ธุรกิจMICE(2)

ธุรกิจ

.

ธุรกิจMICE

ความหมายและความเป็นมาธุรกิจไมซ์(MICE Business)

การท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมการบริการที่สำคัญ เนื่องจากการ
ท่องเที่ยวเป็นภาคบริการที่สร้างรายได้จำนวนมาก และยังกระจายรายได้ที่เกิด
ขึ้นไปยังภาคธุรกิจต่างๆอย่างกว้างขวาง
ทั้งธุรกิจท่องเที่ยวโดยตรง อัน ได้แก่ ธุรกิจขนส่ง ธุรกิจที่พัก ธุรกิจอาหาร
และการบันเทิง ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ธุรกิจจำหน่ายสินค้าที่ระลึก รวม
ถึงธุรกิจต่างๆ ที่ต่อเนื่องทางอ้อม ได้แก่ ธุรกิจสื่อสาร ธุรกิจโฆษณา ธุรกิจ
ธนาคารเป็นต้น นอกจากนั้นยังก่อให้เกิดประโยชน์

ทางเศรษฐธกิจ คือ การสร้างงานอาชีพให้คนในสังคมนั้น ซึ่งการท่องเที่ยวจะ
แบ่ง
ตามวัตถุประสงค์ได้2ประเภทใหญ่ๆ คือ

(1) การท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ (LEISURE TRAVEL)
หมายถึงการท่องเที่ยวที่มีวัตถุประสงค์เพื่อพักผ่อน เช่น นันทนาการ

ศึกษาธรรมชาติ ศิลปวัฒนธรรม เยี่ยมญาติมิตร เป็นต้น

(2) การท่องเที่ยวธุรกิจไมซ์ (MICE BUSINESS TRAVEL)

หมายถึงการท่องเที่ยวขนาดใหญ่ 4 ธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจการจัดประชุมของ
องค์กร (MEETING) การท่องเที่ยวเพื่อรางวัล (INCENTIVE) การจัดประชุม
นานาชาติ (CONVENTION) และการจัดแสดงสินค้า (EXHIBITION) ต่อไปจะ
เรียกธุรกิจทั้ง 4 นี้ว่า "ธุรกิจไมซ์" หรือ MICE BUSINESS

จึงเห็นได้ว่าธุรกิจไมซ์เป็นธุรกิจการท่องเที่ยวเพื่ อธุรกิจที่มีความ
แตกต่างจากธุกิจท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ อยู่ 6 ประการ คือ

(ก) ผู้สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการเดินทางก่องเที่ยว การท่องเที่ยว
แบบทั่วไปจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเดินทางท่องเที่ยวทั้งหมดเอง
ส่วนการท่องเที่ยวแบบธุรกิจไมซ์บริษัท หรือนายจ้างเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้
จ่ายทั้งหมด

(ข) ผู้เลือกสถานที่ท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแบบทั่วไปนั้นนักท่องเที่ยวจะ
เป็นผู้กำหนดและตัดสินใจเลือกสถานที่ท่องเที่ยวเอง ส่วนการท่องเทีี่ยวธู
รกิขไมซ์ ผู้จัดการด้านนี้จะมีบทบาทในการกำหนดและเลือกสถานที่ท่อง
เที่ยว โดยพิจารณาให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าเป็นสำคัญ

(ค) ช่วงเวลาการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแบบทั่วไปนั้นนักท่องเที่ยว
นิยมเดินทางไปท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์และหยุดประจำปี ส่วนการ
ท่องเที่ยวแบบธุรกิจไมซ์สามารถจัดได้ตลอดปี และนิยมจัดในช่วงวันทำงาน คือ
วันจันทร์-ศุกร์

(ง) ระยะเวลาสำรองการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแบบทั่วไป นักท่อง
เที่ยวจะมีการสำรองการท่องเที่ยวไว้ล่วงหน้า ไม่ว่าจะเป็นจองรายการนำเที่ยว
การจองห้องพัก โโยระยะเวลาสำรองการท่องเที่ยวจะยาวนานแค่ไหนขึ้นอยู่กับ
ช่วงเวลาในการเดินทางท่องเที่ยว ถ้าหากต้องการท่องเที่ยวในเทศกาลหรือวัน
หยุดติดต่อกันหลายวัน อาจต้องสำรองการท่องเที่ยวยาวเป็นเดือน เนื่องจาก
เป็นช่วงระยะเวลาที่มีความต้องการเดินทางท่องเที่ยวมาก ส่วนการท่องเที่ยว
แบบธุรกิจไมซ์ ถ้าเป็นการจักธูรกิจระดับนานาชาติ ควรมีการจองล่วงหน้าเป็นปี

(จ) ประเภทของผู้เดินทางท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแบบทั่วไปนั้น ผู้เดิน
ทางท่องเที่ยว ได้แก่ นักท่องเที่ยวทุกคนที่ต้องการเดินทางเพื่อพักผ่อนหย่อน
ใจ คลายเครียดจาการทำงานประจำ ส่วนการท่องเที่ยวแบบธุรกิจไมซ์ ผู้เดิน
ทางท่องเที่ยวได้แก่ สมาชิกของหน่วยงานหรือลูกจ้างของบริษัทที่ได้รับการคัด
เลือกให้เดินทางเข้าร่วมกิจกรรมไมซ์

(ฉ) ประภทของสถานที่ท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแบบทั่วไปนั้นสามารถ
เลือกได้ทุกประเภทของแหล่งท่องเที่ยว ทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางแหล่งธรรมชาติ
และประเภทวัฒฯธรรม ส่วนการท่องเที่ยวแบบธุกิจไมซ์ มักเลือกแหล่งท่อง
เที่ยวตามเมืองใหญ่ในการจัดกิจกรรมเนื่องมากมีาิ่งอำนวยความสะดวกพร้อม
และมีระบบคมนาคมขนส่งที่มีปนะสิทธิภาพ

การเปรียบเทียบระหว่างลักษณะของการท่องเที่ยวแบบพั กผ่อนแบบธุรกิจไมซ์

ประเด็นเปรียบเทียบ การท่องเที่ยวเพื่อพัก การท่องเที่ยวเพื่ อธุรกิจไมซ์
ผ่อน
(MICE Travel)
(Leisure Travel)

(1) สนับสนุนค่าใช้จ่ายใน นักท่องเที่ยวเป็นผู้จ่ายเอง นายจ้าง/บริษัทเป็นผู้จ่าย
การเดินทางท่องเที่ยว

(2) ผู้เลือกสถานที่ท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวเป็นผู้เลือกเอง ผู้จัดการธุรกิจไมซ์เป็นผู้เลือก

(3) ช่วงเวลาการท่องเที่ยว ระหว่างวันหยุดสุดสัปดาห์ ตลอดปีและจัดระหว่างวันจันทร์-
และวันหยุดประจำปี ศุกร์

(4) ระยะเวลาสำรองการท่อง - วันหยุดติดต่อกันหลาย - การประชุมใหญ่ ควรจองล่วง
เที่ยว วันควรจองล่วงหน้าเป็น หน้าเป็นปี
เดือน
- วันหยุดน้อยควรจองล่วง
หน้า 2-3 วัน

(5) ประเภทของผู้เดินทาง ทุกคนที่ต้องการท่องเที่ยว สมาชิกของหน่วยงาน หรือ
เพื่อการพักผ่อน ลูกจ้างบริษัทที่ได้รับการคัดเลือก

ให้เดินทางท่องเที่ยว

(6) ประเภทของสถานที่ท่อง ทุกประเภททั้งที่เป็นแหล่ง แหล่งท่องเที่ยวตามเมืองใหญ่
เที่ยว ท่องเที่ยวธรรมชาติและ โดยเฉพาะในประเทศ
แหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์ อุตสาหกรรม

