วารสารอักษรภาษาสาร ปีที่ ๑๑ ฉบับที่ ๑

ภาษาไทยห่างไกลโควิด ๑ ภาควิชาภาษาไทยสร้างศาสตร์แห่งการเรียนรู้ สู่สังคม ๒ บุพเพสันนิวาส : สถานภาพและบทบาท ตัวละครส าคัญ ๓ ปีที่ ๑๑ ฉบับที่ ๑ ISSN : 2773-9724 (Online) จดหมายข่าวเพื่อการประชาสัมพันธ์ ภาควิชาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร เปิดโลกกว้างทางแห่งหนังสือ : กาหลมหรทึก ๔ หนึ่งด้าวฟ้าเดียว : ภาพสะท้อนสังคมไทย สมัยอยุธยาตอนปลาย ๖ โคลงภาพกลบทจตุรทิศ : ภาษาไทยในยุคดิจิทัล ๘ ประมวลกิจกรรมภาควิชาภาษาไทย ๙

ที่ปรึกษา รองศาสตราจารย์วรารัชต์มหามนตรี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ภาคภูมิ สุขเจริญ ดร.อรจิรา อัจฉริยไพบูลย์ บรรณาธิการ นายอดิศักดิ์ เพ็ชรมุข นิสิตชั้นปีที่ ๓ กองบรรณาธิการ นายธีรภัทร ค าทิ้ง นิสิตระดับปริญญาเอก นางสาวอัญชลี เจริญดี นิสิตระดับปริญญาโท นายพฤทธิ์ โพธิ์อินทร์ นิสิตชั้นปีที่ ๔ นายอัษฎาวุธ ยุติรัตน์ นิสิตชั้นปีที่ ๔ นางสาวพรกมล ส าเภาทอง นิสิตชั้นปีที่ ๓ นางสาวอาทิตยา พร้าเพรียง นิสิตชั้นปีที่ ๓ นางสาวพนิดา วงศ์กาฬสินธุ์ นิสิตชั้นปีที่ ๓ นายเก้าไกล สีนาค นิสิตชั้นปีที่ ๒ ศิลปกรรม นายวรารก์ เพ็ชรดี ศิษย์เก่าภาควิชาภาษาไทย งานประชาสัมพันธ์ ภาควิชาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ต าบลท่าโพธิ์ อ าเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก ๖๕๐๐๐ โทรศัพท์ : ๐-๕๕๙๖-๒๐๕๙ หน้าปก โครงการเตรียมความพร้อมนิสิต ภาควิชาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตร์ ประจ าปีการศึกษา ๒๕๖๕ พันธกิจ ๑. ผลิตบัณฑิตที่มีความเป็นเลิศทางวิชาการด้านภาษาและ วรรณกรรมไทย โดยถึงพร้อมด้วยคุณธรรมจริยธรรม ๒. ศึกษาและวิจัยเพื่อสร้างองค์ความรู้ทางภาษาและวรรณกรรมไทย ๓. ให้บริการวิชาการและส่งเสริมความร่วมมือด้านภาษาและ วรรณกรรมไทยในระดับชุมชน ตลอดถึงภูมิภาคอาเซียน ๔. อนุรักษ์สืบสานวัฒนธรรมไทยทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับชาติ ปณิธาน ภาษาและวรรณกรรมไทยคือคลังแห่งปัญญา ขุมแห่งอารยธรรม และรากฐานแห่งจริยธรรม ปรัชญา มุ่งมั่นที่จะใช้พลานุภาพแห่งภาษาและวรรณกรรมไทย สร้างองค์ความรู้ ตลอดทั้งอนุรักษ์ ส่งเสริมและเผยแพร่วิทยาการ ทางภาษาไทย เพื่อประโยชน์สุขแห่งสังคมไทยโดยกว้างขวางและยั่งยืน เป้าประสงค์ ๑. เพื่อผลิตบัณฑิตทุกระดับในสาขาวิชาภาษาไทย ที่มี ความเป็นเลิศทางวิชาการ ถึงพร้อมด้วยคุณธรรม จริยธรรม ๒. เพื่อศึกษาและวิจัย รวมทั้งเป็นแหล่งค้นคว้าเพื่อพัฒนา องค์ความรู้ในสาขาวิชาภาษาไทย ๓. เพื่อให้บริการวิชาการในสาขาวิชาภาษาไทย ๔. เพื่อส่งเสริม อนุรักษ์ภาษาและวรรณกรรมไทยทั้งในระดับ ท้องถิ่นและระดับชาติ ๕. เพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางวิชาการระหว่างสถาบัน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะภูมิภาคอาเซียน ในวาระที่ภาควิชาภาษาไทยอยู่คู่กับคณะมนุษยศาสตร์มาอย่างยาวนาน กว่า ๓๒ ปี ภาควิชาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร จึงได้ จัดท าจดหมายข่าวเพื่อการประชาสัมพันธ์ “อักษรภาษาสาร” ฉบับนี้ขึ้น โดยน าเสนอเนื้อหาที่น่าสนใจแบ่งออกเป็น ๓ หมวด คือ หมวดที่ ๑ เปิดบ้าน ภาษาไทย ประกอบไปด้วยเนื้อหา ๔ คอลัมน์ ได้แก่ คอลัมน์ที่ ๑) บทความ “ภาควิชาภาษาไทย สร้างศาสตร์แห่งการเรียนรู้สู่สังคม” น าเสนอแนวทาง การศึกษาของภาควิชาภาษาไทยที่เป็นประโยชน์ต่อผู้เรียนและสังคม คอลัมน์ที่ ๒) บทความปกิณกะ “บุพเพสันนิวาส : สถานภาพและบทบาท ตัวละครส าคัญ”ผู้เขียนได้น าลักษณะเด่นในนวนิยายเรื่องบุพเพสันนิวาส มาน าเสนอไว้ได้อย่างน่าสนใจ คอลัมน์ที่ ๓) เปิดโลกกว้างทางแห่งหนังสือ บทบรรณนิทัศน์ “กาหลมหรทึก” ผู้เขียนได้ยกเอานวนิยายแนวสืบสวน ของนักเขียนชื่อดังคือ ปราปต์ มาแนะน าให้ผู้อ่านได้ติดตาม และคอลัมน์ที่ ๔) จากวรรณกรรมน าสู่การวิจารณ์ บทความ “หนึ่งด้าวฟ้าเดียว : ภาพสะท้อน สังคมไทยสมัยอยุธยาตอนปลาย” ผู้อ่านจะได้เห็นมุมมองใหม่ ๆ ผ่านสายตา นักวิจารณ์วรรณกรรมที่เป็นนิสิตสาขาวิชาภาษาไทย หมวดที่ ๒ เพลินในบทกวี ประกอบไปด้วยเนื้อหา ๒ คอลัมน์ ได้แก่ คอลัมน์ที่ ๑) บทกวี“ภาษาไทย ห่างไกลโควิด” กล่าวถึงความอยู่รอดของภาษาไทยในยุคที่ก าลังเผชิญภัยโรคร้าย อย่าง โควิด-๑๙ รุมเร้า และ คอลัมน์ที่ ๒) “ภาษาไทยในยุคดิจิทัล” เชิญชวน ให้ทุกคนเพลิดเพลินไปกับการไขปริศนาโคลงกลบทเกี่ยวกับเรื่องราวของ ภาษาไทยกับก้าวใหม่ในยุคดิจิทัล และหมวดที่ ๓ กิจกรรมของภาควิชา ภาษาไทย มีเนื้อหา ๑ คอลัมน์ คือ “ประมวลกิจกรรมภาควิชาภาษาไทย” ตลอดปีการศึกษา ๒๕๖๔ ภาควิชาภาษาไทยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจดหมายข่าวเพื่อการประชาสัมพันธ์ ภาควิชาภาษาไทย “อักษรภาษาสาร” ฉบับนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน ตลอดจนสร้างความตระหนักในการอนุรักษ์ภาษาไทย ท่ามกลางวิกฤติ การแพร่ระบาดของไวรัสต่าง ๆ ในช่วงนี้และพวกเราชาวภาษาไทยจะก้าวไป ด้วยกันอย่างมั่นคง นายอดิศักดิ์ เพ็ชรมุข บรรณาธิการ บทบรรณาธิการ

บทประพันธ์โดย | เก้าไกล สีนาค ๑ ภาษาไทยห่างไกลโควิด เมื่อโรคภัยใหม่ร้ายมารายล้อม โลกจึงตรอมคนจึงตรมระทมทั่ว เปลี่ยนวิถีชีวิตคิดปรับตัว ใต้ความกลัว โกรธ เศร้า เหงารุนแรง เหมือนหลับตาหาหนทางล้างโควิด ซ้ าวิกฤตพิสดารกาลยื้อแย่ง พันวิถีร้อยวิธีที่แสดง โรคเปลี่ยนแปลงคนไปใช่เพียงกาย ให้แปลกแยกแตกต่างทางความคิด ให้แหวกผิดพฤติกรรมระส่ าระสาย ให้บางคนฉวยโอกาสก็มากมาย ให้บางรายยอมกระท าเพราะจ าเป็น จึงสังคมวิปริตผิดสมดุล ที่เคยคุ้นก็ห่างไกลมองไม่เห็น เหลือแต่รอยอาลัยให้ล าเค็ญ ช่างเลือดเย็นเชียวหนอโลกมนุษย์ แต่กระนั้นโลกมิสิ้นกลิ่นดอกไม้ ซ้อนกลิ่นศพคลุ้งไปไร้สิ้นสุด ดอกไม้งามคือ “น้ าใจ” จะไหลรุด ชโลมหยุดไฟโลกโชกโชนร้อน และช่อ “รัก สามัคคี” ยังผลิดอก ค่อยแย้มออกมาเสนออยู่สลอน หอมสะพรั่งชี้หวังเชยร าเพยฟ้อน จะปลดกลอนเปิดประตูสู่ทางไท มัวความมืดปกคลุมนานหลายปี ก็ถึงทีที่ฟ้ากว้างสว่างไสว หากเราต่างยิ้มชื่นยื่นดอกไม้ โลกคงไร้ร้อน-ร้ายกลายร่มเย็น ร าพันถ้อยร้อยคุณค่าภาษาไทย เพื่อห่างไกลโรค เสื่อมทราม ความทุกข์เข็ญ โรคจะร้ายอย่างไรใช่ประเด็น เพียงอย่าเห็นมนุษย์ร้ายก็คลายใจ สวมหน้ากาก ล้างมือ ถือปฏิบัติ โปรดเคร่งครัด อย่าหย่อนคล้อย ตามวิสัย ทุกความหวังยังต้องสู้อยู่ต่อไป ตราบเลือดมิเหือดไร้ใจดวงนี้ .

