The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ประเด็น ท้าทาย ผอ สญชัย

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by krufnaka1614, 2022-09-05 11:32:02

ประเด็น ท้าทาย ผอ สญชัย

ประเด็น ท้าทาย ผอ สญชัย

1

1

ประเด็น ท้าทาย

เรื่อง การพัฒนารูปแบบนิเทศติดตามการจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาทักษะด้านภาษาไทย
ของผู้เรียน ในระดับชั้นอนุบาลปีท่ี 2 ถึง อนุบาลปีที่ 3 มีทักษะการคิดพื้นฐาน ระดับชั้นประถมศึกษปีที่ 1 ถึง
ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 มที กั ษะอ่านออกเขียนได้ ในระดบั ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 4 ถงึ ประถมศึกษาปีท่ี 6 มีทักษะ
อ่านคล่องเขียนคล่อง ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึง มัธยมศึกษาปีที่ 3 มีทักษะอ่านคิดวิเคราะห์
ของนักเรียนโรงเรียนบ้านกระทมุ่ ลม้ (นครราษฎรป์ ระสิทธิ)์

บทนำ
สภาพปญั หาการบริหารจัดการสถานศกึ ษาและคณุ ภาพการศกึ ษาของสถานศึกษา

ภาษาไทยเป็นภาษาประจำชาติ มีความสำคัญอย่างยิ่งในการจัดการศึกษา หากผู้เรียนขาดทักษะในด้าน
การอ่านภาษาไทย ย่อมส่งผลต่อในรายวิชาอื่นๆต่อไป ด้วยเหตุนี้ ผู้เรียนทุกคนควรมีทักษะด้านการใช้ภาษาไทย
อย่างถูกต้องตามหลักภาษา ตรงความหมาย อย่างมีประสิทธิภาพ โดยธรรมชาติของภาษาไทยเป็นเรื่องทักษะ
จะแยกเนือ้ หาสาระของทักษะแตล่ ะช้ันปโี ดยเด็ดขาดไม่ได้ จำเปน็ จะต้องมกี ระบวนการฝึกทกั ษะต่าง ๆ ใหต้ ่อเนื่อง
กันไป เนื้อหา เช่น การอ่านและการเขียน สะกดคำ การอ่านจับใจความ การเลือกใช้คำให้ตรงตามความหมาย
การเขียนแสดงความรู้สึกความคิดประสบการณ์ ความต้องการ จนิ ตนาการ การนำความรู้จากการอา่ นไปใช้ในการ
ตัดสินใจ การแก้ปัญหาและการดำเนินชีวิต สาระการเรียนรู้ภาษาไทย เป็นวิชาพื้นฐานในการเรียนรู้กลุ่มสาระ
การเรียนรู้กลุ่มสาระอื่น ๆ เป็นวิชาที่เนน้ ผู้เรียนให้ทาํ ความเข้าใจและศึกษาหลักเกณฑ์ทางภาษาโดยฝึกฝนให้เกิด
ทักษะทั้งการอ่าน การเขียน การฟัง การดูและการพูด การฝึกฝนทักษะทุกด้านให้ถูกต้องอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้
เกิดความชํานาญ เกดิ ประโยชนต์ ่อตนเอง ชุมชน สงั คม และประเทศชาตซิ ่ึงการจัดการศกึ ษาเพ่ือใหบ้ รรลุเปา้ หมาย
ดงั กลา่ ว จาํ เป็นท่ีครผู ูส้ อนตอ้ งจัดกจิ กรรม วางแผนการเรยี นการสอนให้มกี ารพัฒนาผู้เรียนไปสจู่ ุดมุ่งหมายท่ีวางไว้
อย่างมีคุณภาพ เพื่อสนองต่อจุดมุ่งหมายของหลกั สูตร โดยเฉพาะให้ผู้เรียนมีความคดิ สร้างสรรค์คิดอย่างมีเหตุผล
และคิดอย่างเป็นระบบ (สํานักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา, 2555:1-2) ดังนั้นจำเป็นต้องสอนทุกชั้นในเรื่อง
ของทกั ษะภาษา และแตล่ ะชน้ั จะมีเน้อื หาในการฝึกทกั ษะทเ่ี พมิ่ ความซบั ซ้อนและยากมากข้นึ

การนิเทศการศึกษาจึงเป็นกระบวนการท่ีสำคัญในการแนะนำช่วยเหลือครู ให้สามารถจัดกิจกรรมการ
เรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการนิเทศน้ันอยู่บนหลักการของประชาธิปไตย ได้แก่ การเคารพซึ่งกันระหว่างผู้
นิเทศและผู้รับการนิเทศ การนิเทศการศึกษาจัดขึ้นเพื่อปรับปรุงการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้ดียิ่งขึ้นนั้นจะขึ้นอยู่
กบั ทักษะและ ความสามารถ ตลอดจนเทคนิคและวธิ ีการต่างๆ ที่ผูน้ ิเทศนำมาใช้ในการนิเทศการศึกษาโดยให้ครูมี
โอกาส ค้นคว้างานที่จะต้องทำด้วยตนเอง เพ่ือใหเ้ กดิ ความงอกงามขึ้น เมอ่ื ไดเ้ รยี นรแู้ ละมีความเจริญงอกงาม แล้ว
ยอ่ มจะไดร้ จู้ ักปรบั ปรุงงานด้านการเรยี นการสอนใหไ้ ด้ผลดีมีประสทิ ธิภาพให้แกผ่ ้เู รียน

