The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by DPT eBook, 2020-08-13 23:00:11

คู่มือการก่อสร้างอาคารเหล็กโครงสร้างรูปพรรณ

กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย

Keywords: คู่มือการก่อสร้างอาคารเหล็กโครงสร้างรูปพรรณ

5) ความคลาดเคลื่อนระหว่างจุดศูนย์กลางของกลุ่มสมอยึดกับแนวเสาของกลุ่มสมอยึดนั้น
มคี ่าไม่เกนิ 6 มลิ ลเิ มตร

หากไม่มีการระบุเป็นอย่างอื่น การติดต้ังสมอยึดจะติดต้ังให้แกนตามแนวยาวของสมอยึดตั้ง
ฉากกบั ผิวสมั ผัสรับแรงแบกทาง

2.6.6 การจัดวางฐานเสา

ฐานเสาจะต้องถูกปรับให้ได้ระดับ และระดับความสูงที่ถูกต้องท่ีสามารถรับแรงแบกทานได้
เตม็ ทีบ่ นคอนกรตี หรืออิฐก่อ

2.6.7 เสถียรภาพ และรอยตอ่

โครงของอาคารโครงสร้างเหล็กจะต้องต้ังตรงและอยู่ในแนวด่ิง ในข้ันตอนการติดต้ัง
โครงสร้างจะต้องมีการยึดให้มั่นคงเพ่ือรองรับนํ้าหนักคงที่ น้ําหนักระหว่างการติดต้ัง และนํ้าหนัก
อ่ืนๆ ที่เกิดขึ้นในระหว่างการก่อสร้าง จะต้องมีการติดตั้งคํ้ายันชั่วคราวในจุดท่ีจําเป็น
เพื่อรับน้ําหนักบรรทุกท่ีโครงสร้างนั้นอาจจะต้องรองรับ รวมถึงน้ําหนักของอุปกรณ์
และการปฏิบัติงานต่างๆ และควรคงค้ํายันไว้ตลอดระยะเวลาท่ีต้องการเพื่อความปลอดภัย
รูปท่ี 23 แสดงตัวอย่างการยึดคานด้วยลวดสลิงเพื่อทําหน้าที่คํ้ายันคานขณะติดต้ังเพื่อป้องกัน
การเกดิ การโก่งเดาะของคาน

ค่มู ือการกอ่ สร้างอาคารเหลก็ โครงสร้างรูปพรรณ หน้าที่ 40

ลวดสลงิ ยึดที่กลางคานหรือตาํ แหน่งอ่ืนที่เหมาะสม
ตามทว่ี ศิ วกรกาํ หนดโดยอาจจะเจาะรูชนาดเล็ก
สาํ หรับยดึ ลวดสลงิ

เสาและคานเหลก็
โครงสร้างรปู พรรณ

ลวดสลิงขนาด แผน่ ฐานยึดด้วย
ทีเ่ หมาะสม สลกั เกลยี ว

แผน่ ฐานยดึ ดว้ ย สมอยึดลวดสลิง
สลกั เกลียว โดยตดิ ตงั้ บนพนื้ ที่
แข็งแรงมัน่ คงเพยี พอ

รูปท่ี 23 ตวั อยา่ งการยดึ คานดว้ ยลวดสลงิ เพ่ือคา้ํ ยนั คานขณะตดิ ตัง้ เพอื่ ปอ้ งกนั การเกิด
การโกง่ เดาะของคาน
(ข้อ 2.6.7)

2.6.8 การจดั แนว

ห้ามทําการยึดด้วยสลักเกลียว หรือเชื่อมอย่างถาวร จนกว่าจะทําการจัดแนวของโครงสร้าง
สว่ นท่ีตดิ กันท่ีไดร้ บั ผลกระทบจากการยดึ ให้ถกู ตอ้ งเสียกอ่ น

2.6.9 รอยตอ่ รบั แรงอดั ของเสา และแผน่ รองฐาน (base plate) ทเี่ หมาะสม

อนุญาตให้พ้ืนผิวสัมผัสรับแรงแบกทานมีช่องว่างได้ไม่เกิน 2 มิลลิเมตร โดยไม่ต้องคํานึงถึง
ชนิดของรอยต่อ (การเชื่อมแบบบากร่องไม่ทะลุตลอด (partial–joint–penetration–groove-
welded) หรือการใช้สลักเกลียว) ถ้ามีช่องว่างท่ีมีขนาดเกิน 2 มิลลิเมตร แต่ไม่เกิน 6 มิลลิเมตร
และถ้าหากผลการตรวจสอบทางวิศวกรรมพบว่าพ้ืนผิวสัมผัสไม่เพียงพอ จะต้องมีการรองช่องว่าง
ด้วยแผ่นเหล็กที่ไม่มีความลาดเอียง (nontapered steel shim) แผ่นเหล็กที่ใช้รอง
สามารถใช้แผ่นเหล็กกล้าละมนุ (mild steel) ได้ โดยไมต่ ้องคํานึงถงึ ชนิดของวัสดุหลักท่ใี ช้

ค่มู ือการกอ่ สร้างอาคารเหลก็ โครงสร้างรูปพรรณ หน้าท่ี 41

2.6.10 การเช่ือมในสนาม

พ้ืนผิวในและบริเวณข้างเคียงจุดต่อท่ีจะมีการเช่ือมในสนามจะต้องเตรียมพื้นผิวให้ม่ันใจว่า
จะได้การเช่ือมท่ีมีคุณภาพดี การเตรียมพ้ืนผิวคลอบคลุมการเตรียมพื้นผิวที่จําเป็นเพ่ือปรับแก้
ความเสยี หายหรือการปนเป้อื นทีเ่ กดิ ข้ึนระหว่างการประกอบชนิ้ สว่ นด้วย

2.6.11 การทาสีในสนาม

หน้าท่ีการทาสีซ่อม การทําความสะอาด และการทาสีในสนามจะต้องมีการกําหนด
และใหเ้ ป็นไปตามวธิ ีการปฏบิ ัติท่ยี อมรับ และจะตอ้ งระบุไว้อย่างชดั เจนในเอกสารสัญญาด้วย

2.6.12 น่งั รา้ น

หากมีการใช้น่ังร้านในการติดตั้ง การออกแบบ การติดต้ัง และการตรวจสอบน่ังร้าน
จะต้องเป็นไปตามมาตรฐานของกรมโยธาธิการและผังเมือง หรือมาตรฐานหรือข้อกําหนดอื่น
ทเ่ี ก่ียวขอ้ ง

2.6.13 ผคู้ วบคุมเครื่องจักร

ผู้ควบคุมเครื่องจักรที่ใช้ในการขนย้ายชิ้นส่วน การติดต้ังชิ้นงาน หรืองานอ่ืนๆ ที่เก่ียวข้อง
เช่น ผู้ควบคุมรถเครน รถแทรคเตอร์ จะต้องได้รับใบอนุญาตในการควบคุมเครื่องจักร
ตามทีก่ ฎหมายกําหนด

2.7 อุปกรณ์ป้องกนั สาํ หรับความปลอดภัยในการติดตง้ั

2.7.1 ผู้ติดต้ังชิ้นงานจะต้องเตรียมและติดตั้งอุปกรณ์สําหรับความปลอดภัย เช่น ราวกันตก ทางเดิน
และอุปกรณ์สําหรับความปลอดภัยอื่นๆ ที่จําเป็น สําหรับบุคคลากรผู้ติดต้ังชิ้นงาน ตามที่กําหนด
ในกฏหมายหรือข้อกาํ หนดท่ีเกีย่ วข้อง เช่น ถงุ มอื รองเท้านริ ภยั แว่นตากนั สะเก็ดไฟ หมวกนิรภัย
รวมถึงถังดับเพลิง (ถ้าจําเป็น) อุปกรณ์สําหรับความปลอดภัยแต่ละชนิดจะต้องได้มาตรฐาน
และผตู้ ดิ ตง้ั ชิน้ งานจะตอ้ งสวมใสอ่ ปุ กรณค์ วามปลอดภยั ตามท่ีกฎหมายกําหนด รูปที่ 24 รูปท่ี 25
และรูปท่ี 26 แสดงตัวอย่างอุปกรณ์ความปลอดภัยสําหรับผู้ติดตั้ง ราวกันตก และตาข่ายกันตก
รอบอาคารชนิดยึดกับโครงสร้าง ตามลําดับ

ค่มู ือการกอ่ สร้างอาคารเหลก็ โครงสร้างรปู พรรณ หน้าท่ี 42

รูปที่ 24 ตวั อย่างอุปกรณค์ วามปลอดภัยสาํ หรบั ผู้ตดิ ตงั้
(ข้อ 2.7.1)

รูปที่ 25 ตวั อยา่ งราวกนั ตก
(ข้อ 2.7.1)

ค่มู ือการก่อสรา้ งอาคารเหลก็ โครงสร้างรปู พรรณ หนา้ ท่ี 43

ชดุ อุปกรณ์ยึด
ตาขา่ ยกันตก

แผ่นเพลทชนิดหมนุ ได้ คานยึดตาขา่ ย
ยดึ ตดิ กับแผ่นพ้ืนอาคาร

เคเบลิ ยดึ คาน

แผน่ เพลทชนดิ หมุนได้
ยึดตดิ กบั แผ่นพ้ืนอาคาร

รปู ท่ี 26 ตวั อย่างตาขา่ ยกันตกรอบอาคารชนดิ ยดึ กบั โครงสรา้ ง (มาตรฐาน AS/NZS 4576)
(ขอ้ 2.7.1)

2.7.2 ผู้ติดตั้งช้ินงานสามารถท่ีจะร้ือถอนอุปกรณ์สําหรับความปลอดภัยในพ้ืนที่ที่ทําการติดต้ังชิ้นงาน
เรียบร้อยแล้ว หากมีการคงอุปกรณ์สําหรับความปลอดภัยท่ีจัดเตรียมโดยผู้ติดต้ังชิ้นงานไว้ใน
สถานที่ สาํ หรับบคุ คลากรงานอื่นๆ เข้าใช้งานภายหลังจากท่กี ารตดิ ตั้งช้ินงานสาํ เร็จเรียบร้อยแล้ว
ตัวแทนเจา้ ของงานท่ีควบคุมงานกอ่ สรา้ งจะตอ้ ง

1) เป็นผู้รบั ผิดชอบ และบาํ รุงรักษาอุปกรณ์ป้องกนั
2) ชดใชค้ า่ เสยี หาย หากเกดิ ความเสียหายขน้ึ ระหวา่ งที่บุคลากรจากงานอ่นื เขา้ มาใชง้ าน
3) ตรวจสอบให้ม่ันใจว่าอุปกรณ์ป้องกันเหล่าน้ีปลอดภัยเพียงพอสําหรับบุคลากรจากงานอ่ืน

ท่จี ะเขา้ มาใช้งาน
4) รื้อถอนอุปกรณ์สําหรับความปลอดภัย และนําส่งคืนผู้ติดต้ังช้ินงานเมื่อไม่มีการใช้งานแล้ว

ในสภาพเหมือนที่ได้รบั มา

ค่มู อื การกอ่ สรา้ งอาคารเหล็กโครงสร้างรปู พรรณ หน้าท่ี 44

บทที่ 3
การควบคุมคณุ ภาพ และการประกนั คณุ ภาพ

ในบทนี้ จะอธบิ ายข้อกําหนดข้ันต่ําสําหรับการควบคุมคุณภาพ การประกันคุณภาพ และการทดสอบแบบ
ไม่ทาํ ลาย สําหรับระบบอาคารเหลก็ โครงสรา้ งรปู พรรณ

