The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ความรู้เรื่องดินสำหรับเยาวชน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by eesd obec, 2019-12-09 02:45:22

ความรู้เรื่องดินสำหรับเยาวชน

ความรู้เรื่องดินสำหรับเยาวชน

หนังสอื น้ี ไดรับการคัดเลอื กจากคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พื้นฐาน 5 ธันวาคม
ใหเ ปนสื่อเสรมิ การเรียนรวู ิชาภมู ศิ าสตร ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย

ประเภทส่อื แนะนาํ สาํ หรบั สถานศกึ ษาและครูผูสอน

ความรูเรือ่ ง..

´¹Ôสาํ หรับเยาวชน

ฉบับปรบั ปรงุ ครั้งที่ 3

เอกสารวิชาการฉบับที่ 61/007

กองสาํ รวจดนิ และวจิ ยั ทรัพยากรดิน
กรมพัฒนาที่ดิน กระทรวงเกษตรและสหกรณ

ความรูเ้ รื่องดินสำ� หรับเยาวชน

ฉบับปรบั ปรุงครงั้ ท่ี 3

พมิ พค์ ร้ังที่ 1 จำ� นวน 10,000 เล่ม มนี าคม 2553
พมิ พ์ครงั้ ที่ 2 จ�ำนวน 40,000 เล่ม มิถนุ ายน 2553
พมิ พ์ครั้งท่ี 3 จำ� นวน 10,000 เลม่ ตลุ าคม 2561

กรมพฒั นาทดี่ นิ . กองส�ำรวจดินและวจิ ัยทรัพยากรดนิ .
กลุ่มมาตรฐานการสำ� รวจจ�ำแนกดิน. ความรู้เร่อื งดินส�ำหรับเยาวชน.
—พมิ พค์ ร้งั ที่ 3.— กรงุ เทพฯ : กรมพฒั นาท่ีดิน, 2561. 88 หน้า.
1. ดิน. I. ชอ่ื เรอื่ ง.
631.4
ISBN 978-616-358-370-3
เอกสารวชิ าการฉบับท่ี 61/007
จดั พมิ พ์โดยส�ำนักพิมพ์ บริษทั นิวธรรมดาการพิมพ์ (ประเทศไทย) จำ� กัด
ออกแบบปก-รปู เล่ม : กรณิการ์ ศรีเช้ือ

จัดท�ำโดย
กองสำ� รวจดนิ และวจิ ัยทรพั ยากรดนิ
กรมพัฒนาทด่ี ิน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
เลขท่ี 2003/61 ถนนพหลโยธนิ แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900
www.ldd.go.th
โทร. 02-579-1439

คำ� นำ�

ดิน... เป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าและส�ำคัญต่อความคงอยู่ของทุกสังคมบนโลก

การใชท้ รัพยากรดินอย่างขาดความรคู้ วามเข้าใจ เปน็ สาเหตุให้ทรัพยากรอนั มคี ่านเี้ สือ่ มโทรมลง
ดินท่ีเคยอุดมสมบูรณ์เสื่อมคุณภาพ ส่งผลให้ผลผลิตทางการเกษตรตกต�่ำ ระบบนิเวศขาด
ความสมดุล และก่อให้เกิดการเปล่ียนแปลงสภาพแวดล้อม ท่ีเกิดผลเสียหายมากมายบนโลก
ท้งั ทางตรงและทางอ้อม

กรมพัฒนาท่ดี ิน ซง่ึ เป็นหน่วยงานที่ดูแลทรัพยากรดินของประเทศ ใหม้ ีความสมบรู ณ์
และใชไ้ ดอ้ ยา่ งยง่ั ยนื ตระหนกั วา่ ความรเู้ รอ่ื งดนิ และการปลกู จติ สำ� นกึ ในการอนรุ กั ษท์ รพั ยากรดนิ
เป็นสิ่งที่ต้องปลูกฝังต้ังแต่ช่วงวัยเด็ก จึงได้จัดท�ำหนังสือ “ความรู้เร่ืองดินส�ำหรับเยาวชน”
โดยหนงั สอื เล่มนี้พิมพ์ครงั้ แรกเม่อื เดอื นมีนาคม 2553 คร้ังท่ี 2 เม่ือเดือนมถิ นุ ายน 2553 ซงึ่ ได้
รับความสนใจจากนกั เรยี นและประชาชนเปน็ อยา่ งมาก และยังได้รบั คัดเลือกจากคณะกรรมการ
การศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน ใหเ้ ปน็ สอื่ เสรมิ การเรยี นรวู้ ชิ าภมู ศิ าสตร์ ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ประเภท
สอ่ื แนะนำ� สำ� หรบั สถานศกึ ษาและครผู สู้ อน เพอื่ เผยแพรแ่ กป่ ระชาชนทวั่ ไปดว้ ย ในโอกาสเฉลมิ ฉลอง
วันดินโลกปี 2561 กรมพัฒนาท่ีดินได้ปรับปรุงหนังสือให้สอดคล้องกับปัจจุบันและจัดพิมพ์
เป็นคร้งั ท่ี 3 พรอ้ มจัดทำ� ในรปู แบบหนงั สอื อิเล็กทรอนกิ ส์ (E-Book) เพ่อื เพิ่มช่องทางการสรา้ ง
ความรู้ความเขา้ ใจเก่ียวกับทรพั ยากรดนิ อย่างถูกตอ้ งและสะดวกยิง่ ขึ้น

หวงั เปน็ อยา่ งย่ิงว่า หนังสือ “ความรู้เรือ่ งดินสำ� หรับเยาวชน” จะชว่ ยให้เยาวชนของ
ชาตติ ระหนกั ถึงคณุ ค่าของทรพั ยากรดิน มสี ่วนร่วมในการดแู ลรกั ษาทรพั ยากรดิน และถา่ ยทอด
ความรคู้ วามเขา้ ใจแกเ่ กษตรกร และบคุ คลทวั่ ไป เพอื่ ใหส้ ามารถใชป้ ระโยชนท์ ด่ี นิ อยา่ งเหมาะสม
และยงั่ ยนื สืบเนอ่ื งไปจนถึงรุ่นลูกหลาน

(นายสุรเดช เตียวตระกูล)
อธิบดกี รมพฒั นาทด่ี ิน



สารบญั หนา้

ภาค 1 ความหมายและความส�ำคัญของดนิ 1

 กำ� เนิดของดิน 3
 ดิน...คืออะไร 5
 ดนิ ...ส�ำคัญอย่างไร 6
 โลกของเรามีดนิ อยมู่ ากน้อยแค่ไหน 7
 ส่วนประกอบของดิน 9
 ปจั จยั ที่ควบคุมการสรา้ งตัวของดนิ 11
 ลักษณะและสมบตั ขิ องดิน 16
 ลกั ษณะและสมบัติทสี่ �ำคัญของดนิ 20
 ความลึกของดนิ 20
 สขี องดนิ 21
 เนื้อดิน 23
 โครงสร้างของดิน 25
 ความเป็นกรดเป็นดา่ งของดนิ 28
 การแลกเปลี่ยนแคตไอออนในดนิ 28
 สิง่ มีชีวติ ในดนิ 29
 ธาตุอาหารพืชในดิน 31
 หน้าทขี่ องธาตอุ าหารพชื ในดิน 33

สารบัญ หนา้

ภาค 2 เรยี นรเู้ รือ่ ง...ดิน 37

 การศึกษาเก่ียวกบั ดิน 39
 การศึกษาดินในประเทศไทย 41
 งานส�ำรวจและจ�ำแนกดนิ ของประเทศไทย 42
 ส�ำรวจดินกนั อยา่ งไร 50
 ดินของประเทศไทย 55
 ดนิ ดีทางการเกษตร...เปน็ อย่างไร 60
 ดินทม่ี ปี ัญหาดา้ นการเกษตร 61
 ดินเปรยี้ วจดั 61
 ดินอินทรีย ์ 64
 ดนิ เคม็ 65
 ดินทรายจดั 67
 ดนิ ต้นื 69
 พน้ื ที่ลาดชันเชิงซอ้ น 71

ภาค 3 แหล่งขอ้ มูล...ดนิ 73

 กรมพฒั นาทีด่ นิ และพิพิธภณั ฑด์ ิน 74
 วนั ดินโลก 5 ธนั วาคม 78

บรรณานุกรม 79

ภาค 1 ความหมายและความสำ� คัญของดนิ ภาค 2 เรียนรู้เร่อื ง...ดนิ ภาค 3 แหล่งขอ้ มลู ...ดนิ

ภาค 1
ความรู้เ ่รืองดิน �สำห ัรบเยาวชน 1

พฒั นาการของหน้าตดั ดนิ

2 ความรเู้ รื่องดินส�ำหรบั เยาวชน

ก�ำเนิดของ...ดนิ ภาค 1 ความหมายและความสำ� คัญของดนิ

โลกของเรามีอายุประมาณ 4,600 ล้านปี นับจากที่โลกได้เริ่มก่อตัวข้ึนและเย็นตัวลง ภาค 2 เรียนรู้เร่อื ง...ดนิ
มีพื้นผิวภายนอกเป็นหินแข็งแต่ภายในเป็นของเหลวร้อนจัด มีบรรยากาศซ่ึงประกอบด้วยแก๊ส
หลายชนดิ หอ่ หมุ้ โลกอยโู่ ดยรอบอยา่ งเบาบาง ตอ่ มาจงึ มวี วิ ฒั นาการมากขน้ึ จนเกดิ มนี ำ้� และสง่ิ มชี วี ติ ภาค 3 แหล่งขอ้ มลู ...ดนิ
ข้นึ บนโลก โดยสิง่ มชี ีวติ รนุ่ แรกๆ นนั้ เกดิ อยใู่ นทะเลมากอ่ น เริม่ จากสงิ่ มชี วี ิตเซลลเ์ ดยี วทงั้ ท่ีเป็นพืช
และสัตว์ ต่อมาได้มีพัฒนาการจนกลายเป็นพืชช้ันสูงและสัตว์มีกระดูกสันหลังต่างๆ ท่ีขึ้นมาอาศัย
อยบู่ นบก
พืชบกพวกแรกสุดเกิดขึ้นบนโลกเม่ือประมาณ 590 ล้านปี
มาแลว้ โดยมีแตล่ �ำต้น ไมม่ รี าก ไมม่ ีใบ อาศยั เกิดและเกาะตดิ อยูบ่ น
สาหรา่ ยทะเลทถ่ี กู คลนื่ ซดั ขน้ึ มาคา้ งอยบู่ นหนิ และเจรญิ เตบิ โต
อยู่บนนั้น เชื่อกันว่าวิวัฒนาการของพืชบกรุ่นแรกน้ีเอง
ที่เป็นสาเหตุท�ำให้ก้อนหินเกิดการผุพังแตกแยกออกเป็น
ชิ้นเล็กช้ินน้อยและเกิดพัฒนาการจนกลายเป็นดิน
ในท่ีสุด ทั้งน้ีเพราะการที่พืชมีวิวัฒนาการมากข้ึน
จนมีส่วนประกอบของราก ล�ำต้น และใบ ท่ีชัดเจน
รากพืชท่ีชอนไชเบียดแทรกเข้าไปตามร่องรอยแตก
ของหินเพ่ือหาอาหารและน้�ำ รวมทั้งเกาะยึดกับ
สิ่งต่างๆ เพ่ือค�้ำจุนล�ำต้นน้ัน ก็จะช่วยเร่งให้หิน แร่
เกดิ การสลายตวั เปน็ ชน้ิ เลก็ ชน้ิ นอ้ ยไดร้ วดเรว็ ยง่ิ ขนึ้ นอกเหนอื
ไปจากการผุกรอ่ นตามธรรมชาติ ทเี่ ป็นผลมาจากการเปล่ียนแปลง
ของสภาพภูมิอากาศ ทั้ง อุณหภูมิ ปริมาณน้�ำฝน น้�ำค้าง หรือหิมะ
ในชว่ งเวลาต่างๆ

ความร้เู รื่องดนิ ส�ำหรับเยาวชน 3

ในขณะเดียวกับท่ีพืชเจริญเติบโตขึ้น ก็ย่อมมีส่วนของ ราก
ล�ำตน้ และใบ ที่หลดุ รว่ ง ตายลง และเกดิ การทบั ถมกนั อยู่ทง้ั บนผวิ ดนิ
และใตด้ นิ นอกจากนย้ี งั มมี ลู สตั ว์ และเศษซากสง่ิ มชี วี ติ อนื่ ๆ รวมอยดู่ ว้ ย
เมอ่ื วสั ดเุ หลา่ นเ้ี กดิ การเนา่ เปอ่ื ยโดยการยอ่ ยสลายของจลุ นิ ทรยี ท์ อี่ าศยั
อยู่ในดนิ จนกลายเป็นสารสีดำ� ทมี่ ีเนอ้ื ละเอียดน่มุ เรียกวา่ ฮวิ มัส และ
ต่อมาเม่ือฮิวมัสได้ผสมคลุกเคล้าเข้ากับช้ินส่วนของหิน แร่ ที่ผุพังเป็น
ช้ินเล็กช้นิ นอ้ ยจนเข้ากนั เป็นเนอ้ื เดยี ว จงึ กลายเป็นสงิ่ ที่เรยี กว่า “ดนิ ”
สืบมาจนทุกวนั นี้
เช่ือกันว่ากว่าท่ีจะเกิดเป็นดินข้ึนมาได้นั้นต้องใช้ระยะเวลา
นานมาก โดยอาจตอ้ งใชเ้ วลาถงึ 500 ปี ในการพัฒนาจนเกดิ เปน็ ดินทมี่ ี
ความหนาเพียง 1 นิ้ว และอาจต้องใชร้ ะยะเวลามากถงึ 300-12,000 ปี
เพ่อื ที่จะเกิดดนิ ทมี่ คี วามลกึ มากพอส�ำหรับท�ำการเกษตรกรรมได้

4 ความรู้เรื่องดินสำ� หรับเยาวชน

ดนิ ...คอื อะไร? ภาค 1 ความหมายและความสำ� คัญของดนิ

เราทุกคนรู้จักดิน แต่ถ้าจะให้ความหมายของค�ำว่าดินคืออะไร ภาค 2 เรียนรู้เร่อื ง...ดนิ
คงจะตอบแตกต่างกันไป เพราะคนท่ัวไปมักจะมองดินตามการใช้ประโยชน์
ที่ตนเองเกี่ยวข้อง เช่น เกษตรกรจะมองดินในแง่ของความอุดมสมบูรณ์ ภาค 3 แหล่งขอ้ มลู ...ดนิ
ว่าสามารถปลูกพืชให้ผลผลิตได้ดีหรือไม่ ส่วนวิศวกรจะมองดินในรูปของ
วัสดุท่ีใช้ในการสร้างถนนหนทาง เป็นต้น ดังนั้นค�ำจ�ำกัดความของดินจึงมี
หลากหลาย
นักวิทยาศาสตร์ทางดินได้ให้ความหมายไว้ว่า “ดิน” คือ วัสดุ
ธรรมชาติที่เกิดข้ึนจากการผุพังสลายตัวของหินและแร่ ตลอดจนการสลายตัว
ของซากพืชและสัตว์ ผสมคลุกเคล้ากัน โดยได้รับอิทธิพลจากสภาพแวดล้อม
เช่น สภาพภูมิอากาศ สภาพพ้ืนท่ี และระยะเวลาในการพัฒนาท่ีแตกต่างกัน
เกิดเป็นดินหลากหลายชนิด ปกคลุมพื้นผิวโลกอยู่เป็นช้ันบางๆ เป็นท่ียึดเหน่ียว
และเจริญเติบโตของพืช รวมถึงเป็นแหล่งน้�ำและอาหารของสิ่งมีชีวิตอื่นๆ
ท่อี าศยั อยู่ในดนิ และบนดิน

