รายงาน
เรื่อง ตะกร้อ
ผ้จู ดั ทาํ
ด.ญ. อารยา อาสานอก ม.3/2 เลขที่ 38
เสนอ
คณุ ครู ปราโมทย์ กลนิ่ หอมรื่น
รายงานเลม่ นีเ้ป็ นสว่ นหนงึ่ ในการศกึ ษา
รายวชิ าพลศกึ ษา ภาคเรียนที่ 2 ปี การศกึ ษา 2565
โรงเรียนองค์การบริหารสว่ นตาํ บลคาํ พร้อย ๑ bkp 1 school
คํานํา
รายงานลม่ นีจ้ ดั ขนึ ้ เพ่ือเป็นสว่ นหนง่ึ ของวชิ าพลศกึ ษาชนั้
มธั ยมศกึ ษา ปี ที่ 3 เพ่ือให้ได้ความรู้ กติกา และประวตั กิ าร
เลน่ ตะกร้อ ได้ออยา่ งเข้าใจในการศกึ ษา
ผ้จู ดั ทําหวงั เป็นอยา่ งยิง่ วา่ รายงานเลม่ นีจ้ ะเป็นประโยชน์
กบั ผ้ศุ กึ ษาท่ีกําลงั หาข้อมลู ในเร่ืองนีอ้ ยหู่ ากมีข้อผิดพลาด
ประการใดต้องขออภยั ไว้นะทนี่ ีด้ ้วย
ผ้จู ดั ทํา
อารยา อาสานอก
สารบญั หน้า
เร่ือง ก
ข
คํานํา 1
สารบญั 2 - 22
ประวตั กิ ีฬาตะกร้อ 23
กฎและกตกิ า
บรรณานกุ รม
ประวตั กิ ีฬาตะกร้อ
ตะกร้อ เป็ นการเลน่ ของไทยมาแตโ่ บราณ แตไ่ มม่ ี
หลกั ฐานแนน่ อนวา่ มีมาตงั้ แตส่ มยั ใด แตค่ าดวา่ ราวๆ
ต้นกรุงรัตนโกสินทร์ประเทศอ่ืนที่ใกล้เคียงก็มีการเลน่
ตะกร้อ คนเลน่ ไมจ่ ํากดั จํานวน เลน่ เป็ นหม่หู รือเดีย๋ วก็ได้
ตามลานที่ กวา่ งพอสมควร ตะกร้อที่ใช้เดมิ ใช้หวายถกั
เป็ นลกู ตะกร้อ ปัจจบุ นั ใช้ลกู ตะกร้อท่ีทํามาจาก
พลาสตกิ
กติกา
ข้อท่ี 1. สนามแข่งขัน ( THE COURT )
1.1 พืน้ ที่ของสนามมีความยาว 13.40 เมตร และกว้าง
6.10 เมตร จะต้องไมม่ ีส่งิ กีดขวางใดๆ เมื่อวดั จากพืน้
สนามสงู ขนึ ้ ไป 8 เมตร (พืน้ สนามไมค่ วรเป็นสนามหญ้าหรือ
สนามทราย )
1.2 เส้นสนาม ขนาดของเส้นสนามทกุ เส้นท่ีเป็ นขอบเขต
ของสนามต้องไมก่ ว้างกวา่ 4 เซนติเมตร ให้ตีเส้นจากกรอบ
นอกเข้ามาในสนามและถือเป็นสว่ นของพืน้ ที่สนามแขง่ ด้วย
เส้นเขตสนามทกุ เส้นต้องหา่ งจากส่ิงกีดขวางอยา่ งน้อย 3
เมตร
1.3 เส้นกลาง มขี นาดกว้างของเส้น 2 เซนตเิ มตร โดยจะ
แบง่ พืน้ ที่ของสนามออกเป็นด้านซ้ายและด้านขวาเทา่ ๆกนั
1.4 เส้นเสยี ้ ววงกลม ที่มมุ ของสนามของแตล่ ะด้านตรงเส้น
กลางให้จดุ ศนู ย์กลางอยทู่ ่ีก่งกลางของเส้นกลางตดั กบั ขอบ
ด้านในของเส้นข้าง เขียนเส้นเสีย้ ววงกลมทงั้ สองด้านรัศมี
