- 492 -
ลําดับท่ี เรื่อง/มติ อา งอิง
(ครง้ั ท่/ี วนั ทป่ี ระชมุ )
๒.๒ พ้ืนที่ดานใต จดแนวเขตแปลงที่ดินสวนท่ีเปนกรรมสิทธิ์ หรือสิทธิ
ครอบครองโดยชอบดวยกฎหมายของบริษัทเครือสหวิริยา และกลุมผูประกอบการ
ที่ไดมีมติใหเปล่ียนแปลงเปนท่ีดินประเภทชนบทและเกษตรกรรม (สีเขียว) นั้น
ขอเรียนวา การกาํ หนดขอบเขตยังมีความคาดเคล่ือนมาก ทด่ี นิ ดงั กลาว ซ่ึงเปน กรรมสิทธิ์
ของบริษัทฯ ไดถูกกําหนดใหเปนท่ีดินประเภทชนบทและเกษตรกรรม (สีเขียว)
มีจํานวนกวา รอ ยไร
๒.๓ พ้นื ทดี่ านทิศตะวนั ตก พืน้ ทที่ ่ีอยูดานบนของบริเวณหมายเลข ๔.๒
ท่ีมีมติใหเปล่ียนเปนที่ดินประเภทชนบทและเกษตรกรรม (สีเขียว) นั้น บริษัทฯ
ขอเรียนวา บริษัทฯ และกลุมหรือสหวิริยามีกรรมสิทธิ์ อยูเปนจํานวนมากกวา
๓๐๐ - ๔๐๐ ไร และเปนสวนท่ีติดกับสวนของโรงงานเดิม แตกลับไดรับการพิจารณา
ใหเปนที่ดินประเภทชนบทและเกษตรกรรม (สีเขียว) ทําใหเครือสหวิริยาไดรับ
ความเสยี หายเปน อยา งมาก
ผลการพจิ ารณาคํารอง (มคี วามเหน็ สอดคลองกนั )
คณะที่ปรึกษาผังเมืองรวมชุมชนบางสะพาน กรมโยธาธิการและผังเมือง
และคณะอนุกรรมการผังเมืองพิจารณาคํารองฯ มีมติสอดคลองกัน คือ เห็นควร
ยกคาํ รอ ง โดยใหคงการใชป ระโยชนทด่ี ินประเภทชนบทและเกษตรกรรม (สเี ขียว)
บรเิ วณหมายเลข ๗.๗ ไวต ามทร่ี า งผงั เมืองรวมฉบบั ปด ประกาศ ๙๐ วนั คร้ังท่ี ๒ กาํ หนด
มติท่ีประชุม ยกคํารอง โดยใหคงการใชประโยชนท่ีดินประเภทชนบท
และเกษตรกรรม (สีเขียว) บริเวณหมายเลข ๗.๗ ไวตามที่
รางผังเมืองรวมฉบับปดประกาศ ๙๐ วัน คร้ังที่ ๒ กําหนด
ต า ม ม ติ ค ณ ะ อ นุ ก ร ร ม ก า ร ผั ง เ มื อ ง พิ จ า ร ณ า คํ า ร อ ง ฯ
กรมโยธาธิการและผังเมือง และคณะที่ปรึกษาผังเมืองรวม
ชมุ ชนบางสะพาน
ดา นขอ กาํ หนดการใชประโยชนท่ีดิน (จํานวน 1 เรือ่ ง)
เร่ือง ขอคัดคานขอกําหนดของที่ดินประเภทอุตสาหกรรมและคลังสินคา
(สีมว ง) บรเิ วณหมายเลข ๔.๑
ผูรอง จํานวน ๒ ฉบับ ๒ ราย ไดแก บริษัท ประจวบพัฒนาดีเวลลอปเมนท
จํากดั และบริษทั ในเครือสหวริ ิยา (Sahaviriya Group of Companies)
เหตผุ ลในการขอแกไ ข
๑. การปรับปรุงแกไข/เพ่ิมเติมขอกําหนดการใชประโยชนที่ดินประเภท
อุตสาหกรรมและคลงั สนิ คา (สมี ว ง) เฉพาะบรเิ วณหมายเลข ๔.๑ เพอ่ื หา มการประกอบ
กิจการโรงงานที่กอใหเกิดมลพิษ โดยอางอิงหลักการและแนวทางการกําหนด
