โฮ่งๆเจ้า4ขา

โฮ่ งโฮ่ ง!
เจ้า4

คำนำ

หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) นี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชาเทคโนโลยีสื่อ
สิ่งพิมพ์ รหัสวิชา ว30283 ในระดับชั้นมัธยมศึกษาที่ 4 โดยมีจุดประสงค์เพื่อ
ให้ผู้อ่านได้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับพันธุ์ของสุนัข ซึ่งในเล่มมีเนื้อหาประกอบด้วย
ความหมาย ต้นกำเนิด ชื่อของพันธุ์สุนัขและลักษณะของสุนัขพันธุ์ ถิ่นกำเนิด
ความเป็นมา

ทางคณะผู้จัดทำได้ทำการศึกษาพันธุ์ของสุนัข รวบรวมข้อมูลจาก
อินเทอร์เน็ต เพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่าน ในการค้นคว้าเนื้อหาเกี่ยวกับพันธุ์
ของสุนัข คณะผู้จัดทำจะต้องขอขอบคุณ คุณครูอมฤทธิ์ เกตุจันทร์ ผู้ให้ความรู้
เกี่ยวกับการจัดทำหนังสืออิเล็กทรอนิกส์รวมถึงแนวทางการศึกษาหาข้อมูล

คณะผู้จัดทำหวังว่าหนังสืออิเล็กทรอนิกส์เล่มนี้จะให้ความรู้ และเป็น
ประโยชน์แก่ผู้อ่านทุกท่านได้ไม่มากก็น้อย

คณะผู้จัดทำ

สารบัญ 1

บทนำ 3
4
▪︎สุนัขคืออะไร? ต้นกำเนิด ความจริงที่ควรรู้ 5
6
พันธุ์ของสุนัข 7
8
▪︎ชิวาวา 9
▪︎อลาสกัน มาลามิวท์ 10
▪︎โกลเด้น รีทริฟเวอร์ 11
▪︎บีเกิ้ล 12
▪︎ชิบะ 13
▪︎ไซบีเรียน ฮัสกี 14
▪︎บิชอง ฟริเซ่
▪︎ปอมเมอเรเนียน 15
▪︎ปั๊ก 16
▪︎บาเซนจิ
▪︎ซามอยด์
▪︎บูลด็อก
▪︎ดัชชุ
▪︎ลาบราดอร์

สารบัญ

▪︎เวลส์ คอร์กี้ 17
▪︎คอลลี่
▪︎ปาปิยอง 18
▪︎เชาเชา 19
▪︎ชิสุ 20
▪︎บูลเทอร์เรียร์ 21
▪︎เชทแลนด์ ชีพด็อก 22
23
พันธุ์สุนัขของไทย
25
▪︎บางแก้ว 26
▪︎ไทยหลังอาน

วันสุนัขโลก

สุนัขพันธุ์นี้...คือที่สุด

บรรณานุกรม

ดัชนี

คณะผู้จัดทำ

สุ นั ขคืออะไร?
สุนัข เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมหลายชนิดหลายสกุลในวงศ์

Canidae¹ ออกลูกเป็นตัว ลำตัวมีขนปกคลุม มีเขี้ยว 2 คู่ เท้าหน้ามี

5 นิ้ว เท้าหลังมี 4 นิ้ว ซ่อนเล็บไม่ได้ มีหลายพันธุ์ เป็นสัตว์เลี้ยง หมาใน , หมาป่ าเอเชีย หรือ หมาแดง
ชนิดแรกของมนุษย์ เป็ นหมาป่ าที่มีขนาดใหญ่กว่าหมาจิ้งจอก จมูกสั้น

ใบหูกลมมีขนาดใหญ่ ขนตามลำตัวค่อนข้างสั้นมีสี

-สุนัขที่ยังคงเป็นสัตว์ป่า เช่น หมาใน (Cuon alpinus) น้ำตาลแดง สีขนบริเวณท้องจะอ่อนกว่าบริเวณหลัง

-สุนัขที่เลี้ยงเป็นสัตว์บ้าน คือ ชนิด Canis lupus familiaris
สุนัขแต่ละพันธุ์จะมีนิสัยแตกต่างกัน หางยาวเป็ นพวง ปลายหางมีสีเทาเข้มหรือดำ

ต้นกำเนิ ดของสุ นั ข

สุนัขมีต้นกำเนิดมาจากสุนัขป่าโดยมนุษย์แถบขั้วโลกเหนือนำมาเลี้ยงเมื่อ 12,000 ปีมาแล้ว เชื่อกันว่า
สุนัขป่าตัวแรกเกิดขึ้นเมื่อ 100 ล้านปีที่แล้ว สมัยแรกเริ่มสุนัขไม่ได้มีหน้าตาเหมือนสุนัขในปัจจุบันนี้ และกว่า
จะพัฒนามาจนมีหน้าตาเหมือนปัจจุบัน ต้องใช้เวลาระยะเวลานานพอสมควรกว่าที่เราจะได้รู้จักสุนัขที่
หน้าตาเหมือนสุนัขในปัจจุบันนี้จากรูปภาพโบราณอายุประมาณ 12,000 - 14,000 ปี ในยุโรป

นักวิทยาศาสตร์คาดว่าต้นกำเนิดของสุนัขน่าจะมาจากการผสมข้ามพันธุ์ระหว่างสุนัขจิ้งจอกและสุนัขป่าเพราะ

ความเฉลียวฉลาด มีความสามารถรอบตัว รู้จักการเอาตัวรอด การเข้าสังคมกับฝูง การปรับตัวเข้าสังคมกับคน

ความจริ งที่ควรรู้

สุนัขพัฒนามาจากสัตว์กินเนื้อและ ล่าเหยื่อ ดังนั้นวิวัฒนาการของฟันสำหรับเคี้ยวเนื้อและกระดูกจึงยังคง
มีอยู่ รวมทั้งการมีประสาทดมกลิ่นและตามล่าเหยื่อที่ดีมาก นอกจากนี้สุนัขยังมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงทำให้วิ่งได้
เร็วและเร่งความเร็ว นอกจากนี้สุนัขยังมีสัญชาตญาณในการทำงานเป็นกลุ่ม ดังนั้นสุนัขจึงสามารถล่าสัตว์ที่มี
ขนาดใหญ่กว่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

¹ต้นกำเนิดของสัตว์จำพวกสุนัข

1

พั น ธุ์ ข อ ง สุ นั ข

ชิ วาวา

ถิ่นกำเนิด: เม็กซิโก
กลุ่ม: สุนัขขนาดเล็ก
อายุเฉลี่ย: 10-18 ปี
น้ำหนัก: 1.8-2.7 กิโลกรัม
ส่วนสูง: 15-23 เซนติเมตร
ขน: มี 2 ลักษณะสั้นและยาว สีขน ได้แก่ สีดำ, ขาว, ฟอน, ช็อกโกแลต, ครีม, ทอง
ลักษณะนิสัย: อุทิศตนให้, ร่าเริง, ตื่นตัว, ก้าวร้าว, ว่องไว, กล้าหาญ

ทวีปอเมริกาใต้ ในยุคที่ชนเผ่ามายาและชนเผ่า Toltec ครองดินแดนแถบประเทศเม็กซิโก และเป็นเจ้าของ
พีระมิดขั้นบันได “Chichen Itza”¹ ซึ่งในซากปรักหักพังเหล่านี้ มีภาพสลักและภาพเขียนของชิวาวาอยู่ด้วย จึงเชื่อ
กันว่าชิวาวา สืบเชื้อสายมาจากสุนัขพันธุ์ Techichi ซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงของชนพื้นเมืองโบราณ

