วชิ าวิทยาศาสตร์ (ว21101)
ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 1 ภาคเรียนท่ี 1
หนว่ ยที่ 3 การดารงชวี ิตของพชื
เรื่อง โครงสรา้ งของดอก
ภาพ : shutterstock.com ผู้สอน
นายประเสริฐ นาชัย
กลุม่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ดอกเปน็ อวัยวะสืบพนั ธขุ์ องพืช ดอกประกอบดว้ ยกลบี เล้ยี ง
กลบี ดอก เกสรตัวผู้ เกสรตวั เมีย ก้านดอก ฐานรองดอก หน้าที่
สาคญั ของดอกคอื การสืบพันธ์ุ
ดอกของพชื แตล่ ะชนิดแตกตา่ งกันในหลายมิติ ไมว่ า่ จะเป็น สี
รปู ร่าง ขนาด และโครงสรา้ งของดอก บ้างกม็ กี ลีบหลายชั้นบางชนดิ
ดอกแยกเกสรเพศผกู้ บั ตัวเมยี อย่างชัดเจน แต่ยงั อยูใ่ นดอกเดียวกนั
แตบ่ างชนดิ อาจแยกกนั อยู่คนละดอกคนละต้น
สว่ นประกอบของดอก
สว่ นสาคัญของดอก
โครงสรา้ งหลกั ของดอกไมส้ ามารถแบ่งออกเปน็ 4 ส่วน ได้แก่ ชนั้ กลบี เล้ยี ง (Calyx) ช้ันกลีบดอก (Corolla)
ชน้ั เกสรเพศผู้ (Androecium) และช้ันเกสรเพศเมีย (Gynaecium) ซึง่ เรียงตวั จากช้นั นอกสดุ เขา้ สู่ดา้ นในของดอกไม้
โดยส่วนประกอบทั้ง 4 ต้ังอยูบ่ นฐานรองดอกทบี่ รเิ วณปลายสุดของก้านชดู อก
ส่วนสาคญั ของดอก
1. ชน้ั กลบี เลย้ี ง (Calyx) หรือวงของกลบี เลย้ี งประกอบดว้ ยกลบี เล้ยี ง (Sepal) ท่เี ปน็ โครงสร้างหอ่ หุ้มดา้ นนอกสดุ ของ
ตวั ดอก มกั มีสีเขียวคล้ายส่วนของใบไม้จากการมีองคป์ ระกอบของคลอโรฟิลล์อยู่ภายใน ซ่ึงทาใหก้ ลบี เล้ยี ง นอกจากทา
หน้าท่ีป้องกนั อนั ตรายให้แกส่ ว่ นโครงสร้างภายในของดอกไมแ้ ลว้ ยงั สามารถสงั เคราะหแ์ สง
ส่วนสาคญั ของดอก
2. ช้ันกลบี ดอก (Corolla) หรือวงของกลบี ดอกประกอบดว้ ยกลบี ดอก (Petal) ที่เป็นสว่ นโครงสร้างอย่ถู ัดเข้ามาจาก
กลบี เลี้ยง มักมสี สี ันสวยงามจากรงควตั ถุประเภทตา่ ง ๆ กลบี ดอกอาจมีกลิ่นหอมผสมผสานอยู่ดว้ ย จากการมที ัง้ ต่อมกล่นิ
และตอ่ มน้าหวานตรงบริเวณโคนของกลบี ดอก ซ่ึงทาหน้าทช่ี ่วยดึงดดู แมลงให้เขา้ มาผสมเกสร
ส่วนสาคญั ของดอก
3. ชั้นเกสรเพศผู้ (Androecium) ประกอบด้วยเกสรเพศผู้ (Stamen) ทาหน้าทส่ี รา้ งเซลลส์ ืบพันธเุ์ พศผู้ ซง่ึ ในพชื สว่ น
ใหญ่มักมีจานวนมากและเรียงตวั เปน็ วง โดยเกสรเพศผู้มีท้งั สว่ นท่ีแยกออกจากกนั เป็นอิสระและส่วนของเกสรท่ีมี
โครงสรา้ งติดกนั หรืออาจเชอ่ื มตดิ กบั ส่วนอื่น ๆ
ส่วนสาคัญของดอก