สร้าง

ความหมายของธุรกิจไมซ์

ธุรกิจไมซ์ทั้ง4ตัว มีความสำคัญกันอย่างใกล้ชิด กล่าวคือเมื่อมีการ
จัดประชุมไม่ว่าจะเป็นการขององค์กร(MEETING) หรือการจัดประชุม
นานาชาติ(CONVENTIONS) ก็มักมีการจัดการแสดงสินค้าควบคู่กันไปด้วย
เพื่อลดต้นทุนในการจัดประชุม และให้ผู้เข้าร่วมประชุมได้ชมงานแสดงสินค้า
หลังเสร็จการปนะชุมแต่ละวัน หรืออาจมีการจัดการท่องเที่ยวเพื่อเปิดโอกาส
ให้ผู้เข้าร่วมประชุมได้ท่องเที่ยว และเรียนรู้เกี่ยวกับสถานที่ที่น่าสนใจของ
แหล่งประชุมนั้นๆ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมประชุมมีประสบการณ์และสาระที่หลาก
หลายมากยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันเมื่อมีการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล ก็มักมี
การจัดประชุมแบบMEETINGS เพื่อสร้างความรักองค์กรและแลกเปลี่ยน
ความคิดเห็นกันหรือจัดนำแสดงสินค้าเพื่อแนะนำสินค้าใหม่ ธุรกิจไมค์ตาม
ความหมายของสมคมส่งเสริมการประชุมกลุ่มประเทศอาเซียน ได้ให้คำนิยาม
ว่า

ธุรกิจไมซ์ MICE หมายถึง ธุรกิจการท่องเที่ยวที่มีวัตถุประสงค์

เพื่อการจัดการประชุมเพื่อเป็นรางวัล การจัดประชุมนานาชาติ และการจัดงาน
แสดงสินค้าเข้าด้วยกัน โดยมีการจัดการที่ดีและสมบูรณ์อย่างมืออาชีพ ทั้ง
ด้านการบริการ ด้านสถานที่ ด้านการประชุม ด้านอาหารและเครื่องดื่ม ด้วย
เครื่องมือ โดยธุรกิจไมซ์ประกอบไปด้วยธุรกิจหลักอยู่4กลุ่ม ตามตัวอักษร
ย่อที่มีความต่อเนื่องเชื่อมโยงกัน และมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ได้แก่
ธุรกิจการจัดประชุมขององค์กร(MEETINGหรือM) การท่องเที่ยวเพื่อเป็น
รางวัล (INCENTIVEหรือI) การจัดประชุมนานาชาติ (CONVENTION หรือC)
และการจัดงานแสดงสินค้า (EXHIBITIONหรือE) หรือที่รวมเรียกว่า ธุรกิจ
ไมซ์ (MICE BUSINESS)

M eeting
หมายถึง ธุรกิจการจัดประชุมขององค์กร ซึ่งเป็นการจัดประชุมของ
กลุ่มบุคคลในองค์กรเดียวกันหรือสมาคมเดียวกัน อาจจะจัดประชุม
นานาชาติ ระดับภูมิภาค หรือระดับภายในประเทศก็ได้ โดยเป็นการประชุม
เฉพาะกิจหรือวางแผนล่วงหน้า สามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ

1 ASSOCIATION MEETING เป็นการประชุมเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล
จากกลุ่มบุคคลภายในองค์กรหรือสมาคมเดียวกัน โดยเฉลี่ยจะมีผู้คนเข้า
มร่วมประมาณ 100คน นอกจากนั้ยังมีคำอื่นที่ใช้แทนกันได้ เป็นต้นว่า

(1) CONFERENCE เป็นการประชุมที่มีผู้เข้าร่วมประชุมถกเถียงกัน
เพื่อหาข้อเท็จจริงหรือแก้ปัญหา หรือปรึกษาหารือ ปรจะขนาดเล็กกว่า
ASSOCIATION MEETING

(2) CONGRESS เป็นการประชุมที่มีผู้เข้าร่วมประชุมหลายร้อยคนหรืือ
หลายพันคจากคนกลุ่มประเภทเดียวกัน เช่น กลุ่มอาชีพ กลุ่มศาสนา
เดียวกัน เป็นต้น

(3) SEMINAR เป็นการประชุมที่มีผู้เชี่ยวชาญการโดยเฉพาะทางและมี
ทักษะที่แต่กต่างกัน แต่มีความสนใจเฉพาะทาง และรวมกันเพื่ออบรมหรือ
เรียนรู้

