ชื่อเรอ่ื งอา่ นออกเสี ยงว่า By Pratchanee P.
12/2014
โคลง-โลก-กะ-นิ ด
ประวัติ / ความเป็นมา
โคลงโลกนิตมิ เี นื้ อหาประเภท คาสอนทง้ั ทางโลกและทางธรรม
โคลงโลกนิ ติ แปลมาจากภาษาบาลี ในคัมภรี โ์ บราณ
โคลงโลกนิติ ถูกจารกึ ไวท้ ีว่ ดั พระเชตพุ นวมิ ลมังคลาราม
/ วดั โพธ์ิ
ผ้ทู ่ีมีดาริให้มีการปฏิสั งขรณ์ คือ พระบาทสมเดจ็ พระน่ั ง
เกลา้ เจา้ อยหู่ ัว รัชกาลท่ี ๓
ผ้รู วบรวมโคลงโลกนิตขิ องเกา่ มาชาระ คือ สมเดจ็ พระเจา้ บBรyมPrวatงchศan์ ee P.
เธอกรมพระยาเดชาดศิ ร (พระองค์ชายม่งั )
12/2014
โคลงโลกนิติ แต่งดว้ ยคาประพันธป์ ระเภท โคลงส่ีสภุ าพ
โคลงกระทู้มลี กั ษณะเป็นโคลงส่ี สุภาพท่ีมีการตั้งข้อความ
หรอื หัวข้อ (กระทู้) วางไวห้ น้าโคลงทง้ั 4 บาท
โคลงโลกนิติ ถูกจารกึ ลงแผน่ ศิ ลาประดบั ไวร้ อบมณฑป
4 ทิศ (หอไตรจัตรุ มุข)
โคลงโลกนิ ติ ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนังสื อดี ๑ByใPนratc๑ha๐ne๐e P.
เล่ม ท่ีคนไทยควรอา่ น 12/2014
บทนาเรอื่ ง
โคลงโลกนิ ติ เป็นสุภาษิตเก่าแก่ต้ังแต่
สมัยอยธุ ยา นั กปราชญ์ผูแ้ ตง่ คัดเลอื กสุภาษิต
ภาษาบาลแี ละภาษาสั นสกฤตจากคัมภรี ต์ ่าง ๆ
เช่น คัมภรี ์โลกนิ ติ ธรรมนิ ติ ราชนี ติ ธรรมบท มา
แตง่ เป็นคาโคลง ในจานวนน้ี นามาจากคัมภรี ์โลก
นิ ตมิ ากท่ีสดุ จึงไดช้ ่ือวา่ โคลงโลกนิ ติ
ความเป็นมา
พระบาทสมเด็จพระนั่ งเกลา้ เจา้ อย่หู ัวมพี ระราช
ประสงค์จะให้จารึกโคลงโลกนิ ติลงบนแผน่ ศิ ลา เพ่ือ
ตดิ ไว้เป็นธรรมทานในวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม
จึงโปรดเกลา้ ฯ ให้ สมเดจ็ พระเจ้าบรมวงศ์ เธอกรม-พระ
ยาเดชาดศิ ร ทรงรวบรวมโคลงโลกนิ ตขิ องเกา่ ซ่ึงมี
ถ้อยคาผิดพลาดมากเพราะการคัดลอกต่อ ๆ กันมา แลว้
ทรงชาระแก้ไขให้ถูกตอ้ งและไพเราะงดงาม และยัง
ทรงนิพนธเ์ พ่ิมเติมด้วย พระบาทสมเดจ็ พระน่ังเกล้า-
เจา้ อย่หู ัวโปรดเกลา้ ฯ ให้จารึกบนแผ่นหินออ่ นประดับไว้
ท่ีศาลาทิศพระมณฑปวัดพระเชตพุ นฯ เมอื่ พ.ศ. ๒๓๗๔
แผนผังโคลงส่ี สุภาพ
จระเข้คับน่ านน้ำ ไฉนหา ภกั ษ์เฮย
รถใหญ่กว่ารัถยา ยากแท้
เสื อใหญ่กว่าวนา ไฉนอยู่ ได้แฮ
เรอื เขื่องคับชเลแล้ แลน่ โล้ไปไฉน
บทวเิ คราะห์ By Pratchanee P.
