คลังความรู้ ยศ.ทบ.
แบบฝกึ หดั วิชาภาษาไทย (ชุดท่ี 1 )
1. พยางค์มกี ี่ชนดิ
1. 1 ชนดิ
2. 2 ชนดิ
3. 3 ชนดิ
4. 4 ชนิด
2. ข้อใดหมายถึงพยางคท์ ่ไี ม่มที ง้ั รูปและเสยี งตัวสะกด
1. พยางคป์ ิด
2. พยางค์เปดิ
3. พยางคป์ ิดและพยางคเ์ ปดิ
4. ผิดทุกขอ้
3. ขอ้ ใดเป็นพยางคป์ ิดทุกคำ
1. เอ็มกำลังไปไหน
2. ฝนชอบกนิ อาหารรา้ นนี้
3. เอมมไ่ี มช่ อบผกั ชี
4. ถกู ทุกขอ้
4. ขอ้ ใดมเี สียงสระสัน้ ทกุ พยางค์
1. ส้มเช้ง โอเล้ียง
2. ต้มยำ กะหลำ่ ปลี
3. มะลิ หนุงหนิง
4. บีเอ็ม ฟอร์ด
5. ข้อใดแตกต่างจากข้ออื่น
1. พนั ธนาการ ราโชวาท
2. ชโลทร รงั สโิ ยภาส
3. อัธยาศัย มโนธรรม
4. นิรทกุ ข์ ปญั ญาชน
คลงั ความรู้ ยศ.ทบ.
6. "พี่ๆ แจกของขวัญวันเดก็ ใหก้ ับนอ้ ง" เป็นการซ้ำคำแบบใด
1. เนน้ ความหมายของคำ
2. แสดงความเปน็ พหพู จน์
3. ลดความหมายของคำเดิม
4. บอกความหมายแยกเปน็ สว่ นๆ
7. ขอ้ ใดจบั ค่คู ำลกั ษณนามได้ถูกต้อง
1. แผล - แผล
2. เปล - อัน
3. พวงมาลา - ช่อ
4. ผ้าไตร - ผืน
8. ข้อใดมีทง้ั อวจั นภาษาและวัจนภาษา
1. สมชายส่งสญั ญาณมือให้กบั เพอื่ นวา่ อยา่ เดนิ เข้ามา
2. สมส่วนจิกสายตาไปท่ีเพื่อนในขณะทพ่ี ูดรายงานหน้าชั้นเรยี น
3. สมนำ้ บรรยายเร่ืองดนิ แดนแหง่ ความสมดลุ ในโลก
4. สมสม้ เดินโบกมอื ให้กับเพ่ือนทีห่ นา้ เสาธง
9. ข้อใดเปน็ คำยืมจากภาษาอังกฤษทุกคำ
1. วซี ่า โชดา
2. สูท ฝร่งั
3. สลัม องุน่
4. การ์ด กุหลาบ
10. ข้อใดเป็นประโยค
1. คณะนักศึกษาท่เี รียกรอ้ งประชาธปิ ไตย
2. ประชาชนท่ีไม่พอใจในการตัดสิน
3. สตั ว์ตา่ งๆ ในสวนสตั วย์ ังไม่ไดร้ บั การดูแล
4. ผู้ชายและผหู้ ญิงทอ่ี ยู่ในสังคมไทย
คลังความรู้ ยศ.ทบ.
11. หากบรษิ ทั ตอ้ งการทำหนงั สือชวี ประวตั ิ ขั้นตอนในการปรกึ ษากนั คอื การใชภ้ าษาระดับใด
1. ภาษาระดบั พธิ ีการ
2. ภาษาระดับกนั เอง
3. ภาษาระดับทางการ
4. ภาษาระดบั กึ่งทางการ
12. คำในขอ้ ใดมีทมี่ าตรงกับคำตอ่ ไปนี้ "นิตยา รตั นา มสุ า"
1. จิต นิลบุ ล วริ ยิ ะ
2. ประพันธ์ ทรมาน เขต
3. อารยะ โจร ลงกา
4. ประทปี ประเวณี ทหาร
13. คณุ ครูให้นักเรียนทกุ คนแนะนำตัวหนา้ ช้นั นักเรียนควรใช้ภาษาระดบั ใด
1. ภาษาระดับกนั เอง
2. ภาษาระดบั ไม่เป็นทางการ
3. ภาษาระดับพิธีการ
4. ภาษาระดบั ทางการ
14. ขอ้ ใดไมจ่ ำเปน็ ในการพูดแสดงความยินดี
1. พดู ช้าๆ ชดั ถ้อยชดั คำ
2. ใชค้ ำพูดใหถ้ ูกต้องเหมาะสม
3. พูดดว้ ยวาจาทสี่ ุภาพ
4. พูดด้วยนำ้ เสียงเศรา้ ใจ
15. ประกาศ 1 มกราคม 2559
นักเรียนทม่ี คี วามประสงค7จะขอรบั ทนุ การศกึ ษาใหBเขียนใบคำรBองไดตB ัง้ แตวI นั ท่ี 5-15 มกราคม 2559
ท่ตี กึ กิจการนกั เรยี นโรงเรียนหมีรBอยช่ัง (ฝาP ยกจิ การนกั เรียน)
จากประกาศข้างต้นมีขอ้ บกพร่องอย่างไร
1. ไมม่ ีชอื่ เรื่อง
2. ไมม่ ีช่ือผู้ประกาศ
3. จุดประสงคไ์ ม่ชดั เจน
4. ชว่ งเวลาไมช่ ดั เจน
คลังความรู้ ยศ.ทบ.
16. "ภาษาสามารถแปรไปตามบริบทสังคมได้ทั้งปัจจัยทางด้านเพศ อายุ ความสนิทสนม และการศึกษา ดังนั้น
จะบอกว่าภาษามกี ารเปลยี่ นแปลงอย่ตู ลอดเวลากค็ งจะไม่ผิดมากนัก"
จากข้อความข้างตน้ ข้อใดคือใจความสำคัญ
1. ภาษามกี ารเปล่ยี นแปลงอยู่ตลอดเวลา
2. การเปล่ยี นแปลงของภาษาเกดิ จากความสนิทสนม อายุ และเพศ
3. ภาษาสามารถแปลไปตามบรบิ ทสงั คม
4. ภาษาเป็นเครือ่ งมือในการสื่อสาร
17. ข้อใดกล่าวไมถ่ กู ต้องเกี่ยวกับการโต้วาที
1. ผโู้ ตว้ าทีจะแบง่ เปน็ 3 ฝา่ ย คอื ฝ่ายค้าน ฝ่ายสรปุ และฝ่ายเสนอ
2.การโต้วาทีมกี ารกำหนดเวลาตามความเหมาะสม
3. ญัตติ หมายถึง หวั ข้อท่ีนำมาโต้วาที
4. การโต้วาทเี ป็นไปดว้ ยเหตุผลไมใ่ ชอ้ ารมณ์
18. ข้อใดกล่าวถูกตอ้ ง
1. การขอบคณุ เป็นการแสดงออกถึงการรูค้ ุณผอู้ ื่น
2. การกล่าวขอบคุณควรกล่าวอย่างเร่งรีบเพราะไมจ่ ำเป็นต้องมีพิธอี ะไร
3. การขอบคุณควรพูดดว้ ยน้ำเสียงน่มิ นวลแตม่ จี ังหวะ ไมต่ ้องคำนงึ ถึงความสภุ าพมากกไ็ ด้
4. หากกล่าวขอบคณุ ในนามตัวแทน ไมจ่ ำเป็นตอ้ งกล่าวถงึ นามคณะเพราะสามารถบอกแคช่ ื่อตนเองได้
19. เคร่อื งดนตรีเปรยี บเสมอื นเคร่ืองบรรเทาจิตใจคนในสังคม ให้มีจิตใจอ่อนโยน พรอ้ มรับมอื กับปญั หาที่เดนิ
เขา้ มาในจิตใจ อีกท้ังยังทำให้จิตใจสงบอีกดว้ ย
จากขอ้ ความข้างตน้ ปรากฏภาพพจน์ใดบา้ ง
1. อุปมาและบุคลาธิษฐาน
2. อปุ มาและนามนัย
3. อุปลักษณ์และนามนยั
4. อุปลกั ษณ์และบคุ ลาธษิ ฐาน
20. คำในข้อใดสามารถใช้เป็นคำเอกโทษไดใ้ นโคลงสภุ าพ
1. พิษ
2. ฝน
3. พงศ์
4. มา
คลงั ความรู้ ยศ.ทบ.
21. “ บวั ตูมตุมตุ่มตมุ้ กลางตม
สูงส่งทงทานลม ลม่ ล้ม ”
จากบทประพนั ธข์ ้างต้นปรากฎสมั ผสั ใดเดน่ ที่สดุ
1. การเลน่ คำซ้ำ
2. การเลน่ เสียงวรรณยกุ ต์
3. การเล่นเสียงสระ
4. การเลน่ เสยี งพยญั ชนะ
22. ขอ้ ใดมีเสยี งวรรณยกุ ตค์ รบทุกเสียง
1. รา้ นกาแฟในปจั จบุ ันมีหลายแบบ
2. เดก็ ทกุ คนมีความฝนั ในแบบของตนเอง
3. การเรยี นหนงั สือสำคญั ต่อเยาวชน
4. ภาวะโลกร้อนเปน็ ปัญหาใหญใ่ นโลก
23. คำซอ้ นในข้อใดตา่ งจากพวก
1. ทรพั ยส์ ิน
2. สูญหาย
3. นุ่มนม่ิ
4. เหตผุ ล
24. ขอ้ ใดกลา่ วผิดเกีย่ วกับคำบาลแี ละสนั สกฤต
1. คำบาลไี ม่ใช้ รร
2. คำทีป่ ระสมด้วยสระเอา มกั เปน็ คำสนั สกฤต
3. คำบาลเี มอื่ มีตวั สะกดต้องมีตวั ตาม
4. คำสันสกฤตไม่นิยมใช้ ท
25. ขอ้ ใดใช้ภาพพจนต์ ่างจากพวก
1. ปัญญาเปรยี บดั่งอาวธุ ทเี่ อาไว้ประกอบอาชพี ในภายหนา้
2. ความฝันเหมอื นกบั แสงไฟ หากไมค่ อยเตมิ เตม็ ก็จะดับลงในท่สี ุด
3. ชวี ิตทบ่ี อบช้ำก็ประหนง่ึ กับของเลน่ สีถลอก
4. แก้วนำ้ เปน็ สิ่งเติมเต็มความสขุ ให้กบั คนบางคน
คลังความรู้ ยศ.ทบ.
26. “ เคยสงสัยไหมว่า ทำไมสัตว์ที่แสดงโชว์ในสวนสัตว์หรือโรงละคร จะต้องมาทำหน้าที่เป็นสิ่งให้ความสุข กับมนุษย์
เขาเหล่านั้นเป็นของเล่นอย่างนั้นหรือ สิ่งที่สัตว์ต่างๆ ควรได้รับก็คือ อิสระ เสรีภาพที่เป็นไปตามธรรมชาติ กลับสู่ผืน
ปา่ ที่เคยอยู่ อยา่ ให้ความสนกุ หรอื ความสุขที่ไดร้ บั กลบั มาทำลายสัตว์ตา่ งๆ ในทางอ้อม ”
จากขอ้ ความขา้ งตน้ ปรากฏภาพพจน์ใดบา้ ง
1. อุปมา
2. อุปลกั ษณ์
3. อุปมาและอปุ ลกั ษณ์
4. อุปลักษณ์และอตพิ จน์
27. ขอ้ ใดไม่ใชส่ าระที่ปรากฏในขอ้ ความต่อไปน้ี
" อารยธรรมของมนุษย์เราในทุกวันนี้ตั้งอยู่บนความย่อยยับของดินฟ้าอากาศ นี่ไม่เป็นเพียงข่าวเท่านั้น หากแต่
สามารถรับรู้ไดจ้ ากการอา่ นหนังสือ ดูโทรทัศน์ ฟงั วทิ ยุ และฟังคนอน่ื พูดกันในเชิงวชิ าการ "
1) สังคมโลกกำลังทำลายตนเองเพื่อสร้างความเจริญ
2) สื่อตา่ ง ๆ บอกให้เรารวู้ า่ อารยธรรมได้ทำลายดินฟ้าอากาศ
3) สิ่งแวดล้อมถูกทำลายเพือ่ ใหม้ นษุ ย์เรามคี วามเปน็ อยทู่ ่ดี ขี นึ้
4) ความก้าวหนา้ ทางวิทยาการและเทคโนโลยมี คี วามสมั พนั ธก์ ับธรรมชาติ
28. ข้อใดมกี ารแสดงเหตผุ ล
1. ผปู้ ่วยโรคจติ อย่าคดิ ผลกั ไส
2. ภูมปิ ญั ญาไทย ร่วมใจส่งเสรมิ
3. ประหยดั ไฟวันละนิด ชว่ ยเศรษฐกจิ ไดเ้ ปน็ ล้าน
4. บหุ รเ่ี ป็นยาเสพติด เปน็ พษิ เป็นภยั ใหโ้ ทษ
29. ข้อใดไม่มีการแสดงเหตผุ ล
1. ญาติกญ็ าติเถอะ พดู กันถึงขนาดน้ีก็ตอ้ งโตต้ อบกันบ้าง
2. กท็ ำกันอยา่ งนี้แหละ เร่ืองถึงไดบ้ านปลายออกไปกนั ใหญ่
3. ใจหนึ่งก็อยาก ใจหนึง่ ก็ไม่ ตดั สินใจไม่ถกู วา่ จะทำยังไงดี
4. เหนอ่ื ยก็เหนือ่ ย เพลยี ก็เพลยี แล้วยังตอ้ งอยเู่ วรตอนกลางคนื อีก
30. ข้อใดเป็นการแสดงทรรศนะทีป่ ระกอบด้วยเหตผุ ล
1. ดวงจันทรเ์ ปน็ ดาวทีอ่ ยู่ใกลโ้ ลกมากทีส่ ุด เราจึงเหน็ ดวงจันทรไ์ ด้ซัดกว่าดาวดวงอื่น
2. แสงห่ิงหอ้ ยท่เี หน็ ตอนกลางคนื เป็นสว่ นสำคญั ของการผสมพันธ์ตามธรรมชาติของมัน
3. การปฏิรูปสื่อที่มุ่งให้เกิดเสรีภาพในการสื่อสารของภาคประชาชนยังไม่ประสบผลสำเร็จตาม
เปา้ หมาย
คลงั ความรู้ ยศ.ทบ.
4. การห้ามขายสุรานอกเวลากำหนดไม่เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน เพราะเป็นการปฏิบัติตาม
ท่กี ฎหมายบัญญตั ิ
31. คำประพนั ธ์ตอ่ ไปนขี้ ้อใดเปน็ การแสดงทรรศนะ
ก. ครน้ั คอ่ ยวายกำสรดสลดจติ ขุนแผนคิดตรองตรึกแล้วปรึกษา
ได้ยินข่าวเล่าลอื ออกชอ่ื มา ว่าพระพจิ ิตรบุษบานน้ั ใจดี
ข. ใครขดั สนจนไปกไ็ ดพ้ ึ่ง ถา้ โทษถึงชวี ิตจะเป็นผี
ท่านกม็ ักเมตตาปรานี อนั ตวั พ่ีกบั เจ้าจะเข้าไป
ค. เราก็เป็นคนดมี วี ชิ า พค่ี ิดว่าหาเปน็ กระไรไม่
แกว้ ตาอย่าประหวนั่ พรัน่ ใจ ถึงจะสง่ ลงไปในอยธุ ยา
ง. พระองค์กค็ งรับสง่ั ถาม ความเก่าเรายังดีอยู่หนักหนา
ท้งั พอหวงั ดว้ ยกำลังวทิ ยา ว่าแลว้ ผกู มา้ เรยี กภูตพราย
1. ก และ ข
2. ข และ ค
3. ค และ ง
4. ง และ ก
32. ข้อใดมเี นอ้ื ความท่ีแสดงการโตแ้ ยง้ กนั เด่นชดั ทสี่ ุด
1. การเน้นคนเปน็ ศูนย์กลางของการพฒั นามใิ ช่การนำคนไปเปน็ เครอ่ื งมือของการผลติ
2. เราคงปฏเิ สธไดย้ ากวา่ ในโลกแห่งผลประโยชน์มกี ารแขง่ ขนั กนั อย่างดุเดือด
3. อุดมการณพ์ ึง่ ตนเองจะประสบความสำเร็จไดด้ ว้ ยการปฏริ ูปอย่างรอบด้านเทา่ นนั้
4. การพฒั นาศกั ยภาพของมนุษย์ให้เติบโตเปน็ สงิ่ ที่ไม่ควรมองขา้ ม ถา้ มงุ่ จะให้เกดิ การพัฒนาอยา่ งยั่งยนื
33. ข้อใดมเี นอื้ ความไม่เหมาะสมทจ่ี ะเตมิ ลงในวรรคสุดทา้ ยของคำประพนั ธ์ต่อไปน้ี
“ วันวานวันน้พี รงุ่ นี้ ความมคี วามเป็นเหน็ อยู่
เวลาวารีคือครู ……………………………….”
