The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ประวัติ และผลงานของบุคคลสำคัญในประเทศไทย

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by janjamrat.natthanan, 2023-02-07 19:10:06

บุคคลสำคัญของประเทศไทย

ประวัติ และผลงานของบุคคลสำคัญในประเทศไทย

สำสำสำสำคัคัญ คั ญ คั บุค บุ คล ของประเทศไทย


คำ นำ รายงานเล่มนี้จัดทำ ขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของวิชา ประวัติศาสตร์ เพื่อให้ได้ศึกษา ความรู้ในเรื่องของบุคคลสำ คัญของประเทศไทย โดยได้ศึกษาแหล่งความรู้ผ่านจากสื่อ อินเทอร์เน็ต โดยรายงานเล่มนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับ บุคคลสำ คัญของประเทศไทย ผู้จัดทำ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการจัดการจัดทำ เอกสารฉบับนี้จะมีข้อมูลที่เป็น ประโยชน์ต่อผุที่สนใจศึกษา บุคคลสำ คัญของประเทศไทย หากมีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ คณะผู้จัดทำ ก


คำ นำ สารบัญ ศิลป์ พีระศรี สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระนารายณ์มหาราช พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ หม่อมราโชทัย เจ้าพระยาโกษาธิบดี สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ รัชกาลที่ 1 สมเด็จพระสุริโยทัย สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช รัชกาลที่ 5 รัชกาลที่ 9 ซีมง เดอ ลา ลูแบร์ หมอบรัดเลย์ พระยากัลยาณไมตรี พระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงวงศาธิราชสนิท สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติ พระมหาธรรมราชาที่ 1 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวีพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า บรรณานุกรม สมาชิก สารบัญ ก ข 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 14 18 19 20 21 22 23 25 27 30 33 ข


1. เป็นผู้ก่อตั้งอาจารย์สอนวิชาศิลปะที่โรงเรียนประณีตศิลปกรรมหรือมหาวิทยาลัยศิลปากรในปัจจุบัน 2. สร้างอนุสาวรีย์ผู้กล้าในสงครามโลกครั้งที่ 1 3. สร้างปฐมบรมราชานุสรณ์ปฐมกษัตริย์แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ 4. สร้างอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี 5. สร้างอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย 6. สร้างพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว 7. สร้างอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ 8. สร้างพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช 9. สร้างพระบรมราชานุสรณ์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช 10. สร้างพระศรีศากยะทศพลญาณประธานพุทธมณฑลสุทรรศน์ 11. สร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ที่วงเวียนใหญ่ 12. สร้างพระพุทธรูปประธานที่พุทธมณฑล ศิลป์พีระศรี ประวัติ ผลงานสำ คัญ ศิลป์ พีระศรี เดิมชื่อ คอร์ราโด เฟโรชี ( Corrado Feroci ) เกิดเมื่อวันที่ 15 กันยายน พ.ศ.2435 เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศ อิตาลี เป็นชาวอิตาลีสัญชาติไทย เป็นประติมากรจากเมือง ฟลอเรนซ์ที่เข้ามารับราชการในประเทศไทยตั้งแต่สมัยพระบาท สมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ( รัชกาลที่ 6 ) โดยถือเป็น ปูชนียบุคคลคนหนึ่งของไทยที่ได้สร้างคุณูปการในทางศิลปะ ได้รับ การยกย่องว่าเป็น "บิดาแห่งศิลปะร่วมสมัยของไทย " 1 อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ มหาวิทยาลัยศิลปากร อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย


การกอบกู้อิสรภาพให้แก่กรุงศรีอยุธยาในการเสียกรุงครั้งที่ 1 สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงเป็น พระราชโอรสของสมเด็จพระมหาธรรมราชากับพระวิสุทธิกษัตรี พระราชธิดาในสมเด็จพระ มหาจักรพรรดิกับสมเด็จพระสุริโยทัย ทรงมีพี่น้องร่วมพระราชมารดาเดียวกัน 2 พระองค์ ได้แก่ พระสุพรรณกัลยา ซึ่งเป็นพระพี่นาง และสมเด็จพระเอกาทศรถ พระอนุชา สมเด็จพระนเรศวรทรงเป็นกษัตริย์นักรบที่มีพระปรีชาสามารถ พระองค์ได้ประกาศอิสรภาพให้แก่ กรุงศรีอยุธยาที่เมืองแครง เมื่อครั้งที่พระองค์ยังทรงดำ รงตำ แหน่งพระมหาอุปราชแห่งกรุง ศรีอยุธยา หลังจากที่พระองค์เสด็จขึ้นครองราชย์แล้ว ในปี พ.ศ. 2135 เมื่อพระมหาอุปราชาทรงยกทัพมาตี กรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระนเรศวรทรงเป็นจอมทัพนำ กองทัพไทยไปตั้งรับกองทัพพม่าที่ตำ บลหนอง สาหร่าย แขวงเมืองสุพรรณ พระองค์ทรงกระทำ ยุทธหัตถีชนะพระมหาอุปราชา ทำ ให้กองทัพพม่า แตกพ่ายไปในที่สุด สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ประวัติ ผลงานสำ คัญ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เสด็จพระราชสมภพ ณ เมือง พิษณุโลก เมื่อปีเถาะ พุทธศักราช 2098 พระองค์เป็นพระราชโอรสใน สมเด็จพระมหาธรรมราชา และ พระวิสุทธิกษัตรี ราชธิดาในสมเด็จ พระมหาจักรพรรดิ์ และสมเด็จพระศรีสุริโยทัย ดังนั้น พระองค์จึงมี พระชาติ ทั้งราชวงศ์พระร่วงแห่งกรุงสุโขทัยทางพระราชบิดา และ ราชวงศ์อยุธยาทางพระราชมารดา ขณะยังทรงพระเยาว์มีพระนามว่า "พระองค์ดำ " พระองค์ทรงมีพระพี่นาง พระนามว่า พระสุวรรณเทวี 2 หรือ พระสุพรรณกัลยา และพระน้องยาเธอ พระนามว่า สมเด็จพระเอกาทศรถ "พระองค์ขาว"


1.ผูกมิตรกับตะวันตกชาติอื่นเพื่อถ่วงดุลฮอลันดา 2. บาทหลวงฝรั่งเศสนำ วิทยาการสมัยใหม่ เช่น การจัด โรงเรียนแบบตะวันตก การสร้างป้อมปราการ ผลงานสำ คัญ เมื่อขึ้นเสวยราชย์ พ.ศ.2199 พระนามว่า " สมเด็จพระรามาธิบดี ที่ 3 " เป็นพระมหากษัตริย์ ลำ ดับที่ 27 แห่งกรุงศรีอยุธยา ประทับเสวยราชย์ ณ กรุงศรีอยุธยา 10 ปี จึงโปรดให้สร้างเมือง ลพบุรีขึ้นเป็นราชธานีแห่งที่สอง ในปี พ.ศ. 2209 พระองค์เสด็จประทับที่ลพบุรีปีหนึ่ง เป็นเวลาถึง 8-9 เดือน พระองค์สวรรคตเมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2231 รวมดำ รงราชสมบัตินาน 32 ปี มีพระราชธิดาพระองค์เดียวคือ กรมหลวงโยธาเทพ สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ประวัติ 3 สมเด็จพระนารายณ์มหาราช เป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระเจ้า ปราสาททอง พระมหากษัตริย์ผู้ครองกรุงศรีอยุธยา ระหว่าง พ.ศ.2123 - 2198 และเหตุที่มีพระนามว่า " นารายณ์" นั้น มีอ้างใน พระราชพงศาวดารว่า เมื่อพระราชเทวีประสูตินั้น พระญาติวงศ์ เหลือบเห็นเป็นสี่กร สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง พระราชบิดาจึง พระราชทานนามว่า " พระนารายณ์ราชกุมาร " สมเด็จพระนารายณ์ 3.ทรงต้อนรับคณะฑุตของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 โดยมีเชอวา ลิเย เดอโชมมองต์เป็นหัวหน้า 4.นำ คณะฑูตไทยซึ่งมี พระวิสุทธสุนทร(โกษาปาน)เป็น หัวหน้าเข้าเฝ้าพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ที่พระราชวังแวร์ซาย ได้รับการศึกษาจากพระโหราธิบดี และทรงใฝ่พระทัยศึกษาจาก พระอาจารย์พรหม พระพิมลธรรม และจากสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์


1. ทรงก่อตั้งอาณาจักรสุโขทัยโดยพระองค์ทรงรวบรวมผู้คนยึดอำ นาจจากขอมเป็นผลสำ เร็จและ ทรงสถาปนาอาณาจักรสุโขทัยเป็นราชธานีทำ ให้คนไทยมีอิสรภาพโดยไม่ตกอยู่ภายใต้อำ นาจขอม ต่อไป 2. ทำ ศึกสงครามเพื่อป้องกันและขยายอาณาเขตขุนสามชนเจ้าเมืองฉอดได้นำ กองทัพเข้ามา รุกรานเมืองตากซี่งเป็นเมืองชายแดนของอาณาจักรสุโขทัย พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ได้นำ ไพร่พลออก ต่อสู้กับกองทัพขุนสามชน เจ้าเมืองฉอด ที่เมืองตาก โดยมีพ่อขุนรามคำ ปฟงเสด็จพระราชบิดาไป ในการศึกครั้งนี้ 3. พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ ทรงส่งทูตไปลังกาพร้อมกับคณะทูตเมืองนครศรีธรรมราชเพื่ออัญเชิญ พระพุทธสิหิงค์มาไว้สักการะที่อาณาจักรสุโขทัย พ่อขุนศรีอิ รีอิ นทราทิตย์ ประวัติ ผลงานสำ คัญ พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 1 แห่งราชวงศ์พระร่วงกรุงสุโขทัย เสวยราชสมบัติตั้งแต่ พ.ศ. 1792 พระนามเดิมคือ พ่อขุนบางกลางหาว ก่อนราชวงศ์พระร่วง อาณาจักรสุโขทัยมีราชวงศ์พ่อขุนศรีนาวนาถุมครองอยู่ ในรัชสมัย ของพ่อขุนศรีนาวนาถุม ซึ่งเริ่มประมาณ พ.ศ. 1762 อาณาจักร สุโขทัยครอบคลุมถึงเมืองฉอด ลำ พูน น่าน พิษณุโลก ต่อมา อาณาจักรสุโขทัยตกอยู่ใต้อานาจขอมสบาดโขลญลาพง พ่อขุนผา เมืองจึงอภิเษกพ่อขุนบางกลางหาวเป็นกษัตริย์สุโขทัยปกครอง สุโขทัยและพระราชทานพระนามว่า พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ 4


