The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

นายธนาธร สุขงาม 631081114

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by farhana_nana, 2021-09-29 03:25:24

นายธนาธร สุขงาม 631081114

นายธนาธร สุขงาม 631081114

เร่อื ง ความผดิ ฐานว่งิ ราวทรพั ยแ์ ละความผิดฐานลกั ทรัพย์
โดยวิธกี ารพิเศษ (มาตรา 336 และ มาตรา336ทว)ิ

รหสั นิสติ 631081114
นายธนาธร สขุ งาม

นาเสนอ
อาจารย์ วิรตั น์ นาทิพเวทย์

รายวิชากฎหมายอาญา 2 ภาคความผดิ (0801221)
ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2564

หลักสตู รนติ ิศาสตร์บณั ฑิต สาขานติ ิศาสตร์ ภาคปกติ

บทท่ี 1
คาอธิบายเชิงโครงสรา้ งความรบั ผิดทางอาญา

มาตรา 336 ผใู้ ดลักทรัพยโ์ ดยฉกฉวยเอาซึ่งหน้า ผู้นั้นกระทาความผิดฐานวิ่งราวทรัพย์ ต้องระวาง
โทษจาคุกไม่เกนิ หา้ ปแี ละปรับไมเ่ กินหนง่ึ แสนบาท
ถ้าการวิ่งราวทรพั ยเ์ ป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ผู้กระทาต้องระวางโทษจาคุกต้ังแต่สองปีถึง
เจด็ ปี และปรับตง้ั แตส่ ห่ี ม่นื บาทถงึ หน่ึงแสนส่ีหมื่นบาท
ถ้าการวง่ิ ราวทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายสาหัส ผู้กระทาต้องระวางโทษจาคุกต้ังแต่สามปีถึงสิบปี และ
ปรบั ต้งั แตห่ กหมน่ื บาทถงึ สองแสนบาท
ถ้าการว่ิงราวทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อ่ืนถึงแก่ความตาย ผู้กระทาต้องระวางโทษจาคุกต้ังแต่ห้าปีถึงสิบห้าปี และ
ปรบั ตั้งแตห่ นง่ึ แสนบาทถึงสามแสนบาท

องค์ประกอบความรบั ผิดตามมาตรา336
องค์ประกอบภายนอก

(1) ผู้ใด
(2) ลักทรพั ย์
(3) โดนฉกฉวยเอาซึ่งหน้า
องคป์ ระกอบภายใน
(1) เจตนาธรรมดา
(2) เจตนาพิเศษ – โดยทุจริต (มาจากความผิดฐานลกั ทรัพย์)

ผลของการกระทาทที่ าให้ต้องรับโทษหนกั ขน้ึ

(1) ผลฉกรรจ์ตามวรรคสอง ผู้กระทาจะตอ้ งถกู ระวางโทษหนักขน้ึ ถา้ การวิ่งราวทรพั ย์เป็นเหตุให้เกิด
อนั ตรายแก่กายหรือจติ ใจ

(2) ผลฉกรรจ์ตามวรรคสาม ผู้กระทาจะตอ้ งถูกระวางโทษหนกั ขน้ึ กว่าวรรคสองถ้าการวิ่งราวทรัพย์
เป็นเหตใุ ห้ผอู้ น่ื รบั อนั ตรายสาหัส

(3) ผลฉกรรจต์ ามวรรคทา้ ย ผู้กระทาจะตอ้ งถูกระวางโทษหนักขึ้นไปอกี ถ้าการวิ่งราวทรัพย์เป็นเหตุ
ให้ผู้อื่นถงึ แกค่ วามตาย

คาอธบิ าย

1 ลกั ทรัพย์
เน่ืองจากความผิดฐานวงิ่ ราวทรพั ย์เป็นความผดิ ท่ีมพี ้นื ฐานมาจากการลักทรัพย์ ดังนั้น ก่อนจะวินิจฉัย
วา่ การกระทาของจาเลยเป็นว่ิงราวทรัพย์หรือไม่ จาเป็นต้องวินิจฉัยก่อนว่าการกระทาน้ันครบองค์ประกอบ
เร่ืองลักทรพั ย์หรอื ไม่ ถา้ การกระทาครบองค์ประกอบความผิดฐานลักทรัพย์ ให้พิจารณาต่อไปว่า มีการฉก
ฉวยเอาซง่ึ หนา้ หรือไม่ หากมีการฉกฉวยเอาซ่ึงหน้าด้วย การกระทาจะครบองค์ประกอบความผิดฐานวิ่งราว
ทรัพย์ แต่ถา้ ไมค่ รบองค์ประกอบความรับผิดฐานลักทรัพย์มาต้ังแต่ต้น การกระทาก็ไม่อาจเป็นความผิดฐาน
วิง่ ราวทรัพยไ์ ปได้ ทัง้ น้ีโดยไมจ่ าเปน็ ตอ้ งพิจารณาต่อไปว่ามีการฉกฉวยเอาซึ่งหนา้ หรือไม่

ตัวอย่าง ผู้เสียหายเปน็ เจ้าพนกั งานตารวจเขา้ ทาการจบั กมุ ผู้เล่นการพนนั ขณะเข้าจับกุม ผู้เสียหาย
ใช้กล้องถ่ายรูปผู้เล่นการพนัน ครั้นจะถ่ายรูปภาพท่ีสอง จาเลยท่ี1 ได้เข้าไปกระชากกล้องถ่ายรูปจากมือ
ผู้เสยี หายไป และต่อว่าผู้เสียหายพรอ้ มกับร่วมพวกกลมุ้ รมุ ทารา้ ยผ็เสียหาย โดยผู้เสียหายไม่ได้รับกล้องถ่ายรูป
คืน แสดงวา่ จาเลยกระทาเพ่ือแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสาหรับตนเอง ลักษณะการ
กระทาของจาเลยเปน็ การฉกฉวยเอาทรพั ยข์ องผู้อ่ืนไปซ่ึงหน้าโดยทุจรติ จงึ เปน็ ความผดิ ฐานว่ิงราวทรพั ย์

นอกจากนี้ หากการกระทาครบองค์ประกอบความผิดฐานลักทรัพย์ แต่ไม่ครบองค์ประกอบความผิด
ฐานว่ิงราวทรัพย์ แม้จะฟ้องวิ่งราวทรัพย์ ศาลก็ยังคงมีอานาจพิพากษาลงโทษความผิดฐานลักทรัพย์ได้ ซ่ึง
ปัญหานีเ้ ป็นปญั หาข้อกฎหมายเกย่ี วกบั ความสงบเรียบร้อยศาลยกข้ึนวินิจฉัยเองได้ในทานองเดียวกันแม้จะได้
ฟอ้ งตอ่ ศาลในความผดิ ฐานวิ่งราวทรพั ย์ ซึง่ ทางพจิ ารณาก็ได้ความอย่างเดียวกัน แต่ไม่ได้บรรยายฟ้องว่ามีการ
ลกั ทรัพยโ์ ดยฉกฉวยเอาซ่งึ หน้า ย่อมลงโทษความผิดฐานว่ิงราวทรัพย์ไม่ได้ แต่ยังคงลงโทษในความผิดฐานลัก
ทรัพยไ์ ด้ สาหรับกรณฟี ้องฐานชิงทรัพย์ แตท่ างพิจารณาได้ความวา่ เป็นว่ิงราวทรัพย์ โดยในฟ้องมิได้บรรยายว่า
มกี ารฉกฉวยเอาซ่ึงหน้าอย่างไร ศาลย่อมไม่อาจพิพากษาลงโทษชิงทรัพย์หรือฐานว่ิงราวทรัพย์ได้ แต่ก็ยังคง
ลงโทษจาเลยฐานลักทรัพยไ์ ด้

2 ฉกฉวยเอาซงึ่ หน้า
ความผิดฐานนีม้ ชี ื่อว่า“ วิง่ ราวทรัพย์” ตามรูปศัพท์ก็คงจะแสดงให้เห็นอยู่แล้วว่าผู้กระทาจะต้อง (1)
เอาทรพั ย์ของผู้เสียหายไปอยา่ งรวดเร็วเพื่อแย่งหรือแยกทรัพย์ออกจากตัวผู้เสียหายและ (2) เม่ือได้ทรัพย์แล้ว
จะต้องว่งิ หนไี ปเพื่อไม่ใหผ้ เู้ สยี หายจบั ตวั ได้ซ่ึงกฎหมายลกั ษณะอาญามีองค์ประกอบดั่งวา่ มานี้
อยา่ งไรก็ตาม เม่ือประกาศใช้ประมวลกฎหมายอาญาแลว้ องคป์ ระกอบที่เพิ่มเติมจากความผิดฐานลัก
ทรพั ย์อนั จะทาให้เป็นความผดิ ฐานว่ิงราวทรพั ย์ได้มเี พียงประการเดียวนั่นคือ“ ฉกฉวยเอาซงึ่ หนา้ ”