มีข้อสันนิษฐานว่าชิวาวาอาจมีส่วนผสมสายพันธุ์จาก Chinese Crested ที่เดินทางจากจีนมาสู่แผ่นดินอเมริกา
จากหลักฐานทางพันธุศาสตร์ที่ค้นพบในปัจจุบัน สามารถระบุบ่งชี้ได้ชัดเจนแล้วว่าสุนัขสายพันธุ์ชิวาวา มีดีเอ็นเอ
จำเพาะที่พบได้ในแถบแม็กซิโกยุคโบราณจริงๆ และอาจจะได้เดินทางมายังยุโรปในยุคแห่งการค้นพบแผ่นดินใหม่
ของ คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส เพราะในจดหมายที่นักสำรวจชื่อดังท่านนี้เขียนถึงกษัตริย์สเปน ก็มีการกล่าวถึงสุนัข
สายพันธุ์ชิวาวา(CHIHUAHUA)²เอาไว้






Chinese Crested

¹1 ใน 7สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ Techichi
²ชิวาวาในภาษาสเปน
3

อลาสกัน มาลามิวท์

ถิ่นกำเนิด: สหรัฐอเมริกา (อลาสก้า)
กลุ่ม: สุนัขใช้งาน
อายุเฉลี่ย: 12-15 ปี
น้ำหนัก: 38-56 กิโลกรัม
ส่วนสูง: 58-71 เซนติเมตร
ขน: สีขาวคู่สีเทาอ่อนจนถึงดำ สีทองออกไรแดงไปจนถึงน้ำตาลเข้ม
ลักษณะนิสัย: อุทิศตนให้, เป็นมิตร, รักใคร่, สง่างาม, จงรักภักดี, ขี้เล่น

ชนเผ่าเร่ร่อน “อินูอิต” ทางตะวันตกเฉียงเหนือของอลาสก้า หรือที่เรียกว่าชาว “มาเลมุตส์” (Mahlemuts) ได้นำ
สุนัขสายพันธุ์นี้มาช่วยลากของหนักในสภาพอากาศที่โหดร้ายและเป็นเพื่อนคู่ใจในการล่าสัตว์ อลาสกัน มาลามิวท์
มีบรรพบุรุษเดียวกันกับสุนัขสายพันธุ์อื่นในแถบขั้วโลก เช่น ซามอยด์ และไซบีเรียนฮัสกี แต่สุนัขพันธุ์นี้ไม่ได้เกิดมา
เพื่อแข่งขันด้านความไว แต่เป็นด้านพละกำลัง อลาสกัน มาลามิวท์มีขนหนาสองชั้น มีร่างกายกำยำแข็งแกร่งและ
อดทน จึงไม่แปลกที่สุนัขพันธุ์นี้จะช่วยลากหรือบรรทุกของในการเดินทางแถบขั้วโลกได้

ชาวมาเลมุตส์

4

ร์ โกลเด้นรีทริฟเวอ

ถิ่นกำเนิด: อังกฤษ, สกอตแลนด์
กลุ่ม: สุนัขใช้ในกีฬา
อายุเฉลี่ย: 10-12 ปี
น้ำหนัก: 27-34 กิโลกรัม
ส่วนสูง: 51-61 เซนติเมตร
ขน: สีทองหลายเฉดตั้งแต่สีอ่อนไปจนถึงสีเข้ม
ลักษณะนิสัย: แสนรู้, เป็นมิตร, เชื่อถือได้, ใจดี, ไว้ใจได้, มั่นใจ

หลายคนเข้าใจว่าโกลเด้น รีทริฟเวอร์ สืบเชื้อสายมาจากสุนัขพันธุ์ Russian Sheepdog ที่ถูกซื้อมาจากคณะ
ละครสัตว์ แต่ความจริงแล้วสุนัขพันธุ์นี้ถูกพัฒนาสายพันธุ์ในประเทศสก็อตแลนด์ โกลเด้น รีทริฟเวอร์ ถูกเปิดตัวให้
เป็นที่รู้จักครั้งแรกที่ The Kennel Club of England ประเทศอังกฤษ ในปี ค.ศ. 1911 โดยช่วงแรกสายพันธุ์นี้ชื่อว่า
“Retriever-Yellow of Golden” และต่อมาถูกเปลี่ยนชื่อเป็น Golden Retriever ในปี ค.ศ. 1920 และถูกนำเข้าไปที่
ประเทศสหรัฐอเมริกาในปี ค.ศ. 1925 และถูกบันทึกสายพันธุ์โดย American Kennel Club (AKC) ปัจจุบันโกลเด้น รี
ทริฟเวอร์ กลายเป็นสายพันธุ์สุนัขที่คนนิยมเลี้ยงเป็นอันดับ 2 ของสหรัฐอเมริกา โกลเด้น รีทริฟเวอร์

พันธุ์ Russian Sheepdog

5

บีเกิ้ล

ถิ่นกำเนิด: อังกฤษ
กลุ่ม: สุนัขล่าสัตว์
อายุเฉลี่ย: 12-15 ปี
น้ำหนัก: 10-11 กิโลกรัม
ส่วนสูง: 33-40 เซนติเมตร
ขน: ลักษณะขนเรียบสั้น มีทุกสีของสุนัขในกลุ่มสุนัขล่าสัตว์
ลักษณะนิสัย: อ่อนโยน, น่ารัก, ขี้เล่น, ดื้อ

บีเกิ้ลจัดเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่มีประวัติมายาวนานนับศตวรรษ แม้ว่าที่มาของชื่อ บีเกิ้ล อาจจะยังไม่เป็นที่ทราบ
ชัดเจนนัก แต่ก็เชื่อกันว่ามาจากภาษาฝรั่งเศส begueule, beugler หรืออาจมาจากคำในภาษาอังกฤษ beag ภาษา
เยอรมัน begele ก็เป็นไปได้เช่นกัน ที่มาของบีเกิ้ลเชื่อกันว่าเป็นสายพันธุ์สุนัขที่สืบเชื้อสายมาจากสุนัขที่ใช้ล่าสัตว์
โดยจัดอยู่ในกลุ่มสุนัขล่าสัตว์ขนาดเล็กนิยมเลี้ยงมากในอังกฤษ ว่ากันว่าพระเจ้าวิลเลี่ยมที่ 1 ได้นำเอาสุนัขพันธุ์ทัล
บอต (ปัจจุบันสูญพันธุ์ไปแล้ว) มาที่อังกฤษในช่วงปีค.ศ. 1066 ซึ่งเป็นต้นตระกูลของบีเกิ้ลและฟอกซ์ฮาวน์ บีเกิ้ล
กลายเป็นสุนัขสายพันธุ์ยอดนิยมในประเทศอังกฤษในช่วงของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่สองและพระเจ้าเฮนรี่ที่ 7 ซึ่งบีเกิ้ล
ขนาดจิ๋วที่เรียกกันว่า Glove Beagle นั้นได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในยุคนั้น ในยุคของพระนางอลิซาเบธที่ 1 ได้
เลี้ยงสุนัขสายพันธุ์นี้ที่มีขนาดเล็กฉบับกระเป๋ า เริ่มมีการนำบีเกิ้ลมาเลี้ยงในประเทศสหรัฐอเมริกาช่วงหลังจาก
เหตุการณ์สงครามกลางเมือง และเป็นที่นิยมในหมู่นักล่ากระต่ายแทบจะทันที มีการจดทะเบียนสายพันธุ์บีเกิ้ลโดย
สมาคมพัฒนาสายพันธุ์สุนัขแห่งอเมริกา(AKC)ในปีค.ศ.1885 ซึ่งในปัจจุบันชื่อบีเกิ้ลในความหมายแถบอเมริกาเหนือ
หมายถึงสายพันธุ์ที่มีจมูกดีเป็นเลิศ เสียงไพเราะ และกระตือรื้อร้นในการล่ากระต่าย