ผลงานสำ คัญ 1.งานประพันธ์เล่มสำ คัญของหม่อมราโชทัย ได้แก่เรื่อง จดหมายเหตุเรื่องราชทูตไทยไปประเทศ อังกฤษ เมื่อพ.ศ. ๒๔๐๐ และเรื่อง นิราศลอนดอน ซึ่งมีประวัติการแต่งนิราศลอนดอน ปรากฏในหนังสือ ฉบับพิมพ์ครั้งแรกว่า เมื่อแรกนั้น หอพระสมุดวชิรญาณคิดว่าจะพิมพ์แต่เรื่อง จดหมายเหตุเรื่องราชทูต ไทยไปประเทศอังกฤษ เมื่อพ.ศ. ๒๔๐๐ ของหม่อมราโชทัย แต่เมื่อพิมพ์แล้วส่งสมุดตัวอย่างไปถวาย สมเด็จพระปิตุจฉาเจ้า สุขุมาลย์มารศรี พระอัครราชเทวี ทอดพระเนตรแล้ว มีรับสั่งมาว่าหม่อมราโชทัยได้ แต่งเรื่องนิราศลอนดอน ต่อเนื่องจากจดหมายเหตุนี้มีอยู่อีกเรื่องหนึ่ง เหมือนเป็นหนังสือชุดเดียวกัน ทรง พระดำ ริเห็นว่าควรจะรวมพิมพ์เรื่องนิราศลอนดอนด้วย ผู้อ่านจะได้อ่านหนังสือซึ่งหม่อมราโชทัยแต่งใน ครั้งนั้นให้บริบูรณ์ หม่อมราโชทัย ประวัติ 5 หม่อมราโชทัย นามเดิม หม่อมราชวงศ์กระต่าย อิศรางกูร (ชื่อเล่น คุณชายกระต่าย เกิดเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน เป็นบุตรของ พระวงศ์เธอ กรมหมื่นเทวานุรักษ์ เป็นพระนัดดาของ สมเด็จพระ สัมพันธวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมขุนอิศรานุรักษ์ (พระอนุชาของ สมเด็จ พระศรีสุริเยนทราบรมราชินี ใน รัชกาลที่ 2 ) และเป็นพระปนัดดา ของ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากรมพระศรีสุดารักษ์ ซึ่งเป็น 2.หนังสือนิราศลอนดอน นี้หม่อมราโชทัยแต่งขึ้นหลังจากจดหมายเหตุระยะทางราชทูตไทยไปลอนดอน ๒ ปี โดยนำ เนื้อความจดหมายเหตุมาแต่งขยายเป็นกลอนนิราศ ตั้งชื่อว่า นิราศลอนดอน และได้ขาย กรรมสิทธิ์การพิมพ์ครั้งแรกให้หมอบรัดเลย์เป็นเงิน ๔๐๐ บาท เมื่อ ปีระกา พ.ศ. ๒๔๐๔ โดยหมอบรัดเลย์ ลงบันทึกว่าเป็นครั้งแรกที่ได้ซื้อขายกรรมสิทธิ์หนังสือกันในเมืองไทย พระเชษฐินีใน พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช


เจ้าพระยาโกษาธิบดี ผลงานสำ คัญ 6 ประวัติ เจ้าพระยาโกษาธิบดี นามเดิม ปาน เป็นขุนนางใน อาณาจักร อยุธยา สมัย สมเด็จพระนารายณ์มหาราช เป็นเอกอัครราชทูตคนสำ คัญ ที่เดินทางไปเจริญสัมพันธไมตรีกับราชสำ นักฝรั่งเศสเมื่อ พ.ศ. 2229 ปานเป็นบุตรของเจ้าแม่วัดดุสิต พระนมของสมเด็จพระนารายณ์ มหาราชและเป็นน้องชายของ เจ้าพระยาโกษาธิบดี (เหล็ก) ซึ่งดำ รง ตำ แหน่งพระคลังระหว่าง พ.ศ. 2200–2226 ปานได้บรรดาศักดิ์ ออก พระวิสุทธ จุดประสงค์ของฝรั่งเศสคือเผยแพร่คริสต์ศาสนา และพยายามให้พระนารายณ์เข้ารีตเป็นคริสตชน รวมทั้งพยายามมีอำ นาจทางการเมืองในอยุธยาด้วยการเจรจาขอตั้งกำ ลังทหารของตนที่เมืองบางกอก และเมืองมะริด 1.เป็นหัวหน้าคณะทูตเดินทางไปเจริญสัมพันธไมตรีกับฝรั่งเศส 2.ช่วยสร้างความสัมพันธ์ระหว่างอยุธยากับฝรั่งเศสให้มีความใกล้ชิด ทำ ให้อยุธยาสามารถดึงฝรั่งเศสมาถ่วง ดุลอำ นาจกับฮอลันดาได้ 3.ในสมัยพระเพทราชาได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าพระยาพระคลัง มีหน้าที่ควบคุมราชการด้านการต่างประเทศ ด้วย 4.เป็นขุนนางที่สร้างชื่อเสียงและเกียรติภูมิให้ชาติบ้านเมืองในสมัยอยุธยา สุนทร และได้รับการแต่งตั้ง เป็นทูตออกไปเจริญสัมพันธไมตรีกับฝรั่งเศส ในสมัยดังกล่าว ฝรั่งเศสมีอิทธิพลในราชสำ นักของ พระนารายณ์มาก


1. ในปี พ.ศ. 2001 สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถทรงตั้งกฎมณเฑียรบาล ขึ้นเป็นกฎหมายสำ หรับการปกครอง แบ่งออกเป็นสามแผน คือ - พระตำ ราว่าด้วยแบบแผนพระราชพิธีต่าง ๆ - พระธรรมนูญว่าด้วยตำ แหน่งหน้าที่ราชการต่าง ๆ - พระราชกำ หนดเป็นข้อบังคับสำ หรับพระราชสำ นัก 2. พระองค์ได้โปรดเกล้าฯ ให้ประชุมนักปราชญ์ราชบัณฑิต แต่งหนังสือ "มหาชาติคำ หลวง” นับว่าเป็นวรรณกรรมทางพระพุทธศาสนา เรื่องแรกของกรุงศรีอยุธยา และเป็นวรรณคดีชั้นเยี่ยมที่ใช้เป็นแนวทางในการศึกษาภาษา และ วรรณคดีของไทย นอกจากนี้ยังมีลิลิตพระลอ ซึ่งเป็นยอดวรรณคดีประเภท ลิลิตของไทย พระบรมไตรโลกนาถ ประวัติ ผลงานสำ คัญ 7 สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ โดยที่พระนามเดิมคือ สมเด็จ พระบรมเชษฐาธิราช ซึ่งเป็นพระนามที่ สมเด็จพระบรม ราชาธิราชที่ 2 ทรงถวายพระนามให้เมื่อเสด็จพระราชสมภพ ทรง เจริญพระชันษาที่เมืองพิษณุโลก พระองค์ทรงครองราชย์ 38 ปี หลังการขึ้นครองราชย์แล้ว ก็เสด็จมาประทับที่อยุธยาในช่วงแรก ของการครองราชย์ อีกครึ่งหนึ่งเสด็จมาประทับที่พิษณุโลก เชื่อว่า คงเป็นเพื่อการควบคุมดูแลหัวเมืองทางด้านเหนือ และคาน สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถเสด็จสวรรคต เมื่อปี พ.ศ. 2032 ทรงครองราชย์ได้ยาวนานที่สุดของ อาณาจักรอยุธยา และเป็นลำ ดับ 3 ของพระมหากษัตริย์ไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน พระองค์ประทับ อยู่ที่ก ที่ รุงศรีอยุธยาประมาณ 20 ปี ที่เหลือทรงประทับที่เมืองพิษณุโลกตลอดรัชกาล อำ นาจของ อาณาจักรล้านนา ซึ่งกำ ลังมีความเข้มแข็งและต้องการแผ่อำ นาจลงมาทางใต้ ในยุคของพระเจ้าติโลกราช


1. กลอนบทละครเรื่องรามเกียรติ์ 2. กลอนบทละครเรื่องดาหลัง 3. กลอนบทละครเรื่องอิเหนา 4. กลอนบทละครเรื่องอุณรุท 5. กลอนเพลงยาวนิราศรบพม่าที่ท่าดินแดง รัชกาลที่ 1 ประวัติ ผลงานสำ คัญ พระบาทสมเด็จพระปรโมรุราชามหาจักรีบรมนารถ พระพุทธ ยอดฟ้าจุฬาโลก เกิดเมื่อวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2280 เสียชีวิตเมื่อ วันที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2352 เป็น พระมหากษัตริย์ไทย รัชกาลที่ 1 ใน ราชวงศ์จักรี เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันพุธ เดือน 4 แรม 5 ค่ำ ปีมะโรงอัฐศก เวลา 3 ยาม ตรงกับวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2279 (นับแบบปัจจุบัน พ.ศ. 2280) ปราบดาภิเษกเป็นปฐมกษัตริย์แห่ง กรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2325 ขณะมีพระ 8 1. ไตรภูมิโลกวินิจฉัย 2. ตำ ราพิชัยสงคราม 3. โคลงตำ ราช้าง 4. ราชนีติ 5. นิทานสิบสองเหลี่ยม 6. รัตนพิมพวงศ์ 7. ชินกาลมาลี 8. สังคีติยวงศ์ 9. จินดามณี 10. สามก๊ก 11. ไซ่ฮั่น 12. ราชาธิราช 13. พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา 14. กฎหมายตราสามดวง ชนมายุได้ 45 พรรษา และทรงย้าย ราชธานีจาก ฝั่งธนบุรี มาอยู่ ฝั่งพระนคร และโปรดเกล้าฯ ให้สร้าง พระบรมมหาราชวัง เป็นที่ประทับ นอกจากนี้ยังมีวรรณคดีทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นักปราชญ์เรียบเรียงถวายซึ่งมีทั้งการคัดลอก และการแต่งใหม่ เช่น


