324 คูม อื ครู แผนการจัดการเรยี นรู รายวิชาเพ่ิมเตมิ หนาทพี่ ลเมอื ง ๕–๖ ม. ๓
กจิ กรรม/ใบงานท่ี ๒๗
เร่อื ง การตรวจสอบการทำหนŒาทขี่ องบุคคล
ผลการเรยี นรูŒ ๗. มีสวนรวมและรับผิดชอบในการตัดสินใจ ตรวจสอบขอมูล ตรวจสอบ
การทำหนาทข่ี องบคุ คลเพ่อื ใชประกอบการตัดสนิ ใจ
๑๐. ปฏิบตั ิตนเปนผูม ีวินัยในตนเอง
คำช้แี จง ตรวจสอบการทำหนา ท่ีของบคุ คลตอไปนี้ แลว ตอบคำถาม แนวคาํ ตอบ
นายสิทธิ ตงั้ ใจดี
ตำแหนง‹ ผŒูใหญ‹บาŒ น
บคุ ลกิ นายสทิ ธิ ตงั้ ใจดี เปน คนดี มคี วามรู จบการศกึ ษาระดบั ปรญิ ญาตรี สาขาการพฒั นา
สังคม มนี ิสัยเห็นแกประโยชนส ว นรวม พรอมเสียสละความสขุ สวนตนเพอื่ ประโยชนของ
สว นรวม ซอื่ สัตยส จุ ริต เห็นความสำคัญของลกู บา นทุกคน ชว ยเหลือแกปญ หาแกลูกบา น
ดว ยความจรงิ ใจ และเปนผูนำชาวบา นในการทำกจิ กรรมตา ง ๆ ไดอ ยา งพรอมเพรยี งกนั
นายสมคั ร รักเพอ่ื นพอŒ ง
ตำแหน‹ง กำนนั
บุคลิก นายสมัคร รกั เพอ่ื นพอง เปนคนใจนักเลง รักพวกพอ ง คอยดูแลใหค วามชว ยเหลอื
เพื่อนและญาตพิ ี่นองทกุ คนอยา งเต็มกำลังและความสามารถ เมือ่ มปี ญหาตา ง ๆ กจ็ ะแก
ปญ หานน้ั ในทางท่ีเปนประโยชนต อ เพือ่ น ๆ และญาติของตน เม่ือชมุ ชนของตนมีการจัด
กิจกรรมใด ๆ กจ็ ะใหตัวแทนของตนไปรว มกจิ กรรมทุกคร้งั
บคุ คลใดท่ีนกั เรยี นคดิ วาควรดำรงตำแหนง เปนตัวแทนของประชาชนตอไป เพราะอะไร
แนวคําตอบ
นายสทิ ธิ ตง้ั ใจดี เพราะเปนคนไมเห็นแกป ระโยชนส วนตน ไมมีอคติ รบั ผิดชอบตอการ
ปฏบิ ตั ิหนา ท่ี มีความจรงิ ใจ มีความซอ่ื สัตย และมคี วามเปน ผนู าํ สวนนายสมคั ร รักเพ่ือนพอ ง
น้ันไมควรดํารงตําแหนงเปนตัวแทนของประชาชนตอไปเพราะเห็นแกประโยชนของพวกพอง
มากกวา สว นรวม ไมมีความจริงใจตอ ลูกบาน ขาดความซื่อสัตยตอ หนา ท่ี และไมมภี าวะผนู าํ
ช่อื นามสกลุ เลขที่ ช้ัน
โรงเรยี น
คูม ือครู แผนการจัดการเรยี นรู รายวชิ าเพมิ่ เติม หนา ท่ีพลเมอื ง ๕–๖ ม. ๓ 325
กิจกรรม/ใบงานท่ี ๒๘
เรอ่ื ง ความมวี ินยั ในตนเองในการเปน พลเมอื งดใี นระบอบประชาธิปไตย
ผลการเรยี นรŒู ๖. ปฏิบตั ติ นเปนพลเมืองดีตามวถิ ปี ระชาธปิ ไตย
๗. มีสวนรวมและรับผิดชอบในการตัดสินใจ ตรวจสอบขอมูล ตรวจสอบ
การทำหนา ที่ของบุคคลเพือ่ ใชประกอบการตัดสินใจ
๑๐. ปฏิบตั ิตนเปนผูมวี ินัยในตนเอง
คำชีแ้ จง นำตวั อักษรหนา ขอความเติมลงใน ใตขอความที่สมั พันธกัน แนวคาํ ตอบ
ก ความซือ่ สัตยสจุ รติ เม่ือพุกทำแจกันของแมแตก พุกจะ
ข ความขยนั หมนั่ เพียรและอดทน เก็บกวาดเศษแจกันจนหมด แลวเดินไป
ค การใฝห าความรู บอกแมวา ตนเปนคนทำแจกันแตกเอง
ง การตัง้ ใจปฏบิ ัติหนาที่
จ การยอมรับผลท่ีเกดิ จากการกระทำของตนเอง จ
กงุ ซอื้ ขนมแลว แมค า ทอนเงนิ เกนิ มาให สนต้ังใจทำการบานดวยความอดทน
กุงจงึ นำเงินทีเ่ กินมาคืนแกแมคา ไมท อ ถอย แมก ารบา นนน้ั จะยากมากกต็ าม
กข
เมื่อปอดสงสัยอะไร จะเขาไปศึกษา เม่ืออยูในครอบครัวอวนจะปฏิบัติตน
คนควาเพื่อหาคำตอบในหอ งสมุดอยูเสมอ เปนเดก็ ดี กตญั รู คู ุณตอ พอแม
คง
ชอ่ื นามสกุล เลขท่ี ช้นั
โรงเรยี น
326 คูม ือครู แผนการจัดการเรียนรู รายวิชาเพ่มิ เติม หนาที่พลเมอื ง ๕–๖ ม. ๓
กจิ กรรม/ใบงานท่ี ๒๙
เรือ่ ง ทบทวนความรูŒ
ผลการเรยี นรูŒ ๖. ปฏบิ ตั ติ นเปน พลเมอื งดีตามวถิ ีประชาธิปไตย
๗. มีสวนรวมและรับผิดชอบในการตัดสินใจ ตรวจสอบขอมูล ตรวจสอบ
การทำหนา ท่ขี องบุคคลเพอ่ื ใชป ระกอบการตัดสินใจ
๑๐. ปฏิบตั ติ นเปน ผมู วี ินยั ในตนเอง
คำช้แี จง ตอบคำถาม
๑. พลเมืองดตี ามวิถปี ระชาธปิ ไตยจะตอ งใชส ิทธิและหนาท่ีอยางไร
แนวคําตอบ
จะตองใชสิทธิควบคูไปกับการปฏิบัติหนาท่ี โดยตองคํานึงวาหากทุกคนมุงแตจะใชสิทธิ
แตไมปฏิบัติตามหนาท่ี สิทธินั้น ๆ ยอมไมเกิดข้ึน เชน สิทธิในการไดรับการศึกษา โดยหากเรา
ถือวามีสิทธิในการไดรับการศึกษา แตกลับไมปฏิบัติหนาที่ของตนในการเขารับการศึกษา เราก็จะ
ไมไ ดรับสิทธินี้
๒. ปจ จุบันนักเรียนมีสวนรวมในการเลือกตง้ั สมาชิกสภาผแู ทนราษฎรไดอยา งไรบาง
