The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนที่ 30 หน่วย โลกสวยด้วยสีสัน อ.3

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by nanan.suwadee, 2022-06-19 01:03:19

แผนที่ 30 หน่วย โลกสวยด้วยสีสัน อ.3

แผนที่ 30 หน่วย โลกสวยด้วยสีสัน อ.3

การวเิ คราะหโ์ ครงสรา้ งหนว่ ยการจดั ประสบการณต์ ามหลกั สตู รการศกึ ษาปฐมวยั พทุ ธศกั ราช 2560
หนว่ ยท่ี 30 โลกสวยดว้ ยสสี นั ชน้ั อนบุ าลปที ี่ 1 - 3 ภาคเรียนที่ 2

รายการ อนบุ าลปที ่ี 1 อนบุ าลปที ี่ 2 อนบุ าลปที ่ี 3

สาระทีค่ วรเรยี นรู้ 1. สีธรรมชาตริ อบตัว 1. ประเภทของสี 1. แม่สีและการผสมสีจากแมส่ ี
2. สีธรรมชาติมาจากไหน - สีจากธรรมชาติ 2. สผี สมขนั้ ที่ 3
มาตรฐาน ตวั บ่งช้ี 3. สีท่ีมนุษยส์ รา้ งขน้ึ (แม่สี 3 ส)ี - สีท่มี นุษย์สรา้ งขึ้น 3. ความลบั ของสดี ำ
สภาพที่พึงประสงค์ 4. ประโยชน์ของสี 4. การท้าสีผสมอาหารจากพืช
5. การทำน้ำใบเตย 2. แม่สี และการผสมสี 5. การท้าหวานเย็นจากสีธรรมชาติ
3. สแี ทนสญั ลักษณ์ (สีของธงชาติไทย)
4. สีท่ไี ดจ้ ากพชื ผัก ผลไม้

5. การท้าวุน้ สีจากสีธรรมชาติ

มฐ 2 ตบช. 2.2 (2.2.1) (2.2.3) มฐ 2 ตบช. 2.1 (2.1.3) มฐ 2 ตบช. 2.2 (2.2.2)
มฐ 3 ตบช. 3.2 (3.2.2) มฐ 1 ตบช. 2.2 (2.2.2) มฐ 3 ตบช. 3.2 (3.2.2)
มฐ 8 ตบช. 8.2 (8.2.1) มฐ 3 ตบช. 3.2 (3.2.2) มฐ 8 ตบช. 8.2 (8.2.1)

มฐ 1 ตบช. 8.3 (8.3.1) มฐ 8 ตบช. 8.2 (8.2.1) มฐ 9 ตบช. 9.1 (9.1.1)
มฐ 9 ตบช. 9.1 (9.1.1) มฐ 9 ตบช. 9.1 (9.1.1) มฐ 1 ตบช. 9.2 (9.2.1) (9.2.2)
มฐ 10 ตบช. 10.1 (10.1.1) มฐ 1 ตบช. 9.2 (9.2.1) มฐ 10 ตบช. 10.1 (10.1.1)
มฐ 10 ตบช. (10.1.2) มฐ 10 ตบช. 10.1 (10.1.1) มฐ 10 ตบช. (10.1.2) (10.1.3)
มฐ. 11 ตบช. 11.1 (11.1.1) มฐ 10 ตบช. (10.1.2) (10.1.3) มฐ 10 ตบช. (10.1.4)

มฐ 10 ตบช. 11.2 (11.2.1) มฐ 10 ตบช. (10.1.4) มฐ. 11 ตบช. 11.1 (11.1.1)
มฐ. 12 ตบช. 12.1 (12.1.2) มฐ. 11 ตบช. 11.1 (11.1.1) มฐ 10 ตบช. 11.2 (11.2.1)
มฐ 10 ตบช. 11.2 (11.2.1) มฐ. 12 ตบช. 12.1 (12.1.2)
มฐ. 12 ตบช. 12.1 (12.1.2) มฐ 10 ตบช. 12.2 (12.2.1)
มฐ 10 ตบช. 12.2 (12.2.1)

รายการ อนบุ าลปที ี่ 1 อนบุ าลปที ี่ 2 อนบุ าลปที ี่ 3

ประสบการณส์ ำคญั รา่ งกาย รา่ งกาย รา่ งกาย
1.1.1 การใชก้ ลา้ มเน้ือใหญ่
(1) การเคล่อื นไหวอยูก่ ับที่ 1.1.1 การใชก้ ล้ามเนอ้ื ใหญ่ 1.1.1 การใช้กลา้ มเน้อื ใหญ่
(2) การเคลื่อนไหวเคลื่อนท่ี
(3) การเคลือ่ นไหวพรอ้ มวสั ดอุ ุปกรณ์ (1) การเคลื่อนไหวอยู่กบั ที่ (1) การเคล่อื นไหวอยู่กับท่ี
(5) การเลน่ เคร่ืองเล่นสนามอย่างอสิ ระ
1.1.2 การใช้กล้ามเนื้อเล็ก (2) การเคล่ือนไหวเคลื่อนท่ี (2) การเคลอ่ื นไหวเคล่อื นที่
(2) การเขยี นภาพและการเลน่ กับสี
(4) การประดษิ ฐส์ งิ่ ต่างๆด้วยเศษวสั ดุ (3) การเคลอ่ื นไหวพรอ้ มวัสดุอปุ กรณ์ (3) การเคลอ่ื นไหวพรอ้ มวัสดอุ ปุ กรณ์
(5) การหยบิ จับ การใชก้ รรไกร การตัด
การปะ และการรอ้ ยวัสดุ (5) การเลน่ เคร่ืองเลน่ สนามอยา่ งอสิ ระ (5) การเล่นเคร่ืองเล่นสนามอย่างอสิ ระ
1.1.5 การตระหนกั รู้เก่ียวกับรา่ งกาย
ตนเอง 1.1.2 การใชก้ ลา้ มเนอ้ื เล็ก 1.1.2 การใชก้ ลา้ มเนื้อเล็ก
(1) การเคลื่อนไหวในการควบคมุ ตนเอง
ไปในทศิ ทางระดับและพน้ื ท่ี (1) การเลน่ เครือ่ งเลน่ สัมผสั และการสรา้ งจาก (1) การเล่นเครื่องเล่นสัมผัสและการสร้างจาก

อารมณ์ แทง่ ไม้บล็อก แท่งไม้บล็อก
1.2.1 สนุ ทรยี ภาพ ดนตรี
(1) การฟังเพลง การร้องเพลง และ (2) การเขียนภาพและการเล่นกับสี (2) การเขียนภาพและการเล่นกับสี
การแสดงปฏกิ ิรยิ าโต้ตอบเสียงดนตรี
(3) การเคลื่อนไหวตามเสยี งเพลง/ดนตรี 1.1.5 การตระหนักรเู้ ก่ยี วกับร่างกายตนเอง (4) การประดิษฐส์ ง่ิ ตา่ งๆดว้ ยเศษวัสดุ
1.2.2 การเล่น
(1) การเล่นอิสระ (1) การเคลอ่ื นไหวในการควบคมุ ตนเอง (5) การหยบิ จับ การใช้กรรไกร การตัดและการ
(3) การเล่นตามมุมประสบการณ์/มุมเล่น
ต่างๆ ไปในทศิ ทางระดับและพื้นท่ี ร้อยวสั ดุ

(2) การเคลอ่ื นไหวหลบหลกี สิ่งกีดขวาง 1.1.5 การตระหนกั รูเ้ กย่ี วกับรา่ งกายตนเอง

(1) การเคลื่อนไหวในการควบคมุ ตนเอง

ไปในทิศทางระดบั และพ้ืนที่

อารมณ์ อารมณ์

1.2.1 สุนทรียภาพ ดนตรี 1.2.1 สนุ ทรียภาพ ดนตรี

(1) การฟังเพลง การร้องเพลง และการแสดง (1) การฟังเพลง การร้องเพลง และการแสดง

ปฏกิ ิรยิ าโตต้ อบเสยี งดนตรี ปฏิกริ ยิ าโต้ตอบเสยี งดนตรี

(3) การเคลื่อนไหวตามเสียงเพลง/ดนตรี (3) การเคลื่อนไหวตามเสียงเพลง/ดนตรี

1.2.2 การเลน่ 1.2.2 การเล่น

(2) การเลน่ รายบุคคล กลมุ่ ยอ่ ยกล่มุ ใหญ่ (2) การเลน่ รายบคุ คล กลุม่ ย่อยกลุ่มใหญ่

(3) การเล่นตามมุมประสบการณ/์ มุมเลน่ (3) การเล่นตามมุมประสบการณ์/มมุ เล่น

ต่าง ๆ ต่าง ๆ

รายการ อนบุ าลปที ี่ 1 อนบุ าลปที ี่ 2 อนบุ าลปที ี่ 3

(4) การเลน่ นอกหอ้ งเรยี น (4) การเล่นนอกห้องเรียน (4) การเลน่ นอกห้องเรยี น

1.2.4 การแสดงออกทางอารมณ์ 1.2.4 การแสดงออกทางอารมณ์ 1.2.4 การแสดงออกทางอารมณ์

(๕) การทำงานศลิ ปะ (๕) การทำงานศลิ ปะ (๕) การทำงานศลิ ปะ

สังคม สงั คม สังคม

1.3.4 การมีปฏิสมั พันธ์ มีวนิ ยั มีส่วนร่วมและ 1.3.4 การมปี ฏสิ มั พนั ธ์ มวี ินยั มีสว่ นร่วมและ 1.3.4 การมีปฏสิ มั พนั ธ์ มีวนิ ัย มสี ่วน

บทบาทสมาชกิ ของสงั คม บทบาทสมาชิกของสงั คม รว่ มและบทบาทสมาชกิ ของสังคม

(2) การปฏิบตั ิตนเป็นสมาชิกทดี่ ขี องห้องเรยี น (3) การใหค้ วามรว่ มมอื ในการปฏบิ ัติ (3) การให้ความร่วมมือในการปฏิบัติกิจกรรม

(3) การให้ความร่วมมือในการปฏิบัติกิจกรรม กจิ กรรมตา่ งๆ ตา่ งๆ

ตา่ งๆ 1.3.5 การเลน่ และทำงานแบบรว่ มมือรว่ มใจ 1.3.5 การเล่นและทำงานแบบรว่ มมอื ร่วมใจ

1.3.5 การเลน่ และทำงานแบบร่วมมือรว่ มใจ (2) การเลน่ และทำงานร่วมกบั ผู้อื่น (2) การเล่นและทำงานร่วมกบั ผู้อืน่

(2) การเลน่ และทำงานรว่ มกับผอู้ ืน่ สตปิ ญั ญา

สตปิ ัญญา 1.4.1 การใชภ้ าษา สติปัญญา

1.4.1 การใช้ภาษา (2) การฟังและการปฏบิ ตั ิตามคำแนะนำ 1.4.1 การใช้ภาษา

(๓) การฟงั เพลง นทิ าน คำคล้องจอง (๓) การฟงั เพลง นิทาน คำคล้องจอง (2) การฟงั และการปฏิบตั ิตามคำแนะนำ

บทรอ้ ยกรองหรอื เรอื่ งราวตา่ ง ๆ บทร้อยกรองหรอื เรือ่ งราวตา่ ง ๆ (๓) การฟงั เพลง นิทาน คำคลอ้ งจอง

(๔) การพูดแสดงความคิดเห็นความรู้สึกและ (๖) การพูดอธิบายเกี่ยวกับสิ่งของเหตุการณ์ บทร้อยกรองหรือเรอ่ื งราวตา่ ง ๆ

ความตอ้ งการ และความสัมพันธข์ องสิง่ ต่างๆ (๔) การพูดแสดงความคิดเห็นความรู้สึกและ

(๖) การพูดอธิบายเกี่ยวกับส่ิงของเหตุการณ์ (13) การสังเกตทิศทางการอ่านตัวอักษรคำ ความต้องการ

และความสมั พันธข์ องสง่ิ ต่างๆ และข้อความ (13) การสังเกตทิศทางการอ่านตัวอักษรคำ

1.4.2 การคิดรวบยอด การคดิ เชงิ เหตุผล (16) การสังเกตตัวอักษรท่ีประกอบเป็นคำ และขอ้ ความ

การตดั สินใจและแก้ปญั หา ผ่านการอ่านหรือเขยี นของผูใ้ หญ่ (16) การสังเกตตัวอักษรที่ประกอบเป็นคำผ่าน

(1) การสังเกตลักษณะ ส่วนประกอบการ (18) การเลน่ เกมทางภาษา การอา่ นหรือเขยี นของผู้ใหญ่

เปลี่ยนแปลง และความสัมพันธ์ของสิ่งต่างๆ (19) การเห็นแบบอย่างการเขยี นที่ถูกตอ้ ง (18) การเล่นเกมทางภาษา

โดยใชป้ ระสาทสัมผัสอย่างเหมาะสม (19) การเหน็ แบบอยา่ งการเขียนทีถ่ กู ตอ้ ง

รายการ อนบุ าลปที ี่ 1 อนบุ าลปที ่ี 2 อนบุ าลปที ี่ 3

(6) การต่อของช้ินเล็กเติมในชิ้นใหญ่ให้ 1.4.2 การคิดรวบยอด การคิดเชิงเหตุผล การ (20) การเขียนรว่ มกนั ตามโอกาสและการเขียน

สมบูรณแ์ ละการแยกชนิ้ ส่วน ตดั สนิ ใจและแกป้ ญั หา อิสระ

(8) การนับและแสดงจำนวนส่ิงต่างๆใน (1) การสังเกตลักษณะ ส่วนประกอบการ 1.4.2 การคิดรวบยอด การคิดเชิงเหตุผล การ

ชีวิตประจำวนั เปล่ียนแปลง และความสัมพันธ์ของส่ิงต่างๆ ตดั สินใจและแกป้ ัญหา

(13) การจับคู่ การเปรียบเทียบและการ โดยใช้ประสาทสมั ผัสอยา่ งเหมาะสม (1) การสังเกตลักษณะ ส่วนประกอบการ

เรียงลำดับ สิ่งต่างๆตามลักษณะความยาว/ (5) การคัดแยก การจัดกลุ่ม และการจำแนก เปล่ียนแปลง และความสัมพันธ์ของสิ่งต่างๆ

ความสูง นำ้ หนกั ปรมิ าตร สงิ่ ตา่ งๆตามลกั ษณะและรูปร่าง รปู ทรง โดยใช้ประสาทสัมผัสอย่างเหมาะสม

1.4.3 จินตนาการและความคดิ สร้างสรรค์ (7) การทำซำ้ การต่อเตมิ และการสรา้ งแบบรปู (5) การคัดแยก การจัดกล่มุ และการจำแนกสิ่ง

(1) การรับรู้ และแสดงความคิดความรู้สึก (8) การนับและแสดงจำนวนสิ่งต่างๆใน ตา่ งๆตามลักษณะและรปู ร่าง รปู ทรง

ผ่านสื่อ วสั ดุ ของเล่นและช้นิ งาน ชีวติ ประจำวนั (8) การนับและแสดงจำนวนส่ิงต่างๆใน

(2) การแสดงความคิดสร้างสรรค์ผ่านภาษา (10) การรวมและการแยกส่งิ ตา่ งๆ ชวี ติ ประจำวัน

ท่าทาง การเคลอ่ื นไหวและศลิ ปะ (13) การจับคู่ การเปรียบเทียบและการ (13) การจับคู่ การเปรียบเทียบและการ

เรียงลำดับ สิ่งต่างๆตามลักษณะความยาว/ เรียงลำดับ สิ่งต่างๆตามลักษณะความยาว/

ความสูง น้ำหนัก ปริมาตร(17) การคาดเดา ความสูง นำหนัก ปริมาตร

หรือการคาดคะเนส่ิงที่อาจจะเกิดขึ้นอย่างมี (17) การคาดเดาหรือการคาดคะเนสงิ่ ที่อาจจะ

เหตุผล เกิดขึ้นอยา่ งมเี หตุผล

(18) การมีส่วนร่วมในการลงความเห็นจาก (18) การมีส่วนร่วมในการลงความเห็นจาก

ขอ้ มูลอย่างมีเหตุผล ข้อมลู อยา่ งมเี หตผุ ล

1.4.3 จนิ ตนาการและความคดิ สร้างสรรค์ 1.4.3 จนิ ตนาการและความคดิ สร้างสรรค์

(1) การรับรู้ และแสดงความคิดความรู้สึกผ่าน (1) การรับรู้ และแสดงความคิดความรู้สึกผ่าน

ส่ือ วัสดุ ของเล่นและชนิ้ งาน สอ่ื วสั ดุของเลน่ และชิน้ งาน

(2) การแสดงความคิดสร้างสรรค์ผ่านภาษา (2) การแสดงความคิดสรา้ งสรรคผ์ ่าน

ทา่ ทาง การเคลอ่ื นไหวและศิลปะ ภาษาทา่ ทาง การเคลื่อนไหวและศิลปะ

รายการ อนบุ าลปที ี่ 1 อนบุ าลปที ี่ 2 อนบุ าลปที ี่ 3

คณติ ศาสตร์ 1.4.4 เจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้และการ 1.4.4 เจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้และการแสวงหา