3.1 ขอบเขต

การควบคุมคุณภาพ (QC) ท่ีระบุในบทน้ี ให้ดําเนินการโดยผู้ประกอบช้ินงาน (fabricator) และผู้ติดตั้ง
(erector) การประกันคุณภาพ (QA) ทรี่ ะบใุ นบทนี้ ให้ดาํ เนินการโดยหนว่ ยงานอ่นื เม่ือถูกกําหนดโดยหนว่ ยงาน
ท่ีมีอํานาจตามกฏหมาย มาตรฐานสําหรับอาคารที่เก่ียวข้อง ผู้ซ้ือ เจ้าของงาน หรือวิศวกรผู้รับผิดชอบ
(engineer of record) การทดสอบแบบไม่ทําลายต้องจัดทําโดยหน่วยงานหรือองค์กรที่มีหน้าท่ีเกี่ยวกับ
การประกนั คณุ ภาพตามท่ีระบุในหัวขอ้ 3.6

3.2 แผนการการควบคมุ คณุ ภาพของผปู้ ระกอบชนิ้ งาน และผตู้ ิดต้งั

ผู้ประกอบชิ้นงานและผู้ติดต้ังจะต้องจัดทําและรักษาไว้ซึ่งกระบวนการการควบคุมคุณภาพ
และดําเนินการตรวจสอบเพอ่ื ใหม้ นั่ ใจไดว้ ่าผลงานท่ไี ดเ้ ปน็ ไปตามคูม่ ือฉบับนีแ้ ละตามเอกสารการกอ่ สรา้ ง

ผู้ประกอบช้ินงานจะต้องมีการบันทึกข้อมูลท่ีสามารถตรวจสอบถึงรายละเอียดและคุณสมบัติของวัสดุ
ท่ีนํามาประกอบชิ้นงาน ซึ่งประกอบด้วย หน้าตัดท่ีนํามาใช้งาน ชั้นคุณภาพ หมายเลขชุดความร้อนในการผลิต
(heat number) ผลการทดสอบคุณสมบัติของวัสดุ (หากมีการระบุในเอกสาร) และมีการตรวจสอบ
โดยผตู้ รวจสอบการควบคมุ คุณภาพ (Quality Control Inspector, QCI) ของผ้ปู ระกอบชนิ้ งาน

ผตู้ รวจสอบการควบคมุ คณุ ภาพ (QCI) ของผปู้ ระกอบชน้ิ งาน อย่างนอ้ ยจะตอ้ งตรวจสอบหัวข้อ ดังน้ี

1) การเชอื่ มในโรงงาน การตดิ ตัง้ สลักเกลียวกําลงั สงู และรายละเอยี ดอ่ืนๆ ใหส้ อดคล้องกบั หวั ขอ้ 3.5
2) การตัดในโรงงาน และการแต่งผิว ให้สอดคล้องกับหัวขอ้ 2.3
3) การให้ความร้อนในโรงงานเพ่ือการดัดให้ตรง การดัดโค้งหลังเต่า และการดัดโค้ง ให้สอดคล้องกับ

หัวขอ้ 2.3.1
4) ความคลาดเคลื่อนที่ยอมให้สําหรับการประกอบช้ินส่วนในโรงงาน ให้สอดคล้องกับบทที่ 2 และ

มาตรฐานคุณลกั ษณะเฉพาะของเหลก็ โครงสร้างรปู พรรณ ใช้ในงานโครงสรา้ งอาคาร (มยผ. 1107-61)

ผตู้ รวจสอบการควบคุมคณุ ภาพ (QCI) ของผตู้ ดิ ต้งั อย่างน้อยจะตอ้ งตรวจสอบในหัวข้อ ดงั นี้

1) การเชอื่ มในสนาม การติดตั้งสลักเกลียวกาํ ลังสูง และรายละเอียดอน่ื ๆ ใหส้ อดคลอ้ งกบั หัวข้อ 3.5
2) พ้ืนผิวที่ถกู ตดั ในสนาม ใหส้ อดคลอ้ งกับหวั ข้อ 2.3.2

ค่มู อื การก่อสร้างอาคารเหล็กโครงสร้างรูปพรรณ หน้าท่ี 45

3) การให้ความร้อนในสนามเพอ่ื การดัดใหต้ รง ให้สอดคล้องกับหวั ข้อ 2.3.1
4) ความคลาดเคลื่อนท่ียอมให้สําหรับการประกอบชิ้นส่วนในสนาม ให้สอดคล้องกับบทท่ี 2 และ

มาตรฐานคณุ ลกั ษณะเฉพาะของเหล็กโครงสรา้ งรปู พรรณ ใช้ในงานโครงสร้างอาคาร (มยผ. 1107-61)

3.3 เอกสารของผปู้ ระกอบชน้ิ งาน และผตู้ ิดตงั้

3.3.1 เอกสารสาํ หรบั งานก่อสรา้ ง

ผู้ประกอบชิ้นงานและผู้ติดต้ัง จะต้องส่งเอกสารที่เก่ียวข้องเพื่อให้วิศวกรผู้รับผิดชอบ
หรือผู้ท่ีวิศวกรมอบหมาย พิจารณาก่อนท่ีจะทําการประกอบช้ินงาน หรือติดตั้ง (ในหัวข้อ
ที่เก่ยี วข้อง) ดังน้ี

1) แบบสาํ หรับการก่อสรา้ ง ยกเวน้ แบบสําหรบั การกอ่ สร้างทนี่ าํ ส่งโดยหน่วยงานอื่น
2) แบบสาํ หรบั การตดิ ต้งั ยกเวน้ แบบสําหรับการตดิ ตง้ั ท่นี ําสง่ โดยหนว่ ยงานอ่ืน

3.3.2 เอกสารท่ีเก่ยี วขอ้ งในงานการกอ่ สรา้ งโครงสรา้ งเหล็ก

จะต้องมีเอกสารในรูปอิเลคทรอนิคส์หรือรูปแบบการพิมพ์เพื่อให้วิศวกรผู้รับผิดชอบ
หรือผู้ท่ีวิศวกรมอบหมายพิจารณา ก่อนที่จะทําการประกอบช้ินงานและติดต้ัง (ในหัวข้อ
ทเ่ี ก่ยี วข้อง) ยกเว้นมกี ารกาํ หนดเอกสารที่ต้องนาํ ส่งไว้ในเอกสารสญั ญา ดงั นี้

1) สําหรับชิ้นส่วนเหล็กโครงสร้างหลัก – สําเนาผลการทดสอบวัสดุท่ีสอดคล้องกับมาตรฐาน
ทกี่ ําหนด

2) สําหรับเหล็กหล่อ และเหล็กชุบแข็ง – สําเนาผลการทดสอบวัสดุท่ีสอดคล้องกับมาตรฐาน
ทีก่ ําหนด

3) สําหรบั อปุ กรณ์ยดึ - สาํ เนาใบรับรองจากผ้ผู ลิตท่สี อดคลอ้ งกับมาตรฐานทกี่ าํ หนด
4) สําหรับสมอและแท่งเหล็กเกลียว – สําเนาผลการทดสอบวัสดุที่สอดคล้องกับมาตรฐาน

ท่ีกําหนด
5) สําหรับวัสดุสิ้นเปลืองงานเช่ือม – สําเนาหนังสือรับรองจากผู้ผลิตท่ีสอดคล้องกับมาตรฐาน

ทีก่ ําหนด
6) เอกสารข้อมูลผลิตภัณฑ์จากผู้ผลิต สําหรับโลหะเติมงานเช่ือมและฟลักซ์ที่จะใช้ - เอกสาร

ข้อมูลจะต้องอธิบายรายละอียดผลิตภัณฑ์ ข้อจํากัดการใช้งาน ข้อแนะนําของตัวแปรสําหรับ
การเชอ่ื มทว่ั ไป ข้อกาํ หนดการเก็บรักษาและการเปิดใชง้ าน รวมถึงการอบ (ถา้ เกยี่ วข้อง)
7) ขอ้ กาํ หนดข้ันตอนการเชอ่ื ม
8) เอกสารแสดงคุณสมบัติของบุคลากรงานเชื่อมว่ามีคุณสมบัติตามมาตรฐานที่กําหนด
และมกี ารพัฒนาฝมี ืออยา่ งต่อเนื่อง

ค่มู ือการกอ่ สร้างอาคารเหล็กโครงสร้างรปู พรรณ หนา้ ท่ี 46

9) คู่มือการควบคุมคุณภาพของผู้ประกอบช้ินงาน และผู้ติดตั้ง (ท่ีเกี่ยวข้อง) ท่ีมีหัวข้ออย่างตํ่า
ดงั นี้

9.1) ข้ันตอนการควบคุมวสั ดุ
9.2) ข้นั ตอนการตรวจสอบ
9.3) ข้นั ตอนสําหรบั ส่งิ ทไ่ี ม่เป็นไปตามทีก่ ําหนด (nonconformance procedure)

10) เอกสารแสดงคุณสมบัติของผู้ตรวจสอบการควบคุมคุณภาพ ของผู้ประกอบชิ้นงานและ
ของผ้ตู ิดตงั้ (ทเี่ กย่ี วขอ้ ง) ทสี่ อดคล้องตามทีก่ ําหนด

3.4 บุคลากรสาํ หรบั การตรวจสอบ และการทดสอบแบบไมท่ าํ ลาย

3.4.1 คณุ สมบัตผิ ้ตู รวจสอบการควบคุมคณุ ภาพ

บุคลากรผู้ตรวจสอบการควบคุมคุณภาพงานเช่ือมจะต้องมีคุณสมบัติสอดคล้องตามแผน
การควบคุมคุณภาพท่ีผู้ประกอบชน้ิ งานและผตู้ ิดตงั้ (ทเ่ี กีย่ วข้อง) กําหนด

บุคลากรผู้ตรวจสอบการควบคุมคุณภาพงานสลักเกลียวต้องมีคุณสมบัติเหมาะสมโดยได้รับ
การฝกึ อบรมและมปี ระสบการณ์ในการตรวจสอบสลักเกลียวงานโครงสร้าง

3.4.2 คณุ สมบัติผูต้ รวจสอบการประกนั คณุ ภาพ

บุคลากรผู้ตรวจสอบการประกันคุณภาพงานเช่ือมจะต้องมีคุณสมบัติสอดคล้องตามแนวทาง
ปฏิบตั ทิ ่รี ะบเุ ปน็ ลายลักษณอ์ ักษรท่ีหน่วยงานดา้ นการประกันคณุ ภาพกําหนด

บุคลากรผู้ตรวจสอบการประกันคุณภาพงานสลักเกลียวต้องมีคุณสมบัติเหมาะสมโดยได้รับ
การฝึกอบรมและมีประสบการณ์ในการตรวจสอบสลกั เกลยี วงานโครงสร้าง

3.4.3 คุณสมบัตผิ ู้ตรวจสอบการทดสอบแบบไมท่ าํ ลาย

บุคลากรผู้ตรวจสอบการทดสอบแบบไม่ทําลาย (ยกเว้นการตรวจสอบด้วยสายตา) จะต้องมี
คุณสมบัติสอดคลอ้ งตามมาตรฐานท่กี ําหนด หรอื สอดคล้องตามแนวทางปฏบิ ัติทผ่ี วู้ า่ จ้างกาํ หนด

