The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ความหลากชนิดของสิ่งมีชีวิตในอาณาจักรฟังไจ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by , 2022-01-29 06:36:24

FUNGI

ความหลากชนิดของสิ่งมีชีวิตในอาณาจักรฟังไจ

Keywords: Fungi

E-BOOK

ค ว า ม ห ล า ก ห ล า ย ท า ง ชี ว ภ า พ

อาณาจักรฟังไจ

นำ เ ส น อ โ ด ย

นางสาวเกวลิน สระแก้ว

อาณาจักรฟังไจ

ความหมายของฟังไจ

เป็นเซลล์ยูแคริโอต (eukaryote)

พบได้ทั้งที่เป็นสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว

เส้นใย และ ดอกเห็ด ไม่มีคลอโรฟิลล์

ได้รับสารอาหารจากการย่อยสลายสาร

อินทรีย์ โดยปล่อยเอนไซม์ออกมาย่อย

สลายสารอินทรีย์ที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่

และซับซ้อนจนเป็นโมเลกุลเล็กและดูด

ซึมเข้าเซลล์ (saprophyte) ได้แก่ สิ่ง

มีชีวิตประเภทเห็ด รา และยีสต์ ภาพที่ 1 สิ่งมีชีวิตในอาณาจักรฟังไจ
ที่มา : https://slideplayer.in.th/slide/17603425/

ลักษณะของสิ่งมีชีวิตในอาณาจักรฟังไจ
เซลล์เป็นแบบ Eucaryotic cell มีเยื่อหุ้มนิวเคลียส
ไม่มีคลอโรฟิลล์ ดำรงชีวิตเป็นผู้ย่อยสลายสารอินทรีย์ที่เน่าเปื่ อย
ผนังเซลล์เป็นสารไคตินกับเซลล์ลูโลส
มีทั้งเซลล์เดียวและเป็นเส้นใย เรียกว่า ไฮฟา (Hypha) รวมกลุ่ม เรียกว่าขยุ้ม
รา (Mycelium)

ภาพที่ 2 Hypha, Mycelium
ที่มา : http://www.facagri.cmru.ac.th/research/subject_file/20181105113949.pdf

อาณาจักรฟังไจ

ลักษณะของเส้นใยแบ่งออกเป็น 2 ชนิด

เส้นใยมีผนังกั้น (Septate hypha)
เส้นใยที่ไม่มีผนังกั้น (Nonseptate hypha or coencytic hypha)

ภาพที่ 2 โครงสร้างของไฮฟา
ที่มา : http://119.46.166.126/self_all/selfaccess12/m6/684/PDF/1_6.pdf

ส่วนยีสต์ เป็นสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว แต่อาจมีการต่อกันเป็นสาย เรียกว่า
Pseudomycelium

เส้นใยของฟังไจอาจเปลี่ยนแปลงแปลงรูปร่างเพื่อทำหน้าที่พิเศษ ได้แก่
- Haustorium เป็นเส้นใยที่ยื่นเข้าเซลล์โฮสต์ เพื่อดูดอาหารจาก

โฮสต์ พบในราที่เป็นปรสิต
- Rhizoid มีลักษณะคล้ายรากพืชยื่นออกจากไมซีเลียม เพื่อยึดให้

ติดกับผิวอาหารและช่วยดูดซึมอาหารด้วย เช่น ราขนมปัง

อาณาจักรฟังไจ การสืบพันธุ์ของสิ่ง
มีชีวิตในอาณาจักร

ฟังไจ

1. Fragmentation เกิดจากเส้นใยหักเป็นส่วน ๆ แต่ละส่วนเรียก
oidia สามารถเจริญเป็นเส้นใยใหม่ได้

ภาพที่ 3 Fragmentation
ที่มา : https://www.slideshare.net/tanchanokpps1/kingdom-fungi-30716148