๒ ภาควิชาภาษาไทย สร้างศาสตร์แห่งการเรียนรู้สู่สังคม บทความโดย | ธีรภัทร ค าทิ้ง ในนามนิสิตสาขาวิชาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัย นเรศวร รู้สึกเป็นเกียรติและภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้เข้าศึกษา ณ ที่แห่งนี้ หากให้นิยามสาขาวิชาภาษาไทย คงไม่มีค าไหนเหมาะสมไปกว่าค าว่า “คุณภาพ” เนื่องจากเป็นสาขาวิชาที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพทุกด้าน ไม่ว่าจะ เป็นคณาจารย์ กระบวนการเรียน การสอน และหลักสูตร กล่าวคือ อาจารย์ทุกท่านในสาขาวิชาเป็นผู้ที่มากด้วยความรู้ในแต่ละศาสตร์ อันได้แก่ ศาสตร์ทางการศึกษาวรรณกรรม ภาษาศาสตร์ (ภาษาไทย) และ คติชนวิทยา ซึ่งทุกท่านถ่ายทอดศาสตร์นั้นให้นิสิตเกิดองค์ความรู้ ได้อย่างลึกซึ้ง ด้วยวิธีก ารที่หล ากหลายและแยบยล ท าให้นิสิต กระหายความรู้ น าไปสู่การค้นคว้า และการสนทนาเชิงวิชาการในชั้นเรียน ประการส าคัญทุกท่านมีความเมตตาศิษย์ รับฟัง และไม่ปิดกั้นความคิดเห็น ของนิสิต ถือว่าเป็นสิ่งส าคัญที่เอื้อให้นิสิตเกิดการพัฒนาตนเอง เป็นอย่างมาก อีกประการคือภาควิชาภาษาไทยมีหลักสูตรที่ร่วมสมัยและ ครอบคลุมทุกศาสตร์ทั้งรายวิชาทางภาษาและวรรณกรรม โดยเฉพาะ หลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา ด้วยมีรายวิชาในหลักสูตรที่แบ่งศาสตร์ ทางการศึกษาวรรณกรรมและทางภาษาอย่างชัดเจนและมีกลุ่มรายวิชา ที่โดดเด่น เช่น แนวการศึกษาวรรณกรรมกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทฤษฎีร่วมสมัยด้านภาษาและวรรณกรรม แนวการศึกษาภาษาเชิงประวัติ เป็นต้น ซึ่งมุ่งเน้นให้นิสิตได้ศึกษาตามศาสตร์เฉพาะที่ตนเองสนใจ น าไปสู่ การเป็นนักวิชาการด้านวรรณกรรมและภาษาระดับแนวหน้าได้ ความประทับใจที่มีต่อสาขาวิชาภาษาไทย ในฐานะนิสิตระดับ บัณฑิตศึกษา ซึ่งถือเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ตรงและเป็นส่วนหนึ่ง ของสาขาวิชาภาษาไทย จะกล่าวในมุมมองของตนเองเท่านั้น คือ การได้พัฒนาระบบคิดของตนเอง และสามารถ น ารายวิชาที่เรียนในหลักสูตรมาใช้ในการท างาน ได้อย่ างเต็มที่ ไม่เพียงแต่ใช้ในก า รสอน ระดับ มหาวิทยาลัยในฐานะอาจารย์เท่านั้น แต่สามารถ น ามาใช้ในการสอนนักเรียนในโรงเรียนได้ นอกจากนี้ ได้ฝึกและพัฒนาตนเองในการเป็นนักวิชาการจากการ เขียนบทความวิจัย ซึ่งอาจารย์ทุกท่านมุ่งเน้นและ ส นั บ ส นุ น เ ป็ น อ ย่ าง ม า ก ท า ใ ห้ เ ห็ น มุ ม ม อง ทางการศึกษาภาษาและวรรณกรรมที่หลากหลายขึ้น จากความคิดเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิวิพากษ์ผลงาน นับว่ามีคุณค่ายิ่ง ที่กล่าวมาไม่ใช่การอวดโอ้แต่อย่างใด แต่เป็นสิ่งที่ได้รับอย่างแท้จริง ซึ่งสาขาวิชาภาษาไทย เปรียบเป็นโรงสร้างนักวิชาการด้านภาษาและ วรรณกรรม โดยมีคณาจารย์เป็นผู้ฝึกซ้อมในสถานที่ อันทรงคุณค่าและมีคุณภาพให้นิสิตได้ฝึกหัดและ สร้างประสบการณ์จากนักวิชาการน าสู่การเป็นผู้น า ทางวิชาการด้านภาษาและวรรณกรรมต่อไป

บุ ๓ พเพสันนิวาส บุพเพสันนิวาส นวนิยายอิงประวัติศาสตร์ที่ได้รับการยอมรับและเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย ผลงานการประพันธ์ของ “รอมแพง” ซึ่งเป็นนามปากกาของจันทร์ยวีร์ สมปรีดา ส าเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี จากสาขาวิชาประวัติศาสตร์ศิลปะ คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร นามปากกา “รอมแพง” มาจากชื่อนางเอกใน นวนิยาย เรื่อง เวียงกุมกาม ของ ทมยันตี เป็นภาษาล้านนาโบราณ มีความหมายว่า ผู้เป็นที่รัก หรือหญิงอันเป็นที่รัก โดยรอมแพงมีผลงานออกมาแล้วมากกว่า ๒๐ เรื่องด้วยกัน ส าหรับผลงานของรอมแพงนั้น มักจะเป็นแนวรักเบาสมอง และมีความเชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์ที่รอมแพงมีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ ผลงานที่ผ่านมามีความโดดเด่น ท าให้บทประพันธ์ของรอมแพงได้ถูกน ามาสร้างเป็นละครโทรทัศน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ดาวเกี้ยวเดือน เรือนพะยอม และบุพเพสันนิวาส เป็นต้น บทความโดย | อัญชลี เจริญดี บุพเพสันนิวาส เป็นเรื่องราวของ ‘เกศสุรางค์’ หญิงสาว วัย ๒๕ ปี ผู้มีความเฉลียวฉลาด มีความมั่นใจในตัวเอง วันหนึ่ง มีเหตุการณ์ส าคัญที่ท าให้เกศสุรางค์ได้เดินทางข้ามมิติกาลเวลา จากยุคปัจจุบันกลับไปยังยุคสมัยอยุธยาในแผ่นดินรัชกาล สมเด็จพระนารายณ์มหาราช วิญญาณของเกศสุรางค์ได้เข้าไป อาศัยอยู่ในร่างของ ‘การะเกด’ คู่หมั้นของ ‘หมื่นสุนทรเทวา’ ซึ่ง การะเกดเสียชีวิตเพราะมนต์กฤษณะกาลี เมื่อเกศสุรางค์ ได้ข้ามมิติกาลเวลาไปในสมัยอยุธยา เธอได้พบเจอผู้คน ในยุคสมัยนั้น ได้เห็นสภาพบ้านเมืองและวิถีชีวิตความเป็นอยู่ ของผู้คนในสมัยอยุธยา อีกทั้งได้พบบุคคลส าคัญในประวัติศาสตร์ เช่น ออกญาโหราธิบดี ออกญาโกษาธิบดี เจ้าพระยาวิไชยเยนทร์ (คอนสแตนติน ฟอลคอน) ท้าวทองกีบม้า (มารี กีมาร์ เดอ ปีนา) และศรีปราชญ์ เป็นต้น ส่งผลให้เกศสุรางค์มีความสุข ภูมิใจ ในความเป็นคนไทย เธอได้น าความรู้สมัยใหม่ปรับประยุกต์ใช้ ในการด าเนินชีวิต รวมทั้งน าการรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าช่วยเหลือ แนะน า ‘หมื่นสุนทรเทวา’ แก้ไขปัญหาด้านต่าง ๆ ซึ่งท าให้เห็นถึง สถานภาพและบทบาทผ่านตัวละครส าคัญในนวนิยายเรื่อง บุพเพสันนิวาส ดังนี้ ๑) สถานภาพที่ติดตัวมาโดยก าเนิด ได้แก่ สถานภาพบุตรชาย สถานภาพบุตรสาว ๒) สถานภาพทางครอบครัว ได้แก่ สถานภาพคู่รัก สถานภาพสามี สถานภาพภรรยา สถานภาพ บิดาและสถานภาพมารดา และ ๓) สถานภาพทางสังคม ได้แก่ สถานภาพขุนนาง เป็นต้น สถานภาพและบทบาทตัวละครส าคัญที่ปรากฏใน นวนิยายเรื่องบุพเพสันนิวาส ท าให้เห็นว่าสถานภาพเหล่านี้ มีการแบ่งแยกอย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังพบว่ารอมแพง ได้น าเสนอตัวละครส าคัญให้มีสถานภาพและบทบาทเป็นไปตาม แบบที่สังคมไทยในปัจจุบันพึงประสงค์ คือ ตัวละครส าคัญ ฝ่ายชายเป็นภาพแทนของผู้ชายในสังคมไทยที่มีความเป็น สุภาพบุรุษ ซึ่งประกอบไปด้วยความเพียบพร้อมทางด้าบุคลิกภาพ ภายนอก อุปนิสัยใจคอ ความรู้ความสามารถ และฐานะทางสังคม ส่วนตัวละครส าคัญฝ่ายหญิงนั้นเป็นภาพแทนของผู้หญิง ในสังคมไทยที่มีความเป็นสุภาพสตรีมีกิริยามารยาทเรียบร้อย เก่งงานบ้านงานเรือน ยิ่งไปกว่านั้นยังมีความรู้ความสามารถ ในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้เป็นอย่างดี จะเห็นได้ว่ารอมแพง น าเสนอความเท่าเทียมกันระหว่างบุรุษและสตรี ผ่านตัวละคร ส าคัญในนวนิย ายเ รื่องบุพเพสันนิวาสได้สอดคล้องและ เหมาะสมอีกด้วย ภาพประกอบจาก https://www.facebook.com/rompaeng สถานภาพและบทบาทตัวละครส าคัญ

๔ เปิดโลกกว้างทางแห่งหนังสือ ก า ห ล ม ห ร ทึก บทความโดย | อัษฎาวุธ ยุติรัตน์ ชื่อหนังสือ : กาหลมหรทึก ชื่อผู้แต่ง : ปราปต์ จ านวนหน้า : ๒๑๓ หน้า ส านักพิมพ์ : แพรวส านักพิมพ์ ปีที่พิมพ์ : ๒๕๖๒ ครั้งที่พิมพ์ : ๑๒ ราคา : ๑๗๕ บาท “กาหลมหรทึก” เป็นนวนิยายแนวสืบสวนสอบสวน จากนักเขียนที่มีนามปากกาว่า ปราปต์ หรือมีชื่อจริงว่า นายชัยรัตน์ พิพิธพัฒนาปราปต์ เขาได้น าเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับ คดีรอยสักปริศนาซึ่งมีฉากอยู่ในช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ ด้วยการเล่าเรื่องที่มีความแยบยล สนุก น่าติดตามอีกทั้ง ยังเด าท างได้ย าก ผนวกกับผู้ป ร ะพันธ์มีก า รใช้กลบท ทางภาษาไทยเป็นตัวแปรส าคัญในการด าเนินเรื่อง จึงท าให้ หนังสือเล่มนี้ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมนายอินอะวอร์ด ประจ าปี พ.ศ. ๒๕๕๗ และถูกตีพิมพ์รวมเล่มครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๕๗ ส่งผลให้กาหลมหรทึกได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจนถูกน ามา สร้างเป็นละครโทรทัศน์เรื่อง กาหลมหรทึก ออกอากาศทาง ช่องวัน ๓๑ ในเดือนกุมภาพันธ์ปี พ.ศ. ๒๕๖๑ “ปราปต์” จบการศึกษาระดับอุดมศึกษาจากคณะ พาณิชยศาสตร์และการบัญชี สาขาบริหารอุตสาหการและ การปฏิบัติการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ จบจากหลักสูตรการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับภาษาไทย หรือ วรรณกรรมแต่ก็น าความรู้และประสบการณ์ที่ได้จากการเขียน นิยายประเภทต่าง ๆ ลงบนเว็บไซต์เด็กดี ผนวกกับได้รับ แรงบันดาลใจจากหนังสือชื่อดังเรื่องรหัสลับดาวินชี มาพัฒนา จนเป็นนวนิยายเรื่องกาหลมหรทึกที่สร้างความตะลึงให้แก่ ผู้อ่าน จึงถือได้ว่าเป็นผู้เขียนที่สร้างปรากฏการณ์ให้แก่วงการ วรรณกรรมไทยอย่างแท้จริง พะนอนิจ : ปีศาจ เหตุผล และการสูญเสีย พะนอนิจ หญิงสาวร่างระหง สูงโปร่ง ผมยาวสลวยด าขลับ เฉลียวฉลาด ชายใดมองก็ต่างหลงรักในความงามของเธอ มีดีกรีเป็น ครูภาษาไทยที่จบจากคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีความรู้ความสามารถด้านภาษาไทย เธอได้ริเริ่มก่อคดีเพราะ มีความแค้นจากอดีต โดยด้านประวัติส่วนตัวนั้นเธอคือลูกของ เศรษฐีปากน้ าโพที่มีชื่อว่านายทองนอกกับนางจรุงจิตต์ ครานั้น พะนอนิจขาหักได้เข้ารับการรักษาจากนายแพทย์เตช ในระหว่างนั้น นายทองนอกพ่อของเธอถูกใส่ร้ายว่าเป็นกบฏพระองค์เจ้า บวรเดชอดีตเสนาบดีกระทรวงกลาโหม จากฝีมือของพระเฟื้อง อดีตสันติบาลเก่าท าให้นายทองนอกต้องถูกขังคุกอยู่ที่เกาะตะรุเตา ส่วนนางจรุงจิตต์ตรอมใจตาย ซ้ าร้ายหมอเตชที่รับเป็นลูกบุญธรรม ก็ท าร้ายพะนอนิจทั้งร่างกายและจิตใจ แต่พะนอนิจจ าใจยินยอม เพื่อแลกกับการที่ได้ร่ าเรียน เพราะเธอคิดว่าการที่เธอมีความรู้นั้น จะสามารถใช้ช าระแค้นกับสิ่งที่ประสบพบเจอได้ เธอก่อคดี รอยสักปริศนาขึ้นมาเพื่อใส่ร้ายและท าให้ผู้คนได้รับรู้ถึง ความชั่วร้ายของพระเฟื้องที่เคยได้กระท าไว้ แผนการทั้งหมด ที่เธอท านั้นส าเร็จแต่ทว่ามันกลับแลกมาด้วยน้ าตา โดยที่ ชัยรัตน์ พิพิธพัฒนาปราปต์. (๒๕๖๑). กาหลมหรทึก(พิมพ์ครั้งที่ ๑๒). กรุงเทพฯ: แพรวส านักพิมพ์.

