โรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก ระเบียบปฏิบัติงาน เรื่อง : การใส่สายยางให้อาหารทางจมูก ระเบียบปฏิบัติเลขที่ : WI-NSO-036 จำนวนหน้าทั้งหมด : 5 หน้า ปรับปรุงครั้งที่ : ทุก 1 ปี เรื่อง : การใส่สายยางให้อาหารทางจมูก วันบังคับใช้ : 1 มีนาคม 2565 วันที่ปรับปรุง : 21 กุมภาพันธ์ 2565 สถานะของเอกสาร : ควบคุม ผู้จัดทำ : คณะกรรมการพัฒนาคุณภาพบริการพยาบาล ผู้รับผิดชอบ : คณะกรรมการพัฒนาคุณภาพบริการพยาบาล ผู้อนุมัติ .................................................. (นางสาวปัญญา เถื่อนด้วง) รักษาการในตำแหน่งหัวหน้าพยาบาล
1 การใส่สายยางให้อาหารทางจมูก 1. วัตถุประสงค์ เพื่อ - ลดความวิตกกังวล ความกลัวและได้รับความร่วมมือจากผู้ป่วย - ให้ผู้ป่วยได้รับการใส่สาย NG Tube อย่างถูกต้อง - ผู้ป่วยสุขสบาย ปลอดภัย ไม่เกิดภาวะแทรกซ้อนจากการใส่สาย NG Tube 2. นโยบาย มุ่งมั่นที่จะปฏิบัติการพยาบาลเพื่อใส่สาย NG Tube ได้อย่างถูกต้อง ครบถ้วน ปลอดภัย 3. ขอบเขต - ใช้กับผู้ป่วยใส่สาย NG Tube ทุกราย - เริ่มตั้งแต่การเตรียมอุปกรณ์ จนกระทั่งลงบันทึกในเอกสารทางการพยาบาลและตรวจสอบ คุณภาพตามตัวชี้วัด 4. ผู้รับผิดชอบ 4.1 พยาบาลวิชาชีพ มีหน้าที่ - ประเมินสภาพผู้ป่วย และพิจารณารายงานแพทย์ - ให้ข้อมูลแก่ทีมพยาบาล 4.2 พยาบาลวิชาชีพ หรือพยาบาลเทคนิค มีหน้าที่ - ให้ข้อมูลแก่ผู้ป่วยและญาติ - จัดเตรียมอุปกรณ์ - จัดท่าผู้ป่วย - ปฏิบัติการใส่สาย NG Tube - เก็บอุปกรณ์ล้างทำความสะอาด - ลงบันทึกทางการพยาบาล 4.3 ผู้ช่วยเหลือคนไข้ มีหน้าที่ - ช่วยจัดท่าผู้ป่วย - ช่วยเก็บอุปกรณ์ล้างทำความสะอาด 5. คำนิยามศัพท์ การใส่สาย NG Tube (Nasogastric Tube) หมายถึง การใส่สายยางผ่านเข้าทางรูจมูกข้าง ใดข้างหนึ่งถึงกระเพาะอาหารเพื่อให้อาหาร ของเหลวหรือยา กรณีที่ผู้ป่วยไม่สามารถรับประทานทาง ปากได้ตามปกติ หรือเพื่อการดูดเอาของเหลวออกจากกระเพาะอาหารเพื่อการวินิจฉัยและการรักษา
2 6. วิธีปฏิบัติ ขั้นตอนการใส่สาย NG Tube ผู้รับผิดชอบ เอกสารอ้างอิง RN 1. ประเมินสภาพผู้ป่วย RN RN/TN RN/TN RN/TN RN/TN RN/TN 7. ตรวจสอบ NG Tube ว่า อยู่ในกระเพาะอาหาร หรือไม่ Yes No 9. ลงบันทึกทางการพยาบาล ใบบันทึกทางการพยาบาล 6. ปฏิบัติการใส่สาย NG Tube 2. ให้ข้อมูลแก่ผู้ป่วย/ญาติ 3. จัดเตรียมอุปกรณ์ 4. ตรวจสอบชื่อ-สกุลผู้ป่วย 5.จัดท่าผู้ป่วย 7.1 ติดพลาสเตอร์ยึดสายติดจมูก 8. เก็บอุปกรณ์ล้างทำความสะอาด 7.2 ถอดสาย NG tube ออก