คาว่า“ ฉกฉวย” แปลว่ายอื้ แย่งไปต่อหน้า ซ่ึงโดยปกติจะต้องได้กระทาด้วยการเอาหรือหยิบไปโดยเร็ว จึงจะ
เรยี กวา่ เป็นอาการฉกฉวยได้และเม่ือไม่มคี าว่า“ พาทรัพย์หนีไป” ก็หมายความว่าผู้กระทาจะหนีไปหรือยังอยู่
ในท่ซี ึง่ กระทาความผดิ นัน้ ก็ไมท่ าให้ความผิดฐานวิ่งราวทรัพย์ขาดองค์ประกอบไปได้ ดังน้ัน แม้ว่าจะกระชาก
ทรัพย์นั้นไปแล้วแต่ผู้กระทายังคงยืนอยู่ที่เดิมหรือค่อยๆเดินจากไป ความผิดฐานว่ิงราวทรัพย์ ก็สาเร็จลง
ยกตัวอยา่ งเช่น

คาพิพากษาฎกี าที่ 919/2503 วินิจฉัยว่า “จาเลยเข้าไปในร้านขายสุรา เจ้าของร้านบอกว่าหมด
เวลาแล้ว ขายไมไ่ ด้ จาเลยพูดว่าไมข่ ายก็จะเอาไปกินเฉยๆจะทาอะไรเขา แล้วจาเลยหยิบขวดสุราออกจากร้าน
ไปดว้ ย ดังนี้ เป็นการลักทรัพยโ์ ดยฉกฉวยเอาซึ่งหนา้ เข้าองค์ประกอบความผดิ ฐานวิ่งราวทรัพย์”

คาพพิ ากษาฎกี าฉบบั น้ียนื ยนั หลักการใหม่ของประมวลกฎหมายอาญาว่า (1) ผู้กระทาไม่จาเป็นต้อง
พาทรัพยห์ นไี ปก็เป็นความผดิ ฐานว่ิงราวทรัพย์ได้ (2) ไม่จาเป็นต้องหยิบเอาทรัพย์ไปอย่างรวดเร็วตามรูปศัพท์
ของคาวา่ “ฉกฉวย” ผูก้ ระทากม็ ีความผิดฐานว่ิงราวทรพั ย์เชน่ กนั ซึ่งในข้อ (2) นี้ ศาสตราจารย์จิตติ ติงศภัทิย์
เหน็ วา่ เป็นการวนิ จิ ฉัยที่ไม่ไดใ้ หค้ วามสาคัญกับคาว่า “ฉกฉวย” เลย

นอกจากน้ี คาวา่ “ฉกฉวย” ยงั แสดงให้เห็นอาการของการเอาทรัพย์น้ันไปโดยไม่ได้รับอนุญาตด้วย
กรณีเจ้าทรัพย์สง่ ทรพั ยส์ ่งทรัพยใ์ ห้ยึดถอื ชั่วคราวและต้องส่งคืนเมื่อดูหรือใช้เสร็จไม่ได้อยู่ในขอบเขตของคาว่า
ฉกฉวย ดังนั้น หากผู้กระทาเอาทรัพย์น้ันวิ่งหนีไปหลังจากท่ีผู้เสียหายย่ืนให้ยึดถือชั่วคราว ย่อมไม่เป็น
ความผิดฐานว่ิงราวทรพั ย์ แตผ่ ้นู ้ันยงั คงมคี วามผิดฐานลกั ทรพั ยเ์ พราะเปน็ การเอาทรพั ย์ไปในลักษณะท่ีเป็น
การตดั กรรมสิทธิ์และแยง่ การครอบครองทรพั ย์นั้นด้วย
เชน่ จาเลยขอดูนาฬกิ าในรา้ นนาฬิกา เจ้าของร้านส่งให้ดู 6 เรือน แต่ส่งคืนเพียง 4 เรือน อีก 2 เรือนพาหนี
ออกจากรา้ นไป ไม่เปน็ ว่ิงราวทรัพย์เพราะมิได้ใช้กิรยิ าฉกฉวยเอาซงึ่ หน้า แต่ถ้าวางทรัพย์ให้ดูโดยไม่ได้ย่ืนให้
จาเลยใชก้ ริ ิยาฉกฉวยเอาทรัพยท์ ่ีวางนั้นไปก็ยังคงมคี วามผิดฐานวิ่งราวทรพั ย์
เชน่ คนรา้ ยขอดทู รพั ย์จากเจา้ ทรัพย์ เจา้ ทรพั ย์หยบิ ทรพั ย์ออกมาวางให้ดู แล้วคนร้ายพาทรัพย์น้ันหนีไปต่อ
หน้า เป็นว่งิ ราวทรัพย์

ส่วนคาวา่ “ซ่ึงหนา้ ” นนั้ ไม่ไดม้ ีความหมายวา่ กระทาต่อหน้าผู้เสียหายเท่านั้นแต่หมายความรวมถึง
การเอาทรัพย์ไปทั้งตอ่ หนา้ และลับหลงั โดยผเู้ สียหายรตู้ วั ในขณะท่ีจาเลยกระทา
เช่น กระชากสรอ้ ยคอทางดา้ นหลงั ของผู้เสยี หาย แม้ผูเ้ สยี หายจะไม่เห็นตัวจาเลยซึ่งวิ่งหนีและหลบไปทางซอก
ตึก กย็ งั คงมีความผดิ ฐานว่ิงราวทรัพย์

มขี อ้ สงั เกตเกย่ี วกบั การกระทาโดยซง่ึ หนา้ ดังตอ่ ไปนี้

(1) การกระทาโดยซง่ึ หนา้ น้ันจะตอ้ งเกิดข้นึ ใกล้ชิดกับตัวผู้เสียหายและผู้เสียหายรู้ตัวว่ากาลังถูก
เอาทรัพย์ไป อยา่ งไรก็ดี แม้ว่าผูเ้ สียหายจะรตู้ วั ว่ากาลังมีผเู้ อาทรพั ย์ของตนไปก็ตาม แต่อยู่ห่างไกลเกินกว่าที่
จะย้อื แยง่ ทรพั ยน์ น้ั กลบั คืนมาไดโ้ ดยทนั ที ย่อมไม่ใชว่ ่ิงราวทรัพย์
ตวั อย่าง กระตา่ ยทากาไลตกลงพนื้ และกาลงั จะก้มลงเก็บ ในทันใดนนั้ เองกระแตก็หยิบเอากาไลนั้นแล้วพาหนี
ไป กระแตทาความผดิ ฐานวิ่งราวทรัพย์
ตวั อยา่ ง การทจ่ี าเลยดงึ เอาโทรศพั ท์เคลือ่ นทีจ่ ากกระเป๋ากางเกงของเด็กหญิง บ. แลว้ เดก็ หญิง บ.รู้สึกถึงการ
ถกู ดึง จงึ ใชม้ อื จับจนถกู มือของจาเลย อยใู่ นความหมายของการลักทรพั ยโ์ ดยการฉกฉวยเอาซ่ึงหน้าอันเป็น
ความผิดฐานว่งิ ราวทรพั ยต์ ามฟ้องแล้ว

(2) การเอาทรัพย์ไปในขณะเผลอ แม้จะใกล้ชดิ กบั ตวั ผเู้ สียหาย แต่เม่ือผู้เสียหายไม่รู้ตัว ก็ไม่ถือว่า
เปน็ การกระทาโดยซง่ึ หนา้ ดงั น้นั จึงไมอ่ าจเป็นวิ่งราวทรัพย์ได้ ผกู้ ระทาคงมเี พยี งความผิดฐานลักทรัพย์
ตัวอยา่ ง นายดาลอบล้วงกระเปา๋ เส้ือนายแดงเอาซองบุหรี่ไปในขณะที่นายแดงเผลอ นายดาไม่มีความผิดฐาน
ว่ิงราวทรัพย์ คงมแี ตค่ วามผดิ ฐานลกั ทรพั ย์
ตัวอย่าง ผ. ทาทเี ป็นพูดโทรศัพท์เคลื่อนที่ และเอาโทรศัพท์ไปในขณะท่ีผู้เสียหายให้บริการลูกค้าคนอื่นอยู่
เปน็ การเอาไปในขณะเผลอ มิใช่เป็นการฉกฉวยทรัพย์ไปโดยซึ่งหน้าแต่ประการใด การกระทาของจาเลยกับ
พวกจงึ เปน็ ความผิดฐานลักทรพั ย์ เมื่อเหตเุ กดิ ในเวลากลางคืนและร่วมกระทาความผิดต้ังแต่สองคนข้ึนไป เป็น
ความผดิ มาตรา 335 (1) และ 335 (7) ตอ้ งรบั โทษตามมาตรา 335 วรรคสอง