ความรเู้ รอื่ งดินสำ� หรับเยาวชน 5

ดนิ ...ส�ำคัญอยา่ งไร

“ดิน” มีความส�ำคัญต่อมนุษย์ และส่ิงมีชีวิตทุกชนิดบนโลก เพราะเป็น
แหลง่ ท่มี าของปจั จัยส�ำคัญของการด�ำรงชพี ไดแ้ ก่ อาหาร เคร่อื งนงุ่ ห่ม ทอ่ี ยู่อาศัย
ยารกั ษาโรค และพลังงาน ซึง่ จะได้มาจากดินทัง้ ทางตรงและทางอ้อม
“ดิน” มีความส�ำคัญต่อการเจริญเติบโตของพืชและการเกษตรกรรม
เนอื่ งจากพชื จะเจรญิ เติบโตออกดอกออกผลได้ ต้องอาศัยดินเป็นท่ใี หร้ ากพชื ได้เกาะ
ยึดเหนี่ยว เพือ่ ใหล้ ำ� ต้นของพืชยนื ต้นไดอ้ ย่างมัน่ คงแข็งแรง สามารถตา้ นทานตอ่ ลม
พายุ ไมโ่ คน่ ลม้ หรอื ถกู ถอนรากถอนโคนไดง้ า่ ย และยงั เปน็ แหลง่ ของธาตอุ าหารจำ� เปน็
ทพี่ ืชตอ้ งใช้ในกระบวนการการผลิตต่างๆ เพ่อื สรา้ งดอก ใบ และผล นอกจากนด้ี นิ ยัง
เปน็ ทกี่ กั เกบ็ นำ�้ หรอื ความชน้ื ทพ่ี ชื จะนำ� ไปใชห้ ลอ่ เลย้ี งลำ� ตน้ และเปน็ แหลง่ ใหอ้ ากาศ
แก่พืชในการหายใจอีกด้วย ดินท่ีมีอากาศถ่ายเทดี รากพืชจะเจริญเติบโตแข็งแรง
ดดู น�ำ้ และธาตอุ าหารได้มาก ท�ำให้ต้นพืชเจริญเติบโตแขง็ แรงและใหผ้ ลติ ผลสูง

6 ความรเู้ รือ่ งดนิ สำ� หรบั เยาวชน

โอลยกู่มขาอกงนเร้อายมแี..ค.ด่ไหนิ น... ภาค 1 ความหมายและความสำ� คัญของดนิ

เราไดเ้ รียนร้วู า่ พืน้ ผิวของโลกทเี่ รายืนอยู่นี้ ภาค 2 เรียนรู้เร่อื ง...ดนิ
ประกอบด้วยส่วนท่ีเป็นพื้นน้�ำ 3 ส่วน และพ้ืนดิน
1 สว่ น ดงั นน้ั ถา้ เปรยี บโลกของเราเหมอื นแอปเปล้ิ 1 ผล ภาค 3 แหล่งขอ้ มลู ...ดนิ
เมื่อเราแบ่งผลแอปเปิ้ลออกเป็น 4 ส่วน จะมีเพียง
1 สว่ นเทา่ นนั้ ทเ่ี ปน็ พน้ื ดนิ อกี 3 สว่ นทเ่ี หลอื เปน็ พน้ื ผวิ นำ�้
เช่น มหาสมทุ ร ทะเล ทะเลสาบ แมน่ ้�ำ ลำ� ธารต่างๆ

ในแอปเปล้ิ 1 สว่ นทแ่ี ทนสว่ นของพน้ื ดนิ นนั้
พน้ื ทมี่ ากกวา่ ครง่ึ หนงึ่ เปน็ สว่ นของทะเลทราย ขวั้ โลก
หรอื เปน็ เทอื กเขาทสี่ งู ชนั ซง่ึ มคี วามแหง้ แลง้ หนาวเยน็
หรือไมเ่ หมาะแก่การใชป้ ระโยชน์

ส�ำหรับส่วนของพื้นดินท่ีเหลืออยู่ 1 ส่วนน้ี
เมอ่ื คดิ เปน็ 100 สว่ นของพน้ื ท่ี พบวา่ ดนิ ทใ่ี ชเ้ พาะปลกู
ไดด้ มี เี พียงแค่ 60 สว่ นเท่านัน้ สว่ นท่ีเหลือเปน็ พนื้ ท่ีที่มี
ขอ้ จำ� กดั ในการใชป้ ระโยชน์ เชน่ สภาพพน้ื ทไี่ มเ่ หมาะสม
ดนิ ตนื้ หรอื เป็นดินทไี่ มอ่ ุดมสมบรู ณ์

ดังน้ันเม่ือปอกเฉพาะส่วนของเปลือก
แอปเป้ลิ ซ่ึงเปรียบเสมือนพน้ื ผิวโลกทมี่ ดี นิ ปกคลุมอยู่
บางๆ นี้ออกมา จะเห็นว่าน่ีคือส่วนของพ้ืนดินที่เรา
สามารถใช้ประโยชน์ในการเพาะปลูกพืชเพ่ือผลิต
อาหารเลยี้ งชวี ติ ของคนทัง้ โลกได้

ความรูเ้ ร่ืองดินสำ� หรบั เยาวชน 7

ซ่ึงเมื่อเปรียบเทียบกับพื้นที่ผิวโลกทั้งหมดแล้ว พื้นท่ีดินท่ีสามารถใช้ประโยชน์ได้นี้
มเี พยี งรอ้ ยละ 10 หรือ 10 สว่ นใน 100 ส่วน เท่านน้ั
ย่ิงไปกว่าน้ัน ในปัจจุบันมีการใช้พื้นท่ีส่วนนี้ เพื่อประโยชน์อื่นๆ เช่น เป็นพื้นท่ี
อยอู่ าศยั ทตี่ งั้ ของเมอื ง สวนสาธารณะ โรงงาน ฯลฯ ทำ� ใหพ้ นื้ ดนิ ทจ่ี ะใชเ้ พอื่ การเพาะปลกู จรงิ ๆ นน้ั
ยงิ่ ลดน้อยลงไปอกี

วันนี้ ถึงเวลาแลว้ ทเี่ ราควรจะต้องใช้ผนื ดินทีม่ ีอยู่
อยา่ งจำ� กดั นใ้ี หเ้ กดิ ประโยชนอ์ ยา่ งคมุ้ คา่ และชว่ ยกนั บำ� รงุ
รกั ษาไว้เพื่อใหใ้ ช้ประโยชน์ไดอ้ ยา่ งยงั่ ยนื ยาวนาน

8 ความรเู้ รอื่ งดนิ ส�ำหรับเยาวชน

ส่วนประกอบของ...ดิน ภาค 1 ความหมายและความสำ� คัญของดนิ

ดนิ ประกอบดว้ ยสว่ นทเ่ี ปน็ ของแขง็ ของเหลว ภาค 2 เรียนรู้เร่อื ง...ดนิ
และแก๊ส ในปริมาณและสดั ส่วนท่ีแตกตา่ งกนั ไป ข้นึ อยู่
กบั อทิ ธพิ ลของปจั จยั สำ� คญั ตอ่ การเกดิ ดนิ 5 ปจั จยั ไดแ้ ก่ ภาค 3 แหล่งขอ้ มลู ...ดนิ
ภมู ิอากาศ วตั ถุต้นก�ำเนดิ ดนิ สภาพพนื้ ท่ี ส่งิ มีชวี ติ และ
ระยะเวลาท่ีควบคมุ กระบวนการตา่ งๆ ท่ีเกดิ ขึ้นในดนิ

1. ส่วนท่ีเป็นของแข็ง ประกอบดว้ ย อนนิ ทรียวตั ถุ อินทรยี วัตถุ และสิ่งมชี วี ติ

1.1 อนินทรียวัตถุ

เปน็ สว่ นทม่ี ปี รมิ าณมากทสี่ ดุ ในดนิ ทว่ั ไป (ยกเวน้ ดนิ อนิ ทรยี )์ ไดม้ าจากการผพุ งั
สลายตัวของหินและแร่ มีขนาดแตกต่างกันไปท้ังที่มีขนาดเล็กกว่า 2 มิลลิเมตร ที่เป็นอนุภาค
ขนาดทราย ทรายแป้งและดินเหนียว และชิ้นส่วนหยาบที่มีขนาด 2 มิลลิเมตร หรือใหญ่กว่า
อนินทรียวัตถุเป็นส่วนท่ีส�ำคัญในการควบคุมลักษณะของเนื้อดิน เป็นแหล่งธาตุอาหารของพืช
และของจุลินทรีย์ดิน ควบคมุ กระบวนการต่างๆ ท่เี กดิ ขนึ้ ในดิน

1.2 อินทรียวัตถุ

เป็นส่วนของซากพืชซากสัตว์ท่ีถูก
ย่อยสลาย โดยจุลินทรีย์ดินจะมีบทบาทส�ำคัญในการ
ย่อยสลาย เกิดเป็นสารประกอบอินทรีย์ต่างๆ ขึ้นมา
มีความส�ำคัญต่อสมบัติทางกายภาพ เคมี ชีวภาพ และ
ความเป็นประโยชน์ของธาตุอาหารพืช เช่น โครงสร้างดิน
ความรว่ นซยุ การระบายน้�ำ การถา่ ยเทอากาศ การดูดซบั
น้�ำและธาตุอาหารของดิน แต่ทั้งน้ีไม่รวมถึงรากพืช หรือ
เศษซากพืช หรอื สัตวท์ ่ียงั ไม่มกี ารยอ่ ยสลาย

ความรเู้ รอ่ื งดนิ ส�ำหรบั เยาวชน 9

1.3 ส่งิ มชี วี ติ

จะหมายรวมถึงพืชและสัตว์ ทั้งขนาด
เล็กและขนาดใหญ่ ท่ีมองเห็นและมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า
เช่น ไส้เดือน หนอน มด ปลวก รากพืช จุลินทรีย์ดิน
สิ่งมีชีวิตต่างๆ เหล่าน้ีแทรกตัวอาศัยอยู่ตามช่องว่างในดิน
มีบทบาทต่อการผุพงั สลายตวั ของหนิ และแร่ การย่อยสลาย
อินทรียวัตถุ การเปลี่ยนแปลงสมบัติต่างๆ ของดิน
การถ่ายเทอากาศ การเคล่ือนย้ายของสารต่างๆ ในดิน

2. สว่ นท่ีเป็นของเหลว

หมายรวมถึง ส่วนที่เป็นน�้ำและสารละลายในดิน ซ่ึงจะอยู่ตาม
ชอ่ งวา่ งในดนิ ปรมิ าณของของเหลวจะเปน็ สดั สว่ นกลบั กบั สว่ นทเี่ ปน็ แกส๊ นำ้� และ
สารละลายทพ่ี บอยใู่ นชอ่ งวา่ งระหวา่ งอนภุ าคดนิ หรอื เมด็ ดนิ มคี วามสำ� คญั มากตอ่
การเจรญิ เตบิ โตของพชื โดยชว่ ยละลายธาตอุ าหารตา่ งๆ ในดนิ และเปน็ สว่ นสำ� คญั
ในการเคล่อื นยา้ ยอาหารพืชจากดินไปสรู่ าก และจากรากไปสู่สว่ นต่างๆ ของพืช

3. สว่ นที่เป็นแกส๊ อนิ ท5ร%ยี วตั ถุ

หมายถงึ สว่ นทเ่ี ปน็ อากาศซง่ึ ประกอบดว้ ย ไอนำ้� แกส๊ ตา่ งๆ แกส๊ อนินทรยี วตั ถุ
ที่พบโดยท่ัวไปในดิน ได้แก่ ไนโตรเจน ออกซิเจน คาร์บอนไดออกไซด์ 25% 45%
ไฮโดรเจนซัลไฟดห์ รือแก๊สไขเ่ นา่ แก๊สมีเทน เป็นตน้ ซึง่ อาจเป็นประโยชน์
และเปน็ พิษตอ่ พืชและส่งิ มีชวี ติ ในดนิ นำ้�
25%
น�้ำ

น้ำ� ในดิน NPK คารบ์ อนไดออกไซด์
ออกซเิ จน
10 ความรู้เรอ่ื งดนิ ส�ำหรับเยาวชน ธาตอุ าหารพชื
อากาศในดิน

กาปรสจั จร้ายั งทต่ีคัววขบอคงุมดิน ภาค 1 ความหมายและความสำ� คัญของดนิ

มกี ารผสมคลุกเคล้า เริ่มมพี ชื พรรณ การผพุ งั สลายตวั ภาค 2 เรียนรู้เร่อื ง...ดนิ
และเกดิ พัฒนาการ ธรรมชาตแิ ละมีการ ของหนิ -แร่
สะสมอินทรยี วัตถุ
ของชั้นดนิ 1
2
3

เราทราบหรือไม่ว่า ท�ำไมบนพื้นผิวโลกจึง ภาค 3 แหล่งขอ้ มลู ...ดนิ
มดี นิ เกดิ ขน้ึ มากมายหลายชนดิ ทง้ั คลา้ ยคลงึ และ
แตกตา่ งกัน

