The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

สถาปัตยกรรมของกรีก
ประติมากรรมของกรีก
จิตรกรรมของกรีก
ศิลปการแสดงของกรีก

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by dtac11032515, 2023-09-10 07:11:03

ศิลปกรรมของกรีก(Art Of Greek)

สถาปัตยกรรมของกรีก
ประติมากรรมของกรีก
จิตรกรรมของกรีก
ศิลปการแสดงของกรีก

ART OF GREEK


สถาปัต ปั ยกรรม ชาว เอเธนส์ได้สร้างสรรค์งานด้านสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น ให้แก่ชาวโลกจำ นวนมาก ส่วนใหญ่เป็นการก่อสร้าอาคาร เพื่อกิจกรรมสาธารณะ เช่น วิหาร สนามกีฬา และโรงละคร ความโดดเด่นของงานสถาปัตยกรรมไม่ได้ขึ้นอยู่กับความใหญ่โต ของสิ่งก่อสร้าง แต่เป็นความงดงามของสัดส่วนที่สมบูรณ์แบบ ตัวอย่างเช่น วิหารพาร์เทนอน (Parthenon) ที่ตั้งอยู่บนเนินเขา อะโครโพลิส (Acropolis) เป็นสิ่งก่อสร้างที่มีสัดส่วนงดงามทั้ง ความยาว ความกว้างและความสูง จัดว่าเป็นผลงานชิ้นเอกของโลก สถาปัตยกรรมกรีก ใช้ระบบโครงสร้างแบบเสาและคาน เช่น เดียวกับอียิปต์ มีแผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า จากฐานอาคารซึ่ง ยกเป็นชั้น ๆ ก็จะเป็นฝาผนัง โดยปราศจากหน้าต่าง ซึ่งจะกั้นเป็น ห้องต่าง ๆ 1 - 3 ห้อง ปกติสถาปนิกจะ สร้างเสารายล้อมรอบ อาคารหรือสนามด้วย มีการสลับช่วงเสากัน อย่างมีจังหวะ ระหว่างเสากับช่องว่างระหว่างเสา ทำ ให้พื้นภายนอกรอบ ๆ วิหาร มีความสว่าง และมีรูปทรงเปิดมากกว่าสถาปัตยกรรมอียิปต์และมี ขนาดเหมาะสม ไม่ใหญ่โต จนเกินไป มีรูปทรง เรียบง่าย


สถาปัตยกรรมกรีกยุคคลาสสิคที่สำ คัญ มีแตกต่างกัน 3 ประเภทคือ สถาปัตยกรรมแบบ Doric, Ionic, and Corinthian สถาปัตยกรรมแบบ Doric เป็นที่รู้จักเพราะชาวสปาตันนิยมใช้ มันสร้างขึ้นจาก ด้ามไม้ซึ่งภายหลังกลายเป็นหิน ตอนบนของด้ามไม้จะมีบุที่มีบล็อคไม้ทรงสี่เหลี่ยมอยู่ เสาค้ำ ขื่อที่เรียกว่า architrave เสา Ionic จะมีลักษณะเรียวกว่าเสา Doric การสร้างต้องใช้แม่แบบและการตกแต่ง โดยการแกะสลักด้วยศิลปะที่พริ้วไหว ส่วนบนสุดของผนังมีรายละเอียดที่สวยงาม สถาปัตยกรรมแบบ Corinthian นั้นจะไม่ค่อยเป็นที่นิยมกว้างขวางเท่ากับ สถาปัตยกรรมแบบ Doric, Ionic เพราะว่าสถาปัตยกรรมแบบ Corinthian นั้นมีความสลับ ซับซ้อนและมีรายละเอียดเยอะมาก เมื่อพูดถึงวัดกรีก เราจำ เป็นต้องรู้ว่าความเชื่อทางศาสนาของชาวกรีกนั้น ไม่เหมือนชาวคริสเตียนประเด็นแรก ชาวกรีกเชื่อว่าเทพเจ้าของพวกเขามีธรรมชาติที่ เหมือนมนุษย์ธรรมดาทั่วไป เพียงแต่ว่าเทพเจ้าเหล่านั้นจะพิเศษกว่าทางด้านความ เฉลียวฉลาดและความแข็งแกร่ง ประเด็นที่สอง ชาวกรีกเชื่อว่าวัด โบสถ์ของพวกเขา คือที่อยู่อาศัยของเทพเจ้าที่พวกเขาศรัทธา ดังนั้นสถานที่เหล่านี้จึงต้องมีความสวยงาม กว่าบ้านเรือนทั่วไป ประเด็นต่อมา ชาวกรีกไม่ได้รวมตัวกันเพื่อสรรเสริญพระเจ้าในวัดหรือ โบสถ์ของพวกเขา เหมือนอย่างคริสตศาสนนิกชนประเด็นสุดท้าย การบูชายัญและการ บวงสรวง ถือเป็นคำ สั่งของเทพเจ้า ดังนั้นทุกวัดหรือโบสถ์จะมี แท่นบูชาอยู่บริเวณชานวัดเพื่อจัดพิธีกรรม