1. สอนรใู้ หท้ ำตามควร
2. ใหร้ ้ตู ระหนักหลักธรรม
3. จงดคู วามทย่ี งั่ ยืน
4. ควรคู่ขบคิดใครค่ รวญ
34. ข้อใดมีคุณคา่ ด้านวรรณศลิ ปเ์ ดน่ ที่สุด
1. ปัญญาคา่ เปรยี บแกว้ กอ่ งเก็จ
2. เรียมทนทกุ ขแ์ ตเ่ ชา้ ถึงเยน็
คลงั ความรู้ ยศ.ทบ.
3. อนึ่งข้าคำนับน้อม ตอ่ พระครผู กู้ ารุญ
4. อนั ว่าความกรุณาปรานี จะมใี ครบงั คบั กห็ าไม่
35. ขอ้ ใดใช้ภาพพจนแ์ บบบคุ คลวัต
1. พระพายพดั ประทนิ่ กล่นิ หวาน
2. ดนตรีฟังปราโมทยอ์ ุโฆษสมัย
3. รากแก้วหย่ังฝงั ลงไปในดินแดน
4. ใบแหง้ เกราะเหมาะจะลอยคอยเวียนวน
36. ข้อใดใชก้ ลวิธกี ารประพันธต์ ่างจากข้ออืน่
1. ลมระริว้ ปลวิ หญ้าคาระยาบ
2. สนละเมยี ดเสยี ดยอดขึ้นกอดฟา้
3. ดอกหญา้ ยม้ิ หวานหวานกบั ลานหญ้า
4. แก้วเอียงกลีบเคลยี นำ้ คา้ งอยา่ งหงมิ หงิม
37. ขอ้ ใดไม่ใช้ภาพพจน์
1. จง่ึ พระปน่ิ ปกั ธาษตรี บุรรี ัตนหงสา
2. เพราะพระหตั ถ์หากป้อง ปัดดว้ ยขอทรง
3. ครัน้ พระบาทยนิ สาร ธ ก็บรรหารตระบัด
4. เถลงิ อยุธยาเยน็ เกลา้ ทวั่ ถว้ นทวยสยาม
38. ข้อใดไม่ใช้ภาพพจน์
1. สำเภาแล่นระร่เี รอ่ื ยเฉอื่ ยไปจนถงึ เมืองแกว้
2. ธรรมดาวา่ สตรนี ้เี ป็นเกาะแก่งกีดกระแสกศุ ล
3. หว่านล้อมดว้ ยคำยอชกั เอาแม่น้ำท้งั หา้ เขา้ มาลอ่
4. สว่ นพระทองรอ้ ยช่งั ทง่ั คู่พศิ ดูเหน็ บรุ ุษโทษสบิ แปดประการ
39. ขอ้ ใดมคี วามหมายตรงกบั คำประพนั ธ์ต่อไปน้ี
“ เผยพระยศยินแยง ย่านแกลว้ ”
1. ยืนพระยศอยู่คง คูห่ ล้า
2. พระยศยิ่งภิยโย ผา่ นแผ่ ภพนา
3. สิบทิศทวั่ ลอื ละเวง หวั่นเดช ท่านนา
4. พระเดชพระแสดงดล เผด็จคู่ เขญ็ แฮ
คลงั ความรู้ ยศ.ทบ.
40. ขอ้ ใดสะทอ้ นความคิดเก่ียวกับความกตัญญกู ตเวที
1. เผ่ากษตั ริย์เพลงิ งู อย่าดถู ูกวา่ นอ้ ย
2. ครูบาสอนอยา่ โกรธ โทษตนผิดพึงรู้
3. เลอื ดเนือ้ ผเิ จือยา ให้หายไดจ้ ะชิงถวาย
4. อย่ายลเยย่ี งถว้ ยแตกมิติด จงยลเยี่ยงสัมฤทธิ์แตกมิเสีย
41. ข้อใดไม่มีคำท่สี ื่อความบอกจำนวน
1. จกั เข่นเขญ็ ให้มอด จกั ขอดเขญ็ ให้ม้วย
2. ตา่ งรีบระเหจ็ เขา้ โรม โหมหักหาญราญรกุ
3. เร่ียวรณรงค์เริงแรง แทงถบี ฉัดตะลุมบอน
4. เข้าราญรอนรมุ รกุ คลุกคลกี นั หน่ันหนา
42. ข้อความตอ่ ไปนแ้ี สดงคณุ ลกั ษณะของชาวนาตามขอ้ ใด
“ สเี ขียวดจุ ความขจีของใบหญ้าเล็ก ๆ นีเ่ องท่ีเป็นความหวงั ของเขา และของชาวนาอกี หลายแสนคน สเี ขียว
ดจุ ความขจขี องใบหญ้าเลก็ ๆ นแี่ หละตอ้ งการความอดทนและตอ่ สูไ้ มย่ น่ ย่อ ต้องการหยาดเหง่ือและน้ำตา
ก่อนทมี่ ันจะตอบแทนรางวลั อนั นา่ ชื่นใจให้ ”
1. มีความหวัง ความผูกพนั และกลา้ เผชญิ ปัญหา
2. มคี วามบากบัน่ ความอดทน และยนื หยดั ส้ปู ญั หา
3. มคี วามใฝฝ่ ัน ความไม่ทอ้ ถอย และกล้าเผชญิ ความทกุ ข์
4. มคี วามพยายาม ความด้ินรน และรอคอยผลอยา่ งเชอ่ื ม่ัน
43. ข้อใดไมไ่ ดส้ ะทอ้ นความคิดเรื่องศกั ดศิ์ รี
1. กลัวเปน็ ทวริ าช บตรปิ อ้ งอยธุ ยา เสยี เมืองจึงนินทา บละเว้นฤวา่ งวาย
2. ควรเรายกออกโรม โหมหักหาญราญรงค์ คงชำนะเศิกไสร้ ไดด้ ว้ ยงา่ ยด้วยงาม
3. เสียทีก็มชี ่ือ ได้เลอื่ งลอื สรรเสรญิ สงสารว่ากรรมเกิน กำลงั ดอกจึงจมสญู
4. ขอตายใหต้ าหลบั ดว้ ยชื่อนับวา่ ชายชาญ เกิดมาประสบภาร- ธุระไดบ้ ำเพญ็ ทำ
ใช้คำประพนั ธต์ ่อไปน้ตี อบคำถามข้อ 43 - 44
“ อนิจจาธานินทรส์ น้ิ กษตั ริย์ เหงาสงัดเงียบไปดงั ไพรสณฑ์
แม้กรงุ ยังพรงั่ พรอ้ มประชาชน จะสบั สนแซ่เสียงทั่วเวยี งวัง
มโหรีปกี่ ลองจะก้องกึก จะโครมครกึ เซง็ แซ่ด้วยแตรสังข์
ดพู าราน่าคดิ อนิจจัง ยังไดฟ้ งั แต่เสียงสกุณา ”
คลังความรู้ ยศ.ทบ.
44. ขอ้ ใดแสดงความร้สู กึ ท่เี ดน่ ชดั ท่ีสดุ ของผู้ประพนั ธ์
1. เหงาใจ
2. เปน็ ทุกข์
3. สลดใจ
4. ปลงตก
45. คำประพันธข์ า้ งตน้ ไม่แสดงคุณคา่ ดา้ นใด
1. ด้านคา่ นิยม
2. ด้านคุณธรรม
3. ดา้ นวรรณศิลป์
4. ดา้ นสงั คมและวัฒนธรรม
46. คำประพันธ์ตอ่ ไปนแี้ สดงค่านยิ มเกย่ี วกบั อะไร
“ กะละออมเพญ็ เพียบนำ้ ฤๅตงิ
โอง่ อ่างพร่องชลชิง เฟอ่ื งหมอ้
ผปู้ ราชญ์หอ่ นสงุ สิง เยียใหญ่
คนโฉดรนู้ อ้ ยก้อ พลอดนัน้ ประมาณ”
1. การเลอื กคบคน
2. การประมาณตน
3. การไม่พูดโอ้อวด
4. การแสวงหาความรู้
47. ข้อใดไม่ใชล่ ักษณะสังคมท่ปี รากฏในขอ้ ความต่อไปนี้
“ กไู ปทบ่ า้ นทเ่ มืองไดช้ ้างไดง้ วงไดป้ ่วั ไดน้ างได้เงือ่ นไดท้ อง กเู อามาเวนแก่พ่อกู พ่อกตู าย ยงั พ่กี ู
กูพรำ่ บำเรอแก่พก่ี ดู งั่ บำเรอแกพ่ อ่ กู พีก่ ูตายจึงไดเ้ มอื งแก่กูทง้ั กลม ”
1. เป็นสงั คมท่มี ีการคา้ ขายกับบ้านเมอื งอน่ื
2. เปน็ สังคมท่มี ีทาสซึ่งไดจ้ ากการทำสงคราม
3. เปน็ สงั คมท่ีบตุ รมีหนา้ ทตี่ ้องเลี้ยงดูบิดามารดา
4. เป็นสังคมทม่ี กี ารปกครองโดยสืบสันตติวงศ์
48. ข้อใดไม่สะทอ้ นความคดิ เก่ียวกบั การเมอื งการปกครอง
1. ธรรมดาว่ากษตั ริยอ์ ตั เิ รก เป็นองคเ์ อกอำนาจดงั ราชสีห์
2. ส้นิ แผน่ ดินสิ้นรสสคุ นธา วาสนาเรากส็ ้นิ เหมอื นกลิ่นสุคนธ์
3. หรือธานินทร์สน้ิ เกณฑจ์ ึงเกิดยคุ ไพรรี กุ รบได้ดงั ใจหมาย
คลังความรู้ ยศ.ทบ.
4. กษัตริยส์ บื สุริยวงศ์ดำรงโลก ระงบั โศกสุขสดุ จะสรรเสริญ
49. คำประพนั ธต์ ่อไปน้ีแสดงจดุ มุง่ หมายที่สำคัญที่สดุ ของกวีตามขอ้ ใด
“ อวยพรคณะปราชญ์พรอ้ ม พจิ ารณ์ เทอญพ่อ
ใดวริ ุธบรรหาร เหตดุ ้วย
จงเฉลิมแหล่งพสธุ าร เจรญิ รอด หึงแฮ
มลายโลกอย่ามลายม้วย อรรถอนื้ อัญขยม ”
1. อวยพรแกก่ วที ้ังมวล
2. 2. ให้งานของตนเปน็ อมตะ
3. ใหป้ วงปราชญ์ช่วยวิจารณง์ านของตน
4. ให้งานของตนเป็นเครือ่ งเฉลมิ แผ่นดิน
50. ขอ้ ใดไม่ใชค่ า่ นยิ มทเ่ี กิดจากความเชือ่
1. เสวยน้นั ผันพระพกั ตรไ์ ปบูรพทศิ เจริญฤทธ์ชิ นั ษาสถาผล
แม้นผินพกั ตรท์ ักษณิ ถ่ินมณฑล ไม่ขาดคนรักใคร่เวียนไปมา
2. อนงึ่ วันชำระสระพระเกล้า อังคารเสาร์ส้ินวบิ ัตปิ ดั ไถม
ตดั เลบ็ วันพุธจันทร์กนั จญั ไร เรียนสิง่ ใดวันพฤหัสสวัสดี
3. อนั มีดพรา้ อาวุธอันตราย อยู่ใกลก้ ายพึงระวังใหห้ นกั หนา
จะหยิบทรงใช้สอยทุกเพลา ประมาทพาเหตุรา้ ยทำลายองค์
4. อน่ึงผา้ ทรงจงนุ่งเหน็บข้างขวา กันเข้ียวงาจระเข้เดรัจฉาน
อนึ่งอย่าไปใต้ช่องคลองตะพาน อยา่ ลอดรา้ นฟกั แฟงแรงราคี
51. ขอ้ ใดแสดงแนวคิดต่างจากขอ้ อ่ืน
1. คนเวรตอ่ เวรประทษุ ฐ์ ทวโี ทษ
เอาอะเวรระงบั หง้าย อาจสน้ิ สูญเวร
2. ฤๅปางกอ่ นเราเคยพรากสตั ว์ ใหค้ ่เู คล้าเขาพลดั ฤๅไฉน
เวรามาเตอื นภวู ไนย จงึ พรากน้องไปให้จรกา
3.อันความทุกขาอาดูร จงระงบั ดบั สญู เสียดกี ว่า
วิบากกรรมแล้วกจ็ ำเวทนา ไปตามเวราซึ่งทำไว้
4. ผูท้ ำสง่ิ อกุศล กรรมติด ตามนา
ดุจจักรเกวียนเวียนแล้ ไล่ตอ้ นตนี โค
คลังความรู้ ยศ.ทบ.
52. ควรเติมคำเชื่อมใดลงในช่องว่าง
“วยั คุณภาพ คือ วยั ทีม่ ีอายุ 40 - 60 ปี เป็นช่วงทีเ่ ร่ิมได้รับความสำเรจ็ ท้ังในหน้าทก่ี ารงาน และ
การดำเนนิ ชวี ติ .....ขณะเดยี วกันกเ็ ปน็ วัยท่ีตอ้ งเผชิญ.....ความเครยี ดอย่างสงู ”
1. โดย ตอ่
2. แต่ กบั
3. และ แก่
4. ดังน้ัน ทัง้
53. ข้อใดจำเปน็ ตอ้ งใช้คำทับศพั ทภ์ าษาอังกฤษ
1. รา้ นอาหารแห่งนมี้ เี มนอู าหารมงั สวิรัตใิ ห้เลือกรับประทาน
2. อาหารทม่ี แี คลเซยี มสงู และรา่ งกายดดู ซมึ ได้ดี คอื นม และผลิตภณั ฑ์นม
3. เราควรรับประทานผกั และผลไมใ้ หม้ ากขน้ึ เพราะผักและผลไม้มีไฟเบอรส์ งู
4. อาหารยอดฮติ ทีล่ กู คา้ สงั่ รับประทานกันเปน็ ประจำ คอื แกงส้มผักพน้ื บ้าน
54. คำท่ีขดี เส้นใตใ้ นข้อใดใชเ้ ครื่องหมายไมย้ มกไม่ได้
1. รบี ทำทำใหเ้ สรจ็ ก่อนอาจารยม์ า
2. ทำไมลกู ลูกจึงดอื้ ไม่ทำตามที่พ่อแมบ่ อก
3. ร้านน้มี ีอาหารอร่อยอรอ่ ยไวใ้ ห้เลือกมากมาย
4. โรงเรยี นเป็นทที่ ี่จะช่วยแกไ้ ขพฤตกิ รรมเด็กได้
55. ขอ้ ใดใช้คำเชอื่ มไมถ่ กู ตอ้ ง
1. เสอื้ ผา้ ทล่ี กู นำมาให้ แม้จะไม่สวยงามแต่พอ่ แม่ก็จะใสอ่ วดลูก
2. พกี่ ันน้องกนั มาทะเลาะกนั นน้ั เปน็ เรอื่ งน่าละอายและน่าอดสู
3. บางคร้ังพอ่ แมอ่ าจทำอะไรหรอื พดู อะไรกบั ลูกรนุ แรงไปบ้าง
4. ความซอื่ สตั ยน์ ีเ้ ปน็ อมตะ กินไมห่ มด กินได้ตลอดไป ทวา่ คนอน่ื เขาไวใ้ จ
56. ขอ้ ใดเปน็ ได้ท้งั กลุม่ คำและประโยค
1. สถานทต่ี ากอากาศ
2. ความรู้สกึ นึกคดิ
3. งานวิจยั ทค่ี ณุ ภาพดี
4. พนกั งานส่งของ
57. ขอ้ ใดเปน็ ประโยค
1. อำนาจของเทวดาฟา้ ดนิ ท้งั หลายในสากลโลก
2. ส่ิงทแ่ี กไ้ ขไมไ่ ด้ตามสภาวะแวดล้อมของมนั
คลงั ความรู้ ยศ.ทบ.