ความรู้เรือ่ งดนิ ส�ำหรบั เยาวชน 11

ภูมอิ ากาศ

ระยะเวลา

สิ่งมีชวี ิต วตั ถุ
ต้นก�ำเนิดดนิ
สภาพพ้นื ท่ี

ดินมีลักษณะและสมบัติที่แตกต่างกันหรือคล้ายคลึงกัน เน่ืองมาจาก อิทธิพลของปัจจัย
ก�ำเนิดดิน 5 อย่าง ได้แก่ ภูมิอากาศ วัตถุต้นก�ำเนิดดิน สภาพพื้นท่ี ส่ิงมีชีวิต และระยะเวลา
ทคี่ วบคุมกระบวนการเพมิ่ เติม เปลยี่ นแปลง เคล่อื นย้าย และสญู เสยี ของสสารและพลังงานท่ีเกดิ
ขึ้นในดิน การเกิดของดนิ ทกุ ชนิดจะอยู่ภายใต้การควบคุมของปัจจัยทัง้ 5 อย่างตลอดเวลา จะขาด
ปัจจัยใดปจั จัยหนง่ึ ไมไ่ ด้ เพียงแต่อทิ ธิพลของปัจจยั ท้ัง 5 ในแตล่ ะชว่ งเวลาแตกตา่ งกนั บางชว่ งเวลา
ปจั จยั หน่ึงอาจมบี ทบาทในการควบคุมลกั ษณะและสมบตั ขิ องดนิ มากกว่าปัจจยั อ่นื ๆ เชน่ ดนิ ท่ีเพง่ิ
เริ่มพัฒนา วัตถุต้นก�ำเนิดจะมีบทบาทส�ำคัญ ลักษณะและสมบัติของดิน จะมาจากวัตถุต้นก�ำเนิด
ซง่ึ เราสามารถสงั เกตไดง้ า่ ย เมอ่ื เวลาผา่ นไป บทบาทของวตั ถตุ น้ กำ� เนดิ จะนอ้ ยลง บางครงั้ ไมส่ ามารถ
จำ� แนกชนดิ ของวัตถตุ น้ ก�ำเนิดดนิ ได้

12 ความรู้เรอ่ื งดนิ สำ� หรับเยาวชน

1. ภูมิอากาศ (Climate) ภาค 1 ความหมายและความสำ� คัญของดนิ

ปัจจัยด้านภูมิอากาศที่มีผลต่อ น�้ำคา้ ง
การสร้างตัวของดินท่ีส�ำคัญคือ อุณหภูมิและ ฝน
หยาดนำ้� ฟา้ เช่น ฝน น้ำ� คา้ ง หมิ ะ ฯลฯ โดยเป็น
ตวั ควบคมุ การเกดิ ปฏกิ ริ ยิ าตา่ งๆ ทงั้ กายภาพ เคมี หิมะ
และชีวภาพ ซึ่งมีผลต่ออัตราการผุพังสลายตัว
ของวัสดุต่างๆ ท้ังหิน แร่ และเศษซากสิ่งมีชีวิต
รวมท้ังยังมีอิทธิพลต่อกระบวนการเพิ่มเติม
เปล่ียนแปลง เคล่ือนย้าย และสูญเสีย วัสดุ
ทีเ่ กิดข้ึนในดนิ ด้วย

หนิ บะซอลท์ หนิ ปนู โดยทวั่ ไปการผพุ งั สลายตวั ของวสั ดตุ า่ งๆ ภาค 2 เรียนรู้เร่อื ง...ดนิ
ในพน้ื ทเ่ี ขตรอ้ น เชน่ ประเทศไทย จะเกดิ ไดร้ วดเรว็ กวา่
ตะกอนที่ถูกพดั พาโดยนำ�้ ในเขตอบอนุ่ หรือเขตหนาว เนอ่ื งจากอุณหภูมทิ ี่สงู และ
ปริมาณความชื้นท่ีมากกว่า ท�ำให้กระบวนการทางดิน
ด�ำเนินไปได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เกิดสภาวะท่ีมีการ ภาค 3 แหล่งขอ้ มลู ...ดนิ
สูญเสียธาตุอาหารออกจากดินอย่างต่อเน่ือง ดินท่ีพบ
ในเขตร้อนส่วนใหญ่ จึงเป็นดินที่มีพัฒนาการสูงและ
มักจะขาดความอดุ มสมบรู ณ์ นอกจากน้ีภมู อิ ากาศยังมี
ผลต่อชนิดของส่ิงมีชีวิตและพืชพรรณ ซ่ึงเป็นปัจจัยท่ี
ควบคุมการสร้างตวั ของดินดว้ ย

วสั ดุอินทรีย์

2. วตั ถุต้นกำ� เนิดดิน (Parent material)

วัตถุต้นก�ำเนิดดิน หมายถึง วัตถุท่ีเม่ือเกิดการเปล่ียนแปลงและพัฒนาแล้วคลุกเคล้า
กับอินทรียวัตถุเกิดเป็นดิน อาจจะเกิดจากการสลายตัวผุพังโดยตรงจากหิน แร่ และซากส่ิงมีชีวิต
บรเิ วณนน้ั ๆ หรอื ถกู เคลอื่ นยา้ ยมาจากทอี่ น่ื โดยนำ�้ ลม หรอื ธารนำ�้ แขง็ หรอื การเคลอ่ื นยา้ ยมาสะสม
บริเวณเชิงเขาตามแรงโน้มถ่วง วัตถุต้นก�ำเนิดดินมีอิทธิพลต่อลักษณะและสมบัติต่างๆ ของดินที่
เกดิ ขน้ึ เช่น เน้ือดนิ สดี นิ ชนดิ และปรมิ าณธาตุอาหารในดิน

ความรู้เรื่องดินสำ� หรับเยาวชน 13

ดินทเี่ กิดจากหนิ ที่มีแร่สจี าง ดนิ ทเ่ี กดิ จากหินบะซอลทห์ รอื หนิ ปนู

ตวั อยา่ งวตั ถตุ น้ กำ� เนดิ ดนิ ทผี่ พุ งั สลายตวั มาจากหนิ ทราย แรอ่ งคป์ ระกอบสว่ นใหญ่
เปน็ พวกแร่ที่ทนทานต่อการสลายตัว มสี จี าง เช่น ควอตซ์ เมอ่ื พัฒนาจนกลายเป็นดิน จะให้
ดินเนอ้ื หยาบ เปน็ ทราย มสี จี าง มีธาตอุ าหารพืชนอ้ ย ความอดุ มสมบูรณต์ �ำ่ แตถ่ ้าเป็นดิน
ที่เกิดจากการสลายตัวของหินบะซอลท์หรือหินภูเขาไฟสีเข้ม หินปูนเมื่อพัฒนาเป็นดิน
จะเป็นดินเน้ือละเอียด เหนียว หรือร่วนเหนียว อาจมีสีด�ำ น�้ำตาล เหลือง หรือแดง
มีความอุดมสมบูรณต์ งั้ แตส่ งู จนถึงตำ่� ข้นึ อยูก่ ับระยะเวลาในการพฒั นา

3. สภาพพ้นื ท่ี (Relief)

ในทน่ี ห้ี มายรวมถงึ ความสงู ตำ่� ความลาดชนั และทศิ ทางของความลาดชนั ซง่ึ มอี ทิ ธพิ ล
ต่ออุณหภูมิและความชื้นในดิน ระดับน�้ำใต้ดิน การเจริญเติบโตของพืชพรรณ การผุพังสลายตัว
ของหิน อัตราการไหลบ่าและไหลซึมของน้�ำ การชะล้างพังทลายของดิน และการทับถมของ
อินทรยี วตั ถใุ นดิน
โดยทั่วไป ดินท่ีพบบริเวณที่มีความลาดชันมากๆ มักจะเป็นดินตื้น มีช้ันดินน้อย
ชั้นดินบนบาง หรืออาจจะไม่มีช้ันดินบนเลยก็ได้ มีโอกาสเกิดการชะล้างสูญเสียชั้นหน้าดินได้มาก
ตา่ งจากดินทอ่ี ย่บู รเิ วณเชิงเนินทม่ี ักจะมีดนิ ช้ันบนที่หนากวา่ และดินลกึ มากกว่า

14 ความรู้เรอ่ื งดนิ สำ� หรบั เยาวชน

4. ส่ิงมีชวี ติ (Organism) ภาค 1 ความหมายและความสำ� คัญของดนิ

สิ่งมีชีวิตในที่น้ีหมายถึง พืชและสัตว์ท้ัง ภาค 2 เรียนรู้เร่อื ง...ดนิ
ขนาดใหญ่ ขนาดเลก็ ทมี่ องเหน็ และมองไมเ่ หน็ ดว้ ยตาเปลา่
รวมถึงมนุษย์ มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงสมบัติของดิน ภาค 3 แหล่งขอ้ มลู ...ดนิ
หลายประการ ซากพชื และสตั วเ์ ปน็ แหลง่ ของอนิ ทรยี วตั ถุ
ในดิน โดยสงิ่ มีชีวติ ตา่ งๆ รวมทง้ั จุลินทรยี ด์ นิ ชว่ ยในการ
ย่อยสลายทัง้ กระบวนการทางกายภาพ เคมี และชวี ภาพ
ท�ำให้สมบัติของดินเหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพืช
เปน็ แหล่งเก็บสะสมอาหารตามธรรมชาตใิ นดิน

5. เวลา (Time)

บทบาทของเวลาทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั การเกดิ ดนิ มที งั้ ระยะ
เวลาทแี่ ท้จริงทด่ี นิ เริม่ พัฒนาจากวัตถตุ ้นกำ� เนิดดินซงึ่ เป็นอายุจริง
ของดิน และระยะเวลาสมั พัทธ์ ซ่ึงหมายถึงระดับการพฒั นาของดนิ
ดินท่ีผ่านกระบวนการเกิดดินท่ีรุนแรงกว่าจะถือว่ามีอายุมากกว่า
เปรยี บเหมอื นคนอายนุ อ้ ย แตผ่ า่ นการเรยี นรแู้ ละพฒั นาตนเองมาก
ถือว่ามีประสบการณ์มากกว่าคนที่แม้จะอายุมาก แต่เรียนรู้และ
ปฏบิ ตั มิ านอ้ ย เราสามารถใชล้ กั ษณะและสมบตั บิ างประการในการ
เปรียบเทียบอายุของดินได้ เช่น ความลึกของดิน ความหนาของ
ช้ันดิน สีของดิน เป็นต้น ดินลึกมีระยะเวลาการพัฒนามากกว่า
ดินต้ืน หรือดินสีแดงผ่านกระบวนการเปล่ียนแปลงมานานกว่า
ดนิ สดี ำ� หรือสีน้�ำตาล ถือเปน็ ดินที่มอี ายุมาก อทิ ธพิ ลของเวลาจะมี
ความส�ำคัญนอ้ ย เมือ่ ดนิ มีพัฒนาการถงึ ขน้ั อายุมากแล้ว

ความร้เู รื่องดนิ ส�ำหรบั เยาวชน 15

ลกั ษณะและสมบตั ิของ...ดนิ

จากการทด่ี นิ เกดิ มาจากอทิ ธพิ ลของปจั จยั กำ� เนดิ ดนิ 5 ปจั จยั
คอื ภมู ิอากาศ วัตถตุ ้นกำ� เนิดดนิ สภาพพ้นื ท่ี สิ่งมีชีวิต และระยะเวลา
ทค่ี วบคุมกระบวนการตา่ งๆ ที่เกิดข้นึ ในดินมคี วามไม่เทา่ เทียมกนั โดย
แตกตา่ งไปตามสภาพแวดลอ้ มและชว่ งเวลา จงึ ทำ� ใหด้ นิ ทเ่ี ราพบมคี วาม
แตกต่างหลากหลายชนดิ แตล่ ะชนิดมลี ักษณะ สมบัตแิ ละองค์ประกอบ
ทแ่ี ตกตา่ งกนั ไป บางแหง่ ตน้ื บางแหง่ ลกึ บางแหง่ เปน็ ทราย บางแหง่ เหนยี ว หากเรา
มองดนิ ในแนวลกึ ลงไป จะพบความแตกตา่ งมากกว่าทส่ี งั เกตจากผิวดินเสยี อีก

หากศกึ ษาดนิ อยา่ งละเอยี ด เราอาจแบง่ ลกั ษณะและสมบตั ขิ องดนิ ออกได้
เป็น 6 ประเภท ได้แก่

1. สมบตั ทิ างสัณฐาน

เป็นลักษณะและสมบัติทางกายภาพ ในส่วนที่เก่ียวกับโครงสร้างหรือ
รปู ทรงของดิน ทเ่ี ราสามารถสังเกตได้จากหน้าตัดของดิน ซ่ึงเปน็ หลมุ ดินขนาดกว้าง
ประมาณ 1.5 เมตร ลกึ 2 เมตร และยาว 2.5 เมตร ซึง่ จะเปน็ ขนาดท่ีนักสำ� รวจดิน
1 หรอื 2 คน จะลงไปปฏบิ ตั งิ านในหลมุ ไดส้ ะดวกหรอื จากหนา้ ตดั ถนน บอ่ ขดุ จะสงั เกต
เห็นว่าดินแต่ละดินตามแนวความลึก สามารถแบ่งออกเป็นช้ันต่างๆ ได้หลายช้ัน
มากน้อยแตกต่างกันไป บางดินเห็นได้ชัดเจน บางดินก็เลือนราง แนวแบ่งช้ันดิน
บางแหง่ ขนานกบั ผิวดิน บางแหง่ เป็นลูกคลน่ื บางแหง่ ไมต่ ่อเน่อื ง สมบัติทางสัณฐาน
ทสี่ ำ� คญั ไดแ้ ก่ ความลกึ ความหนาของชนั้ ดนิ สพี น้ื และสจี ดุ ประของดนิ โครงสรา้ งของดนิ
การเกาะยดึ ตัวของเม็ดดนิ ช่องวา่ งในดิน กรวด หนิ ลกู รัง ปริมาณรากพืช เป็นต้น
ในหนา้ ตดั ของดินหน่งึ ๆ นนั้ ประกอบดว้ ยช้นั ตา่ งๆ มากมาย โดยท่ชี ้ันเหลา่ นี้อาจเป็น
ชนั้ ที่เกิดจากกระบวนการทางดินหรอื ไม่เกย่ี วขอ้ งกับกระบวนการเกิดดนิ กไ็ ด้ นกั วิทยาศาสตรท์ างดิน
ได้ก�ำหนดช้นั ดนิ หลกั ๆ ไว้ 5 ชัน้ ดว้ ยกนั คือ ชน้ั โอ (O) ชนั้ เอ (A) ช้นั อี (E) ชนั้ บี (B) ชัน้ ซี (C)
และชัน้ อาร์ (R) ซ่ึงเปน็ ชนั้ หินพืน้ ทอ่ี าจจะมคี วามเกย่ี วขอ้ งกบั ชน้ั ดนิ หลกั ตอนบนหรอื ไม่กไ็ ด้

16 ความร้เู ร่อื งดินส�ำหรบั เยาวชน

ชน้ั โอ (O) เปน็ ชนั้ ดนิ ทมี่ อี งคป์ ระกอบสว่ นใหญเ่ ปน็ อนิ ทรยี วตั ถุ เชน่ ใบไม้ กง่ิ ไม้ มอส ภาค 1 ความหมายและความสำ� คัญของดนิ

ไลเคน เปน็ ตน้ ภาค 2 เรียนรู้เร่อื ง...ดนิ

ชนั้ เอ (A) เปน็ ชนั้ ทป่ี ระกอบดว้ ยอนิ ทรยี วตั ถทุ สี่ ลายตวั ผสมกบั แรธ่ าตใุ นดนิ โดยปกติ ภาค 3 แหล่งขอ้ มลู ...ดนิ

