นวัตกรรม คีตะบำบัด (สาระสุขศึกษาและพลศึกษา)

1

“Happy learning Thai boxing kita”

เรยี นคตี ะมวยไทยอยา่ งมีความสขุ

นวตั กรรมด้านการจัดการเรียนการสอน
สาระการเรยี นรู้สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา

นางสาวกาญจนา เหลอื งเอยี่ ม

โรงเรียนบา้ นรางจกิ

สานกั งานเขตพน้ื ทีก่ ารศกึ ษาประถมศึกษากาญจนบุรี เขต 1

ก

คานา

แบบรายงานผลการพัฒนานวัตกรรมด้านการเรียนการสอน ช่ือนวัตกรรม “Happy learning Thai
boxing kita” เรียนคีตะมวยไทยอย่างมีความสุข เป็นการบูรณาการแม่ไม้มวยไทยมาผสมผสานกับการออกกาลังกาย
แบบแอโรบิกประกอบเสียงเพลง เพ่ือพัฒนาอารมณ์ จิตใจ ให้เก่ง ดี มีสุข พร้อมทั้งปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ส่งเสริม
สุขภาพให้แข็งแรง และเสริมสร้างความสามารถในด้านต่าง ๆ ของนักเรียน จึงจัดทาขึ้นมาเพื่อรายงานผลการพัฒนา
นวัตกรรมดา้ นการจดั การเรยี นการสอน

ผู้จัดทาหวังเป็นอย่างยิ่ง รายงานฉบับน้ีจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งแก่ผู้ท่ีสนใจศึกษาในการพัฒนา
รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรยี นการสอน หรอื ปรับวิธเี รียนเปลยี่ นวิธสี อนใหเ้ หมาะสมกับผเู้ รียน และเพือ่ เปน็ แนวทาง
ในการประกอบการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยเี พ่อื จดั การเรยี นการสอนในชน้ั เรียนใหม้ ีคุณภาพต่อไป

กาญจนา เหลืองเอ่ียม
มกราคม 2565

สารบญั ข

การนาเสนอผลงานนวัตกรรม หน้า
1. ช่อื ผลงานนวตั กรรม
2. ความสาคญั ของนวตั กรรมหรอื นวตั กรรมทน่ี าเสนอ 1
3. จดุ ประสงค์และเปา้ หมายของการดาเนินงาน 2
4. กระบวนการผลิตผลงานหรือขนั้ ตอนการดาเนินงาน 6
5. ผลการดาเนนิ งาน/ผลสมั ฤทธิ/์ ประโยชนท์ ไี่ ดร้ ับ 7
6. ปจั จยั ความสาเรจ็ 18
7. บทเรียนทไี่ ดร้ บั (Lesson Learned) 19
8. การเผยแพร/่ การได้รบั การยอมรับ/รางวัลท่ไี ด้ 19
19
เอกสารอ้างองิ
ภาคผนวก 20

1

การนาเสนอผลงาน นวัตกรรม/วธิ ปี ฏิบัตทิ ่ีดี (Best Practice)
การจัดการเรยี นการสอนเพอ่ื ยกระดบั การพัฒนาคณุ ภาพการศกึ ษา

ช่อื ผลงาน “Happy learning Thai boxing kita” เรยี นคตี ะมวยไทยอย่างมีความสุข

ผ้เู สนอผลงาน นางสาวกาญจนา เหลอื งเอ่ียม

โรงเรียน/หนว่ ยงาน โรงเรียนบา้ นรางจกิ

สงั กดั สพป./สพม. สานกั งานเขตพื้นทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษากาญจนบรุ ี เขต 1

โทรศพั ท์ 089 912 4502 โทรสาร -

โทรศพั ท์เคลื่อนท่ี 087 151 0945

E-mail : [email protected]

2

รายละเอียดการนาเสนอผลงาน
1.ความสาคญั ของผลงานหรอื นวัตกรรมที่นาเสนอ

การศึกษาเป็นองค์ประกอบสาคัญในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ทางด้าน สติปัญญา ร่างกาย และ
จติ ใจและยังเป็นเคร่ืองมือในการสร้างกาลังคนของประเทศให้มีคุณภาพและประสิทธภิ าพ ทันตอ่ ความกา้ วหน้า
ทางดา้ นต่าง ๆ ทัง้ ทางดา้ นการเมือง เศรษฐกิจและสงั คม ดงั นน้ั การศกึ ษาจึงมีความสาคญั ตอ่ คนทุกเพศทุกวัย
ทุกอาชีพ เพื่อที่จะเป็นพ้ืนฐานในการประกอบอาชีพ การพัฒนาคนในสังคม และการพัฒนาให้ประเทศชาติ
เจริญก้าวหน้าต่อไป ในปัจจุบันการศึกษาถือว่าเป็นตัวเร่งที่สาคัญท่ีสุดในการก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและ
การพฒั นาส่ิงต่าง ๆ ในสงั คม ซง่ึ การพัฒนาทีเ่ ด่นที่สุดอนั เนื่องมาจากผลการศึกษาในปจั จบุ นั คือ ความกา้ วหน้า
ทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีผลทาให้โลกในปัจจุบันก้าวไปสู่ยุคที่เรียกว่า “เทคโนโลยีสารสนเทศ”
การเจริญเติบโตของเทคโนโลยีสารสนเทศส่งผลต่อความก้าวหน้าทางวิทยาการทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการ
ทางาน ด้านการแพทย์ การพาณิชย์ธุรกิจ บันเทิง การส่ือสาร และศึกษาในด้านการศึกษานั้น โดยจะมุ่งเน้นไป
ที่เป้าหมายของการเรียนการสอน คือ การท่ีนักเรียนเกิดการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล แต่
การท่ีจะทาให้ได้และดีนั้น ต้องอาศัยเทคนิควิธีและปัจจัยหลายประการ ระบบการเรียนการสอนในปัจจุบันจึง
ต้องมาเกย่ี วขอ้ งกบั เทคโนโลยี ซ่ึงนับวันจะมอี ิทธพิ ลต่อวถิ ชี ีวติ คนเรามากขึน้