2. Budding การแตกหน่อ เป็นการที่เซลล์แบ่งออกเป็นหน่อขนาด
เล็กและนิวเคลียสของเซลล์แม่แบ่งออกเป็นสองนิวเคลียส นิวเคลียส
อันหนึ่งจะเคลื่อนย้ายไปเป็นนิวเคลียสของหน่อ เมื่อหน่อเจริญเต็มที่
จะคอดเว้าขาดจากกัน หน่อที่หลุดออกมาจะเจริญต่อไปได้ เรียกหน่อ
ที่ได้นี้ว่า Blastosporeพบการสืบพันธุ์แบบนี้ในยีสต์ทั่วไป

ภาพที่ 4 Budding
ที่มา : https://eschooltoday.com/learn/buddin/

อาณาจักรฟังไจ การสืบพันธุ์ของสิ่ง
มีชีวิตในอาณาจักร

ฟังไจ

3. Fission การแบ่งตัวออกเป็น 2 ส่วน แต่ละเซลล์จะคอดเว้าตรง
กลางและหลุดออกจากกันเป็น 2 เซลล์พบในยีสต์บางชนิดเท่านั้น

ภาพที่ 5 Fission

ที่มา : https://kas-kasanapharayat.blogspot.com/2019/09/cell-division-binary-
fission-and-mitosis.html

4. การสร้างสปอร์แบบไม่อาศัยเพศ เป็นการสืบพันธุ์แบบไม่มีเพศที่พบมากที่สุด สปอร์
แต่ละชนิดจะมีชื่อและวิธีสร้างที่แตกต่างกันไป เช่น

condiospore หรือ conidia เป็นสปอร์ที่ไม่มีสิ่งหุ้ม เกิดที่ปลายเส้นใยที่ทำหน้าที่
ชูสปอร์ (conidiophore) ที่ปลายของเส้นใยจะมีเซลล์ที่เรียกว่า sterigma ทำหน้าที่
สร้าง conidia เช่น Aspergillus sp. และ Penicillium sp.

ภาพที่ 6 Aspergillus sp. และ Penicillium sp.
ที่มา : https://hiperc.sru.ac.th/pluginfile.php/18487/mod_resource/content/.pdf

อาณาจักรฟังไจ การสืบพันธุ์ของสิ่ง
มีชีวิตในอาณาจักร

ฟังไจ

sporangiospore เป็นสปอร์ที่เกิดจากปลายเส้นใยพองออกเป็นกระเปาะ แล้วต่อ
มามีผนังกั้นเกิดขึ้นภายใน กระเปาะจะมีผนังหนาและเจริญเป็นอับสปอร์ (sporangium)
นิวเคลียสภายในอับสปอร์จะมีการแบ่งตัวหลาย ๆ ครั้งโดยมีส่วนของโปรโตพลาสซึมและ
ผนังหนามาหุ้มกลายเป็นสปอร์ที่เรียกว่า sporangiospore จำนวนมากมาย

ภาพที่ 7 sporangiospore
ที่มา : https://sumberbelajar.belajar.
kemdikbud.go.id/sumberbelajar/tampil/
Jamur-Fungi--2014/konten10.html

5. การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ มีการผสมมกันระหว่างเซลล์สืบพันธุ์และมีการรวมตัว
ของนิวเคลียส ซึ่งรวมแล้วเป็น diploid (2n) และมีการแบ่งตัวในขั้นตอนสุดท้ายแบบ
meiosis เพื่อลดจำนวนโครโมโซมลงเป็น haploid (n) ตามเดิม

การสืบพันธู์แบบอาศัยเพศในฟังไจแต่ละชนิด จะมีโครงสร้างที่เรียกว่า Gamete เข้า
ผสมกัน

นอกจากนี้ยังพบว่าฟังไจที่มี Gametangium สร้างเซลล์สืบพันธุ์เพศผู้และเพศเมีย
อยู่ใน Mycelium เดียวกันและสามารถผสมพันธุ์กันได้ เรียกว่า Monoecious