90 เซนติเมตร ให้ตีเส้นนขนาดความกว้าง 4 เซนตเิ มตร
นอกรัศมี 90 เซนตเิ มตร
1.5 วงกลมเสริ ์ฟ ให้รัศมี 30 เซนตเิ มตร โดยวดั จากจดุ กง
กลางของเส้นหลงั ไปในสนาม 2.45 เมตร และวดั จากขอบ
ด้านนอกของเส้นข้างไปในสนาม 3.05 เมตร แ ละวดั จาก
ขอบด้านนอกของเส้นข้างเข้าไปในสนาม 3.05 เมตร ใช้
ตรงจดุ ตดั จากเส้นหลงั และเส้นข้างเป็นจดุ ศนู ย์กลาง ให้เขียน
เส้นวงกลมขนาดความกว้าง 4 เซนติเมตร นอกเขตรัศมี 30
เซนตเิ มตร ( ดรู ูปขนาดสนามจากภาคผนวก )
ข้อท่ี 2. เสา ( THE POSTS )
2.1 เสามีความสงู 1.55 เมตร ( ผ้หู ญิง 1.45 เมตร )
ตงั้ อยอู่ ยา่ งมนั่ คงพอทีจ่ ะทําให้ตาข่ายตงึ โดยต้องทําจาก
วสั ดทุ ่ีมีความแขง็ แกร่งและมรี ัศมีไมเ่ กิน 4 เซนตเิ มตร
2.2 ตําแหนง่ ของเสา ให้ตงั้ หรือวางไว้อยา่ งมน่ั คงนอกสนาม
ตรงกบั แนวเส้นกลาง หา่ งจากเส้นข้าง 30 เซนติเมตร
ข้อท่ี 3. ตาข่าย ( THE NET )
3.1 ตาขา่ ยให้ทําด้วยเชือกอย่างดีหรือไนลอ่ น มีรูตาขา่ ย
กว้าง 6 – 8 เซนตเิ มตร ความกว้างของผืนตาข่าย 70
เซนติเมตร และความยาวไมน่ ้อยกวา่ 6.10 เมตร ให้มีวสั ดุ
ที่ทําเป็นแถบ ขนาดความกว้าง 5 เซนติเมตร ตรงด้านข้าง
ของตาขา่ ยทงั้ สองด้านจากด้านบนถึงด้านลา่ งตรงกบั แนว
เส้นข้างซงึ่ เรียกวา่ “แถบแสดงเขตสนาม”
3.2 ตาขา่ ยให้มีขนาดความกว้าง 5 ซนตเิ มตร ทงั้ ด้านบน
และด้านลา่ ง โดยมีเชือกธรรมดาหรือเชือก ไนลอ่ นอยา่ ง
ดี ร้อยผา่ นแถบและขงึ ตาข่ายให้ตงึ เสมอระดบั หวั เสา ความ
สงู ของตาข่ายโดยวดั จากพืน้ ถงึ สว่ นบนของตาขา่ ยท่ีกงึ่ กลาง
สนามมีความสงู 1.52 เมตร ( ผ้หู ญิง 1.42 เมตร ) และ
วดั ตรงเสาทงั้ สองด้านมีความสงู 1.55 เมตร (
ผ้หู ญิง 1.45 เมตร )
ข้อท่ี 4 ลูกตะกร้อ ( THE SEPAKTRAKRAW
BALL’ )
ลกู ตะกร้อต้องมีลกั ษณะเป็นทรงกลม ทําด้วยหวายหรือใย
สงเคราะห์ชนั้ เดียวมี 12 รู กบั 20 จดุ ตดั ไขว้ หากทําด้วย
หวายต้องมีจํานวน 9 – 11 เส้น ขนดของเส้นรอบวงต้องไม่
น้อยกวา่ 42 เซนตเิ มตร และไมม่ ากกวา่ 44 เซนตเิ มตร (
ผ้หู ญิง 43 – 45 เซนติเมตร) นํา้ หนกั ก่อนใช้แขง่ ขนั ต้องไม่
