The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เอกภพเเละกาเล็กซี

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by bala-555, 2021-11-05 23:40:48

บทที่ 1 โลกในเอกภพ

เอกภพเเละกาเล็กซี

โดยหลงั จากน้นั NASA จึงไดส้ ่งดาวเทียมโค
บี (Cosmic Background Explorer : COBE)
และดาวเทียม Wilkinson Microwave Anisot
ropy Probe (WMAP) ข้ึนไปในอวกาศเพอ่ื
ตรวจวดั รังสีไมโครเวฟพ้ืนหลงั (cosmic mi
crowave background radiation) เรียกยอ่ ๆ
วา่ CMB หรือ CMBR ) ใหไ้ ดข้ อ้ มลู ที่มี

ความแม่นยาและละเอียดมากข้ึน

ดาวเทยี มโคบี (COBE) ได้ขนึ ้ ส่อู วกาศเมอ่ื วนั ท่ี 18 พฤศจกิ ายน ค.ศ.1989 (พ.ศ.2532)

จากการรวบรวมหลกั ฐานที่กลา่ วมา ทาให้นกั วทิ ยาศาสตร์ทราบวา่
รังสไี มโครเวฟพืน้ หลงั ที่ค้นพบมีการกระจายตวั อยา่ งสม่าเสมอในทกุ ทิศทกุ ทาง
ในอวกาศ และเม่ือนาข้อมลู รังสไี มโครเวฟพืน้ หลงั ที่ตรวจวดั ได้ไปคานวณ ทา
ให้ทราบวา่ ปัจจบุ นั เอกภพมีอณุ หภมู ิเฉลีย่ ประมาณ 2.73 เคลวิล และมี
แนวโน้มของอณุ หภมู ิที่ลดลงเร่ือย ๆ เม่ือเทียบกบั ปัจจบุ นั ซ่ึงสอดคล้องกบั
ขนาดของเอกภพท่ีมีแนวโน้มเพม่ิ ขนึ ้ เนื่องจากเอกภพยงั คงขยายตวั ตอ่ ไป

หมายเหตุ : 1 เคลวนิ = -272.15 เซลเซียส ถา้ อณุ หภมู ิเฉล่ียประมาณ 2.73 เคลวลิ เท่ากบั -270.42 เซลเซียส







ระยะทางส้ันสุด ความเร็วในการถอยห่างนอ้ ย
สุด

ระยะทางไกลสุด ความเร็วในการถอยห่าง
มากสุด

หมายเหตุ.

1. ผลต่างของระยะทาง คือ
ระยะเป่ าคร้ังที่ 2- ระยะเป่ าคร้ังที่ 1

2. ความเร็วในการเคลื่อนท่ี คือ
ผลต่างของระยะทาง (เซนติเมตร)/5 (วินาที)

ตารางกราฟ

สรุปผลกำรทดลอง

จากกราฟ พบวา่ ความเร็วในการเคลื่อนท่ีของกาแลก็ ซีจาลองต่าง ๆ บนผวิ ลูกโป่ งแปรผนั ตรงกบั
ระยะทางระหวา่ งกาแลก็ ซีอา้ งอิงและกาแลก็ ซีจาลองอื่น ๆ โดยความเร็วในการเคล่ือนที่ของกาแลก็ ซีจาลองท่ี
อยใู่ กลจ้ ะมีความเร็วนอ้ ยกวา่ กาแลก็ ซีจาลองท่ีอยไู่ กล

คาถาม1. ในการเป่ าลกู โป่ งคร้ังที่ 2 ระยะทางบนผวิ ลูกโป่ งระหวา่ งกาแลก็ ซีจาลองกบั กาแลก็ ซีอา้ งอิงมี

การเปลี่ยนแปลงอยา่ งไร

ตอบ ระยะทางระหวา่ งกาแลก็ ซีจาลองกบั กาแลก็ ซีอา้ งอิงในการเป่ าคร้ังท่ี 1 นอ้ ยกวา่ ระยะทาง
ระหวา่ งกาแลก็ ซีจาลองกบั กาแลก็ ซีอา้ งอิงในการเป่ าคร้ังท่ี 2