ค่มู ือการก่อสรา้ งอาคารเหล็กโครงสร้างรปู พรรณ หนา้ ที่ 47

3.5 ข้อกําหนดขั้นต่ําสําหรบั การตรวจสอบอาคารเหลก็ โครงสรา้ งรปู พรรณ

3.5.1 การควบคุมคณุ ภาพ

การตรวจสอบการควบคุมคุณภาพควรดําเนินการโดยผู้ตรวจสอบการควบคุมคุณภาพ (QCI)
ของผู้ประกอบชน้ิ งาน หรือผูต้ ิดตงั้ ทเี่ ก่ยี วขอ้ ง และสอดคล้องกับหวั ขอ้ 3.5.4 3.5.6 และ 3.5.7

กิจกรรมในตารางท่ี 6 ถึง ตารางท่ี 8 และตารางท่ี 9 ถึงตารางท่ี 11 รายการสําหรับ QC คือ
กิจกรรมที่จะตรวจสอบโดยผู้ตรวจสอบการควบคุมคุณภาพ (QCI) เพ่ือให้มั่นใจว่าผลงานดังกล่าว
ดําเนนิ การตามทีร่ ะบใุ นเอกสารการก่อสร้าง

สําหรับการตรวจสอบการควบคุมคุณภาพ เอกสารการก่อสร้างท่ีเกี่ยวข้องประกอบด้วย
แบบสําหรับโรงงาน (shop drawing) และแบบสําหรับการติดต้ัง (erection drawing)
และกฏหมาย มาตรฐาน และข้อกําหนดตา่ งๆ ที่อา้ งองิ

3.5.2 การประกนั คณุ ภาพ

การตรวจสอบการประกันคุณภาพของชิ้นส่วนท่ีผลิต จะต้องดําเนินการที่โรงงานท่ีผลิต
ผู้ตรวจสอบการประกันคุณภาพ (Quality Assurance Inspector, QAI) จะต้องทําการนัดหมาย
การตรวจสอบเพื่อให้เกดิ การกระทบกบั งานของผ้ปู ระกอบช้ินงานน้อยทสี่ ุด

การตรวจสอบการประกันคุณภาพของระบบเหล็กโครงสร้างท่ีติดต้ังแล้วให้ทําที่สถานที่ต้ัง
โครงการ ผู้ตรวจสอบการประกันคุณภาพ (Quality Assurance Inspector, QAI) จะต้องทําการ
นดั หมายการตรวจสอบเพื่อใหเ้ กดิ การกระทบกบั งานของผู้ติดตงั้ นอ้ ยที่สดุ

ผู้ตรวจสอบการประกันคุณภาพจะต้องพิจารณาผลการทดสอบวัสดุ และใบรับรองตาม
รายการท่ีแสดงใน หัวข้อ 3.5.4 หัวข้อ 3.5.6 และหัวข้อ 3.5.7

กิจกรรมในตารางท่ี 6 ถึงตารางที่ 8 และตารางท่ี 9 ถึงตารางที่ 11 รายการสําหรับ QA
คือกิจกรรมท่ีจะตรวจสอบโดยผู้ตรวจสอบการประกันคุณภาพ (QAI) เพื่อให้มั่นใจว่าผลงาน
ดังกลา่ วดําเนินการตามท่ีระบใุ นเอกสารการก่อสรา้ ง

ค่มู ือการกอ่ สรา้ งอาคารเหล็กโครงสร้างรูปพรรณ หน้าท่ี 48

เมื่อหน่วยงานประกันคุณภาพส่งเอกสารรายงานไปยังหน่วยงานที่มีอํานาจตามกฎหมาย
หรือวิศวกรผู้รับผิดชอบ หรือเจ้าของงาน หน่วยงานประกันคุณภาพควรส่งเอกสารไปยังผู้ประกอบ
ช้นิ งาน หรือผู้ตดิ ตั้ง พร้อมกนั ดว้ ย ดังน้ี

1) รายงานผลการตรวจสอบ
2) รายงานผลการทดสอบแบบไมท่ าํ ลาย

3.5.3 การตรวจสอบรว่ มกัน

เม่ือกิจกรรมถูกระบุให้ดําเนินการร่วมกันระหว่างการควบคุมคุณภาพและการประกันคุณภาพ
อนุญาตให้มีการประสานงานหน้าที่การตรวจสอบระหว่างผู้ตรวจสอบการควบคุมคุณภาพ (QCI)
และผู้ตรวจสอบการประกันคุณภาพ (QAI) เพื่อให้หน้าท่ีต่างๆ มีผู้ดําเนินการเพียงฝ่ายเดียว
หากการประกันคุณภาพขึ้นอยู่กับหน้าท่ีการตรวจสอบท่ีดําเนินการโดยผู้ควบคุมคุณภาพ จะต้อง
ได้รับการอนุมัติจากวิศวกรผู้รบั ผดิ ชอบ และหนว่ ยงานท่มี อี ํานาจตามกฏหมายกอ่ น

3.5.4 การตรวจสอบการเช่อื ม

ให้ใช้การสังเกตการณ์กระบวนการเชื่อมและการตรวจสอบด้วยการตรวจระหว่างการเช่ือม
และรอยเช่ือมที่สําเร็จแล้วเป็นวิธีการข้ันต้นเพื่อท่ีจะยืนยันว่าวัสดุ ขั้นตอนการดําเนินงาน
และทักษะแรงงาน สอดคล้องกับเอกสารการกอ่ สรา้ ง

รายการตรวจสอบการเช่ือมต้องเป็นไปตามที่ระบุในตารางท่ี 6 ตารางท่ี 7 และตารางท่ี 8
เปน็ อยา่ งต่าํ โดยรายการตรวจสอบในตารางมดี งั นี้

O – ตรวจสอบรายการเหล่านี้แบบสุ่ม กระบวนการทํางานไม่จําเป็นที่จะต้องชะลอ
เพือ่ การตรวจสอบน้ี

P – ทาํ การตรวจสอบกิจกรรมดงั กลา่ วในแต่ละรอยเชอื่ มของจุดต่อหรอื องคอ์ าคาร

ค่มู ือการกอ่ สรา้ งอาคารเหลก็ โครงสร้างรปู พรรณ หน้าที่ 49

ตารางที่ 6 รายการตรวจสอบกอ่ นการเช่อื ม การ การ
(ข้อ 3.5.4) ควบคุม ประกัน
คุณภาพ คณุ ภาพ
รายการตรวจสอบก่อนการเชอ่ื ม
Quality Quality
มีเอกสารขอ้ กาํ หนดขนั้ ตอนการเชือ่ ม (welding procedure specifications) Control Assurance
มีเอกสารรบั รองคุณสมบัตขิ องวัสดสุ ้นิ เปลืองงานเชือ่ มจากผู้ผลติ
ตรวจสอบคุณสมบัติของวัสดุ (ชนิด/ชนั้ คณุ ภาพ) P P
มรี ะบบระบุตวั ตนของช่างเชอื่ ม (welder identification system) P P
ตรวจสอบรอยเชอื่ มแบบเซาะรอ่ ง (รวมถงึ มุม และตําแหนง่ ของชน้ิ สว่ น) O O
O O
 การเตรยี มความพรอ้ มของรอยตอ่
 มิติ (การจัดแนว, ชอ่ งเปิด, หนา้ สมั ผสั , ความเอียง) OO
 ความสะอาด (สภาพของผวิ เหลก็ )
 การเชื่อมแต้ม (คณุ ภาพและตําแหน่งของรอยเชื่อมแตม้ ) OO
 ชนิดและความพอดขี องแผ่นเหล็กรองเช่ือม (ถ้าจําเป็น) OO
ขอ้ กาํ หนด รปู รา่ ง และลักษณะของช่องเปิดเพอื่ การเขา้ ถึง OO
ตรวจสอบรอยเชือ่ มแบบพอก
 มติ ิ (การจัดแนว, ชอ่ งว่าง)
 ความสะอาด (สภาพของผวิ เหล็ก)
 การเช่อื มแตม้ (คุณภาพและตาํ แหน่งของรอยเชอ่ื มแตม้ )
ตรวจสอบอปุ กรณ์การเชอ่ื ม

 

ค่มู อื การก่อสร้างอาคารเหลก็ โครงสร้างรูปพรรณ หน้าท่ี 50

ตารางท่ี 7 รายการตรวจสอบระหวา่ งการเช่อื ม
(ขอ้ 3.5.4)

รายการตรวจสอบระหว่างการเช่อื ม การ การ
ควบคมุ ประกัน
ชา่ งเชื่อมมคี ณุ สมบตั ิเปน็ ไปตามทก่ี ําหนด คณุ ภาพ คุณภาพ
ตรวจสอบคุณภาพของลวดเช่ือม
Quality Quality
 การบรรจุหบี หอ่ Control Assurance
 การปอ้ งกันการสัมผสั กับสภาพแวดล้อม
ไม่มีการเชื่อมทบั รอยเชื่อมแต้มทีม่ รี อยรา้ ว O O
สภาพแวดลอ้ ม
 ความเร็วลมไมเ่ กนิ ท่กี าํ หนด OO
 ความชืน้ และอุณหภูมเิ หมาะสม
ปฏบิ ัติตามขอ้ กําหนดขั้นตอนการเช่ือม (welding procedure specifications) OO
 การตดิ ตัง้ อุปกรณก์ ารเชือ่ ม
 ความเรว็ ในการเชอ่ื ม OO
 การเลอื กวสั ดุเช่ือมตามทีก่ ําหนด
 ชนดิ ของแกส็ ปกคลมุ และอตั ราการไหล OO
 มกี ารใหค้ วามรอ้ นกอ่ น
 มกี ารรกั ษาอณุ หภูมริ ะหวา่ งเท่ียวเช่ือม (คา่ ต่าํ สุด/คา่ สูงสุด) OO
 ทา่ เชอื่ มท่เี หมาะสม (ท่าราบ ท่าดิง่ ทา่ ระดับ ท่าเหนือศรี ษะ)
เทคนิคการเชอ่ื ม
 ความสะอาดระหว่างเท่ียวเช่ือมและหลังเสร็จงาน
 รปู รา่ งรอยเชือ่ มแต่ละรอยเป็นไปตามข้อกาํ หนด
 รอยเชื่อมมคี ณุ ภาพตามท่กี าํ หนด

ค่มู อื การกอ่ สร้างอาคารเหล็กโครงสร้างรูปพรรณ หนา้ ท่ี 51

ตารางที่ 8 รายการตรวจสอบหลงั การเชื่อม
(ข้อ 3.5.4)