๕ เปิดโลกกว้างทางแห่งหนังสือ : กาหลมหรทึก ผู้เขียน : อัษฎาวุธ ยุติรัตน์ จดหมายข่าวเพื่อการประชาสัมพันธ์ ปีที่ ๑๑ ฉบับที่ ๑ ภาควิชาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ไม่สามารถย้อนเวลากลับไปแก้ไขได้ เธอได้เสียสามีที่รักเธอ มากที่สุดอย่าง สารวัตรเวทางค์ ภิรมย์รุจ ไป วิธีไขคดี : รอยสัก โคลงกลอน และแผนที่ ปราปต์ ได้ใช้ค าปริศนาจากรอยสักบนตัวเหยื่อทั้งห้า รวมถึงที่อยู่ ของเหยื่อมาใช้ในการด าเนินเรื่อง และน ามาผสมผสานกับ โคลงกลอนที่มีฉันทลักษณ์ซับซ้อนซ่อนกล โดยใช้กลโคลง พรหมภักตร์ในการไขคดี ลักษณะของการอ่านโคลงนี้คือ ต้องอ่านแบบหมุนวนไปเรื่อย ๆ ตัวละครพะนอนิจผู้ก่อคดีที่มี ความรู้ความสามารถเรื่องกลโคลง เธอช่วยต ารวจเพื่อที่จะไม่ให้ มีใครสงสัย เธอจึงเป็นตัวแปรส าคัญที่ท าให้คดีรอยสักปริศนา เริ่มคลี่คลาย แต่การไขคดียังไม่จบเพียงเท่านั้นเพราะต้องหาค า ที่คนร้ายซ่อนปริศนาเอาไว้ พะนอนิจและคณะต ารวจจึงแยก ความหมายทีละบรรทัด ซึ่งน าไปสู่โคลงที่เรียกว่าโคลงกระทู้ นักกวีมักใช้โคลงลักษณะนี้ปิดเรื่องเพื่อเน้นย้ าจุดประสงค์หลัก ของการแต่ง สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่าผู้ประพันธ์มีความรู้ ความสามารถ ด้านภาษาไทย เนื่องจากได้น าค าบนร่างกายของเหยื่อทั้งห้าคน มาผสมผสานเข้ากับที่อยู่ของเหยื่อและกลโคลง จึงท าให้ผู้อ่าน ได้เห็นถึงความน่าทึ่งของภาษาไทยไม่ว่าจะเป็นเรื่องระบบ ค าเป็นค าตาย ค าเอกค าโท ฉันทลักษณ์ หรือแม้กระทั่งกลวิธี การอ่านที่มีรูปแบบเฉพาะตัว นับว่าเป็นจุดเด่นที่ท าให้นวนิยาย เรื่องนี้มีความน่าตื่นตาตื่นใจ และท าให้ผู้ที่อ่านรู้สึกสนุก จนไม่อยากจะวางหนังสือเล่มนี้ลง หนังสือเล่มนี้นับว่ามีคุณค่าและมีความน่าสนใจ อยู่ไม่น้อย เพราะนอกจากจะแสดงให้ผู้อ่านเห็นถึงความงดงาม ของภาษาไทยแล้ว ผู้ประพันธ์ได้ใช้ค าปริศนาผนวกกับฉากและ สถานที่ที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ต่าง ๆ มาเป็นส่วนส าคัญ ในการก่อคดีของตัวละครพะนอนิจและการไขคดีของต ารวจ อีกทั้งผู้ประพันธ์ยังได้แทรกข้อคิดผ่านการกระท าของตัวละคร โดยได้ความว่า ความอาฆาตพยาบาทน ามาซึ่งความสูญเสีย เห็นได้จากตัวละครพะนอนิจที่ก่อเหตุคดีรอยสักปริศนา ได้ส าเร็จเพียงเพื่อต้องการแก้แค้นสิ่งที่ตนได้ประสบมา แต่ผู้คนบริสุทธิ์มากมายต้องตกเป็นเหยื่อ รวมทั้งต้องสูญเสีย คนที่เธอรักด้วยฝีมือตนเองเช่นกัน ซึ่งถ้าเราให้อภัยบุคคล ที่เราเคียดแค้นและอโหสิกรรมกับเรื่องเลวร้ายที่ผ่านมา ปล่อยวางและไตร่ตรองให้ดีก็คงจะไม่เกิดเรื่องกาหลมหรทึก ที่แปลว่าวุ่นวายอึกทึกครึกโครมและชวนหวาดผวาเช่นนี้ นายอินทร์แฟนคลับ. (๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑). พูดคุยกับ ชัยรัตน์ พิพิธพัฒนาปราปต์ นามปากกา ปราปต์ เจ้าของผลงาน กาหลมหรทึก. [วิดีทัศน์] จาก. https://www.youtube.com/watch?v=AvApcih9oWM. สืบค้นเมื่อวันที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๖๕.