น้อยกวา่ 170 กรัม และไมเ่ กินกวา่ 180 กรัม ( ผ้หู ญิง
150 – 160 กรัม )
ข้อท่ี 5 ผู้เล่น ( THE PLAYERS )
5.1 การแขง่ ขนั มี 2 ทีม ประกอบด้วยผ้เู ลน่ ฝ่ ายละ 3 คน
5.2 ผ้เู ลน่ หนงึ่ ในสามคนจะเป็นผู้ เสริ ์ฟลกู และอยดู่ ้านหลงั
เรียกวา่ “ผ้เู สริ ์ฟ” “Server ( Tekong )”
5.3 ผ้เู ลน่ อีกสองคนอยดู่ ้านหน้า โดยคนหนงึ่ จะอยดู่ ้านซ้าย
เรียกวา่ “หน้าซ้าย” ( left inside ) และคนทีอ่ ยู่
ด้านขวาเรียกวา่ “หน้าขวา” ( night inside )
ข้อท่ี 6. เคร่ืองแต่งกายของผู้เล่น ( PLAYER
ATTIRE)
6.1 สาํ หรับผ้ชู ายต้องสวมเสือ้ ยืด กางเกงขาสนั้ ( สาํ หรับ
ผ้หู ญิงให้สวมเสือ้ ยืดมีแขนและกางเกงขาสนั้ ระดบั เขา่ ) และ
รองเท้ากีฬาพืน้ ยาง ( ถงุ เท้าด้วย ) ห้ามผ้เู ลน่ สวมส่ิงอื่นใดที่
จะเป็นอนั ตรายแกฝ่ ่ ายตรงข้ามในระหวา่ งการแข่งขนั กรณีที่
อากาศหนาวอนญุ าตให้ผ้เู ลน่ สวมชดุ วอร์มแข่งขนั ได้
6.2 สว่ นตา่ งๆของเครื่องแตง่ กายของผ้เู ลน่ ถือเป็นสว่ นหนงึ่
ของร่างกายและชายเสอื ้ จะต้องอยใู่ นกางเกงตลอดเวลาการ
แข่งขนั
6.3 สิง่ ใดกต็ ามที่จะชว่ ยเร่งความเร็วของลกู ตะกร้อ หรือ
ชว่ ยในการเคลือ่ นท่ีของผ้เู ลน่ ไม่อนญุ าตให้ใช้
6.4 หวั หน้าทีม ( captian) จะต้องใสป่ ลอกแขน ที่แขน
เสอื ้ ด้านซ้าย
6.5 เสอื ้ ของผ้เู ลน่ ทกุ คนจะต้องติดหมายเลขด้านหลงั ให้เหน็
ได้ชดั เจนให้แตล่ ะทีมใช้หมายเลข 1 – 15 เทา่ นนั้ มีขนาด
ความสงู ไมน่ ้อยกวา่ 19 เซนติเมตร ซงึ่ กําหนดให้ผ้เู ลน่
จะต้องมีเพียงหมายเลขเดียวตลอดการแข่งขนั (
tournament )
ข้อท่ี 7. การเปล่ียนตัวผู้เล่น ( SUBSTITUTION )
7.1ผ้เู ลน่ คนใดที่ได้ลงแข่งขนั ในแตล่ ะทีม หรือได้เปล่ยี นตวั
ไปแล้วจะไมอ่ นญุ าตให้ลงแข่งในทีม ( regu )อื่นๆอกี
สําหรับการแข่งขนั ประเภททีมชดุ ( team ) เฉพาะครัง้
นนั้ ๆ
7.2 การเปลีย่ นตวั ผ้เู ลน่ จะกระทําเวลาใดก็ได้ โดยผ้จู ดั การ
ทีมยื่นขอตอ่ กรรมการผ้ชู ีข้ าด เม่ือลกู ตะกร้อไมไ่ ด้อยใู่ นการ
เลน่ ( ลกู ตาย )
7.3 แตล่ ะทีม ( regu ) มีผ้เู ลน่ สาํ รองไมเ่ กิน 2 คน แต่
อนญุ าต ให้เปลี่ยนตวั ผ้เู ลน่ ได้ 1 คนเทา่ นนั้