จะมีสคี ล�ำ้

ชั้นอี (E) หรือเรียกว่า

ช้ันชะล้าง เป็นชั้นดินท่ีเกิดการสูญเสีย
มักจะมีสีจาง และมีเน้ือดินหยาบกว่า
ชั้นดนิ ใกลเ้ คยี ง

ชั้นบี (B) เป็นช้ันที่เกิด

การเปล่ียนแปลง หรือมีการสะสม เช่น
มีการสะสมดินเหนียว เหล็ก หรือฮิวมัส
เปน็ ตน้

ชั้นซี (C) คือช้ันวัตถุ

ตน้ กำ� เนิดดนิ อาจเกดิ จากการผพุ ังสลาย
ตัวอยู่กับที่ของหินแร่ หรือเป็นช้ันของ
ตะกอนที่ถูกพัดพามาสะสม โดยน�้ำ
ลม ฯลฯ

ช้นั อาร์ (R) เป็นชนั้ ของหนิ แข็งท่ยี ังไม่มกี ารผพุ งั สลายตวั เช่น หินแกรนิต หินทราย

หนิ ปูน เปน็ ตน้

เราอาจแบง่ ชน้ั ดนิ ทพี่ บในหนา้ ตดั ดนิ อยา่ งงา่ ยๆ ไดเ้ ปน็ 2 ชน้ั คอื ชนั้ ดนิ บนและชน้ั ดนิ ลา่ ง

ชนั้ ดนิ บน โดยทว่ั ไปมคี วามหนาประมาณ 15-30 เซนตเิ มตร จากผวิ ดนิ มกั จะมสี คี ลำ้�

หรือด�ำกว่าช้ันอ่ืนๆ เพราะเป็นช้ันดินท่ีมีปริมาณอินทรียวัตถุสูงกว่า รากพืชส่วนใหญ่จะชอนไช
หาอาหารอยใู่ นชว่ งช้ันน้ี

ชน้ั ดินล่าง เปน็ ช้นั ท่ีมปี รมิ าณอนิ ทรียวตั ถุนอ้ ยกวา่ รากพชื ชอนไชลงมาถงึ ชนั้ นส้ี ว่ น

ใหญจ่ ะเป็นรากของไม้ยืนตน้ ท่ีมีขนาดใหญ่ ทงั้ นี้เพื่อยดึ เกาะดินไว้ใหพ้ ชื ทรงตวั อยูไ่ ด้ ไมโ่ คน่ ลม้ ลงได้
งา่ ยเม่ือมีลมพดั แรง โดยปกติดินชนั้ ล่างจะแน่นทึบกว่าดินชนั้ บน

ความรเู้ รอ่ื งดินสำ� หรับเยาวชน 17

2. สมบตั ิทางกายภาพ

เป็นลักษณะท่ีเกี่ยวข้องกับสถานะและ
การเคลอื่ นยา้ ยของสสาร การไหลของนำ�้ สารละลาย
และของเหลว หรือการเปล่ียนแปลงของพลังงาน
ในดนิ เชน่ เน้ือดนิ ความหนาแนน่ ของดนิ ความช้นื
การซมึ น้�ำของดิน การยืดหดตัว ความพรุนของดิน

3. สมบตั ิทางเคมี

เปน็ สมบตั ทิ เ่ี กยี่ วขอ้ งกบั การดดู ยดึ และ
แลกเปล่ียนแร่ธาตุต่างๆ ระหว่างดินกับสภาพ
แวดล้อม เกีย่ วขอ้ งกับปฏิกริ ยิ าต่างๆ ทางเคมขี องดิน
เช่น ปฏิกิริยาดินหรือค่าพีเอช การแลกเปล่ียน
แคตไอออน การอม่ิ ตัวด้วยเบส ธาตุอาหารพืชต่างๆ
รวมถงึ ธาตทุ เี่ ปน็ พิษ

4. สมบตั ทิ างแร่ แรไ่ มกา

เป็นสมบัติท่ีเก่ียวข้องกับชนิด
ปริมาณและองคป์ ระกอบของแรต่ ่างๆ ในดนิ
ทั้งแร่ดั้งเดิมและแร่ที่เกิดข้ึนใหม่ เช่น
แร่ควอตซ์ เฟลด์สปาร์ ไมกา แร่ดินเหนียว
ชนิดต่างๆ ออกไซด์ของเหล็กและอะลูมินัม
ซ่ึงมีความส�ำคัญต่อสมบัติอ่ืนๆ และ
กระบวนการตา่ งๆ ที่เกิดขึ้นในดนิ

แร่เฟลด์สปาร์

18 ความรู้เรอ่ื งดนิ ส�ำหรับเยาวชน

5. สมบัตทิ างจลุ สณั ฐาน ภาค 1 ความหมายและความสำ� คัญของดนิ

เป็นสมบัติทางโครงสร้างและองค์ประกอบของดินท่ีไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า
จำ� เปน็ ตอ้ งใชเ้ ครอื่ งมอื ชว่ ย ไดแ้ ก่ แวน่ ขยาย กลอ้ งจลุ ทรรศน์ จะชว่ ยใหเ้ ขา้ ใจถงึ ลกั ษณะ สมบตั ิ และ
กระบวนการท่ีเกิดขน้ึ ในดนิ ดขี น้ึ

การศกึ ษาทางจลุ สณั ฐานวทิ ยาของดนิ



ท�ำให้ดนิ แขง็ คงรูป นำ� มาส่องผ่าน ผลการศกึ ษา ภาค 2 เรียนรู้เร่อื ง...ดนิ
และตัดเป็นแผ่นบาง กล้องจุลทรรศน์ดูหนิ -แร่ (1) การสะสมสารประกอบเหล็ก
(2) ช่องว่างในดิน

6. สมบัติทางชีวภาพ ภาค 3 แหล่งขอ้ มลู ...ดนิ

เป็นสมบัติที่เก่ียวข้องกับส่ิงมีชีวิตในดินขนาด
ตา่ งๆ ไดแ้ ก่ พืช สตั ว์ และจุลินทรียด์ ิน เกย่ี วข้องกบั ปรมิ าณ
และกจิ กรรมของสงิ่ มชี วี ติ ตา่ งๆ ตอ่ กระบวนการทเี่ กดิ ขนึ้ ในดนิ
ทง้ั ท่เี ป็นประโยชนแ์ ละเป็นโทษ

ความร้เู รือ่ งดินสำ� หรับเยาวชน 19

ลทักส่ีษำ�ณคะญั แขลอะสงมดนิบัติ

แม้ว่าดินจะมีลักษณะและสมบัติมากมายหลายอย่าง แต่ลักษณะและสมบัติท่ีส�ำคัญ
ที่คนส่วนใหญ่ควรรู้และท�ำความเข้าใจ โดยเฉพาะสมบัติที่เก่ียวข้องกับการเพาะปลูกพืชและ
การจดั การดนิ และไมต่ ้องอาศยั เครื่องมอื ทางวทิ ยาศาสตร์ท่ีย่งุ ยากในการตรวจสอบ ได้แก่

1. ความลึกของดนิ

ในทางการเกษตร ไดแ้ บ่งความลกึ ของดนิ ออกเป็น 5 ชั้น โดยยึดเอาความลกึ ที่วดั
จากผิวดนิ ถงึ ช้นั ทีข่ ดั ขวางการเจรญิ เตบิ โตหรอื การชอนไชของรากพืช ซงึ่ ชน้ั ทีข่ ดั ขวางการเจริญของ
รากพชื ได้แก่ ชนั้ หนิ พ้นื ชั้นดาน ชนั้ ศิลาแลง ชนั้ กรวด หนิ หรือลกู รังที่หนาแน่นมากๆ

1) พบชั้นขัดขวางภายในความลกึ 25 เซนตเิ มตร จากผิวดนิ เป็น ดนิ ตืน้ มาก
2) พบช้นั ขัดขวางระหว่างความลึก 25-50 เซนติเมตร จากผวิ ดิน เปน็ ดินต้นื
3) พบชั้นขดั ขวางระหวา่ งความลกึ 50-100 เซนติเมตร จากผวิ ดิน เปน็ ดินลึกปานกลาง
4) พบช้นั ขัดขวางระหว่างความลกึ 100-150 เซนติเมตร จากผิวดิน เป็น ดินลกึ
5) พบชน้ั ขดั ขวางลึกกว่า 150 เซนติเมตร จากผวิ ดนิ เป็น ดินลึกมาก
ความลกึ ความตน้ื ของดนิ มผี ลตอ่ การเลอื กชนดิ ของพชื ทป่ี ลกู การยดึ เกาะของรากและ
ทรงตวั ของต้นพชื อณุ หภมู ิดิน ปริมาณความชืน้ และธาตอุ าหารในดนิ

20 ความร้เู รอ่ื งดินสำ� หรับเยาวชน

2. สีของดิน ภาค 1 ความหมายและความสำ� คัญของดนิ

สีของดินเป็นสมบัติของดิน ที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนกว่าสมบัติอ่ืนๆ ดินแต่ละ ภาค 2 เรียนรู้เร่อื ง...ดนิ
บรเิ วณจะมสี ที ่แี ตกต่างกนั ไป เช่น สีด�ำ สนี ำ้� ตาล สเี หลอื ง สแี ดง หรอื สเี ทา รวมถึงจุดประสีต่างๆ
ขึ้นอยู่กับชนิดของแร่ที่เป็นองค์ประกอบในดิน สภาพแวดล้อมในการเกิดดิน ระยะเวลาการพัฒนา ภาค 3 แหล่งขอ้ มลู ...ดนิ
หรอื วัสดุอ่ืนๆ ที่มีอยู่ในดนิ

ดงั น้นั จากสขี องดิน เราสามารถทีจ่ ะประเมินสมบตั บิ างอย่างของดนิ ที่เก่ียวขอ้ งได้
เช่น การระบายนำ้� ของดนิ อนิ ทรียวัตถุในดิน ระดบั ความอุดมสมบรู ณ์ของดนิ

ดินสีดำ� สีน้ำ� ตาลเขม้ หรือสคี ลำ�้

ส่วนใหญม่ ักจะเป็นดินทมี่ คี วามอดุ มสมบูรณ์สูง
เนอื่ งจากมกี ารคลกุ เคลา้ ดว้ ยอนิ ทรยี วตั ถมุ าก แตบ่ างกรณี
สีคล้�ำของดิน อาจจะเป็นผลมาจากอิทธิพลของปัจจัยที่
ควบคุมการเกิดดินอ่ืนๆ นอกเหนือไปจากการมีปริมาณ
อินทรียวัตถุในดินมากก็ได้ เช่น ดินที่พัฒนามาจาก
วตั ถตุ น้ กำ� เนดิ ดนิ ทผี่ พุ งั สลายตวั มาจากหนิ แรพ่ วกทม่ี สี เี ขม้
เช่น หินภูเขาไฟ และมีระยะเวลาการพัฒนาไม่นาน
หรอื ดนิ ท่ีมแี รแ่ มงกานสี สูง กจ็ ะใหด้ นิ ทมี่ สี คี ลำ้� ได้เชน่ กนั

ดนิ สเี หลืองหรอื แดง

สีเหลืองหรือแดงของดิน ส่วนใหญ่จะเป็น
สีออกไซด์ของเหล็กและอะลูมินัม แสดงถึงการท่ีดิน
มีพัฒนาการสูง ผ่านกระบวนการผุพังสลายตัวและ
ซมึ ชะมานาน เป็นดินทีม่ กี ารระบายน�้ำดี แตม่ ักจะมี
ความอุดมสมบูรณ์ต�่ำ ดินสีเหลืองแสดงว่าดิน
มอี อกไซดข์ องเหล็กทม่ี นี ำ�้ เป็นองคป์ ระกอบ สว่ นดิน
สีแดงจะเป็นดินท่ีออกไซด์ของเหล็กหรืออะลูมินัม
ไมม่ นี ้ำ� เป็นองค์ประกอบ

ความร้เู รอ่ื งดนิ สำ� หรับเยาวชน 21

ดินสขี าวหรือสีเทาอ่อน

การทด่ี นิ มสี อี อ่ น อาจจะแสดงวา่ เปน็ ดนิ ทเี่ กดิ มาจาก
วัตถุต้นก�ำเนิดดินพวกท่ีสลายตัวมาจากหินท่ีมีแร่สีจางเป็น
องค์ประกอบอยู่มาก เช่น หินแกรนติ หรอื หนิ ทรายบางชนิด
หรืออาจจะเป็นดินที่ผ่านกระบวนการชะล้างอย่างรุนแรงจน
ธาตุอาหารท่ีมีประโยชน์ต่อพืชถูกซมึ ชะออกไปจนหมด หรอื มี
สีอ่อนเนื่องจากมีการสะสมปูน ยิปซัม หรือเกลือชนิดต่างๆ
ในหน้าตัดดนิ มากก็ได้ ซงึ่ ดนิ เหลา่ นีส้ ่วนใหญ่มกั จะเป็นดินที่มี
ความอุดมสมบรู ณ์ต่�ำ

ดนิ สีเทาหรือสนี �้ำเงนิ

การทดี่ นิ มสี เี ทา เทาปนนำ�้ เงนิ หรอื นำ้� เงนิ
บ่งชี้ว่าดินอยู่ในสภาวะท่ีมีน้�ำแช่ขังเป็นเวลานาน
เชน่ ดนิ นาในพื้นท่ลี ุม่ หรอื ดนิ ในพื้นทปี่ า่ ชายเลนที่
มนี ้ำ� ทะเลท่วมถึงอยู่เสมอ ซ่งึ มสี ภาพการระบายนำ้�
และการถ่ายเทอากาศไม่ดี ท�ำให้เกิดสารประกอบ
ของเหล็กพวกทม่ี ีสีเทาหรอื สนี �้ำเงิน แตถ่ ้าดนิ อย่ใู น
สภาวะที่มีน�้ำแช่ขังสลับกับแห้ง ดินจะมีสีจุดประ
โดยท่ัวไปมักปรากฏเป็นจุดประสีเหลืองหรือสีแดง
บนพน้ื สเี ทา ซ่งึ เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของ
สารประกอบออกไซด์ของเหล็กท่ีสะสมอยู่ในดิน
โดยสารเหล่าน้ีจะอยู่ในรูปที่แสดงสีเทาเม่ืออยู่ใน
สภาวะที่มีน้�ำแช่ขังเป็นเวลานานๆ (สภาพขาด
ออกซเิ จน) และเปลยี่ นรูปเป็นสารทีใ่ ห้สแี ดงเมื่ออยู่
ในสภาวะดินแหง้ (มีออกซิเจนมาก)