12/2014
โคลง-โลก-กะ-นิ ด
๏ นาคีมีพิษเพ้ียง สุริโย
เล้อื ยบ่ทาเดโช แช่มช้า
พิษน้ อยหย่งิ โยโส แมลงป่อง
ชูแตห่ างเองอ้า อวดอา้ งฤทธี
ความหมาย
ผูม้ คี วามรูค้ วามสามารถ ย่อมไมอ่ วดตนหรอื
คุยโม้ เปรียบเทยี บพฤตกิ รรมของนาคีกบั แมง
ป่อง ตรงกบั ตรงกบั สานวน คมในฝัก
๏ ผลเด่อื เม่ือสุกไซร้ มพี รรณ
ภายนอกแดงดูฉั น ชาดบา้ ย
ภายในยอ่ มแมลงวนั หนอนบอ่ น
ดุจดงั คนใจร้าย นอกนั้ นดูงาม
ความหมาย การคบการคบคนอย่ามองเพียง
ความงดงามภายนอก ตรงกบั สานวน รูห้ น้ าไม่
รูใ้ จ หรอื ข้างนอกสุกใสข้างในเป็นโพรง
บทวิเคราะห์
คติเตอื นใจในโคลงโลกนิ ติ
๑. เรือ่ งการเลอื กคบคน
ปลารา้ พันห่อด้วย ใบคา ตรงกับสานวน “คบคน
พาล พาลพาไปหาผิด คบ
ใบก็เหมน็ คาวปลา คละคลุ้ง บณั ฑติ บณั ฑติ พาไปหา
ผล”
คือคนหมู่ไปหา คบเพื่อน พาลนา
หมายความวา่ คบคนไม่
ไดแ้ ตร่ ้ายรา้ ยฟุ้ง เฟ่ ืองให้เสี ยพงศ์
ดีมแี ตช่ ี้นาไปทาเรอ่ื งไม่
ใบพ้อพันห่อหุ้ม กฤษณา
ถูกต้อง เสื่อมเสี ยถึงวงศ์
หอมระรวยรสพา เพริศด้วย
ตระกลู ถ้าคบคนดีก็จะ
คือคนเสพเสนหา นั กปราชญ์
ชักชวนให้ทาเรือ่ งท่เี ป็น
ความสุขซาบฤๅม้วย ดจุ ไม้กล่นิ หอม
ประโยชน์ ดงี าม
คตเิ ตอื นใจในโคลงโลกนิติ
๒. ความขยนั หมนั่ เพียรในการศึ กษา
ตรงกบั สานวน “ฝนทง่ั ให้เป็นเข็ม”
ความรู้ผูป้ ราชญ์น้ั น นั กเรยี น หมายความว่า เพียรพยายาม
สุดความสามารถจนกว่าจะ
ฝนท่งั เทา่ เข็มเพียร ผา่ ยหน้ า สาเรจ็ ผล
คนเกียจเกลียดหน่ ายเวยี น วนจิต
กลอทุ กในตะกรา้ เป่ ียมลน้ ฤๅมี
คติเตอื นใจในโคลงโลกนิติ
๓. การรู้จักความพอประมาณ ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง
ตรงกับสานวน “นกน้อยทารังแตพ่ อ
ตวั ”
นกน้อยขนน้อยแต่ พอตวั ความหมาย ให้ประมาณตนไมท่ า
อะไรเกนิ ตัว รู้ความสามารถและ
รังแตง่ จเุ มียผวั อย่ไู ด้ กาลังของตนเอง แลว้ ทาเต็ม
ความสามารถนั้ น
มักใหญ่ยอ่ มคนหวัว ไพเพิด
ทาแตพ่ อตัวไซร้ อย่าให้คนหยัน
คติเตือนใจในโคลงโลกนิ ติ
๔. ความซอื่ สั ตย์
เสี ยสิ นสงวนศั กด์ิไว้ วงศ์ หงส์ ตรงกบั สานวน “เสียชีพอยา่ เสี ยสัตย์”
เสี ยศั กด์ิส้ปู ระสงค์ ส่ิ งรู้
เสี ยรู้เรง่ ดารง ความสั ตย์ ไว้นา หมายความว่า ยอมสละชีวติ
เสี ยสัตย์อย่าเสียส้ ู ชีพมว้ ยมรณา แตจ่ ะไม่ยอมผิดคาพดู
คติเตือนใจในโคลงโลกนิ ติ
๕. การทาความดี ไมท่ าความชั่ว
ตรงกับสานวน “กงเกวยี นกาเกวียน”
ทาบญุ บญุ แตง่ ให้ เห็นผล หมายความว่า ความดหี รอื ความ
คือดงั่ เงาตามตน ติดแท้ ช่ัวทท่ี าจะติดตวั ผูน้ ้ั นไปตลอด
ผทู้ าส่ิ งอกุศล กรรมติด ตามนา เหมอื นเงาตามตัว ดังน้ัน ทุก
ดจุ จกั รเกวียนเวียนแล้ ไลต่ อ้ นตีนโค คนจงึ ควรทาแตส่ ่ิ งดี
คติเตอื นใจในโคลงโลกนิติ
๖. การพดู จาไพเราะออ่ นหวาน
อ่อนหวานมานมติ รล้น เหลือหลาย ตรงกับสานวน
“พดู ดีเป็นศรแี กป่ าก”
หยาบบม่ เี กลอกราย เกลื่อนใกล้
หมายความว่า คนทีพ่ ดู จา
ดุจดวงศศิ ฉาย ดาวดาษ ประดับนา สภุ าพออ่ นหวาน รูก้ าลเทศะ
ย่อมเป็นท่นี ิยมชมชอบและ
สรุ ิยะส่องดาราไร้ เพ่ือรอ้ นแรงแสง รักใคร่ของคนทวั่ ไป
วรรณศิ ลป์ในโคลงโลกนิติ
๑. ใช้การเปรียบเทียบ ขนุนสกุ สลา้ งแห่ง สาขา
ภายนอกเห็นหนามหนา หนั่ นแท้
ภายในย่อมรสา เอมโอช
สาธุ ชนนั่ นแล้ เลศิ ดว้ ยดวงใจ
เปรยี บเทียบคนดกี ับขนนุ
ทาให้เข้าใจงา่ ยและเห็นภาพ
ชัดเจน
วรรณศิ ลป์ในโคลงโลกนิติ
๒. เลน่ คาซ้าต้นบาท ห้ามเพลงิ ไว้อยา่ ให้ มีควัน
ห้ามสุรยิ แสงจนั ทร์ ส่ องไซร้
ห้ามอายใุ ห้หัน คืนเลา่
ห้ามดงั่ น้ี ไวไ้ ด้ จ่ึงห้ามนิ นทา
เพ่ือเน้ นความหมายของคา