3 7. รายละเอียดการใส่สาย NG Tube 1. การประเมินสภาพผู้ป่วยก่อนการปฏิบัติการพยาบาล ดังนี้ 1.1 เก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสภาพทั่วไปของร่างกาย ความรู้สติ สภาพจิตใจ อารมณ์และความสามารถในการช่วยเหลือตนเองของผู้ป่วย 1.2 ตรวจสอบการวินิจฉัยโรค และคำสั่งการรักษาของแพทย์เกี่ยวกับชนิดของสาย ยางที่ใช้วัตถุประสงค์ของการใส่สายยาง ข้อควรระวังและการรักษาอื่นๆที่เกี่ยวข้อง 1.3 การประเมินสภาพแวดล้อมขณะใส่สายยาง ได้แก่ แสงสว่าง ความเป็นสัดส่วน 2. การให้ข้อมูลแก่ผู้ป่วยและญาติ เพื่อความร่วมมือในการปฏิบัติการพยาบาล 3. จัดเตรียมอุปกรณ์ ได้แก่ 3.1 สาย NG Tube ขนาดที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ของแผนการรักษา 3.2 น้ำหรือสารหล่อลื่นชนิดละลายน้ำได้ 3.3 ผ้ารองกันเปื้อน 3.4 Syringe Irrigate ขนาด 50 ซีซี. 3.5 พลาสเตอร์สำหรับติดยึดสายกับจมูก 3.6 ก๊อส 1 – 2 ชิ้น 3.7 ชามรูปไต 3.8 Stethoscope 3.9 ถุงมือสะอาด 3.10 แก้วน้ำดื่ม 4. ตรวจสอบชื่อ – นามสกุลผู้ป่วย โดยใช้หลัก 2 แห่งแสดงบุคคล และแนะนำผู้ป่วยอีกครั้ง 5. จัดท่าผู้ป่วยและสิ่งแวดล้อมโดยให้เป็นสัดส่วน มีแสงสว่างเพียงพอ และให้ผู้ป่วยอยู่ในท่า ศีรษะสูง หรือนั่ง หรือตามความเหมาะสมกับสภาพของผู้ป่วย อาจเป็นท่านอนตะแคงถ้าผู้ป่วยมี ฟันปลอม หรือแว่นตา ให้ถอดออกก่อนใส่สาย 6. ปฏิบัติการใส่สาย NG Tube โดย 6.1 ล้างมือให้สะอาด ด้วยสบู่และน้ำสะอาด หรือน้ำยา Waterless ก่อน 6.2 ใส่ถุงมือสะอาด 6.3 ปูผ้ารองกันเปื้อนบริเวณใต้คางผู้ป่วย วางชามรูปไตไว้ใกล้ตัวผู้ป่วย 6.4 วัดระยะของ สาย NG Tube แล้วทำเครื่องหมายไว้ ดังนี้ - การให้อาหารเหลวทางสายยาง วัดจากปลายจมูกไปติ่งหู และไปลิ้นปี่ - การล้างท้องหรือนำน้ำย่อยจากกระเพาะอาหารส่งตรวจวิเคราะห์ วัดจาก ปลายจมูกไปติ่งหูและไปสะดือ 6.5 หล่อลื่นปลายสายด้วยสารหล่อลื่นหรือน้ำ 6.6 ให้ผู้ป่วยเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย สอดสายเข้าจมูกอย่างช้า นุ่มนวล ให้ผู้ป่วยหายใจ
4 เข้าทางปาก เมื่อสายเข้าถึงช่วงคอ ผู้ป่วยอาจขย้อนและน้ำตาไหลให้หยุดชั่วครู่ 6.7 ให้ผู้ป่วยก้มหน้าลงเล็กน้อย จิบน้ำหรือกลืนน้ำลายพร้อมกับค่อยๆสอดสายลง ตามจังหวะการกลืน จนกระทั่งถึงตำแหน่งที่ทำเครื่องหมายไว้ 6.8 ถ้ารู้สึกติดขัดขณะสอดสาย ห้ามดัน ให้หมุนสายเบาๆ ถ้ายังใส่ไม่เข้าให้ดึงออก และเปลี่ยนใส่ช่องจมูกอีกข้างหนึ่ง ถ้าช่องจมูกข้างนั้นปกติดี 6.9 คอยสังเกตอาการผู้ป่วย ถ้าพบอาการผิดปกติขณะสอดสาย เช่น หยุดหายใจ ชั่วครู่ ไอเขียว ให้ดึงสายออก 6.10 