22 ความร้เู ร่ืองดนิ ส�ำหรับเยาวชน

3. เนื้อดิน ภาค 1 ความหมายและความสำ� คัญของดนิ

เนอ้ื ดนิ เป็นสมบัตทิ บ่ี อกถงึ ความหยาบหรือละเอยี ดของดิน มผี ลตอ่ การดดู ซบั น้ำ�
การดูดยึดธาตุอาหาร และปฏิกิริยาต่างๆ ที่เกิดข้ึนในดิน เน้ือดินเป็นผลมาจากการรวมตัวกันของ
ช้ินสว่ นเล็กๆ ทเ่ี ราเรยี กกันว่า “อนภุ าคของดนิ ” อนุภาคเหล่านมี้ ีขนาดไมเ่ ทา่ กนั แบง่ ออกไดเ้ ป็น
3 กลุ่ม คอื

ขนาดใหญ่ ภาค 2 เรียนรู้เร่อื ง...ดนิ

เรียกว่า อนภุ าคขนาดทราย ขนาดกลาง
(เส้นผา่ ศนู ย์กลาง 2.0-0.05 มิลลเิ มตร) เรียกวา่ อนุภาคขนาดทรายแป้ง
(เสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลาง 0.05-0.002 มลิ ลเิ มตร)

ขนาดเล็ก ภาค 3 แหล่งขอ้ มลู ...ดนิ

เรียกว่า อนุภาคขนาดดนิ เหนยี ว
(เสน้ ผ่าศูนย์กลาง เลก็ กว่า 0.002 มิลลเิ มตร)

ความรเู้ รือ่ งดนิ สำ� หรบั เยาวชน 23

เราสามารถแบง่ เนือ้ ดนิ เป็นกล่มุ ใหญ่ๆ ได้ 3 กลุ่ม คือ กล่มุ ดินทราย กลุ่มดนิ ร่วน และ
กลุ่มดนิ เหนียว

กลมุ่ ดนิ ทราย หมายถงึ กลมุ่ เนอ้ื ดนิ ทมี่ อี นภุ าคขนาดทรายเปน็ องคป์ ระกอบอยู่

มากกว่ารอ้ ยละ 70 โดยอนุภาคจะเกาะตัวกนั หลวมๆ และมองเห็นเปน็ เมด็ เดยี่ วๆ ได้ ความรู้สกึ เมอ่ื
สมั ผสั ดนิ ทแ่ี หง้ จะรู้สึกสากมือ แต่เม่อื ลองก�ำดนิ ทีแ่ ห้งนี้ไวใ้ นองุ้ มือแลว้ คลายมือออกดินจะแตกออก
จากกันได้ง่าย ถ้าก�ำดินท่ีอยู่ในสภาพช้ืนจะสามารถท�ำให้เป็นก้อนหลวมๆ ได้ แต่พอสัมผัสจะแตก
ออกจากกนั ทันที
ปกติดินทรายเป็นดนิ ที่มกี ารระบายน้�ำและอากาศดีมาก แตม่ ีความสามารถในการ
อมุ้ นำ้� ตำ�่ นำ้� ซมึ ผา่ นไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ มคี วามอดุ มสมบรู ณต์ ำ่� เพราะความสามารถในการดดู ยดึ ธาตอุ าหาร
พชื น้อย พืชทข่ี ึ้นบนดนิ ทรายจงึ มักขาดท้ังธาตุอาหารและน�ำ้
เนือ้ ดินที่อยใู่ นกล่มุ นี้ ได้แก่ ดนิ ทราย และดินทรายปนดนิ รว่ น

กลุ่มดินร่วน โดยท่ัวไปจะประกอบด้วยอนุภาคขนาดทราย ทรายแป้ง และ

ดินเหนียวในปริมาณใกล้เคียงกัน เป็นดินท่ีมีเน้ือดินค่อนข้างละเอียดนุ่มมือ ในสภาพดินแห้งจะ
จับกันเป็นก้อนแข็งพอประมาณ ในสภาพดินชื้นดินจะยืดหยุ่นได้บ้าง เมื่อสัมผัสหรือคลึงดินจะรู้สึก
นุ่มมือ แต่อาจจะรู้สึกสากมืออยู่บ้างเล็กน้อย แต่เม่ือก�ำดินให้แน่นในฝ่ามือแล้วคลายมือออก
ดินจะจับกันเป็นก้อนไม่แตกออกจากกัน ดินร่วนเป็นดินที่มีความเหมาะสมส�ำหรับการเพาะปลูก
เพราะไถพรวนงา่ ย มีการระบายน้�ำและถา่ ยเทอากาศดี และมักจะมคี วามอุดมสมบูรณด์ ี
เนอื้ ดนิ ทอ่ี ยใู่ นกลมุ่ นี้ ไดแ้ ก่ ดนิ รว่ น ดนิ รว่ นปนทราย
ดนิ รว่ นปนทรายแปง้ ดินร่วนปนดินเหนยี ว ดนิ ร่วน
เหนียวปนทราย ดินร่วนเหนียวปนทรายแป้ง
ดินทรายแป้ง

24 ความรู้เรอื่ งดินสำ� หรับเยาวชน

กลุ่มดินเหนียว กลุ่มเนื้อดินท่ีประกอบ ภาค 1 ความหมายและความสำ� คัญของดนิ

ด้วยอนุภาคขนาดดินเหนียวตั้งแต่ร้อยละ 35 ขึ้นไป เป็นดิน ภาค 2 เรียนรู้เร่อื ง...ดนิ
ท่ีมีเนื้อละเอียด ในสภาพดินแห้งจะเกาะตัวกันเป็นก้อนแข็ง
เม่ือเปียกน้�ำแล้วจะมีความยืดหยุ่น สามารถปั้นเป็นก้อนหรือ ภาค 3 แหล่งขอ้ มลู ...ดนิ
คลงึ เปน็ เสน้ ยาวได้ ลกั ษณะเหนยี วตดิ มอื มที ง้ั ทร่ี ะบายนำ้� และ
อากาศดีและไม่ดี สามารถอุ้มน�้ำ ดูดซับและแลกเปล่ียน
ธาตุอาหารพืชได้ดี บริเวณพ้ืนที่ลุ่มต�่ำบางพื้นท่ีท่ีเป็น
ดนิ เหนยี วจดั จะไถพรวนลำ� บาก เพราะเมอื่ ดนิ แหง้ จะแขง็ มาก
แตเ่ ม่อื เปยี กดินจะเหนียวติดเคร่ืองมือไถพรวน

เน้ือดินที่อยู่ในกลุ่มน้ี ได้แก่ ดินเหนียว
ดนิ เหนียวปนทราย ดนิ เหนยี วปนทรายแปง้

4. โครงสร้างของดิน

โครงสร้างของดิน เป็นสมบัติทางกายภาพ
ของดนิ ทเี่ กดิ ขนึ้ จากการเกาะจบั กนั ของอนภุ าคทเ่ี ปน็ ของแขง็
ในดิน (ส่วนท่ีเป็นแร่ธาตุหรืออนินทรียวัตถุและอินทรียวัตถุ)
เกิดเป็นเม็ดดินหรือเป็นก้อนดินท่ีมีขนาด รูปรา่ ง และความ
คงทนแขง็ แรงในการยดึ ตวั ต่างๆ กัน เช่น แบบกอ้ นกลม แบบก้อนเหล่ยี ม แบบแทง่ และแบบแผน่
บางโครงสรา้ งของดนิ มคี วามส�ำคัญตอ่ การซึมผ่านของน้ำ� การอมุ้ น้ำ� การระบายน�้ำ และการถา่ ยเท
อากาศในดิน รวมถึงการแพร่กระจายของรากพืชด้วย ดินท่ีมีโครงสร้างดี มักจะมีลักษณะร่วนซุย
อนภุ าคเกาะกันหลวมๆ มปี ริมาณชอ่ งว่างและความต่อเนอื่ งของชอ่ งว่างในดนิ ดี ท�ำให้มีการระบาย
นำ�้ และถา่ ยเทอากาศไดด้ ี รากพชื สามารถชอนไชไปหาอาหารไดง้ า่ ย โครงสรา้ งดนิ ทแ่ี ขง็ แรงถกู ทำ� ลาย
ได้ยาก กจ็ ะทำ� ใหด้ นิ ถูกชะลา้ งพังทลายได้ยากเช่นกัน

อย่างไรก็ตามดินในธรรมชาติไม่จ�ำเป็นต้องมีโครงสร้างเสมอไป ดินหลายชนิดได้
ช่อื วา่ เป็นดนิ ไมม่ โี ครงสรา้ ง เช่น ดินทรายท่ีมีอนุภาคขนาดทรายเด่ยี วๆ ไม่เกาะยดึ กนั และดินเหนียวจัด
ที่อนภุ าคดนิ เหนียวขนาดเล็กจบั ตวั กนั แนน่ ทบึ

ความรเู้ รื่องดินสำ� หรับเยาวชน 25

โครงสร้างของดนิ มีได้หลายลกั ษณะ แบง่ เป็น 4 ประเภท คือ

1. แบบก้อนกลม (Granular
structure) มรี ูปรา่ งคล้ายทรงกลม เมด็ ดนิ มขี นาด
เล็กประมาณ 1-10 มิลลเิ มตร มกั พบในดินชน้ั บนท่ี
คลุกเคล้าด้วยอินทรียวัตถุ โครงสร้างประเภทนี้
จะเกดิ ชอ่ งวา่ งขนาดใหญข่ นึ้ ระหวา่ งเมด็ ดนิ ทำ� ใหด้ นิ
มคี วามพรุนมาก สามารถระบายน้�ำและอากาศไดด้ ี

2. แบบก้อนเหล่ยี ม (Blocky
structure) มีรปู ร่างคลา้ ยกลอ่ ง เม็ดดินมีขนาด
ประมาณ 1-5 เซนติเมตร มักพบในดินช้ันล่าง

โครงสร้างประเภทน้ีจะมีสภาพท่ีน้�ำและอากาศ

ซมึ ไดใ้ นเกณฑป์ านกลาง

3. แบบแผ่น (Platy 4. แบบแทง่ (Prism-like structure)
structure) ก้อนดินมีรูปร่างแบนวางตัว ก้อนดินมีรูปร่างเป็นแท่ง มักพบในช้ันดินล่างของดิน
ในแนวราบ และซอ้ นเหลอ่ื มกนั เปน็ ชน้ั มกั
พบในดินช้ันบนที่ถูกบีบอัดจากการบดไถ บางชนิด โดยเฉพาะดินเค็มท่ีมีการสะสมโซเดียมสูง
ของเครอื่ งจักรกล โครงสรา้ งดนิ ลกั ษณะน้ี
จะขัดขวางการไหลซมึ ของน้�ำ การระบาย หน่วยโครงสร้างแบบน้ีมักมีขนาดใหญ่ คือมีความยาว
อากาศและการชอนไชของรากพืช
10-100 เซนติเมตร เรียงตัวกันในแนวตั้ง ถา้ ส่วนบน
ของปลายแทง่ มีรูปร่างแบนราบจะเรยี กว่า โครงสร้าง
แบบแท่งหวั เหลย่ี ม (prismatic) แต่ถ้าส่วนบนของ
ปลายแทง่ มลี ักษณะโคง้ มนจะเรยี กว่า โครงสร้างแบบ
แทง่ หัวมน (columnar) ดนิ ทม่ี ีโครงสร้างลกั ษณะน้ี
มักจะมีสภาพให้น�ำ้ ซึมได้น้อยถงึ ปานกลาง

26 ความรู้เร่อื งดนิ สำ� หรบั เยาวชน

โครงสร้างรูปแบบต่างๆ ของดินมักจะพบอยู่ในดินชั้นล่างเป็นส่วนใหญ่ ยกเว้น ภาค 1 ความหมายและความสำ� คัญของดนิ
โครงสรา้ งทเ่ี ปน็ แบบกอ้ นกลมทพ่ี บวา่ มอี ยใู่ นดนิ ชน้ั บน ดนิ นน้ั จะมลี กั ษณะโปรง่ ซยุ ทำ� ใหก้ ารไถพรวน
ดินง่าย การถ่ายเทอากาศดี ดินอุ้มน�้ำได้ดี โครงสร้างแบบน้ีจะพบได้ทั่วไปในดินท่ีเปิดป่าใหม่ๆ ภาค 2 เรียนรู้เร่อื ง...ดนิ
หน้าดินมีอินทรียวัตถุสูง เม่ือปลูกพืชจะเจริญเติบโตงอกงามดีมาก แต่โครงสร้างดินเป็นสมบัติ
ภาค 3 แหล่งขอ้ มลู ...ดนิ
ท่ีเปลี่ยนแปลงได้ในดินท่ีมีการใช้ปลูกพืช
มานาน โครงสร้างดินย่อมเส่ือมสลายไป
เนอื่ งจากปรมิ าณอนิ ทรยี วตั ถใุ นดนิ ทล่ี ดลง
หรือเกิดความแน่นทึบ เน่ืองจากมีการ
ไถพรวนและกดทบั บ่อยๆ ดว้ ยเคร่ืองจกั ร
ขนาดใหญ่ ซึ่งมีน้�ำหนักมากโดยไม่มีการ
อนรุ กั ษแ์ ละปรบั ปรงุ บำ� รงุ ดนิ อยา่ งถกู ตอ้ ง
รวมทงั้ การเสยี ดสกี บั เครอ่ื งมอื เกษตรกรรม
และการปะทะของเม็ดฝนท่ีตกลงมา
บนดินดว้ ย

เราสามารถปรับปรุงดินท่ีไม่มีโครงสร้าง หรือดินที่มีโครงสร้างเปล่ียนไปจากเดิม
ให้กลับมามีโครงสร้างท่ีดีขึ้นได้โดยการเพ่ิมอินทรียวัตถุอย่างต่อเน่ืองและสม่�ำเสมอ ด้วยการใส่
ปุ๋ยอินทรีย์ให้กับดินทุกครั้งที่มีการไถพรวน หรือปลูกพืช
ปุ๋ยสดแล้วไถกลบก่อนการปลูกพืชหลัก เพื่อส่งเสริม
การจับตัวกันเป็นเม็ดของดิน หรือการช่วยป้องกันการ
สลายตัวของเม็ดดินที่มีอยู่แล้วด้วยการปลูกพืชคลุมดิน
เพอ่ื ปอ้ งกนั การทำ� ลายเมด็ ดนิ จากแรงปะทะของฝน ทำ� การ
ไถพรวนดนิ อยา่ งถกู วธิ ี และไมไ่ ถพรวนทรี่ ะดบั ความลกึ เดมิ
ทุกปี เพ่ือป้องกันการอัดตัวแน่นและเกิดเป็นชั้นดาน
หลีกเล่ียงการไถพรวนที่มากเกินความจ�ำเป็น เพื่อลด
การท�ำลายโครงสรา้ งของดนิ โดยตรงด้วย