2. ความเร็วในการเคลื่อนท่ีของกาแลก็ ซีจาลองแต่ละกาแลก็ ซีเหมือนหรือต่างกนั อยา่ งไร
ตอบ กาแลก็ ซีจาลองเคล่ือนท่ีดว้ ยความเร็วแตกต่างกนั โดยกาแลก็ ซีจาลองท่ีอยใู่ กลจ้ ะเคลื่อนที่เร็ว
นอ้ ยกวา่ กาแลก็ ซีจาลองที่อยไู่ กล
3. กาแลก็ ซีจาลองใดเคลื่อนท่ีเร็วท่ีสุดและกาแลก็ ซีน้นั อยหู่ ่างจากกาแลก็ ซีอา้ งอิงเป็นอยา่ งไรเม่ือ
เทียบกบั กาแลก็ ซีอ่ืน
ตอบ กาแลก็ ซี จ และอยหู่ ่างจากกาแลก็ ซีอา้ งอิงมากท่ีสุด

4. กาแลก็ ซีจาลองใดเคลื่อนท่ีชา้ ที่สุดและกาแลก็ ซีน้นั อยหู่ ่างจากกาแลก็ ซีอา้ งอิงเป็นอยา่ งไร
เมื่อเทียบกบั กาแลก็ ซีอื่น

ตอบ กาแลก็ ซี ข และอยหู่ ่างจากกาแลก็ ซีอา้ งอิงนอ้ ยที่สุด
5. ระยะทางต้งั ตน้ มีความสมั พนั ธ์กบั ความเร็วในการเคลื่อนท่ีของกาแลก็ ซีจาลองอยา่ งไร
ตอบ ระยะทางของกาแลก็ ซีจาลองท่ีอยหู่ ่างจากกาแลก็ ซีอา้ งอิงแปรผนั ตรงกบั ความเร็วในการ
เคลื่อนท่ีของกาแลก็ ซีจาลองต่าง ๆ

6.การขยายตวั ของลกู โป่ งกบั การขยายตวั ของเอกภพเหมือนกนั หรือต่างกนั อยา่ งไร
ตอบ การขยายตวั ของลูกโป่ งเปรียบเสมือนการขยายตวั ของเอกภพ โดยกาแลก็ ซีกาาลงั
เคลื่อนท่ีออกจากกนั ซ่ึงกาแลก็ ซีท่ีอยไู่ กลจะมีความเร็วในการเคล่ือนท่ีมากกวา่ กาแลก็ ซีที่อยู่
ใกล

ระยะทำงในทำงดำรำศำสตร์

1 AU คอื ระยะทำงเฉลย่ี จำกโลกถึงดวงอำทติ ย์

= 1.496x108 km
= 4.848x10-6 pc

1 Light=-1y.e58a1rx1(0ly-5)lyคอื ระยะทำงท่แี สงเดินทำงได้ในเวลำ 1 ปี

= 9.461x1012 km
= 0.307 pc
= 6.324x104 ly

1 parsec (pc) คอื ระยะทำงทหี่ ่ำงจำกโลกแล้วทำให้ดำวเกดิ มุมพำรัลแลกซ์เท่ำกบั 1
ฟิ ลปิ ดำ ขณะทโ่ี ลกโคจรรอบดวงอำทติ ย์

= 3.086x1013 km
= 206264.8 Au
= 3.262 ly

 6จา7ก.ค8า่ คงkทMm่ขี อpง/ฮcsบั เบลิ

ตวั อยา่ ง Time)
1. จงคานวณอายุของเอกภพโดยประมาณ(Hubble

จากสูตร 1 1Mpc
0 67.8km
Hubble Time =  s

กาหนดให้ H0=67.8 kms-1Mpc-1 110 6  3.086 1013k m 
Hubble  Time  1 67.8km
H0 

1 3.086 1019km s
 km/ s  67.8km
67.8 Mpc  

 1Mpc  0.04552 1019 s
67.8km s

 1106  3.086 1013km s  4.552 1017 s
67.8k m

3.086 1019km s

แปลงค่ำ s ให้เป็ น ปี จะได้

ตวั อย่างท่ี 1.
1. กาแลก็ ซีแอดรอเมดามีระยะหา่ งจากกาแลก็ ซีทาง
ช้างเผือก 2,600 ล้านปี แสงหรือ 0.8 Mpc หากคา่ คง
ตวั ฮบั เบิลมีคา่ 70 kms-1 Mpc-1พืน้ ท่ีวา่ งระหว่างกาแลก็ ซี
ทางช้างเผือกกบั กาแลก็ ซี่แอนดราอเมดากาลงั ขยายตวั
ด้วยความเร็วเทา่ ใด