3 เหตทุ ี่ทาให้ตอ้ งรบั โทษหนักขนึ้
การกระทาความผิดฐานวิง่ ราวทรัพย์เปน็ การลักทรพั ยท์ ่ผี ้กู ระทามีเจตนากระทาต่อตัวทรัพย์เท่าน้ัน
ไม่มเี จตนากระทาตอ่ เนอ้ื ตวั รา่ งกายหรือกระทาโดยข่เู ข็ญใหเ้ กดิ อนั ตรายแกผ่ ู้เสียหายแตป่ ระการใด แม้วา่
สุดท้ายจะเกดิ การบาดเจบ็ แกเ่ นอื้ ตัวร่างกายโดยไม่มีเจตนา และไม่ได้แตะต้องตัวผู้เสียหายนอกจากตัวทรัพย์
ผู้กระทายังคงมีความผิดฐานวิ่งราวทรัพย์แต่อาจจะต้องรบั โทษหนักข้นึ
ตามวรรคสอง ได้แก่ การไดร้ บั อันตรายแก่กายหรือจติ ใจ
สว่ นวรรคสามได้แก่ การรับอันตรายสาหสั
หรือตามวรรคท้าย ไดแ้ ก่ การถึงแกค่ วามตายแล้วแต่กรณี

ซ่งึ วินจิ ฉัยโดยใช้ทฤษฎีผลธรรมดาทีย่ ่อมเกิดขน้ึ ไดต้ ามมาตรา 63 เป็นเกณฑ์สาหรับกรณีที่ผู้เสียหายบาดเจ็บ
เพียงเล็กน้อยไม่ถึงกับเป็นอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ผู้กระทายังคงรับผิดเพียงที่บัญญัติไว้ตามมาตรา 336
วรรคแรก

ตัวอย่าง นายยงิ่ กระชากสร้อยของนางสาวยอด แต่ผลของการกระชากสร้อยน้ันทาให้นางสาวยอด
หกล้มศีรษะแตก นายยิ่งจะต้องรับผิดฐานว่ิงราวทรัพย์จนเป็นเหตุให้นางสาวยอดรับอันตรายแก่กายตาม
มาตรา 336 วรรคสอง

ถ้าการกระชากสร้อยแล้วทาให้นางสาวยอดหกลม้ แขนหัก ตอ้ งรกั ษาตัวจนไม่สามารถประกอบ
กรณยี กิจตามปกติได้เป็นเวลานานถึงหน่ึงเดือนนายยิ่งก็จะมีความผิดฐานว่ิงราวทรัพย์จนเป็นเหตุให้นางสาว
ยอดรบั อนั ตรายสาหสั ตามมาตรา 336 วรรคสาม

และถ้าหากการกระชากสร้อยดงั กลา่ ว ทาใหน้ างสาวยอดหกล้มศีรษะฟาดพื้นจนถึงแก่ความตาย นาย
ยง่ิ ต้องรับผิดฐานวิ่งราวทรพั ยจ์ นเป็นเหตใุ ห้นางสาวยอดถึงแก่ความตายตามมาตรา 336 วรรคทา้ ย

นอกจากนี้ หากการการะทานน้ั เป็นความผดิ ตามมาตรา 336 และเขา้ องคป์ ระกอบของเหตุฉกรรจ์
ตามมาตรา 335 ด้วยเปน็ การกระทากรรมเดยี วผดิ ตอ่ กฎหมายหลายบทลงโทษบทหนกั เพยี งบทเดยี ว ซงึ่
ทง้ั มาตรา 335 และมาตรา 336 มีบทหนักเบาต่างกัน บางกรณีก็ต้องลงโทษบทหนักที่สุตามมาตรา 335 แต่
บางกรณกี ต็ ้องลงโทษบทหนักทสี่ ดุ ตามมาตรา 336 (บางคร้ังอาจต้องนามาตรา 336 ทวิ เข้ามาประกอบด้วย)
ดงั นัน้ จึงจาต้องพจิ ารณาเป็นรายกรณไี ป

ตวั อย่าง นายเขียวกระชากสรอ้ ยนางแดงในเวลากลางคืน นายเขียวมีความผิดฐานวิ่งราวทรัพย์ตาม
มาตรา 336 และความผิดฐานลกั ทรพั ย์ในเวลากลางคืนตามมาตรา 335 (1) วรรคแรก เป็นการกระทากรรม
เดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ลงโทษบทหนักเพียงบทเดียวคือโทษตามตรา 335 (1) วรรคแรก แต่ถ้าการ
กระชากสรอ้ ยน้ันเป็นเหตุให้นางแดงล้มจนได้รับอันตรายสาหัส นายเขียวจะมีความผิดฐานว่ิงราวทรัพย์เป็น
เหตใุ ห้ผู้อน่ื ไดร้ บั อันตรายสาหสั ตามมาตรา 336 วรรคสาม และมีความผิดฐานลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ตาม
มาตรา 335 (1) วรรคแรก ลงโทษบทหนกั เพียงบทเดยี วคือโทษตามมาตรา 336 วรรคสาม

ตัวอย่าง ความผิดฐานว่ิงราวทรพั ย์ประกอบดว้ ยการลักทรัพย์โดยใช้กิริยา ฉกฉวยเอาซ่ึงหน้าจึงรวม
การกระทาความผิฐานลักทรพั ยด์ ้วย การทจ่ี าเลยกบั พวกซ่ึงมีอาวธุ ร่วมกันลักโทรศัพท์มือถือโดยการฉกฉวยเอา
ซึง่ หน้าโดยใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะจึงเป็นการร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้อาวุธในเวลากลางคืนโดยใช้
ยานพาหนะตามมาตรา 335 (1) (7) วรรคสอง ประกอบมาตรา 336 ทวิ บทหนึ่ง และร่วมกันลักทรัพย์โดยฉก
ฉวยเอาซึ่งหนา้ อันเป็นความผดิ ฐานรว่ มกันวิ่งราวทรัพย์โดยใช้อาวุธและยานพาหนะตามมาตรา 336

วรรคแรก ประกอบมาตรา 336 ทวิ อีกบทหน่ึง ซ่ึงเป็นกรรมเด่ียวกันแต่ผิดกฎหมายหลายบท ต้องลงโทษ
จาเลยตามมาตรา 335 (1) (7) วรรคสอง ประกอบมาตรา 336 ทวิ ซ่ึงเปน็ กฎหมายบททม่ี โี ทษหนกั ท่สี ดุ "

4 เจตนาธรรมดา
องคป์ ระกอบภายในของความผิดฐานว่งิ ราวทรัพย์ คอื เจตนาธรรมดา ตามมาตรา 59 ผู้กระทาจะต้อง
รู้ข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบภายนอกของความผิด กล่าวคือ จะต้องรู้ว่าการกระทาของตนเป็นการเอา
ทรัพย์ของผู้อ่ืนหรือท่ีผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วยไป และรู้ว่าการกระทาของตนเป็นการฉกฉวยเอาซึ่งหน้า
ขณะเดียวกันตอ้ งประสงค์ต่อผลหรือย่อมเล็งเห็นผลของการกระทานัน้ ด้วย

ตวั อยา่ ง นายเมฆเห็นโทรศัพท์เคล่ือนที่ของนายหมอกวางอยู่บนโต๊ะ จึงหยิบโทรศัพท์เคลื่อนท่ีเคร่ืองน้ันไป
โดยไมร่ วู้ ่านายหมอกแอบดูการกระทาของนายเมฆอยู่ใต้โต๊ะ กรณีนี้นายเมฆกระทาครบองค์ประกอบความผิด
ฐานลักทรัพย์ ถึงแม้ว่านายหมอกจะอยู่ประชิดกับโทรศัพท์ขณะที่นายเมฆหยิบไป แต่นายเมฆก็ไม่รู้ว่าการ
กระทาของตนเป็นการฉกฉวยเอาโทรศัพท์ไปต่อหน้านายหมอก จึงเป็นกรณีท่ีนายเมฆไม่รู้ข้อเท็จจริงอันเป็น
องค์ประกอบภายนอกของความผิดฐานวิ่งราวทรัพย์ ทาให้ขาดเจตนากระทาความผิดฐานว่ิงราวทรัพย์ แต่เมื่อ
นายเมฆรู้ว่าการกระทาของตนเป็นการเอาทรัพย์ของผู้อื่นไป จึงเป็นกรณีท่ีรู้ข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบ
ภายนอกของความผิดฐานลักทรัพย์ ทาให้เป็นการกระทาโดยเจตนา เม่ือการกระทาครบองค์ประกอบท้ัง
ภายนอกและภายในของความผดิ ฐานลักทรัพย์ นายเมฆก็ตอ้ งรบั ผิดฐานลักทรพั ย์

5 เจตนาพิเศษ – โดยทจุ รติ
เจตนาพิเศษหรือมูลเหตชุ กั จงู ใจขอ้ นม้ี าจากความผดิ ฐานลักทรพั ย์ เนื่องจากความผิดฐานวิ่งราวทรัพย์
เป็นความผิดทีม่ ีพืน้ ฐานมาจากการลักทรัพย์ ดังนั้นจะต้องปรากฏว่าผู้กระทาได้กระทาโดยทุจริตด้วยจึงจะมี
ความผิดฐานวิ่งราวทรัพย์ มิฉะน้ันการกระทาจะขาดองค์ประกอบภายในตามมาตราน้ี ส่วนการกระทาโดย
ทจุ รติ อธบิ ายไวใ้ นมาตรา 334