กลยุทธ์และแนวทางการดาเนินงานตามยุทธศาสตร์การพัฒนาการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ
ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560 – 2564) กาหนดไว้อย่างชัดเจน รวมถึงนโยบายของรัฐด้านการเข้าสู่ยุคไทยแลนด์
4.0 อีกทั้งในศตวรรษท่ี 21 เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ถูกพัฒนาข้ึนจนเปน็ ส่ิงท่ีใช้งานงา่ ยและใกล้มนุษย์มากขน้ึ
ทาใหเ้ กดิ นวตั กรรมการจัดการศกึ ษาจากระบบการเรยี นการสอนแบบเดิมท่ีครูผ้สู อนยืนสอนและเขยี นกระดาน
พร้อมบรรยาย ปรับเปล่ียนมาใช้เทคโนโลยีมาเป็นแหล่งเรียนรู้ สื่อตาราเรียน นวัตกรรม และส่ือการเรียนรู้มี
คุณภาพและมาตรฐาน นักเรียนสามารถเข้าถึงได้โดยไม่จากัดเวลาและสถานที่ สามารถจัดการศึกษาจัด
กิจกรรมการเรียนรตู้ ลอดชวี ิตท่มี คี ุณภาพเพมิ่ ขนึ้ ตามยุทธศาสตร์ที่ 3 : ด้านการพฒั นาและเสริมสรา้ งศกั ยภาพ
ทรัพยากรมนุษย์ โดยการพัฒนาศักยภาพคนทุกช่วงวัย และการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ ข้อ 3.3 ปฏิรูป
กระบวนการเรียนรู้ท่ีตอบสนองต่อการเปล่ียนแปลงในศตวรรษท่ี 21 การปรับเปล่ียนระบบการเรียนรู้ให้เอ้ือ
ต่อการพัฒนาทักษะสาหรับศตวรรษท่ี 21 การเปล่ียนโฉมบทบาท “ครู” ให้เป็นครูยุคใหม่ การเพิ่ม
ประสิทธิภาพระบบบริหารจัดการศึกษาในทุกระดับ ทุกประเภท การพัฒนาระบบการเรียนรู้ตลอดชีวิต การ
สร้างความตื่นตัวให้คนไทยตระหนักถึงบทบาทความรับผิดชอบ และการวางตาแหน่งของประเทศไทยใน
ภูมิภาคเอเซียอาคเนย์และประชาคมโลก การวางพ้ืนฐานระบบรองรับการเรียนรู้โดยใช้ดิจิทัล การสร้างระบบ
การศึกษาเพ่ือเป็นเลิศทางวิชาการระดับนานาชาติ ข้อ 3.5 เสริมสร้างคนไทยให้มีสุขภาวะที่ดี คือ สร้างความ
รอบรู้ด้านสุขภาวะ การป้องกันและควบคุมปัจจยั เสย่ี งที่คุกคามสขุ ภาวะ การสร้างสภาพแวดล้อมท่ีเอ้ือต่อการ
มีสุขภาวะท่ีดี การพัฒนาระบบบริการสุขภาพที่ทันสมัยสนับสนุนการสร้างสุขภาวะท่ีดี การส่งเสริมให้ชุมชน
เป็นฐานในการสร้างสุขภาวะท่ีดี และข้อ 3.7 เสริมสร้างศักยภาพการกีฬาในการสร้างคุณค่าทางสังคมแล ะ
พัฒนาประเทศ คือ การส่งเสริมการออกกาลังกาย และกีฬาข้ันพื้นฐานให้กลายเป็นวิถีชีวิต การส่งเสริมให้
ประชาชนมีส่วยร่วมในกิจกรรมการออกกาลังกาย กีฬา และนันทนาการ การส่งเสริมการกีฬาสู่ระดับอาชีพ
การพฒั นาบุคลากรดา้ นการกฬี าและนันทนาการเพ่ือรองรับการเตบิ โตของอุตสาหกรรมการกฬี า

ในปัจจุบันนี้การนาเอา “เทคโนโลยีด้านการศึกษา” หรือ “Educational Technology” มาช่วย
บริหารจัดการระบบการเรียนการสอน เพ่อื สง่ เสรมิ กระบวนการเรยี นใหก้ บั นักเรยี น โดยนกั เรยี นมีปฏสิ ัมพนั ธ์

3

กับครูผ้สู อน กล่มุ นักเรียนดว้ ยกนั เพ่ือแลกเปล่ียนความคดิ หรือทางานรว่ มกัน ก่อให้เกดิ การจดจาและแรงจูงใจ
ในการเรยี นรนู้ อกห้องเรียนของนกั เรยี นมากข้นึ ดว้ ยนวตั กรรมการศึกษา

ดว้ ยเหตนุ ี้เองจึงได้มกี ารผลิตส่ือด้านต่าง ๆ ขึน้ มามากมายเพื่อใช้ในการเรยี นการสอน เพื่อสร้างทักษะ
ในศตวรรษท่ี 21 ให้กับนักเรียน ท้ังทักษะด้านดิจิทัล การคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา การสร้างความร่วมมือ
ความคดิ สร้างสรรค์ ซึ่งทาใหน้ ักเรียนสามารถเรียนรู้ได้อย่างต่อเนื่อง และออกจากกรอบของการเรยี นรู้ท่ีจากัด
เฉพาะในห้องเรียน และยังเป็นการส่งเสริมให้นักเรียนมีสุขภาวะที่ดี สามารถแสดงออกหรือนาเสนอข้อมูล
เนอ้ื หาการเรียนการสอนท่มี ีความนา่ สนใจขึ้นและสร้างการมีสว่ นรว่ มระหว่างนักเรียนกับครูได้มากขึ้น

ในการดารงชีวิตที่ดีหาใช่แต่เพียงวิชาการหรือทฤษฎีอย่างเดียวไม่ แต่ควรมีการส่งเสริมทางด้านสุข
ภาวะท่ีดีด้วยไปพร้อมกัน ส่งเสริมทางทางอารมณ์ จิตใจ สุนทรียภาพ การรีแลค การผ่อนคลายในด้านการ
ดาเนินชวี ติ ไปพร้อมกนั น้ัน ครูผสู้ อนควรเป็นตัวช่วยทีส่ นับสนุน ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ใชช้ ีวิตอย่างมีความสุข
โดยการออกกาลังกายดีกว่า เพราะวันนี้ทางเลือกในการออกกาลังกายมีหลากหลายรูปแบบ มีการผสมผสาน
รูปแบบต่าง ๆ เพ่อื ใหก้ ารออกกาลังกายใหส้ นุก ถกู ใจและไดป้ ระโยชน์ครบครนั

นิยามและความหมายของคีตะมวยไทย
คีตะมวยไทย หรือนาฏมวยไทย เป็นการออกกาลังกายรูปแบบหนึ่งที่มีมานานราว 10ปีแล้ว โดย

นาเอาท่าทางของ “แม่ไม้มวยไทย” มาผสมผสานกับการออกกาลังกายแบบแอโรบิกประกอบกับเสียงเพลง
หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ “แอโรบิกมวยไทย” แต่ยังไม่เป็นที่รู้จักหรือนิยมในวงกว้างมากนัก ที่ผ่านมาจะเป็นใน
รปู แบบของการจัดประกวดระดบั นักเรียน เพอ่ื สบื สานศลิ ปะมวยไทย

“คีตะมวยไทย”10 ท่า ออกกาลังกายเพอ่ื สุขภาพ โดย พญ.พรรณพิมลวปิ ุลากร อธิบดีกรมอนามัย
ระบวุ า่ คตี ะมวยไทยเปน็ การออกกาลังกายดว้ ยรปู แบบมวยไทย ทน่ี อกจากมปี ระโยชนต์ ่อสขุ ภาพแล้ว ยงั ได้รับ
ความสนกุ สนาน แสดงออกถึงความเป็นไทยและความรกั ชาติ สบื สานและอนรุ ักษ์วฒั นธรรมไทย ส่งเสริมให้
ประชาชนตระหนักและให้ความสาคัญต่อการสง่ เสรมิ สุขภาพปอ้ งกันโรคท่ีเกิดจากการขาดออกกาลงั กาย และ
แสดงถึงความสามคั คี ความจงรักภกั ดี และรว่ มนอ้ มราลกึ ในพระมหากรณุ าธิคณุ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ ัว
โดยกิจกรรมดงั กล่าวจะจดั ต่อเน่อื งตลอดทงั้ ปี