4. ชั้นเกสรเพศเมยี (Gynaecium) ประกอบด้วยเกสรเพศเมีย (Pistil) อยดู่ ้านในสุดของดอก เปน็ สว่ นโครงสรา้ งที่
พัฒนามาจากใบ เพื่อทาหน้าท่ีสร้างเซลลส์ บื พนั ธเ์ุ พศเมีย ในพืชแต่ละชนิด เกสรเพศเมยี อาจมีเพยี งหนง่ึ หรืออาจมจี านวน
มากข้นึ อยกู่ บั ชนิดพันธุ์พืช
ประเภทของดอก
การจาแนกพชื ดอก เมื่อใช้องค์ประกอบของดอกไม้เป็นเกณฑ์ จะแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ ดอกสมบูรณ์หรือ
ดอกครบสว่ น และดอกไม่สมบูรณห์ รือดอกไม่ครบส่วน แต่เมื่อใช้เกสรเพศผู้ และเกสรเพศเมียเป็นเกณฑ์ จะแบ่งได้
2 ประเภท คือ ดอกสมบูรณ์เพศ และดอกไมส่ มบูรณเ์ พศ
การจาแนกพชื ดอกโดยใช้ ส่วนประกอบของดอกไม้เป็นเกณฑ์
1. ดอกสมบรู ณ์ หรอื ดอกครบส่วน หมายถึง ดอกท่ีมีส่วนประกอบครบท้ัง 4 ส่วน คือ กลีบเลี้ยง กลีบดอก
เกสรตวั ผู้ และเกสรตัวเมียอยู่ภายในดอกเดยี วกนั เช่น ดอกบานบรุ ี ชบา กหุ ลาบ ต้อยต่ิง บัวหลวง อัญชัน ผักบุ้ง
พรกิ มะเขอื เป็นตน้
การจาแนกพชื ดอกโดยใช้ ส่วนประกอบของดอกไมเ้ ปน็ เกณฑ์
ดอกไม้เป็นเกณฑ์
2. ดอกไม่สมบูรณ์ หรือดอกไม่ครบส่วน หมายถึง ดอกท่ีมีส่วนประกอบของดอกไม่ครบทั้ง 4 ส่วน อาจ
ขาดส่วนใดส่วนหน่ึงไปในดอกเดียวกัน เช่น ดอกมะละกอ ตาลึง ฟักทอง แตงกวา บวบ เฟ่ืองฟ้า กล้วยไม้
บานเยน็ หนา้ ววั เป็นต้น
การจาแนกพืชดอกโดยใช้ เกสรตัวผูแ้ ละเกสรตัวเมียเป็นเกณฑ์
1. ดอกสมบูรณ์เพศ หมายถึง ดอกท่ีมีท้ังเกสรตัวผู้ และเกสรตัวเมียอยู่ภายในดอกเดียวกัน เช่น ดอกชบา
มะมว่ ง กหุ ลาบ บัว ตอ้ ยตง่ิ ผกั บุง้ ถั่ว มะเขือ เปน็ ต้น
2. ดอกไม่สมบูรณ์เพศ หมายถึง ดอกท่ีมีเกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียอยู่คนละดอก เช่น ดอกตาลึง ฟักทอง
มะละกอ ขา้ วโพด มะยม เป็นต้น
ข้อสรปุ เกีย่ วกับประเภทของดอก
- ดอกครบสว่ นเปน็ ดอกสมบรู ณ์เพศเสมอ ดอกไมค่ รบส่วนอาจเป็นดอกสมบรู ณ์เพศหรอื ไมส่ มบูรณเ์ พศก็ได้
- ดอกสมบรู ณเ์ พศ อาจจะเป็นดอกครบสว่ นหรือดอกไมค่ รบส่วนกไ็ ด้ ดอกไม่สมบูรณเ์ พศ ต้องเปน็ ดอกไม่
ครบสว่ นเสมอ
มอบหมายภาระงาน
- ให้นกั เรยี นทกุ คนไปศกึ ษาทบทวนเน้ือหาทเ่ี รียนมาในวันน้ี เร่อื งสว่ นประกอบของดอก และ ประเภทของดอก
- ใหน้ ักเรียนไปศกึ ษาและทบทวนเนอ้ื หา เรอ่ื ง การสืบพันธ์แุ บบอาศยั เพศของดอกไม้ (การถา่ ยเรณูของดอก)
เพอื่ จะเรยี นในคาบตจ่อไป