ค ำน ำ คู่มือการโอนข้าราชการสังกัดกรมการแพทย์เล่มนี้จัดท าขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงาน ใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงานเรื่องการโอนข้าราชการสังกัดกรมการแพทย์ ช่วยลดเวลาในการสอนงานกรณี มีการเปลี่ยนผู้ปฏิบัติงานรายใหม่ และช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถท างานเกี่ยวกับการโอนข้าราชการสังกัดกรมการแพทย์ ได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเนื้อหาของคู่มือนี้ประกอบด้วย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ หลักเกณฑ์ วิธีการและขั้นตอน เกี่ยวกับการโอนข้าราชการ รวมถึงการสะท้อนสภาพปัญหา อุปสรรคที่เกิดขึ้นระหว่างการด าเนินการ โดยเสนอแนะวิธีการแก้ไขปัญหาและอุปสรรคดังกล่าว ซึ่งนับว่าเป็นการรวบรวมองค์ความรู้ส าคัญที่ให้ผู้ปฏิบัติงาน น าไปใช้ประโยชน์ ใช้เป็นแนวทางในการด าเนินการโอนข้าราชการสังกัดกรมการแพทย์ ได้อย่างรวดเร็วและ ถูกต้อง กรณีมีบุคลากรผู้ปฏิบัติงานรายใหม่ สามารถศึกษาวิธีการปฏิบัติงานจากคู่มือโดยตรง ซึ่งจะช่วยลด ระยะเวลาในการสอนงานและลดภาระงานกับผู้ปฏิบัติงานที่เป็นพี่เลี้ยง ผู้จัดท าหวังเป็นอย่างยิ่งว่า คู่มือการโอนข้าราชการสังกัดกรมการแพทย์เล่มนี้ จะเป็นประโยชน์ ต่อผู้ปฏิบัติงาน ผู้ที่สนใจ หรือผู้ที่เกี่ยวข้อง สามารถน าความรู้ความเข้าใจจากเนื้อหาในคู่มือเล่มนี้ ไปด าเนินการ เกี่ยวกับการโอนข้าราชการสังกัดกรมการแพทย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลต่อไป วราภรณ์ สะอาดบัว
สำรบัญ หน้ำ บทที่ 1 บทน า หลักการและเหตุผล 1 วัตถุประสงค์ 1 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 2 ค านิยาม 2 ขอบเขตของการศึกษา 3 บทที่ 2 กฎ ระเบียบ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง 1.กฎ ก.พ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการพลเรือนสามัญได้รับเงินเดือน พ.ศ.2551 4 2.กฎ ก.พ.ว่าด้วยการให้ข้าราชการพลเรือนสามัญได้รับเงินประจ าต าแหน่ง พ.ศ.2551 4 3.หนังสือส านักงาน ก.พ.ที่ นร 0711/ว 12 ลงวันที่ 1 ตุลาคม 2533 เรื่องการย้ายหรือโอนข้าราชการพลเรือนสามัญซึ่งได้รับวุฒิเพิ่มขึ้น 5 4.หนังสือส านักงาน ก.พ.ที่ นร 0705/ว 7 ลงวันที่ 18 มิถุนายน 2534 เรื่องการย้ายหรือโอนข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ได้รับคัดเลือก 6 5.หนังสือส านักงาน ก.พ. ที่ นร 0709/ ว 2 ลงวันที่ 31 มกราคม 2539 เรื่อง การโอน ข้าราชการพลเรือนสามัญผู้สอบแข่งขันได้ ผู้สอบคัดเลือกได้ หรือผู้ได้รับคัดเลือก 6 6.หนังสือส านักงาน ก.พ. ที่ นร 0709/ ว 3 ลงวันที่ 31 มกราคม 2539 เรื่อง การโอน ผู้มิได้เป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ ซึ่งเป็นผู้สอบแข่งขันได้ หรือผู้ได้รับคัดเลือก ในกรณีที่มีเหตุพิเศษที่ไม่จ าเป็นต้องด าเนินการสอบแข่งขัน 7 7.หนังสือส านักงาน ก.พ.ที่ นร 1006/ว 15 ลงวันที่ 28 มิถุนายน 2547 เรื่องการย้ายหรือโอนข้าราชการพลเรือนสามัญซึ่งได้รับวุฒิเพิ่มขึ้น 8 8.หนังสือส านักงาน ก.พ.ที่ นร 1006/ว 34 ลงวันที่ 29 ตุลาคม 2547 เรื่องการคัดเลือกเพื่อแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ด ารงต าแหน่งซึ่งมี ลักษณะงานที่ต้องปฏิบัติโดยอาศัยความรู้ ความช านาญและประสบการณ์ เฉพาะตัว ส าหรับสายงานที่เริ่มต้นจากระดับ 1 และระดับ 2 8 9.หนังสือส านักงาน ก.พ. ที่ นร 1006/ว 10 ลงวันที่ 15 กันยายน 2548 เรื่อง การประเมินบุคคลเพื่อแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งส าหรับผู้ปฏิบัติงานที่มี ประสบการณ์ (ต าแหน่งประเภททั่วไป) และต าแหน่งประเภทวิชาชีพเฉพาะ ต าแหน่งระดับ 8 ลงมา 9 10.หนังสือส านักงาน ก.พ. ที่ นร 1006/ว 4 ลงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2552 เรื่องการโอนข้าราชการพลเรือนสามัญ 10 11.หนังสือส านักงาน ก.พ.ที่ นร 1008.3.3/453 ลงวันที่ 17 กันยายน 2552 เรื่องการจัดกลุ่มต าแหน่งประเภทวิชาการและประเภททั่วไป 11 12.หนังสือส านักงาน ก.พ.ที่ นร 1008/ว 30 ลงวันที่ 15 กันยายน 2553 เรื่องหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการเทียบต าแหน่งอย่างอื่นเท่ากับการด ารง ต าแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 13
13.หนังสือส านักงาน ก.พ.ที่ นร 1006/ว 36 ลงวันที่ 29 กันยายน 2553 เรื่องการโอนพนักงานส่วนท้องถิ่นและข้าราชการที่ไม่ใช่ข้าราชการพลเรือนสามัญ มาบรรจุเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ 13 14.หนังสือส านักงาน ก.พ. ที่ นร 1006.2/82 ลงวันที่ 21 มีนาคม 2555 เรื่อง แนวทางการพิจารณาเทียบเคียงมาตรฐานการสอบแข่งขัน ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ ก.พ.ก าหนด ส าหรับการรับโอนและ การบรรจุกลับพนักงานส่วนท้องถิ่นและข้าราชการที่ไม่ใช่ข้าราชการพลเรือนสามัญ 14 15.หนังสือส านักงาน ก.พ.ที่ นร 1008/ว 4 ลงวันที่ 27 มีนาคม 2558 เรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการเทียบต าแหน่งอย่างอื่นเท่ากับการด ารง ต าแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญ ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 15 16.หนังสือส านักงาน ก.พ.ที่ นร 1008/ว 9 ลงวันที่ 21 กรกฎาคม 2560 เรื่องหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการเทียบต าแหน่งอย่างอื่นเท่ากับการด ารง ต าแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 16 17.หนังสือส านักงาน ก.พ. ที่ นร 1008/ว 2 ลงวันที่ 30 มีนาคม 2563 เรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการเทียบต าแหน่งอย่างอื่นเท่ากับการด ารง ต าแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญ ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 20 18.ประกาศ อ.ก.พ.กรมการแพทย์ เรื่อง หลักเกณฑ์การโอนไปรับราชการที่ ส่วนราชการอื่น ส าหรับต าแหน่งระดับปฏิบัติงาน และปฏิบัติการ (เฉพาะ กรณีต าแหน่งที่บรรจุด้วยวิธีการสอบแข่งขัน และวิธีการคัดเลือกจากบัญชี ผู้สอบแข่งขันได้ในต าแหน่งหนึ่งไปขึ้นบัญชีเป็นผู้ได้รับการคัดเลือกในต าแหน่งอื่น) ประกาศ ณ วันที่ 28 เมษายน พ.ศ.2563 21 19.ประกาศ อ.ก.พ.กรมการแพทย์ เรื่อง หลักเกณฑ์การโอนไปรับราชการที่ ส่วนราชการอื่น ส าหรับต าแหน่งระดับปฏิบัติงาน และปฏิบัติการ (เฉพาะกรณีต าแหน่งที่บรรจุด้วยวิธีการสอบคัดเลือก) ประกาศ ณ วันที่ 30 กันยายน พ.ศ.2563 21 20.กฎ ก.พ.ว่าด้วยการย้าย การโอน หรือการเลื่อนข้าราชการพลเรือนสามัญ ไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญต าแหน่งประเภททั่วไป ในหรือต่างกระทรวงหรือกรม พ.ศ.2564 22 21.กฎ ก.พ.ว่าด้วยการย้าย การโอน หรือการเลื่อนข้าราชการพลเรือนสามัญ ไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญต าแหน่งประเภทวิชาการ ในหรือต่างกระทรวงหรือกรม พ.ศ.2564 24 22.กฎ ก.พ.ว่าด้วยการย้าย การโอน หรือการเลื่อนข้าราชการพลเรือนสามัญ ไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญต าแหน่งประเภทอ านวยการ ในหรือต่างกระทรวงหรือกรม พ.ศ.2564 27
บทที่ 3 หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการปฏิบัติงาน การรับโอนข้าราชการ 30 1.การรับโอนข้าราชการพลเรือนสามัญตามมาตรา 63 30 - การรับโอนข้าราชการพลเรือนสามัญในกรณีปกติ 30 - การรับโอนผู้สอบคัดเลือกได้หรือได้รับคัดเลือก 30 - การรับโอนผู้สอบแข่งขันได้หรือผู้ได้รับการคัดเลือกกรณีเหตุพิเศษ โดยไม่ต้องสอบแข่งขัน 31 - การรับโอนข้าราชการผู้ได้รับวุฒิเพิ่มขึ้น 31 2.การรับโอนพนักงานส่วนท้องถิ่นหรือเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานอื่นของรัฐ มาบรรจุเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ 31 หลักเกณฑ์ในการพิจารณารับโอนข้าราชการในสังกัดกรมการแพทย์ 32 ข้อควรระวังในการจัดท าค าสั่งรับโอน 32 การให้โอนข้าราชการ 33 หลักเกณฑ์ในการพิจารณารับโอนข้าราชการในสังกัดกรมการแพทย์ 33 ข้อควรระวังในการจัดท าค าสั่งรับโอน 33 บทบาทและหน้าที่ความรับผิดชอบ 34 การก าหนดรอบการโอนข้าราชการสังกัดกรมการแพทย์ 34 บทที่ 4 ขั้นตอนการด าเนินการ การรับโอนข้าราชการ 35 การให้โอนข้าราชการ 37 บทที่ 5 ปัญหา อุปสรรค ข้อเสนอแนะและข้อสรุป ปัญหา และอุปสรรค 39 ข้อเสนอแนะ 39 ข้อสรุปของกฎ ก.พ.เดิม และกฎ ก.พ.ใหม่ 40 บรรณานุกรม ภาคผนวก แบบฟอร์มใบขอโอน ตัวอย่างค าสั่งโอนข้าราชการ
-1- หลักกำรและเหตุผล ตามบทบัญญัติในมาตรา 63 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 วรรคแรก บัญญัติว่า “การย้าย การโอน หรือการเลื่อนข้าราชการพลเรือนสามัญไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งข้าราชการ พลเรือนสามัญในหรือต่างกระทรวงหรือกรม แล้วแต่กรณี ให้เป็นไปตามที่ก าหนดในกฎ ก.พ.” วรรคสอง บัญญัติว่า “การโอนข้าราชการพลเรือนสามัญจากกระทรวงหรือกรมหนึ่ง ไปแต่งตั้งให้ด ารง ต าแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญในต่างประเทศสังกัดอีกกระทรวงหรือกรมหนึ่ง เป็นการชั่วคราวตามระยะเวลา ที่ก าหนด ให้กระท าได้ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.พ.ก าหนด วรรคสาม บัญญัติว่า “การย้ายหรือการโอนข้าราชการพลเรือนสามัญไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งในระดับ ที่ต่ ากว่าเดิมจะกระท ามิได้ เว้นแต่จะได้รับความยินยอมจากข้าราชการพลเรือนสามัญผู้นั้น จากบทบัญญัติเกี่ยวกับการโอนข้าราชการพลเรือนสามัญในมาตรา 63 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบ ข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 ซึ่งให้ด าเนินการเป็นไปตามหลักเกณฑ์ และวิธีการที่ ก.พ.ก าหนด ดังนั้น การด าเนินการเกี่ยวกับการโอนข้าราชการพลเรือนสามัญ หรือข้าราชการประเภทอื่น เป็นวิธีการปฏิบัติงานด้าน การบริหารทรัพยากรบุคคลที่มีความส าคัญมาก จ าเป็นต้องอาศัยความรู้ (Knowledge) ทักษะ(Skill) และ ประสบการณ์ (Experience) ในการน ากฎ ระเบียบ หลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องมาใช้อ้างอิงในการโอนข้าราชการ โดยไม่เกิดข้อผิดพลาด และไม่กระทบต่อสิทธิประโยชน์ของข้าราชการที่พึงจะได้รับ หากบุคลากรผู้ปฏิบัติงานขาด คุณสมบัติดังกล่าว การด าเนินงานอาจล่าช้าและเกิดความผิดพลาด ขาดประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการ ปฏิบัติงานให้เกิดผลสัมฤทธิ์ส่งผลให้ขาดความเชื่อมั่นในกระบวนท างานของบุคลากรผู้ปฏิบัติงานจากข้าราชการในสังกัดได้ การด าเนินงานเรื่องการโอนข้าราชการสังกัดกรมการแพทย์ของผู้รับการประเมิน ในระยะที่ผ่านมา ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2563 - 2564 สรุปจ านวนได้ดังนี้ กำรด ำเนินงำน จ ำนวนรำย รวมจ ำนวน ปีงบประมำณ 2563 ปีงบประมำณ 2564 (รำย) 1. การรับโอน 12 15 27 2. การให้โอน 21 30 51 3. การโอนสับเปลี่ยน 4 2 6 รวมเป็นจ ำนวนทั้งสิ้น 84 ซึ่งพบปัญหาและอุปสรรคจากการด าเนินงานเรื่องการโอนข้าราชการสังกัดกรมการแพทย์ ดังนี้ 1. บุคลากรผู้ปฏิบัติงานด้านทรัพยากรบุคคลของหน่วยงานในสังกัดกรมการแพทย์ มีความรู้ ความเข้าใจ ต่อแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการโอนข้าราชการที่ไม่เป็นมาตรฐานเดียวกันในลักษณะและประเภทต่างๆ 2. เนื่องจากกฎ ระเบียบ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการโอนข้าราชการมีจ านวนมาก อีกทั้งบุคลากร ผู้ปฏิบัติงานยังขาดความเข้าใจในการน ากฎ ระเบียบ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องมาใช้อ้างอิงในการโอนข้าราชการ บทที่ 1 บทน ำ
-2- 3. มีการเปลี่ยนผู้ปฏิบัติงานด้านทรัพยากรบุคคลของหน่วยงานในสังกัดกรมการแพทย์ค่อนข้างบ่อย ส่งผลให้การเรียนรู้งานของบุคลากรผู้ปฏิบัติงานนั้นขาดความต่อเนื่อง และไม่สามารถเรียนรู้จนเกิดความช านาญ ดังนั้น ผู้ปฏิบัติงานจะใช้เวลาในการด าเนินการเกี่ยวกับการโอนข้าราชการค่อนข้างนาน และอาจเกิดความผิดพลาดขึ้นได้ 4. แนวทาง วิธีการ และรูปแบบการโอนข้าราชการที่มีความหลากหลาย รวมทั้งมีความซับซ้อนของ ขั้นตอนในการด าเนินงานนั้น สามารถท าให้ผู้ปฏิบัติงานรายใหม่เกิดความสับสน และใช้ระยะเวลาในการด าเนินงานค่อนข้างนาน 5. ผู้ปฏิบัติงานที่เป็นพี่เลี้ยงมีภาระงานของตนเองค่อนข้างมาก จึงไม่มีเวลาในการสอนงาน ดังนั้น จากปัญหาและอุปสรรคที่พบในการด าเนินงาน ผู้รับการประเมินจึงจัดท าคู่มือการโอนข้าราชการ สังกัดกรมการแพทย์เล่มนี้ขึ้น เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงานที่เกี่ยวกับการโอนข้าราชการได้ อย่างถูกต้อง รวดเร็ว มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทาง ระเบียบ หลักเกณฑ์ และขั้นตอนการโอนข้าราชการ เป็นมาตรฐานเดียวกัน ลดเวลาในการสอนงานกรณีมีการเปลี่ยนผู้ปฏิบัติงานรายใหม่ ผู้ปฏิบัติงานทราบและเข้าใจ ว่าควรท าอะไรก่อนและหลังไม่เกิดความสับสน ลดขั้นตอนการท างานที่ซับซ้อน ลดข้อผิดพลาดจากการท างาน ที่ไม่เป็นระบบ บุคลากรผู้ปฏิบัติงานสามารถท างานแทนกันได้และสามารถเริ่มปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว เมื่อมีการโยกย้ายต าแหน่งงาน ช่วยในการออกแบบระบบงานใหม่และปรับปรุงงาน ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจในการ ท างาน และช่วยให้การท างานเป็นมืออาชีพ วัตถุประสงค์ 1. เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงานเรื่องการโอนข้าราชการสังกัดกรมการแพทย์ 2. ลดเวลาในการสอนงานกรณีมีการเปลี่ยนผู้ปฏิบัติงานรายใหม่ 3. เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถท างานได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ประโยชน์ที่คำดว่ำจะได้รับ 1. บุคลากรผู้ปฏิบัติงานเรื่องการโอนข้าราชการ สามารถใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 2. บุคลากรผู้ปฏิบัติงานเรื่องการโอนข้าราชการ มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทาง ระเบียบ หลักเกณฑ์ และขั้นตอนการโอนข้าราชการ เป็นมาตรฐานเดียวกัน 3. บุคลากรผู้ปฏิบัติงานด้านทรัพยากรบุคคล ปฏิบัติงานเรื่องการโอนข้าราชการแบบมืออาชีพ ค ำนิยำม การโอน หมายถึง การแต่งตั้งข้าราชการในสังกัดกระทรวงหรือกรมหนึ่ง ให้ไปด ารงต าแหน่งในอีก กระทรวงหรือกรมหนึ่ง หรือการให้พนักงานส่วนท้องถิ่นหรือเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานอื่นของรัฐมาบรรจุและแต่งตั้ง เป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ การแต่งตั้ง หมายถึง การสั่งให้ข้าราชการมีอ านาจหน้าที่และรับผิดชอบงานในต าแหน่งใดต าแหน่งหนึ่ง และมีสิทธิที่จะได้รับเงินเดือนตามต าแหน่งที่ได้รับแต่งตั้ง ข้าราชการ หมายถึง ข้าราชการพลเรือนตามมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 และในคู่มือเล่มนี้ให้หมายความเฉพาะข้าราชการพลเรือนสามัญในสังกัดกรมการแพทย์เท่านั้น
-3- กรมการแพทย์ หมายถึง ส่วนราชการระดับกรม สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งมีฐานะเป็นส่วนราชการ ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดินและกฎหมายว่าด้วยการปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม สมพงษ์ เกษมสิน (2550: 437) ได้ให้ความหมายว่า การโอนย้าย หมายถึง การเปลี่ยนแปลงต าแหน่ง งาน จากต าแหน่งหนึ่งไปยังอีกต าแหน่งหนึ่ง หรือการเปลี่ยนแปลงความรับผิดชอบจากที่เคยท าอยู่ในหน่วยงาน ขอบเขตของกำรศึกษำ คู่มือการการโอนข้าราชการสังกัดกรมการแพทย์เล่มนี้อธิบายถึงกฎ ระเบียบ แนวทาง วิธีการด าเนินการ เกี่ยวกับการโอนข้าราชการสังกัดกรมการแพทย์โดยครอบคลุมตั้งแต่การรับแบบค าขอโอน การตรวจสอบ คุณสมบัติ ตรวจสอบต าแหน่งว่าง การจัดท าหนังสือทาบทามระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การจัดท าค าสั่งเสนอ ผู้มีอ านาจลงนาม การแจ้งเวียนส าเนาค าสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อด าเนินการต่อไป และแจ้งเวียนหน่วยงานในสังกัด เพื่อทราบ รวมทั้งการบันทึกข้อมูลลงใน ประวัติ ก.พ. 7 และในโปรแกรมระบบฐานข้อมูลข้าราชการพลเรือน (DPIS)
-4- พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 มาตรา 63 มีบทบัญญัติเกี่ยวกับการโอน ข้าราชการ ดังนี้ วรรคแรก การย้าย การโอน หรือการเลื่อนข้าราชการพลเรือนสามัญไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งข้าราชการ พลเรือนสามัญในหรือต่างกระทรวงหรือกรม แล้วแต่กรณี ให้เป็นไปตามที่ก าหนดใน กฎ ก.พ. วรรครอง การย้ายหรือการโอนข้าราชการพลเรือนสามัญไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งในระดับที่ต่ ากว่าเดิม จะกระท ามิได้ เว้นแต่จะได้รับความยินยอมจากข้าราชการพลเรือนสามัญผู้นั้น การโอนข้าราชการพลเรือนสามัญ ต้องอาศัยกฎ ระเบียบ หลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.พ.ก าหนด ดังนี้ 1. กฎ ก.พ.ว่ำด้วยกำรให้ข้ำรำชกำรพลเรือนสำมัญได้รับเงินเดือน พ.ศ. 2551 ข้อ 2 ข้าราชการพลเรือนสามัญซึ่งได้รับแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งประเภทใด สายงานใด ระดับใด ให้ได้รับ เงินเดือนตามต าแหน่งประเภท สายงาน และระดับนั้นในขั้นต่ าของระดับเงินเดือนส าหรับต าแหน่งประเภท สายงาน และระดับที่ได้รับแต่งตั้ง เว้นแต่กรณีดังต่อไปนี้ (1) ผู้นั้นได้รับปริญญาหรือประกาศนียบัตรวิชาชีพ ซึ่ง ก.พ.รับรองว่าปริญญาหรือประกาศนียบัตรวิชาชีพ นั้นเป็นคุณสมบัติเฉพาะส าหรับต าแหน่งที่ได้รับแต่งตั้ง และ ก.พ.ก าหนดเงินเดือนที่ควรได้รับในต าแหน่งประเภท สายงาน ระดับ และอัตรานั้นไว้แล้ว ให้ผู้นั้นได้รับเงินเดือนตามต าแหน่งประเภท สายงาน ระดับ และอัตราตาม หลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.พ.ก าหนด (5) ภายใต้บังคับข้อ 5 ผู้ได้รับแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งประเภทเดิมหรือต่างประเภทในระดับใด ให้ได้รับ เงินเดือนในอัตราที่ได้รับอยู่เดิม เว้นแต่ผู้นั้นได้รับแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งในระดับใด แต่เงินเดือนเดิมต่ ากว่าขั้นต่ า ของระดับนั้น ให้ได้รับเงินเดือนในขั้นต่ าของระดับที่ได้รับแต่งตั้ง ข้อ 5 ในกรณีที่อัตราเงินเดือนขั้นต่ าชั่วคราวยังมีผลใช้บังคับ ผู้ได้รับแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งประเภทใด สายงานใด ระดับใด ถ้าเงินเดือนที่ได้รับต่ ากว่าขั้นต่ าของระดับที่ได้รับแต่งตั้งให้ได้รับเงินเดือนในอัตราที่ได้รับอยู่ เดิมและไม่ต่ ากว่าขั้นต่ าชั่วคราว 2. กฎ ก.พ.ว่ำด้วยกำรให้ข้ำรำชกำรพลเรือนสำมัญได้รับเงินประจ ำต ำแหน่ง พ.ศ.2551 ข้อ 2 ข้าราชการพลเรือนสามัญอาจได้รับเงินประจ าต าแหน่งตามหลักเกณฑ์และเงือนไขดังต่อไปนี้ (1) ข้าราชการพลเรือนสามัญซึ่งได้รับแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งในประเภท สายงาน และระดับตามที่ ก าหนดใน กฎ ก.พ.นี้ และปฏิบัติหน้าที่หลักของต าแหน่งดังกล่าวให้มีสิทธิได้รับเงินประจ าต าแหน่ง (2) ข้าราชการพลเรือนสามัญซึ่งมีสิทธิได้รับเงินประจ าต าแหน่งผู้ใด หากได้รับค าสั่งให้ไปปฏิบัติหน้าที่อื่น และมิได้ปฏิบัติหน้าที่หลักของต าแหน่งที่ตนเองด ารงอยู่ ไม่มีสิทธิได้รับเงินประจ าต าแหน่งตั้งแต่วันที่ไม่ได้ปฏิบัติ หน้าที่หลักของต าแหน่งที่ตนด ารงอยู่ เว้นแต่ในกรณีที่ด ารงต าแหน่งประเภทวิชาการหรือประเภททั่วไป และได้รับ ค าสั่งให้ไปปฏิบัติหน้าที่อื่นที่มีลักษณะเป็นงานวิชาชีพหรืองานเชี่ยวชาญเฉพาะด้านเหมือนหน้าที่หลักของต าแหน่ง ที่ตนด ารงอยู่เดิม ให้ได้รับเงินประจ าต าแหน่งในอัตราเดิมของต าแหน่งต่อไป บทที่ 2 กฎ ระเบียบ และเอกสำรที่เกี่ยวข้อง