๖ จากวรรณกรรมน าสู่การวิจารณ์ หนึ่งด้าวฟ้าเดียว เป็นนวนิยายอิงประวัติศาสตร์สมัยอยุธยาตอนปลาย ที่ได้รับการน าไปสร้างเป็นบทละครโทรทัศน์ เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๖๑ ผลงานประพันธ์ของ วรรณวรรธน์น าเสนอเรื่องราวของ “ขันทอง” จารบุรุษที่ต้องปลอมตัวเป็นขันทีเพื่อเข้าไป สืบความลับทางราชการในราชส านักอยุธยา คราก่อนเสียกรุงครั้งที่ ๒ ในรัชสมัยของสมเด็จพระที่นั่งสุริยาศน์อมรินทร์ นอกจาก ความโดดเด่นในด้านตัวละคร และกลวิธีการน าเสนอเรื่องของนวนิยายเรื่องนี้แล้ว ผู้แต่งยังได้ถ่ายทอดให้เห็นถึงภาพสังคมไทย สมัยอยุธยาตอนปลายซึ่งถือได้ว่าเป็นเมืองที่อุดมสมบูรณ์สามารถยังความเจริญรุ่งเรืองมาเป็นเวลาหลายร้อยปี ทั้งด้าน สภาพความเป็นอยู่ของคนในราชส านักและชาวบ้านรอบพระนครไว้ได้อย่างน่าสนใจ บทความโดย | พฤทธิ์ โพธิ์อินทร์ นวนิยายเรื่องหนึ่งด้าวฟ้าเดียวนี้อิงจากฉากและเหตุการณ์ ในสมัยอยุธยาตอนปลาย ก่อนเสียกรุงครั้งที่ ๒ ผู้แต่งใช้วิธีการน าเสนอภาพ ทางประวัติศาสตร์ผ่านการกระท า และการเล่าเรื่องของตัวละคร สะท้อนให้เห็นภาพการเมืองการปกครองของกรุงศรีอยุธยาที่ก าลัง เสื่อมถอยลง โดยมีสาเหตุส าคัญมาจากการขาดความสามัคคีกัน ในชนชั้นปกครอง จนน าไปสู่การล่มสลายของอาณาจักรในที่สุด ท าให้ผู้อ่านได้ทราบถึงภูมิหลังทางการปกครองของราชธานีแห่งนี้ การเมืองการปกครองกับการล่มสลายของกรุงศรีอยุธยา ‘กระดาษสมุดไทย’ ภาพสะท้อนวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านอยุธยา ผู้แต่งได้น าเสนอภาพสะท้อนด้านวิถีชีวิตความเป็นอยู่ เกี่ยวกับอาชีพที่น่าสนใจของคนในสมัยนั้นคือ การผลิตกระดาษ ผ่านเรื่องราวของตัวละครเอกฝ่ายหญิงคือ “แมงเม่า” เศรษฐีมิ่ง บิดาของแมงเม่าเป็นเจ้าของโรงท ากระดาษที่ใหญ่ที่สุดของ พระนคร ซึ่งรุ่นทวดของเธอได้ขุดคลองซอยให้น้ าจากคลองเข้าไป เอ่อขังในด้านทิศใต้ เพราะการท ากระดาษต้องอาศัยน้ าเป็นหลัก ทั้งน้ าที่ไหลจากบริเวณคลองใหญ่ และน้ านิ่งบริเวณคลองซอยตื้น

๗ จากวรรณกรรมน าสู่การวิจารณ์ หนึ่งด้าวฟ้าเดียว : ภาพสะท้อนสังคมไทยสมัยอยุธยาตอนปลาย ผู้เขียน : พฤทธิ์ โพธิ์อินทร์ จดหมายข่าวเพื่อการประชาสัมพันธ์ ปีที่ ๑๑ ฉบับที่ ๑ ภาควิชาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร เท่าเข่า กระดาษที่ชาวบ้านผลิตขึ้นมานั้นท ามาจากต้นข่อย โดย ผู้แต่งได้บรรยายถึงขั้นตอนการท ากระดาษไว้อย่างละเอียด นอกจากนี้วรรณวรรธน์ยังได้กล่าวถึงประเภทของสมุดไทย ว่ามีทั้งสมุดคืบ สมุดพระมาลัย สมุดโหร โดยสมุดคืบจะมีขนาด เล็กที่สุด ไม้แบบวัดกระดาษสมุดคืบจะมีความยาวเท่ากับ คืบเล็กของผู้หญิง ส่วนสมุดพระมาลัยจะมีขนาดไม้แบบใหญ่และ หนากว่า ใช้ในการน าไปจดพระธรรมคาถา เมื่อพับทบไปมา จะมีจ านวนหน้าถึง ๔๐ หรือ ๕๐ ทบ หรือเรียกว่ากลีบ ส่วนจ านวนหน้าของสมุดจะเรียกว่าฝา วรรณวรรธน์ได้ยกเอาเรื่องราวของขันทีในราชส านัก อยุธยามาน าเสนอผ่านบทบาทของตัวละครเอกฝ่ายชายคือ ขันทอง โดยได้ถ่ายทอดให้ผู้อ่านได้เห็นถึงขนบธรรมเนียม ในราชส านักในแง่มุมของนักเทศขันที ทั้งด้านที่มาที่ไปและ บทบาทหน้าที่ของขันที ซึ่งถือได้ว่าเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจยิ่ง ขันที คือ ชายที่ถูกท าลายองคช าติตั้งแต่เยาว์วัย ตามธรรมเนียมปฏิบัติ โดยมีขั้นตอนการรักษาตามธรรมชาติ ให้ดูเหมือนเป็นคนปกติ แต่คนพวกนี้เมื่อเติบโตขึ้นมาก็จะมี รูปลักษณ์ และนิสัยใจคอละม้ายคล้ายสตรีไปในที่สุด เหตุที่ พวกขันทีต้องถูกตอนก็เพื่อส่งเข้าไปท างานกับบรรดานางข้าหลวง ในพระราชวังฝ่ายใน ขันทีแต่ละคนจะถูกฝึกฝนให้เรียนรู้เกี่ยวกับ ประเพณีในราชส านัก และภาษาถิ่นของเมืองที่ตนจะถูกส่งไปเป็น บรรณาการจนช านาญ ก่อนจะถูกส่งตัวไปถวายการรับใช้ ยังเมืองนั้น ๆ ซึ่งขันทีในกรุงศรีอยุธยาตอนปลายนั้นส่วนใหญ่ จะถูกส่งมาจากเมืองโต้ระกี่ (ตุรกี) เนื่องจากองค์สุลต่านแห่งโต้ระกี่ ได้สานสัมพันธไมตรีกับอโยธยามาช้านาน ผู้แต่งได้น าเสนอขนบธรรมเนียม ประเพณีทางวัฒนธรรม ของชาวกรุงศรีอยุธยาผ่านเหตุการณ์หนึ่งในเรื่องคือ งานสมโภช พระนคร โดยได้น าเอาศิลปวัฒนธรรมไทยในสมัยนั้นมาถ่ายทอด ซึ่งถือเป็นจุดเด่นอย่างหนึ่งของเรื่องที่สามารถเริงรมย์ผู้อ่านให้เกิด อารมณ์และความรู้สึกร่วมไปกับตัวละคร โดยวรรณวรรธน์ ได้กล่าวถึงความยิ่งใหญ่ของงานสมโภชพระนครศรีอยุธยา ผ่านความรู้สึกของตัวละครไว้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ ไม่ว่าจะเป็น การหยิบยกเอาการละเล่นรื่นเริงของคนในสมัยนั้นมาน าเสนอ อาทิ ‘ขันทีราชส านัก’ ภาพสะท้อนขนบธรรมเนียมประเพณีอยุธยา ละครเทพทอง ละครนอก หนังกลางแปลง ระบ า กระบี่กระบอง หรือมวยปล้ า ซึ่งศิลปวัฒนธรรมบางอย่างก็ยังมีปรากฏให้เห็น ในปัจจุบัน สะท้อนให้ผู้อ่านได้รับรู้ว่าสิ่งเหล่านั้นล้วนสืบทอด มาจากบรรพบุรุษในอดีต ผู้แต่งได้น าเสนอภาพสะท้อนสังคมด้านค่านิยมของคน ในสมัยนั้นเกี่ยวกับการที่พ่อแม่มักจัดแจงหาคู่ชีวิตให้แก่ลูก โดย จะเห็นได้จากการกระท าของตัวละคร เศรษฐีมิ่ง ที่มีความต้องการ ให้บุตรของตนได้ออกเรือนเป็นฝั่งเป็นฝา จึงมักจะหาคนมาดูตัว แมงเม่าลูกสาวคนเล็กของตนอยู่เนือง ๆ แต่ก็ยากที่จะส าเร็จได้ ดั่งใจ เพราะแมงเม่านั้นเป็นหญิงจอมแก่นที่ไม่อาจยอมรับสิ่งใด ที่ตนไม่ชอบได้โดยง่าย ซึ่งเจ้าตัวนั้นก็มักจะหนีการดูตัวท าให้ผู้เป็น บิดาต้องเสียหน้าไปครั้งแล้วครั้งเล่า จะเห็นได้ว่าค่านิยมของคนในสมัยนั้นผู้เป็นพ่อแม่ มักต้องการให้ลูกได้ดิบได้ดี ประสบความส าเร็จในเรื่องของ การใช้ชีวิตคู่ จึงจัดแจงหาคู่ครองให้แก่ลูกตามที่ตนพิจารณาว่า เหมาะสม โดยไม่ได้ค านึงถึงความรู้สึกหรือความพึงพอใจของลูก มากนัก เนื่องจากผู้ใหญ่อาจมองว่าตนผ่านร้อนผ่านหนาวมาก่อน มีประสบการณ์ชีวิตมากกว่าเด็ก จึงคิดตัดสินใจแทนลูก ๆ โดย จุดประสงค์หลักก็คือต้องการให้ลูกได้ดีนั่นเอง ‘งานสมโภชพระนคร’ ภาพสะท้อนศิลปวัฒนธรรมอยุธยา ‘การคลุมถุงชน’ ภาพสะท้อนค่านิยมสมัยอยุธยา นวนิยายเรื่อง หนึ่งด้าว ฟ้าเดียว ได้ปรากฏภาพสะท้อน สังคมไทยในสมัยอยุธยาตอนปลาย ไว้อย่างหลากหลาย โดยผู้แต่ง มีกลวิ ธีกา รน าเสนอข้อมูล ประกอบการน าเสนอเรื่อง ได้อย่างมีสัมพันธภาพ ท าให้ นวนิยายเรื่องนี้ที่นอกจากจะมี ค ว ามโ ดดเด่นในด้ าน ก า ร ประพันธ์แล้ว ยังสามารถถ่ายทอด ภาพสะท้อนสังคมให้ผู้อ่าน ได้สัมผัส ป ร ะหนึ่ง ว่ าได้ย้อนยุคข้ ามก าลเ วล าไปอยู่ใน เหตุการณ์ต่าง ๆ ร่วมกับตัวละคร แสดงให้เห็นถึงความสามารถ ด้ านก า รค้นคว้ าข้อมูลป ร ะกอบก า รป ระพัน ธ์ของผู้แต่ง ได้เป็นอย่างดี เอกสารอ้างอิง : วรรณวรรธน์. (๒๕๕๙). หนึ่งด้าวฟ้าเดียว. (พิมพ์ครั้งที่ ๙). กรุงเทพฯ: ส านักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม.