รายการตรวจสอบหลงั การเชอ่ื ม การ การ
ควบคุม ประกนั
มีการทาํ ความสะอาดรอยเชื่อม คุณภาพ คุณภาพ
ขนาด ความยาว ตาํ แหนง่ ของรอยเชื่อมถูกตอ้ งตามแบบ
รอยเชอื่ มผ่านคุณสมบตั กิ ารตรวจพนิ จิ Quality Quality
Control Assurance
 ไม่มีรอยแตกรา้ ว
 รอยเชือ่ มหลอมรวมเข้ากบั วัสดุฐาน O O
 รอยเชือ่ มไมเ่ ป็นหลุมหรือแอ่ง
 รปู รา่ งรอยเช่ือม P P
 ขนาดรอยเชอื่ ม
 รอยเช่ือมไมเ่ ว้า PP
 รอยเชือ่ มไมม่ ีรูพรุน
ไมม่ สี ะเก็ดรอยเช่อื ม PP
K - area PP
เอาแผน่ เหล็กรองเชือ่ ม (backing) และ weld tab ออก (ถา้ ตอ้ งการ) PP
งานซอ่ ม PP
เอกสารการยอมรับหรอื ปฏิเสธรอยเชือ่ มของจดุ ตอ่ หรอื องคอ์ าคาร PP

การตรวจสอบรอยเชื่อมด้วยวิธีการตรวจพินิจให้เป็นไปตามมาตรฐานการตรวจสอบรอยเช่ือม
โครงเหล็กรูปพรรณด้วยวิธีการตรวจพินิจ (มยผ. 1561-51) หรือตามมาตรฐานที่เก่ียวข้อง ยกเว้น
หากมีการกําหนดเปน็ อย่างอ่ืนไวใ้ นแบบ หรอื ขอ้ กาํ หนดของโครงการ หรือในเอกสารการกอ่ สรา้ ง

เกณฑ์การยอมรับสําหรับการตรวจสอบรอยเช่ือมด้วยวิธีการตรวจพินิจ ให้ให้เป็นไปตาม
ตารางท่ี 1 และรูปที่ ผ2.1 ในภาคผนวก 2 ในมาตรฐานการตรวจสอบรอยเชื่อมโครงเหล็ก
รูปพรรณด้วยวิธีการตรวจพินิจ (มยผ. 1561-51) หรือตามมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง ยกเว้นหากมีการ
กําหนดเป็นอยา่ งอน่ื ไว้ในแบบ หรือขอ้ กาํ หนดของโครงการ หรอื ในเอกสารการก่อสรา้ ง

ค่มู อื การกอ่ สร้างอาคารเหล็กโครงสร้างรูปพรรณ หน้าที่ 52

3.5.5 การทดสอบแบบไมท่ ําลายของจุดตอ่ แบบเช่อื ม

3.5.5.1 วธิ กี าร

เม่ือกําหนดให้มีการทดสอบด้วยวิธีการทดสอบด้วยอัลตราโซนิค (Ultrasonic
Testing, UT) วิธีการทดสอบด้วยผงแม่เหล็ก (Magnetic Particle Testing, MT) วิธีการ
ทดสอบด้วยการแทรกซึม (Penetrant Testing, PT) วิธีการทดสอบด้วยรังสี
(Radiographic Testing, RT) จะต้องดําเนินการโดยฝ่ายประกันคุณภาพตามมาตรฐาน
การตรวจสอบรอยเช่ือมโครงเหล็กรูปพรรณด้วยวิธีการทดสอบแบบไม่ทําลาย
(มยผ 1562-51 ถึง 1565-51) สําหรับโครงสร้างรับแรงกระทําแบบสถิตย์ ยกเว้นหากมี
การกําหนดเป็นอย่างอ่ืนไว้ในแบบ หรือข้อกําหนดของโครงการ หรือในเอกสาร
การก่อสร้าง เกณฑ์การยอมรับให้เป็นไปตามมาตรฐานการตรวจสอบรอยเช่ือมโครงเหล็ก
รูปพรรณด้วยวิธีการทดสอบแบบไม่ทําลาย (มยผ. 1562-51 ถึง 1565-51) หรือมาตรฐาน
ท่ีเก่ียวข้อง ยกเว้นหากมีการกําหนดเป็นอย่างอื่นไว้ในแบบ หรือข้อกําหนดของโครงการ
หรอื ในเอกสารการก่อสร้าง

3.5.5.2 การทดสอบแบบไม่ทําลายสําหรบั การเชอ่ื มแบบ CJP groove weld

สําหรับโครงสร้างท่ีมีประเภทความสําคัญ III หรือ IV ในตารางที่ 1.5-1 การจําแนก
ประเภทความสําคัญของอาคาร และค่าตัวประกอบความสําคัญของอาคาร ในมาตรฐาน
การออกแบบอาคารต้านทานการส่ันสะเทือนของแผ่นดินไหว (มยผ. 1302) ให้ทําการ
ทดสอบด้วยวิธีอัลตราโซนิค (UT) โดยฝ่ายประกันคุณภาพ ทุกๆ รอยเช่ือมแบบ CJP
groove weld ท่ีรับแรงดึงทางขวางในรอยต่อแบบชน (butt joint) รอยต่อรูปตัวที
และรอยตอ่ ท่ีมมุ ในวสั ดุที่หนาเทา่ กบั หรอื มากกว่า 8 มลิ ลิเมตร สาํ หรับโครงสรา้ งท่ีมีความ
เส่ียงอยู่ในกลุ่ม II ให้ทําการทดสอบด้วยวิธีอัลตราโซนิค (UT) โดยฝ่ายประกันคุณภาพ
จํานวน 10 เปอร์เซนต์ ของรอยเช่ือมแบบ CJP groove weld ของรอยต่อแบบชน (butt
joint) รอยต่อรูปตัวที และรอยต่อที่มุม ที่รับแรงดึงทางขวาง ในวัสดุที่หนาเท่ากับ
หรือมากกว่า 8 มิลลเิ มตร

3.5.5.3 การทดสอบแบบไมท่ าํ ลายสําหรบั ชอ่ งเปดิ เพ่อื การเขา้ ถงึ

ให้ทดสอบพ้ืนผิวท่ีตัดด้วยความร้อนของช่องเปิดเพ่ือการเข้าถึง โดยฝ่ายประกัน
คุณภาพด้วยวิธีการทดสอบด้วยผงแม่เหล็ก (MT) หรือวิธีการทดสอบด้วยการแทรกซึม
(PT) เม่ือความหนาปีกเกิน 50 มิลลิเมตร ในหน้าตัดเหล็กรูปพรรณรีดร้อน

ค่มู อื การกอ่ สร้างอาคารเหล็กโครงสร้างรปู พรรณ หน้าที่ 53

หรือเมื่อความหนาแผ่นเอวเกิน 50 มิลลิเมตร ในหน้าตัดประกอบ และไม่ยอมรับหากพบ
รอยแตกร้าว โดยไมส่ นใจขนาด หรือตาํ แหนง่ ทีเ่ กดิ รอยแตกร้าว

3.5.5.4 การลดอตั ราการทดสอบวธิ กี ารทดสอบดว้ ยอลั ตราโซนคิ (UT)

ยอมให้มีการลดอัตราการทดสอบวิธีการทดสอบด้วยอัลตราโซนิค (UT) หากได้รับ
การอนุมัติจากวิศวกรผู้รับผิดชอบ และหน่วยงานที่มีอํานาจตามกฏหมาย สําหรับกรณี
การทดสอบดว้ ยอัลตราโซนคิ ที่อัตรา 100 เปอร์เซนต์ อนุญาตให้ลดอัตราการทดสอบแบบ
ไม่ทําลายสําหรับช่างเชื่อม หรือผู้ควบคุมการเช่ือมแต่ละรายลงเป็น 25 เปอร์เซนต์
หากอัตราการปฏิเสธ (จํานวนรอยเชื่อมที่มีข้อบกพร่องที่ไม่สามารถยอมรับได้ หารด้วย
จํานวนรอยเช่ือมที่สําเร็จ) พิสูจน์ได้ว่ามีอัตรา 5 เปอร์เซ็นต์ หรือน้อยกว่าจากรอยเช่ือมที่
ทําการทดสอบของช่างเช่ือม หรือผู้ควบคุมการเชื่อม ท้ังนี้จะต้องมีจํานวนตัวอย่าง
ไม่น้อยกว่า 40 รอยเชื่อมท่ีสําเร็จสําหรับการประเมินการลดอัตราดังกล่าว สําหรับการ
ประเมินอัตราการปฏิเสธสําหรับรอยเช่ือมต่อเนื่องท่ียาวเกิน 1 เมตร ท่ีมีระยะลึก
ประสทิ ธผิ ลของรอยเช่ือม 25 มิลลิเมตร หรือนอ้ ยกว่า กําหนดให้ทุกๆ ความยาวรอยเชื่อม
300 มิลลิเมตร หรือเศษของ 300 มิลลิเมตร ถือเป็นหนึ่งรอยเช่ือม สําหรับการประเมิน
อัตราการปฏิเสธสําหรับรอยเช่ือมต่อเนื่องที่ยาวเกิน 1 เมตร ที่มีระยะลึกประสิทธิผลของ
รอยเชื่อมมากกว่า 25 มิลลิเมตร กําหนดให้ทุกๆ ความยาวรอยเช่ือม 150 มิลลิเมตร
หรอื เศษของ 150 มิลลเิ มตร ถอื เป็นหนึ่งรอยเชอื่ ม

3.5.5.5 การเพิ่มอัตราการทดสอบวิธีการทดสอบด้วยอลั ตราโซนิค (UT)

สําหรับโครงสร้างที่มีความเส่ียงอยู่ในกลุ่ม II ท่ีกําหนดให้ทําการทดสอบด้วยวิธี
อัลตราโซนิค (UT) เร่ิมต้นที่ 10 เปอร์เซนต์ อัตราการทดสอบแบบไม่ทําลายสําหรับ
ช่างเชื่อมหรือผู้ควบคุมการเชื่อมแต่ละรายให้เพิ่มเป็น 100 เปอร์เซนต์ หากอัตรา
การปฏิเสธ (จํานวนรอยเช่ือมท่ีมีข้อบกพร่องท่ีไม่สามารถยอมรับได้ หารด้วยจํานวนรอย
เชื่อมที่สําเร็จ) มีอัตราเกิน 5 เปอร์เซ็นต์ จากรอยเชื่อมท่ีทําการทดสอบของช่างเชื่อมหรือ
ผู้ควบคุมการเช่ือม ทั้งน้ีจะต้องมีจํานวนตัวอย่างไม่น้อยกว่า 20 รอยเชื่อมท่ีสําเร็จสําหรับ
การปรับเพ่ิมดังกล่าว เมื่ออัตราการปฏิเสธสําหรับช่างเชื่อมหรือผู้ควบคุมการเช่ือมลดลง
เหลือ 5 เปอร์เซ็นต์ หรือน้อยกว่าจากจํานวนตัวอย่างไม่น้อยกว่า 40 รอยเช่ือมท่ีสําเร็จ
ให้ลดอัตราการทดสอบด้วยวิธีอัลตราโซนิค (UT) กลับมาเป็น 10 เปอร์เซนต์ สําหรับ
การประเมินอัตราการปฏิเสธสําหรับรอยเช่ือมต่อเน่ืองท่ียาวเกิน 1 เมตร ที่มีระยะลึก
ประสิทธิผลของรอยเชื่อม 25 มิลลเิ มตร หรอื นอ้ ยกว่า กําหนดให้ทุกๆ ความยาวรอยเชื่อม
300 มิลลิเมตร หรือเศษของ 300 มิลลิเมตร ถือเป็นหน่ึงรอยเชื่อม สําหรับการประเมิน