-5- (4) ข้าราชการพลเรือนสามัญซึ่งได้รับแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งที่มีสิทธิได้รับเงินประจ าต าแหน่งและได้ ปฏิบัติหน้าที่หลักของต าแหน่งนั้นเกินหนึ่งต าแหน่ง ให้ได้รับเงินประจ าต าแหน่งส าหรับต าแหน่งที่มีสิทธิได้รับเงิน ประจ าต าแหน่งสูงสุดเพียงต าแหน่งเดียว (5) ข้าราชการพลเรือนสามัญซึ่งด ารงต าแหน่งที่ได้รับเงินประจ าต าแหน่ง และได้รับค าสั่งให้ไปปฏิบัติ หน้าที่ในต าแหน่งประเภทเดียวกันที่มีสิทธิได้รับเงินประจ าต าแหน่ง และได้ปฏิบัติหน้าที่หลักในต าแหน่งที่ตนไป ปฏิบัติหน้าที่ ให้ได้รับเงินประจ าต าแหน่งตามอัตราเดิมของตนต่อไป (6) ข้าราชการพลเรือนสามัญซึ่งด ารงต าแหน่งที่ได้รับเงินประจ าต าแหน่ง และได้รับค าสั่งให้ไปปฏิบัติงาน ที่หน่วยงานอื่นในประเทศตามระเบียบ ก.พ.ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการพัฒนาข้าราชการโดยการให้ไปปฏิบัติงาน ที่หน่วยงานอื่นในประเทศ ให้ได้รับเงินประจ าต าแหน่งในอัตราของต าแหน่งเดิมต่อไป ข้อ 3 ข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ได้รับแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งในสายงานตามบัญชีก าหนดสายงานที่มี สิทธิได้รับเงินประจ าต าแหน่งท้าย กฎ ก.พ. ในต าแหน่งประเภทใด ระดับใด ให้ได้รับเงินประจ าต าแหน่งตามบัญชี อัตราเงินประจ าต าแหน่งของข้าราชการพลเรือนสามัญในอัตรา ดังนี้ (6) ต าแหน่งประเภทวิชาการระดับช านาญการ ที่มีประสบการณ์ ทักษะ และสมรรถนะตามหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขที่ ก.พ.ก าหนด ให้ได้รับเงินประจ าต าแหน่งในอัตรา 35500 บาท (7) ต าแหน่งประเภทวิชาการระดับช านาญการพิเศษ ให้ได้รับเงินประจ าต าแหน่งในอัตรา 55600 บาท 3. หนังสือส ำนักงำน ก.พ.ที่ นร 0711/ว 12 ลงวันที่ 1 ตุลำคม 2533 เรื่อง กำรย้ำยหรือกำรโอน ข้ำรำชกำรพลเรือนสำมัญซึ่งได้รับวุฒิเพิ่มขึ้น สำระส ำคัญ ข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ใดได้รับวุฒิเพิ่มขึ้นและไม่เคยด ารงต าแหน่งในสายงานที่เริ่มต้นจากระดับ 3 หรือระดับ 4 มาก่อน หากผู้บังคับบัญชาจะย้ายหรือรับโอนผู้นั้นมาแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งในสายงานที่เริ่มต้นจาก ระดับ 3 จะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้ 1. ข้าราชการดังกล่าวต้องเป็นผู้ที่สอบแข่งขันได้ในต าแหน่งซึ่งอยู่ในสายงานที่จะย้ายหรือรับโอนและ บัญชีผู้สอบแข่งขันได้นั้นยังไม่ถูกยกเลิก ทั้งนี้ อาจเป็นการสอบแข่งขันที่ ก.พ.เป็นผู้ด าเนินการสอบ หรือ ก.พ. มอบหมายให้ อ.ก.พ.หรือส่วนราชการใดเป็นผู้ด าเนินการสอบแทนได้ หลักเกณฑ์ตามวรรคแรก ให้หมายความรวมถึงกรณีที่มีการคัดเลือกบุคคลจากบัญชีผู้สอบแข่งขันได้เพื่อ บรรจุในต าแหน ่งชื ่ออื ่นๆ ซึ ่งเป็นต าแหน ่งที ่ใช้วุฒิอย ่างเดียวกันและลักษณะความต้องการใกล้เคียงกัน โดยผู้สอบแข่งขันจะต้องผ่านการประเมินความเหมาะสมกับต าแหน่งเพื่อขึ้นบัญชีใหม่เป็นบัญชีผู้ได้รับการคัดเลือก ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.พ.ก าหนดด้วย 2. การย้ายหรือการโอนข้าราชการตามข้อ 1 ให้อยู่ในดุลพินิจของผู้มีอ านาจสั่งบรรจุตามมาตรา 44 (ปัจจุบันคือมาตรา 57 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551) ที่จะพิจารณาด าเนินการได้ โดยไม่จ าเป็นต้องรอจนถึงล าดับที่ที่ผู้นั้นจะได้รับการบรรจุ ทั้งนี้ โดยค านึงถึงประโยชน์ที่ทางราชการจะได้รับ การด าเนินการตามวรรคหนึ่งอาจก าหนดสัดส่วนของต าแหน่งว่างที่จะใช้ส าหรับการย้ายสายงานผู้ได้รับ วุฒิเพิ่มเติมกับการบรรจุข้าราชการพลเรือนสามัญใหม่ได้ตามที่เห็นสมควร
-6- 4. หนังสือส ำนักงำน ก.พ.ที่ นร 0705/ว 7 ลงวันที่ 18 มิถุนำยน 2534 เรื่องกำรย้ำยหรือโอน ข้ำรำชกำรพลเรือนสำมัญผู้ได้รับคัดเลือก สำระส ำคัญ ข้าราชการพลเรือนสามัญที่ไม่เคยด ารงต าแหน่งในสายงานที่เริ่มต้นจากระดับ 3 หรือระดับ 4 มาก่อน แต่ผู้นั้นได้รับวุฒิที่ตรงตามคุณสมบัติเฉพาะส าหรับต าแหน่งที่สูงขึ้น โดยได้รับทุนรัฐบาลไทย หรือทุนรัฐบาล ต่างประเทศ ทุนองค์การระหว่างประเทศที่ส่วนราชการได้รับมอบ หรือเป็นผู้ได้รับวุฒิภายในก าหนดเวลาและ ต าแหน่งตามหนังสือส านักงาน ก.พ.ที่ นร 0705/ว 15 ลงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2533 (ปัจจุบันใช้หนังสือ ส านักงาน ก.พ.ที่ นร 1004/ว 17 ลงวันที่ 19 กันยายน 2562 เรื่อง วุฒิที่ ก.พ.ก าหนดให้คัดเลือกเพื่อบรรจุ บุคคลเข้ารับราชการในปีงบประมาณ พ.ศ.2563 - พ.ศ.2561 แทน) หรือที่ ก.พ.จะก าหนดต่อไป หากผู้บังคับบัญชาจะย้ายหรือรับโอนข้าราชการผู้นั้นมาแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งในสายงานที่เริ่มต้นจากระดับ 3 กรณีนี้ก็อาจด าเนินการได้ โดยข้าราชการดังกล่าวไม่จ าเป็นต้องเป็นผู้สอบแข่งขันได้ในต าแหน่งซึ่งอยู่ในสายงานที่ จะย้ายหรือรับโอน ส าหรับวิธีการด าเนินการย้ายหรือโอนนั้น ผู้มีอ านาจสั่งบรรจุพิจารณาด าเนินการโดยวิธีสัมภาษณ์ ทดลอง ปฏิบัติงาน หรือวิธีการคัดเลือกอย่างอื่นอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือหลายอย่างตามที่เห็นสมควร เพื่อให้ได้ผู้มีความรู้ ความสามารถและคุณลักษณะที่เหมาะสมกับหน้าที่และความรับผิดชอบของต าแหน่งที่จะย้ายหรือรับโอนด้วย 5. หนังสือส ำนักงำน ก.พ. ที่ นร 0709/ ว 2 ลงวันที่ 31 มกรำคม 2539 เรื่อง กำรโอนข้ำรำชกำร พลเรือนสำมัญผู้สอบแข่งขันได้ ผู้สอบคัดเลือกได้ หรือผู้ได้รับคัดเลือก สำระส ำคัญ ก.พ.ก าหนดหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการโอนข้าราชการพลเรือนสามัญผู้สอบแข่งขันได้ ผู้สอบ คัดเลือกได้ หรือผู้ได้รับคัดเลือกไว้ดังต่อไปนี้ 1) การโอนข้าราชการพลเรือนสามัญผู้สอบแข่งขันได้หรือผู้ได้รับคัดเลือกในกรณีที่มีเหตุพิเศษที่ไม่ จ าเป็นต้องด าเนินการสอบแข่งขัน ให้ท าได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากผู้มีอ านาจสั่งบรรจุของส่วนราชการ เจ้าสังกัดเดิมของผู้ที่จะโอน 2) การโอนข้าราชการพลเรือนสามัญผู้สอบคัดเลือกได้หรือผู้ได้รับคัดเลือกที่มิใช่กรณีที่มีเหตุพิเศษที่ไม่ จ าเป็นต้องด าเนินการสอบแข่งขัน ให้ท าได้เมื่อได้รับความยินยอมจากผู้มีอ านาจสั่งบรรจุของส่วนราชการเจ้าสังกัดเดิม ของผู้ที่จะโอนแล้ว 3) การโอนข้าราชการตามข้อ 1 และ 2 ให้โอนไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งที่ผู้นั้นสอบแข่งขันได้ สอบคัดเลือกได้ หรือได้รับคัดเลือก แล้วแต่กรณี 4) ให้ข้าราชการพลเรือนสามัญที่ได้รับแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งที่สอบแข่งขันได้ หรือได้รับคัดเลือกในกรณี ที่มีเหตุพิเศษที่ไม่จ าเป็นต้องด าเนินการสอบแข่งขัน ได้รับเงินเดือนดังนี้ 4.1) ถ้าเป็นการแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งในระดับเดิม และผู้นั้นได้รับเงินเดือนต่ ากว่าหรือเท่าคุณวุฒิ ก็ให้ได้รับเงินเดือนตามคุณวุฒิ แต่ถ้าผู้นั้นได้รับเงินเดือนสูงกว่าคุณวุฒิอยู่แล้วก็ให้ได้รับเงินเดือนในขั้นที่ได้รับอยู่เดิม 4.2) ถ้าเป็นการแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งในระดับที่สูงกว่าเดิม และผู้นั้นได้รับเงินเดือนต่ ากว่าหรือเท่า คุณวุฒิ ก็ให้ได้รับเงินเดือนตามคุณวุฒิ แต่ถ้าผู้นั้นได้รับเงินเดือนสูงกว่าคุณวุฒิอยู่แล้ว ก็ให้ได้รับเงินเดือนในอันดับ เงินเดือนส าหรับต าแหน่งที่สอบแข่งขันได้หรือได้รับคัดเลือกในกรณีที่มีเหตุพิเศษที่ไม่จ าเป็นต้องด าเนินการ สอบแข่งขัน ในขั้นที่เทียบได้ตรงกันกับขั้นเงินเดือนของอันดับเดิม
-7- 4.3) ถ้าเป็นการแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งในระดับที่ต่ ากว่าเดิม และผู้นั้นได้รับเงินเดือนสูงกว่าคุณวุฒิ ก็ให้ได้รับเงินเดือนในอันดับเงินเดือนส าหรับต าแหน่งที่สอบแข่งขันได้หรือได้รับคัดเลือกในกรณีที่มีเหตุพิเศษที่ไม่ จ าเป็นต้องด าเนินการสอบแข่งขัน ในขั้นที่เทียบได้ตรงกันกับขั้นเงินเดือนของอันดับเดิม แต่ถ้าผู้นั้นได้รับเงินเดือน สูงกว่าขั้นสูงของอันดับเงินเดือนส าหรับต าแหน่งที่สอบแข่งขันได้ หรือได้รับคัดเลือกในกรณีที่มีเหตุพิเศษที่ไม่ จ าเป็นต้องด าเนินการสอบแข่งขัน ก็ให้ได้รับเงินเดือนในขั้นสูงของอันดับเงินเดือนส าหรับต าแหน่งที่สอบแข่งขันได้ หรือได้รับคัดเลือกในกรณีที่มีเหตุพิเศษที่ไม่จ าเป็นต้องด าเนินการสอบแข่งขันนั้น 5) ในกรณีที่มีเหตุผลความจ าเป็น ผู้มีอ านาจสั่งบรรจุจะด าเนินการให้ข้าราชการพลเรือนสามัญที่ได้รับ แต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งที่สอบแข่งขันได้ หรือได้รับคัดเลือกในกรณีที่มีเหตุพิเศษที่ไม่จ าเป็นต้องด าเนินการ สอบแข่งขัน ซึ่งได้รับเงินเดือนสูงกว่าคุณวุฒิ ให้ได้รับเงินเดือนตามคุณวุฒิก็ได้ หากมีการระบุเงื่อนไขการให้ได้รับ เงินเดือนตามคุณวุฒิไว้ในประกาศสอบแข่งขันหรือคัดเลือกในกรณีที่มีตุผลพิเศษที่ไม่จ าเป็นต้องด าเนินการ สอบแข่งขันในครั้งนั้น 6) ให้ข้าราชการพลเรือนสามัญที่ได้รับแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งที่สอบคัดเลือกได้หรือได้รับคัดเลือกที่มิใช่ กรณีที่มีเหตุพิเศษที่ไม่จ าเป็นต้องด าเนินการสอบแข่งขันได้รับเงินเดือน ตามที่ก าหนดไว้ในกฎ ก.พ.ว่าด้วยการให้ ข้าราชการพลเรือนสามัญได้รับเงินเดือน 7) การโอนข้าราชการพลเรือนสามัญผู้สอบแข่งขันได้ ผู้สอบคัดเลือกได้หรือผู้ได้รับคัดเลือก ให้ส่วน ราชการที่จะรับโอนมีหนังสือส่งค าสั่งรับโอนให้กระทรวง ทบวง กรมเจ้าสังกัดเดิมของผู้ที่จะโอนทราบ และให้ผู้มี อ านาจสั่งบรรจุของส่วนราชการเจ้าสังกัดเดิมของผู้ที่จะโอนออกค าสั่งให้ผู้ที่จะโอนไปนั้นพ้นจากต าแหน่งและ หน้าที่ในวันเดียวกัน 6. หนังสือส ำนักงำน ก.พ.ที่ นร 0709/ว 3 ลงวันที่ 31 มกรำคม 2539 เรื่อง กำรโอนผู้มิได้เป็น ข้ำรำชกำรพลเรือนสำมัญซึ่งเป็นผู้สอบแข่งขันได้ หรือผู้ได้รับคัดเลือกในกรณีที่มีเหตุพิเศษที่ไม่จ ำเป็นต้อง ด ำเนินกำรสอบแข่งขัน สำระส ำคัญ บัญญัติให้ ก.พ.ก าหนดหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการโอนข้าราชการผู้มิได้เป็นข้าราชการพลเรือน สามัญซึ่งเป็นผู้สอบแข่งขันได้หรือผู้ได้รับคัดเลือก มาบรรจุเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ ประกอบกับ ก.พ.เห็นควร ก าหนดเจตนารมณ์ในการด าเนินการเรื่องดังกล่าวเพื่อ ก. เปิดโอกาสให้มีการโยกย้าย สับเปลี่ยนข้าราชการหรือผู้ปฏิบัติงานระหว่างส่วนราชการหรือหน่วยงาน และเพื่อให้แต่ละส่วนราชการหรือหน่วยงานมีโอกาสเลือกสรรผู้มีความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ที่เหมาะสม และเป็นประโยชน์ต่องานมาด ารงต าแหน่ง โดยไม่จ ากัดเฉพาะแต่ข้าราชการพลเรือนสามัญเท่านั้น ข. ให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาอนุมัติการให้โอนและการรับโอน โดยค านึงถึงความจ าเป็นและประโยชน์ที่ ทางราชการจะได้รับความรู้ ความสามารถและประสบการณ์ของผู้ขอโอน ประกอบกับเหตุผลความจ าเป็นของ ผู้ขอโอน เพื่อที่จะให้ทางราชการสามารถใช้ก าลังคนได้อย่างเกิดประโยชน์สูงสุด ค. ให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาการรับโอนผู้มิได้เป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ 5.2) ถ้าผู้นั้นได้รับเงินเดือนในส่วนราชการหรือหน่วยงานเจ้าสังกัดเดิมสูงกว่าคุณวุฒิ ให้ได้รับเงินเดือนใน ขั้นที่เท่ากับเงินเดือนที่ได้รับอยู่เดิม แต่ถ้าไม่มีขั้นเงินเดือนเท่ากับเงินเดือนที่ได้รับอยู่เดิม ก็ให้ได้รับเงินเดือนใน อันดับเงินเดือนส าหรับต าแหน่งที่สอบแข่งขันได้หรือได้รับคัดเลือกในกรณีที่มีเหตุพิเศษที่ไม่จ าเป็นต้องด าเนินการ สอบแข่งขันในขั้นที่เทียบได้ตรงกันกับขั้นเงินเดือนที่ได้รับอยู่เดิม ทั้งนี้ หากผู้นั้นได้รับเงินเดือนสูงกว่าขั้นสูงของ อันดับเงินเดือนส าหรับต าแหน่งที่สอบแข่งขันได้ หรือที่ได้รับคัดเลือกในกรณีที่มีเหตุพิเศษที่ไม่จ าเป็นต้อง
-8- ด าเนินการสอบแข่งขัน ก็ให้ได้รับเงินเดือนในขั้นสูงของอันดับเงินเดือนส าหรับต าแหน่งที่สอบแข่งขันได้ หรือที่ ได้รับคัดเลือกในกรณีที่มีเหตุพิเศษที่ไม่จ าเป็นต้องด าเนินการสอบแข่งขันนั้น 6) ในกรณีที่มีเหตุผลความจ าเป็น ผู้มีอ านาจสั่งบรรจุ จะด าเนินการให้ข้าราชการผู้มิได้เป็นข้าราชการ พลเรือนสามัญที่ได้รับแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งที่สอบแข่งขันได้ หรือได้รับคัดเลือกในกรณีที่มีเหตุพิเศษที่ไม่ จ าเป็นต้องด าเนินการสอบแช่งขั้น ซึ่งได้รับเงินเดือนสูงกว่าคุณวุฒิให้ได้รับเงินเดือนตามคุณวุฒิก็ได้ หากมีการ ระบุเงื่อนไขการให้ได้รับเงินเดือนตามคุณวุฒิไว้ในการประกาศสอบแข่งขันหรือคัดเลือกในกรณีที่มีเหตุพิเศษที่ไม่ จ าเป็นต้องด าเนินการสอบแข่งขันในครั้งนั้น 7. หนังสือส ำนักงำน ก.พ.ที่ นร 1006/ว 15 ลงวันที่ 28 มิถุนำยน 2547 เรื่องกำรย้ำยหรือโอน ข้ำรำชกำรพลเรือนสำมัญซึ่งได้รับวุฒิเพิ่มขึ้น สำระส ำคัญ ตามที่มีข้าราชการพลเรือนสามัญซึ่งได้รับวุฒิเพิ่มขึ้นจ านวนมาก สอบแข่งขันได้ในต าแหน่งหนึ่ง แต่ส่วน ราชการไม่มีต าแหน่งนั้นที่จะแต่งตั้ง ท าให้ข้าราชการเหล่านั้นสูญเสียโอกาสที่จะได้ปรับเปลี่ยนสายงาน ประกอบ กับมีส่วนราชการหลายแห่งได้ขออนุมัติ ก.พ.ท าการคัดเลือกข้าราชการพลเรือนสามัญดังกล่าวเพื่อแต่งตั้งให้ด ารง ต าแหน่งอื่นเป็นกรณีพิเศษเฉพาะรายเป็นระยะๆ ดังนั้น เพื่อเป็นการสร้างขวัญให้แก่ข้าราชการข้างต้น ที่ถือได้ว่า ผ่านการกลั่นกรองความรู้ในต าแหน่งของสายงานที่เริ่มต้นจากระดับ 3 มาแล้ว และเพื่อจะได้เป็นแนวทางปฏิบัติ เดียวกัน ก.พ.จึงมีมติอนุมัติให้ส่วนราชการใช้บัญชีผู้สอบแข่งขันได้ในต าแหน่งหนึ่งเพื่อย้ายหรือโอนข้าราชการ พลเรือนสามัญที่สอบแข่งขันได้ดังกล่าวไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งในสายงานที่เริ่มต้นจากระดับ 3 ต าแหน่งอื่นโดย วิธีคัดเลือกได้ ทั้งนี้ ผู้นั้นจะต้องมีคุณสมบัติตรงตามคุณสมบัติเฉพาะต าแหน่ง ส าหรับต าแหน่งที่จะแต่งตั้งและให้ ส่วนราชการด าเนินการ ดังนี้ 1. แต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อด าเนินการคัดเลือกตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ดังต่อไปนี้ - ทดสอบความรู้ ความสามารถเฉพาะส าหรับต าแหน่งที่จะแต่งตั้งโดยใช้หลักสูตรตามหนังสือ ส านักงาน ก.พ.ที่ นร 0708.4/ว 15 ลงวันที่ 9 กันยายน 2535 โดยอนุโลม - ประเมินความเหมาะสมกับต าแหน่ง โดยให้ทดลองปฏิบัติงานในระยะเวลาตามที่คณะกรรมการก าหนด - เกณฑ์การตัดสินต้องได้คะแนนไม่ต่ ากว่า ร้อยละ 60 2. การแต่งตั้งผู้ได้รับการคัดเลือก จะแต่งตั้งได้ไม่สูงกว่าระดับเดิม และไม่เกินระดับ 5 (ปัจจุบันคือระดับ ปฏิบัติการ) ทั้งนี้ไม่ก่อนวันที่ผ่านการคัดเลือก 3. จัดให้ผู้ได้รับการคัดเลือกท าข้อตกลงเพื่อปฏิบัติงานในต าแหน่งที่ได้รับแต่งตั้งเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 1 ปี จึงจะย้ายหรือโอนได้ 4. ต้องด าเนินการคัดเลือกและแต่งตั้งให้เสร็จสิ้นก่อนบัญชีผู้สอบแข่งขันได้จะถูกยกเลิก 8.หนังสือส ำนักงำน ก.พ.ที่ นร 1006/ว 34 ลงวันที่ 29 ตุลำคม 2547 เรื่องกำรคัดเลือกเพื่อ แต่งตั้งข้ำรำชกำรพลเรือนสำมัญให้ด ำรงต ำแหน่งซึ่งมีลักษณะงำนที่ต้องปฏิบัติโดยอำศัยควำมรู้ ควำมช ำนำญ และประสบกำรณ์เฉพำะตัว ส ำหรับสำยงำนที่เริ่มต้นจำกระดับ 1 และระดับ 2 สำระส ำคัญ 2. การโอนเพื่อแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งในระดับที่ไม่สูงกว่าเดิม 2.1 กรณีข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ด ารงต าแหน่งหรือเคยด ารงต าแหน่งซึ่งมีลักษณะงานที่ต้อง ปฏิบัติโดยอาศัยความรู้ ความช านาญและประสบการณ์เฉพาะตัว ส าหรับสายงานที่เริ่มต้นจากระดับ 1 และระดับ 2
-9- ในระดับเดียวกันและอยู่ในกลุ่มต าแหน่งเดียวกันกับต าแหน่งที่จะแต่งตั้ง ให้ส่วนราชการพิจารณาแต่งตั้งได้ โดยไม่ ต้องคัดเลือก 2.2 กรณีข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ด ารงต าแหน่งหรือเคยด ารงต าแหน่งซึ่งมีลักษณะงานที่ต้อง ปฏิบัติโดยอาศัยความรู้ ความช านาญและประสบการณ์เฉพาะตัว ส าหรับสายงานที่เริ่มต้นจากระดับ 1 และระดับ 2 ในระดับเดียวกันกับต าแหน่งที่จะแต่งตั้ง แต่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มต าแหน่งเดียวกัน หรือกรณีผู้ที่ไม่เคยด ารงต าแหน่ง ลักษณะดังกล่าวมาก่อน หรือกรณีอื่นๆ นอกจากนี้ ให้ อ.ก.พ.กรม หรือคณะกรรมการที่ อ.ก.พ.กรมแต่งตั้งเป็น ผู้พิจารณาคัดเลือก โดยให้ใช้วิธีการสอบ หรือการประเมินผลงาน หรือการทดลองปฏิบัติงานอย่างน้อย 1 วิธี หรือ อาจก าหนดวิธีการอื่น เพื่อความเหมาะสมและประโยชน์ที่ทางราชการจะได้รับ 3. การแต่งตั้งบุคคลให้ด ารงต าแหน่ง 3.1 ผู้ที่จะได้รับการแต่งตั้งต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้ (1) เป็นผู้มีคุณสมบัติตรงตามคุณสมบัติเฉพาะต าแหน่งส าหรับต าแหน่งตามที่ก าหนดไว้ใน มาตรฐานก าหนดต าแหน่ง (2) มีระยะเวลาขั้นต่ าในการด ารงต าแหน่งหรือเคยด ารงต าแหน่งในสายงานที่จะแต่งตั้งตาม คุณวุฒิของบุคคลและระดับต าแหน่งที่จะแต่งตั้ง ทั้งนี้ อาจน าระยะเวลาในการด ารงต าแหน่งหรือเคยด ารง ต าแหน่งในสายงานอื่น ซึ่งมีลักษณะงานที่เกี่ยวข้องหรือเกื้อกูลมานับรวมเป็นระยะเวลาขั้นต่ าได้ การนับระยะเวลาการด ารงต าแหน่งหรือเคยด ารงต าแหน่งในสายงานที่อยู่ในกลุ่มต าแหน่ง เดียวกัน ให้ส่วนราชการนับรวมเป็นระยะเวลาปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องหรือเกื้อกูลกันได้ แต่ถ้าเป็นต าแหน่งในสาย งานที่ไม่อยู่ในกลุ่มต าแหน่งเดียวกัน ให้ อ.ก.พ.กรมหรือคณะกรรมการที่ อ.ก.พ.กรมแต่งตั้งเป็นผู้พิจารณาว่างานที่ เคยปฏิบัติมีลักษณะหน้าที่ความรับผิดชอบเกี่ยวข้องหรือเกื้อกูลกับต าแหน่งในสายงานที่จะแต่งตั้งหรือไม่ โดยให้ พิจารณาจากข้อเท็จจริง ลักษณะงานที่ปฏิบัติและประโยชน์ที่ทางราชการจะได้รับ (3) เป็นผู้ผ่านการคัดเลือกโดยวิธีการสอบ หรือการประเมินผลงาน หรือการให้ทดลองปฏิบัติงาน หรือโดยวิธีการอื่นๆ ตามที่ อ.ก.พ.กรม หรือคณะกรรมการที่ อ.ก.พ.กรมแต่งตั้งก าหนด 3.2 ให้แต่งตั้งบุคคลได้ไม่ก่อนวันที่ที่ผู้นั้นมีคุณสมบัติครบถ้วนตามหลักเกณฑ์ที่ ก.พ.ก าหนดไว้ข้างต้น รวมทั้งต้องเป็นไปตามหนังสือส านักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ที่ สร 0203/ว 255 ลงวันที่ 27 พฤศจิกายน 2524 ด้วย 9.หนังสือส ำนักงำน ก.พ. ที่ นร 1006/ว 10 ลงวันที่ 15 กันยำยน 2548 เรื่อง กำรประเมินบุคคล เพื่อแต่งตั้งให้ด ำรงต ำแหน่งส ำหรับผู้ปฏิบัติงำนที่มีประสบกำรณ์ (ต ำแหน่งประเภททั่วไป) และต ำแหน่ง ประเภทวิชำชีพเฉพำะ ต ำแหน่งระดับ 8 ลงมำ สำระส ำคัญ ก.พ.มีมติมอบให้ อ.ก.พ.กรมและผู้มีอ านาจสั่งบรรจุตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบ ข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2535 ด าเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินบุคคลเพื่อแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่ง ส าหรับผู้ปฏิบัติงานที่มีประสบการณ์ (ต าแหน่งประเภททั่วไป) และต าแหน่งประเภทวิชาชีพเฉพาะ ต าแหน่งระดับ 8 ลงมา ดังนี้ 1. ให้มีการพิจารณาคัดเลือกบุคคลที่มีความเหมาะสมก่อนที่จะให้ส่งผลงานประเมิน และให้ประกาศผล การพิจารณาอย่างเปิดเผย โปร่งใส รวมทั้งเปิดโอกาสให้มีการทักท้วงได้ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันประกาศผล 2. การประเมินผลงานเพื่อโอน ให้ด าเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินผลงาน ดังนี้ (1) กรณีผู้ที่ไม่เคยด ารงต าแหน่งส าหรับผู้ปฏิบัติงานที่มีประสบการณ์ (ต าแหน่งประเภททั่วไป) หรือ ต าแหน่งประเภทวิชาชีพเฉพาะ เมื่อผ่านการพิจารณาคัดเลือกตามวิธีการที่ อ.ก.พ.กรมหรือคณะกรรมการคัดเลือก บุคคลก าหนดแล้ว ให้ส่งผลงานเพื่อประเมินตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่คณะกรรมการประเมินผลงานก าหนด