สุนัขพันธุ์ทัลบอต

6

ชิ บะ

ถิ่นกำเนิด: ญี่ปุ่ น
กลุ่ม: สุนัขล่าสัตว์
อายุเฉลี่ย: 12-15 ปี
น้ำหนัก: 6.8-11 กิโลกรัม
ส่วนสูง: 33-43 เซนติเมตร
ขน: สีครีม, ดำ, น้ำตาลแทน
ลักษณะนิสัย: มีเสน่ห์, ฉลาดหลักแหลม, ตื่นตัว, ซื่อสัตว์, มั่นใจ, กล้าหาญ

柴犬ชิบะ อินุ ( ) คล้ายกับอาคิตะ อินุซึ่งมีรูปร่างเล็กกว่า ถือเป็นสายพันธุ์ที่มีขนาดเล็กที่สุด และน่าจะเก่าแก่

มากที่สุดของญี่ปุ่ น ทั้งนี้ไม่มีหลักฐานระบุแน่ชัดว่าเริ่มตั้งแต่สมัยใด แต่คาดว่าน่าจะใช้เป็นสุนัขล่าสัตว์มาตั้งแต่สมัย
300 ปีก่อนคริสต์ศักราชและอยู่ในสายพันธุ์สปิตซ์¹

ว่ากันว่าที่มาที่ไปของชื่อ ชิบะ อินุ มีมาจากหลายสาเหตุ บ้างเชื่อว่าคำว่า ชิบะ ในอดีตหมายถึง ขนาดเล็ก ตาม
ขนาดตัวของสุนัขสายพันธุ์นี้ แต่บ้างเชื่อว่าหมายถึง พุ่มไม้หนา ซึ่งสื่อถึงพุ่มไม้สีแดงในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ที่มีลักษณะ
คล้ายคลึงกับขนและตัวของชิบะ

อย่างไรก็ตาม สุนัขพันธุ์ชิบะ อินุ เกือบสูญพันธุ์ไปในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เนื่องจากหลายตัวล้มตายจาก
ระเบิด และหลายตัวได้รับเอฟเฟกต์มา อีกทั้งในปี ค.ศ. 1952 ก็เกือบหายไปจากญี่ปุ่ นอีกครั้งเพราะไวรัสหัดสุนัข
ระบาด แต่สุดท้ายก็รอดมาได้ เพราะมีคนนำสายพันธุ์มาพัฒนา จนทำให้มีลักษณะอย่างที่เราเห็นกันในปัจจุบัน

อาคิตะ อินุ
¹สายพันธุ์ที่มีหูตั้ง ขนหนา และหางม้วนงอ

7

ไซบีเรียน ฮัสกี

ถิ่นกำเนิด: รัสเซีย (ไชบีเรีย)

กลุ่ม: สุนัขใช้งาน

อายุเฉลี่ย: 12-15 ปี

น้ำหนัก: 16-27 กิโลกรัม

ส่วนสูง: 51-60 เซนติเมตร

ขน: สีขาว, ดำ, ดำและน้ำตาลแทน, ดำและขาว, แดงและขาว, เทา

ลักษณะนิสัย: เป็นมิตร, แสนรู้, เข้าสังคมเก่ง, ตื่นตัว, อ่อนโยน

ไซบีเรียน ฮัสกี ถือเป็นหนึ่งในสายพันธุ์สุนัขที่เก่าแก่ของโลกซึ่งถูกเลี้ยงดูและเพาะพันธุ์โดยชาวชุกชี (Chukchi)
ชนเผ่าหนึ่งในไซบีเรีย ประเทศรัสเซีย ที่ปกติจะใช้สุนัขสายพันธุ์นี้ในการลากเลื่อนบนพื้นน้ำแข็ง นอกเหนือจากความ
สามารถในการลากเลื่อนแล้ว ไซบีเรียน ฮัสกี ยังมีบทบาทเสมือนสมาชิกครอบครัวด้วย เนื่องจากชาวชุกชีเลี้ยงพวก
มันไว้เป็นเพื่อน ให้นอนร่วมกับเด็กๆ ในบ้านเพื่ออาศัยความอบอุ่นจากขนหนาเหล่านั้น
ต่อมาสุนัขไซบีเรียน ฮัสกีได้รับการขึ้นทะเบียนโดย American Kennel Club (AKC) ในปี ค.ศ. 1930 และมีการก่อตั้ง
American Husky Club ขึ้นในปี ค.ศ. 1938 อีกทั้งยังถูกขึ้นทะเบียนโดย Canadian Kennel Club ในปี ค.ศ. 1939
โดยในปัจจุบันสุนัขไซบีเรียน ฮัสกี ถือเป็นสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับที่ 12 ในประเทศสหรัฐอเมริกา

ชาวชุกชี

8

บิชอง ฟริเซ่

ถิ่นกำเนิด: ไม่แน่ชัด
กลุ่ม: สุนัขขนาเล็ก
อายุเฉลี่ย: 12-15 ปี
น้ำหนัก: 3-5 กิโลกรัม
ส่วนสูง: 22.8-30.4 เซนติเมตร
ขน: สีขาวหยิกฟู
ลักษณะนิสัย: ร่าเริง, อ่อนหวาน, อ่อนไหวง่าย, ขี้เล่น, มีเสน่ห์, ตื่นตัว, ปราดเปรียว

บิชอง ฟริเซ่ ถือกำเนิดขึ้นมาจากสุนัขพันธุ์บาร์เบท (Barbet) ซึ่งเป็นสุนัขสายพันธุ์วอเตอร์สเปเนียลตัวใหญ่ ผสม
ข้ามสายพันธุ์กับสุนัขบ้านสีขาวตัวเล็กๆ ต่อมาได้มีการพัฒนาสายพันธุ์มาเป็น บาร์บิชอง แคม (Barbichon cam)
เรียกสั้นๆ ว่า บริชอง สาเหตุที่หลายคนมักเข้าใจผิดจากรูปลักษณ์ว่าบิชอง ฟริเซ่น่าจะเป็นพูเดิล หรือมอลทีส เป็น
เพราะว่า ทั้ง 3 พันธุ์มีสุนัขพันธุ์บาร์เบทเป็นบรรพบุรุษ

ในช่วงศตวรรษที่ 13 บิชอง ฟริเซ่ เริ่มเป็นที่นิยมของกลุ่มชนชั้นสูงและราชวงศ์ฝรั่งเศส รวมไปถึงกลุ่มคณะละคร
สัตว์ที่มักเอาบิชอง ฟริเช่ไปใช้ในการแสดงต่างๆ เพื่อเอนเตอร์เทนสร้างความสุขให้ผู้ชม ทว่าก่อนที่บิชอง ฟริเซ่จะ
เริ่มเป็นที่นิยมในฝรั่งเศส มีข้อมูลอ้างอิงว่าสุนัขพันธุ์นี้มีต้นกำเนิดมากจากเกาะ คานารี ทวีปแอฟฟริกา