ตัวอยา่ ง จาเลยแย่งโทรศัพท์เคล่ือนที่ของผู้เสียหายไปขณะท่ีผู้เสียหายกาลังใช้โทรศัพท์เพื่อบังคับชาระหนี้ท่ี
ผูเ้ สียหายค้างชาระ เปน็ การใชอ้ านาจบังคับชาระหนโ้ี ดยมชิ อบด้วยกฎหมาย จึงเป็นการแสวงหาผลประโยชน์ท่ี
ไมค่ วรไดร้ บั โดยชอบดว้ ยกฎหมายสาหรับตนเองเป็นการฉกฉวยเอาทรัพย์ของผู้เสียหายไปซึ่งหน้าโดยเจตนา
ทจุ ริต เป็นความผิดฐานว่ิงราวทรัพย์ ตามมาตรา 336 วรรคแรก

มาตรา 336 ทวิ ผูใ้ ดกระทาความผิดตามมาตรา 334 มาตรา 335 มาตรา 335 ทวิ หรือมาตรา 336
โดยแต่งเคร่อื งแบบทหารหรือตารวจหรือแต่งกายให้เข้าใจว่าเป็นทหารหรือตารวจ หรือโดยมีหรือใช้อาวุธปืน
หรือวตั ถุระเบดิ หรือโดยใช้ยานพาหนะเพ่ือสะดวกแก่การกระทาผิดหรือการพาทรัพย์น้ันไป หรือเพ่ือให้พ้น
การจบั กุม ต้องระวางโทษหนกั กวา่ ทีบ่ ัญญัตไิ วใ้ นมาตราน้ัน ๆ ก่ึงหน่งึ

องคป์ ระกอบความผดิ และผล
องคป์ ระกอบภายนอก

(1) ผ้ใู ด
(2) กระทาความผิดตามมาตรา 334 มาตรา 335 มาตรา 335 ทวิ หรือมาตรา 336
(3) โดย

(3.1) แต่งเครอ่ื งแบบทหารหรือตารวจหรือแต่งกายใหเ้ ขา้ ใจวา่ เป็นทหารหรือตารวจ
(3.2) มหี รอื ใชอ้ าวธุ ปนื หรือวตั ถุระเบิด หรือ
(3.3) ใช้ยานพาหนะ
องค์ประกอบภายใน
(1) เจตนาธรรมดา
(2) เจตนาพเิ ศษ
(2.1) โดยทจุ ริต (มาจากความผดิ ฐานลกั ทรัพย)์
(2.2) เฉพาะข้อ (3.3) เพ่ือ

(2.2.1) สะดวกแกก่ ารกระทาผดิ
(2.2.2) สะดวกแก่การพาทรัพยน์ ้นั ไป หรือ
(2.2.3) ให้พ้นการจับกุม
ผล
ตอ้ งระวางโทษหนกั กวา่ ท่ีบัญญตั ิไว้ในมาตราน้นั ๆ กึ่งหน่งึ

คาอธบิ าย

1 กระทาความผิดตามมาตรา 334 มาตรา 335 มาตรา 335 ทวิ หรอื มาตรา 336
ผกู้ ระทาจะมีความผิดตามมาตรา 336 ทวิได้ จะต้องปรากฏว่าได้กระทาครบองค์ประกอบความผิด

ฐาน (1) ลักทรัพย์ตามมาตรา 334 มาตรา 335 หรือมาตรา 335 ทวิ หรือ (2) ว่ิงราวทรัพย์ตามมาตรา 336
เสยี ก่อน แลว้ จงึ พจิ ารณาวา่ หากได้กระทาโดยใชว้ ิธกี ารหนึ่งวิธีการใด ดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 336 ทวิ จะต้อง
เพ่ิมระวางโทษตามท่ีกฎหมายบัญญัติไว้ ถ้าหากการกระทาไม่เป็นความผิดตามมาตรา 334 มาตรา 335
มาตรา 335 ทวิ หรอื มาตรา 336 ก็ไม่อาจระวางโทษตามมาตราน้ไี ด้

กรณที ่ีมผี ้มู สี ่วนรว่ มกระทาความผดิ หลายคน เฉพาะผู้ท่ีได้กระทาการตามที่ระบุไว้ในมาตรา 336 ทวิ
เท่าน้ัน จึงจะถูกลงโทษตามมาตราน้ีได้ ผู้มีส่วนร่วมคนใดมิได้กระทาการตามท่ีระบุไว้ ก็ไม่อาจลงโทษตาม
มาตรานี้ได้

2 โดยแตง่ เครอื่ งแบบทหารหรือตารวจหรือแต่งกายให้เข้าใจว่าเป็นทหารหรือตารวจ หรือโดยมีหรือใช้
อาวุธปืนหรอื วตั ถรุ ะเบดิ หรอื โดยใชย้ านพาหนะเพอ่ื สะดวกแกก่ ารกระทาผิดหรือการพาทรัพย์นน้ั ไป หรอื
เพ่อื ใหพ้ น้ การจับกุม

วธิ ีการพเิ ศษอนั จะทาใหต้ ้องระวางโทษหนักขึน้ ตามมาตรานมี้ ี 3 ประการ ได้แก่ลักทรัพย์โดย (1) แต่ง
เครื่องแบบทหารหรอื ตารวจหรือแต่งกายใหเ้ ข้าใจว่าเป็นทหารหรือตารวจ หรือ (2) โดยมีหรือใช้อาวุธปืนหรือ
วตั ถุระเบดิ หรอื (3) โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทาผิดหรือการพาทรัพย์น้ันไป หรือเพื่อให้พ้น
การจับกุม

(1) ลกั ทรัพยโ์ ดยแตง่ เครอ่ื งแบบทหารหรือตารวจหรอื แต่งกายให้เข้าใจวา่ เปน็ ทหารหรือตารวจ
"แต่งเคร่ืองแบบทหารหรอื ตารวจ" หมายความวา่ แต่งกายโดยใช้เคร่อื งแบบโดยปกติของทหาร
หรือตารวจ ส่วนคาว่า "แต่งกายให้เข้าใจว่าเป็นทหารหรือตารวจ" หมายถึงแต่งกายให้เหมือนกับ
เคร่ืองแบบลาลองของทหารหรอื ตารวจ ทาให้ผ้อู ืน่ ไดเ้ ขา้ ใจวา่ เปน็ ทหารหรือตารวจ เช่น แต่งกายครงึ่ ท่อน
ของทหารหรือตารวจ เป็นต้น กรณีเคร่ืองแบบหรือเครื่องแต่งกายคล้ายข้าราชการหรือพนักงานอ่ืนของรัฐ
นอกจากทหารหรอื ตารวจ
ไมอ่ ยู่ในขอบเขตของมาตรานี้
ความผิดตามมาตรานี้พจิ ารณาเฉพาะการกระทา "การแต่งกาย" เท่านนั้ ไม่ไดค้ านึงวา่ ผกู้ ระทาจะมี
อาชพี เปน็ ทหารหรือตารวจที่แทจ้ รงิ หรอื ไม่ ดงั นนั้ แม้จะมีอาชีพเป็นทหารหรือตารวจจริง แต่ไปลักทรัพย์
ผูอ้ นื่ โดยแตง่ เครอ่ื งแบบ หรือแต่งกายใหเ้ ขา้ ใจวา่ เป็นทหารหรอื ตารวจกเ็ ปน็ ความผิดตามมาตรา 336 ทวิ
นเี้ ชน่ กนั ยงิ่ กว่าน้ัน หากปรากฏว่าผู้น้ันมิใช่เจ้าพนักงาน แต่แต่งเครื่องแบบทหารหรือตารวจโดยมีเจตนาลวง
วา่ เปน็ เจา้ พนกั งานในเวลาทีล่ งมือกระทาความผิดฐานลกั ทรพั ย์ ผกู้ ระทาจะต้องมีความผิดตามมาตรา 335 (6)
วรรคแรก ประกอบมาตรา 336 ทวิ รวมทั้งยังมีความผิดตามมาตรา 146 คือ ความผิดฐานแต่งเคร่ืองแบบ
ทหารหรือดารวจโดยไมม่ ีสิทธิอีกบทหนึ่งด้วย เป็นกรรมเดียวมีความผิดต่อกฎหมายหลายบทลงโทษบทหนัก
ตามมาตรา 335 (6) ประกอบมาตรา 336 ทวิ เพียงบทเดียว
(2) ลักทรพั ย์โดยมีหรอื ใช้อาวุธปืนหรือวตั ถรุ ะเบิด
ความข้อนี้กาหนดชนิดของอาวุธโดยเฉพาะเจาะจงในการลักทรัพย์ตามมาตรา 335 (7) วรรคแรก
กล่าวคือ ถ้าลักทรัพย์โดยมีหรือใช้อาวุธปืน หรือมีหรือใช้วัตถุระเบิด ผู้กระทาจะต้องระวางโทษตามมาตรา
335 (7) วรรคแรก ประกอบมาตรา 336 ทวิ เนื่องจากทั้งปืนและวัตถุระเบิดมีอานุภาพร้ายแรงซ่ึงสามารถ
ประหตั ประหารบคุ คล รวมทั้งทาลายทรัพย์สินต่างๆ ให้เสียหายได้โดยง่าย เช่น ใช้ระเบิดพังประตูเข้าไปลัก

