The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือการบำรุงรักษารถแทรกเตอร์ คูโบต้า L5018
ติดต่อสอบถามได้ที่ 065-494-5555
LINE:@Siamyont
คลิกลิงค์ https://lin.ee/hnfU83S

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by pimmorakod, 2020-04-29 23:36:22

คู่มือการบำรุงรักษารถแทรกตอร์ คูโบต้า L5018

คู่มือการบำรุงรักษารถแทรกเตอร์ คูโบต้า L5018
ติดต่อสอบถามได้ที่ 065-494-5555
LINE:@Siamyont
คลิกลิงค์ https://lin.ee/hnfU83S

Keywords: แทรกเตอร์,คูโบต้า,การบำรุงรักษารถ,การเกษตร,เทคโนโลยีการเกษตร

ระบบไฮดรอลิก 31

อุปกรณ์เสริมไฮดรอลกิ

Bตารางอ้างองิ การใช้งานชุดควบคุมไฮดรอลกิ

เพ่อื ใหส้ ามารถใชง้ านระบบไฮดรอลิกอย่างถกู ตอ้ ง ผใู้ ชง้ านจะตอ้ งคุน้ เคยกบั สิ่งต่างๆ ดงั ตอ่ ไปน้ี ขอ้ มลู ท่ีแสดงน้ีไมส่ ามารถใชไ้ ดก้ บั ชุดอุปกรณ์
ตอ่ พว่ ง หรือสภาพดินทุกประเภท แต่กใ็ ชอ้ า้ งอิงสาํ หรับสภาพโดยทว่ั ไปได้

อุปกรณต์ ่อพ่วง หมายเหตุ

สภาพพ้ืนดิน รูยดึ แขนกลาง ลอ้ ต้งั ความลึก (1) ตวั ปรับโซ่ขา้ ง ปรับตวั ปรับโซ่ขา้ ง
ดินร่วน 1 หรือ 2 ใช้ / ไมใ่ ช้ ปรับใหห้ ลวม ใหอ้ ุปกรณ์สามารถ
ใช้ เหวี่ยงไปมาทาง
ผานหวั หมู ดินแข็งปานกลาง 2 หรือ 3 ดา้ นขา้ งได้ 5-6 ซม.

ผานไถบุกเบิก ดินแขง็ มาก 3 ตวั ปรับโซ่ขา้ งควรตงึ
คราด (แบบแท่ง, --- 2 หรือ 3 พอสมควรเพ่ือป้องกนั
แบบซี่, แบบจาน) ไม่ใหอ้ ปุ กรณต์ ่อพว่ ง
ขยบั ไดม้ ากเกินไป
ผานไถดินดาน .... --- 2 หรือ 3 เมื่อยกอุปกรณ์
ตอ่ พ่วงข้ึน
จอบหมุนโรตารี่ ปรับตวั ปรบั โซ่ขา้ ง
ใหอ้ ปุ กรณ์สามารถ
เหว่ยี งไปมาทาง
ดา้ นขา้ งได้ 1-2 ซม.

เคร่ืองถอนหญา้ , ปรับใหต้ ึง พร้อมอปุ กรณต์ อ่ พว่ ง
เครื่องพูนดิน.... ทมี่ ีลอ้ ต้งั ความลึก
เครื่องขดุ ดิน --- 3 ใช้ / ไมใ่ ช้ ใหล้ ดคนั โยกควบคุม
ขนาดใหญ่, ที่ขุด, ตาํ แหน่งลงมาจนสุด
เครื่องมือดูด,
เคร่ืองแยกป๋ ุย, ไมใ่ ช้
ที่บรรทุก
ดา้ นหลงั .............
เครื่องตดั หญา้
(ชนิดติดต้งั ตรง
กลางและติดต้งั
ดา้ นหลงั )

32 ยาง, ลอ้ และการถ่วงลอ้

ยาง, ล้อ และการถ่วงล้อ

ยาง การปรับต้งั ล้อ

เพื่อหลกี เลย่ี งการได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ควรปฏิบตั ิดังนี้ เพ่ือหลกี เล่ยี งการได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ควรปฏิบัตดิ ังนี้
A เมอ่ื ทํางานบนพื้นท่ีลาดเอยี งหรือเม่ือทํางานกบั รถพ่วง
A ไม่ควรประกอบยางเอง การติดต้งั นคี้ วรทําโดยช่าง
ผู้เช่ียวชาญและใช้อปุ กรณ์ที่เหมาะสม ให้ต้งั ความกว้างช่วงล้อให้กว้างเพยี งพอเพ่ือให้เกดิ
เสถียรภาพสูงสุด
A รักษาระดบั แรงดันให้เหมาะสมอย่าเตมิ ลมยางเกินระดบั A จอดแทรกเตอร์อย่างปลอดภยั บนสแตนก่อนถอดล้อ
ท่ีกาํ หนดท่ีแสดงไว้ในคู่มือ A อย่าทาํ งานใต้อุปกรณ์ไฮดรอลกิ ที่ใช้ในการรับน้าํ หนัก
แทรกเตอร์เพียงอย่างเดยี ว เพราะระบบไฮดรอลกิ อาจเกิด
A อยา่ ใชย้ างยหี่ ้ออน่ื ทย่ี งั ไม่ผา่ นการรบั รองจาก คูโบตา้ การร่ัวอย่างกะทนั หนั หรือเล่อื นลงโดยอุบัติเหตุ ซึ่งเป็ นผล
ให้รถอาจตกมาทบั ได้รับบาดเจ็บได้ ถ้าจาํ เป็ นต้องทาํ งาน
Bขนาด และแรงดันลมยาง ใต้ท้องแทรกเตอร์หรือเครื่องจักรกลใดๆ ควรหาวัสดทุ ่ีคงทน
แข็งแรงมารองรับก่อนลงมือปฏบิ ัตงิ าน
แมว้ า่ แรงดนั ลมยางจะไดต้ ามค่าแรงขนั ท่ีกาํ หนดแลว้ แตแ่ รงดนั ก็จะ A ห้ามใช้งานแทรกเตอร์ หากเกดิ การหลวมขึน้ บริเวณขอบ
ลดลงไดเ้ องตามธรรมชาติ ดงั น้นั จึงควรทาํ การตรวจเช็ค เป็นประจาํ วงล้อ ล้อ หรือ เพลา
ทุกวนั และเติมลมตามความเหมาะสม
Bล้อหน้า (แบบขับเคลื่อน 4 ล้อ)
A รกั ษาระดบั แรงดนั ยางคู่หนา้ ใหม้ ากที่สุด ถา้ ใชง้ านตวั บรรทุก
ของดา้ นหนา้ หรือเมอื่ ทาํ การบรรทุกของเตม็ พกิ ดั ของน้าํ หนกั ความกวา้ งช่วงลอ้ หนา้ ไมส่ ามารถปรับต้งั ได้
ถว่ งดา้ นหนา้
ยาง 8-18
ลอ้ หนา้ ขนาดยาง ขนาด และแรงดนั ลมยาง
ลอ้ หลงั 8-18, 6PR 240 กิโลปาสคาล ช่วงลอ้ 1150 มม.
(34 ปอนด/์ นิ้ว)
13.6-26, 6PR 160 กิโลปาสคาล A หา้ มหมุนดิสกเ์ บรกลอ้ หนา้ เพือ่ ให้ไดค้ วามกวา้ งช่วงลอ้
(23 ปอนด/์ นิ้ว) ท่มี ากข้ึน

Bล้อยางคู่

ยางคู่ (ใชล้ อ้ ยาง 2 เส้นคู่กนั ) ไมแ่ นะนาํ ใหใ้ ช้

ยาง, ลอ้ และการถว่ งลอ้ 33

Bล้อหลงั [ชนดิ มาตรฐาน] 1155 มม. 1225 มม.

ความกวา้ งช่วงลอ้ หลงั สามารถปรับต้งั ไดด้ งั แสดงไวก้ บั ยางที่ติดต้งั รุ่น
แบบมาตรฐาน
เพื่อทาํ การเปลี่ยนความกวา้ งช่วงลอ้ 13.6-26
1. ใหเ้ ปลย่ี นตาํ แหน่งของยางดา้ นขวาและดา้ นซา้ ย และขนั โบลต์
[ชนดิ ปรับต้ังได้]
ให้แน่น
รุ่น
A ให้ตดิ ต้งั ยางตามที่แสดงในภาพเสมอ
A ถา้ ไม่ตดิ ต้งั ตามภาพประกอบ ชิ้นส่วนชุดเกียร์อาจไดร้ ับความ

เสียหาย
A เม่ือใส่ยางใหม่ หรือการปรับต้งั ลอ้ ให้ขนั โบลตย์ ึดลอ้ ตาม

คา่ แรงขนั ที่กาํ หนด และตรวจเช็คอีกคร้งั หลงั จากขบั แทรกเตอร์
เป็นระยะทาง 200 เมตร (200 หลา) หลงั จากน้นั ใหต้ รวจเชค็
ตามท่ีระบไุ วใ้ นตารางการบาํ รุงรักษาแทรกเตอร์
(ดูที่ส่วน “การบาํ รุงรักษาแทรกเตอร์”)

13.6-26 1155 มม. 1225 มม.

(1) 137 นิวตัน-เมตร (14 กก.แรง - ม.) 1325 มม. 1350 มม. 1445 มม.
(2) 294 นิวตัน-เมตร (30 กก.แรง - ม.)
(3) 294 นิวตัน-เมตร (30 กก.แรง - ม.) (ชนิดปรับตั้งได้)

34 การบาํ รุงรกั ษาแทรกเตอร์

การบาํ รุงรักษาแทรกเตอร์

ตารางการบํารุงรักษาแทรกเตอร์

ลาํ รายการ มิเตอร์ชวั่ โมงการทาํ งาน ช่วงเวลา หนา้
ดบั 50 100 150 200 250 300 350 400 450 500 550 600 650 700 อา้ ง
องิ
1 จาระบี - ทกุ ๆ 20 ชม.
2 ระบบสตาร์ทเคร่ืองยนต์ 43
3 แรงขนั ของโบลตย์ ึดลอ้ ตรวจเช็ค ทุกๆ 50 ชม.
4 ฝาครอบคนั ชกั -คนั ส่ง ทุกๆ 50 ชม. 45
ตรวจเช็ค ทุกๆ 50 ชม.
45
ตรวจเช็ค ทกุ ๆ 100 ชม.
45 *2
ทาํ ความ ทกุ ๆ 1000 ชม.
สะอาด หรือ 1 ปี 46 *1

ชดุ ลกู นอก เปล่ยี น ทกุ ๆ 1000 ชม. 54 *4
5 ไส้กรอง ใหม่ หรือ 1 ปี *6

อากาศ เปลีย่ น ทุกๆ 100 ชม. 54 *4
ลกู ใน ใหม่ ทกุ ๆ 100 ชม. *6
ทกุ ๆ 100 ชม.
6 สายพานพดั ลม ปรับต้งั ทกุ ๆ 100 ชม. 46
7 คลตั ช์ ทุกๆ 200 ชม.
8 เบรก ปรับต้งั 47
9 สภาพแบตเตอร่ี ทุกๆ 400 ชม.
10 ระยะสอบลอ้ หนา้ โทอิน ปรับต้งั 47
11 น้าํ มนั เครื่องยนต์ ทกุ ๆ 400 ชม.
ตรวจเช็ค 48 *3
12 ไส้กรองน้าํ มนั เครื่อง ทกุ ๆ 400 ชม.
ปรับต้งั 49
13 น้าํ มนั เกยี ร์ ทุกๆ 400 ชม.
เปลยี่ น 50
14 ไส้กรองน้าํ มนั ไฮดรอลกิ ใหม่ ทกุ ๆ 400 ชม.
51
15 ไส้กรองน้าํ มนั เช้ือเพลงิ เปลีย่ น ทุกๆ 400 ชม.
ใหม่ ทกุ ๆ 600 ชม. 51
16 กรองดกั น้าํ
17 คานลอ้ หนา้ เปลย่ี น ทุกๆ 800 ชม. 51
18 น้าํ มนั เส้ือคานลอ้ หนา้ ใหม่
19 ระยะห่างล้นิ เครื่องยนต์ ทุกๆ 800 ชม. 52
เปลี่ยน ทุกๆ 1 ปี
20 ท่อน้าํ มนั ใหม่ 53
ทกุ ๆ 4 ปี
เปลีย่ น 53
ใหม่
54
ทาํ ความ
สะอาด 54 *2

ปรับต้งั 55 *6

เปลย่ี น 57 *2
ใหม่ *6

ปรับต้งั

ตรวจเช็ค

เปลี่ยน
ใหม่

การบาํ รุงรักษาแทรกเตอร์ 35

ลาํ รายการ มเิ ตอร์ชวั่ โมงการทาํ งาน ช่วงเวลา หนา้
ดบั 50 100 150 200 250 300 350 400 450 500 550 600 650 700 อา้ ง
องิ
สายยางหมอ้ น้าํ และ ตรวจเช็ค ทุกๆ 1 ปี
เขม็ ขดั รัดท่อ ทุกๆ 4 ปี 55 *6
เปลยี่ น ทกุ ๆ 1 ปี
21 ใหม่ ทุกๆ 4 ปี 57 *6
ทุกๆ 2 ปี
ทอ่ น้าํ มนั พวงมาลยั ตรวจเช็ค ทุกๆ 2000 ชม. 56 *6
พาวเวอร์ หรือ 2 ปี
22 เปลย่ี น 57 *2
ใหม่ ซ่อมบาํ รุง *6
ตามสภาพ
23 ระบบหลอ่ เยน็ ไลล่ ม การใชง้ าน 56
24 น้าํ ระบายความร้อน
25 ระบบน้าํ มนั เช้ือเพลงิ เปลีย่ น 54 *5
26 น้าํ ห้องคลตั ช์ ใหม่
57
ไล่ลม
58
ถ่ายน้าํ
27 ฟิวส์ ออก 58

28 หลอดไฟ เปล่ยี น 59
ใหม่
29 สายยางหมอ้ น้าํ และ 60 *6
เขม็ ขดั รัดท่อ เปลย่ี น
ใหม่
30 ท่อน้าํ มนั 60 *6
เปล่ยี น
31 ท่อน้าํ มนั พวงมาลยั ใหม่ 60 *6
พาวเวอร์
เปลีย่ น
ใหม่

เปลีย่ น
ใหม่

A หวั ขอ้ ท่ีแสดงสญั ลกั ษณ์ จาํ เป็นตอ้ งทาํ การตรวจเช็คหลงั การใชง้ าน 50 ชวั่ โมง
*1 ตวั กรองอากาศทใ่ี ชง้ านในสภาพท่ีมีฝ่นุ มากควรทาํ ความสะอาดใหบ้ ่อยกวา่ ปกติ

*2 ปรึกษาตวั แทนจาํ หน่าย สยามคูโบตา้ ใกลบ้ า้ นท่านเพอ่ื ขอรับบริการ

*3 ถา้ แบตเตอร่ีใชง้ านนอ้ ยกวา่ 100 ชวั่ โมงต่อปี ใหท้ าํ การตรวจเชค็ แบตเตอรี่เป็นประจาํ ทุกปี โดยดจู ากอปุ กรณ์วดั
*4 เปล่ียนใน 1,000 ชวั่ โมง หรือหน่ึงปี แลว้ แตว่ า่ ถึงอยา่ งไหนก่อน
*5 เปลี่ยนใน 2,000 ชวั่ โมง หรือ 2 ปี แลว้ แตว่ า่ ถึงอยา่ งไหนก่อน
*6 ตรวจเชค็ ทุกๆ ปี เปลยี่ นหากมีการเส่ือมสภาพ (เปราะ, แข็ง, เป็นรอย หรือเสียรูป) หรือเกดิ ความเสียหาย