แสวงหาความรู้ ความรู้

(3) การสืบเสาะหาความรู้เพ่ือค้นหาคำตอบ (3) การสืบเสาะหาความรู้เพ่ือค้นหาคำตอบของ

ของขอ้ สงสัยต่างๆ ข้อสงสัยตา่ งๆ

(4) การมีส่วนร่วมในการรวบรวมข้อมูลจาก (4) การมีส่วนร่วมในการรวบรวมข้อมูลจากการ

การสืบเสาะหาความรู้ในรูปแบบต่างๆและ สืบเสาะหาความรู้ในรูปแบบต่างๆและแผนภูมิ

แผนภมู ิอย่างง่ายๆ อย่างงา่ ยๆ

• นับและแสดงจำนวน 1 – 4 • นบั และแสดงจำนวน 1 – 9 • นบั และแสดงจำนวน 1 – 15

• จำแนก จัดกลุ่มส่ิงต่างๆ ตามลักษณะ • จำแนก จดั กลมุ่ สงิ่ ต่างๆ ตามลกั ษณะรปู รา่ ง • จำแนก จัดกลุ่มส่ิงต่างๆ ตามลักษณะขนาด

รูปร่าง รปู ทรง และสี รปู ทรง และสี รปู ร่าง รูปทรง และสีโดยใช้เกณฑ์การจำแนก

• จับคู่สี เปรียบเทียบความเหมือนความ • เรยี งลำดบั สอี อ่ น – แก่ 2 ลกั ษณะขน้ึ ไป

แตกตา่ งของส่ิงต่างๆ ในเรอื่ งสี • หยบิ และแสดงสิ่งต่างๆ ตามสีและจำนวนที่ • เรยี งลำดับสอี ่อน – แก่

• จับคู่สัญลักษณต์ ัวเลขกับสงิ่ ของ กำหนด ไม่เกนิ 9 • หยิบและแสดงส่ิงต่างๆ ตามสีและจำนวนท่ี

จำนวนไม่เกิน 4 • จับคู่สัญลักษณ์ตัวเลขกับส่ิงของจำนวนไม่ กำหนดไม่เกิน 15

เกนิ 9 • จับค่สู ัญลักษณ์ตวั เลขกับส่ิงของจำนวนไม่เกิน

15

รายการ อนบุ าลปที ี่ 1 อนบุ าลปที ี่ 2 อนบุ าลปที ี่ 3

วิทยาศาสตร์ - ทักษะการสงั เกต 1. ทกั ษะการสงั เกต 1. ทกั ษะการสงั เกต

2. การสืบเสาะหาความรู้เพ่ือค้นหาคำตอบ 2. การสืบเสาะหาความรู้เพ่ือค้นหาคำตอบของ

ของขอ้ สงสยั ตา่ งๆ ขอ้ สงสัยต่างๆ

3. การรวบรวมข้อมูลและนำเสนอข้อมูลด้วย

แผนภูมิอย่างงา่ ยๆ

พัฒนาการทางภาษา 1. การฟงั และปฏิบัติตามคำสงั่ คำแนะนำ 1. การฟงั และปฏิบตั ิตามคำสั่งคำแนะนำ 1. การฟังและปฏบิ ัติตามคำสัง่ คำแนะนำ

และการรูห้ นงั สือ 2. การฟังเพลง นิทาน คำคลอ้ งจอง 2. การฟงั เพลง นทิ าน คำคล้องจอง 2. การฟังเพลง นทิ าน คำคลอ้ งจอง

บทรอ้ ยกรองหรือเรือ่ งราวต่าง ๆ บทรอ้ ยกรองหรือเรอื่ งราวต่าง ๆ บทรอ้ ยกรองหรือเร่ืองราวตา่ ง ๆ

3. การพูดแสดงความคิดเห็นความร้สู ึก 3. การพูดแสดงความคิดเห็นความรู้สึกและ 3. การพูดแสดงความคิดเหน็ ความรู้สกึ และความ

และความตอ้ งการ ความต้องการ ต้องการ

4. การพูดอธิบายเกี่ยวกับสิ่งของเหตุการณ์ 4. การพูดอธิบายเก่ียวกับสิ่งของเหตุการณ์ 4. การพูดอธิบายเก่ียวกับส่ิงของเหตุการณ์และ

และความสัมพนั ธข์ องสิ่งต่างๆ และความสมั พนั ธ์ของสิ่งต่างๆ ความสมั พนั ธข์ องสิง่ ตา่ งๆ

5. การสังเกตทิศทางการอ่านตัวอักษรคำและ 5. การสังเกตทิศทางการอ่านตัวอักษรคำและ

ขอ้ ความ ขอ้ ความ

6. การสงั เกตตวั อักษรทปี่ ระกอบเปน็ คำ 6. การสงั เกตตัวอักษรท่ีประกอบเป็นคำผ่านการ

ผา่ นการอา่ นหรอื เขียนของผู้ใหญ่ อ่านหรอื เขยี นของผูใ้ หญ่

7. การเหน็ แบบอยา่ งการเขียนท่ถี กู ตอ้ ง 7. การเหน็ แบบอย่างการเขียนท่ถี กู ต้อง

8. การเขียนร่วมกันตามโอกาสและการเขียน

อสิ ระ

หนว่ ยการจดั ประสบการณท์ ่ี ๓๐ โลกสวยดว้ ยสสี ัน ชน้ั อนบุ าลปที ่ี 3

แนวคดิ
สีมีมากมาย มที ้ังสที ่ไี ด้มาจากธรรมชาติและสที ม่ี นษุ ยส์ ร้างข้ึน แม่สมี ที ั้งหมด 3 สี คอื สแี ดง สเี หลอื ง สนี ้ำเงนิ และยังมสี อี น่ื ๆ ทเ่ี กิดจากการผสมกนั ของ

แม่สีธรรมชาตไิ ด้มาจากพืชผกั ผลไม้ เชน่ สีเขยี วจากใบเตย สีน้ำเงินจากดอกอัญชนั สีเหลืองจากขมิน้ หรือสแี ดงจากแตงโม เปน็ ตน้ สามารถน้ำผสมใสใ่ นอาหาร
เพ่อื ใหม้ สี ีสนั สวยงามนา่ รับประทานมากยง่ิ ขึ้น เชน่ วุน้ สี ขนมชนั้ ขนมบัวลอย และหวานเย็น เป็นต้น

มาตรฐานหลกั สตู รปฐมวยั จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้

มาตรฐาน ตวั บง่ ช้ี สภาพทพ่ี งึ ประสงค์ 1. เขยี นรูปสามเหล่ียมตามแบบ ประสบการสำคญั สาระทค่ี วรเรยี นรู้
ไดอ้ ย่างมมี มุ ชัดเจน 1.4.1 การใชภ้ าษา
มาตรฐานที่ 2 2.2 ใช้มือ – ตา 2.2.2. เขียนรปู (19) การเหน็ แบบอย่างการ 1. แมส่ แี ละการผสมสีจากแม่สี
กลา้ มเน้ือใหญแ่ ละ ประสานสัมพนั ธ์กัน สามเหลี่ยมตามแบบ เขยี นทถ่ี ูกตอ้ ง 2. สีผสมข้นั ท่ี 3
ไดอ้ ย่างมีมุมชดั เจน 3. ความลบั ของสดี ำ
กล้ามเน้ือเล็ก 1.2.4 การแสดงออกทาง 4. การทำสีผสมอาหารจากพชื
แขง็ แรง ใชไ้ ด้อยา่ ง อารมณ์ 5. การทำหวานเย็นจากสี
คลอ่ งแคล่วและ (5) การทำงานศิลปะ ธรรมชาติ
ประสานสัมพันธ์ 6. การนับและแสดงจำนวน
กัน 1 - 15
7. จำแนก จัดกล่มุ
มาตรฐานท่ี 3 3.2 มีความรสู้ ึกท่ดี ี 3.2.2 แสดงความ 2. แสดงความพอใจในผลงานและ 8. เรียงลำดับสีออ่ นและแก่
มีสุขภาพจติ และ ตอ่ ตนเองและผอู้ น่ื พอใจในผลงานและ ความสามารถของตนเองและผูอ้ ่ืน
มีความสุข ความสามารถของ
ตนเองและผูอ้ ืน่

มาตรฐานหลกั สตู รปฐมวยั จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้

มาตรฐาน ตวั บง่ ช้ี สภาพทพ่ี งึ ประสงค์ 3. เลน่ หรอื ทำงานรว่ มกับเพอื่ นอยา่ งมี ประสบการสำคญั สาระทคี่ วรเรยี นรู้
เป้าหมายได้
มาตรฐานท่ี 8 8.2 มีปฏิสัมพันธ์ที่ 8.2.1 เลน่ หรือทำงาน 1.1.1 การใชก้ ลา้ มเนอื้ ใหญ่
(2) การเคลอ่ื นไหวเคลอื่ นที่
อยูร่ ว่ มกบั ผู้อืน่ ได้ ดีกบั ผูอ้ ื่น ร่วมกบั เพ่อื นอยา่ งมี (5) การเลน่ เครอ่ื งเล่นสนามอย่าง
อสิ ระ
อ ย่ างมี ค วาม สุ ข เปา้ หมาย 1.1.2 การใชก้ ลา้ มเนอ้ื เลก็
(1) การเล่นเครอื่ งเลน่ สัมผสั และ
และปฏิบัติตนเป็น การสรา้ งจากแท่งไม้บลอ็ ก
1.1.5 การตระหนกั รเู้ กยี่ วกบั
ส ม า ชิ ก ที่ ดี ข อ ง รา่ งกายตนเอง
(1) การเคลอ่ื นไหวในการควบคมุ
สงั คมในระบอบ ตนเองไปในทิศทาง ระดับ และ
พ้ืนที่
ประชาธปิ ไตยอนั มี 1.2.2 การเล่น
(2) การเลน่ รายบุคคล กลมุ่ ยอ่ ย
พ ร ะ ม ห า ก ษั ต ริ ย์ กลมุ่ ใหญ่
(3) การเล่นตามมุมระสบการณ์/
ทรงเป็นประมุข มมุ เล่นตา่ ง ๆ
(4) การเลน่ นอกหอ้ งเรยี น
1.3.5 การเล่นและทำงานแบบ
ร่วมมอื รว่ มใจ
(2) การเลน่ และทำงานรว่ มกบั อนื่

มาตรฐานหลกั สตู รปฐมวยั จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้
ตวั บง่ ชี้ สภาพทพ่ี งึ ประสงค์
มาตรฐาน ประสบการสำคญั สาระทค่ี วรเรยี นรู้

มาตรฐานท่ี 9 9.1 สนทนาโต้ตอบ 9.1.1 ฟังผู้อ่ืนพูดจน 4. ฟังผู้อนื่ พดู จนจบและสนทนา 1.4.1 การใชภ้ าษา
ใช้ภาษาส่อื สารได้ และเลา่ เร่ืองใหผ้ ้อู น่ื จบและสนทนาโต้ตอบ โต้ตอบอยา่ งตอ่ เนอ่ื งเชอ่ื มโยงกับ (2) การฟังและการปฏิบตั ิตาม
เหมาะสมกับวยั เขา้ ใจ อย่างต่อเน่ืองเชื่อมโยง เรือ่ งท่ีฟังได้
คำแนะนำ
กับเรือ่ งทฟ่ี งั (๓) การฟงั เพลง นทิ าน คำคล้องจอง
บทร้อยกรองหรอื เรอื่ งราวต่าง ๆ
(๔) การพูดแสดงความคดิ เหน็
ความร้สู ึกและความตอ้ งการ

9.2 อ่านเขียนภาพ 9.2.1 อ่านภาพ 5. อ่านภาพสญั ลกั ษณ์คำ ด้วยการช้ี 1.4.1 การใชภ้ าษา
(13) การสังเกตทิศทางการอ่าน
และสัญลักษณ์ได้ สัญลักษณ์คำ ด้วยการ หรือกวาดตามองจุดเร่ิมตน้ และจดุ จบ ตวั อกั ษร คำ และขอ้ ความ
(16) การสังเกตตัวอกั ษรทปี่ ระกอบ
ชหี้ รอื กวาดตามอง ของขอ้ ความได้ เปน็ คำผ่านการอ่านหรอื เขยี นของ

จุดเรม่ิ ตน้ และจดุ จบ ผู้ใหญ่
(18) การเลน่ เกมทางภาษา
ของขอ้ ความ

9.2.2 เขยี นช่ือของ 6. เขยี นชอื่ สตี ามแบบในบตั รคำ 1.4.1 การใชภ้ าษา
ตนเองตามแบบเขยี น (19) การเห็นแบบอบา่ งการเขยี น
ขอ้ ความด้วยวิธที ี่คิดขน้ึ ท่ีถกู ต้อง
เอง (20) การเขียนรว่ มกนั ตามโอกาส
และการเขียนอสิ ระ

มาตรฐานหลกั สตู รปฐมวยั จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้

มาตรฐาน ตวั บง่ ชี้ สภาพทพี่ งึ ประสงค์ 7. บอกลกั ษณะสว่ นประกอบการ ประสบการสำคญั สาระทค่ี วรเรยี นรู้
เปล่ียนแปลงของสจี ากการสงั เกตโดย
มาตรฐานที่ 10 10.1 มี 10.1.1 บอกลักษณะ ใช้ประสาทสมั ผสั ได้ 1.4.2 การคดิ รวบยอด การคดิ เชงิ
มคี วามสามารถ ความสามารถ สว่ นประกอบการ เหตผุ ล การตดั สนิ ใจและแกป้ ญั หา
ในการคดิ ทเ่ี ป็น ในการคิดรวบยอด เปลี่ยนแปลงหรือ (1) การสงั เกตลักษณะสว่ นประกอบ
พืน้ ฐานในการ ความสมั พนั ธ์ของสิง่ การเปลีย่ นแปลง และความสมั พันธข์ อง
เรียนรู้ ต่างๆจากการสังเกต สง่ิ ตา่ งๆโดยใช้ประสาทสัมผสั อย่าง
โดยใช้ประสาทสัมผสั เหมาะสม

10.1.2 จับค่แู ละ 8. จบั คูแ่ ละเปรียบเทียบความแตกต่าง 1.4.2 การคดิ รวบยอด การคิด

เปรียบเทียบความ และความเหมือนของสภี าพและจำนวน เชงิ เหตผุ ล การตดั สนิ ใจและแกป้ ญั หา

แตกต่างและความ ได้ (8) การนับและแสดงจำนวนสง่ิ ต่างๆใน

เหมือนของสิง่ ต่างๆ ชีวติ ประจำวนั

โดยใช้ลักษณะทสี่ งั เกต (๑๓) การจับคู่ การเปรยี บเทยี บและ

พบสองลักษณะข้นึ ไป การเรยี งลำดับสงิ่ ตา่ ง ๆ ตามกษณะ

ความยาว/ความสูง นำ้ หนัก ปริมาตร

10.1.3 จำแนกและจดั 9. จำแนกและจัดกลุ่มสไี ด้ 1.4.2 การคดิ รวบยอด การคดิ เชงิ

กลุม่ สิ่งตา่ งๆ โดยใช้ เหตผุ ล การตดั สนิ ใจและแกป้ ญั หา

ต้ั งแ ต่ ส อ งลั ก ษ ณ ะ ข้ึ น (5) การคดั แยก การจัดกลุ่ม และ

ไปเปน็ เกณฑ์ การจำแนกส่งิ ต่างๆตามลักษณะและ

รูปรา่ ง รปู ทรง

10.1.4 เรียงลำดับ 10. เรียงลำดบั สอี อ่ นและแก่ อย่าง 1.4.2 การคดิ รวบยอด การคดิ เชงิ

สงิ่ ของและเหตุการณ์ น้อย 5 ลำดบั ได้ เหตผุ ล การตดั สนิ ใจและแกป้ ญั หา

อยา่ งนอ้ ย 5 ลา้ ดับ (๑๓) การจบั คู่ การเปรยี บเทยี บและ

การเรียงลำดบั สิง่ ต่าง ๆ ตามลักษณะ

ความยาว/ความสูง น้ำหนกั ปริมาตร

มาตรฐานหลกั สตู รปฐมวยั จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้
ประสบการสำคญั
มาตรฐาน ตวั บง่ ช้ี สภาพทพ่ี งึ ประสงค์ สาระทค่ี วรเรยี นรู้

มาตรฐานที่ 11 11.1 ทำงานศิลปะ 11.1.1 สร้างผลงาน 11. สรา้ งผลงานศลิ ปะเพื่อสอื่ สาร 1.1.2 การใชก้ ลา้ มเนอ้ื เลก็

มีจินตนาการและ ตามจนิ ตนาการ ศิลปะเพือ่ ส่อื สาร ความคิดความรู้สกึ ของตนเองโดยมี (2) การเขียนภาพและการเลน่ กบั สี