แนวคําตอบ
แมว า ในปจ จบุ นั เรายงั ไมม สี ทิ ธเิ ลอื กตงั้ แตเ ราสามารถมสี ว นรว มในการเลอื กตง้ั ไดห ลากหลาย
วธิ ี เชน รวมรณรงคใ หค นไปใชสิทธเิ ลือกตงั้ สอดสองดูแลพฤตกิ รรมของพรรคการเมอื ง ผูสมัคร
รบั เลอื กตงั้ และหวั คะแนนทไี่ มป ฏบิ ตั ติ ามกฎหมายเลอื กตงั้ ตรวจสอบประวตั ขิ องผสู มคั รรบั เลอื กตง้ั
เผยแพรค วามรเู กย่ี วกบั การเลอื กตง้ั แกค นอนื่ รว มใหข อ เสนอแนะหรอื ความคดิ เหน็ แกพ รรคการเมอื ง
สังเกตการณการกระทําผิดกฎหมายเลือกต้ัง ติดตามการนับคะแนนเสียงเลือกต้ัง ติดตามผลการ
เลือกตั้ง ติดตามขอมูลการใชสิทธิเลือกตั้ง ติดตามขอมูลการจัดต้ังคณะผูปกครอง ตรวจสอบการ
ทาํ หนา ท่ขี องผแู ทนที่ไดร ับการเลือกตั้ง
๓. ตัวแทนของประชาชนท่ีดจี ะตอ งมพี ฤตกิ รรมอยางไร
แนวคําตอบ
ไมเห็นแกประโยชนสวนตน มีความซื่อตรง ไมมีอคติ สํานึกรับผิดชอบตอการปฏิบัติหนาท่ี
มีความเปดเผยและจรงิ ใจ มีความซ่ือสัตย และมีความเปน ผนู ํา
ช่อื นามสกลุ เลขที่ ชั้น
โรงเรียน
คูมอื ครู แผนการจดั การเรียนรู รายวชิ าเพิ่มเติม หนาที่พลเมอื ง ๕–๖ ม. ๓ 327
แบบทดสอบหลงั เรียน
หนวยการเรยี นรทู ่ี ๔
คำชี้แจง เลือกคำตอบท่ถี ูกตŒองทส่ี ดุ เพียงคำตอบเดียว
๑. ใครใชŒสทิ ธิไมถกู ตอ ง ๔. เราควรร‹วมกิจกรรมการเลือกต้งั ตาม
ก เอน่ังชุมนุมประทวงรัฐบาลในที่ดิน ขŒอใด
ของตนเอง ก ชว ยผสู มัครทเ่ี ราช่นื ชอบหาเสยี ง
ข บแี สดงความคดิ เหน็ ทางการเมอื งในที่ เลอื กตง้ั
สาธารณะ ข ไมไปใชส ทิ ธิเลอื กตั้งหากไมมีผสู มัคร
ค ซีมักจะทําตัวตามสบาย ไมคอยมี ท่ีเปนคนดี
ระเบยี บขณะอยูใ นบาน ค เลือกผสู มคั รท่ีใหเ งินและสิ่งของแก
ง ดีกดดันใหนายจางขึ้นคาแรงโดยการ ชาวบา นมากท่สี ุด
นําพวกมาชุมนุมปดประตูทางเขา ง ทําลายปายหาเสียงของผูสมัครรับ
บริษทั เลอื กตั้งท่เี ปนคนไมด ี
๒. พลเมืองดีดามวิถีประชาธิปไตยจะตŒอง ๕. ก‹อนการเลือกต้ัง เราควรมีส‹วนร‹วมกับ
ปฏบิ ัตติ นอยา‹ งไร กจิ กรรมใดมากท่สี ุด
ก สันโดษ แยกตัวออกจากสังคม ก ไปงานจดั เลยี้ งของผสู มคั รรบั เลอื กตงั้
ข คาํ นึงถงึ ประโยชนของพวกพอ ง ข สังเกตการณการนับคะแนนเสียง
ค ปฏิบัตติ ามกฎหมายอยา งเครง ครดั เลือกตั้ง
ง ยึดถือความคิดเห็นของตนเองเปน ค เปนหัวคะแนนซ้ือเสียงใหแกผูสมัคร
สําคญั รบั เลอื กต้ัง
ง ตรวจสอบรายชื่อของตนจากบัญชี
๓. ขอŒ ใดเปน การใชเŒ สรภี าพอยา‹ งรบั ผดิ ชอบ รายชอ่ื ผูมีสิทธิเลือกตัง้
ก แอบฟง เพ่อื นสนิทสนทนากนั
ข วพิ ากษว ิจารณผอู ่นื โดยไมมีหลกั ฐาน ๖. ใครมสี ‹วนร‹วมกบั กิจกรรมของหŒองเรียน
ค ชมุ นมุ ปด การจราจรเพอ่ื ประทว งรฐั บาล ก ปุมชว ยครูถือของ
ง ใชโ ทรศพั ทส าธารณะอยา งทะนถุ นอม ข เอต ง้ั ใจทําการบา น
และถกู วิธี ค แกว ไมรับประทานขนมในหองเรียน
ง นุชทําความสะอาดหองเรยี นตามเวร
ท่ีรบั ผดิ ชอบ
328 คูมือครู แผนการจดั การเรยี นรู รายวิชาเพม่ิ เตมิ หนา ทพ่ี ลเมือง ๕–๖ ม. ๓
๗. เราไมค วรเลอื กใครเปน ประธานนกั เรยี น ๙. ขอŒ ใดเปน การตรวจสอบการทาํ หนาŒ ทขี่ อง
ก คนดี บคุ คล
ข คนมีคณุ ธรรม ก ประชาชนชุมนุมเรียกรองใหรัฐบาล
ค คนเหน็ แกพ วกพอง ปรบั ข้นึ คาแรงข้ันตํ่า
ง คนมคี วามรบั ผิดชอบ ข ประชาชนเขา ชอ่ื กนั ถอดถอนรฐั มนตรี
๘. เม่ือโรงเรียนของเราจัดกิจกรรมพัฒนา ทีท่ ุจริตออกจากตาํ แหนง
ชุมชน เราควรทาํ อย‹างไร ค ประชาชนพรอ มใจกนั ไปใชส ทิ ธเิ ลอื กตง้ั
ก รวมกจิ กรรมดว ย สมาชิกสภาผูแทนราษฎร
ข อา นหนงั สือในหอ งสมดุ ง ประชาชนมาประชุมหมูบานเร่ืองการ
ค ชวนเพือ่ นไปเลน กีฬาที่ชอบ จัดสรางสาธารณปู โภคในชุมชน
ง หยุดเรยี น เพราะไมม ีการเรียน
การสอน
๑๐. เราควรตรวจสอบราคาไข‹ไกป‹ ระจาํ วนั จากท่ีใด
ก ตําราเรียน
ข หนังสือพิมพ
ค หนงั สอื จดหมายเหตุ
ง สารานุกรมไทยสาํ หรบั เยาวชน
หน�วยการเรย� นรูที่ ๕
ความปรองดอง สมานฉนั ท
• แบบทดสอบกอ นเรียน
• กิจกรรม/ใบงานท่ี ๓๐ เร่ือง วิถชี วี ิต
• กจิ กรรม/ใบงานที่ ๓๑ เรือ่ ง วัฒนธรรม
• กิจกรรม/ใบงานท่ี ๓๒ เรอ่ื ง ศาสนา