พระราชพงศาวดาร ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) ระบุว่า เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2090 สมเด็จพระมหาจักรพรรดิเสด็จออกไปดูกำ ลังข้าศึกที่ภูเขาทอง พระสุริโยทัยพร้อมด้วยพระ ราชโอรสพระราชธิดารวม 4 พระองค์ตามเสด็จด้วย ช้างทรงของสมเด็จพระมหาจักรพรรดิเกิด เสียทีหันหลังหนีจากข้าศึก พระเจ้าแปรก็ทรงขับช้างไล่ตามมาอย่างกระชั้นชิด พระสุริโยทัยทอด พระเนตรเห็นพระราชสวามีกำ ลังอยู่ในอันตรายจึงรีบขับช้างเข้าขวางพระเจ้าแปร ทำ ให้ทรงไม่ สามารถติดตามต่อไปได้ พระเจ้าแปรจึงทำ ยุทธหัตถีกับพระสุริโยทัย เนื่องจากพระนางอยู่ใน ลักษณะเสียเปรียบ ช้างพระเจ้าแปรได้เสยช้างพระสุริโยทัย จนเท้าหน้าทั้งสองลอยพ้นพื้นดิน แล้วพระเจ้าแปรจึงฟันพระสุริโยทัยด้วยพระแสงของ้าวต้องพระอังสาขาดถึงราวพระถัน ส่วนพระ ราชพงศาวดารกรุงเก่า ฉบับหลวงประเสริฐอักษรนิติ์ ระบุว่ามีพระราชธิดาสิ้นพระชนม์บนคอ ช้างด้วย สมเด็จพระสุริโริ ยทัย ประวัติ ผลงานสำ คัญ พระราชประวัติของสมเด็จพระสุริโยทัยยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่สันนิษฐานว่าสืบเชื้อสายมาจากราชวงศ์สุโขทัย ซึ่งดำ รงตำ แหน่งพระ อัครมเหสีในสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ ในขณะที่สมเด็จพระมหาจักรพร รดิ ขึ้นครองราชสมบัติกรุงศรีอยุธยาต่อจากขุนวรวงศาธิราชได้เพียง ๗ เดือน เมื่อ พ.ศ.๒๐๙๑ พระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้และพระมหาอุปราชาบุเรง นองยกกองทัพพม่า-รามัญเข้ามาล้อมกรุงศรีอยุธยาครั้งแรก โดยผ่านมา 9 การศึกครั้งนั้นเป็นที่เลื่องลือถึงวีรกรรมของ สมเด็จพระศรีสุริโยทัย ซึ่งไสช้างพระที่นั่งเข้าขวาง พระเจ้าแปรด้วยเกรงว่า สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ พระราชสวามี จะเป็นอันตราย จนถูกพระแสง ของ้าวฟันพระอังสาขาดสะพายแล่งสิ้นพระชนม์อยู่บนคอช้าง เพื่อปกป้องพระราชสวามีไว้ เมื่อ สงครามยุติลง สมเด็จพระมหาจักรพรรดิได้ทรงปลงพระศพของพระนางและสถาปนาสถานที่ปลง พระศพขึ้นเป็นวัด ขนาน - นามว่า "วัดสบสวรรค์" (หรือวัดสวนหลวงสบสวรรค์) ทางด้านด่านพระเจดีย์สามองค์ จังหวัดกาญจนบุรีและตั้งค่ายล้อมพระนคร


1.การกู้เอกราช สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ได้รวบรวมกำ ลังอยู่ที่เมืองจันทบุรี แล้วยกทัพกลับไปตีพม่าที่กรุง ศรีอยุธยา หลังจากที่ก่อนหน้านี้พม่ายกทัพมาตีกรุงศรีอยุธยาในสมัยพระเจ้าเอกทัศ และได้เสียกรุง แก่พม่าเป็นครั้งที่ 2 ใน พ.ศ. 2310 โดยพระยาตากสามารถตีพม่าจนแตกพ่ายไป และรวบรวมผู้คน กอบกู้กรุงศรีอยุธยากลับคืนมาจากพม่าได้ภายในเวลา 7 เดือน สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ประวัติ ผลงานสำ คัญ มีพระนามเดิมว่า สิน เป็นคนไทยเชื้อสายจีน เป็นพระมหา กษัตริย์ผู้ก่อตั้ง อาณาจักรธนบุรี และเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ เดียวของราชอาณาจักรธนบุรี เดิมพระองค์เป็นนายทหารในรัชกาล สมเด็จพระที่นั่งสุริยาศน์อมรินทร์ ต่อมา พ.ศ. 2310 เกิด การเสีย กรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง พระองค์ได้เป็นผู้นำ ขับไล่ทหารพม่าที่ยึด ครองกรุงศรีอยุธยาอยู่ในเวลานั้น และได้ปราบดาภิเษกเป็นพระเจ้า กรุงศรีอยุธยาอีกเจ็ดเดือนถัดมา ทั้งส่งเสริมกิจการด้านเศรษฐกิจ 10 ศาสนา ศิลปวัฒนธรรม วรรณกรรม และการศึกษา ภายหลังรัฐบาลไทยประกาศให้วันที่ 28 ธันวาคมของทุกปีเป็น "วันสมเด็จพระเจ้าตากสิน" และยังทรงได้รับสมัญญานาม มหาราช 2.การสร้างและสถาปนากรุงธนบุรีเป็นเมืองหลวง หลังจากได้กอบกู้กรุงศรีอยุธยากลับคืนจากพม่าได้แล้ว พระองค์ทรงเห็นว่าทางกรุงศรีอยุธยาถูก พม่าเผาผลาญเสียหายมากและยากที่จะฟื้นฟูให้เจริญเหมือนเดิม พระองค์จึงย้ายเมืองหลวงมาอยู่ ที่กรุงธนบุรีและปราบดาภิเษกขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ ทรงพระนามว่า พระบรมราชาธิราชที่ 4 และครองกรุงธนบุรีนานถึง 15 ปี ซึ่งนับว่าเป็นกษัตริย์พระองค์เดียวที่ได้ปกครองกรุงธนบุรี 3.การขยายอาณาเขต โดยการตีเวียงจันทน์ และอัญเชิญพระแก้วมรกตมาประดิษฐานไว้ที่เมืองหลวง ทรงทำ นุบำ รุงศาสนาและ ทรงส่งเสริมให้คนแต่งหนังสือต่างๆ ขึ้น เพราะหนังสือตำ ราอันมีค่าถูกพม่าเผาไปเกือบหมด ทรงเอาใจใส่ ดูแลทุกข์สุขของราษฎรเป็นอย่างดีแม้ว่าจะต้องทำ สงครามกับพม่าตลอดเวลา


พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประวัติ ผลงานสำ คัญ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระนามเดิมว่า สมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ พระบรมราชสมภพ เมื่อวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2396 เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่ หัว และพระนางเจ้าฟ้ารำ เพยภมราภิรมย์ เสด็จขึ้นครองราชย์เมื่อวัน ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2411 และบรมราชาภิเษกครั้งแรกเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2411 ทรงพระนามว่า "พระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว" 1. การเลิกทาส เป็นพระราชกรณียกิจอันสำ คัญยิ่ง ด้วยพระองค์ทรงเห็นว่ามีทาสในแผ่นดินเป็น จำ นวนมากและลูกทาสในเรือนเบี้ยจะสืบต่อการเป็นทาสไปจนรุ่นลูกรุ่นหลานอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ถ้า ไม่มีเงินมาไถ่ตัวเองแล้วต้องเป็นทาสไปตลอดชีวิต พระองค์จึงทรงมีพระราชหฤทัยแน่วแน่ว่าจะต้อง เลิกทาสให้สำ เร็จแม้จะเป็นเรื่องยากลำ บาก 2. การปฏิรูประบบราชการ ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรด เกล้าฯ ให้ตราระเบียบการปกครองขึ้นใหม่ แยกหน่วยราชการออกเป็นกรมกองต่าง ๆ มีหน้าที่รับผิด ชอบเฉพาะไม่ก้าวก่ายกันจากเดิมมี 6 กระทรวง คือ กระทรวงมหาดไทย, กระทรวงกลาโหม, กระทรวง นครบาล, กระทรวงวัง, กระทรวงการคลังและกระทรวงเกษตราธิการ ได้เพิ่มอีก 4 กระทรวง รวมเป็น 10 กระทรวง ได้แก่ กระทรวงธรรมการ มีหน้าที่ดูแลเกี่ยวกับกิจการของพระสงฆ์และการศึกษา, กระทรวงยุติธรรม มีหน้าที่ดูแลเกี่ยวกับคดีความที่ต้องตัดสินต่าง ๆ , กระทรวงโยธาธิการ มีหน้าที่ดูแล ตรวจตราการก่อสร้าง การทำ ถนน ขุดลอกคูคลอง งานที่เกี่ยวกับการก่อสร้าง และกระทรวงการต่าง ประเทศ มีหน้าที่ดูแลงานที่เกี่ยวข้องกับการต่างประเทศ 11 การเลิกทาส