ประเภทโรงงานทกี่ อใหเกิดมลพิษตามมาตรการการจดั การนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด
ของคณะกรรมการ ๔ ฝาย เพื่อแกไขปญหาการปฏิบัติ ตามมาตรา ๖๗ วรรค ๒
ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. ๒๕๕๐ ไมเปนธรรมตอการประกอบธุรกิจอุตสาหกรรมเหล็ก
ในพ้ืนท่ีอําเภอบางสะพานของเครือสหวิริยา เน่ืองจากเครือสหวิริยาตองปฏิบัติ
ใหเ ปน ไปตามมาตรฐานและหลกั เกณฑท ก่ี ฎหมายกําหนด โดยเฉพาะดา นสขุ ภาพ สังคม
- 493 -
ลําดับท่ี เร่อื ง/มติ อา งอิง
(คร้งั ท/ี่ วันท่ีประชมุ )
ชมุ ชน และส่งิ แวดลอ ม ซึ่งอยูภายใตการควบคุม กาํ กบั ดูแลของหนว ยงานภาครฐั
อยแู ลว
๒. การปรับปรุงแกไข/เพิ่มเติมขอกําหนดการใชประโยชนที่ดินประเภท
อุตสาหกรรมและคลังสินคา (สมี ว ง) เฉพาะบรเิ วณหมายเลข ๔.๑ เพอื่ รักษาสภาพ
ความเปนพื้นที่รับนํ้าและการระบายนํ้าตามธรรมชาติ ซึ่งมีผลตอการกําหนดสัดสวน
ที่วางปราศจากอาคารไมนอยกวารอยละ ๗๐ และตองเปนอาคารที่ยกพ้ืนสูง
จากระดับพื้นดินไมนอยกวา ๑.๘๐ เมตร นั้น สงผลใหเกิดความเสียหาย
ตอทรัพยสินที่ดินที่บริษัทฯ ไดซื้อจัดเตรียมไว ซ่ึงการปรับเปล่ียนลักษณะเชนน้ี
ไมเ คยปรากฏในหลกั สากล สําหรับการจดั ทําผังเมอื งไมถูกตอ งในเชิงวิศวกรรม
ผลการพิจารณาคํารอ ง (มีความเห็นตางกนั )
คณะท่ีปรึกษาผังเมืองรวมชุมชนบางสะพาน เห็นควรยกคํารอง
เน่ืองจากพ้ืนที่บริเวณหมายเลข ๔.๑ โดยสภาพแลวเปนพ้ืนท่ีราบลุมรองรับนํ้า
ในฤดูน้ําทวม นํ้าหลาก แตมีขอเสนอแนะเพิ่มเติมเกี่ยวกับขอกําหนดในที่ดิน
ประเภทอตุ สาหกรรมและคลงั สินคา (สมี วง) บริเวณหมายเลข ๔.๑ ใน ๒ ประเดน็ ดังนี้
ประเด็นท่ี ๑ เสนอใหปรับเปล่ียนขอหามในวงเล็บ ๑๓ วรรคหก
จาก “กิจการผลิตภัณฑซีเมนต” เปน “โรงงานผลิตภัณฑปูนซีเมนต” เนื่องจาก
เจตนารมณหลักของการกําหนดการใชประโยชนท่ีดิน บริเวณหมายเลข ๔.๑
เนนหามกิจกรรมอุตสาหกรรมที่เปนมลพิษตอสภาพแวดลอมหรือชุมชนโดยรอบ
เทานั้น ดังน้ัน กิจกรรมท่ีเก่ียวของกับอุตสาหกรรมปูนซีเมนต จึงควรหามเฉพาะ
ท่ีเปนกิจการผลิตภัณฑปูนซีเมนตเทาน้ัน สวนกิจกรรมที่มีลักษณะเก่ียวกับ
ผลิตภัณฑตอเนื่อง เชน การผลิตทอขนาดตาง ๆ จากปูนซีเมนตหรือผลิตภัณฑ
จากปูนซีเมนตที่สนับสนุนการกอสราง เชน เสาปูน ผนังสําเร็จรูป เปนตน นั้น
ไมควรกําหนดขอ หามไวเพอ่ื เปน การสง เสริมกิจกรรมอุตสาหกรรมผลิตรองรับการ