ค่มู ือการก่อสรา้ งอาคารเหล็กโครงสร้างรูปพรรณ หน้าที่ 54

อัตราการปฏิเสธสําหรับรอยเช่ือมต่อเน่ืองที่ยาวเกิน 1 เมตร ที่มีระยะลึกประสิทธิผลของ
รอยเช่ือมมากกว่า 25 มิลลิเมตร กําหนดให้ทุกๆ ความยาวรอยเชื่อม 150 มิลลิเมตร
หรือเศษของ 150 มิลลเิ มตร ถอื เป็นหนง่ึ รอยเชื่อม

3.5.5.6 งานเอกสาร

การทดสอบแบบไม่ทําลายทุกการทดสอบที่ดําเนินการจะต้องมีการบันทึกเป็น
เอกสารรายงานการทดสอบแบบไม่ทําลาย สําหรับการประกอบช้ินส่วนในโรงงานจะต้อง
ระบุช้ินส่วนและตําแหน่งของจุดที่ทดสอบ รายงานการทดสอบแบบไม่ทําลายสําหรับงาน
ในสนามจะต้องระบุรอยเชื่อมท่ีทําการทดสอบด้วยตําแหน่งในโครงสร้าง ชิ้นส่วน
และตาํ แหน่งของจุดทที่ ดสอบ

เมื่อรอยเชื่อมถูกปฏิเสธจากการทดสอบแบบไม่ทําลาย บันทึกการทดสอบ
แบบไมท่ าํ ลายจะต้องระบตุ ําแหนง่ ของรอยเช่ือม และเหตผุ ลในการปฏเิ สธ

3.5.6 การตรวจสอบสลักเกลยี วกําลังสงู

การสังเกตการณ์การติดตั้งสลักเกลียวเป็นวิธีการพ้ืนฐานเพ่ือการยืนยันว่าวัสดุ ข้ันตอน
การดําเนินการ และทกั ษะของบุคลากรทีม่ สี ว่ นร่วมในงานกอ่ สร้างเป็นไปตามเอกสารการก่อสรา้ ง

1) สําหรับรอยต่อแบบขันแนนพอดี (snug-tight joint) ไม่ต้องมีการตรวจสอบการทดสอบเพื่อ
ตรวจพิสูจน์ก่อนการติดตั้งตามตารางท่ี 8 และการสังเกตการณ์ขั้นตอนการติดตั้งตาม
ตารางท่ี 9 และไม่จําเป็นต้องมีผู้ตรวจสอบการควบคุมคุณภาพ (QCI) และผู้ตรวจสอบ
การประกันคุณภาพ (QAI) อยรู่ ะหว่างการติดตั้งอุปกรณ์ยึดในรอยตอ่ แบบขนั แน่นพอดี

2) สําหรับรอยต่อแบบขันแน่นก่อน (pretensioned joint) และรอยต่อแบบเล่ือนวิกฤติ
(slip-critical joint) เมื่อผู้ติดต้ังใช้วิธีหมุนแป้นเกลียวด้วยการทําสัญลักษณ์จับคู่ (turn–of-
nut method with matchmarking technique) วิธีการใช้ตัววัดแรงดึงโดยตรง (direct–
tension-indicator method) วิธีการใช้สลักเกลียวควบคุมแรงดึงโดยการบิดขาดออก
(twist–off-type tension control bolt method) การสังเกตการณ์การให้แรงดึงก่อนแก่
สลักเกลียว ให้เป็นไปตามที่ระบุในตารางที่ 9 ไม่จําเป็นต้องมีผู้ตรวจสอบการควบคุมคุณภาพ
(QCI) และผู้ตรวจสอบการประกันคุณภาพ (QAI) อยู่ระหว่างการติดต้ังอุปกรณ์ยึดเมื่อผู้ติดต้ัง
ใชว้ ิธกี ารเหลา่ นี้

3) สําหรับรอยต่อแบบขันแน่นก่อน (pretensioned joint) และรอยต่อแบบเลื่อนวิกฤติ
(slip-critical joint) เมื่อผู้ติดต้ังใช้วิธีขันด้วยประแจท่ีมีการสอบเทียบ (calibrated wrench
method) หรือวิธีหมุนแป้นเกลียวโดยไม่มีการทําสัญลักษณ์จับคู่ (turn–of-nut method

ค่มู อื การกอ่ สร้างอาคารเหล็กโครงสร้างรปู พรรณ หนา้ ท่ี 55

without matchmarking) ก า ร สั ง เ ก ต ก า ร ณ์ ก า ร ใ ห้ แ ร ง ดึ ง ก่ อ น แ ก่ ส ลั ก เ ก ลี ย ว
ให้เป็นไปตามที่ระบุในตารางท่ี 9 ผู้ตรวจสอบการควบคุมคุณภาพ (QCI) และผู้ตรวจสอบ
การประกันคุณภาพ (QAI) จะต้องมีการตรวจสอบตามหน้าท่ีที่ได้รับมอบหมายระหว่าง
การตดิ ตง้ั อปุ กรณ์ยึดเม่ือผตู้ ิดตง้ั ใชว้ ธิ ีการเหล่าน้ี

การตรวจสอบการติดตั้งสลักเกลียวต้องเป็นไปตามท่ีระบุในตารางท่ี 9 ตารางท่ี 10
และตารางท่ี 11 เปน็ อย่างตํ่า โดยการตรวจสอบในตารางมดี งั นี้

O - สังเกตุการณ์รายการเหล่าน้ีแบบสุ่ม ไม่จําเป็นท่ีจะต้องชะลอการดําเนินการเพ่ือ
การตรวจสอบน้ี

P – ทําการตรวจสอบกิจกรรมดังกล่าวในแตล่ ะจุดต่อทใ่ี ชส้ ลกั เกลียว

ตารางที่ 9 รายการตรวจสอบก่อนการติดตงั้ สลักเกลยี ว
(ขอ้ 3.5.6)

รายการตรวจสอบก่อนการติดต้ังสลักเกลยี ว การ การ
ควบคมุ ประกนั
มเี อกสารรบั รองคณุ สมบตั วิ สั ดอุ ุปกรณ์ยดึ จากผผู้ ลิต คณุ ภาพ คุณภาพ
อปุ กรณย์ ดึ ต้องมีเคร่อื งหมายตามขอ้ กําหนดของ ASTM หรอื มาตรฐานที่
เกย่ี วขอ้ ง Quality Quality
อุปกรณย์ ดึ ที่เลือกใช้มีความเหมาะสมกบั รอยตอ่ (ชนิด, ชั้นคณุ ภาพ, ความยาว Control Assurance
สลักเกลยี ว ในกรณที ่ีเกลยี วไมอ่ ยใู่ นระนาบแรงเฉอื น)
ข้ันตอนการตดิ ต้ังที่เลอื กใชม้ คี วามเหมาะสมกับรอยต่อ O P
ช้ินสว่ นทน่ี ํามาตอ่ รวมถึงการเตรยี มพ้นื ผิว รเู จาะ เปน็ ไปตามขอ้ กําหนด
การทดสอบประกอบชิน้ ส่วนกอ่ นติดต้งั จริงโดยผตู้ ดิ ตงั้ มีการสงั เกตุการณแ์ ละ OO
บนั ทกึ การติดต้ังอุปกรณย์ ดึ และวธิ ีการตดิ ตงั้
สถานทเี่ กบ็ รกั ษาสลกั เกลียว แปน้ เกลียว แหวนรอง และอุปกรณ์ยึดทเ่ี กยี่ วข้อง OO
อน่ื ๆ มีความเหมาะสม
OO
OO

PO

OO

ค่มู ือการก่อสรา้ งอาคารเหลก็ โครงสร้างรูปพรรณ หนา้ ท่ี 56

ตารางที่ 10 รายการตรวจสอบระหวา่ งการตดิ ตงั้ สลกั เกลียว
(ขอ้ 3.5.6)

รายการตรวจสอบระหวา่ งการติดตงั้ สลักเกลยี ว การ การ
ควบคมุ ประกัน
อปุ กรณ์ยดึ ติดตัง้ ในทุกรู มแี หวนรอง (ถา้ ระบใุ นแบบ) อยู่ในตําแหนง่ ทถี่ กู ตอ้ ง คณุ ภาพ คณุ ภาพ
รอยตอ่ มีการขนั แบบขนั แนน่ พอดกี ่อนการขันแบบขนั แนน่ ก่อน
มกี ารปอ้ งกันการหมุนของอปุ กรณ์ยดึ ในส่วนทไ่ี มถ่ ูกขนั ดว้ ยประแจ Quality Quality
การดําเนินการขนั อุปกรณ์ยึดแบบขันแนน่ กอ่ นเปน็ ไปตามข้อกาํ หนดทีเ่ กยี่ วขอ้ ง Control Assurance
และเร่มิ ขันจากส่วนท่ียดึ แนน่ ทสี่ ุดก่อน
O O

O O

O O

OO

ค่มู อื การก่อสรา้ งอาคารเหลก็ โครงสร้างรปู พรรณ หนา้ ท่ี 57

ตารางที่ 11 รายการตรวจสอบภายหลงั การติดตง้ั สลกั เกลียว
(ข้อ 3.5.6)

รายการตรวจสอบภายหลังการติดต้งั สลกั เกลยี ว การ การ
ควบคมุ ประกนั
เอกสารตรวจรบั งานหรือปฏเิ สธการติดต้ังสลกั เกลยี ว คณุ ภาพ คุณภาพ
ตรวจสอบการติดต้ังสลกั เกลยี วโดยการตรวจพนิ ิจ
Quality Quality
- ชนิด ชัน้ คณุ ภาพ ขนาด ความยาวสลักเกลยี ว แป้นเกลยี ว แหวนรอง Control Assurance
เป็นไปตามมาตรฐานทร่ี ะบุ
P P
- สลกั เกลยี ว แปน้ เกลยี ว และแหวนรอง มีเครอ่ื งหมายระบุตามมาตรฐาน
ท่ีกาํ หนด O O

- สลกั เกลยี ว แปน้ เกลยี ว แหวนรอง สะอาด ไมม่ ีสนมิ
- แหวนรองมีขนาดถูกต้องตามขนาดสลกั เกลยี วที่ใช้
- สภาพสลักเกลยี ว แป้นเกลยี ว แหวนรอง ไมเ่ สียหาย ขาด หรอื ชาํ รดุ จาก

การขนั
- สลักเกลียวติดตั้งในทกุ รู มแี หวนรอง (ถา้ ระบ)ุ และอยู่ในตําแหน่งที่ถกู ตอ้ ง
- ผวิ สัมผสั รอยต่อระหว่างผวิ โครงสรา้ ง แหวนรอง แป้นเกลยี วแนบสนทิ
- ปลายสลักเกลยี วตอ้ งอยเู่ สมอหรอื เลยขอบแปน้ เกลยี ว (สลักเกลยี วไม่สนั้

เกินไป)
- แป้นเกลียวต้องไมถ่ กู ขนั จนสดุ เกลยี วท่ีมใี นสลกั เกลยี ว (สลักเกลียวไม่ยาว

เกนิ ไป)
- ชนิดรอยตอ่ เป็นไปตามท่รี ะบุ (แบบรับแรงแบกทาน หรอื แบบรอยเล่ือน

วิกฤติ
- การขนั สลกั เกลียวดว้ ยวธิ ีหมุนแป้นเกลยี วดว้ ยการทาํ สัญลกั ษณ์จบั คูม่ ี

ระยะหมนุ เป็นไปตามที่กาํ หนด
- ปลายสลกั เกลยี วบดิ ขาดออกจากตวั สลักเกลียวสาํ หรบั การขันสลกั เกลยี ว