-10- (2) กรณีผู้ที่ด ารงต าแหน่งหรือเคยด ารงต าแหน่งส าหรับผู้ปฏิบัติงานที่มีประสบการณ์(ต าแหน่งประเภท ทั่วไป) หรือต าแหน่งประเภทวิชาชีพเฉพาะในระดับเดียวกันกับต าแหน่งที่จะแต่งตั้ง และจัดอยู่ในกลุ่มต าแหน่ง เดียวกันตามที่เจ้าสังกัดกรมได้จัดกลุ่มโดยความเห็นชอบของ ก.พ.เมื่อผ่านการพิจารณาคัดเลือกตามวิธีการที่ อ.ก.พ.กรมหรือคณะกรรมการคัดเลือกบุคคลก าหนดแล้ว ให้แต่งตั้งได้โดยไม่ต้องมีการประเมินผลงาน 10.หนังสือส ำนักงำน ก.พ. ที่ นร 1006/ว 4 ลงวันที่ 20 กุมภำพันธ์ 2552 เรื่อง กำรโอน ข้ำรำชกำรพลเรือนสำมัญ สำระส ำคัญ ก.พ.อาศัยอ านาจตามความในมาตรา 132 และมาตรา 137 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการ พลเรือน พ.ศ.2551 ก าหนดการด าเนินการโอนข้าราชการพลเรือนสามัญไว้ เพื่อใช้ปฏิบัติตั้งแต่วันที่ 11 ธันวาคม 2551 ดังต่อไปนี้ 1. การโอนข้าราชการพลเรือนสามัญไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญในต่างกระทรวง กรม อาจท าได้เมื่อผู้บังคับบัญชาซึ่งมีอ านาจสั่งบรรจุตามมาตร 57 ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงยินยอมในการโอนนั้นแล้ว โดยไห้แต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งประเภทเดียวกัน ในระดับที่ไม่สูงกว่าเดิม และรับเงินเดือนไม่สูงกว่าเดิม ทั้งนี้ เว้น แต่เป็นการโอนตามข้อ 2 ข้อ 4 และข้อ 6 2. การโอนข้าราชการพลเรือนสามัญต าแหน่งประเภทบริหารระดับต้นและระดับสูง ประเภทอ านวยการ ระดับสูง ประเภทวิชาการระดับเชี่ยวชาญและระดับทรงคุณวุฒิ ประเภททั่วไประดับทักษะพิเศษ ไปแต่งตั้งให้ ด ารงต าแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญ ในประเภทและระดับเดียวกัน ในกระทรวงเดียวกัน ให้โอนไปแต่งตั้งด ารง ต าแหน่งดังกล่าวได้ โดยให้รับเงินเดือนไม่สูงกว่าเดิม ส าหรับการโอนข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ด ารงต าแหน่ง ประเภทบริหารระดับสูง และประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ ให้ท าได้เมื่อได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี 3. การโอนข้าราชการพลเรือนสามัญต าแหน่งประเภทบริหารระดับต้นและระดับสูง ประเภทอ านวยการ ระดับสูง ประเภทวิชาการระดับเชี่ยวชาญและระดับทรงคุณวุฒิ และประเภททั่วไประดับทักษะพิเศษ ไปแต่งตั้งให้ ด ารงต าแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญในส่วนราชการระดับกรมและมีหัวหน้าส่วนราชการอยู่ในบังคับบัญชาหรือ รับผิดชอบในการปฏิบัติราชการขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรีหรือต่อรัฐมนตรี แล้วแต่กรณี และการโอนข้าราชการ พลเรือนสามัญต าแหน่งดังกล่าว ซึ่งสังกัดส่วนราชการระดับกรมและมีหัวหน้าส่วนราชการอยู่ในบังคับบัญชาหรือ รับผิดชอบในการปฏิบัติราชการขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรีหรือต่อรัฐมนตรี แล้วแต่กรณี ไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่ง ข้าราชการพลเรือนสามัญในกรมหรือต่างส่วนราชการระดับกรม และมีหัวหน้าส่วนราชการอยู่ในบังคับบัญชาหรือ รับผิดชอบในการปฏิบัติราชการขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรีหรือต่อรัฐมนตรี แล้วแต่กรณี ในกระทรวงเดียวกัน อาจท าได้เมื่อผู้บังคับบัญชาซึ่งมีอ านาจสั่งบรรจุตามมาตรา 57 ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงยินยอมในการโอนนั้นแล้ว ทั้งนี้ ให้โอนไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งประเภทเดียวกันในระดับที่ไม่สูงกว่าเดิม และรับเงินเดือนไม่สูงกว่าเดิม ส าหรับการโอนข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ด ารงต าแหน่งประเภทบริหารระดับสูง และประเภทวิชาการระดับ ทรงคุณวุฒิให้ท าได้เมื่อได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี 4. การโอนข้าราชการพลเรือนสามัญต าแหน่งประเภทบริหารระดับสูง และประเภทวิชาการระดับ ทรงคุณวุฒิ ไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญในต่างกระทรวง โดยแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่ง ประเภทเดียวกัน ในระดับที่ไม่สูงกว่าเดิม และรับเงินเดือนไม่สูงกว่าเดิม ให้ท าได้เมื่อได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี 5. การโอนข้าราชการพลเรือนสามัญไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญในส านักงาน รัฐมนตรี และการโอนข้าราชการพลเรือนสามัญสังกัดส านักงานรัฐมนตรีไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งข้าราชการ พลเรือนสามัญในกรมหรือต่างส านักงานรัฐมนตรี อาจท าได้เมื่อผู้บังคับบัญชาซึ่งมีอ านาจสั่งบรรจุตามมาตรา 57
-11- ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงยินยอมในการโอนนั้นแล้ว ทั้งนี้ ให้โอนไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งประเภทเดียวกันในระดับที่ไม่ สูงกว่าเดิม และรับเงินเดือนไม่สูงกว่าเดิม 6. การโอนข้าราชการพลเรือนสามัญผู้สอบแข่งขันได้ ผู้สอบคัดเลือกได้หรือผู้ได้รับคัดเลือก ให้เป็นไปตาม หลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.พ.ก าหนดตามหนังสือส านักงาน ก.พ.ที่ นร 0708/ว 2 ลงวันที่ 31 มกราคม 2539 โดยอนุโลม 7. การโอนข้าราชการพลเรือนสามัญในพระองค์ไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ ท าได้ตามที่ ก.พ.เทียบประเภทต าแหน่ง สายงาน ระดับต าแหน่ง และเงินเดือนที่จะให้ได้รับ ทั้งนี้ จะต้องได้รับ ความยินยอมในการโอนจากผู้บังคับบัญชา ซึ่งมีอ านาจสั่งบรรจุของทั้งสองฝ่ายแล้ว 8. การโอนข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ใดซึ่งด ารงต าแหน่งประเภทบริหารระดับสูง และได้รับเงินประจ า ต าแหน่งในอัตรา 215000 บาท ไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งประเภทบริหารระดับสูงหรือต าแหน่งประเภทอื่น ซึ่งได้รับเงินประจ าต าแหน่งในอัตราที่ต่ ากว่าเดิม จะกระท ามิได้ เว้นแต่จะได้รับความยินยอมจากข้าราชการพล เรือนสามัญผู้นั้น และให้ท าได้เมื่อได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีแล้ว 11.หนังสือส ำนักงำน ก.พ.ที่ นร 1008.3.3/453 ลงวันที่ 17 กันยำยน 2552 เรื่อง กำรจัดกลุ่ม ต ำแหน่งประเภทวิชำกำรและประเภททั่วไป สำระส ำคัญ ก.พ. ได้พิจารณาแล้ว มีมติดังนี้ 1. รับทราบการจัดกลุ่มต าแหน่งของกรมการแพทย์ส าหรับต าแหน่งประเภทวิชาการ รวม 57 กลุ่ม อาทิเช่น (กลุ่มที่ 51) ได้แก่ นักวิเทศสัมพันธ์ นักวิเคราะห์นโยบายและแผน นักทรัพยากรบุคคล นักจัดการงานทั่วไป และ นักวิชาการสถิต (กลุ่มที่ 54) ได้แก่ นักวิชาการโสตทัศนศึกษา และนักประชาสัมพันธ์ (กลุ่มที่ 55) ได้แก่ นักวิชาการ ตรวจสอบภายใน นักวิชาการเงินและบัญชี และนักวิชาการพัสดุ 2. รับทราบการจัดกลุ่มต าแหน่งของกรมการแพทย์ส าหรับต าแหน่งประเภททั่วไป รวม 6 กลุ่ม ดังนี้ (กลุ่มที่ 1) เจ้าพนักงานเภสัชกรรม (กลุ่มที่ 2) ช่างกายอุปกรณ์ และเจ้าพนักงานเวชกรรมฟื้นฟู (กลุ่มที่ 3) นายช่างเทคนิค (กลุ่มที่ 4) นายช่างไฟฟ้า (กลุ่มที่ 5) เจ้าพนักงานธุรการ เจ้าพนักงานพัสดุ เจ้าพนักงานการเงินและบัญชี เจ้าพนักงานสถิติ เจ้าพนักงานห้องสมุด และเจ้าพนักงานเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ (กลุ่มที่ 6) พยาบาลเทคนิค และได้ระบุรายละเอียดตามหมายเหตุเกี่ยวกับต าแหน่งประเภทวิชาการ ดังนี้ 1. ให้ย้าย ย้ายสับเปลี่ยน รับโอน หรือบรรจุกลับผู้ด ารงต าแหน่งหรือเคยด ารงต าแหน่งนายแพทย์ใน (กลุ่มที่ 2) ด้านสาธารณสุข (กลุ่มที่ 3) ด้านเวชกรรม (กลุ่มที่ 4) ด้านเวชกรรมป้องกัน (กลุ่มที่ 5) ด้านเวชกรรมสาขาเวชกรรมทั่วไป (กลุ่มที่ 6) ด้านเวชกรรมสาขาศัลยกรรมหัวใจ (กลุ่มที่ 7) ด้านเวชกรรมสาขาศัลยกรรม (กลุ่มที่ 8) ด้านเวชกรรม สาขาออร์โธปิดิกส์ (กลุ่มที่ 9) ด้านเวชกรรมสาขากุมารศัลยกรรม (กลุ่มที่ 10) ด้านเวชกรรมสาขาประสาทศัลยกรรม (กลุ่มที่ 11) ด้านเวชกรรมสาขาอายุรกรรม (กลุ่มที่ 12) ด้านเวชกรรมสาขากุมารเวชกรรม (กลุ่มที่ 13) ด้านเวชกรรม สาขากุมารประสาทวิทยา (กลุ่มที่ 14) ด้านเวชกรรมสาขาสูติ-นรีเวชกรรม ด้านเวชกรรมสาขามะเร็งวิทยานรีเวช (กลุ่มที่ 15) ด้านเวชกรรมสาขาโสต ศอ นาสิก (กลุ่มที่ 16) ด้านเวชกรรมสาขาจักษุวิทยา (กลุ่มที่ 17) ด้านเวชกรรม สาขาจักษุประสาทวิทยา (กลุ่มที่ 18 ) ด้านเวชกรรมสาขาวิสัญญีวิทยา (กลุ่มที่ 19) ด้านเวชกรรมสาขาพยาธิวิทยา (กลุ่มที่ 20) ด้านเวชกรรมสาขารังสีวิทยา (กลุ่มที่ 21) ด้านเวชกรรมสาขาประสาทรังสีวิทยา (กลุ่มที่ 22) ด้านเวชกรรม สาขาจิตเวช (กลุ่มที่ 23) ด้านเวชกรรมสาขาประสาทวิทยา (กลุ่มที่ 24) ด้านเวชกรรมสาขาตจวิทยา และ (กลุ่มที่ 25) ด้านเวชกรรมสาขาเวชกรรมฟื้นฟู ไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งนายแพทย์ใน กลุ่มที่(1) นายแพทย์ (ผู้อ านวยการศูนย์) รวมทั้งให้ย้ายสับเปลี่ยนกลับไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งในกลุ่มเดิมและระดับเดิมได้
-12- 2. ให้ย้าย ย้ายสับเปลี่ยน รับโอน หรือบรรจุกลับผู้ด ารงต าแหน่งหรือเคยด ารงต าแหน่งนายแพทย์ (กลุ่มที่ 1) ไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งนายแพทย์ใน (กลุ่มที่ 2-5) ดังกล่าวข้างต้น รวมทั้งให้ย้าย ย้ายสับเปลี่ยนกลับไปแต่งตั้ง ให้ด ารงต าแหน่งในกลุ่มเดิมและระดับเดิมได้ 3. ให้ย้าย ย้ายสับเปลี่ยน รับโอน หรือบรรจุกลับผู้ด ารงต าแหน่งหรือเคยด ารงต าแหน่งนายแพทย์ (กลุ่มที่ 2) ไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งนายแพทย์ใน (กลุ่มที่ 3-5) ดังกล่าวข้างต้น รวมทั้งให้ย้าย ย้ายสับเปลี่ยนกลับไปแต่งตั้ง ให้ด ารงต าแหน่งในกลุ่มเดิมและระดับเดิมได้ 4. ให้ย้าย ย้ายสับเปลี่ยน รับโอน หรือบรรจุกลับผู้ด ารงต าแหน่งหรือเคยด ารงต าแหน่งนายแพทย์ (กลุ่มที่ 3) ไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งนายแพทย์ใน (กลุ่มที่ 2) และ(กลุ่มที่ 4-5) ดังกล่าวข้างต้น รวมทั้งให้ย้าย ย้าย สับเปลี่ยนกลับไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งในกลุ่มเดิมและระดับเดิมได้ 5. ให้ย้าย ย้ายสับเปลี่ยน รับโอน หรือบรรจุกลับผู้ด ารงต าแหน่งหรือเคยด ารงต าแหน่งนายแพทย์ (กลุ่มที่ 6-25) ไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งนายแพทย์ใน (กลุ่มที่ 2-5) ดังกล่าวข้างต้น รวมทั้งให้ย้าย ย้ายสับเปลี่ยนกลับไปแต่งตั้งให้ ด ารงต าแหน่งในกลุ่มเดิมและระดับเดิมได้ 6. ให้ย้าย ย้ายสับเปลี่ยน รับโอน หรือบรรจุกลับผู้ด ารงต าแหน่งหรือเคยด ารงต าแหน่งนายแพทย์ (กลุ่มที่ 4) ไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งนายแพทย์ใน (กลุ่มที่ 2-3) และ(กลุ่มที่ 5) ดังกล่าวข้างต้น รวมทั้งให้ย้าย ย้ายสับเปลี่ยน กลับไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งในกลุ่มเดิมและระดับเดิมได้ 7. ให้ย้าย ย้ายสับเปลี่ยน รับโอน หรือบรรจุกลับผู้ด ารงต าแหน่งหรือเคยด ารงต าแหน่งเภสัชกร (กลุ่มที่ 29) ด้านเภสัชกรรมคลินิก (กลุ่มที่ 30) ด้านเภสัชกรรมการผลิต ไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งในระดับเดียวกันใน(กลุ่มที่ 28) ด้านเภสัชกรรม ได้ รวมทั้งให้ย้าย ย้ายสับเปลี่ยนกลับไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งในกลุ่มเดิมและระดับเดิมได้ 8. ให้ย้าย ย้ายสับเปลี่ยน รับโอน หรือบรรจุกลับผู้ด ารงต าแหน่งหรือเคยด ารงต าแหน่งพยาบาลวิชาชีพ (กลุ่มที่ 32) ด้านการพยาบาลผู้ป่วยผ่าตัด (กลุ่มที่ 33) ด้านการพยาบาลวิสัญญี (กลุ่มที่ 34) ด้านการพยาบาลผู้ป่วยหนัก (กลุ่มที่ 35) ด้านการพยาบาลผู้คลอด (กลุ่มที่ 36) ด้านการพยาบาลผู้ป่วยอุบัติเหตุและฉุกเฉิน (กลุ่มที่ 37) ด้านการพยาบาล ในการตรวจรักษาพิเศษ (กลุ่มที่ 38) ด้านการสอน (กลุ่มที่ 39) นักวิชาการพยาบาล ไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งใน ระดับเดียวกันใน (กลุ่มที่ 31) ด้านการพยาบาล ได้ รวมทั้งให้ย้าย ย้ายสับเปลี่ยนกลับไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งใน กลุ่มเดิมและระดับเดิมได้ 9. ให้ย้าย ย้ายสับเปลี่ยน รับโอน หรือบรรจุกลับผู้ด ารงต าแหน่งหรือเคยด ารงต าแหน่งพยาบาลวิชาชีพ (กลุ่ม ที่ 39) ด้านการสอน ไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งในระดับเดียวกันใน (กลุ่มที่ 39 ) นักวิชาการพยาบาลได้ รวมทั้งให้ย้าย ย้ายสับเปลี่ยนกลับไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งในกลุ่มเดิมและระดับเดิมได้ 10. ให้ย้าย ย้ายสับเปลี่ยน รับโอน หรือบรรจุกลับผู้ด ารงต าแหน่งหรือเคยด ารงต าแหน่งนายแพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกร พยาบาลวิชาชีพ นักวิชาการพยาบาล นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ ไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งระดับเดียวกันใน (กลุ่มที่ 40) นักวิชาการสาธารณสุข ได้ รวมทั้งให้ย้าย ย้ายสับเปลี่ยนกลับไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งในกลุ่มเดิมและ ระดับเดิมได้ 11. ต าแหน่งนายแพทย์ (ผู้อ านวยการศูนย์) ในกลุ่มที่ 1 เป็นต าแหน่งนายแพทย์ ด้านเวชกรรม
-13- 12.หนังสือส ำนักงำน ก.พ.ที่ นร 1008/ว 30 ลงวันที่ 15 กันยำยน 2553 เรื่องหลักเกณฑ์และ เงื่อนไขกำรเทียบต ำแหน่งอย่ำงอื่นเท่ำกับกำรด ำรงต ำแหน่งข้ำรำชกำรพลเรือนสำมัญตำมพระรำชบัญญัติ ระเบียบข้ำรำชกำรพลเรือน พ.ศ.2551 สำระส ำคัญ ก.พ. ก าหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการเทียบต าแหน่ง ดังนี้ 1. กรณีระบบการก าหนดต าแหน่งเหมือกับข้าราชการพลเรือนสามัญตามพระราชบัญญัติระเบียบ ข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 ให้เทียบการด ารงต าแหน่งเท่ากับต าแหน่งในประเภทและระดับที่ด ารงต าแหน่งอยู่ 2. กรณีระบบการก าหนดต าแหน่งเหมือนกับข้าราชการพลเรือนสามัญตามพระราชบัญญัติระเบียบ ข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2535 ให้เทียบการด ารงต าแหน่งตามหนังสือส านักงาน ก.พ.ที่ นร 1006/ว 12 ลงวันที่ 11 ธันวาคม 2551 เว้นแต่การเทียบต าแหน่งข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น ดังต่อไปนี้ให้เป็นไปตามตาราง การเทียบต าแหน่ง 2.1 ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาประเภท ก. ข. และ ค. (1) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2557 ส าหรับข้าราชการครูองค์การบริหารส่วนจังหวัด ข้าราชการครูกรุงเทพมหานคร พนักงานครูเทศบาล และพนักงานครูเมืองพัทยา ให้น าตารางการเทียบต าแหน่งตาม 2.1 มาใช้โดยอนุโลม 2.2 ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา 2.3 พนักงานส่วนท้องถิ่นในสายงานนักบริหารงานต่างๆ 3. กรณีข้าราชการอัยการ ข้าราชการตุลาการ ข้าราชการทหารและข้าราชการต ารวจ ให้เทียบต าแหน่งกับ การเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญตามตารางการเทียบต าแหน่งดังกล่าว แล้วแต่กรณี 4. กรณีที่นอกเหนือจากหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการเทียบต าแหน่งตามที่ก าหนดไว้นี้ ให้เสนอ ก.พ.พิจารณา เป็นรายๆ ไป 13.หนังสือส ำนักงำน ก.พ.ที่ นร 1006/ว 36 ลงวันที่ 29 กันยำยน 2553 เรื่องกำรโอนพนักงำน ส่วนท้องถิ่นและข้ำรำชกำรที่ไม่ใช่ข้ำรำชกำรพลเรือนสำมัญมำบรรจุเป็นข้ำรำชกำรพลเรือนสำมัญ สำระส ำคัญ ก.พ. ก าหนดหลักเกณฑ์และวิธีการโอนส าหรับพนักงานส่วนท้องถิ่น และข้าราชการที่ไม่ใช่ข้าราชการ พลเรือนสามัญ มาบรรจุเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ ตลอดจนจะแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งประเภท สายงาน ระดับ และให้ได้รับเงินเดือนไว้ ดังต่อไปนี้ 1. การโอนมาบรรจุและแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งประเภท สายงาน และระดับ 1.1 ให้ส่วนราชการพิจารณาถึงความจ าเป็นและประโยชน์ที่ทางราชการจะได้รับจากความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ของผู้ขอโอนเทียบกับข้าราชการพลเรือนสามัญในส่วนราชการนั้น 1.2 การโอนมาบรรจุและแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งใด ผู้ขอโอนต้องมีคุณสมบัติตรงตามคุณสมบัติเฉพาะ ส าหรับต าแหน่งตามมาตรฐานก าหนดต าแหน่งที่ ก.พ.ก าหนด และต้องมีคุณสมบัติทั่วไป และไม่มีลักษณะต้องห้าม หรือได้รับยกเว้นกรณีที่มีลักษณะต้องห้าม ตามมาตรา 36 1.3 การโอนต้องได้รับความยินยอมจากผู้มีอ านาจสั่งบรรจุของส่วนราชการ หรือหน่วยงานเจ้าสังกัด เดิมของผู้นั้นก่อน 1.4 ต าแหน่งที่จะรับโอนต้องเป็นต าแหน่งว่างที่มีอัตราเงินเดือน และมิใช่เป็นต าแหน่งที่สงวนไว้ เช่น เพื่อบรรจุนักเรียนทุนรัฐบาล ผู้ไปรับราชการทหารหรือผู้ไปปฏิบัติงานตามมติคณะรัฐมนตรีกลับเข้ารับราชการ เป็นต้น