ความคิดสรา้ งสรรค์ และความคดิ ความคดิ ความร้สู กึ ของ การดัดแปลงแปลกใหม่จากเดมิ และ (4) การประดษิ ฐ์สิ่งตา่ งๆดว้ ยเศษวสั ดุ

สรา้ งสรรค์ ตนเองโดยมีการ มรี ายละเอยี ดเพิ่มข้นึ ได้ (5) การหยบิ จบั การใช้กรรไกร การตดั

ดัดแปลงแปลกใหม่ และการรอ้ ยวัสดุ

จากเดมิ และมี 1.4.3จนิ ตนาการและความคิดสรา้ งสรรค์

รายละเอียดเพม่ิ ขึน้ (1) การรับรู้ และแสดงความคดิ ความรู้สกึ

ผ่านสื่อ วสั ดุ ของเลน่ และชนิ้ งาน

(2) การแสดงความคดิ สรา้ งสรรคผ์ า่ น

ภาษาทา่ ทาง การเคลื่อนไหว และศิลปะ

11.2 แสดง 11.2.1 เคลอ่ื นไหว 12. เคลือ่ นไหวท่าทางเพ่ือสอื่ สาร 1.1.1 การใชก้ ลา้ มเนอื้ ใหญ่
ทา่ ทาง/เคลือ่ นไหว ทา่ ทางเพ่อื สือ่ สาร
ตามจินตนาการ ความคิดความรู้สึก ความคิดความรู้สกึ ของตนเองอย่าง (1) การเคลอื่ นไหวอยู่กับที่
อยา่ งสร้างสรรค์
ของตนเองอยา่ ง หลากหลายและแปลกใหมไ่ ด้ (2) การเคลอื่ นไหวเคลอ่ื นท่ี
หลากหลายและ
แปลกใหม่ (3) การเคลอ่ื นไหวพรอ้ มวสั ดอุ ปุ กรณ์

1.2.1 สนุ ทรยี ภาพ ดนตรี

(1) การฟงั เพลง การรอ้ งเพลง และ

การแสดงปฏกิ ริ ิยาโต้ตอบเสียงดนตรี

(3) การเคลอื่ นไหวตามเสยี งเพลง/ดนตรี

1.4.3จนิ ตนาการและความคิดสรา้ งสรรค์

(2) การแสดงความคดิ สร้างสรรค์ผ่าน

ภาษาท่าทาง การเคล่ือนไหว และศลิ ปะ

มาตรฐาน มาตรฐานหลกั สตู รปฐมวยั จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ สาระทค่ี วรเรยี นรู้
ตวั บง่ ชี้ สภาพทพี่ งึ ประสงค์
ประสบการสำคญั
มาตรฐานท่ี 12 12.1 มีเจตคติที่ดี 12.1.2 กระตอื รอื รน้ 13. กระตือรอื รน้ ในการรว่ ม
มเี จตคติทด่ี ตี ่อ ตอ่ การเรยี นรู้ ในการร่วมกจิ กรรม กิจกรรมตั้งแตต่ น้ จนจบ 1.3.4 การมปี ฏสิ มั พนั ธ์ มวี นิ ยั มสี ว่ นรว่ ม
ตง้ั แต่ตน้ จนจบ และบทบาทสมาชกิ ของสงั คม
การเรียนรู้ และ 12.2 มี 14. ค้นหาคำตอบของขอ้ สงสัย (3) การใหค้ วามรว่ มมือในการปฏิบตั ิ
มคี วามสามารถ ความสามารถ 12.2.1 คน้ หาคำตอบ ต่างๆโดยใชว้ ิธกี ารท่หี ลากหลาย กิจกรรมต่างๆ
ในการแสวงหา ในการแสวงหา ของข้อสงสัยต่างๆโดย ด้วยตนเองได้
ความรไู้ ดเ้ หมาะสม ความรู้ ใชว้ ิธีการที่หลากหลาย 1.4.2 การคดิ รวบยอด การคดิ เชงิ เหตผุ ล
กับวยั ดว้ ยตนเอง การตดั สนิ ใจและแกป้ ญั หา
(17) การคาดเดาหรอื การคาดคะเนสิง่ ท่ี
อาจจะเกดิ ข้นึ อยา่ งมเี หตผุ ล
(18) การมีส่วนร่วมในการลงความเห็น
จากข้อมลู อย่างมเี หตผุ ล
1.4.4 เจตคตทิ ด่ี ตี อ่ การเรยี นรแู้ ละ
การแสวงหาความรู้
(3) การสืบเสาะหาความรเู้ พอื่ คน้ หา
คำตอบของข้อสงสัยต่างๆ
(4) การมีสว่ นรว่ มในการรวบรวมข้อมลู
และนำเสนอข้อมูลจากการสบื เสาะหา
ความรู้ในรูปแบบต่างๆและแผนภูมอิ ย่าง
ง่ายๆ

ผงั ความคิดแผนการจดั ประสบการณห์ นว่ ยท่ี 30 โลกสวยดว้ ยสสี นั ชนั้ อนบุ าลปที ่ี 3

๑. กจิ กรรมเคลอื่ นไหวและจงั หวะ ๒. กจิ กรรมเสรมิ ประสบการณ์ ๓. กจิ กรรมศลิ ปะสรา้ งสรรค์

1. เคล่อื นไหวร่างกายตามจนิ ตนาการประกอบคำสง่ั 1. แมส่ ีและการผสมสีจากแมส่ ี 1. ระบายสีจานกระดาษดว้ ยสที ี่ผสมจากแมส่ ี 1 คู่
2. เคลื่อนไหวตามจินตนาการประกอบเพลงเจ็ดวนั เจด็ สี 2. สผี สมขนั้ ท่ี 3 และประดับตกแต่งจานกระดาษด้วยเศษวสั ดุ
3. เคลอื่ นไหวร่างกายตามจินตนาการประกอบรบิ บิน้ สดี ำ 3. ความลบั ของสีดำ
4. เคลอ่ื นไหวร่างกายตามข้อตกลง 4. การทำสผี สมอาหารจากพชื 2. หยดสีและพบั สี
5. เคลอื่ นไหวรา่ งกายตามจนิ ตนาการประกอบเพลงรงุ้ กนิ นำ้ 5. การทำหวานเย็นจากสธี รรมชาติ 3. วาดรปู สามเหลี่ยมตามแบบและขูดสี
4. วาดภาพตามจินตนาการดว้ ยสีจากธรรมชาตแิ ละ
๔. กจิ กรรมเลน่ ตามมมุ หนว่ ย
- การเล่นตามมุมประสบการณ์ โลกสวยดว้ ยสสี นั เป่าสี
5. วาดภาพหวานเยน็ ตามจนิ ตนาการด้วยสนี ้ำและ
๕. กจิ กรรมการเลน่ กลางแจง้
ทำโมบายรปู สามเหลีย่ ม
1. เกมว่ิงเปี้ยวธงสี
2. เล่นนำ้ เล่นทราย ๖. กจิ กรรมเกมการศกึ ษา
3. เลน่ เครอ่ื งเล่นสนาม
4. เกมโยนบอลสลี งตะกรา้ 1. เกมจำแนกและจดั กล่มุ สี
5. เกมวิง่ เก็บของ 2. เกมจบั คูบ่ ตั รภาพคำกบั สญั ลกั ษณต์ ัวอักษร
3. เกมตารางสมั พนั ธ์ของสกี บั กลุม่ สที กี่ ำหนด
4. เกมจับคภู่ าพจำนวนทีเ่ พิ่มขึ้นทีละหน่งึ
5. เกมเรยี งลำดบั หวานเยน็ สอี อ่ นและแก่

แผนการจดั ประสบการณร์ ายสปั ดาห์
หนว่ ยที่ 30 โลกสวยดว้ ยสสี นั ชนั้ อนบุ าลปที ี่ 3

วนั ท่ี เคลอื่ นไหวและจงั หวะ กจิ กรรม

1 - เคล่อื นไหวพ้นื ฐาน เสรมิ ประสบการณ์ ศลิ ปะสรา้ งสรรค์ การเลน่ ตามมมุ การเลน่ กลางแจง้ เกมการศกึ ษา
- เคลือ่ นไหวรา่ งกายตาม
จินตนาการประกอบคำสั่ง - แมส่ แี ละการผสมสี - ระบายสจี านกระดาษดว้ ยสี เลน่ มมุ ประสบการณ์ เกมว่งิ เป้ียวธงสี เกมจำแนกและ
จากแม่สี ทผ่ี สมจากแมส่ ี 1 คู่ ในห้องเรยี น จัดกลมุ่ สี
- ประดับตกแต่งจานกระดาษ
ด้วยเศษวัสดุ

2 - เคลื่อนไหวพื้นฐาน - สีผสมขน้ั ที่ 3 - หยดสี เลน่ มุมประสบการณ์ เลน่ น้ำเล่นทราย เกมจบั คบู่ ัตรภาพคำ
- พับสี ในหอ้ งเรยี น กบั สัญลักษณ์ตวั อกั ษร
- เคล่ือนไหวตามจินตนาการ
เลน่ เครอ่ื งเล่นสนาม เกมตารางสัมพันธ์ของ
ประกอบเพลงเจ็ดวนั เจ็ดสี สีกบั กลมุ่ สีท่ีกำหนด

3 - เคลอ่ื นไหวพ้ืนฐาน - ความลับของสีดำ - วาดรปู สามเหลย่ี มตามแบบ เลน่ มุมประสบการณ์
- ขูดสี ในห้องเรยี น
- เคลื่อนไหวร่างกายตาม

จินตนาการประกอบริบบน้ิ

สีดำ

4 - เคลือ่ นไหวพนื้ ฐาน - การทำสีผสมอาหาร - วาดภาพตามจนิ ตนาการ เล่นมมุ ประสบการณ์ เกมโยนบอลสี เกมจบั คภู่ าพจำนวน
- เคลอื่ นไหวรา่ งกายตาม จากพชื ด้วยสจี ากธรรมชาติ ในหอ้ งเรยี น ลงตะกรา้ ทเ่ี พิม่ ข้ึนทลี ะหนง่ึ
ข้อตกลง - เป่าสี
เล่นมมุ ประสบการณ์
5 - เคลื่อนไหวพน้ื ฐาน - การทำหวานเยน็ - วาดภาพหวานเย็นตาม ในห้องเรยี น เกมวงิ่ เก็บของ เกมเรียงลำดับหวาน
จนิ ตนาการดว้ ยสนี ้ำ เย็นสอี อ่ นและแก่
- เคลอ่ื นไหวตามจนิ ตนาการ จากสีธรรมชาติ - ทำโมบายรปู สามเหล่ียม

ประกอบเพลงรุ้งกินน้ำ

แผนการจดั ประสบการณร์ ายวนั วนั ท่ี 1 หนว่ ยท่ี ๓๐ โลกสวยดว้ ยสสี นั ชน้ั อนบุ าลปที ่ี 3

จดุ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอื่ การประเมนิ
การเรยี นรู้ พฒั นาการ
ประสบการณ์สำคัญ สาระที่ควรเรียนรู้
กจิ กรรมเคล่ือนไหว 1. กิจกรรมพื้นฐานเด็กเคล่ือนไหวส่วนต่าง ๆของ 1. เครื่องเคาะจงั หวะ สงั เกต
และจงั หวะ (1) การเคล่ือนไหว
เคล่ือนไหวท่าทางเพอ่ื อยู่กับที่ รา่ งกายอยา่ งอิสระตามจังหวะเม่ือได้ยนิ สญั ญาณหยุด 2. ป้ายแขวนคอ การเคลอื่ นไหวทา่ ทาง
สอื่ สารความคิด (2) การเคล่ือนไหว
ความรสู้ กึ ของตนเอง เคล่ือนท่ี ใหห้ ยุดเคลอ่ื นท่ใี นท่าน้นั ทนั ที สตี า่ งๆ เพ่อื ส่อื สารความคิด
อย่างหลากหลายและ (3) การเคล่อื นไหว
แปลกใหม่ได้ พร้อมวสั ดอุ ุปกรณ์ 2. ครูแบ่งเด็กเป็น 6 กลุ่มคือสีแดง สีเหลอื ง สีน้ำเงิน 3. นกหวดี ความรูส้ ึกของตนเอง
(3) การเคลือ่ นไหว
ตามเสยี งเพลง/ดนตรี สีเขียว สีส้ม และสีม่วง โดยมีป้ายแขวนคอสีเดียวกัน อยา่ งหลากหลายและ
(2) การแสดงความคิด
สร้างสรรค์ผ่านภาษา กบั กลมุ่ ท่ีเดก็ อยู่ แปลกใหม่
ท่าทางการเคลอื่ นไหว
และศลิ ปะ 3. ครูอธิบายและสาธิตวธิ กี ารทำกิจกรรมโดยเด็กต้อง

ปฏิบัติตามข้อตกลง ด้วยการให้เด็กจับกลุ่มกับเพื่อน

ตา่ งสี เพ่ือให้เกดิ สีใหม่ เช่นเมือ่ ครสู ง่ั วา่ สีแดงรวมกับ

สนี ้ำเงินเป็นสีม่วงให้เด็กที่อยู่กลุ่มสีแดง กลุ่มสีน้ำเงิน

และสมี ว่ งจบั กลมุ่ รวมกนั ใครมกี ลุ่มแล้วใหน้ ่ังลง

4. ทำกิจกรรมซ้ำกับข้อ 3 ใหม่อีกแต่เปลี่ยนเป็นสี

ใหม่บ้าง เช่น สีเหลืองรวมกับสีแดงเป็นสีส้ม สีน้ำเงิน

รวมกับสเี หลอื งเป็นสีเขียว เป็นตน้

5. หลังปฏิบัติกิจกรรมเสร็จแล้วให้เด็กพักผ่อน

อิริยาบถโดยนอนราบกับพ้ืน เพ่ือเตรียมปฏิบัติ

กิจกรรมตอ่ ไป

จดุ ประสงค์ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ
การเรยี นรู้ ประสบการณส์ ำคญั สาระทีค่ วรเรียนรู้ พฒั นาการ

กิจกรรมเสรมิ (1) การสงั เกตลักษณะ แมส่ แี ละการผสมสี 1. ครูเปดิ นิทานจากยูทบู เรื่องจุดสกี ระจดั กระจายให้เด็กดู 1. นิทานเรอ่ื งจดุ สี สังเกต
ประสบการณ์ 1. การบอกลักษณะ
1. บอกลกั ษณะ ส่วนประกอบการ จากแมส่ ี 2. เม่ือดูนิทานจบแล้วครูสนทนาซักถามเกี่ยวกับเร่ืองใน กระจดั กระจาย สว่ นประกอบ การ
ส่วนประกอบ เปลย่ี นแปลงของสี
การเปลี่ยนแปลงของสี เปลี่ยนแปลงและ แม่สี คอื สที เี่ มื่อเรา นิทาน ดงั น้ี 2 . สีโปส เตอร์สี จากการสังเกตโดย
จากการสังเกตโดยใช้ ใชป้ ระสาทสัมผสั
ประสาทสมั ผสั ได้ ความสมั พนั ธ์ของส่งิ นำมาผสมกนั แล้ว - นทิ านเรอื่ งน้ีชื่อเรือ่ งอะไร แดง 2. การค้นหาคำตอบ
2. ค้นหาคำตอบของ ของข้อสงสยั ต่างๆ
ข้อสงสัยตา่ งๆโดยใช้ ตา่ งๆ โดยใชป้ ระสาท เกิดสีใหม่ข้ึนมา แม่สี - ในนิทานมตี ัวละครอะไรบ้าง สเี หลือง สีนำเงิน โดยใชว้ ธิ ีการท่ี
วธิ ีการท่หี ลากหลาย หลากหลายด้วย
ดว้ ยตนเองได้ สัมผัสอยา่ งเหมาะสม มีอยู่ 3 สี คือ สีแดง - คณุ ยายแกว้ นำอะไรออกมาซักและทำไมถงึ ตอ้ งซกั 3. พูก่ ัน ตนเอง

(18) การมสี ว่ นรว่ ม สีเหลือง และสนี ้ำเงนิ - ทำไมจุดสีจงึ ปลิวหายไปหมด 4. กระดาษ 100

ในการลงความเห็นจาก สีทเี่ กดิ จากการผสม - คณุ ยายแกว้ ตามหาจดุ สีเจอหรอื ไม่ เจอท่ีไหนบ้าง ปอนด์

ข้อมูลอย่างมีเหตุผล ของแมส่ ี - ถา้ เด็กๆเปน็ คุณยายแกว้ เด็ก ๆ จะนำจุดสคี ืนมา 5. ฟองน้ำ