พญ.พรรณพิมล กล่าววา่ คตี ะมวยไทย ถือเป็นการออกกาลังกายท่ีส่งผลดตี ่อสุขภาพหลากหลายดา้ น
ไดแ้ ก่ 1.ดา้ นร่างกาย ช่วยเพิ่มประสทิ ธิภาพของระบบปอดและระบบไหลเวยี นโลหติ เพ่มิ ประสทิ ธภิ าพของ
กลา้ มเนื้อ เอน็ และข้อต่อต่าง ๆ ในร่างกาย เพิ่มประสทิ ธิภาพของระบบประสาท ช่วยให้ปอดและหัวใจมคี วาม
แข็งแรงขนึ้ 2.ด้านจิตใจช่วยผอ่ นคลายและลดความเครยี ด สร้างความเชอื่ ม่ันให้ตัวเอง สรา้ งความสนุกสนาน
และทาให้มีทศั นคตทิ ่ดี ีต่อรา่ งกาย เปน็ การเพิม่ ความสัมพนั ธ์ของสมาชกิ ในครอบครัว และ 3.ด้านสงั คม ทาให้มี
เพ่ือนใหม่ สงั คมใหมๆ่ เรยี นรกู้ ารปรบั ตวั เขา้ กับสงั คม และเป็นโอกาสท่จี ะเปลยี่ นกิจกรรมและสภาพแวดล้อม
เพือ่ เพิ่มความเช่ือมน่ั ใหต้ วั เองพร้อมกับพฒั นาบุคลิกภาพการออกกาลังกายดว้ ยคีตะมวยไทย จงึ ถือเปน็ ยาที่คง
สภาพไมใ่ ห้รา่ งกายมีการเจบ็ ปว่ ยทีเ่ กดิ มาจากโรคไมต่ ิดต่อเรอื้ รงั เช่น เบาหวาน ความดนั โลหติ สูง โรคหัวใจ
และหลอดเลือด รวมทั้งชว่ ยในเรื่องของสภาพจิตใจและการเข้าสงั คม ช่วยใหร้ ู้สกึ ผอ่ นคลาย จติ ใจปลอดโปรง่
โลง่ สบาย ลดความเครียดจากการทางาน หรือจากการเรยี น ชว่ ยใหน้ อนหลบั ได้สนิทต่อเนอ่ื งยาวนานมากข้ึน”
พญ.พรรณพมิ ล กล่าว

นพ.อุดม อัศวุตมางกูร ผู้อานวยการกองกิจกรรมทางกายเพื่อสุขภาพ กรมอนามัย กล่าวว่า กรม
อนามัยได้จัดทาคลิปวิดีโอการออกกาลังกายด้วย “คีตะมวยไทย” 10 ท่า ข้ึน และเผยแพร่ออกไปตามสื่อ
ตา่ งๆ เพือ่ ให้เป็นทรี่ จู้ กั ประชาชนสามารถเขา้ ถึงได้ และนาไปใชใ้ นการออกกาลังกายไดโ้ ดยทวั่ ไป โดยสามารถ

4

นารูปแบบการออกกาลงั กายน้ไี ปออกกาลังกายร่วมกนั ท้ังทโ่ี รงเรียน สถานประกอบการ ชมุ ชน ชมรมผู้สูงอายุ
หรือแม้กระท่ังในครอบครัว ในคอนโดมิเนียม ก็สามารถนาคลิปวิดีโอน้ีไปใช้ประโยชน์ได้ โดยม่ันใจว่า เม่ือนา
คตี ะมวยไทย 10 ท่าเฉลมิ พระเกียรติไปออกกาลังกาย จะมคี วามสุข สนกุ สนาน และสุขภาพแข็งแรง

“คีตะมวยไทย” จากศิลปะแม่ไม้มวยท่ีมีท่วงท่าแข็งแรง สู่การประยุกต์ด้วยการนามาประกอบเพลงท่ี
ปลกุ เรา้ ทีท่ าใหก้ ารออกกาลังกาย เล็งเห็นถงึ ความสาคัญของเร่ืองนี้ ทสี่ ามารถนามาเปน็ กิจกรรมดี ๆ สง่ เสริม
ให้กับนักเรียนเพื่อเป็นการออกกาลังกาย การใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ฝึกระเบียบ วินัย ความอดทน การ
ทางานร่วมกันเป็นทีม และมีน้าใจนักกีฬา ท้ังเพื่อเป็นการสืบสานศิลปะมวยไทย การอนุรักษ์วัฒนธรรม ความ
ภาคภูมใิ จ และแสดงออกถึงความเปน็ ไทย

คีตะมวยไทยแอโรบิก ก็เป็นการออกกาลังกายอีกประเภทหนึ่งที่นาเอาการออกอาวุธ แม่ไม้มวยไทย
มาผสมผสานกับการออกกาลังกายในรูปแบบของแอโรบิก เรียกว่าหนึ่งเดียวได้ประโยชน์ท้ังร่างกายและจิตใจ
แถมได้เคลด็ ลับในการปอ้ งกนั ตัวเบือ้ งต้นไปใช้ในชวี ติ ประจาวันได้อีกด้วย

คีตะมวยไทยแอโรบกิ คือการนาเอาทกั ษะเบื้องตน้ ของมวยไทยการใช้หมดั เท้า เข่า ศอก มาออกแบบ
ให้เป็นท่าทางการออกกาลังกายแบบแอโรบิก นอกจากผู้เล่นจะสนุกและมีสุขภาพที่ดีจากการออกกาลังกาย
แล้ว ยังได้รับความรู้สึกภาคภูมิใจในความเป็นคนไทยจากศิลปะการป้องกันตัวท่ีถือเป็นมรดกท่ีย่ิงใหญ่ของ
ประเทศอีกดว้ ย

ไหวค้ รูมวยไทย
ไหว้ครูรามวย เป็นการร่ายราในกีฬามวยไทยเพื่อแสดงถึงความกตัญญูรู้คุณและความเคารพต่อครู

มวย เป็นประเพณีท่ีปฏิบัติสืบต่อกันมาช้านาน เช่นเดียวกับวิชาการหลายแขนงของไทย ท่ีมักทาการไหว้ครู
ก่อน[1] และให้มีการสวมมงคลขณะทาการร่ายราไหว้ครู เนื่องจากถือเป็นของศักด์ิสิทธ์ิ[2] ท่าท่ีนิยมทาการไหว้
ครูมากท่ีสุดคือ พรหมส่ีหน้า[1], หงส์เหิร, ยูงฟ้อนหาง, สอดสร้อยมาลา, พระรามแผลงศร, พยัคฆ์ตามกวาง,
เสอื ลากหาง, สาวนอ้ ยประแปง้ [2], ลับหอกโมกขศกั ดิ์ และกวางเหลียวหลัง ฯลฯ
การราไหว้ครูเร่ิมจากนั่ง กราบเบญจางคประดิษฐ์ คุกเข่าถวายบังคม ขึ้นพรหมนั่ง-ยืน ท่ารามวย (อาจมีการ
เดินแปลง ย่างสามขุม การรูดเชือก การบริกรรมคาถา) เพื่อสารวจ ทักทายหรือข่มขวัญซ่ึงแตกต่างกันไป
ตามแต่ละค่าย หรอื สานกั โดยจะมีการบรรเลงดนตรใี หจ้ ังหวะในการตอ่ สู้ซึ่งจะใช้ "
เพลงสะระหม่าไทย (โยน-แปลง)"ใ้ นการไหว้ครู "เพลงเจา้ เซ็น"ใชใ้ นการตอ่ สู้ยกแรก ยกตอ่ ๆไปจะใชเ้ พลงอะไร
ก็ได้ แต่ยังคงยึดหน้าทับเจ้าเซ็นไว้ และครึ่งหลังยกสุดท้ายจะต้องออก"เพลงเชิด" สู่วงดนตรีท่ีใช้บรรเลง
ประกอบลงคอื "วงปกี่ ลอง" ซงึ่ ประกอบดว้ ย ปชี่ วา, กลองแขก และฉงิ่