ขยายตวั และการกอ สรา งของชุมชนบางสะพานในอนาคต
ประเด็นที่ ๒ เสนอขอปรับเปล่ยี นขอกําหนด เรอ่ื ง การใชประโยชนที่ดิน
ตามวรรค ๗ (ข) เก่ียวกับการกอสรางอาคารภายในพื้นท่ีบริเวณหมายเลข ๔.๑
ใหปรับเปล่ียนเปน “(ข) จะตองเปนอาคารที่มีช้ันลางเปดโลง โดยยกพื้นอาคาร
ใหเปนใตถุนโลง และมีความสูงจากระดับพ้ืนดินไมนอยกวา ๑.๘๐ เมตร
โดยอนุโลมหรือยกเวน ใหสามารถถมดินได เฉพาะสวนท่ีกอสรางอาคารไดไมเกนิ
รอยละ ๓๐ ของแปลงที่ดินท่ีขออนุญาตปลูกสรางอาคาร และบริเวณท่ีกอสราง
ถนนเขาสตู วั อาคารโรงงาน เพอื่ ใหส ามารถรองรบั นํ้าหนักของเครือ่ งจกั รโรงงานได”
กรมโยธาธิการและผังเมือง เห็นควรยกคํารอง โดยใหคงขอกําหนด
การใชประโยชนที่ดินประเภทอุตสาหกรรมและคลังสินคา (สีมวง) บริเวณ
หมายเลข ๔.๑ ไวตามท่ีปดประกาศ ๙๐ วัน ครั้งที่ ๒ เชนเดิม โดยไดพิจารณา
ตามประเด็นขอเสนอแนะของคณะที่ปรึกษาฯ แลว เห็นวาขอกาํ หนดดังกลาว
- 494 -
ลําดับท่ี เรอ่ื ง/มติ อา งอิง
(ครั้งที่/วนั ทปี่ ระชมุ )
เหมาะสมสอดคลองกับสภาพพ้ืนที่บริเวณคํารอง ซึ่งเปนพื้นที่ลุมต่ํารับน้ํากอนไหล
ลงสูทะเล และมีแนวเขตเชื่อมตอกับพรุแมรําพึง ซึ่งเปนพื้นที่ชุมน้ําท่ีอยูบริเวณ
ดานเหนือของปาสงวนแหงชาติ ปาคลองแมรําพึง ท่ีควรสงวนรักษาระบบนิเวศ
และคุณภาพสงิ่ แวดลอ ม
คณะอนุกรรมการผังเมืองพิจารณาคํารองฯ เห็นควรยกคํารอง โดยมี
เง่ือนไขใหปรับปรุงเงื่อนไขขอกําหนดการใชประโยชนท่ีดินประเภทอุตสาหกรรม
และคลังสินคา (สีมวง) ในขอ ๙ วรรคเจ็ด เฉพาะ (ก) และ (ข) ดังน้ี (ก) จากเดิม
“กําหนดใหมีสัดสวนของที่วางปราศจากอาคารไมนอยกวารอ ยละ ๗๐ ของแปลงที่ดิน
ท่ีขออนุญาตปลูกสรางอาคาร” แกไขเปน “กําหนดใหมีสัดสวนการใชประโยชน
ทด่ี นิ ไดไ มเกินรอยละ ๓๐ ของแปลงทด่ี ินที่ขออนุญาตปลกู สรา งอาคาร”
(ข) จากเดิม “จะตองเปนอาคารท่ีมีชั้นลางเปดโลง โดยยกพ้ืนอาคาร
ใหเปนใตถุนโลง และมีความสูงจากระดับพื้นดินไมนอยกวา ๑.๘๐ เมตร” แกไขเปน
“การปลกู สรางอาคารตองไมปรับปรงุ สภาพกายภาพไปกีดขวางทางไหลของน้ํา”
คณะกรรมการผงั เมอื งมีขอสงั เกตและขอ เสนอแนะ ดงั น้ี
1. เร่ืองอุตสาหกรรมรถยนต ซึ่งจะเปนอุตสาหกรรมที่มีความสําคัญ
ในภาคพื้นเอเชียตอไป การมีโรงอุตสาหกรรมเหล็กขนาดใหญ ก็จะสามารถสงออก
ไปขายตางประเทศได แตเน่ืองจากชาวบานกับผูประกอบการมีความเห็นที่ตางกัน