-14- 1.5 ให้ผู้ขอโอนยื่นหนังสือขอโอนตามมาตรา 64 1.6 ให้รับโอนมาบรรจุและแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งในประเภท และระดับที่เทียบได้ระดับที่สูงกว่า ระดับที่ต่ ากว่า หรือต่างประเภทต าแหน่งที่เทียบได้ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการเทียบต าแหน่งอย่างอื่นเท่ากับ การด ารงต าแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญ ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 ตามหนังสือ ก.พ.ที่ นร 1008/ว 30 ลงวันที่ 15 กันยายน 2553 ก็ได้ 1.7 การโอนมาบรรจุและแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งประเภทวิชาการ หากผู้ขอโอนเป็นผู้เคยด ารง ต าแหน่งที่ใช้คุณวุฒิต่ ากว่าระดับปริญญาตรีเป็นคุณสมบัติเฉพาะส าหรับต าแหน่งมาก่อน และปัจจุบันด ารง ต าแหน่งที่ใช้คุณวุฒิระดับปริญญา ผู้นั้นจะต้องได้รับการแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งที่ใช้คุณวุฒิระดับปริญญาดังกล่าว โดยผลของการสอบแข่งขันหรือการคัดเลือกกรณีที่มีเหตุพิเศษ ทั้งนี้ การสอบแข่งขันหรือการคัดเลือกดังกล่าวต้อง เทียบเคียงหรือได้มาตรฐานเดียวกับหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ ก.พ.ก าหนด ส าหรับการสอบแข่งขันตาม มาตรา 53 หรือการคัดเลือกกรณีที่มีเหตุพิเศษตามมาตรา 55 จึงจะรับโอนได้ 1.8 กรณีผู้ขอโอนเป็นผู้สอบแข่งขันได้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุ บุคคลเข้ารับราชการ ที่ ก.พ.ก าหนดและได้รับความยินยอมให้โอนจากส่วนราชการหรือหน่วยงานเจ้าสังกัดเดิม หลังจากวันที่ผู้ด าเนินการสอบแข่งขันก าหนดให้สั่งบรรจุซึ่งจะท าให้ผู้นั้นถูกยกเลือกการขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ หากส่วนราชการที่จะรับโอนพิจารณาแล้วเห็นว่ามีเหตุผลอันสมควรและบัญชีผู้สอบแข่งขันได้นั้นยังไม่ยกเลิก ก็ให้ รับโอนได้ตั้งแต่วันที่ผู้มีอ านาจสั่งบรรจุของส่วนราชการหรือหน่วยงานเจ้าสังกัดเดิมยินยอมให้โอน 2.การให้ได้รับเงินเดือน 2.1 การโอนมาบรรจุและแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งประเภทใด สายงานใด และระดับใด ให้ได้รับ เงินเดือนในอัตราที่ได้รับอยู่เดิม และต้องไม่สูงกว่าเงินเดือนขั้นสูงของต าแหน่งประเภท สายงาน และระดับที่รับโอน ตามที่ ก.พ.ก าหนด หากผู้ขอโอนได้รับเงินเดือนต่ ากว่าขั้นต่ าของระดับต าแหน่งที่จะรับโอน ก็ให้ได้รับเงินเดือนในขั้นต่ าของ ระดับที่ได้รับแต่งตั้ง เว้นแต่ ในกรณีที่อัตราเงินเดือนขั้นต่ าชั่วคราวของระดับนั้นยังมีผลใช้บังคับอยู่ ก็ให้ได้รับ เงินเดือนเท่าเดิมและไม่ต่ ากว่าขั้นต่ าชั่วคราวของระดับนั้น 2.2 การโอนผู้สอบแข่งขันได้ตามมาตรา 53 หรือผู้ได้รับคัดเลือกตามมาตรา 55 ให้ได้รับเงินเดือน ตามที่ก าหนดในประกาศรับสมัครสอบแข่งขัน หรือประกาศรับสมัครคัดเลือกเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการเป็น ข้าราชการพลเรือนสามัญ แล้วแต่กรณี 14.หนังสือส ำนักงำน ก.พ. ที่ นร 1006.2/82 ลงวันที่ 21 มีนำคม 2555 เรื่อง แนวทำงกำร พิจำรณำเทียบเคียงมำตรฐำนกำรสอบแข่งขัน ตำมหลักเกณฑ์ วิธีกำร และเงื่อนไขที่ ก.พ.ก ำหนด ส ำหรับกำรรับโอน และกำรบรรจุกลับพนักงำนส่วนท้องถิ่นและข้ำรำชกำรที่ไม่ใช่ข้ำรำชกำรพลเรือนสำมัญ สำระส ำคัญ โดยที่หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการที่ ก.พ.ก าหนดตาม มาตรา 53 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 ยึดมาตรฐานหลักส าคัญ 2 ประการ ได้แก่ หลักคุณธรรม และหลักความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับงาน เพื่อให้บรรจุเป้าหมาย ได้คนดี คนเก่ง คือ มีความรู้ ความสามารถ และมีคุณลักษณะที่เหมาะสมกับต าแหน่งงาน ดังนั้น แนวทางการพิจารณาเทียบเคียงมาตรฐานการ สอบแข่งขันดังกล่าว จึงต้องพิจารณาจากรายละเอียดบ่งชี้ดังต่อไปนี้ คือ 1. การสอบแข่งขันต้องเป็นการสอบทั่วไป ไม่จ ากัดเฉพาะกลุ่ม หรือเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม เช่น จะประกาศรับสมัครสอบเฉพาะพนักงานส่วนท้องถิ่น หรือเฉพาะผู้ได้รับปริญญาเกียรตินิยม ไม่ได้
-15- 2. มีการตั้งคณะกรรมการด าเนินการสอบแข่งขัน และกรรมการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อด าเนินการในเรื่อง ต่างๆ เช่น คณะกรรมการด าเนินการสรรหาและเลือกสรร กรรมการออกข้อสอบ กรรมการสอบสัมภาษณ์ เป็นต้น เพื่อให้เกิดความโปร่งใส และมาตรฐานในการด าเนินการ 3. มีการประกาศรับสมัครสอบอย่างเปิดเผย ทั่วถึง ตรงกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ ก าหนดระยะเวลา ด าเนินการ และระบุรายละเอียดในประกาศรับสมัครครอบคลุมสิ่งส าคัญที่ผู้สมัครต้องทราบอย่างครบถ้วน และ ชัดเจน เช่น ชื่อต าแหน่ง ลักษณะงาน คุณสมบัติของผู้สมัคร เงินเดือนที่ได้รับ เป็นต้น 4. การสอบแข่งขันมีกระบวนการเป็นขั้นตอนต่างๆ เช่น ก าหนดหลักสูตร ออกข้อสอบหรือก าหนดวิธีการสอบ ด าเนินการสอบ วัดผลสอบ เกณฑ์การตัดสิน 5. จัดให้มีการทดสอบความรู้ความสามารถ เพื่อให้ได้บุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ ทักษะ และ สมรรถนะตรงกับต าแหน่งงาน ดังนี้ ก. ภาคความรู้ความสามารถทั่วไป เป็นการวัดศักยภาพในการเรียนรู้ ข. ภาความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะต าแหน่ง เป็นการทดสอบความรู้ความสามารถที่ใช้ในการ ปฏิบัติงานในหน้าที่ ตามขอบข่ายของงานที่ต้องปฏิบัติตามที่ก าหนดในมาตรฐานก าหนดต าแหน่ง ค. ภาคความเหมาะสมกับต าแหน่ง เป็นการประเมินบุคคลเพื่อพิจารณาความเหมาะสมกับต าแหน่ง การตัดสินว่าผู้ใดเป็นผู้สอบได้ให้ถือหลักเกณฑ์ว่าต้องเป็นผู้สอบได้คะแนนในการสอบแต่ละภาค ไม่ต่ ากว่าร้อยละ 60 6. มีการก าหนดเกณฑ์การขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ ระยะเวลาหรืออายุการขึ้นบัญชี และจัดท าประกาศ ขึ้นบัญชีผู้ผ่านเกณฑ์การตัดสินซึ่งมีรายชื่อถูกต้อง และมีรายละเอียดตามที่ควรก าหนด 7. เรียกผู้ขึ้นบัญชีมารายงานตัวเพื่อรับการบรรจุตามล าดับที่ โดยมีหนังสือถึงผู้ขึ้นบัญชีตามระยะเวลา ที่ก าหนด 15.หนังสือส ำนักงำน ก.พ.ที่ นร 1008/ว 4 ลงวันที่ 27 มีนำคม 2558 เรื่อง หลักเกณฑ์และ เงื่อนไขกำรเทียบต ำแหน่งอย่ำงอื่นเท่ำกับกำรด ำรงต ำแหน่งข้ำรำชกำรพลเรือนสำมัญ ตำมพระรำชบัญญัติ ระเบียบข้ำรำชกำรพลเรือน พ.ศ.2551 สำระส ำคัญ โดยที่พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 จัดตั้งกองอ านวยการรักษา ความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ในส านักนายกรัฐมนตรี มีฐานะเป็นส่วนราชการรูปแบบเฉพาะ อยู่ ภายใต้การบังคับบัญชาขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี การจัดโครงสร้างและอัตราก าลังให้เป็นไปตามที่คณะรัฐมนตรี ก าหนด และคณะรัฐมนตรีได้ก าหนดให้การบริหารงานบุคคลของข้าราชการพลเรือนประจ า กอ.รมน.ให้น า พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 มาใช้บังคับโดยอนุโลม ประกอบกับต าแหน่งและการเทียบ ต าแหน่งข้าราชการทหาร และข้าราชการต ารวจในบางต าแหน่ง ไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงในปัจจุบัน ดังนั้น เพื่อประโยชน์ในการบริหารทรัพยากรบุคคลของส่วนราชการ ก.พ.จึงมีมติให้แก้ไขเพิ่มเติม หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการเทียบต าแหน่งอย่างอื่นเท่ากับการด ารงต าแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญ ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 ดังนี้ 1. เพิ่มเติมการเทียบต าแหน่งข้าราชการพลเรือนประจ า กอ.รมน.เท่ากับการด ารงต าแหน่งข้าราชการ พลเรือนสามัญตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 โดยให้เพิ่มความดังต่อไปนี้เป็น ข้อ 24 ใน ข้อ ก.ของหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการเทียบต าแหน่ง “24.ข้าราชการพลเรือนประจ ากองอ านวยการ รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร”
-16- 2. ยกเลิกการเทียบต าแหน่งข้าราชการทหาร ต าแหน่งหลักชั้นสัญญาบัตรอื่น และชั้นประทวนตามตาราง เทียบต าแหน่งข้าราชการทหารแนบท้าย หนังสือส านักงาน ก.พ.ที่ นร 1008/ว 30 ลงวันที่ 15 กันยายน 2553 และให้ใช้การเทียบต าแหน่งข้าราชการทหารต าแหน่งหลักชั้นสัญญาบัตรอื่นและชั้นประทวน ดังนี้ แทน การเทียบต าแหน่งข้าราชการ ข้าราชการทหาร ข้าราชการพลเรือน ต าแหน่งหลัก ชั้นยศ ประเภท ทั่วไป ประเภท วิชาการ ประเภท อ านวยการ ประเภท บริหาร ชั้นสัญญาบัตรอื่น พ.อ./น.อ. - ระดับช านาญการพิเศษ - - พ.ต.-พ.ท./น.ต.-น.ท. - ระดับช านาญการ - - ร.ต.-ร.อ. - ระดับปฏิบัติการ - - ชั้นประทวน จ.ส.ต.-จ.ส.อ./ พ.จต.-พ.จ.อ./ พ.อ.ต.-พ.อ.อ. ระดับ ช านาญงาน - - - ส.ต.-ส.อ./ จ.ต.-จ.อ. ระดับ ปฏิบัติงาน - - - 3. ยกเลิกการเทียบต าแหน่งข้าราชการต ารวจ ต าแหน่งหลักผู้บังคับหมู่ รองผู้บังคับหมู่และลูกแถว ตามตารางเทียบต าแหน่งข้าราชการต ารวจแนบท้ายหนังสือส านักงาน ก.พ.ที่ นร 1008/ว 30 ลงวันที่ 15 กันยายน 2553 และให้ใช้การเทียบต าแหน่งข้าราชการต ารวจต าแหน่งหลักผู้บังคับหมู่และรองผู้บังคับหมู่ ดังนี้ แทน ข้าราชการต ารวจ ข้าราชการพลเรือน ต าแหน่งหลัก ต าแหน่ง ที่เรียกชื่อ อย่างอื่น ชั้น/ยศ ประเภททั่วไป ประเภท วิชาการ ประเภท อ านวยการ ประเภท บริหาร ผู้บังคับหมู่ - จ.ส.ต.-ด.ต. ระดับช านาญงาน - - - - ส.ต.ต.-ส.ต.อ. ระดับปฏิบัติงาน - - - รองผู้บังคับหมู่ - พลต ารวจ ระดับปฏิบัติงาน - - - 16.หนังสือส ำนักงำน ก.พ.ที่ นร 1008/ว 9 ลงวันที่ 21 กรกฎำคม 2560 เรื่องหลักเกณฑ์และ เงื่อนไขกำรเทียบต ำแหน่งอย่ำงอื่นเท่ำกับกำรด ำรงต ำแหน่งข้ำรำชกำรพลเรือนสำมัญตำมพระรำชบัญญัติ ระเบียบข้ำรำชกำรพลเรือน พ.ศ.2551 สำระส ำคัญ ก.พ.ก าหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการเทียบต าแหน่งข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาและ ต าแหน่งพนักงานส่วนท้องถิ่นเท่ากับการด ารงต าแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญ ตามพระราชบัญญัติระเบียบ ข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ดังนี้
-17- 1. หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการเทียบต าแหน่งอย่างอื่นเท่ากับการด ารงต าแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญ ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 กรณีต าแหน่งข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา ตารางการเทียบต าแหน่งข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา (ก) ต าแหน่งวิชาการ ซึ่งท าหน้าที่สอนและวิจัย ได้แก่ ต าแหน่งดังต่อไปนี้ (1) ศาสตราจารย์ (2) รองศาสตราจารย์ (3) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ (4) อาจารย์ (5) ต าแหน่งอื่นตามที่ ก.พ.อ.ก าหนด ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา ข้าราชการพลเรือนสามัญ ต าแหน่งวิชาการ ต าแหน่งประเภทวิชาการ ศาสตราจารย์ (ปตน. 155600) ทรงคุณวุฒิ (ปตน. 155600 ) ศาสตราจารย์ (ปตน. 135000 ) ทรงคุณวุฒิ (ปตน.135000 ) รองศาสตราจารย์ (ปตน. 95900) เชี่ยวชาญ รองศาสตราจารย์(ปตน. 55600) ช านาญการพิเศษ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ (ปตน.95900) เชี่ยวชาญ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ (ปตน.55600) ช านาญการพิเศษ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ (ปตน.35500) ช านาญการ อาจารย์ (ปตน. 95900) เชี่ยวชาญ อาจารย์ (ปตน. 55600) ช านาญการพิเศษ อาจารย์ (ปตน. 35500) ช านาญการ อาจารย์ปฏิบัติงานมาแล้วไม่น้อยกว่า 4 ปี ส าหรับวุฒิปริญญาโท 2 ปี ส าหรับวุฒิปริญญาเอก ช านาญการ อาจารย์ปฏิบัติงานน้อยกว่า 4 ปี ส าหรับวุฒิปริญญาโท 2 ปี ส าหรับวุฒิปริญญาเอก ปฏิบัติการ กรณีต าแหน่งอื่นตามที่ ก.พ.อ.ก าหนด หาก ก.พ.อ.ก าหนดเป็นระดับใด ให้เทียบกับต าแหน่งหลักข้างต้น หมายเหตุ – ปตน.หมายถึง เงินประจ าต าแหน่ง (ข) ต าแหน่งประเภทผู้บริหาร ได้แก่ (1) อธิการบดี (2) รองอธิการบดี (3) คณบดี (4) หัวหน้าหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะ (5) ผู้ช่วยอธิการบดี (6) รองคณบดีหรือรองหัวหน้าหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะ
-18- (7) ผู้อ านวยการส านักงานอธิการบดี ผู้อ านวยการส านักงานวิทยาเขต ผู้อ านวยการกองหรือหัวหน้า หน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่ากองตามที่ ก.พ.อ.ก าหนด (8) ต าแหน่งอื่นตามที่ ก.พ.อ.ก าหนด กรณีที่ 1 ต าแหน่งบริหารวิชาการ ให้เทียบต าแหน่งกับการเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ โดยพิจารณา จากต าแหน่งหลักทางวิชาการก่อน แล้วจึงพิจารณาจากการด ารงต าแหน่งหรือเคยด ารงต าแหน่งทางการบริหาร ประกอบ ดังนี้ ต ำแหน่ง ทำงกำรบริหำร ต ำแหน่ง วิชำกำร อธิกำรบดี รองอธิกำรบดี คณบดี/หัวหน้ำ หน่วยงำนที่ เทียบเท่ำคณะ - ศาตราจารย์ (ปตน.155600) - ศาตราจารย์ (ปตน.135000) ประเภทบริหาร ระดับสูง (ปตน. 145500) ประเภทบริหาร ระดับต้น ประเภทอ านวยการ ระดับสูง - รองศาสตราจารย์ (ปตน. 95900) - ผู้ช่วยศาสตราจารย์ (ปตน.95900) - อาจารย์ (ปตน. 95900) ประเภทบริหาร ระดับต้น ประเภทอ านวยการ ระดับสูง ประเภทอ านวยการ ระดับสูง - รองศาสตราจารย์ (ปตน. 55600) - ผู้ช่วยศาสตราจารย์ (ปตน.55600) - อาจารย์ (ปตน.55600) ประเภทอ านวยการ ระดับต้น ประเภทอ านวยการ ระดับต้น ประเภทอ านวยการ ระดับต้น กรณีต าแหน่งอื่นตามที่ ก.พ.อ.ก าหนด หาก ก.พ.อ.ก าหนดเป็นระดับใด ให้เทียบกับต าแหน่งหลักข้างต้น หมายเหตุ : 1) ปตน.หมายถึง เงินประจ าต าแหน่ง 2) ต าแหน่งผู้ช่วยอธิการบดี และต าแหน่งรองคณบดี ไม่มีในโครงสร้างต าแหน่งของข้าราชการพลเรือนสามัญ จึงให้เทียบตามต าแหน่งทางวิชาการที่ด ารงอยู่ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการเทียบต าแหน่งฯ ของต าแหน่งวิชาการ กรณีที่ 1 ต าแหน่งบริหารทั่วไป ข้ำรำชกำรพลเรือนในสถำบันอุดมศึกษำ ข้ำรำชกำรพลเรือนสำมัญ ต ำแหน่งประเภทผู้บริหำร ต ำแหน่งประเภทอ ำนวยกำร ผู้อ ำนวยกำรส ำนักงำนอธิกำรบดี ผู้อ ำนวยกำร ส ำนักงำนวิทยำเขต ผู้อ ำนวยกำรกอง หรือหัวหน้ำ หน่วยงำนที่เรียกชื่ออย่ำงอื่นที่มีฐำนะเทียบเท่ำกอง - เงินประจ าต าแหน่ง 105000 บาท - เงินประจ าต าแหน่ง 55600 บาท อ านวยการสูง อ านวยการต้น
-19- (ค) ต าแหน่งประเภทวิชาชีพเฉพาะหรือเชี่ยวชาญเฉพาะ และประเภททั่วไป ข้ำรำชกำรพลเรือนในสถำบันอุดมศึกษำ ข้ำรำชกำรพลเรือนสำมัญ ต ำแหน่งประเภทวิชำชีพเฉพำะหรือเชี่ยวชำญเฉพำะ ระดับต ำแหน่ง ต ำแหน่งประเภทวิชำกำร ระดับต ำแหน่ง ระดับเชี่ยวชาญพิเศษ(เงินประจ าต าแหน่ง 135000 บาท) ระดับทรงคุณวุฒิ (เงินประจ าต าแหน่ง 135000 บาท) ระดับเชี่ยวชาญ ระดับเชี่ยวชาญ ระดับช านาญการพิเศษ ระดับช านาญการพิเศษ ระดับช านาญการ ระดับช านาญการ ระดับปฏิบัติการ ระดับปฏิบัติการ ต ำแหน่งประเภทวิชำชีพเฉพำะหรือเชี่ยวชำญเฉพำะ ระดับต ำแหน่ง ต ำแหน่งประเภทวิชำกำร ระดับต ำแหน่ง ระดับช านาญงานพิเศษ ระดับอาวุโส ระดับช านาญงาน ระดับช านาญงาน ระดับปฏิบัติงาน ระดับปฏิบัติงาน 2. หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการเทียบต าแหน่งอย่างอื่นเท่ากับการด ารงต าแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญ ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 กรณีต าแหน่งพนักงานส่วนท้องถิ่น 1. กรณีต าแหน่งประเภททั่วไป และประเภทวิชาการ ให้เทียบการด ารงต าแหน่งเท่ากับต าแหน่งในประเภท และระดับที่ด ารงต าแหน่งอยู่ 2. กรณีต าแหน่งประเภทบริหารท้องถิ่น และประเภทอ านวยการท้องถิ่น ให้เป็นไปตามตารางการเทียบ ต าแหน่งพนักงานส่วนท้องถิ่นในสายงานนักบริหารงานต่างๆ ดังนี้ ตำรำงกำรเทียบต ำแหน่งพนักงำนส่วนท้องถิ่นในสำยงำนนักบริหำรงำนต่ำงๆ พนักงำนส่วนท้องถิ่น ข้ำรำชกำรพลเรือนสำมัญ ต ำแหน่ง ระดับ ประเภทอ ำนวยกำร ประเภทวิชำกำร ประเภททั่วไป ประเภทบริหารท้องถิ่น ในสายงานนักบริหารงานท้องถิ่น สูง ระดับสูง *ระดับเชี่ยวชาญ กลาง ระดับต้น *ระดับช านาญการพิเศษ ระดับอาวุโส ต้น - *ระดับช านาญการ **ระดับอาวุโส - *ระดับช านาญการ ระดับช านาญงาน ประเภทอ านวยการท้องถิ่น ในสายงานนักบริหารงานต่างๆ สูง ระดับสูง *ระดับเชี่ยวชาญ - กลาง ระดับต้น *ระดับช านาญการพิเศษ ระดับอาวุโส ต้น - *ระดับช านาญการ **ระดับอาวุโส - *ระดับช านาญการ ระดับช านาญงาน หมำยเหตุ* เฉพาะผู้ที่ได้รับการบรรจุและแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งประเภทวิชาการหรือสายงานที่เริ่มต้นจากระดับ 3 หรือได้รับการแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งประเภทวิชาการหรือสายงานที่เริ่มต้นจากระดับ 3 โดยวิธีการสอบแข่งขัน ** เฉพาะผู้ที่เคยด ารงต าแหน่งประเภททั่วไป ระดับอาวุโส หรือผู้ที่เคยด ารงต าแหน่งระดับ 7 ทั้งนี้ ผู้ด ารงต าแหน่งจะต้องมีคุณสมบัติเฉพาะส าหรับต าแหน่งตรงตามาตรฐานก าหนดต าแหน่ง ตามที่ ก.พ.ก าหนด
-20- 17.หนังสือส ำนักงำน ก.พ. ที่ นร 1008/ว 2 ลงวันที่ 30 มีนำคม 2563 เรื่อง หลักเกณฑ์และ เงื่อนไขกำรเทียบต ำแหน่งอย่ำงอื่นเท่ำกับกำรด ำรงต ำแหน่งข้ำรำชกำรพลเรือนสำมัญ ตำมพระรำชบัญญัติ ระเบียบข้ำรำชกำรพลเรือน พ.ศ.2551 สำระส ำคัญ ก.พ.มีมติให้ยกเลิกความและตารางการเทียบต าแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ประเภท ข ส าหรับการเทียบต าแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตามหนังสือส านักงาน ก.พ.ที่ นร 1008/ว 30 ลงวันที่ 15 กันยายน 2553 “ข ต าแหน่งผู้บริหารสถานศึกษาและผู้บริหารการศึกษา (ประเภท ข) ได้แก่ ฯลฯ (5) รองอธิการบดี (6) อธิการบดี ฯลฯ” และให้ใช้ความและตารางการเทียบต าแหน่งข้าราชการพลเรือนใน สถาบันอุดมศึกษา ตามหนังสือส านักงาน ก.พ.ที่ นร 1008/ว 9 ลงวันที่ 21 กรกฎาคม 2560 “(ข) ต าแหน่ง ประเภทผู้บริหาร ได้แก่ (1) อธิการบดี (2) รองอธิการบดี ฯลฯ และตารางการเทียบต าแหน่งข้าราชการพลเรือนใน สถาบันอุดมศึกษา กรณีที่ 1 ต าแหน่งบริหารวิชาการ ฯลฯ” แทน ดังนี้ (ข) ต าแหน่งประเภทผู้บริหาร ได้แก่ (1) อธิการบดี (2) รองอธิการบดี (3) คณบดี (4) หัวหน้าหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะ (5) ผู้ช่วยอธิการบดี (6) รองคณบดีหรือรองหัวหน้าหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะ (7) ผู้อ านวยการส านักงานอธิการบดี ผู้อ านวยการส านักงานวิทยาเขต ผู้อ านวยการกองหรือหัวหน้า หน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่ากองตามที่ ก.พ.อ.ก าหนด (8) ต าแหน่งอื่นตามที่ ก.พ.อ.ก าหนด กรณีที่ 1 ต าแหน่งบริหารวิชาการ ให้เทียบต าแหน่งกับการเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ โดยพิจารณา จากต าแหน่งหลักทางวิชาการก่อน แล้วจึงพิจารณาจากการด ารงต าแหน่งหรือเคยด ารงต าแหน่งทางการบริหารประกอบ ดังนี้ ต ำแหน่ง ทำงกำรบริหำร ต ำแหน่ง วิชำกำร อธิกำรบดี รองอธิกำรบดี คณบดี/หัวหน้ำ หน่วยงำนที่ เทียบเท่ำคณะ - ศาตราจารย์ (ปตน.155600) - ศาตราจารย์ (ปตน.135000) ประเภทบริหาร ระดับสูง (ปตน. 145500) ประเภทบริหาร ระดับต้น ประเภทอ านวยการ ระดับสูง - รองศาสตราจารย์ (ปตน. 95900) - ผู้ช่วยศาสตราจารย์ (ปตน.95900) - อาจารย์ (ปตน. 95900) ประเภทบริหาร ระดับต้น ประเภทอ านวยการ ระดับสูง ประเภทอ านวยการ ระดับสูง - รองศาสตราจารย์ (ปตน. 55600) - ผู้ช่วยศาสตราจารย์ (ปตน.55600) - อาจารย์(ปตน.55600) ประเภทอ านวยการ ระดับต้น ประเภทอ านวยการ ระดับต้น ประเภทอ านวยการ ระดับต้น กรณีต าแหน่งอื่นตามที่ ก.พ.อ.ก าหนด หาก ก.พ.อ.ก าหนดเป็นระดับใด ให้เทียบกับต าแหน่งหลักข้างต้น