สุนัขพันธุ์บาร์เบท Happy go lucky

9

ปอมเมอเรเนียน

ถิ่นกำเนิด: ไอซ์แลนด์
กลุ่ม: สุนัขขนาดเล็ก
อายุเฉลี่ย: 12-16 ปี
น้ำหนัก: 1.8-3 กิโลกรัม
ส่วนสูง: 18-30 เซนติเมตร
ขน: สีขาว, ดำ, แดง, น้ำเงิน, ครีม, เฉดเทา, แทน, ส้ม, น้ำตาล
ลักษณะนิสัย: ขี้เล่น, เปิดเผย, เป็นมิตร, ชอบเข้าสังคม, แสนรู้, กระฉับกระเฉง

ปอมเมอเรเนียน มาจากจังหวัดปอมเมอเรเนียน ตั้งอยู่ทางชายฝั่งตอนใต้ของทะเลบอลติกในประเทศเยอรมัน
ซึ่งที่นี่นิยมเลี้ยงปอมเมอเรเนียนไว้เป็นทั้งสัตว์เลี้ยงและทั้งใช้งาน เพราะเดิมเป็นสุนัขพันธุ์ใหญ่ใช้ลากเลื่อนและเฝ้ า
ฝูงแกะ และเชื่อว่ามีต้นกำเนิดจากสุนัขสายพันธุ์สปิทซ์ สุนัขแถบไอซ์แลนด์และแลปแลนด์ บริเวณตอนเหนือของทวีป
ยุโรป จึงไม่แปลกที่ปอมเมอเรเนียนจะคล้ายคลึงกับสุนัขพันธุ์สปิทซ์ ทั้งหน้าตา ขนและลักษณะ

หลังจากนั้นปอมเมอเรเนียนก็ถูกพัฒนาสายพันธุ์ให้มีขนาดเล็กลงกว่าเดิม เพื่อเอาไว้เป็นสัตว์เลี้ยงเป็นเพื่อนคู่ใจ
มากกว่าใช้ทำงาน และยิ่งพัฒนาให้เล็กลงเรื่อยๆ จนเหลือตัวเท่าที่เห็นในปัจจุบัน ซึ่งในราวกลางศตวรรษที่ 19 ยังพบ
ว่าปอมเมอเรเนียนตัวแรกที่เข้ามาในอังกฤษมีน้ำหนักตัวถึง 13.6 กิโลกรัม ซึ่งนับว่าเป็นสุนัขที่ตัวใหญ่พอสมควร

สุนัขสายพันธุ์สปิ ทซ์

10

ปั๊ ก

ถิ่นกำเนิด: จีน
กลุ่ม: สุนัขขนาดเล็ก
อายุเฉลี่ย: 12-15 ปี
น้ำหนัก: 6.3-8.1 กิโลกรัม
ส่วนสูง: 25-33 เซนติเมตร
ขน: สีเงิน, น้ำตาลอมแดง, น้ำตาลทองหรือดำน้ำตาล
ลักษณะนิสัย: มีเสน่ห์ อารมณ์ดี เป็นมิตร ใจเย็น รักความสงบ

สุนัขพันธุ์นี้มีประวัติโดดเด่นมาอย่างยาวนาน คาดว่าสุนัขพันธุ์ปั๊กมีต้นกำเนิดที่ประเทศจีน และเข้าสู่ทวีปยุโรปไป
กับเรือวาณิช ก่อนจะถูกพัฒนาสายพันธุ์ในเนเธอร์แลนด์ช่วงก่อนศตวรรษที่ 16 สุนัขพันธุ์ปั๊กมีความเชื่อมโยงกับ
ราชวงศ์ดัตช์และสายราชสกุลเฮ้าส์ออฟออร์เรนจ์ (House of Orange) โดยหลังการปฏิบัติอันรุ่งโรจน์ (Glorious
Revolution) ในปี 1689 พระเจ้าวิลเลี่ยมที่สองได้ขึ้นครองราชย์ในประเทศอังกฤษ พร้อมกับมีสุนัขพันธุ์ปั๊กเคียงข้าง
ทำให้สุนัขพันธุ์นี้ได้รับความนิยมในหมู่ชนชั้นสูง

11

บาเซนจิ

ถิ่นกำเนิด: แอฟริกา
กลุ่ม: สุนัขล่าสัตว์
อายุเฉลี่ย: 12-16 ปี
น้ำหนัก: 9-12 กิโลกรัม
ส่วนสูง: 38-43 เซนติเมตร
ขน: สีดำ, ลายเสือ, สามสี, ดำและขาว, แทน, แดง, เฉดเทา, แทน, ส้ม, น้ำตาล
ลักษณะนิสัย: อยากรู้อยากเห็น, แสนรู้, มีพลัง, รักใคร่, ตื่นตัว, มั่นใจ

สันนิษฐานว่าสุนัขบาเซนจิเคยเป็นสุนัขทรงเลี้ยงของกษัตริย์ฟาโรห์ จะเห็นได้จากภาพวาดสุนัขสายพันธุ์นี้ใน
พีระมิดอียิปต์ หลังจากนั้น มีผู้นำสุนัขพันธุ์บาเซนจิเข้ามาในแอฟริกากลางเพื่อใช้กำจัดหนูพันธุ์ต่าง ๆ ในแถบคองโก
เพราะหนูในพื้นที่มีขนาดใหญ่ ดุร้าย และเป็นภัยคุกคามต่อปศุสัตว์ของชาวพื้นเมือง จึงต้องอาศัยสุนัขล่าเหยื่อที่เก่ง

บาเซนจิในภาพวาดอียิปต์

12

ซามอยด์

ถิ่นกำเนิด: รัสเซีย (ไซบีเรีย)
กลุ่ม: สุนัขใช้งาน
อายุเฉลี่ย: 12-14 ปี
น้ำหนัก: 20-30 กิโลกรัม
ส่วนสูง: 46-56 เซนติเมตร
ขน: สีขาว, ครีม
ลักษณะนิสัย: ร่าเริง, ดื้อรั้น, เป็นมิตร, ชอบเข้าสังคม, ตื่นตัว, ขี้เล่น

ซามอยด์เป็นสายพันธุ์โบราณ ที่ถูกคัดเลือกโดยชนเผ่านนอร์มังดิ (Nomadic) ในไซบีเรีย เพื่อใช้ต้อนฝูงกวางเรน
เดียร์ และลากเลื่อนหากจำเป็น แรกเริ่มสุนัขพันธุ์นี้มีหลายสี แต่ต่อมากสีขาวได้เป็นที่ยอมรับเกือบทั่วโลก โดยสุนัข
พันธุ์โซเวียต เนเนท เฮิร์ดดิ้ง ไลกา (Soviet Nenet Herding Laika) อาจจะเป็นบรรพบุรุษที่แท้จริงของสุนัขพันธุ์ซา
มอยด์ในปั จจุบัน