(3) การสบื เสาะหา สแี ดง + สเี หลือง หรือไมเ่ พราะอะไร

ความรเู้ พอ่ื ค้นหา = สีสม้ - ถ้าหากเด็กๆ อยากจะให้มีจุดสีหลายๆสีเดก็ รไู้ หม

คำตอบของข้อสงสัย สีเหลอื ง + สนี ำ้ เงนิ ต้องทำอยา่ งไร

ต่างๆ = สเี ขยี ว 3. ครูนำแม่สี 3 สีมาให้เด็กดู แล้วถามเด็กว่าหากเรา

สีน้ำเงิน + สแี ดง อยากจะได้สเี พิม่ ใหม่ โดยการนำสี 3 สี นี้มาผสมกัน เด็กๆ

= สมี ่วง คดิ ว่าจะเกดิ สีใหมอ่ ะไรขึน้ บา้ ง

5. ครูแบ่งเด็กออกเป็น 3 กลุ่ม แต่ละกลุ่มครูจะแจกแม่สี

ให้กลุ่มละ 3 ขวด กระดาษ 100 ปอนด์กลุ่มละ 3 แผ่น

และฟองนำ้ 1 ชิน้

6. ครูใหเ้ ด็กนา้ ฟองน้ำชบุ นำ้ พอหมาด ทาไปบน

กระดาษใหเ้ ปยี ก

- กระดาษแผ่นที่ 1 ให้หยดสีแดงและสีน้ำเงินลงไป ให้

เด็กสังเกตการเปลี่ยนแปลงของสีที่เกิดขึ้นว่าเกิดเป็นสีใหม่

อะไร (เฉลยสีส้ม)

จดุ ประสงค์ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอื่ การประเมนิ
พัฒนาการ
การเรยี นรู้ ประสบการณ์สำคัญ สาระท่คี วรเรยี นรู้

- กระดาษแผ่นท่ี 2 ให้หยดสีเหลืองและสีน้ำเงิน
ลงไป ใหเ้ ด็กสงั เกตการเปล่ียนแปลงของสีที่เกิดขึ้นว่า
เกดิ เปน็ สใี หมอ่ ะไร (เฉลยสเี ขยี ว)

- กระดาษแผ่นท่ี 3 ให้หยดสีน้ำเงินและสีแดงลง
ไป ให้เด็กสังเกตการเปลี่ยนแปลงของสีท่ีเกิดขึ้นว่า
เกดิ เปน็ สีใหม่อะไร (เฉลยสีมว่ ง)
7. ครูและเด็กร่วมกันสรุปว่าเมื่อนำแม่สีแต่ละสีมา
ผสมกนั แลว้ เกิดสีใหมด่ งั นี้

- สีแดง ผสม สีเหลือง = ไดส้ สี ้ม

- สีเหลือง ผสม สีนำ้ เงิน = ไดส้ เี ขยี ว
- สีน้ำเงิน ผสม สีแดง = ได้สมี ่วง

กิจกรรมศลิ ปะ (2) การเขียนภาพและ 1. ครูเตรียมอุปกรณ์กิจกรรม 2 กิจกรรม ได้แก่ 1. จานกระดาษ สังเกต

สร้างสรรค์ การเลน่ กับสี ระบายสีจานกระดาษด้วยสีที่ผสมจากแม่สี 1 คู่และ 2. สโี ปสเตอรส์ ีแดง 1. การสร้างผลงาน

1. สร้างผลงานศิลปะ (4) การประดษิ ฐส์ ิ่ง ประดบั ตกแต่งจานกระดาษด้วยเศษวัสดุ สีเหลือง และสนี ำ้ เงิน ศลิ ปะเพอื่ ส่ือสาร

เพอ่ื ส่อื สารความคดิ ต่างๆ ด้วยเศษวัสดุ 2. ครูแนะนำอุปกรณ์ วิธีการปฏิบัติและข้อตกลงใน 3. จานสี ความคดิ ความรสู้ ึก

ความร้สู กึ ของตนเอง (1) การรับรู้ และแสดง การปฏิบัติกิจกรรม พร้อมสาธิตการทำงานประดับ 4. พ่กู นั ของตนเองโดยมีการ

โดยมกี ารดดั แปลง ความคิดความรู้สึกผ่าน ตกแตง่ จานกระดาษจากเศษวสั ดุ 5. เศษวสั ดุจาก ดัดแปลงแปลกใหม่

แปลกใหม่จากเดิมและ สอ่ื วสั ดุ ของเลน่ และ 3. เดก็ ทำกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ทั้ง 2 กจิ กรรม ธรรมชาติ เช่น เมล็ด จากเดมิ และมี

มรี ายละเอยี ดเพม่ิ ขน้ึ ได้ ช้นิ งาน 4. เด็กรว่ มกนั เก็บอปุ กรณแ์ ละนำเสนอผลงาน ถ่วั เขียว ถว่ั ดำ เมล็ด รายละเอยี ดเพิม่ ข้นึ

2. แสดงความพอใจใน (2) การแสดงความคิด 5. ครูนำผลงานของเด็กทุกคนแสดงหน้าชั้นเรียน ข้าวโพด ขา้ วเปลือก 2. การแสดงความ

ผลงานและความ สร้างสรรค์ผา่ นภาษา เพื่อให้เด็กๆได้ชื่นชมผลงานของตนเองและของ พอใจในผลงาน

สามารถของตนเอง ท่าทางการเคลื่อนไหว เพ่อื นๆ และความสามารถ

และผอู้ ่นื และศลิ ปะ ของตนเองและผู้อนื่

(5) การทำงานศิลปะ

จดุ ประสงค์ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ
พฒั นาการ
การเรยี นรู้ ประสบการณ์สำคญั สาระทีค่ วรเรียนรู้
สังเกต
กิจกรรมเล่นตามมมุ (1) การเลน่ เครือ่ งเลน่ 1. ครูแนะนำการเล่นการปฏิบัติตนในการเล่นตามมุม มมุ ประสบการณ์ใน การเล่นหรือทำงาน
เล่นหรือทำงานรว่ มกับ สัมผัสและการสรา้ ง รว่ มกับเพอื่ นอย่างมี
เพ่อื นอย่างมีเป้าหมาย จากแทง่ ไมบ้ ลอ็ ก ต่างๆตามขอ้ ตกลง ห้องเรยี น เปา้ หมาย
ได้ (2) การเล่นรายบุคคล
2. เด็กเลือกกิจกรรมตามมุมประสบการณ์ตามความ สังเกต
กลุ่มยอ่ ย กลุ่มใหญ่ 1. การเล่นหรอื ทำงาน
(3) การเลน่ ตาม สนใจ ซ่ึงควรจัดไว้ อย่างนอ้ ย ๔ มุม เช่น ร่วมกบั เพอื่ นอย่างมี
มุมประสบการณ์/ เปา้ หมาย
มุมเล่นต่าง ๆ - มมุ ธรรมชาตศิ กึ ษา - มมุ หนงั สอื 2. ความกระตอื รอื รน้
(๒) การเล่นและการ ในการเข้าร่วมกิจกรรม
- มมุ บลอ็ ก - มุมเกมการศึกษา ต้ังแต่ต้นจนจบ
ทำงานร่วมกบั ผ้อู นื่
- มุมบทบาทสมมติ - มุมเครื่องเล่นสมั ผสั

3. เด็กเล่นตามมมุ อย่างอสิ ระ

4. เมือ่ หมดเวลาเด็กเก็บของเข้าทใ่ี หเ้ รียบรอ้ ย

กจิ กรรมกลางแจง้ (2) การเคลื่อนไหว 1. เด็กเตรียมความพร้อมร่างกายโดยการเดินการ 1. ธงสเี ขยี ว สสี ้ม

1. เล่นหรอื ทำงาน เคลือ่ นท่ี กระโดด การวิ่ง การคลานและก้มตัวลงแตะข้อเท้า และสมี ่วง

รว่ มกบั เพ่ือนอย่างมี (4) การเล่นนอก สลบั ซา้ ยขวา 10 ครง้ั 2. นกหวีด

เป้าหมายได้ หอ้ งเรียน 2. เด็กและครูสนทนา ร่วมกันเก่ียวกับการเล่นเกม 3. เสาหลัก

(2) การเลน่ และทำงาน ว่ิงเปย้ี วธงสีโดยครูอธิบายวิธีการเลน่ ใหเ้ ด็กฟงั ดงั น้ี

รว่ มกับผู้อนื่ ๒.1 แบ่งเด็กเป็น 3 ทีม ให้เด็กยืนเป็นแถวตอน

(5) การเคล่ือนไหวใน ครูแจกธงสีให้เด็กคนท่ียืนหัวแถวแต่ละทีมถือไว้แล้ว

การควบคมุ ตนเองไปใน น้าเสาหลักไปต้ังฝ่ังตรงข้ามให้ตรงกับแถวของแต่ละ

ทศิ ทางระดับและพื้นท่ี ทมี

2. กระตอื รอื ร้นในการ (3) การใหค้ วามร่วมมอื ๒.2 ครูให้สัญญาณเริ่มเล่น ให้เด็กคนท่ียืนอยู่หัว

เข้าร่วมกจิ กรรมต้ังแต่ ในการปฏบิ ัติกจิ กรรม แถวของแต่ละทีม วิ่งถือธงไปอ้อมหลักแล้ววิ่งกลับมา

ตน้ จนจบ ตา่ งๆ สง่ ธงสีใหก้ ับเพื่อนคนท่ียืนถัดมา เมื่อส่งธงแล้วก็วิ่งไป

ต่อท้ายแถว คนต่อไปเมื่อได้ธงแล้วก็ปฏิบัติเช่นเดียว

กบั คนแรก ทำเช่นนี้เรือ่ ยไปจนครบทกุ คน

จดุ ประสงค์ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอื่ การประเมนิ
การเรยี นรู้ ประสบการณส์ ำคญั สาระทค่ี วรเรยี นรู้ พัฒนาการ
๒.3 ทมี ใดท่ีเล่นครบทุกคนแล้วใหน้ ่ังลงพร้อมกับ
พูดค้าว่าเฮดังๆพร้อมกัน ทีมที่เล่นครบทุกคนและนั่ง
ลงเปน็ ทีมแรกถือว่าเป็นผู้ชนะ
3. เมื่อหมดเวลา เด็ก ๆ เก็บอุปกรณ์และเข้าแถวทำ
ความสะอาดร่างกายกอ่ นเข้าชั้นเรยี น

กจิ กรรมเกมการศึกษา (5) การคัดแยกการจัด ความสัมพันธ์ของ 1. ครูแนะน้าอุปกรณ์พร้อมท้ังสาธิตวิธีการเล่นเกม 1. เกมจำแนกจัดกลุ่มสี สังเกต
จำแนกและจดั กลมุ่ สไี ด้ กลุ่ม และการจำแนก แมส่ แี ละสผี สมกับ การจำแนกและ
จำแนกและจดั กลุม่ สี 2. เกมการศึกษาชดุ เดมิ จัดกลุม่ สี
สิ่งต่างๆตามลักษณะ ภาพสี
และรปู ร่าง รูปทรง 2. แบง่ เดก็ เป็นกล่มุ ตามความเหมาะสม ใหเ้ ดก็

1 กลุ่มรับเกมที่แนะนำใหม่ไปเล่น กลุ่มอื่นๆเล่นเกม

การศึกษาชุดเดิม

3. เด็กเล่นเกมโดยหมุนเวียนสลับเปล่ียนกันในแต่ละ

กลมุ่ โดยทกุ กลมุ่ ตอ้ งไดเ้ ล่นเกมจำแนกและจัดกลมุ่ สี

4. หมดเวลาเด็กเก็บเกมการศึกษาเข้าที่หลังเลิกเล่น

แลว้

แผนการจดั ประสบการณร์ ายวนั วนั ท่ี 2 หนว่ ยที่ ๓๐ โลกสวยดว้ ยสสี นั ชน้ั อนบุ าลปที ่ี 3

จดุ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอื่ การประเมนิ
การเรยี นรู้ พัฒนาการ
ประสบการณส์ ำคญั สาระทค่ี วรเรยี นรู้ 1. กิจกรรมพ้ืนฐาน ให้เด็กเคลื่อนไหวแบบไม่ 1. เครื่องเคาะจงั หวะ
กิจกรรมเคลอ่ื นไหว เคล่ือนที่ เช่น ก้มตัวไปด้านล่าง เงยหน้าขึ้นข้างบน 2. เพลงเจด็ วันเจด็ สี สังเกต
และจงั หวะ (1) การเคลอ่ื นไหวอยูก่ บั ท่ี ยืดตัวให้สูง ย่อตัวให้ต่ำ ฯลฯ และแบบเคล่ือนท่ี 3. เพลงบรรเลง การเคลอื่ นไหวท่าทาง
เคลอ่ื นไหวทา่ ทาง (2) การเคล่ือนไหวเคลอ่ื นท่ี เช่น วิ่งทางซ้าย - ขวา เดินด้วยปลายเท้าไป เพื่อสื่อสารความคดิ
เพ่ือสอ่ื สารความคดิ (1) การฟังเพลงการร้อง ขา้ งหนา้ - ข้างหลัง ฯลฯ ประกอบจังหวะที่ครูเคาะ ความรสู้ กึ ของตนเอง
ความร้สู ึกของตนเอง เพลง และการแสดง และเมอื่ ไดย้ ินสัญญาณหยุดให้หยุดเคลอ่ื นไหวในทา่ อยา่ งหลากหลาย
อย่างหลากหลายและ ปฏิกริ ยิ าโต้ตอบเสียงดนตรี น้นั ทนั ที และแปลกใหม่
แปลกใหม่ได้ (3) การเคล่อื นไหวตาม
เสียงเพลง/ดนตรี 2. ครสู นทนาแนะน้าเพลงเจด็ วันเจ็ดสี เดก็ และ
(2) การแสดงความคดิ ครรู ่วมกนั รอ้ งเพลงเจด็ วันเจ็ดสี และปรบมือ
สร้างสรรค์ผา่ นสื่อวสั ดตุ า่ งๆ ประกอบจังหวะเพลง
ผ่านภาษาท่าทางการ 3. จดั กลุ่มเด็กตามความเหมาะสม ใหแ้ ต่ละกลุ่ม
เคลื่อนไหวและศิลปะ ออกแบบท่าทางเคลอื่ นไหวรา่ งกายประกอบเพลง
ตามจินตนาการโดยครใู ช้คำถามกระตนุ้ ความคิด

ดงั นี้
- เด็กๆใช้ท่าทางการเคลื่อนไหวแบบใดแทนสี

ในเน้ือเพลง
- เด็กๆจะออกแบบท่าทางอย่างไรที่สามารถใช้

การเคลื่อนไหวอยู่กับท่ีและการเคลอื่ นไหวเคลอื่ นท่ี
ประกอบเพลง

4. เด็กแตล่ ะกลุ่มน้าเสนอผลงานแตล่ ะกล่มุ
5. หลังปฏิบัติกิจกรรมเสร็จแล้ว เด็กพักผ่อน
อิริยาบถ เพอ่ื เตรียมปฏบิ ตั กิ จิ กรรมต่อไป

จดุ ประสงค์ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอื่ การประเมนิ
พัฒนาการ
การเรยี นรู้ ประสบการณส์ ำคัญ สาระท่ีควรเรียนรู้

กจิ กรรมเสรมิ (18) การมีส่วนร่วมใน สีผสมขัน้ ท่ี 3 1. ครูสนทนาซักถามทบทวนเรอ่ื งการผสมสีจากแม่สี 1. สโี ปสเตอร์สีแดง สงั เกต

ประสบการณ์ การลงความเหน็ จาก สผี สมข้นั ที่ 3 คือ ท่ไี ด้ทำเม่ือวาน ดังนี้ สเี หลือง และสีนำ้ เงนิ 1. การค้นหาคำตอบ

1. คน้ หาคำตอบของ ขอ้ มลู อยา่ งมเี หตผุ ล การผสมสรี ะหว่าง - สแี ดง ผสม สีเหลอื ง เกิดเป็นสอี ะไร 2. สผี สมขั้นท่ี 2 สี ของขอ้ สงสัยต่างๆโดยใช้

ขอ้ สงสัยตา่ งๆโดยใช้ (3) การสืบเสาะหา แมส่ กี บั สีผสมขั้นท่ี - สีเหลอื ง ผสม สนี ำ้ เงนิ เกดิ เปน็ สอี ะไร ส้ม สีเขียวและสมี ่วง วิธีการทีห่ ลากหลายด้วย

วิธกี ารท่หี ลากหลาย ความรู้เพ่อื ค้นหา 2 แล้วเกิดเป็นสีใหม่ - สนี ้ำเงิน ผสม สแี ดง เกดิ เป็นสีอะไร 3. กระดาษ 100 ตนเอง

ดว้ ยตนเองได้ คำตอบของข้อสงสัย เชน่ 2. ครเู ตรยี มแมส่ ีมา 3 สแี ละสผี สมมาอีก 3 สแี จกให้ ปอนด์ 2. การเขียนชื่อสีตาม

ตา่ งๆ สีแดง + สสี ม้ ทุกกลมุ่ ๆละ 1 ชุด 4. พู่กัน บตั รคำที่กำหนด

2. เขียนชื่อสีตามบัตร (19) การเห็นแบบ = สีส้มแดง 3. ให้เด็กแต่ละกลุ่มน้าแม่สีและสีผสมมาผสมเป็นสี 5. จานสี