ตวั อยา่ งท่ี 2
2. นกั ดาราศาสตร์พบกาแลก็ ซีใหมก่ าแลก็ ซหี นง่ึ ซงึ่ จาก
การตรวจวดั และคานวณความเร็วในการเคล่อื นท่ีออกจาก
โลก ได้คา่ 1,190 kms-1 จงหาวา่ กาแลก็ ซีนีอ้ ยหู่ า่ งจากโลก

เป็นระยะทางเทา่ ใด

3. นกั เอกภพวทิ ยาไดค้ น้ พบกาแลก็ ซ่ีแห่งหน่ึง และตรวจ
พบวา่ สเปกตรัมของกาแลก็ ซ่ีน้นั มีความเร็วเท่ากบั 678 k
m s-1 จงหาวา่ กาแลก็ ซีน้ีอยหู่ ่างจากโลกเป็นระยะทาง
เท่าใด (กาหนดให้ H0 = 67.8 km s-1 Mpc-1)

หลักฐานท่ี 1 : การขยายตัวของเอกภพ

ผู้ค้นพบคือ เอ็ดวิน พี ฮบั เบลิ นกั ดาราศาสตร์ชาวอเมริกัน
คน้ พบกาแล็กซีจ่ ะเคลอื่ นทีไ่ กลออกไปด้วยความเร็วเพิม่ ข้นึ ตามระยะทาง
กาแล็กซที อ่ี ยู่ไกลเคล่ือนทหี่ ่าง ออกไปเรว็ กวา่ กาแล็กซที ่ีอยใู่ กล้

 ทาให้คานวณอายุของเอกภพได้

หลกั ฐานที่ 2 : ไมโครเวฟพน้ื หลงั จากอวกาศ

 ปัจจุบนั อุณหภมู ิพ้ืนหลงั เหลือ 2.73 เคลวนิ หรือประมาณ -270 องศาเซลเซียส

 การคน้ พบโดยนกั วทิ ยาศาสตร์ชาวอเมริกนั อาร์โน เพนเซียส (Arno Penzias)และ รอเบิร์ต วลิ สนั (Ro
bert Wilson)

 โรเบริ ์ต ดกิ กี พ.ี เจ.อี.พเี บิลส์ เดวิด โรลล์ และเดวดิ วิลคินสัน ได้ทำนำยว่ำกำรแผ่รังสีจำก บกิ แบง
ทเ่ี หลอื อยู่น่ำจะตรวจสอบได้โดยกล้องโทรทรรศน์วทิ ยุ

แบบฝึ กหดั

1. นาคาหรือขอ้ ความที่กาหนด มาเติมในช่องวา่ งใหส้ อดคลอ้ งกบั กระบวนการที่เกิดข้ึนระหวา่ ง
ววิ ฒั นาการของเอกภพ และเรียงลาดบั กระบวนการดงั กลา่ วตามลาดบั ววิ ฒั นาการของเอกภพ

อะตอมของไฮโดรเจนและฮีเลียม นิวเคลียสของฮีเลียม พลงั งาน
โปรตอนและนิวตรอน กาแลก็ ซีรุ่นแรก

1. .........เกิดจากโปรตอนและนิวตรอนรวมตวั กนั
2. ……….เกิดจากอนุภาคและปฏิอนุภาครวมตวั กนั
3. …………เกิดจากควาร์กบางชนิดรวมตวั กนั
4. …………เกิดจากธาตุไฮโดรเจนและฮีเลียมรวมกนั
5. ……......เกิดจากนิวเคลียสของไฮโดรเจนและฮีเลียมรวม
สามารถจดั ลาดบั กระบวนการตามววิ ฒั นาการของเอกภพ ไดด้ งั น้ี ……………

2. จงทาเคร่ืองหมาย (/) หนา้ ขอ้ ความที่ถกู และทาเครื่องหมาย (X) หนา้ ขอ้ ความท่ีผดิ

……. 1. กาแลก็ ซีกาเนิดมาพร้อมกบั เอกภพ

………. 2. อุณหภมู ิของเอกภพจะลดลง หลงั จากกาเนิดของเอกภพ
………. 3. ในช่วง 10-32 วินาทีหลงั บิกแบง เอกภพมีแต่อะตอมของ