อยา่ งไรก็ตาม ตอ้ งถูกเปล่ยี นใหม่ทุกๆ 4 ปี โดยไม่คาํ นึงถึงสภาพ

36 การบาํ รุงรกั ษาแทรกเตอร์

สารหล่อล่ืน นาํ้ มันเชื้อเพลงิ และนํ้าระบายความร้อน

ลาํ ดบั ตาํ แหน่ง ความจุ สารหลอ่ ล่ืน
1 น้าํ มนั เช้ือเพลงิ 48 ลิตร หมายเลข 2-D น้าํ มนั ดีเซล
หมายเลข 1-D น้าํ มนั ดีเซล กรณีอุณหภมู ิต่าํ กวา่ -10
2 น้าํ ระบายความร้อน 6.5 ลิตร
น้าํ สะอาด กบั สารป้องกนั การแขง็ ตวั ของน้าํ ระบายความรอ้ น
7.6 ลติ ร
น้าํ มนั เครื่อง อา้ งอิงหนา้ ถดั ไป
40 ลิตร
3 อ่างเครื่องยนต์ 6.5 ลิตร มากกวา่ 25 SAE30, SAE10W-30 หรือ 15W-40
(แบบมีตวั กรอง) จาํ นวนจุดอดั จาระบี
-10 ถึง 25 SAE20, SAE10W-30 หรือ 15W-40
2
2 ต่าํ กวา่ -10 SAE10W-30
2
4 หอ้ งเกียร์ 2 น้าํ มนั สยามคูโบตา้ UDT หรือ SUPER UDT ตราชา้ ง
2
5 น้าํ มนั เส้ือคานลอ้ หนา้ 1 น้าํ มนั สยามคโู บตา้ UDT หรือ SUPER UDT ตราชา้ งหรือน้าํ มนั เกียร์ SAE80 - SAE 90
2
จาระบี 1 ความจุ ชนิดจาระบี
แป้นยดึ คานลอ้ หนา้
ข้วั แบตเตอรี่ จนจาระบีเตม็ จาระบีเอนกประสงค์
แขนกลาง NLGI-2 หรือ

6 แขนยก NLGI-1 (GC-LB)
ลกู หมากคนั ชกั -คนั ส่ง
คนั เกียร์ชา้ -เร็ว
เพลากาํ ป้ันไฮดรอลกิ

คนั เกียร์พที ีโอ

หมายเหตุ: *น้าํ มนั สยามคูโบตา้ UDT หรือ SUPER UDT ตราชา้ ง --- น้าํ มนั เกียร์ไฮดรอลิกของแทข้ องสยามคูโบตา้

การบาํ รุงรักษาแทรกเตอร์ 37

C น้ํามันเครื่อง:
A น้าํ มนั ท่ีใชใ้ นเคร่ืองยนต์ ควรเป็นน้าํ มนั เครื่องเกรดทีไ่ ดร้ ับรองมาตรฐาน API (American Petroleum Institute) และเป็นน้าํ มนั เครื่อง SAE
ท่ีเป็นไปตามสภาพอากาศตามดา้ นบน
A ดว้ ยมกี ารเปิ ดใชร้ ะบบควบคุมมลภาวะแลว้ น้าํ มนั เครื่อง CF-4 และ CG-4 ถกู พฒั นาเพอื่ ใชก้ บั เครื่องยนตร์ ถบนทางราบ ทใี่ ชน้ ้าํ มนั
เช้ือเพลิงทมี่ รี ะดบั กาํ มะถนั ต่าํ เมือ่ เคร่ืองยนตร์ ถที่ใชบ้ นทางขรุขระขบั เคลื่อนดว้ ยน้าํ มนั เช้ือเพลงิ ท่ีมรี ะดบั กาํ มะถนั สูง ควรมีการใช้
น้าํ มนั เครื่อง “CF หรือดีกวา่ ” ท่ีมีความเป็นดา่ งสูง (มี TBN ข้นั ต่าํ ท่ี 10)

A อา้ งอิงจากตารางตอ่ ไปน้ี สาํ หรบั น้าํ มนั เครื่อง API ที่เหมาะสมตามชนิดของเครื่องยนต์ (ดว้ ย EGR ภายใน, EGR ภายนอก หรือแบบไม่มี
EGR) และน้าํ มนั เช่ือเพลงิ (ชนิดระดบั กาํ มะถนั ต่าํ หรือสูง)

น้าํ มนั เช้ือเพลิงที่ใช้ การจาํ แนกประเภทน้าํ มนั เคร่ือง (มาตรฐาน API)
เกรดน้าํ มนั สาํ หรับเคร่ืองยนตท์ ี่ไมม่ ี EGR ภายนอก เกรดน้าํ มนั สาํ หรบั เครื่องยนตท์ ี่มี EGR ภายนอก

น้าํ มนั เช้ือเพลิงที่มรี ะดบั CF ---
กาํ มะถนั สูง (ถา้ มกี ารใชส้ ารหล่อลื่นชนิด “CF-4, CG-4, CH-4 หรือ CI-
[ 0.05% (500 ppm)] 4” กบั น้าํ มนั เช้ือเพลงิ ท่ีมีระดบั กาํ มะถนั สูง ให้เปลี่ยนสาร
หล่อลน่ื ในช่วงเวลาทสี่ ้ันลง (โดยประมาณคร่ึงหน่ึง))

น้าํ มนั เช้ือเพลงิ ที่มีระดบั
กาํ มะถนั ต่าํ
[<0.05% (500 ppm)] หรือ CF หรือ CI-4
น้าํ มนั เช้ือเพลงิ ที่มรี ะดบั CF, CF-4, CG-4, CH-4 หรือ CI-4 (น้าํ มนั เคร่ืองเกรด CF-4, CG-4 และ CH-4
ไม่สามารถใชบ้ นเคร่ืองยนตป์ ระเภท EGR ได)้
กาํ มะถนั ต่าํ มาก
[<0.0015% (15 ppm)]

EGR: การหมนุ เวยี นไอเสีย
A น้าํ มนั เครื่อง CJ-4 ถูกทาํ มาเพ่อื ใชก้ บั เคร่ืองยนตช์ นิด DPF (ตวั กรองอนุภาคไอเสียดีเซล) และไม่สามารถใชไ้ ดก้ บั แทรกเตอร์น้ี

ไมม่ ี EGR ภายนอก มี EGR ภายนอก
รุ่น L5018 ---

C นา้ํ มันเชื้อเพลงิ :
A เลขซีเทนข้นั ต่าํ 45 เลขซีเทนมากกวา่ 50 จะดีกวา่ โดยเฉพาะอุณหภูมิท่ีต่าํ กวา่ -20 หรือระดบั ทส่ี ูงกวา่ 1500 มม.
A ถา้ น้าํ มนั ดีเซลท่มี ีระดบั กาํ มะถนั สูงกวา่ 0.5% (5000 ppm) ไดถ้ ูกใช้ ใหล้ ดการบาํ รุงรกั ษาสาํ หรับน้าํ มนั เคร่ืองและไส้กรองลง 50%
A หา้ มใชน้ ้าํ มนั ดีเซลที่มรี ะดบั กาํ มะถนั สูงกวา่ 0.05% (500 ppm) สาํ หรับเครื่องยนตช์ นิด EGR ภายนอก
A ห้ามใชน้ ้าํ มนั ดีเซลที่มรี ะดบั กาํ มะถนั สูงกวา่ 1.0% (10000 ppm)
A แนะนาํ ใหใ้ ชน้ ้าํ มนั ดีเซลที่ถูกระบไุ วท้ ี่ EN 590 หรือ ASTM D975
A เบอร์ 2-D เป็นน้าํ มนั ใสท่ีมีการระเหยต่าํ กวา่ สาํ หรับใชก้ บั เคร่ืองยนตใ์ นอุตสาหกรรมและบริการรถบรรทกุ (SAE J313 JUN87)

C นํา้ มันเกยี ร์
เป็นน้าํ มนั ที่ใชใ้ นการหล่อลื่นของระบบส่งกาํ ลงั และยงั สามารถใชเ้ ป็นน้าํ มนั ไฮดรอลิกไดอ้ ีกดว้ ย เพ่อื การใชง้ านของระบบไฮดรอลกิ ท่ี
เหมาะสม และการหล่อล่ืนของระบบส่งกาํ ลงั ที่สมบูรณ์ การใชน้ ้าํ มนั ชนิดมลั ตเิ กรดในระบบถือเป็นส่ิงสาํ คญั โดยบริษทั ฯ ขอแนะนาํ ให้
ทา่ นใชน้ ้าํ มนั สยามคูโบต้า UDT หรือ SUPER UDT ตราช้าง เพอ่ื ประสิทธิภาพในการใชง้ านสูงสุด
(ใหป้ รึกษากบั ทางผแู้ ทนจาํ หน่ายของทางบริษทั สยามคูโบตา้ อุตสาหกรรมจาํ กดั สาํ หรบั ขอ้ มูลเพ่ิมเติม)
หา้ มใชน้ ้าํ มนั เกียร์ต่างชนิดกนั ผสมเขา้ ดว้ ยกนั

A ความจขุ องน้าํ และน้าํ มนั เคร่ือง เป็นการประเมนิ จากโรงงานผผู้ ลิต

38 การบาํ รุงรกั ษาตามชวั่ โมงการทาํ งานแทรกเตอร์

การบํารุงรักษาตามช่ัวโมงการทํางานแทรกเตอร์

เพื่อหลกี เลย่ี งการได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ควรปฏิบัติดังนี้ Bฝาครอบเคร่ือง
A อย่าทํางานใต้อุปกรณ์ไฮดรอลกิ ทใ่ี ช้ในการรับนา้ํ หนัก
เมอ่ื จะเปิ ดฝากระโปรง ให้จบั ฝากระโปรงไวแ้ ละดึงคนั ปลดสลกั
แทรกเตอร์เพยี งอย่างเดยี ว เพราะระบบไฮดรอลกิ แลว้ ทาํ การเปิ ดฝาครอบเคร่ือง
อาจเกดิ การรั่วอย่างกะทนั หัน หรือเลอื่ นลงโดยอุบัติเหตุ
ซึ่งเป็ นผลให้รถอาจตกมาทับได้รับบาดเจ็บได้ ถ้าจําเป็ น
ต้องทํางานใต้ท้องแทรกเตอร์หรือเครื่องจักรกลใดๆ
ควรหาวัสดุท่ีคงทนแข็งแรงมารองรับก่อนลงมอื ปฏิบัตงิ าน

วธิ เี ปิ ดฝาครอบเคร่ือง

เพื่อหลกี เลย่ี งการได้รับบาดเจ็บ จากการสัมผัสกบั ชิ้นส่วน (1) คันปลดสลัก (A) “ดึง”
(2) ฝาครอบเครื่อง
ท่ีมกี ารเคลือ่ นไหว
A ไม่เปิ ดฝากระโปรงหรือฝาครอบด้านข้างเครื่องยนต์ขณะที่ A เมอ่ื จะปิ ดฝากระโปรง ใหใ้ ชม้ ือท้งั สองขา้ งกดฝากระโปรง
ใหเ้ ขา้ ท่ี
เครื่องยนต์กาํ ลงั ทาํ งาน
A อย่าจับหม้อพกั ไอเสียหรือท่อไอเสียในขณะท่ียงั ร้อนอยู่

เพราะอาจทาํ ให้เกิดแผลพุพองได้
A ใช้มือหนงึ่ จับฝาครอบเครื่อง ในขณะทป่ี ลดลอ็ ก

คันปลดสลกั ออก

Bฝาครอบด้านข้าง การบาํ รุงรกั ษาตามชวั่ โมงการทาํ งานแทรกเตอร์ 39

1. ถอดโบลตท์ ้งั สองขา้ งออก และถอดฝาครอบดา้ นขา้ ง การตรวจเช็คประจาํ วนั
2. เพื่อทาํ การติดต้งั ฝาครอบดา้ นขา้ ง ให้สอดสลกั ล่างของฝาครอบ
เพื่อใหเ้ กิดความปลอดภยั และยดื อายกุ ารใชง้ านใหน้ านข้ึนให้ทาํ การ
ดา้ นล่างก่อน จากน้นั ขนั โบลตใ์ หแ้ น่น ตรวจเช็คเคร่ืองยนตก์ ่อนการใชง้ านทุกคร้งั
[ดา้ นซา้ ยเม่ือมองจากดา้ นหนา้ ]
เพ่ือหลกี เลยี่ งการได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ควรปฏิบัตดิ ังนี้
[ดา้ นขวาเมอ่ื มองจากดา้ นหนา้ ] โปรดทาํ ตามข้อระวงั ต่อไปนเี้ มื่อทําการตรวจสอบรถแทรกเตอร์
A จอดรถแทรกเตอร์บนพื้นราบและมั่นคงแข็งแรง
A ทาํ การลอ็ กเบรกมือ
A วางอปุ กรณ์ต่อพ่วงลง
A ปล่อยความดนั ของระบบไฮดรอลกิ
A ดับเคร่ืองยนต์ และดึงกญุ แจออก

Bเดินดสู ภาพโดยรอบแทรกเตอร์

ใหต้ รวจดูรอบๆ และใตท้ อ้ งรถแทรกเตอร์เพื่อหาสิ่งผิดปกติ
ตวั อย่างเช่น อาการนอตหลวม, สิ่งสกปรกสะสม, การร่ัวของน้าํ มนั
หรือน้าํ ระบายความร้อน ชิ้นส่วนฉีกขาดหรือแตกหัก เป็นตน้

Bการตรวจเช็คและเติมนํา้ มนั

(1) ฝาครอบด้านข้าง เพ่ือหลกี เลี่ยงการได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ควรปฏิบัติดงั นี้
(2) โบลต์ A อย่าสูบบุหรี่ในขณะเติมนาํ้ มนั
(3) แหวนรอง A ควรทาํ การดบั เครื่องยนต์ก่อนเติมนํา้ มนั

1. หมุนสวติ ชก์ ุญแจไปที่ “เปิ ด” ตรวจเช็คปริมาณน้าํ มนั ทีเ่ กจวดั
ระดบั น้าํ มนั เช้ือเพลิง

2. เตมิ น้าํ มนั เมื่อเกจวดั ระดบั น้าํ มนั เช้ือเพลงิ แสดงวา่ มนี ้าํ มนั อยู่
1/4 หรือนอ้ ยกวา่ น้นั