การรามวยไหว้ครูมีมาตง้ั แต่สมัยสุโขทัย โดยมที ีม่ าของการท่ีนักมวยต้องไปพักอาศัยอยู่กับครูมวยเพื่อ
คอยปรนนิบัติรับใช้ เพื่อให้ครูมวยแน่ใจว่าลูกศิษย์ของตนเป็นคนมีความซื่อสัตย์สุจริต มีความมานะพยายาม
และมีความเคารพศรัทธาต่อครูผู้สอน จึงจะมีการอนุญาตให้ทาพิธีขึ้นครู หรือในบางท้องถ่ินเรียกว่า พิธียกครู
เพอื่ แสดงถึงการยอมรบั ซึง่ กันและกันท้งั ครแู ละศษิ ย์

ส่วนการไหว้ครูรามวย เป็นการแสดงความเคารพต่อครู บิดา มารดา รวมท้ังเป็นการขอพรต่ออานาจ
ส่ิงศักด์ิสิทธิ์ตามความเชื่อให้คุ้มครองตนใหไ้ ด้รับความปลอดภยั จากการชกมวย โดยแสดงออกเปน็ ท่าราต่าง ๆ
ท่ีได้รับการถ่ายทอดมาจากครูมวย รวมท้ังอาจมีการบริกรรมคาถาตามความเช่ือของแต่ละบุคคล
[3] ปัจจุบัน ชาวไทยส่วนใหญ่ ได้หันมาให้ความสนใจด้านการรักษาสุขภาพโดยมุ่งเน้นวิธีการแบบ
ชาวตะวันตก แต่ไม่ได้ให้ความสาคัญต่อภูมิปัญญาแบบไทยเท่าใดนัก ซึ่งให้ประโยชน์ท้ังการเสริมสร้างสุขภาพ
กายและใจใหเ้ ขม้ แข็ง ตลอดจนปลูกฝงั ดา้ นธรรมะ ซง่ึ แทจ้ ริงแลว้ การไหวค้ รูมวยไทย ทา่ รามวยไทย ท่าแมไ่ ม้

5

ท่าลูกไม้ และการชกลมเล่นเชิง มีประโยชน์ในการเสริมสร้างสุขภาพกาย สุขภาพใจ และแฝงถึงความสาคัญ
ด้านคุณธรรม และมีส่วนส่งเสริมเอกลักษณ์ความเป็นไทยประการหน่ึง อย่างไรก็ตาม ชาวไทยหลายคนมิได้
ตระหนักถึงคุณค่า และความสาคัญดังกล่าว เนื่องจากสถาบันการพลศึกษามิได้มุ่งเน้นความสาคัญ และเด็ก
หลายคนมไิ ดร้ ับการปลูกฝังจากผู้ใหญ่ ซงึ่ แทจ้ รงิ แล้วการไหว้ครรู ามวยเป็นการปฏิบัติท่มี ิได้ส่ือถึงการแสดงการ
ขอบคณุ ต่อครมู วย หรือเพยี งการอบอุน่ รา่ งกายเท่านน้ั หากแตเ่ ปน็ การระลึกถงึ ส่ิงสาคัญทค่ี รูมวยไดส้ อนมา

ดังนั้น ครูผู้สอนจึงเห็นความสาคัญของการออกกาลังกายที่จะช่วยให้นักเรียนพร้อมมีความสุขท้ังกาย
และใจ มพี ลังงานกา้ วสู่ทกุ เป้าหมายของชวี ิต จงึ ได้จัดทานวัตกรรมเรอ่ื งนีข้ ้ึนมา เพ่อื เป็นประโยชนต์ อ่ นักเรียน

6

2. จุดประสงค์และเปา้ หมาย ของการดาเนนิ งาน
2.1 จุดประสงค์ของนวัตกรรม
2.1.1 เพ่ือเพม่ิ ประสิทธิภาพของระบบไหลเวียนโลหติ
2.1.2 เพื่อเพิม่ ประสิทธิภาพในการทางานของปอด
2.1.3 เพอ่ื เพิ่มประสทิ ธิภาพของระบบกลา้ มเนือ้ กระดูก เอ็น และข้อต่อ
2.1.4 เพอ่ื เพิ่มประสทิ ธภิ าพของระบบประสาท
2.1.5 เพอ่ื เพมิ่ ประสิทธิภาพของระบบฮอรโ์ มน
2.1.6 เพื่อผอ่ นคลายและลดความตงึ เครยี ด
2.1.7 เพอื่ สรา้ งความเช่อื ม่นั ในตนเองให้สงู ขน้ึ และกลา้ แสดงออกมากขึ้น
2.1.8 ใหค้ วามสนุกสนาน ชว่ ยเพม่ิ แรงจงู ใจในการออกกาลังกาย
2.1.9 ใหท้ ศั นคตทิ ่ดี ใี นการออกกาลงั กาย
2.1.10 เป็นโอกาสในการเปล่ียนแปลงกิจกรรม และสภาพแวดล้อม และเป็นโอกาสในการ
พฒั นาการปรบั ตวั ใหเ้ ขา้ กับสงั คม
2.1.11 เป็นโอกาสได้แสดงความเชื่อมั่นของตนเองในทักษะการเคล่ือนไหวแบบต่าง ๆ
พร้อมกบั เปน็ การพฒั นาบุคลิกภาพ
2.2 เป้าหมายผลงานนวัตกรรม
เปา้ หมายเชิงปริมาณ
2.2.1 นักเรียนร้อยละ 80 มีสขุ ภาวะทด่ี ที กุ ด้าน
2.2.2 นักเรียนร้อยละ 90 ผา่ นการทดสอบสมรรถภาพรา่ งกาย
2.2.3 ครูและบุคลากรทางการศึกษาร้อยละ 80 เป็นแบบอย่างท่ีดี มีสุขภาพร่างกาย จิตใจ
ทส่ี ง่ เสรมิ การเรียนร้ขู องนกั เรียนในอนาคต
2.2.4 ครจู ัดกจิ กรรมการเรยี นรูส้ ่งเสริมการเคลื่อนไหว การสรา้ งความเชื่อมนั่ ของนักเรียนให้
กลา้ แสดงออกให้พงึ พอใจในระดับดี
เป้าหมายเชงิ คณุ ภาพ
นักเรียนมีการพัฒนาบุคลิกภาพ พัฒนาสมรรถภาพทางกายท่ัวไป ฝึกความแข็งแกร่งของ
กล้ามเนื้อ ฝึกการทรงตัว ฝึกการเคลื่อนไหวที่คล่องแคล่วในการหลบหลีก ปัดป้อง ฝึกการหยุดพลัง
ฝึกการสังเกต การสร้างไหวพริบ การสังเกตอากัปกิริยา การใช้ท่าทาง และฝึกจิตใจให้มั่งคง เข้มแข็ง
อดทน ไมห่ ว่ันไหว ซง่ึ จะได้จากการฝึกปฏบิ ัติบอ่ ย ๆ

7

3. กระบวนการผลติ ผลงาน หรือขน้ั ตอนการดาเนินงาน
การออกแบบนวตั กรรม
นวัตกรรม “Happy learning Thai boxing kita.” เรียนคีตะมวยไทยอย่างมีความสขุ เป็นนวัตกรรม

ดา้ นการจัดการเรียนการสอน ที่มีการพฒั นากจิ กรรมสง่ เสริมสุขภาพ จติ ใจ และอารมณ์ที่ดี
กรอบแนวคิดนวตั กรรม

การวางแผน (PLAN)
- การจดั โปรแกรมการออกกาลังกาย

ลงมือปฏบิ ัติ (DO)
- แบ่งออกเปน็ 2 ขั้นตอน

การตรวจสอบ (CHECK)
- เป็นการทดสอบสมรรถภาพร่างกาย

การปรบั ปรุง (ACT/ACTION)
- จานวนทา่ คีตะมวยไทย

8

ข้นั ตอนการดาเนินงาน
การดาเนินงานตามกิจกรรมที่ออกแบบไว้ทุกข้ันตอนและมีการพัฒนาปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง โดยใช้

ข้ันตอนการดาเนินการด้วยวงจรพัฒนาคุณภาพเชิงระบบ ซ่ึงได้ศึกษา ทดลอง โดยประยุกต์มาจาก วงจรเดมิง
PDCA หรอื ที่เรยี กว่า : Deming Cycle คอื ขนั้ ตอนการปฏบิ ัติงานใหส้ าเรจ็ ดว้ ยวงจรการควบคมุ คณุ ภาพ

ข้ันท่ี 1 การวางแผน (PLAN)
- มกี ารจัดโปรแกรมการออกกาลงั กาย ใชเ้ วลาครั้งละ 30 นาที ใช้เวลาในการฝึก 1 วนั /สัปดาห์
(ทกุ วนั ศกุ ร์ เวลา 13.30 – 14.00 น.)