ไฮโดรเจนและฮีเลียม
………. 4. ไมโครเวฟพ้นื หลงั เป็นคล่ืนแม่เหลก็ ไฟฟ้ าที่หลงเหลืออยู่
จากการกาเนิดเอกภพ

………. 5. อุณหภมู ิของไมโครเวฟพ้นื หลงั จากอวกาศท่ีพบในปัจจุบนั
สอดคลอ้ งกบั อุณหภมู ิของเอกภพในช่วง 300,000 ปี ซ่ึงเป็นไปตาม

ทฤษฎีบิกแบง

………. 6. ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งความเร็วในการเคล่ือนที่ของ
กาแลก็ ซีออกจากผสู้ ังเกตกบั ระยะทางของกาแลก็ ซีกบั ผสู้ ังเกตเป็น

หลกั ฐานหน่ึงที่สนบั สนุนทฤษฎีบิกแบง
………. 7. ปัจจุบนั เอกภพมีอุณหภูมิเฉล่ียประมาณ 2.73 เคลวนิ
………. 8. กาแลก็ ซีรุ่นแรกเกิดจากการรวมตวั กนั ของธาตุไฮโดรเจน
และฮีเลียมท่ีเกิดจากบิกแบง

2. กาแลก็ ซี(Galaxy)

 กำแลก็ ซี (Galaxy) ราชบณั ฑิตยสถานบญั ญตั ิเรียกวา่ ดาราจกั ร คาวา่
กาแลก็ ซี มาจากคาภาษากรีก หมายความวา่ ทางน้านม

 กำแลก็ ซี (galaxy) หรือ ดาราจกั ร คือ กลุ่มของดาวฤกษน์ บั แสนลา้ น
ดวง รวมถึงเนบิวลาและสสารระหว่างดวงดาวท่ีประกอบดว้ ยแก๊ส ฝ่ ุน และ
สสารมืด รวมกันอยู่ด้วยแรงโน้มถ่วง กาแล็กซีมีขนาดแตกต่างกันต้ังแต่
กาแลก็ ซีแคระที่มีดาวฤกษป์ ระมาณสิบลา้ นดวง ไปจนถึงกาแลก็ ซีขนาดยกั ษท์ ่ี
มีดาวฤกษถ์ ึงลา้ นลา้ นดวง ในกาแลก็ ซีหน่ึง ๆ จะประกอบดว้ ยระบบดาวฤกษ์
กระจุกดาว เนบิวลา และสสารระหวา่ งดวงดาว ซ่ึงดวงอาทิตยเ์ ป็ นดาวฤกษด์ วง
หน่ึงในกาแลก็ ซีทางชา้ งเผอื กและเป็นศนู ยก์ ลางของระบบสุริยะ



ในคืนเดือนมืดทอ้ งฟ้ า
ปลอดโปร่งแจ่มใสปราศจากแสง

รบกวนและเมฆหมอก ถา้ มองดู

ดวงดาวบนทอ้ งฟ้ าอาจเห็นแถบสีขาว
สลวั มีลกั ษณะเป็นทางสีขาวสวา่ งจาง
พาดไปท่ามกลางดวงดาวบนทอ้ งฟ้ า
เรียกทางสีขาวสลวั น้นั วา่ ทำง
ช้ำงเผอื ก ซ่ึงชื่อที่เรียกน้นั อาจแตกต่าง
กนั ตามนิยายหรือคตินิยมแตล่ ะชาติ