(1) ฝาปิ ดถงั นา้ํ มัน

40 การบาํ รุงรักษาตามชวั่ โมงการทาํ งานแทรกเตอร์

C สัญญาณเตือนเติมน้าํ มันเชื้อเพลงิ Bการตรวจเช็คกรองดักน้ํา
ถา้ คุณพยายามจะเตมิ น้าํ มนั เช้ือเพลิงในขณะที่สวิตชก์ ญุ แจอยู่
ตาํ แหน่งเปิด เม่อื เริ่มเตมิ น้าํ มนั เช้ือเพลิง เสียงเตอื นจะดงั เป็นระยะๆ 1. เมอ่ื มีน้าํ สะสมในกรองดกั น้าํ ลูกลอยสีแดงจะลอยตวั ข้ึน
2. เม่อื ลูกลอยสีแดงลอยข้ึนถึงเสน้ สีขาว ให้ปิ ดวาลว์ เปิ ด-ปิ ด
เม่ือถงั น้าํ มนั ใกลเ้ ตม็ แลว้ เสียงเตือนจะดงั เร็วข้ึน ถา้ เสียงเตือน
ดงั เร็วข้ึนแลว้ ใหห้ ยุดเตมิ น้าํ มนั เช้ือเพลิงและปิ ดสวติ ชก์ ญุ แจ น้าํ มนั เช้ือเพลิง คลายแหวนยดึ ดึงถว้ ยกรองออก
และทาํ ความสะอาดถว้ ยกรอง
ความจถุ งั น้าํ มนั 48.0 ลิตร 3. ใส่ถว้ ยกรองกลบั เขา้ ตาํ แหน่งเดิม ไล่ลมในระบบน้าํ มนั เช้ือเพลิง
(ดู “การซ่อมบาํ รุงตามสภาพการใชง้ าน” ใน “การบาํ รุงรักษา
ตามชว่ั โมงการทาํ งานแทรกเตอร์”)

A เมื่อตอ้ งการเติมน้าํ มนั เช้ือเพลิงให้เตม็ ถงั ให้ตรวจสอบ
ดว้ ยสายตา

A อยา่ ปลอ่ ยใหฝ้ ่นุ หรือสิ่งสกปรกหลน่ ลงไปในระบบน้าํ มนั (1) ลูกลอยสีแดง (A) “เส้นสีขาว”
เช้ือเพลิง (2) วาล์วเปิ ด-ปิ ดนา้ํ มันเชื้อเพลิง

A ระมดั ระวงั อยา่ ใหน้ ้าํ มนั หมดเพราะจะทาํ ใหอ้ ากาศไหลเขา้ ไป (3) แหวนยึด
ในระบบน้าํ มนั และจาํ เป็นตอ้ งไล่อากาศออกกอ่ นการใชง้ าน (4) ถ้วยกรอง
คร้ังตอ่ ไป
A หากน้าํ ถกู ดูดเขา้ ไปในป๊ัมน้าํ มนั เช้ือเพลิงจะทาํ ใหม้ ี
A ระมดั ระวงั อยา่ ใหน้ ้าํ มนั เช้ือเพลิงหกขณะเติมน้าํ มนั ความเสียหายเพิ่มข้ึน
ถา้ ทาํ หกเลอะ ให้รีบเช็ดทาํ ความสะอาดในทนั ทเี พราะอาจเกิด
การตดิ ไฟได้

A เพ่ือป้องกนั การกลน่ั ตวั ของหยดน้าํ ในถงั น้าํ มนั ใหเ้ ตมิ ก่อนจอด
แทรกเตอร์ไวค้ า้ งคืน

C ตะแกรงกรองนํ้ามันเชื้อเพลงิ
ใหใ้ ชต้ ะแกรงกรองน้าํ มนั ทุกคร้งั เมอื่ เตมิ น้าํ มนั ป้องกนั การปนเป้ื อน
ในป้ัมน้าํ มนั เช้ือเพลิง เมื่อตะแกรงกรองน้าํ มนั สกปรก ตอ้ งถอดออก
จากถงั น้าํ มนั และลา้ งดว้ ยน้าํ มนั สะอาด

(1) ฝาปิ ดถังนา้ํ มนั
(2) ตะแกรงกรองนา้ํ มนั
(3) ถงั นา้ํ มนั เชือ้ เพลิง

การบาํ รุงรักษาตามชว่ั โมงการทาํ งานแทรกเตอร์ 41

Bการตรวจเช็คระดบั นํ้ามันเครื่อง A เม่ือใชน้ ้าํ มนั คนละยห่ี ้อ หรือคนละค่าความหนืดกบั ที่ใชอ้ ยเู่ ดิม
ให้ถ่ายน้าํ มนั เครื่องเก่าออกจนหมดก่อน
เพื่อหลกี เลย่ี งการได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ควรปฏิบัติดังนี้ ไม่ควรผสมน้าํ มนั 2 ชนิดเขา้ ดว้ ยกนั
A ให้มั่นใจว่า ได้ทาํ การดับเครื่องยนต์เรียบร้อยแล้วก่อนทีจ่ ะ
A ถา้ ระดบั น้าํ มนั ต่าํ อยา่ ใชง้ านแทรกเตอร์
ทาํ การตรวจเช็คระดับนาํ้ มนั
1. ให้จอดแทรกเตอร์บนพ้ืนราบ Bการตรวจเช็คระดบั นํา้ มันเกยี ร์
2. ตรวจเช็คน้าํ มนั เคร่ืองก่อนท่ีจะสตาร์ทเคร่ืองหรือหลงั จากที่
1. จอดแทรกเตอร์บนพ้นื ราบ วางอปุ กรณ์ตอ่ พว่ งลง
ดบั เคร่ืองยนตแ์ ลว้ เป็นเวลา 5 นาทีหรือมากกวา่ และดบั เคร่ืองยนต์
3. ในการตรวจเช็คระดบั น้าํ มนั ใหด้ ึงกา้ นวดั ระดบั น้าํ มนั ออกมา
2. ในการตรวจเช็คระดบั น้าํ มนั ใหด้ ึงกา้ นวดั ระดบั น้าํ มนั ออกมา
ทาํ ความสะอาด ใส่กลบั เขา้ ทเ่ี ดิมแลว้ ดึงออกมาอีกคร้ัง ตรวจเชค็ ทาํ ความสะอาด ใส่กลบั เขา้ ท่เี ดิมแลว้ ดึงออกมาอกี คร้ัง ตรวจเช็ค
ระดบั น้าํ มนั วา่ อยรู่ ะหวา่ งขีดบน และขีดล่าง ระดบั น้าํ มนั วา่ อยรู่ ะหวา่ งขีดบน และขดี ล่าง
ถา้ ระดบั อยู่ต่าํ ไป ให้เติมน้าํ มนั จนถึงระดบั ท่ีกาํ หนดไวบ้ นช่อง ถา้ ระดบั อยตู่ ่าํ ไป ใหเ้ ตมิ น้าํ มนั จนถึงระดบั ท่กี าํ หนดไวบ้ นช่อง
เติมน้าํ มนั เตมิ น้าํ มนั
(ดู “สารหล่อล่ืน น้าํ มนั เช้ือเพลงิ และน้าํ ระบายความร้อน” (ดู “สารหลอ่ ลื่น น้าํ มนั เช้ือเพลิง และน้าํ ระบายความร้อน”
ในส่วน “การบาํ รุงรักษาแทรกเตอร์”) ในส่วน “การบาํ รุงรกั ษาแทรกเตอร์”)

(1) ช่องเติมนา้ํ มัน (1) ก้านวัดระดับนา้ํ มัน (A) ระดับนา้ํ มันควรอย่รู ะหว่างขีดบนและขีดล่าง

A ถา้ ระดบั น้าํ มนั ต่าํ อยา่ ใชง้ านแทรกเตอร์

(1) ก้านวัดระดับนา้ํ มัน (A) ระดับนา้ํ มันควรอย่รู ะหว่างขีดบนและขีดล่าง

42 การบาํ รุงรกั ษาตามชวั่ โมงการทาํ งานแทรกเตอร์ Bการทาํ ความสะอาดตะแกรงก้นั และแผงหม้อนํา้

Bการตรวจเช็คระดบั นาํ้ ระบายความร้อน

เพื่อหลกี เลย่ี งการได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ควรปฏิบตั ดิ ังนี้ เพ่ือหลกี เล่ียงการได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ควรปฏิบัติดังนี้
A อย่าเปิ ดฝาหม้อนํา้ ในขณะที่น้าํ ระบายความร้อนยงั ร้อนอยู่ A ตรวจเช็คให้แน่ใจว่าได้ดบั เครื่องยนต์เรียบร้อยแล้วก่อน

เม่ือนา้ํ เย็นลงให้หมนุ ฝาครอบออกช้าๆและหยุดพกั ไว้สักครู่ ทําการถอดแผงหม้อนาํ้
เพ่ือระบายแรงดนั ที่มากเกินออกมาก่อน จากน้ันจึงค่อย A ก่อนทาํ การตรวจสอบหรือทาํ ความสะอาดแผงหม้อน้าํ
หมนุ ฝาออกจนสุด
ให้ทําการดบั เคร่ืองยนต์และปล่อยทิง้ ไว้จนเครื่องยนต์
1. ตรวจเชค็ ระดบั น้าํ ระบายความร้อนวา่ อยรู่ ะหวา่ งช่วง เย็นลง
“ระดบั บน” และ “ระดบั ล่าง” ของถงั สาํ รอง
1. ตรวจเชค็ ตะแกรงก้นั ดา้ นหนา้ และแผงหมอ้ น้าํ ดา้ นขา้ งวา่
2. เมื่อระดบั น้าํ ระบายความร้อนลดลงเน่ืองมาจากการระเหย สะอาดปราศจากส่ิงอดุ ตนั
ใหเ้ ตมิ เฉพาะน้าํ เขา้ ไปจนเตม็
ในกรณีที่เกิดการร่ัวซึม ใหเ้ ติมสารป้องกนั การแขง็ ตวั ของน้าํ 2. ดึงแผงหมอ้ น้าํ พร้อมกบั สปริงยดึ ท่ีถกู ดึงข้ึน และนาํ สิ่งสกปรก
ระบายความร้อนและน้าํ เขา้ ไปตามสดั ส่วนที่กาํ หนดจนเตม็ ออกแลว้ ทาํ ความสะอาดดา้ นหนา้ ของหมอ้ น้าํ ให้เรียบร้อย
(ดู “การทาํ ความสะอาดระบบหล่อเยน็ และเปล่ียนถ่ายน้าํ
ระบายความร้อน” ในส่วน “การตรวจเช็คการทาํ งานแทรกเตอร์
ทุกๆ 2 ปี ” ในส่วน “การบาํ รุงรักษาตามชวั่ โมงการทาํ งาน
แทรกเตอร์”)

3. เม่ือระดบั น้าํ ระบายความร้อนต่าํ กวา่ ขดี บอกระดบั “ระดบั ลา่ ง”
ของถงั สาํ รอง ใหเ้ ปิ ดฝาหมอ้ น้าํ และตรวจเช็คระดบั น้าํ
ระบายความร้อนวา่ อยตู่ ่าํ กวา่ ช่องหมอ้ น้าํ หรือไม่ หากน้าํ มี
ระดบั ต่าํ ใหเ้ ติมน้าํ ระบายความร้อน

(1) แผงหม้อนา้ํ (A) “ดึงขึน้ ”
(2) สปริงยดึ (B) “ดึง”

A ตะแกรงก้นั และแผงหมอ้ น้าํ ตอ้ งสะอาดปราศจากสิ่งอุดตนั
เพ่อื ป้องกนั การเกิดความร้อนสูงที่เคร่ืองยนต์ และเพอ่ื ให้อากาศ
ดีไหลผา่ นชุดไสก้ รองอากาศไดส้ ะดวก

(1) ถังสาํ รอง (A) “ระดับบน” A แผงหมอ้ น้าํ สามารถถอดออกจากหมอ้ น้าํ ไดท้ ้งั ดา้ นซ้ายและ
(B) “ระดับล่าง” ดา้ นขวา

A ถา้ ตอ้ งเปิ ดฝาหมอ้ น้าํ ให้ปฏบิ ตั ิตามขอ้ ควรระวงั ขา้ งตน้
และปิ ดฝากลบั ให้แน่น

A เติมน้าํ สะอาดและสารป้องกนั การแข็งตวั ของน้าํ ระบาย
ความร้อนลงในหมอ้ น้าํ

A ถา้ น้าํ ระบายความร้อนเกิดการร่ัวซึม ให้ปรึกษาตวั แทนจาํ หน่าย
คโู บตา้ ใกลบ้ า้ นท่าน

Bการตรวจเช็คคนั เหยยี บเบรกและคนั เหยยี บคลตั ช์ การบาํ รุงรักษาตามชว่ั โมงการทาํ งานแทรกเตอร์ 43

เพ่ือหลกี เลย่ี งการได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ควรปฏิบัติดังนี้ การตรวจเช็คการทาํ งานแทรกเตอร์ทุกๆ 20 ช่ัวโมง
A ให้มน่ั ใจว่าคันเหยียบเบรกท้ังสองได้รับการปรับต้งั
Bการอดั จาระบี
ให้เท่ากนั
เม่ือทําการลอ็ กเข้าด้วยกนั การปรับต้งั ที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ อดั จาระบีตามจดุ ตา่ งๆ ต่อไปน้ีทุกๆ 20 ชวั่ โมงการทาํ งาน:
เท่ากนั ทาํ ให้รถเสียหลกั หรือพลกิ คว่ําได้ แต่หากปฏบิ ตั ิงานในทเี่ ปี ยกช้ืน หรือท่ีมีโคลน ควรอดั จาระบี
บ่อยข้ึนกวา่ เดิม
1. ตรวจเชค็ ระยะฟรีของคนั เหยยี บเบรก และคนั เหยยี บคลตั ช์ เม่ือทาจาระบีบนแป้นยดึ คานลอ้ หนา้ ท้งั คู่ ใหท้ าจาระบจี นกระทง่ั
เพื่อใหส้ ามารถใชง้ านไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ จาระบีไหลลน้ จากช่องปลกั๊ หายใจ

2. ทาํ การปรับต้งั เม่ือพบส่ิงผดิ ปกติ: (1) อัดจาระบี (แป้นยดึ คานล้อหน้า)
(ดู “การปรับต้งั ระยะฟรีคนั เหยยี บคลตั ชแ์ ละระยะฟรีคนั เหยียบ (2) ปล๊กั หายใจ
เบรก” ใน “การตรวจเช็คการทาํ งานแทรกเตอร์ทุกๆ 100
ชวั่ โมง” ในส่วน “การบาํ รุงรักษาตามชวั่ โมงการทาํ งาน (1) อดั จาระบี (แป้นยดึ คานล้อหน้า)
แทรกเตอร์”) (2) ปลั๊กหายใจ

Bการตรวจเช็คเกจวดั มิเตอร์ และแผงหน้าปัด (TM)

1. ตรวจเชค็ แผงหนา้ ปัดวา่ เกจวดั มเิ ตอร์ และไฟท่ีแผงหนา้ ปัด
(TM) เสียหายหรือไม่

2. ทาํ การเปล่ยี นเมื่อชาํ รุดเสียหาย

Bการตรวจเช็คไฟหน้า สัญญาณไฟเลยี้ ว/ไฟฉุกเฉิน
และไฟอื่นๆ

1. ตรวจเช็คแสงของหลอดไฟและเลนส์
2. ทาํ การเปลีย่ นเมื่อชาํ รุดเสียหาย

Bตรวจสอบเขม็ ขดั นิรภัยและโครงเหลก็ นริ ภัย

1. ตรวจสอบสภาพของเขม็ ขดั นิรภยั และโครงเหลก็ นิรภยั ใหอ้ ยใู่ น
สภาพตดิ ต้งั ก่อนทาํ การใชง้ านทุกคร้ัง