ประติมากรรม ส่วนมากเป็นเรื่องศาสนา ซึ่งสร้างถวายเทพเจ้าต่าง ๆ วัสดุที่นิยใช้สร้างงานได้แก่ ทองแดง และดินเผา ในสมัยต่อมานิยมสร้างจาก สำ ริด และหินอ่อนเพิ่มขึ้น ในสมัยแรก ๆ รูปทรงยังมีลักษณะคล้ายรูปเรขาคณิต อยู่ต่อ มาในสมัยอาร์คาอิก (200 ปีก่อน พ.ศ.) เริ่มมีลักษณะคล้ายกับมนุษย์มากขึ้น เป็น เรื่องราวเกี่ยวกับ เทพเจ้า รูปนักกีฬา รูปวีรบุรุษ รูปสัตว์ต่าง ๆ ในยุคหลัง ๆ รูป ทรงจะมีความเป็น มนุษย์มากขึ้น แสดงท่าทางการเคลื่อนไหวที่สง่างาม มีการขัดถู ผิวหินให้เรียบ ดูคล้ายผิวมนุษย์ มีลีลาที่เป็นไปตามธรรมชาติมากขึ้น ทำ ให้ ประติมากรรมกรีก จัดเป็นยุคคลาสสิก ที่ให้ความรู้สึกในความงามที่เป็นความจริง ตามธรรมชาตินั่นเอง งานประติมากรรมภาพคนจะแสดงให้เห็นถึงกล้ามเนื้อและอวัยวะต่าง ๆ ให้ สมบูรณ์ที่สุด ปราศจากเครื่องนุ่มห่มชาวกรีกจึงนิยมปั้นและแกะสลักรูปคนเปลือย กายไว้มากมาย งานประติมากรรมลอยตัวที่มีชื่อเสียง ได้แก่เทพธิดาวีนัส (Venus) รูปเทพเจ้าอพอลโล (Apollo) รูปนักกีฬาไมรอน (Myron) ประติมากรรมโลหะ สัมฤทธิ์รูปเด็กหนุ่ม เป็นรูปเปลือยที่มีส่วนสัดของร่างกาย ตลอดจนการจัดวาง ท่วงท่าได้อย่างงดงาม การแสดงออกทางประติมากรรมของกรีกเกี่ยวข้องกับ ปรัชญาความคิดของแต่ละสมัย ระหว่างศตวรรษที่ 10 - 8 ก่อนคริสตกาลชีวิตคนกรีกยังสัมพันธ์อย่างแน่นแฟ้นกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่มองไม่เห็น เช่น เจ้าแม่ เทพเจ้า ที่พวกเขาจินตนาการขึ้นมาผสม กับสิ่งที่เป็นจริงที่มองเห็นได้ด้วยตา สิ่งที่เป็นธรรมชาติ คน พึ่งศาสนามาก เพราะชีวิตในสมัยนี้มีแต่การทำ สงคราม ตัวอย่างดูได้จากงานประติมากรรมแบบเรขาคณิต ประติมติากรรม