(4) SYMPOSIUM เป็นการประชุมกลุ่มผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง โดย
การเสนอผลงานจากผู้เชี่ยวชาญหัวข้อนั้นๆ เพื่อให้ที่ประชุมพิจารณาให้
ความคิดเห็น

2 CORPORATE MEETING เป็นการประชุมของกลุ่มบุคคลที่มาจาก
องค์กรเดียวกันหรือเครือเดียวกัน มักเป็นการจัดโดยบริษัท จึงสามารถ
เลือกสถานที่ที่จัดไ้ด้ด้วยการสอบถามจากสมาชิก และไม่ต้องมีการ
ประชาสัมพั นธ์มาก
เนื่องจากเป็นการประชุมของบริษัทเท่านั้นและมีขนาดเล็กว่าประเภท
ASSOCIATION MEETING โดยเฉลี่ยจะมีผู้เข้าร่วมประมาณ80คน

3 GOVERNTMENT METTING เป็นการประชุมของกลุ่มบุคคลหรือผู้
แทนจากหน่วยงานราชการที่รัฐบาลประเทศนั้นเป็นผู้ดำเนินการ จึงสามารถ
เลือกสถานที่ได้โดยไม่ต้องสอบถามสามชิก สามารถแบ่งออกได้4ลักษณะ

(1) การจัดประชุมองค์กรระดับนานาชาติ (INTERNATIONAL
METTING)

หมายถึงการประชุมที่มีผู้เข้าร่วมจากกิจกรรมดียวกันเดินทางจาก
ประเทศต่างๆในทวีปเดียวกันตั้งแต่2ประเทศขึ้นไป

(2) การประชุมขององค์กรระดับชาติ (NATIONAL OFFSHORE
METTINGS)

หมายถึงประชุมที่มผู้เข้าร่วมประชุมจากกิจกรรมเดียวกันเดินทาง
มาจากประเทศใดประเทศหนึ่งในทวีปต่างๆ มาประชุมร่วมกันและมีความ
เป็นไปได้ที่จะประชุมในต่างประเทศหรือมาประชุมร่วมกันกับประเทศเจ้าภาพ

(3) การประชุมขององค์กรภายในประเทศ (DOMESTIC MEETINGS)
หมายถึงการประชุมภายในประเทศที่มีผู้เข้าร่วมประชุมจากกิจกรรม

เดียวกันทุกสัญชาติที่มีถิ่นพำนักถาวรอยู่ภายในประเทศนั้น

I NCENTIVE
หมายถึง การจัดนำเที่ยวเพื่อเป็นรางวัลแก่พนักงานหรือบุคคลที่
สามารถดำนินงานตามเป้าหมายที่บริษัทวางใจ โดยบริษัทผู้ให้รางวัลเป็น
ผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวทั้งหมด อาจใช้คำว่าEVENTแทนก็ได้
ซึ่งการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัลสามารถแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ

1. INDIVIDUAL INCENTIVES หมายถึง การจัดนำเที่ยวเพื่อเป็น
รางวัลแก่พนักงานรายบุคคล ซึ่งพนักงานแต่ละคนมีอิสระ ในการเลือก
สถานที่ท่องเที่ยวได้ แต่มักจำกัดขอบเขต เช่น ต้อง ต้องเป็นการท่อง
เที่ยวภายประเทศเท่านั้น หรือการท่องเที่ยวเฉพาะประเทศเพื่อนบ้าน
เป็นต้น

2. GROUP INCENTIVES หมายถึง การจัดนำเที่ยวเพื่อเป็นรางวัลแก่
พนักงานเป็นกลุ่มซึ่งเป็นรูปแบบของการให้รางวัลที่นิยมกันมาก โดยมีการ
วางแผนและเตรียมการมากกว่าประเภทINDIVIDUAL INCENTIVE และมัก
ไม่จำกัดขอบเขตในการเลือกสถานที่ท่องเที่ยว เนื่องจากเป็นการให้บริการ
แก่พนักงานกลุ่มใหญ่ จึงสามารถช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย สำหรับการจัดน
เที่ยวเพื่อเป็นรางวัล แบ่งได้เป็น3กลุ่ม คือ