2

ปาจรีย์ หงส์แก้ว (2563) ได้วิจัยเรือ่ ง การพัฒนารูปแบบการนิเทศภายในท่ีมีประสิทธิผลของสถานศึกษา
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 22 มีความมุ่งหมายเพื่อพัฒนาและตรวจสอบความเหมาะสม
และประโยชน์ของรูปแบบการนิเทศภายในที่มีประสิทธิผลของสถานศึกษา การวิจัยแบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือ
ระยะที่ 1 การพัฒนารูปแบบการนิเทศภายในที่มีประสิทธิผลของสถานศึกษา ดำเนินการโดยศึกษาแนวคิด
ทฤษฎีและสังเคราะหอ์ งคป์ ระกอบการนเิ ทศภายในจากเอกสารและงานวิจัยท่เี กย่ี วขอ้ ง และประเมินรปู แบบ ระยะ
ที่ 2 การตรวจสอบความเหมาะสมและประโยชน์ของรูปแบบการนิเทศภายในที่มีประสิทธิผลของสถานศึกษา
ผลการวิจัยพบว่า 1. รูปแบบการนิเทศภายในที่มีประสิทธิผลของสถานศึกษาประกอบด้วย 4 องค์ประกอบ ได้แก่
ปัจจัยที่ส่งผลต่อการนิเทศภายใน ขอบข่ายของการนิเทศภายใน กระบวนการนิเทศภายใน และประสิทธิผลการ
นิเทศภายใน 2. รูปแบบการนิเทศภายในที่มีประสิทธิผลของสถานศึกษา โดยภาพรวมและรายด้านมีความ
เหมาะสมและมีประโยชน์อยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านเรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย
ดังนี้ ประสิทธิผลการนิเทศภายใน ปัจจัยที่ส่งผลต่อการนิเทศภายใน กระบวนการนิเทศภายใน และขอบข่ายของ
การนเิ ทศภายใน ตามลำดับ

เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ได้มีการระบาด
รุนแรงทั่วประเทศ ส่งผลต่อระบบการจัดการศึกษา ทำให้สถานศึกษา ครู ผู้เรียน ไม่สามารถจัดกิจกรรมการเรียน
การสอนได้ตามปกติ และรัฐมนตรวี ่าการกระทรวงศกึ ษาธิการได้มีนโยบายและแนวทางการจัดการเรยี นการสอนให้
สอดคล้องกับความปลอดภัยของพื้นที่ ดังนี้ On-Site On-Air On-Demand On-Line On-Hand ซึ่งส่งผลต่อ
ทกั ษะทางด้านภาษาไทย ซ่งึ เปน็ พืน้ ฐานในการเรียนรู้ในทุกสาระวชิ า และรปู แบบการนิเทศจะเป็นส่ิงท่ีช่วยพัฒนา
คณุ ภาพผเู้ รยี น คณุ ภาพครู และคณุ ภาพสถานศกึ ษาในทางทดี่ ีขึ้น

ผู้จัดทำข้อตกลงในการพัฒนางาน (PA) ในฐานะผู้บริหารสถานศึกษา เห็นความสำคัญในทักษะทางด้าน
ภาษาไทย ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการเรียนรู้ของผู้เรียน เพื่อให้เกิดกระบวนการการเรียนรู้อย่างเต็มศักยภาพ จึง
ตอ้ งแสวงหาแนวทางการพัฒนารปู แบบนิเทศติดตามการจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาทักษะดา้ นภาษาไทย ของ
ผู้เรียนในระดับชั้นอนุบาลปีที่ 2 ถึง อนุบาลปีที่ 3 มีทักษะการคิดพื้นฐาน ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึง
ประถมศึกษาปที ี่ 3 มที กั ษะอา่ นออกเขยี นได้ ในระดบั ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 4 ถงึ ประถมศึกษาปที ่ี 6 มที ักษะอ่าน
คล่องเขียนคล่อง ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึง มัธยมศึกษาปีที่ 3 มีทักษะอ่านคิดวิเคราะห์ ซึ่งส่งผลต่อการ
พัฒนาคุณภาพผู้เรียน คุณภาพครู และคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ตามมาตรฐานการศึกษาระดับปฐมวัย
และระดับขั้นพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง และสอดคล้องกับนโยบายทุกระดับ ครอบคลุมภารกิจหลักของสถานศึกษา
กอ่ ให้เกิดความเปลยี่ นแปลงไปในทางท่ีดขี น้ึ หรือมกี ารพัฒนามากขน้ึ

3

วตั ถปุ ระสงค์
1. เพื่อพัฒนารูปแบบนิเทศติดตามการจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาทักษะด้านภาษาไทย ของผู้เรียน

ในระดบั ชั้นอนบุ าลปที ี่ 2 ถงึ อนุบาลปีที่ 3 มที กั ษะการคดิ พืน้ ฐาน
2. เพื่อพัฒนารูปแบบนิเทศติดตามการจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาทักษะด้านภาษาไทย ในระดับช้ัน