7.4 ผ้เู ลน่ คนใดถกู ผ้ตู ดั สินให้ออกจากการแข่งขนั จะได้รับ
อนญุ าตให้เปลยี่ นตวั ผ้เู ลน่ ได้ ถ้าหากวา่ ยงั มิได้มีการ
เปล่ียนตวั
7.5 ทีมใด ( regu ) มีผ้เู ลน่ น้อยกวา่ 3 คน จะไมอ่ นญุ าต
ให้ทําการแขง่ ขนั และปรับทีมนนั้ เป็นแพ้การแข่งขนั
ข้อท่ี 8 เจ้าหน้าท่ี ( OFFICIALS )
กีฬาเซปักตะกร้อ มีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการแข่งขนั
ดงั ตอ่ ไปนี ้
8.1 กรรมการผ้ชู ีข้ าด 1 คน
8.2 กรรมการผ้ตู ดั สนิ 2 คน ( ผ้ตู ดั สนิ 1 คนผ้ชู ่วยผ้ตู ดั สนิ
1 คน )
8.3 กรรมการผ้กู ํากบั เส้น 6 คน ( กํากบั เส้นข้าง 4 คน และ
กํากบั เส้นหลงั 2 คน
ข้อท่ี 9. การเส่ียงและการอบอุ่นร่างกาย ( THE
COIN TOSS AND WARM UP )
กอ่ นเริ่มการแขง่ ขนั กรรมการผ้ตู ดั สนิ จะทําการเสย่ี ง ผ้ชู นะ
การเสย่ี งมีสทิ ธิ์เลอื กลกู สง่ หรือเลอื กแดนกไ็ ด้ ทีมท่ีชนะการ
เสย่ี งจะเป็นทีมท่ีอบอนุ่ ร่างกายในสนามกอ่ นเป็ นเวลา 2
นาที แล้วตามด้วยทีมที่เหลืออยดู่ ้วย
ตะกร้อท่ีใช้ในการแขง่ ขนั และให้มีบคุ คลอยใู่ นสนามได้ 5
คนเทา่ นนั้ ( ผ้เู ลน่ ตวั จริง 3 คน และหรือ ผ้จู ดั การทีม ผู้
ฝึกสอนและผ้เู ลน่ สํารอง )
ข้อท่ี 10. ตาแหน่งของผู้เล่นระหว่างการส่งลูก (
OSITION OF PLAYERS DURING SERVICE
)
10.1 เมื่อเริ่มผ้เู ลน่ ทงั้ สองทีม ( both regus ) ต้องยืน
อยใู่ นท่ีท่กี ําหนไว้ในแดนของตน ลกั ษณะที่เตรียมพร้อม
10.2 ผ้เู สริ ์ฟ ( tekong ) ต้องวางเท้าหลกั อยใู่ น
วงกลมเสริ ์ฟ
10.3 ผ้เู ลน่ ด้านหน้าทงั้ สองคนของฝ่ ายเสริ ์ฟจะต้องยืนอยู่
ในเสยี ้ ววงกลมตนเอง
10.4 ผ้เู ลน่ ฝ่ ายตรงข้ามจะยืนอยทู่ ี่ใดก็ได้ในแดนของตน
ข้อท่ี 11. การเร่ิมเล่นและการส่งลูก ( THE START
OF PLAY AND SERVICE )
11.1 การเริ่มเลน่ ให้ฝ่ ายท่ีได้เสริ ์ฟ เป็น
ฝ่ ายสง่ ลกู ก่อนในเซตแรก ทีมที่ชนะในเซตแรกจะได้รับสทิ ธิ์
เลือกการเสริ ์ฟในเซตที่ 2
11.2 เม่ือกรรมการผ้ตู ดั สินขานคะแนน
แล้ว ถือเป็นการเริ่มเลน่ ผ้โู ยนจะต้องโยนลกู ตะกร้อออกไปให้
ผ้เู สิร์ฟลกู หากผ้โู ยนโยนลกู ตะกร้อออกไปก่อนกรรมการผู้