4. การเสด็จประพาส การเสด็จประพาสเป็นพระราชกรณียกิจที่สำ คัญอย่างหนึ่งของพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยหลังจากเกิดกรณีพิพาทกับฝรั่งเศสแล้ว ก็ได้เสด็จประพาสยุโรป 2 ครั้ง ในปี พ.ศ. 2440 ครั้งหนึ่งและในปี พ.ศ. 2450 อีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้เพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรีกับ ประเทศต่าง ๆ ในยุโรปตลอดจนประเทศฝรั่งเศสด้วย อีกทั้งยังได้ทรงเลือกสรรเอาแบบแผน ขนบธรรมเนียมอันดีในดินแดนเหล่านั้นมาปรับปรุงในประเทศให้เจริญขึ้น ในการเสด็จประพาสครั้ง แรกนี้ได้ทรงมีพระราชหัตถเลขาตลอดระยะทางถึงสมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรีพระบรม ราชินีนาถ (ซึ่งต่อมาได้รับสถาปนาเป็น สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชเทวี) ผู้สำ เร็จราชการแผ่น ดิน พระราชหัตถเลขานี้ต่อมาได้รวมเป็นหนังสือเล่มชื่อ "พระราชนิพนธ์เรื่องไกลบ้าน" ให้ความรู้ อย่างมากมายเกี่ยวกับสถานที่ต่าง ๆ ที่เสด็จฯ 3. การสาธารณูปโภค พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำ เนินไปขุดดินก่อ พระฤกษ์เพื่อประเดิมการสร้างทางรถไฟไปนครราชสีมา แต่ทรงเปิดทางรถไฟกรุงเทพฯพระนครศรีอยุธยาก่อน จึงนับว่าเส้นทางรถไฟสายนี้เป็นทางรถไฟแห่งแรกของไทย นอกจากนี้ได้โปรด เกล้าฯ ให้สร้างสะพานและถนนอีกมากมาย คือ ถนนเยาวราช ถนนราชดำ เนินกลาง ถนน ราชดำ เนินนอก ถนนดินสอ ถนนบูรพา ถนนอุณากรรณ เป็นต้น และโปรดให้ขุดคลองต่าง ๆ เพื่อใช้ เป็นแนวทางคมนาคมและส่งเสริมการเพาะปลูก การสาธารณสุขเนื่องจากการรักษาแบบยากลางบ้าน ไม่สามารถช่วยคนได้อย่างทันท่วงที จึงพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จำ นวน 200 ชั่ง โปรด เกล้าฯ ให้สร้างโรงพยาบาลวังหลังต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น "โรงพยาบาลศิริราช" เปิดทำ การรักษา ประชาชนเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2431 การไฟฟ้าพระองค์ทรงมอบหมายให้กรมหมื่น ไวยวรนาถ เป็นแม่งานในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าและสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าให้ กับประชาชนครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2433 การไปรษณีย์โปรดให้เริ่มจัดขึ้นในปี พ.ศ. 2424 รวมอยู่ ในกรมโทรเลขซึ่งได้จัดขึ้นตั้งแต่ พ.ศ. 2412 โดยโทรเลขสายแรกคือ ระหว่างจังหวัดพระนคร (กรุงเทพมหานคร) กับจังหวัดสมุทรปราการ 12 การเสด็จประพาส


5. การศึกษา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเห็นความสำ คัญของการศึกษา จึงโปรดให้สร้างโรงเรียนหลวงขึ้นในพระบรมมหาราชวัง คือ "โรงเรียนนายทหารมหาดเล็ก" ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น "โรงเรียนพระตำ หนักสวนกุหลาบ" ต่อมาโปรดให้ตั้งโรงเรียนหลวง สำ หรับราษฎรขึ้นเป็นแห่งแรก คือ "โรงเรียนวัดมหรรณพาราม" และในที่สุดได้โปรดให้จัดตั้ง กระทรวงธรรมการขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2435 (ปัจจุบันคือกระทรวงศึกษาธิการ) เพื่อดูแลเรื่องการ ศึกษาและการศาสนา 6. การปกป้องประเทศจากการสงครามและเสียดินแดน เนื่องจากลัทธิจักรวรรดินิยมได้แผ่ อิทธิพลเข้ามาตั้งแต่ปลายรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จนถึงรัชกาลพระบาท สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงใช้พระปรีชาสามารถอย่างสุดพระกำ ลังที่จะรักษาประเทศ ชาติให้รอดพ้นจากวิกฤตการณ์ 13 โรงเรียนนายทหารมหาดเล็ก


พระองค์ได้ทรงประกอบพระราชกรณียกิจในด้านต่าง ๆ อันเป็นประโยชน์แก่ชาวไทยตลอด 70 ปี โดยพระราชกรณียกิจที่สำ คัญของพระองค์ คือ การเสด็จพระราชดำ เนินเยือนประชาชนในท้องถิ่น ทุรกันดารต่างๆ ในประเทศ ซึ่งพระราชกรณียกิจอันโดดเด่น มีดังต่อไปนี้ 1. โครงการแกล้งดิน แกล้งดิน เป็นแนวพระราชดำ ริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 เพื่อแก้ไขปัญหาดินเปรี้ยวจะทำ ด้วยการขังน้ำ ไว้ในพื้นที่จนกระทั่งเกิดปฏิกิริยาทางเคมีจนทำ ให้ดินเปรี้ยว จัด เมื่อถึงที่สุดแล้วจะมีการระบายน้ำ ออกแล้วปรับสภาพดินด้วยปูนขาว จนกระทั่งสามารถใช้ดินในการ เพาะปลูกได้ นครินทร์ และพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล ซึ่งสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราช ชนนี ทรงออกพระนามเรียกพระองค์เป็นการลำ ลองว่า "เล็ก" พระองค์ได้เสด็จกลับเถลิงถวัลยราช สมบัติต่อจากพระบรมเชษฐาเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489 ขณะมีพระชันษา 19 ปี ก่อนครองราชย์ ได้ทรงศึกษาวิชาวิศวกรรมศาสตร์และได้เสด็จกลับไปศึกษาวิชานิติศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ต่อ อีกภายหลังที่ได้ครองราชย์แล้ว พระบาทสมเด็จ พระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ประวัติ ผลงานสำ คัญ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระนามเดิมว่า “ พระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าภูมิพลอดุลยเดช” ทรงเป็นพระราชโอรสใน สมเด็จพระมหิตลาธิเบศรอดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก และสมเด็จ พระศรีนครินทรา บรมราชชนนี ทรงเสด็จพระราชสมภพ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2470 ณ โรงพยาบาลเมานท์ออเบอร์น (MOUNT AUBURN) ประเทศสหรัฐอเมริกา มีพระเชษฐภคินีและสมเด็จพระบรม เชษฐาธิราช 2 พระองค์ คือ 14 สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชา


2. โครงการปลูกหญ้าแฝก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ได้ทรงศึกษาเรื่องการใช้หญ้าแฝกใน การอนุรักษ์ดินและน้ำ จากเอกสารของธนาคารโลก ที่นาย Richard Grimshaw ได้ทูลเกล้าฯ ถวายและ พระองค์ได้พระราชทานพระราชดำ ริเกี่ยวกับหญ้าแฝก โดยให้ทรงทดลองปลูกหญ้าแฝกเพื่อป้องกันการ พังทลายของดิน จนปัจจุบันมีหน่วยงานกว่า 50 หน่วยงานดำ เนินงานสนองพระราชดำ ริการพัฒนาและ รณรงค์การใช้หญ้าแฝก ส่งผลให้การดำ เนินงานก้าวหน้ามากขึ้นตามลำ ดับ 3. โครงการหน่วยแพทย์พระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 พระราชทานโครงการแพทย์หลวง พระราชทาน เมื่อปี พ.ศ. 2510 โดยที่มีการจัดเจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาล เครื่องมือเครื่องใช้เพื่อตรวจ รักษาราษฎรในถิ่นทุรกันดารโดยไม่คิดมูลค่า และอบรมหมอหมู่บ้านเพื่อแก้ไขปัญหาสุขภาพของ ประชาชน 4. โครงการสารานุกรมไทยสำ หรับเยาวชน โครงการสารานุกรมไทยสำ หรับเยาวชน ได้จัดทำ ขึ้นตามพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 โดยจัดขึ้นเป็นรูปเล่มและบางส่วนได้เผยแพร่ออนไลน์ อัน รวบรวมเนื้อหาจากหลายสาขาวิชา โดยที่ฉบับปกติมีทั้งหมด 37 เล่ม และฉบับเสริมการเรียนรู้มีทั้งหมด 20 เล่ม 15 โครงการปลูกหญ้าแฝก โครงการหน่วยแพทย์พระราชทาน