ซามอยด์เข้ามายังประเทศอังกฤษในช่วงปลายค.ศ.1800 โดยเป็นของขวัญจากพระเจ้าซาร์แห่งรัสเซีย (the czar
of Russia) โดยเป็นที่ทราบกันว่าพระราชินีอเล็กซานดรา (Queen Alexandra) ทรงโปรดปรานสุนัขพันธุ์นี้

ปัจจุบัน ซามอยส์อีกหลายตัวยังคงทำงาน ต้อนกวางเรนเดียร์และลากเลื่อน รวมถึงเป็นคู่หูของครอบครัวในมุม
ต่างๆ ของโลก

Soviet Nenet Herding Laika

13

บูลด็อก

ถิ่นกำเนิด: สหรัฐอเมริกา
กลุ่ม: สุนัขที่ไม่ได้ใช้ในกีฬา
อายุเฉลี่ย: 8-12 ปี
น้ำหนัก: 18-25 กิโลกรัม
ส่วนสูง: 30.4-38.1 วเซนติเมตร
ขน: น้ำตาล, เทาเข้ม
ลักษณะนิสัย: เปิดเผย, เป็นมิตร, รักสงบ, เฉื่อยชา, ดื้อ

เวอร์ชั่นเก่า-ในช่วงยุควิคตอเรียของประเทศอังกฤษ บูลด็อกเป็นสุนัขที่ใช้ต่อสู้ในเกมกีฬาที่เรียกว่า บูลเบทติ้ง

แต่ด้วยความโหดร้ายของกีฬาดังกล่าว สุนัขบูลด็อกจึงถูกปรับปรุงพันธ์ุให้กลายเป็นเพื่อนของมนุษย์

เวอร์ชั่นใหม่-ถูกเปิดตัวครั้งแรกในงานแสดงสุนัขประเทศอังกฤษในปี ค.ศ. 1860 ต่อมาสุนัขบูลด็อกก็ค่อย ๆ ได้

รับความนิยมมากขึ้น นอกจากนี้สุนัขบูลด็อกยังถูกใช้เป็ นสัญลักษณ์ประจำประเทศ ส่วนทางฝั่ งประเทศ

สหรัฐอเมริกาสุนัขบูลด็อกยังถูกใช้เป็ นมาสคอตของทีมกีฬาหลายทีม

14

ดัชชุ น

ถิ่นกำเนิด: เยอรมนี
กลุ่ม: สุนัขล่าสัตว์
อายุเฉลี่ย: 12-14 ปี
น้ำหนัก: 4.5-12 กิโลกรัม
ส่วนสูง: 15-20 เซนติเมตร
ขน: สีดำ, น้ำตาลแดง, สีครีม,สีแทน,สีแดง
ลักษณะนิสัย: ขี้เฉลียวฉลาด, ดื้อรั้น, อุทิศตนให้, ร่าเริง, รักอิสระ, กระฉับกระเฉง,
ขี้เล่น, กล้าหาญ

ต้นกำเนิดของดัชชุนมาจากประเทศเยอรมนี เจ้าดัชชุนเป็นที่เลื่องลือในเรื่องการล่า ซึ่งสายพันธุ์นี้ได้เริ่มพัฒนาจริงจัง
ในช่วงปี ค.ศ. 1700 ด้วยสรีระรูปร่างของดัชชุนที่มีลักษณะ ขาสั้น, ผิวหย่อนคล้อย, หน้าอกกว้าง มีนิสัยรักอิสระ
และเด็ดเดี่ยวนี้ ดัชชุนจึงถูกเลี้ยงไว้เพื่อใช้ล่าสัตว์ และขนาดตัวที่เล็กจึงเหมาะแก่การคาบสัตว์ที่อยู่ในโพรง ในช่วงปี
ค.ศ. 1800 ดัชชุนถูกนำมาเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงในบ้านมากกว่านำไปใช้ล่าสัตว์ และดัชชุนได้เป็นที่นิยมในอังกฤษและ
อเมริกาในช่วงต้นปี 1900 แต่พอในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ดัชชุนหลงเหลืออยู่น้อยมากเพราะระหว่างนั้น อังกฤษ
และอเมริกา (ฝ่ ายพันธมิตร) ได้ทำสงครามกับเยอรมนี (ฝ่ ายอักษะ) ทำให้มีกระแสเกลียดชังฝ่ ายตรงข้าม บางครั้งผู้
ที่เลี้ยงดัชชุนจะถูกตราหน้าว่าเป็น “กบฏ” จึงทำให้ความนิยมเลี้ยงดัชชุนลดลง แต่หลังสงครามครั้งที่ 1 จบลง ความ
นิยมของดัชชุนก็ได้เพิ่มขึ้นอีกครั้งในประเทศอเมริกาและอังกฤษมาจนถึงปั จจุบัน

สุนัขสายพันธุ์ดุชชุน

15

ลาบราดอร์

ถิ่นกำเนิด: แคนาดา (เกาะนิวฟันแลนด์)
กลุ่ม: สุนัขใช้ในการกีข
อายุเฉลี่ย: 10-12 ปี
น้ำหนัก: 24-36 กิโลกรัม
ส่วนสูง: 54.6-62.2 เซนติเมตร
ขน: สีดำ, สีน้ำตาลช็อคโกแลต, สีเหลืองครีม
ลักษณะนิสัย: ใจเย็น, แสนรู้, เข้าสังคมเก่ง,คล่องแคล่ว, ใจดี,อ่อนโยน

ลาบราดอร์เป็นสุนัขพันธุ์ใหญ่ที่มีต้นกำเนิดจากเกาะนิวฟันด์แลนด์ ในปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของประเทศแคนาดา
โดยชื่อสายพันธุ์ถูกตั้งตามชื่อเมืองลาบราดอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองอาณานิคมของเกาะแห่งนี้ สุนัขพันธุ์ลาบราดอร์
อุปนิสัยร่าเริง เป็นมิตร และอ่อนโยน แม้ว่าเริ่มแรกพวกเค้าจะถูกเพาะพันธุ์มาเพื่อล่าสัตว์และเล่นกีฬาสำหรับสุนัข
แต่ทุกวันนี้พวกเค้าได้กลายเป็นสัตว์เลี้ยงที่แสนน่ารัก อีกทั้งยังถูกฝึกให้เป็นสุนัขนำทาง สุนัขช่วยเหลือ และสุนัข
บำบัดอีกด้วย

สุนัขสายพันธุ์ลาบราดอร์

16

เวลส์ คอร์กี้

ถิ่นกำเนิด: อังกฤษ
กลุ่ม: สุนัขต้อนฝูงสัตว์
อายุเฉลี่ย: 12-15 ปี
น้ำหนัก: 10-14 กิโลกรัม
ส่วนสูง: 25-30 เซนติเมตร
ขน: สีดำและน้ำตาลแทน, สีดำและขาว, สีเซเบิ้ล, สีแดง
ลักษณะนิสัย: เป็นมิตร, เข้มแข็ง, เข้าสังคมเก่ง, ปกป้ อง, ขี้เล่น