ตดั สนิ ขานคะแนนต้องโยนใหม่ และต้องเตือนผ้โู ยนนนั้
11.3 ระหวา่ งการเสริ ์ฟ ในทนั ทีที่ผ้เู สิร์ฟ
ได้เตะลกู ตะกร้อแล้วผ้เู ลน่ ทกุ คนสามารถเคล่อื นท่ีในแดนของ
ตนได้
11.4 การเสิร์ฟที่ถกู ต้อง เมื่อลกู ตะกร้อ
ได้ข้ามไปยงั ฝ่ ายตรงข้ามระหวา่ งแถบตาขา่ ย ไม่วา่ จะสมั ผสั
ตาข่ายหรือไมก่ ็ตาม ต้องให้ลกู ตกสพู่ ืน้ อยใู่ นขอบเขตของ
สนาม
ข้อท่ี 12. การผิดกตกิ า ( FAULTS )
12.1 สําหรับผ้เู ลน่ ฝ่ ายเสิร์ฟ ระหวา่ งการเสริ ์ฟ
12.1.1 ผ้เู ลน่ หน้า คนท่ีทําหน้าที่โยนลกู กระทําอยา่ งใด
อยา่ งหนงึ่ โดยไม่ได้โยนให้ผ้เู สริ ์ฟเตะลกู สง่ เช่น โยนลกู เลน่
เคาะลกู เลน่ โยนลกู ให้ผ้เู ลน่ หน้าอีกคน ฯลฯ หลงั จากผ้ตู ดั สิน
ขานคะแนนแล้ว
12.1.2 ผ้เู ลน่ หน้ายกเท้าหรือเหยียบเส้น หรือถกู ตาข่าย
หรือสว่ นของร่างกายลาํ ้ เข้าไปในแดนฝ่ ายตรงข้ามขณะทีโ่ ยน
ลกู
12.1.3 ผ้เู สริ ์ฟ กระโดดเสริ ์ฟ
12.1.4 ผ้เู สิร์ฟไมไ่ ด้เตะลกู ท่ีโยน
12.1.5 ลกู ตะกร้อถกู ผ้เู ลน่ ฝ่ ายเดียวกนั ก่อนข้ามตาข่าย
12.1.6 ลกู ตะกร้อข้ามตาข่ายแตอ่ อกนอกเขตสนาม
2.1.7 ลกู ตะกร้อไมข่ ้ามตาข่าย
12.2 สาํ หรับผ้เู ลน่ ฝ่ ายรับ ระหวา่ งการเสริ ์ฟ เจตนากระทาํ
ในลกั ษณะท่ีทําให้ฝ่ ายเสิร์ฟลกู เสียสมาธิ หรือสง่ เสยี งรบกวน
หรือร้ องตะโกน
12.3 สําหรับผ้เู ลน่ ทงั้ สองฝ่ าย ระหวา่ งการแขง่ ขนั
12.3.1 ถกู ลกู ตะกร้อในแดนฝ่ ายตรงข้าม
12.3.2 สว่ นใดสว่ นหนงึ่ ของร่างกายลาํ ้ เข้าไปในแดนของ
ฝ่ ายตรงข้ามไมว่ ่าจะเป็นด้านบนหรือด้านลา่ งของตาขา่ ย
ยกเว้นการติดตามลํา้ ตาขา่ ยหรืการลงสพู่ ืน้ ภายหลงั การเลน่
ลกู ( follow through )
12.3.3 เลน่ ลกู เกิน 3 ครัง้
12.3.4 ลกู ถกู มือหรือแขน
12.3.5 หยดุ ลกู หรือยดึ ลกู ไว้ใต้แขน ระหวา่ งขาหรือลําตวั
12.3.6 สว่ นหนง่ึ ของร่างกายหรืออปุ กรณ์ของเคร่ืองแตง่
กายผ้เู ลน่ ถกู ตาข่ายหรือถกู เสาหรือถกู เก้าอีก้ รรมการผู้
ตดั สนิ หรือตกลงในพืน้ ที่ฝ่ ายตรงข้าม
12.3.7 ลกู ตะกร้อถกู เพดาน หลงั คา ผนงั หรือสิ่งกีดขวาง
อ่ืนๆ
ข้อท่ี 13. การนับคะแนน ( SCORING SYSTEM )