จิตจิรกรรม กรีกไม่นิยมสร้างจิตรกรรมนักเพราะถือว่าไม่อาจถ่ายทอดรูปแบบที่มีลักษณะที่แท้จริงได้ ดังนั้นงานจิตรกรรมส่วนใหญ่ จึงออกมาในรูปแบบการประดับตกแต่งบนภาชนะ เครื่องปั้นดินเผาต่างๆ เช่น ไห แจกัน อีกทั้งมีภาพบนผนัง ซึ่งแม้จะถือว่าเป็นจิตรกรรมแท้ ของกรีกก็ยังขาดความเป็นเอกลักษณ์ เพราะมักเป็นภาพเล่าเรื่อง จิตรกรรมของกรีกที่รู้จัก กันดีก็มีแต่ภาพวาดระบายสีตกแต่งผิวแจกันเท่านั้นกรีกนิยมทำ มาจนถึงพุทธศตวรรษที่ 1 เป็นภาพที่มีรูปร่างที่ถูกตัดทอนรูปจน ใกล้เคียงกับรูปเรขาคณิต มีความเรียบง่ายและคมชัด สีที่ใช้ได้แก่ สีดินคือเอาสีดำ อมน้ำ ตาลผสมบาง ๆ ระบายสีเป็นภาพบนพื้นผิวแจกันที่เป็น ดินสีน้ำ ตาลอมแดง แต่บางทีก็มีสีขาว และสีอื่น ๆ ร่วมด้วย เทคนิคการใช้รูปร่างสีดำ ระบายพื้นหลัง เป็นสีแดงนี้ เรียกว่า "จิตรกรรมแบบรูปตัวดำ " และทำ กันเรื่อยมาจนถึงสมัย พุทธ ศตวรรษที่ 1 มีรูปแบบใหม่ขึ้นมา คือ "จิตรกรรมแบบรูปตัวแดง"โดยใช้สีดำ อม น้ำ ตาล เป็นพื้นหลังภาพ ตัวรูปเป็นสีส้มแดง หรือสีน้ำ ตาลไม้ ตามสีดินของพื้น แจกันเป็นต้นกรีกไม่ นิยมสร้างจิตรกรรมนักเพราะถือว่าไม่อาจถ่ายทอดรูปแบบที่มีลักษณะที่แท้จริงได้ ดังนั้น งานจิตรกรรมส่วนใหญ่จึงออกมาในรูปแบบการประดับตกแต่งบนภาชนะเครื่องปั้นดินเผา ต่างๆ เช่น ไห แจกัน อีกทั้งมีภาพบนผนัง ซึ่งแม้จะถือว่าเป็นจิตรกรรมแท้ของกรีกก็ยังขาด ความเป็นเอกลักษณ์เพรามักเป็นภาพเล่าเรื่องงานด้านจิตรกรรมพบได้บนผนังต่างๆ และ บนภาชนะ มีลักษณะเด่นๆคือ 1. แสดงความรู้สึกตื้นลึกด้วยการเขียนซ้อนกัน 2. ใช้สีจำ กัดและแบน 3. ใช้ลวดลายประกอบกิจกรรมรูปคน 4. เรื่องราวของภาพประกอบในไหเป็นเรื่องอิเลียดและโอดิสซี 5. นิยมใช้สีดำ และสีแดงเขียนด้วยน้ำ ยาเคลือบ 6. ลักษณะง่าย ชัดเจน