2. ทาํ การเปลี่ยนหากมีการชาํ รุดเสียหาย

Bการตรวจเช็คส่วนท่เี คลื่อนท่ไี ด้

ถา้ ส่วนที่เคล่ือนที่ไดใ้ ดๆ เช่น คนั โยก และคนั เหยยี บ เคลอ่ื นที่
ไดไ้ มส่ ะดวกอนั เนื่องมาจากสนิมหรือส่ิงเหนียวหนืด อยา่ พยายาม
ออกแรงบงั คบั ใหส้ ่วนน้นั เคล่ือนที่
ในกรณีดงั กล่าวขา้ งตน้ ให้กาํ จดั สนิมหรือสิ่งเหนียวหนืดน้นั ท้ิงไป
แลว้ ทาน้าํ มนั หรือหยอดจาระบีลงบนจุดท่เี กี่ยวขอ้ ง
มฉิ ะน้นั แทรกเตอร์อาจจะไดร้ ับความเสียหาย

44 การบาํ รุงรักษาตามชว่ั โมงการทาํ งานแทรกเตอร์

(1) ขวั้ แบตเตอร่ี (1) อัดจาระบี (ลกู หมากคนั ชัก - คันส่ง)

(1) อดั จาระบี (แขนยก) [ขวา] (1) อดั จาระบี ( คนั เกยี ร์ช้า-เร็ว )
(2) อัดจาระบี (แขนกลาง)

(1) อัดจาระบี (เพลาแขนไฮดรอลิก) (1) อัดจาระบี (คนั เกยี ร์พีทโี อ)

การตรวจเช็คการทาํ งานแทรกเตอร์ทุกๆ 50 ชั่วโมง การบาํ รุงรกั ษาตามชวั่ โมงการทาํ งานแทรกเตอร์ 45

Bการตรวจเช็คระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ Bการตรวจเช็คค่าแรงขันของโบลต์ยึดล้อ

เพ่ือหลกี เลยี่ งการได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ควรปฏิบัตดิ ังนี้ เพื่อหลกี เล่ยี งการได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ควรปฏิบัตดิ งั นี้
A อย่าให้บุคคลใดๆ กต็ ามเข้าใกล้รถขณะทาํ การทดสอบ A ห้ามใช้งานแทรกเตอร์ หากเกดิ การหลวมขึน้ บริเวณขอบ
A ถ้าทดสอบไม่ผ่าน อย่านํารถไปใช้งาน
วงล้อ ล้อ หรือ เพลา
C การเตรียมความพร้อมก่อนการทดสอบ A หากโบลต์ และนอตเกดิ หลวม ให้ทาํ การขันค่าแรงขนั ให้ได้
1. นง่ั บนเบาะทนี่ ง่ั คนขบั
2. ใส่เบรกมอื และดบั เครื่องยนต์ ค่าตามที่กาํ หนด
3. เลื่อนคนั เกียร์เปล่ียนทิศทางไปทต่ี าํ แหน่ง “วา่ ง” A ตรวจเช็คโบลต์และนอต ให้แน่นอยู่เสมอ
4. เล่ือนคนั เกียร์พีทีโอไปทีต่ าํ แหน่ง “วา่ ง” หมน่ั ทาํ การตรวจเช็คโบลตแ์ ละนอตเสมอ โดยเฉพาะในช่วงท่ี
5. เหยียบคนั เหยยี บคลตั ชไ์ ปใหส้ ุด ซ้ือไปใหมๆ่ หากพบวา่ หลวมให้ทาํ การขนั ตามลาํ ดบั ในรูป
C การทดสอบ : สวิตช์นิรภัยที่คันเกยี ร์พีทโี อ
1. เหยียบคนั เหยยี บคลตั ชไ์ ปใหส้ ุด (1) 137 นิวตัน-เมตร (14 กก.แรง - ม.)
2. เลื่อนคนั เกียร์พที ีโอ ไปทต่ี าํ แหน่งทีต่ อ้ งการ (2) 294 นิวตัน-เมตร (30 กก.แรง - ม.)
3. หมนุ กุญแจไปทตี่ าํ แหน่ง “สตาร์ท” (3) 294 นิวตัน-เมตร (30 กก.แรง - ม.) (ชนิดปรับตั้งได้)
4. เครื่องยนตต์ อ้ งไมท่ าํ งาน
C การทดสอบ : สวิตช์ทคี่ ันเหยียบคลตั ช์ Bการตรวจสอบฝาครอบคนั ชัก-คนั ส่ง
1. เลื่อนคนั เกียร์พีทีโอไปท่ตี าํ แหน่ง “วา่ ง”
2. ปล่อยคนั เหยยี บคลตั ช์ 1. ตรวจเชค็ วา่ ฝาครอบเกิดความเสียหายหรือไม่
3. หมนุ กุญแจไปทต่ี าํ แหน่ง “สตาร์ท” 2. ถา้ ฝาครอบเกิดความเสียหาย ใหป้ รึกษากบั ทางผแู้ ทนจาํ หน่าย
4. เครื่องยนตต์ อ้ งไมท่ าํ งาน
5. ถา้ เกิดสิ่งผิดปกตขิ ้ึน ใหป้ รึกษาตวั แทนจาํ หน่าย คูโบตา้ ของทางบริษทั สยามคูโบตา้ อตุ สาหกรรมจาํ กดั

ใกลบ้ า้ นท่าน

(1) คันเหยียบคลัตช์ (1) ฝาครอบ
(2) คนั เกียร์เปลี่ยนทิศทาง
(3) คนั เกียร์พีทโี อ A ถา้ ฝาครอบเปราะ น้าํ และฝ่นุ จะเขา้ ไปในคนั ชกั -คนั ส่ง ทาํ ให้
สึกหรอเร็วข้ึน

46 การบาํ รุงรักษาตามชวั่ โมงการทาํ งานแทรกเตอร์ A ไส้กรองอากาศใชส้ ่วนประกอบท่ีแหง้ ห้ามทาน้าํ มนั
A หา้ มสตาร์ทเครื่องยนต์ ถา้ ไมไ่ ดใ้ ส่ไส้กรองอากาศ
การตรวจเช็คการทํางานแทรกเตอร์ทกุ ๆ 100 ชั่วโมง A ตรวจเช็คให้แน่ใจวา่ เมอื่ ประกอบฝาปิ ดชุดกรองอากาศ “ลูกศร”

Bการทําความสะอาดชุดไส้ กรองอากาศลูกนอก (ที่อยู่บนดา้ นหลงั ของฝาปิ ดชุดกรองอากาศ) ช้ีข้ึนเสมอ
และถา้ ปิ ดฝาครอบไม่สนิท ลิ้นดกั ฝ่นุ จะไม่ทาํ งาน และจะทาํ ให้
1. ถอดฝาปิ ดชุดกรองอากาศ และกรองอากาศ ฝ่นุ ท่ีมีขนาดใหญเ่ ขา้ ไปเกาะติดที่ไสก้ รองอากาศไดโ้ ดยตรง
2. ทาํ ความสะอาดไสก้ รองอากาศลูกนอก A อยา่ ถอดหรือจบั ไสก้ รองอากาศลูกใน ยกเวน้ กรณีที่ตอ้ งการ
เปล่ียน
(1) เมื่อฝ่นุ จบั ไส้กรองอากาศ ใหใ้ ชล้ มเป่ าจากดา้ นใน (ดู“การเปลย่ี นส่วนประกอบหลกั และรองของชุดไส้กรอง
อากาศจะตอ้ งต่าํ กวา่ 205 กิโลปาสคาล (2.1 กก. อากาศ” ในหวั ขอ้ “ตรวจเช็คทุกๆ 1000 ชวั่ โมง หรือ 1 ปี ”
แรง/ตร.ซม. , 30 ปอนด/์ นิ้ว) ในส่วน “การบาํ รุงรกั ษาตามชว่ั โมงการทาํ งานแทรกเตอร์” )
C ลนิ้ ดักฝ่ นุ
(2) เมือ่ มีเขมา่ หรือน้าํ มนั ติดไส้กรอง ใหแ้ ช่ไสก้ รองอากาศ เปิ ดล้นิ ดกั ฝ่นุ อาทิตยล์ ะหน่ึงคร้ังในสภาวะปกติ หรือทุกวนั
ไวใ้ นน้าํ ผงซกั ฟอก 15 นาที จากน้นั ทาํ ความสะอาด หากใชใ้ นที่ฝ่นุ เยอะ เพอ่ื กาํ จดั ส่ิงสกปรกและฝ่ ุนละอองขนาดใหญ่
ดว้ ยน้าํ หลายๆ รอบ ลา้ งดว้ ยน้าํ สะอาด แลว้ ทงิ้ ใหแ้ ห้ง
หลงั จากส่วนประกอบแหง้ แลว้ ใหส้ าํ รวจดา้ นในของส่วน Bการปรับต้งั ความตงึ สายพานพดั ลม
ประกอบ ดว้ ยไฟสวา่ ง เพือ่ ตรวจดูวา่ เกิดความเสียหาย
หรือไม่

3. เปล่ียนไส้กรองอากาศลูกนอก:
หน่ึงคร้งั ทุกๆ 1000 ชวั่ โมง หรือตอ่ ปี แลว้ แตว่ า่ ถึงอย่างไหน
ก่อน

A ใหต้ รวจเชค็ วา่ ลนิ้ ดกั ฝ่นุ การถอนถูกอุดตนั ดว้ ยฝ่นุ หรือไม่

เพ่ือหลกี เลี่ยงการได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ควรปฏิบัติดังนี้
A ดบั เครื่องยนต์ก่อนเช็คความตงึ สายพาน

ความตึงสายพาน มีความตึงเท่ากบั 12 มม.เมื่อกด (68.6 นิวตนั
พดั ลม [7 กก.แรง] ) ในตาํ แหน่งกลางของสายพาน
พดั ลม

1. ดบั เคร่ืองยนต์ และดงึ กุญแจออก
2. กดสายพานส่วนที่พาดมู่เลยด์ ว้ ยนิ้วโป้งแรงพอประมาณ
3. หากค่าความตึงยงั ไม่ถูกตอ้ ง ให้คลายโบลตย์ ดึ ไดชาร์จ

ใส่แท่งเหลก็ เขา้ ไประหวา่ งไดชาร์จและเส้ือสูบและดึงไดชาร์จ
จนกระทง่ั ใหไ้ ดค้ ่าความตึงตามที่กาํ หนด
4. ทาํ การเปลยี่ นสายพานพดั ลมเมื่อมีการชาํ รุดเสียหาย

(1) ไส้กรองอากาศ (นิรภยั ) ลูกใน (A) “จัดเป็นแนวเดียวกนั ”
(2) ไส้กรองอากาศลกู นอก
(3) ลิน้ ดักฝ่ ุน (1) โบลต์ (A) ตรวจเช็คความตึงสายพาน
(B) ดึงให้ตึง
(4) ฝาปิ ดชุดกรองอากาศ

Bการปรับต้งั ระยะฟรีคันเหยยี บคลตั ช์ การบาํ รุงรักษาตามชว่ั โมงการทาํ งานแทรกเตอร์ 47

Bการปรับต้งั ระยะฟรีคันเหยยี บเบรก

ระยะฟรี 20 ถึง 30 มม. บนคนั เหยยี บ เพื่อหลกี เลีย่ งการได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ควรปฏิบัติดงั นี้
คนั เหยยี บคลตั ช์ A ดับเคร่ืองยนต์ และคาํ้ ยนั ล้อก่อนตรวจเช็คคันเหยียบเบรก

C ข้ันตอนการปรับต้ัง ระยะฟรีคนั เหยียบเบรก 15 ถึง 20 มม.บนคนั เหยยี บเบรก
1. ดบั เครื่องยนต์ และดึงกุญแจออก รกั ษาระยะฟรีของคนั เหยยี บเบรก
2. ใชม้ อื กดคนั เหยยี บคลตั ช์เบาๆ แลว้ วดั ระยะฟรีที่คนั เหยียบ ขวา และซา้ ยใหเ้ ทา่ กนั

คลตั ช์ เลอ่ื นลงมาจากตาํ แหน่งเดิมท่ีจดุ บนของคนั เหยยี บ C ข้ันตอนการปรับต้งั
3. ถา้ ระยะฟรีไมไ่ ดต้ ามค่าที่กาํ หนด ให้คลายนอตลอ็ กกา้ นต่อ 1. ปล่อยแป้นเหยยี บเบรก
2. ใชม้ ือกดคนั เหยยี บเบรกเบาๆ แลว้ วดั ระยะฟรีที่คนั เหยียบเบรก
ปรับต้งั และหมุนขอ้ ตอ่ ปรับต้งั เพ่ือปรับต้งั ระยะให้ได้ 3. ถา้ ระยะฟรีไม่ไดต้ ามค่าที่กาํ หนด ให้คลายนอตล็อกกา้ น
ตามที่กาํ หนด
4. ขนั นอตล็อกกา้ นต่อปรับต้งั ให้แน่น ตอ่ ปรับต้งั และหมุนขอ้ ตอ่ ปรับต้งั เพือ่ ปรับต้งั ระยะให้ได้
ตามท่ีกาํ หนด
4. ขนั นอตลอ็ กกา้ นต่อปรับต้งั ใหแ้ น่น

(1) นอตลอ็ ก (A) “ระยะฟรี”
(2) ข้อต่อปรับตั้ง

(1) นอตลอ็ ก (A) “ระยะฟรี”
(2) ข้อต่อปรับต้ัง

48 การบาํ รุงรกั ษาตามชว่ั โมงการทาํ งานแทรกเตอร์

Bตรวจเช็คสภาพแบตเตอรี่

เพื่อป้องกนั ไม่ให้แบตเตอร่ีระเบิด: (1) แบตเตอร่ี
สําหรับแบตเตอรี่แบบชาร์จใหม่ได้ หรือแบบเปี ยก ควรปฏิบัติ (2) ช่องตรวจวัดสภาพแบตเตอรี่
ตามคาํ แนะนําด้านล่าง
A ห้ามใช้หรือว่าชาร์จแบตเตอรี่แบบชาร์จใหม่ได้ หรือแบบ C อ่านสัญลกั ษณ์บอกสภาพอย่างไร
เช็คสภาพของแบตเตอรี่โดยดทู ี่สัญลกั ษณบ์ อกสภาพ
เปี ยก หากระดับของเหลวตํ่ากว่าขีดล่าง (ระดบั ขีดล่าง)
จะทาํ ให้ชิ้นส่วนประกอบต่างๆ ของแบตเตอรี่เสื่อมสภาพ สถานะของสัญลกั ษณบ์ อกสภาพท่ีแสดง
เร็วกว่ากาํ หนด ซ่ึงทาํ ให้อายุการใช้งานส้ันลง และอาจทาํ ให้
เกดิ การระเบิดขึน้ ได้ ควรตรวจและเติมนํ้ากลน่ั ให้อยู่ เขียว ความถ่วงจาํ เพาะ และคุณภาพของสารอเิ ลก็ โตรไลต์
ระหว่างเส้นระดบั บนกบั เส้นระดบั ล่างอยู่เสมอ อยใู่ นระดบั ดี
ฉะน้นั ควรหมนั่ ตรวจเช็คระดบั ของเหลวอย่างสมาํ่ เสมอ
และเตมิ นาํ้ กลน่ั เพื่อให้ระดับของเหลวอยู่ระหว่าง ขีดบน แดง จาํ เป็นตอ้ งเติมน้าํ กลน่ั ใหแ้ บตเตอรี่
และขีดล่าง
ขาว จาํ เป็นตอ้ งชาร์จแบตเตอร่ี
เพ่ือหลกี เลยี่ งการได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ควรปฏิบัติดังนี้
A ห้ามเปิ ดฝาแบตเตอร่ี ขณะเครื่องยนต์ทาํ งานอยู่ C ชาร์จแบตเตอรี่
A ระวังอย่าให้สารอเิ ลก็ โตรไลต์กระเด็นเข้าตา มือ หรือ เสื้อผ้า
เพ่ือหลกี เลย่ี งการได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ควรปฏิบัติดงั นี้
หากโดนให้ล้างออกด้วยน้ําทนั ที และรีบไปพบแพทย์ A ขณะทแี่ บตเตอรี่กาํ ลงั ทาํ งานอยู่น้ัน ก๊าซออกซิเจน และ
A ไม่ควรให้เกดิ ประกายไฟ การลุกไหม้ ใกล้กบั แบตเตอรี่
ไฮโดรเจนในแบตเตอรี่พร้อมทจ่ี ะระเบิดขึน้ ได้ ไม่ควรให้
ในเวลาใดๆ กต็ าม ก๊าซไฮโดรเจนเมื่อผสมกบั ก๊าซออกซิเจน เกดิ ประกายไฟ การลุกไหม้ ใกล้กบั แบตเตอรี่โดยเฉพาะ
จะทําให้เกดิ การระเบิดได้ง่าย
A สวมอปุ กรณ์ป้องกนั ตาและถุงมือยาง เม่ือทาํ งาน ขณะทกี่ าํ ลงั ชาร์จ
กบั แบตเตอรี่ A ขณะกาํ ลงั ชาร์จแบตเตอร่ีควรดใู ห้แน่ใจว่าฝาปิ ดรูถูกปิ ด