ประถมศกึ ษาปีที่ 1 ถงึ ประถมศึกษาปที ่ี 3 มที ักษะอ่านออกเขียนได้
3. เพื่อพัฒนารูปแบบนิเทศติดตามการจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาทักษะด้านภาษาไทย ในระดับชั้น

ประถมศึกษาปีที่ 4 ถงึ ประถมศึกษาปที ี่ 6 มที ักษะอ่านคลอ่ งเขยี นคลอ่ ง
4. เพื่อพัฒนารูปแบบนิเทศติดตามการจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาทักษะด้านภาษาไทย ในระดับชั้น

มัธยมศึกษาปที ี่ 1 ถึง มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 มีทกั ษะอา่ นคดิ วิเคราะห์

กรอบแนวคิดและวิธดี ำเนนิ งาน
ประกอบด้วย 6 ขัน้ ตอน ดังนี้
1. ศึกษาสภาพ ปญั หาเกยี่ วกับทักษะการใชภ้ าษาไทย ของผู้เรยี น โดยจัดการประชุมเชงิ ปฏิบัติการ ระดม

ความคิดเห็นต่อสภาพ ปัญหา รวมทั้งร่วมกันวางแผน เตรียมการ กระบวนการทำงาน เพื่อพิจารณาผลการเรียนรู้
ทกั ษะภาษาไทยในปีท่ีผา่ นมา รวมถึงขอ้ เสนอในการพัฒนา การกำหนดกรอบการพฒั นาการดำเนินงานด้านทักษะ
ภาษาไทย

2. ศึกษาวิเคราะห์งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง แล้วสังเคราะห์เป็นกรอบและแนวทางในการพัฒนารูปแบบนิเทศ
ติดตามการจัดการเรยี นการสอนเพ่อื พฒั นาทักษะด้านภาษาไทย

3. กำหนดนโยบายการนิเทศติดตาม การออกแบบแนวทางการนิเทศ รวมทั้งจัดทำข้อมูล คู่มือการนิเทศ
เพ่อื ความชดั เจนในกระบวนการนเิ ทศของโรงเรียน โดยใช้ รูปแบบการนิเทศ COVID Model ไดแ้ ก่

Coaching : การนิเทศในรูปแบบโค้ชชิ่ง มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ แบ่งปันความรู้ ก่อให้เกิด
ชุมชนแหง่ การเรยี นรูท้ างวิชาชพี (PLC)

Opportunity : การเปิดโอกาสในการแลกเปล่ียนเรยี นรรู้ ะหว่างผูน้ ิเทศและผู้รับการนเิ ทศ
เพ่ือสร้างเครอ่ื งมือในการพัฒนาทักษะด้านภาษาไทย

Various : การจดั การเรียนการสอนที่หลากหลาย
Informing : การให้ความรู้ก่อนการนิเทศ การใหค้ วามชัดเจน
Doing : การดำเนินการนเิ ทศ

4

แผนภาพท่ี 1 การนเิ ทศภายในโดยใช้ COVID Model
4. จัดทำเครื่องมือและนวัตกรรมการแก้ปัญหาทักษะด้านภาษาไทย มีการหาคุณภาพของเครื่องมือและ
นวัตกรรมโดยผเู้ ชีย่ วชาญกอ่ นนำไปใช้ในการจัดการเรยี นการสอน ผา่ นโครงการนิเทศก์
5. นิเทศติดตามแบบกัลยาณมิตร การจัดการเรียนการสอนในแต่ละช่วงชั้น แต่งตั้งคณะกรรมการ เพื่อ
รับผดิ ชอบการนเิ ทศ ติดตาม การพฒั นาทักษะภาษาไทย โดยกำหนดระยะเวลาในการดำเนินงานอย่างชดั เจน
6. ติดตาม ตรวจสอบและประเมินผล ติดตาม ตรวจสอบ ตามวันเวลาที่กำหนดในโครงการ และรายงาน
ผลการนิเทศ ติดตาม ตรวจสอบของสถานศกึ ษา อย่างนอ้ ยภาคเรียนละ 1 ครงั้
7. พฒั นาและปรบั ปรงุ การนำผลการนเิ ทศในภาคเรียนที่ 2 มาปรับปรุงในการนิเทศในปีการศกึ ษาถัดไป

5

ผลลัพธ์การพัฒนาท่ีคาดหวงั
เชงิ ปรมิ าณ
1. โรงเรียนบ้านกระทุ่มล้ม (นครราษฎร์ประสิทธิ์) มีผลการประเมินคุณภาพในด้านทักษะภาษาไทย

เพิม่ ขน้ึ ร้อยละ 5 จากปีการศกึ ษา 2563
2. ร้อยละ 100 ของครูโรงเรียนบ้านกระทุ่มล้ม (นครราษฎร์ประสิทธิ์) มีส่วนร่วมในกระบวนการ

การนเิ ทศภายในโดยใช้ COVID Model และมีนวตั กรรมในการแก้ไขปญั หา
3. ร้อยละ 80 เดก็ ระดับช้นั อนุบาลปที ี่ 2 ถึง อนุบาลปีที่ 3 มที ักษะการคดิ พ้ืนฐานในระดับทสี่ งู ขึน้
4. ร้อยละ 80 ผู้เรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่1 ถึง ประถมศึกษาปีที่ 3 มีทักษะอ่านออกเขียนได้ ใน