(1) USER INCENTIVE เป็นการเชิญผู้ใช้บริการหรือลูกค้าไปท่องเที่ยว
ฟรี เพื่อสร้างภาพลักษณ์ของบริษัทและสร้างความจงรักภักดีต่อบริษัท

(2) CHANNEL INCENTIVES เป็นการให้รางวัลเพื่อการท่องเที่ยวแก่
ตัวแทนจำหน่ายที่ทำยอดขายได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้

(3) INNER INCENTIVE เป็นการให้รางวัลเพื่อการท่องเที่ยวแก่
พนักงานในบริษัทเอง

C ONVENTION
หมายถึง การประชุมนานาชาติของกลุ่มบุคคลต่างองค์กรในสาย
อาชีพใกล้เคียงกัน เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและความคิดเห็นโดยมีผู้เข้าร่วม
ประาณ800คน มีรูปแบบการจัด 2 ลักษณะ คือ

1. ลักษณะการจัดปนระชุมแบบหมุนเวียนตามประเทศสมาชิก มักใช้
วิธีการเวียนตามอักษรและตามภูมิภาค

2. ลักษณะการประมูล เพื่อเป็นประเทศเจ้าภาพในการจัดงานประเทศ
สมาชิก ที่ต้องการเป็นเจ้าภาพจะส่งตัวแทนเข้าร่วมประมูล อยู่ที่
ตัวแปร2ตัวแปร คือ

(1) จำนวนผู้เข้าร่วมประชุม โดยCONVENTION จะมีผู้เข้าร่วม
ประชุมระดับร้อยคนขึ้นไปจนถึงระดับหมื่นคน ส่วนMEETING จะมีผู้เข้า
ร่วมประชุมตั้งแต่10คนจนถึงหลายร้อยคน

(2) รายได้จากการประชุม โดยCONVENTION จะมีรายได้จากการ
จัดประชุมสูงกว่าMEETINGS เพราะมีผู้ร่วมประชุมมากกว่า

E XHIBITION

หมายถึง การจัดงานแสดงสินค้าหรือบริการเพื่อขายให้แก่
อุตสาหกรรมร้านค้าและผู้ซื้อ อาจจัดในระดับนานาชาติ หรือระดับภูมิภาค
หรือระดับชาติก็ได้ สามารถแบ่งออกได้ 3 ประเภท คือ

1. TRADE SHOW เป็นการจัดงานแสดงสินค้าสำหรับผู้ประกอบการ
2. CONSUMER SHOW เป็นการจัดงานแสดงสินค้าสำหรับผู้บริโภค
อาจมีการจัดประชุมในหัวข้อเดียวกันหรือเกี่ยวข้องกับการแสดงสินค้า
3. TRADW AND CONSUMER SHOW เป็นการจัดงานแสดงสินค้า
สำหรับผู้ประกอบการหรือผู้บริโภคเข้าด้วยกัน

คำถาม

1. ความหมายของธุรกิจMICE?
2. การท่องเที่ยวแบ่งตามวัตถุประสงค์ได้2ประเภทใหญ่ๆ

ได้แก่อะไรบ้าง?
3. ธุรกิจMICE ประกอบด้วยอะไรบ้าง?
4. Incentiveสามารถใช้คำแทนว่าอะไร?
5.การจัดงานแสดงสินค้าสำหรับผู้ประกอบการ คืออะไร?

คำตอบ

1 ตอบ เป็นการท่องเที่ยวอุตสาหกรรมการบริการที่สำคัญต่อ


เศรษฐกิจของประเทศ และยังกระจายรายได้ที่เกิดขึ้นไปยังภาค

ธุรกิจต่างๆอย่างกว้างขวาง
2 ตอบ 1) การท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ

2) การท่องเที่ยวธุรกิจไมซ์

3 ตอบ - ธุรกิจการจัดประชุมขององค์กร (MEETING)


- การท่องเที่ยวเพื่อรางวัล (incentive)
- การจัดประชุมนานาชาติ (Convention)


- การจัดแสดงสินค้า (Exhibition)

4 ตอบ Event
5 ตอบ Trade show