การใชแ้ บตเตอรี่อยา่ งผิดวิธี จะทาํ ใหอ้ ายกุ ารใชง้ านส้ันลง และทาํ ให้ อย่างแน่นหนา (ถ้าม)ี
ค่าใชจ้ า่ ยในการบาํ รุงรักษาเพ่มิ ข้ึน A หากต้องการปลดสายไฟจากแบตเตอรี่ให้ ปลดสายไฟ
แบตเตอรี่อาจไม่ตอ้ งบาํ รุงรกั ษา แต่ตอ้ งมีการตรวจสภาพบา้ ง
ถา้ แบตเตอรี่อ่อน เคร่ืองยนตจ์ ะสตาร์ทติดยาก และไฟส่องสวา่ ง ท่ขี ้ัวลบออกก่อน
จะไมค่ ่อยสวา่ ง ฉะน้นั เป็นสิ่งสาํ คญั ท่ีตอ้ งตรวจเช็คแบตเตอร่ี หากต้องการต่อสายไฟเข้ากบั แบตเตอร่ี ให้ต่อที่ข้ัวบวกก่อน
ตามระยะเวลาท่ีกาํ หนด
A ห้ามเช็คประจุไฟของแบตเตอร่ีโดยการใช้โลหะวัตถุใดๆ
มาแตะทขี่ ้ัว
ควรใช้โวลต์มเิ ตอร์ หรือไฮโดรมเิ ตอร์

การบาํ รุงรักษาตามชวั่ โมงการทาํ งานแทรกเตอร์ 49

1. ตรวจเช็คให้แน่ใจวา่ ระดบั สารอิเลก็ โตรไลตแ์ ตล่ ะส่วนถึงระดบั C คําแนะนําในการเก็บรักษา
ลา่ งสุดของช่องไล่ลม ถา้ จาํ เป็นใหเ้ ตมิ น้าํ กลน่ั เพิม่ ในบริเวณ 1. หากจะไมใ่ ชง้ านแทรกเตอร์เป็นระยะเวลานานๆ
ช่องไล่ลม
ควรถอดแบตเตอร่ีออกจากแทรกเตอร์ และเชค็ ระดบั สาร
อิเลก็ โตรไลตใ์ นแบตเตอรี่ใหอ้ ยใู่ นระดบั ที่เหมาะสม เกบ็ ไวใ้ น
ทแ่ี หง้ และไม่ถูกแสงแดดส่องโดยตรง
2. แบตเตอร่ีคายประจไุ ดเ้ อง ขณะไม่ถกู ใชง้ าน
ฉะน้นั ควรนาํ แบตเตอร่ีมาชาร์จใหม่ทุกๆ 3 เดือนในหนา้ ร้อน
และทุก 6 เดือนในหนา้ หนาว

การตรวจเช็คการทาํ งานแทรกเตอร์ทุกๆ 200 ชั่วโมง

Bการปรับต้งั ระยะสอบล้อหน้าโทอนิ

ระยะโทอิน 2 - 8 มม.
ทเ่ี หมาะสม
(A) ระดับสูงสุด
(B) ระดับตา่ํ สุด 1. จอดแทรกเตอร์บนพน้ื เรียบ
2. หมุนพวงมาลยั ใหล้ อ้ หนา้ อยใู่ นแนวตรง
2. น้าํ ในสารอิเลก็ โตรไลตจ์ ะระเหยในระหวา่ งการชาร์จ 3. วางระดบั อุปกรณต์ ่อพ่วงลง ล็อกเบรก และดบั เครื่องยนต์
การขาดน้าํ จะทาํ ให้แบตเตอร่ีเสียหายได้ 4. วดั ระยะระหวา่ งปี กยางท่ีลอ้ หนา้ ที่ระดบั ความสูงเดียวกบั ดมุ ลอ้
น้าํ ท่ีมากเกินไปจะลน้ และทาํ ให้แทรกเตอร์เสียหายได้ 5. วดั ระยะระหวา่ งปี กยางที่ลอ้ หลงั ท่ีระดบั ความสูงเดียวกบั ดุมลอ้
6. ระยะระหวา่ งปี กยางทล่ี อ้ หนา้ ควรจะส้ันกวา่ ลอ้ หลงั
3. การชาร์จแบตเตอรี่แบบชา้ ทาํ โดยต่อข้วั บวกของแบตเตอรี่
เขา้ กบั ข้วั บวกของตวั ชาร์จ และตอ่ ข้วั ลบของแบตเตอรี่เขา้ กบั ถา้ ไม่ไดต้ ามค่าน้ีตอ้ งปรบั ต้งั ความยาวของคนั ชกั -คนั ส่งใหม่
ข้วั ลบของตวั ชาร์จ จากน้นั ทาํ การชาร์จตามปกติ

4. การเพิ่มกาํ ลงั ชาร์จในกรณีฉุกเฉินเท่าน้นั เป็นการชาร์จ
แบบไมส่ มบูรณแ์ ละมอี ตั ราการป้อนไฟสูงในเวลาส้ันๆ
ซ่ึงหากนาํ แบตเตอรี่ที่ถูกชาร์จดว้ ยวธิ ีน้ีไปใช้ จะตอ้ งนาํ
แบตเตอรี่กลบั มาทาํ การชาร์จไฟใหม่ทนั ทีท่ีสามารถทาํ ได้
หากไม่ปฏบิ ตั ิตาม จะทาํ ใหอ้ ายุการใชง้ านของแบตเตอรี่ส้ันลง

5. เม่ือแบตเตอรี่ถกู ชาร์จเสร็จ สัญญาณบอกสภาพท่ีแบตเตอร่ี
จะเปลี่ยนจากสีแดงเป็ นสีเขียว

6. หากตอ้ งการเปล่ียนแบตเตอรี่ใหม่ แบตเตอรี่ลกู ใหม่ตอ้ งมี
คุณสมบตั ิ ดงั ตารางท่ี 1

ตารางที่ 1 โวลต์ ความจุ CCA อตั รา (A) ระยะห่างของล้อหน้าด้านหลงั
(V) สาํ รอง (นาที) (SAE) การชาร์จ (B) ระยะห่างของล้อหน้าด้านหน้า
ชนิด (A) ปกติ (A) (C) “ด้านหน้าแทรกเตอร์”
แบตเตอร่ี
12 98 450 6.5 C ข้ันตอนการปรับต้ัง
75D26R 1. คลายนอตคนั ชกั -คนั ส่ง
2. หมุนขอ้ ต่อคนั ชกั -คนั ส่งเพ่ือปรับต้งั ความยาวของคนั ชกั - คนั ส่ง
CCA : ไฟที่ทาํ ให้เครื่องเดินแอมป์
จนไดร้ ะยะโทอนิ ตามท่ีกาํ หนด
3. ขนั นอตคนั ชกั -คนั ส่งกลบั เขา้ ให้แน่น

50 การบาํ รุงรกั ษาตามชว่ั โมงการทาํ งานแทรกเตอร์

(1) นอตคันชัก-คนั ส่ง (1) ช่องเติมนา้ํ มนั
(2) ข้อต่อคันชัก-คันส่ง

การตรวจเช็คการทํางานแทรกเตอร์ทกุ ๆ 400 ช่ัวโมง

Bการเปลยี่ นถ่ายนํ้ามันเคร่ือง

เพื่อหลกี เลยี่ งการได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ควรปฏิบตั ดิ ังนี้ (1) ก้านวัดระดับนา้ํ มัน (A) ระดับนา้ํ มันควรอย่รู ะหว่างขีดบนและขีดล่าง
A ตรวจเช็คให้แน่ใจว่าได้ดับเคร่ืองยนต์เรียบร้อยแล้วก่อนที่

จะเปลยี่ นถ่ายนํ้ามนั เคร่ือง
A ปล่อยให้เคร่ืองยนต์เย็นตัวลงก่อน เนื่องจากนํ้ามันร้อน

และอาจติดลกุ ไหม้ได้

1. ถา่ ยน้าํ มนั ท่ีใชแ้ ลว้ ทงิ้ โดยถอดปลกั๊ ถา่ ยที่ดา้ นล่างของอ่าง
น้าํ มนั เคร่ืองยนตแ์ ละถ่ายน้าํ มนั ท้งั หมดลงในภาชนะทีเ่ ตรียมไว้

2. หลงั จากน้าํ มนั ไหลหมดแลว้ ให้บิดปลกั๊ ถา่ ยกลบั ท่ีเดิม
3. เติมน้าํ มนั เครื่องใหมใ่ หถ้ ึงขีดบนของกา้ นวดั ระดบั น้าํ มนั

(ดู “สารหล่อลื่น น้าํ มนั เช้ือเพลงิ และน้าํ ระบายความร้อน”
ในส่วน “การบาํ รุงรกั ษาแทรกเตอร์”)

ความจนุ ้าํ มนั เคร่ือง 7.6 ลิตร
ของตวั กรอง

(1) ปลก๊ั ถ่าย

การบาํ รุงรกั ษาตามชวั่ โมงการทาํ งานแทรกเตอร์ 51

Bการเปลยี่ นไส้กรองนา้ํ มันเครื่อง

เพื่อหลกี เลยี่ งการได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ควรปฏิบตั ดิ ังนี้ (1) ปล๊กั ถ่าย
A ดับเครื่องยนต์ก่อนเปลยี่ นไส้กรองนํา้ มันเครื่อง
A ปล่อยให้เคร่ืองยนต์เย็นตวั ลงก่อน เน่ืองจากนาํ้ มนั ร้อน

และอาจติดลกุ ไหม้ได้

1. ถอดไสก้ รองน้าํ มนั เคร่ืองออก
2. ทาน้าํ มนั เคร่ืองบางๆ ที่ซีลยางของไสก้ รองน้าํ มนั เครื่องใหม่
3. หมนุ ไส้กรองเขา้ โดยเร็วจนกระทง่ั สัมผสั กบั หนา้ แปลนตดิ ต้งั

ใชม้ ือหมุนเขา้ ไปอีกคร่ึงรอบเท่าน้นั
4. หลงั จากเปลย่ี นไส้กรองแลว้ ระดบั น้าํ มนั เคร่ืองจะลดลงเลก็ นอ้ ย

ใหต้ รวจดวู า่ น้าํ มนั เคร่ืองไมไ่ ดร้ ว่ั ผา่ นซีล และเชค็ ระดบั น้าํ มนั
ทก่ี า้ นวดั ระดบั น้าํ มนั จากน้นั เติมน้าํ มนั เครื่องใหถ้ ึงระดบั ที่
กาํ หนด

(1) ปลก๊ั ถ่าย

3. ถอดไส้กรองน้าํ มนั เครื่องออก
4. เชด็ ผงเหลก็ ออกจากแผน่ แมเ่ หลก็ ไส้กรองดว้ ยผา้ สะอาด

(1) ไส้กรองนา้ํ มันเคร่ือง

A เพ่ือป้องกนั ความเสียหายอย่างรุนแรง ควรใชอ้ ะไหลแ่ ทจ้ ากทาง
คโู บตา้ เท่าน้นั

Bการเปลย่ี นนาํ้ มันเกยี ร์/การเปลย่ี นไส้กรองนาํ้ มนั ไฮดรอลกิ

C การทาํ ความสะอาดแม่เหลก็ ไส้กรอง

เพ่ือหลกี เลยี่ งการได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ควรปฏิบตั ิดังนี้ (1) ไส้กรองนา้ํ มันไฮดรอลิก
A ดับเคร่ืองยนต์ก่อนเปลี่ยนไส้กรองนา้ํ มันเครื่อง (2) แม่เหลก็ ไส้กรอง (เช็ดผงเหลก็ ออก)
A ปล่อยให้เครื่องยนต์เย็นตัวลงก่อน เนื่องจากนํา้ มนั ร้อน
5. ทาน้าํ มนั เกียร์บางๆ ทซี่ ีลยางของไส้กรองน้าํ มนั เคร่ืองใหม่
และอาจติดลกุ ไหม้ได้ 6. หมุนไสก้ รองเขา้ โดยเร็วจนกระทง่ั สัมผสั กบั หนา้ แปลนตดิ ต้งั
1. ถอดปลกั๊ ถ่ายท่ดี า้ นล่างของหอ้ งเกียร์และถา่ ยน้าํ มนั ลงอ่างน้าํ มนั
และใชม้ ือหมนุ เขา้ ไปอกี คร่ึงรอบเท่าน้นั
จนหมด
2. หลงั จากน้าํ มนั ไหลหมดแลว้ ให้ใส่ปลกั๊ ถ่ายกลบั เขา้ ที่

52 การบาํ รุงรักษาตามชวั่ โมงการทาํ งานแทรกเตอร์

7. หลงั จากเปลยี่ นไส้กรองใหมแ่ ลว้ ใหเ้ ตมิ น้าํ มนั เกียร์จนถึงระดบั Bการเปลยี่ นไส้กรองน้ํามนั เชื้อเพลงิ
ขีดบนของเกจวดั
1. ปิ ดวาลว์ เปิ ด-ปิ ดน้าํ มนั เช้ือเพลิง
8. หลงั จากเดนิ เคร่ืองยนตไ์ ดส้ ักครู่ ใหด้ บั เครื่องยนตแ์ ละเชค็ 2. ถอดไส้กรองน้าํ มนั เช้ือเพลงิ
ระดบั น้าํ มนั อีกคร้ัง และเตมิ น้าํ มนั ใหไ้ ดร้ ะดบั ตามตอ้ งการ 3. ทาน้าํ มนั เช้ือเพลงิ บางๆ ที่พ้ืนผิวของปะเก็นก่อนที่จะขนั
4. แลว้ ใชม้ ือขนั ใหแ้ น่น
9. ตรวจดใู หแ้ น่ใจวา่ ไม่มีน้าํ มนั เกียร์ร่ัวผา่ นซีลบนไสก้ รอง 5. เปิ ดวาลว์ เปิ ด-ปิ ดน้าํ มนั เช้ือเพลิง
6. ไล่ลมในระบบน้าํ มนั เช้ือเพลงิ (ดู “การไล่ลมในระบบ
ความจนุ ้าํ มนั 40 ลติ ร
น้าํ มนั เช้ือเพลิง” ในหวั ขอ้ “การซ่อมบาํ รุงตามสภาพการใชง้ าน”
ในส่วน “การบาํ รุงรกั ษาตามชว่ั โมงการทาํ งานแทรกเตอร์” )
7. สตาร์ทเคร่ืองยนตแ์ ลว้ ตรวจหาการร่ัวซึมของน้าํ มนั เช้ือเพลงิ