13.1 ไมว่ า่ จะเป็นฝ่ ายเสริ ์ฟหรือฝ่ ายรับก็ตาม เม่ือมีการทํา
ผดิ กติกาเกิดขนึ ้ ( fault ) ฝ่ ายตรงข้ามจะได้คะแนนทนั ที
และจะเป็นฝ่ ายเสริ ์ฟตอ่ ไป
13.2 ทีมที่ชนะการแข่งขนั ในแต่ละเซตจะต้องทําคะแนนได้
21 คะแนน แตถ่ ้าคะแนนเทา่ กนั ที่ 20 : 20 ผ้ชู นะจะต้อง
มีคะแนนตา่ งกนั 2 คะแนนและคะแนนสงู สดุ ไม่เกิน 25
คะแนน เมื่อคะแนน 20 เทา่ ผ้ตู ดั สนิ ต้องขานวา่ “ดวิ ส์
ค”ู่ ไมเ่ กิน 25 แต้ม
13.3 การแขง่ ขนั จะต้องชนะกนั 2 เซต โดยมีการพกั
ระหวา่ งเซต 2 นาที
13.4 ถ้าแตล่ ะทีมชนะกนั ทีมละ 1 เซต จะต้องทําการแขง่
ในเซตที่ 3 ซงึ่ เรียกวา่ “ไทเบรค” โดยแขง่ ขนั กนั 15
คะแนน แตถ่ ้าคะแนนเทา่ กนั ท่ี 14 : 14 ผ้ชู นะจะต้องมี
คะแนนตา่ งกนั 2 คะแนน และคะแนนสงู สดุ ไมเ่ กิน 17
คะแนน เม่ือคะแนน 14 เทา่ ผ้ตู ดั สนิ ต้องขานวา่ “ดวิ ส์ค่”ู
ไมเ่ กิน 17 แต้ม
13.5 กอ่ นเร่ิมการแขง่ ขนั ในเซตที่ 3 ผ้ตู ดั สินต้องทาํ การ
เส่ยี ง ผ้ชู นะในการเสย่ี งจะได้สทิ ธ์ิเลอื กการเสริ ์ฟและให้มีการ
เปลยี่ นแดนเม่ือฝ่ ายใดฝ่ ายหนงึ่ ทําคะแนนได้ 8 คะแนน
ข้อท่ี 14. การขอเวลานอก ( TIME OUT )
แตล่ ะทีม ( regu ) สามารถขอเวลานอกได้เซตละ 1 ครัง้
เป็นเวลา 1 นาที โดยให้ผ้จู ดั การทีมหรือผ้ฝู ึกสอนขอเวลา
นอกตอ่ กรรมการผ้ตู ดั สนิ เมื่อลกู ตระก้อไมไ่ ด้อยใู่ นการเลน่
และมีบคุ คลในระหวา่ งการขอเวลานอกได้ 5 คน ที่บริเวณ
ท้ายสนามของแตล่ ะด้าน
ข้อท่ี 15. อุบตั เิ หตุและการหยุดการแข่งขัน (
TEMPORARY SUSPENSION OF PLAY )
15.1 กรรมการผ้ตู ดั สนิ สามารถหยดุ การแขง่ ขนั ได้ไมเ่ กิน 5
นาที เนื่องจากมีส่ิงกีดขวางหรือรบกวนการแข่งขนั หรือผ้เู ลน่
เกิดบาดเจ็บและต้องได้รับการดแู ลทนั ที
15.2 การหยดุ พกั สาํ หรับผ้เู ลน่ ท่ีได้รับบาดเจ็บถือเป็นเวลา
นอก สําหรับการบาดเจ็บอนญุ าตให้พกั การแขง่ ขนั ได้ไมเ่ กิน
5 นาที ภายหลงั จากหยดุ ครบ 5 นาทีแล้ว ผ้เู ลน่ คนนนั้ ไม่
สามารถทําการแขง่ ขนั ตอ่ ได้ จะต้องทาํ การเปลย่ี นตวั ผ้เู ลน่
นนั้ ออก ถ้าเกิดกรณีท่ีมีการเปล่ียนตวั ผ้เู ลน่ ไปแล้ว ให้ปรับทีม