-21- หมายเหตุ : 1) ปตน.หมายถึง เงินประจ าต าแหน่ง 2) ต าแหน่งผู้ช่วยอธิการบดี และต าแหน่งรองคณบดี ไม่มีในโครงสร้างต าแหน่งของข้าราชการพลเรือนสามัญ จึงให้เทียบตามต าแหน่งทางวิชาการที่ด ารงอยู่ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการเทียบต าแหน่งฯ ของต าแหน่งวิชาการ 18.ประกำศ อ.ก.พ.กรมกำรแพทย์ เรื่อง หลักเกณฑ์กำรโอนไปรับรำชกำรที่ส่วนรำชกำรอื่น ส ำหรับ ต ำแหน่งระดับปฏิบัติงำน และปฏิบัติกำร (เฉพำะกรณีต ำแหน่งที่บรรจุด้วยวิธีกำรสอบแข่งขัน และวิธีกำร คัดเลือกจำกบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ในต ำแหน่งหนึ่งไปขึ้นบัญชีเป็นผู้ได้รับกำรคัดเลือกในต ำแหน่งอื่น) ประกำศ ณ วันที่ 28 เมษำยน พ.ศ.2563 สำระส ำคัญ การโอนไปรับราชการที่ส่วนราชการอื่น ส าหรับต าแหน่งระดับปฏิบัติงาน และระดับปฏิบัติการ ของกรมการแพทย์จะต้องปฏิบัติ ดังนี้ 1. ใช้ส าหรับต าแหน่งข้าราชการทุกต าแหน่งในระดับปฏิบัติงาน และระดับปฏิบัติการ เฉพาะต าแหน่งที่ บรรจุด้วยวิธีการสอบแข่งขัน และวิธีการคัดเลือกจากบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ฯ โดยต้องปฏิบัติราชการในสังกัด กรมการแพทย์ มาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี 2. กรณีมีข้อผูกพันชดใช้ทุนหรือข้อผูกพันอื่น ให้ปฏิบัติตามระเบียบหรือข้อผูกพันที่ก าหนดไว้ในขณะนั้น 3. การโอนนั้นจะต้องได้รับความยินยอมจากหน่วยงานต้นสังกัด และได้รับความเห็นชอบจากผู้มีอ านาจ ตามมาตรา 57 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 4. กรณีการโอนไปปฏิบัติราชการที่ส่วนราชการอื่น ที่ต้องด าเนินการแตกต่าง หรือมีเหตุผลความจ าเป็นที่ ต้องโอนก่อนระยะเวลาที่ก าหนด จากหลักเกณฑ์ตามประกาศนี้ ให้เสนอผู้มีอ านาจตามมาตรา 57 แห่ง พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 พิจารณาเป็นรายกรณีตามความเหมาะสม และประโยชน์ ของทางราชการเป็นส าคัญ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน พ.ศ.2563 เป็นต้นไป 19.ประกำศ อ.ก.พ.กรมกำรแพทย์ เรื่อง หลักเกณฑ์กำรโอนไปรับรำชกำรที่ส่วนรำชกำรอื่น ส ำหรับ ต ำแหน่งระดับปฏิบัติงำน และปฏิบัติกำร (เฉพำะกรณีต ำแหน่งที่บรรจุด้วยวิธีกำรสอบคัดเลือก) ประกำศ ณ วันที่ 30 กันยำยน พ.ศ.2563 สำระส ำคัญ การโอนไปรับราชการที่ส่วนราชการอื่น ส าหรับต าแหน่งระดับปฏิบัติงาน และระดับปฏิบัติการ ของกรมการแพทย์จะต้องปฏิบัติ ดังนี้ 1. ใช้ส าหรับต าแหน่งข้าราชการทุกต าแหน่งในระดับปฏิบัติงาน และระดับปฏิบัติการ เฉพาะต าแหน่งที่ บรรจุด้วยวิธีการคัดเลือก โดยต้องปฏิบัติราชการในสังกัดกรมการแพทย์ มาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี 2. กรณีมีข้อผูกพันชดใช้ทุนหรือข้อผูกพันอื่น ให้ปฏิบัติตามระเบียบหรือข้อผูกพันที่ก าหนดไว้ในขณะนั้น 3. การโอนนั้นจะต้องได้รับความยินยอมจากหน่วยงานต้นสังกัด และได้รับความเห็นชอบจากผู้มีอ านาจ ตามมาตรา 57 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 4. กรณีการโอนไปปฏิบัติราชการที่ส่วนราชการอื่น ที่ต้องด าเนินการแตกต่าง หรือมีเหตุผลความจ าเป็นที่ ต้องโอนก่อนระยะเวลาที่ก าหนด จากหลักเกณฑ์ตามประกาศนี้ ให้เสนอผู้มีอ านาจตามมาตรา 57
-22- แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 พิจารณาเป็นรายกรณีตามความเหมาะสม และประโยชน์ของทางราชการเป็นส าคัญ 5. ข้าราชการที่ได้รับการบรรจุก่อนประกาศฉบับนี้ ให้ข้าราชการผู้นั้นคงมีสิทธิตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข หรือข้อผูกพันใดๆ ที่บังคับใช้ในขณะนั้น ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน พ.ศ.2563 เป็นต้นไป 20.กฎ ก.พ.ว่ำด้วยกำรย้ำย กำรโอน หรือกำรเลื่อนข้ำรำชกำรพลเรือนสำมัญ ไปแต่งตั้งให้ด ำรง ต ำแหน่งข้ำรำชกำรพลเรือนสำมัญต ำแหน่งประเภททั่วไป ในหรือต่ำงกระทรวงหรือกรม พ.ศ.2564 สำระส ำคัญ ข้อ 1 กฎ ก.พ.นี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นก าหนดหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันถัดจากวันประกาศใน ราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป (ประกาศราชกิจจานุเบกษา เล่ม 138 ตอนที่ 16 ก วันที่ 4 มีนาคม 2564) หมวด 2 การโอน ข้อ 11 การโอนข้าราชการพลเรือนสามัญไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งประเภททั่วไป ในกระทรวงหรือกรม อื่น จะด าเนินการได้ต่อเมื่อกระทรวงหรือกรมที่จะรับโอนประสงค์จะรับโอนผู้นั้นไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งใน กระทรวงหรือกรมที่จะรับโอนนั้น เว้นแต่กระทรวงหรือกรมที่ผู้นั้นสังกัดอยู่ยับยั้งตามข้อ 12 (โดยยับยั้งได้ไม่เกิน เก้าสิบวันนับแต่วันที่กระทรวงหรือกรมที่ผู้นั้นสังกัดอยู่ได้รับทราบ) หรือกระทรวงหรือกรมที่ผู้นั้นสังกัดอยู่ไม่ให้ ความยินยอมตามข้อ 13 (ผู้อยู่ระหว่างปฏิบัติราชการชดใช้ทุนตามข้อผูกพันที่มีอยู่กับกระทรวงหรือกรมที่ผู้นั้นสังกัดอยู่) ในกรณีที่พ้นก าหนดเวลาที่กระทรวงหรือกรมที่ผู้นั้นสังกัดอยู่ได้ยับยั้งการโอนตามข้อ 12 หรือพ้น ก าหนดเวลาที่จะต้องให้กระทรวงหรือกรมที่ผู้นั้นสังกัดอยู่ให้ความยินยอมตามข้อ 13 แล้ว ถ้าผู้นั้นยังประสงค์จะ โอนและกระทรวงหรือกรมที่รับโอนยังประสงค์จะรับโอนผู้นั้น ให้ผู้มีอ านาจสั่งบรรจุด าเนินการโอนตามกฎ ก.พ.นี้ ข้อ 12 การโอนข้าราชการพลเรือนสามัญไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งประเภททั่วไปในกระทรวงหรือกรมอื่น ถ้ามิใช่กรณีตามข้อ 13 ผู้มีอ านาจสั่งบรรจุของกระทรวงหรือกรมที่ผู้นั้นสังกัดอยู่อาจยับยั้งได้เมื่อเห็นว่าจ าเป็น เพื่อประโยชน์แก่ราชการ โดยให้ยับยั้งได้ไม่เกินเก้าสิบวันนับแต่วันที่กระทรวงหรือกรมที่ผู้นั้นสังกัดอยู่ได้รับทราบ แต่ถ้าเป็นการโอนในกรณีดังต่อไปนี้ ผู้มีอ านาจสั่งบรรจุของกระทรวงหรือกรมที่ผู้นั้นสังกัดอยู่จะยับยั้งมิได้ (1) การโอนผู้สอบแข่งขันได้และถึงล าดับที่ที่จะบรรจุตามมาตรา 53 (2) การโอนผู้ได้รับการคัดเลือกเข้ารับราชการในกรณีที่มีเหตุพิเศษตามหลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขที่ ก.พ.ก าหนดตามมาตรา 55 ไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งในกระทรวงหรือกรมที่จัดให้มีการคัดเลือกตามมาตรา 55 นั้น (3) การโอนผู้ได้รับการเลือกเพื่อแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งประเภททั่วไปตามข้อ 17 (ประเภททั่วไปในระดับที่ สูงกว่าเดิม) (4) การโอนในกรณีอื่นที่มีเหตุผลความจ าเป็นเป็นพิเศษตามที่ ก.พ.ก าหนด การโอนข้าราชการพลเรือนสามัญในกรณีที่ผู้มีอ านาจสั่งบรรจุไม่อาจยับยั้งได้ตาม (1) (2) (3) หรือ (4) ถ้า เป็นกรณีตามข้อ 13 จะโอนผู้นั้นไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งประเภททั่วไปในกระทรวงหรือกรมอื่นได้ต่อเมื่อได้รับ ความยินยอมจากผู้มีอ านาจสั่งบรรจุของกระทรวงหรือกรมที่ผู้นั้นสังกัดอยู่ตามเงื่อนไขที่ ก.พ.ก าหนด หรือได้รับ อนุมัติจาก ก.พ.ตามข้อ 13 แล้วแต่กรณี ข้อ 13 การโอนข้าราชการพลเรือนสามัญผู้อยู่ระหว่างปฏิบัติราชการชดใช้ทุนตามข้อผูกพันที่มีอยู่กับ กระทรวงหรือกรมที่ผู้นั้นสังกัดอยู่ ไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งในกระทรวงหรือกรมอื่น จะต้องได้รับความยินยอมจากผู้ มีอ านาจสั่งบรรจุของกระทรวงหรือกรมที่ผู้นั้นสังกัดอยู่ และผู้มีอ านาจสั่งบรรจุของกระทรวงหรือกรมที่ผู้นั้นสังกัดอยู่ จะให้ความยินยอมได้ต่อเมื่อผู้นั้นได้ปฏิบัติราชการเพื่อชดใช้ทุนแก่กระทรวงหรือกรมที่ผู้นั้นสังกัดอยู่ไม่น้อยกว่าเวลา และตามเงื่อนไขที่ ก.พ.ก าหนดแล้ว
-23- ในกรณีที่ไม่อาจให้ความยินยอมได้เนื่องจากไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่ ก.พ.ก าหนดตามวรรคหนึ่ง ถ้ามีเหตุผล ความจ าเป็นอย่างยิ่งเพื่อประโยชน์ของทางราชการ ผู้มีอ านาจสั่งบรรจุของกระทรวงหรือกรมที่ผู้นั้นสังกัดอยู่ อาจให้ ความยินยอมภายใต้เวลาหรือเงื่อนไขที่แตกต่างไปจากที่ก าหนดไว้ในวรรคหนึ่งได้ โดยต้องได้รับอนุมัติจาก ก.พ.เป็นรายๆไป ในกรณีที่มีเหตุผลความจ าเป็นพิเศษ ก.พ.อาจก าหนดให้การโอนบางกรณีต้องได้รับความยินยอมจากผู้มีอ านาจ สั่งบรรจุของกระทรวงหรือกรมที่ผู้นั้นสังกัดอยู่ก่อนก็ได้ ข้อ 15 การโอนข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ด ารงต าแหน่งประเภททั่วไป ไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่ง ประเภททั่วไปในระดับเดียวกัน ผู้มีอ านาจสั่งบรรจุของกระทรวงหรือกรมที่จะรับโอนจะต้องพิจารณาด าเนินการ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ดังต่อไปนี้ (1) การโอนไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งในสายงานเดียวกันหรือในต่างสายงานและเป็นสายงานที่จัดอยู่ใน กลุ่มต าแหน่งเดียวกันกับสายงานในต าแหน่งที่ผู้นั้นด ารงอยู่หรือเคยด ารงอยู่ ให้อยู่ในดุลพินิจของผู้มีอ านาจสั่ง บรรจุของกระทรวงหรือกรมที่จะรับโอน (2) การโอนไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งระดับปฏิบัติงานในต่างสายงานและเป็นสายงานที่ไม่ได้จัดอยู่ใน กลุ่มต าแหน่งเดียวกันกับสายงานในต าแหน่งที่ผู้นั้นด ารงอยู่หรือเคยด ารงอยู่ ให้อยู่ในดุลพินิจของผู้มีอ านาจสั่ง บรรจุของกระทรวงหรือกรมที่จะรับโอน (3) การโอนไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งระดับช านาญงาน ระดับอาวุโส หรือระดับทักษะพิเศษ ในสายงาน เดียวกันหรือในต่างสายงานและเป็นสายงานที่ไม่ได้จัดอยู่ในกลุ่มต าแหน่งเดียวกันกับสายงานในต าแหน่งที่ผู้นั้น ด ารงอยู่หรือเคยด ารงอยู่ ผู้มีอ านาจสั่งบรรจุของกระทรวงหรือกรมที่จะรับโอนจะด าเนินการได้ต่อเมื่อได้ ด าเนินการตามข้อ 20 แล้ว (ให้ด าเนินการโดยการประเมิน โดยคณะกรรมการที่ อ.ก.พ.กรม แต่งตั้ง ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ ก.พ.ก าหนด) ข้อ 16 การโอนข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ด ารงต าแหน่งประเภททั่วไป ไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่ง ประเภททั่วไปในระดับที่ต่ ากว่าเดิม ไม่ว่าในสายงานเดียวกันหรือต่างสายงาน ผู้มีอ านาจสั่งบรรจุของกระทรวง หรือกรมที่จะรับโอนจะด าเนินการได้ต่อเมื่อผู้นั้นให้ความยินยอมแล้ว ข้อ 17 การโอนข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ด ารงต าแหน่งประเภททั่วไป ไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่ง ประเภททั่วไปในระดับที่สูงกว่าเดิม ผู้อ านาจสั่งบรรจุของกระทรวงหรือกรมที่จะรับโอนจะด าเนินการได้ต่อเมื่อได้ ด าเนินการตามข้อ 21 แล้ว (ให้ด าเนินการโดยการประเมินซึ่งต้องสะท้อนให้เห็นว่าผู้นั้นเป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ ทักษะ และสมรรถนะที่เหมาะสมกับต าแหน่งระดับช านาญงาน) ข้อ 18 การโอนข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ด ารงต าแหน่งประเภทวิชาการ ประเภทอ านวยการ หรือ ประเภทบริหาร มาแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งประเภททั่วไป ให้กระท าได้เฉพาะผู้ที่เคยด ารงต าแหน่งประเภททั่วไป มาก่อน โดยให้โอนมาแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งในระดับที่ไม่สูงกว่าระดับที่ผู้นั้นเคยด ารงอยู่เดิม ในต าแหน่งประเภททั่วไป หมวด 4 การด าเนินการเพื่อโอน ข้อ 20 การโอนข้าราชการพลเรือนสามัญเพื่อแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งประเภททั่วไปในระดับเดียวกัน ให้ด าเนินการโดยการประเมิน โดยคณะกรรมการที่ อ.ก.พ.กรม แต่งตั้ง ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ที่ ก.พ.ก าหนด ข้อ 21 การโอนข้าราชการพลเรือนสามัญเพื่อแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งประเภททั่วไประดับช านาญงาน ให้ ด าเนินการโดยการประเมินซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าผู้นั้นเป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ ทักษะ และสมรรถนะที่ เหมาะสมกับต าแหน่งระดับช านาญงาน และผู้มีอ านาจสั่งบรรจุจะด าเนินการได้ต่อเมื่อผู้นั้นผ่านการประเมิน ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ ก.พ.ก าหนด
-24- การโอนข้าราชการพลเรือนสามัญเพื่อแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งประเภททั่วไประดับอาวุโส ให้ด าเนินการ โดยการประเมิน ซึ่งต้องสะท้อนให้เห็นว่าผู้นั้นเป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ ทักษะ สมรรถนะ ความช านาญ และ ประสบการณ์ที่เหมาะสมกับต าแหน่งระดับอาวุโส โดยให้ อ.ก.พ.กรมแต่งตั้งคณะกรรมการประเมิน และผู้มีอ านาจ สั่งบรรจุจะด าเนินการได้ต่อเมื่อผู้นั้นผ่านการประเมิน ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ ก.พ.ก าหนด การโอนข้าราชการพลเรือนสามัญเพื่อแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งประเภททั่วไประดับทักษะพิเศษ ผู้มีอ านาจ สั่งบรรจุจะด าเนินการได้ต่อเมื่อ อ.ก.พ.กระทรวง มีมติก าหนดต าแหน่งที่จะแต่งตั้งเป็นต าแหน่งระดับทักษะพิเศษแล้ว ข้อ 22 การโอนข้าราชการพลเรือนสามัญไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งประเภททั่วไป ที่ได้เริ่มด าเนินการ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ใช้อยู่ในวันก่อนวันที่ กฎ ก.พ.นี้ใช้บังคับ ให้ด าเนินการตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขนั้นจนแล้วเสร็จ ข้อ 23 ในระหว่างที่ยังมิได้ก าหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามกฎ ก.พ.นี้ ให้น าหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ใช้อยู่ในวันก่อนวันที่ กฎ ก.พ.นี้ใช้บังคับ มาใช้บังคับไปพลางก่อนเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับกฎ ก.พ.นี้ จนกว่าจะมีหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามกฎ ก.พ.นี้ 21.กฎ ก.พ.ว่ำด้วยกำรย้ำย กำรโอน หรือกำรเลื่อนข้ำรำชกำรพลเรือนสำมัญ ไปแต่งตั้งให้ด ำรง ต ำแหน่งข้ำรำชกำรพลเรือนสำมัญต ำแหน่งประเภทวิชำกำร ในหรือต่ำงกระทรวงหรือกรม พ.ศ.2564 สำระส ำคัญ ข้อ 1 กฎ ก.พ.นี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นก าหนดหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันถัดจากวันประกาศใน ราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป (ประกาศราชกิจจานุเบกษา เล่ม 138 ตอนที่ 16 ก วันที่ 4 มีนาคม 2564) หมวด 2 การโอน ข้อ 13 การโอนข้าราชการพลเรือนสามัญไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งประเภทวิชาการ ในกระทรวงหรือ กรมอื่น จะด าเนินการได้ต่อเมื่อกระทรวงหรือกรมที่จะรับโอนประสงค์จะรับโอนผู้นั้นไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งใน กระทรวงหรือกรมที่จะรับโอนนั้น เว้นแต่กระทรวงหรือกรมที่ผู้นั้นสังกัดอยู่ยับยั้งตามข้อ 14 (โดยยับยั้งได้ไม่เกิน เก้าสิบวันนับแต่วันที่กระทรวงหรือกรมที่ผู้นั้นสังกัดอยู่ได้รับทราบ) หรือกระทรวงหรือกรมที่ผู้นั้นสังกัดอยู่ไม่ให้ ความยินยอมตามข้อ 15 (ผู้อยู่ระหว่างปฏิบัติราชการชดใช้ทุนตามข้อผูกพันที่มีอยู่กับกระทรวงหรือกรมที่ผู้นั้นสังกัดอยู่) ในกรณีที่พ้นก าหนดเวลาที่กระทรวงหรือกรมที่ผู้นั้นสังกัดอยู่ได้ยับยั้งการโอนตามข้อ 14 หรือพ้น ก าหนดเวลาที่จะต้องให้กระทรวงหรือกรมที่ผู้นั้นสังกัดอยู่ให้ความยินยอมตามข้อ 15 แล้ว ถ้าผู้นั้นยังประสงค์จะ โอนและกระทรวงหรือกรมที่รับโอนยังประสงค์จะรับโอนผู้นั้น ให้ผู้มีอ านาจสั่งบรรจุด าเนินการโอนตามกฎ ก.พ.นี้ ข้อ 14 การโอนข้าราชการพลเรือนสามัญไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งประเภทวิชาการในกระทรวงหรือกรมอื่น ถ้ามิใช่กรณีตามข้อ 15 ผู้มีอ านาจสั่งบรรจุของกระทรวงหรือกรมที่ผู้นั้นสังกัดอยู่อาจยับยั้งได้เมื่อเห็นว่าจ าเป็น เพื่อประโยชน์แก่ราชการ โดยให้ยับยั้งได้ไม่เกินเก้าสิบวันนับแต่วันที่กระทรวงหรือกรมที่ผู้นั้นสังกัดอยู่ได้รับทราบ แต่ถ้าเป็นการโอนในกรณีดังต่อไปนี้ ผู้มีอ านาจสั่งบรรจุของกระทรวงหรือกรมที่ผู้นั้นสังกัดอยู่จะยับยั้งมิได้ (1) การโอนผู้สอบแข่งขันได้และถึงล าดับที่ที่จะบรรจุตามมาตรา 53 (2) การโอนผู้ได้รับการคัดเลือกเข้ารับราชการในกรณีที่มีเหตุพิเศษตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่ ก.พ.ก าหนดตามมาตรา 55 ไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งในกระทรวงหรือกรมที่จัดให้มีการคัดเลือกตามมาตรา 55 นั้น (3) การโอนผู้ได้รับการเลือกเพื่อแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งประเภทวิชาการตามข้อ 19 (ประเภทวิชาการใน ระดับที่สูงกว่าเดิม) ข้อ 20 วรรคสอง (ประเภททั่วไปซึ่งเคยด ารงต าแหน่งประเภทวิชาการมาก่อน) หรือ ข้อ 22 (2) (การโอนมาแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งในระดับที่สูงกว่าระดับที่ผู้นั้นเคยด ารงอยู่เดิมในต าแหน่งประเภทวิชาการ) (4) การโอนในกรณีอื่นที่มีเหตุผลความจ าเป็นเป็นพิเศษตามที่ ก.พ.ก าหนด