• กิจกรรม/ใบงานที่ ๓๓ เรอื่ ง สงิ่ แวดลอ มในภูมิภาคตาง ๆ ของโลก
• กิจกรรม/ใบงานที่ ๓๔ เรอ่ื ง สังคมพหุวัฒนธรรม
• กิจกรรม/ใบงานท่ี ๓๕ เรื่อง วินัยในการอยูรวมกันในสงั คมพหุวฒั นธรรม
• กจิ กรรม/ใบงานท่ี ๓๖ เรื่อง ความขดั แยง
• กิจกรรม/ใบงานที่ ๓๗ เรื่อง การปองกนั ปญหาความขดั แยง
• กจิ กรรม/ใบงานที่ ๓๘ เรอ่ื ง วนิ ยั เพอ่ื ความปรองดอง สมานฉนั ท
• กจิ กรรม/ใบงานที่ ๓๙ เร่ือง ทบทวนความรู
• แบบทดสอบหลงั เรียน
330 คมู ือครู แผนการจัดการเรียนรู รายวิชาเพ่มิ เติม หนา ท่พี ลเมอื ง ๕–๖ ม. ๓
แบบทดสอบกอ นเรยี น
หนว ยการเรียนรทู ี่ ๕
คำชแ้ี จง เลือกคำตอบที่ถูกตŒองท่สี ุดเพยี งคำตอบเดียว
๑. “บาŒ นในเขตแหงŒ แลงŒ มกั สรŒางดŒวย ๕. ขŒอใดเปนการอยู‹ร‹วมกันในสังคมพหุ-
ดินเหนียวสว‹ นในเขตรŒอนนิยมสราŒ งดวŒ ย วฒั นธรรมดวŒ ยการแบง‹ ปน˜ และชว‹ ยเหลอื
ไม”Œ คาํ กลา‹ วนแ้ี สดงถงึ ความหลากหลาย ซึง่ กันและกนั
ทางสงั คมวัฒนธรรมในเรือ่ งใด ก การพาชาวตา งชาตทิ ถ่ี กู ทาํ รา ยไปแจง ความ
ก วถิ ชี วี ติ ค สงิ่ แวดลอม ข การรบั ฟง ความคิดเห็นของคน
ข วฒั นธรรม ง การนบั ถอื ศาสนา ตา งเช้อื ชาตกิ บั เรา
๒. “การรับประทานเคกŒ หรอื ไอศกรมี กลาย ค การศึกษาวฒั นธรรมของคนในสงั คม
เปนส่งิ ที่ไดŒรับความนิยมมากขนึ้ ท่ีเราอาศัยอยู
ในทกุ พื้นที่ของโลก” คํากล‹าวน้ีแสดงถึง ง การแสดงวาจาตอชาวตางชาติ
ความหลากหลายทางสังคมวัฒนธรรม ดวยความสภุ าพออนโยน
ในเรอ่ื งใด
ก วถิ ีชวี ติ ค สงิ่ แวดลอม ๖. ขอŒ ใดเปนการปฏบิ ตั ติ นท่ถี ูกตอŒ งตาม
ข วัฒนธรรม ง การนบั ถอื ศาสนา หลกั ความมีวินยั ในตนเองเพื่อการ
๓. “ยโุ รปตะวนั ออกนยิ มนบั ถอื นกิ าย อย‹รู ว‹ มกันในสังคมพหุวฒั นธรรมและ
ออรทอดอกซ สว‹ นนกิ ายโรมนั คาทอลกิ การพึ่งพาซงึ่ กนั และกนั
นับถอื กนั มากในยุโรปกลาง” คํากลา‹ วนี้ ก ยอมรบั ผดิ เมอ่ื ใชว าจาไมส ภุ าพตอ ผอู นื่
แสดงถงึ ความหลากหลายทางสังคม ข ยกยองเพื่อนวาเปนผูท่ีมีวัฒนธรรม
วัฒนธรรมในเรอื่ งใด ดีงามตอ หนา คนอน่ื ๆ
ก วิถีชีวติ ค สงิ่ แวดลอ ม ค ใหค วามเคารพเฉพาะผทู ม่ี รี ปู แบบทาง
ข วฒั นธรรม ง การนบั ถอื ศาสนา วฒั นธรรมเหมอื นกบั เรา
๔. “ทวีปแอฟริกามีพื้นท่ีป†าไมŒอยู‹นŒอยที่สุด ง แสดงกิริยาไมเห็นดวยทันทีเมื่อมีผูที่
และมีความแหงŒ แลงŒ มากท่สี ุดเมือ่ เปรยี บ ไมเ หน็ ดวยกบั ความคิดเห็นของเรา
เทยี บกบั ทวีปอ่นื ๆ” คาํ กล‹าวนีแ้ สดงถึง
ความหลากหลายทางสังคมวฒั นธรรม ๗. ความขดั แยŒงคืออะไร
ในเร่อื งใด ก การทแี่ ตล ะฝา ยมที รพั ยากรแตกตา งกนั
ก วถิ ชี ีวติ ค สงิ่ แวดลอม ข การทแ่ี ตล ะฝา ยมจี ดุ มงุ หมายทไ่ี ปดว ย
ข วัฒนธรรม ง การนบั ถอื ศาสนา กันไมไ ด
ค การท่ีท้ังสองฝายใชกําลังเขาประหัต
ประหารกนั
ง การที่ทั้งสองฝายไมตองการใหเกิด
ความปรองดอง
คูม อื ครู แผนการจัดการเรยี นรู รายวิชาเพ่มิ เตมิ หนาที่พลเมือง ๕–๖ ม. ๓ 331
๘. ความขดั แยงŒ ระหวา‹ งประเทศเกาหลเี หนอื ๙. ขŒอใดไมใช ป˜ญหาความขัดแยŒงท่ีเกิดขึ้น
และเกาหลีใตŒถือเปนความขัดแยŒงทาง ไดจŒ ากเร่อื งชูŒสาว
ดŒานทัศนคติ ความคิด และความเชื่อ ก การหยาราง
ในเรอ่ื งใด ข การเกิดเดก็ กําพรา
ก ศาสนา ค การศกึ ษาไมท วั่ ถงึ
ข สิ่งแวดลอ ม ง การตง้ั ครรภก อ นวัยอนั ควร
ค ระบบเศรษฐกิจ
ง ลัทธิทางการเมอื ง
๑๐. ขอŒ ใดไมใช วธิ กี ารป‡องกันป˜ญหาความขัดแยŒง
ก การตอ รอง
ข การไกลเกลย่ี
ค การทาํ สงคราม
ง การประนีประนอม
332 คูมอื ครู แผนการจดั การเรียนรู รายวชิ าเพ่มิ เตมิ หนาท่พี ลเมือง ๕–๖ ม. ๓
กจิ กรรม/ใบงานที่ ๓๐
เรอ่ื ง วิถีชีวิต
ผลการเรียนรูŒ ๘. เห็นคณุ คาของการอยรู ว มกันในภมู ิภาคตา ง ๆ ของโลกอยา งสนั ติ และ
พึ่งพาซ่ึงกนั และกนั
๑๐. ปฏบิ ัติตนเปนผมู ีวินยั ในตนเอง
คำชีแ้ จง ลกั ษณะของวถิ ชี วี ติ จากภาพทก่ี ำหนดใหค วรเปน ลกั ษณะของวถิ ชี วี ติ ของคนในภมู ภิ าค
ใดของโลก เขยี นคำตอบลงในชองวางดานลางภาพ แนวคาํ ตอบ
ทกุ ภูมิภาคของโลก เอเชยี ตะวันตกเฉยี งใต
เอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต สแกนดเิ นเวีย/อะแลสกา
คูมอื ครู แผนการจัดการเรยี นรู รายวิชาเพ่มิ เตมิ หนาทพ่ี ลเมอื ง ๕–๖ ม. ๓ 333
ทกุ ภูมิภาคของโลก ปาปว นิวกนิ ี
เอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต แอฟริกา
ยุโรปตะวันตก/อเมรกิ าเหนอื ทุกภูมิภาคของโลก
เลขท่ี ชั้น
ชือ่ นามสกุล
โรงเรียน
334 คูมือครู แผนการจัดการเรยี นรู รายวชิ าเพมิ่ เติม หนาที่พลเมือง ๕–๖ ม. ๓
กิจกรรม/ใบงานท่ี ๓๑
เร่ือง วัฒนธรรม
ผลการเรยี นรูŒ ๘. เห็นคณุ คาของการอยรู ว มกันในภูมิภาคตาง ๆ ของโลกอยางสนั ติ และ
พง่ึ พาซง่ึ กนั และกนั
๑๐. ปฏบิ ัตติ นเปน ผูมวี นิ ยั ในตนเอง
คำช้ีแจง สบื คน ภาพและขอ มลู เกย่ี วกบั วฒั นธรรมทน่ี กั เรยี นสนใจ ๑ เรอ่ื ง นำมาเขยี นเรยี งความ
ลงในชอ งวา งทก่ี ำหนดให
คูม ือครู แผนการจดั การเรียนรู รายวิชาเพิม่ เติม หนาท่พี ลเมอื ง ๕–๖ ม. ๓ 335
ช่ือ นามสกุล เลขท่ี ชัน้
โรงเรยี น
336 คมู ือครู แผนการจัดการเรียนรู รายวชิ าเพมิ่ เติม หนาทพ่ี ลเมอื ง ๕–๖ ม. ๓
กิจกรรม/ใบงานที่ ๓๒
เรือ่ ง ศาสนา
ผลการเรยี นรูŒ ๘. เห็นคุณคาของการอยูรว มกนั ในภมู ิภาคตา ง ๆ ของโลกอยางสันติ และ
พึง่ พาซงึ่ กนั และกนั
๑๐. ปฏบิ ัตติ นเปน ผมู วี นิ ยั ในตนเอง
คำชแี้ จง เขียนขอมูลเก่ียวกับการนับถือศาสนาในภูมิภาคตาง ๆ ของโลกลงในแผนผังท่ี
กำหนดให แนวคําตอบ
ศาสนา พระพทุ ธศาสนา นับถือกนั มากในเอเชียใต เอเชยี
ตะวนั ออก และเอเชยี ตะวนั ออก-
เฉยี งใต ผสมผสานเขากบั ลัทธิ
ความเช่อื ของตนเอง
คริสตศ าสนา แ บงออกเปน ๓ ินกาย โรมนั คาทอลกิ ยุโรปกลางและตอนใต
โปรเตสแตนต ของลาตินอเมริกา
ศาสนาอิสลาม ออรทอดอกซ
แบง ออกเปน ๒ นกิ าย แองโกลอเมรกิ า ยุโรป
เหนือ ยโุ รปตะวันตก
ออสเตรเลีย
ซนุ นี ชอี ะฮ ยุโรปตะวนั ออก
เลขท่ี ชั้น
เอเชยี ตะวนั ตกเฉียงใต อหิ รา น
มาเลเซีย อนิ โดนีเซีย
บรไู นดารุสซาลาม
ชอ่ื นามสกลุ
โรงเรียน
คูมอื ครู แผนการจดั การเรียนรู รายวิชาเพ่มิ เติม หนา ทพ่ี ลเมือง ๕–๖ ม. ๓ 337
กิจกรรม/ใบงานที่ ๓๓
เรือ่ ง ส่ิงแวดลอŒ มในภมู ภิ าคต‹าง ๆ ของโลก
ผลการเรียนรูŒ ๘. เหน็ คุณคาของการอยรู วมกันในภูมภิ าคตาง ๆ ของโลกอยางสันติ และ
พ่ึงพาซ่ึงกันและกัน
๑๐. ปฏบิ ัตติ นเปน ผูมีวนิ ยั ในตนเอง
คำชีแ้ จง แบงกลุมออกเปน ๖ กลุม แตละกลุมแสดงขอมูลเกี่ยวกับส่ิงแวดลอมในภูมิภาค
ที่กลุมไดรับมอบหมาย แลวศึกษาขอมูลภูมิภาคอื่น ๆ เปรียบเทียบกับภูมิภาค
ของกลมุ ตนเอง สรุป และเขียนลงในชอ งวางทก่ี ำหนดให แนวคาํ ตอบ
ทมวีปปี า สอนเมอรยกิ มู าาเกหนมือสี ัตวปา ทมวีปีปา สยนโุ รอปยูมาก มสี ตั วป าอยูนอย
อยนู อ ย มแี รห ลายชนดิ มแี รหลายชนดิ คลา ยกบั ทวีป
อเมริกาเหนือ
ทวีปอเมรกิ าใตŒ ทมวคี ปี วเาอมเหชลยี ากหลายมาก มที ง้ั ปาดบิ
มีผืนปาดบิ ทใ่ี หญท ่สี ุดในโลก ทุงหญา กวางใหญในเขตแหงแลง
มีแรอยมู าก โดยเฉพาะนา้ํ มัน มแี รหลายชนิด
ทมวีปีปา อแยอูนฟอ รยิกมาาก แตมสี ัตวปา ทมวผี ปี นื อปอา ไสมเตม ารกเลนยี กั เพราะมพี นื้ ทแี่ หง แลง
อยูหลากหลายชนิด และมแี ร มาก มีจงิ โจเปนสตั วป ระจําถิน่ ท่สี าํ คญั
เปน จํานวนมาก เชน เพชร พลอย
ชอ่ื นามสกลุ เลขที่ ชนั้
โรงเรียน
338 คูมือครู แผนการจดั การเรียนรู รายวิชาเพิ่มเตมิ หนาที่พลเมือง ๕–๖ ม. ๓
กิจกรรม/ใบงานท่ี ๓๔
เรื่อง สังคมพหวุ ัฒนธรรม
ผลการเรียนรูŒ ๘. เหน็ คณุ คา ของการอยูรวมกันในภมู ภิ าคตาง ๆ ของโลกอยา งสันติ และ
พงึ่ พาซงึ่ กันและกนั
๑๐. ปฏบิ ตั ิตนเปนผมู ีวนิ ยั ในตนเอง
คำชแ้ี จง ตดิ ภาพหรือเน้ือหาขา วเกยี่ วกบั คน กลุมคนทมี่ ีเชือ้ ชาติ การนบั ถอื ศาสนา วฒั นธรรม
ทแี่ ตกตา งกนั แลว วเิ คราะหว า ถา เราอยใู นเหตกุ ารณด งั กลา ว เราจะปฏบิ ตั ติ นอยา งไร
เขยี น ลงในชองวางทีก่ ำหนดให
ข‹าว
คูมอื ครู แผนการจัดการเรยี นรู รายวชิ าเพม่ิ เตมิ หนาทพ่ี ลเมือง ๕–๖ ม. ๓ 339
ถาŒ ฉันอย‹ใู นเหตกุ ารณน ้ี ฉันจะ...