ระดบั ที่สูงขึ้น
5. ร้อยละ 80 ผู้เรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่4ถึงประถมศึกษาปีที่6มีทักษะอ่านคล่องเขียนคล่องใน

ระดับท่ีสูงขนึ้
6. ร้อยละ 80 ผู้เรียนระดบั ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึง มัธยมศึกษาปีที่ 3 มีทักษะอ่านคิดวเิ คราะห์ในระดบั

ที่สูงข้ึน
เชิงคุณภาพ
โรงเรียนบ้านกระทุ่มล้ม (นครราษฎร์ประสิทธิ์) มีผลการประเมินคุณภาพในด้านทักษะภาษาไทยเพิ่มข้ึน

คุณภาพการบริหารจัดการศึกษาของนักเรียน ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านกระทุ่มล้ม (นครราษฎร์ประสิทธิ์)
มีพัฒนาการสูงขึ้น และสามารถแก้ไขปัญหา และพัฒนาทักษะด้านภาษาไทย ของผู้เรียนตัวอย่าง ในระดับชั้น
อนุบาลปีที่ 2 ถึง อนุบาลปีที่ 3 มีทักษะการคิดพื้นฐาน ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึง ประถมศึกษาปีที่ 3 มี
ทักษะอ่านออกเขียนได้ ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ถึง ประถมศึกษาปีที่ 6 มีทักษะอ่านคล่องเขียนคล่อง ใน
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึง มัธยมศึกษาปีที่ 3 มีทักษะอ่านคิดวิเคราะห์ ของนักเรียนโรงเรียนบ้านกระทุ่มล้ม
(นครราษฎร์ประสิทธ์ิ)ได้ และมีนวัตกรรมของสถานศึกษาที่ช่วยแก้ปัญหาทักษาทางด้านภาษาไทย ส่งผลต่อการ
ประเมนิ สถานศึกษาในดา้ นอ่ืนๆรวมท้งั การประเมินภายนอก

ขอบเขตของประเด็นทา้ ทาย
ประชากรที่ใช้ในประเด็นท้าทายในข้ันตอนนี้ ได้แก่ ครูปฐมวัยและครูภาษาไทยโรงเรยี นบา้ นกระท่มุ ล้ม

จำนวน 18 คน

เครือ่ งมอื ทีใ่ ชใ้ นประเดน็ ท้าทาย
การพัฒนารูปแบบนิเทศติดตามการจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาทักษะด้านภาษาไทย ของผู้เรียน

ในระดบั ชน้ั อนุบาลปีท่ี 2 ถึง อนบุ าลปที ี่ 3 มที กั ษะการคิดพนื้ ฐาน ในระดับชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 1 ถงึ ประถมศึกษา

6

ปีที่ 3 มีทักษะอ่านออกเขียนได้ ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ถึง ประถมศึกษาปีที่ 6 มีทักษะอ่านคล่องเขียน
คล่อง ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึง มัธยมศึกษาปีที่ 3 มีทักษะอ่านคิดวิเคราะห์ โดยใช้ COVID Model ของ
โรงเรียนบา้ นกระทุ่มล้ม เครื่องมือทใ่ี ช้ในการวิจัย คือ 1) แบบบนั ทกึ การสนทนากลุ่ม 2) แบบสัมภาษณ์เพ่ือศึกษา
ความต้องการการนิเทศการจัดการเรียนการสอน เพื่อพัฒนาทักษะด้านภาษาไทย ของผู้เรียนในระดับชั้นอนุบาล
ปีที่ 2 ถึง อนุบาลปีที่ 3 มีทักษะการคิดพื้นฐาน ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึง ประถมศึกษาปีที่ 3 มีทักษะ
อ่านออกเขยี นได้ ในระดบั ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 4 ถึง ประถมศึกษาปีที่ 6 มีทักษะอา่ นคลอ่ งเขียนคล่อง ในระดบั ชัน้
มัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึง มัธยมศึกษาปีที่ 3 มีทักษะอ่านคิดวิเคราะห์ 3) แบบสอบถามความคิดเห็นที่มีต่อรูปแบบ
การนิเทศการจดั การเรียนการสอนเพ่ือพัฒนาทักษะดา้ นภาษาไทย ของผเู้ รยี นในระดบั ชัน้ อนบุ าลปที ี่ 2 ถงึ อนบุ าล
ปีท่ี 3 มที กั ษะ การคดิ พื้นฐาน ในระดบั ช้ันประถมศึกษาปีที่ 1 ถงึ ประถมศึกษาปที ่ี 3 มีทักษะอา่ นออกเขียนได้
ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ถึง ประถมศึกษาปีที่ 6 มีทักษะอ่านคล่องเขียนคล่อง ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่
1 ถึง มัธยมศึกษาปีที่ 3 มีทักษะอ่านคิดวิเคราะห์ และ 4) แบบสัมภาษณ์เพื่อประเมินผลรูปแบบการนิเทศการ
จัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาทักษะด้านภาษาไทย ของผู้เรียนในระดับชั้นอนุบาลปีที่ 2 ถึง อนุบาลปีที่ 3 มี
ทกั ษะการคิดพื้นฐาน ในระดับชั้นประถมศึกษาปที ี่ 1 ถงึ ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 มที กั ษะอ่านออกเขยี นได้ ในระดับชั้น
ประถมศึกษาปีที่ 4 ถึง ประถมศึกษาปีที่ 6 มีทักษะอ่านคล่องเขียนคล่อง ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึง
มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 มที กั ษะอ่านคิดวเิ คราะห์