ดว้ ยวิธกี ารใช้ สลกั เกลยี วควบคุมแรงดงึ โดยการบดิ ขาดออก
- แปน้ เกลยี วแนบสนทิ กับแหวนรองและผิวโครงสรา้ งวิธีสําหรบั การขัน

สลักเกลียวโดยการใชแ้ หวนวดั แรงดงึ โดยตรง

ค่มู อื การก่อสรา้ งอาคารเหลก็ โครงสร้างรปู พรรณ หนา้ ท่ี 58

3.5.7 รายการตรวจสอบอืน่ ๆ

ผู้ตรวจสอบการควบคุมคุณภาพของผู้ประกอบชิ้นงานจะต้องทําการตรวจสอบช้ินส่วนเหล็ก
ที่ประกอบขึ้นเพื่อยืนยันว่าเป็นไปตามรายละเอียดที่กําหนดในแบบสําหรับการก่อสร้าง
เช่น รายละเอียดของรอยต่อที่แต่ละจุดต่อ ผู้ตรวจสอบการควบคุมคุณภาพของผู้ติดต้ังจะต้อง
ตรวจสอบโครงเหล็กท่ีติดต้ังเพื่อยืนยันว่าเป็นไปตามรายละเอียดท่ีระบุในแบบสําหรับการติดต้ัง
เช่น ค้ํายัน แผ่นเสริมกําลัง ตําแหน่งขององค์อาคาร การใช้วิธีการท่ีเหมาะสมของรายละเอียด
ของรอยต่อท่แี ต่ละจดุ ตอ่

ผู้ตรวจสอบการประกันคุณภาพจะต้องอยู่ในพ้ืนท่ีเพื่อตรวจสอบระหว่างการติดต้ังแท่งสมอ
(anchor rod) และอุปกรณ์ฝังยึดอ่ืนๆ เพ่ือรองรับโครงสร้างเหล็ก เพ่ือให้สอดคล้องกับเอกสาร
การก่อสร้าง ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง ชั้นคุณภาพ ชนิด และความยาวของแท่งสมอ หรือช้ินส่วน
อุปกรณ์ฝังยึด และขนาด หรือความลึกของการฝังตัวในคอนกรีต จะต้องมีการตรวจสอบยืนยัน
ก่อนทีจ่ ะทาํ การเทคอนกรีต

ผู้ตรวจสอบการประกันคุณภาพจะต้องตรวจสอบชิ้นส่วนเหล็กท่ีประกอบ หรือโครงเหล็ก
ที่ตดิ ตง้ั ทเี่ กีย่ วข้อง เพอ่ื ยืนยนั วา่ เปน็ ไปตามรายละเอยี ดท่ีปรากฏในเอกสารการก่อสร้าง เช่น คํ้ายัน
แผ่นเสริมกําลัง ตําแหน่งขององค์อาคาร การใช้วิธีการที่เหมาะสมของรายละเอียดของรอยต่อ
ท่ีแตล่ ะจุดต่อ

3.6 ผปู้ ระกอบชน้ิ งาน และผ้ตู ิดต้งั ท่ไี ดร้ บั ใบอนญุ าต

ผู้ตรวจสอบการควบคุมคุณภาพ ยกเว้นการตรวจสอบการทดสอบแบบไม่ทําลาย อาจไม่จําเป็นต้องมีหาก
ดําเนินงานในโรงงานประกอบช้ินส่วน หรือโดยผู้ติดตั้งที่ได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานท่ีมีอํานาจตามกฏหมาย
ให้ดําเนินการได้โดยไม่ต้องมีการประกันคุณภาพ การทดสอบแบบไม่ทําลายของรอยเช่ือมที่เช่ือมสําเร็จใน
โรงงานของผู้ประกอบชิ้นส่วนท่ีได้รับใบอนุญาต อาจจะทําโดยผู้ประกอบช้ินส่วน หากได้รับใบอนุญาตจาก
หน่วยงานท่ีมีอํานาจตามกฏหมาย หากผู้ประกอบชิ้นส่วนเป็นผู้ดําเนินการทดสอบแบบไม่ทําลาย
หน่วยงานการประกนั คณุ ภาพจะต้องตรวจสอบรายงานผลการทดสอบแบบไมท่ าํ ลายจากผู้ประกอบชิน้ งาน

ภายหลังจากที่ประกอบช้ินงานเสร็จส้ิน ผู้ประกอบชิ้นงานที่ได้รับใบอนุญาตจะต้องส่งหนังสือรับรอง
การปฏบิ ตั ติ ามข้อกําหนดให้กบั หนว่ ยงานที่มีอาํ นาจตามกฏหมาย โดยระบุถึงการจัดหาวัสดุและการดําเนินงาน
ของผู้ประกอบช้ินส่วนเป็นไปตามท่ีระบุในเอกสารการก่อสร้าง หลังจากการติดต้ังเสร็จส้ิน ผู้ติดต้ังที่ได้รับ
อนุญาตจะต้องส่งหนังสือรับรองการปฏิบัติตามข้อกําหนดให้กับหน่วยงานท่ีมีอํานาจตามกฏหมาย
โดยระบถุ งึ การจดั หาวสั ดแุ ละการดาํ เนนิ งานของผตู้ ิดต้งั เปน็ ไปตามที่ระบใุ นเอกสารการก่อสร้าง

ค่มู ือการก่อสร้างอาคารเหล็กโครงสร้างรปู พรรณ หน้าที่ 59

3.7 วสั ดุ และผลงานท่ไี มเ่ ป็นไปตามทกี่ าํ หนด

การตรวจสอบวัสดุหรือผลงานท่ีไม่เป็นไปตามที่ระบุในเอกสารการก่อสร้าง สามารถทําได้ตลอดระยะเวลา
การทํางาน อย่างไรก็ตามข้อกําหนดน้ีไม่ควรถูกใช้เป็นเหตุในการผ่อนปรนให้เจ้าของหรือผู้ตรวจสอบ
ไม่ตรวจสอบตามเวลาและลําดับขั้นตอนท่ีเหมาะสม หากวัสดุและผลงานท่ีไม่เป็นไปตามท่ีกําหนด
ควรถูกนําขน้ึ มาพจิ ารณาโดยผผู้ ลิตหรือผู้ติดต้ังท่ีเกี่ยวข้องโดยทันที

วัสดุและผลงานที่ไม่เป็นไปตามที่กําหนดควรได้รับการแก้ไขให้เป็นไปตามท่ีกําหนดหรือทําให้เหมาะสม
ตามวัตถปุ ระสงคท์ ีต่ ัง้ ไว้ ทก่ี ําหนดโดยวศิ วกรผรู้ ับผดิ ชอบ

นอกเหนือจากการส่งรายงานดังกล่าวให้กับหน่วยงานท่ีมีอํานาจตามกฏหมาย วิศวกรผู้รับผิดชอบ
หรอื เจ้าของแลว้ หน่วยงานประกันคุณภาพจะตอ้ งสง่ เอกสารไปยงั ผปู้ ระกอบชน้ิ สว่ นและผ้ตู ดิ ตัง้ ดังนี้

1) รายงานผลท่ไี มเ่ ปน็ ไปตามที่กําหนด
2) รายงานการซอ่ มแซม การเปลย่ี นทดแทน หรอื การยอมรบั รายการทไี่ ม่เปน็ ไปตามทกี่ ําหนด

ค่มู ือการกอ่ สร้างอาคารเหลก็ โครงสร้างรูปพรรณ หนา้ ที่ 60

ภาคผนวก

ค่มู อื การกอ่ สร้างอาคารเหลก็ โครงสร้างรปู พรรณ หนา้ ท่ี 61

ค่มู อื การกอ่ สรา้ งอาคารเหล็กโครงสร้างรปู พรรณ หน้าท่ี 62

ภาคผนวก ก

เกณฑก์ ารยอมรบั รอยบกพรอ่ งของรอยเช่อื ม

(ตารางท่ี 1 และรปู ท่ี ผ2.1 ในภาคผนวก 2 - มาตรฐานการตรวจสอบ
รอยเช่ือมโครงเหล็กรูปพรรณด้วยวิธีตรวจพินิจ (มยผ. 1561-51) ใน มยผ. 1561-51 ถงึ 1565–51 มาตรฐาน

การตรวจสอบรอยเช่อื มโครงเหล็กรูปพรรณดว้ ยวธิ ีการทดสอบแบบไม่ทาํ ลาย)

ค่มู ือการกอ่ สรา้ งอาคารเหล็กโครงสร้างรูปพรรณ หนา้ ที่ 63

ตารางท่ี 1 เกณฑก์ ารยอมรบั รอยบกพรอ่ งของรอยเชือ่ ม

ลาํ ดับ ประเภทของ คําอธบิ ายรายละเอยี ด เกณฑ์การยอมรบั
รอยบกพรอ่ ง

1 รอยแตก (crack) รอยแตกทกุ ชนดิ ไม่อนญุ าตใหม้ ี

2 รพู รุน (porosity) 2.1 รอยเช่ือมรบั ภาระสถิตท่ีไมใ่ ช่รอยตอ่ ทอ่

ก. รอยเชอื่ มต่อชน (butt joint) บากร่อง ไมอ่ นญุ าตใหม้ ี

(groove) หลอมลึกสมบูรณ์ (full

penetration) ทร่ี ับหน่วยแรงดงึ

ข. รอยเชอื่ มตอ่ ชนแบบบากร่องแบบอนื่ ผลรวมของรูพรนุ ที่มองเหน็ ไดท้ ม่ี ีเสน้ ผ่าน

(นอกเหนอื จาก ก.) และรอยเชอื่ มมมุ ศนู ยก์ ลางไม่นอ้ ยกวา่ 1 มม. (1/32 น้ิว)

(fillet) ตอ้ งไมเ่ กนิ

(1) 10 มม. (3/8 นวิ้ ) ตอ่ ทุกความยาวรอย

เช่อื ม 25 มม. (1 น้ิว) และ

(2) 20 มม. (3/4 นว้ิ ) ต่อทกุ ความยาวรอย

เชื่อม 300 มม. (12 นิ้ว)

หมายเหต:ุ ให้พจิ ารณารปู ที่ ผ.2.1 ในภาคผนวก 2 ประกอบการใช้ตาราง

ค่มู อื การก่อสรา้ งอาคารเหล็กโครงสร้างรปู พรรณ หน้าท่ี 64

ตารางท่ี 1 (ตอ่ ) เกณฑก์ ารยอมรบั รอยบกพร่องของรอยเชื่อม

ลาํ ดับ ประเภทของ คําอธิบายรายละเอียด เกณฑ์การยอมรบั
รอยบกพรอ่ ง

2 รูพรนุ (porosity) 2.2 รอยเช่ือมรบั ภาระพลวตั ท่ีไม่ใช่รอยต่อทอ่ และกรณรี อยเชือ่ มทอ่

ก. รอยเชอื่ มต่อชนบากร่องหลอมลกึ สมบรู ณท์ ่ีรับ ไม่อนญุ าตใหม้ ี

หนว่ ยแรงดงึ

ข. รอยเชอ่ื มต่อชนบากร่องแบบอน่ื จาํ นวนรพู รนุ ตอ้ งไม่เกิน 1 ตาํ แหนง่ ต่อ

(นอกเหนอื จาก ก.) ทกุ ความยาวรอยเชอื่ ม 100 มม. (4 นิว้ )

และขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางรพู รุนตอ้ ง

ไมเ่ กนิ 2.5 มม. (3/32 นิ้ว)

ค. รอยเชอื่ มมมุ

ค.1 รอยเชอ่ื มมมุ ทุกกรณี จาํ นวนรพู รนุ ตอ้ งไมเ่ กิน 1 ตาํ แหน่งต่อ

ทุกความยาวรอยเช่อื ม 100 มม. (4 น้ิว)

และขนาดเสน้ ผ่านศนู ยร์ พู รนุ ตอ้ งไม่เกิน

2.5 มม. (3/32 นิ้ว)

ค.2 รอยเชอื่ มมมุ ระหว่างสตฟิ เฟนเนอรก์ ผลรวมของเส้นผ่านศูนยก์ ลางรูพรนุ ตอ้ ง

(stiffener) กับเอวของคาน (Web) ไมเ่ กิน

(1) 10 มม. (3/8 นวิ้ ) ต่อทกุ ความยาว

รอยเชอื่ ม 25 มม. (1 นว้ิ ) และ

(2) 20 มม. (3/4 นว้ิ ) ตอ่ ทกุ ความยาว

รอยเชอื่ ม 300 มม. (12 นิ้ว)

3 หน้าตดั จดุ หยดุ ทุกหนา้ ตดั ของจดุ หยุดเชอื่ มจะตอ้ งเตมิ แนวเชอื่ ม ตามคําอธิบายรายละเอียด

เชอื่ ม (crater ให้เต็มตามขนาดของรอยเชอื่ มทรี่ ะบุ ยกเวน้ รอย

cross section) เชื่อมมมุ แบบเวน้ ระยะท่เี ช่ือมได้ความยาวแล้ว

(intermittent fillet weld)

หมายเหต:ุ ใหพ้ ิจารณารปู ท่ี ผ2.1 ในภาคผนวก 2 ประกอบการใช้ตาราง

ก สตฟิ เฟนเนอร์ (stiffeners) หมายถึง แผ่นเหล็กเสรมิ กาํ ลงั คานหรือเสาเหล็ก

ค่มู ือการกอ่ สรา้ งอาคารเหล็กโครงสร้างรูปพรรณ หน้าท่ี 65

ตารางที่ 1 (ตอ่ ) เกณฑ์การยอมรับรอยบกพร่องของรอยเชอื่ ม

ลําดับ ประเภทของ คาํ อธบิ ายรายละเอียด เกณฑก์ ารยอมรบั
รอยบกพรอ่ ง

4 รอยกัดแหวง่ 4.1 รอยเชอื่ มรบั ภาระสถิตท่ีไมใ่ ช่รอยตอ่ แบบทอ่

(undercut) ก. ความหนาโลหะงานน้อยกวา่ 25 มม. (1 นว้ิ ) (1) ความลึกของรอยกัดแหวง่ ไม่เกนิ

1 มม. (1/32 นว้ิ ) หรอื

(2) ความลึกรอยกดั แหว่งไมเ่ กนิ 2 มม.

(1/16 น้วิ ) และความยาวรอยเชอื่ มท่ี

มีรอยกดั แหว่งลึกรวมกันไมเ่ กิน

50 มม. (2 น้วิ ) ต่อความยาวรอย

เช่ือม 300 มม. (12 น้วิ )

ข. ความหนาโลหะงานมากกวา่ หรือเทา่ กบั ความลึกของรอยกดั แหวง่ ไม่เกิน 2 มม.

25 มม. (1 น้วิ ) (1/16 นิว้ ) ตลอดแนวเชอ่ื ม

4.2 รอยเชือ่ มรบั ภาระพลวตั ทไ่ี ม่ใช่รอยตอ่ ทอ่ และกรณีรอยเชือ่ มทอ่

ก. กรณีโครงสรา้ งหลัก (primary members) ที่ ความลกึ ของรอยกัดแหวง่ ไม่เกนิ 0.25 มม.

มรี อยเชื่อมรบั หน่วยแรงดงึ (0.01 นิว้ )

ข. กรณีอืน่ ๆ นอกเหนอื จาก ก. ความลกึ ของรอยกดั แหวง่ ไมเ่ กนิ 1 มม.

(1/32 นว้ิ )

5 รอยเชอ่ื มไมไ่ ด้ 5.1 รอยเชอื่ มทกุ กรณี รอยเชอื่ มท่ีไมไ่ ดข้ นาดรวมกนั ตอ้ งไม่เกนิ

ขนาด ร้อยละ 10 ของความยาวรอยเชอื่ มทงั้ หมด

(undersized 5.2 รอยเช่ือมมมุ (fillet weld) ระหว่างเอว ไมอ่ นญุ าตให้มรี อยเช่อื มไมไ่ ด้ขนาดบริเวณ

weld) (web) กบั ปกี (flange) ของคานประกอบ รอยเชอื่ มทปี่ ลายเปน็ ระยะสองเท่าของ

ความกว้างปกี

5.3 รอยเชื่อมมมุ (fillet weld) แบง่ ตามขนาดรอยเชอ่ื มระบุ (specified nominal size: L)

ก. L ≤ 5 มม. (3/16 นิ้ว) ขนาดรอยเชอื่ มเลก็ กวา่ ขนาดรอยเช่ือมระบุ

ไมเ่ กนิ 2 มม. (1/16 นิว้ )

ข. L = 6 มม. (1/4 น้วิ ) ขนาดรอยเชอื่ มเล็กกว่าขนาดรอยเชือ่ มระบุ

ไม่เกนิ 2.5 มม. (3/32 น้วิ )

ค. L ≥ 8 มม. (5/16 นิว้ ) ขนาดรอยเชอื่ มเลก็ กวา่ ขนาดรอยเชอื่ มระบุ

ไม่เกนิ 3 มม ( 1/8 นว้ิ )

หมายเหต:ุ ให้พิจารณารปู ที่ ผ2.1 ในภาคผนวก 2 ประกอบการใช้ตาราง

ค่มู ือการกอ่ สรา้ งอาคารเหล็กโครงสร้างรูปพรรณ หนา้ ท่ี 66

ตารางที่ 1 (ตอ่ ) เกณฑ์การยอมรบั รอยบกพร่องของรอยเช่อื ม

ลําดบั ประเภทของ คําอธิบายรายละเอียด เกณฑก์ ารยอมรบั
รอยบกพรอ่ ง

6 รอยนูน สาํ หรบั รอยเชอ่ื มมมุ (fillet weld) แบง่ ตามความกวา้ งของขารอยเช่ือม (width of weld

(convexity) face: W)

ก. W ≤ 8 มม. (W ≤ 5/16 น้ิว) ระยะนูนไม่เกนิ 2 มม. (1/16 นวิ้ )

ข. 8 < W < 25 มม. (5/16 < W < 1 นว้ิ ) ระยะนูนไม่เกนิ 3 มม. (1/8 น้ิว)

ค. W ≥ 25 มม. (W ≥ 1 น้วิ ) ระยะนนู ไมเ่ กนิ 5 มม. (3/16 นว้ิ )

7 รอยเกย สาํ หรบั รอยเชอื่ มมุมและรอยเชอ่ื มชนแบบ ไม่อนญุ าตให้มี

(overlap) บากรอ่ ง

8 หลอมละลายไม่ สาํ หรบั รอยเชอ่ื มมมุ ไมอ่ นญุ าตใหม้ ี

สมบรู ณ์

(incomplete

fusion)

9 โลหะเชอ่ื ม โลหะเชื่อมส่วนเกินทง้ั กรณโี ลหะงานความ ความสงู ของโลหะเชือ่ มส่วนเกนิ ไมเ่ กนิ

สว่ นเกิน หนาเท่ากันและโลหะงานความหนาตา่ งกนั 3 มม. (1/8 น้ิว)

(reinforcement)

10 รอยเชอื่ มไม่เตม็ รอยเชอื่ มไมเ่ ต็มสําหรบั การต่อชนแบบ ไมอ่ นญุ าตให้มี

(underfill) บากรอ่ ง

11 ความเรียบของผวิ สาํ หรบั รอยเชอ่ื มแบบต่อชนบากรอ่ ง การขดั ผวิ รอยเชอื่ มใหเ้ รยี บเสมอโลหะงานตอ้ งมี

รอยเชอ่ื ม (flush เงือ่ นไขดังน้ี

surface) ก. ความหนารอยเชื่อมภายหลังการขดั ผิว มคี ่าน้อยกว่าความหนาของโลหะงานท่ีบาง

และความหนาของโลหะงานภายหลังการ กว่าไมเ่ กินรอ้ ยละ 5 และไมเ่ กนิ 1 มม.

ขดั ผิว (1/32 นวิ้ )

ข. ความสูงของโลหะเชอื่ มส่วนเกิน ไม่เกนิ 1 มม. (1/32 น้วิ ) ยกเวน้ กรณเี ป็น

(reinforcement) หน้าสมั ผสั หรอื รอยตอ่ ตอ้ งทําผวิ รอยเชอื่ ม

ให้เรียบเสมอกบั ผวิ โลหะงาน

หมายเหต:ุ ให้พิจารณารูปท่ี ผ2.1 ในภาคผนวก 2 ประกอบการใช้ตาราง

ค่มู อื การก่อสรา้ งอาคารเหลก็ โครงสร้างรูปพรรณ หนา้ ท่ี 67

ตารางท่ี 1 (ตอ่ ) เกณฑ์การยอมรับรอยบกพรอ่ งของรอยเชื่อม

ลาํ ดับ ประเภทของ คําอธิบายรายละเอยี ด เกณฑ์การยอมรบั
รอยบกพรอ่ ง

12 การแต่งผวิ รอย ในกรณีทกี่ ําหนดให้ตอ้ งแตง่ ผวิ รอยเชื่อม สามารถดาํ เนินการด้วยการสกดั ผวิ

เชอ่ื ม (surface หรอื การเซาะร่อง และตามดว้ ยการขัดผิว (grinding) ทัง้ นต้ี ้อง มคี วามหยาบของผิวไม่

finishing) เกิน 6.3 ไมครอน (0.0063 มิลลเิ มตร) และตอ้ งขดั ผวิ ในทิศทางท่กี าํ หนดดงั นี้

ก. ขัดผิวในทศิ ทางขนานกบั หนว่ ยแรง ความหยาบอยใู่ นชว่ ง 3.2 ถงึ 6.3 ไมครอน

หลัก (primary stress) (0.0032 ถึง 0.0063 มม.)