ปฏิทินลงเวลาการจัดกิจกรรมคตี ะมวยไทย

ตารางรายชอื่ นักเรยี น

กิจกรรม ออกกาลังกายด้วยคตี ะมวยไทย

วันศุกร์ ท่ี 1 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2562

ที่ ช่อื -นามสกุล ชน้ั วนั /เดอื น/ปี ปฏิบตั /ิ ไม่ปฏบิ ัติ

1 เดก็ หญงิ ธนพร ฟักทอง ป.5 1/11/62 

2 เด็กหญงิ นภิ าธร สขุ อดุ มกอบกลุ ป.6 1/11/62 

3 เดก็ หญิงภทั ธริ า สขุ อดุ มกอบกลุ ป.6 1/11/62 

4 เด็กหญิงอจั จิมา พฒั นมาศ ป.3 1/11/62 

5 เด็กชายสรุ วัฒน์ อ้นเชิด ป.4 1/11/62 

6 เด็กชายฐติ ิวุฒิ พฒั นมาศ ป.5 1/11/62 

7 เด็กชายณรงค์ฤทธิ์ ดารงศริ ิฤกษ์ ป.6 1/11/62

8 เดก็ ชายอาทิตพร จนั ทร์แจ่ม ป.5 1/11/62

9 เดก็ ชายอนุวชั แสวงธรรม ป.5 1/11/62

10 เดก็ ชายนภพร โพธ์ใิ บ ป.5 1/11/62

11 เด็กหญงิ วิรากานต์ ฟักทอง ป.5 1/11/62

12 เดก็ หญงิ ภูรติ า สืบนาค ป.5 1/11/62

9

ปฏิทินลงเวลาการจดั กิจกรรมคีตะมวยไทย

ตารางรายชอ่ื นกั เรยี น
กจิ กรรม ออกกาลังกายด้วยคตี ะมวยไทย
วนั ศกุ ร์ ที่ 3 เดือนธนั วาคม พ.ศ. 2564

ท่ี ชื่อ-นามสกุล ชัน้ วัน/เดือน/ปี ปฏิบัติ/ไมป่ ฏบิ ตั ิ
1 เดก็ ชายณัฐนนท์ ชชู พี ป.5 3/12/64 
2 เด็กชายชยั พร บญุ เชิด ป.5 3/12/64 
3 เดก็ หญงิ อันนา ปูเชียงแดง ป.5 3/12/64 
4 เด็กหญิงชลลดา มณีโชติ ป.5 3/12/64 
5 เด็กหญิงทิพยาภรณ์ แสวงธรรม ป.5 3/12/64 
6 เด็กชายวงศธร เก้าแพ ป.5 3/12/64 
7 เด็กชายวชั ระ ฟักทอง ป.6 3/12/64 
8 เด็กชายวรากร รอดคลา้ ย ป.5 3/12/64 
9 เดก็ ชายนที สบื นาค ป.5 3/12/64 
10 เดก็ หญิงพมิ พช์ นก เท่าเทียม ป.5 3/12/64 
11 เด็กชายกฤติศกั ด์ิ ฟักทอง ป.5 3/12/64 
12 เด็กหญิงศภุ สตุ า เอกจิตร์ ป.5 3/12/64 
13 เด็กชายเขตโสภณ เอยี่ มต่างแดน ป.5 3/12/64 
14 เดก็ หญงิ วรรณวสิ า ถา้ ขี้นาค ป.5 3/12/64 
15 เด็กชายพีรพล - ป.5 3/12/64 

10

ขัน้ ท่ี 2 ลงมอื ปฏิบตั ิ (DO)
1. ปฏิบัติการอบอุ่นร่างายหรือวอร์มอัพ (Warm-Up) ใช้เวลาประมาณ 5-10 นาที การวอร์มอัพ

ก่อนการออกาลังกายหรือการที่ร่างกายจะต้องมีการใช้กล้ามเน้ือ เคล่ือนไหวเร็วๆหรือมีการหดตวั อยา่ งรวดเร็ว
จะเป็นการเพ่ิมอุณหภูมิร่างกายสูงข้ึน ส่งผลต่อการเพ่ิมการไหลเวียนของเลือดในกล้ามเน้ือ ข้อต่อ เส้นเอ็น
เพ่ือเตรียมความพร้อมต่อการใช้งานหรือการออกกาลังกาย ด้วยเหตุนี้ การอบอุ่นร่างกายจึงเป็นสิ่งสาคัญที่ไม่
ควรมองข้ามเมอื่ ตอ้ งออกกาลังกายหรอื เล่นกีฬา

2. เข้าสู่กระบวนการออกกาลงั กายดว้ ยกระบวนทา่ คตี ะมวยไทย
ท่าท่ี 1 หมัดตรง ยกมือตั้งการ์ดเท้าซ้ายอยู่หน้า ชกหมัดซ้ายเหยียดแขนจนข้อศอกตรงแล้วชักหมัดกลับ แล้ว
ชกด้วยหมัดขวา บิดลาตัวเล็กนอ้ ย ชักหมัดกลับ ชกสลับข้างไปเรื่อย ๆ แล้วเปลี่ยนการ์ดใช้เท้าขวาอยู่หน้า ท่า
นี้จะช่วยกลา้ มเน้ือแขน หลัง และแกนกลางลาตวั

ท่าที่ 2 หมัดตวัด (หมัดฮุค) ยกมือตั้งการ์ดเท้าซ้ายอยู่หน้า ชกหมัดขวาต่อยตวัดจากด้านข้าง เหว่ียงข้อศอก
เป็นวงกว้าง ขนานกับพ้ืนสูงระดับหัวไหล่ ชักหมัดกลับ แล้วเปลี่ยนข้างชกหมัดซ้ายแบบเดียวกัน แล้วเปล่ียน
การด์ เทา้ ขวาอยู่หนา้ ทาสลบั ขา้ งต่อไป ทา่ นจี้ ะชว่ ยกล้ามเนอ้ื แขน ไหล่ หลัง และแกนกลางลาตวั

ท่าที่ 3 หมัดเสย (หมดั สอยดาว) ยกมือต้งั การ์ดเท้าซ้ายอยหู่ นา้ กามอื ลดแขนซ้ายลง ยอ่ ตัวงอเข่าลงเล็กน้อย
ยกตัวข้ึนพร้อมหงายหมัดใส่ปลายคางคู่ต่อสู้ ชักหมัดกลับ แล้วออกหมัดขวาด้วยท่าแบบเดียวกัน จากนั้น
เปลยี่ นการด์ เท้าขวาอยู่หน้าทาสลบั ขา้ งต่อไป ท่าน้จี ะชว่ ยกล้ามเนอื้ แขน ขา ไหล่ หลงั และแกนกลางลาตัว