ศิลปะการแสดง นาฏกรรม ละครประเภทโศกนาฏกรรม (Tragedy) และสุขนาฏกรรม (Comedy) การแสดงจะใช้นักแสดงชายทั้งหมด โดยทุกคนจะสวมหน้ากาก และมีผู้พากย์และหมู่นักร้อง (Chorus) ส่งเสียงประกอบ วรรณกรรม วรรณกรรมที่โดดเด่น ได้แก่ มหากาพย์ของโฮเมอร์ เรื่อง อีเลียด และ โอดิสซี ที่สะท้อนถึงความรู้สึกที่กวีมีต่อโศกนาฏกรรม ในสงครามทรอย (Troy) นอกจากนี้ยังให้ข้อมูลทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับสถาน ที่ที่สำ คัญ ประเพณี วิถีชีวิต และความคิดของชาวกรีกด้วย วรรณกรรมและการละครกรีกรี


มหากาพย์อิย์เอิลียลีด เรื่อ รื่ งราวของอคลิลิลิสลิ โอดิสซี เรื่อ รื่ งราวการเดินทางของโอดิสซีอุซีสอุ หลังลัจบสงครามกรุงรุทรอย


การเต้นรำ พื้นบ้าน นำ รางวัลมาสู่สมัยโบราณและวันนี้เราสามารถนับการเต้นรำ แบบดั้งเดิมได้มากกว่า 4000 รายการที่มีอยู่ในประเทศ สมัยโบราณยังคงมีชีวิตอยู่ใน รูปแบบของการเต้นรำ วัตถุประสงค์ด้านการศึกษาแสดงออกมาในระดับสูงสุด การเต้นรำ เติมเต็มช่องว่างสำ หรับบุคลิกภาพที่จะเติบโต องค์ประกอบการต่อสู้ของ การเต้นรำ เป็นกำ ลังเตรียมการที่สำ คัญที่สุดชาวกรีกได้คิดค้นศิลปะการแสดงประเภท ต่างๆ ส่วนใหญ่เป็นการจัดแสดงเพื่อเฉลิมฉลองพิธีบวงสรวงเทพเจ้าของตน เช่น ละคร กลางแจ้งซึ่งเป็นต้นแบบของการแสดงละครในปัจจุบัน ดนตรีและการละเล่นอื่นๆ แต่ละภูมิภาคของกรีซมีรูปแบบการเต้นที่แตกต่างกันไปตามความคิดของพวกเขา การเต้นรำ แบบเกาะทำ ให้เกิดอารมณ์แบบน้ำ ในขณะที่การเต้นรำ Epirot ในภาคเหนือและ ภูเขาของกรีซค่อนข้างช้าซึ่งต้องใช้ความสมดุลเป็นจำ นวนมาก การเต้นรำ แบบ Peloponnese นั้นเรียบง่ายมาก ในทางกลับกันการเต้นรำ แบบมาซิโดเนีย ก็ช้าเปลี่ยนจังหวะอย่างกะทันหัน ศิลปะการแสดง


กาลามาติอาโนส Kalamantianos เป็นการเต้นรำ แบบกรีกที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ซึ่งเป็นรากฐานของการเต้นรำ แบบกรีก นี่คือการเต้นรำ ที่ต้องเรียนรู้เมื่อชาวกรีก ทุกคนระบุตัวเองด้วยการเต้นรำ นี้ Kalamantianos คือการเต้นรำ ของกิจกรรม ทางสังคมที่หล่อหลอมการดำ รงอยู่ของภาพพาโนรามาทั้งหมดของ การเต้นรำ กรีก การเต้นรำ ที่คล้ายคลึงกันมีอิทธิพลต่ออีเลียดของโฮเมอร์ โดยที่ การเต้นรำ พื้นบ้าน ประสบกับชัยชนะของความสุข Kalamantianos ถูกขีดเส้นใต้ว่าเป็นการเต้นรำ ที่เรียบง่ายที่สุดที่การเคลื่อนไหว เป็นวงกลมทำ ให้มีชีวิตชีวาเพียงเพื่อจะเต็มไปด้วยความสุขอย่างแท้จริง เส้นวงกลมแสดงขั้นตอนที่ร่าเริง โดยปกติแล้วขาข้างหนึ่งจะอยู่ข้างหลังอีกข้าง หนึ่งโดยใช้มือกดที่ไหล่ของอีกคนหนึ่ง การเคลื่อนไหวที่เรียบง่ายแสดงถึงลักษณะ การเต้นนี้ ซึ่งสามารถเรียนรู้ได้โดยตรงที่งาน การต้อนรับอย่างอบอุ่นส่ง ให้ทุกคนเข้าร่วมในขณะที่เต้นรำ เต็มไปด้วยพลัง


กาลามาติอติาโนส


ซามิโมิกะ การเต้นรำ ที่กระฉับกระเฉงนี้เน้นไปที่จังหวะ ทำ ให้เป็นการเต้นรำ แบบดั้งเดิม ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งในกรีซ กิจกรรมระดับชาติที่แตกต่างกัน เป็นวิธีที่พบได้บ่อยที่สุดในการเต้นรำ tsamiko ซึ่งการเฉลิมฉลองสงคราม ประกาศอิสรภาพของกรีกเป็นกิจกรรมที่ธรรมดาที่สุด ชื่อ Tsamiko ใช้เพื่อเน้น Chams ผู้คนจาก Epirus ชื่ออื่นKlephtiko มาจาก Klephts หรือผู้ที่ต่อสู้กับพวกออตโตมานระหว่างสงครามอิสรภาพกรีกในปี พ.ศ. 1821 Tsamiko เป็นการเต้นรำ แบบวงกลมที่ชายและหญิงเข้าร่วม แต่ผู้ชายเท่านั้นที่เป็นผู้นำ ทักษะกายกรรมเกี่ยวข้องกับการเต้นสึมิโกะ แต่ผู้หญิงมักจะทำ ตามขั้นตอนง่ายๆ การสร้างวงในของผู้หญิง เป็นทางเลือกที่พบบ่อยที่สุด


ซามิโมิกะ


เพนโทซาลิ Pentozali เป็นการเต้นรำ ประจำ ชาติของเกาะ Crete ซึ่งค่อนข้างกระฉับกระเฉงและยังเป็นที่รู้จักในนามการเต้นรำ ของนักรบ ชื่อนี้อธิบายวิธีการเต้น Pentozali ประกอบด้วยห้าขั้นตอน เนื่องจาก pento หมายถึงห้าขั้นตอนและ zalos step ใน Cretan Hassapiko มีต้นกำ เนิดมาจากกรุงคอนสแตนติโนโปลซึ่งมีรากฐาน มาจากยุคกลางในฐานะการเต้นรำ แบบดั้งเดิมของคนขายเนื้อ ชื่อภาษากรีกมี ความหมายตามตัวอักษรว่า "การเต้นรำ ของคนขายเนื้อ" ซึ่งมีภูมิหลังมา จากสมัยไบแซนไทน์ ดาบถูกใช้ในรูปแบบดั้งเดิมเพื่อรักษาจังหวะ การต่อสู้ให้คงอยู่ หัส หัปิโปิก


เพนโทซาลิ หัส หัปิโปิก


อิคอิ าริโริอติโกส Ikariotikos เป็นการเต้นรำ แบบดั้งเดิมที่มีต้นกำ เนิดมา จากเกาะ Ikaria ที่มีอายุยืนยาวทางตอนเหนือของทะเลอีเจียนเกาะอิคาเรีย ทำ ให้ตำ นานมีชีวิตเมื่ออิคารัสตกลงไปในทะเลที่เกาะแห่งนี้ เวอร์ชันดั้งเดิมของ ikariotikos นั้นเคยช้าแต่เมื่อเวลาผ่านไปต้องใช้จังหวะที่เร็วกว่า ในครึ่งวงกลมสามส่วนพันกัน วิวัฒนาการจากการเคลื่อนไหวช้าไปเป็นการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว เซเบกิโกะ Zeibekiko เป็นการเต้นรำ ที่มีพื้นฐานมาจากการแสดงด้นสดตั้งแต่สมัย จักรวรรดิออตโตมันในศตวรรษที่ 17 Zeybeks เป็นทหารอาสาสมัครที่อาศัย อยู่ในเมือง Smyrna มักมีชื่อเล่นว่า "การเต้นรำ อินทรี"