ชอ่ื นามสกลุ เลขท่ี ชั้น
โรงเรยี น
340 คูมือครู แผนการจัดการเรียนรู รายวิชาเพมิ่ เติม หนาท่ีพลเมือง ๕–๖ ม. ๓
กจิ กรรม/ใบงานที่ ๓๕
เรือ่ ง วนิ ยั ในการอย‹ูร‹วมกนั ในสงั คมพหุวฒั นธรรม
ผลการเรยี นรูŒ ๘. เห็นคุณคา ของการอยรู วมกนั ในภมู ิภาคตา ง ๆ ของโลกอยางสันติ และ
พ่งึ พาซึ่งกนั และกัน
๑๐. ปฏิบตั ิตนเปน ผมู ีวินัยในตนเอง
คำชแ้ี จง บอกวินัยที่เราควรปฏิบัติเมื่อตองอยูรวมกันในสังคมพหุวัฒนธรรมลงในชองวางที่
กาํ หนดให แนวคาํ ตอบ
วินัย ตองมีความซ่ือสัตยตอตนเองและตอผูอื่นในการปฏิบัติตนอยาง
สมาํ่ เสมอ ไมเ ลอื กปฏบิ ตั ติ อ ใครคนใดคนหนง่ึ หรอื กลมุ คนใดกลมุ
ทตี่ อŒ งปฏิบัติ คนหนึง่
มคี วามอดทนอดกลน้ั ไมแ สดงความโกรธเคอื งเมอ่ื ถกู ดหู มน่ิ
วาราย และอดทนท่ีจะไมดูหม่ิน ดูถูกผูอ่ืน และไมทําราย
ผูอ่ืนดว ยกําลัง ไมใชอารมณในการตัดสินใจ
หมน่ั คน ควา หาความรเู กยี่ วกบั วฒั นธรรมของกลมุ คนตา ง ๆ
ในสังคมอยูเสมอ
รูจักการยอมรับผลที่เกิดจากการกระทําของตนเอง คือ
ยอมรบั และรบั ผดิ ชอบในสงิ่ ทต่ี นเองเปน ผกู ระทาํ นอ มรบั ผดิ
เมื่อการกระทําของเราสงผลกระทบตอ ผูอน่ื และหาแนวทาง
แกไขและปรับปรุง
ชอ่ื นามสกุล เลขที่ ช้นั
โรงเรียน
คมู ือครู แผนการจดั การเรียนรู รายวิชาเพมิ่ เติม หนา ทพ่ี ลเมอื ง ๕–๖ ม. ๓ 341
กจิ กรรม/ใบงานที่ ๓๖
เรอ่ื ง ความขัดแยŒง
ผลการเรยี นรŒู ๙. มสี ว นรว มและเสนอแนวทางการปองกันปญหาความขัดแยง
๑๐. ปฏบิ ัติตนเปนผมู วี ินัยในตนเอง
คำช้แี จง ทำกจิ กรรมตอไปน้ี
๑. บอกความหมายและประเภทของความขดั แยง
ความขดั แยง หมายถึง การท่ีแตละฝายมีจุดมุงหมายที่ขัดกันหรือไปดวยกันไมได เปนสิ่งท่ีเกิด
ข้ึนมาจากความตองการที่ตรงกันขามในขณะหนึ่ง อาจเกี่ยวของกับความไมสามารถตัดสินใจกระทํา
อยางใดอยา งหนงึ่ หรืออยากทําทั้งสองอยา งในเวลาเดยี วกนั
ความขัดแยง แบงออกเปน ๒ ประเภท ไดแ ก ความขดั แยง ภายใน ซง่ึ เปน ความขัดแยง
ระหวางบุคคลกับคานิยมของสังคมที่บุคคลน้ันอาศัยอยู และความขัดแยงทางสังคม ซ่ึงเปนความ
ขัดแยง ระหวางบคุ คลหรอื ระหวา งกลุม
๒. เขียนแผนที่ความคิดสรุปความรูเกี่ยวกับความขัดแยงเร่ืองทัศนคติ ความคิด และความเช่ือ
ลงในกรอบท่ีกำหนดให
แนวคาํ ตอบ ทัศนคติ คือ แนวความคดิ ตอ เรอื่ งใดเรอ่ื งหน่งึ
ความหมาย ความคดิ คือ ส่งิ ท่ีนึกรขู ้นึ ในใจ
ความเชอ่ื คอื ความไวว างใจ ความมัน่ ใจ
ทศั นคติ ความคดิ และความเช่อื
มหี ลายดา น เชน ปจจยั ทท่ี าํ ใหแ ตกตา งกนั เชน
ความรู ระดับการศึกษา
ศาสนา สถานภาพทางสงั คม
การเมอื ง สถานภาพทางเศรษฐกิจ
เศรษฐกิจ
342 คูม อื ครู แผนการจดั การเรยี นรู รายวชิ าเพ่ิมเตมิ หนา ทพ่ี ลเมือง ๕–๖ ม. ๓
๓. คน หาขาวที่เกย่ี วกบั ความขดั แยง เร่ืองชสู าว ๑ ขาว จากหนังสอื พมิ พ นำภาพขาวและเนื้อหาขาว
มาตดิ ลงในชอ งวางทกี่ ำหนดให แลวเขียนบอกสาเหตุทีท่ ำใหเกิดความขดั แยง ดงั กลา วข้นึ
สาเหตุทีท่ ำใหเŒ กิดความขดั แยงŒ
ชอื่ นามสกลุ เลขที่ ชนั้
โรงเรียน
คูมอื ครู แผนการจดั การเรียนรู รายวิชาเพิม่ เตมิ หนา ที่พลเมือง ๕–๖ ม. ๓ 343
กจิ กรรม/ใบงานที่ ๓๗
เรื่อง การปอ‡ งกันปญ˜ หาความขัดแยŒง
ผลการเรียนรŒู ๙. มสี วนรว มและเสนอแนวทางการปอ งกันปญหาความขดั แยง
๑๐. ปฏิบตั ิตนเปน ผูมวี ินัยในตนเอง
คำชี้แจง บอกวิธีปองกันปญหาความขดั แยง จากกรณีตวั อยางทีก่ ำหนดให
กรณีที่ ๑: ทารกแรกเกิด หนา ตานารัก ถูกทิ้งในปา ยาง
พบทารกแรกเกิด หนาตานารัก ถูกทิ้งอยูในสวนยางบานควน อ.ตะก่ัวทุง ตํารวจ
คาดเปนลูกของวัยรุนในพื้นที่ท่ีไมพรอมจะมีลูก เม่ือคลอดเสร็จก็ใหคนอ่ืนนํามาท้ิง
ในสภาพทย่ี งั ไมไดท ําความสะอาดเด็กทารก และสะดอื ถกู ตัดดวยของมคี ม
เมอื่ เวลา ๑๖.๐๐ น. วนั ที่ ๑๕ ต.ค. ๕๗ ทต่ี กึ กมุ ารเวชกรรม รพ.พงั งา นางดารารตั น