ทรัพย์ถ้าเป็นอาวุธอยา่ งอนื่ นอกจากปืนหรทอวตั ถุระเบิด ผู้กระทาจะมคี วามผดิ เพียงที่กาหนดระวางโทษไว้ตาม
มาตรา 335 (7) เท่าน้นั เชน่ ใชม้ ดี งัดแงะช่องบานเกลด็ เขา้ ไปลกั ทรัพย์

(3) ลกั ทรพั ยโ์ ดยใชย้ านพาหนะ เพ่อื สะดวกแกก่ ารกระทาผิดหรอื การพาทรพั ย์นัน้ ไป หรือเพ่อื ให้
พน้ การจบั กุม

“ยานพาหนะ” หมายความว่า สิ่งประดษิ ฐท์ ีม่ คี วามสามารถในการขนส่งจากทหี่ นึ่งไปยงั อีกที่หนึง่
ท้ังท่ีเคลื่อนทโี่ ดยลอ้ เชน่ รถยนต์ รถจกั รยาน รถจักรยานยนต์ รถตักดิน รถขุดเจาะ เป็นต้น และเคลื่อนท่ี
โดยไมใ่ ชล้ อ้ เช่น เรอื เครื่องบนิ เป็นตน้

ยานพาหนะทใ่ี ช้สาหรับความผิดตามมาตราน้ีจะเป็นของผู้ใดไม่สาคัญ แต่ขึ้นอยู่กับว่าจะต้องกระทา
โดยมเี จตนาพิเศษหรือมูลเหตชุ ักจูงใจอย่างน้อย 1 .ใน 3 ประการดงั ต่อไปนี้

(3.1) เพื่อสะดวกแกก่ ารกระทาผิด
การใชย้ านพาหนะทาให้การกระทาความผิดเป็นไปโดยสะดวกย่ิงขึ้นจึงต้องระวางโทษหนักขึ้น เช่น
การขับรถเขา้ มาถงึ หนา้ บา้ นเพ่ือเขา้ มาลักทรัพยใ์ นบ้าน ถ้าหากไม่ได้ทาให้สะดวกขึ้นในการลักทรัพย์ ก็ไม่อาจ
ลงโทษตามมาตรา 336 ทวไิ ด้ เช่น ไปลกั ทรัพย์ แตจ่ อดรถห่างจากบ้านผู้เสียหายถึง 1 กิโลเมตร แสดงให้เห็น
วา่ ยานพาหนะนัน้ ไมไ่ ด้ช่วยใหก้ ารลักทรัพย์น้ันสะดวกย่ิงขน้ึ
(3.2) เพ่ือสะดวกแกก่ ารพาทรพั ยน์ ้ันไป
ยานพาหนะช่วยให้การเอาทรัพย์นั้นไปได้ง่ายขึ้น ทั้งนี้ให้พิจารณาจากเจตนาของผู้กระทาขณะ
กระทาเป็นสาคัญว่าตอ้ งการใชย้ านพาหนะนัน้ เพอ่ื ความสะดวกในการพาทรพั ย์นัน้ ไปหรือไม่ เช่น ใช้รถยนต์ขน
ตูเ้ ย็น ซึง่ มนี า้ หนกั มากไปจากบา้ นผเู้ สยี หาย หรือเป็นลูกจา้ งขับรถพาทรัพย์ของนายจ้างข้ึนรถไปโดยเจตนาเอา
ทรพั ย์นน้ั เปน็ การลกั ทรัพยโ์ ดยใชย้ านพาหนะเพื่อสะดวกแกก่ ารพาทรพั ยน์ ั้นไป เปน็ ต้น
ส่วนกรณีที่ท รัพย์อ ยู่ใ น ยา น พา ห นะ ก่อน จ ะเจ ต นา ลักท รัพย์น้ัน ไม่เป็น กา ร ลัก ท รัพ ย์โด ย ใ ช้
ยานพาหนะเพราะเหตุว่าการท่ีทรัพยอ์ ยใู่ นยานพาหนะท่ีตนสามารถควบคุมได้อยู่แล้ว ไม่ได้ทาให้เกิดความ
สะดวกมากยง่ิ ขน้ึ กวา่ เดมิ ในการพาทรัพย์นนั้ ไป เพราะถึงอย่างไรผ้กู ระทาก็ต้องใช้ยานพาหนะน้ันพาทรัพย์ไป
อยูด่ ี
ตวั อยา่ ง จาเลยมีหนา้ ทีข่ บั รถบรรทุกขนส่ง และลกั เอาโทรทัศนส์ ีที่บรรทุกอยูบ่ นรถนั้นเอง แม้จาเลย
ขับรถคนั เกดิ เหตุออกนอกเส้นทางหลบไปทีอ่ นื่ เพ่ือประสงค์จะลักโทรทัศน์สีของผู้เสียหายก็ตาม การกหระทา
ของจาเลยก็มิใช่เป็นการลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทาผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป
จาเลยจงึ ไม่มคี วามผดิ ตามมาตรา 336 ทวิ
(3.3) เพื่อให้พ้นการจบั กุม
การท่ผี ู้กระทาใช้ยานพาหนะหลบหนีไปทาใหเ้ จา้ ทรัพยห์ รือเจา้ หน้าที่รัฐติดตามเอาตัวมาดาเนินคดีได้
ยากลาบากขนึ้ ดงั น้ันจงึ ต้องระวางโทษใหห้ นกั กวา่ กรณที ั่วไป
เชน่ นายดาวลักโทรศพั ท์มือถอื ของนายเดือน เมื่อนายเดือนเห็นเข้าจึงรีบว่ิงติดตาม แต่พอไปถึงท่าน้า
แลว้ นายดาวได้ขับเรือหางยาวของผู้อืน่ ซ่ึงจอดอย่ทู ่ีท่าเรือหนไี ป

3 ต้องระวางโทษหนักกว่าทบี่ ญั ญัตไิ ว้ในมาตราน้ันๆ กึ่งหน่ึง
ตอ้ งระวางโทษหนักกว่าท่ีบัญญัติไวใ้ นมาตรานั้นๆ กึ่งหนึ่งมาตรา 336 ทวิ นี้ดูราวกับเป็นบทเพิ่มโทษ

ของความผดิ ฐานลกั ทรพั ยห์ รือว่ิงราวทรพั ย์ แตท่ จ่ี ริงแลว้ หาเปน็ เชน่ นนั้ ไม่ มาตรา 336 ทวิ เป็นบทท่ีกาหนดให้
ตอ้ งระวางโทษจาเลยหนกั ขนึ้ กว่าโทษที่กาหนดไว้ในมาตรา 334 มาตรา 335 มาตรา 335 ทวิ และมาตรา 336
เน่อื งจากเปน็ การกระทาด้วยวิธกี ารพเิ ศษเพ่ิมเตมิ ดว้ ยเหตนุ ้ี ก่อนที่จะลงโทษผู้กระทาความผิดศาลจึงต้องเพิ่ม
ระวางโทษเข้าไปก่ึงหน่ึงกอ่ นแล้วจึงกาหนดโทษที่จะลงแก่ผู้กระทาความผิดน้ัน หาใช่กาหนดโทษก่อนแล้วจึง
เพ่มิ โทษเขา้ ไปอีกกงึ่ หนึ่งไม่ เพราะในมาตรา 336 ทวิ ใช้คาว่า "ต้องระวางโทษหนักกว่าที่บัญญัติไว้ในมาตรา
น้นั ๆ ก่งึ หน่งึ "

พงึ ตระหนักวา่ มาตรา 336 ทวิ ไม่ใชค่ วามผิดที่แยกต่างหากจากความผิดในมาตรา 334 มาตรา 335
มาตรา 335 ทวิ หรอื มาตรา 336 โดยสิน้ เชิง แต่เป็นความผิดท่ีประกอบเข้ากับความผิดท้ัง 4 มาตราดังกล่าว
ข้างตัน ดังนั้น ผู้กระทาจะต้องได้กระทาความผิดฐานลักทรัพย์หรือว่ิงราวทรัพย์เสียก่อนจึงจะสามารถนา
มาตรา 336 ทวิ เขา้ ไปประกอบได้ ถ้าการกระทาน้ันมีเหตุยกเว้นความผิดหรือเหตุยกเว้นโทษ ก็เป็นอันว่าไม่
ต้องรับโทษตามมาตรา 336 ทวิ น้ีเลยการปรบั บทตามมาตรา 336 ทวิ จึงต้องอ้างบทพ้ืนฐานก่อนเสมอแล้วจึง
นามาตรา 336 ทวิเข้าไปประกอบ