การเก็บรวบรวมขอ้ มูล
การพัฒนารูปแบบการนิเทศการจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาทักษะด้านภาษาไทย ของผู้เรียนใน

ระดับช้ันอนุบาลปีท่ี 2 ถงึ อนุบาลปีท่ี 3 มีทกั ษะการคดิ พนื้ ฐาน ในระดบั ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 1 ถึง ประถมศึกษาปี
ท่ี 3 มีทักษะอ่านออกเขียนได้ ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ถึง ประถมศึกษาปีที่ 6 มีทักษะอ่านคล่องเขียน
คล่อง ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึง มัธยมศึกษาปีที่ 3 มีทักษะอ่านคิดวิเคราะห์ โดยใช้ COVID Model
ใช้วิธีการเก็บข้อมูลดังนี้ ศึกษาเอกสารข้อมูลพืน้ ฐานในการนิเทศการสอน สนทนากลุ่ม สัมภาษณ์ สอบถามความ
สอดคล้องของรูปแบบการจัดการเรียนการสอน และประเมินรูปแบบการนิเทศการจัดการเรียนการสอน โดยเก็บ
ขอ้ มูลความคิดเห็นของครปู ฐมวัยและครผู ู้สอนภาษาไทยโรงเรยี นบ้านกระท่มุ ล้ม

การวเิ คราะห์ขอ้ มูล
การวิเคราะห์ข้อมูล ใช้การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ โดยใช้ 1)การวิเคราะห์เนื้อหาตามข้อมูลที่ได้จาก

เอกสาร แบบสัมภาษณ์ แบบสังเกต แบบบันทึกการสนทนากลุ่ม แบบสอบถามผลการทดลองใชร้ ูปแบบการนิเทศ
ภายในโดยใช้ COVID Model 2) วเิ คราะห์ข้อมูล หาค่า IOC จากแบบสอบถามผ้เู ชีย่ วชาญ

7

สรุปผลการวิจัย
การสรุปผลการพัฒนารูปแบบการนิเทศการจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาทักษะด้านภาษาไทย ของ

ผู้เรียนในระดับชั้นอนุบาลปีที่ 2 ถึง อนุบาลปีที่ 3 มีทักษะการคิดพื้นฐาน ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึง
ประถมศึกษาปที ี่ 3 มที ักษะอา่ นออกเขยี นได้ ในระดับชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 4 ถงึ ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 มที ักษะอ่าน
คล่องเขียนคล่อง ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึง มัธยมศึกษาปีที่ 3 มีทักษะอ่านคิดวิเคราะห์ โดยใช้ COVID
Model จากการสมั ภาษณ์ การสังเกต และการตอบแบบสอบถาม สามารถสรุปผลตามวตั ถุประสงค์ ดังนี้