แต่ฟังไจที่มี Gametangium สร้างเซลล์สืบพันธุ์เพศผู้และเพศเมียต่างไมซีเลียม
กัน แต่ละ Mycelium เรียกว่า Dioecious ในการสืบพันธุ์แบบมีเพศของฟังไจต่าง ๆ
นี้ จะมีการสร้างสปอร์เกิดขึ้นเช่นเดียวกัน สปอร์ที่ได้จากการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศมี
ขนาดเล็กและจำนวนน้อยกว่า เช่น Ascospore, Basidiospore, Zygospore, และ
Oospore

อาณาจักรฟังไจ

การสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ
(Asexual reproduction)

ฟังไจมีการสืบพันธุ์ทั้งแบบไม่อาศัยเพศและแบบอาศัยเพศ ฟังไจสืบพันธุ์

แบบไม่อาศัยเพศโดยการสร้างสปอร์ ซึ่งมีหลายรูปแบบขึ้นกับชนิดของเชื้อ
และสภาพแวดล้อม แบ่งเป็นกลุ่มได้ดังนี้
1. สปอร์ที่สร้างขึ้นมาจากเส้นใยโดยตรง เช่น อาร์โธรสปอร์ (arthrospore)
และคลาไมโด-สปอร์ (chlamydospore) อาร์โธรสปอร์พบในฟังไจชั้นสูง
หลายชนิด โดยจะเกิด septum มากั้นส่วนปลายของเส้นใย ทำให้เส้นใยส่วน
นั้นหลุดได้เป็นท่อน ๆ เรียกแต่ละท่อนว่า arthrospore สปอร์ชนิดนี้ถ้าสร้าง
ในฟังไจชั้นสูงจะเรียกว่า arthroconidium คลาไมโดสปอร์พบในฟังไจทั่วไป
เมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม โดยจะเกิดขึ้นจากเซลล์ปกติในบริเวณ
ใดบริเวณหนึ่งของเส้นใย และจะมีผนังที่หนาจึงช่วยให้มีความทนทานต่อ
สภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมได้ดี




ภาพที่ 8 อาร์โธรสปอร์
ที่มา : http://fangjai.blogspot.com/

ข้อเสนอโดย

สตูดิโอ รอลเลีย

อาณาจักรฟังไจ

การสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ
(Asexual reproduction)

2. สปอร์ที่สร้างในโครงสร้างพิเศษและพบในฟังไจชั้นต่ำ เช่น สปอแรนจิโอ

สปอร์ (sporangiospore) เกิดภายในถุงสปอแรนเจียม (sporangium)
ตัวอย่างฟังไจที่สร้างสปอแรนจิโอสปอร์ ได้แก่ ฟังไจในไฟลัมไซโกไมโคตา
(Phylum Zygomycota) เช่น ราดำขนมปัง (Rhizopus)

ภาพที่ 9 สปอแรนจิโอสปอร์
ที่มา : http://fangjai.blogspot.com/

ฟังไจชั้นต่ำบางไฟลัมและฟังไจเทียมสร้างสปอร์ที่มี flagellum ซึ่งจะช่วยให้เคลื่อนที่ใน
น้ำได้ เรียกสปอร์นั้นว่าซูสปอร์ (zoospore) ตัวอย่างฟังไจที่สร้างซูสปอร์ ได้แก่ ฟังไจแท้
ในไฟลัม ไคตริดิโอไมโคตา และฟังไจเทียมในอาณาจักรสตรามีโนพิลา และโปรติสตา

ที่มา ภ: hาพttทpี่:/1/0faซnูสgปjaอiร.์blogspot.comขส้อต/ูเสดินโออโดรยอลเลีย

อาณาจักรฟังไจ

การสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ
(Asexual reproduction)