เวลช์ คอร์กี้ ได้ตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 12 โดยเริ่มแรกจะเรียกสุนัขพันธุ์นี้กันว่า Welsh Cur กระทั่งถึงศตวรรษที่ 19 จึง
เปลี่ยนมาเรียกเป็น Welsh Corgi จนถึงปัจจุบัน ทั้งนี้สุนัข เวลช์ คอร์กี้ ได้ถูกนำมาพัฒนาสายพันธุ์ที่เมือง
Pembrokeshire ในแคว้นเวลส์ จึงเป็นที่มาของชื่อสายพันธุ์เต็ม ๆ ว่า Welsh Corgi Pembroke อย่างไรก็ดี มีอีก
ข้อมูลระบุว่า สุนัขพันธุ์ เวลช์ คอร์กี้ ได้ถูกนำมาที่ Wales โดย Flemish ในปี 1100 พวกมันเคยถูกใช้ให้ขับไล่วัวโดย
การเห่าไล่งับที่น่องวัว ด้วยรูปร่างที่เตี้ยช่วยให้มันหลบได้ทันเมื่อวัวเตะ
นอกจากนี้ สุนัขพันธุ์ เวลช์ คอร์กี้ ยังเป็นที่นิยมและรักใคร่ของราชวงศ์อังกฤษมาโดยตลอด ดังจะเห็นจาก
ประวัติศาสตร์สมัยพระเจ้าจอร์จที่ 6 ได้พระราชทาน สุนัข เวลช์ คอร์กี้ ให้แก่พระราชธิดาใน ค.ศ.1936

สุนัขสายพันธุ์เวลส์ คอร์กี้

17

คอลลี่

ถิ่นกำเนิด: สกอตแลนด์
กลุ่ม: สุนัขต้อนฝูงสัตว์
อายุเฉลี่ย: 10-14 ปี
น้ำหนัก: 14-20 กิโลกรัม
ส่วนสูง: 48-56 เซนติเมตร
ขน: สีน้ำตาลแดงปนขาว
ลักษณะนิสัย: ฉลาด, ชอบอยู่กับคน, กระฉับกระเฉง, กระตือรือร้น

คอลลี่มีต้นกำเนิดอยู่ที่ประเทศสกอตแลนด์ ส่วนใหญ่มาจากบริเวณที่ราบสูง เมื่อก่อนเคยถูกเรียกว่า Collis,
Colley, Coally, และ Coaly ที่มาจากคำว่า col หรือ coll ในภาษาแองโกลแซกซอน นักประวัติศาสตร์บางคนก็เชื่อ
ว่าชื่อของคอลลี่มาจาก the colley แกะหน้าดำ (Scottish black-faced)

ในยุคหิน ชนเผ่าเร่ร่อนนำสุนัขไปยังทางใต้ของอังกฤษ พวกเขาใช้สุนัขในการต้อนฝูงแกะ, วัวควาย, แพะ และ หมู
นักประวัติศาสตร์บางคนกล่าวว่าบรรพบุรุษของน้องคอลลี่ถูกพาไปที่เกาะอังกฤษโดยนักรบชาวโรมัน เมื่อประมาณ
สองพันปี ที่แล้ว

พระราชินีวิคตอเรียเป็นผู้ที่ได้รับการยกย่องว่าช่วยให้คอลลี่กลายเป็นที่รู้จัก ในปีค.ศ.1860 พระองค์เสด็จไปที่
สกอตแลนด์ และได้ตกหลุมรักความสวยงามและนิสัยที่อ่อนโยนของเจ้าคอลลี่ จึงได้นำกลับไปที่ประเทศอังกฤษและ
ทำให้เจ้าคอลลี่กลายเป็ นที่นิยมขึ้นมา

สุนัขสายพันธุ์สปิ ทซ์

18

ปาปิ ยอง

ถิ่นกำเนิด: ฝรั่งเศส
กลุ่ม: สุนัขขนาดเล็ก
อายุเฉลี่ย: 13-16 ปี
น้ำหนัก: 3.2-4.5 กิโลกรัม
ส่วนสูง: 20-28เซนติเมตร
ขน: สีขาว, ดำและขาว, น้ำตาลและขาว
ลักษณะนิสัย: เป็นมิตร, แสนรู้, มีพลัง,ตื่นตัว, เบิกบาน

ปาปิยองเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่เก่าแก่มากที่สุดสายพันธุ์หนึ่งที่ได้รับการบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ของยุโรป มีการ
สันนิษฐานถิ่ยกำเนิดว่าอยู่ในประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเดิมปาปิยองเป็นน้องหมาหูตก มีชื่อเรียกว่า สเปเนียลแคระ เป็นที่
นิยมนำมาเป็นแบบวาดรูปของอิตาลีช่วงคริสศตวรรษที่ 13 ถึงคริสศตวรรษที่ 15 นอกจากนี้ยังพบในภาพวาดของ
ฝรั่งเสศและเสปน ส่วนมากจะเป็นรูปน้องหมาปาปิยองนั่งอยู่บนตักของหญิงสาวผู้สูงศักดิ์ โดยทางสมาคมพัฒนา
พันธุ์สุนัขFCI ได้ตั้งชื่อพวกเขาอย่างเป็นทางการว่า "ทอย สเปเนียล" ต่อมามีการพัฒนาสายพันธุ์กลายมาเป็นปาปิย
องหูตั้ง ขนหูแผ่ยาวสบายคล้ายปีกผีเสื้อ จึงเปลี่ยนชื่อมาเป็นปาปิยอง ที่แปลว่า ผีเสื้อในภาษาฝรั่งเศส ซึ่งสมาคม
พัฒนาพันธุ์สุนัข AKC เลือกที่จะเรียกพวกเขาว่า "ปาปิยอง" ส่วนปาปิยองหูตกจะเรียกเป็นอีกชื่อว่า "ฟาแลน"
(Phalène) ซึ่งปาปิยองได้รับการจดทะเบียนของสมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัข AKC เมื่อปีค.ศ. 1915

สุนัขสายพันธุ์ปาปิ ยอง

19

เชาเชา

ถิ่นกำเนิด: จีน
กลุ่ม: สุนัขที่ไม่ได้ใช้ในกีฬา
อายุเฉลี่ย: 9-15 ปี
น้ำหนัก: 20-32 กิโลกรัม
ส่วนสูง: 43-50 เซนติเมตร
ขน: มีขนสั้น หนา 2 ชั้น สีได้แก่ สีดำ, น้ำเงิน, ฟอน, ครีม, แดง
ลักษณะนิสัย: สันโดษ, จงรักภักดี, รักอิสระ, สงบเสงี่ยม

เชาเชา ถือเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 206 ปีก่อนคริสตกาล เชื่อกันว่า
เชาเชามีต้นกำเนิดจากประเทศจีน โดยทำหน้าที่เป็นสุนัขเฝ้ าวัด แม้ในปัจจุบันเชาเชาจะจัดอยู่ในกลุ่มสุนัขที่ไม่ได้ใช้
ในกีฬา แต่ในอดีตพวกมันได้รับการเพาะพันธุ์มาเพื่อล่าสัตว์โดยเฉพาะ นอกจากนี้ชื่อสายพันธุ์เชาเชาก็มีความเป็นมา
ที่น่าสนใจ โดยคำว่า ”เชา เชา” เป็นชื่อเรียกสินค้าเบ็ดเตล็ดที่ไม่รู้จักของพ่อค้าชาวอังกฤษในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 17
ซึ่งสุนัขพันธุ์นี้ก็เป็นหนึ่งในสินค้าดังกล่าว ต่อมาในปี 1895 มีการก่อตั้งสโมสรการเพาะพันธุ์สุนัขเชาเชาขึ้นใน
ประเทศอังกฤษ บวกกับได้รับความช่วยเหลือจากสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย จึงทำให้เป็นสายพันธุ์ที่ได้รับความ
นิยมมากยิ่งขึ้น ตัวอย่างคนดังที่เลี้ยงเชาเชา ได้แก่ มาร์ธา สจ๊วต,สตีเฟน เจมส์,คลาร์ก เกเบิล, โดโรธี ลามูร์, แคลวิน
คูลิดจ์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา และพระเจ้าซ็อกที่ 1 แห่งแอลเบเนีย