-25- ข้อ 15 การโอนข้าราชการพลเรือนสามัญผู้อยู่ระหว่างปฏิบัติราชการชดใช้ทุนตามข้อผูกพันที่มีอยู่กับ กระทรวงหรือกรมที่ผู้นั้นสังกัดอยู่ ไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งในกระทรวงหรือกรมอื่น จะต้องได้รับความยินยอมจากผู้ มีอ านาจสั่งบรรจุของกระทรวงหรือกรมที่ผู้นั้นสังกัดอยู่ และผู้มีอ านาจสั่งบรรจุของกระทรวงหรือกรมที่ผู้นั้นสังกัดอยู่ จะให้ความยินยอมได้ต่อเมื่อผู้นั้นได้ปฏิบัติราชการเพื่อชดใช้ทุนแก่กระทรวงหรือกรมที่ผู้นั้นสังกัดอยู่ไม่น้อยกว่าเวลา และตามเงื่อนไขที่ ก.พ.ก าหนดแล้ว ในกรณีที่ไม่อาจให้ความยินยอมได้เนื่องจากไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่ ก.พ.ก าหนดตามวรรคหนึ่ง ถ้ามีเหตุผล ความจ าเป็นอย่างยิ่งเพื่อประโยชน์ของทางราชการ ผู้มีอ านาจสั่งบรรจุของกระทรวงหรือกรมที่ผู้นั้นสังกัดอยู่ อาจให้ ความยินยอมภายใต้เวลาหรือเงื่อนไขที่แตกต่างไปจากที่ก าหนดไว้ในวรรคหนึ่งได้ โดยต้องได้รับอนุมัติจาก ก.พ.เป็นรายๆไป ในกรณีที่มีเหตุผลความจ าเป็นพิเศษ ก.พ.อาจก าหนดให้การโอนบางกรณีต้องได้รับความยินยอมจากผู้มีอ านาจ สั่งบรรจุของกระทรวงหรือกรมที่ผู้นั้นสังกัดอยู่ก่อนก็ได้ ข้อ 17 การโอนข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ด ารงต าแหน่งประเภทวิชาการ ไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่ง ประเภทวิชาการในระดับเดียวกัน ผู้มีอ านาจสั่งบรรจุของกระทรวงหรือกรมที่จะรับโอนจะต้องพิจารณาด าเนินการ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ดังต่อไปนี้ (1) การโอนไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งในสายงานเดียวกันหรือในต่างสายงานและเป็นสายงานที่จัดอยู่ใน กลุ่มต าแหน่งเดียวกันกับสายงานในต าแหน่งที่ผู้นั้นด ารงอยู่หรือเคยด ารงอยู่ ให้อยู่ในดุลพินิจของผู้มีอ านาจสั่ง บรรจุของกระทรวงหรือกรมที่จะรับโอน (2) การโอนไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งระดับปฏิบัติการ ในต่างสายงานและเป็นสายงานที่ไม่ได้จัดอยู่ใน กลุ่มต าแหน่งเดียวกันกับสายงานในต าแหน่งที่ผู้นั้นด ารงอยู่หรือเคยด ารงอยู่ ให้อยู่ในดุลพินิจของผู้มีอ านาจสั่ง บรรจุของกระทรวงหรือกรมที่จะรับโอน (3) การโอนไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งระดับช านาญการ ระดับช านาญการพิเศษ ระดับเชี่ยวชาญ หรือ ระดับทรงคุณวุฒิ ในสายงานเดียวกันหรือในต่างสายงานและเป็นสายงานที่ไม่ได้จัดอยู่ในกลุ่มต าแหน่งเดียวกันกับ สายงานในต าแหน่งที่ผู้นั้นด ารงอยู่หรือเคยด ารงอยู่ ผู้มีอ านาจสั่งบรรจุของกระทรวงหรือกรมที่จะรับโอนจะ ด าเนินการได้ต่อเมื่อได้ด าเนินการตามข้อ 25 แล้ว (ให้ด าเนินการโดยการประเมินซึ่งต้องสะท้อนให้เห็นว่าผู้นั้น เป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ ทักษะ สมรรถนะ ความช านาญงานและประสบการณ์สูง เหมาะสมกับต าแหน่งที่จะ แต่งตั้ง โดยให้คณะกรรมการที่ อ.ก.พ.กรม แต่งตั้ง เป็นผู้ประเมินบุคคลและประเมินผลงาน การประเมินผลงานจะ ด าเนินการได้ต่อเมื่อผู้นั้นได้ผ่านการประเมินบุคคลแล้ว ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ ก.พ.ก าหนด) ข้อ 18 การโอนข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ด ารงต าแหน่งประเภทวิชาการไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่ง ประเภทวิชาการในระดับที่ต่ ากว่าเดิมไม่ว่าจะเป็นสายงานเดียวกันหรือต่างสายงาน ผู้มีอ านาจสั่งบรรจุของ กระทรวงหรือกรมที่จะรับโอนจะด าเนินการได้ต่อเมื่อผู้นั้นได้ให้ความยินยอมแล้ว ข้อ 19 การโอนข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ด ารงต าแหน่งประเภทวิชาการไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่ง ประเภทวิชาการในระดับที่สูงกว่าเดิม ผู้มีอ านาจสั่งบรรจุของกระทรวงหรือกรมที่จะรับโอนจะด าเนินการได้ต่อเมื่อ ได้ด าเนินการตามข้อ 26 แล้ว ข้อ 20 การโอนข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ด ารงต าแหน่งประเภททั่วไปซึ่งเคยด ารงต าแหน่งประเภท วิชาการมาก่อน มาแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งประเภทวิชาการในระดับที่ไม่สูงกว่าระดับที่ผู้นั้นเคยด ารงอยู่เดิมใน ต าแหน่งประเภทวิชาการ
-26- ข้อ 21 การโอนข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ด ารงต าแหน่งประเภททั่วไปซึ่งไม่เคยด ารงต าแหน่งประเภท วิชาการมาก่อน มาแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งประเภทวิชาการ ให้กระท าได้เฉพาะการโอนมาแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่ง ประเภทวิชาการระดับปฏิบัติการเท่านั้น โดยผู้มีอ านาจสั่งบรรจุของกระทรวงหรือกรมที่จะรับโอน อาจด าเนินการ ได้ในกรณี ดังต่อไปนี้ (1) ผู้นั้นเป็นผู้สอบแข่งขันได้ในต าแหน่งประเภทวิชาการระดับปฏิบัติการ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และ เงื่อนไขที่ ก.พ.ก าหนดตามมาตรา 53 และถึงล าดับที่ที่จะบรรจุและแต่งตั้งผู้นั้นได้ (2) ผู้นั้นได้รับการคัดเลือกเข้ารับราชการในกรณีที่มีเหตุพิเศษในต าแหน่งประเภทวิชาการระดับ ปฏิบัติการ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ ก.พ.ก าหนดตามมาตรา 55 (3) กรณีอื่นที่มีเหตุผลความจ าเป็นเป็นพิเศษตามที่ ก.พ.ก าหนด ข้อ 22 การโอนข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ด ารงต าแหน่งประเภทอ านวยการ หรือประเภทบริหาร มาแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งประเภทวิชาการ ให้กระท าได้เฉพาะผู้ที่เคยด ารงต าแหน่งประเภทวิชาการมาก่อน และผู้ มีอ านาจสั่งบรรจุของกระทรวงหรือกรมที่จะรับโอน จะต้องพิจารณาด าเนินการตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และ เงื่อนไข ดังต่อไปนี้ (1) การโอนมาแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งในระดับที่ไม่สูงกว่าระดับที่ผู้นั้นเคยด ารงอยู่เดิม ในต าแหน่ง ประเภทวิชาการ (2) การโอนมาแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งในระดับที่สูงกว่าระดับที่ผู้นั้นเคยด ารงอยู่เดิมในต าแหน่งประเภท วิชาการ ผู้มีอ านาจสั่งบรรจุของกระทรวงหรือกรมที่จะรับโอน จะด าเนินการได้ต่อเมื่อได้ด าเนินการตามข้อ 26 แล้ว หมวด 4 การด าเนินการเพื่อโอน ข้อ 24 การโอนข้าราชการพลเรือนสามัญเพื่อแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งประเภทวิชาการในระดับเดียวกัน ให้ด าเนินการโดยการประเมินผลการปฏิบัติงาน การประเมินผลงาน การสอบข้อเขียน หรือวิธีการอื่น ทั้งนี้ ตาม หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ ก.พ.ก าหนด ข้อ 25 การโอนข้าราชการพลเรือนสามัญเพื่อแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งประเภทวิชาการระดับช านาญการ และระดับช านาญการพิเศษ ให้ด าเนินการโดยการประเมินซึ่งต้องสะท้อนให้เห็นว่าผู้นั้นเป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ ทักษะ สมรรถนะ ความช านาญงานและประสบการณ์สูง เหมาะสมกับต าแหน่งที่จะแต่งตั้ง โดยให้ คณะกรรมการที่ อ.ก.พ.กรม แต่งตั้ง เป็นผู้ประเมินบุคคลและประเมินผลงาน การประเมินผลงานจะด าเนินการได้ ต่อเมื่อผู้นั้นได้ผ่านการประเมินบุคคลแล้ว ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ ก.พ.ก าหนด การโอนข้าราชการพลเรือนสามัญเพื่อแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งประเภทวิชาการระดับเชี่ยวชาญ ให้ ด าเนินการโดยการประเมิน ซึ่งต้องสะท้อนให้เห็นว่าผู้นั้นเป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ ทักษะ สมรรถนะ ความ เชี่ยวชาญและประสบการณ์สูงมากเหมาะสมกับต าแหน่งที่จะแต่งตั้ง โดยให้คณะกรรมการที่ อ.ก.พ.กรม แต่งตั้ง เป็นผู้ประเมินบุคคลและคณะกรรมการที่ อ.ก.พ.กระทรวง แต่งตั้งเป็นผู้ประเมินผลงาน การประเมินผลงานจะ ด าเนินการได้ต่อเมื่อผู้นั้นได้ผ่านการประเมินบุคคลแล้ว ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ ก.พ.ก าหนด การโอนข้าราชการพลเรือนสามัญเพื่อแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ เชี่ยวชาญ ให้ด าเนินการโดยการประเมิน ซึ่งต้องสะท้อนให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ว่าผู้นั้นเป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ ทักษะ สมรรถนะ ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์สูงมากเป็นพิเศษ เหมาะสมกับต าแหน่งที่จะแต่งตั้ง โดยให้ คณะกรรมการที่ อ.ก.พ.กรม แต่งตั้งเป็นผู้ประเมินบุคคลและคณะกรรมการที่ อ.ก.พ.กระทรวง แต่งตั้งเป็นผู้ ประเมินผลงาน การประเมินผลงานจะด าเนินการได้ต่อเมื่อผู้นั้นได้ผ่านการประเมินบุคคลแล้ว ทั้งนี้ ตาม หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ ก.พ.ก าหนด
-27- ข้อ 26 การโอนข้าราชการพลเรือนสามัญเพื่อแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งประเภทวิชาการ ระดับช านาญการ ให้ด าเนินการโดยการประเมิน ซึ่งต้องสะท้อนให้เห็นว่าผู้นั้นเป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ ทักษะ สมรรถนะ ความช านาญงานและประสบการณ์ เหมาะสมกับต าแหน่งระดับช านาญการ โดยให้ประเมินบุคคลและประเมินผลงาน โดยคณะกรรมการที่ อ.ก.พ.กรม แต่งตั้ง การประเมินผลงานจะด าเนินการได้ต่อเมื่อผู้นั้นผ่านการประเมินบุคคลแล้ว และผู้มีอ านาจสั่งบรรจุจะด าเนินการได้ต่อเมื่อผู้นั้นผ่านการประเมินผลงานแล้ว ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และ เงื่อนไขที่ ก.พ.ก าหนด การโอนข้าราชการพลเรือนสามัญ เพื่อแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งประเภทวิชาการ ระดับช านาญการพิเศษ ให้ด าเนินการโดยการประเมิน ซึ่งต้องสะท้อนให้เห็นว่าผู้นั้นเป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ ทักษะ สมรรถนะ ความช านาญงานและประสบการณ์สูง เหมาะสมกับต าแหน่งระดับช านาญการพิเศษ โดยให้ประเมินบุคคลและ ประเมินผลงานโดยคณะกรรมการที่ อ.ก.พ.กรม แต่งตั้ง การประเมินผลงานจะด าเนินการได้ต่อเมื่อผู้นั้นผ่าน การประเมินบุคคลแล้วและผู้มีอ านาจสั่งบรรจุจะด าเนินการได้ต่อเมื่อผู้นั้นผ่านการประเมินผลงานแล้ว ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ ก.พ.ก าหนด การโอนข้าราชการพลเรือนสามัญ เพื่อแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งประเภทวิชาการ ระดับเชี่ยวชาญ ให้ด าเนินการโดยการประเมิน ซึ่งต้องสะท้อนให้เห็นว่าผู้นั้นเป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ ทักษะ สมรรถนะ ความ เชี่ยวชาญและประสบการณ์สูงมาก เหมาะสมกับต าแหน่งระดับเชี่ยวชาญ โดยให้คณะกรรมการที่ อ.ก.พ.กรม แต่งตั้งเป็นผู้ประเมินบุคคล และคณะกรรมการที่ อ.ก.พ.กระทรวงแต่งตั้งเป็นผู้ประเมินผลงาน การประเมินผลงาน จะด าเนินการได้ต่อเมื่อผู้นั้นผ่านการประเมินบุคคลแล้ว และผู้มีอ านาจสั่งบรรจุจะด าเนินการได้ต่อเมื่อผู้นั้นผ่าน การประเมินผลงานแล้ว ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ ก.พ.ก าหนด การโอนข้าราชการพลเรือนสามัญ เพื่อแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งประเภทวิชาการ ระดับทรงคุณวุฒิ ให้ด าเนินการโดยการประเมิน ซึ่งต้องสะท้อนให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ว่าผู้นั้นเป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ ทักษะ สมรรถนะ ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์สูงมากเป็นพิเศษเหมาะสมกับต าแหน่งระดับทรงคุณวุฒิ โดยให้ คณะกรรมการที่ อ.ก.พ.กระทรวงแต่งตั้งเป็นผู้ประเมินบุคคล และ ก.พ.เป็นผู้ประเมินผลงาน การประเมินผลงาน จะด าเนินการได้ต่อเมื่อผู้นั้นผ่านการประเมินบุคคลแล้ว และผู้มีอ านาจสั่งบรรจุจะด าเนินการได้ต่อเมื่อผู้นั้นผ่าน การประเมินผลงานแล้ว ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ ก.พ.ก าหนด ข้อ 27 การโอนข้าราชการพลเรือนสามัญไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งประเภทวิชาการ ที่ได้เริ่มด าเนินการ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ใช้อยู่ในวันก่อนวันที่กฎ ก.พ.นี้ใช้บังคับ ให้ด าเนินการตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขนั้นจนแล้วเสร็จ ข้อ 28 ในระหว่างที่ยังมิได้ก าหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามกฎ ก.พ.นี้ ให้น าหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ใช้อยู่ในวันก่อนวันที่กฎ ก.พ.นี้ใช้บังคับ มาใช้บังคับไปพลางก่อนเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับกฎ ก.พ.นี้ จนกว่าจะมีหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามกฎ ก.พ.นี้ 22.กฎ ก.พ.ว่ำด้วยกำรย้ำย กำรโอน หรือกำรเลื่อนข้ำรำชกำรพลเรือนสำมัญ ไปแต่งตั้งให้ด ำรง ต ำแหน่งข้ำรำชกำรพลเรือนสำมัญต ำแหน่งประเภทอ ำนวยกำร ในหรือต่ำงกระทรวงหรือกรม พ.ศ.2564 สำระส ำคัญ ข้อ 1 กฎ ก.พ.นี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นก าหนดหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันถัดจากวันประกาศใน ราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป (ประกาศราชกิจจานุเบกษา เล่ม 138 ตอนที่ 16 ก วันที่ 4 มีนาคม 2564)
-28- หมวด 2 การโอน ข้อ 12 การโอนข้าราชการพลเรือนสามัญไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งประเภทวิชาการ ในกระทรวงหรือ กรมอื่น จะด าเนินการได้ต่อเมื่อกระทรวงหรือกรมที่จะรับโอนประสงค์จะรับโอนผู้นั้นไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งใน กระทรวงหรือกรมที่จะรับโอนนั้น เว้นแต่กระทรวงหรือกรมที่ผู้นั้นสังกัดอยู่ยับยั้งตามข้อ 13 (โดยยับยั้งได้ไม่เกิน เก้าสิบวันนับแต่วันที่กระทรวงหรือกรมที่ผู้นั้นสังกัดอยู่ได้รับทราบ) หรือกระทรวงหรือกรมที่ผู้นั้นสังกัดอยู่ไม่ให้ ความยินยอมตามข้อ 14 (ผู้อยู่ระหว่างปฏิบัติราชการชดใช้ทุนตามข้อผูกพันที่มีอยู่กับกระทรวงหรือกรมที่ผู้นั้นสังกัดอยู่) ข้อ 13 การโอนข้าราชการพลเรือนสามัญไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งในกระทรวงหรือกรมอื่น ถ้ามิใช่กรณี ตามข้อ 14 ผู้มีอ านาจสั่งบรรจุของกระทรวงหรือกรมที่ผู้นั้นสังกัดอยู่อาจยับยั้งได้เมื่อเห็นว่าจ าเป็นเพื่อประโยชน์ แก่ราชการ โดยให้ยับยั้งได้ไม่เกินเก้าสิบวันนับแต่วันที่กระทรวงหรือกรมที่ผู้นั้นสังกัดอยู่ได้รับทราบ แต่ถ้าเป็น การโอนผู้ได้รับการเลือกเพื่อแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งประเภทอ านวยการ ตามข้อ 17 ข้อ 18 วรรคสาม หรือข้อ 19 ผู้มีอ านาจสั่งบรรจุของกระทรวงหรือกรมที่ผู้นั้นสังกัดอยู่จะยับยั้งมิได้ ข้อ 14 การโอนข้าราชการพลเรือนสามัญผู้อยู่ระหว่างปฏิบัติราชการชดใช้ทุนตามข้อผูกพันที่มีอยู่กับ กระทรวงหรือกรมที่ผู้นั้นสังกัดอยู่ ไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งในกระทรวงหรือกรมอื่น จะต้องได้รับความยินยอมจาก ผู้มีอ านาจสั่งบรรจุของกระทรวงหรือกรมที่ผู้นั้นสังกัดอยู่ และผู้มีอ านาจสั่งบรรจุของกระทรวงหรือกรมที่ผู้นั้นสังกัด อยู่จะให้ความยินยอมได้ต่อเมื่อผู้นั้นได้ปฏิบัติราชการเพื่อชดใช้ทุนแก่กระทรวงหรือกรมที่ผู้นั้นสังกัดอยู่ไม่น้อยกว่า เวลาและตามเงื่อนไขที่ ก.พ.ก าหนดแล้ว ข้อ 15 การโอนข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ด ารงต าแหน่งประเภทอ านวยการ ไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่ง ประเภทอ านวยการในระดับเดียวกัน ให้อยู่ในดุลพินิจของผู้มีอ านาจสั่งบรรจุของกระทรวงหรือกรมที่จะรับโอน ข้อ 16 การโอนข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ด ารงต าแหน่งประเภทอ านวยการ ไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่ง ประเภทอ านวยการในระดับที่ต่ ากว่าเดิม ให้อยู่ในดุลพินิจของผู้มีอ านาจสั่งบรรจุของกระทรวงหรือกรมที่จะรับโอน และผู้มีอ านาจสั่งบรรจุของกระทรวงหรือกรมที่จะรับโอนจะด าเนินการได้ต่อเมื่อผู้นั้นได้ให้ความยินยอมแล้ว ข้อ 17 การโอนข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ด ารงต าแหน่งประเภทอ านวยการระดับต้นไปแต่งตั้งให้ด ารง ต าแหน่งประเภทอ านวยการระดับสูง ผู้มีอ านาจสั่งบรรจุของกระทรงหรือกรมที่จะรับโอนจะด าเนินการได้ต่อเมื่อ ได้ด าเนินการตามข้อ 22 แล้ว ข้อ 18 การโอนข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ด ารงต าแหน่งประเภททั่วไปหรือประเภทวิชาการ ซึ่งเคยด ารง ต าแหน่งประเภทอ านวยการระดับต้นมาก่อน มาแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งประเภทอ านวยการระดับต้น ให้อยู่ใน ดุลพินิจของผู้มีอ านาจสั่งบรรจุของกระทรวงหรือกรมที่จะรับโอน แต่ถ้าเป็นกรณีที่ ก.พ.ก าหนดว่าต้องได้รับความ ยินยอมจากข้าราชการผู้นั้นตามข้อ 6 ผู้มีอ านาจสั่งบรรจุของกระทรวงหรือกรมที่จะรับโอนจะด าเนินการได้ต่อเมื่อ ผู้นั้นได้ให้ความยินยอมแล้ว ข้อ 19 การโอนข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ด ารงต าแหน่งประเภททั่วไปหรือประเภทวิชาการ ซึ่งไม่เคย ด ารงต าแหน่งประเภทอ านวยการมาก่อน มาแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งประเภทอ านวยการระดับต้น ผู้มีอ านาจสั่ง บรรจุของกระทรวงหรือกรมที่จะรับโอนจะด าเนินการได้ต่อเมื่อได้ด าเนินการตามข้อ 21 แล้ว การโอนข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ด ารงต าแหน่งประเภททั่วไปหรือประเภทวิชาการ ซึ่งไม่เคยด ารง ต าแหน่งประเภทอ านวยการมาก่อน มาแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งประเภทอ านวยการระดับสูง ผู้มีอ านาจสั่งบรรจุ ของกระทรวงหรือกรมที่จะรับโอนจะด าเนินการได้ต่อเมื่อได้ด าเนินการตามข้อ 22 แล้ว
-29- หมวด 4 การด าเนินการเพื่อโอน ข้อ 21 การโอนข้าราชการพลเรือนสามัญเพื่อแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งประเภทอ านวยการระดับต้น ให้ใช้ วิธีการเลือกสรร โดยการจัดให้มีบัญชีรายชื่อผู้ผ่านการกลั่นกรอง และจัดให้มีการคัดเลือกจากบัญชีรายชื่อผู้ผ่าน การกลั่นกรอง เพื่อให้ได้รายชื่อผู้อยู่ในเกณฑ์เข้าสู่ต าแหน่งประเภทอ านวยการระดับต้น และผู้มีอ านาจสั่งบรรจุจะ ด าเนินการได้ต่อเมื่อได้เลือกผู้นั้นจากรายชื่อผู้อยู่ในเกณฑ์เข้าสู่ต าแหน่งประเภทอ านวยการระดับต้น ทั้งนี้ ตาม หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ ก.พ.ก าหนด ข้อ 22 การโอนข้าราชการพลเรือนสามัญเพื่อแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งประเภทอ านวยการระดับสูง ให้ใช้ วิธีการเลือกสรร โดยการจัดให้มีบัญชีรายชื่อผู้ผ่านการกลั่นกรอง และจัดให้มีการคัดเลือกจากบัญชีรายชื่อผู้ผ่าน การกลั่นกรองเพื่อให้ได้รายชื่อผู้อยู่ในเกณฑ์เข้าสู่ต าแหน่งประเภทอ านวยการระดับสูง และผู้มีอ านาจสั่งบรรจุจะ ด าเนินการได้ต่อเมื่อได้เลือกผู้นั้นจากรายชื่อผู้อยู่ในเกณฑ์เข้าสู่ต าแหน่งประเภทอ านวยการระดับสูง ทั้งนี้ ตาม หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ ก.พ.ก าหนด