ข. ขัดผิวในทิศทางใดก็ได้

หมายเหต:ุ ใหพ้ ิจารณารปู ท่ี ผ2.1 ในภาคผนวก 2 ประกอบการใชต้ าราง

ค่มู อื การก่อสรา้ งอาคารเหลก็ โครงสร้างรูปพรรณ หน้าท่ี 68

ค่มู อื การกอ่ สรา้ งอาคารเหล็กโครงสร้างรปู พรรณ หน้าท่ี 69

ค่มู อื การกอ่ สรา้ งอาคารเหล็กโครงสร้างรปู พรรณ หน้าท่ี 70

ภาคผนวก ข

ตัวอยา่ งแบบฟอร์มรายงานผลการตรวจสอบรอยเชือ่ มดครงสร้างเหลก็ รูปพรรณ
ด้วยวธิ ีการตรวจพนิ จิ

(ภาคผนวก 1 - มาตรฐานการตรวจสอบ
รอยเช่ือมโครงเหล็กรปู พรรณด้วยวิธตี รวจพินิจ (มยผ. 1561-51) ใน มยผ. 1561-51 ถงึ 1565–51 มาตรฐาน

การตรวจสอบรอยเชอื่ มโครงเหล็กรปู พรรณดว้ ยวธิ ีการทดสอบแบบไม่ทําลาย)

ค่มู อื การก่อสร้างอาคารเหลก็ โครงสร้างรูปพรรณ หน้าที่ 71

ค่มู อื การกอ่ สรา้ งอาคารเหล็กโครงสร้างรปู พรรณ หน้าท่ี 72

ตวั อย่างรายละเอยี ดการตรวจสอบอุปกรณค์ วามปลอดภยั ตามมาตรฐาน AS/NZS 4576:1995 ภาคผนวก G

การตรวจสอบเข็มขัดและสายรดั – รายการตรวจสอบ

(สาํ หรับเปน็ ขอ้ มูล)

ชิ้นส่วน สภาพ/ปัญหา ที่ตอ้ งตรวจสอบ
ตัวสาย ตรวจสอบรอยขาด หรือรอยฉีก
ความเสียหายจากการเสียดสี โดยเฉพาะส่วนทสี่ ัมผสั กับส่วนอนื่
ขอเกาะ การยืดมากเกนิ ไป
ความเสียหายจากการสมั ผัสความร้อน สารกัดกร่อน หรือตวั ทาํ ละลาย
ห่วงรปู ตวั ดี (D-ring) การเสอ่ื มสภาพตามกาลเวลา การเกดิ เชือ้ รา หรือการสมั ผสั แสงอัลตราไวโอเลต
ตัวลอ็ ค และตวั ปรับระยะ การบดิ เบยี้ วของตะขอ
รอยเยบ็ รอยรา้ วหรอื รอยพบั ยู่
เชือก การสึกกรอ่ นของตัวหมุน หรอื สลักยดึ
โซ่ สลกั เคลื่อนท่ีไดอ้ ิสระตลอดชว่ ง
การหัก สญู เสียประสิทธภิ าพ และอยู่ผดิ ตาํ แหนง่ ของสปรงิ สลกั เกลียว (เปรยี บเทียบ
กบั ขอเกาะใหม)่
ไมม่ สี ิ่งสกปรกและสิ่งขดั ขวาง เชน่ สนมิ
ขาสว่ นตรงของตัวดีไมห่ า่ งมากเกนิ ไป
รอยร้าวโดยเฉพาะทจ่ี ุดตัดของสว่ นตรงกบั ส่วนโค้ง
การบิดตวั หรอื ความเสยี หายทางกายภาพของหว่ ง
พนื้ ทหี่ น้าตดั หายไปมากเนอ่ื งจากการสึกหรอ
การบิดตวั หรอื ความเสียหายทางกายภาพ
เกิดรอยร้าวและการยู่
การโก่งงอของเดือย
การเสยี หาย ขาด หรอื สึกหรอของด้ายเยบ็ ความเสยี หายหรอื สญู เสียประสิทธภิ าพของ
ด้ายเย็บจากการสัมผัสความรอ้ น สารกดั กร่อน ตวั ทําละลาย หรือเชื้อรา
รอยตดั /รอยขาด
การเสยี ดสี การหลุดรุย่
การยดื
ความเสียหายจากการสัมผัสความรอ้ น สารกดั กรอ่ น ตวั ทาํ ละลาย หรืออื่นๆ
ความเสยี หายทางกายภาพ
ความปลอดภัยของการเช่อื มตอ่ กบั ตะขอ แหวน หรืออุปกรณอ์ ่ืนทมี่ ีลกั ษณะ
ใกล้เคยี งกัน

ค่มู อื การกอ่ สร้างอาคารเหล็กโครงสร้างรปู พรรณ หน้าที่ 73

ตวั อยา่ งรายละเอยี ดการตรวจสอบอปุ กรณ์ความปลอดภยั ตามมาตรฐาน AS/NZS 4576:1995 ภาคผนวก H

ใบบนั ทึกการตรวจสอบ สมอยึดแบบล็อคด้วยตัวเอง – รายการตรวจสอบ
(สําหรบั เป็นขอ้ มลู )

ช้นิ ส่วน สภาพ/ความเสียหาย ท่ีต้องตรวจสอบ
เชอื ก (สมอยดึ ชนิด fully extend รอยตัด/รอยขาด
rewind drum) การเสยี ดสี การหลดุ รุ่ย
การยืด
สมอยดึ (anchorage body) ความเสยี หายจากการสมั ผสั ความร้อน สารกดั กรอ่ น หรือตัวทําละลาย
เตม็ ไปด้วยส่งิ สกปรกหรอื สารหล่อลืน่
กลไกการล็อคและตวั ควบคมุ เชอื ก สําหรบั สมอยดึ แบบมว้ นกลับได้ (rewind anchorage) ให้ทาํ การคลายเชอื กออก
(locking mechanism and rope ใหส้ ุดแล้วดึงแรงๆ เพอื่ ตรวจสอบว่าปลายเชือกยึดเข้ากับแกนสมอยดึ อยา่ งแนน่
guides) หนา
ห่วงยึด (mounting ring)
อปุ กรณอ์ น่ื ๆ ความเสียหายทางกายภาพหรอื การสึกกรอ่ น โดยเฉพาะทจ่ี ุดหมนุ ตัวลอ็ ค
รอยรา้ ว โดยเฉพาะท่มี ุมตา่ งๆ
ความปลอดภยั ของตวั ยดึ
ตวั สมอยึด (anchorage body proper)
ความเสยี หายทางกายภาพเช่นรอยบบุ ขนาดใหญช่ ดั เจน การบดิ เสยี รปู การเกิด
สนิม
ตรวจสอบวัสดตุ า่ งๆ ทีอ่ ยใู่ นตวั สมอยดึ ท่ีไม่เก่ียวขอ้ ง เช่น เม็ดหนิ ให้ลกึ เข้าไป
ในตวั สมอยดึ ทสี่ ดุ เทา่ ทจ่ี ะทําไดโ้ ดยไมต่ อ้ งมกี ารถอดประกอบสมอยดึ
ตรวจสอบสลักเกลียว แปน้ เกลียว หรืออปุ กรณ์ยึดอน่ื ๆ จะตอ้ งไมห่ ลวม หรือหาย
(ตรวจสอบเฉพาะภายนอก)
ตรวจสอบตําแหน่งของปุ่มระบุแรงอัดของคลัช (clutch compression
indicator button) (สําหรับแบบแกนหมนุ กลบั และลวดสลิง)
ตรวจสอบตัวควบคมุ เชอื ก (rope guide) ในสว่ นที่สามารถมองเหน็ ได้ โดยตอ้ ง
ไม่มกี ารสึกหรอ รอยเปน็ รอ่ งและมีสนั ทเ่ี กิดจากการขูดขีด
ตรวจสอบว่าระบบกลไกการล็อคสามารถล็อคและลอ็ คค้างไวไ้ ด้เมื่อมกี ารกระตกุ
หรือดงึ เชอื กอยา่ งรวดเร็ว
ตรวจสอบวา่ เชอื กสามารถรอ้ ยทะลผุ า่ นสมอยึดโดยทไ่ี มต่ ดิ ขดั ใดใด และกรณี
rewind drum anchorage ตัวเชือกสามารถหมนุ กลบั ได้สมบรู ณ์โดยไม่มกี าร
สูญเสยี แรงดงึ
ตรวจสอบสภาพและกลไกการล็อกของทกุ ๆ ขอเกาะแบบ snap hook หรอื link
ที่เก่ียวข้อง

ค่มู ือการก่อสรา้ งอาคารเหลก็ โครงสร้างรูปพรรณ หนา้ ท่ี 74

ตวั อย่างตารางบันทึกการตรวจสอบรอกยกของตามมาตรฐาน AS/NZS 4576:1995 ภาคผนวก K

ใบบนั ทึกและรายการตรวจสอบ

(สําหรบั เป็นขอ้ มูล)

ใบบนั ทกึ สาํ หรบั รอกยกของสาํ หรับนงั่ ร้านและอปุ กรณ์ปอ้ งกัน

ใบบนั ทึกรายการตรวจสอบ รอกสาํ หรับนั่งรา้ น*/อปุ กรณ์ปอ้ งกนั *

หมายเลขเคร่อื ง....................................ผผู้ ลิต.............................................................รนุ่ ....................................

*ให้ขดี ฆา่ รายการที่ไมเ่ ก่ียวข้องออก

วนั ที่ ชิ้นสว่ นท่ซี ่อมหรือเปลี่ยนทดแทน นาํ้ หนกั (กก.) ผ่านการทดสอบ ผตู้ รวจสอบ ลงชื่อผูต้ รวจสอบ

คา่ ทที่ ดสอบ คา่ ทรี่ ะบุ (ใช/่ ไม่ใช่)

ค่มู อื การกอ่ สร้างอาคารเหล็กโครงสร้างรูปพรรณ หน้าท่ี 75

ใบบันทกึ สาํ หรบั เครือ่ งจาํ กัดนํา้ หนัก (Load limiting device)

ใบบนั ทึกรายการตรวจสอบสาํ หรบั เครือ่ งจาํ กดั น้าํ หนัก (Load limiting device)

หมายเลขเคร่ือง....................................ผู้ผลิต.............................................................รนุ่ ....................................

วนั ที่ ชนิ้ สว่ นท่ซี ่อม ความตา่ ง นํ้าหนกั (กก.) ผ่านการ ผู้ตรวจสอบ ลงช่อื ผู้

หรอื เปล่ยี นทดแทน ศักยไ์ ฟฟา้ ทใ่ี ช้ ค่าทีก่ ําหนด คา่ จากการ ทดสอบ ตรวจสอบ

ทดสอบ ทดสอบ (ใช่/ไม่ใช)่

ค่มู อื การก่อสร้างอาคารเหลก็ โครงสร้างรปู พรรณ หนา้ ที่ 76

ใบบันทึกสําหรับเชอื ก (Wire rope)

ใบบนั ทกึ สําหรบั เชอื ก (Wire rope)

หมายเลขประจําตวั เชือก....................... ขนาดเสน้ ผ่านศนู ยก์ ลางเชอื ก................มม. ความยาวเร่ิมตน้ ..........................เมตร.

สาํ หรบั ใช้งานร่วมกับ รอกสาํ หรับน่งั ร้าน*/อุปกรณป์ อ้ งกัน*

*ให้ขดี ฆา่ รายการทไ่ี มเ่ ก่ียวข้องออก

หมายเลขเคร่อื ง................................................ผู้ผลติ .............................................................รนุ่ ...........................................

วนั ที่ สถานท่ี สภาพของเชอื ก ความยาวที่ ผตู้ รวจสอบ ลงชอ่ื ผตู้ รวจสอบ

ในสนาม ในโรงงาน ถูกตัดออก (ม.)

ค่มู ือการก่อสรา้ งอาคารเหล็กโครงสร้างรูปพรรณ หน้าที่ 77

ค่มู อื การกอ่ สรา้ งอาคารเหล็กโครงสร้างรปู พรรณ หน้าท่ี 78


Click to View FlipBook Version