีมาก = 5 คะแนน
ดี = 4 คะแนน
ปานกลาง = 3 คะแนน
พอใช้ = 2 คะแนน
ปรบั ปรงุ = 1 คะแนน
36
เรื่องในแบบประเมิน จะมีทั้งหมดอยู่ 14 หัวข้อ เกณฑ์ในการดำเนินผลลัพธ์กิจการได้ผลลัพธ์
อัตรารอ้ ยละ ดงั น้ี
ร้อยละ 80-100 อยใู่ นเกณฑม์ ากท่ีสุด
รอ้ ยละ 61-80 อยใู่ นเกณฑม์ าก
รอ้ ยละ 41-60 อยู่ในเกณฑ์ปานกลาง
รอ้ ยละ 21-40 อยู่ในเกณฑ์พอใช้
รอ้ ยละ 0-20 อย่ใู นเกณฑป์ รบั ปรงุ
4.2.1 การจดั ทำบัญชีกิจการรา้ นเสรมิ สวย
1. งบกำไรขาดทุนสำหรับ 1 เดือน ตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2564 – 31 ธันวาคม 2564
กิจการมีรายได้ค่าบริการ 6,740 บาท ค่าใช้จ่ายประกอบไปด้วย ค่าซื้อวัสดุ อุปกรณ์ทำผม 840 บาท
ค่าสาธารณปู โภค 800 บาท และกำไรสุทธิ 5,100 บาท
2. งบแสดงฐานะการเงินสำหรบั 1 เดอื น ต้ังแต่ 1 ธันวาคม 2564 – 31 ธันวาคม 2564
กิจการมีสินทรัพย์หมุนเวียน ได้แก่ เงินสด 6,740 บาท วัสดุ อุปกรณ์ทำผม 840 บาท รวมสินทรัพย์
ทั้งสิ้น 7,580 บาท หนี้สิน ไม่มี และส่วนของผู้ถือหุ้น 7,580 บาท รวมหนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น
ทง้ั สนิ้ 7,580 บาท
4.2.2 ประเมินผลการดำเนินงานของกิจการร้านเสริมสวย จากการวิเคราะห์ข้อมูลของแบบ
ประเมนิ ความพงึ พอใจของผู้ตอบแบบประเมนิ ความพึงพอใจ จำนวน 20 คน ดงั น้ี
37
ส่วนท่ี 1 ขอ้ มลู ท่ัวไปของผู้ตอบแบบประเมินความพงึ พอใจ
1. เพศ
ภาพท่ี 4.3 เพศ
เพศ จำนวน (คน) รอ้ ยละ
ชาย 5 25
หญงิ 15 75
รวม 20 100
ตารางที่ 4.1 แสดงจำนวนรอ้ ยละของผตู้ อบแบบประเมินความพึงพอใจจำแนกตามเพศ
จากตารางที่ 4.1 พบว่าผู้ตอบแบบประเมินความพึงพอใจทั้งหมดจะแบ่งเป็นเพศหญิงทั้งหมด
15 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 75 และเพศชายทงั้ หมด 5 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 25
38
2. อายุ
ภาพที่ 4.4 อายุ
อายุ จำนวน (คน) รอ้ ยละ
20-30 19 95
30-40 - -
40-50 1 5
รวม 20 100
ตารางที่ 4.2 แสดงจำนวนรอ้ ยละของผูต้ อบแบบประเมนิ ความพงึ พอใจจำแนกตามอายุ
จากตารางที่ 4.2 พบว่าผู้ตอบแบบประเมินความพึงพอใจทั้งหมดจะมีอายุระหว่าง 20-30 ปี
จำนวน 19 คน คดิ เป็นร้อยละ 95 และอายุระหวา่ ง 40-50 ปี จำนวน 1 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 5
39
3. การศึกษา
ภาพที่ 4.5 การศึกษา
การศกึ ษา จำนวน (คน) รอ้ ยละ
ม.6 2 10
ปวช. 1 5
ปวส. 10 50
ปริญญาตรี 7 35
ปรญิ ญาโท - -
ปริญญาเอก - -
รวม 20 100
ตารางที่ 4.3 แสดงจำนวนร้อยละของผู้ตอบแบบประเมินความพงึ พอใจจำแนกตามการศึกษา
จากตารางที่ 4.3 พบว่าผู้ตอบแบบประเมินความพึงพอใจทั้งหมดมีระดับการศึกษา ปวส.
จำนวน 10 คน คิดเป็นร้อยละ 50 ระดับ ปริญญาตรี จำนวน 7 คน คิดเป็นร้อยละ 35 ระดับ ม.6
จำนวน 2 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 10 และระดบั ปวช. จำนวน 1 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 5
40
4. เงินเดอื น
ภาพที่ 4.6 เงินเดอื น
เงินเดือน จำนวน (คน) รอ้ ยละ
4,000-6,000 11 55
6,001-8,000 6 30
8,001-10,000 ขึน้ ไป 3 15
รวม 20 100
ตารางที่ 4.4 แสดงจำนวนร้อยละของผู้ตอบแบบประเมินความพงึ พอใจจำแนกตามเงนิ เดอื น
จากตารางที่ 4.4 พบว่าผตู้ อบแบบประเมนิ ความพึงพอใจทง้ั หมดจะมีเงินเดือนระหวา่ ง
4,000-6,000 บาท จำนวน 11 คน คิดเปน็ ร้อยละ 55 เงนิ เดือนระหวา่ ง 6,001-8,000 บาท จำนวน 6
คน คิดเปน็ ร้อยละ 30 และเงนิ เดือนระหว่าง 8,001-10,000 บาทข้นึ ไป จำนวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ
15
41
สว่ นที่ 2 ความพึงพอใจต่อโครงงาน
1. ความพงึ พอใจในความรู้
ภาพท่ี 4.7 ความพึงพอใจในความรู้
2. ความพงึ พอใจในทักษะ
ภาพที่ 4.8 ความพึงพอใจในทกั ษะ