ฉะนัน้ หนว ยงานท่ีเกี่ยวขอ งไมว า จะเปนสาํ นักงานคณะกรรมการพฒั นาการเศรษฐกิจ
และสังคมแหงชาติ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ
และส่ิงแวดลอม คงตองพยายามแกปญหาน้ีใหเปนอุตสาหกรรมท่ีไดรับการยอมรับ
ไมเชน นัน้ จะไมส ามารถพัฒนาตอไปได
2. ประเทศไทยควรท่ีจะมีอุตสาหกรรมเหล็กเปนของตนเอง เน่ืองจาก
มีอุตสาหกรรมรถยนต เคร่ืองใชไฟฟา ซึ่งใชเหล็กท้ังสิ้น จึงจําเปนท่ีตองมีพ้ืนที่
อุตสาหกรรมและคลงั สินคา (สีมวง) บริเวณน้ี
มตทิ ่ปี ระชุม ยกคํารอง โดยใหคงขอกําหนดการใชประโยชนท่ีดินประเภท
อุตสาหกรรมและคลังสินคา (สีมวง) บริเวณหมายเลข ๔.๑
ไวตามรางผังเมืองรวมชุมชนบางสะพาน ฉบับปดประกาศ ๙๐ วัน
ครั้งที่ ๒ กําหนด แตมีเง่ือนไขใหปรับปรุงขอกําหนดการใช
ประโยชนท่ีดินประเภทอุตสาหกรรมและคลังสินคา (สีมวง)
ในขอ ๙ วรรคเจ็ด เฉพาะ (ก) และ (ข) ดังนี้ (ก) จากเดิม
“กําหนดใหมีสัดสวนของที่วางปราศจากอาคารไมนอยกวา
รอยละ ๗๐ ของแปลงท่ีดินท่ีขออนุญาตปลูกสรางอาคาร” แกไข
เปน “กําหนดใหมีสัดสวนการใชประโยชนที่ดินไดไมเกิน
รอยละ ๓๐ ของแปลงที่ดินท่ีขออนุญาตปลูกสรางอาคาร” (ข)
จากเดิม “จะตอ งเปน อาคารทีม่ ีชั้นลา งเปดโลง โดยยกพนื้ อาคาร
- 495 -
ลําดับท่ี เรื่อง/มติ อา งอิง
(ครัง้ ท่ี/วนั ทป่ี ระชมุ )
ใหเปนใตถุนโลง และมีความสูงจากระดับพ้ืนดิน ไมนอยกวา
๑.๘๐ เมตร” แกไขเปน “การปลูกสรางอาคารตองไมปรับปรุง
สภาพกายภาพไปกี ดขวางทางไหลของน้ํ า” ต า ม ม ติ
คณะอนุกรรมการผังเมอื งพจิ ารณาคาํ รองฯ
คํารองดานอน่ื ๆ (จํานวน 4 เรอื่ ง)
เรื่องท่ี ๑ ขอแกไขที่ดินประเภทอุตสาหกรรมท่ัวไปที่ไมเปนมลพิษ
ตอ ชมุ ชนหรือสง่ิ แวดลอมและคลังสินคา (สีขาวมีกรอบและเสนทแยงสีมว ง) บริเวณ
หมายเลข ๖.๒ เปนทีด่ นิ ประเภทอุตสาหกรรมและคลงั สนิ คา (สีมวง)
ผูรอง จํานวน ๒ ฉบับ ๒ ราย ไดแก บริษัท ทาเรือประจวบ จํากัด
และบริษทั ในเครือสหวริ ิยา (Sahaviriya Group of Companies)
เหตผุ ลในการขอแกไข เน่อื งจาก
๑. ผูรอง น.ส.พรเพ็ญ พึงรุงเรืองวัฒนา เจาของท่ีดินเอกสารสิทธิ์ นส.๓ ก
เลขที่ ๓๓๘ เน้ือท่ี ๑๓ – ๓ - ๙๔ ไร อยูบริเวณหมายเลข ๖.๒ ขอแกไ ขเนอื่ งจาก
ผงั เมอื งรวมชุมชนบางสะพาน จังหวดั ประจวบคีรขี นั ธ พ.ศ. ๒๕๔๖ (ฉบบั เดิม) ได
กําหนดไวใหที่ดินบริเวณนี้เปนท่ีดินประเภทอุตสาหกรรมเชนกัน และผูรอง