11

ท่าท่ี 4 ศอกกระทุ้ง ยกมือตั้งการ์ดเท้าซ้ายอยู่หน้า ใช้ข้อศอกขวากระทุ้งกลับเฉียงไปด้านหลังแนบข้างลาตัว
ข้อศอกยกขนานกบั หวั ไหล่ ใบหน้าหันตามปลายข้อศอก แล้วชกั ศอกกลบั ใชศ้ อกซา้ ยทาแบบเดียวกัน จากนั้น
เปล่ยี นการด์ เทา้ ขวาอยู่หน้า ทาสลับกนั ต่อไป ท่าน้ีจะชว่ ยกล้ามเน้อื แขน ไหล่ หลงั และแกนกลางลาตัว

ท่าที่ 5 ศอกตัด ยกมือตั้งการ์ดเท้าซ้ายอยู่หน้า กามือยกศอกขวาข้ึนขนานกับพ้ืน ตวัดไปด้านหน้า ปลาย
ข้อศอกอยู่ระดับเดียวกับหัวไหล่ กลับมาท่าเร่ิมต้น ใช้ศอกซ้ายทาแบบเดียวกัน แล้วจึงเปล่ียนการ์ดใช้เท้าขวา
อย่หู นา้ ทาสลบั กนั ต่อไป ทา่ นี้จะช่วยกล้ามเนื้อแขน ไหล่ หลงั และแกนกลา้ มลาตวั

ท่าที่ 6 ศอกงัด ยกมอื ตง้ั การ์ดเทา้ ซา้ ยอยหู่ นา้ กาหมัดย่อเข่ายกขึ้นพร้อมยืดตวั งัดศอกขวาไปด้านหน้า ปลาย
ศอกต้ังตรงอยู่ระดับหน้าผากขนานกลับพ้ืน ปลายแขนแนบใบหู ชักศอกกลับ แล้วทาท่าด้วยศอกซ้าย
เช่นเดียวกัน จากน้ันเปลี่ยนการ์ดใช้เท้าขวาอยู่หน้า ทาสลับกันไป ท่าน้ีจะช่วยกล้ามเน้ือแขน ขา ไหล่ หลัง
และแกนกลางลาตวั

ท่าท่ี 7 เข่าตรง ยกมือตั้งการ์ดเท้าซ้ายอยู่หน้า ยกหัวเข่าขวาข้ึนระดับเอว หน้าแข้งต้ังฉากกับพื้น ปลายเท้าช้ี
ลง ออกแรงให้หัวเข่าพุ่งไปด้านหน้า ขาซ้ายยันพ้ืน ชักหัวเข่ากลับ เปล่ียนการ์ดแล้วทาสลับข้างต่อไป ท่าน้ีจะ
ชว่ ยกลา้ มเนอื้ สะโพก ต้นขา หลงั ส่วนลา่ งและแกนกลางลาตวั

12

ท่าที่ 8 เตะตรง (เตะผ่าหมาก) ยกมอื ตง้ั การด์ เทา้ ซ้ายอยูห่ น้า เอนลาตวั ไปด้านหลังเลก็ น้อย ยกหวั เข่าขวาขึ้น
ระดบั เอว เตะขาขวาไปดา้ นหนา้ จนเหยยี ดตรง ปลายเทา้ ชไ้ี ปดา้ นหน้า ชกั ขากลับ แลว้ เปลยี่ นการ์ดทาสลับขา้ ง
กนั ตอ่ ไป ทา่ นจ้ี ะชว่ ยกลา้ มเนอื้ สะโพก หน้าขา หลังส่วนลา่ ง และแกนกลางลาตัว

ท่าที่ 9 เตะตัด ยกมือต้ังการ์ดเท้าซ้ายอยู่หน้า บิดสะโพกโน้มลาตัวพร้อมเตะขาขวาจากด้านข้างขนานกับพื้น
ชักขากลบั แลว้ เปลี่ยนการ์ดทาสลบั ข้างต่อไป ท่านจ้ี ะช่วยกล้ามเน้อื สะโพก ต้นขา หลงั สว่ นล่าง และแกนกลาง
ลาตัว

ท่าที่ 10 ถีบด้วยส้นเท้า ยกมือตั้งการ์ดเท้าซ้ายอยู่หน้า เอนลาตัวไปด้านหลังเล็กน้อย พร้อมกับยกเท้าขวา
เปดิ ฝา่ เทา้ ปลายเท้าช้ขี ้นึ ใชส้ ้น

13

ขน้ั ท่ี 3 การตรวจสอบ (CHECK)
- จากการทดสอบสมรรถภาพของผูเ้ รียน

เกณฑ์การเจริญเติบโตตามสดั สว่ นของน้าหนกั และสว่ นสงู
รายละเอียดการเจรญิ เตบิ โตตามสดั สว่ นของนา้ หนักและส่วนสงู มรี ายละเอียดตามตาราง

14

(สานกั งานคณะกรรมการการประถมศกึ ษาแห่งชาติ กระทรวงศึกษาธิการ และกรมอนามัย. 2542:31-

ตารางที่ 1 เกณฑ์มาตรฐานสมรรถภาพทางกายนักเรยี นชายอายุ 11 ปี

รายการ ดมี าก ดี ปานกลาง ต่า ต่ามาก

1. ว่งิ 50 เมตร (นาท)ี 7.13 ลงมา 7.14-8.17 8.18-10.28 10.29- 11.33 ขน้ึ ไป

11.32

2. ยืนกระโดดไกล (เซนตเิ มตร) 185 ขึ้นไป 169-184 136-168 120-135 119 ลงมา

3. แรงบีบมือทถี่ นดั (กโิ ลกรัม) 22.3 ข้ึนไป 19.5-22.2 13.7-19.4 10.8-13.6 10.7 ลงมา

4. ลกุ -นง่ั 30 วนิ าที (ครง้ั ) 25 ขนึ้ 22-24 16-21 13-15 12 ลงมา

5. งอแขนหอ้ ยตัว (วินาท)ี 22.45ขึน้ 16.93- 5.88-16.92 0.36-5.87 0.35 ลงมา

ไป 22.44

6. วิ่งเกบ็ ของ (วินาท)ี 10.20 ลง 10.21- 11.25- 13.34- 14.38 ขึ้นไป

มา 11.24 13.33 14.37

7. ว่งิ 600 เมตร (นาท)ี 2.16 ลงมา 2.17-2.36 2.37-3.17 3.18-3.37 3.38 ขน้ึ ไป

8. งอตัวข้างหน้า (เซนตเิ มตร) 9.5 ขนึ้ ไป 7.5-9.0 2.0-7.0 (-1.0)-1.5 (-1.5) ลงมา

ตารางที่ 17 เกณฑ์มาตรฐานสมรรถภาพทางกายนักเรยี นหญิงอายุ 11 ปี

รายการ ดีมาก ดี ปานกลาง ตา่ ต่ามาก

1. วิ่ง 50 เมตร (นาท)ี 7.49 ลงมา 7.5-8.69 8.70-11.10 11.11- 12.31 ข้นึ ไป

12.30

2. ยืนกระโดดไกล (เซนตเิ มตร) 173 ข้ึนไป 157-172 124-156 109-123 108 ลงมา

3. แรงบบี มือท่ีถนัด (กโิ ลกรัม) 21.9 ขน้ึ ไป 19.1-21.8 13.3-19.0 10.4-13.2 10.3 ลงมา