นนั้ เป็นแพ้ และให้ฝ่ ายตรงข้ามชนะการแข่งขนั ในครัง้ นนั้
15.3 ในระหวา่ งหยดุ พกั การแขง่ ขนั ผ้เู ลน่ ทกุ คนต้องอยใู่ น
สนามและไมอ่ นญุ าตให้ดื่มนํา้ หรือได้รับการชว่ ยเหลอื ใดๆ
ทงั้ สนิ ้
ข้อท่ี 16. วนิ ัยและมารยาทในการแข่งขัน (
DISCIPLINE )
16.1 ผ้เู ลน่ ทกุ คนจะต้องปฏิบตั ติ ามกติกาการแขง่ ขนั
16.2 ในระหว่างการแขง่ ขนั จะอนญุ าตให้หวั หน้าทีมเทา่ นนั้
เป็นผ้ตู ดิ ตอ่ หรือซกั ถามตอ่ กรรมการผ้ตู ดั สนิ ( ในลกั ษณะ
สขุ ภาพ )
ข้อท่ี 17. ความผิดและบทลงโทษ ( PENALTY )
17.1 ความผิดที่ถกู ตกั เตือน
ผ้เู ลน่ ที่กระทําความผดิ จะต้องถกู ตกั เตือนและได้รับบตั ร
เหลอื งใน 6 กรณีดงั ตอ่ ไปนี ้
17.1.1 ปฏบิ ตั ิตนไมม่ ีนํา้ ใจนกั กีฬา
17.1.2 แสดงกิริยาและวาจาไมส่ ภุ าพ
17.1.3 ไมป่ ฏิบตั ิตามกฎ กติกาการแข่งขนั
17.1.4 ถ่วงเวลาการแขง่ ขนั
17.1.5 เข้าหรือออกสนาม โดยไมไ่ ด้อนญุ าตจากผ้ตู ดั สิน
17.1.6 เจตนาเดินออกไปจากสนาม โดยไมไ่ ด้รับอนญุ าต
จากผ้ตู ดั สิน
17.2 ความผิดท่ีถกู ให้ออกจากการแขง่ ขนั
ผ้เู ลน่ ที่กระทําความผิดถกู ให้ออกจากการแขง่ ขนั และได้รับ
บตั รแดงมี 5 กรณี ดงั ตอ่ ไปนี ้
17.2.1 กระทําผดิ กติกาอยา่ งร้ายแรง
17.2.2 ประพฤติร้ายแรงโดยเจตนาทําให้คตู่ อ่ ส้บู าดเจ็บ
17.2.3 ถม่ นํา้ ลายใสฝ่ ่ ายตรงข้ามหรือผ้อู ่ืน
17.2.4 ทําความผิดอยา่ งร้ายแรงโดยสบประมาทหรือดถู กู
และหรือแสดงกิริยาที่ไมเ่ หมาะสมไปยงั ฝ่ ายตรงข้าม
17.2.5 ได้รับการเตือนด้วยบตั รเหลืองเป็ นครัง้ ท่ี 2 ใน
การแขง่ ขนั ครัง้ นนั้
17.3 ผ้เู ลน่ ท่ีกระทําผดิ ถกู เตือนหรือให้ออกจากการ
แขง่ ขนั ไมว่ า่ จะเป็นความผิดทงั้ ในหรือนอกสนามแข่งขนั ผู้
เลน่ ฝ่ ายเดียวกนั กรรมการผ้ตู ดั สิน ผ้ชู ว่ ยผ้ตู ดั สนิ หรือบคุ คล
อ่ืนๆให้พจิ ารณาลงโทษตามความผดิ ที่ได้กระทําขนึ ้
ข้อท่ี 18. ความผิดขอเจ้าหน้าท่ีทีม ( MISCONDCT
OF OFFICIALS )
ในระหวา่ งการแข่งขนั หากทีมหรือเจ้าหน้าท่ีของทีมคนหนง่ึ
คนใดกระทําความผดิ เก่ียวกบั วินยั และมารยาท ทงั้ ในสนาม
และนอกสนามแข่งขนั เจ้าหน้าที่ทีมหรือทีมนนั้ ๆจะต้องถกู
พิจารณาลงโทษทางวินยั และมารยาท