มีความประสงคจะขายที่ดินใหแกกลุมอุตสาหกรรมเหล็กของเครือสหวิริยาเทานั้น
หากพ้ืนท่ีบริเวณน้ีถูกกําหนดใหดําเนินธุรกิจอุตสาหกรรมเหล็ก จะไดราคาท่ีดิน
สูงตามไปดวย หากพ้ืนท่ีบริเวณดังกลาวกระทําไดเพียงภาคเกษตรกรรม
และไมสามารถรองรับอุตสาหกรรมได จะสงผลกระทบตอราคาที่ดินของผูรอง
ท่ีเตรยี มจะขายใหแ กภ าคอตุ สาหกรรมในอนาคต
๒. ผูรองไดจัดเตรียมพื้นที่ไวสําหรับรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรม
เหล็ก จึงขอคัดคานและขอเปลี่ยนแปลงการใชประโยชนที่ดิน เนื่องจากผังเมือง
รวมชุมชนบางสะพาน พ.ศ. ๒๕๔๖ (ฉบับเดิม) กําหนดใหท่ีดินบริเวณดังกลาว
เปนท่ีดินประเภทอุตสาหกรรมเชนกัน ซึ่งปจจุบันกลุมบริษัทฯ ผูรองมีแผนงาน
สําหรับรองรับการจัดระเบียบที่ดินและการพัฒนา และท่ีผานมาบริษัทในเครือ
ไดลงนามสัญญารวมดําเนินการกับการนิคมอุตสาหกรรมแหงประเทศไทย (กนอ.)
เพ่อื เตรียมการสําหรบั พัฒนาพ้นื ท่ีใหเ ปน เขตนคิ มอตุ สาหกรรม
๓. ลักษณะทางกายภาพของพ้ืนท่ีอยูในแนวเช่ือมตอระหวางทาเรือ
และพนื้ ทีอ่ ตุ สาหกรรมและคลังสนิ คา
๔. การวางผังมีเจตนารมณการกําหนดการใชประโยชนท่ีดินเพื่อรองรับ
กิจกรรมตอเน่อื งของอตุ สาหกรรม เชน การขนสง คลงั พกั สินคาในอนาคต
ผลการพจิ ารณาคํารอ ง (มคี วามเห็นสอดคลองกัน)
คณะท่ีปรึกษาผังเมืองรวมชุมชนบางสะพาน กรมโยธาธิการและผังเมือง
และคณะอนุกรรมการผังเมืองพิจารณาคํารองฯ มมี ตสิ อดคลองกัน คือ ไมถ ือเปน
คํารอง เน่อื งจากประเดน็ คําคัดคานไมไดอยูในพนื้ ทปี่ ดประกาศ ๙๐ วัน ครั้งท่ี ๒
- 496 -
ลาํ ดับที่ เรอ่ื ง/มติ อางอิง
มตทิ ปี่ ระชมุ
(ครง้ั ท/ี่ วนั ทปี่ ระชมุ )
ไมถือเปนคํารอง เนื่องจากประเด็นคําคัดคานไมไดอยูในพ้ืนที่
ปดประกาศ ๙๐ วนั ครงั้ ท่ี ๒ ตามมตคิ ณะอนุกรรมการผังเมือง
พิจารณาคาํ รอ งฯ กรมโยธาธิการและผงั เมือง และคณะที่ปรึกษา
ผังเมืองรวมชมุ ชนบางสะพาน
เรอ่ื งที่ ๒ ขอแกไขท่ีดนิ ประเภทชนบทและเกษตรกรรม (สีเขยี ว) บริเวณ
หมายเลข ๗.๑๘ และ ๗.๒๐ เปน ทีด่ ินประเภทอตุ สาหกรรมและคลังสินคา (สีมว ง)
ผูรอง จํานวน ๒ ฉบับ ๒ ราย ไดแก บริษัท ทาเรือประจวบ จํากัด และบริษัท
ในเครือสหวริ ิยา (Sahaviriya Group of Companies)
เหตผุ ลในการขอแกไ ข เนอ่ื งจากการกาํ หนดทด่ี ินบรเิ วณหมายเลข ๗.๑๘
และ ๗.๒๐ เปนพื้นท่ีชนบทและเกษตรกรรม (สีเขียว) ไมสอดคลองกับสภาพ