ตรวจสอบว่าสายอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง โดยปฏิบัติข้อใดข้อหนึ่ง ดังนี้ - ใช้Syringe Irrigate ดูดน้ำย่อยในกระเพาะอาหารออกมาดูของเหลวในกระเพาะ อาหาร หรือ - ใช้หูฟังวางบริเวณลิ้นปี่ของผู้ป่วย ขณะเดียวกันใช้ Syringe Irrigate ดันอากาศ ปริมาณประมาณ 10 – 15 ซีซี. เข้าทางสาย จะได้ยินเสียง “ฟุบ” หรือ - จุ่มปลายสายด้านนอกลงในแก้วน้ำ ถ้ามีฟองอากาศปุดตามจังหวะการหายใจ ให้ ดึงสายออกทันที - กรณีผู้ป่วยที่ใส่ท่อช่วยหายใจ อาจถ่ายภาพรังสี (X- ray) และตรวจสอบจาก ภาพถ่ายว่าสายยางอยู่ในหลอดลมหรือหลอดอาหาร 7. เมื่อตรวจสอบว่าสายอยู่กระเพาะอาหารในตำแหน่งที่ถูกต้องแล้ว ปิดพลาสเตอร์ ยึดสาย ติดกับจมูกของผู้ป่วยให้เรียบร้อย โดยระวังอย่าให้สายเกะกะตาและกดทับผนังจมูก 8. เก็บอุปกรณ์ล้างทำความสะอาดและเก็บเข้าที่ และล้างมือให้สะอาด 9. ลงบันทึกทางการพยาบาล ใน Nurse’s note และ ฟอร์มปรอท 8. เครื่องชี้วัดคุณภาพ ผู้ป่วยได้รับการใส่สาย NG Tube ได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย 9. เอกสารที่เกี่ยวข้อง ใบคำสั่งการรักษา ใบบันทึกทางการพยาบาล ใบฟอร์มปรอท
5 กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล โรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก แบบประเมินคุณภาพ : การใส่สายยางให้อาหารทางจมูก วัตถุประสงค์ : เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการใส่สายยางให้อาหารทางจมูกอย่างถูกต้องตามมาตรฐานและ ปลอดภัย ลำดับ กิจกรรม ปฏิบัติ ไม่ปฏิบัติ หมายเหตุ ถูกต้อง ไม่ ถูกต้อง 1 อธิบายเหตุผลและขั้นตอนการการใส่สายยางให้อาหารทาง จมูกแก่ผู้ป่วย 2 ล้างมือก่อนและหลังการการใส่สายยางให้อาหารทางจมูก ตามมาตรฐานของงานควบคุมและป้องกันการติดเชื้อใน โรงพยาบาล 3 เตรียมอุปกรณ์การใส่สายยางให้อาหารทางจมูก 4 ตรวจสอบการระบุตัวผู้ป่วยตามเกณฑ์ 2 แห่งแสดงบุคคล 5 จัดท่าผู้ป่วยอย่างถูกต้องและเหมาะสมกับผู้ป่วย 6 ปฏิบัติการใส่สายยางให้อาหารทางจมูก ตามมาตรฐาน วิธีปฏิบัติ 7 ลงบันทึกทางการพยาบาลอย่างครบถ้วนถูกต้อง ตำแหน่งผู้ปฏิบัติ.............................................................. วันที่...........................................เวร.............................................. หอผู้ป่วย.......................................... ผู้ตรวจสอบ..........................................................................ตำแหน่ง......................................................