3. เรื่องทเี่ กิดขึ้นน้ีไมใ่ ช่เรือ่ งแปลก
4. การพจิ ารณาทบทวนปญั หาทต่ี น้ เหตขุ องความทกุ ข์
58. ขอ้ ใดเปน็ ประโยคความซ้อน
1. คุณแมว่ างมอื จากงานทุกอย่างท่ีบ้าน
2. เสรชี อบรบั ประทานผลไมท้ ม่ี ีรสเปร้ยี ว
3. เชยี งใหมม่ ีสถานท่ที อ่ งเทยี่ วมากมาย
4. คณุ ยายไปทำบุญท่วี ัดเบญจมบพิตรดสุ ิตวนาราม
59. ขอ้ ใดเป็นประโยคชนดิ เดียวกบั ประโยคตอ่ ไปน้ี
“ คณะกรรมการนักเรียนชุดน้ีมคี วามคิดสรา้ งสรรค์ดมี าก ”
1. ทา่ นตอ้ งเปดิ ใจกว้างและยอมรับทกุ สิง่
2. อาหารทีม่ ีวิตามนิ บี 6 มาก คอื ขา้ วแดง
3. ตบั เป็นอาหารท่มี ีคณุ ค่าทางอาหารครบถว้ น
4. การขาดวติ ามนิ ต่างๆ มีสาเหตหุ ลายประการ
60. ข้อใดมีการละสว่ นของประโยค
1. ชาวบ้านทกุ คนรักถนิ่ ฐาน รกั เพ่อื นบ้าน
2. โสภาแตง่ ตวั งดงาม เธอกำลังจะไปเทย่ี ว
3. นกั ท่องเทย่ี วทกุ คนต้องลงทะเบยี นล่วงหนา้
4. หนุ่มสาวชาวนาชว่ ยกันตำข้าวดว้ ยครกกระเดือ่ ง
61. ข้อใดไม่ใชก่ ารคิดโตแ้ ยง้ กนั
1. การเกดิ และตายน้นั งา่ ย การอยนู่ ัน้ ยากกวา่ หลายเท่า
2. คนเรานนั้ อยากดีด้วยกนั ทุกคน ไมว่ า่ จะเปน็ ใครมาจากไหน
3. ความลำบากทำใหเ้ ราทุกข์ยาก แต่ก็สอนให้เราช่วยตัวเองเปน็
4. การอยู่คนเดียวน้ันเป็นสุข ไมม่ ใี ครกวนใจ ขณะเดยี วกันกท็ ุกข์เพราะความเงียบเหงา
62. ข้อความตอ่ ไปนี้ควรเรียงลำดับตามขอ้ ใด
ก. เปน็ เรอ่ื งท่เี กยี่ วกบั เวลา ทศิ ทาง และความเช่ือ
ข. ท้งั เคราะหช์ ะตากรรมของบ้านเมือง และปัจเจกบุคคล
ค. ตำแหนง่ ของดาวยงั เช่อื กันว่ามคี วามเก่ียวข้องกับฤษย์ ามท่เี ป็นมงคล
ง. การดูคาวคือความสมั พันธร์ ะหวา่ งมนุษย์กบั จักรวาลในยามรัตตกิ าล
1. ก ข ค ง
2. ข ก ง ค
คลังความรู้ ยศ.ทบ.
3. ง ก ค ข
4. ง ข ค ก
63. สารข้อใดแสดงการคาดคะเน
1. ยามแม่หลับนอนผ่อนคลาย จงหลบั ให้สบาย
ลูกรกั มาอยู่ด้วยเสมอ
2. โรคภยั อย่าได้บฑี า แม่ยอดบูชา
ของลูกนอ้ ยแตผ่ ้เู ดยี ว
3. ลูกมไิ ด้อยู่บนเตยี ง เพราะวา่ เป็นเพยี ง
ความฝนั ที่แมฝ่ ันเพลิน
4. แม่คงเรียกขวญั อัญเชิญ เทพเจา้ เขาเขนิ
ให้ช่วยอำรุงลกู รกั
64. ข้อใดเป็นการเขยี นแบบอธิบาย
1. เฮโรอนี บริสทุ ธเิ์ ป็นผงสีขาว รสขม ไมม่ กี ล่ิน เป็นส่งิ เสพติดให้โทษร้ายแรงท่ีสดุ
2. ในคืนเดอื นมืดทอ้ งฟ้าเตม็ ไปด้วยดวงดาวนบั หม่นื นับพันดวง สวยงามย่งิ นกั
3. สมัยกรงุ ศรอี ยธุ ยาเมอ่ื มีการเดนิ เรือคา้ ขาย เราใช้ธงสพี ื้นแดงติดเปน็ เครอ่ื งหมาย
4. พมา่ ยกทัพเรือลงไปตีเมอื งตะกว่ั ปา่ ตะกัว่ ทงุ่ แตกแล้วก็ยกไปถงึ เมืองถลาง
65. ขอ้ ใดมเี น้อื หาไมเ่ ปน็ ไปเพื่อความจรรโลงใจ
1. แมเ้ กดิ เปน็ คนจนก็ควรบำเพ็ญตนใหเ้ ปน็ ประโยชน์
2. ความซอ่ื ตรงจะทำใหผ้ ู้ปฏบิ ัติมีความสุขกายสขุ ใจตลอดชวี ิต
3. คนเราเกดิ มายอ่ มต้องทำทกุ วิถที างเพือ่ ความสุขของตน
4. บ้านเมอื งจะเจริญมีความสขุ ได้ทั่วหน้ากนั ประชาชนตอ้ งมีวนิ ยั ในตนเอง
66. ข้อความต่อไปนแ้ี สดงแนวคดิ ใดสำคัญท่สี ุด
“ ขนื รอฝนเหน็ จะไม่ได้การแน่ เราจะต้องจัดการขดุ ลำกระโดงจากคลองสง่ นำ้ มาถึงนาเสียแล้ว
เราจะตอ้ งบอกพวกพอ้ งมาลงมือแต่วันน้ี ฉันจะไปเชา่ เครอ่ื งจดุ ระหัดที่สหกรณ์ ”
1. การตอ่ สูอ้ ปุ สรรค
2. การรว่ มมอื กนั
3. การเห็นคณุ คา่ ของเวลา
4. การมีประสบการณ์
คลังความรู้ ยศ.ทบ.
67. ข้อความต่อไปนถ้ี า้ จัดวรรคให้ถูกต้องจะไดค้ ำประพันธใ์ ด
“ ราตรกี ็แมน่ มขี ณะดแี ละรา้ ยปนไป่ผิดกะคน ๆ คุณโทษประโยชน์ถม ”
1. กาพยย์ านี
2. โคลงสีส่ ภุ าพ
3. กลอนสุภาพ
4. อินทรวิเชียรฉันท์
68. “ เม่อื พอ่ เจ้ากลบั มาแตเ่ ชยี งใหม่ ไม่เพด็ ทูลส่ิงไรแตส่ กั อยา่ ง
เม่อื คราวตัวแมเ่ ป็นคนกลาง กว็ างบทคนื ใหบ้ ดิ า ”
ขอ้ ความจากเสภาเรอื่ งขุนชา้ งขนุ แผน ตอนขนุ ช้างถวายฎกี า คำทขี่ ดี เส้นใต้หมายถึงใครตามลำดับ
1. ขนุ ช้าง นางวนั ทอง
2. ขุนแผน นางวันทอง
3. ขุนชา้ ง นางเทพทอง
4. ขุนแผน นางทองประศรี
69. ขอ้ ใดให้แนวคิดต่างจากขอ้ อื่น
1. ดงั ทองคำทำเล่ียมปากกะลา หนา้ ตาดำเหมอื นมนิ หมอ้ มอม
2. เหมือนแมลงวนั ว่อนเคล้าทเ่ี น่าชั่ว มาเกลือกกล้ัวปทมุ มาลย์ที่หวานหอม
3. เมือ่ แรกเชอื่ วา่ เนอื้ ทับทมิ แท้ มาแปรเป็นพลอยหงุ ไปเสียได้
4. ดอกมะเดอ่ื ฤๅจะเจอื ดอกพะยอม วา่ นกั แม่จะตรอมระกำใจ
70. ขอ้ ใดไมม่ สี ัมผัสพยญั ชนะ
1. ได้ยินเสียงฆ้องยำ่ ประจำวงั ลอยลมลอ่ งดังถงึ เคหา
2. รสรกั ร้อนรนพ้นกำลงั ชลนัยนไ์ หลหลงั่ ลงพร่ังพราย
3. เอนองค์ลงองิ พิงเขนย กรเกยกา่ ยพักตรถ์ วลิ หวงั
4. ฝันว่าพลัดไปในไพรเถื่อน เล่อื นเปอื้ นไมร่ ู้ทจ่ี ะกลบั หลงั
71. เนอ้ื ความข้อใดครอบคลุมขอ้ อืน่
1. พระพายรำเพยพดั ทุกกิง่ ก้าน บษุ บงกเ็ บิกบานผกากร
2. พระพายเจา้ เอ๋ยเคยมาพดั ต้องกลีบอบุ ล พากลน่ิ สคุ นธ์ขจรรสมารวยรนื่
3. ฟ้าขาวดาวเดน่ ดวงสวา่ ง จนั ทร์กระจา่ งทรงกลดหมดเมฆสน้ิ
4. พระจนั ทรจรแจ่มกระจา่ งดี พระพายพดั มาลตี รลบไป
คลงั ความรู้ ยศ.ทบ.
72. ข้อความจากเรื่องหัวใจชายหน่มุ ข้อใดอา่ นแล้วเข้าใจได้ทนั ที
1. ฉนั มองไปในอนาคตแลเห็นแตเ่ มฆหมอก
2. รู้จกั ใช้เคร่ืองเพชรแต่พอควร ไมร่ ุงรงั เป็นตนั ไมค้ รสิ ต์มาส
3. จรงิ อยหู่ ลวงพิเศษนั้นรปู รา่ งไม่ใชเ่ ทวดาถอดรูป
4. หล่อนเป็นผูห้ ญงิ ทีง่ ามทส่ี ดุ ที่ฉันได้เคยพบในกรุงสยาม
73. ข้อใดมแี นวคิดอุดมการณ์เพือ่ บา้ นเมือง
1. มผี ้พู ูดกนั อย่หู ลายคนวา่ ถึงเวลาแล้วทไ่ี ทยเราควรจะใชธ้ รรมเนยี มมเี มียคนเดียว
2. ฉันเป็นคนท่ไี ดไ้ ปเรียนมาจากยุโรปแล้ว จะแตง่ งานอย่างทเี่ รยี กว่าคลุมถงุ ชนไมไ่ ด้เลย
3. ผทู้ ีไ่ ด้รบั การศกึ ษามาจากโรงเรียนแล้วไมค่ วรจะเสียเวลาไปทำงานชนิดซ่งึ คนทไี่ มร่ ู้หนงั สอื กท็ ำได้
4. การเป็นชาวนา ชาวสวน หรือคนทำการงานอน่ื ๆ นนั้ กม็ เี กียรตยิ ศเทา่ กับที่จะเป็นผู้ทำงานด้วย
ปากกาเหมือนกนั
74. ข้อใดมเี สยี งสระประสมมากท่สี ุด
1. ยินภาษิตคราใดใจถวลิ
2. เหมือนได้ยนิ เสียงผใู้ หญ่ในปางหลัง
3. กระซบิ ส่ังความไวใ้ หร้ ะวัง
4. รูย้ บั ยั้งส่งิ ใดใหเ้ หมาะกาล
75. ขอ้ ใดใชอ้ วัจนภาษาในการส่อื สาร
1. แม้เมอ่ื เรายังเลก็ เป็นเดก็ น้อย เคยกลา่ วถอ้ ยวอนจันทราวา่ ให้สม
2. กราบลงแทบบาทภูวไนย ซบพักตรร์ ำ่ ไห้โศกา
3. แล้วร้องวา่ เหวยอ้ายลิงป่า มึงอวดฤทธาวา่ ชาญสมร
4. ทองประศรีสงั่ ความวา่ ยามคำ่ แมจ่ ะจำจากพ่อแก้วไปแล้วหนา
76. ขอ้ ใดใช้ทั้งวจั นภาษาและอวัจนภาษา
1. หวั เราะเพลางทางเอกเขนกพิง พนิ จิ น่ิงดกู ายเจ้าพลายงาม
2. จึงบา่ ยเบยี่ งเลย่ี งตอบพระน้องรกั ใชจ่ ะหาญหักวงศเ์ ทวญั
3. ปากหนงึ่ ว่าโอ้พิเภกเอ๋ย ไฉนเลยมากแกล้งฆ่าพ่ี
4. ย้มิ แลว้ จงึ กลา่ ววาที ซึง่ ว่ามานยี้ งั แคลงใจ
คลังความรู้ ยศ.ทบ.
77. ข้อความน้ีมเี สยี งสระประสมกคี่ ำ
“ กรุงเทพมหานครเปน็ เมืองหลวงของประเทศไทย เปน็ มหานครเพียงไม่กี่แหง่ ในโลกท่มี ปี ระวตั ศิ าสตร์
ยาวนานติดต่อกนั มาหลายศตวรรษ ”
1. 1 คำ
2. 2 คำ
3. 3 คำ
3. 4 คำ
78. ขอ้ ใดมีเสยี งวรรณยกุ ตไ์ ม่ครบหา้ เสยี ง
1. การเดินทางก็ง่ายดายทกุ เม่ือ ไปหนเหนือหนใตไ้ ด้ทง้ั นนั้
2. ทางบกมรี ถไฟใช้ครกึ ครน้ื เวหาตืน่ ยานอากาศสามารถนัก
3. ทุกคนตัง้ หน้าวิง่ ทัง้ หญิงชาย ใครอยู่หลงั รงั้ ทา้ ยกอ็ ายกนั
4. ตกเปน็ ฝนล้นไหลไมซ่ าเซา ลงรปู เก่าเนาธารไหลพล่านไป
79. ขอ้ ใดมคี ำทม่ี เี สียงสะกดแม่กนมากทสี่ ุด (ไม่นับคำซ้ำ)
1. รา่ งกายเราทกุ คนนน้ั ตอ้ งการสารอาหารเพ่ือพลังงานและการเจรญิ เตบิ โต
2. การออกกำลงั กายเปน็ การเผาผลาญพลงั งานจากอาหารทเ่ี รากินเขา้ ไป
3. การออกกำลงั กายอย่างสมำ่ เสมอทำใหเ้ ลอื ดสูบฉดี โลหติ ได้ดี
4. การกินอาหารให้เหมาะสมกบั วัยจะทำให้โรคร้ายหา่ งไกลตัวเรา
80. ข้อใดมคี ำตายมากท่ีสุด
1. หากแสงธรรมไม่สอ่ งให้มองเหน็
2. จติ จะเปน็ ทาสกเิ ลสกอ่ เหตุชั่ว
3. สำเหนียกธรรมขจัดเขลาหายเมามัว
4. จึงเป็นบัวพนั นำ้ เลศิ ล้ำเอย
81. ข้อใดสะกดถกู ตอ้ งทกุ คำ
1. กรวดน้ำ ขน้ึ ฉ่าย เนืองนติ ย์
2. โจษจัน ซาบซงึ้ เดินเหริ
3. ช้อนสอ้ ม เตน็ ท์ ผัดเปล่ยี น
4. คนโท ประปา รื่นรมย์
คลังความรู้ ยศ.ทบ.
82. ข้อความต่อไปน้ีใช้กลวิธใี ดเป็นสำคัญในการอธิบาย
“ การปิดทองบนพื้นลายสลักไม้ นิยมลงพื้นด้วยการทารง รงคือยางไม้ชนิดหนึ่งมีสีเหลืองสด เมื่อ
ละลายน้ำแล้วจึงใช้รักรองพื้นทาบาง ๆ ทิ้งไว้ให้แห้ง แล้วทาทับอีก 2 - 3 ครั้ง จนรักปิดบังลายไม้สนิทดีแล้วจึง
ใชร้ กั เช็ดทาเพื่อปิดทอง ”
1. ให้นยิ าม
2. ใชต้ ัวอยา่ ง
3. สาเหตุและผลลัพธ์
4. อธบิ ายตามลำดับข้นั
83. ขอ้ ใดใชภ้ าษาฟมุ่ เฟอื ย
1. วัยรนุ่ หญงิ สนใจสิ่งสวยงาม การประดษิ ฐ์เครื่องประดบั และทำอาหาร
2. การลงโทษดว้ ยการกกั ขงั เป็นวิธที ร่ี ุนแรงเกนิ ไปสำหรบั เดก็
3. ผู้ใหญส่ ามารถทำการสนับสนุนการเลน่ เพอื่ สรา้ งสรรค์ความคดิ ของเดก็
4. กจิ กรรมกลมุ่ จะช่วยฝึกนสิ ัยเดก็ ใหร้ ู้จักระเบยี บขอ้ บังคบั และความรบั ผดิ ชอบ
84. ขอ้ ใดเป็นการแสดงทรรศนะ
1. ความเครยี ดเปน็ ภาวะของอารมณท์ ี่เกิดขึน้ เม่ือเผชญิ กบั ปัญหาต่างๆ
2. เม่ือหายใจเข้าหน้าทอ้ งจะพองออก และเม่ือหายใจออกหน้าท้องจะยบุ ลง
3. เร่ืองสงิ หไ์ กรภพกล่าวถึงลกั ษณะดาวหงสว์ ่า "โนน่ ดาวหงสว์ งสวา่ งดูหางงอน"
4. กำลงั ใจน้นั เปรียบเหมอื นกบั กระแสไฟฟา้ ทท่ี รงพลงั ทีส่ ดุ เพราะช่วยกระตนุ้ ใหเ้ กดิ พลงั แหง่
ความสำเรจ็
85. ข้อใดสอ่ื ความหมายไม่ชดั เจน
1. แสงแดดชว่ ยทำใหต้ วั ของฉนั แห้งสนทิ ในเวลาต่อมา
2. ฉันเหน็ ปูตัวเลก็ ๆ กำลงั เดนิ และฝงู ปลาสเี งนิ ว่ายวนเวียนไปมา
3. หยดนำ้ ท่ีเกาะพราวอย่ตู ามตวั ของฉันไหลหยดลงสพู่ ื้นคอ่ ย ๆ
4. ฉนั ไดย้ นิ เสียงนกรอ้ งและเสยี งใบปาล์มเสียดสีกนั ยามต้องลม
86. ข้อความต่อไปนใ้ี ชโ้ วหารใด
“ ขณะกำลังนอนสบายอยนู่ ้ัน ฉันได้ยนิ เสียงคล่ืนชัดสาดฝ่งั อยู่ตลอดเวลา บางคร้งั จะมีเสียงนก
นางนวลร้องขณะทม่ี ันบนิ ผ่านไปมา นอกเหนือจากเสยี งเหลา่ นแี้ ล้วจะไมม่ เี สียงรบกวนใด ๆ อกี เลยช่างสงบ
เปน็ ธรรมชาติ และชว่ ยฉันผอ่ นคลายไดม้ ากเหลอื เกิน ”
1. บรรยายโวหาร
2. พรรณนาโวหาร
คลงั ความรู้ ยศ.ทบ.