-30- กำรโอนข้ำรำชกำร การโอน หมายถึง การแต่งตั้งข้าราชการในสังกัดกระทรวงหรือกรมหนึ่ง ให้ไปด ารงต าแหน่งในอีก กระทรวงหรือกรมหนึ่ง หรือการให้พนักงานส่วนท้องถิ่นหรือเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานอื่นของรัฐมาบรรจุและแต่งตั้ง เป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ ประกอบด้วย การรับโอนข้าราชการ และการให้โอนข้าราชการ กำรรับโอนข้ำรำชกำร หมายถึง การแต่งตั้งข้าราชการในสังกัดกระทรวงหรือกรมอื่น มาด ารงต าแหน่งใน กรมการแพทย์ หรือการให้พนักงานส่วนท้องถิ่นหรือเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานอื่นของรัฐมาบรรจุและแต่งตั้งเป็น ข้าราชการพลเรือนสามัญในสังกัดกรมการแพทย์ประกอบด้วย 1. การรับโอนข้าราชการพลเรือนสามัญ ตามมาตรา 63 2. การรับโอนพนักงานส่วนท้องถิ่นหรือเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานอื่นของรัฐมาบรรจุเป็นข้าราชการ พลเรือนสามัญ ตามมาตรา 64 รายละเอียด ดังนี้ 1. กำรรับโอนข้ำรำชกำรพลเรือนสำมัญ ตำมมำตรำ 63 ประกอบด้วย 4 กรณี ดังนี้ 1) กำรรับโอนข้ำรำชกำรพลเรือนสำมัญในกรณีปกติ หลักเกณฑ์การปฏิบัติ - ผู้มีอ านาจสั่งบรรจุตามมาตรา 57 ทั้งสองฝ่ายตกลงยินยอมในการโอนนั้นแล้ว - ให้แต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งประเภทเดียวกัน ในระดับที่ไม่สูงกว่าเดิมและรับเงินเดือนไม่สูงกว่าเดิม - การโอนไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งในระดับที่ต่ ากว่าเดิมจะกระท ามิได้ เว้นแต่จะได้รับความยินยอม จากข้าราชการพลเรือนสามัญผู้นั้น 2) กำรรับโอนผู้สอบคัดเลือกได้หรือได้รับคัดเลือก กฎ ระเบียบที่เกี่ยวข้อง หนังสือส านักงาน ก.พ. ที่ นร 0708/ว 2 ลงวันที่ 31 มกราคม 2539 โดยอนุโลม หลักเกณฑ์การปฏิบัติ - ผู้มีอ านาจสั่งบรรจุตามมาตรา 57 ทั้งสองฝ่ายตกลงยินยอมในการโอนนั้นแล้ว - ต้องรับโอนมาแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งที่สอบคัดเลือกได้ หรือได้รับคัดเลือก - รับโอนโดยให้ได้รับเงินเดือนเท่าเดิม ถ้าผู้นั้นได้รับเงินเดือนเท่าขั้นต่ าหรือสูงกว่าขั้นต่ าของเงินเดือน ส าหรับต าแหน่งที่ได้รับแต่งตั้ง แต่ต้องไม่เกินขั้นสูงของระดับต าแหน่งที่สอบคัดเลือกได้ หรือได้รับคัดเลือก หากผู้นั้นเงินเดือนยังไม่ถึงขั้นต่ าของต าแหน่งนั้นให้ปรับให้ได้รับเงินเดือนในขั้นต่ าของต าแหน่งนั้น บทที่ 3 หลักเกณฑ์และเงื่อนไขกำรปฏิบัติงำน กำรรับโอนข้ำรำชกำร
-31- 3) กำรรับโอนผู้สอบแข่งขันได้หรือผู้ได้รับกำรคัดเลือกกรณีเหตุพิเศษโดยไม่ต้องสอบแข่งขัน กฎ ระเบียบที่เกี่ยวข้อง หนังสือส านักงาน ก.พ.ที่ นร 0708/ว 2 ลงวันที่ 31 มกราคม 2539 โดยอนุโลม หลักเกณฑ์การปฏิบัติ - ให้ท าได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากผู้มีอ านาจสั่งบรรจุตามมาตรา 57 ของส่วนราชการ เจ้าสังกัดเดิมของผู้ที่จะโอน - ต้องรับโอนมาแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งที่สอบแข่งขันได้ หรือได้รับคัดเลือก - รับโอนโดยให้ได้รับเงินเดือนตามคุณวุฒิที่ ก.พ.ก าหนด ถ้าผู้นั้นได้รับเงินเดือนสูงกว่าเงินเดือนตามคุณวุฒิ ที่ ก.พ.ก าหนด ให้ได้รับเงินเดือนเท่าเดิม แต่ต้องไม่เกินขั้นสูงของระดับต าแหน่งที่สอบแข่งขันได้ หรือได้รับคัดเลือก หากได้รับเงินเดือนต่ ากว่าที่ ก.พ.ก าหนด ให้ปรับให้ได้รับเงินเดือนตามคุณวุฒิที่ ก.พ.ก าหนด 4. กำรรับโอนข้ำรำชกำรผู้ได้รับวุฒิเพิ่มขึ้น หลักเกณฑ์การปฏิบัติ การรับโอนข้าราชการที่ได้รับวุฒิเพิ่มขึ้นและไม่เคยด ารงต าแหน่งที่บรรจุโดยใช้วุฒิปริญญาตรี ให้ด าเนินการตามหลักเกณฑ์ ที่ก.พ.ก าหนดไว้ในหนังสือส านักงาน ก.พ.ที่ นร 0711/ว 12 ลงวันที่ 1 ตุลาคม 2533 และ ที่ นร 1006/ว 16 ลงวันที่ 22 มิถุนายน 2552 2. กำรรับโอนพนักงำนส่วนท้องถิ่นหรือเจ้ำหน้ำที่ของหน่วยงำนอื่นของรัฐมำบรรจุเป็นข้ำรำชกำรพลเรือนสำมัญ ตำมมำตรำ 64 กฎ ระเบียบที่เกี่ยวข้อง 1) หนังสือส านักงาน ก.พ.ที่ นร 1008/ว 30 ลงวันที่ 15 กันยายน 2553 แก้ไขเพิ่มเติมโดย ที่ นร 1008/ว 4 ลงวันที่ 27 มีนาคม 2558 2) หนังสือส านักงาน ก.พ.ที่ นร 1006/ว 36 ลงวันที่ 29 กันยายน 2553 แก้ไขเพิ่มเติมโดย ที่ นร 1006/ว 9 ลงวันที่ 19 มิถุนายน 2558 หลักเกณฑ์การปฏิบัติ 1) ส่วนราชการพิจารณาถึงความจ าเป็นและประโยชน์ที่ทางราชการจะรับความรู้ ความสามารถและ ประสบการณ์ของผู้ขอโอนเทียบกับข้าราชการพลเรือนสามัญในส่วนราชการนั้น 2) ผู้ขอโอนต้องมีคุณสมบัติตรงตามคุณสมบัติเฉพาะส าหรับต าแหน่งตามมาตรฐานก าหนดต าแหน่งที่ ก.พ. ก าหนด และต้องมีคุณสมบัติทั่วไป และไม่มีลักษณะต้องห้าม หรือได้รับยกเว้นกรณีที่มีลักษณะต้องห้าม ตามมาตรา 36 3) ต้องได้รับความยินอมจากผู้มีอ านาจสั่งบรรจุของส่วนราชการหรือหน่วยงานเจ้าสังกัดเดิมของผู้นั้นก่อน 4) ต าแหน่งที่จะรับโอนต้องเป็นต าแหน่งว่างที่มีอัตราเงินเดือน และไม่ใช่ต าแหน่งที่สงวนไว้บรรจุนักเรียนทุน รัฐบาล ผู้ไปรับราชการทหาร หรือผู้ไปปฏิบัติงานตามมติคณะรัฐมนตรีกลับเข้ารับราชการ 5) ให้ผู้ขอโอนยื่นหนังสือขอโอน 6) ให้รับโอนมาด ารงต าแหน่งในประเภทและระดับที่สูงกว่า ระดับต่ ากว่า หรือต่างประเภทที่เทียบได้ตาม หลักเกณฑ์การเทียบต าแหน่งอย่างอื่นๆ ตามหนังสือส านักงาน ก.พ.ที่ นร 1008/ว 30 ลงวันที่ 15 กันยายน 2553 และหนังสือส านักงาน ก.พ.ที่ นร 1008/ว 4 ลงวันที่ 27 มีนาคม 2558 แล้วแต่กรณี โดยให้น า หลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.พ.ก าหนดส าหรับการโอนข้าราชการพลเรือนสามัญมาใช้บังคับโดยอนุโลม
-32- 7) การโอนมาด ารงต าแหน่งประเภทวิชาการ หากผู้ขอโอนเคยด ารงต าแหน่งที่ใช้คุณวุฒิต่ ากว่าปริญญาตรีเป็น คุณสมบัติเฉพาะส าหรับต าแหน่งมาก่อน และปัจจุบันด ารงต าแหน่งที่ใช้คุณวุฒิปริญญา ผู้นั้นต้องได้รับการแต่งตั้ง ให้ด ารงต าแหน่งที่ใช้คุณวุฒิปริญญา โดยผลการสอบแข่งขันหรือการคัดเลือกกรณีที่มีเหตุพิเศษ ซึ่งการสอบแข่งขัน หรือการคัดเลือกต้องเทียบเคียงหรือได้มาตรฐานเดียวกับหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ ก.พ.ก าหนด ส าหรับ การสอบแข่งขันตามมาตรา 53 หรือการคัดเลือกกรณีที่มีเหตุพิเศษตามมาตรา 55 จึงจะรับโอนได้ 8) หากผู้ขอโอนเป็นผู้สอบแข่งขันได้ตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่ ก.พ.ก าหนด และได้รับความยินยอม ให้โอนจากสังกัดเดิมหลังจากวันที่ผู้ด าเนินการสอบแข่งขันก าหนดให้สั่งบรรจุ ซึ่งจะท าให้ผู้นั้นถูกยกเลิกการขึ้น บัญชีผู้สอบแข่งขันได้ หากส่วนราชการพิจารณาแล้วเห็นสมควรและบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ยังไม่ถูกยกเลิก ให้รับโอนได้ตั้งแต่วันที่ผู้มีอ านาจสั่งบรรจุของสังกัดเดิมยินยอมให้โอน 9) รับโอนโดยให้ได้รับเงินเดือนที่รับอยู่เดิมและต้องไม่สูงกว่าเงินเดือนขั้นสูงของต าแหน่งประเภท สายงาน และ ระดับที่รับโอน หากเงินเดือนต่ ากว่าขั้นต่ าของระดับต าแหน่งที่จะรับโอน ให้ได้รับเงินเดือนขั้นต่ าของระดับที่ได้รับ แต่งตั้ง เว้นแต่อัตราเงินเดือนขั้นต่ าชั่วคราวของระดับนั้นใช้บังคับอยู่ ให้ได้รับเงินเดือนเท่าเดิมและไม่ต่ ากว่าขั้นต่ า ชั่วคราวของระดับนั้น 10) การโอนผู้สอบแข่งขันได้ตามมาตรา 53 หรือผู้ได้รับคัดเลือกตามมาตรา 55 ให้ได้รับเงินเดือนตามที่ ก าหนดไว้ในประกาศรับสมัครสอบแข่งขันหรือประกาศรับสมัครคัดเลือกแล้วแต่กรณี 11) กรณีนอกเหนือจากนี้ ให้เสนอ ก.พ.พิจารณาเป็นรายๆ ไป 12) เพื่อประโยชน์ในการนับเวลาราชการ ให้ถือเวลาราชการหรือเวลาท างานของผู้ที่ขอโอนเป็นเวลาราชการ ของข้าราชการพลเรือนสามัญด้วย หลักเกณฑ์ในกำรพิจำรณำรับโอนข้ำรำชกำรในสังกัดกรมกำรแพทย์ 1. มีต าแหน่งว่างและมีอัตราเงินเดือน และไม่ใช้ต าแหน่งที่สงวนไว้บรรจุนักเรียนทุนรัฐบาล ผู้ไปรับ ราชการทหาร หรือผู้ไปปฏิบัติงานตามมติคณะรัฐมนตรีกลับเข้ารับราชการ 2. ข้าราชการผู้ขอโอนต้องไม่ติดสัญญาผูกพันการชดใช้ทุนจากส่วนราชการสังกัดเดิม ยกเว้นกรณีดังนี้ - กรณีชดใช้ทุนให้ส่วนราชการสังกัดเดิมเรียบร้อยแล้ว โดยการชดใช้ทุนด้วยการปฏิบัติงานหรือชดใช้ทุน ด้วยจ านวนเงินตามที่สัญญาก าหนด - กรณีต าแหน่งแพทย์ จะต้องปฏิบัติราชการชดใช้ทุนมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี - กรณีต าแหน่งทันตแพทย์ จะต้องปฏิบัติราชการชดใช้ทุนมาแล้วไม่น้อยว่า 2 ปี - กรณีต าแหน่งเภสัชกร จะต้องปฏิบัติราชการชดใช้ทุนมาแล้วไม่น้อยว่า 1 ปี 3. พ้นจากการทดลองการปฏิบัติหน้าที่ราชการจากสังกัดเดิมเรียบร้อยแล้ว ข้อควรระวังในกำรจัดท ำค ำสั่งรับโอน 1. การใช้รูปแบบค าสั่งต้องให้ถูกต้องกับประเภทและกรณีของข้าราชการพลเรือนสามัญ พนักงานส่วนท้องถิ่น หรือเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานอื่น 2. กรณีการรับโอนข้าราชการพลเรือนสามัญผู้สอบแข่งขันได้ หรือผู้ได้รับคัดเลือก วันที่รับโอนต้องไม่ก่อน วันที่รายงานตัว
-33- 3. กรณีรับโอนพนักงานส่วนท้องถิ่น หรือเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานอื่นของรัฐผู้สอบแข่งขันได้หรือผู้ได้รับ คัดเลือกในกรณีที่มีเหตุพิเศษที่ไม่จ าเป็นต้องด าเนินการสอบแข่งขัน การโอนต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าสังกัดเดิม ของผู้ที่จะโอน และวันที่รับโอนไม่ก่อนวันที่เจ้าสังกัดเดิมของผู้ที่จะโอนยินยอมให้โอน 4. วันที่รับโอนข้าราชการสามารถตรงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ได้ กำรให้โอนข้ำรำชกำร หมายถึง การสั่งให้ข้าราชการพลเรือนสามัญที่ด ารงต าแหน่งในกรมการแพทย์พ้น จากต าแหน่งและไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งในกระทรวง หรือกรมอื่น ซึ่งจะเป็นประเภทเดียวกันหรือต่างประเภท กันก็ได้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.พ.ก าหนด หลักเกณฑ์ในกำรพิจำรณำให้โอนข้ำรำชกำรในสังกัดกรมกำรแพทย์ 1. ไม่มีสัญญาผูกพันชดใช้ทุนกับกรมการแพทย์ หากมีให้ปฏิบัติตามกฎ ระเบียบหรือข้อผูกพันที่ก าหนด ไว้ในขณะนั้น ให้แล้วเสร็จก่อน 2. พ้นจากการทดลองการปฏิบัติหน้าที่ราชการเรียบร้อยแล้ว 3. ส าหรับต าแหน่งระดับปฏิบัติงาน และปฏิบัติการ (เฉพาะกรณีต าแหน่งที่บรรจุด้วยวิธีการสอบแข่งขัน และวิธีการคัดเลือกจากบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ในต าแหน่งหนึ่งไปขึ้นบัญชีเป็นผู้ได้รับการคัดเลือกในต าแหน่งอื่น) - บรรจุเข้ารับราชการก่อนวันที่ 28 เมษายน 2563 ต้องปฏิบัติราชการในสังกัดกรมการแพทย์ มาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี - บรรจุเข้ารับราชการตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน 2563 ต้องปฏิบัติราชการในสังกัดกรมการแพทย์ มาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี 4. ส าหรับต าแหน่งระดับปฏิบัติงาน และปฏิบัติการ (เฉพาะกรณีต าแหน่งที่บรรจุด้วยวิธีการสอบคัดเลือก) - บรรจุเข้ารับราชการก่อนวันที่ 30 กันยายน 2563 ต้องปฏิบัติราชการในสังกัดกรมการแพทย์ มาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี - บรรจุเข้ารับราชการตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2563 ต้องปฏิบัติราชการในสังกัดกรมการแพทย์ มาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี ข้อควรระวังในกำรจัดท ำค ำสั่งรับโอน 1. วันที่ให้โอนต้องมีผลวันเดียวกันกับค าสั่งรับโอนข้าราชการ 2. วันที่ให้โอนข้าราชการสามารถตรงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ได้ กำรให้โอนข้ำรำชกำร
-34- ผู้รับผิดชอบ บทบำทและหน้ำที่ควำมรับผิดชอบ 1. อธิบดี หรือรองอธิบดีที่ได้รับมอบหมาย -อนุมัติ และลงนามในค าสั่งรับโอน และรับโอนข้าราชการ 2. ผู้อ านวยการกองบริหารทรัพยากรบุคคล - ก ากับ ดูแลการปฏิบัติงานของกลุ่มงานสรรหาฯ และ บรรจุฯ ในกระบวนการโอนข้าราชการ สังกัดกรมการ แพทย์ ให้เป็นไปตามกฎ ระเบียบ วิธีการและหลักเกณฑ์ ที่เกี่ยวข้อง 3. กลุ่มงานสรรหาและพัฒนามาตรฐาน การบริหารทรัพยากรบุคคล - รับเรื่องขอโอนข้าราชการ จากหน่วยงานหรือข้าราชการ ผู้ประสงค์ขอโอน ตรวจสอบความถูกต้อง ครบถ้วนของ เอกสารหลักฐานประกอบการโอน -ตรวจสอบต าแหน่งว่าง และคุณสมบัติของผู้ประสงค์ขอโอน 4. กลุ่มงานบรรจุแต่งตั้งและทะเบียนประวัติ -ตรวจสอบคุณสมบัติและหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการโอนข้าราชการ - ด าเนินการด้านเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการโอนข้าราชการ ทุกขั้นตอน ก ำหนดรอบกำรรับโอน รอบที่ วันที่อนุมัติรับโอน ระยะเวลายื่นเรื่อง รับโอนถึง กรมการแพทย์ กระบวนการ อนุมัติ/ทาบทาม และรอตอบกลับ กรมการแพทย์ ออกค าสั่งรับโอน หน่วยงานต้นสังกัด ผู้ขอโอน ออกค าสั่งให้โอน 1 1 กุมภาพันธ์ ตุลาคม พฤศจิกายน ธันวาคม มกราคม 2 1 มิถุนายน กุมภาพันธ์ มีนาคม เมษายน พฤษภาคม 3 1 สิงหาคม เมษายน พฤษภาคม มิถุนายน กรกฎาคม 4 1 ธันวาคม สิงหาคม กันยายน ตุลาคม พฤศจิกายน ก ำหนดรอบกำรให้โอน รอบที่ วันที่อนุมัติให้โอน ระยะเวลายื่นเรื่อง การให้โอนถึง กรมการแพทย์ กระบวนการ อนุมัติ/ทาบทาม และรอตอบกลับ รอค าสั่งรับโอนจาก หน่วยงานต้นสังกัด ผู้ขอโอน กรมการแพทย์ ออกค าสั่งให้โอน 1 1 กุมภาพันธ์ ตุลาคม พฤศจิกายน ธันวาคม มกราคม 2 1 มิถุนายน กุมภาพันธ์ มีนาคม เมษายน พฤษภาคม 3 1 สิงหาคม เมษายน พฤษภาคม มิถุนายน กรกฎาคม 4 1 ธันวาคม สิงหาคม กันยายน ตุลาคม พฤศจิกายน หมำยเหตุ : กรณีการโอนข้าราชการนอกรอบที่ก าหนด ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของอธิบดีกรมการแพทย์ที่จะพิจารณา รับโอนหรือให้โอนข้าราชการได้ ตามความเหมาะสมและความจ าเป็น เพื่อประโยชน์ในการบริหารทรัพยากรบุคคล และเพื่อประโยชน์แก่ทางราชการ บทบำทและหน้ำที่ควำมรับผิดชอบ กำรก ำหนดรอบกำรโอนข้ำรำชกำรสังกัดกรมกำรแพทย์
-35- ขั้นตอนกำรด ำเนินกำรโอนข้ำรำชกำร 1. กำรรับโอนข้ำรำชกำร ขั้นตอนที่ 1 ข้าราชการผู้ขอโอนจัดท าข้อมูลของตนเองตามแบบค าขอโอน พร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้อง ตามที่กรมการแพทย์ก าหนด เสนอผู้บังคับบัญชาชั้นต้นเพื่อพิจารณาเห็นชอบ และยื่นเอกสารการขอโอนดังกล่าว ที่หน่วยงานระดับส านัก กอง โรงพยาบาล ศูนย์หรือเทียบเท่าในสังกัดกรมการแพทย์ ที่ข้าราชการผู้ขอโอน ประสงค์จะขอโอนมา ขั้นตอนที่ 2 หน่วยงานสังกัดกรมการแพทย์ที่รับโอน ด าเนินการพิจารณาตรวจสอบคุณสมบัติเบื้องต้น ของผู้ขอโอน ซึ่งต้องตรงตามคุณสมบัติเฉพาะต าแหน่งตามมาตรฐานก าหนดต าแหน่ง ตรวจสอบเอกสาร ประกอบการขอโอนและตรวจสอบต าแหน่งว่าง พร้อมสงวนต าแหน่งว่างเพื่อรับโอน ขั้นตอนที่ 3 หน่วยงานสังกัดกรมการแพทย์ที่รับโอน จัดท าหนังสือถึงกรมการแพทย์ (ผ่านกองบริหาร ทรัพยากรบุคคล) เพื่อขอรับโอนข้าราชการ ขั้นตอนที่ 4 กองบริหารทรัพยากรบุคคล ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ขอโอนและสงวนต าแหน่งว่างเพื่อรับ โอน และจัดท าหนังสือเสนอกรม เพื่อขออนุมัติรับโอนข้าราชการและลงนามในหนังสือทาบทามการโอนข้าราชการ ไปยังหน่วยงานต้นสังกัดของผู้ขอโอน ขั้นตอนที่ 5 หน่วยงานต้นสังกัดของข้าราชการผู้ขอโอนจะพิจารณาการให้โอน หากไม่ขัดข้องและ ยินยอม ให้โอนข้าราชการ จะด าเนินการแจ้งผลการพิจารณาและวันที่ให้โอนข้าราชการ(ตามรอบการโอนของกรมการ แพทย์ก าหนด) ให้กรมการแพทย์ทราบ ขั้นตอนที่ 6 กรมการแพทย์จัดท าค าสั่งรับโอนข้าราชการ และแจ้งให้ส่วนราชการเจ้าสังกัดสั่งให้ ข้าราชการพ้นจากต าแหน่งและอัตราเงินเดือน แล้วส่งตัวข้าราชการมารับต าแหน่งใหม่ ณ หน่วยงานในสังกัด กรมการแพทย์ ขั้นตอนที่ 7 กองบริหารทรัพยากรบุคคล แจ้งเวียนส าเนาค าสั่งรับโอนข้าราชการให้หน่วยงานในสังกัด กรมการแพทย์ทราบ และบันทึกข้อมูลลงในโปรแกรมระบบฐานข้อมูลข้าราชการพลเรือน (Dpis) บทที่ 4 ขั้นตอนกำรด ำเนินกำร
1.ขั้นตอนกำรรับโอนข้ำรำชกำร เริ่มต้น หน่วยงานรับโอน ท าหนังสือถึงกรมการแพทย์ ผู้รับผิดชอบ กลุ่มงานสรรหาและพัฒนามาตรฐาน การบริหารทรัพยากรบุคคล โทร 0 2590 6153 - ตรวจสอบต าแหน่งว่าง (20 นาที) ขออนุมัติรับโอนและสอบถาม ต้นสังกัดผู้ขอโอน (30 นาที) จัดท าค าสั่งรับโอนและหนังสือแจ้ง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (ตามรอบการโอนที่กรมการแพทย์ก าหนด) พร้อมแจ้งเวียน ( 30 นาที) รอบที่ 1 วันที่ 1 กุมภาพันธ์ รอบที่ 2 วันที่ 1 มิถุนายน รอบที่ 3 วันที่ 1 สิงหาคม รอบที่ 4 วันที่ 1 ธันวาคม กลุ่มงานบรรจุแต่งตั้ง และทะเบียนประวัติ โทร 0 2590 6154 แจ้งหน่วยงานรับโอนทราบ ( 30 นาที) หน่วยงานต้นสังกัดผู้ขอโอน จัดท าค าสั่งให้โอนส่งให้ กรมการแพทย์ หน่วยงานต้นสังกัดผู้ขอโอน ด าเนินการดังนี้ 1.ส่งตัวผู้ขอโอน พร้อมน าส าเนาค าสั่งให้โอน หนังสือส าคัญการโอนอัตราและจ่ายเงินเดือน ครั้งสุดท้าย (แบบ 1) และหลักฐานการ เบิกจ่ายเงินช่วยเหลืออย่างอื่น (ถ้ามี) ไปรายงานตัวทางหน่วยงานรับโอนโดยตรง 2.ส่งส าเนาค าสั่งให้โอน ก.พ.7 และแฟ้มประวัติ มาให้กรมการแพทย์ แจ้งหน่วยงานต้นสังกัดผู้ขอโอนทราบ เมื่อผู้ขอโอนมารายงานตัวแล้ว ( 20 นาที) กลุ่มงานอ านวยการ โทร 0 2590 6156 0 2590 6197 กรณีต้นสังกัด ขัดข้อง กรณีต้นสังกัดไม่ขัดข้อง หมายเหตุ - กรณีต้นสังกัดไม่ขัดข้อง ใช้เวลา 110 นาที คิดเป็น 0.26 วัน - กรณีต้นสังกัดขัดข้อง ใช้เวลา 80 นาที คิดเป็น 0.19 วัน เวียนค าสั่งรับโอน ( 5 นาที) ผู้ขอโอนยื่นเรื่อง ณ หน่วยงานรับโอน กลุ่มงานบรรจุแต่งตั้ง และทะเบียนประวัติ โทร 0 2590 6154 เวียนค าสั่งให้โอน ( 5 นาที) กลุ่มงานอ านวยการ โทร 0 2590 6156 0 2590 6197 -36-
-37- 2. กำรให้โอนข้ำรำชกำร ขั้นตอนที่ 1 ข้าราชการผู้ขอโอนไปยื่นเรื่องที่กรมหรือหน่วยงานในสังกัดกรมต่างๆ ที่ประสงค์จะโอนไป ขั้นตอนที่ 2 หน่วยงานที่ข้าราชการผู้ขอโอนประสงค์จะโอนไป จัดท าหนังสือทาบทาม สอบถาม ความเห็นและรายละเอียดเกี่ยวกับการรับราชการของผู้ขอโอน มายังกรมการแพทย์ ขั้นตอนที่ 3 กองบริหารทรัพยากรบุคคล กรมการแพทย์ จัดท าหนังสือสอบถามความเห็น รายละเอียด เกี่ยวกับการรับราชการของผู้ขอโอน และวันที่ให้โอนข้าราชการ (ตามรอบการโอนของกรมการแพทย์ก าหนด) ไปยังหน่วยงานต้นสังกัดของผู้ขอโอน ขั้นตอนที่ 4 หน่วยงานต้นสังกัดของผู้ขอโอน พิจารณาการให้โอนข้าราชการ และจัดท าหนังสือแจ้งผล การพิจารณา รายละเอียดเกี่ยวกับการรับราชการของผู้ขอโอน และวันที่ให้โอนข้าราชการ ไปยังกองบริหาร ทรัพยากรบุคคล กรมการแพทย์ทราบ ขั้นตอนที่ 5 กองบริหารทรัพยากรบุคคล จัดท าหนังสือเสนอกรม เพื่อขออนุมัติให้โอนข้าราชการและลง นามในหนังสือแจ้งผลการพิจารณาให้หน่วยงานที่จะรับโอนทราบ ขั้นตอนที่ 6 หน่วยงานรับโอนข้าราชการ จัดท าค าสั่งรับโอนข้าราชการ และส่งส าเนาค าสั่งรับโอน ข้าราชการให้กรมการแพทย์ ขั้นตอนที่ 7 กองบริหารทรัพยากรบุคคล จัดท าค าสั่งให้โอนข้าราชการ และหนังสือแจ้งหน่วยงานต้น สังกัด เสนอให้กรมการแพทย์ลงนาม รายละเอียดดังนี้ - ค าสั่งให้โอนข้าราชการ ต้องมีผลวันเดียวกันกับค าสั่งรับโอนข้าราชการ เมื่อกรมลงนามในค าสั่งให้โอน ข้าราชการแล้ว ด าเนินการจัดส่งส าเนาค าสั่งให้โอนข้าราชการไปยังหน่วยงานที่รับโอนข้าราชการ - หนังสือแจ้งหน่วยงานต้นสังกัดของข้าราชการผู้ขอโอน ให้ด าเนินการส่งตัวข้าราชการผู้ขอโอนไป รายงานตัวเพื่อปฏิบัติราชการที่ส่วนราชการรับโอน พร้อมน าส าเนาค าสั่งให้โอน หนังสือส าคัญการโอนอัตราและ จ่ายเงินเดือน ครั้งสุดท้าย (แบบ 1) หลักฐานการเบิกจ่ายเงินช่วยเหลืออย่างอื่น (ถ้ามี) แบบสรุปวันลาทุกประเภท เอกสารอื่น ๆ ตามที่ส่วนราชการรับโอนขอข้อมูล ขั้นตอนที่ 8 กองบริหารทรัพยากรบุคคล กรมการแพทย์คัดส าเนาค าสั่งและแจ้งเวียนหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง ขั้นตอนที่ 9 หน่วยงานต้นสังกัดของข้าราชการผู้ขอโอน จัดท าหนังสือถึงกองบริหารทรัพยากรบุคคล กรมการแพทย์แจ้งการส่งตัวข้าราชการผู้ขอโอนไปรายงานตัวเพื่อรับต าแหน่งใหม่แล้ว พร้อมแนบแบบสรุปวันลา ทุกประเภท จ านวน 1 ฉบับ เพื่อให้กองบริหารทรัพยากรบุคคลบันทึกหรือจัดเก็บในแฟ้มประวัติข้าราชการผู้ขอโอน ขั้นตอนที่ 10 กองบริหารทรัพยากรบุคคล กรมการแพทย์ จัดส่ง ก.พ.7 และแฟ้มประวัติข้าราชการ ผู้ขอโอนให้ส่วนราชการที่รับโอน ขั้นตอนที่ 11 กองบริหารทรัพยากรบุคคล กรมการแพทย์ ตัดฐานข้อมูลข้าราชการผู้ขอโอนออกจาก โปรแกรมระบบฐานข้อมูลข้าราชการพลเรือน (Dpis)