จนี และญ่ปี ่นุ จะเรยี ก แม่น้า
สวรรค์ และแม่น้าสเี งนิ

- กล่มุ ประเทศยุโรปเหนือ
จะเรียกวา่ ทำงววั ขำว ถนน

ฤดูหนำว
- ประเทศในกล่มุ เอเชีย
กลำงและแอฟริกำ จะเรียกวา่

ทำงฟำงข้ำว
- ประเทศแถบยโุ รป จะ
เรียกวา่ ทำงนกบนิ

ทำงช้ำงเผอื ก และคลองฟ้ ำ

ชื่อที่คนไทยเราทุกคนคุน้ เคยดี
คาวา่ ช้ำงเผอื ก คือ ชา้ งคู่บารมีของ
พระมหากษตั ริย์ ซ่ึงคนไทยสมยั ก่อนเชื่อวา่
มาจากสวรรคช์ ้นั ดาวดึงส์ บรรพบุรุษของ
เรา จึงเรียก รอยสีขำวทพี่ ำดผ่ำนท้องฟ้ ำใน
ฤดูหนำวว่ำ ทำงช้ำงเผอื ก ซ่ึงกเ็ ปรียบ
เหมือนกบั เสน้ ทางที่เหล่าชา้ งเผอื กเดินทาง
มาสู่โลกมนุษยเ์ พ่ือเป็นชา้ งคู่บารมีขอ
แต่บางบนั ทกึ พบวา่ เมอ่ื ก่อนคนไทยเราเรยี กทางชา้ งเผอื กวา่ “คลองฟ้า” หรอื “คลอพงรชะา้ งม”หหากรอษื ตั“คริลยนอ์ งน่ั ชเา้องเงผอื ก”

คาวา่ ทางชา้ งเผอื กน้เี พง่ิ มใี ชท้ หี ลงั

ประเภทกำแลก็ ซี

เอด็ วิน พาวเวล ฮบั เบิล ไดจ้ ดั แบ่งประเภทของกาแลก็ ซีตามรูปร่างของ
กาแลก็ ซี เรียกวา่ ลาดบั ฮบั เบิลหรือ สอ้ มเสียงของฮบั เบิล (Hubble turn
ing fork) โดยแบ่งออกเป็นประเภทต่าง ๆ ดงั น้ี

แผนภาพสอ้ มเสียง
(Hubble
Tuning Fork)

กาแลก็ ซปี กติ แบ่งออกเป็น 3 กลมุ่ ยอ่ ย ไดแ้ ก่

1. กาแลก็ ซีรี (elliptical galaxy) เป็นกาแลก็ ซที เ่ี ป็นรูปทรงรี ใชส้ ญั ลกั ษณ์ E
แบง่ ย่อยได้ 8 แบบ ตงั้ แต่ E0 - E7 โดย

E0 มีความรีนอ้ ยท่ีสุด และ E7 มีความรีมากท่ีสุด

กาแลก็ ซี Messier 87

กาแลก็ ซMี essier 59

กาแลก็ ซีMessier 59

2. กำแลก็ ซีกงั หัน หรือ กำแลก็ ซีก้นหอย (spiral galaxy) ใช้
สญั ลกั ษณ์ S แบ่งได้ 2 ประเภทไดแ้ ก่

2.1 กาแลก็ ซีกงั หนั ธรรมดา แบง่ ย่อยเป็น 3 แบบ
กาแลก็ ซกี งั หนั Sa มสี ่วนป่องหนาแน่น แขนไม่ชดั เจน,
กาแลก็ ซกี งั หนั Sb มสี ว่ นป่องใหญ่ แขนยาวปานกลาง,
กาแลก็ ซกี งั หนั Sc มสี ว่ นป่องเลก็ แขนยาว
กาแลก็ ซแี อนดรอเมดา เป็นกาแลก็ ซชี นดิ Sb

M81

NGC 5457

กาแลก็ ซแี อนดรอเมดา

2.2 กำแลก็ ซีกงั หันแบบมีคำน ใชส้ ญั ลกั ษณ์ SB แบ่งยอ่ ยเป็น 3 แบบ

1. กาแลก็ ซีกงั หนั บาร์ SBa มีส่วนป่ องใหญ่ไม่เห็นคานไม่ชดั เจน,
2. กาแลก็ ซีกงั หนั บาร์ SBb มีส่วนป่ องขนาดกลาง เห็นคานไดช้ ดั เจน,
3. กาแลก็ ซีกงั หนั บาร์ SBc มีส่วนป่ องเลก็ มองเห็นคานยาวชดั เจน

กำแลก็ ซีทำงช้ำงเผอื ก

3) กำแลก็ ซีเลนส์ (Lenticular Gal

axy)
สาหรับกาแลก็ ซีเลนส์เป็นกาแลก็ ซี

ท่ีมีลกั ษณะคลา้ ยกบั ท้งั กาแลก็ ซีรีและกาแลก็ ซี
กงั หนั กลา่ วคือมีลกั ษณะเป็นกระเปาะตรง
กลางกาแลก็ ซีคลา้ ยกบั กาแลก็ ซีกงั หนั แต่ไม่มี
โครงสร้างท่ีเป็นแขนท่ียนื่ ออกมา โดยอยู่
ระหวา่ งรูปแบบของ E7 และ Sa ตวั อยา่ ง
ของกาแลก็ ซีน้ี เช่น M85