คำทกี่ ำหนดได้ อยา่ งการเขยี นทถี่ กู ตอ้ ง สเี หลอื ง + สเี ขยี ว ขน้ั ที่ 3 ตามคา้ ส่งั ของครดู ังน้ี 6. แก้วน้ำ

(20) การเขียนร่วมกัน = สีเขยี วเหลอื ง ๓.๑ ผสมสีแดง สีส้ม แล้วหาค้าตอบว่าเกิดสีอะไร 7. บตั รคำ

ตามโอกาสและการ สีน้ำเงิน + สมี ่วง โดยระบายสีท่ีผสมได้ลงในกระดาษ 100 ปอนด์ครู - สีสม้ แดง

เขียนอิสระ = สีม่วงน้ำเงิน ให้บตั รคำ สีส้มแดง แล้วให้เด็กลอกช่ือสี ตามแบบลง - สเี ขยี วเหลือง

ในมมุ กระดาษด้านขวา - สมี ่วงน้ำเงนิ

๓.2 ผสมสีเหลอื ง สเี ขยี ว แล้วหาคำตอบว่า เกิดสี

อะไร โดยระบายสีที่ผสมได้ลงในกระดาษ 100

ปอนด์ ครใู ห้บัตรคำ สีเขยี วเหลอื ง แล้วใหเ้ ดก็ ลอกช่ือ

สตี ามแบบลงในมมุ กระดาษดา้ นขวา

3.๓ ผสมสนี ้ำเงิน สีม่วง แล้วหาคำตอบว่าเกิดสอี ะไร

โดยระบายสีที่ผสมได้ลงในกระดาษ 100 ปอนด์ ครู

ให้บัตรคำ สีม่วงน้ำเงิน แล้วให้เด็กลอกชื่อสีตามแบบ

ลงในมมุ กระดาษดา้ นขวา

4. ครูและเด็กร่วมกันสรุปว่าเม่ือน้าแม่สีผสมกับสี

ผสมข้ันท่ี 2 แลว้ เกดิ สีใหม่เรียกวา่ สีผสมขน้ั ท่ี 3 ดังน้ี

จดุ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ
การเรยี นรู้ ประสบการณส์ ำคญั สาระทคี่ วรเรยี นรู้ พฒั นาการ
- สแี ดง ผสม สีสม้ = ไดส้ สี ม้ แดง
- สีเหลอื ง ผสม สีเขยี ว= ไดส้ ีเขยี วเหลอื ง
- สีน้ำเงนิ ผสม สีม่วง = ไดส้ มี ว่ งน้ำเงนิ

กจิ กรรมศลิ ปะ (2) การเขียนภาพและ 1. ครเู ตรยี มอุปกรณ์กจิ กรรม 2 กิจกรรม ได้แก่ 1. กระดาษ เอ 4 สงั เกต
1. การสรา้ งผลงาน
สรา้ งสรรค์ การเลน่ กบั สี หยดสแี ละพับสี สำหรับ 2 กจิ กรรม ศลิ ปะเพือ่ สื่อสาร
ความคดิ ความรสู้ ึก
1. สร้างผลงานศลิ ปะ (1) การรับรู้ และแสดง 2. ครูแนะนำอุปกรณ์ วิธีการปฏิบัติและข้อตกลงใน 2. สีผสมขัน้ ที่ 2 ของตนเองโดยมีการ
ดัดแปลงแปลกใหม่
เพือ่ ส่ือสารความคดิ ความคิดความรู้สึกผ่าน การปฏิบัติกิจกรรมพร้อมสาธิตการหยดสีและพับสี และข้นั ท่ี 3 จากเดิมและมี
รายละเอียดเพิ่มขนึ้
ความรสู้ ึกของตนเอง สอื่ วสั ดุ ของเลน่ และ ด้วยสีผสมขน้ั ที่ 2 และข้ันท่ี 3 3. หลอดหยด 2. การแสดงความ
พอใจในผลงานและ
โดยมีการดดั แปลง ชนิ้ งาน 3. เด็กทำกิจกรรมสร้างสรรค์ท้ัง 2 กิจกรรมตาม 4. จานสี ความสามารถของ

แปลกใหม่จากเดิมและ (2) การแสดงความคิด ความสนใจ ตนเองและผอู้ ่ืน

มีรายละเอียดเพ่ิมข้นึ ได้ สร้างสรรค์ผ่านภาษา 4. เด็กร่วมกันเก็บอุปกรณ์และน้าเสนอผลงานพร้อม

2. แสดงความพอใจใน ท่าทางการเคลอื่ นไหว เล่าผลงาน

ผลงานและความ และศิลปะ 5. ครนู ำผลงานของเด็กทกุ คนแสดงหน้าชนั้ เรียนเพ่ือ

สามารถของตนเอง (5) การทำงานศลิ ปะ ใหเ้ ด็กๆไดช้ ่ืนชมผลงานของตนเองและของเพ่อื นๆ

และผอู้ ื่น

จดุ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ
การเรยี นรู้ พฒั นาการ
ประสบการณส์ ำคัญ สาระทค่ี วรเรยี นรู้ 1. ครูแนะนา้ การเล่นการปฏบิ ตั ิตนในการเล่นตามมุม มมุ ประสบการณ์
กิจกรรมเล่นตามมมุ สังเกต
เล่นหรอื ท้างานรว่ มกบั (1) การเลน่ เคร่ืองเล่น ตา่ งๆตามขอ้ ตกลง ในห้องเรียน เล่นหรอื ทำงานร่วมกับ
เพ่ือนอยา่ งมเี ป้าหมาย สมั ผสั และการสรา้ ง เพ่ือนอย่างมเี ป้าหมาย
ได้ จากแทง่ ไมบ้ ล็อก 2. เด็กเลือกกิจกรรมตามมุมประสบการณ์ตามความ
(2) การเล่นรายบุคคล สังเกต
กิจกรรมกลางแจ้ง กลุม่ ยอ่ ย กลุ่มใหญ่ สนใจ ซึ่งควรจัดไว้ อย่างน้อย ๔ มมุ เช่น การเลน่ หรือทำงาน
เลน่ หรือท้างานรว่ มกับ (3) การเลน่ ตามมุม ร่วมกบั เพอื่ นอยา่ งมี
เพอ่ื นอย่างมีเป้าหมาย ประสบการณ์/ - มมุ ธรรมชาตศิ ึกษา - มมุ หนงั สือ เปา้ หมาย
ได้ มมุ เลน่ ตา่ ง ๆ
(๒) การเล่นและการ - มุมบลอ็ ก - มมุ เกมการศึกษา
ทำงานรว่ มกับผ้อู ืน่
- มมุ บทบาทสมมติ - มมุ เคร่อื งเล่นสมั ผัส
(2) การเคล่ือนไหว
เคล่อื นที่ 3. เดก็ เล่นตามมมุ อย่างอสิ ระ
(2) การเล่นรายบุคคล
กลมุ่ ย่อย กลมุ่ ใหญ่ 4. เมอื่ หมดเวลาเด็กเกบ็ ของเข้าทีใ่ หเ้ รยี บร้อย
(4) การเลน่ นอก
ห้องเรียน 1. เด็กและครูยืนเป็นรูปวงกลมแล้วอบอุ่นร่างกาย 1. อุปกรณ์การเลน่
(2) การเล่นและ
ทำงานรว่ มกับผอู้ ่ืน ด้วยท่าต่างๆ ดังน้ี กระโดดตบ แตะสลับหมุนเอว น้ำ เช่น ขวด

หมุนไหล่ สลดั มือ วิ่งอยูก่ ับที่ พลาสติก เรอื ยาง

2. ครูสร้างข้อตกลงขอ้ ควรระวังในการเล่นน้ำ กรวย ช้อน ฯลฯ

เล่นทราย แนะนา้ การเลน่ นำ้ เลน่ ทรายอย่างถกู วิธี 2. อุปกรณเ์ ลน่ ทราย

ใหเ้ ดก็ ทราบ เชน่ แบบพมิ พท์ ราย

3. เดก็ เลน่ นำ้ เลน่ ทราย ตามความสนใจ ท่ีตกั ทราย รถขน

4. เมอื่ หมดเวลาเดก็ ทำความสะอาด เก็บอปุ กรณ์ ทราย ชอ้ นตักทราย

ในการแล่นและท้าความสะอาดร่างกายก่อนเข้าชั้น ฯลฯ

เรยี น 3. นกหวีด

จดุ ประสงค์ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ
การเรยี นรู้ ประสบการณส์ ำคญั สาระทค่ี วรเรยี นรู้ พัฒนาการ

กิจกรรมเกมการศึกษา (13) การสังเกตทศิ ความสัมพนั ธข์ อง 1. ครูแนะนำอุปกรณ์พร้อมทั้งสาธิตวิธีการเล่นเกม 1. เกมจบั คบู่ ตั รภาพ สังเกต
อ่านภาพสญั ลกั ษณ์ ทางการอ่าน ตัวอักษร บัตรภาพค้ากับ การอ่านภาพสัญลักษณ์
คำ ดว้ ยการชห้ี รือกวาด คำ และขอ้ ความ สญั ลกั ษณต์ วั อกั ษร จับคู่บตั รภาพคำกับสัญลกั ษณ์ตวั อกั ษร คำกับสัญลักษณ์ ค้าด้วยการช้ีหรือกวาด
ตามองจดุ เริ่มต้นและ (16) การสังเกต ตามองจดุ เร่มิ ตน้ และ
2. แบ่งเด็กเป็นกลุ่มตามความเหมาะสม ให้เด็ก 1 ตวั อกั ษร จดุ จบของข้อความ
จุดจบของข้อความได้ ตวั อักษรท่ปี ระกอบ
เป็นคำ ผา่ นการอา่ น กลุ่มรับเกมท่ีแนะน้าใหม่ไปเล่น กลุ่มอื่นๆ เล่นเกม 2. เกมการศกึ ษาชุด
หรอื เขยี นของผ้ใู หญ่
(18) การเล่นเกม การศกึ ษาชุดเดมิ เดิม
ทางภาษา
3. เด็กเล่นเกมโดยหมุนเวียนสลับเปล่ียนกันในแต่ละ

กลุ่มโดยทุกกลุ่มต้องได้เล่นเกมจับคู่บัตรภาพคำกับ

สัญลักษณต์ ัวอักษร

4. หมดเวลาเด็กเกบ็ เกมการศึกษาเข้าทีห่ ลงั เลิก

เล่นแล้ว

แผนการจดั ประสบการณร์ ายวนั วนั ที่ 3 หนว่ ยที่ ๓๐ โลกสวยดว้ ยสสี นั ชน้ั อนบุ าลปที ่ี 3

จดุ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอื่ การประเมนิ
การเรยี นรู้ พัฒนาการ
ประสบการณส์ ำคัญ สาระทคี่ วรเรยี นรู้
กิจกรรมเคลอ่ื นไหว 1. กิจกรรมพ้ืนฐานใหเ้ ด็กเคลื่อนไหวแบบไม่เคลือ่ นที่ 1. เคร่ืองเคาะจงั หวะ สังเกต
และจงั หวะ (1) การเคล่ือนไหวอยู่
เคลือ่ นไหวทา่ ทาง กบั ที่ เช่น เหยียดเท้า บิดตัวไปมาส่ายสะโพก น่ังลง ลุกข้ึน 2. เพลงบรรเลง เคลอื่ นไหวท่าทาง
เพื่อสอื่ สารความคิด (2) การเคลื่อนไหว
ความรู้สกึ ของตนเอง เคล่อื นท่ี ฯลฯ และแบบเคลื่อนท่ี เช่น เดินด้วยส้นเท้าไป 3. ริบบ้ินสีดำ เพอื่ สือ่ สารความคดิ
อยา่ งหลากหลาย (3) การเคลือ่ นไหว
และแปลกใหม่ได้ พรอ้ มอปุ กรณ์ ข้างหนา้ -ขา้ งหลงั กระโดดไปทางซ้าย-ทางขวา ฯลฯ ความรู้สกึ ของตนเอง
(1) การฟงั เพลงการ
ร้องเพลง และการ 2. ครูสนทนาแนะนำกจิ กรรมการเคล่อื นไหวร่างกาย อย่างหลากหลายและ
แสดงปฏกิ ิรยิ าโต้ตอบ
เสยี งดนตรี ประกอบอุปกรณ์ริบบิ้นสีดำให้เด็กฟังโดยให้เด็กยืน แปลกใหม่
(3) การเคล่ือนไหวตาม
เสียงเพลง/ดนตรี อิสระรอบๆห้องเรียน เม่ือได้ยินเสียงเพลงบรรเลงให้
(2) การแสดงความคิด
สร้างสรรค์ผ่านภาษา เด็ ก เค ลื่ อ น ไห ว ร่ า ง ก า ย ต า ม จิ น ต น า ก า ร ป ร ะ ก อ บ
ทา่ ทางการเคลอื่ นไหว
และศิลปะ ริบบิน้ สีดำไปรอบๆห้องตามจังหวะช้า – เรว็ และเมื่อ

ได้ยนิ เสียงนกหวีดให้เดก็ หยดุ เคลื่อนไหวทันที และฟงั

คำสง่ั จากครดู งั น้ี

- รวมกลุ่ม 3 คนและชูรบิ บน้ิ สดี ำเหนอื ศรี ษะ

- รวมกลมุ่ 4 คนและนงั่ ลง

- รวมกลุ่ม 5 คนและสะบัดรบิ บน้ิ สีดำไปมา

- รวมกล่มุ 6 คนและวางริบบิน้ สดี ำลงท่ีพืน้

ฯลฯ

3. หลังปฏิบตั กิ ิจกรรมเสร็จแลว้ ให้เดก็ พกั ผอ่ น

กล้ามเนื้อในท่าทส่ี บาย กอ่ นปฏิบตั กิ ิจกรรมต่อไป

จดุ ประสงค์ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอื่ การประเมนิ
การเรยี นรู้ ประสบการณส์ ำคญั สาระทคี่ วรเรยี นรู้ พฒั นาการ

กจิ กรรมเสริม (1) การสงั เกตลักษณะ ความลบั ของสดี ำ 1. ครูนำน้ำสีดำมาให้เด็กดูแล้วถามเด็กว่านี้ คือ น้ำ 1. แก้วนำ้ สังเกต
ประสบการณ์ 1. การบอกลกั ษณะ
1. บอกลกั ษณะ ส่วนประกอบการ สีดำเกิดจากการรวม อะไรเอ่ย เด็กๆตอบคำถาม ครูยังไม่เฉลยคำตอบว่า 2. สีนำ้ สว่ นประกอบการเปลีย่ น
สว่ นประกอบ แปลงหรือความสัมพันธ์
การเปล่ยี นแปลงของสี เปลีย่ นแปลงและ กันของสีหลายๆ สี คอื นำ้ อะไร 3. พู่กัน ของสง่ิ ตา่ งๆจากการ
จากการสังเกตโดยใช้ สงั เกตโดยใช้ประสาท
ประสาทสมั ผัสได้ ความสัมพนั ธข์ องส่ิง ซง่ึ สังเกตไดจ้ ากการ 2. เด็กวาดภาพคนละ 1 ภาพ แล้วระบายสีภาพด้วย 4. กระดาษ เอ 4 สมั ผัส
2. คน้ หาคำตอบของ 2. การคน้ หาคำตอบ
ขอ้ สงสัยต่างๆโดยใช้ ตา่ งๆโดยใช้ประสาท ทดลองทใี่ ชน้ ้ำเปน็ ตัว สีน้ำและใหเ้ ดก็ ลา้ งพูก่ นั ก่อนเปลย่ี นสที กุ คร้ัง 5. ปากกาเมจิก ของขอ้ สงสัยต่างๆโดยใช้
วิธกี ารที่หลากหลาย วธิ กี ารที่หลากหลายด้วย
ดว้ ยตนเองได้ สัมผสั อย่างเหมาะสม ละลายแยกสตี ่าง ๆ 3. เม่ือเด็กระบายสีเสร็จแล้ว ครูให้เด็กสังเกตน้ำใน 6. กระดาษกรองรปู ตนเอง

(18) การมีส่วนร่วมใน บนกระดาษกรอง แก้วที่ใช้ล้างพู่กนั ว่าน้ำในแก้วเปน็ สอี ะไรและทำไมจึง วงกลม

การลงความเหน็ จาก โดยสีทส่ี ามารถ เปน็ เช่นน้ัน เด็กอยากรหู้ รือไม่หากอยากรู้วา่ ทำไมเรา 7. ฝาขวดแก้ว

ข้อมลู อย่างมเี หตผุ ล ละลายนำ้ ได้ดจี ะซมึ ต้องไปทดลองทำดู 8. หลอดหยด

(3) การสบื เสาะหา ไปได้ไกลจนถึงขอบ 4. ครูบอกเด็กว่า วันนเี้ ราจะทำการทดลองว่าสีแต่ละ