ตวั อย่าง ศาลชน้ั ตน้ พิพากษาว่าจาเลยท่ี 1 ซึ่งเป็นสามีโดยชอบด้วยกฎหมายของผู้เสียหายมีความผิด
ตามมาตรา 335 (7) วรรคแรก ประกอบมาตรา 336 ทวิ แม้ศาลชั้นต้นจะระบุว่าจาเลยท่ี 1 มีความผิดตาม
มาตรา 336 ทวิ มาดว้ ย แต่ตามมาตรา 336 ทวิ เป็นบทบัญญัติถึงเหตุท่ีจะทาให้ผู้กระทาความผิดอาญาตาม
มาตรา 335 ต้องระวางโทษหนักขึ้นกว่าท่ีบัญญัติไว้ในมาตราน้ันๆกึ่งหน่ึง หาใช่เป็นความผิดอี กบทหน่ึง
ต่างหากจากบทมาตราดังกล่าวไม่ การกระทาความผิดของจาเลยที่1 เข้าหลักเกณฑ์ตามมาตรา 71 วรรคแรก
แลว้ จงึ ไม่ตอ้ งรบั โทษในความผดิ ดังกล่าว

บทท่ี 2
คาอธิบายจากบรรทดั ฐานคาพพิ ากษาศาลฎีกา

มาตรา 366

คาพิพากษาฎีกาท่ี 191/2532 การท่ีจาเลยขออนุญาตเอาพระพุทธรูปบูชาของผู้เสียลงไปดูกลาง
แสงแดดทพี่ ื้นดินหน้าบ้านแล้วอุ้มพระพุทธรูปวิ่งหนีไปขึ้นรถยนต์ปิกอัพซึ่งพวกของจาเลยจอดรถรออยู่โดยมี
การวางแผนเตรียมการมากอ่ นแล้วหลบหนไี ป ไม่เปน็ ความผิดฐานว่ิงราวทรัพย์ เพราะไม่ได้ฉกฉวยเอาซ่ึงหน้า
คงเปน็ ความผิดตามมาตรา 335 (7) วรรคแรก ประกอบด้วยมาตรา 336 ทวิ

จากคาพพิ ากษาฎกี าดังกลา่ วข้างต้น
การทจี่ าเลยขออนุญาตเอาพระพุทธรูปบูชาของผู้เสียลงไปดูกลางแสงแดดที่พื้นดินหน้าบ้านแล้วอุ้ม
พระพุทธรปู วิง่ หนไี ปขนึ้ รถยนตป์ กิ อัพซึ่งพวกของจาเลยจอดรถรออยู่โดยมีการวางแผนเตรียมการมาก่อนแล้ว
หลบหนีไป ไม่เป็นความผิดฐานว่ิงราวทรัพย์ เพราะไม่ได้ฉกฉวยเอาซึ่งหน้า ซึ่งกฎหมายลักษณะอาญามี
องคป์ ระกอบทเ่ี พม่ิ เติมจากความผดิ ฐานลกั ทรพั ยอ์ นั จะทาให้เปน็ ความผิดฐานวง่ิ ราวทรพั ยไ์ ด้ คอื ฉกฉวย
เอาซงึ่ หนา้ คาวา่ “ฉกฉวย”แปลวา่ ยอื้ แยง่ ไปตอ่ หนา้ ซง่ึ โดยปกตจิ ะต้องไดก้ ระทาดว้ ยการเอาหรอื หยบิ ไป
โดยเรว็ และคาวา่ “ฉกฉวย” ยังแสดงให้เหน็ อาการของการเอาทรัพยน์ ้ันไปโดยไม่ไดร้ ับอนญุ าตดว้ ย โดยคา
วา่ ซึง่ หน้านั้นหมายความรวมถึงการเอาทรัพยไ์ ปทัง้ ตอ่ หน้าและลบั หลังโดยผเู้ สยี หายรู้ตัวขณะท่ีจาเลย
กระทา จากขอ้ เท็จจริงนั้นจาเลยได้ขออนุญาตผู้เสียหายแล้วและจาเลยไม่ได้กระทาโดยการยื้อแย่ง
พระพุทธรปู บูชาของผเู้ สยี หายไปตอ่ หนา้ ดังนัน้ จาเลยจึงไม่มคี วามผดิ ฐานวง่ิ ราวทรัพย์ตามมาตรา 336

คาพพิ ากษาฎีกาท่ี 7650/2554
ขณะท่ีผเู้ สยี หายน่ังซอ้ นทา้ ยรถจักรยานยนต์ซึ่งมีนาย ธ. เป็นผู้ขับขี่ จาเลยขับรถจักรยานยนต์มีพวก
นั่งซอ้ นท้ายมาหนึ่งคน พวกของจาเลยได้กระชากกระเป๋าของผู้เสียหายท่ีสะพายอยู่ที่ไหล่หลุดออกจากไหล่
ผู้เสียหายได้เอี้ยวตัวหลบและยึดลาตัวนาย ธ. คนขับขี่ไว้ไม่ให้ตกจากรถเป็นเหตุให้รถจักรยานยนต์คันที่
ผู้เสียหายนั่งซ้อนท้ายเสียการทรงตัวไปเฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ของจาเลยล้มลง จนศีรษะผู้เสียหาย
กระแทกพ้ืนถนนหมดสติไป กระเป๋าของผู้เสียหายหล่นไปบนถนนห่างจากจุดเดิม 5 เมตรแสดงว่าพวกของ
จาเลยกระชากกระเป๋าสะพายของผู้เสียหายหลุดจากตัวผู้เสียหายมาอยู่ในความครอบครองแล้ว ถือว่าการ
วิ่งราวเอากระเป๋าสะพายของผู้เสียหายไปจากความครอบครองผู้เสียหายเป็นความผิดสาเร็จแล้ว จาเลยมี
ความผิดตามมาตรา 336 วรรคสอง และวรรคสาม ประกอบด้วยมาตรา 336 ทวิ, 83 การกระทาของจาเลย
เปน็ กรรมเดียวผดิ ต่อกฎหมายหลายบท ใหล้ งโทษฐานรว่ มกันว่ิงราวทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อ่ืนได้รับอันตรายสาหัส
โดยใช้รถจกั รยานยนตเ์ ป็นยานพาหนะเพ่ือสะดวกแกก่ ารกระทาผิด อันเป็นบทหนกั ทส่ี ุดตามมาตรา 90

จากคาพิพากษาฎกี าดังกล่าวข้างต้น
ขณะที่ผเู้ สียหายน่ังซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ซึ่งมีนาย ธ. เป็นผู้ขับขี่ จาเลยขับรถจักรยานยนต์มีพวก
น่ังซอ้ นท้ายมาหนึง่ คน พวกของจาเลยไดก้ ระชากกระเป๋าของผู้เสียหายที่สะพายอยู่ที่ไหล่หลุดออกจากไหล่น้ัน
เป็นกรณที ่ีเอาทรพั ยข์ องผเู้ สยี หายไปอยา่ งรวดเรว็ เพอื่ แย่งหรอื แยกทรพั ยอ์ อกจากตวั ผู้เสยี หายซึ่งเป็นการ
กระทาทฉ่ี กฉวยเอาซึ่งหนา้ เม่ือผเู้ สยี หายไดเ้ อีย้ วตวั หลบและยึดลาตัวนาย ธ. คนขับขี่ไว้ไม่ให้ตกจากรถเป็น
เหตใุ ห้รถจักรยานยนตค์ ันที่ผ้เู สียหายนั่งซอ้ นท้ายเสยี การทรงตวั ไปเฉ่ียวชนกับรถจักรยานยนต์ของจาเลยล้มลง
จนศีรษะผูเ้ สียหายกระแทกพื้นถนนหมดสตไิ ปน้ัน เปน็ กรณีผู้กระทามีเจตนากระทาตอ่ ตวั ทรัพย์เท่านัน้ ไมม่ ี
เจตนากระทาต่อเนอ้ื ตัวรา่ งกายหรือกระทาโดยขูเ่ ขญ็ ใหเ้ กดิ อนั ตรายแก่ผู้เสียหายแตป่ ระการใด แม้ว่า
สดุ ท้ายจะเกดิ การบาดเจบ็ แกเ่ น้อื ตัวร่างกายโดยไมม่ เี จตนา และไมไ่ ดแ้ ตะต้องตัวผ้เู สียหายนอกจากตัว
ทรัพย์ ผกู้ ระทายงั คงมคี วามผดิ ฐานวงิ่ ราวทรพั ยแ์ ต่อาจจะตอ้ งรบั โทษหนกั ข้นึ ซึ่งวินิจฉัยโดยใช้ทฤษฎผี ล
ธรรมดาที่ยอ่ มเกดิ ข้นึ ไดต้ ามมาตรา 63 เปน็ เกณฑ์ ซง่ึ กรณีน้ีจาเลยล้มลง จนศีรษะผู้เสียหายกระแทกพื้น
ถนนหมดสตไิ ปนนั้ จาเลยต้องรบั ผิดฐานวิง่ ราวทรพั ย์จนเป็นเหตุให้ผู้เสียหายรับอันตรายสาหัสตามมาตรา 336
วรรคสาม และการที่กระเป๋าของผู้เสียหายหล่นไปบนถนนห่างจากจุดเดิม 5 เมตรแสดงว่าพวกของจาเลย
กระชากกระเป๋าสะพายของผ้เู สยี หายหลุดจากตัวผู้เสียหายมาอยู่ในความครอบครองแล้ว ถือว่าการว่ิงราวเอา
กระเปา๋ สะพายของผูเ้ สยี หายไปจากความครอบครองผู้เสียหายเป็นความผิดสาเร็จแล้ว จาเลยมีความผิดตาม
มาตรา 336 วรรคสอง และวรรคสาม ประกอบดว้ ยมาตรา 336 ทวิ, 83 การกระทาของจาเลยเป็นกรรมเดียว
ผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานร่วมกันว่ิงราวทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัสโดยใช้
รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทาผิด อนั เป็นบทหนกั ทส่ี ุดตามมาตรา 90