พ้ืนท่ีท่ีแทจริงและวัตถุประสงคในการพัฒนาพ้ืนที่เดิมซึ่งเปนพ้ืนท่ีสําหรับ
ทาํ กจิ การทาเรอื มานานแลว
ผลการพจิ ารณาคํารอง (มคี วามเห็นสอดคลองกนั )
คณะที่ปรึกษาผังเมืองรวมชุมชนบางสะพานฯ กรมโยธาธิการและผังเมือง
และคณะอนุกรรมการผังเมืองพิจารณาคํารองฯ มีมติสอดคลองกัน คือ ไมถือเปน
คาํ รอง เนอ่ื งจากประเด็นคาํ คดั คา นไมไดอยูในพน้ื ท่ีปด ประกาศ ๙๐ วัน ครั้งที่ ๒
มตทิ ่ปี ระชมุ ไมถือเปนคํารอง เนื่องจากประเด็นคําคัดคานไมไดอยูในพื้นที่
ปดประกาศ ๙๐ วัน คร้ังที่ ๒ ตามมติคณะอนุกรรมการผังเมือง
พิจารณาคาํ รองฯ กรมโยธาธกิ ารและผงั เมือง และคณะท่ีปรึกษา
ผังเมอื งรวมชุมชนบางสะพาน
เรื่องที่ ๓ ขอแกไขท่ีดินประเภทอนุรักษปาไม (สีเขียวออนมีเสนทแยง
สขี าว) บริเวณหมายเลข ๙.๑ เปน ท่ีดินประเภทอุตสาหกรรมและคลังสินคา (สมี วง)
ผูรอง จํานวน ๒ ฉบับ ๒ ราย ไดแก บริษัท ทาเรือประจวบ จํากัด
และบริษัทในเครอื สหวริ ยิ า (Sahaviriya Group of Companies)
เหตผุ ลในการขอแกไข เนื่องจาก
๑. พื้นที่ดังกลาวมีความเหมาะสมแหงหน่ึงของประเทศท่ีจะทําทาเรือน้ําลึก
โดยบริษัทฯ ไดดาํ เนินกจิ การทา เรือมานานกวา ๑๕ ป และบางสวนไดจ ดั เตรยี มพนื้ ท่ีไว
สําหรบั รองรบั การขยายตัวของอุตสาหกรรมเหล็ก ในพื้นที่อาํ เภอบางสะพานทจี่ ะมีข้ึน
เพ่มิ เติมในอนาคต
๒. บริษัทฯ และบริษัทในเครือไดลงนามสัญญารวมดําเนินการกับ
การนคิ มอุตสาหกรรมแหง ประเทศไทย (กนอ.) เพือ่ เตรียมการสําหรบั พัฒนาพื้นท่ี
ใหเ ปน เขตนคิ มอตุ สาหกรรม
- 497 -
ลาํ ดบั ท่ี เรอ่ื ง/มติ อางอิง
(ครั้งที่/วันที่ประชมุ )
ผลการพิจารณาคาํ รอง (มีความเหน็ สอดคลองกนั )
คณะท่ีปรึกษาผังเมืองรวมชุมชนบางสะพาน กรมโยธาธิการและผังเมือง และ
คณะอนุกรรมการผังเมืองพิจารณาคํารองฯ มีมติสอดคลองกัน คือ ไมถือเปนคํารอง
เนอ่ื งจากประเด็นคาํ คัดคา นไมไ ดอยใู นพ้ืนที่ปดประกาศ ๙๐ วนั คร้ังที่ ๒
มตทิ ่ีประชุม ไมถือเปนคํารอง เน่ืองจากประเด็นคําคัดคานไมไดอยู
ในพ้ืนทีป่ ดประกาศ ๙๐ วนั ครั้งที่ ๒ ตามมตคิ ณะอนกุ รรมการ
ผังเมืองพิจารณาคํารองฯ กรมโยธาธิการและผังเมือง
และคณะทปี่ รกึ ษาผังเมืองรวมชุมชนบางสะพาน
เรอ่ื งท่ี ๔ ขอแกไขทดี่ ินประเภทชนบทและเกษตรกรรม (สเี ขียว) บรเิ วณ
หมายเลข ๗.๔, ๗.๗, ๗.๑๑, ๗.๑๔, ๗.๑๘ และ ๗.๒๐ เปนท่ีดินประเภท
