The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by suchitra7941, 2022-08-12 06:44:49

ตำนานวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร

-

วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร

จั ง ห วั ด พิ ษ ณุ โ ล ก

วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร

ชาวบ้านเรียกกันว่า “วัดใหญ่” เป็ นพระอารามหลวงชั้นเอกชนิดวรมหาวิหาร วัดคู่
บ้านคู่เมืองของจังหวัดพิษณุโลก ภายในวัดเป็ นสถานที่ประดิษฐานพระพุทธชินราช หรือ
พระใหญ่ พระพุทธรูปที่ได้รับการยกย่องว่าสวยงามที่สุดในประเทศไทย เป็ นศูนย์รวมจิตใจ
ของชาวเมือง และที่ศรัทธาของผู้คนจากทั่วสารทิศวัดแห่งนี้มีสถาปั ตยกรรม ศิลปกรรม
และประติมากรรมที่งดงามยิ่ง ถือได้ว่าเป็ นมกดกทางศิลปวัฒนธรรมอันล้ำค่าของเมือง
พิษณุโลก

วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร ไม่มีหลักฐานว่าสร้างขึ้นเมื่อใด สันนิษฐานว่าสร้าง
ขึ้นก่อนสมัยสุโขทัย และเป็ นพระอารมหลวงมาแต่เดิม เพราะได้พบหลักฐานศิลาจารึก
สุโขทัยมีความว่า พ่อขุนศรีนาวนำถมทรงสร้างพระทันตธาตุสุคนธเจดีย์ ส่วนในพงศาวดาร
เหนือกล่าวไว้ว่า " ในราวพุทธศักราช ๑๙๐๐ พระเจ้าศรีธรรมไตรปิ ฎก (พระมหาธรรมราชาลิ
ไท) ทรงเป็ นพระมหากษัตริย์ครองกรุงสุโขทัย ทรงมีศรัทธาเลื่อมใสในบวรพุทธศาสนาเป็ น
อย่างยิ่ง ทั้งยังได้ทรงศึกษาพระไตรปิ ฎกและคัมภีร์ศาสนาอื่น ๆ จนช่ำชองแตกฉาน หาผู้ใด
เสมอเหมือนได้ยาก พระองค์ได้ทรงสร้างวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ในฝั่ งตะวันออกของแม่น้ำ
น่าน มีพระปรางค์อยู่กลาง มีพระวิหาร ๔ ทิศ มีพระระเบียง ๒ ชั้นและทรงรับสั่งให้ปั้ นหุ่น
หล่อพระพุทธรูปขึ้น ๓ องค์ เพื่อประดิษฐานเป็ นพระประธานในพระวิหารทั้ง ๓ หลัง

ต่อมาเมื่อ ปี พ.ศ. 2458 พระบามสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรด
เกล้าฯให้ยกขึ้นเป็ นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร เมื่อ พ.ศ. 2548 ปั จจุบันจึง

มีชื่อเต็มว่า วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร

ประวัติ

พระวิหารหลวงประดิษฐานพระพุทธชินราช ภายในพระวิหารหลวง พระวิหารพระพุทธชิน
ราช เป็ นวิหารทรงโรง เป็ นที่ประดิษฐานพระพุทธชินราช ซึ่งนับถือกันว่าเป็ นพระพุทธรูปที่
งดงามที่สุดองค์หนึ่งในโลก ตัวพระวิหารสร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย และได้รับการบูรณะให้
มีสภาพดีมาตลอดจนถึงสมัยปั จจุบัน พระวิหารหลังนี้จึงเป็ นสถาปั ตยกรรมสมัยกรุงสุโขทัยที่
มีความสง่างามสมส่วน และยังคงสภาพสมบูรณ์ดีที่สุดแห่งหนึ่งของไทย บานประตูมุก มีบาน
ประตูประดับมุก 2 บานคู่ กว้าง 1 เมตร สูง 4.50 เมตร เป็ นบานประตูประดับมุกโบราณที่
งดงามที่สุดแห่งหนึ่ง ตัวบานประตูมุกสร้างขึ้นใหม่เมื่อ พ.ศ. 2299 สมัยพระเจ้าบรมโกศ
และได้ทรงนำบานประตูไม้แกะสลักเดิมไปถวายเป็ นบานประตูพระวิหารพระแท่นศิลาอาสน์