ความรเู้ พอ่ื คน้ หา กระดาษกรองสว่ นสีท่ี สีที่เรามองเห็นอยู่น้ัน แท้จริงมีสีอะไรซ่อนอยู่ในสี

คำตอบของข้อ ละลายนำ้ ได้ไม่ดจี ะ เหล่าน้ันบ้าง ครูแนะนำวัสดุ อุปกรณ์ต่างๆพร้อมทั้ง

สงสยั ตา่ งๆ ซมึ อยู่บรเิ วณตรง อธิบายวธิ ใี ชง้ าน

(4) การมีสว่ นร่วมใน กลางเทา่ นน้ั 5. ครูอธิบายและสาธิตวิธีการทดลองร่วมกันกับเด็ก

การรวบรวมขอ้ มลู และ ตามลำดับข้นั ตอนดังนี้

นำเสนอข้อมูลจากการ 5.1 เตรียมกระดาษกรองคนละ 1 แผ่นใช้ปากกาเม

สืบเสาะหาความรใู้ น จิกสีดำวาดภาพหรือระบายสีตรงกลางแผ่น หงายฝา

รูปแบบต่างๆและ ขวดขึ้น นำกระดาษกรองที่ระบายสีแล้ววางไว้

แผนภูมิอยา่ งง่ายๆ ด้านบนต่อจากนั้นให้ใช้หลอดหยด หยดน้ำทีละหยด

ตรงกลางกระดาษกรองกระดาษกรองจะดูดซึมและ

แพร่สีออกไปเป็นรูปวงกลมเม่ือน้ำซึมไปหาภาพวาด

จะพาน้ำหมึกไปด้วย ทำให้สีดำของปากกาเมจิกถูก

แยกเป็นสีต่างๆ จนเกดิ เปน็ วงกลมหลากสี

จดุ ประสงค์ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ
การเรยี นรู้ ประสบการณส์ ำคญั สาระทคี่ วรเรยี นรู้ พัฒนาการ
5.2 ครูแจกกระดาษกรองแผ่นใหม่ให้เด็กลองเปลย่ี น
เป็นสีอ่ืนๆมาทดลองดูบ้าง ว่าในสีต่างๆเหล่านั้นจะมี
สอี ะไรซอ่ นอยบู่ า้ ง
5.3 ครูถามเด็กว่าเห็นอะไรบ้างและสนทนากับเด็ก
ถึงการเปลีย่ นแปลงที่สังเกตได้ แลว้ ใหเ้ ด็กแสดงความ
คดิ เหน็
6. ครูและเด็กร่วมกันสรุปผลที่ได้จากการทดลอง
เร่ือง ความลับของสดี ำ สีดำเกดิ จากการรวมกันของสี
หลาย ๆ สี ซึ่งสังเกต ได้จากการทดลองท่ีใช้น้ำเป็น
ตัวละลายแยกสีต่าง ๆ บนกระดาษกรองโดยสีท่ี
สามารถละลายน้ ำได้ดีจะซึมไปได้ไกลจน ถึง
ขอบกระดาษกรอง ส่วนสที ี่ละลายนำ้ ได้ไม่ดีจะซึมอยู่
บริเวณตรงกลางเท่าน้ัน
7. ให้เด็กวาดภาพระบายสีบันทึกผลการทดลองแล้ว
ออกมาเลา่ ให้เพอ่ื นๆและครฟู ัง
8. เดก็ ช่วยกนั จดั เกบ็ สอ่ื วสั ดุ อุปกรณ์ การเรียน
ต่างๆ เขา้ ที่ใหเ้ รยี บรอ้ ย

จดุ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ
พัฒนาการ
การเรยี นรู้ ประสบการณส์ ำคัญ สาระท่ีควรเรียนรู้
สังเกต
กจิ กรรมศิลปะ (19) การเห็นแบบ 1. ครูเตรยี มอุปกรณ์กิจกรรม 2 กิจกรรม ได้แก่ วาด 1. กระดาษแบบรปู 1. การเขียนรปู
สามเหลีย่ มตามแบบ
สร้างสรรค์ อยา่ งการเขียนทถี่ ูกต้อง รปู สามเหล่ียมตามแบบและขดู สี สามเหลย่ี ม ไดอ้ ยา่ งมมี ุมชัดเจน
2. การสรา้ งผลงาน
1. เขียนรปู สามเหลย่ี ม (2) การเขียนภาพและ 2. ครูแนะนำอุปกรณ์ วธิ ีการปฏบิ ัตแิ ละข้อตกลงใน 2. ดนิ สอ ศลิ ปะเพอื่ สอ่ื สาร
ความคดิ ความรูส้ ึก
ตามแบบไดอ้ ย่างมมี ุม การเล่นกบั สี การปฏิบตั กิ ิจกรรมพรอ้ มสาธติ การเขยี นรูปสามเหล่ยี ม 3. สไี ม้ ของตนเองโดยมกี าร
ดดั แปลงแปลกใหม่
ชัดเจน (1) การรับรู้ และแสดง ตามแบบ ดงั นี้ 4. กระดาษ A4 จากเดมิ และมี
รายละเอียดเพิม่ ข้ึน
2. สร้างผลงานศิลปะ ความคิดความร้สู ึกผา่ น ๒.1 ครแู จกกระดาษแบบรปู สามเหลีย่ มทีม่ ีขนาด 5. สเี ทยี น

เพือ่ ส่ือสารความคดิ สอ่ื วสั ดุ ของเลน่ และ เลก็ กลาง ใหญ่ ใหเ้ ดก็ ทกุ คน 6. สโี ปสเตอรส์ ีดำ

ความรสู้ ึกของตนเอง ช้นิ งาน ๒.2 เด็กเขยี นรูปสามเหลยี่ มตามแบบที่กำหนด 7. พกู่ ัน

โดยมกี ารดดั แปลง (2) การแสดงความคิด และระบายสใี หส้ วยงาม 8. จานสี

แปลกใหม่จากเดิมและ สรา้ งสรรคผ์ ่านภาษา 3. ครสู าธิตการขูดสี ตามขนั้ ตอนดงั น้ี 9. ไมเ้ สยี บลกู ช้นิ

มีรายละเอียดเพิม่ ขนึ้ ได้ ทา่ ทางการเคลอ่ื นไหว ๓.๑ ระบายสเี ทียนหลายๆสีไปให้เต็มหน้ากระดาษ

และศลิ ปะ ๓.2 แล้วนา้ สโี ปสเตอรส์ ีดำมาระบายทบั ไปใหท้ วั่

กระดาษ

๓.3 ทิง้ ใหส้ ดี ำแห้ง(อย่าทงิ้ ไว้นานจนเกนิ ไปเพราะสี

ดำจะขดู ไม่ออก) เมอ่ื สีดำแหง้ แลว้ ให้นำไม้เสียบลูกช้ิน

มาขดู หรือวาดภาพลงไปบนสดี ำตามจินตนาการ

4. เดก็ ทำกิจกรรมสร้างสรรคท์ ัง้ 2 กิจกรรมตามความ

สนใจ

5. เดก็ รว่ มกันเก็บอุปกรณแ์ ละน้าเสนอผลงานพรอ้ ม

เล่าผลงาน

6. ครนู ำผลงานของเด็กทกุ คนแสดงหน้าช้ันเรยี น

เพื่อใหเ้ ด็กไดช้ น่ื ชมผลงานของตนเองและเพอื่ นๆ

จดุ ประสงค์ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ
การเรยี นรู้ พัฒนาการ
ประสบการณส์ ำคัญ สาระทคี่ วรเรยี นรู้ 1. ครแู นะนำการเลน่ การปฏิบัตติ นในการเล่นตามมุม - มุมประสบการณใ์ น
กิจกรรมเล่นตามมุม สงั เกต
เลน่ หรือท้างานรว่ มกับ (1) การเล่นเครื่องเล่น ต่างๆตามขอ้ ตกลง ห้องเรยี น การเลน่ หรือทำงาน
เพอ่ื นอยา่ งมเี ปา้ หมาย สัมผัสและการสรา้ ง ร่วมกบั เพ่อื นอยา่ งมี
ได้ จากแท่งไมบ้ ลอ็ ก 2. เด็กเลือกกิจกรรมตามมุมประสบการณ์ตามความ เปา้ หมาย
(2) การเล่นรายบุคคล
กจิ กรรมกลางแจ้ง กล่มุ ยอ่ ย กลุ่มใหญ่ สนใจ ซึง่ ควรจัดไว้ อยา่ งน้อย ๔ มุมเช่น สงั เกต
เล่นหรอื ทำงานร่วมกบั (3) การเลน่ ตาม การเล่นหรอื ทำงาน
เพื่อนอย่างมีเปา้ หมาย มมุ ประสบการณ์/ - มุมธรรมชาตศิ กึ ษา - มมุ หนังสือ ร่วมกับเพื่อนอยา่ งมี
ได้ มุมเล่นต่าง ๆ เป้าหมาย
(๒) การเล่นและการ - มมุ บล็อก - มมุ เกมการศกึ ษา
ทำงานร่วมกับผู้อ่ืน
- มุมบทบาทสมมติ - มุมเครือ่ งเล่นสมั ผัส
(2) การเคลอ่ื นไหว
เคลือ่ นที่ 3. เดก็ เล่นตามมมุ อยา่ งอสิ ระ
(5) การเล่นเครื่องเล่น
สนามอยา่ งอสิ ระ 4. เมอ่ื หมดเวลาเด็กเกบ็ ของเขา้ ท่ีให้เรยี บร้อย
(4) การเล่นนอก
ห้องเรยี น 1. เดก็ ยนื เปน็ รปู วงกลมแล้วเตรียมความพร้อม 1. เครอ่ื งเล่นสนาม
(2) การเลน่ และ
ทำงานรว่ มกับผอู้ ื่น รา่ งกายด้วยท่าตา่ งๆ ดังนี้ ว่งิ อยู่กบั ที่ วิง่ สไลด์ 2. นกหวีด

ซ้าย - ขวา กระโดดกบไปขา้ งหน้า-หลงั

2. ครูสร้างข้อตกลงข้อควรระวังในการเล่นเครือ่ ง

เลน่ สนาม แนะนำการเล่นเครอื่ งเล่นสนามอย่าง

ถูกวธิ ใี หเ้ ดก็ ทราบ

3. เด็กเล่นเครอื่ งเลน่ สนามอยา่ งอิสระ

4. เม่ือหมดเวลาเด็กเข้าแถวท้าความสะอาดร่างกาย

กอ่ นเข้าช้ันเรียน

จดุ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอื่ การประเมนิ
พฒั นาการ
การเรยี นรู้ ประสบการณ์สำคญั สาระทคี่ วรเรียนรู้

กิจกรรมเกมการศึกษา (13) การจับคู่ ความสมั พันธ์ของสี 1. ครูแนะนำอุปกรณ์พร้อมท้ังสาธิตวิธีการเล่นเกม 1. เกมตารางสมั พันธ์ สังเกต

จบั คแู่ ละเปรียบเทยี บ การเปรยี บเทยี บ กับกลุ่มสที ี่กำหนด ตารางสัมพันธ์ของสีกับกลุ่มสที ี่กำหนด ของสีกับกล่มุ สีที่ การจบั คู่และ

ความแตกตา่ งและ และการเรียงลำดบั 2. แบ่งเด็กเป็นกลุ่มตามความเหมาะสม ให้เด็ก 1 กำหนด เปรียบเทยี บ

ความเหมอื นของสีได้ ส่ิงต่างๆตามลักษณะ กลุ่มรับเกมท่ีแนะน้าใหม่ไปเล่น กลุ่มอื่นๆเล่นเกม 2. เกมการศกึ ษา ความแตกตา่ งและ

ความยาว/ความสู ง การศกึ ษาชดุ เดิม ชดุ เดิม ความเหมือนของสี

นำ้ หนกั ปริมาตร 3. เด็กเล่นเกมโดยหมุนเวียนสลับเปลี่ยนกันในแต่ละ

กลุ่มโดยทุกกลุ่มต้องได้เล่นเกมตารางสัมพันธ์ของสี

กบั กลุ่มสีทก่ี ำหนด

4. หมดเวลาเดก็ เกบ็ เกมการศกึ ษาเขา้ ทีห่ ลงั เลกิ

เล่นแล้ว

แผนการจดั ประสบการณร์ ายวนั วนั ที่ 4 หนว่ ยที่ 30 โลกสวยดว้ ยสสี นั ชนั้ อนบุ าลปที ี่ 3

จดุ ประสงค์ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอื่ การประเมนิ
การเรยี นรู้ ประสบการณส์ ำคัญ สาระทค่ี วรเรยี นรู้ พฒั นาการ

กิจกรรมเคลอื่ นไหว (1) การเคล่ือนไหวอย่กู บั ที่ 1. กิจกรรมพ้ืนฐานให้เด็กเคลื่อนไหวร่างกายไปท่ัวๆ 1. เครื่องเคาะจังหวะ สงั เกต

และจังหวะ (2) การเคลอ่ื นไหว บริเวณอยา่ งอิสระตามจังหวะเม่ือไดย้ ินสัญญาณหยุด 2. ป้ายภาพใบเตย การเคลือ่ นไหวท่าทาง

เคลอื่ นไหวท่าทาง เคล่อื นท่ี ให้หยุดเคลื่อนไหวในทา่ นั้นทันที ดอกอญั ชนั ขม้ิน เพอื่ ส่ือสารความคิด

เพื่อสือ่ สารความคดิ (3) การเคลื่อนไหวพร้อม 2. ครูแบ่งเด็กเป็น 4 กลุ่ม คือกลุ่มใบเตย กลุ่มดอก และแตงโม ความรู้สกึ ของตนเอง

ความรูส้ กึ ของตนเอง วสั ดุอปุ กรณ์ อญั ชัน กลุ่มขมิ้น และกลุ่มแตงโม ครูแจกภาพให้เด็ก 3. นกหวดี อยา่ งหลากหลายและ

อยา่ งหลากหลาย (1) การฟงั เพลงการร้อง คนละ 1 แผน่ ตามชื่อกลุ่มทเี่ ด็กอยู่ แปลกใหม่

และแปลกใหมไ่ ด้ เพลง และการแสดง 3. ครอู ธิบายและสาธิตวิธีการท้ากจิ กรรม โดยใหเ้ ด็ก

ปฏิกริ ยิ าโต้ตอบเสยี งดนตรี เคล่ือนไหวร่างกายตามจินตนาการประกอบเพลง

(3) การเคลือ่ นไหวตาม บรรเลง เมื่อเพลงหยุดเด็กต้องปฏิบัติตามข้อตกลง

เสยี งเพลง/ดนตรี ด้วยการมาจับกลุ่มรวมกันตามภาพใครมีกลุ่มแล้วให้

(2) การแสดงความคิด น่ังลง

สรา้ งสรรค์ผ่านภาษา 4. ทำกิจกรรมซำ้ ข้อ 3 ใหมอ่ ีกซำ้ 2 - 3 คร้ัง

ท่าทางการเคล่ือนไหว 5. หลงั ปฏบิ ัตกิ ิจกรรมเสรจ็ แลว้ ใหเ้ ด็กพกั ผ่อน

และศลิ ปะ อริ ยิ าบถโดยนอนราบกบั พ้ืน เพ่อื เตรยี มปฏิบัติ

กจิ กรรมตอ่ ไป

จดุ ประสงค์ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอื่ การประเมนิ
การเรยี นรู้ ประสบการณส์ ำคญั สาระทคี่ วรเรยี นรู้ พัฒนาการ

กจิ กรรมเสริม (1) การสงั เกตลักษณะ การทำสผี สมอาหาร 1. ครูน้าภาพ ขนมไทย เช่น ขนมอาลัว ขนมช้นั
ประสบการณ์
1. บอกลักษณะสว่ น ส่วนประกอบการ จากพชื ขนมลูกชุบ ขนมน้ำดอกไม้ ฯลฯ มาติดไว้ที่ป้ายนิเทศ
ประกอบการเปล่ยี น
แปลงของสจี ากการ เปลี่ยนแปลงและ สีผสมอาหารจากพชื และเอากระดาษที่มีตัวเลข 1 – 15 มาปะทับไม่ให้
สังเกตโดยใชป้ ระสาท
สัมผสั ได้ ความสมั พันธ์ของส่ิง คอื สีทีเ่ ราสามารถ เหน็ ภาพขนมด้านหลัง
2. ค้นหาคำตอบของ
ข้อสงสัยตา่ งๆโดยใช้ ต่างๆโดยใช้ประสาท สกดั ไดจ้ ากพืชหลายสี 2. ให้เด็กนับจำนวน 1 - 15 แล้วถามเด็กว่าเด็กๆ
วธิ ีการท่ีหลากหลาย
ดว้ ยตนเองได้ สมั ผสั อย่างเหมาะสม เป็นสีที่ปลอดภัยและ อยากรไู้ หมว่าดา้ นหลงั ตัวเลขนี้มีภาพอะไรซ่อนอยู่

(17) การคาดเดาหรือ ไม่เปน็ อันตรายตอ่ 3. เด็กอาสาสมัครออกมาเปิดบัตรตัวเลขทีละใบแล้ว

การคาดคะเนสง่ิ ท่ี สขุ ภาพ ไดแ้ ก่ ให้เพื่อนๆช่วยกันทายว่าภาพข้างหลังบัตรตัวเลขคือ

อาจจะเกดิ ข้นึ อย่าง 1. สเี ขียวจากใบเตย ภาพอะไร

มเี หตผุ ล 2. สีน้ำเงินจาก 4. เปิดบัตรตัวเลขออกให้หมดให้เด็กดูว่าภาพที่ทาย

(18) การมีส่วนร่วมใน ดอกอัญชัน ไว้ถกู หรอื ไม่ ครสู นทนาซกั ถามเกย่ี วกบั ภาพ ดงั น้ี

การลงความเห็นจาก 3. สีเหลอื งจาก - ขนมแต่ละชนดิ มีสอี ะไรบา้ ง

ข้อมลู อย่างมีเหตผุ ล ขมน้ิ หรอื ฟักทอง - สีทีน่ ำมาใส่ในขนมน่าจะเป็นสชี นิดใด

(3) การสืบเสาะหา 4. สีแดงจากแตงโม - สีเหลา่ นคี้ ิดว่านา่ จะไดม้ าจากวสั ดอุ ะไรบ้าง

ความรู้เพื่อค้นหา 5. ครูสนทนากับเด็กๆว่าสีท่ีใส่ในขนมต่างๆเหล่านี้

คำตอบของข้อสงสยั เป็นสที ่ีไดม้ าจากธรรมชาติ โดยการไดม้ าจากพชื

ตา่ งๆ 6. ครนู ำตะกร้าทใ่ี ส่พืช ต่างๆ ดงั น้ี 1. ใบเตย 2.