ข้อท่ี 19. บทท่ัวไป ( GENERAL )
ในการแข่งขนั หากมีปัญหาหรือเร่ืองราวใดๆก็ตามที่เกิดขนึ ้ ใน
ทกุ กรณี ซง่ึ นอกเหนือจากที่มิได้ระบไุ ว้ในกกตกิ าข้อใดๆของ
การแขง่ ขนั ให้ถือคําตดั สินของกรรมการผ้ชู ีข้ าดเป็นท่ีสนิ ้ สดุ
กตกิ าการแข่งขนั ตะกร้อข้ามตาข่ายชองสมาคมกีฬาไทย ใน
พระบรมชปู ถมั ภ์
ตาข่าย
3. ตาข่ายจะต้องทําด้วยด้ายย้อมฝาดเส้นเลก็ มีตา
กว้างยาว 3/4 นิว้ ( 0.019 เมตร ) ตาข่ายจะต้องขงึ ให้ตงึ
จากเสาหนงึ่ ถงึ อีกเสาหน่ึงและจะต้องกว้าง 2 ฟตุ 6 นิว้
(0.76 เมตร) ริมบนของตาข่ายจะต้องหา่ งจากพืน้ สนาม
ตอนจดุ กลางสนาม 5 ฟตุ ( 1.524 เมตร ) และเสาจะต้อง
สงู จากพืน้ สนาม 5 ฟตุ 1 นิว้ ( 1.55 เมตร ) ตอนบนของ
ตาขา่ ยติดแถบสขี าวพบั 2 ขนาดกว้าง 3 นิว้ ( 0.076
เมตร ) มีเชือกหรือลวดร้อยตลอดแถบผ้านี ้และขงึ ตงึ ให้ได้
ระดบั กบั หวั เสาทงั้ สองข้าง
ตะกร้ อ
4. ลกู ตะกร้อจะต้องสานด้วยหวายหรือใยสงั เคราะห์ชนิด 6
เส้นขนึ ้ ไป เป็นรูปทรงกลมขนาดวดั โดยรอบไมน่ ้อยกวา่ 16
นิว้ และไมเ่ กิน 17 นิว้ นํา้ หนกั เมื่อเร่ิมการแขง่ ขนั ลกู ตะกร้อ
ไมเ่ บากวา่ 170 กรัม และไมห่ นกั กวา่ 220 กรัม ในการ
แขง่ ขนั ทกุ ครัง้ ให้ใช้ลกู ตะกร้อของกรรมการท่ีสนามจดั ไว้
.ผู้เล่น
ประเภทเดี่ยว มีผ้เู ลน่ ตวั จริง 3 คน สํารอง 1 คน ประเภททีม
ประกอบด้วย 3 ทีม มีผ้เู ลน่ 9 คน และผ้เู ลน่ สาํ รอง 3 คน
บรรณานกุ รม
https://sites.google.com/site/kittisak10
411/kd-laea-ktika-khxng-kila-takrx
https://www.google.co.th/search?hl=t
h&gbv=2&q=%E0%B8%9B%E0%B8%A3
%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1
%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%95
%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%A3
%E0%B9%89%E0%B8%AD&oq=%E0%B
8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B
8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B
8%B4%E0%B8%95%E0%B8%B0%E0%B
8%81%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B
8%AD&aqs=heirloom-srp.0.0l5