3. โคนิเดียม (conidium; พหูพจน์ = conidia) เป็นสปอร์ที่เกิดขึ้นแบบไม่

อาศัยเพศในฟังไจชั้นสูง โดยจะสร้างบนเส้นใยปกติ หรือบนเส้นใยพิเศษที่
เรียกโคนิดิโอฟอร์ (conidiophore) ราบางชนิดมีโครงสร้างพิเศษที่ทำหน้า
ที่สร้างสปอร์โดยเฉพาะ เรียกโครงสร้างนั้นว่า asexual fruiting body มี
รูปร่างหลายแบบ และมีชื่อเฉพาะสำหรับรูปร่างแต่ละแบบ แบบที่มีรูปร่าง
คล้ายจานเรียกว่า acervulus แบบที่คล้ายคนโฑเรียกว่า pycnidium แบบ
ที่มีรูปร่างคล้ายหมอนอิง (หรือเบาะรองนั่ง) เรียกว่า sporodochium และ
แบบที่คล้ายช่อดอกไม้เรียกว่า synnema

ภาพที่ 11 โคนิเดีย
ที่มา : http://fangjai.blogspot.com/

ข้อเสนอโดย

สตูดิโอ รอลเลีย

อาณาจักรฟังไจ

การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ
(Sexual reproduction)

นอกจากจะมีการสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศแล้ว ฟังไจยังมีการสืบพันธุ์แบบอาศัย
เพศด้วย การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศเกิดขึ้นยากกว่าการสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ
และต้องการปัจจัยจำเพาะสูง เช่น อาจต้องการสารอาหาร แร่ธาตุ หรือวิตามินบาง
อย่างเป็นพิเศษนอกเหนือจากชนิดที่ต้องการในระยะเจริญของเส้นใย ความเป็นก
รด - ด่างของอาหาร และอุณหภูมิที่เหมาะสมอาจต้องอยู่ในช่วงจำกัดกว่าเดิม ฟัง
ไจบางชนิด แต่ละโคโลนีสามารถสร้างสปอร์แบบอาศัยเพศได้เอง แต่บางชนิดอาจ
ต้องจับคู่กับเส้นใยหรือสปอร์ของโคโลนีอื่นก่อน จึงจะสามารถเกิดการสืบพันธุ์แบบ
อาศัยเพศได้ สปอร์ที่เกิดแบบอาศัยเพศของ pseudofungi พวก oomycetes
เรียกว่าโอโอสปอร์ (oospore) สปอร์ที่เกิดแบบอาศัยเพศของ true fungi พวก
zygomycetes เรียกว่าไซโกสปอร์ (zygospore) สปอร์ที่เกิดแบบอาศัยเพศของ
true fungi พวก ascomycetes เรียกว่าแอสโคสปอร์ (ascospore) และสปอร์ที่
เกิดแบบอาศัยเพศของ true fungi พวก basidiomycetes เรียกว่าเบสิดิโอส
ปอร์ (basidiospore)

ภาพที่ 12 โอโอสปอร์ ข้อเสนอโดย
ที่มา : http://fangjai.blogspot.com/
สตูดิโอ รอลเลีย

อาณาจักรฟังไจ

สิ่งมีชีวิตในอาณาจักรนี้แบ่งเป็น 4 ไฟลัม คือ

1. ไฟลัมไซโกไมโคตา
(Phylum Zygomycota)

2. ไฟลัมแอสโคไมโคตา
(Phylum Ascomycota)

3. ไฟลัมเบสิดิโอไมโคตา
(Phylum Basidiomycota)
4. ไฟลัมดิวเทดโรไมโคตา
(Phylum Deuteromycota)

อาณาจักรฟังไจ

1. ไฟลัมไซโกไมโคตา (PHYLUM ZYGOMYCOTA) ราที่มีวิวัฒนาการต่ำสุด

ภาพที่ 13 โอโอสปอร์
ที่มา : https://sites.google.com/site/kingdomoflifebiology/home/ kingdom-fungi

ลักษณะ ประโยชน์

1. เซลล์เดี่ยวเจริญอยู่ในน้ำ บนบก และซากพืช 1. Rhizopus oryzae ผลิตแอลกอฮอล์
ซากสัตว์ 2. R. nigricans ผลิตกรดฟูตริก