1. ผลการพัฒนารูปแบบการนิเทศการจดั การเรยี นการสอนเพื่อพัฒนาทักษะด้านภาษาไทย ของผู้เรียนใน
ระดับช้ันอนบุ าลปีที่ 2 ถงึ อนุบาลปที ี่ 3 มที กั ษะการคดิ พ้ืนฐาน ในระดับชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 1 ถึง ประถมศึกษาปี
ที่ 3 มีทักษะอ่านออกเขียนได้ ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ถึง ประถมศึกษาปีที่ 6 มีทักษะอ่านคล่องเขียน
คล่อง ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึง มัธยมศึกษาปีที่ 3 มีทักษะอ่านคิดวิเคราะห์ โดยใช้ COVID Model
ผลการศึกษาเอกสาร งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง สภาพปัญหา และบริบททั่วไปด้านการนิเทศการสอนของโรงเรียนบ้าน
กระทุ่มล้ม จากคุณครูปฐมวัยและครูภาษาไทย จำนวน 18 คน ข้าพเจ้านำรูปแบบการนิเทศการจัดการเรียน
การสอนเพื่อพัฒนาทักษะด้านภาษาไทย ของผู้เรียนในระดับชั้นอนุบาลปีที่ 2 ถึง อนุบาลปีที่ 3 มีทักษะการ คิด
พนื้ ฐาน ในระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 1 ถึง ประถมศึกษาปที ่ี 3 มที ักษะอ่านออกเขยี นได้ ในระดับช้ันประถมศึกษา
ปีที่ 4 ถึง ประถมศึกษาปีที่ 6 มีทักษะอ่านคล่องเขียนคล่อง ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึง มัธยมศึกษาปีที่ 3
มีทักษะอ่านคิดวิเคราะห์ มาตรวจสอบความสอดคล้องของรูปแบบ โดยผู้เชี่ยวชาญ รวม 5 ท่าน เพื่อหาค่าดัชนี
ความสอดคล้อง สรุปผลการวเิ คราะห์ พบว่า ข้อคำถามในแตล่ ะหัวขอ้ มคี ่าดัชนคี วามสอดคลอ้ ง 0.60 ข้นึ ไป ซ่ึงถือ
ว่า รปู แบบการนิเทศการจัดการเรียนการสอนเพ่ือพัฒนาทกั ษะดา้ นภาษาไทย ของผ้เู รยี นในระดบั ชน้ั อนุบาลปีท่ี 2
ถงึ อนบุ าลปที ่ี 3 มที ักษะการคดิ พ้ืนฐาน ในระดับชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 1 ถงึ ประถมศึกษาปีท่ี 3 มีทักษะอ่านออก
เขียนได้ ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ถึง ประถมศึกษาปีที่ 6 มีทักษะอ่านคล่องเขียนคล่อง ในระดับช้ัน
มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1 ถงึ มธั ยมศึกษาปที ี่ 3 มีทกั ษะอา่ นคดิ วิเคราะห์ โดยใช้ COVID Model ทสี่ ร้างข้นึ มา ผเู้ ชี่ยวชาญ
ทั้ง 5 ท่าน มีความคิดเห็นสอดคล้องกันว่าเหมาะสม และดำเนินการแก้ไขปรับปรุงตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ
สังเคราะห์สรุปร่างเป็นรูปแบบการนิเทศการจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาทักษะด้านภาษาไทย ของผู้เรียนใน
ระดับชัน้ อนบุ าลปีที่ 2 ถงึ อนุบาลปที ี่ 3 มีทักษะการคดิ พืน้ ฐาน ในระดับชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 1 ถงึ ประถมศึกษาปี
ที่ 3 มีทักษะอ่านออกเขียนได้ ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ถึง ประถมศึกษาปีที่ 6 มีทักษะอ่านคล่องเขียน
คล่อง ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึง มัธยมศึกษาปีที่ 3 มีทักษะอ่านคิดวิเคราะห์ โดยใช้ COVID Model
ดงั ตอ่ ไปน้ี

รูปแบบการนิเทศการจดั การเรียนการสอนเพื่อพัฒนาทักษะด้านภาษาไทย ของผเู้ รยี นในระดับช้ันอนุบาล
ปีที่ 2 ถึง อนุบาลปีที่ 3 มีทักษะการคิดพื้นฐาน ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึง ประถมศึกษาปีที่ 3 มีทักษะ

8

อา่ นออกเขียนได้ ในระดบั ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 4 ถงึ ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 มที กั ษะอ่านคลอ่ งเขียนคล่อง ในระดับชั้น
มธั ยมศึกษาปที ี่ 1 ถึง มัธยมศึกษาปีที่ 3 มที กั ษะอา่ นคดิ วิเคราะห์ โดยใช้ COVID Model ได้แก่

Coaching : การวางแผนการนเิ ทศ ได้แก่ การศึกษาสภาพปจั จุบนั ปัญหา และความตอ้ งการในการนิเทศ
ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับผู้เรียน บริบท สภาพแวดล้อม พัฒนาการของผู้เรียน ข้อมูลเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้
ภาษาไทยด้วยเทคนิควิธีสอนต่าง ๆ ให้ครูเห็นความสำคัญของกิจกรรมในการพัฒนาทักษะทางภาษาโดยเฉพาะ
ด้านการอ่าน ครูมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นในการวางแผนการนิเทศ การนิเทศในรูปแบบโค้ชชิ่ง มีการ
แลกเปลีย่ นเรยี นรู้ แบง่ ปนั ความรู้ ก่อให้เกิดชุมชนแหง่ การเรียนร้ทู างวิชาชีพ(PLC)

Opportunity : การเปิดโอกาสในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างผู้นิเทศและผู้รับการนิเทศเพื่อสร้าง
เคร่ืองมือในการพฒั นาทกั ษะด้านภาษาไทย