2.ขั้นตอนการให้โอนข้าราชการ เริ่มต้น ผู้ขอโอนยื่นเรื่อง ณ หน่วยงานรับโอน หน่วยงานรับโอน ท าหนังสือถึงกรมการแพทย์สอบถามความยินยอม จาก จัดท าหนังสือสอบถาม หน่วยงานต้นสังกัดผู้ขอโอน (30 นาที) ขออนุมัติให้โอนและแจ้งผลการ พิจารณาให้หน่วยงานรับโอนทราบ (ตามรอบการโอนที่กรมการแพทย์ก าหนด) (30 นาที) หน่วยงานต้นสังกัด พิจารณาและแจ้งผลการพิจารณา ให้กรมการแพทย์ รอบที่ 1 วันที่ 1 กุมภาพันธ์ รอบที่ 2 วันที่ 1 มิถุนายน รอบที่ 3 วันที่ 1 สิงหาคม รอบที่ 4 วันที่ 1 ธันวาคม ผู้รับผิดชอบ กลุ่มงานบรรจุแต่งตั้ง และทะเบียนประวัติ โทร 0 2590 6154 กลุ่มงานบรรจุแต่งตั้ง และทะเบียนประวัติ โทร 0 2590 6154 หน่วยงานรับโอน ส่งค าสั่งรับโอนให้กรมการแพทย์ กลุ่มงานบรรจุแต่งตั้ง และทะเบียนประวัติ โทร 0 2590 6154 เวียนค าสั่งให้โอน ( 5 นาที) จัดท าค าสั่งให้โอนและส่งให้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมแจ้งเวียน ( 30 นาที) สิ้นสุด หน่วยงานต้นสังกัดผู้ขอโอน ด าเนินการดังนี้ 1.ส่งตัวผู้ขอโอน พร้อมน าส าเนาค าสั่งให้โอน หนังสือส าคัญการโอนอัตราและจ่ายเงินเดือน ครั้งสุดท้าย (แบบ 1) และหลักฐานการ เบิกจ่ายเงินช่วยเหลืออย่างอื่น (ถ้ามี) ไปรายงานตัวทางหน่วยงานรับโอนโดยตรง 2.ส่งส าเนาค าสั่งให้โอน ก.พ.7 และแฟ้มประวัติ ไปให้หน่วยงานรับโอน หมายเหตุ - กรณีต้นสังกัดไม่ขัดข้อง ใช้เวลา 95 นาที คิดเป็น 0.22 วัน - กรณีต้นสังกัดขัดข้อง ใช้เวลา 30 นาที คิดเป็น 0.07 วัน กลุ่มงานอ านวยการ โทร 0 2590 6156 0 2590 6197 -38- กรณีต้นสังกัดไม่ขัดข้อง แจ้งหน่วยงานรับโอนทราบ ( 30 นาที) กรณีต้นสังกัด ขัดข้อง
-39- เนื่องจากการด าเนินงานตามกฎ ระเบียบ หลักเกณฑ์ ที่ผ่านมาจะต้องยึดถือและปฏิบัติตามเงื่อนไขตาม พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ซึ่งมีหลักการและสาระส าคัญเปลี่ยนแปลงไปจาก กฎหมายฉบับเดิมเป็นอย่างมาก หลักการบางเรื่องส่งผลให้การปฏิบัติงานด้านการบริหารทรัพยากรบุคคลไม่ คล่องตัวเท่าที่ควร และในระหว่างที่กฎ ก.พ.ว่าด้วยการโอนข้าราชการพลเรือนสามัญ ยังมิได้บังคับใช้ ซึ่งต้องน า กฎ ระเบียบ หลักเกณฑ์ และเงื่อนไขเดิมที่ได้ก าหนดไว้ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2535 มาประกอบการด าเนินงานเกี่ยวกับการโอนข้าราชการพลเรือนสามัญ ดังนั้น เพื่อให้ทราบถึงปัญหาและอุปสรรค ในการด าเนินการ จึงได้รวบรวมและข้อมูลดังกล่าว รายละเอียดดังนี้ ปัญหำและอุปสรรค 1. บุคลากรผู้ปฏิบัติงานด้านทรัพยากรบุคคลของหน่วยงานในสังกัดกรมการแพทย์ มีความรู้ ความเข้าใจ ต่อแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการโอนข้าราชการที่ไม่เป็นมาตรฐานเดียวกันในลักษณะและประเภทต่างๆ 2. เนื่องจากกฎ ระเบียบ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการโอนข้าราชการมีจ านวนมาก อีกทั้งบุคลากร ผู้ปฏิบัติงานยังขาดความเข้าใจในการน ากฎ ระเบียบ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องมาใช้อ้างอิงในการโอนข้าราชการ 3. สืบเนื่องจากการเปลี่ยนผู้ปฏิบัติงานด้านทรัพยากรบุคคลของหน่วยงานในสังกัดกรมการแพทย์ ค่อนข้างบ่อย ส่งผลให้การเรียนรู้งานของบุคลากรผู้ปฏิบัติงานนั้นขาดความต่อเนื่อง และไม่สามารถเรียนรู้จนเกิด ความช านาญ ดังนั้น ผู้ปฏิบัติงานจะใช้เวลาในการด าเนินการเกี่ยวกับการโอนข้าราชการค่อนข้างนาน และอาจเกิด ความผิดพลาดขึ้นได้ 4. แนวทาง วิธีการ และรูปแบบการโอนข้าราชการที่มีความหลากหลาย รวมทั้งมีความซับซ้อนของขั้นตอนใน การด าเนินงานนั้น สามารถท าให้ผู้ปฏิบัติงานรายใหม่เกิดความสับสน และใช้ระยะเวลาในการด าเนินงานค่อนข้างนาน โดยปัญหาที่มักพบเจอบ่อยครั้งในการด าเนินงานเรื่องการโอนข้าราชการ จนส่งผลให้เป็นอุปสรรคต่อ การท างานให้มีประสิทธิภาพ คือ การที่ผู้ปฏิบัติงานขาดความเข้าใจในกฎ ระเบียบ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการโอน ข้าราชการ ซึ่งมีเป็นจ านวนมากนั้น รวมถึงสับสนในวิธีการ ขั้นตอนและกระบวนการท างานของการโอนข้าราชการ ในแต่ละประเภท ดังนั้นผู้รับการประเมินจึงจัดท าคู่มือการโอนข้าราชการสังกัดกรมการแพทย์ขึ้น เพื่อมาแก้ไข สภาพปัญหาดังกล่าว ข้อเสนอแนะ 1. ทบทวนแนวทางปฏิบัติที่มีความแตกต่างกันให้เป็นหลักการและมาตรฐานเดียวกัน เพื่อลดโอกาสของ ความผิดพลาดในการท างาน และเปิดโอกาสให้ข้าราชการในสังกัดกรมการแพทย์ได้มีส่วนร่วมในการก าหนด แนวทางดังกล่าว เพื่อให้เป็นองค์กรธรรมาภิบาล โปร่งใส เป็นธรรม และตรวจสอบได้ 2. กรณีที่ส านักงาน ก.พ.ได้ก าหนดกฎ ระเบียบ หลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการโอนข้าราชการ เพื่อให้ ส่วนราชการได้รับทราบและถือปฏิบัติแต่ละฉบับแล้วนั้น ส่วนราชการระดับกอง ส านัก โรงพยาบาลหรือเทียบเท่า ควรตระหนักถึงความส าคัญเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์อันพึงได้รับของข้าราชการในสังกัด โดยจัดเวทีอภิปรายหรือ โครงการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อร่วมอภิปรายและชี้แจงให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคนเกิดความเข้าใจอย่างถูกต้องและตรงกัน บทที่ 5 ปัญหำ อุปสรรค ข้อเสนอแนะและข้อสรุป
-40- 3. มอบหมายงานเกี่ยวกับการโอนข้าราชการให้ผู้ปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง ให้ผู้ปฏิบัติงานเรียนรู้ ศึกษา เกี่ยวกับการโอนข้าราชการให้เกิดความช านาญและเชี่ยวชาญ และถ่ายทอดทักษะ องค์ความรู้เกี่ยวกับการโอน ข้าราชการให้ผู้ร่วมงานท่านอื่น ในลักษณะพี่เลี้ยงหรือท าคู่มือการปฏิบัติ 4. ควรมีการพัฒนากลไกหรือกระบวนการ เพื่อสร้างความเข้าใจและความเป็นเอกภาพของการท างาน และก าหนดทิศทางของการท างานที่มีความสอดคล้องระหว่างส่วนราชการระดับกรมกับหน่วยงานในสังกัด กรมการแพทย์ ข้อสรุป ตามหนังสือส านักงาน ก.พ.ที่ นร 1006/ว1 ลงวันที่ 8 มีนาคม 2564 เรื่อง กฎ ก.พ.ว่าด้วยการย้าย การโอน หรือการเลื่อนข้าราชการพลเรือนสามัญ แจ้งว่า ก.พ.ได้ออกกฎ ก.พ.ว่าด้วยการย้าย การโอน หรือการเลื่อน ข้าราชการพลเรือนสามัญ จ านวน 3 ฉบับ ดังนี้ 1. กฎ ก.พ.ว่าด้วยการย้าย การโอน หรือการเลื่อนข้าราชการพลเรือนสามัญไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่ง ข้าราชการพลเรือนสามัญต าแหน่งประเภททั่วไปในหรือต่างกระทรวงหรือกรม พ.ศ.2564 2. กฎ ก.พ.ว่าด้วยการย้าย การโอน หรือการเลื่อนข้าราชการพลเรือนสามัญไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่ง ข้าราชการพลเรือนสามัญต าแหน่งประเภทวิชาการในหรือต่างกระทรวงหรือกรม พ.ศ.2564 3. กฎ ก.พ.ว่าด้วยการย้าย การโอน หรือการเลื่อนข้าราชการพลเรือนสามัญไปแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่ง ข้าราชการพลเรือนสามัญต าแหน่งประเภทอ านวยการในหรือต่างกระทรวงหรือกรม พ.ศ.2564 โดยกฎ ก.พ.ทั้ง 3 ฉบับได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ฉบับกฤษฎีกา เล่ม 138 ตอนที่ 16 ก วันที่ 4 มีนาคม 2564 แล้ว และให้ใช้บังคับเมื่อพ้นก าหนดหนึ่งร้อยแปดสิบวัน นับแต่วันถัดจากประกาศใน ราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ดังนั้น จึงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 กันยายน พ.ศ.2564 เป็นต้นไป จึงขอสรุปข้อแตกต่างของกฎ ก.พ.ฉบับเดิม และกฎ ก.พ.ฉบับใหม่ เฉพาะว่าด้วยการโอนข้าราชการ พลเรือนสามัญ ดังนี้ ล ำดับ ข้อก ำหนด กฎ ก.พ. กฎ ก.พ.ฉบับเดิม กฎ ก.พ.ฉบับใหม่ 1 การยับยั้งการโอนข้าราชการ ไม่ก าหนดระยะเวลาในการยับยั้ง การโอนข้าราชการ จากผู้มีอ านาจ สั่งบรรจุของกระทรวงหรือกรม ที่ผู้นั้นสังกัด ผู้มีอ านาจสั่งบรรจุของกระทรวง ห รือกรมที่ผู้ขอโอน สังกัดอยู่ จะยับยั้งการโอนของผู้นั้นได้ ไม่เกินเก้าสิบ วัน นับแต่วันที่ รับทราบ 2 การโอนต่างกลุ่มต าแหน่ง ประเภททั่วไป ระดับปฏิบัติงาน ผู้ด ารงต าแหน่งป ระเภททั่ วไป ระดับปฏิบัติงาน กรณีต่างกลุ่ม ต าแหน่ง แต่มีวุฒิ ก ารศึกษ าใน สาขาวิชาที่ตรงกับต าแหน่งที่รับโอน สามารถรับโอนได้ ผู้ด ารงต าแหน่งประเภททั่ วไป ระดับปฏิบัติงาน กรณีต่างกลุ่ม ต าแหน่ง แต่มีวุฒิการศึกษาใน สาขาที่ตรงกับต าแหน่งที่รับโอน ผู้นั้นต้องผ่านการสอบข้อเขียน หรือประเมินบุคคล จากหน่วยงาน รับโอนก่อน จึงจะสามารถรับโอนได้
-41- ล ำดับ ข้อก ำหนด กฎ ก.พ. กฎ ก.พ.ฉบับเดิม กฎ ก.พ.ฉบับใหม่ 3 การโอนต่างกลุ่มต าแหน่ง ประเภทวิชาการ ระดับปฏิบัติการ ผู้ด ารงต าแหน่งประเภทวิชาการ ระดับปฏิบัติการ กรณีต่างกลุ่ม ต าแหน่ง แต่มีวุฒิ ก ารศึกษ าใน สาขาวิชาที่ตรงกับต าแหน่งที่รับโอน สามารถรับโอนได้ ผู้ด ารงต าแหน่งประเภทวิชาการ ระดับปฏิบัติการ กรณีต่างกลุ่ม ต าแหน่ง แต่มีวุฒิการศึกษาใน สาขาที่ตรงกับต าแหน่งที่รับโอน ผู้นั้นต้องผ่านการสอบข้อเขียน หรือประเมินบุคคล จากหน่วยงาน รับโอนก่อน จึงจะสามารถรับโอนได้
บรรณำนุกรม กฎ ก.พ.ว่าด้วยกำรย้ำย กำรโอน หรือกำรเลื่อนข้ำรำชกำรพลเรือนสำมัญไปแต่งตั้งให้ด ำรงต ำแหน่งข้ำรำชกำร พลเรือนสำมัญต ำแหน่งประเภททั่วไปในหรือต่ำงกระทรวงหรือกรม พ.ศ.2564, (25645 4 มีนาคม). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 138 ตอนที่ 16 ก. หน้า 30-37 กฎ ก.พ.ว่าด้วยกำรย้ำย กำรโอน หรือกำรเลื่อนข้ำรำชกำรพลเรือนสำมัญไปแต่งตั้งให้ด ำรงต ำแหน่งข้ำรำชกำร พลเรือนสำมัญต ำแหน่งประเภทวิชำกำรในหรือต่ำงกระทรวงหรือกรม พ.ศ.2564, (25645 4 มีนาคม). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 138 ตอนที่ 16 ก. หน้า 38-47 กฎ ก.พ.ว่าด้วยกำรย้ำย กำรโอน หรือกำรเลื่อนข้ำรำชกำรพลเรือนสำมัญไปแต่งตั้งให้ด ำรงต ำแหน่งข้ำรำชกำร พลเรือนสำมัญต ำแหน่งประเภทอ ำนวยกำรในหรือต่ำงกระทรวงหรือกรม พ.ศ.2564 25645 (25645 4 มีนาคม). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 138 ตอนที่ 16 ก. หน้า 48-55 กองบริหารทรัพยากรบุคคล ส านักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข. กำรโอนข้ำรำชกำร, 2560. กรมการแพทย์.(2563). ประกำศ อ.ก.พ. เรื่อง หลักเกณฑ์กำรโอนไปรับรำชกำรที่ส่วนรำชกำรอื่น ส ำหรับ ต ำแหน่งระดับปฏิบัติงำน และปฏิบัติกำร (เฉพำะกรณีต ำแหน่งที่บรรจุด้วยวิธีกำรสอบแข่งขัน และ วิธีกำรคัดเลือกจำกบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ในต ำแหน่งหนึ่งไปขึ้นบัญชีเป็นผู้ได้รับกำรคัดเลือกใน ต ำแหน่งอื่น)5 วันที่ 28 เมษายน 2563. กรมการแพทย์. (2563). ประกำศ อ.ก.พ. เรื่อง หลักเกณฑ์กำรโอนไปรับรำชกำรที่ส่วนรำชกำรอื่น ส ำหรับ ต ำแหน่งระดับปฏิบัติงำน และปฏิบัติกำร (เฉพำะกรณีต ำแหน่งที่บรรจุด้วยวิธีกำรสอบคัดเลือก), วันที่ 30 กันยายน 2563. ธงชัย สันติวงษ์. (2546). กำรบริหำรงำนบุคคล, พิมพ์ครั้งที่ 5. กรุงเทพฯ : ไทยวัฒนาพานิช. พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พุทธศักราช 2551 (25515 25 มกราคม). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 125 ตอนที่ 22 ก. หน้า 23-25 ส านักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบข้าราชการ.(2549). คู่มือกำรปฏิบัติงำน (Work Manum). เอกสารประกอบการฝึกอบรมวิทยากรต้นแบบโครงการพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้5 กรกฎาคม-สิงหาคม 2549. ณ โรงแรมแอมบาสเดอร์ กรุงเทพมหานคร สมพงษ์ เกษมสิน. (2550). กำรบริหำร. กรุงเทพฯ : ไทยวัฒนาพานิช.
ภาคผนวก
แบบค ำขอโอน เขียนที่................................................. วันที่……......…เดือน………....…………..พ.ศ……................……. เรื่อง ขอโอนมารับราชการ เรียน ………………………………………. 1. ข้าพเจ้า (นาย/นาง/นางสาว)………………………............................…………วุฒิ..………..…..…...……………………….. ใบอนุญาต…………………………….....................…………วุฒิบัตร…………......................…………………………………………………….. 2. ปัจจุบันเป็นข้าราชการ………………………………. .…………….... ต าแหน่ง……………..………………………………….. ฝ่าย/กลุ่ม/ศูนย์…………………………………….….กอง…..……………..……………………………กรม……………………………….………… โทรศัพท์..…………………….…………......ด ารงต าแหน่งนี้เมื่อวันที่………....…เดือน……….….…….……..… .พ.ศ. ………….…….. อัตราเงินเดือนปัจจุบัน………….………..…………..บาท ขณะนี้ อยู่ในระหว่างทดลองปฏิบัติหน้าที่ราชการ พ้นจากการทดลองปฏิบัติหน้าที่ราชการ อยู่ในระหว่างการลาศึกษา/ฝึกอบรม/หรือดูงาน หลักสูตร………………………………………………..………………… ตั้งแต่วันที่…….…..…...เดือน……………..………พ.ศ. …………… ถึงวันที่ ………..…เดือน…………….….…………พ.ศ………….…….…… ไม่อยู่ระหว่างการลาศึกษา/ฝึกอบรม/หรือดูงาน อยู่ในระหว่างปฏิบัติงานชดใช้ทุน หลักสูตร……..……….……………………………..……………………….…………………… ต้องปฏิบัติงานชดใช้ทุน……..ปี ตั้งแต่วันที่ .………. เดือน……...…..…..พ.ศ. ….……...ถึงวันที่ ……....เดือน……………..พ.ศ……….. ไม่มีข้อผูกพันกับทางราชการ 3. ขอโอนมาด ารงต าแหน่ง……………………………………….…..ระดับ…………………………..ต าแหน่งเลขที่…………………. ส่วนราชการ……………………………………………………………………………..…………………………………………………………………………... เหตุผลในการขอโอน คือ ………………………………………………………………………………………………………………………... และได้แนบหลักฐานประกอบเหตุผลมาพร้อมนี้ด้วยแล้ว จ านวน ……………..ฉบับ 4. ประวัติส่วนตัว เกิดวันที่…….…….เดือน…………………….…………..….พ.ศ……….……..…อายุ………….………….ปี เลขประจ าตัวประชาชน ---- เริ่มรับราชการเมื่อวันที่………………..….... เดือน…….……….....พ.ศ…………..….… อายุราชการ………..…ปี…………..….เดือน (นับถึงเดือน………………..พ.ศ…………..) ภูมิล าเนาเดิม (จังหวัด)………………..…..…… ที่อยู่ปัจจุบัน บ้านเลขที่……….....หมู่ที่…......…ต าบล/แขวง……..……………..อ าเภอ/เขต……………………...จังหวัด….…………..… รหัสไปรษณีย์…..……..…………….โทรศัพท์ที่ท างาน………...…….……………...…โทรศัพท์บ้าน…….…………….………………………..… โทรศัพท์มือถือ…………………………………………………………………………………………………………………………………….………..…….... เป็นสมาชิก กบข. ประเภท สะสม ไม่สะสม ไม่เป็นสมาชิก กบข.
- 2 – 5. ประวัติการศึกษา คุณวุฒิ/สาขาวิชาเอก ปีที่ส าเร็จการศึกษา สถาบัน …………………………………… ………………………. .…………………………………………… …………………………………… ………………………. .…………………………………………… …………………………………… ………………………. .…………………………………………… 6. ( ) ไม่เคยผ่านการประเมินบุคคลและผลงานมาก่อน ( ) เคยผ่านการประเมินบุคคลและผลงาน โดยวิธีการ สอบ/ประเมินตาม ว 2/40, ว 34/47 ในต าแหน่ง …………………..……………………………………..... เมื่อวันที่……………..เดือน……………………………พ.ศ….……………….. ประเมินผลงานตาม ว 16/38, ว 10/48 ในต าแหน่ง…………….…………….……………………….……… เมื่อวันที่……………..เดือน……………………………พ.ศ….……………….. 7. ประวัติการรับราชการ (จากเริ่มรับราชการจนถึงปัจจุบัน แสดงเฉพาะที่ได้รับแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งใน ระดับสูงขึ้น แต่ละระดับและการเปลี่ยนแปลงในการด ารงต าแหน่งในสายงานต่าง ๆ) วัน เดือน ปี ต าแหน่ง อัตราเงินเดือน สังกัด ………………… ………………………..…….. ……………………….. …………………..……………… ………………… ………………………..…….. ……………………….. …………………..……………… ………………… ………………………..…….. ……………………….. …………………..……………… ………………… ………………………..…….. ……………………….. …………………..……………… 8. ประวัติการฝึกอบรมและดูงาน ปี พ.ศ. ระยะเวลา หลักสูตร สถาบัน ………………… ……………………………. …………………………… …..……………………………... ………………… ……………………………. …………………………… …..……………………………... ………………… ……………………………. …………………………… …..……………………………... 9. หน้าที่ความรับผิดชอบของต าแหน่งปัจจุบัน (1 ) …………………………………………………………………………...…………………………... (2 ) ………………………………………………………………………………………………………... (3 ) ………………………………………………………………………………………………………... 10. หากต าแหน่งที่ใช้รับโอนข้าพเจ้าเป็นต าแหน่งที่มีอัตราเงินเดือนต่ ากว่าที่ข้าพเจ้าได้รับอยู่ในปัจจุบัน ข้าพเจ้ายินดีที่จะรับเงินเดือนขั้นที่มีอยู่ของต าแหน่งที่จะรับโอนไปก่อนจนกว่าจะสั่งพอกอัตราให้ 11. กรณีที่ ก.พ. อนุมัติให้รับโอนในระดับ และอัตราเงินเดือนต่ ากว่าที่ได้รับอยู่เดิม ข้าพเจ้า ประสงค์ที่จะโอนมารับราชการ ไม่ประสงค์ที่จะโอนมารับราชการ
- 3 – 12. ข้าพเจ้ามีคุณสมบัติครบถ้วนสามารถเลื่อนขึ้นด ารงต าแหน่งระดับสูงขึ้นตั้งแต่วันที่………………………. มีความประสงค์จะเลื่อนระดับก่อนโอน ไม่ประสงค์จะรอเลื่อนระดับก่อนโอน 13. การโอนครั้งนี้ข้าพเจ้า (ให้ขีดเครื่องหมาย / ใน ที่ต้องการ) 13.1 เงินค่าขนย้ายสิ่งของส่วนตัว ขอเบิก ไม่ขอเบิก 13.2 เงินค่าพาหนะเดินทาง ขอเบิก ไม่ขอเบิก 13.3 เงินค่าเบี้ยเลี้ยง ขอเบิก ไม่ขอเบิก จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาด้วย จะเป็นพระคุณ ขอแสดงความนับถือ (ลงชื่อ)……..……………........………………..ผู้ขอโอน (……………………………………) ค ำรับรองของผู้บังคับบัญชำ ข้าพเจ้า ……………………………………………..ต าแหน่ง………………........................................………..…………… ระดับ……………...................…….. (ส่วนราชการ) ……….........................……………………………………………………..……………... เป็นผู้บังคับบัญชาใกล้ชิด ขอรับรองว่า ………………………………………………………….......................................…..………………. เป็นผู้มีความประพฤติเรียบร้อย ไม่บกพร่องทางศีลธรรม เป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ มีความสนใจ และอุตสาหะ ในการปฏิบัติงานเป็นอย่างดี (ลงชื่อ)…...........………………………………………. (...........................................................) ผู้รับรอง ..….......…../……..……/…….....… หมำยเหตุ 1. กรณีขอโอนติดตามสามีให้แนบส าเนาค าสั่งย้ายของสามี 2. กรณีขอโอนกลับภูมิล าเนาเดิม ให้แนบส าเนาทะเบียนบ้านภูมิล าเนาเดิม 3. กรณีขอโอนเพื่อดูแลบิดา มารดา ให้แนบส าเนาทะเบียนบ้านของบิดา มารดา และใบรับรองแพทย์ ในกรณีที่บิดาหรือมารดามีโรคประจ าตัว 4. กรณีขอโอนต าแหน่งพยาบาลวิชาชีพ ให้แนบส าเนาใบประกอบวิชาชีพฉบับแรกที่ได้รับ 5. การขอเบิกเงินตามข้อ 13. อยู่ในดุลพินิจของผู้บังคับบัญชาทางสังกัดเดิมเป็นผู้พิจารณา