3. สาธกโวหาร
4. บรรยายโวหารและพรรณนาโวหาร
87. ประกาศต่อไปน้ีควรเพ่ิมเติมข้อมูลใดที่จำเปน็ ที่สดุ
“ ขอเชญิ ชมนิทรรศการภาพถา่ ยชุด “กรุงเทพฯ 2013” ของศิลปินไทยรุน่ เยาว์ ระหวา่ งวันท่ี 20 - 25
พฤษภาคม 2556 ณ ถนนสุรวงศ์ ”
1. ราคาบตั รเข้าชม
2. สถานทเ่ี ข้าชม
3. ผจู้ ัดนทิ รรศการ
4. จดุ มุง่ หมายทจี่ ดั
88. ขอ้ ใดผพู้ ดู มีเจตนาเชน่ เดียวกับคำกลา่ วตอ่ ไปน้ี
“ ตอนเชา้ ลองต่ืนมาดูสแิ สงสที องของทอ้ งฟ้ายามเช้ายังเปน็ กำลงั ใจที่ดีเสมอสำหรับทกุ คน ”
1. แตอ่ ารมณข์ ้างในใจมนษุ ย์ ไม่รสู้ ุดสนิ้ ลงทีต่ รงไหน
2. หนไี มพ่ น้ เจบ็ ไขก้ ายและใจ จะแก้ไขอย่างไรใหท้ ุกข์คลาย
3. เติมธรรมะให้ชวี ิตพิชิตโรค ดบั ทุกขโ์ ศกดับตณั หาอย่าถลำ
4. หนั หนา้ มารว่ มจติ คดิ อภัย จะสขุ ใจดีกวา่ อาฆาตกัน
89. ขอ้ ใดมเี สยี งสระประสม
1. ครูก็คือธรรมชาตฉิ ลาดย่ิง
2. ลมโชยมาใบไมแ้ กวง่ ไกว
3. เคยเกย่ี วไถทำดำหวา่ น
4. พระอาทติ ยส์ อ่ งทวิ าอา่ อำไพ
90. ขอ้ ใดมคี ำท่ีประสมดว้ ยสระเสียงส้นั มากท่สี ดุ
1. ส่งิ ทัง้ หลายในโลกน้ี
2. ลว้ นมีทั้งคณุ และโทษ
3. ทงั้ ทเ่ี ปน็ ภยั และประโยชน์
4. จึงต้องรู้จกั เลือกใช้
91. “ เพ่อื นกินหาง่าย เพ่อื นตายหายาก ” ข้อใดกลา่ วถงึ ข้อความน้ีไดถ้ ูกต้อง
1. มีคำที่ประสมด้วยสระเล่อื น
2. บางคำมีเสยี งพยญั ชนะต้น 2 เสียง
3. ทุกคำมีเสียงพยัญชนะท้ายพยางค์
4. มรี ูปสระบางรปู ไมอ่ อกเสยี ง
คลงั ความรู้ ยศ.ทบ.
92. ขอ้ ใดไม่มสี ระประสม
1. ชีวติ เหมอื นอยา่ งเทียนทจี่ ดุ ไฟไว้
2. เราจะเปน็ คนดกี เ็ พราะกระทำกรรมดี
3. เครือ่ งพสิ ูจน์ความกล้าหาญอย่ทู ่ีการมชี วี ิตอยู่
4. จงใชค้ วามคดิ และกระทำทุกอยา่ งดว้ ยเกียรติอันสงู
93. ขอ้ ใดมีเสยี งวรรณยุกต์ครบห้าเสยี ง
1. โรคหดื นั้นเกิดจากการอักเสบของหลอดลม
2. ทำให้มคี วามไวต่อสิ่งกระต้นุ มากผิดปกติ
3. เมื่อผปู้ ่วยโรคหืดสัมผัสส่ิงกระตนุ้
4. หลอดลมจะหดตัวอยา่ งรุนแรงจนตบี แคบ
94. ข้อใดมคี ำทร่ี ูปและเสียงวรรณยุกตต์ รงกนั ทุกคำ
1. เกา่ แก่ เชือ่ ม่ัน
3. พอ่ แม่ หน้าที่
3. กา้ วหนา้ เผื่อแผ่
4. ทอ้ แท้ แน่วแน่
95. ข้อใดเปน็ คำเป็นทั้งหมด
1. คดิ ดแู ล้วพอจะแก้ไขได้บ้าง
2. อยา่ ปล่อยนำ้ เสียลงส่แู มน่ ำ้
3. เราเอาชนะความโกรธได้
4. อทุ ิศชวี ติ เพอ่ื ประโยชน์สว่ นรวม
96. ข้อใดมีคำเปน็ คำตายตรงกับขอ้ ความ “ ภาษติ ว่าไว้ ซื่อกินไมห่ มด ”
1. รกั ดีหามจัว่ รกั ชว่ั หามเสา
2. ท่ใี ดมรี กั ท่ีนนั่ มีทุกข์
3. ผิดชอบชั่วดี ตอ้ งมีเหตุผล
4. รู้คิดช่ัวดี ไม่มวี นั พลาด
97. ข้อใดมคี ำท่สี ะกดไมถ่ กู ต้อง
1. อธษิ ฐานคอื การตง้ั ใจม่ันไมว่ อกแวก
2. ผ้ปู ระพฤตดิ ยี ่อมมคี วามผาสกุ ในชีวิต
คลังความรู้ ยศ.ทบ.
3. มนษุ ย์สรา้ งสรรบ้านเมืองใหเ้ จริญขน้ึ
4. อยา่ วพิ ากษ์วิจารณผ์ อู้ ืน่ ในทางท่ีไมด่ ี
98. ขอ้ ใดประวิสรรชนยี ์ถกู ตอ้ งทุกคำ
1. พะยอม กะทัดรัด ทะล่ึง
2. กะลา ชะรอย สะไบ
3. ชะตา สะบาย กะทิ
4. ละคร คะเน สะกาว
99. ขอ้ ความต่อไปนถี้ า้ จัดวรรคถูกต้องตามฉันทลักษณ์ จะเปน็ คำประพันธ์ประเภทใด
“ แมม้ ากผิกง่ิ ไมผ้ วิ ใครจะใคร่ลองมดั กำกระนน้ั ปองพลหกั กเ็ ต็มทนเหล่าไหนผไิ มตรีสละลณี้ หมตู่ น
กจิ ใดจะขวายขวนบมพิ ร้อมมิเพรียงกนั ”
1. กลอน
2. กาพย์
3. รา่ ย
4. ฉนั ท์
100. โคลงบาทใดมที งั้ การใชค้ ำทมี่ ีความใกล้เคยี งกัน และคำท่มี ีความหมายตรงข้ามกนั
1. ทำคณุ อดุ หนนุ ใน การชอบ ธรรมนา
2. หยดุ คิดพิจารณา แพช้ นะ กอ่ นนา
3. ควรระงบั ดับสู้ สงบบา้ งยังดี
4. ผลจกั เพ่ิมพนู ใน อนาคต กาลแฮ
101. “ กน็ ่ันบวั หัวเดยี วจะใหข้ า้ อนิจจาตัวหมอ่ มจะยอมอด
หม่อมไม่มีฉันน้ีก็จะงด บวั ไมห่ มดดอกเจา้ เฝา้ เสยี ดาย ”
คำประพนั ธ์น้สี ะทอ้ นให้เหน็ สิง่ ใด
1. ความเข้าใจกัน
2. การชว่ ยเหลือกัน
3. ความรักทีม่ น่ั คง
4. การรว่ มทุกขร์ ่วมสขุ
102. “ เขาให้กำเนิดเรา กม็ ใิ ช่เช่นให้ทาน
คลงั ความรู้ ยศ.ทบ.
กฎธรรมดาทา่ น ว่าเป็นของไม่อัศจรรย์ ”
คำประพันธ์บทนม้ี ีความหมายสอดคลอ้ งกบั ขอ้ ใด
1. ใจบาปจิตหยาบร้าย ทารุณ
2. ทจุ รติ มารยาปน ปกไว้
3. กำเรบิ เอิบเกินสกุล หยงิ่ กอ้
4. อีกหนง่ึ ห่อนรคู้ ณุ ใครปลกู ฝังแฮ
103. ข้อใดกลา่ วถงึ ตน้ ไม้ทตี่ ่างไปจากกลุ่ม
ระกะกอดเกะกะก่งิ ไสว
1. เงื้อมตสิง่ ง้วิ งามตระหงา่ นยอด ระกะกอดเกะกะกิ่งไสว
2. มีร่มโพธร์ิ กุ ขังเป็นรงั ร่ืน พิกุลช่นื ชอ่ บังพระสุรยิ ์ฉาย
3. มีตน้ กำมพฤกษ์ทานในลานวัด ลกู หมากยดั เงนิ ท้ิงอุทศิ ถวาย
4. ทุ่งละล่วิ ทิวเมฆเป็นหมอกมน สะพร่ังต้นตาลโตนดอนาถครนั
104. “ ดว้ ยเดชบุญขา้ อภวิ ันท์ พระไตรรัตนอ์ ัน
อุดมดิเรกนิรัติศัย
จงช่วยขจดั โพยภยั อันตรายใดๆ
จงดับและกลบั เสอื่ มสูญ ”
เนือ้ หาของคำประพนั ธส์ อดคล้องกบั คำใด
1. บนบาน
2. อุดมคติ
3. ปณธิ าน
4. อธิษฐาน
105. ข้อใดกลา่ วถงึ ช้างในลักษณะท่ีตา่ งจากขอ้ อ่นื
1. เร็วเร่งคเชนทรเขา้ เขน่ ค้ำบำรู
2. อนิ ทรยี ์ซบกญุ ชร เม่ือชพี แลเฮย
3. ควาญขับคชแขง่ คำ้ เข่นเข้ยี วในสนาม
4. ขับคชเขา้ ยุทธแ์ ย้ง ด่วนด้วยโดยถวิล
106. ขอ้ ใดใหค้ วามรู้สกึ ฮกึ เหิมพรอ้ มทีจ่ ะสู้รบ
1. กองทัพตามกนั เต้า เสยี งสนั่นล่ันเทา้
พา่ งพืน้ ไพรพัง เพิกฤๅ
คลังความรู้ ยศ.ทบ.
2. พลหาญห่นื หนรณ เริงรา่ น อยู่แฮ
คอยจกั ขับเค่ียวสู้ เขน่ เสี้ยนศึกสยาม
3. ถบั ถึงทวารกรงุ แกว้ เดยี รดาษพลคลาดแคล้ว
คล้ำคล้ายคละขบวน
4. บ่เขด็ บ่ขามขอ เขาเงือด เง้อื แฮ
มนั ตกตดิ หนงั หน้า เสอื กเสือ้ งส่ายเสย
107. ข้อใดสะท้อนความเช่อื ทางศาสนา
1. มาอยู่ในปา่ เปลีย่ วเทย่ี วซงั ตาย จะหมายพ่งึ ใครได้กไ็ มม่ ี
2. ยากงา่ ยตายเปน็ ประการใด ให้เปน็ ไปตามกรรมที่ทำมา
3. ถอื ตามคำโบราณท่านวา่ มา ว่าวา่ ยนำ้ เขา้ หาจระเข้ใหญ่
4. ส้นิ ฝันพลนั ตน่ื ดว้ ยตกใจ ปลอบปลกุ ผวั ให้ทำนายนาง
108. ข้อใดกลา่ วถึงช่อื นกมากกวา่ ข้ออืน่
1. นกขม้นิ จบั เถาขมนิ้ เครือ คาบเหย่ือเผื่อลกู แลว้ โผผนิ
2. ดเุ หวา่ จบั เถาตำลงึ แล เหน็ ลูกสุกแคงแจ๋เข้าจกิ กิน
3. คอ้ นทองร้องรบั กันป๊กปก๊ นกคุม่ เปรยี วปร๋ือกระพือบิน
4. กระทาปกั หาตัวเมียจ้อ ชูคอปีกกางหางหก
109. “ ชวี ิตมนษุ ย์นี้ เปลี่ยนแปลง จรงิ นอ
ทกุ ข์และสุขพลกิ แพลง มากครง้ั
โบราณท่านจึงแสดง เปน็ เยี่ยง อย่างนา
ชว่ั นับเจ็ดทที ้งั เจ็ดขา้ งฝ่ายดี”
คำใดมีความหมายสอดคลอ้ งกบั โคลงบาทที่ 1
1. กรรม
2. อนิจจัง
3. อนตั ตา
4. นิพพาน
110. ขอ้ ใดใช้คำไมถ่ กู ตอ้ ง
1. ในหอ้ งนม้ี หี นงั สือหลายประเภทและมีเครอ่ื งคอมพิวเตอร์
2. คุณแมอ่ ่านนวนิยายภาษาองั กฤษแลว้ อธบิ ายเป็นภาษาไทย
3. เขาอยากเป็นทหารเพราะจะไดแ้ สดงความแกก่ ลา้
4. วันลอยกระทงตรงกบั วนั เพญ็ เดือนสบิ สอง
คลงั ความรู้ ยศ.ทบ.
111. คำซำ้ ในข้อใดไมม่ ีความหมายเป็นพหูพจน์
1. คณุ ตาเล่านทิ านใหห้ ลาน ๆ ฟัง
2. ผหู้ ญิงสมยั นีแ้ ตง่ ตวั กันสวยๆ ท้งั นน้ั
3. เขารบี มาตง้ั แต่เชา้ เพราะเกรงใจเพื่อนๆ
4. สดุ านดั ออกกำลงั กายกับน้องๆ ทุกวนั
112. ขอ้ ใดใช้สำนวนไม่ถูกต้อง
1. คณุ สายใจชอบหัวเราะเสยี งดังเป็นฆ้องปากแตก
2. ถ้าเราช่วยกนั คนละไมค้ นละมอื งานจะสำเรจ็ ลลุ ่วงดว้ ยดี
3. คู่บา่ วสาวทั้งหลอ่ ทั้งสวยสมกนั ราวกบั ก่ิงทองใบหยก
4. นกั เรยี นทำความผิดครกู ต็ อ้ งตดั สนิ ไปตามเนอ้ื ผา้
113. สถานการณด์ ังกล่าวตรงกบั สำนวนใด
“ ศาลตัดสนิ ประหารชวี ติ ภรรยาโหด วางแผนจ้างฆา่ สามี หวงั เงนิ ประกนั ชวี ติ 2 ลา้ นบาท ”
1. กงเกวยี นกำเกวยี น
2. เคราะหห์ ามยามรา้ ย
3. ชนักตดิ หลัง
4. เพชรตัดเพชร
114. ข้อใดใชค้ ำไม่เหมาะสม
1. วทิ ยาครำ่ คร่าอยใู่ นวงการเมอื ง
2. บางคนเอาแต่นง่ั อยูใ่ นห้องปรบั อากาศ
3. เสียงปรบมือดงั กึกกอ้ งไปท่วั บรเิ วณ
4. ยาบ้าเปน็ ยากระตนุ้ ระบบประสาทส่วนกลาง
115. ขอ้ ใดใชอ้ วัจนภาษา
1. แมบ่ อกใหม้ นิ้ ไปอาบน้ำก่อน
2. นำ้ หวานชอบมองแมนอยา่ งดูถูก
3. นำ้ โคก้ ชอบพดู เสยี งดังเอะอะโวยวาย
4. คณุ ยายเลา่ ว่าขโมยงัดบ้านของเพื่อนบา้ นเมื่อคืนน้ี
116. ถา้ เขยี นเรยี งความเร่ือง “ โลกรอ้ น... อนั ตรายกว่าทค่ี ิด ” เน้อื หาใดไม่จำเปน็ ต้องยกตวั อย่าง
1. ความหมายของโลกร้อน
2. สาเหตขุ องโลกรอ้ น
3. วธิ ีการปอ้ งกันไมใ่ หโ้ ลกร้อน
คลังความรู้ ยศ.ทบ.