Various : การจัดการเรียนการสอนท่หี ลากหลาย
Informing : การให้ความรู้ก่อนการนิเทศ การให้ความชัดเจน และให้ความรู้ความเข้าใจในการทำงาน
ได้แกก่ ารจัดทำหลักสูตร การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ การใชส้ ื่อ และการวัดและประเมินผล การใช้สื่อและเคร่ืองมือ
เพ่ือใหค้ รไู ดศ้ ึกษาเพ่ิมเติม และการนำการอบรมเชิงปฏิบตั ิการเกย่ี วกบั การสอนอ่านมาใช้ในการจดั การเรยี นรู้
Doing : การดำเนินการนิเทศและการปฏิบัติงาน ได้แก่การใช้เทคนิคการนิเทศแบบ Coaching มาใช้
โดยการสังเกตการจัดการเรียนรู้ หลักฐาน ร่องรอย การดำเนินการให้คำชี้แนะการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ วิธีสอน
การใช้สื่อ ผู้นิเทศและครูร่วมกนั สรุปผลการจดั การเรียนรู้ภาษาไทยด้วยกิจกรรมตามเอกสาร หนังสือคู่มอื เกี่ยวกับ
การสอนภาษาไทย การนิเทศเติมเต็มประสบการณ์การจัดการเรียนรู้ทำให้สามารถนำข้อมูลย้อนกลับมาพัฒนา
ตนเองไดอ้ ย่างต่อเนือ่ ง
2. ผลการประเมินรูปแบบการนิเทศการจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาทักษะด้านภาษาไทย ของผู้เรียน
ในระดับช้ันอนุบาลปีที่ 2 ถึง อนุบาลปที ่ี 3 มีทกั ษะการคดิ พ้นื ฐาน ในระดบั ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 1 ถึง ประถมศกึ ษา
ปีที่ 3 มีทักษะอ่านออกเขียนได้ ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ถึง ประถมศึกษาปีที่ 6 มีทักษะอ่านคล่องเขียน
คล่อง ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึง มัธยมศึกษาปีที่ 3 มีทักษะอ่านคิดวิเคราะห์ โดยใช้ COVID Model
ผลการทดลองใช้รูปแบบการนิเทศ COVID Model ของครูปฐมวัยและครูภาษาไทยโรงเรียนบ้านกระทุ่มล้ม
ผลการวิจัยพบว่า จากการสอบถามครูปฐมวัยและครูผู้สอนภาษาไทย ในการปฏิบัติการนิเทศการจดั การเรียนการ
สอนของครูปฐมวัยและครูผู้สอนภาษาไทย มีความเห็นว่ารูปแบบการนิเทศการจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนา
ทักษะด้านภาษาไทย ของผู้เรียนในระดับชั้นอนุบาลปีที่ 2 ถึง อนุบาลปีที่ 3 มีทักษะการคิดพื้นฐาน ในระดับชั้น
ประถมศึกษาปีที่ 1 ถึง ประถมศึกษาปีที่ 3 มีทักษะอ่านออกเขียนได้ ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ถึง
ประถมศึกษาปที ี่ 6 มีทักษะอ่านคล่องเขยี นคล่อง ในระดับช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 1 ถึง มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 มีทกั ษะอ่าน
คิดวิเคราะห์ โดยใช้ COVID Model นั้น ทดลองใช้แล้วสามารถใช้ได้และสอดคล้องกับความต้องการของครู
ปฐมวยั และครูผสู้ อนภาษาไทย

9

3. ผลการประเมินรูปแบบการนิเทศการจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาทักษะด้านภาษาไทย ของผู้เรียน
ในระดับชน้ั อนุบาลปที ี่ 2 ถึง อนบุ าลปที ่ี 3 มีทักษะการคิดพนื้ ฐาน ในระดบั ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถงึ ประถมศกึ ษา
ปีที่ 3 มีทักษะอ่านออกเขียนได้ ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ถึง ประถมศึกษาปีที่ 6 มีทักษะอ่านคล่องเขียน
คล่อง ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึง มัธยมศึกษาปีที่ 3 มีทักษะอ่านคิดวิเคราะห์ โดยใช้ COVID Model
สรุปจากการสัมภาษณ์ครูปฐมวัยและครูผู้สอนภาษาไทย รวม 18 คน เกี่ยวกับรูปแบบการนิเทศการจัดการเรียน
การสอนเพื่อพัฒนาทักษะด้านภาษาไทย ของผู้เรียนในระดับชั้นอนุบาลปีที่ 2 ถึง อนุบาลปีที่ 3 มีทักษะการคิด
พ้นื ฐาน ในระดับชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 1 ถงึ ประถมศึกษาปที ี่ 3 มีทกั ษะอ่านออกเขียนได้ ในระดับชน้ั ประถมศกึ ษา
ปที ี่ 4 ถึง ประถมศึกษาปีที่ 6 มที กั ษะอา่ นคล่องเขยี นคล่อง ในระดบั ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 1 ถงึ มธั ยมศึกษาปีท่ี 3 มี
ทักษะอ่านคิดวิเคราะห์ โดยใช้ COVID Model นั้น ผู้วิจัยสามารถสรุปความคิดเห็นจากการสนทนาและ
สัมภาษณ์ ครูปฐมวัยและครูผู้สอนภาษาไทย มีความเห็นสอดคล้องกันว่า มีความพึงพอใจกับการนิเทศที่เป็น
ขั้นตอน การกำหนดขั้นตอนในการนิเทศทำให้ผู้นิเทศและผู้รับการนิเทศมีความเข้าใจไปในทางเดียวกัน ทำให้การ
นิเทศการจัดการเรียนการสอนของครูปฐมวัยและครูผู้สอนภาษาไทย เพื่อพัฒนาทักษะด้านภาษาไทย ของผู้เรียน
ในระดบั ชัน้ อนบุ าลปีที่ 2 ถึง อนุบาลปที ่ี 3 มที ักษะการคดิ พืน้ ฐาน ในระดับชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 1 ถึง ประถมศกึ ษา
ปีที่ 3 มีทักษะอ่านออกเขียนได้ ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ถึง ประถมศึกษาปีที่ 6 มีทักษะอ่านคล่องเขียน
คล่อง ในระดับชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 1 ถงึ มัธยมศกึ ษาปีที่ 3 มที ักษะอ่านคดิ วเิ คราะห์ โดยใช้ COVID Model ลลุ ว่ ง
ไปด้วยดี