ความรู้เรอื่ งดนิ สำ� หรับเยาวชน 27

5. ความเป็นกรดเปน็ ด่างของดิน

ความเปน็ กรดเปน็ ดา่ งของดิน หรือที่เรยี กกนั วา่ “พีเอช (pH)” เป็นคา่ ปฏกิ ริ ิยาดนิ
วัดได้จากความเข้มข้นของปริมาณไฮโดรเจนไอออน (H+) ในดิน โดยทั่วไปค่าพีเอชของดินจะบอก
เปน็ ค่าตัวเลขตัง้ แต่ 1 ถงึ 14 ถา้ ดินมีค่าพเี อชน้อยกว่า 7 แสดงวา่ ดนิ น้นั เป็นดนิ กรด ย่ิงมคี ่านอ้ ยกวา่
7 มาก ก็จะเปน็ กรดมาก แต่ถ้าดนิ มพี เี อชมากกว่า 7 จะเป็นดินดา่ ง ส�ำหรบั ดนิ ที่มพี ีเอชเทา่ กับ 7
พอดแี สดงวา่ ดนิ เป็นกลาง แต่โดยปกตแิ ล้วพเี อชของดนิ ทัว่ ไปจะมีคา่ อยู่ในช่วง 5 ถงึ 8

พี เ อ ช ข อ ง ดิ น มี ค ว า ม ส� ำ คั ญ ต ่ อ ก า ร
ปลูกพชื มาก เพราะเปน็ ตวั ควบคุมการละลายธาตอุ าหาร
ในดนิ ออกมาอยใู่ นสารละลายหรอื นำ�้ ในดนิ ถา้ ดนิ มพี เี อช
ไมเ่ หมาะสมธาตอุ าหารในดนิ อาจจะละลายออกมาไดน้ อ้ ย
ไม่เพียงพอต่อความต้องการของพืช หรือในทางตรงกัน
ขา้ มธาตอุ าหารบางชนดิ อาจจะละลายออกมามากเกนิ ไป
จนเป็นพิษตอ่ พชื ได้
พืชแต่ละชนิดชอบที่จะเจริญเติบโตใน
ดินท่ีมีช่วงพีเอชต่างๆ กัน ส�ำหรับพืชทั่วไปมักจะเจริญ
เตบิ โตไดด้ ใี นชว่ งพเี อช 6-7 นอกจากนคี้ วามเปน็ กรดเปน็
ด่างของดินยังควบคุมการเจริญเติบโตและการท�ำหน้าท่ี
ของจลุ นิ ทรยี ์ดนิ ดว้ ย

6. การแลกเปลีย่ นแคตไอออนในดิน

เป็นสมบัติของดินที่มีความส�ำคัญต่อการส�ำรองปริมาณธาตุอาหารต่างๆ ไว้ในดิน
และปลดปล่อยออกมาให้พืชได้ใช้ประโยชน์ อินทรียวัตถุและแร่ดินเหนียวในดินมีบทบาทส�ำคัญ
อย่างมากต่อสมบัติน้ีของดิน เนื่องจากพื้นผิวของ
อินทรียวัตถุและแร่ดินเหนียวจะมีประจุลบเหลืออยู่
จงึ สามารถดดู ยดึ ประจบุ วกได้ แรธ่ าตอุ าหารทพ่ี ชื ตอ้ งการ
ส่วนใหญ่จะมปี ระจุบวก เช่น ธาตุไนโตรเจนในรปู ของ
แอมโมเนียม ธาตุแคลเซยี ม แมกนีเซยี ม โพแทสเซยี ม
เหลก็ สงั กะสี นอกจากนย้ี งั ชว่ ยในการควบคมุ หรอื ตา้ น
การเปลยี่ นแปลงความเปน็ กรดของดนิ ดว้ ย โดยการดดู ยดึ
ประจุบวกทเ่ี ป็นกรด ไดแ้ ก่ ไฮโดรเจนและอะลูมนิ ัม

การแลกเปลี่ยนแคตไอออนในดนิ กับรากพชื

28 ความรู้เร่อื งดนิ สำ� หรับเยาวชน

ภาค 1 ความหมายและความสำ� คัญของดนิ

7. สงิ่ มีชีวติ ในดิน

เป็นสมบัติทางชีวภาพของดิน ซ่ึงรวมถึงส่ิงมีชีวิตที่มีขนาดใหญ่และขนาดเล็ก ภาค 2 เรียนรู้เร่อื ง...ดนิ
มองเหน็ และมองไมเ่ หน็ ดว้ ยตาเปลา่ อาศยั อยบู่ นดนิ และในดนิ แบง่ ไดเ้ ปน็ กลมุ่ ใหญๆ่ 3 กลมุ่ คอื พชื
สตั ว์ และจลุ นิ ทรยี ์ดนิ



พชื

พืชมีอิทธิพลอย่างยิ่งต่อดินและส่ิงมีชีวิตในดิน

เน่ืองจากท�ำหน้าที่กักเก็บพลังงานแสงอาทิตย์มาสร้างเป็น

สารอินทรีย์โดยผ่านกระบวนการสังเคราะห์แสง ต่อมาเม่ือส่วนต่างๆ

ของพชื หลดุ รว่ งหรอื ตายทบั ถมและผา่ นกระบวนการยอ่ ยสลายจนกลายเปน็ ภาค 3 แหล่งขอ้ มลู ...ดนิ

สารอนิ ทรยี ต์ า่ งๆ สารเหลา่ นก้ี จ็ ะกลายเปน็ แหลง่ พลงั งานทส่ี ำ� คญั ของสง่ิ มชี วี ติ ตา่ งๆ

ภายในดนิ ทจ่ี ะกอ่ ใหเ้ กดิ กจิ กรรมอืน่ ๆ ต่อเนอ่ื งไปอกี มาก และเป็นแหลง่ ส�ำคญั

ของธาตุอาหารพชื หลายชนดิ เชน่ ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และกำ� มะถัน นอกจากนี้

การที่พืชเจริญเติบโตแผ่กิ่งก้านใบและหย่ังรากลึกลงไปในดิน ยังก่อให้เกิด

ผลกระทบและเกิดการเปลี่ยนแปลงในดินอีกหลายอย่าง เช่น การเกิด

ชอ่ งวา่ งในดนิ จากการชอนไชของราก การเคลอ่ื นทขี่ องนำ้� และอากาศ

การหมนุ เวยี นของธาตอุ าหาร การผพุ งั สลายตวั ของหนิ กลาย

เป็นดิน การซึมชะ และการป้องกันการสูญเสีย

หน้าดนิ เป็นต้น ความรู้เรอ่ื งดินส�ำหรบั เยาวชน

29

สัตว์ในดิน

ดนิ เปน็ แหลง่ อาศัยของสตั วน์ านาชนดิ เชน่ มด ปลวก
แมลงตา่ งๆ กิง้ กอื ตะขาบ ไสเ้ ดอื น ต่นุ งู เป็นต้น บทบาทหลกั
ของสตั วใ์ นดนิ สว่ นใหญจ่ ะเกย่ี วขอ้ งกบั การขดุ คยุ้ เพอ่ื หาอาหารหรอื เปน็
ที่อยู่อาศัย รวมถึงการกัดย่อยชิ้นส่วนของรากหรือเศษซากต่างๆ กิจกรรม
เหลา่ นที้ ำ� ให้เกิดการเปลีย่ นแปลงสมบตั ขิ องดินได้ การสร้างรงั และการขดุ คุ้ย
ไชชอนดินของมด ปลวก แมลง หรือไสเ้ ดือนดนิ เป็นการพลิกดินโดยธรรมชาติ
ชว่ ยผสมคลกุ เคล้าอนิ ทรยี วตั ถุในดนิ หรือช่วยผสมคลกุ เคล้าดนิ บนกบั ดินลา่ ง
และนำ� แรธ่ าตจุ ากใตด้ นิ ขนึ้ มาบนผวิ ดนิ ทำ� ใหเ้ กดิ ชอ่ งวา่ งในดนิ ซงึ่ สง่ ผลให้
ดนิ โปรง่ มกี ารถา่ ยเทอากาศดี ปลวกและไสเ้ ดอื นยงั มบี ทบาทสำ� คญั ใน
การยอ่ ยสลายเศษอาหาร ซากพชื และสัตวใ์ หม้ ขี นาดเล็กลงจน

เป็นอนุภาคขนาดจิ๋วๆ ซึ่งจะเป็นแหล่งอาหารของ
จลุ นิ ทรยี ด์ นิ ต่อไป

จลุ นิ ทรีย์ดิน

จลุ ินทรีย์ดิน หมายถงึ ส่งิ มีชีวิตขนาดเลก็ มาก
จนไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ต้องใช้
กลอ้ งจลุ ทรรศนส์ อ่ งดู มหี ลายชนดิ ทง้ั ทเี่ ปน็ พชื และสตั ว์ เชน่
แบคทเี รยี แอคตโิ นมัยซีท รา โปรโตซัว ไวรัส จลุ นิ ทรยี ์ดนิ มี
บทบาทส�ำคัญในการย่อยสลายอินทรียวัตถุ การแปรสภาพ
สารอนิ ทรยี แ์ ละอนนิ ทรยี ์ การตรงึ ไนโตรเจน การยอ่ ยสลาย
สารเคมี ฯลฯ ซง่ึ สง่ ผลตอ่ การเปลยี่ นแปลงสมบตั ติ า่ งๆ

ของดิน ช่วยให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์ และ
สภาพแวดลอ้ มในดนิ เกิดสมดุล

30 ความรู้เรือ่ งดินส�ำหรบั เยาวชน

ธาตอุ าหารพชื ในดนิ ภาค 1 ความหมายและความสำ� คัญของดนิ

Hน2�้ำO ออกOซ2เิ จน ภาค 2 เรียนรู้เร่อื ง...ดนิ
คาร์บอนCไOดอ2 อกไซด์

ธาตอุ าหารรอง ธาตอุ าหารหลัก ภาค 3 แหล่งขอ้ มลู ...ดนิ

Ca Mg S NPK

จุลธาตุ

B Zn Fe Cu Mn Mo Cl Ni

ความรู้เรื่องดินส�ำหรับเยาวชน 31

ธาตุอาหารท่จี �ำเป็นตอ่ การเจรญิ เตบิ โต ออกดอก ออกผล ของพืช ที่เป็นทยี่ อมรับโดยท่ัวไป
มอี ยู่ 17 ธาตุ โดยแบ่งออกเปน็ 2 กลุ่ม ไดแ้ ก่ มหธาตุ และจลุ ธาตุ

1. มหธาตุ (Macronutrients)

มหธาตหุ มายถงึ ธาตอุ าหารทพี่ ชื ตอ้ งการใชใ้ น
ปรมิ าณมาก มอี ยู่ 9 ธาตุ ไดแ้ ก่ คาร์บอน (C) ไฮโดรเจน (H)
ออกซเิ จน (O) ไนโตรเจน (N) ฟอสฟอรัส (P) โพแทสเซยี ม (K)
แคลเซียม (Ca) แมกนีเซียม (Mg) และกำ� มะถนั (S)

สำ� หรบั สามธาตแุ รก คอื คารบ์ อน (C)
ไฮโดรเจน (H) ออกซิเจน (O) ส่วนใหญ่พืช
ได้มาจากอากาศและน�้ำ ส่วนไนโตรเจน (N)
ฟอสฟอรัส (P) โพแทสเซียม (K) เรยี กรวมกนั วา่
ธาตุอาหารหลัก หรือ ธาตุปุ๋ย เนือ่ งจากพืชตอ้ งการ
ใชใ้ นปรมิ าณมาก แตใ่ นดนิ มกั จะมปี รมิ าณไมเ่ พยี งพอ การใช้ป๋ยุ อนิ ทรยี แ์ ละปยุ๋ อนินทรยี ข์ องพชื
ต้องเพิ่มเติมให้ในรูปของปุ๋ยชนิดต่างๆ ส�ำหรับแคลเซียม (Ca) แมกนีเซียม (Mg) และก�ำมะถัน (S)
รวมเรยี กว่า ธาตอุ าหารรอง เพราะจะไม่คอ่ ยมปี ัญหาขาดแคลนในดนิ ทว่ั ๆ ไป และโดยปกตเิ มอื่ มกี าร
ใสป่ ๋ยุ N-P-K ลงไปในดนิ มักจะมีธาตเุ หลา่ นี้ปนลงไปด้วยเสมอ

2. จุลธาตุ หรือ ธาตุอาหารเสริม
(Micronutrients)

จุลธาตุหรือธาตุอาหารท่ีพืชต้องการใช้ในปริมาณน้อย
มอี ยู่ 8 ธาตุ ไดแ้ ก่ เหล็ก (Fe) แมงกานสี (Mn) โบรอน (B) โมลิบดินมั (Mo)
ทองแดง (Cu) สงั กะสี (Zn) คลอรนี (Cl) และนกิ เกลิ (Ni)
อยา่ งไรกต็ ามไมว่ า่ จะเปน็ ธาตอุ าหารในกลมุ่ มหธาตหุ รอื จลุ ธาตุ ตา่ งกม็ คี วามสำ� คญั และ
จ�ำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืชไม่น้อยไปกว่ากัน เพราะความจริงแล้วธาตุทุกธาตุมีความส�ำคัญ
ตอ่ การดำ� รงชพี ของพชื เทา่ ๆ กนั จะตา่ งกนั แตเ่ พยี งปรมิ าณทพี่ ชื ตอ้ งการเทา่ นนั้ ดงั นน้ั พชื จงึ ขาดธาตุ
ใดธาตุหนึ่งไม่ได้ หากพืชขาดธาตุอาหารท่ีจ�ำเป็นแม้แต่เพียงธาตุเดียวพืชจะหยุดการเจริญเติบโต
แคระแกร็น ไม่ใหผ้ ลผลติ และตายในทสี่ ดุ

32 ความร้เู รอื่ งดนิ สำ� หรับเยาวชน

หน้าทข่ี องธาตอุ าหารพชื ในดิน ภาค 1 ความหมายและความสำ� คัญของดนิ

ธาตุอาหารพืชแต่ละชนิดมีความส�ำคัญต่อการเจริญเติบโตของพืชแตกต่างกันไป และถ้า
พืชได้รบั ธาตอุ าหารไม่เพียงพอต่อความต้องการ กจ็ ะแสดงอาการทแี่ ตกต่างกนั ตามแตช่ นดิ ของธาตุ
อาหารท่ขี าดแคลนนน้ั

ไนโตรเจน มีหน้าที่เป็นส่วนประกอบของโปรตีน ช่วยให้พืชมี ภาค 2 เรียนรู้เร่อื ง...ดนิ

สเี ขยี ว เรง่ การเจรญิ เตบิ โตทางใบ หากพชื ขาดธาตนุ จ้ี ะแสดงอาการ
อาการขาดธาตุไนโตรเจน ใบเหลอื ง ใบมขี นาดเล็กลง ลำ� ต้นแคระแกร็นและใหผ้ ลผลติ ตำ่�

ฟอสฟอรัส มีหน้าท่ีช่วยเร่งการเจริญเติบโตและการแพร่กระจาย

ของราก ควบคุมการออกดอก ออกผล และการสร้างเมล็ด ถา้ พชื ขาด
ธาตนุ ร้ี ะบบรากจะไมเ่ จรญิ เตบิ โต ใบแกจ่ ะเปลย่ี นจากสเี ขยี วเปน็ สมี ว่ ง
แล้วกลายเปน็ สีน�้ำตาลและหลดุ ร่วง ล�ำตน้ แกร็นไมผ่ ลิดอกออกผล อาการขาดธาตฟุ อสฟอรสั

อาการขาดธาตุโพแทสเซียม โพแทสเซียม เปน็ ธาตุท่ีช่วยในการสังเคราะหน์ �ำ้ ตาล แปง้ และ

โปรตีน ส่งเสริมการเคลื่อนย้ายน�้ำตาลจากใบไปสู่ผล ช่วยให้ผล
เตบิ โตเร็วและมีคุณภาพดี ชว่ ยใหพ้ ชื แข็งแรง ตา้ นทานต่อโรคและ
แมลงบางชนดิ ถา้ ขาดธาตนุ พ้ี ชื จะไมแ่ ขง็ แรง ลำ� ตน้ ออ่ นแอ ผลผลติ
ไม่เติบโต มคี ุณภาพต�่ำ สีไมส่ วย รสชาตไิ มด่ ี

แคลเซียม เป็นองค์ประกอบที่ช่วยในการแบ่งเซลล์ การผสมเกสร ภาค 3 แหล่งขอ้ มลู ...ดนิ

การงอกของเมลด็ พชื ขาดธาตนุ ใี้ บทผ่ี ลอิ อกมาใหมจ่ ะหงกิ งอ ตายอด
ไมเ่ จริญ อาจมีจดุ ด�ำทีเ่ ส้นใบ รากสั้น ผลแตก และมคี ุณภาพไมด่ ี อาการขาดธาตแุ คลเซยี ม

อาการขาดธาตนุ กิ เกิล นกิ เกลิ เปน็ ธาตทุ มี่ คี วามสำ� คญั ตอ่ เอนไซมย์ เู รส (urease) โดยทำ� หนา้ ที่

ช่วยปลดปล่อยไนโตรเจนให้อยู่ในรูปที่พืชน�ำไปใช้ได้ นอกจากนี้
ยงั จำ� เปน็ ตอ่ กระบวนการดดู ซบั ธาตเุ หลก็ ชว่ ยในกระบวนการงอกของเมลด็
หากนเิ กลิ ไม่เพียงพอต่อความต้องการ พืชอาจไมใ่ หผ้ ลผลิตเต็มที่

ความรเู้ ร่ืองดนิ ส�ำหรบั เยาวชน 33

อาการขาดธาตแุ มกนเี ซียม แมกนีเซียม เป็นองค์ประกอบส�ำคัญของคลอโรฟิลล์ ช่วย

สงั เคราะหก์ รดอะมโิ น วติ ามนิ ไขมนั และนำ้� ตาล ทำ� ใหส้ ภาพกรดดา่ ง
ในเซลล์พอเหมาะและช่วยในการงอกของเมล็ด ถ้าขาดธาตุนี้
ใบแกจ่ ะเหลือง ยกเว้นเสน้ ใบ และใบจะร่วงหล่นเร็ว

กำ� มะถนั เปน็ องคป์ ระกอบสำ� คญั ของกรดอะมโิ น โปรตนี และวติ ามนิ อาการขาดธาตกุ �ำมะถนั

ถา้ ขาดธาตนุ ีท้ งั้ ใบบนและใบล่างจะมีสีเหลอื งซีด และตน้ ออ่ นแอ

อาการขาดธาตโุ บรอน โบรอน ช่วยในการออกดอกและการผสมเกสร มีบทบาทส�ำคัญ

ในการตดิ ผลและการเคลอื่ นยา้ ยนำ้� ตาลมาสผู่ ล การเคลอ่ื นยา้ ยของ
ฮอรโ์ มน การใชป้ ระโยชน์จากไนโตรเจนและการแบง่ เซลล์ ถ้าพืช
ขาดธาตุน้ี ตายอดจะตายแล้วเริ่มมีตาข้าง แต่ตาข้างก็จะตายอีก
ลำ� ตน้ ไมค่ อ่ ยยดื ตัว กิง่ และใบจึงชิดกนั ใบเล็ก หนา โคง้ และเปราะ

ทองแดง ชว่ ยในการสงั เคราะหค์ ลอโรฟิลล์ การหายใจ การใช้ อาการขาดธาตุทองแดง

โปรตีนและแป้ง กระตุ้นการท�ำงานของเอนไซม์บางชนิด ถ้า
พืชขาดธาตุน้ี ตายอดจะชะงักการเจริญเติบโตและกลายเป็น
สดี ำ� ใบอ่อนเหลอื ง และพชื ทั้งต้นจะชะงักการเจริญเติบโต

อาการขาดธาตคุ ลอรนี คลอรนี มีบทบาทบางประการเกยี่ วกบั ฮอรโ์ มนในพชื ถ้าขาดธาตนุ ี้

พชื จะเห่ยี วง่าย ใบสีซีด และบางส่วนแหง้ ตาย

เหล็ก ช่วยในการสังเคราะห์คลอโรฟิลล์ มีบทบาทส�ำคัญในการ อาการขาดธาตุเหลก็

สงั เคราะหแ์ สงและหายใจ ถ้าขาดธาตุนใี้ บออ่ นจะมีสีขาวซดี ในขณะ
ทใี่ บแกย่ งั เขยี วสด

34 ความรู้เร่อื งดนิ ส�ำหรับเยาวชน

อาการขาดธาตแุ มงกานีส แมงกานสี ชว่ ยในการสงั เคราะหแ์ สงและการทำ� งานของเอนไซม์ ภาค 1 ความหมายและความสำ� คัญของดนิ

บางชนิด ถ้าพืชขาดธาตุนี้ใบอ่อนจะมีสีเหลืองในขณะท่ีเส้นใบ
ยงั เขียว ตอ่ มาใบท่ีมีอาการดังกลา่ วจะเหี่ยวแลว้ ร่วงหลน่

โมลบิ ดนิ มั ชว่ ยใหพ้ ชื ใชไ้ นโตรเจนใหเ้ ปน็ ประโยชนแ์ ละเกยี่ วขอ้ งกบั
การสงั เคราะหโ์ ปรตนี ถา้ ขาดธาตนุ พ้ี ชื จะมอี าการคลา้ ยขาดไนโตรเจน
ใบมลี ักษณะโคง้ คลา้ ยถว้ ย ปรากฏจุดเหลืองๆ ตามแผน่ ใบ
อาการขาดธาตโุ มลิบดินมั

อาการขาดธาตุสังกะสี สังกะสี ชว่ ยในการสงั เคราะหฮ์ อร์โมนออกซิน คลอโรฟลิ ล์ และ ภาค 2 เรียนรู้เร่อื ง...ดนิ

แป้ง ถ้าขาดธาตุนี้ใบอ่อนจะมีสีเหลืองซีดและปรากฏสีขาวๆ
ประปรายตามแผ่นใบ โดยเสน้ ใบยงั เขยี ว รากสนั้ ไมเ่ จรญิ ตามปกติ

เมือ่ มกี ารปลูกพชื ลงบนดิน ย่อมมกี ารเปลี่ยนแปลง ภาค 3 แหล่งขอ้ มลู ...ดนิ
ปริมาณของธาตอุ าหารต่างๆ ท่ีมีอยู่ในดิน เนอ่ื งจากในขณะท่ี
พืชมีการเจริญเติบโต พืชจะดูดดึงธาตุอาหารในดินไปใช้และ
เกบ็ สะสมไว้ในสว่ นตา่ งๆ ได้แก่ ใบ ล�ำตน้ ดอก ผล จนถงึ เวลา
เก็บเก่ียวผลผลิตและน�ำออกไปจากพื้นที่ ธาตุอาหารที่สะสม
อยู่เหล่านั้นย่อมถูกน�ำออกไปจากพื้นท่ีด้วย นอกจากนี้
ธาตุอาหารบางส่วนยังเกิดการสูญหายไปในรูปแก๊ส ถูกดิน
หรอื สารประกอบในดนิ จบั ยดึ ไว้ บางสว่ นถกู ชะลา้ งออกไปจาก
บริเวณรากพืช หรือสูญเสียไปกับการชะล้างพังทลายของดิน
ดังน้ันการเพาะปลูกพืชติดต่อกันเป็นระยะเวลายาวนาน
โดยไม่มีการเติมธาตุอาหารลงไปในดิน ย่อมท�ำให้ความ
อุดมสมบูรณ์ของดินลดลง และในที่สุดพืชจะไม่สามารถ
เจรญิ เติบโตบนดินนน้ั ได้อกี ตอ่ ไป ในการปลกู พืชจงึ ตอ้ งมีการ
ใส่ปุ๋ยเพื่อบ�ำรุงดิน ช่วยเพิ่มธาตุอาหารพืชและคงระดับ
ความอุดมสมบูรณข์ องดนิ ไวอ้ ยเู่ สมอ

ความรู้เรอ่ื งดนิ สำ� หรับเยาวชน 35

36 ความรูเ้ รอื่ งดินสำ� หรบั เยาวชน

ภาค 2 ภาค 1 ความหมายและความสำ� คญั

ดงั ได้กล่าวแลว้ ว่า ดนิ มีความสำ� คัญต่อการด�ำรงชีพของมนุษย์ ภาค 2 เรยี นรู้เร่อื ง...ดนิ
พืชและสัตว์ เพราะดินเป็นแหล่งท่ีมาของปัจจัยส�ำคัญ ทั้งท่ีอยู่อาศัย
อาหาร ยารักษาโรค เคร่ืองนุ่งห่ม และพลังงาน ล้วนได้มาจากดิน ภาค 3 แหลง่ ขอ้ มูล...ดนิ
ทัง้ ทางตรงและทางออ้ ม
ในด้านเกษตรกรรม ดินเป็นทั้งที่ยึดเกาะและค้�ำจุนให้พืช
เจริญเติบโต และเป็นแหล่งของธาตุอาหารส�ำคัญท่ีพืชน�ำไปใช้ในการ
เจรญิ เตบิ โต ออกดอก ออกผล แต่เนอ่ื งจากดินแต่ละแหง่ มีลักษณะและ
สมบัติท่ีแตกต่างกัน ดังนั้นถ้าเรารู้จักดินมากข้ึน ก็น่าจะท�ำให้เราสามารถ
ใช้ประโยชนท์ ดี่ ินได้อย่างเหมาะสมและเกิดประโยชนย์ ง่ิ ขึ้นดว้ ย

ความรเู้ รื่องดินสำ� หรับเยาวชน 37

38 ความรูเ้ รอื่ งดินสำ� หรบั เยาวชน

การศกึ ษาเก่ยี วกบั ...ดนิ ภาค 1 ความหมายและความสำ� คญั

มนษุ ย์เร่มิ สนใจและศกึ ษาดินโดยคดิ วา่ ดนิ เป็น โดคุเชฟ (Vasily V. Dokuchaev) ภาค 2 เรยี นรู้เร่อื ง...ดนิ
แหล่งของธาตุอาหารซ่ึงเก่ียวข้องกับเจริญเติบโตของพืช บดิ าแห่งปฐพวี ทิ ยา
กันมาเป็นเวลานานแล้ว เร่ิมจากในทวีปยุโรป ต้ังแต่สมัย
อริสโตเตลิ เม่ือประมาณ 300 ปกี ่อนคริสตกาล ตอ่ มาภาย ภาค 3 แหลง่ ขอ้ มูล...ดนิ
หลังจึงเกิดแนวความคิดในการมองดินเป็นวัสดุตาม
ธรรมชาติท่ีแตกต่างไปจากวัสดุชนิดอ่ืนๆ และได้มีการ
ศึกษาดินกันอย่างจริงจังในเชิงวิทยาศาสตร์ เราเรียก
ผู้ที่ท�ำการศึกษาเก่ียวกับดินนี้ว่า “นักวิทยาศาสตร์
ทางดิน” (Soil scientist) หรอื “นกั ปฐพีวิทยา”

บุคคลที่ได้ชื่อว่าเป็นบิดาแห่งปฐพีวิทยา คือ
โดคุเชฟ (Vasily V. Dokuchaev) ชาวรสั เซีย ซง่ึ ได้สร้าง
ผลงานการศึกษาดิน Chernozems จนเป็นที่ยอมรับว่า
เปน็ ผลงานวทิ ยาศาสตรท์ างดา้ นปฐพีวทิ ยาจริงๆ เล่มแรก
ของโลก ตอ่ มาภายหลงั จงึ ไดม้ พี ฒั นาการของการศกึ ษาดนิ
ในทวีปอเมริกาขึ้นและเปิดโอกาสให้มีการศึกษาดินอย่าง
กวา้ งขวางในภมู ภิ าคตา่ งๆ ทง้ั ในดา้ นลกั ษณะของดนิ แตล่ ะ
ชนดิ และในดา้ นความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งดนิ และพชื มาจนถงึ
ปจั จุบัน

ความรเู้ รอ่ื งดนิ ส�ำหรบั เยาวชน 39

การศึกษาเก่ียวกับดินโดยเฉพาะทางด้านการเกษตรในปัจจุบัน ตกแต่งหน้าตดั ดนิ
ไดแ้ บ่งแนวทางการศกึ ษาออกเปน็ 2 แนวทาง คอื

1. ดา้ นปฐพวี ทิ ยาธรรมชาติ (Pedology)

มุ่งเน้นการศึกษาดินในสภาพท่ีเป็นวัตถุที่มีอยู่ตามสภาพ
ธรรมชาติ เพอ่ื เรยี นรสู้ มบตั ติ า่ งๆ ของดนิ ทงั้ สมบตั ภิ ายนอกและภายใน โดย
การศึกษาจะเน้นหนักไปทางด้านการเกิดดิน ปัจจัยต่างๆ ท่ีเก่ียวข้องกับ
การเกิดการสร้างตัวของดิน และการแจกแจงชนิดของดิน เพื่อน�ำมาจัด
หมวดหมู่ในระดับต่างๆ ตามระบบการจ�ำแนกดินที่ใช้ รวมถึงการจัดท�ำ
แผนทแ่ี สดงขอบเขตดนิ ของดนิ ชนดิ ตา่ งๆ ในทางภมู ศิ าสตรด์ ว้ ย ผทู้ ท่ี ำ� การ
ศึกษาดินในลักษณะนี้เราเรยี กวา่ “นักสำ� รวจดิน” (soil surveyor)

ศึกษาลักษณะของดิน

จดบนั ทกึ ข้อมลู ในสนาม เกบ็ ตัวอย่างหน้าตดั ดิน

2. ดา้ นปฐพีวทิ ยาสัมพันธ์ (Edaphology)