ประวัติ

ภายในวิหาร ประดิษฐาน พระพุทธชินราช
หรือเรียกว่า "หลวงพ่อใหญ่" เป็ นพระพุทธรูปปาง
มารวิชัย พระพุทธชินราช พระพุทธชินราชก่อน
การบูรณะปิ ดทองในสมัยรัชกาลที่ 5
พระพุทธชินราช เป็ นพระพุทธรูปหล่อ
ด้วยสำริด ปางมารวิชัย ศิลปะสุโขทัยตอนปลาย
หน้าตักกว้าง 5 ศอก 1 คืบ 5 นิ้ว สูง 7 ศอก หล่อในสมัยพระมหาธรรมราชาที่ 1 (พญาลิไท)
ซึ่งได้สร้างพระพุทธชินราช พร้อมกับพระพุทธชินสีห์ และพระศรีศาสดา ฐานชุกชีปั๊ มเป็ นรูปบัว
คว่ำบัวหงาย เดิมไม่ได้ลงรักปิ ดทอง

ได้มีการปิ ดทองครั้งแรกในรัชสมัยสมเด็จพระเอกา-
ทศรถ คราวเสด็จพระราชดำเนินมานมัสการ
พระพุทธชินราช เมื่อปี พ.ศ. 2146 พระพุทธชินราช
เป็ นพระพุทธรูปองค์ประธานของวัดพระศรีรัตน
มหาธาตุวรมหาวิหาร
เป็ นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะงดงามที่สุดในประเทศ
ไทย เส้นรอบนอกพระวรกายอ่อนช้อย พระพักตร์ค่อน
ข้างกลม พระขนงโก่ง พระเกตุมาลาเป็ นรูปเปลวเพลิง
ลักษณะพิเศษเรียกว่าทีฆงคุลี คือที่ปลายนิ้วพระหัตถ์
ทั้งสี่นิ้วยาวเสมอกัน ซุ้มเรือนแก้วทำด้วยไม้แกะสลัก
สร้างในสมัยอยุธยา แกะสลักเป็ นรูปมกร (ลำตัวคล้าย
มังกรแต่มีงวงคล้ายช้าง) อยู่ตรงปลายซุ้ม และมี
ลำตัวเหรา (คล้ายจระเข้) อยู่ตรงกลางซุ้ม มีเทพอสุรา
ปกป้ องพระองค์อยู่สองตนคือท้าวเวสสุวัณ และอาฬวกยักษ์

ตำนาน

(พระพุทธชินราช)

ตำนานการสร้างพระพุทธชินราชปรากฏหลักฐานทางโบราณคดีว่า พระมหาธรรม
ราชาที่ (พญาลิไทย) รัชกาลที่ 5 แห่งราชวงศ์พระรวง กรุงสุโขทัย โปรดให้สร้างขึ้นเมื่อ
พ.ศ.1900 ตามพงศาวดารเหนือ ได้กล่าวเรื่องการสร้างพระพุทธชินราช พระพุทธชินสีห์
และพระศรีศาสดา เจือนิยายไว้ มีใจความว่า เมื่อพระเจ้าศรีธรรมไตรปิ ฎกได้โปรดให้สร้าง
เมืองพิษณุโลก เสร็จเรียบร้อยแล้วก็ตรัสให้สร้างวัดพระรัตนมหาธาตุ มีพระมหาธาตุ รูป
ปรางค์และพระวิหารทิศ กับระเบียงรอบพระมหาธาตุ ทั้ง 4 ทิศ โปรดให้ช่างชาวชะเลียง
(สวรรคโลก) เชียงแสน และหริภุณชัย(ลำพูน) ร่วมมือกันสร้าง พระพุทธรูป หล่อด้วยทอง

สัมฤทธฺ์ 3 องค์ สำหรับประดิษฐานในพระวิหารทิศ ได้เริ่มทำพิธีเททองหล่อ ณ วัน
พฤหัสบดี ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 4 ปี เถาะ สัปตศกจุลศักราช 317 (พ.ศ.1498) เมื่อกะเทาะหุ่น
ออกแล้ว ทองคงแล่น ติดเป็ นองค์พระบริบูรณ์เพียง 2 องค์ คือ พระพุทธชินสีห์ กับพระศรี
ศาสดา ส่วนพระพุทธชิราชทองไม่แล่นติดเต็มพระองค์ ต้องทำพิธีหล่อต่อมาอีก 3 ครั้งก็ยัง
ไม่สำเร็จ ครั้งหลังสุด พระเจ้าศรีธรรมไตรปิ ฎก ต้องตั้งสัษจาธิษฐาน แล้วทำพิธีเททองหล่อ
เมื่อ วันพฤหัสบดี ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 6 ปี มะเส็ง นพศกจุศักราช 319 (พ.ศ.1500) จึงสำเร็จ
เป็ นองค์พระบริบูรณ์ในการหล่อครั้งหลังสุดนี้ปรากฏว่ามีปะขาวผู้หนึ่งจะมาแต่ใด ไม่มีใคร
ทราบได้มาช่วยปั้ นหุ่น และเททองหล่อพระด้วยเมื่อสร็จพิธีหล่อพระแล้ว ปะขาวก็ออกเดิน

ไปทางเหนือเมืองพอถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่งก็หายตัวไปไม่มีผู้ ใดพบเห็นอีก ดังนั้น
จึงเข้าใจกันว่าปะขาวผู้นั้น คือ เทวดา แปลงตัวมาช่วยหล่อพระพุทธชินราชจึงได้พุทธลักษณะ

งดงามยิ่งนัก เลยเป็ นเหตุให้เกิด ความเลื่อมใสในพระพุทธรูปองค์นี้ยิ่งขึ้น ส่วนหมู่บ้านที่
ปะขาวไปหายตัวนั้น ก็เลยได้นามในภายหลังว่า บ้านปะขาวหาย หรือตาผ้าขาวหาย มาจนทุก

วันนี้(พระพุทธชินราช ในพระราชนิพนธ์ของ ร.5 พ.ศ.2460)

ปั จจุบันพระพุทธชินสีห์และพระศรีศาสดาได้ถูกอัญเชิญไปประดิษฐานที่วัดบวรนิเวศวิหาร
กรุงเทพฯ ทางวัดจึงได้หล่อองค์จำลองขึ้นแทน

(พระพุทธรูปแฝด3)

พระเหลือ

พระยาลิไทรับสั่งให้ช่างนำเศษทองสัมฤทธิ์ที่เหลือนำมารวมกันหล่อพระพุทธรูป
ปางมารวิชัย ขนาดเล็ก หน้าตัก กว้าง 1 ศอกเศษ เรียกชื่อพระพุทธรูปนี้ว่า “พระ
เหลือ”เศษทองยังเหลืออยู่อีกจึงได้หล่อพระสาวกยืนอยู่ 2 องค์ ส่วนอิฐที่ก่อเตาสำหรับ
หลอมทองในการหล่อพระพุทธรูป นำมารวมกันบนชุกชี (ฐานชุกชี) พร้อมกับปลูกต้นมหา
โพธิ์ 3 ต้นลงบนชุกชี เรียกว่า โพธิ์สามเส้า ระหว่างต้นโพธิ์ได้สร้างวิหารน้อยขึ้นมา 1 หลัง
อัญเชิญพระเหลือกับสาวกเข้าไปประดิษฐานอยู่ เรียกว่า พระเหลือ พระปรางค์ประธาน องค์
พระปรางค์ตั้งอยู่ ณ ศูนย์กลางของวัด เป็ นพระปรางค์ประธาน และเป็ นปูชนียสถานที่สำคัญ
ที่สุดของวัด การก่อสร้างพระปรางค์ของพระมหาธรรมราชาที่ 1 (พระยาลิไท) ได้ทำตาม
คตินิยมของหัวเมืองราชธานี ของอาณาจักรสุโขทัยในสมัยนั้น คือประสงค์ให้พระปรางค์เป็ น
หลักเป็ นประธานของวัด และเป็ นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ รูปแบบของพระปรางค์

เมื่อเริ่มสร้างสันนิษฐานว่า เป็ นเจดีย์ทรงดอกบัวตูม

พระวิหารพระเจ้าเข้านิพพาน

เมื่อสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถขึ้นไป ครองราชย์ที่เมืองพิษณุโลก ได้โปรด
ให้บูรณะพระปรางค์โดยดัดแปลงพระเจดีย์ ได้ให้เป็ นรูปแบบพระปรางค์แบบขอม
ตามพระราชนิยมในสมัยกรุงศรีอยุธยา วิหารพระเจ้าเข้านิพพาน เป็ นวิหารขนาดกลาง
ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของวิหารพระพุทธชินราชนอกเขตระเบียงคต ภายในประดิษฐานหีบ
ปิ ดทอง(สมมุติ)บรรจุพระบรมศพองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทำด้วยศิลาตั้งอยู่
บนจิตรากาธานประดับด้วยลวดลายลงรักปิ ดทองร่องกระจกสวยงาม ที่ปลายหีบมี
พระบาททั้งสองยื่นออกมา และบริเวณด้านหน้า หรือด้านท้าย หีบพระบรมศพ มีพระ
มหากัสสปะเถระ นั่งนมัสการพระบรมศพ ซึ่งนับว่าเป็ นโบราณวัตถุที่สำคัญของวัดพระ

ศรีรัตนมหาวรวิหาร โดยผู้สร้างถือคติว่าเป็ นการจำลองสังเวชนียสถานของ
พระพุทธเจ้า คาดว่ามีเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย



จัดทำโดย
นางสาวสุจิตตรา สระพินครบุรี
เลขที่5 สาขาการท่องเที่ยว ปวช.2


Click to View FlipBook Version