สเุ ทศ หวั หนา บา นพักเด็กและครอบครวั จงั หวดั พงั งา พรอมดว ย นพ.สพุ จน ภเู กา ลวน
ผอ.รพ.พังงา พญ.ทิพยรัตน ตันสกุลประเสริฐ รอง ผอ.รพ. รวมกันตรวจสอบทารก
แรกเกดิ ทถี่ กู ทง้ิ ไวใ นสวนยางพาราเมอ่ื คาํ่ วานน้ี (๑๔ ต.ค. ๕๗) พบวา เปน เพศชาย มคี วาม
สมบูรณดี หนาตานา รัก ผิวพรรณดี น้าํ หนกั ตัว ๓,๒๐๐ กรัม มีรอ งรอยแมลงกัดตอย
เล็กนอ ย แพทยไ ดช วยเหลือเรียบรอยแลว
ที่มา: www.thairath.co.th/content/457019
วธิ กี ารปอ‡ งกันไมใ‹ หŒเกดิ ความขดั แยŒงในกรณที ่ี ๑
แนวคําตอบ
เจาหนาท่ตี าํ รวจ แพทย พยาบาลจากโรงพยาบาลตาง ๆ และเจา หนาทีท่ ่เี ก่ียวของตองรวมกนั
จัดต้ังเครือขายปองกันปญหาการต้ังครรภกอนวัยอันควร ซึ่งยังไมพรอมจะมีลูก โดยรวมกันให
ความรกู บั กลมุ วยั รนุ หรอื เยาวชนทเ่ี สย่ี งตอ การมเี พศสมั พนั ธโ ดยไมไ ดม กี ารปอ งกนั ดว ยการใหค วามรู
เรื่องความรัก การมีเพศสัมพันธ การปองกันการมีเพศสัมพันธและการตั้งครรภกอนวัยอันควร
รวมถึงการดูแล ปกปอง และเฝาระวังไมใหเกิดการท้ิงเด็กทารก ใหความชวยเหลือแกแมของเด็ก
ที่ยงั อยูในวัยเยาวชน และยังไมพรอ มทีจ่ ะมลี กู ในการเล้ยี งดูลูกที่คลอดออกมาแลว
344 คมู อื ครู แผนการจดั การเรยี นรู รายวิชาเพ่ิมเตมิ หนา ทพี่ ลเมอื ง ๕–๖ ม. ๓
กรณที ่ี ๒: มือปน พระกาฬยิงหนมุ ดับคาบานพกั กลางกรงุ พุงปมชูสาว
เม่ือชวงสาย วันท่ี ๑๑ ม.ค. ตํารวจ สน.ดุสิต พรอมแพทยและเจาหนาที่พิสูจน
หลักฐานเขาชันสูตรศพนายกรธรรม อินทร อายุ ๔๓ ป ทํางานเปนเจาหนาท่ีสังกัด
หนวยงานแหง หนง่ึ ถกู ยงิ ดวยอาวธุ ปนไมท ราบขนาด เสียชวี ติ อยใู นหอ งนอนชัน้ ๒ ของ
บา นเชา เลขที่ ๔/๑๐ ซอยสุโขทยั ๗ แขวงสวนจิตรลดา เขตดุสติ กรงุ เทพฯ
จากการสอบสวน น.ส.จริยาภรณ ขวัญยืนคง อายุ ๓๔ ป ผูเชาบานที่เกิดเหตุ
ใหการวาคบหาอยูกับผูตาย ซึ่งจะแวะมาพักคางคืนดวยเปนครั้งคราว โดยเชาวันนี้ขณะ
ตัวเอง ผูตาย รวมท้ังลูกติดจากสามีเกา กําลังพักผอนกันอยูในหองนอน มีชายคนหนึ่ง
มาเคาะประตูหอง เม่ือผูตายลุกขึ้นไปเปดประตู ชายดังกลาวก็ใชปนยิงใส ๓ นัดแลว
หลบหนีไป
ขณะทีพ่ ยานแวดลอ มใหก ารวา ชว งหลงั น.ส.จริยาภรณมีความสนิทสนมกับตาํ รวจ
ไมทราบสังกัดนายหนึ่ง ซ่ึงมีรูปพรรณคลายกับชายคนกอเหตุ ตํารวจจึงเรงสอบสวนเพ่ือ
ระบุตวั ผกู อเหตตุ อ ไป
ท่มี า: www.thairath.co.th/content/474121
วธิ ีการปอ‡ งกันไม‹ใหŒเกิดความขดั แยงŒ ในกรณีท่ี ๒
แนวคําตอบ
เจา หนา ทท่ี เ่ี กย่ี วขอ งรว มกนั จดั ตง้ั เครอื ขา ยเพอ่ื ใหค วามรเู กย่ี วกบั ประชาชนทว่ั ไปในเรอ่ื ง ชสู าว
การรักเดียวใจเดียว เชิญวิทยากรหรือพระสงฆที่มีความรูความเขาใจมาใหความรู รวมถึงใหแงคิด
เกย่ี วกบั การประพฤตติ นอยใู นศลี ธรรมอนั ดี และคอยชว ยดแู ล ปอ งกนั รวมถงึ เจา หนา ทตี่ าํ รวจบงั คบั
ใชก ฎหมายอยางเขม งวดมากขึน้ เพ่ือไมใหเ กดิ เหตุการณด งั กรณีตวั อยา งนขี้ ้นึ ไดอีก
คูม อื ครู แผนการจัดการเรยี นรู รายวชิ าเพิ่มเติม หนา ที่พลเมอื ง ๕–๖ ม. ๓ 345
กรณีท่ี ๓: ปะทขุ ัดแยงจนี –ญ่ปี นุ รอบใหม ชิงเกาะเตยี วหยู
จากกรณีความขัดแยงระหวางญี่ปุน–จีนระอุขึ้นอีกครั้ง เม่ือเรือรบจีนใชเรดารล็อก
เปาหมายเรือรบของญ่ีปุนในบริเวณทะเลจีนตะวันออก ใกลพ้ืนท่ีพิพาทแยงกรรมสิทธ์ิ
ระหวา งสองประเทศและรัฐบาลญ่ปี นุ ไดย ื่นหนงั สือประทว งแลว
นายอิตสโุ นริ โอโนเดระ รัฐมนตรกี ลาโหมของญีป่ ุน แถลงเมอ่ื วนั องั คาร พรอมกับ
เปด เผยภาพเรอื เจยี งไค เรือฟรเี กตช้ัน ๑ ของจนี ทใ่ี ชเรดารล็อกเปาเฮลิคอปเตอรข องกอง
กําลงั ปองกันตนเองทางทะเลของญปี่ นุ เม่อื วนั ที่ ๑๙ ม.ค. และภาพเรือเจียงเวย เรอื ฟรีเกต
ช้ัน ๒ ของจีนใชเรดารล็อกเปาเรือรบของกองกําลังปองกันตนเองทางทะเลของญ่ีปุนเม่ือ
๓๐ ม.ค.