4. ลกุ -น่ัง 30 วนิ าที (คร้ัง) 20 ขน้ึ 17-19 11-16 8-10 7 ลงมา

5. งอแขนห้อยตัว (วินาที) 10.05ขนึ้ 7.09- 1.16-7.08 0.01-1.15 0

ไป 10.04

6. วิ่งเกบ็ ของ (วินาที) 9.06 ลงมา 9.07- 11.24- 15.59- 17.76 ขน้ึ ไป

11.23 15.58 17.75

7. วง่ิ 600 เมตร (นาที) 2.35 ลงมา 2.34-2.57 2.58-3.45 3.46-4.09 4.10 ขึ้นไป

8. งอตวั ข้างหนา้ (เซนตเิ มตร) 10.5 ขน้ึ ไป 9.0-10.0 2.0-8.0 (-0.5)-1.5 (-1.0) ลงมา

แบบสรปุ สัดส่วนของร่างกายนกั เรยี น 15
ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 5 โรงเรียนบ้านรางจิก
หมายเหตุ
เลขท่ี ช่อื - นามสกลุ สดั สว่ นของน้าหนักและส่วนสูง
ผอม สมส่วน อว้ น
1 เดก็ ชายณัฐนนท์ ชชู ีพ
2 เด็กชายชัยพร บุญเชดิ
3 เด็กหญิงอันนา ปเู ชียงแดง
4 เด็กหญงิ ชลลดา มณโี ชติ
5 เด็กหญิงทิพยาภรณ์ แสวงธรรม
6 เดก็ ชายวงศธร เกา้ แพ
7 เด็กชายวชั ระ ฟักทอง
8 เดก็ ชายวรากร รอดคล้าย
9 เดก็ ชายนที สืบนาค
10 เด็กหญงิ พมิ พช์ นก เทา่ เทยี ม
11 เดก็ ชายกฤติศกั ดิ์ ฟักทอง
12 เดก็ หญงิ ศภุ สุตา เอกจติ ร์
13 เด็กชายเขตโสภณ เอย่ี มตา่ งแดน
14 เด็กหญิงวรรณวสิ า ถา้ ขนี้ าค
15 เด็กชายพีรพล -

รวม
รอ้ ยละ

(ลงชอื่ )………………………….ผู้สรปุ ขอ้ มลู
(……………………………..)

ครูประจาชน้ั ประถมศึกษาปีที่..........
วนั ท่ี.............เดือน..................พ.ศ. ................

16

แบบสรุประดบั สมรรถภาพทางกาย
ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านรางจกิ

เลขท่ี ช่อื - นามสกลุ ระดบั สมรรถภาพทางกายนักเรียน หมายเหตุ
ดมี าก ดี ปานกลาง ตา่ ตา่ มาก
1 เด็กชายณฐั นนท์ ชูชพี
2 เดก็ ชายชยั พร บุญเชิด
3 เดก็ หญิงอันนา ปูเชยี งแดง
4 เด็กหญงิ ชลลดา มณโี ชติ
5 เด็กหญิงทิพยาภรณ์ แสวงธรรม
6 เด็กชายวงศธร เก้าแพ
7 เด็กชายวัชระ ฟกั ทอง
8 เดก็ ชายวรากร รอดคล้าย
9 เด็กชายนที สืบนาค
10 เด็กหญิงพิมพช์ นก เท่าเทียม
11 เดก็ ชายกฤติศักด์ิ ฟกั ทอง
12 เดก็ หญิงศุภสุตา เอกจติ ร์
13 เด็กชายเขตโสภณ เอย่ี มต่างแดน
14 เดก็ หญงิ วรรณวสิ า ถ้าขี้นาค
15 เดก็ ชายพีรพล -

รวม
รอ้ ยละ

คร้งั ที่ 1
(ลงชื่อ)……………………………….ผ้สู รุปข้อมูล

(……………………………………)
ครูประจาชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี....
วันท่ี ..... เดือน..................... พ.ศ. ………..

17

แบบบันทกึ การสังเกตพฤติกรรม
กจิ กรรมทดสอบสมรรถภาพทางกาย
เรือ่ ง การทดสอบสมรรถภาพทางกาย

ช่ือ ความ ระเบยี บ ความ ความ ความ รวม ผลการ
- ตัง้ ใจ วนิ ัย ร่วมมือ สนกุ มีนา้ ใจ คะแนน ประเมนิ
สนาน

เลข ่ที สกุล 0 1 2 0 1 2 0 1 2 0 1 2 0 1 2 10 ผ่าน ไม่
ผ่าน

1. เด็กชายณฐั นนท์ ชูชีพ
2. เดก็ ชายชัยพร บุญเชิด
3. เด็กหญิงอันนา ปูเชยี งแดง
4. เดก็ หญงิ ชลลดา มณีโชติ
5. เดก็ หญิงทิพยาภรณ์ แสวงธรรม
6. เด็กชายวงศธร เก้าแพ
7. เดก็ ชายวัชระ ฟกั ทอง
8. เด็กชายวรากร รอดคล้าย
9. เด็กชายนที สบื นาค
10 เดก็ หญงิ พิมพ์ชนก เทา่ เทียม
11 เดก็ ชายกฤติศักดิ์ ฟักทอง
12 เด็กหญิงศุภสุตา เอกจิตร์
13 เดก็ ชายเขตโสภณ เอีย่ มตา่ งแดน
14 เด็กหญงิ วรรณวิสา ถา้ ข้นี าค
15 เด็กชายพรี พล -

เกณฑ์การให้คะแนน

ปฏิบัตติ นในแต่ละรายการได้ดี = 2 คะแนน

ปฏิบัติตนพอได้บ้างในแต่ละรายการ = 1 คะแนน

ปฏบิ ตั ิตนไม่ได้ในแตล่ ะรายการ = 0 คะแนน

ถอื เกณฑผ์ า่ นร้อยละ

18

ขั้นที่ 4 การปรบั ปรงุ (ACT/ACTION)

- มีการปรับปรุง พัฒนากิจกรรมในการทดสอบสมรรถภาพ และมีการเพิ่มท่าทางแม่ไม้มวยไทย
มากกวา่ 10 ท่า และเพมิ่ กจิ กรรมท่ีส่งเสรมิ ด้านสุขภาพอนามัยเข้าไปดว้ ย เพื่อใหเ้ กิดแรงจูงใจใน
การปฏิบัติให้เกิดผลสาเร็จ บรรลุวัตถุประสงค์ และเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพประสิทธิผลในการ
ดาเนนิ กจิ กรรมแลว้ นาไปส่สู ขุ ภาพรา่ งกาย สขุ ภาวะทดี่ ี อารมณ์และจติ ใจท่ีดี

4. ผลการดาเนนิ งาน/ผลสัมฤทธ/์ิ ประโยชนท์ ไี่ ดร้ ับ
ผลของการดาเนนิ การ
ผลที่เกิดข้นึ กบั นกั เรียน
นักเรียนมีพัฒนาการ น้าหนัก ส่วนสูง ตามเกณฑ์มาตรฐาน สุขภาพร่างกายแข็งแรง นักเรียน

มคี วามเชื่อมั่นในตนเอง กลา้ แสดงออก มีมนุษยสัมพนั ธ์ท่ีดี และมสี ขุ ภาวะที่ดีอยา่ งสมดุล
ผลทเ่ี กิดกับครู
การพัฒนาตนเองตามหน้าท่ีและคณุ ลักษณะพึงประสงค์ของโรงเรียน และมีส่วนร่วมในการพัฒนางาน