๘ โคลงภาพกลบทจตุรทิศ ภาษาไทยในยุคดิจิทัล แพร้ว พิศ เพริศ วิ ไทย ไล โลก ใด ค ำ เลิศ ภำษำ ยุค น ำ สแล้ว ล ำ มัย เถิด รักษ์ เปรียบ แก้ว ค าใดค าเลิศแล้ว ค าไทย เพริศพิศเพริศวิไล เพริศแพร้ว น ายุคน าสมัย น าโลก รักษ์เถิดรักษ์เปรียบแก้ว รักษ์ล้ าภาษา บทประพันธ์| อดิศักดิ์ เพ็ชรมุข

๙ ประมวลกิจกรรม บทความโดย | ดร.อรจิรา อัจฉริยไพบูลย์ ภาควิชาภาษาไทย เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ ภาควิชา ภาษาไทยจัดโครงการบริการวิชาการพัฒนาศักยภาพ ด้านภาษาไทย ในการนี้ได้รับเกียรติจากวิทยากรภาคเช้า ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศุภชัย ต๊ะวิชัย อาจารย์ประจ า คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร มาบรรยายในหัวข้อ “สิงสาราสัตว์ในสังคมไทยกับความหลากหลาย ขอ งก า รใช้ภ าษ า” โ ด ยมีผู้ ช่ ว ย ศ า สต ร าจ า ร ย์ ดร.ณรงค์กรรณ รอดทรัพย์ เป็นผู้ด าเนินรายการ ส่วนวิทยากรในภาคบ่าย คุณชัยรัตน์ พิพิธพัฒนาปราปต์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๓๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๕ ภาควิชาภาษาไทยจัดโครงการบริการวิชาการ พัฒนา ศักยภาพด้านภาษาไทย ในการนี้ได้รับเกียรติจากวิทยากร ภาคเช้า ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กังวล คัชชิมา อาจารย์ ประจ าคณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร มาบรรยาย ในหัวข้อ “ท้าวเวสสุวรรณและวาทกรรม มูเตลู” โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ณรงค์กรรณ รอดทรัพย์ เป็นผู้ ด าเนินรายการ ส่วนวิทยากรในภาคบ่ายคุณนิพนธ์ เที่ยงธรรม ขอแสดงความยินดีกับนายอดิศักดิ์ เพ็ชรมุข เมื่อวันเสาร์ที่ ๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ นายอดิศักดิ์ เพ็ชรมุข นิสิตสาขาวิชาภาษาไทยชั้นปีที่ ๓ เจ้าของผลงานบทความวิจารณ์วรรณกรรมเรื่อง “การต่อสู้ดิ้นรนของสภาวะชนชั้น ในนวนิยายเรื่อง ลอดริ้วทินกร” ได้รับรางวัล “บทวิจารณ์วรรณกรรมร่วมสมัยดีเด่น” ดวงใจวิจารณ์ปี ๖๕ ระดับอุดมศึกษาปริญญาตรี (ภายใต้โครงการชุมชนวิจารณ์วรรณกรรมร่วมสมัยออนไลน์) ภาควิชาภาษาไทย ขอแสดงความยินดีมา ณ โอกาสนี้ด้วย ผู้สนใจสามารถติดตามชมคลิปการสัมภาษณ์ย้อนหลังได้ทางช่องยูทูป >>> นักเขียนนวนิยายไทย เจ้าของนามปากกา ปราปต์ มาบรรยายในหัวข้อ “กาหลมหรทึก & คุณหมีปาฏิหาริย์....ปลายปากกาสู่หน้าทีวี” โดยมีอาจารย์ ดร.อรจิรา อัจฉริยไพบูลย์ เป็นผู้ด าเนินรายการ ผู้สนใจสามารถติดตามชมคลิปการสัมภาษณ์ย้อนหลังได้ทางช่องยูทูป >>> เจ้าของนามปากกา จุฬามณี มาบรรยายในหัวข้อ “สุดแค้นแสนรัก & กรงกรรม ปลายปากกาสู่หน้าทีวี” โดยมีอาจารย์ ดร.อรจิรา อัจฉริยไพบูลย์ เป็นผู้ด าเนินรายการ จดหมายข่าวเพื่อการประชาสัมพันธ์ ปีที่ ๑๑ ฉบับที่ ๑ ภาควิชาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

วารสารออนไลน์ https://issuu.com/aksorphasa หลักสูตรที่เปิดสอน ภาควิชาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ระดับปริญญาตรี จุดเด่น : มุ่งเน้นความรู้ด้านทักษะ หลักภาษาและ วรรณกรรม เพื่อน าไปประกอบอาชีพได้อย่างมีประสิทธิภาพ หลักสูตร : แบบ ๒ ภาคการศึกษา ๔ ปี ไม่น้อยกว่า ๑๓๕ หน่วยกิต ระดับปริญญาโท จุดเด่น : มุ่งผลิตมหาบัณฑิตที่มีองค์ความรู้และทักษะ การวิจัยด้านภาษา วรรณคดีและคติชนวิทยา หลักสูตร : ๒ ปี แบ่งออกเป็น ๑. แผน ก แบบ ก ๒ ทั้งภาคปกติและเสาร์-อาทิตย์ ศึกษารายวิชาไม่น้อยกว่า ๑๒ หน่วยกิตและท าวิทยานิพนธ์ ๑๒ หน่วยกิต ๒. แผน ข เน้นการศึกษารายวิชาจ านวนไม่น้อยกว่า ๓๖ หน่วยกิจและท าการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองไม่น้อยกว่า ๖ หน่วยกิต ระดับปริญญาเอก จุดเด่น : มุ่งเน้นผลิตดุษฎีบัณฑิตที่มีศักยภาพทางการวิจัย เพื่อสร้างองค์ความรู้ในสาขาวิชาภาษาไทย วรรณคดีไทย และคติชนวิทยา หลักสูตร : ๓ ปี แบ่งออกเป็น ๑. แบบ ๑.๑ เน้นการท าวิจัย โดยท าวิทยานิพนธ์ ไม่น้อยกว่า ๔๘ หน่วยกิต ๒. แบบ ๒.๑ เน้นการท าการวิจัยและศึกษารายวิชา โดยท าวิทยานิพนธ์ไม่น้อยกว่า ๓๖ หน่วยกิต และศึกษา รายวิชาอีกไม่น้อยกว่า ๑๒ หน่วยกิต ๓. แบบ ๒.๒ เน้นการท าวิจัยและศึกษารายวิชาโดยท า วิทยานิพนธ์ไม่น้อยกว่า ๔๘ หน่วยกิต และศึกษารายวิชา ไม่น้อยกว่า ๒๔ หน่วยกิต ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง https://www.admission.nu.ac.th/ ผู้ส่ง ภาควิชาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ต าบลท่าโพธิ์ อ าเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก ๖๕๐๐๐ E-Mail : [email protected] โทรศัพท์ : ๐-๕๕๙๖-๒๐๕๙ โทรสาร : ๐-๕๕๙๖-๒๐๐๐ กรุณาส่ง