4. ผลกระทบท่เี กดิ จากภาวะโลกร้อน
117. ขอ้ ใดควรเรยี งไวเ้ ปน็ ลำดับที่ 1
1. จงึ มีการจัดคา่ ยเยาวชนเพ่ือเปิดโอกาสใหม้ ีสว่ นร่วมในการลดภาวะโลกร้อน
2. ผา่ นกิจกรรมด้านวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีสรา้ งสรรค์
3. เปน็ ทน่ี า่ ยนิ ดีที่เยาวชนไทยหันมาสนใจปญั หาโลกร้อนกนั มากขนึ้
4. เยาวชนเหลา่ น้ีจะเป็นตัวแทนและเปน็ ส่วนหนง่ึ ในการแกไ้ ขปญั หาโลกรอ้ นตอ่ ไป
1. 1
2. 2
3. 3
4. 4
118. พาดหัวขา่ วหนงั สือพิมพ์ขอ้ ใดรายงานเฉพาะขอ้ เทจ็ จริง
1. รดี ภาษหี วัง 7 หมืน่ ลา้ น “โปะ” สรุ า-เบียร์
2. งัด พ.ร.บ. มั่นคงเมืองไทยตอ้ งไร้มอ็ บ
3. 5 เด็กเตรียมอดุ มติดจฬุ าฯ คะแนนสูงสดุ
4. เด้ง ผวจ. เล็งโยกไปเมอื งอนื่
119. ข้อใดบอกเหตุผล
1. รว่ มใจสร้างสงั คมไทยให้สงบรม่ เยน็
2. เชญิ ไปทอ่ งเที่ยว เมอื งไทยแสนงาม
3. อาหารสดสะอาด คนกนิ ปราศจากโรคภัย
4. 45 วนั รวมพลัง รวมใจ ลดโลกร้อน
120. ข้อใดใชภ้ าษาแสดงทรรศนะ
1. รฐั บาลไทยเรม่ิ ประกาศใชง้ บประมาณกระตนุ้ เศรษฐกจิ ตั้งแตเ่ ดอื นตุลาคม
2. รัฐบาลจีนประกาศกระตุ้นความตอ้ งการภายในประเทศเพอ่ื ชดเชยการสง่ ออกท่ีหดหาย
3. แนวทางการแก้ปัญหาวิกฤตเศรษฐกจิ ทด่ี ีทส่ี ดุ ของไทย คงเป็นการกระตุน้ การลงทนุ และการบริโภค
ในประเทศ
4. วกิ ฤตเศรษฐกจิ ทีเ่ กดิ ขึน้ ในปจั จบุ ันเปน็ วิกฤตเศรษฐกจิ โลก เน่ืองจากมหี ลายประเทศทไี่ ดร้ บั
ผลกระทบ
121. ส่วนใดของขอ้ ความเปน็ ข้อสรุป
ก. โครงการส่วนพระองคส์ วนจิตรลดา มีโครงการมากมายเพ่อื ชว่ ยเหลอื เกษตรกร
ข. พระองคม์ ีพระราชประสงคใ์ ห้ประชาชนกินดีอยู่ดีแบบพอเพยี งอย่างแท้จรงิ
คลังความรู้ ยศ.ทบ.
ค. โครงการตา่ ง ๆ เหลา่ นี้ มีประโยชนอ์ ยา่ งยง่ิ ท้ังต่อประชาชนและประเทศ
ง. ท้ังหมดลว้ นแสดงถึงนำ้ พระราชหฤทยั ของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หวั
1. ก
2. ข
3. ค
4. ง
122. ข้อความนีโ้ นม้ นา้ วใจโดยใช้วธิ ใี ด
“ เพอื่ การดูแลปกปอ้ งผิวหนา้ และเรอื นรา่ งอยา่ งสมบรู ณแ์ บบ เพอ่ื ผวิ ที่แลดูเปล่งปลง่ั สวยสุขภาพดี
อยา่ งเป็นธรรมชาติ ”
1. ใหเ้ หตุผล
2. สร้างบรรยากาศ
3. เรา้ ให้เกิดอารมณ์อย่างแรงกล้า
4. แสดงให้เห็นทางเลอื ก
123. ข้อใดไม่มีความหมายทำนองเชิญชวน
1. เข้าออกสะดวก ทำเลดี ตอ้ งอยูอ่ าศัยทห่ี มู่บ้าน...
2. เยาวชนสำแดงพลัง ร่วมสร้าง “คลังปญั ญาป่าสาคู”
3. หยุดทำรา้ ยประเทศไทย... หยดุ ใช้ความรุนแรง
4. สดุ ยอดกลเม็ดเคลด็ ลับ สู่ความสวย เซ็กซี่ หนุ่ ดี มีสไตล์
124. “(1) เม่อื สูบบุหรแี่ ล้วมีรสขมก็จะทำใหค้ นที่มีใจอยากเลกิ บหุ รี่กส็ ามารถทำไดอ้ ยา่ งแน่นอน
(2) นอกจากจะทำใหเ้ ลิกบุหรไ่ี ด้แลว้ ยงั ชว่ ยลดอาการเครยี ด นอนไม่หลับ ไมเกรน
(3) หรือผู้หญิงมบี ุตรยาก เพราะมีปัญหาทางระบบสบื พันธ์ุ
(4) การนวดกดจุดสะท้อนเทา้ จะไปกระตนุ้ ใหอ้ วัยวะต่างๆ ท่ีสัมพันธก์ บั รา่ งกายกลับมาทำงานได้ดี ”
ข้อความตอ่ ไปนส้ี ว่ นใดไมม่ ีคำยืมจากภาษาบาลีสนั สกฤต
1. ส่วนที่ 1
2. ส่วนท่ี 2
3. ส่วนที่ 3
4. ส่วนที่ 4
125. ข้อใดไม่ใช่ประโยคความเดียว
1. ฝนตกขหี้ มไู หล
2. คนจัญไรมาพบกนั
คลงั ความรู้ ยศ.ทบ.
3. เธอชอบฝนั กลางวนั
4. ฉันชอบสฟี า้ นำ้ ทะเล
126. ข้อใดเป็นประโยคความซอ้ น
1. ใครๆ กเ็ หน็ พระจันทรย์ ิ้ม
2. ฝากขนมไปใหน้ อ้ งด้วยนะ
3. คนท่จี บั เชอื กควรเปน็ คนสาวเชอื ก
4. อยา่ เอามะพร้าวหา้ วมาขายสวน
127. ประโยคในข้อใดแสดงเจตนาต่างจากข้ออืน่
1. ไปนะพ่ีเอก หนูจะไดม้ ีเพอื่ น
2. ชว่ ยเอาใบตองมารองแตงดอง
3. ของใครมาเอาไปด้วย
4. มาเช้าทกุ วันเลย
128. ขอ้ ใดใชค้ ำราชาศัพทส์ ำหรบั สมเด็จพระนางเจา้ ฯ พระบรมราชนิ นี าถไมถ่ กู ตอ้ ง
1. สมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเห็นประชาชนล้นหลามสดุ สายตา
2. ทำใหท้ รงอบอุ่นต้นื ตนั พระราชหฤทัย
3. แมจ้ ะทรงมีพระชนมน์ ้อย แต่กท็ รงมคี วามเข้มแขง็
4. และมัน่ พระทัยในพลงั ของประชาชน
129. “ (1) นอกจากปัญหาค่าเอฟทที ีม่ ีกระแสวิพากษ์วิจารณก์ ารทำงานของเรกเู ลเตอร์แล้ว
(2) ยงั มีกระแสวิจารณ์ใบปลิวโจมตีการทำงานเร่ืองกองทุนพฒั นาไฟฟา้ ทีล่ ่าชา้
(3) เพราะมัวเอาเวลาไปดงู านตา่ งประเทศ
(4) รวมทัง้ กระแส วิจารณว์ า่ เรกเู ลเตอรเ์ ป็นเพยี งเรอื กระดาษ ”
ขอ้ ความส่วนใดใชภ้ าษาตา่ งระดบั ตา่ งจากขอ้ อื่น
1. สว่ นท่ี 1
2. ส่วนท่ี 2
3. สว่ นที่ 3
4. สว่ นที่ 4
130. ขอ้ ใดใชส้ ำนวนถกู ตอ้ ง
1. มวั แตง่ อมืองอตนี อยา่ งนี้ แล้วเธอจะรับรกั แกได้ยังไง
2. ชีวิตเขาตอนนี้ตกตำ่ สดุ ๆ เหมือนตกใตเ้ ถรเทวทตั
3. ลนิ ดาชอบฆ่าชา้ งเอางา นินทาว่าร้ายคนอื่นไปท่ัว
คลงั ความรู้ ยศ.ทบ.
4. บัวขาว ป. ประมขุ แขวนเตา้ เลิกชกมวยแล้ว
131. “ ยามทีเ่ ขาตกทกุ ข์ไดย้ าก เขากย็ งั มคี วามหวงั วา่ จะมี .....................” สำนวนในขอ้ ใดเหมาะสมท่จี ะเตมิ
ในชอ่ งว่างของข้อความขา้ งตน้
1. ราชรถมาเกย
2. ลกู ขนุ พลอยพยัก
3. บญุ หนักศกั ด์ิใหญ่
4. พระมาลยั มาโปรด
132. คำทุกคำในข้อใดอ่านออกเสียงจำนวนพยางค์เทา่ กบั คำ “บรมอัฐ”ิ
1. โลกตุ รธรรม ราชบัณฑติ ศิษยานศุ ษิ ย์
2. สมาชกิ ภาพ หิริโอตปั ปะ อนิ ทรธนู
3. นาวิกโยธนิ ปัจเจกบุคคล ราชทินนาม
4. โอปปาติกะ วากยะสัมพันธ์ ลักษณนาม
133. ขอ้ ใดมีพยางคท์ ่เี ป็นคำตายมากทส่ี ุด
1. อนงึ่ จะกล่าวสอน กายนครมีมากหลาย
2. ประเทียบเปรยี บในกาย ทกุ หญิงชายในโลกา
3. ดวงจติ คอื กระษัตริย์ ผา่ นสมบตั ิอนั โอฬาร์
4. รกั ษาโรคด้วยกำลงั กเิ ลสโลภะเจตนา
134. ขอ้ ใดมคี ำจากภาษาบาลีหรอื สันสกฤตทอ่ี ่านอย่างอกั ษรนำในภาษาไทย
1. จงึ ลุกขนึ้ ตรสั ถามทนั ที ปา่ นี้หรอื สนกุ หนักหนา
2. ไดฟ้ งั ผา่ นฟ้าพาที อญั ชลแี ลว้ สนองพระบัญชา
3. ใหพ้ ระพาสามสมรอรไท มาประพาสพรรณไม่ให้สำราญ
4. พูนดินเต็มตามสนามเพลาะ ไม้ไผ่เจาะราวปลอ้ งเชน่ ช่องปืน
135. คำทกุ คำในขอ้ ใดใชไ้ ดท้ งั้ ความหมายตามตวั และความหมายเชงิ อุปมา
1. มือยาว มือดี มือขวา
2. คนั ปาก คนั มือ คนั ตา
3. ตาตมุ่ ตาตำ่ ตาแตก
4. แหกตา แหกปาก แหกคอก
คลังความรู้ ยศ.ทบ.
136. ขอ้ ใดมเี สียงควบกลำ้ ที่ไมป่ รากฏมาแตเ่ ดมิ ในระบบเสียงภาษาไทย
1. อควาเล่ียมนี้จคุ นได้ 1000 กว่าคน
2. เธอมดี ีกรีเปน็ ถึงดอกเตอร์ทางการศกึ ษา
3. ระเบดิ นิวเคลียร์ถกู ทงิ้ ลงมาลูกแลว้ ลกู เลา่
4. ฟลูโอคาริลจะช่วยขจัดคราบหินปนู ได้ดี
137. ขอ้ ใดเป็นคำซอ้ นทกุ คำ
1. รบี เร่ง รวบรดั ชดั เจน
2. วาบหวาม วุ่นวาย เวงิ้ ว้าง
3. จดั การ จดื จาง จกุ จกิ
4. มดึ มดิ มุ่งม่ัน หมกเม็ด
138. คำซำ้ ในข้อใดต้องใช้เปน็ คำซำ้ เสมอ
1. นำ้ ไหลซ่ๆู ลงมาจากหลังคารั่ว
2. งแู ลบล้นิ แผลบ็ ๆ อย่ขู า้ งกองไม้
3. เร็วๆ เขา้ รถจะออกอยแู่ ล้ว
4. ผลบุ ๆ โผลๆ่ อยนู่ ั่นแหละไมอ่ อกมาเสียที
139. (1) ในขณะท่ีตลาดหุ้นท่ัวโลกผันผวนหนกั เพราะนักลงทนุ เทขายหนุ้ หันไปจบั ทองคำแทน /
(2) หลงั จากผวาท่ีรฐั โดนลดความนา่ เช่อื ถือ /
(3) สำนกั ข่าวชนิ หวั ของจีน ออกบทความวิจารณส์ หรัฐทันที /
(4) โดยต้ังคำถามว่า โลกยงั สมควรใชเ้ งนิ ดอลลาร์เป็นสกุลเงินหลกั ต่อไปหรอื ไม่
ข้อความข้างตน้ สว่ นใดมคี ำประสมนอ้ ยทสี่ ดุ
1. ส่วนที่ 1
2. สว่ นที่ 2
3. ส่วนท่ี 3
4. ส่วนท่ี 4
140. ข้อใดมีคำสมาสทีม่ กี ารสนธิ
1. ตระบดั วสั สการมา สถานราชเรยี นพลัน
2. กุมารลจิ ฉวีขตั ติย์ ก็รบั อรรถออออื
3. เหมาะแกก่ ารณ์จะเสกสรร ปวตั น์วญั จโนบาย
4. สหายราช ธ พรรณนา และต่างองค์ก็พาที
คลังความรู้ ยศ.ทบ.
141. คำนามทุกคำในขอ้ ใดใช้ลักษณนามคำเดียวกัน
1. ร่ม กนั ชน ธนู กลด
2. ขวาน ของ้าว คราด เคียว
3. ตาลปัตร ปฏิทนิ หลวง พระบท พดั ยศ
4. ฟองมนั ฟันเฟือง มหัพภาค มา้ ล่อ
142. คำภาษาอังกฤษในขอ้ ใดใชค้ ำไทยแทนไมไ่ ด้
1. เธอเป็นดีไซเนอรท์ ่ีมีช่ือเสียงมาก
2. ท่านประธานมไี อเดียใหมๆ่ มาเสนอเสมอ
3. บนั ทกึ เทปถวายพระพรของเราจะออนเอร์วันพุธหน้า
4. กระทรวงศึกษาธกิ ารจะแจกแทบ็ เลต็ ใหน้ กั เรยี น
143. “(1) เรือสำเภาขนาดเท่าของจรงิ เปน็ จุดเรม่ิ ต้นนิทรรศการทน่ี า่ สนใจเปน็ อยา่ งมาก /
(2) ถูกจำลองไวใ้ นห้องจัดแสดงสินค้าและวถิ ีชวี ิตชาวเรอื /
(3) ซ่งึ แสดงให้เห็นการขนสง่ ทางเรอื การจัดวางสินคา้ โดยมีลกู เรือทำงานอย่าง ขะมกั เขม้น /
(4) ตลอดจนหอ้ งหบั ทน่ี อน ชีวิตความเป็นอยขู่ องคนเรือ”
ข้อความข้างต้น สว่ นใดไมม่ คี ำยมื จากภาษาบาลหี รือสันสกฤต
1. สว่ นที่1
2. ส่วนท่ี 2
3. ส่วนท่ี 3
4. สว่ นท่ี 4
144. ข้อใดไม่ใชป่ ระโยคความเดยี ว
1. สำนักงานประกนั สงั คมตระหนักถึงความสญู เสีย
2. ประชาชนประสบอนั ตรายจากการทำงาน
3. ทำใหล้ กู จา้ งและครอบครวั ได้รับความเดอื ดร้อน
4. นายจ้างตอ้ งจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนเงนิ ทดแทน
145. ขอ้ ใดไม่ใช่ประโยคความซ้อน
1. การยืดหยนุ่ และการรู้จักปรบั ตัว เปน็ เรื่องจำเป็นทสี่ ง่ิ มีชีวติ จะตอ้ งมีความสามารถในการปรับตัว
2. สัตว์บางชนิดไม่สามารถยืดหยุ่น ไมส่ ามารถปรับตวั ใหเ้ ขา้ กบั สภาพแวดลอ้ ม หรอื ความ
เปล่ยี นแปลงได้ จึงต้อสูญพนั ธุไ์ ปในท่สี ุด
คลงั ความรู้ ยศ.ทบ.
3. นักวชิ าการทางการเมอื งการปกครองกลา่ ววา่ สถาบนั ทมี่ อี ายยุ ืนยาวมักแสดงวา่ เป็นสถาบนั ท่ีมี
ความยดื หย่นุ เนอื่ งจากไดผ้ ่านการทา้ ทายตา่ งๆ มามาก
4. สถาบนั กษัตริย์ของอังกฤษเป็นตัวอยา่ งอันดีของความสามารถในการปรับตวั
146. ข้อใดไมใ่ ช่ประโยค
1. ในชมุ ชนหนง่ึ ๆ ย่อมมีองค์ประกอบของคนท่ีหลากหลาย
2. การทำแผนแมบ่ ทชุมชนก็ตอ้ งมีคนทุกกลุ่มทกุ ระดับ
3. ผู้นำทางศาสนาที่ชาวบ้านใหค้ วามเคารพได้เข้ามามีส่วนกำหนดทิศทางของชุมชน
4. การมีแผนแมบ่ ทชุมชนกอ่ ใหเ้ กิดประโยชน์กบั ทกุ ฝา่ ย
147. ข้อใดมนี ้ำเสียงเชงิ ตำหนิ
1. นางสาวไทยปนี ้ีสวยแบบไทยๆ
2. เขาเป็นนักรอ้ งทมี่ เี อกลักษณเ์ ป็นของตนเอง
3. ประธานควบคมุ การประชมุ ให้ดำเนนิ ไปดว้ ยดี
4. อาหารรา้ นนนั้ อร่อยดี แตแ่ พงไปหน่อย
148. คำทกุ คำในขอ้ ใดใชไ้ ด้ท้งั ความหมายตามตวั และความหมายเชงิ อปุ มา
1. ไก่อ่อน มอื อ่อน ใจอ่อน
2. ปากโปง้ ปากตลาด ปากเปด็
3. ตีตรา ตปี ีก ตปี บี
4. เสอื ไบ เสือดาว เสือดุ
149. ข้อใดใชค้ ำถกู ต้อง
1. อองชานซูจถี ูกกกั กันใหอ้ ยแู่ ตใ่ นบริเวณบา้ นของเธอ
2. สมลักษณไ์ มม่ รี ่องรอยของความเป็นนักมวยอยเู่ ลย
3. คณุ พ่อพยายามทดแทนสงิ่ ท่คี ุณแมไ่ ม่เคยไดร้ บั
4. เหตกุ ารณ์ค่อยผอ่ นคลายไปในทางท่ดี ขี ้นึ
150. ขอ้ ใดใช้คำฟุ่มเฟือย
1. การคา้ ของบรษิ ัทประสบความสำเร็จอยา่ งน่าช่นื ชม
2. ความปรารถนาดีหากใชใ้ หถ้ ูกกาลเทศะก็จะเกดิ ประโยชน์
3. ในอนาคตขา้ งหน้าเขาหวังจะเปน็ นกั ธรุ กิจผปู้ ระสบความสำเร็จ
4. วกิ ฤตการเมืองสร้างปญั หาให้สงั คมสบั สน
คลังความรู้ ยศ.ทบ.