5. ทุนมูลนิธิอานันทมหิดล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรด กระหม่อมพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จัดตั้งมูลนิธิอานันทมหิดล ในปี พ.ศ. 2502 เพื่อให้นิสิต นักศึกษาที่มีผลการเรียนดีเด่น ได้มีโอกาสไปศึกษาหาความรู้ชั้นสูงในต่างประเทศและนำ องค์ความรู้ที่ได้มา ช่วยพัฒนาประเทศต่อไป 6. เกษตรทฤษฎีใหม่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ได้พระราชทานแนวพระราชดำ ริเรื่อง เกษตรทฤษฎีใหม่ โดยเป็นตัวอย่างการใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียงในขั้นต้น โดยการทำ เกษตรทฤษฎีใหม่นี้ แบ่งออกเป็น 3 ขั้นได้แก่ ขั้นต้น คือ การแบ่งพื้นที่ออกเป็น 4 ส่วน ตามอัตรา 30-30-30-10 เพื่อขุดเป็น สระกักเก็บน้ำ 30% ปลูกข้าวในฤดูฝน 30% ปลูกไม้ผล ไม้ยืนต้น พืชผักสมุนไพร 30% และเป็นที่อยู่อาศัย อีก 10% จากนั้นจึงเป็นเกษตรทฤษฎีใหม่ขั้นที่สอง คือการให้เกษตรกรรวมกันในรูปแบบของกลุ่มสหกรณ์ เพื่อดำ เนินการในด้านการผลิต การตลาด ความเป็นอยู่ สวัสดิการ การศึกษา จากนั้นจึงเป็นเกษตรทฤษฎี ใหม่ขั้นที่สาม คือการติดต่อประสานงาน จัดหาแหล่งเงินทุนเพื่อใช้ลงทุนพัฒนาคุณภาพชีวิตต่อไป 7. โครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ได้พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์สร้าง โครงการอันหลากหลายในโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ โครงการแบบ ไม่ใช่ธุรกิจ เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตทางการเกษตรและโครงการกึ่งธุรกิจ อาทิ โรงโคนมสวน จิตรลดา, โรงนมผงสวนดุสิต, น้ำ ผึ้งสวนจิตรลดา เป็นต้น 16 ทุนมูลนิธิอานันทมหิดล โครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา


8. โครงการฝนหลวง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ทรงมีพระราชดำ ริส่วนพระองค์ในเรื่อง การจัดทำ ฝนหลวงเพื่อบรรเทาปัญหาขาดแคลนน้ำ ในการเกษตร โดยมีการค้นคว้าทดลองปฏิบัติการฝน หลวงขึ้น ซึ่งจะใช้สารเคมีโปรยในท้องฟ้าจนกระทั่งไอน้ำ อิ่มตัวและกลั่นตัวออกมากลายเป็นเม็ดฝน 9. กังหันน้ำ ชัยพัฒนา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ได้มีพระราชดำ ริให้มูลนิธิชัยพัฒนา ดำ เนินการวิจัย และพัฒนากังหันน้ำ ชัยพัฒนาขึ้น เพื่อบำ บัดน้ำ เสียด้วยวิธีการเติมอากาศ ทำ ให้น้ำ เสียกลาย เป็นน้ำ ดี และสามารถประยุกต์ใช้ในการอุปโภคบริโภคของประชาชน น้ำ เสียจากโรงงานอุตสาหกรรม และ เพิ่มออกซิเจนให้บ่อเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ทางการเกษตร 17 กังหันน้ำ ชัยพัฒนา โครงการฝนหลวง


ซีมง เดอ ลา ลูแบร์ ประวัติ ผลงานสำ คัญ เป็นราชทูตของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส ได้เดินทางมา ประเทศไทยในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชเพื่อเจริญสัมพันธไมตรี กับไทย โดยเดินทางมาที่กรุงศรีอยุธยาพร้อมกับเจ้าพระยาโกษาธิบดี (ปาน) และทหารของฝรั่งเศสจำ นวนประมาณ 600 คน เดอ ลา ลูแบร์ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าคณะทูตฝรั่งเศสร่วมกับ โกลด เซเบอแร ดูว์ บูแล (Claude Céberet du Boullay) เดินทางมาอยุธยา เพื่อเจรจาเรื่องศาสนาและการค้าของฝรั่งเศสในอาณาจักรอยุธยาเมื่อ พ.ศ. 18 2230 ในการเจรจานั้น อยุธยาไม่ยอมรับข้อเสนอของฝรั่งเศส ทำ ให้เสียเวลาในการเจรจาหลายสัปดาห์ ในที่สุดฝ่ายไทยก็ยินยอม รับข้อเสนอตามความประสงค์ของฝรั่งเศสและทั้งสองฝ่ายได้ลงนามในสัญญาการค้าที่เมืองลพบุรีเมื่อวันที่ 11 ธันวาคมนอกจากจะเป็นหัวหน้าคณะทูตจากฝรั่งเศสแล้ว เดอ ลา ลูแบร์ ยังได้รับคำ สั่งให้สังเกตเรื่อง ราวต่าง ๆ เกี่ยวกับอาณาจักรอยุธยาและบันทึกข้อสังเกตทั้งหลายเหล่านั้นกลับไปรายงานให้ราชสำ นักของ พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ได้รับทราบด้วย คือ จดหมายเหตุลา ลูแบร์บอกถึงชีวิตความเป็นอยู่ สังคม ประเพณี ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม หลายสิ่ง หลายอย่างของคนในสมัยกรุงศรีอยุธยา นับได้ว่าเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่มีจารึกเป็นลายลักษณ์ อักษร จดหมายเหตุลาลูแบร์ Du Royaume de Siam (ว่าด้วยราชอาณาจักรสยาม) เป็นจดหมายเหตุ พงศาวดารที่กล่าวถึงราชอาณาจักรสยามในปลายรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช พ.ศ. 2230 โดย มองซิเออร์ เดอ ลาลูแบร์ อัครราชทูตของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส ซึ่งเข้ามาทูลพระราชสาส์น ณ ประเทศสยาม ได้พรรณาถึงกรุงศรีอยุธยาไว้อย่างกว้างขวาง แม้จะอยู่เพียง 3 เดือน 6 วัน จึงต้องอาศัย ความรู้จากหนังสือที่ชาวตะวันตกซึ่งเคยมากรุงสยามแต่งไว้ สอบถามจากคนที่ไม่มีความรู้บ้าง ฟังจากคำ บอกเล่าซึ่งจริงบ้างไม่จริงบ้าง คาดเดาเองบ้าง จดหมายเหตุลาลูแบร์ฉบับแปลในประเทศไทยมีอยู่ 2 ฉบับ คือ ฉบับที่พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวรวรรณากร กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ ทรงพระนิพนธ์แปล โดยทรงแปลมาจากฉบับภาษาอังกฤษ และ ฉบับแปลของสันต์ ท.โกมลบุตร จากต้นฉบับภาษาฝรั่งเศส


หมอบรัดเลย์(แดนบีช) ประวัติ ผลงานสำ คัญ หมอบรัดเลย์ หรือ แดน บีช แบรดลีย์ (Dan Beach Bradley, M.D.) หรือบางคนเขียนเป็น หมอบรัดเลหมอปลัดเล หมอปรัดเล หรือ หมอปรัด เลย์ เป็นนายแพทย์ชาวอเมริกันที่เข้ามาเผยแพร่ศาสนาคริสต์ใน ประเทศไทยสมัยรัชกาลที่ 3 และยังเป็นผู้เริ่มต้นการพิมพ์อักษรไทยใน ประเทศไทยเป็นครั้งแรก และทำ การผ่าตัดในประเทศไทยเป็นครั้งแรก 1. ในด้านการแพทย์ - เป็นผู้เริ่มต้นการแพทย์ตะวันตกในเมืองไทย 2. ในเรื่องของการผ่าตัด : ผ่าตัดเนื้องอกที่หน้าผากของชาวบ้านคนหนึ่ง : ตัดแขนคนไข้ที่บาดเจ็บ จากเหตุการณ์ปืนใหญ่ระเบิด - รักษาโรคต้อกระจก และที่สำ คัญที่สุด คือ - การปลูกฝึ ป้องกันไข้ทรพิษ 3. ในด้านการพิมพ์ หมอบรัดเลย์กระทำ มาอย่างต่อเนื่อง นอกจากเรียบเรียงคัมภีร์ครรภ์ทรักษา - ให้ความรู้เรื่องการคลอด และ รณรงค์ให้เลิกอยู่ไฟ - ๑๐ ปีแรกพิมพ์หนังสือเผยแพร่ศาสนา เป็นหนังสือเล่มแรกที่เกี่ยวข้องกับศาสนา เขียนเมื่อปี ค.ศ. ๑๘๓๗ 19 แดน บีช บรัดเลย์ เป็นชาวเมืองมาร์เซลลัส (Marcellus) เกิดเมื่อ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2347 บุตรคน ที่ห้าของนายแดน บรัดเลย์และนางยูนิช บีช บรัดเลย์ สำ เร็จการแพทย์จาก มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก สมรส กับภรรยาคนแรก เอมิลี รอยส์ บรัดเลย์ และภรรยาคนที่สอง ซาราห์ แบลคลี บรัดเลย์ คนไทยกับคนอเมริกันได้พบเห็นหน้าอย่างเป็นทางการครั้งแรกเมื่อในรัชกาลที่ ๓ ในครั้งนั้น ประธานาธิบดีแย็กสัน (Andrew Jackson) ได้แต่งตั้งให้เอมินราบัดหรือ เอดมันด์ รอเบิต (Edmond Roberts) เป็นทูตขี่เรือกำ ปั่นเข้ามาทำ หนังสือสัญญาทางพระราชไมตรีและการค้าขายเมื่อ พ.ศ. ๒๓๗๕ (ภายหลังประเทศอังกฤษ) และต่อจากนั้น ๓ ปี หมอบรัดเลย์ก็นั่งเรือใบเข้ามา