มาตรา 336ทวิ

คาพพิ ากษาฎีกาที่ 12563/2558 การที่จาเลยกบั พวกคบคิดกันลักรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายซึ่ง
จอดไว้ในโกดงั แล้วชว่ ยกันยกขึ้นทา้ ยกระบะเพ่ือให้ ส. บรรทุกออกไป เห็นได้ว่าจาเลยกับพวกประสงค์จะใช้
รถกระบะเป็นยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทาความผิดหรอื การพาทรัพย์น้นั ไป ส่วนรถกระบะจะเป็นของ
ผู้ใดหาใช่ข้อสาคัญไม่ การกระทาของจาเลยกับพวกจึงเป็นความผิดฐานลักทรัพย์ท่ีเป็นของนายจ้างโดยใช้
ยานพาหนะซง่ึ ต้องรบั โทษหนักขน้ึ ตามมาตรา 336 ทวิ

จากคาพพิ ากษาฎกี าดังกลา่ วข้างตน้
การที่จาเลยกับพวกคบคิดกันลักรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายซึ่งจอดไว้ในโกดัง แล้วช่วยกันยกขึ้น
ทา้ ยกระบะเพอ่ื ให้ ส. บรรทกุ ออกไป เห็นไดว้ ่าจาเลยกบั พวกประสงคจ์ ะใชร้ ถกระบะเปน็ ยานพาหนะแกก่ าร
กระทาความผดิ ไปโดยสะดวกยงิ่ ขน้ึ หรอื การพาทรัพยน์ ้ันไป กลา่ วคือยานพาหนะดงั กลา่ วชว่ ยให้การเอา
ทรัพยน์ ัน้ ไปไดง้ ่ายขึน้ ท้ังนี้เจตนาของจาเลยกบั พวกขณะกระทาต้องการใช้ยานพาหนะนั้นเพื่อความ

สะดวกในการพาทรัพย์นั้นไป ส่วนรถกระบะจะเป็นของผู้ใดหาใช่ข้อสาคัญไม่กล่าวคือไม่ว่าจะเป็น
ยานพาหนะของผใู้ ดประเดน็ สว่ นนไี้ ม่เกยี่ วข้องกับความรบั ผดิ ตามมาตราน้ี การกระทาของจาเลยกับพวกจึง
เปน็ ความผดิ ฐานลักทรัพยท์ เี่ ป็นของนายจ้างโดยใช้ยานพาหนะซึ่งต้องรบั โทษหนกั ขึน้ ตามมาตรา 336 ทวิ

คาพิพากษาฎีกาที่ 1486/2546 การกระทาทจี่ ะเปน็ ความผดิ ตามมาตรา 336 ทวิ นนั้ ตอ้ งดูที่เจตนา
ของผ้กู ระทาผดิ เป็นส่วนสาคัญวา่ ต้องการใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทาผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป
หรือเพ่อื ใหพ้ ้นการจับกุมหรอื ไม่ เม่ือจาเลยมีเจตนาจะลักเงินสดที่อยู่ในกระเป๋าสะพายของผู้เสียหายที่วางอยู่
ในรถที่จาเลยขบั อยู่กอ่ นแลว้ โดยใชอ้ ุบายหลอกผู้เสียหายให้ลงจากรถไปซื้อน้าอัดลม แล้วถือโอกาสขับรถซ่ึงมี
กระเป๋าสะพายใสเ่ งนิ และกระเป๋าเส้อื ผา้ ของผู้เสยี หายหนีไป จาเลยไม่ได้มีเจตนาที่จะใช้รถเพ่ือสะดวกแก่การ
กระทาผิดหรือการพาเอาทรัพย์น้ันไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม จึงไม่มีความผิดฐานลักทรัพย์โดยใช้
ยานพาหนะ ตามมาตรา 336 ทวิ คงผดิ ฐานลักทรัพย์ ตามมาตรา 334

จากคาพิพากษาฎกี าดังกล่าวขา้ งตน้
เมอื่ จาเลยมีเจตนาจะลักเงินสดท่อี ยูใ่ นกระเป๋าสะพายของผู้เสียหายที่วางอยู่ในรถที่จาเลยขับอยู่ก่อน
แลว้ โดยใชอ้ บุ ายหลอกผูเ้ สยี หายให้ลงจากรถไปซอื้ น้าอัดลม แลว้ ถอื โอกาสขับรถซ่ึงมีกระเป๋าสะพายใส่เงินและ
กระเปา๋ เสอื้ ผา้ ของผู้เสียหายหนีไปนัน้ ซ่ึงการกระทาท่ีจะมีความผิดตามมาตรา 336ทวิ ให้พิจารณาเจตนาของ
ผกู้ ระทาในขณะทก่ี ระทาเปน็ สาคัญว่าตอ้ งการใชย้ านพาหนะเพอื่ สะดวกแก่การกระทาผิดหรือการพาทรัพย์นั้น
ไป หรือเพอื่ ให้พ้นการจับกุมหรอื ไม่ เม่ือจาเลยถอื โอกาสขับรถซึง่ มีกระเปา๋ สะพายใสเ่ งินและกระเป๋าเส้ือผ้าของ
ผ้เู สียหายหนีไป จาเลยไม่ได้มีเจตนาที่จะใช้รถเพ่ือสะดวกแก่การกระทาผิดหรือการพาเอาทรัพย์นั้นไปหรือ
เพือ่ ให้พน้ จากการจับกุม เพราะเจตนาของจาเลยเพียงแต่ลักทรัพย์เงิน จึงไม่มีความผิดฐานลักทรัพย์โดยใช้
ยานพาหนะ ตามมาตรา 336 ทวิ คงผดิ ฐานลกั ทรัพย์ ตามมาตรา 334

บทท่ี 3
สรุปเนอื้ หาและข้อเสนอแนะ

1 ความผดิ ฐานว่ิงราวทรพั ย์

มาตรา 336 ผู้ใดลักทรัพย์โดยฉกฉวยเอาซึ่งหน้า ผู้นั้นกระทาความผิดฐานวิ่งราวทรัพย์ ต้องระวาง
โทษจาคุกไม่เกินหา้ ปีและปรบั ไม่เกนิ หนงึ่ แสนบาท
ถา้ การวง่ิ ราวทรพั ย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ผู้กระทาต้องระวางโทษจาคุกตั้งแต่สองปีถึง
เจด็ ปี และปรบั ต้ังแต่ส่ีหมนื่ บาทถึงหน่ึงแสนสหี่ ม่ืนบาท
ถา้ การวิง่ ราวทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายสาหัส ผู้กระทาต้องระวางโทษจาคุกต้ังแต่สามปีถึงสิบปี และ
ปรับต้งั แตห่ กหมืน่ บาทถึงสองแสนบาท
ถา้ การวิ่งราวทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ผู้กระทาต้องระวางโทษจาคุกต้ังแต่ห้าปีถึงสิบห้าปี และ
ปรบั ตั้งแตห่ นึง่ แสนบาทถึงสามแสนบาท

ความผดิ ฐานวิง่ ราวทรัพย์มาตรา 336 มีพื้นฐานมาจากความผิดฐานลักทรัพย์ คือ ได้มีการเอาทรัพย์
ของผู้อื่นไปในลักษณะที่เป็นการตัดกรรมสิทธิ์และแย่งการครอบครอง เพียงแต่การแย่งการครอบครองของ
ทรัพย์นั้น มีการใช้วิธีการฉกฉวยเอาซ่ึงหน้า โดยการฉกฉวยเอาซ่ึงหน้านั้นเป็นการกระทาท่ีย้ือแย่งไปต่อหน้า
ได้กระทาด้วยการหยิบหรอื เอาไปโดยเร็วโดยเอาทรพั ย์นัน้ ไปทั้งต่อหน้าและลับหลังโดยผู้เสียหายรู้ตัวในขณะท่ี
จาเลยกระทา