151. ข้อใดใชค้ ำกำกวม
1. เธอควรเตอื นเขาใหร้ ะวังตัว
2. คนจบั เชอื กควรเปน็ คนสาวเชอื ก
3. นงั่ สบายเพราะท่ีนั่งสบาย
4. เขาไปต่างประเทศกับเพ่ือนสองคน
152. “ สลวยเกศชอบคิดฝันในเร่อื งทเ่ี ป็นไปไมไ่ ด้ อย่างนเ้ี ขาเรียกวา่ …………เธอชอบสรา้ งวมิ านในอากาศ ”
สำนวนข้อใดเหมาะสมท่จี ะเติมในชอ่ งวา่ งของขอ้ ความข้างต้น
1. ใฝส่ ูงจนเกินศกั ด์ิ
2. ม่ังมใี นใจ แลน่ ใบบนบก
3. ช้ีนกบนปลายไม้
4. มที องเท่าหนวดกงุ้ นอนสะด้งุ จนเรือนไหว
153. สำนวนในข้อใดไมเ่ กี่ยวกบั การพูด
1. บ่างช่างยุ
2. ปากว่ามอื ถึง
3. เป็นปี่เป็นขล่ยุ
4. ไปอย่างนำ้ ข่นุ ๆ
154. “ (1) เม่ือเราไดร้ จู้ ักความเจบ็ ปวดทน่ี า่ เศรา้ นี้ ไดเ้ รียนรู้บทเรียนจากมนั
(2) และไดบ้ ำรุงสวนของเราให้เจริญงอกงาม
(3) เมือ่ น้นั เราจะสามารถชว่ ยผูท้ ีก่ ำลงั จมดง่ิ อยใู่ นความทกุ ข์
(4) และพูดจาปลอบใจเขาให้ระริกระรืน่ ”
ขอ้ ความข้างต้นส่วนใดใช้ภาษาต่างระดับกับสว่ นอน่ื
1. ส่วนที่ (1)
2. ส่วนที่ (2)
3. สว่ นท่ี (3)
4. สว่ นที่ (4)
155. ขอ้ ใดใชภ้ าษาต่างระดับกบั ขอ้ อน่ื
1. นักภาษาหรือนกั ภาษาศาสตร์มักจะโดนกลา่ วหาบ่อย
2. วา่ เปน็ ผู้ตามความเจริญรุ่งเรืองของภาษาไทย
3. จงึ ตำหนผิ ใู้ ช้ภาษาใหม่ๆ แปลกๆ กนั อยเู่ สมอ
คลังความรู้ ยศ.ทบ.
156. ข้อใดไม่ใชส้ ำนวนตา่ งประเทศ
1. ในความคดิ ของผม คุณไม่ใชค่ นผดิ
2. บอ่ ยครง้ั ที่เขาชำเลอื งมองมาทีฉ่ นั
3. โรคความดันและเบาหวานไม่ได้เป็นโรคที่เกิดแกผ่ สู้ งู วัยอกี ตอ่ ไป
4. ในไมช่ ้านี้เขาจะได้รบั เลือกเป็นผ้นู ำประเทศ
157. ข้อใดจดั เปน็ คำประสมทุกคำ
1. ม้าน่ัง มา้ หนิ ม้าหมนุ
2. น้ำเนา่ น้ำหน้า น้ำอัดลม
3. ของขวัญ ของฝาก ของคุณ
4. ใจจดื ใจหาย ใจส่นั
158. ข้อใดจดั เปน็ คำซอ้ นทกุ คำ
1. พบพาน ดา้ นชา เบื่อหนา่ ย ชักจูง
2. แก่เฒา่ รากเหง้า ทางลัด ยากจน
3. แทรกซ้อน ออ่ นไหว บอกเลา่ ภาพเขยี น
4. โปร่งใส การบ้าน นบนอบ กราบไหว้
159. ขอ้ ใดจัดเปน็ คำชอ้ นเพื่อความหมายเท่านัน้
1. ขัดเคอื ง เกยี่ วขอ้ ง เยอื่ ใย
2. รงุ่ เรือง บ้านเมือง เปลี่ยนแปลง
3. ผันแปร ทอดถอน ผลักไส
4. เทจ็ จริง เช่ือมโยง เกรงขาม
160. ข้อใดจัดเป็นคำสมาสทุกคำ
1. ผลติ ผล ราชโอรส เฉลิมฉลอง
2. นโยบาย พนั ธบัตร อนบุ าล
3. อัญชลี นาฏยศาลา ทนั ตกรรม
4. ปยี มิตร วทิ ยากร บรรจุภัณฑ์
161. ข้อใดจัดเปน็ คำสมาสที่มีการสนธทิ ั้งหมด
1. รฐั วสิ าหกิจ อารยชน วิวัฒนาการ
2. ประชาธิปไตย ทตู านุทตู พจนานกุ รม
3. เทวรูป ธรรมาภิบาล สงั ฆมณฑล
4. ศาสนสถาน สามคั ยาจารย์ กรรมพนั ธ์ุ
คลังความรู้ ยศ.ทบ.
162. “ ความสามัคคีเป็นคุณธรรมอันสำคัญยิ่งที่ผู้คนทุกหมู่เหล่าพึงจะต้องรักษาไว้อย่างเหนียวแน่น หากสังคม
ใดไร้ซงึ่ หลักธรรมนี้แลว้ ก็คงจะพบเจอแตเ่ ร่ืองยงุ่ ยาก วนุ่ วาย คนในชาติคอยแตจ่ ะทะเลาะเบาะแวง้ ตลอดจน
ขัดแย้งกันไมห่ ยดุ หย่อน ”
จากขอ้ ความข้างตน้ น้มี ีคำชอ้ นทงั้ หมดก่คี ำ
1. 8 คำ
2. 9 คำ
3. 10 คำ
4. 11 คำ
163. “ นานาประเทศล้วน นบั ถือ
คนทีร่ หู้ นงั สือ แต่งได้
ใครเกลียดอกั ษรคือ คนปา่
ใครเยาะกวไ่ี ซร้ แน่แทค้ นดง ”
บทประพนั ธ์ข้างต้นนี้มคี วามเปรียบทง้ั หมดก่แี ห่ง
1. 1 แหง่
2. 2 แห่ง
3. 3 แหง่
4. 4 แหง่
164. “เครอื่ งดืม่ มคี ุณค่า ราคาน้ำอัดลม" ข้อความน้ผี ู้พูดตอ้ งการจะส่ือสารวา่ อย่างไร ”
1. เครื่องด่มื นี้มคี ุณค่าและราคาเท่ากบั น้ำอัดลม
2. เคร่อื งด่มื นีม้ ีคณุ คา่ แต่ราคาถกู เทา่ กับน้ำอดั ลม
3. เคร่อื งดม่ื นี้มีคณุ ค่าเท่ากบั น้ำอดั ลมที่มีราคาถกู
4. เครอ่ื งดมื่ นม้ี คี ณุ คา่ และราคาถูกเท่ากบั น้ำอัดลม
165. “ เหมอื นบายศรีมงี านท่านถนอม เจมิ แปง้ หอมน้ำมันจันทน์พอหรรษา
คร้นั เสรจ็ งานทง้ิ ลงในคงคา กล็ อยไปลอยมาเปน็ ใบตอง ”
บทประพันธ์ขา้ งต้นนม้ี ีลกั ษณะเด่นในเรอื่ งใดมากที่สดุ
1. แสดงถึงวัฒนธรรม
2. ใหข้ อ้ คิด
3. กลา่ วถงึ ประเพณี
4. สะท้อนความเช่ือ
166. “ ถึงบางเดือ่ โอ้มะเดื่อเหลือประหลาด บังเกิดชาติแมลงหวีม่ ใี นใส้
คลังความรู้ ยศ.ทบ.
เหมอื นคนพาลหวานนอกย่อมขมใน อุปไมยเหมอื นมะเด่อื เหลอื ระอา ”
บทประพนั ธ์ข้างตน้ น้ใี หแ้ นวคิดตรงกบั สำนวนในข้อใด
1. ข้างนอกสกุ ใส ขา้ งในเปน็ โพรง
2. หนา้ เนอ้ื ใจเสือ
3. ปากปราศรยั น้ำใจเชือดคอ
4. ปากหวานกน้ เปรี้ยว
167. “ จงรู้ไว้เถิดว่า ถ้าเมื่อใดทำความผิดมาเมื่อใด จะได้รับโทษทันที การมีพ่อเป็นพระเจ้าแผ่นดินนั้น จะไม่
เป็นการชว่ ยเหลอื อุดหนนุ แกไ้ ขอนั ใดไดเ้ ลย ”
จากขอ้ ความขา้ งตน้ ขอ้ ใดคือเจตนาของผู้กลา่ ว
1. ไมใ่ ห้หลงตนเอง
2. ไม่ใหถ้ อื ตนเองเป็นใหญ่
3. ไมใ่ หท้ ำความผดิ
4. ไม่ให้ถอื อำนาจข่มเหงผู้อ่ืน
168. บทประพันธ์ในขอ้ ใดสะทอ้ นความเชอื่ ทางพุทธศาสนา
1. แม้จะบงั เกดิ เหตเุ ภทพาล ประการใดกต็ ามแตเ่ วรา
2. เป่าลงด้วยพระเวทวทิ ยา มารดาก็ฟน้ื ตืน่ โดยงา่ ย
3. หมายจิตคิดจะให้มนั บรรลยั ไม่สมใจจำเพาะเคราะห์มนั ดี
4. ลงยนั ตร์ าชะเอาปะอก หยบิ ยกมงคลขนึ้ ใส่หัว
169. บทประพนั ธใ์ นขอ้ ใดแสดงถงึ ความเช่อื ตา่ งไปจากขอ้ อืน่
1. คะเนนบั ย่ำยามไดส้ ามครา ดเู วลาปลอดห่วงทกั ทนิ
2. จงึ เซน่ เหล้าขา้ วปลาให้พรายกนิ เสกขมน้ิ ว่านยาเขา้ ทาตัว
3. จดุ เทยี นสะกดขา้ วสารปราย ภูตพรายโดดเรือนสะเทือนผาง
4. ใตเ้ ตยี งเสยี งหนูก็กุกกก แมงมุมทุม่ อกทร่ี ิมฝา
170. ขอ้ ใดสะทอ้ นค่านยิ มในสังคมตา่ งไปจากข้ออื่น
1. หญงิ เดยี วชายครองเป็นสองมิตร ถ้ามิปลดิ เสยี ใหเ้ ปล้อื งไมต่ ามใจ
2. ประหน่ึงวา่ วนั ทองนส้ี องใจ พบไหนกเ็ ป็นแต่เชน่ น้ัน
3. วา่ หญิงชวั่ ผวั ยงั คราวละคนเดยี ว มาตามตอมกนั เกรยี วเหมอื นมึงไม่
4. มนั เกิดเหตุทัง้ นก้ี เ็ พราะหญิง จงึ หงึ หวงช่วงชงิ ยุ่งยิ่งอยู่
อา้ งอิง เล่ม ท.24 หน้าที่ 15 ข้อ 1
คลงั ความรู้ ยศ.ทบ.
“เสดจ็ เพคะ เสด็จใหม้ าทลู ถามเสดจ็ จะเสดจ็ หรอื ไม่เสด็จ ถ้าเสด็จจะเสด็จ เสดจ็ กจ็ ะเสด็จ ถ้าเสด็จ
ไมเ่ สดจ็ เสด็จกไ็ ม่เสดจ็
ตอบคำถามข้อ 171-172
171. ข้อความข้างต้นนี้มบี ุรุษสรรพนามท่ี 2 และที่ 3 อย่างละกค่ี ำ
1. 3 คำ, 5 คำ
2. 4 คำ, 4 คำ
3. 5 คำ, 3 คำ
4. 6 คำ, 2 คำ
172. ข้อความข้างตน้ นมี้ กี รยิ าราชาศพั ทก์ ่คี ำ
1. 5 คำ
2. 6 คำ
3. 7 คำ
4. 8 คำ
173. คำวา่ “กนั ” ในขอ้ ใดเปน็ คำสรรพนาม
1. พไ่ี มช่ อบใหเ้ ธอกนั คิ้ว
2. กนั ดกี วา่ แก้
3. คนบ้านนช้ี อบตกี ัน
4. เด็กของเราถูกกันไม่ใหเ้ ขา้ ไป
174. ข้อใดใชค้ ำผดิ หน้าท่ี
1. เด็กมักมปี ฏิกริ ยิ าตอ่ การหา้ ม
2. เขาใชป้ ฏิภาณในการตอบคำถาม
3. ปฏปิ ักษข์ องความกา้ วหนา้ คือความเกยี จคร้าน
4. เขาทง้ั สองมีปฏญิ าณว่าจะซือ่ สตั ย์ตอ่ กนั ตลอดไป
175. ขอ้ ใดเปน็ ได้ทงั้ กลุ่มคำและประโยค
1. บริษทั จดั หางาน ถงั ใส่น้ำมัน
2. บ่อบำบัดนำ้ เสีย กรมส่งเสรมิ การเกษตร
3. คนทำสวน สถานสงเคราะหเ์ ดก็ อ่อน
4. เจ้าหน้าที่รกั ษาความปลอดภัย พนักงานตรวจสอบบญั ชี
คลงั ความรู้ ยศ.ทบ.
176. ขอ้ ใดไมแ่ สดงวัฒนธรรมในการใช้ภาษา
1. กบั ขา้ วไทยสว่ นใหญ่มักมีรถเผด็
2. ดิฉันปวดศีรษะจึงขออนญุ าตลาหยุดครัง้ วนั
3. บดิ าของกามนติ เปน็ พอ่ คา้ ของกรงุ อุชเชนี
4. สมเดจ็ พระสงั ฆราชประทานพรปใี หม่ทางโทรทศั น์
177. ข้อใดแปลความหมายผิด
1. ถงุ พระบาท หมายถึง ถงุ เท้า
2. ฉลองพระเนตร หมายถงึ แว่นตา
3. ฉลองพระหัตถ์ หมายถึง ถุงมอื
4. ซับพระองค์ หมายถงึ ผา้ เช็ดตวั
178. ขอ้ ใดใหเ้ หตผุ ลน่าเชื่อถือทสี่ ดุ
1. การออกกำลังกายทำใหช้ วี ติ มีสุข
2. การดื่มนมทำใหร้ า่ งกายแข็งแรง
3. การลดน้ำหนกั ทำใหป้ ราศจากโรคภยั
4. การพกั ผ่อนนอนหลบั ทำใหส้ ุขภาพจติ ดี
179. คำว่า “ขวัญ” ในขอ้ ใดมีความหมายต่างกับข้ออื่น
1. ขวญั ออ่ น รบั ขวญั
2. เรยี กขวญั หมอขวญั
3. ขวญั ขา้ ว สู่ขวัญ
4. ของขวญั ขวัญใจ
180. ขอ้ ใดใช้คำผดิ ความหมาย
1. เวลาซอ้ื ของเขาชอบตอ่ ราคา
2. ตำรวจนายน้ันวิง่ กรูเขา้ จบั คนร้าย
3. รัฐบาลประกาศสนบั สนุนโครงการบ้านเอ้ืออาทร
4. มัคคุเทศกบ์ างคนมสี ว่ นทำลายภาพลักษณ์ของประเทศ
181. ภาษาพาดหวั ข่าวข้อใดไม่ถูกต้อง
1. มาตกรโหดฝงั ศพทง้ั เปน็
2. ฝา่ ยคา้ นรวมสมาชิกต้งั พรรคใหม่
3. รัฐเตือนไข้หวัดนกระบาดอีก แตค่ มุ ได้
คลงั ความรู้ ยศ.ทบ.