มาร์ธา สจ๊วต

20

ชิ สุ

ถิ่นกำเนิด: ทิเบต
กลุ่ม: สุนัขขนาดเล็ก
อายุเฉลี่ย: 10-16 ปี
น้ำหนัก: 4.5–8.1 กิโลกรัม
ส่วนสูง: 20-28 เซนติเมตร
ขน: สีดำ, ขาว, ลายเสือ, ดำขาว, น้ำเงินคราม, ทอง
ลักษณะนิสัย: เฉลียวฉลาด, เป็นมิตร, แสนรู้, ร่าเริง, รักใคร่, ใจกล้า, รักอิสระ,

ชิสุมีต้นกำเนิดมาจากทิเบตเมื่อกว่า 2,000 ปีที่แล้ว และมีประวัติเกี่ยวข้องกับราชวงศ์ โดยพวกมันรับหน้าที่เป็น
สุนัขเฝ้ ายามของพระราชวัง อีกทั้งยังเป็นสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในหมู่ชนชั้นสูงและเหล่าราชวงศ์
ของจีนมากถึงขั้นว่ามีกฎห้ามขายหรือแลกเปลี่ยนสุนัขพันธุ์ชิสุโดยเด็ดขาด ทั้งนี้ราชวงศ์จีนได้ตั้งชื่อเรียกให้ชิสุห์ว่า
เป็น 'สุนัขดอกเบญจมาศ' เพราะขนบริเวณใบหน้าคล้ายกับกลีบดอกไม้ ชิสุมีความเกี่ยวข้องกับพุทธศาสนา และได้
รับการเพาะพันธุ์ให้มีลักษณะคล้ายสิงโตตัวน้อยโดยพระทิเบต ทั้งนี้มีตำนานเล่าว่า เทพเจ้าแห่งการเรียนรู้ของชาว
พุทธในทิเบตออกเดินทางไปพร้อมกับสุนัขที่คล้ายกับสิงโตตัวเล็ก แต่ที่พิเศษคือสุนัขตัวนี้สามารถแปลงร่างเป็นสิงโต
ตัวใหญ่ได้ ในปี 1934 สุนัขพันธุ์ชิสุ และพันธุ์ลาซา แอปโซ ทำให้เกิดความสับสนมากมายในประเทศอังกฤษ ทั้งสอง
สายพันธุ์ถูกประกาศว่ามีความแตกต่างกัน จุดสำคัญที่สร้างความแตกต่างคือช่วงปากของพวกเค้า โดยลาซา แอปโซ
จะมีช่วงปากที่ยาวกว่า ดวงตาเล็กกว่า รวมถึงลักษณะขนก็ต่างกัน ลาซา แอปโซจะมีขนยาวตรง ขณะที่ชิสุมีขนค่อน
ข้างหยักศก ตัวอย่างคนดังที่เลี้ยงชิสุห์ เช่น นิโคล ริชชี่, มารายห์ แครี, บียอนเซ่, โคลิน ฟาร์เรล, บิล เกตส์ และ
สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 จากราชวงศ์อังกฤษ

สุนัขสายพันธุ์ลาซา แอปโซ

21

บูลเทอร์เรียร์

ถิ่นกำเนิด: อังกฤษ
กลุ่ม: สุนัขเทอร์เรียร์
อายุเฉลี่ย: 10-14 ปี
น้ำหนัก: 22-38 กิโลกรัม
ส่วนสูง: 51-61 เซนติเมตร
ขน: สั้นและหนา มีสีขาว, ดำ, ขาวแต้มดำ, น้ำตาล
ลักษณะนิสัย: กล้าหาญ, มีเสน่ห์, ต้องการได้รับความสนใจ

บูลเทอร์เรียร์ เกิดขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 เมื่อมีนักสำรวจชื่อ James Hinks ได้ทำการผสมพันธุ์ข้ามสายพันธุ์
ระหว่างสุนัขพันธุ์บูลด็อก (Bulldog) กับสุนัขพันธุ์โอลด์ อิงลิช เทอร์เรีย (Old English Terrier)

ในช่วงกลางของศตวรรษที่ 19 มีการนำสุนัขที่ทำการผสมระหว่าง 2 สายพันธุ์มาผสมพันธุ์กับพันธุ์ไวท์บูลเท
อร์เรีย(White Bull Terrier) จึงได้สุนัขที่มีขนขาวล้วนทั้งตัว ซึ่งสุนัขที่ได้ทำการผสม 3 สายพันธุ์ ได้ถูกตั้งชื่อพันธุ์เป็น
พันธุ์ ไวท์ คาวาเลียร์ (White Cavalier) เป็นสุนัขที่ได้รับความนิยมอย่างมากของชนชั้นสูง

ในช่วงท้ายของศตวรรษที่ 19 บูลเทอร์เรีย ถูกนำมาเลี้ยงในสหรัฐอเมริกาเป็นครั้งแรก และได้รับความนิยมเป็น
อย่างกว้างขวางในเวลาไม่นาน หลังจากนั้นสมาคม The American Kennel Club (AKC) ได้ขึ้นทะเบียนสายพันธุ์
สุนัข ในปี ค.ศ. 1885 ทำให้เป็นที่จับตามองเป็นอย่างมาก

บูลเทอร์เรีย ไม่นิยมนำมาใช้เพื่อต่อสู้มากนัก แต่เนื่องจากพื้นฐานทางสายพันธุ์ที่แสดงออกจึงถูกนำมาใช้เพื่อต่อสู้
และสมาคม AKC ได้จัดอันดับความนิยมของสุนัข สุนัขพันธุ์นี้จะอยู่ในอันดับปานกลาง

22

ถิ่นกำเนิด: สกอตแลนด์ เชทแลนด์ ชีพด็อ

ก

กลุ่ม: สุนัขต้อนฝูงสัตว์

อายุเฉลี่ย: 12-14 ปี

น้ำหนัก: 5–14 กิโลกรัม

ส่วนสูง: 33-41 เซนติเมตร

ขน: มีขน 2 ชั้นนอกยาว หนา ชั้นในอ่อนนุ่ม สีได้แก่ สีดำขาวน้ำตาล, ดำขาว

ลักษณะนิสัย: แสนรู้, ร่าเริง, รักใคร่, กระฉับกระเฉง, จงรักภักดี, ขี้เล่น, อ่อนโยน

เชทแลนด์ ชีพด็อก (Shetland Sheepdog) มีต้นกำเนิดมาจากเกาะเกาะเชทแลนด์ (Shetland Islands) ประเทศ
สกอตแลนด์ สามารถทำงานหนักได้ แต่ก่อนเชทแลนด์ ชีพด็อกถูกใช้เพื่อต้อนและปกป้ องฝูงแกะ พวกมันจึงเป็นสิ่งที่
จำเป็นสำหรับเกษตรกรและคนเลี้ยงสัตว์ ต่อมาเชื่อกันว่าเชทแลนด์ ชีพด็อกเป็นลูกผสมระหว่าง สุนัขพันธุ์คอลลี่
กับ สุนัขขนาดเล็กบางชนิด เนื่องจากมีลักษณะที่คล้ายคลึงกันหลายอย่าง