(1) ไส้กรองนา้ํ มันเชื้อเพลิง (A) “ปิ ด”
(2) วาล์วเปิ ด-ปิ ดนา้ํ มนั เชื้อเพลิง (B) “เปิ ด”

A เพื่อป้องกนั ไม่ใหเ้ คร่ืองยนตเ์ กิดความเสียหายอย่างรุนแรง
ควรใชไ้ ส้กรองน้าํ มนั เช้ือเพลงิ ของแทจ้ ากทางคูโบตา้ เทา่ น้นั

A หา้ มลา้ งไส้กรองน้าํ มนั เช้ือเพลงิ และนาํ กลบั มาใชใ้ หม่

(1) ก้านวัดระดับนา้ํ มัน (A) ระดับนา้ํ มนั ควรอย่รู ะหว่างขีดบนและขดี ล่าง
(2) ช่องเติมนา้ํ มัน

A เพ่ือป้องกนั ความเสียหายอย่างรุนแรงของระบบไฮดรอลิก
ควรใชอ้ ะไหลแ่ ทจ้ ากทางคโู บตา้ เทา่ น้นั

A หา้ มใชแ้ ทรกเตอร์ทนั ทีหลงั จากเปลยี่ นน้าํ มนั เกียร์
เดินเคร่ืองท่ีความเร็วปานกลางสักสองถึงสามนาที เพ่ือป้องกนั
ความเสียหายเกิดข้ึนกบั ชุดเกียร์

Bการทําความสะอาดกรองดกั น้ํา การบาํ รุงรกั ษาตามชวั่ โมงการทาํ งานแทรกเตอร์ 53

ควรทาํ ความสะอาดทโี่ ล่งและสะอาด การตรวจเช็คการทาํ งานแทรกเตอร์ทุกๆ 600 ช่ัวโมง
1. ปิ ดวาลว์ เปิ ด-ปิ ดน้าํ มนั เช้ือเพลิง
2. คลายแหวนยดึ และถอดถว้ ยกรองออก แลว้ ลา้ งดา้ นใน Bการปรับต้งั ความคล่องตวั คานล้อหน้า

ดว้ ยน้าํ มนั กา๊ ด ถา้ หากปรับต้งั สลกั แป้นยดึ คานลอ้ หนา้ ไม่เหมาะสม จะทาํ ให้
3. หลงั การทาํ ความสะอาด ทาํ การประกอบกรองดกั น้าํ กลบั เขา้ ท่ี ลอ้ หนา้ ส่ัน และเป็นสาเหตใุ หเ้ กิดการสั่นทพ่ี วงมาลยั ข้ึน

ระวงั อยา่ ใหฝ้ ่นุ และสิ่งสกปรกเขา้ ไป C ข้ันตอนการปรับต้งั
4. ไล่ลมในระบบน้าํ มนั เช้ือเพลิง คลายนอตลอ็ ก และขนั สกรูปรบั ต้งั ใหส้ ุด แลว้ ขนั สกรูเขา้ ไปอกี
1/6 รอบ ขนั นอตลอ็ กกลบั เขา้ ท่ีใหแ้ น่น
(ดทู ่ี “การไล่ลมในระบบน้าํ มนั เช้ือเพลิง” ใน “การซ่อมบาํ รุง
ตามสภาพการใชง้ าน” ในหวั ขอ้ “การบาํ รุงรักษาตามชว่ั โมง
การทาํ งานแทรกเตอร์”)

(1) สกรูปรับตั้ง
(2) นอตลอ็ ก

(1) วาล์วเปิ ด-ปิ ดนา้ํ มันเชือ้ เพลิง (A) “ปิ ด”
(2) แหวนยึด
(3) ถ้วยกรอง

(1) แหวนยาง
(2) ลกู ลอยสีแดง

(3) ถ้วยกรอง
(4) แหวนยดึ

54 การบาํ รุงรักษาตามชว่ั โมงการทาํ งานแทรกเตอร์

การตรวจเช็คการทาํ งานแทรกเตอร์ทกุ ๆ 800 ช่ัวโมง ทกุ ๆ 2000 ชม. หรือ 2 ปี

Bการเปลย่ี นนํ้ามันเสื้อคานล้อหน้า ตรวจเช็คให้แน่ใจวา่ ไดท้ าํ การดแู ลตรวจสอบหน่ึงคร้งั ทุกๆ 2000
ชวั่ โมง หรือต่อปี แลว้ แตว่ า่ ถงึ อย่างไหนกอ่ น
1. ถ่ายน้าํ มนั ทีใ่ ชแ้ ลว้ โดยถอดปลกั๊ ถา่ ยที่ดา้ นซา้ ยและขวา
และปลก๊ั เติมน้าํ มนั ของเส้ือคานลอ้ หนา้ ออก จากน้นั ถ่ายน้าํ มนั Bสารป้องกนั การแขง็ ตัวของนาํ้ ระบายความร้อน
ท้งั หมดลงสู่ภาชนะทเี่ ตรียมไว้
เพื่อหลกี เล่ยี งการได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ควรปฏิบัติดังนี้
2. หลงั จากน้าํ มนั ไหลหมดแลว้ ให้ใส่ปลก๊ั ถ่ายกลบั เขา้ ที่ A ก่อนเตมิ สารป้องกันการแข็งตัวของน้ําระบายความร้อน
3. ถอดปลกั๊ ตรวจสอบระดบั น้าํ มนั
4. เติมน้าํ มนั ใหม่จนถงึ ระดบั ช่องปลก๊ั ตรวจสอบระดบั น้าํ มนั ควรสวมใส่ อปุ กรณ์ป้องกนั เช่น ถุงมือยาง (สารป้องกนั
การแขง็ ตวั ของนา้ํ ระบายความร้อน ประกอบไปด้วย
(ดู “สารหล่อลืน่ น้าํ มนั เช้ือเพลงิ และน้าํ ระบายความร้อน” สารพษิ )
ในส่วน “การบาํ รุงรกั ษาแทรกเตอร์”) A หากกลนื เข้าไป ให้รีบไปพบแพทย์ทันที ห้ามพยายามทําให้
5. เติมเสร็จแลว้ ใหป้ ระกอบปลกั๊ เติมน้าํ มนั ตามเดิม อาเจยี นเองนอกจากจะถูกให้ทาํ โดยผ้เู ช่ียวชาญจากกรม
ควบคมุ หรือศูนย์บริการทางการแพทย์ ทาํ การปฐมพยาบาล
ความจุน้าํ มนั 6.5 ลิตร และ CPR เม่ือมีอาการช็อกหรือภาวะหวั ใจหยุดเต้น โทรแจ้ง
กรมควบคุมหรือหมายเลขฉุกเฉินประจําท้องถ่ินของท่าน
(1) ปล๊กั ตรวจสอบระดับนา้ํ มัน A หากถูกผิวหนัง หรือเสื้อผ้าให้ล้างออกทนั ที
(2) ปล๊กั เติมนา้ํ มัน A ห้ามผสมสารป้องกนั การแขง็ ตวั ของนาํ้ ระบายความร้อน
(3) ปลัก๊ ถ่าย ต่างชนิดกนั เข้าด้วยกนั
สารผสมนีจ้ ะทําปฏิกริ ิยาทางเคมีระหว่างกนั และทาํ ให้เกดิ
Bการปรับต้ังระยะห่างลนิ้ เคร่ืองยนต์ สารอนั ตรายขึน้
A สารป้องกนั การแข็งตวั ของนา้ํ ระบายความร้อนเป็ น
ควรให้ทางผแู้ ทนจาํ หน่ายของ คูโบตา้ เป็นผปู้ รับต้งั สารไวไฟ และเกดิ การระเบิดได้ ควรเก็บให้พ้นมือเด็ก
และห่างจากเปลวไฟ
ทกุ ๆ 1000 ชม. หรือ 1 ปี A ให้หาภาชนะรองใต้หม้อนํา้ เครื่องยนต์
A ห้ามเทนา้ํ ยาใช้แล้วลงพ้ืน หรือแหล่งน้าํ ต่างๆ
ตรวจเช็คให้แน่ใจวา่ ไดท้ าํ การดแู ลตรวจสอบหน่ึงคร้งั ทุกๆ 1000 A ปฏบิ ัตติ ามข้อกาํ หนดทางสิ่งแวดล้อมในการทิง้ สารป้องกนั
ชวั่ โมง หรือต่อปี แลว้ แต่วา่ ถึงอยา่ งไหนก่อน การแขง็ ตัวของนา้ํ ระบายความร้อน

Bการเปลยี่ นชุดไส้กรองอากาศลูกนอกและชุดไส้กรองลูกใน ใหใ้ ชน้ ้าํ ระบายความร้อนกบั น้าํ สะอาดผสมในสัดส่วน 50/50
ทุกคร้งั ในเครื่องยนตข์ องคูโบตา้
(ดู “การทาํ ความสะอาดชุดไส้กรองอากาศลูกนอก” ในหวั ขอ้ ให้ปรึกษากบั ทางผแู้ ทนจาํ หน่ายของทางบริษทั สยามคูโบตา้
“การตรวจเชค็ การทาํ งานแทรกเตอร์ทกุ ๆ 100 ชวั่ โมง” ทส่ี ่วน อตุ สาหกรรมจาํ กดั เก่ียวกบั น้าํ ระบายความร้อนสาํ หรับสภาวะ
“การบาํ รุงรักษาตามชวั่ โมงการทาํ งานแทรกเตอร์”) ขีดสุด
1. น้าํ ระบายความร้อนท่มี อี ายกุ ารใชง้ านสูงนอกจาก (LLC)

กม็ ีหลายชนิด ซ่ึงสาํ หรับเคร่ืองยนตร์ ุ่นน้ีใช้ เอทิลนี ไกลคอล
(EG)
2. กอ่ นใชน้ ้าํ ยาหล่อเยน็ ซ่ึงเป็นสารผสมจาก LLC ควรลา้ งภายใน
หมอ้ น้าํ ดว้ ยน้าํ บริสุทธ์ 2 -3 คร้ัง

3. การผสม LLC การบาํ รุงรักษาตามชวั่ โมงการทาํ งานแทรกเตอร์ 55
ส่วนที่ผสมไวก้ ่อน 50% LLC กบั น้าํ สะอาด 50% หลงั จากน้นั
คนใหเ้ ขา้ กนั และเติมลงในหมอ้ น้าํ (1) ท่อนา้ํ มันเชื้อเพลิง
(2) เขม็ ขัดรัดท่อ
4. วธิ ีการผสมน้าํ กบั สารป้องกนั การแข็งตวั ของน้าํ ระบาย
ความร้อนมวี ิธีแตกตา่ งกนั ข้ึนอยู่กบั การใชง้ านของสารป้องกนั A หากมีการถอดทอ่ น้าํ มนั ออก จะตอ้ งทาํ การไล่ลมออกจากระบบ
การแข็งตวั ของน้าํ ระบายความร้อน และอุณหภมู ิภายนอกอา้ งองิ ใหห้ มดทุกคร้ัง หลงั จากการประกอบทอ่ น้าํ มนั เสร็จแลว้
จาก SAE J1034, SAE J814c (ดู “การไลล่ มในระบบน้าํ มนั เช้ือเพลิง” ในหวั ขอ้ “การซ่อม
บาํ รุงตามสภาพการใชง้ าน” ในส่วน “การบาํ รุงรักษาตามชว่ั โมง
สารป้องกนั จุดเยือกแขง็ จุดเดือด* การทาํ งานแทรกเตอร์” )
การแขง็ ตวั
%ต่อปริมาตร Bการตรวจสภาพสายยางหม้อน้าํ และเขม็ ขดั รัดท่อ

50 -37 108 ตรวจดูสายยางหมอ้ น้าํ ทุกๆ ปี
1. ถา้ เข็มขดั รัดท่อหลวม หรือมนี ้าํ ร่ัว ใหร้ ัดเขม็ ขดั รัดท่อใหแ้ น่น
D ท่คี วามดนั บรรยากาศ 1.013 x 10 Pa (760mmHg) 2. เปล่ียนสายยางและขนั เข็มขดั รัดทอ่ ใหแ้ น่น หากพบวา่ สายยาง
จดุ เดอื ดของน้าํ ระบายความร้อนถกู ควบคุมไม่ใหส้ ูงข้ึนโดยการ
ใชฝ้ าปิ ดหมอ้ น้าํ เพื่อสร้างความดนั ภายในระบบหล่อเยน็ บวม แขง็ หรือเปราะ
เปลี่ยนสายยางและเขม็ ขดั รัดท่อใหมท่ ุกๆ 4 ปี หรือ เร็วกวา่ น้นั
5. การเติม LLC หากพบวา่ สายยางบวม แข็ง หรือเปราะ
(1) เตมิ เฉพาะน้าํ เท่าน้นั หากระดบั ของสารผสมลดลงจากการ
ระเหย
(2) ถา้ หากเกิดการรวั่ ข้ึน ใหเ้ ติม LLC ท่ีผลติ จากทเี่ ดียวกนั
และ เป็นชนิดเดียวกนั ในอตั ราส่วนผสมเดิม
D หา้ มเติมน้าํ ระบายความร้อนแบบใชง้ านไดน้ านท่ี
ไม่ใช่ผผู้ ลิตเดียวกนั (ยหี่ อ้ ต่างกนั สารเติมแต่งอาจ
ต่างกนั ทาํ ให้เครื่องยนตท์ าํ งานบกพร่องได้ )

6. เมื่อใชส้ ารผสม LLC หา้ มเตมิ สารทาํ ความสะอาดหมอ้ น้าํ
ชนิดใดๆ ลงไป เน่ืองจาก LLC มีสารตา้ นการกดั กร่อน
ซ่ึงเมื่อผสมกนั แลว้ จะทาํ ให้เกิดตะกอนข้ึนไมเ่ ป็นผลดี
กบั ชิ้นส่วนของเครื่องยนต์

7. น้าํ ระบายความร้อนแทจ้ ากทาง สยามคูโบตา้ มอี ายกุ ารใชง้ าน
2 ปี ตรวจเช็คให้แน่ใจวา่ ไดเ้ ปลยี่ นน้าํ ระบายความร้อนทกุ ๆ
2000 ชวั่ โมง หรือ 2 ทุกๆ ปี แลว้ แต่วา่ ถึงอยา่ งไหนก่อน