เปน็ การศึกษาดนิ ในดา้ นความสัมพันธ์ระหว่างดนิ กบั ส่ิงมีชีวิต โดยเฉพาะพชื เน้นหนกั
ในดา้ นสมบตั ติ า่ งๆ ของดนิ ทมี่ ผี ลตอ่ การใหผ้ ลผลติ ของพชื ไดแ้ ก่ ความอดุ มสมบรู ณข์ องดนิ และความ
สามารถของดนิ ทจี่ ะใหธ้ าตอุ าหารแกพ่ ชื รวมถงึ เคมี ฟสิ กิ ส์ แรว่ ทิ ยา และกจิ กรรมของจลุ นิ ทรยี ต์ า่ งๆ
ในดินที่จะก่อใหเ้ กิดประโยชน์ต่อพชื อกี ดว้ ย

หลกั ทว่ั ไปในการศกึ ษาดา้ นนค้ี อื การหาวธิ เี พมิ่ ผลผลติ พชื จากดนิ
และที่ดิน ศึกษาเก่ียวกับการใช้ปุ๋ย และการตอบสนองต่อธาตุอาหารในดิน
และการตอบสนองต่อปุ๋ยทใ่ี สล่ งในดิน เพอื่ ให้ดนิ สามารถเพ่ิมผลผลิตของพชื
ไดม้ ากขน้ึ

40 ความรู้เร่อื งดินส�ำหรบั เยาวชน

การศึกษาดิน...ในประเทศไทย ภาค 1 ความหมายและความสำ� คญั

การศึกษาดินในประเทศไทย ท้ังใน ภาค 2 เรยี นรู้เร่อื ง...ดนิ
ด้านปฐพีวทิ ยาธรรมชาติ (pedology) และดา้ น
ความสัมพันธ์กับพืช (edaphology) น้ัน ได้ยึดถือ ภาค 3 แหลง่ ขอ้ มูล...ดนิ
ววิ ฒั นาการทางวชิ าการของยโุ รปและสหรฐั อเมรกิ าเปน็ หลกั
ซึ่งเริ่มมากว่า 50 ปีแล้ว โดยมีหน่วยงานต่างๆ ในกระทรวง
เกษตรและสหกรณ์และองค์กรในมหาวิทยาลัยต่างๆ

ในประเทศ กับมีผู้เช่ียวชาญจากองค์กรระหว่างประเทศ
เข้ามาชว่ ยเหลอื โดยเฉพาะในสมยั แรกๆ

การศึกษาทั้งสองด้านที่ท�ำต่อเนื่องกันมาเร่ือยๆ น้ี
ท�ำให้มีข้อมูลและข้อสนเทศท่ีสามารถน�ำมาใช้ในการถ่ายทอด
เทคโนโลยที างการเกษตรท่เี กย่ี วขอ้ งกับดนิ มากมาย และผลจากการศึกษา
ท�ำใหม้ องเหน็ ปญั หาเกย่ี วกบั ดนิ และการใชท้ ด่ี นิ มากยิ่งข้นึ การน�ำข้อมลู ที่ได้จาก
การศกึ ษามาใชจ้ งึ ตอ้ งปรบั ใหเ้ ขา้ กบั วตั ถปุ ระสงคอ์ ยา่ งถกู ตอ้ ง ซง่ึ สว่ นใหญน่ นั้ จะขน้ึ
อยกู่ บั การรจู้ กั ชนดิ ของดนิ และการแจกกระจายของดนิ ในพน้ื ทตี่ า่ งๆ อยา่ งเปน็ ระบบ
ดังน้ัน การศึกษาให้รู้ถึงลักษณะดินและสภาพแวดล้อมต่างๆ ที่จะมีผลต่อ
การใช้ที่ดินจึงเป็นส่ิงจ�ำเป็น และเป็นวัตถุประสงค์อย่างหน่ึงที่ต้อง
ดำ� เนินการใหบ้ รรลถุ ึงเปา้ หมาย

ความรเู้ รื่องดินสำ� หรับเยาวชน 41

งานสข�ำอรงวปจรแะลเทะจศ�ำไแทนยกดิน

การสำ� รวจดนิ คือ การส�ำรวจหาข้อมลู ทางวทิ ยาศาสตร์ของดิน ตลอดจนสภาพแวดลอ้ ม
โดยวิธีการทางสนามและการวิเคราะห์ข้อมูลในห้องปฏิบัติการ เพ่ือให้ทราบถึงความคล้ายคลึงและ
ความแตกตา่ งของดนิ ในแตล่ ะพน้ื ที่ แลว้ นำ� มาบนั ทกึ ในรปู ของแผนทแี่ ละรายงาน ซงึ่ จะมรี ายละเอยี ด
เกี่ยวกับชนิดของดิน ขอบเขตและการแพร่กระจาย ลักษณะและสมบัติของดิน สภาพแวดล้อม
ของดนิ และมีการแปลความหมายของขอ้ มูลเหล่านั้น เพอื่ น�ำไปใช้ประโยชนต์ ามวัตถุประสงค์ เช่น
ด้านการเกษตร ป่าไม้ วิศวกรรม ชลประทาน ส่ิงแวดล้อม เศรษฐกิจ
สงั คม ภยั ธรรมชาตติ า่ งๆ ผทู้ ท่ี ำ� การสำ� รวจทำ� แผนทดี่ นิ หรอื นกั สำ� รวจดนิ
จะต้องมีความรู้ความเข้าใจอย่างดีในหลายสาขาวิชา โดยเฉพาะที่
เก่ยี วข้องกับปัจจยั ทค่ี วบคุมการเกดิ ดนิ กระบวนการที่เกี่ยวขอ้ ง ลกั ษณะ
และสมบัติของดิน ระบบที่ใช้ในการจ�ำแนกดิน รวมถึงกิจกรรมท่ีจะน�ำ
ผลงานสำ� รวจดินไปใช้

การสำ� รวจดนิ มกี ารดำ� เนนิ การหลายระดบั ตง้ั แตร่ ะดบั หยาบมากเพอื่ ศกึ ษาความเปน็ ไปได้
ของการพฒั นาพืน้ ท่ี จนถงึ ระดับละเอียด เพือ่ การปฏบิ ตั จิ รงิ ในไรน่ า และระดบั ละเอียดมากเพอ่ื การ
ศึกษาวิจัย ความหยาบหรือความละเอียดของการส�ำรวจดิน หมายถึง ความมากน้อย ความถ่ีห่าง
ของจำ� นวนจดุ ทต่ี อ้ งทำ� การตรวจสอบลกั ษณะและสมบตั ขิ องดนิ และการตรวจสอบความถกู ตอ้ งของ
เสน้ ขอบเขตที่ใชแ้ บ่งประเภทดนิ

การสำ� รวจจำ� แนกดนิ และการจดั ทำ� แผนทด่ี นิ ของประเทศไทย เรมิ่ ดำ� เนนิ การมาตง้ั แตก่ อ่ น
สงครามโลกครง้ั ท่ี 2 ประมาณปี พ.ศ. 2478 โดยมี Dr. R.L. Pendleton นักวทิ ยาศาสตรท์ างดนิ
และการเกษตรชาวอเมริกัน ซ่ึงเข้ามาปฏิบัติงานในฐานะท่ีปรึกษาของกรมกสิกรรมและประมง
ในสมัยนนั้ เปน็ ผูร้ เิ ร่ิม โดยมีนกั วิชาการฝ่ายไทย คอื ดร.สาโรช มนตระกลู และ ดร.เริม่ บูรณฤกษ์
เปน็ ผรู้ ว่ มงานอยา่ งใกลช้ ดิ ทำ� การสำ� รวจดนิ ในระดบั หยาบ โดยยดึ ถอื ระบบการสำ� รวจและจำ� แนกดนิ
ตามแบบของกระทรวงเกษตรสหรฐั อเมรกิ า (United States Department of Agriculture: USDA)
ปี 1938 หรือทีเ่ รยี กวา่ ระบบ USDA 1938 เปน็ หลัก

42 ความร้เู ร่ืองดินส�ำหรับเยาวชน

ปี พ.ศ. 2510 นักวิชาการทางดินของประเทศไทยได้น�ำระบบ “อนุกรมวิธานดิน” ภาค 1 ความหมายและความสำ� คญั
(Soil Taxonomy) เข้ามาใช้ในระบบการส�ำรวจและจ�ำแนกดินของประเทศ ซึ่งได้พิจารณาแล้ว
เห็นวา่ เปน็ ระบบท่ีเหมาะสมทจ่ี ะใช้เปน็ ระบบการจ�ำแนกดินในประเทศไทย จงึ ได้ท�ำการจัดจำ� แนก ภาค 2 เรยี นรู้เร่อื ง...ดนิ
ดินตามระบบอนุกรมวิธานดินนี้มาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งระบบจ�ำแนกดินอนุกรมวิธานนี้ แบ่งช้ันการ
จ�ำแนกดินออกเป็น 6 ข้นั คอื อันดับ (order) อนั ดบั ยอ่ ย (suborder) กลุม่ ดินใหญ่ (great
group) กลุ่มดนิ ยอ่ ย (subgroup) วงศ์ดิน (family) และชดุ ดนิ (series)

ชุดดิน

ชุดดิน เป็นข้ันการจ�ำแนกดินต�่ำสุดของระบบ ที่ใช้ลักษณะและสมบัติทางสัณฐาน

กายภาพ เคมี แร่ และจลุ สัณฐาน ท่มี ีความสำ� คญั ตอ่ การใชป้ ระโยชนท์ ด่ี ินและการจดั การดิน เช่น
การจดั เรียงตวั ของชนั้ ดนิ สีดิน เนอ้ื ดิน โครงสร้าง ความเป็นกรดเป็นด่าง แร่ในดนิ ซึ่งจะต้องอาศยั
การศึกษาดินในสนามและการวเิ คราะหด์ ินจากหอ้ งปฏิบตั ิการในการจำ� แนกดินด้วย

ชดุ ดนิ นครปฐม ชดุ ดนิ ก�ำแพงแสน ชดุ ดนิ หนองมด ภาค 3 แหลง่ ขอ้ มูล...ดนิ

การตงั้ ชอ่ื ชดุ ดนิ โดยทวั่ ไปมกั จะใชช้ อื่ ทอ้ งถนิ่ ของสถานทท่ี พ่ี บดนิ นน้ั เปน็ บรเิ วณกวา้ ง
พบคร้งั แรก หรอื เปน็ ชือ่ บริเวณทีร่ ูจ้ กั กันทัว่ ไป ไดแ้ ก่ ชอื่ จังหวัด อ�ำเภอ ต�ำบล เช่น ชดุ ดนิ นครปฐม

ชดุ ดนิ กำ� แพงแสน และชดุ ดนิ หนองมด ปจั จบุ นั มชี ดุ ดนิ ทเี่ ปน็ ตวั แทนทพ่ี บในพน้ื ทตี่ า่ งๆ ของประเทศ

มากกว่า 300 ชุดดิน

ความรเู้ รือ่ งดินสำ� หรับเยาวชน 43

ดงั นน้ั แผนที่ดินที่ไดจ้ ากการส�ำรวจจำ� แนกโดยนกั สำ� รวจดนิ จะทำ� ใหเ้ ราทราบว่า ชดุ ดิน
ต่าง ๆ น้ันมีกระจายอยู่บริเวณใดบ้าง และมีขอบเขตกว้างขวางมากน้อยเพียงใด อย่างไรก็ตาม
การที่มีช่ือดินจ�ำนวนมาก รวมท้ังมีรายละเอียดเก่ียวกับลักษณะและสมบัติของดินที่หลากหลาย
จงึ เปน็ การยากตอ่ ผใู้ ชแ้ ผนที่ ทไ่ี มค่ นุ้ เคยกบั ชอื่ ชดุ ดนิ และไมส่ ามารถจำ� รายละเอยี ดเกยี่ วกบั ลกั ษณะ
และสมบัติของชุดดินต่างๆ ได้ ดังนั้นการที่จะให้ผู้ใช้อื่นๆ เข้าใจข้อมูลการส�ำรวจดิน จึงจ�ำเป็นที่
นักส�ำรวจดินจะต้องแปลผลงานข้อมูลดินให้อยู่ในรูปท่ีใช้ประโยชน์ได้ง่าย เช่น การจ�ำแนกหรือ
จดั ชั้นความเหมาะสมของดินเพอ่ื การปลกู พชื พรอ้ มแผนที่แสดงความเหมาะสมของดิน

กรมพัฒนาท่ีดิน ได้เข้าใจถึงปัญหาในการใช้แผนที่ดินและข้อมูลดิน ดังนั้น ในปี 2530
จึงได้หาวธิ ี ท่ีจะจัดกลมุ่ ของชุดดนิ ข้นึ มา โดยใชห้ ลักเกณฑ์ในการรวมชดุ ดนิ ทม่ี ีลกั ษณะ สมบตั ิ และ
ศักยภาพในการเพาะปลกู รวมถึงการจดั การดนิ ท่คี ลา้ ยคลึงกัน มาไว้เป็นกลุม่ เดียวกนั จากชุดดินกว่า
300 ชุดดิน ได้จัดจำ� แนกใหมเ่ ปน็ 62 กล่มุ ชุดดนิ ดว้ ยกนั เพ่อื ประโยชน์ในการให้คำ� แนะนำ� การตรวจสอบ
ลกั ษณะดนิ การใช้ที่ดิน และการจัดการดินทเี่ หมาะสมใหแ้ กเ่ กษตรกร และผสู้ นใจท่วั ไป

กลุ่มชุดดิน

กลมุ่ ชดุ ดินทั้ง 62 กลุม่ นน้ั กล่มุ ชดุ ดินที่ 1-25 และกลมุ่ ชุดดินที่ 57-59 จดั เป็นกลมุ่ ชดุ ดนิ
ทพ่ี บในพ้ืนทลี่ มุ่ การระบายน�้ำของดินไมด่ ี มกั มนี ้�ำแช่ขังในฤดฝู น ไมเ่ หมาะสำ� หรบั เพาะปลกู พชื ไร่
ไม้ผล และไม้ยืนต้น ส่วนกลุ่มชุดดินที่ 26-56 และ 60-62 เป็นกลุ่มชุดดินที่พบในพื้นที่ดอน
รายละเอยี ดของแต่ละกลุม่ ชุดดนิ กล่าวโดยสรุปไดด้ งั นี้

1. กลุ่มชุดดนิ ในพน้ื ทล่ี มุ่

ดนิ ที่ลุ่ม หมายถึง ดินทีเ่ กดิ อย่ใู นบริเวณ

พนื้ ท่ตี ำ่� การระบายน้�ำของดินไมด่ ี สภาพพ้นื ท่รี าบเรยี บ
หรือค่อนข้างราบเรียบ มักจะมีน�้ำท่วมขังที่ผิวดินในฤดู
ฝน และมกั มีระดับน�ำ้ ใตด้ ินต้นื สว่ นใหญ่ใช้ประโยชนใ์ น
การท�ำนา เราจึงมกั เรยี กกนั ว่า ดินนา

44 ความรู้เรื่องดินสำ� หรบั เยาวชน


Click to View FlipBook Version