3.1) กำแลก็ ซีเลนส์แบบมีคำน (Barred Lenticular Galaxy)
กาแลก็ ซีเลนส์แบบมีคานจะมีโครงสร้างคลา้ ยคานพาดผา่ นกลางกาแลก็ ซี ซ่ึง

คลา้ ยกบั กาแลก็ ซีกงั หนั แบบมีคานมาก ๆ เพยี งแต่ไม่มีโครงสร้างท่ีเป็นแขนของกงั หนั
เท่าน้นั ท้งั น้ีกาหนดสัญลกั ษณ์ของกาแลก็ ซีลกั ษณะน้ีใหแ้ ทนดว้ ย SBO

NGC 2787

3.2) กำแลก็ ซีเลนส์แบบไม่มคี ำน (Unbarred Lenticular Galaxy)
กาแลก็ ซีเลนส์แบบไม่มีคานจะไม่มีโครงสร้างท่ีเป็นแถบพาดผา่ นกลางกาแลก็ ซี

จึงคลา้ ยกบั กาแลก็ ซีกงั หนั แบบไม่มีคาน แตไ่ ม่มีโครงสร้างท่ีเป็นส่วนแขนของกงั หนั
นนั่ เอง ท้งั น้ีกาหนดสัญลกั ษณ์ของกาแลก็ ซีลกั ษณะน้ีใหแ้ ทนดว้ ย SO

NGC 5866

2. กำแลก็ ซีไม่มีรูปแบบ (Irregular Galaxy)
กาแลก็ ซีไม่มีรูปแบบเป็นกาแลก็ ซีท่ีไม่มีโครงสร้างที่ชดั เจนเพียงพอจะ

บอกไดว้ า่ มนั เป็นรูปกงั หนั หรือทรงรี และบางคร้ังอาจจะแสดงโครงสร้างแบบ
คานใหเ้ ห็น ประกอบไปดว้ ยกลุ่มแก๊ส ฝ่ นุ ละออง ดาวฤกษ์ ดาวนิวตรอน หลุม
ดา และองคป์ ระกอบอื่น ๆ ซ่ึงหากมีขนาดเลก็ กจ็ ะอยใู่ นกลุ่มของกาแลก็ ซีแคระ

ไร้รูปแบบ ตวั อยา่ งที่ดีที่สุดของกาแลก็ ซีลกั ษณะน้ีที่สามารถมองเห็นไดจ้ ากโลก

IC 3583 is an
irregular galaxy
some 30 million
light-years away in
the constellation of
Virgo.

กาแลก็ ซแี มกเจลแลนเลก็ (Small
Magellanic Cloud, SMC)

กาแลก็ ซแี มกเจลแลนใหญ่ (The Large Magellanic
Cloud (LMC))

1. กำแลก็ ซีทำงช้ำงเผอื ก

ทำงช้ำงเผอื ก (milky way) คือ แถบแสงสวา่ งที่พาดไปบนทอ้ งฟ้ า
ในเวลากลางคืนเป็นแสงจากดาวจานวนมาก ในยามค่าคืนเดือนมืดและ
ทอ้ งฟ้ าเปิ ด

รูปลกั ษณะของกาแลก็ ซีทางชา้ งเผือกเมื่อมองจากดา้ นบน มีลกั ษณะคลา้ ย
รูปกงั หนั มีความยาวประมาณ 100,000 ปี แสง โดยระบบสุริยะของเราอยหู่ ่างจาก
แกนกลางประมาณ 32,600 ปี แสงของกาแล็กซีทางชา้ งเผือก เม่ือมองดา้ นขา้ ง
จะคลา้ ยจาน 2 ใบประกบปิ ดกนั

ก. ดา้ นหนา้ ข. ดา้ นขา้ ง

แสดงลกั ษณะของกาแลก็ ซีทางชา้ งเผอื ก

องค์ประกอบกำแลก็ ซีทำงช้ำงเผอื ก

นิวเคลยี ส ดุม
กำแลก็ ซี

สรุปเอกภพและกาแลก็ ซี




Click to View FlipBook Version