A ขอ้ มูลดา้ นบนเป็นมาตรฐานอุตสาหกรรม (1) สายยางหม้อนา้ํ
ซ่ึงกาํ หนดวา่ ตอ้ งมสี ารประกอบไกลคอลนอ้ ยท่ีสุดในหัวเช้ือ (2) เขม็ ขัดรัดท่อ
สารป้องกนั การแขง็ ตวั ของน้าํ ระบายความร้อน

การตรวจเช็คการทํางานแทรกเตอร์ทุกๆ 1 ปี

Bการตรวจเช็คท่อน้ํามนั

1. ตรวจดทู กุ ท่อและเขม็ ขดั รัดทอ่ วา่ แน่นหรือเกิดความเสียหาย
หรือไม่

2. หากพบท่อน้าํ มนั หรือเข็มขดั รัดท่อต่างๆ ฉีกขาดหรือเกิด
ความเสียหาย ใหเ้ ปลี่ยน หรือซ่อมแซมทนั ที

56 การบาํ รุงรักษาตามชว่ั โมงการทาํ งานแทรกเตอร์ 1. ดบั เครื่องยนต์ ดงึ กุญแจออก และท้ิงใหเ้ คร่ืองยนตเ์ ยน็ ตวั
2. ถ่ายน้าํ ระบายความร้อนออก โดยเปิ ดปลก๊ั ถ่ายของหมอ้ น้าํ (1)
C ข้อควรปฏิบัตเิ ม่อื เครื่องยนต์ร้อน
ควรปฏบิ ตั ิดงั น้ี เมื่อเกิดเหตุการณค์ วามร้อนเครื่องยนตข์ ้ึนสูงจน ถอดปลกั๊ ถา่ ยเทเปอร์ (2) ออก และเปิ ดฝาหมอ้ น้าํ ควรนาํ ฝาหมอ้
ทาํ ใหท้ ี่อณุ หภมู ิน้าํ ระบายความร้อนใกลถ้ งึ จุดเดือด หรือ “สูงกวา่ ” ออกเพอ่ื ถ่ายน้าํ ระบายความร้อนออกให้หมด
1. จอดแทรกเตอร์ในท่ีปลอดภยั และปล่อยให้เครื่องยนต์ 3. เมอ่ื ถ่ายน้าํ ระบายความร้อนออกหมดแลว้ ใหใ้ ส่ปลกั๊ ถ่าย (1)
ของหมอ้ น้าํ กลบั เขา้ ท่ี
เดินรอบเบาๆ 4. ทาํ ความสะอาดส่วนเกลียวปลก๊ั ถ่ายเทเปอร์ (2) และพนั เทป
2. หา้ มดบั เครื่องยนตท์ นั ที ใหด้ บั เคร่ืองยนตห์ ลงั จากทปี่ ล่อยให้ กนั น้าํ ตามรูปดา้ นขวาบน
5. เตมิ น้าํ สะอาดและน้าํ ยาทาํ ความสะอาดระบบหล่อเยน็
เคร่ืองยนตเ์ ดินเบา 5 นาที 6. ปฏิบตั ติ ามขอ้ แนะนาํ ในการทาํ ความสะอาด
3. อยใู่ หห้ ่างจากเคร่ืองจกั รประมาณ 10 นาที หรือ ขณะที่มีไอน้าํ 7. หลงั จากทาํ ความสะอาดเสร็จแลว้ ใหเ้ ตมิ น้าํ และสารป้องกนั การ
แข็งตวั ของน้าํ ระบายความร้อนลงไป จนกระทงั่ ระดบั น้าํ
พุ่งออกมา อยู่ต่าํ กวา่ ฝาปิ ดหมอ้ น้าํ จากน้นั หมุนฝาปิ ดหมอ้ น้าํ ใหแ้ น่น
4. ตรวจดรู อบๆ วา่ ไม่มอี นั ตรายเกิดข้ึน เช่นไฟไหม้ ขจดั สาเหตุ 8. เตมิ น้าํ ระบายความร้อนใหถ้ ึงขีด “ระดบั บน” ของถงั สาํ รอง
9. สตาร์ทเคร่ืองยนตท์ ิ้งไวส้ ัก 2–3 นาที
ทท่ี าํ ให้ ความร้อนเกินขีดจาํ กดั โดยดูจากคมู่ ือ ดูที่ “ปัญหา 10. ดบั เครื่องยนต์ ดึงกุญแจออก และท้ิงใหเ้ คร่ืองยนตเ์ ยน็ ตวั
ขอ้ ขดั ขอ้ ง และวิธีการแกไ้ ข” จากน้นั จึงสตาร์ทเคร่ืองยนต์ 11. ตรวจดูระดบั น้าํ ระบายความร้อนในถงั สาํ รอง และเตมิ ใหถ้ ึง
อีกคร้ ัง ขีดเตม็
12. ท้งิ น้าํ ระบายความร้อนทใ่ี ชแ้ ลว้ ให้เรียบร้อย
Bการตรวจเช็คท่อพวงมาลยั พาวเวอร์

1. ตรวจดทู ุกท่อและเขม็ ขดั รัดทอ่ วา่ แน่นหรือเกิดความเสียหาย
หรือไม่

2. หากพบท่อน้าํ มนั หรือเข็มขดั รดั ท่อต่างๆ ฉีกขาดหรือเกิด
ความเสียหาย ให้เปล่ียน หรือซ่อมแซมทนั ที

ความจนุ ้าํ ระบายความร้อน 6.5 ลิตร

(1) ท่อแรงดันนา้ํ มันพวงมาลัยพาวเวอร์ (1) ปลั๊กถ่าย (ไขควงหัวแฉก (+))
(2) ปล๊ักถ่ายเทเปอร์
การตรวจเช็คการทาํ งานแทรกเตอร์ทุกๆ 2 ปี

Bการทําความสะอาดระบบหล่อเยน็ และเปลย่ี นถ่ายนา้ํ
ระบายความร้อน

เพื่อหลกี เลยี่ งการได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ควรปฏิบัติดังนี้

A อย่าเปิ ดฝาหม้อนํา้ ในขณะที่น้าํ ระบายความร้อนยงั ร้อนอยู่
เม่ือนาํ้ เย็นลงให้หมุนฝาครอบออกช้าๆและหยุดพกั ไว้สักครู่
เพ่ือระบายแรงดนั ทม่ี ากเกนิ ออกมาก่อน จากน้ันจึงค่อย

หมุนฝาออกจนสุด

(1) ฝาหม้อนา้ํ (A) “ระดบั บน” การบาํ รุงรักษาตามชวั่ โมงการทาํ งานแทรกเตอร์ 57
(2) ถงั สาํ รอง (B) “ระดับล่าง”
การตรวจเช็คการทาํ งานแทรกเตอร์ทุกๆ 4 ปี
C วิธีพันเทปกนั นํา้
Bการเปลยี่ นสายยางหม้อนา้ํ (ท่อนํ้า)

การเปล่ียนท่อและสายรัด
(ดทู ี่ “การตรวจสภาพสายยางหมอ้ น้าํ และสายรัด” ใน “การตรวจเชค็
การทาํ งานแทรกเตอร์ทกุ ๆ 1 ปี ” ในส่วน “การบาํ รุงรักษาตามชว่ั โมง
การทาํ งานแทรกเตอร์”)

Bการเปลย่ี นท่อนํา้ มันเชื้อเพลงิ

ควรใหท้ างผแู้ ทนจาํ หน่ายของ คูโบตา้ เป็นผปู้ รับต้งั

Bการเปลย่ี นท่อพวงมาลยั พาวเวอร์

ควรใหท้ างผแู้ ทนจาํ หน่ายของ คูโบตา้ เป็นผปู้ รับต้งั

การซ่อมบาํ รุงตามสภาพการใช้งาน

Bการไล่ลมในระบบน้ํามันเชื้อเพลงิ

ควรไลอ่ ากาศออกให้หมดเมื่อ:
1. เม่อื ไสก้ รองน้าํ มนั เช้ือเพลิง หรือท่อน้าํ มนั ถูกถอดออก
2. เมอื่ ถงั น้าํ มนั ไม่มีน้าํ มนั อยเู่ ลย
3. หลงั จากท่ีแทรกเตอร์ไม่ถกู นาํ มาใชเ้ ป็นเวลานานๆ

C ข้ันตอนการระบายลมมดี งั นี้ :
1. เติมน้าํ มนั เช้ือเพลิงลงในถงั น้าํ มนั และเปิ ดวาลว์ เปิ ด-ปิ ด

น้าํ มนั เช้ือเพลิง

(1) ปลั๊กถ่ายเทเปอร์ (A) ห้ามพนั เทปกันนา้ํ ท่ีตรงรอบๆ ปลายของปลั๊ก
(2) เทปกันนา้ํ (B) พันเทปกนั นา้ํ 2 ถึง 3 ครั้งตามทิศทางที่ลูกศรชี้

A อย่าสตาร์ทเครื่องยนตโ์ ดยไมม่ ีน้าํ ระบายความร้อน (1) วาล์วเปิ ด-ปิ ดนา้ํ มนั เชื้อเพลิง (A) “ปิ ด”
A เติมน้าํ สะอาดและสารป้องกนั การแขง็ ตวั ของน้าํ ระบาย (2) วาล์วเปิ ด-ปิ ดไล่ลม (B) “เปิ ด”

ความร้อนลงในหมอ้ น้าํ และถงั สาํ รอง 2. เปิ ดวาลว์ เปิ ด-ปิ ดไลล่ มบนปั๊มน้าํ มนั เช้ือเพลิง
A เมื่อทาํ การผสมสารป้องกนั การแขง็ ตวั ของน้าํ ระบายความร้อน 3. สตาร์ทเคร่ืองยนตแ์ ละเปิ ดเครื่องไวป้ ระมาณ 30 วินาที จากน้นั

กบั น้าํ อตั ราส่วนของสารป้องกนั การแข็งตวั ของน้าํ ระบาย ดบั เคร่ืองยนต์
ความร้อนควรนอ้ ยกวา่ 50% 4. ปิ ดวาลว์ เปิ ด-ปิ ดไลล่ ม
A ปิ ดฝาหมอ้ น้าํ ให้แน่น ถา้ ฝาไมแ่ น่น หรือปิ ดไม่สนิท น้าํ อาจไหล
ออก และทาํ ใหเ้ คร่ืองยนตโ์ อเวอร์ฮีทได้

A ให้ปิ ดวาลว์ เปิ ด-ปิ ดไล่ลมทุกคร้ัง หลงั จากไล่ลมท่อน้าํ มนั
เสร็จแลว้
มิฉะน้นั เครื่องยนตจ์ ะทาํ งานผดิ ปกติหรือติดขดั บ่อยๆ

58 การบาํ รุงรกั ษาตามชว่ั โมงการทาํ งานแทรกเตอร์

Bการถ่ายนํา้ ห้องคลตั ช์ออก

แทรกเตอร์จะตดิ ต้งั ปลก๊ั ถ่ายที่ดา้ นใตห้ อ้ งคลตั ช์
หลงั จากใชแ้ ทรกเตอร์ท่ามกลางฝน หิมะ หรือหลงั จากการลา้ งน้าํ
อาจไหลเขา้ สู่หอ้ งคลตั ช์
ฉะน้นั ใหถ้ อดปลกั๊ ถ่ายออก ถ่ายน้าํ ท้ิง แลว้ จึงประกอบปลก๊ั รูระบาย
ดงั เดิม

(1) ปล๊กั ถ่ายนา้ํ

Bการเปลยี่ นฟิ วส์

ระบบไฟฟ้าของแทรกเตอร์ใชฟ้ ิวส์ เพ่ือป้องกนั ความเสียหาย
ท่ีอาจเกิดข้ึนหากฟิ วส์ขาดแสดงวา่ มกี ารใชก้ ระแสไฟเกิน
หรือลดั วงจรทีส่ ่วนหน่ึงส่วนใดในระบบไฟฟ้า
หากฟิวส์ขาดใหท้ าํ การการเปล่ยี นฟิวส์ใหม่ โดยใชฟ้ ิวส์ท่ีมี
ความจุเทา่ เดิม

A ก่อนที่จะเปลี่ยนฟิวส์ใหม่ แทนฟิวส์ที่ขาด ควรหาสาเหตุท่ที าํ ให้
ฟิวส์ขาดและซ่อมแซมใหเ้ รียบร้อย หากไม่ปฏิบตั ติ ามน้ี
อาจเป็นเหตุใหร้ ะบบไฟฟ้าของแทรกเตอร์เกิดความเสียหาย
อย่างรุนแรง ควรศึกษาจากหัวขอ้ “ปัญหาขอ้ ขดั ขอ้ ง และ
วธิ ีการแกไ้ ข” หรือปรึกษาตวั แทนจาํ หน่ายคูโบตา้ เพอื่ ทาํ การ
จดั การกบั ปัญหาระบบไฟฟ้าขดั ขอ้ งที่เกิดข้ึน

หมายเลข ความจุ (แอมป์ ) วงจรป้องกนั การบาํ รุงรกั ษาตามชวั่ โมงการทาํ งานแทรกเตอร์ 59
ฟิ วส์
(1) 5 รีเลยม์ อเตอร์สตาร์ท Bการเปลยี่ นไฟหน้า
(2) 5 มิเตอร์ (+B)
(3) 5 ฟิวส์สาํ รอง เพื่อหลกี เล่ียงการได้รับบาดเจ็บ ควรปฏิบัติดงั นี้
(4) 10 ฟิวส์สาํ รอง A ระมดั ระวังอย่าให้หลอดไฟหล่น อย่าใช้ส่ิงใดส่ิงหนึ่ง
(5) 15 ฟิวส์สาํ รอง
(6) 10 ไฟฉุกเฉิน เคาะหลอดไฟ ออกแรงมากเกนิ ไป และทาํ ให้หลอดไฟ
(7) 10 ไฟทาํ งาน (ดา้ นหลงั ) เกดิ รอยขีดข่วน ถ้าหลอดไฟแตก เศษแก้วอาจทาํ ให้เกดิ
(8) 5 มเิ ตอร์ การบาดเจ็บได้ ให้ความสนใจหลอดฮาโลเจนท่มี คี วามดนั สูง
(9) 15 ไฟหนา้ , แตร ด้านใน
(10) 5 ดบั เคร่ืองยนต์ A ก่อนเปลยี่ นหลอดไฟ ต้องแน่ใจว่าได้ปิ ดไฟแล้วและ
(11) 40 สวิตชก์ ุญแจ รอจนกว่าหลอดไฟเยน็ ลง มฉิ ะน้ันอาจทําให้ผวิ หนังไหม้ได้
(12) 30 ดบั เครื่องยนต์
C การถอดหลอดไฟ
Bการเปลย่ี นหลอดไฟ 1. ถอดฐานส่วนทเี่ ป็นยาง
2. หมุนซอ็ กเก็ตทวนเขม็ นาฬกิ า พร้อมกบั กดและถอดออก
1. ไฟหนา้ และไฟรวมทา้ ย : 3. ถอดหลอดไฟออก
ถอดหลอดไฟออกจากเบา้ และเปลย่ี นหลอดไฟใหม่
C การติดต้ังหลอดไฟ
2. ไฟอ่ืนๆ : 1. ให้ (A) ของหลอดไฟตรงกบั (B) ของเบา้ หลอดไฟ แลว้ จึงตดิ ต้งั
ถอดเลนส์และเปล่ียนหลอดไฟ
หลอดไฟ
2. ให้ (C) ของซ็อกเก็ตตรงกบั (D) ของเบา้ หลอดไฟ แลว้ จึงติดต้งั