ซ่งึ การฉกฉวยยงั แสดงใหเ้ หน็ อาการของการเอาทรัพยน์ ้นั ไปโดยไม่ได้รับอนุญาตหากได้รับอนุญาตจาก
เจ้าของทรัพยย์ ่อมถือได้ว่าไมใ่ ช่การฉกฉวย ส่วนกรณีท่เี จ้าทรัพย์ส่งทรัพย์ให้ยึดถือช่ัวคราวและต้องส่งคืนเม่ือดู
หรือใช้เสร็จสว่ นนีไ้ มไ่ ดอ้ ยูใ่ นขอบเขตของคาวา่ ฉกฉวยซึ่งหากผู้กระทาน้ันว่ิงหนีไปหลังจากที่ผู้เสียหายย่ืนให้ถือ
ชั่วคราวย่อมไมเ่ ป็นความผิดฐานวิ่งราวทรัพย์แต่ผู้น้ันยังคงมคี วามผดิ ฐานลกั ทรพั ย์

และการกระทาโดยซงึ่ หน้าจะตอ้ งเกิดขน้ึ ใกลช้ ิดกับตัวผู้เสียหายและผู้เสียหายรู้ตัวซ่ึงการเอาทรัพย์ไป
ในขณะเผลอไมถ่ ือวา่ เป็นการกระทาโดยซ่ึงหนา้ ดังนั้นจะเป็นว่ิงราวทรัพยม์ ไิ ด้

ความผิดตามมาตรา 336 เปน็ มาตราทมี่ กี รณีเหตทุ ี่ทาใหต้ อ้ งรับโทษหนักขึ้น การวิ่งราวทรัพย์เป็นการ
ลกั ทรัพยท์ ผี่ กู้ ระทามีเจตนากระทาต่อตัวทรัพย์เท่าน้ันไม่มีเจตนากระทาต่อเนื้อตัวร่างกายหรือกระทาขู่เข็ญ
แต่ถ้าเกิดการบาดเจ็บแก่เน้ือตัวร่างกายแม้ไม่มีเจตนาท่ีจะกระทาต่อตัวผู้เสีย ผู้กระทายังคงมีความผิดฐาน
วงิ่ ราวทรพั ย์แต่อาจต้องรบั โทษหนักขึน้ ตามวรรคสอง วรรคสาม หรือวรรคท้าย แล้วแต่กรณีความบาดเจ็บของ
ผ้เู สียหาย

2 ความผดิ ฐานลักทรัพยโ์ ดยวิธกี ารพเิ ศษ

มาตรา 336ทวิ ผใู้ ดกระทาความผดิ ตามมาตรา 334 มาตรา 335 มาตรา 335 ทวิ หรือมาตรา 336
โดยแตง่ เครอ่ื งแบบทหารหรือตารวจหรือแต่งกายให้เข้าใจว่าเป็นทหารหรือตารวจ หรือโดยมีหรือใช้อาวุธปืน
หรอื วตั ถรุ ะเบิด หรือโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทาผิดหรือการพาทรัพย์น้ันไป หรือเพื่อให้พ้น
การจับกมุ ต้องระวางโทษหนักกว่าทบ่ี ัญญัติไว้ในมาตราน้ัน ๆ กง่ึ หนึ่ง

ความผิดฐานลักทรัพย์หรือว่ิงราวทรัพย์โดยวิธีการพิเศษมาตรา 336ทวิ เป็นกรณีที่ผู้กระทาจะมี
ความผดิ ตามมาตราน้ีไดน้ ัน้ จะต้องไดก้ ระทาครบองค์ประกอบความผิดฐานลักทรัพย์ ตามมาตรา 334 มาตรา
335 มาตรา 335ทวิ หรือวิ่งราวทรัพยต์ ามมาตรา 336 ก่อนจึงพิจารณาต่อไปหากได้กระทาอย่างใดอย่างหน่ึง
ในมาตรา336ทวจิ ะต้องเพ่ิมโทษตามกฎหมาย

โดยรวมแล้ววธิ ีการพเิ ศษทีท่ าให้ผกู้ ระทาความผดิ ต้องระวางโทษหนักขน้ึ ตามมาตรานีม้ ีดังน้ี
ลักทรัพย์โดยแต่งเคร่ืองแบบทหารหรือตารวจหรือแต่งกายให้เข้าใจว่าเป็นทหารหรือตารวจซึ่ง
พจิ ารณาเฉพาะการกระทาการแตง่ กายเท่าน้ัน
ลักทรัพยโ์ ดยมหี รือใช้อาวธุ ปืนหรือวัตถุระเบิด ถ้าผู้กระทาความผิดลักทรัพย์โดยมีหรือใช้อาวุธปืน มี
หรือใช้วตั ถุระเบิด ผ้กู ระทาต้องระวางโทษตามมาตรา 335 (7) วรรคแรกประกอบมาตรา 336 ทวิ เน่ืองจาก
ปนื และวัตถุระเบิดมอี านุภาพรา้ ยแรงสามารถประหัตประหารบคุ คลหรือทาให้ทรัพย์สินเสียหายได้ ซึ่งหากเป็น
อาวธุ อนื่ ผ้กู ระทาจะมีความผดิ เพียงที่กาหนดโทษไว้ตามมาตรา 335 (7) เทา่ นั้น
ลักทรพั ย์โดยใชย้ านพาหนะเพ่ือสะดวกแก่การกระทาความผิดเป็นไปโดยสะดวกมากย่ิงข้ึน ดังน้ันจึง
ต้องระวางโทษหนักข้ึนและเพื่อสะดวกแก่การพาทรัพย์น้ันไปได้ง่ายข้ึน แต่ต้องพิจารณาเจตนาของผู้กระทา
ขณะกระทาเปน็ สาคัญว่าต้องการใช้ยานพาหนะน้ันเพ่ือความสะดวกในการพาทรัพย์น้ันไปหรือไม่ ซึ่งกรณีที่
ทรัพยอ์ ยใู่ นยานพาหนะก่อนจะเจตนาลักทรัพย์ไม่เป็นการลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพราะไม่ได้ทาให้เกิด
ความสะดวกมากขึ้นกว่าเดิม
ผู้กระทาใช้ยานพาหนะหลบหนีเพอื่ ใหพ้ ้นการจับกมุ ทาให้เจา้ ทรัพย์หรอื เจ้าหน้าท่ีรัฐติดตามเอาตัวมา
ดาเนินคดไี ดย้ ากข้นึ ดังนนั้ จึงตอ้ งระวางโทษใหห้ นักกว่ากรณีทั่วไป

ดังน้นั จงึ สรุปได้วา่ มาตรา 336ทวิ เป็นบทที่กาหนดให้ต้องระวางโทษจาเยหนักข้ึนกว่าโทษที่
กาหนดไว้ในสามมาตราก่อนหน้านเี้ น่อื งจากเป็นการกระทาด้วยวิธีการพิเศษเพิ่มเติม เหตุน้ีก่อนท่ีจะ
ลงโทษผ้กู ระทาความผดิ ศาลจงึ ตอ้ งเพิม่ ระวางโทษเข้าไปกง่ึ หนงึ่ กอ่ นแลว้ จึงกาหนดโทษท่จี ะลงแก่ผกู้ ระทา
ความผิดน้นั

บรรณานุกรม

รองศาสตราจารย์ ดร.คณพล จนั ทนห์ อม. (2563). คาอธบิ ายกฎหมายอาญาภาคความผดิ เล่ม 3
(พมิ พ์ครั้งท่ี5).กรงุ เทพฯ : วิญญชู น

อาจารย์ ยนื หยัด ใจสมุทร. (2547).กฎหมายอาญาเลม่ 2 (ปรับปรุงใหม่) (พมิ พ์ครั้งที่ 11). นนทบุรี :
ศนู ย์หนังสือมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธริ าช

กองผู้ช่วยผู้พพิ ากษาศาลฎกี า. (2532). คาพพิ ากษาศาลฎกี าท่ี 191/2532. สบื คน้ 22 กนั ยายน
2564,จาก https://deka.in.th/view-21000.html

กองผู้ช่วยผู้พพิ ากษาศาลฎกี า.(2546). คาพิพากษาศาลฎกี าที่ 1486/2546. สบื คน้ 22 กนั ยายน
2564,จาก https://deka.in.th/view-50307.html

เฉลมิ วุฒิ สาระกิจ.ความผิดเก่ียวกบั ทรัพย์. สบื คน้ 22 กนั ยายน 2564, จาก
https://www.readawrite.com/c/10fcd51e2a72b8d92128ddc2dca652ca?page_no=1


Click to View FlipBook Version