10

บรรณานุกรม
กรณั ฑา อมั พุธ. (2557). การนเิ ทศตดิ ตามผลการจดั กิจกรรมส่งเสริมนิสยั รักการอา่ นโรงเรยี นในสังกัด

สำนกั งานเขตพืน้ ท่กี ารศึกษาประถมศกึ ษาลำพูน เขต 2 โดยใชก้ ระบวนการนิเทศแบบ PIDRE.
ลำพนู : สำนกั งานเขตพ้นื ทีก่ ารศึกษาประถมศกึ ษาลำพนู เขต 2.
เฉลิมชยั พนั ธเ์ ลิศ. (2549). การพฒั นากระบวนการเสรมิ สมรรถภาพการชแี้ นะของนักวิชาการพี่เลี้ยง
โดยใชก้ ารเรยี นรูแ้ บบเน้นประสบการณ์ในการอบรมโดยใช้โรงเรยี นเปน็ ฐาน. วทิ ยานิพนธ์
ครุศาสตรดษุ ฎบี ณั ฑติ สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน กรุงเทพมหานคร:
จุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลัย.
วรรณี โสมประยรู . (2554). การสอนภาษาไทยระดับประถมศึกษา. พิมพ์ครง้ั ท่ี 4. กรงุ เทพมหานคร:
ไทยวฒั นาพาณิช.
วารีรัตน์ สติราษฎร์. (2555). การพฒั นาการจดั การเรยี นรู้ท่ีสง่ เสริมทกั ษะการคิดวิเคราะห์ของครผู ูส้ อน
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ ตามแนวทางของหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน
พุทธศักราช 2551. เข้าถึงขอ้ มลู 5 กมุ ภาพันธ์ 2560 (ออนไลน์).
วไลรตั น์ บญุ สวสั ด.์ (2538). หลกั การนิเทศการศกึ ษา. กรุงเทพมหานคร: อาร์ตกราฟฟคิ .
สกาวรตั น์ ไกรมาก. (2555). การนิเทศแบบช้ีแนะสะทอ้ นคดิ (Reflective Coaching Supervision)
เพอ่ื พฒั นาการจัดการเรยี นรตู้ ามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551.
พะเยา: สำนักงานเขตพืน้ ทีก่ ารศกึ ษาประถมศึกษาพะเยา เขต 2.
สงัด อุทรานันท.์ (2530). การนเิ ทศการศกึ ษา หลักการทฤษฎีและปฏิบตั .ิ พิมพค์ รง้ั ที่ 2.
กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มิตรสยาม.
สงัด อุทรานันท์. (2550). การนเิ ทศการศึกษา หลักการทฤษฎีและการปฏิบัต.ิ กรงุ เทพมหานคร:
โรงพมิ พ์มิตรสยาม.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน. (2553). คู่มือการพฒั นาหลกั สูตรและการสอน.
กรงุ เทพมหานคร: โรงพิมพ์ชมุ นุมสหกรณก์ ารเกษตรแหง่ ประเทศไทย.
สุรศักดิ์ ปาเฮ. (2545). การนิเทศภายใน หัวใจของการปฏิรูปการเรียนรูใ้ นโรงเรยี น. วารสารวชิ าการ,
5 (8), 25-31.
หน่วยศกึ ษานเิ ทศก์ สำนักการศกึ ษา กรงุ เทพมหานคร. (2558). หนงั สอื แนวทางการดำเนินงานโรงเรียน
แกนนำการอ่าน โรงเรยี นสงั กดั กรุงเทพมหานคร. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์สำนกั งาน
พระพุทธศาสนาแห่งชาติ.
อนุรักษ์พรมเลข. (2556). การพฒั นานวัตกรรมสง่ เสริมนสิ ัยรกั การอ่านโดยใช้กระบวนการนเิ ทศแบบ
PIDRE ของโรงเรียนในสำนักงานเขตพน้ื ทก่ี ารศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 2: สำนักงานเขต

11

พ้ืนทกี่ ารศึกษาประถมศกึ ษาเชียงราย เขต 2.
4 2 JOURNAL OF EDUCATION BANGKOKTHONBURI UNIVERSITY Vol. 7 No. 3 September -
December 2019
อาภรณ์ ใจเทย่ี ง. (2550). หลักการสอน (ฉบบั ปรบั ปรงุ ). พิมพค์ รัง้ ที่ 4. กรงุ เทพมหานคร:
โอเดยี นสโตร์.
Spear, J.; & Zollman, D. (1997). The Influences Structured Versus Unstructured
Laboratory on Students’ Understanding the Process of Science.
Journal of Research in Science Teaching. 14(1): 34-35.
Spears, H. (1967). Improving the Supervisor of Instruction. Englewood cliffs: Prentice- Hall

12

ภาคผนวก

การวางแผนพัฒนามาตรฐานการเรยี นรู้ของผู้เรยี น

PLC ชุมชนแห่งการเรียนรู้

ผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียนวิชาภาษาไทยระดบั ช้นั ประถมศกึ ษาสงู ข้นึ

ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนวชิ าภาษาไทยระดบั ชั้นมธั ยมศึกษาตอนต้นสูงข้นึ






Click to View FlipBook Version