ซ็อกเก็ต
3. ตดิ ต้งั ฐานส่วนท่ีเป็นยาง

ไฟ ความจุ
25 วตั ต์ / 25 วตั ต์
ไฟหนา้

ไฟทา้ ย 8 วตั ต์

ไฟเล้ยี ว/ไฟฉุกเฉิน (ทา้ ยรถ) 23 วตั ต์
ไฟแผงหนา้ ปัด 1.7 วตั ต์

(1) ฐานส่วนท่ีเป็นยาง (A) “จดั ให้ตรงกับ (B)”
(C) “จัดให้ตรงกับ (D)”
(2) ซ็อกเกต็
(3) หลอดไฟ
(4) เบ้าหลอดไฟ

A ตอ้ งแน่ใจวา่ ไดใ้ ชห้ ลอดไฟใหม่ตามจาํ นวนวตั ตท์ ี่ระบุ
A อย่าสัมผสั ผิวหลอดไฟ (ส่วนที่เป็นแกว้ ) ดว้ ยมือเปลา่

มิฉะน้นั รอยนิ้วมืออาจทาํ ใหห้ ลอดไฟแตกได้

60 การบาํ รุงรกั ษาตามชวั่ โมงการทาํ งานแทรกเตอร์

Bการเปลย่ี นสายยางหม้อนา้ํ (ท่อนาํ้ )

การเปล่ียนท่อและสายรดั
(ดทู ่ี “การตรวจสภาพสายยางหมอ้ น้าํ และสายรัด” ใน “การตรวจเช็ค
การทาํ งานแทรกเตอร์ทุกๆ 200 ชวั่ โมง” ในส่วน “การบาํ รุงรักษา
ตามชวั่ โมงการทาํ งานแทรกเตอร์”)

Bการเปลยี่ นท่อนํา้ มนั เชื้อเพลงิ

ควรให้ทางผแู้ ทนจาํ หน่ายของ คโู บตา้ เป็นผปู้ รับต้งั

Bการเปลย่ี นท่อพวงมาลยั พาวเวอร์

ควรใหท้ างผแู้ ทนจาํ หน่ายของ คูโบตา้ เป็นผปู้ รับต้งั

การเก็บรักษา 61

การเกบ็ รักษา

เพื่อหลกี เลยี่ งการได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ควรปฏิบตั ิดังนี้ 7. ปรับวางอปุ กรณ์ตอ่ พ่วงทุกช้ินลงบนพ้นื ใชจ้ าระบที าเคลือบ
A ห้ามทําความสะอาดแทรกเตอร์ในขณะทเ่ี คร่ืองยนต์ กา้ นลูกสูบไฮดรอลกิ ใดๆ ทส่ี ัมผสั กบั อากาศ

ทํางานอยู่ 8. ถอดแบตเตอรี่ออกจากแทรกเตอร์ จดั เกบ็ แบตเตอร่ีตามข้นั ตอน
A ไม่เดินเคร่ืองในตกึ ทไ่ี ม่มกี ารระบายอากาศท่ีเหมาะสม การจดั เก็บแบตเตอรี่ต่อไปน้ี
(ดูที่ “การตรวจเชค็ สภาพแบตเตอรี่” ใน “การตรวจเช็ค
เนื่องจากควันไอเสียที่ปล่อยออกมาทําให้เกดิ อนั ตรายได้ การทาํ งานแทรกเตอร์ทุกๆ 100 ชวั่ โมง” ในส่วน “การบาํ รุง
A เม่ือไม่ใช้งานแทรกเตอร์ ดงึ กุญแจออกจากสวติ ช์กุญแจเพื่อ รักษาตามชวั่ โมงการทาํ งานแทรกเตอร์”)

ป้องกนั ผู้ทไี่ ม่ได้รับอนุญาตมาขบั แทรกเตอร์และได้รับ 9. จดั เก็บแทรกเตอร์ในที่แหง้ ซ่ึงมีการกาํ บงั แทรกเตอร์จากส่ิงต่างๆ
บาดเจ็บ คลุมแทรกเตอร์ไว้

การจัดเกบ็ แทรกเตอร์ 10. จดั เก็บแทรกเตอร์ในท่ีร่มและแหง้ และป้องกนั ให้พน้ จาก
แสงแดดและความร้อนทสี่ ูงเกินไป หากตอ้ งจดั เก็บแทรกเตอร์
หากตอ้ งการทจี่ ะจดั เก็บแทรกเตอร์เป็นระยะเวลานานๆ ไวก้ ลางแจง้ ใหใ้ ชผ้ า้ ใบทกี่ นั น้าํ ไดค้ ลมุ แทรกเตอร์ไว้
ใหป้ ฏบิ ตั ิตามข้นั ตอนทรี่ ะบุไวด้ า้ นลา่ งน้ี ใชแ้ มแ่ รงยกแทรกเตอร์ข้ึน และนาํ ท่อนไมม้ าหนุนไวใ้ ตค้ าน
ข้นั ตอนเหลา่ น้ีเป็นการรับประกนั วา่ แทรกเตอร์จะพร้อมที่จะใชง้ าน ลอ้ หนา้ และลอ้ หลงั เพ่ือใหย้ างท้งั 4 เส้นยกข้ึนจากพ้นื อย่าใหย้ าง
โดยทมี่ ีการเตรียมการเพยี งเลก็ นอ้ ยเท่าน้นั เมอ่ื ถอยแทรกเตอร์ ถกู แสงแดดส่องโดยตรงหรือสัมผสั กบั ความร้อนท่ีสูงเกินไป
ออกจากที่จดั เก็บ
1. ตรวจเชค็ วา่ โบลตแ์ ละนอตหลวมหรือไม่ และขนั ใหแ้ น่น A ขณะท่ีทาํ การลา้ งแทรกเตอร์ ตอ้ งแน่ใจวา่ ดบั เคร่ืองยนต์
เรียบร้อยแลว้ ปล่อยใหเ้ คร่ืองยนตเ์ ยน็ ลงก่อนท่ีจะทาํ การลา้ ง
หากจาํ เป็น แทรกเตอร์
2. ทาจาระบีลงบนส่วนท่ีอาจเกิดสนิมของแทรกเตอร์
A คลุมแทรกเตอร์หลงั จากท่ีหมอ้ พกั ไอเสียและเครื่องยนตเ์ ยน็
และทาบนส่วนท่ีเป็นจดุ หมนุ ดว้ ย ลงแลว้
3. ถอดน้าํ หนกั ถ่วงสมดลุ ยอ์ อกจากแทรกเตอร์
4. เติมลมยางใหม้ ีความดนั สูงกวา่ ปกตเิ ล็กนอ้ ย การถอยแทรกเตอร์ออกจากท่จี ดั เกบ็
5. เปล่ียนถา่ ยน้าํ มนั เครื่องและสตาร์ทเครื่องยนตเ์ พอ่ื ใหน้ ้าํ มนั
1. ตรวจเชค็ ความดนั ของลมยาง และเติมลมหากยางมคี วามดนั
ไหลเวียนไปทว่ั เส้ือสูบ และช้ินส่วนที่มกี ารเคลอ่ื นไหวภายใน ของลมยางต่าํ
เครื่องยนตน์ านประมาณ 5 นาที
6. ปรับคลตั ช์อยใู่ นตาํ แหน่งที่ปลดจากการส่งกาํ ลงั หากปล่อย 2. ยกแทรกเตอร์ข้ึนและนาํ ท่อนไมท้ ี่หนุนคานลอ้ หนา้ และลอ้ หลงั
คลตั ชอ์ ยใู่ นตาํ แหน่งส่งกาํ ลงั เป็นระยะเวลานานๆ แผน่ คลตั ช์ ออก
อาจข้ึนสนิม ทาํ ใหไ้ ม่สามารถปลดคลตั ช์จากตาํ แหน่งส่งกาํ ลงั
ในการใชง้ านคร้ังต่อไปได้ 3. ติดต้งั แบตเตอร่ี ก่อนที่จะติดต้งั แบตเตอร่ี ตอ้ งใหแ้ น่ใจวา่
แบตเตอรี่ไดร้ ับการชาร์จไฟจนเตม็ แลว้
(1) แผ่นลอ็ ก (A) “เหยียบ”
(B) “เกี่ยวเพื่อลอ็ ก” 4. ตรวจเช็คความตงึ สายพานพดั ลม
5. ตรวจเช็คระดบั ของเหลวท้งั หมด (น้าํ มนั เคร่ือง น้าํ มนั เกียร์/

น้าํ มนั ไฮดรอลิก น้าํ ระบายความร้อนเคร่ืองยนตแ์ ละอปุ กรณ์
ตอ่ พว่ งทุกชิ้นท่ีติดต้งั ไว)้
6. สตาร์ทเครื่องยนต์ ดเู กจวดั ท้งั หมด หากเกจวดั ท้งั หมดทาํ งาน
ไดต้ ามปกติ และแสดงค่าเป็นปกติ ใหถ้ อยแทรกเตอร์ออก
เม่ือถอยแทรกเตอร์ออกมาแลว้ ใหจ้ อดพกั แทรกเตอร์ไว้
และเดินเบาเครื่องยนตน์ านอยา่ งนอ้ ย 5 นาที ดบั เครื่องยนตแ์ ลว้
เดินตรวจดูการรว่ั ซึมของน้าํ มนั และน้าํ รอบๆ แทรกเตอร์
7. เมอ่ื อุ่นเครื่องยนตเ์ พียงพอแลว้ ใหป้ ลดเบรกมือ และทดสอบ
การเบรกเพ่อื หาการปรับต้งั ที่เหมาะสมในขณะท่ีเคลือ่ นรถไป
ขา้ งหนา้ ปรับต้งั เบรกตามความเหมาะสม

62 ปัญหาขอ้ ขดั ขอ้ งและวิธีการแกไ้ ข

ปัญหาข้อขัดข้องและวธิ ีการแก้ไข

ปัญหาข้อขดั ข้องและวธิ กี ารแก้ไขเครื่องยนต์ วธิ ีการแกไ้ ข

หากเกิดความผดิ ปกติของเครื่องยนต์ ใหด้ สู าเหตแุ ละวธิ ีการแกไ้ ขจากตารางดา้ นล่าง
ปัญหา สาเหตุ

A น้าํ มนั เช้ือเพลงิ ไม่ถกู จ่าย A ตรวจเช็คถงั น้าํ มนั เช้ือเพลิง และไส้กรองน้าํ มนั
เช้ือเพลิง
เปลี่ยนไส้กรองหากจาํ เป็น

A มีอากาศหรือน้าํ ในระบบน้าํ มนั เช้ือเพลงิ A ตรวจดูตามท่อน้าํ มนั วา่ โบลต์ และนอตขนั แน่นดี
หรือยงั
เครื่องยนตส์ ตาร์ทติดยาก
หรือสตาร์ทไมต่ ดิ A ไล่ลมในระบบน้าํ มนั เช้ือเพลิง
(ดูที่ “การไลล่ มในระบบน้าํ มนั เช้ือเพลิง” ใน
“การซ่อมบาํ รุงตามสภาพการใชง้ าน” ในหัวขอ้
“การบาํ รุงรกั ษาตามชวั่ โมงการทาํ งานแทรกเตอร์”)

A ในสภาพอากาศเยน็ ความหนืดของน้าํ มนั A ใชน้ ้าํ มนั เคร่ืองชนิดที่มคี วามหนืดเหมาะสมกบั สภาพ
เครื่องเพ่ิมข้นึ ทาํ ให้เกิดรอบพกิ ดั อากาศ
เคร่ืองยนตต์ ่าํ

A แบตเตอร่ีอ่อน และความเร็วรอบของ A ทาํ ความสะอาดทส่ี ายไฟและข้วั แบตเตอรี่
เคร่ืองยนตไ์ ม่เพยี งพอ A ชาร์จแบตเตอร่ี
A ในสภาพอากาศเยน็ ใหถ้ อดแบตเตอร่ีออกจาก

เคร่ืองยนต์ นาํ ไปชาร์จและเกบ็ ในที่ร่ม นาํ มาต่อเขา้ กบั
แทรกเตอร์ เม่ือตอ้ งการใชง้ าน

เครื่องยนตไ์ มม่ กี าํ ลงั A น้าํ มนั เช้ือเพลิงไม่เพียงพอ A ตรวจเช็คระบบน้าํ มนั เช้ือเพลิง
A มสี ่ิงสกปรกชุดไส้กรองอากาศอุดตนั A ทาํ ความสะอาดหรือเปลี่ยนไส้กรอง

เครื่องยนตด์ บั เองทนั ที A น้าํ มนั เช้ือเพลิงไม่พอ A เตมิ น้าํ มนั เช้ือเพลิง
A ไล่ลมในระบบน้าํ มนั เช้ือเพลิง หากจาํ เป็น

สีดาํ A น้าํ มนั เช้ือเพลงิ มคี ุณภาพต่าํ A เปล่ยี นน้าํ มนั เช้ือเพลิง และไส้กรองน้าํ มนั เช้ือเพลิง
A มีน้าํ มนั เครื่องมากเกนิ A ตรวจเช็คระดบั น้าํ มนั เครื่องใหเ้ หมาะสม
A มีส่ิงสกปรกชุดไส้กรองอากาศอุดตนั A ทาํ ความสะอาดหรือเปลี่ยนไส้กรอง
ควนั ไอเสียมี
A มนี ้าํ มนั เช้ือเพลิงเปี ยกคาอยใู่ นหมอ้ พกั A ใหค้ วามร้อนหมอ้ พกั ไอเสีย โดยเดินเครื่องยนต์
น้าํ เงิน ไอเสีย แบบมีภาระ
ขาว A หวั ฉีดน้าํ มนั เช้ือเพลิงขดั ขอ้ ง A ตรวจเช็คหวั ฉีดน้าํ มนั เช้ือเพลิง
A น้าํ มนั เช้ือเพลงิ มีคุณภาพต่าํ A เปลี่ยนน้าํ มนั เช้ือเพลงิ และไส้กรองน้าํ มนั เช้ือเพลิง

A เคร่ืองยนตร์ ับภาระหนกั เกินไป A เปล่ยี นไปใชเ้ กียร์ต่าํ หรือลดภาระลง

เครื่องยนตร์ ้อนจดั A ระดบั น้าํ ระบายความร้อนต่าํ A เติมระบบหลอ่ เยน็ ให้ไดร้ ะดบั ที่เหมาะสม
A สายพานพดั ลม ร่วั หรือ มรี อยฉีก ตรวจเช็คหมอ้ น้าํ และทอ่ ทางเดินน้าํ ระบายความร้อน
หมอ้ น้าํ วา่ มกี ารหลวมหรือร่ัวหรือไม่

A ปรับต้งั หรือเปล่ยี นสายพานพดั ลมใหม่

A หมอ้ น้าํ หรือแผงหมอ้ น้าํ สกปรก A กาํ จดั สิ่งสกปรกออก
A เกิดการสึกกร่อนภายในทางเดินน้าํ A ชะลา้ งระบบหล่อเยน็

ระบายความร้อน

หากมขี อ้ สงสัยประการใด ใหป้ รึกษากบั ทางผแู้ ทนจาํ หน่ายของทางบริษทั สยามคูโบตา้ อตุ สาหกรรมจาํ กดั


Click to View FlipBook Version