2. เส้นใยชนิดไม่มีผนังกั้น

3. ต้องการความชื้น
4. ดำรงชีวิตแบบปรสิต (Parasite)
และผู้ย่อยสลาย (saprophyte)
5. การสืบพันธุ์
- แบบไม่อาศัยเพศ สร้างสปอร์ เรียกว่า
sporangiospore
- แบบอาศัยเพศ สร้างสปอร์ เรียกว่า
zygospore




โทษ

ทำให้เกิดโรคในพืชและสัตว์

อาณาจักรฟังไจ

2. ไฟลัมแอสโคไมโคตา (PHYLUM ASCOMYCOTA)

ภาพที่ 14 a ยีสต์

b ราแดงที่เกาะอยู่บนต้นไม้
ที่มา : https://sites.google.com/site/kingdomoflifebiology/home/kingdom-fungi

ลักษณะ ประโยชน์

1. เซลล์เดียว ได้แก่ ยีสต์ นอกนั้นเป็นพวกมี 1. Saccharomyces cerevisiae ใช้ผลิต
เส้นใยมีผนังกั้นและเป็นราคล้ายถ้วย (cup แอลกอฮอล์ และมีโปรตีนสูง
fungi)
2. Monascus sp. ใช้ผลิตข้าวแดงและเต้าหู้ยี้
2. ดำรงชีวิตบนบก
3. การสืบพันธุ์

- แบบไม่อาศัยเพศ สร้างสปอร์เรียกว่า conidia
ที่ปลายไฮฟา ส่วนยีสต์จะแตกหน่อ
- แบบอาศัยเพศ สร้างสปอร์ ที่มีชื่อว่า
ascospore อยู่ในถุงเรียกว่า ascus




โทษ

ทำให้เกิดโรคในพืชและสัตว์

อาณาจักรฟังไจ

3. ไฟลัมเบสิดิโอไมโคตา (PHYLUM BASIDIOMYCOTA)

ภาพที่ 15 เห็ดฟาง
ที่มา : https://sites.google.com/site/kingdomoflifebiology/home/kingdom-fungi

ลักษณะ ประโยชน์

1. เส้นใยมีผนังกั้นและรวมตัวอัดแน่นเป็นแท่ง ใช้เป็นแหล่งอาหาร
คล้ายลำต้น เช่น ดอกเห็ด


2. การสืบพันธุ์
- แบบไม่อาศัยเพศ สร้างสปอร์เรียกว่า

codiospore ใน conidia
- แบบอาศัยเพศ สร้างสปอร์ที่สร้างโดย

อาศัยเพศสร้างบนอวัยวะคล้ายกระบองหรือเบสิ
เดียม (basidium) เรียกว่า แบสิดิโอสปอร์
(basidiospore)




โทษ

1. ทำให้เกิดโรคในพืช เช่น ราสนิม ราเขม่า
2. เห็ดรา มีสารพิษเข้าทำลายระบบประสาท ทางเดิน
อาหาร ตับ หัวใจ

อาณาจักรฟังไจ

4. ไฟลัมดิวเทดโรไมโคตา (PHYLUM DEUTEROMYCOTA)

ภาพที่ 16 ตัวอย่างของราสีเขียว
ที่มา : https://sites.google.com/site/kingdomoflifebiology/home/kingdom-fungi

ลักษณะ ประโยชน์

1. เส้นใยมีผนังกั้น 1. Penicillium chrysogernum ใช้ผลิตยา
2. สืบพันธุ์ไม่แบบอาศัยเพศเท่านั้น โดยสร้าง ปฏิชีวนะเพนิซิลลิน
สปอร์ที่เรียกว่า โคนิเดีย (conidia) จึงเรียกรา
ในกลุ่มนี้ว่า Fungi Imperfecti 2. A. oryzae ใช้ผลิตเหล้าสาเก







โทษ

1. ทำให้เกิดโรคในพืช
2. ทำให้เกิดโรคในคน เช่น กลาก เกลื้อน โรคเท้าเปื่ อย
หรือฮ่องกงฟุ ต


Click to View FlipBook Version