4. สนิ คา้ สง่ ออกทะลเุ ป้า คาดปีนีย้ อดขายกระฉูด
182. ข้อใดใช้คำว่า “กับ” ไม่ถูกตอ้ ง
1. เรือ่ งการใช้สารเคมีนี้ นอกจากจะทำใหช้ อื่ เสยี งของประเทศไทยเสียหายแลว้ ยงั กระทบกับ
ภาวะการส่งออกพืชผลของประเทศอย่างรนุ แรง
2. แนวทางเดียวทสี่ ามารถแกไ้ ขไดค้ ือต้องสร้างจิตสำนกั ในการใช้สารเคมใี ห้ความถกู ต้องและ
เหมาะสมกับสนิ คา้
3. เรื่องนีเ้ กีย่ วข้องกับเกษตรกรโดยตรง เพราะเกษตรกรไมส่ ามารถทำให้พชื ผักผลไม้ในบ้านเราปลอด
จากสารพิษได้
4. มาตรการสำคญั คอื ตอ้ งตรวจสอบปริมาณสารเคมีและรับรองคณุ ภาพสนิ คา้ การเกษตรเพือ่ สร้าง
ความมัน่ ใจให้เกิดกบั ผบู้ รโิ ภค
183. ขอ้ ใดแสดงนำ้ เสยี งชืน่ ชมได้ชดั เจนทสี่ ดุ
1. เขาทำได้ดี ทุกคนท่ีมากพ็ อใจ
2. ทุกคนประทบั ใจท่ีเขาได้ส้จู นสดุ ความสามารถ
3. เราได้สง่ จดหมายแสดงความยนิ ดีไปใหเ้ ขาแลว้
4. รางวลั ทเ่ี ขาได้รับเป็นกำลังใจให้เขาพยายามต่อไป
184. ขอ้ ใดใชศ้ พั ท์เฉพาะในการประชมุ แทนข้อความท่ีขดี เส้นใตต้ ่อไปนี้ไดถ้ กู ต้องตามลำดบั
“เมื่อผมู้ สี ทิ ธเิ์ ขา้ ประชุมตามขอ้ บงั คับครบแล้วผนู้ ำการประชุมจะดำเนนิ การประชมุ ตามเรื่องท่จี ะ
ประชุมขอใหแ้ สดงความคดิ เห็นก่อนท่จี ะขอขอ้ ตัดสินใจของท่ีประชมุ ด้วย”
1. ผู้เขา้ ประชุม ประธาน ระเบยี บวาระ อภปิ ราย ขอ้ สรปุ
2. องค์ประชมุ ประธาน ระเบยี บวาระ อภิปราย มติ
3. องคป์ ระชุม ผนู้ ำ กำหนดการ เสนอความเหน็ ข้อสรปุ
4. ผูเ้ ขา้ ประชมุ ผู้นำ กำหนดการ เสนอความเห็น มติ
185. ขอ้ ใดเรียงลำดบั ไดถ้ กู ตอ้ งตามระเบยี บวาระการประชุม
ก. “วนั น้ีคุณวิภาดาลาประชมุ เนือ่ งจากปว่ ย ไดม้ อบหมายใหค้ ณุ นิรันดรเ์ ขา้ ประชุมแทนนะครับ”
ข. “ขอใหท้ ป่ี ระชุมช่วยกนั พจิ ารณาเสนอช่ือวิทยากรท่ีจะบรรยายหัวข้อต่าง ๆ ตามกำหนดการท่รี า่ ง
มาด้วยครบั ”
ค. “ถา้ ไมม่ ใี ครขอแก้ไขหรอื เพ่ิมเติมข้อความอะไรอกี แลว้ ก็ขอรบั รองรายงานการประชมุ ครั้งที่
1/2546 นน้ี ะครับ”
ง. “ขอให้ประธานอนกุ รรมการแตล่ ะฝ่ายเตรยี มสรุปความกา้ วหนา้ ในการดำเนนิ งานเพื่อเสนอที่
ประชมุ ครง้ั ต่อไปดว้ ยนะครบั ”
คลงั ความรู้ ยศ.ทบ.
1. ก ข ค ง
2. ก ค ข ง
3. ค ข ก ง
4. ค ก ง ข
186. ข้อใดแสดงพนั ธกิจของภาษาต่างกบั ขอ้ อ่ืน
1. กา้ วแรกแมผ้ ิดไป จงก้าวใหม่ใหม้ น่ั คง
2. ขอเชญิ รกั ษาความสะอาด อย่าทง้ิ เศษกระดาษให้เกลอ่ื นไป
3. จะสูงจะต่ำอยทู่ ี่ทำตวั จะดีจะชวั่ อยทู่ ีต่ ัวทำ
4. คดิ ทุกคำที่พดู แตอ่ ย่าพูดทุกคำท่คี ิด
187. ขอ้ ใดทผี่ ้พู ดู มีเจตนาสอนโดยตรง
1. อนั นนิ ทากาเลเหมอื นเทนำ้ ไม่ชอกช้ำเหมอื นเอามีดไปกรีดหิน
2. อันว่าความกรุณาปรานี จะมีใครบงั คับกห็ าไม่
3. อันคนดมี ีศลี สัตยส์ ันทัดเทย่ี ง ช่วยชบุ เลีย้ งชูเชิดใหเ้ ฉิดฉาย
4. อนั ความเรอ่ื งเดียวกนั สำคัญกลา่ ว พดู ไม่ดีแล้วกเ็ ปลา่ ไมแ่ ขง็ เขม้
188. ข้อใดสะกดถูกตอ้ งทกุ คำ
1.กะปลกกะเปลีย้ น้ำจนั ท์ บิณฑบาต
2. กะปรดิ กะปรอย เพรศิ พริ้ง ประดิดประดอย
3. กะพรอ่ งกะแพร่ง ปรศั นยี ์ ลมปราณ
4. กระออ้ มกระแอ้ม ดุลพนิ ิจ ทรมาทรกรรม
189. ข้อใดมีคำทส่ี ะกดผดิ สลับกับคำทส่ี ะกดถูก
1. ปฏิสนั ถาร ปณธิ าน ประกาสติ ประจาน
2. พานิช พะเยิบพะยาบ พมึ พัม พุดตาน
3. ราชปะแตน เรีย่ ไร ราชนั รณรงค์
4. อับประมาณ อเปหิ อลกั เอล่ือ อลมุ่ อลว่ ย
190. ขอ้ ใดมีวรรณยุกต์ครบทุกเสียง
1. อยากใหฟ้ ้าวนั นีเ้ ป็นสีฟา้
2. อยากให้มวลสกุณาประสานเสยี ง
3. อยากให้จันทรม์ เี ดอื นเป็นเพื่อนเคยี ง
4. อยากใหโ้ ลกมเี พยี งเราสองคน
คลงั ความรู้ ยศ.ทบ.
191.ข้อใดมจี ำนวนเสียงพยญั ชนะตน้ เดย่ี วนอ้ ยทสี่ ดุ (ไมน่ บั เสยี งซำ้ )
1. อยา่ จับจ่ายใช้สอยปลอ่ ยตามจิต
2. จงหวนคิดคำนงึ ถงึ วนั หน้า
3. หากปลอ่ ยใจใช้หมดเปลอื งเรอื่ งเงนิ ตรา
4. คงต้องมาทุกข์ตรมระทมใจ
192. พยางคท์ ้ายขอ้ ใดมีเสยี งสระตรงกบั พยางค์ที่ขีดเส้นใตต้ ามลำดับ
1. ผสม ผจญ
2. ขนอง ขนด
3. สกล สบง
4. พยศ พนม
193. ขอ้ ใดมคี ำกรยิ า
1. กันชน กนั สาด
2. คอตก คอแข็ง
3. ต้ังเคา้ ตง้ั แต่
4. เล่อื นเปื้อน เลอ่ื นลอย
194.ข้อใดไมม่ คี ำบพุ บท
1. ภยั พิบัติครงั้ นีเ้ กดิ ขน้ึ มาเพราะความประมาทโดยแท้
2. นกั เรยี นมักจะไปศกึ ษาคน้ คว้าขอ้ มลู ทหี่ อสมุดแห่งชาติ
3. การเดินทางไกลจำเป็นจะตอ้ งศึกษาเสน้ ทางลว่ งหนา้ เปน็ อย่างดี
4. ชายคนน้ีอพยพมาจากดินแดนท่ีราบสงู ด้วยความมานะพยายาม
195. “กคี่ ราวทค่ี วามรกั ตอ้ งลงเอยด้วยน้ำตา” ประโยคนี้ไมป่ รากฏคำชนดิ ใด
1. บุพบท
2. วเิ ศษณ์
3. ลกั ษณนาม
4. อกรรมกริยา
196. คำในข้อใดทสี่ ลับตำแหนง่ แล้วไม่เปน็ คำประสม
1. เขาตกน้ำขณะกำลงั เดินเท่ยี วนำ้ ตกอยู่
2. เขามกั สวมกางเกงผา้ รม่ เพอ่ื ปกปดิ อวัยยะในรม่ ผา้
3. เม่อื เขาขดุ พบตานำ้ กร็ สู้ กึ ดีใจจนน้ำตาไหลนอง
4. เขาเปน็ พ่อคา้ คนกลางทอ่ี ยู่ในชว่ งวัยกลางคน
คลังความรู้ ยศ.ทบ.
197. ขอ้ ใดจดั เป็นคำซอ้ นทุกคำ
1. ทองคำ เพชรนลิ จนิ ดา ตดิ ตงั้
2. สงิ โต เคารพนบนอบ พานพบ
3. แปดเบอื้ น อาภัพอับจน โกโรโกโส
4. เสื่อสาด ไกฟ่ า้ พญาลอ ครอบครอง
198. ประโยคในข้อใดไมม่ ีขอ้ บกพรอ่ ง
1. เขาพบตัวเองอยใู่ นบ้านรา้ งหลงั จากตน่ื ขน้ึ มา
2. รฐั บาลภายใตก้ ารนำของนายกรฐั มนตรคี นปัจจบุ นั น้ี
3. ตามความคิดของผม มนั เป็นการยากทจี่ ะทำใหเ้ ขากลบั ใจได้
4. คนงานได้ถกู ไลอ่ อกไปแล้ว เนือ่ งจากพากันหยุดงานประทว้ ง
199. ประโยคในขอ้ ใดไม่กะทัดรัด
1. เขาฉุกคดิ ขนึ้ อย่างทันทีทนั ใดว่าได้ลืมโทรศัพท์มือถือเอาไว้ในรถ
2. เงนิ ก็ดี ชอื่ เสียงก็ดี ล้วนเปน็ สง่ิ ที่ทุกคนปรารถนาดว้ ยกนั ทัง้ นั้น
3. การไดฟ้ ังมาก อ่านมาก จะช่วยทำให้บุคคลเป็นผูร้ ลู้ ึก รูก้ วา้ ง และรจู้ ริง
4. การออกกำลงั กายและดูแลสขุ ภาพอยา่ งสมำ่ เสมอชว่ ยให้คนเรามีอายุยนื ยาว
200. ข้อใดเปน็ ภาษาแบบทางการ
1. ผคู้ นมากมายพากนั ไปรว่ มงานทีท่ อ้ งสนามหลวง
2. ความสามารถของเขาเล่อื งลอื ไปทั่วทกุ หนทกุ แห่ง
3. หมแี พนดา้ ทสี่ วนสตั ว์เชียงใหมด่ ึงดูดนักทอ่ งเทย่ี วได้เปน็ อยา่ งมาก
4. ผบู้ ังคับบัญชาท่ดี ีจะต้องคอยเอาใจใสค่ วามเป็นอยู่ของลกู น้อง
201. ข้อใดจัดเป็นคำสมาสทุกคำ
1. สมณศกั ดิ์ เดชานภุ าพ ทนุ ทรัพย์
2. โลกาภิวัตน์ มคั คุเทศก์ พลเมอื ง
3. มหรรณพ สตางค์ พนาลยั
4. ลักษณะนาม พจนานุกรม ประณิธาน
202. ขอ้ ใดมคี ำทไ่ี ม่ใช่ ราชาศพั ท์
1. ประทับ ชา้ งตน้ ทรงกลด
2. ทรงธรรม พระเจ้า นารายหตั ถ์
3. ลายพระหัตถ์ ประสูติ ทรงบาตร
4. ทรงเครือ่ งใหญ่ พระกรน้อย ราโชวาท
คลงั ความรู้ ยศ.ทบ.
203. สำนวนในขอ้ ใดที่มคี วามหมายตา่ งกนั
1. ววั ใครเข้าคอกคนน้นั – กงเกวยี นกำเกวยี น
2. เก่ียวแฝกมุงป่า – กลงิ้ ครกขี้นเขา
3. ตกั นำ้ รดหวั ตอ – สีซอใหค้ วายฟงั
4. กระต่ายต่ืนตมู - ตตี นก่อนไข้
204. คำในขอ้ ใดพยางคแ์ รกไมม่ ีเสียงพยัชนะสะกด
1. ทฐิ ิ
2. โฆษณา
3. จรรยา
4. ครหา
205. คำในข้อใดออกเสียงควบกล้ำทกุ คน
1. กลัว กริช ครยุ จรด
2. กลวง ควาย ตรอง แปรก
3. กลา้ ครบ ปลกั ปลด
4. เกร็ด กราบ ปลาย จวกั
206. ข้อใดมรี ปู พยญั ชนะท่ที ำหนา้ ที่เปน็ ทง้ั ตัวสะกดและพยชั นะต้นเปน็ เสียงเดียวกัน
1. พรรณนา
2. อุปสรรค
3. สพั ยอก
4. สุจริต
207. ข้อใดมีเสียงวรรณยุกตค์ รบทกุ เสยี ง
1.ชวี ติ ยงั ไมส่ ิน้ จงดิน้ ตอ่ ไป
2. เธอแกรง่ เธอกลา้ ดุจทานตะวนั
3. ความดีไม่มีสิน้ สูญ
4. คิดถงึ เธอมากอยากไปหา
208. ข้อใดมีเสียงวรรณยกุ ตเ์ หมอื น ความรกั สีดำ
1. ถามใจเธอดู
2. ค่สู รา้ งคู่สม
3. ใจน้องสวยงาม
4. คนแลว้ คนเล่า
คลังความรู้ ยศ.ทบ.
209. คำทับศัพทภ์ าษาอังกฤษข้อใดเขียนถูกตอ้ งทกุ คน
1. วิกกี้ชอบกินสปาเกตตีและมะกะโรนีมาก
2. แองจชี้ อบวงิ่ จอกกง้ิ และเตน้ แอโรบิก
3. เคลลไ่ี ปแบงกเ์ พอื่ แลกดอลล่าร์และเอาเช็คไปเขา้ บญั ชี
4. เจมส์เอารถไปซ่อมเบรค เปลี่ยนคลตั ชแ์ ละแบตเตอรี่
210. ขอ้ ใดสะกดไม่ถูกต้องทุกคน
1. ชฏิล โกสีย์
2. ฉมิ พลี เข้ารตี
3. ชมนาด หัสดนิ
4. เซ็นต์ชอ่ื แหลกราน
211. คำซ้อนในขอ้ ใดเปน็ ไดท้ ัง้ ซ้อนเสยี งและซ้อนความหมายทกุ คน
1. ขรขุ ระ จับเจา่ มดึ มัว
2. จับจด ชักชวน โผงผาง
3. ดาษดนื่ รอนราญ หมองหมาง
4. เคว้งคว้าง ขัดข้อง ครอบครอง
212. คำประสมในข้อใดใช้ในความหมายเชงิ เปรยี บเทียบทกุ คำ
1. ลกู ช้าง กลอ่ งดำ
2. ปีกนก ทางด่วน
3. ตนี ตะขาบ คนทรง
4. ใจเพชร หกั หนา้
213. คำประสมขอ้ ใดเกดิ จากคำนามกับคำกริยาทุกคำ
1. ตลาดเงิน ม้าลาย ไส้ไก่ หวั ปี
2. ตลาดมึด มา้ ตน้ ไส้แหง้ หวั นอก
3. ตลาดนดั มา้ ใช้ ไสก้ รอก หัวหมนุ
4. ตลาดน้ำ ม้าเร็ว ไส้เลื่อน หัวดอื้
214. ข้อใดกลา่ วถึงธรรมชาตขิ องภาษาอยา่ งไมถ่ กู ต้อง
1. เสยี งในภาษาใดๆ อาจเพ่ิมจำนวนขน้ึ ได้ ถา้ ยมื คำภาษาอื่นมาใชโ้ ดยมิไดด้ ัดแปลงเสียงใหใ้ กล้เคียง
กบั เสียงในภาษาของตน
2. เมื่อสภาพสงั คมเปลย่ี นไป หรอื ความคดิ ของคนในสังคมเปล่ยี นไป ย่อมมีผลทำใหภ้ าษา
เปลยี่ นแปลงไปไดเ้ สมอ
คลังความรู้ ยศ.ทบ.