อิคอิาริโริอติโกส เซเบกิโกะ


ซูส ซู ตา นี่คือการเต้นรำ ของหมู่เกาะ Dodecanese ที่แสดงถึง ความบันเทิงแบบใกล้ชิดระหว่างคู่รัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็น ที่นิยมในงานแต่งงาน เพลิดเพลินกับซูสต้ายอดนิยมแบบพิเศษ ครอบคลุมทุกเกาะในเวอร์ชันต่างๆ Sousta ชื่นชมบทบาทดั้งเดิม ของการแต่งงานและความโรแมนติก โดยเน้นที่การเกี้ยวพาราสี และการเคลื่อนไหวสามขั้นตอน เซอรา Serra เป็นการเต้นรำ สงครามของชาว Pontic Greeks ซึ่งมีชื่อมาจากแม่น้ำ Serra ในภูมิภาค Trapezunda ของตุรกี สมัยใหม่ การเต้นรำ แบบปอนเตียนแสดงถึงการผสมผสาน ที่มีสีสันของวัฒนธรรมกรีกและเปอร์เซีย วงกลมปิดถือเป็น ข้อยกเว้นสำ หรับรูปแบบปกติของ กรีก


ซูส ซู ตา เซอรา


หนึ่งเดียวเท่านั้น Syrtaki คือการเต้นรำ ที่เป็นตัวแทนของกรีซ Zorba the Greek เป็นภาพยนตร์จากปี 1964 ออกแบบท่าเต้นโดย Giorgios Provias ซึ่งยกย่อง Syrtaki Syrtaki ไม่ได้ออกแบบมาจาก ประเพณี แต่สำ หรับฮอลลีวูด หนังสือ "Zorbas" โดย Nikos Kazantzakis เป็นพื้นฐานสำ หรับภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงเรื่องนี้ Syrtaki เป็นอินทผลัม ที่ใหม่กว่า พัฒนามาจาก hassapiko เป็นหลัก เซอร์ท ร์ ากี้ การเต้น ต้ รำ ของกรีก รี ตามภูมิ ภู ภมิาค การเต้นรำ แบบกรีกดั้งเดิมมักจะทำ เป็นวงกลมซึ่งผ้าเช็ดหน้าหรือ จับมือสร้างจุดนำ ที่เกาะต่างๆ วงกลมถูกสร้างขึ้นโดยครอบครัว แทนที่จะจับมือกัน ผ้าเช็ดหน้ากลับถูกใช้ในสมัยโบราณ อิทธิพลอันน่าทึ่งของการเต้นรำ กรีกโบราณต่อวิถีชีวิตสมัยใหม่ ปลุกความร่าเริงและความรู้สึกทางสังคม ไม่เหมือนประเทศอื่นใด ที่การเต้นรำ แบบกรีกจะช่วยรักษาใบหน้าของจิตวิญญาณโบราณ และการแสดงออกทางศิลปะ


เซอร์ท ร์ ากี้


history Project คณะผู้จัดทำ ม.5/5 นางสาวธัญญลักษณ์ เวียงนนท์ (9) นางสาวอริสา จันทร์ศิลป์ (23) นางสาววิชุดา ธรรมยุรา (28) นางสาวณัฐชยา ฉัตรทิวาพร (30) นางสาวพิมชนก บัวคลี่ (33) นางสาวโชติกา บัวพัฒน์ (35) นายชรินทร์ คำ เปลว (41)


Click to View FlipBook Version