รัฐมนตรีต่างประเทศ ต่อมาจึงได้เป็นข้าหลวงใหญ่สหรัฐอเมริกาประจำ ประเทศฟิลิปปินส์ ใน พ.ศ. 2482 แล้วดำ รงตำ แหน่งผู้แทนของสหรัฐประจำ สหประชาชาติ และเป็นประธาน คณะมนตรีภาวะ ทรัสตีแห่งสหประชาชาติ พร้อม ๆ กันในปี พ.ศ. 2490 ขณะดำ รงตำ แหน่งในประเทศไทย ได้ช่วย งานด้านการต่างประเทศของไทย โดยเป็นที่ปรึกษาด้านการต่างประเทศตั้งแต่ พ.ศ. 2466 ในรัชกาล พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว มาจนถึงรัชกาล พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยเฉพาะในด้าน สนธิสัญญาและร่วมร่างเค้าโครง รัฐธรรมนูญ ฉบับของพระบาทสมเด็จพระ ปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ด้วย ในชื่อ "Outline of Preliminary Draft" ในปี พ.ศ. 2469 แต่ทว่าเกิด การ ปฏิวัติสยาม พ.ศ. 2475 ขึ้นเสียก่อน จึงไม่ได้ออกใช้ เป็นผู้แทนรัฐบาลสยามเจรจา สนธิสัญญาไทยสหรัฐอเมริกา พ.ศ. 2468 จึงได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น พระยากัลยาณไมตรี มีตำ แหน่ง ราชการในกระทรวงการต่างประเทศ ถือศักดินา 1,000 พระยากัลยาณไมตรี ประวัติ พระยากัลยาณไมตรี หรือ ฟรานซิสเป็นนิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ต่อมา เดินทางมายังประเทศสยาม ใน ฐานะเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำ สยาม เมื่อ พ.ศ. 2468 แล้วก ลับสหรัฐอเมริกาใน พ.ศ. 2475 ที่บ้านเกิดเมืองนอน ได้รับแต่งตั้ง จาก แฟรงกลิน ดี. โรสเวลต์ ประธานาธิบดี ให้เป็นผู้ช่วย 20 1. มีส่วนช่วยในการร่างรัฐธรรมนูญ โดยรัฐธรรมนูญที่พระยากัลยาณไมตรี ร่างนั้นมี 12 มาตรา เรียกว่าเป็น “Outline of Preliminary Draft” 2. ไปเจรจาในการขอแก้ไขสัญญาที่ไม่เท่าเทียมกัน ระหว่างประเทศไทยกับประเทศต่างๆ โดยเดิน ทางไปยังประเทศเหล่านั้นเพื่อเจรจาโดยตรง จนได้ข้อสรุปกับ 11 ประเทศ เป็นการยกเลิก สิทธิสภาพนอกอาณาเขต รวมทั้งยกเลิกข้อกำ หนดซึ่งจำ กัดอัตราภาษีสินค้าขาเข้าซึ่งได้ทำ ให้ ประเทศไทยมีอำ นาจอธิปไตยทางเศรษฐกิจที่ไม่สมบูรณ์ในบรรดา 11 ประเทศโดย 6 ประเทศ ดำ เนินการแล้วในสมัยรัชกาลที่ 6 และอีก 5 ประเทศในสมัยรัชกาลที่ 7 ผลงานสำ คัญ


พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงวงศาธิราชสนิท ประวัติ ผลงานสำ คัญ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงวงษาธิราชสนิท มีพระนามเดิมว่า พระองค์เจ้านวม เป็นพระราชโอรสองค์ที่ ๔๙ ในพระบาทสมเด็จ พระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รัชกาลที่ ๒) และองค์ที่ ๒ ในเจ้าจอม มารดาปราง (ใหญ่) สายราชินิกุลบางช้าง ประสูติเมื่อวันเสาร์ แรม ๒ ค่ำ เดือน ๘ ปีมะโรง จุลศักราช ๑๑๗๐ ตรงกับวันที่ ๙ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๓๕๑ ก่อนสิ้นรัชกาลที่ ๑ เพียง ๑ ปี ในปีที่พระองค์ ประสูตินั้น มีบุคคลสำ คัญที่ “เกิดร่วมสหชาติ” กับพระองค์อีก ๓ 21 1. ตำ ราสรรพคุณยา 2. โคลงจินดามณี 3. นิราศพระประธม 4. นิราศสุพรรณ 5. กลอนกลบทสิงโตเล่นหาง ใน จารึกวัดพระเชตุพน 6. กลบทชื่อสิงห์โตเล่นหาง ใน เพลงยาวกลบท 7. โคลงภาพฤาษีดัดตน ท่าน ซึ่งต่อมาได้มีบทบาทสำ คัญ ในการบริหารแผ่นดินร่วมสมัยกับพระองค์ คือ พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ในรัชกาลที่ ๔ สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) ผู้สำ เร็จราชการแผ่นดินในรัชกาลที่ ๕ และ เจ้าพระยาภูธราภัย (นุช บุณยรัตพันธุ์) สมุหนายก ในรัชกาลที่ ๔ โครงจินดามณี โครงภาพฤาษีดัดตน


การออกแบบก่อสร้างพระอุโบสถวัดเบญจมบพิตร ถวายพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่ หัว เมื่อ พ.ศ. 2442 การออกแบบก่อสร้างอาคารเรียนโรงเรียนมัธยมวัดเบญจมบพิตร เริ่มก่อสร้างเมื่อ วันที่ 4 มิถุนายน รัตนโกสินทรศก 121 (พ.ศ. 2445) หรือ ร.ศ. 121 ภาพเขียนสีน้ำ มันประกอบพระราชพงศาวดาร แผ่นดินพระเจ้าท้ายสระครั้งกรุงศรีอยุธยา เป็น ภาพช้างทรงพระมหาอุปราชแทงช้างพระที่นั่ง ภาพเขียนรถพระอาทิตย์ที่เพดานพระที่นั่งภานุมาศ จำ รูญ (พระที่นั่งบรมพิมาน) ภาพประกอบเรื่องธรรมาธรรมะสงคราม ภาพแบบพัดต่าง ๆ 1. ด้านภาพจิตรกรรม ภาพเขียน ภาพเขียนสีน้ำ มันประกอบพระราชพงศาวดาร แผ่นดินพระเจ้าท้ายสระครั้งกรุงศรีอยุธยา เป็นภาพช้างทรงพระมหาอุปราชแทงช้างพระที่นั่ง ภาพเขียนรถพระอาทิตย์ที่เพดานพระที่นั่งภานุมาศ จำ รูญ (พระที่นั่งบรมพิมาน) ภาพประกอบเรื่องธรรมาธรรมะสงคราม ภาพแบบพัดต่าง ๆ 2.ด้านสถาปัตยกรรม แก้ไขพระอุโบสถวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร เมื่อแรกสร้าง อาคารเรียนโรงเรียนมัธยมวัด เบญจมบพิตร 3.ด้านภาพจิตรกรรม ภาพเขียน สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้า ฟ้ กรมพระยานริศ ริ รานุวัดติ ประวัติ ผลงานสำ คัญ ในปี พ.ศ. 2428 ได้รับการสถาปนาจากพระบาทสมเด็จพระ จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวขึ้นเป็นพระองค์เจ้าต่างกรม มีพระนามตาม จารึกใน พระสุพรรณบัฏ ว่า พระเจ้าน้องยาเธอ กรมขุนนริศรานุ วัติวงษศ์นอกจากนี้ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวยังมี พระราชดำ ริว่า หม่อมเจ้าพรรณราย 22


ประวัติ พระมหาธรรมราชาที่ ๑ ทรงเป็นพระราชโอรสของพระเจ้าเลอไท และ เป็นพระนัดดาของพระเจ้ารามคำ แหงมหาราช ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ ราชวงศ์พระ ร่วง ครองกรุงสุโขทัย เมื่อ พ.ศ. ๑๘๙๐ - พ.ศ. ๑๙๑๒ (๑๙๑๔) ก่อนขึ้นครองราชสมบัติทรงดำ รงตำ แหน่งอุปราช ครองเมืองศรีสัชนาลัย ตั้งแต่ พ.ศ. ๑๘๘๓ - พ.ศ.๑๘๙๐ ใน พ.ศ. ๑๘๙๐ เมื่อพระยางั่วนำ ถม พระมหากษัตริย์ครองราชสมบัติ ณ กรุงสุโขทัย ได้เสด็จสวรรคตได้เกิดการ จราจลชิงราชสมบัติกรุงสุโขทัยขึ้น พระมหาธรรมราชาที่ ๑ (พระยาลิไท) ทรงสามารถยกกองทัพมาปราบปรามศัตรูได้หมดสิ้น และเสด็จขึ้นครองราช สมบัติ เป็นพระมหากษัตริย์องค์ที่ ๖ แห่งราช วงศ์พระร่วงเฉลิมพระนามว่า ศรีสุริยพงศ์รามมหาธรรมราชาธิราช เมื่อพระมหาธรรมราชาที่ ๑ (พระยาลิไท) เสด็จขึ้นครองราชสมบัติสมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๑ พระเจ้า อู่ทองได้ส่งกองทัพจากศรีอยุธยามาโจมตี และยึดเมืองพิษณุโลก(สองแคว)ไว้ได้ทำ ให้อาณาจักรสุโขทัยเกิด ความไม่มั่นคงและไม่ปลอดภัยเพราะเมืองพิษณุโลกอยู่ใกล้กับสุโขทัยมากดังนั้น พระมหาธรรมราชาที่ ๑ (พระยาลิไท)จึงทรงส่งคณะราชฑูตไปขอเจริญพระราชไมตรีกับสมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๑ (พระเจ้า อู่ทอง)และได้ขอเมืองพิษณุโลกคืนจากสมเด็จพระรามาธิบดีที่๑(พระเจ้าอู่ทอง)ซึ่งก็ทรงโปรดเกล้าฯ พระราชทานให้หลังจากนั้นพระมหาธรรมราชาที่ ๑ (พระยาลิไท) ก็ทรงเสด็จไปประทับอยู่ ณ เมือง พิษณุโลกเป็นเวลา ๗ ปีคือตั้งแต่ พ.ศ. ๑๙๐๕ - พ.ศ. ๑๙๑๒ เพื่อป้องกันมิให้ทางกรุงศรีอยุธยาส่งกองทัพ ไปรุกรานกรุงสุโขทัยและทรงมอบให้พระขนิษฐาองค์หนึ่งของพระองค์ปกครองกรุงสุโขทัยแทน พระมหาธรรมราชาที่ 1 23 ผลงานสำ คัญ ด้านภาษาและวรรณคดี ด้านอักษรศาสตร์ทร์รงพระปรีชาสามารถนิพนธ์หนังสือไตรภูมิพระร่วงที่นับเป็นงานนิพนธ์ที่เก่าแก่ที่สุด เรื่องหนึ่งในประวัติศาสตร์ไทย ด้วยทรงเชี่ยวชาญในพระไตรปิฎกจึงทรงนิพนธ์ถึงเรื่องราวเกี่ยวกับ พระพุทธศาสนา ประเพณีในพระพุทธศาสนา โลกมนุษย์ สวรรค์ และนรกนอกจากพระเจ้าลิไทยจะทรง นิพนธ์วรรณคดีเล่มแรกของไทยแล้ว ยังทรงดัดแปลงการเขียนหนังสือไทยที่พ่อขุนรามคำ แหงทรงสร้างไว้ โดยกำ หนดให้มีสระข้างบน ข้างล่าง ข้างหน้า ข้างหลัง รวมทั้งแก้ไขรูปพยัญชนะให้อ่านเขียนสะดวกขึ้น