(4) การมีสว่ นรว่ มใน ดอกอญั ชนั 3. ขมนิ้ 4 แตงโม มาวางไวห้ นา้ หอ้ ง

การรวบรวมข้อมลู และ และหยบิ พืชเหล่านน้ั ให้เดก็ ดวู ่าส่ิงเหล่านัน้ มชี อ่ื

นำเสนอข้อมูลจากการ วา่ อะไร

สบื เสาะหาความรใู้ น 7. ครูแบ่งเด็กออกเป็น 4 กลุ่ม และให้แต่ละกลุ่มส่ง

รูปแบบตา่ งๆและ ตวั แทนออกมาหยิบตะกรา้ ทอ่ี ย่หู น้าหอ้ งไปกลุ่มละ 1

แผนภมู ิอยา่ งงา่ ยๆ ตะกร้า

จดุ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ
การเรยี นรู้ ประสบการณส์ ำคญั สาระทค่ี วรเรยี นรู้ พฒั นาการ
8. ครูบอกเด็กว่าวันน้ีครูจะให้เด็กทำสีผสมอาหารจากพืช
เหลา่ น้ี ครูให้แตล่ ะกลุ่มลองคาดคะเนสที ่จี ะไดจ้ ากพืชทไี่ ด้ไป
9. เด็กทดลองทำสีผสมอาหารจากพชื ดงั น้ี
กลุ่ม 1 หั่นใบเตยเป็นฝอย ปนั่ กบั น้ำสะอาดจากนัน้ แล้วกรอง
เอาแตน่ ้ำ
กลุ่ม 2 น้ำดอกอัญชันมาล้างให้สะอาดขย้ำเบา ๆกับน้ำ
เล็กน้อยแล้วกรอง
กลุ่ม 3 น้ำขม้ินมาปอกเปลือก แล้วน้ำไปปั่นกับน้ำสะอาด
จากนั้นแลว้ กรองเอาแต่นำ้
กลุ่ม 4 ปอกแตงโมเอาเมลด็ ออกห่นั เป็นชิ้นเล็กแลว้ นำ้ ไปปน่ั
10. เด็กแต่ละกลุ่มนำเสนอผลการทดลองโดยการน้ำสีผสม
อาหารท่ีไดม้ าระบายลงไปในแบบบนั ทกึ ผลการทดลอง

11. เดก็ และครรู ว่ มกันสรุปผลการทำสผี สมอาหารทีไ่ ด้จาก
พชื เปน็ สีตามธรรมชาติ

จดุ ประสงค์ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ
การเรยี นรู้ ประสบการณส์ ำคญั สาระทคี่ วรเรยี นรู้ พัฒนาการ

กจิ กรรมศลิ ปะ (2) การเขียนภาพและ 1. ครูเตรียมอุปกรณ์กิจกรรม 2 กิจกรรม ได้แก่วาด 1. กระดาษ เอ 4 สังเกต
1. การสรา้ งผลงาน
สร้างสรรค์ การเลน่ กบั สี ภาพตามจนิ ตนาการดว้ ยสจี ากสีธรรมชาตแิ ละเป่าสี สำหรบั 2 กิจกรรม ศิลปะเพอื่ สือ่ สาร
ความคดิ ความรูส้ กึ
1. สร้างผลงานศิลปะ (1) การรับรู้ และแสดง 2. ครูแนะนำอุปกรณ์ วิธีการปฏิบัติและข้อตกลงใน 2. สีจากธรรมชาติ ของตนเองโดยมี
การดดั แปลงแปลก
เพ่ือส่อื สารความคดิ ความคิดความรู้สึกผ่าน การปฏิบัตกิ ิจกรรม 3. พ่กู ัน ใหมจ่ ากเดิมและมี
รายละเอยี ดเพมิ่ ขึน้
ความรูส้ กึ ของตนเอง ส่ือวสั ดุ ของเลน่ และ 3. เด็กทำกิจกรรมสร้างสรรค์ท้ัง 2 กิจกรรมตาม 4. จานสี 2. การแสดงความ
พอใจในผลงานและ
โดยมีการดดั แปลง ชนิ้ งาน ความสนใจ 5. แกว้ นำ้ ความสามารถของ
ตนเองและผูอ้ ่นื
แปลกใหม่จากเดิมและ (2) การแสดงความคิด 4. เด็กร่วมกันเก็บอุปกรณ์และนำเสนอผลงานพร้อม 6. สโี ปสเตอร์
สงั เกต
มีรายละเอียดเพม่ิ ขึ้นได้ สร้างสรรค์ผ่านภาษา เลา่ ผลงาน 7. หลอดกาแฟ การเลน่ หรือทำงาน
รว่ มกบั เพื่อนอย่างมี
2. แสดงความพอใจ ทา่ ทางการเคล่ือนไหว 5. ครูนำผลงานของเดก็ ทุกคนแสดงหนา้ ช้ันเรียนเพื่อ เป้าหมาย

ในผลงานและ และศลิ ปะ ใหเ้ ดก็ ๆไดช้ ่นื ชมผลงานของตนเองและของเพ่อื น

ความสามารถของ (๕) การทำงานศลิ ปะ

ตนเองและผอู้ ื่น

กจิ กรรมเลน่ ตามมุม (1) การเล่นเคร่ืองเล่น 1. ครแู นะนำการเล่นการปฏบิ ตั ิตนในการเล่นตามมุม มมุ ประสบการณ์
เล่นหรือทำงานรว่ มกบั สมั ผัสและการสร้าง
ต่างๆตามข้อตกลง ในห้องเรียน
เพ่อื นอยา่ งมีเป้าหมาย จากแทง่ ไมบ้ ลอ็ ก
ได้ (2) การเล่นรายบคุ คล 2. เด็กเลือกกิจกรรมตามมุมประสบการณ์ตามความ

กลุ่มยอ่ ย กลุ่มใหญ่ สนใจ ซง่ึ ควรจดั ไว้ อยา่ งนอ้ ย ๔ มมุ เชน่
(3) การเล่นตามมมุ
ประสบการณ์/มุมเล่น - มมุ ธรรมชาตศิ ึกษา - มมุ หนงั สือ

ตา่ ง ๆ - มมุ บลอ็ ก - มมุ เกมการศกึ ษา
(๒) การเล่นและการ
ทำงานรว่ มกับผู้อน่ื - มุมบทบาทสมมติ - มุมเครื่องเล่นสมั ผสั

3. เด็กเลน่ ตามมุมอยา่ งอิสระ

4. เมือ่ หมดเวลาเดก็ เกบ็ ของเข้าทใ่ี หเ้ รียบรอ้ ย

จดุ ประสงค์ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอื่ การประเมนิ
การเรยี นรู้ พัฒนาการ
ประสบการณส์ ำคญั สาระทค่ี วรเรยี นรู้ 1. เดก็ ยนื เป็นรูปวงกลมแลว้ เตรียมความพรอ้ มรา่ งกายดว้ ยท่า 1. บอลสหี ลายๆสี
กิจกรรมกลางแจ้ง ตา่ งๆดงั น้ี ย่ำเทา้ หมุนไหล่ หมนุ แขน แกวง่ แขน ตามจำนวนกลมุ่ สังเกต
1. เลน่ หรอื ทำงาน (2 ) ก า ร เค ลื่ อ น ไห ว 2. ครูแบ่งเด็กออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละเท่าๆกันตามความ และเทา่ กบั จำนวน 1. การเลน่ หรอื
ร่วมกับเพอื่ นอย่างมี เคลือ่ นที่ เหมาะสม เดก็ ท ำ ง า น ร่ ว ม กั บ เพ่ื อ น
เปา้ หมายได้ (1) การเคลื่อนไหวในการ 3. ครแู นะนำวธิ กี ารเลน่ เกมโยนบอลสีลงตะกร้าทถี่ ูกต้องดงั นี้ 2. ตะกร้า อย่างมีเป้าหมาย
2. กระตือรือรน้ ค ว บ คุ ม ต น เอ ง ไป ใน 2. นกหวีด 2. ความกระตือรือรน้
ในการเข้าร่วม ทศิ ทางระดับ และพ้ืนที่ ๓.1 เดก็ แตล่ ะกลมุ่ เข้าแถวตอน ในการเขา้ รว่ ม
กจิ กรรมต้งั แต่ตน้ (2) การเล่นรายบุคคล ๓.2 ครแู จกบอลสีใหเ้ ด็กทกุ คนตามสีที่เด็กอยู่ 1. เกมจบั คู่ภาพ กจิ กรรมต้ังแตต่ ้น
จนจบ กล่มุ ยอ่ ย กลมุ่ ใหญ่ 3.๓ ครนู ำตะกร้าไปต้งั ไวฝ้ ั่งตรงข้ามแถวของเด็กแต่ละกลุม่ จำนวนที่เพ่ิมขน้ึ จนจบ
(4) การเลน่ นอก ๓.4 ให้เด็กคนท่ียืนหัวแถวของแต่ละสีโยนบอลสีไปให้ลง ทีละหน่งึ
กจิ กรรมเกม ห้องเรยี น ตะกร้าท่ีอย่หู น้าของแถวตนเมื่อโยนบอลสีไปแล้วให้ไปต่อท้าย 2. เกมการศกึ ษา สงั เกต
การศึกษา (2) การเล่นและทำงาน แถว ชุดเดิม การจับคู่และ
จบั ค่แู ละ รว่ มกับผู้อ่นื ๓.5 เด็กคนต่อมาปฏิบัติเช่นเดียวกับเด็กคนแรก ทำเช่นนี้จน เปรยี บเทยี บ
เปรยี บเทียบความ (3) การให้ความร่วมมือ ครบทุกคน เสร็จแล้วนับจำนวนบอลสีกลุ่มใดมีบอลสีอยู่ใน ความแตกต่างและ
แตกตา่ งและความ ในการปฏบิ ัติกจิ กรรม ตะกร้ามากทสี่ ดุ เปน็ ฝ่ายชนะ ความเหมือนของสี
เหมือนของสภี าพ ต่างๆ ๔. เมื่อหมดเวลาเด็กเก็บอุปกรณ์ เข้าแถวทำความสะอาด ภาพและจำนวน
และจำนวนได้ ร่างกายกอ่ นเข้าชนั้ เรียน
(๑๓) การจบั คกู่ าร ความคิดรวบยอด
1. ครูแนะนำอุปกรณ์พร้อมท้ังสาธิตวิธีการเล่นเกมจับคู่ภาพ
เป รียบเที ยบ และการ เรื่องจำนวนและ จำนวนทเี่ พิ่มขนึ้ ทลี ะหนึ่ง
2. แบ่งเด็กเป็นกลุ่มตามความเหมาะสมให้เด็ก 1 กลุ่มรับเกม
เรียงลำดับสิง่ ตา่ งๆ ตาม การเพม่ิ ท่ีแนะนำใหมไ่ ปเลน่ กลุ่มอืน่ ๆ เล่นเกมการศึกษาชดุ เดมิ
3. เด็กเล่นเกมโดยหมุนเวียนสลับเปลี่ยนกันในแต่ละกลุ่มโดย
ลักษณะความยาว/ความ ทกุ กลุ่มต้องไดเ้ ล่นเกมจับค่ภู าพจำนวนท่เี พม่ิ ข้ึนทลี ะหนึ่ง
4. หมดเวลาเดก็ เกบ็ เกมการศกึ ษาเข้าทหี่ ลังเลิกเลน่ แล้ว
สงู น้ำหนกั ปรมิ าตร

(8) การนับและแสดง

จำนวนส่งิ ตา่ งๆในชวี ติ

ประจำวัน

แผนการจดั ประสบการณร์ ายวนั วนั ท่ี 5 หนว่ ยท่ี ๓๐ โลกสวยดว้ ยสสี นั ชน้ั อนบุ าลปที ่ี 3

จดุ ประสงค์ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ
การเรยี นรู้ พฒั นาการ
ประสบการณ์สำคญั สาระท่ีควรเรียนรู้
กจิ กรรมเคล่อื นไหว 1. กิจกรรมพื้นฐานให้เด็กเคล่ือนไหวร่างกายในท่า 1. เครือ่ งเคาะจังหวะ สงั เกต
และจังหวะ (1) การเคลื่อนไหว
เคล่ือนไหวทา่ ทาง อยู่กับท่ี พื้นฐาน เช่น ก้าวชิดก้าว และเขย่งก้าวกระโดดไป 2. เพลงรงุ้ กินนำ้ การเคลอื่ นไหวทา่ ทาง
เพ่ือสือ่ สารความคดิ (2) การเคลื่อนไหว
ความรสู้ กึ ของตนเอง เคล่ือนที่ รอบๆ บริเวณอย่างอิสระตามจังหวะที่ครูเคาะโดยไม่ 3. ริบบ้นิ สี 7 สี เพ่ือสอื่ สารความคดิ
อย่างหลากหลายและ (3) การเคล่อื นไหว
แปลกใหม่ได้ พร้อมวสั ดอุ ุปกรณ์ ชนกันเมื่อได้ยินสัญญาณหยุดให้เด็กหยุดเคล่ือนไหว ความรสู้ ึกของตนเอง
(1) การฟังเพลง
การร้องเพลง และ ในท่าน้นั ทันที อย่างหลากหลายและ
การแสดงปฏกิ ิรยิ า
โต้ตอบเสยี งดนตรี 2. เด็กและครูร่วมกันร้องเพลงรุ้งกินน้ำ และปรบมือ แปลกใหม่
(3) การเคลอ่ื นไหว
ตามเสยี งเพลง/ดนตรี ประกอบจังหวะเพลง
(2) การแสดงความคดิ
สร้างสรรคผ์ า่ นภาษา 3. ให้เด็กรอ้ งเพลงรุ้งกินน้ำ ตามครูทีละวรรค 2 – 3
ท่าทางการเคลือ่ นไหว
และศลิ ปะ ครง้ั หรือจนเด็กสว่ นใหญจ่ ำได้

4. แบ่งกลุ่มเด็กให้ได้ 7 กลุ่มๆละ 1 สีแจกริบบ้ินให้

เด็กคนละ 1 เสน้ (กระจายให้ครบ 7 ส)ี

5. ให้เด็กเคลื่อนไหวร่างกายพร้อมริบบิ้นสีตาม

จินตนาการประกอบเพลงรุ้งกินน้ำ เม่ือเพลงจบให้

เด็กรวมกลุ่มกันตามสีของสายรุ้ง พร้อมกับนำริบบ้ิน

สีมาเรยี งโค้งเปน็ สายรุง้ โดยเรยี งลา้ ดบั ตามเนือ้ เพลง

6. หลังปฏิบัติกจิ กรรมเสรจ็ แล้ว เด็กพักผ่อนอริ ิยาบถ

เพอ่ื เตรยี มปฏบิ ัติกจิ กรรมตอ่ ไป

จดุ ประสงค์ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอื่ การประเมนิ
การเรยี นรู้ พัฒนาการ
ประสบการณส์ ำคญั สาระทค่ี วรเรยี นรู้