ในช่วงปี 1800 เชทแลนด์ ชีพด็อกได้เดินทางไปยังประเทศสกอตแลนด์และประเทศอังกฤษ โดยพวกมันยังคงทำ
หน้าที่ในการเป็นสุนัขต้อนสัตว์เช่นเคย ในช่วงเวลาเหล่านี้ พวกมันได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีขนาด
เล็กกระทัดรัดและมีความชำนาญในการต้อนสัตว์

แม้ว่าสุนัขสายพันธุ์นี้จะเป็นที่รักของใครหลายๆ คนแต่สุนัขสายพันธุ์นี้ ทำให้เกิดข้อโต้เถียงกันอย่างมากทั้งใน
อังกฤษและอเมริกา ผู้เพาะพันธุ์หลายคนและเจ้าของไม่สามารถตกลงกันได้ว่าเชทแลนด์ ชีพด็อกควรจะมีลักษณะ
เป็นอย่างไร สิ่งเหล่านี้ทำให้สโมสรและองค์กรที่แสดงความคิดเห็นส่วนตัวเกี่ยวกับสายพันธุ์นี้มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น
จนกระทั่งในปี 1930 กลุ่มเหล่านี้ก็สามารถตกลงร่วมกันเกี่ยวกับลักษณะของเชทแลนด์ ชีพด็อกตามที่ต้องการได้

ช่วงต้นในปี 1970 เชทแลนด์ ชีพด็อกได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว พวกมันติดอันดับ 1 ใน 10 ของสายพันธุ์
สุนัขที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในอเมริกา จนกระทั่งทุกวันนี้เชทแลนด์ ชีพด็อกก็ยังคงเป็นที่ชื่นชอบของคนใน
ครอบครัว เนื่องจากพวกมันมีความซื่อสัตย์และความแข็งแรง

23

พั น ธุ์ ข อ ง สุ นั ข ไ ท ย

ไทยหลังอาน

ถิ่นกำเนิด: ไทย
กลุ่ม: สุนัขล่าสัตว์
อายุเฉลี่ย: 10-12 ปี
น้ำหนัก: 16-34 กิโลกรัม
ส่วนสูง: 51-61 เซนติเมตร
ขน: สีดำ, ฟอน, น้ำเงินคราม, แดง
ลักษณะนิสัย: แสนรู้, จงรักภักดี, รักอิสระ, ปกป้ อง, แสดงความรัก

หมาพันธุ์ไทยหลังอาน มีบันทึกครั้งแรกที่ประเทศไทยเมื่อประมาณ 350 ปีทีแล้ว หรืออาจมากกว่านั้น โดยมีทฤษฎี
หนึ่งกล่าวไว้ว่าสุนัขพันธุ์นี้สืบเชื้อสายมาจากสุนัขพันธุ์พันธุ์ Hottentot ที่สูญพันธุ์ไปแล้ว และมีความเกี่ยวข้องในการ
พัฒนาของสายพันธุ์ Rhodesiam ridgeback ในปัจจุบันสุนัขพันธุ์ไทยหลังอาน ถูกนำมาเลี้ยงโดยมีจุดประสงค์ที่
ต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นสุนัขเฝ้ าระวังและสุนัขแจ้งเตือนภัย, สุนัขคุ้มกัน, สุนัขสำหรับเกมส์ล่าสัตว์ หรือคอยกำจัดงูเห่า
ตามชายหาด ซึ่งโดยส่วนใหญ่สุนัขพันธุ์ไทยหลังอานมักจะอาศัยอยู่ทางตะวันออกของไทย โดยเฉพาะบนเกาะ เช่น
เกาะดาวฟูก๊วก ซึ่งติดกับชายแทนประเทศกัมพูชาและเวียดนามสายพันธุ์นี้พบครั้งแรกในประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อปี
1994 โดยมีบันทึกในสมาคมสุนัขในสหราชอาณาจักรในปี 1996 และมีบันทึกในสมาคม American Kennel Club’s
Foundation Stock Service ในปี 1997

25

บางแก้ว

ถิ่นกำเนิด: ไทย (พิษณุโลก)
กลุ่ม: สุนัขขนาดเล็ก
อายุเฉลี่ย: 10-12 ปี
น้ำหนัก: 16-20 กิโลกรัม
ส่วนสูง: 41-56 เซนติเมตร
ขน: สีดำและขาว, น้ำตาลและขาว, ขาวและแทน, แดงและขาว
ลักษณะนิสัย: แสนรู้, ปกป้ อง, อุทิศตนให้, คล่องแคล่ว, กระฉับกระเฉง

เมื่อ 100 ปีที่แล้ว มีพระสงฆ์จำวัดที่วัดบางแก้ว (Bangkaew temple) ใกล้กับแม่น้ำยม (Yom river) เลี้ยงสุนัขเพศ
เมียกำลังตั้งท้องอยู่ภายในวัด แต่ไม่มีสุนัขเพศผู้อยู่ด้วย จึงทำให้ไม่สามารถระบุสายพันธุ์สัตว์ได้ จึงสันนิษฐานว่ามี
การผสมกับหมาใน (Asiatic Wild Dog) หรือ สุนัขจิ้งจอก (Jackal) ซึ่งในต่อมาได้มีการตรวจสายพันธุกรรม (DNA)
จึงสรุปได้ว่าเป็นการผสมพันธุ์ระหว่างสุนัขพันธุ์ไทย (Domestic dog) กับ สุนัขจิ้งจอกทอง (Golden Jackal) หลัง
จากนั้นไม่นาน สุนัขตัวนี้ได้ไปผสมพันธุ์กับสุนัขท้องถิ่นที่ไว้ใช้ต้อนแกะ (Local shepherding dog) โดยลักษณะทาง
กายภาพภายนอกคล้ายสุนัขพันธุ์พื้นบ้านของไทยในปีค.ศ. 1980 หรือ พ.ศ.2523 มีสัตวแพทย์ชื่อ Nisit
Tangtrakarnpong เป็นสัตวแพทย์ที่ค้นพบสายพันธุกรรมของสุนัขพันธุ์บางแก้วโดยเฉพาะแตกต่างกับสายพันธุ์อื่น
องค์กร The Fédération cynologique internationale (FCI) ได้ทำการยอมรับสุนัขสายพันธุ์ไทยบางแก้วชั่วคราว
โดยถูกจัดอยู่ในประเภทสุนัขที่มีใบหูแหลมและสุนัขสายพันธุ์อื่น (Spitz and other breeds) แต่ไม่ได้รับการจด
ทะเบียนสายพันธุ์สุนัขจากสมาคม official kennel club และไม่ได้รับความนิยมจากต่างประเทศ

สุนัขสายพันธุ์สปิ ทซ์

26

วันสุนัขโลก

บรรณานุกรม

ก ดัชนี 1
1
วันสุนัขโลก ก
สุนัขพันธุ์นี้...คือที่สุด 2
บรรณานุกรม 1 วันสุนัขโลก 3
ดัชนี้ 1 สุนัขพันธุ์นี้...คือที่สุด 4
สมาชิก 5
บรรณานุกรม 6
2 ดัชนี้ 7
3 สมาชิก 8
4
5
6
7
8

คณะผู้จัดทำ