เขาระบวุ า ทัง้ สองเหตกุ ารณเ กิดขึน้ ในทะเลจีนตะวันออก ใกลห มเู กาะเซนกากุ หรือ
ทจ่ี ีนเรยี กวา “เกาะเตยี วหยู” และเปนเร่อื งผิดปกตอิ ยางทส่ี ุดที่ใชร ะบบเรดารล ็อกเปา ยงิ ซึ่ง
อาจทําใหเกิดอันตรายไดหากมีความผิดพลาดเกิดขึ้น แมไมมีรายงานการยิงฝายใดก็ตาม
และขอเรยี กรองใหจ ีนยบั ย้งั พฤติกรรมย่ัวยเุ ชนน้ี และในวนั เดยี วกัน กระทรวงตา งประเทศ
ญ่ีปุนไดยื่นหนังสือประทวงอยางเปนทางการผานสถานทูตจีนในกรุงโตเกียวและสถานทูต
ญป่ี นุ ในกรุงปกกง่ิ นอกจากน้ีลาสดุ นายกรัฐมนตรีชนิ โสะ อาเบะ ของญี่ปนุ แถลงตอ รัฐสภา
ในวนั น้ี (๖ ก.พ. ๕๖) ระบุวา ในขณะท่กี ําลังมสี ญั ญาณท่ดี ีในการเจรจาระหวา งสองชาติ จึง
เปนเรื่องนา เสียใจอยางท่สี ุดทจ่ี นี ดําเนินการยัว่ ยเุ พยี งฝา ยเดียว
ทมี่ า: www.bangkokbiznews.com
วิธกี ารปอ‡ งกนั ไม‹ใหŒเกดิ ความขัดแยŒงในกรณที ี่ ๓
แนวคาํ ตอบ
จนี และญปี่ นุ ควรใชก ารเจรจาไกลเ กลย่ี เพมิ่ มากขนึ้ โดยอาจจะหาคนกลางมาชว ยเปน ผปู ระสานงาน
และไกลเกล่ียใหท้ังสองฝายสามารถตกลงแกปญหารวมกันได ไมควรใชวิธีการทางทหารในการ
บีบบงั คบั แตค วรใชการเจรจาเปนหลักในการแกปญ หาความขัดแยง รว มกัน
ช่ือ นามสกุล เลขท่ี ชัน้
โรงเรียน
346 คูมอื ครู แผนการจดั การเรยี นรู รายวชิ าเพ่ิมเตมิ หนา ท่พี ลเมอื ง ๕–๖ ม. ๓
กจิ กรรม/ใบงานที่ ๓๘
เรื่อง วนิ ัยเพ่ือความปรองดอง สมานฉนั ท
ผลการเรยี นรŒู ๘. เห็นคุณคาของการอยรู ว มกันในภมู ภิ าคตา ง ๆ ของโลกอยางสันติ และ
พง่ึ พาซง่ึ กันและกนั
๙. มสี วนรว มและเสนอแนวทางการปอ งกันปญหาความขัดแยง
๑๐. ปฏิบัติตนเปนผมู ีวินยั ในตนเอง
คำชแ้ี จง บอกวนิ ยั ทเ่ี ราควรปฏบิ ตั เิ พอ่ื ความปรองดอง สมานฉนั ท และควรปฏบิ ตั อิ ยา งไร แลว
ตรงกบั คานิยมหลกั ๑๒ ประการขอ ใด เรือ่ งอะไร ลงในตารางท่กี ําหนดให แนวคาํ ตอบ
วนิ ยั ทเ่ี ราควรปฏิบัตเิ พ่ือความปรองดอง สมานฉนั ท ตรงกับค‹านิยม ๑๒ ประการ
ตอ งมีความซ่ือสัตยตอ ตนเองและตอผอู ื่น ไมคดโกงผูอื่น ปฏบิ ตั ิ ขอ ๒ ซอ่ื สตั ย เสยี สละ อดทน มอี ดุ มการณ
ตนตอ ผูอ ืน่ อยา งเทาเทียมกัน ไมเ ลอื กปฏิบตั ิ ในสง่ิ ทดี่ งี ามเพ่ือสว นรวม
ขอ ๑๑ มีความเขมแขง็ ทง้ั รางกายและจติ ใจ
ไมยอมแพต อ อาํ นาจฝา ยตาํ่ หรือกเิ ลส
ตองมีความอดทนตอคําดูหมิ่น ดูถูกของผูอ่ืน ไมตอบโตกลับ ขอ ๒ ซอื่ สตั ย เสยี สละ อดทน มอี ดุ มการณ
ดว ยความรุนแรง และอดทนท่ีจะไมด ูถกู ดูหมิ่นผอู นื่ ไมทํารายผูอื่น ในสิ่งที่ดีงามเพอ่ื สว นรวม
ไมใ ชอ ารมณในการตัดสิน
ตองรูจักใฝหาความรูอยูเสมอ โดยเฉพาะการศึกษาเก่ียวกับสังคม ขอ ๔ ใฝห าความรู หมนั่ ศกึ ษาเลา เรยี นในทาง
วฒั นธรรมที่แตกตางจากเรา ตรงและทางออ ม
ตอ งตงั้ ใจปฏบิ ตั หิ นา ทเี่ มอ่ื ไดร บั มอบหมาย ปฏบิ ตั ดิ ว ยใจทเ่ี ปน กลาง ขอ ๘ มรี ะเบยี บวนิ ยั เคารพกฎหมาย ผนู อ ย
ไมเ ขา ขา งฝายใดฝายหน่งึ และปฏิบตั อิ ยางถกู ตอง มปี ระสิทธภิ าพ รูจกั เคารพผใู หญ
ตองรูจักยอมรับผลที่เกิดจากการกระทําของตนเอง ยอมรับและ ขอ ๖ มีศลี ธรรม รักษาความสัตย หวังดตี อ
รับผิดชอบเม่ือการกระทําของตนเองสรางความเสียหาย หรือกอให ผูอน่ื เผือ่ แผและแบงปน
เกิดผลกระทบตอ ผูอน่ื
ช่อื นามสกุล เลขท่ี ชัน้
โรงเรียน
คมู อื ครู แผนการจดั การเรียนรู รายวชิ าเพ่มิ เตมิ หนา ท่ีพลเมือง ๕–๖ ม. ๓ 347
กิจกรรม/ใบงานที่ ๓๙
เร่ือง ทบทวนความรูŒ
ผลการเรียนรŒู ๘. เหน็ คณุ คาของการอยูรว มกันในภมู ภิ าคตา ง ๆ ของโลกอยา งสันติ และ
พ่งึ พาซึ่งกันและกัน
๙. มสี วนรวมและเสนอแนวทางการปอ งกันปญหาความขัดแยง
๑๐. ปฏิบตั ิตนเปนผมู ีวินยั ในตนเอง
คำช้ีแจง ทํากจิ กรรมตอ ไปนี้
๑. คน หาภาพเก่ยี วกบั วิถชี ีวิต วฒั นธรรม ศาสนา และส่งิ แวดลอมในชมุ ชนท่ีเราอยอู าศัย นำภาพ
มาติดลงในกรอบแลวอธิบายลักษณะและความแตกตางของสังคมวัฒนธรรมเหลาน้ันลงใน
ชอ งวางทีก่ ำหนดให
๑) วถิ ชี วี ิต
๒) วัฒนธรรม
348 คูมอื ครู แผนการจัดการเรยี นรู รายวิชาเพมิ่ เติม หนา ทีพ่ ลเมือง ๕–๖ ม. ๓
๓) ศาสนา
๔) สง่ิ แวดลอ ม
๒. บอกวธิ กี ารอยรู ว มกนั ในสงั คมพหวุ ฒั นธรรมและการพง่ึ พาซงึ่ กนั และกนั ตามหวั ขอ ทก่ี ำหนดให
๑) การเคารพซ่งึ กนั และกนั ทําไดโดยการศึกษา ทําความเขาใจรูปแบบทางสังคมวัฒนธรรมที่
แตกตางจากเรา ปรับตัวใหเขากับวัฒนธรรมที่แตกตาง และเปนผูฟงที่ดี รับรูรับฟงอยางต้ังใจ
และใสใจ
๒) ไมแ สดงกิริยาและวาจาดูหมนิ่ ผูอื่น ทําไดโ ดยการแสดงกิริยาและวาจาทีส่ ุภาพ ออนโยน
ใหเกยี รตกิ นั และกันอยเู สมอ ศกึ ษา ทาํ ความเขา ใจวัฒนธรรมท่ีแตกตา งกนั ไมพูดในส่ิงทไ่ี มรู