กิจกรรมเสริม (2) การฟังและการ การท าหวานเย็น 1. ครูน้าหวานเย็นใส่ภาชนะมีผ้าคลุมไว้ แล้วให้เด็กทุกคน 1. ภาชนะมผี า้ คลุม สังเกต
ออกมาคลำสิ่งของที่อยูใ่ นภาชนะว่าคืออะไร รู้สึกอย่างไร โดย 2. นำ้ ใบเตย 1. การฟังผู้อื่นพดู จน
ประสบการณ์ ปฏบิ ัติตามคำแนะนำ จากสธี รรมชาติ มีข้อตกลงว่าเม่ือเด็กคลำแล้วให้กลับไปน่ังที่และห้ามพูดอะไร นำ้ ดอกอัญชัน จบและสนทนา
จนกว่าเพ่ือนทกุ คนจะคลำเรียบร้อยแล้ว น้ำเกก๊ ฮวยและ โต้ตอบอยา่ ง
1. ฟังผู้อื่นพูดจนจบ (๓) การฟงั เพลง สธี รรมชาติสามารถ น้ำแตงโม ต่อเนื่องเช่ือมโยงกับ
2. เมื่อเด็กทุกคนคล้าสิ่งท่ีอยู่ในภาชนะเสร็จแล้วครูถามค้า 3. กะละมงั เรอื่ งทีฟ่ ังได้
และสนทนาโตต้ อบ นิทานคำคลอ้ งจอง นำมารับประทานได้ ถามดงั นี้ 4. น้ำแข็ง 2. ความ
5. เกลอื เมด็ กระตอื รอื ร้น
อยา่ งต่อเนอ่ื ง บทรอ้ ยกรองหรอื เชน่ สเี ขียวจาก - ของที่อยูใ่ นภาชนะมีลักษณะอยา่ งไรร้สู ึกอย่างไร 6. ถงุ พลาสติก ในการเขา้ รว่ ม
- เดก็ ๆคิดวา่ คืออะไร
เชื่อมโยงกบั เรือ่ ง เรอ่ื งราวต่าง ๆ ใบเตย สีน้ำเงินจาก 3. ครนู ำส่ิงของที่อยู่ในภาชนะขนึ้ มาใหเ้ ดก็ ดวู า่ คืออะไร พร้อม 7. ยางหนังสต๊ิก กจิ กรรมตั้งแตต่ น้
จนจบ
ทฟ่ี ังได้ (๔) การพูดแสดง ดอกอัญชันสีแดงจาก กับบอกว่าวันนี้ครูจะให้เด็กท้าหวานเย็นสีสวยๆจากน้ำสีที่ได้
จากธรรมชาติ
ความคิดเหน็ ความ แตงโมและสีเหลือง 4. ครแู นะนำอุปกรณแ์ ละขั้นตอนในการทำหวานเยน็ ดงั น้ี

รู้สึกและความตอ้ ง จากน้ำเก๊กฮวย โดย 4.1 ครูแบ่งเด็กออกเปน็ กล่มุ ตามความเหมาะสม ให้แต่ละ
กลมุ่ ออกมารับอุปกรณ์การทำหวานเย็น
การ การนำมาผสมใส่ลง
4.2 ครูให้เด็กนำน้ำใบเตย นำ้ ดอกอัญชนั นำ้ เก๊กฮวย และ
2. กระตือรือร้นใน (3) การให้ความ ไปในอาหารทำให้
นำ้ แตงโม ใสล่ งไปในถงุ และมัดปากถุงใหเ้ รยี บรอ้ ย
การเข้าร่วมกิจกรรม ร่วมมือในการ อาหารมีสีสันสวยงาม 4.3 นำน้ำแข็งมาเทใส่กะละมัง ใส่เกลือเม็ดลงไป เอาถุง

ตั้งแตต่ น้ จนจบ ปฏิบตั กิ ิจกรรม และน่ารับประทาน หวานเย็นใส่ลงไปในกะละมังเอาน้ำแข็งและเกลือใส่เพิ่มลงไป
อกี
ตา่ งๆ มากยิง่ ขึ้น เช่น
4.4 ให้เด็กผลัดกันหมุนกะละมงั เร็วๆไปเร่ือยจนกว่าหวาน
ขนมช้นั วุน้ สแี ละ เย็นจะแข็งตัว

ท้าหวานเย็น เป็นตน้ ๕. ครูให้เด็กสังเกตลักษณะของหวานเย็นว่าเป็นอย่างไร
เหมือนตอนแรกหรือไม่

จดุ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ
การเรยี นรู้ ประสบการณส์ ำคญั สาระทคี่ วรเรยี นรู้ พัฒนาการ
6. ครูและเด็กสนทนารวมกนั เกี่ยวกบั หวานเย็นแตล่ ะ
สที ีไ่ ด้จากธรรมชาติ ดังน้ี สังเกต
1. สรา้ งผลงานศลิ ปะ
- หวานเยน็ สีเขยี วไดจ้ ากน้ำใบเตย เพือ่ สื่อสารความคดิ
- หวานเยน็ สนี ้ำเงนิ ได้จากน้ำดอกอญั ชนั ความรูส้ กึ ของตนเอง
- หวานเยน็ สีแดงได้จากน้ำแตงโม โดยมกี ารดดั แปลง
- หวานเย็นสีเหลืองได้จากน้ำเก๊กฮวยและให้เด็กๆ แปลกใหมจ่ ากเดิม
ชิมรสชาติของหวานเย็นแต่ละสีว่ามีรสชาติแตกต่าง และมรี ายละเอยี ด
กนั อยา่ งไร และชอบหวานเย็นสอี ะไรมากทส่ี ุด เพม่ิ ข้ึน
2. การเขียนรปู
กิจกรรมศลิ ปะ (2) การเขยี นภาพ 1. ครูเตรยี มอปุ กรณ์กจิ กรรม 2 กิจกรรม ได้แก่ 1. กระดาษสี สามเหล่ียมตามแบบ
ได้อย่างมีมุมชดั เจน
สรา้ งสรรค์ และการเลน่ กบั สี วาดภาพหวานเยน็ ตามจินตนาการด้วยสนี ้ำและทำ 2. ดินสอ

1. สร้างผลงานศลิ ปะ (5) การหยิบจับการใช้ โมบายรปู สามเหลีย่ ม 3. กรรไกร

เพ่ือสอื่ สารความคิด การตัด และการร้อย 2. ครูแนะนำอุปกรณ์ วิธีการปฏิบัติและข้อตกลงใน 4. เชือก

ความรสู้ กึ ของตนเอง วสั ดุ การปฏิบัติกิจกรรมพร้อมสาธิตการท้าโมบายรูป 5. แก้วพลาสติก

โดยมกี ารดัดแปลง (2) การแสดงความคิด สามเหลี่ยม 6. กระดาษ เอ 4

แปลกใหม่จากเดิมและ สร้างสรรค์ผ่านภาษา 3. เด็กทำกิจกรรมสร้างสรรค์ทั้ง 2 กิจกรรมตาม 7. สีนำ้

มรี ายละเอียดเพ่ิมขน้ึ ได้ ท่าทางการเคล่อื นไหว ความสนใจ 8. พู่กัน

2. เขียนรูปสามเหลยี่ ม และศลิ ปะ 4. เด็กร่วมกันเก็บอุปกรณ์และน้าเสนอผลงานพร้อม 9. จานสี

ตามแบบได้อย่างมมี ุม (1 9 ) การเห็ น แบ บ เลา่ ผลงาน 10. แก้วนำ้

ชัดเจนได้ อย่างการเขยี นท่ถี กู ตอ้ ง 5. ครูนำผลงานของเด็กทุกคนแสดงหน้าช้ันเรียน

เพื่อให้เด็กๆได้ชื่นชมผลงานของตนเองและของ

เพือ่ นๆ

จดุ ประสงค์ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอื่ การประเมนิ
พัฒนาการ
การเรยี นรู้ ประสบการณส์ ำคัญ สาระที่ควรเรยี นรู้
สงั เกต
กจิ กรรมเลน่ ตามมมุ (1) การเลน่ เครอื่ งเลน่ 1. ครูแนะนา้ การเล่นการปฏบิ ัตติ นในการเลน่ ตามมุม มุมประสบการณ์ การเลน่ หรอื ทำงาน
เล่นหรอื ท้างานรว่ มกบั สัมผัสและการสรา้ ง ในห้องเรียน รว่ มกับเพอื่ นอย่างมี
เพอ่ื นอย่างมเี ปา้ หมาย จากแทง่ ไม้บลอ็ ก ตา่ งๆตามข้อตกลง เป้าหมาย
ได้ (2) การเล่นรายบคุ คล
กลมุ่ ย่อย กล่มุ ใหญ่ 2. เดก็ เลือกกิจกรรมตามมุมประสบการณ์ตามความ สงั เกต
(3) การเลน่ ตามมุม 1. การเลน่ หรอื ทำงาน
ประสบการณ/์ มุมเลน่ สนใจ ซ่ึงควรจดั ไว้ อย่างน้อย ๔ มมุ เชน่ รว่ มกับเพอื่ นอย่างมี
ตา่ ง ๆ เปา้ หมาย
(๒) การเล่นและการ - มมุ ธรรมชาตศิ ึกษา - มมุ หนังสือ 2. ความกระตอื รือรน้
ในการเขา้ รว่ มกิจกรรม
ทำงานร่วมกับผอู้ ื่น - มุมบล็อก - มุมเกมการศกึ ษา ตง้ั แตต่ น้ จนจบ

- มุมบทบาทสมมติ - มุมเครอ่ื งเล่นสมั ผสั

3. เด็กเล่นตามมมุ อย่างอสิ ระ

4. เมอื่ หมดเวลาเด็กเก็บของเข้าท่ีใหเ้ รียบรอ้ ย

กจิ กรรมกลางแจง้ (2) การเคลอ่ื นไหว 1. เด็กยืนเปน็ รูปวงกลมแลว้ เตรยี มความพรอ้ มร่างกาย 1. ไมบ้ ลอ็ ก

1. เลน่ หรอื ทำงาน เคลื่อนท่ี ด้วยการว่ิงเหยาะอยู่กับที่ และหมนุ แขนพรอ้ มกัน 10 2. ตะกรา้

รว่ มกับเพอ่ื นอยา่ งมี (4) การเคลอ่ื นไหวท่ีใช้ ครง้ั โดยครเู ปน็ ผนู้ ำใหเ้ ดก็ ปฏบิ ตั ิตาม 3. นกหวดี

เปา้ หมายได้ การประสานสัมพันธ์ 2. เด็กอาสาสมัครออกมาเปน็ ผนู้ ้าในการทำท่าทาง

2. กระตือรอื รน้ ในการ ของการใชก้ ลา้ มเนื้อ ประมาณ 3-4 คน โดยทา้ ท่าละ 10 ครัง้

เขา้ ร่วมกจิ กรรมตงั้ แต่ ใหญใ่ นการจบั การโยน 3. ครเู ตรียมไม้บล็อกสีต่างๆจำนวน 20 ช้ินตะกรา้ 4ใบ

ตน้ จนจบ (3) การให้ความรว่ มมือ 4. ขีดเส้นเร่ิม และเส้นชยั หา่ งกนั ประมาณ 5เมตร

ในการปฏิบัตกิ ิจกรรม 5. วางไมบ้ ลอ็ กเปน็ ระยะๆ หา่ งกนั พอสมควร

ตา่ งๆ จำนวน 4 แถว

6. ครูให้เด็กยืนหลงั เส้นเริ่มแถวละ 1 คน และวาง

ตะกร้าไวข้ ้างหลงั เดก็ ทย่ี ืนแถวละ 1 ใบ

7. ครใู หส้ ัญญาณเดก็ ว่งิ ไปเก็บของทีว่ างไวใ้ นแถวของ

ตนเองมาใส่ตะกรา้ โดยเกบ็ ไดเ้ ทย่ี วละ 1 ชิ้น

จดุ ประสงค์ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอื่ การประเมนิ
การเรยี นรู้ ประสบการณส์ ำคัญ สาระทคี่ วรเรยี นรู้ พัฒนาการ
8. เมือ่ เกบ็ ของใส่ตะกรา้ จนครบแล้วใหเ้ อาตะกร้าไปที่
เสน้ ชยั ใครถงึ ก่อนคนนัน้ ชนะ
9. ใหเ้ ดก็ สลับสบั เปล่ียนกันออกมาทำกิจกรรมจนครบ
ทกุ คน
10. เมอ่ื หมดเวลาเดก็ เกบ็ อปุ กรณแ์ ละเขา้ แถวทำความ
สะอาดร่างกายกอ่ นเข้าชนั้ เรยี น

กจิ กรรมเกมการศกึ ษา (๑๓) การจับคู่การ สีมคี วามแตกตา่ ง 1. ครแู นะนำอุปกรณ์พรอ้ มทงั้ สาธิตวิธกี ารเลน่ เกม 1. เกมเรียงลำดบั สงั เกต
เรยี งลำดับสอี อ่ นและ เปรยี บเทียบและการ กนั เรยี งจากสอี อ่ น การเรยี งลำดบั สอี ่อน
แก่อยา่ งน้อย 5 ลำดบั เรียงลำดับส่งิ ต่างๆตาม ไปจนถึงสแี ก่ เรียงลำดบั หวานเยน็ สีออ่ น - แก่ หวานเย็นสอี ่อน และแกอ่ ย่างนอ้ ย
ได้ ลักษณะความยาว/ 5 ลำดับ
ความสูง นำ้ หนกั 2. แบ่งเดก็ เปน็ กลมุ่ ตามความเหมาะสม ใหเ้ ดก็ 1 กลุ่ม และสแี ก่
ปรมิ าตร
รบั เกมที่แนะนำใหมไ่ ปเลน่ กลมุ่ อ่นื ๆเลน่ เกมการศึกษา 2. เกมการศึกษา

ชดุ เดมิ ชุดเดมิ

3. เด็กเล่นเกมโดยหมุนเวยี นสลบั เปลย่ี นกนั ในแต่ละ

กลมุ่ โดยทกุ กลุ่มต้องได้เล่นเกมเรียงลำดบั หวานเยน็ สี

ออ่ น - แก่

4. หมดเวลาเด็กเกบ็ เกมการศึกษาเขา้ ที่หลังเลกิ เล่น

แลว้

1 เลขท่ี ชือ่ – สกลุ
2
3 1.การเขยี นรปู สามเหลยี่ มตามแบบไดอ้ ย่างมีมมุ ดา้ น ดา้ น ดา้ น แบบสงั เกตพฤตกิ รรมเดก็ หนว่ ยการจดั ประสบการณท์ ี่ 30 โลกสวยดว้ ยสสี นั ชน้ั อนบุ าลปที ่ี 3
4 ชดั เจน ร่างกาย อารมณ์ สงั คม
5
6 2. การแสดงความพอใจในผลงานและ ประเมนิ พฒั นาการ
7 ความสามารถของตนเองและผูอ้ ื่น ดา้ นสตปิ ญั ญา
8
9 3. การเลน่ หรือทำงานร่วมกับเพอ่ื นอยา่ งมี
10 เปา้ หมาย
4. การฟังผอู้ ื่นพดู จนจบและสนทนาโตต้ อบอย่าง
คำอธบิ าย ครสู งั เกตพฤตกิ รรมเด็กรายบคุ คล จดบนั ทกึ สรปุ เป็นรายสัปดาหร์ ะบรุ ะดบั คณุ ภาพเป็น ๓ ระดับ คอื ตอ่ เนอ่ื งเช่ือมโยงกบั เรอ่ื งที่ฟัง
ระดับ ๓ ดี ระดับ ๒ ปานกลาง ระดบั ๑ ควรสง่ เสรมิ
5. การอ่านภาพสญั ลกั ษณค์ ำ ด้วยการชหี้ รือกวาด
ตามองจดุ เรมิ่ ต้นและจดุ จบของขอ้ ความ

6. การเขยี นชอื่ สตี ามบตั รคา้ ทก่ี ำหนด

7. การบอกลักษณะส่วนประกอบการเปลี่ยนแปลง
ของสจี ากการสังเกตโดยใช้ประสาทสัมผัส

8. การจบั คแู่ ละเปรียบเทียบความแตกตา่ งและ
ความเหมือนของสี

9. การจำแนกและการจดั กลุ่มสี

10.การเรยี งลำดับสอี ่อนและแก่ อยา่ งนอ้ ย 5
ลำดบั
11. การสร้างผลงานศลิ ปะเพอ่ื สอื่ สารความคดิ
ความรู้สกึ ของตนเองโดยมกี ารดดั แปลงแปลกใหม่
จากเดิมและมีรายละเอียดเพมิ่ ข้ึน

12. การเคลื่อนไหวทา่ ทางเพอื่ สอื่ สารความคดิ
ความ ร้สู ึกของตนเองอยา่ งหลากหลายและแปลก
ใ1ห3ม.ค่ วามกระตอื รือร้นในการรว่ มกจิ กรรมตง้ั แต่ตน้
จนจบ

14. การคน้ หาคา้ ตอบของขอ้ สงสัยตา่ งๆโดยใช้
วิธกี ารทหี่ ลากหลายด้วยตนเอง

หมาย
เหตุ


Click to View FlipBook Version