3. เสยี งในภาษามีจำนวนจำกดั แต่มนษุ ย์สามารถสร้างประโยคไดต้ อ่ ไปเร่อื ยๆ โดยไมจ่ ำกัดจำนวน
4. คนตา่ งชาตกิ ันใช้คำคลา้ ยคลงึ กันเพราะเสยี งสมั พันธ์กบั ความหมาย
215. คำในขอ้ ใดเป็นการเปลยี่ นแปลงภาษาท่ีเกดิ จากการเปลี่ยนแปลงของส่งิ แวดลอ้ ม
1. โคมลอย
2. ขนมบัวลอย
3. ใจลอย
4. สะพานลอย
216. ขอ้ ใดอธบิ ายลกั ษณะของภาษาได้ถกู ต้อง
1. ภาษาทกุ ภาษามลี กั ษณะเดน่ คอื ความหมายสัมพนั ธ์กับเสียง
2. แม้ภาษาของชาตทิ ่ไี มไ่ ด้ตดิ ตอ่ กับชาติอนื่ กม็ กี ารเปล่ยี นแปลง
3. ภาษาทกุ ภาษายอ่ มมีภาษาเขยี นกอ่ น
4. บางภาษาเท่านน้ั ท่มี ีการขยายประโยคใหย้ าวออกไปไดเ้ รอื่ ยๆ
217. คนไทยเรียกที่อยูอ่ าศัยว่า “บ้าน” คนฝร่ังเศสเรียง “เมซอง” คนแขกเรยี งวา่ “ผเตีย๊ ะ” แสดงลกั ษณะ
ธรรมชาติภาษาอยา่ งไร
1. ภาษาใช้เสียงส่อื ความหมาย
2. คำสว่ นมากเสยี งไม่สมั พนั ธ์กับความหมาย
3. เสียงหนึ่งมีความหมายอย่างหนึง่ เพราะลักษณะของเสียง ทำใหม้ คี วามหมายเชน่ น้ัน
4. ภาษาเปน็ การตกลงของคนในแตล่ ะกลุ่มแต่ละพวก
218. สาเหตสุ ำคญั ท่สี ุดทท่ี ำใหภ้ าษาเปล่ยี นแปลงคอื อะไร
1. อิทธิพลของภาษาอ่นื
2. การเรยี นภาษาของเดก็
3. การพดู จาในชีวติ ประจำวนั
4. ความเปลย่ี นแปลงของส่ิงแวดลอ้ ม
219. ขอ้ ใดแสดงความเปลยี่ นแปลงของภาษาเน่ืองจากอิทธิพลของภาษาอนื่
1. ยังไงๆ ฉันกย็ งั มคี วามพยายาม
2. ใหห้ าเสวยี นทีไ่ ร เธอไมเ่ คยหาเจอ
3. สว้ มชักโครกมกั จะเปลอื งน้ำ
4. ฉนั อยทู่ า่ มกลางบรรยากาศอันอบอนุ่
220. ประโยคในขอ้ ใดท่ไี มไ่ ดร้ ับอทิ ธพิ ลจากตา่ งประเทศ
1. เขาถกู คดั ชื่อออกจากโรงเรียน
คลังความรู้ ยศ.ทบ.
2. สามารถซอ่ นรา่ งอยู่ในเสอ้ื คลมุ สที อง
3. ประเทศไทยสง่ ข้าวออกปลี ะจำนวนมาก
4. เมอื่ ต่นื ข้ึนมาเขาก็พบกบั ตวั เองอย่ใู นหอ้ งพยาบาล
221. ขอ้ ใดไมใ่ ชโ่ ครงสรา้ งภาษาต่างประเทศ
1. ห้องน้ำนเี้ ต็มไปด้วยฝุ่น
2. สองนักกฬี าไทยเข้าแขง่ ขันเทนนสิ วนั นี้
3. เจา้ หญงิ แต่งโดยบนิ หลา สนั กาลาคีรี
4. แม่มลี ูกหลายคนจงึ ต้องรจู้ ักวิธีบริหารเงิน
222. ประโยคใดมีลักษณะโครงสรา้ งเป็นภาษาไทยมากทส่ี ุด
1. เพยี งออโดยสารรถประจำทางไปโรงเรียน
2. สำหรับนายเสริม ตำรวจปล่อยตวั ไปแล้ว
3. สินจยั จะมาในชดุ ราตรใี นงานแฟชนั่ ไหมไทย
4. ฝนเทยี มนำมาซ่งึ ประโยชนอ์ ย่างใหญห่ ลวง
223. ขอ้ ใดมีเสยี งสัมพนั ธก์ บั ความหมาย
1. เปน็ เครื่องชชู ี้ทางสว่างไสว
2. อนั ความรู้รู้กระจา่ งแตอ่ ย่างเดียว
3. ค่อยคอ่ ยผา่ นทอ้ งท่งุ ม่งุ ถิน่ ตน
4. หง่ายเหงง่ ย่ำคำ่ ระฆงั ขาน
224. ขอ้ ใดใช้ราชาศพั ทถ์ กู ต้อง
1. พระยาเศวตพาหะ ชา้ งสำคญั สิน้ แลว้
2. หมายกำหนดการซอ้ มรับปริญญาบัตร
3. สมเดจ็ พระศรนี ครนิ ทราบรมราชชนนสี ้ินพระชนม์
4. พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั มพี ระบรมราชโองการโปรดเกลา้ ฯ แต่งต้งั องคมตรี
225. ข้อใดแปลความหมายผิด
1. ถงุ พระบาท หมายถงึ ถุงเทา้
2. ฉลองพระเนตร หมายถงึ แวน่ ตา
3. ฉลองพระหัตถ์ หมายถงึ ถงุ มอื
4. ซบั พระองค์ หมายถึง ผ้าเช็ดตวั
226. ขอ้ ใดใชส้ ำนวนไมถ่ ูกตอ้ ง
1. เขาต้องเสียเงนิ ไปทลี ะเลก็ ทีละนอ้ ย เบย้ี บา้ ยรายทางไปเร่ือยๆ
คลังความรู้ ยศ.ทบ.
2. เขาชอบยคุ นโน้นคนนี้เปน็ การเสี้ยมเขาควายใหช้ นกนั แทๆ้
3. ถามอะไรก็ไมต่ อบ กลัวดอกพิกลุ จะรว่ งหรืออย่างไร
4. เขาเปน็ คนตระหนี่ถี่เหนียว เก็บเบ้ียใตถ้ ุนรา้ นอยู่เสมอ
227. ข้อใดเป็นสำนวนทไ่ี มม่ คี วามหมายของคำว่า “หนา้ ”
1. หนา้ ซีอ่ ใจคด
2. หนา้ เนือ้ ใจเสอื
3. หนา้ ชน่ื อกตรม
4. หนา้ สวิ่ หน้าขวาน
228. สำนวนในขอ้ ใดมนี ้ำเสียงตา่ งจากข้ออน่ื
1. ไมห้ ลักปักเลน
2. กงิ้ กาได้ทอง
3. วัวหายลอ้ มคอก
4. น้ำซมึ บ่อทราย
229. สำนวนไทยในขอ้ ใดมคี วามหมายใกลเ้ คียงกนั มากที่สดุ
1. ลงิ ไดแ้ ก้ว ก้ิงกาไดท้ อง
2. นกสองหวั เยียบเรือสองแคม
3. ฟื้นฝอยหาตะเขบ็ กวนน้ำใหข้ ุ่น
4. ขมน้ิ กบั ปูน ขงิ กร็ าขา่ กแ็ รง
230. ขอ้ ใดเป็นสำนวนทีส่ รา้ งความเชอ่ื ของคนไทย
1. วนั โกนไม่ละ วันพระไมเ่ ว้น
2. ซื้อควายหนา้ นา ซือ้ ผ้าหนา้ หนาว
3. ตกั น้ำใส่กะโหลก ชะโงกดเู งา
4. นำ้ รอ้ นปลาเปน็ น้ำเย็นปลาตาย
231. ภาษามคี วามสำคัญต่อมนุษยอ์ ยา่ งไร
1. ใชเ้ ปน็ เครือ่ งมอื ในการประกอบอาชีพ
2. ใช้ในการศึกษาวชิ าความรู้
3. ใชใ้ นการติดตอ่ สอื่ สารกนั
4. แสดงถึงความมีวัฒนธรรมและเอกลักษณข์ องชาติ
232. ภาษาคำโดด คอื ภาษาชนิดใด
1. ภาษาทีม่ ีคำพยางคเ์ ดยี วลว้ นๆ
คลงั ความรู้ ยศ.ทบ.
2. ภาษาที่มธี าตุและมกี ารเปลี่ยนแปลงธาตุ
3. ภาษาทมี่ กี ารเสริมคำเพอ่ื ให้เกิดคำใหม่ข้นึ
4. ภาษาที่ไม่มกี ารเปล่ยี นแปลงรูปคำ เพ่ือบอกหน้าที่ทางไวยากรณ์
233. ขอ้ ใดไมใ่ ชล้ กั ษณะของภาษาไทย
1. มลี ักษณะนาม
2. สรา้ งคำใหมแ่ บบคำประสม
3. คำขยายเสยี งไวห้ ลังคำถูกขยาย
4. สร้างคำใหม่ โดยการเตมิ คำขา้ งหน้า หรือข้างทา้ ย
234. ลกั ษณะภาษาไทยท่พี อจะสังเกตไดป้ ระการประการหนึ่งคอื
1. ไม่มีคำนามทีบ่ อกเพศและพจนเ์ ลย
2. มีการยืมคำภาษาต่างประเทศมาใช้
3. มีเสยี งควบกล้ำ
4. มีตวั สะกดตรงตามมาตรา
235. จากข้อความต่อไปน้ีทา่ นสามารถสรปุ ไดว้ า่ ลักษณะของภาษาไทยตรงกับขอ้ ความใดมากทส่ี ุด
“คา่ ทีก่ ำหนดไว้คาอยู่อยา่ งนกี้ ็ย่ิงทำใหก้ ารค้าของเขาขาดทนุ ”
1. ภาษาไทยนิยมเล่นสัมผัสอกั ษร
2. ภาษาไทยนิยมใชภ้ าษาทค่ี ล้องจองกนั
3. ภาษาไทยเปลย่ี นความหมายของคำด้วยการเปล่ยี นเสยี งวรรณยุกต์
4. ภาษาไทยมเี สียงเพ่มิ ขนึ้ ด้วยการเปล่ยี นวรรณยุกต์
236. คำว่า “เปน็ ” ในประโยคใดมีความหมายว่า “ชำนาญ”
1. เขาเป็นเครื่องยนต์ทุกชนดิ
2. เขาเปน็ ครูสอนเครื่องยนตม์ านาน
3. เขาเปน็ ช่างแกเ้ ครื่องยนตม์ าตั้งแต่เด็ก
4. เขาเป็นช่างทคี่ ลกุ คลอี ยกู่ บั เครอ่ื งยนตม์ าหลายปี
237. คำในข้อใดสลับท่กี ันแลว้ ยงั มีความหมายคงเดิม
1. เบกิ บาน แลดู หนาแน่น
2. ปราดเปรยี ว กนิ อยู่ ชมช่ืน
3. หนว่ งเหนยี่ ว อดั แอ นมนาน
4. ช่วงโชติ พร่ังพรอ้ ม หงอยเหงา
238. ขอ้ ความใดมีเสยี งคำ ต่างกนั แล้วยังมคี วามหมายคงเดิม
คลังความรู้ ยศ.ทบ.
1. 1. แม่พูดกบั คนขา้ งบ้านใหช้ ว่ ยเล้ยี งนอ้ งตอนกลางวัน
2. ตอนกลางวนั แมพ่ ดู กับคนขา้ งบ้านให้ชว่ ยเลย้ี งนอ้ ง
2. 1. ยายใหแ้ หวนทีร่ ักมากทีส่ ุดแกห่ ลานสาวคนเล็ก
2. ยายให้แหวนแกห่ ลานสาวคนเล็กท่ีรักมากท่สี ุด
3. 1. เขาซื้อของไปฝากภรรยาทโ่ี รงพยาบาล
2. เขาซ้ือของทโี่ รงพยาบาลไปฝากภรรยา
4. 1. เขา้ เขียนหนังสือเล่มน้ไี ด้ดจี ริงจรงิ
2. เขาเขียนได้ดจี ริงจรงิ หนังสือเลม่ น้ี
239. ประโยคในข้อใดมคี วามหมายเหมือนกนั
1. คณุ เป็นหัวหน้าหรอื -คุณเปน็ หวั หนา้ ได้หรือ
2. หนังเรือ่ งน้ีฉนั ไม่ไดด้ ู-หนงั เรื่องนี้ฉนั ดูไมไ่ ด้
3. เขากินอย่กู ันฉนั -เขาอย่กู ินกบั ฉัน
4. สุนทรภเู่ ขยี นนริ าศเมอื งเพชร-นิราศเมอื งเพชรสุนทรภเู่ ขยี น
240. ประโยคใดไม่มลี ักษณะนาม
1. จองทีไ่ วใ้ หฉ้ ันท่หี น่งึ
2. เอกสารรบั ไปคนละชุดเดียวเทา่ นั้น
3. ช้างโขงนน้ั กำลังจะถกู ลา่
4. ใครเหน็ โขลงช้างทกี่ ำลงั จะถกู ล่าบา้ ง
241. คำนามในขอ้ ใดใชล้ ักษณะนามถกู ตอ้ ง
1. พมิ เสน – เมด็ , สวน – ขนดั , ลฟิ ต์ – ตัว
2. คาถา – จบ, เขากวาง – กง่ิ , ยางรถ – วง
3. สมณสาสน์ – ฉบบั , สารเคมี – ตัว, สงั ข์ – ขอน
4. ดอกหมาก – ทะลาย, ปะขาว – ตน, หนงั กลางแปลง – โรง
242. คำในข้อใดที่สลบั ตำแหน่งแลว้ ไม่เปน็ คำประสม
1. อย่าใจร้อนเพราะจะร้อนใจในภายหลงั
2. แมบ่ ้านไปทำงานที่บา้ นแมท่ ุกๆ วนั
3. ฉนั ใจหายจนหายใจไมท่ ่วั ท้อง
4. เขาดใี จจนตวั ลอยทีม่ นี ้ำมันลอยตัว
คลังความรู้ ยศ.ทบ.
243. คำประสมทกุ คำในขอ้ ใดท่ีมีสว่ นประกอบเหมอื นคำว่า “คนพมิ พด์ ดี ”
1. เคร่อื งตดั หญา้ รถลอยฟ้า
2. คนเก็บขยะ นักการเมอื ง
3. หวั กา้ วหนา้ ผ้ใู จบุญ
4. หอ้ งนัง่ เลน่ ผา้ กันเปอ้ื น
244. ขอ้ ใดมีโครงสรา้ งของการประกอบคำเหมือนกันทุกคำ
1. ทางดว่ น รถเมลไ์ ฟฟา้ อาคารชดุ
2. ยารักษาโรคเอดส์ สมดุ เก็บข้อมลู ศนู ยช์ ่วยเหลือคนจน
3. การศึกษาทางไกล มหาวิทยาลยั เปิด ปีทอ่ งเทียว
4. โทรทศั น์วงจรเปดิ หนว่ ยบริการเคลื่อนที่ ฝักบุ้งลอยฟา้
245. ประโยคใดมคี ำประสมมากท่สี ุด
1. เดินเรว็ ๆ เถอะไดย้ ินเสยี งระฆงั แล้ว
2. ท่ีข้างโรงเรียงของเรามีปลานำ้ จดื มาก
3. หมอฟนั คนนัน้ เคยเปน็ นักเรยี นชา่ งกล
4. ฉนั ขวัญหายหมดเมอ่ื ไดย้ ินเสยี งปืน
246. คำประสมในข้อใดเม่อื อยตู่ ามลำพังใช้เปน็ ประโยคได้
1. มอื เสือกนิ อรอ่ ยมาก
2. เขาเป็นคนขีข้ ลาดตาขาว
3. แม่ครวั กำลงั ปรุงอาหาร
4. ดอกไมไ้ หวประดษิ ฐ์ไดส้ วยมาก
247. ขอ้ ใดมีคำประสมทีท่ ำหน้าทเ่ี หมอื นกนั หมดทกุ คำ
1. กรวดนำ้ ขอโทษ คนสนทิ จดั การ
2. ขาดมอื คนทรง จับใจ เจา้ กู
3. ขา้ วตอก เงนิ ตรา ผดิ ใจ บตุ รเลยี้ ง
4. กระดานชนวน ขา้ วต้ม คนกลาง เงนิ เดือน
248. คำในข้อใดเป็นคำประสมทกุ คำ
1. ใบพัด เครือ่ งใน ถังนำ้ เนนิ่ นาน
2. ไม้เท้า นำ้ พุ กาลเวลา ปากหวาน
3. รถมา้ คอตก นอกหน้า นำ้ หอม
คลงั ความรู้ ยศ.ทบ.
4. นำ้ มัน หวาดกลัว โดดเดียว เดือนหงาย
249. คำในขอ้ ใดเป็นคำประสมทกุ คำ
1. แผงลอย โอดครวญ เส้ือนอน ผกั ดอง
2. เรือนแพ เผ็ดรอ้ น ไขมัน โหยหวน
3. มอื อาชพี หอบหวิ้ กล่องข้าว ป่าวร้อง
4. เดนิ หน้า ขอ้ งใจ ร่างทรง ออ่ นโยน
250. ขอ้ ใดมกี ริยาเป็นคำประสมท้ังหมด
1. คุณปนู่ ง่ั เล่านทิ าน หลานๆ ยม้ิ แปน้
2. เวลาแดดร้อนจดั ตอ้ งเดนิ กางรม่
3. เขาชอบออกตัวเพราะเกรงใจเพ่ือนๆ
4. พอ่ ถา่ ยรปู น้องขณะนอนหลบั