ไมดูหม่ิน ลอเลยี น ไมปฏบิ ัตติ นในขอ หา มของคนตางชาตพิ นั ธุ
๓) แบงปน และชวยเหลอื ซึง่ กันและกนั ทําไดโดยการมอบหรือบริจาคสิ่งของที่เรามีเหลือใช
หรือใชแลวใหผ ทู ี่ขาดแคลน หรอื มีความตอ งการ ใหความชว ยเหลือแกผ ทู ่ปี ระสบภัยตา ง ๆ และ
กระทาํ โดยไมห วงั ผลตอบแทนใด ๆ
คูม ือครู แผนการจดั การเรียนรู รายวิชาเพิม่ เติม หนา ที่พลเมอื ง ๕–๖ ม. ๓ 349
๓. หาขาวความขัดแยงเกี่ยวกับทัศนคติ ความคิด และความเชื่อ หรือเรื่องชูสาว นำขาวมาติด
ลงในกรอบ แลว บอกวธิ ีการปอ งกนั ปญ หาความขดั แยง เปนขอ ๆ ลงในชอ งวางทีก่ ำหนดให
350 คูมอื ครู แผนการจัดการเรียนรู รายวิชาเพม่ิ เตมิ หนา ที่พลเมอื ง ๕–๖ ม. ๓
วิธกี ารป‡องกนั ปญ˜ หาความขัดแยŒง
ชื่อ นามสกุล เลขที่ ช้นั
โรงเรียน
คูม อื ครู แผนการจดั การเรียนรู รายวชิ าเพม่ิ เตมิ หนาท่พี ลเมอื ง ๕–๖ ม. ๓ 351
แบบทดสอบหลงั เรยี น
หนวยการเรียนรูที่ ๕
คำชีแ้ จง เลือกคำตอบทถ่ี ูกตอŒ งท่ีสุดเพยี งคำตอบเดยี ว
๑. “คนทอี่ ยูใ‹ นเขตรŒอนมีฝนตกชุกมกั ๓. วฒั นธรรมสากลมคี วามแตกตา‹ งจาก
ประสบกบั ภัยจากน้ําทว‹ มทุกป ขณะท่ี วฒั นธรรมของคนในภมู ภิ าคตา‹ ง ๆ
คนทอ่ี ย‹ใู นเขตหนาว จะประสบกบั อากาศ ของโลกอยา‹ งไร
หนาวเยน็ ตลอดทงั้ ป” ขอŒ ความนกี้ ลา‹ วถงึ ก มคี วามสวยงามมากกวาวฒั นธรรม
ความหลากหลายทางสงั คม วัฒนธรรม อนื่ ๆ
ในภมู ภิ าคต‹าง ๆ ของโลกในเรอ่ื งใด ข ใชในชีวติ ประจาํ วนั ไดงายกวา
ก ทอ่ี ยูอ าศยั วัฒนธรรมอื่น ๆ
ข สิง่ แวดลอม ค นํามาประยกุ ตใหเ ขา กบั วฒั นธรรม
ค การแตง กาย อน่ื ๆ ไดท ุกรูปแบบ
ง การประกอบอาชพี ง มคี วามทนั สมยั ตอโลกในปจจุบนั
มากกวาวฒั นธรรมอ่ืน ๆ
๒. ขอŒ ใดกลา‹ วถงึ ความหลากหลายทางสงั คม ๔. “ยโุ รปกลางและยโุ รปตะวันออกมพี ้ืนท่ี
วัฒนธรรมในเร่ืองวิถชี ีวิตจากขŒอความ ติดต‹อกัน แต‹มีการนบั ถือศาสนาที่
ในขŒอ ๑ ไดŒถูกตอŒ ง แตกต‹างกัน” ขŒอใดกล‹าวถงึ ขอŒ ความนี้
ก คนในเขตรอ นและเขตหนาวจะประกอบ ไดถŒ กู ตŒอง
อาชพี เหมอื นกนั ก ยุโรปตะวันออกไมมีคนนับถือคริสต-
ข คนในเขตหนาวเทานั้นที่จะมีวิถีชีวิต ศาสนา
ตามแบบวฒั นธรรมสากล ข ยุโรปตะวันออกมีคนสวนใหญนับถือ
ค คนในเขตรอ นนยิ มแตง กายดว ยเสอ้ื ผา ศาสนาอสิ ลาม
บางเบา สวนคนในเขตหนาวตองใส ค ยุโรปกลางมีคนท่ีนับถือพระพุทธ-
เสื้อสทู ศาสนามากทส่ี ดุ ในยโุ รป
ง คนในเขตรอนนิยมสรางบานจากอิฐ ง ยุโรปกลางและยุโรปตะวันออกนับถือ
และปนู สว นคนในเขตหนาวตอ งสรา ง ครสิ ตศ าสนาตา งนิกายกนั
บานดวยไม
352 คูม ือครู แผนการจดั การเรียนรู รายวิชาเพมิ่ เติม หนา ที่พลเมือง ๕–๖ ม. ๓
๕. ขŒอใดไมใช วิธีการปฏิบัติตนเพ่ือการอยู‹ ๘. ขŒอใดเปนป˜ญหาความขัดแยŒงในภูมิภาค
ร‹วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรมและการ ต‹าง ๆ ของโลกท่ีเกิดข้ึนจากทัศนคติ
พ่ึงพาซ่งึ กันและกัน ความคดิ และความเชือ่ ทแี่ ตกตา‹ งกัน
ก การเปน ผฟู ง ท่ีดี ทางดาŒ นการเมือง
ข การวิเคราะหวิจารณข าว ก ความขัดแยงระหวางเกาหลีเหนือและ
ค การศึกษาทําความเขาใจถึงวัฒนธรรม เกาหลีใต
ตาง ๆ ข ความขดั แยงในพน้ื ทสี่ ามจงั หวัด
ง การบริจาคส่ิงของใหแกผูประสบภัย ชายแดนภาคใตข องไทย
ธรรมชาติ ค การแยงชงิ หมูเกาะในมหาสมทุ ร
แปซิฟกระหวางจีนกบั ญ่ปี ุน
๖. เมอื่ พบคนตา‹ งเช้อื ชาตจิ ากเรากําลงั ง การทําสงครามตอตานการกอการราย
ตอŒ งการความชว‹ ยเหลอื เราควรปฏบิ ตั ติ น ในเอเชียตะวนั ตกเฉียงใตของ
อยา‹ งไร สหรฐั อเมริกา
ก พูดจากับคนตางเช้ือชาติอยางสุภาพ
และเดนิ จากไป ๙. ขŒอใดเปนพฤติกรรมท่ีทําใหŒเกิดป˜ญหา
ข ศกึ ษาวฒั นธรรมของคนเชอื้ ชาตนิ นั้ ๆ ความขัดแยŒงเร่อื งชสŒู าวไดŒ
กอนใหความชว ยเหลอื ก พกถงุ ยางอนามัยตดิ ตัวอยูเสมอ
ค ไมตองทําอะไร ปลอยใหคนเช้ือชาติ ข ทดลองเรียนรูเร่อื งเพศสัมพนั ธ
เดียวกันเปน ผูช ว ยเหลือกันเอง ดว ยตนเอง
ง สอบถามความตองการแลวพาไปพบ ค ไมย งุ เกยี่ วหรอื เดนิ เท่ียวใน
หนว ยงานท่ีใหค วามชวยเหลอื ได สถานเรงิ รมยตาง ๆ
ง ขอคําปรกึ ษาเรอื่ งเพศสมั พนั ธจาก
๗. ทศั นคติ ความคิด และความเชือ่ ครแู ละผปู กครองอยเู สมอ
ที่แตกต‹างกนั มลี ักษณะเปน อยา‹ งไร
ก เปนปญหาทางการเมืองและศาสนา ๑๐. ถาŒ เกดิ ความขดั แยŒงเรือ่ งชูสŒ าวข้นึ
ข มคี วามคดิ เหน็ ทางการเมอื งทแ่ี ตกตา ง เราสามารถปอ‡ งกนั ปญ˜ หาดŒวยวิธกี ารใด
กันเทานน้ั ดีทส่ี ดุ
ค ความคิดและความเช่ือท่ีแตกตางกัน ก การบงั คับ
มผี ลจากปจ จัยทางเศรษฐกิจ ข การหลบหนี
ง ทศั นคตทิ แี่ ตกตา งกนั สง ผลใหค วามคดิ ค การเจรจาตอ รอง
และความเชอื่ แตกตา งกนั ดวย ง การสรางเครือขา ย