24 ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ การสร้างเมือง ทรงสร้างเจดีย์ที่เมืองนครชุม (กำ แพงเพชร) ผนวชในพระพุทธศาสนาเมื่อ พ.ศ. 1905 ที่วั ที่ วัดป่า มะม่วงการที่ทรงออกผนวชนับว่าทำ ความมั่นคงให้พุทธศาสนามากขึ้นกิตติศัพท์ของพระพุทธศาสนาใน สุโขทัยจึงเลื่องลือไปไกล พระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่หลายรูปได้ออกไปเผยแพร่ธรรมในแคว้นต่าง ๆ เช่น อโยธยา หลวงพระบาง เมืองน่าน แม้แต่พต่ญากือนาแห่งอาณาจักรล้านนาก็นิมนต์พระสุมณเถระจากสุโขทัยไป เพื่อเผยแพร่ธรรมที่อาณาจักรล้านนานอกเมืองสุโขทัยทางทิศตะวันตก ทรงอาราธนาพระสามิสังฆราช จากลังกาเข้ามาเป็นสังฆราชในกรุงสุโขทัย เผยแพร่เพิ่มความเจริญให้แก่พระศาสนามากยิ่งขึ้น ทรงสร้าง และบูรณะวัดมากมายหลายแห่ง รวมทั้งการสร้างพระพุทธรูปเป็นจำ นวนมาก เช่น พระพุทธชินสีห์ พระ ศรีศาสดา และพระพุทธรูปองค์สำ คัญองค์หนึ่งของประเทศคือ พระพุทธชินราช ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ที่ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหารทรงมีความรู้แตกฉานในพระไตรปิฎกภาษาบาลี พระองค์ได้ทรงแบ่ง พระสงฆ์ออกเป็น 2 ฝ่ายคือฝ่าย "คามวาสี" และฝ่าย "อรัญวาสี" ด้วยทรงเป็นองค์อุปถัมภ์พระศาสนา ตลอดพระชนม์ชีพ ราษฎรจึงถวายพระนามว่า "พระมหาธรรมราชา"นอกจากศาสนาพุทธแล้ว พญาลิไทย ยังทรงอุปถัมภ์ศาสนาฮินดูด้วยโดยทรงสร้างเทวรูปขนาดใหญ่หลายองค์ ทรงทำ นุบำ รุงบ้านเมืองให้เจริญหลายประการ เช่น สร้างถนนพระร่วงตั้งแต่เมืองศรีสัชนาลัยผ่านกรุง สุโขทัยไปถึงเมืองนครชุม (กำ แพงเพชร) บูรณะเมืองนครชุมทรงสร้างเมืองสองแคว (พิษณุโลก) เป็นเมือง ลูกหลวงโดยการย้ายเมืองซึ่งเคยอยู่ที่สองแควซึ่งเดิมอยู่ทางใต้ (วัดจุฬามณีใณีนปัจจุบัน) แต่ยังคงเรียกว่า เมืองสองแควตามเดิม นับแต่พระยาลิไทยได้ครองราชย์มา 2 ปี สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 ผู้ครองกรุงศรีอยุธยา ได้ให้สห้มเด็จ พระบรมราชาธิราชที่ 1ยกทัพมาตีเมืองชัยนาท หัวเมืองชั้นในของกรุงสุโขทัยด้วยขณะนั้นกรุงสุโขทัย อ่อนแอจากทุพภิกขภัย ข้าวกล้าในนาเสียหาย ชาวเมืองอดอยากต่อมาพระยาลิไทยได้ส่งทูตไปเจรจาให้ กรุงศรีอยุธยาคืนเมืองชัยนาทแต่โดยดี และจะยินยอมให้เป็นประเทศอิสระและมีไมตรีกันเช่นเดียวกับ ขอมที่ครองเมืองลพบุรี กรุงศรีอยุธยาเห็นควรด้วยเกรงว่าขอมจะร่วมมือกับกรุงสุโขทัยจัดทัพกระหนาบ มาตี กรุงศรีอยุธยาจึงคืนเมืองชัยนาทให้พระยาลิไทยหลังจากสัมพันธไมตรีระหว่าง 2 กรุงดำ เนินมาได้ ราว 10 ปี เมื่อพระเจ้าอู่ทองสวรรคต ไมตรีระหว่างกรุงสุโขทัยกับกรุงศรีอยุธยาก็เริ่มตึงเครียดขึ้น และ เมื่อขุนหลวงพระงั่ว (พระบรมราชาธิราช) ได้ราชสมบัติครองกรุงศรีอยุธยา ก็ได้กรีธาทัพไปตีกรุงสุโขทัย สงครามระหว่าง 2 กรุงดำ เนินไปถึง 6 ปีเศษ ขุนหลวงพระงั่วก็ไม่อาจเอาชัยทัพพระยาลิไทย กรุงสุโขทัย ได้ ด้านศาสนา


สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิ ริกิ ติ์ ประวัติ ผลงานสำ คัญ 25 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระราชชนนีพันปี หลวง (พระนามแบบย่อ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ) พระนามเดิมคือ ‘ม.ร.ว.สิริกิติ์ กิติยากร’ เป็นธิดาใน ม.จ.นักขัตรมงคล กิติยากร กับ ม.ล.บัว กิติยากร (ราชสกุลเดิม สนิทวงศ์) เสด็จพระราช สมภพเมื่อวันศุกร์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2475 ณ บ้านของพลเอก เจ้า พระยาวงษานุประพัทธ์ (หม่อมราชวงศ์สท้าน สนิทวงศ์) บ้านของพระ อัยกาฝ่ายพระราชมารดามีพระเชษฐา 2 คน คือ ม.ร.ว.กัลยาณกิติ์ กิติ ยากร และ ม.ร.ว.อดุลกิติ์ กิติยากร และมีพระขนิษฐา 1 คนคือ ท่านผู้หญิงบุษบา สธนพงศ์ พระนาม ‘สิริกิติ์’ ได้รับพระราชทานจาก สมเด็จพระนางเจ้ารำ ไพพรรณี พระบรมราชินี มีความหมายว่า "ผู้เป็น ความเป็นอยู่ของเด็ก สตรี และผู้ที่อยู่ชายขอบ หนึ่งในโครงการที่ประสบความสำ เร็จอย่างมากคือ ‘โครงการส่งเสริมศิลปาชีพ’ ซึ่งภายหลังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ก่อตั้งเป็นมูลนิธิ พระราชทาน นามว่า ‘มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพพิเศษในพระบรมราชินูปถัมภ์’ และเปลี่ยนเป็น ‘มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ’ เมื่อ พ.ศ. 2528 อันเป็นการส่งเสริมอาชีพและขณะ เดียวกันยังอนุรักษ์และส่งเสริมงานศิลปหัตถกรรมไทยหลากหลายสาขา ด้านการส่งเสริมอาชีพ ศรีแห่งกิติยะกร" มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพพิเศษใน พระบรมราชินูปถัมภ์


26 ไม่ว่าจะเป็นการอนุรักษ์ป่าไม้ผ่านโครงการ ‘บ้านเล็กในป่าใหญ่’ รวมถึง ‘โครงการอนุรักษ์พันธุ์ เต่าทะเล เกาะมันใน’ ที่พระองค์พระราชทานเกาะมันใน จ.ระยอง จัดเป็นศูนย์กลางอนุรักษ์และ เพาะขยายพันธุ์เต่าทะเล พระราชทานชื่อว่า โครงการสมเด็จฯ อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล และ โครงการ แก้ไขปัญหาช้างป่าตามแนวพระราชดำ ริฯ ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรและความหลากหลายทางชีวภาพ โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ โครงการอนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล เกาะมันใน ได้ทรงดำ รงตำ แหน่งสภานายิกาสภากาชาดไทย และหากเสด็จฯ เยือนต่างประเทศ ก็มักจะทรงถือ โอกาสเสด็จฯ ทอดพระเนตรกิจการกาชาดของประเทศนั้น ๆ เพื่อทรงนำ มาปรับปรุงกิจการ สภากาชาดไทยอยู่เสมอ ทรงเน้นในเรื่องของการค้นคว้า ทดลอง และวิจัยหาพันธุ์พืชใหม่ ๆ ทั้งพืชเศรษฐกิจ พืชสมุนไพร รวมถึงการศึกษาเกี่ยวกับแมลงศัตรูพืช และพันธุ์สัตว์ต่าง ๆ ที่เหมาะสมกับสภาพท้องถิ่นนั้น ๆ ซึ่งแต่ละ โครงการจะเน้นให้สามารถนำ ไปปฏิบัติได้จริง มีราคาถูก ใช้เทคโนโลยีง่าย ไม่สลับซับซ้อน เกษตรกร สามารถดำ เนินการเองได้ ด้านสาธารณสุข ด้านการเกษตร