ส่งผลให้ครูมีปฏิสัมพันธ์ท่ีดีต่อนักเรียน มีน้าใจต่อเพ่ือนครูต่อเพื่อนครูด้วยกัน แบ่งปันสื่อการสอน ใช้สื่อการ
สอนรว่ มกันอยา่ งคุ้มค่า รวมถงึ มีการสร้างเครือข่ายร่วมกันภายในโรงเรียน ระหว่างโรงเรยี น และหน่วยงานอื่น
สง่ ผลให้ครูไดร้ ับความไวว้ างใจจากผู้ปกครอง ชุมชน และไดร้ บั รางวัลยกย่องเชดิ ชูเกียรติจากหนว่ ยงานต่าง ๆ

ผลทเ่ี กิดกับผ้บู รหิ าร
ผู้บริหารให้ความสาคัญต่อการพัฒนาโรงเรียนด้านสุขภาพอนามัยของนักเรียน เป็นผู้นาในการ
ขับเคล่ือนพัฒนาโรงเรียนภายใต้การบริหารงานแบบมีส่วนร่วม มีความรับผิดชอบ ปฏิบัติหน้าที่ตรงเวลาและ
เต็มเวลา มีภาวะผู้นา แต่งกายตามระเบียบและข้อตกลงของโรงเรียน ใช้จ่ายอย่างประหยัด และบริหาร
ทรพั ยากรทมี่ ีอยู่อยา่ งคุม้ ค่าเกิดประโยชนส์ ูงสดุ ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดแี กผ้ ู้ใต้บังคับบัญชา มสี มรรถนะใน
การบรหิ ารจดั การอย่างเป็นระบบจนเป็นที่ประจกั ษ์ชดั และเปน็ ท่ยี อมรบั จากสังคม
ผลท่ีเกดิ กับโรงเรียน
จากการท่ีโรงเรียนมีเป้าหมายในการพัฒนาโรงเรียนด้านวิชาการแล้ว ก็ยังมีการพัฒนาทางด้าน
ร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ทดี่ ีให้แก่นักเรียน มที ศิ ทางในการดาเนินงานชัดเจน โดยมกี ารจดั กิจกรรมทีส่ ่งเสริม
สุขภาพด้านต่าง ๆ อย่างเป็นรูปธรรม และนักเรียนได้มีส่วนร่วมในการปฏิบัติกิจกรรม ทาให้ผลการดาเนินงาน
เป็นท่ียอมรับจากคณะกรรมการสถานศึกษา ผู้ปกครอง ชุมชน และหน่วยงานภายนอก โดยเห็นได้จากความ
ร่วมมือจากชุมชนท้ังกาลังกายและกาลังทรัพย์ เช่น หาครูมวยมาสอน และการให้สนับสนุนรางวัล
ทุนการศกึ ษา แกน่ กั เรยี นที่มคี วามประพฤตดิ ี สขุ ภาพร่างกายแข็งแรง ตลอดจนให้ขวญั กาลังใจด้วยการยกย่อง
ชมเชยทงั้ ครแู ละนกั เรียน
ผลท่เี กดิ กบั ครอบครวั ของนกั เรียน
จากการทโ่ี รงเรียนมีเปา้ หมายในการพัฒนาโรงเรียนสขุ ภาพอนามยั ของนักเรยี นแล้ว ส่งผลให้โรงเรียน
ได้รับเสียงสะท้อนจากผู้ปกครองว่า บุตรหลานมีการเปล่ียนแปลงพฤติกรรมไปในทางท่ีดีขึ้น มีการออกกาลัง
กายที่บา้ น หรอื ใชเ้ วลาวา่ งฝกึ คตี ะมวยไทย

19

5. ปจั จัยความสาเร็จ
สอ่ื จดั การเรียนการสอน เทคโนโลยี กจิ กรรมการเรียน
นักเรยี นโรงเรยี นบ้านรางจิก
คณะครูและบุคลากรทางการศึกษาทกุ ท่าน
พอ่ แม่ และผู้ปกครองที่ดแู ลบตุ รหลาน
คณะกรรมการสถานศึกษาขน้ั พน้ื ฐานทุกท่าน
ชมุ ชนบ้านรางจกิ และชมุ ชนบา้ นโมกมนั
นางสพุ ัตรา เหล่าหม้นั รักษาการในตาแหนง่ ผอู้ านวยการโรงเรียนบ้านรางจิก
สานักงานเขตพนื้ ทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษากาญจนบรุ ี เขต 1

6. บทเรยี นทไี่ ดร้ บั (Lesson Learned)
การได้รับองค์ความรู้ท่ีเป็นผลมาจากการปฏิบัตงิ านรว่ มกันอย่างมุ่งม่ันตั้งใจ เพื่อส่งเสริมและ

สนับสนุนนักเรียนให้มีสุขภาพร่างกายท่ีแข็งแรง มีสุขภาวะที่สมบูรณ์ คือ สมบูรณ์ทั้งทางกาย ทางจิต ทาง
ปัญญา และทางสงั คม เช่ือมโยงกนั เป็นองค์รวมอย่างสมดุล

7. การเผยแพร/่ การได้รับการยอมรับ/รางวลั ท่ีได้รบั
การเผยแพร่
7.1 การเผยแพร่ การประชาสมั พนั ธ์กิจกรรมในโอกาสต่าง ๆ
7.2 จดั มุมนาเสนอผลงานในช้นั เรยี น และในโรงเรียน
7.3 เวบ็ ไซตโ์ รงเรียน https://sites.google.com/view/banrangjik/home

รางวัลทไี่ ด้รับ (ภาคผนวก)
-ไดร้ ับรางวัลชนะเลิศ คตี ะมวยไทย งานศลิ ปะหตั กรรมนักเรยี นเมอื่ วันที่ 24-25 ตลุ าคม 2562
ระดบั เขตพน้ื ทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษากาญจนบุรี เขต 1

20

เอกสารอา้ งอิง

 กองกาลังกายเพอ่ื สขุ ภาพ.หลักสตู รผนู้ าออกกาลังกายมวยไทย เพ่ือสุขภาพ. กรมอนามยั กระทรวง
สาธารณสุข.2552

 อรอนงค์ กลุ ะพัฒน์. ข้อแนะนาการออกกาลงั กายเพ่ือปอดและหวั ใจ. กองออกกาลังกายเพอื่ สุขภาพ.
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข.2546

 สกุ ัญญา พาณิชเจริญนาม. สนกุ บนความสุขกับการเต้นแอโรบิก. BLA Happy Life Aerobics.
จดั พมิ พ์โดย บริษทั กรุงเทพประกันชีวติ จากัด (มหาชน)

 www.agronline.com/gol/detail/96200000074482
 www.gotoknow.org/posts/473983
 www.planning.tsu.ac.th/main/files_sec/060620190808 แผนยุทธศาสตรช์ าติ-แผนแม่บท

ภาคผนวก

เกียรติบตั รชนะเลิศ คีตะมวยไทย งานศลิ ปหัตถกรรมนักเรียน ครัง้ ท่ี 69 ( ครผู ู้สอน)

เกยี รติบัตรชนะเลิศ คีตะมวยไทย งานศลิ ปหัตถกรรมนกั เรยี น คร้ังท่ี 69 (นักเรยี น)

ภาคผนวก (ตอ่ )

เกยี รตบิ ัตรชนะเลศิ คตี ะมวยไทย งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน คร้งั ที่ 69 (นักเรยี น)

บรรยากาศกอ่ นแข่ง

สานักงานเขตพื้นท่ีการศกึ ษาประถมศึกษากาญจนบุรี เขต 1