อตุ สาหกรรมและคลงั สินคา (สีมวง)
ผูรอง จํานวน ๒ ฉบับ ๒ ราย ไดแก บริษัท ทาเรือประจวบ จํากัด
และบรษิ ัทในเครือสหวริ ยิ า (Sahaviriya Group of Companies)
เหตุผลในการขอแกไข เนอื่ งจาก
๑. การกําหนดท่ีดินบริเวณคํารองดังกลาว ไมสอดคลองกับแนวทาง
การพัฒนาพ้นื ท่ีที่บริเวณดงั กลาวเพื่อจัดตง้ั โครงการโรงผลิตน้ําประปา และทอ สง
ลําเลยี งน้ําท่ีจะใชประกอบการอตุ สาหกรรมในพ้นื ท่ี (บรเิ วณหมายเลข ๗.๔)
๒. ที่ดินบริเวณหมายเลข ๗.๗ ๗.๑๑ และ ๗.๑๔ เปนพ้ืนที่ตอเนื่อง
กับเขตอุตสาหกรรมเดิมไมสอดคลองกับแนวทางในการพัฒนาพื้นท่ีใหเปนเขต
นคิ มอุตสาหกรรมท่ีทางกลุมบรษิ ัทฯ ผรู อง
๓. การกําหนดที่ดินบริเวณหมายเลข ๗.๑๘ และ ๗.๒๐ เปนพื้นที่ชนบท
และเกษตรกรรมไมสอดคลองกับสภาพพื้นที่ที่แทจริงและวัตถุประสงคในการพัฒนา
พืน้ ที่เดมิ ซึ่งเปนพน้ื ที่สําหรับทํากิจการทาเรือมานานแลว
๔. ผูรองซึ่งมีกรรมสิทธิ์ที่ดินต้ังอยูในท่ีดินบริเวณหมายเลข ๗.๑๑
ไดจัดเตรียมพ้ืนท่ีดังกลาวไวสําหรับรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมในอนาคต
และผรู องตอ งการจะขายท่ดี ินใหแ กผูประกอบการอุตสาหกรรม
ผลการพิจารณาคํารอง (มีความเหน็ สอดคลองกนั )
คณะที่ปรึกษาผังเมืองรวมชุมชนบางสะพาน กรมโยธาธิการและผังเมือง
และคณะอนุกรรมการผังเมืองพิจารณาคํารองฯ มีมติสอดคลองกัน คือ ไมถือเปน
คาํ รอง เน่ืองจากประเด็นคาํ คดั คานไมไดอ ยูในพืน้ ทปี่ ด ประกาศ ๙๐ วนั คร้ังที่ ๒
มตทิ ่ีประชมุ ไมถือเปนคํารอง เนื่องจากประเด็นคําคัดคานไมไดอยู
ในพน้ื ท่ปี ดประกาศ ๙๐ วัน ครัง้ ท่ี ๒ ตามมติคณะอนกุ รรมการ
ผังเมืองพิจารณาคํารองฯ กรมโยธาธิการและผังเมือง
และคณะทปี่ รึกษาผังเมืองรวมชุมชนบางสะพาน
รายนามคณะผจู ัดทํา
1. นายสเุ ทพ ประเทืองโภคเจริญ ผกู ํากับดแู ล
นักผังเมืองชาํ นาญการพเิ ศษ
ปฏิบตั หิ นาทผี่ อู ํานวยการสาํ นักงาน
คณะกรรมการนโยบายการผังเมอื งแหง ชาติ
2. นายปองพล ทองสมจิตร ผูตรวจสอบขอ มูล
นกั วเิ คราะหผงั เมืองชํานาญการพิเศษ
หวั หนากลุมงานเลขานกุ ารคณะกรรมการผงั เมือง
3. น.ส.กนกวรรณ วงั จนิ า ผูจัดทําและสรุป
นกั วเิ คราะหผังเมอื งปฏิบตั กิ าร เรียบเรียงขอ มูล
4. น.ส.อาจรยี ภักดสี ุข ผูจดั ทําและสรุป
พนักงานบรหิ ารงานทัว่ ไป เรยี บเรียงขอ มูล
5. น.ส.นงเยาว เจสา ผูจ ดั ทาํ เอกสาร
พนักงานนิตกิ ร