3. ทรงดำ รงตำ แหน่งองค์สภาชนนีสนีภาอุณาโลมแดง อันเป็นชื่อของสภากาชาดไทยเมื่อครั้งแรก ตั้งในต้นรัชกาลที่ 5 เป็นพระองค์แรกและพระองค์เดียว สมเด็จพระศรีส รี วริน ริ ทิราบรมราช เทวีพ วี ระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ประวัติ ผลงานสำ คัญ พระนามเดิม พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าสว่างวัฒนา เกิดวันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2405 และ เสียชีวิตวันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2498 เป็นพระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระ ราชสมภพแต่สต่มเด็จพระปิยมาวดี ศรีพัชรินทรมาตา ( เจ้าจอมมารดา เปี่ยม ) เป็นพระอัครมเหสีในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่ หัว เป็นพระราชชนนีในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุ 27 ณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร ซึ่งเป็นสยามมกุฎราชกุมารพระองค์แรกของไทย รวมทั้งสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ต้นราชสกุลมหิดล ซึ่งเป็นราชสกุลที่สืบราชสันตติวงศ์ของประเทศไทยในปัจจุบัน 2. ทรงสร้างสถานพยาบาลขึ้น ปัจจุบัน คือ โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา ด้านการแพทย์และการสาธารณสุข 1. ทรงสนับสนุนโรงศิริราชพยาบาล ในปี พ.ศ. 2431 ตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง เรื่อยมาจนเสด็จสวรรคต 4. ทรงเป็นประธานในพิธีเข้าประจำ หน่วยอนุสภากาชาดครั้งแรกที่โรงเรียนราชินี


28 พระองค์ได้พระราชทานพระราชทรัพย์เพื่อบำ รุงโรงเรียนต่าง ๆ ทั้งในส่วนกลางและส่วน ภูมิภาค อาทิเช่น โรงเรียนราชินี โรงเรียนวรนารีเฉลิม จังหวัดสงขลาโรงเรียนวัฒโนทัยพายัพ จังหวัดเชียงใหม่ โรงเรียนเจ้าฟ้าสร้าง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นต้น ด้านการศึกษา ด้านศาสนา การที่พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์จัดพิมพ์อัพ์ อัฏฐกถาชาฎก 1 คัมภีร์ 10 เล่มสมุดพิมพ์ นอกจากนี้พระองค์ยังทรงอุทิศถวายสิ่งของต่าง ๆ แก่วัก่ วัดปทุมวนารามด้วย ด้านการต่างประเทศ หนังสือเดินทางสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า เสด็จประพาสชวา ปีนังและสิงคโปร์ (22 กันยายน - 11 มกราคม พ.ศ. 2469) เสด็จประพาสไซง่อนและสิงคโปร์ (21 เมษายน - 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2479) เสด็จประพาสมลายูและสุมาตรา (14 เมษายน - 25 เมษายน พ.ศ. 2480) เสด็จประพาสนครวัดและพนมเปญ (28 พฤศจิกายน - 9 ธันวาคม พ.ศ. 2480) เสด็จประพาสชวา (เมษายน - มิถุนายน พ.ศ. 2481) พระองค์ทรงเป็นเจ้านายฝ่ายในรุ่นแรกที่ได้ตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่ หัวทรงเสด็จประพาสต่างประเทศครั้งแรกในปี พ.ศ. 2431 พระองค์โปรดการเสด็จประพาสตามสถานที่สำ คัญต่างๆนอกพระราชอาณาเขต ดังนี้


ทรงจัดให้มีโมีรงสีข้าวในที่ต่างๆด้วย เช่น โรงจักรสีข้าวถนนเจริญกรุง ใกล้เล้ขตบางคอแหลม ริมแม่น้ำ เจ้าพระยา โดยโปรดให้คนเช่าดำ เนินการ รวมทั้งยังโปรดให้ปลูกไม้ผลหลากหลาย ชนิดภายในวังสระปทุมอีกด้วย นอกจากนั้น ยังพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้คนเช่าที่ดินบริเวณ โดยรอบของวังสระปทุมให้ปลูกผัก สวนดอกไม้ โดยคิดค่าเช่าที่ต่ำ พระองค์ทรงสนพระทัยด้านหัตถกรรมคือด้านการทอผ้า ทรงสร้างโรงเย็บผ้าส่วน พระองค์ขึ้น ณ พระที่นั่งทรงธรรม บริเวณสวนศิวาลัยภายในพระบรมมหาราชวัง ครั้งเสด็จ ไปประทับที่พ ที่ ระตำ หนักศรีราชา ทรงเล็งเห็นว่างานทอผ้าในแถบหัวเมืองชายทะเลนั้นมี ความงดงาม จึงโปรดเกล้าฯ ให้ตั้ง "หูกทอผ้าพื้นบ้าน" ขึ้น เมื่อเสด็จฯ มาประทับที่พ ที่ ระตำ หนักสวนหงส์ วังสวนดุสิต ก็โปรดเกล้าฯให้จัดตั้งกอง ทอผ้าขนาดย่อม โดยผ้าที่ทอโปรดให้นำ ออกจำ หน่ายแก่ประชาชนทั่วไปด้วยการทอผ้าที่ พระตำ หนักสวนหงส์นี้ทรงทำ มาโดยตลอดตราบจนการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 จึงเลิกไป ด้านการหัตถกรรม 29 ด้านการหัตถกรรม


บรรณานุกรม ศิลป พีระศรี 30 วิกิพีเดีย. . ( ออนไลน์ ). https://th.m.wikipedia.org/wiki/ศิลป_พีระศรี. ( 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2566 ) วิกิพีเดีย. . ( ออนไลน์ ). https://th.m.wikipedia.org/wiki/สมเด็จพระนเรศวรมหาราช. ( 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2566 ) สมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช วิกิพีเดีย. . ( ออนไลน์ ). https://th.m.wikipedia.org/wiki/สมเด็จพระนารายณ์มหาราช. ( 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2566 ) สมเด็จพระนารายณ์มหาราช วิกิพีเดีย. พ่อขุนศรีอินทราทิตย์.ย์ ( ออนไลน์ ). https://th.m.wikipedia.org/wiki/พ่อขุนศรีอินทราทิตย์. ( 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2566 ) วิกิพีเดีย. . ( ออนไลน์ ). https://th.m.wikipedia.org/wiki/หม่อมราโชทัย. ( 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2566 ) เจ้าพระยาโกษาธิบดี หม่อมราโชทัย วิกิพีเดีย. . ( ออนไลน์ ). https://th.m.wikipedia.org/wiki/เจ้าพระยาโกษาธิบดี. ( 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2566 ) วิกิพีเดีย. . ( ออนไลน์ ). https://th.m.wikipedia.org/wiki/พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช. ( 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2566 ) วิกิพีเดีย. . ( ออนไลน์ ). https://th.m.wikipedia.org/wiki/พระสุริโยทัย. ( 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2566 ) พระสุริโยทัย วิกิพีเดีย. สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี.รี( ออนไลน์ ). https://th.m.wikipedia.org/wiki/สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี. ( 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2566 ) วิกิพีเดีย. . ( ออนไลน์ ). https://th.m.wikipedia.org/wiki/สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ. ( 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2566 ) สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ


บรรณานุกรม 31 วิกิพีเดีย. . ( ออนไลน์ ). https://th.m.wikipedia.org/wiki/ซีมง_เดอ_ลา_ลูแบร์. ( 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2566 ) ซีมง เดอ ลา ลูแบร์ วิกิพีเดีย. . ( ออนไลน์ ). https://th.m.wikipedia.org/wiki/พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว. ( 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2566 ) พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว วิกิพีเดีย. . ( ออนไลน์ ). https://th.m.wikipedia.org/wiki/พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช_บรม นาถบพิตร. ( 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2566 ) พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระยากัลยาณไมตรี สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงวงศาธิราชสนิท วิกิพีเดีย. แดน บีช แบรดลีย์.ย์ ( ออนไลน์ ). https://th.m.wikipedia.org/wiki/แดน_บีช_แบรดลีย์. ( 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2566 ) วิกิพีเดีย. . ( ออนไลน์ ). https://th.m.wikipedia.org/wiki/พระยากัลยาณไมตรี. ( 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2566 ) วิกิพีเดีย. . ( ออนไลน์ ). https://th.m.wikipedia.org/wiki/พระเจ้าบรมวงศ์เธอ_กรมหลวงวงศาธิราชสนิท. ( 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2566 ) วิกิพีเดีย. . ( ออนไลน์ ). https://th.m.wikipedia.org/wiki/สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ_เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรา นุวัดติวงศ์. ( 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2566 ) วิกิพีเดีย. . ( ออนไลน์ ). https://th.m.wikipedia.org/wiki/พระมหา ธรรมราชาที่_1. ( 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2566 ) พระมหาธรรมราชาที่ 1


บรรณานุกรม 32 วิกิพีเดีย. . . ( ออนไลน์ ). https://th.m.wikipedia.org/wiki/สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์_พระบรมราชินีนาถ_ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง. ( 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2566 ) สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง วิกิพีเดีย. . . ( ออนไลน์ ). https://th.m.wikipedia.org/wiki/สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี_พระพันวัสสา อัยยิกาเจ้า. ( 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2566 ) สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า


1.นายจิรัญธนิน คงสำ ราญ เลขที่ 1 2.นายฐปณวัฒน์ พันธ์ศรี เลขที่ 2 3.นาย นรินทร์ เอี่ยมบุญ เลขที่ 7 4.นายวีสมิธ เเก้วประดิษฐ์ เลขที่ 12 5.นายอาคม โพธิ์ทอง เลขที่ 15 6.นางสาวฐิติญาณ์ หงส์ดำ เนิน เลขที่ 23 7.นางสาวณัฐฐานันท์ จันทร์จำ รัตร เลขที่ 25 8.นางสาวพลอยลิน เเก้ววิเศษ เลขที่ 31 9.นางสาวอนุธิดา พระไตรราช เลขที่ 36 10. นางสาวแอนนา ตาแสง เลขที่ 40 ผู้จัดทำ ห้อง 5.7 33


Click to View FlipBook Version